เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี - 098 นางฟ้าท่าดี
ค่ำคืนของสลัมในกรงเทพ แม้ทางการจะไม่สนใจใยดีหยิบยื่นบริการสาธารณะส่งมาให้ แต่ไฟฟ้าที่เขาพ่วงต่อกันมาเป็นทอด ๆ ก็มีส่องอยู่เกือบทุกหลังคาเรือนในถิ่นนั้น และด้วยไฟวอมแวมนี้เอง ในกลางคืนเดือนมืดเช่นนี้ บ้านหลายหลัง แม้จะมุงและปะด้วยเศษกระดาษค่อนแข็ง ๆ ก็มีสภาพดูดีกว่าบ้านตามชนบทที่ห่างไกลปืนเที่ยง หอมด้วยไอน้ำครำ ส่วนชนบทนั้นเหม็นตลบด้วยกลิ่นลมบริสุทธิ์
สองยามผ่านไปแล้ว หลายบ้านพากันซุกหัวเข้าในที่หลับที่ นอน หลายเรือนมีเสียงกรนแข่งกันแล้ว แต่บ้านนางเจียม ไฟฟ้ายังสว่างโร่อยู่ และเสียงบ่นของนางยังไม่ซาลง
“เพราะมึงแท้ ๆ นะอีดอก…เพราะมึงแท้ๆ…”
“โธ่แม่….แม่ฟังฉันบ้างซี” นางสาวพิไลพูดขึ้นเบา ๆ ขดตัวพิงฝาบ้านเก่า ๆ ในมือยังกำมาลัยดอกมะลิที่ร้อยยังไม่เสร็จ
“ฟังหีพ่อควยแม่มึงหรือ ไม่เพราะมึง ผัวกูจะหนีกูหรือ แล้วนี่อี…”
“พูดไปแม่ก็ไม่เชื่อ” ลูกสาวคนโตพยายามจะอธิบาย
“ไม่เชื่อว่ายังไง”
“น้าทองยังไม่ได้เย็ดฉัน”
“ตอแหล”
“จริง ๆ แม่”
“ไหนมึงลองเล่ามาซิ” นางลืมเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กลงได้ขณะหนึ่ง
แล้วนางสาวพิไลก็เริ่มเล่าความหลังที่เพิ่งผ่านมาหมาด ๆ
“ฉันกำลังนุ่งกระโจมอกเข้าไปในห้อง”
“ทำไมมึงต้องนุ่งกระโจมอกอยู่กับบ้านวะ” ผู้เป็นแม่สอดตาโต
“อ้าว…ก็ฉันเพิ่งออกจากห้องน้ำ”
“ตอนนั้นไอ้ทองอยู่ไหน”
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน ก่อนฉันอาบน้ำ ฉันอยู่คนเดียวนี่ ”
“เออ….เออ….มึงเล่าไป” นางกระเถิบเข้าใกล้ลูกสาว ชันเช่าสองข้างสูง ผ้าถุงตอนปลายเปิดกว้าง ลมดึกลอดเข้าไปโลมหี ไม่มีกางเกงในปิด นางรู้สึกเย็นวาบ
“พอฉันผลุบเข้าไปในห้อง กำลังจะเดินผ่านเตียงที่แม่นอน อ้อมไปห้องฉัน น้าทองโผล่มายังไงไม่รู้ รวบกอดฉันทางด้านหลัง ปล้ำลงไปที่เตียง…”
“มันจะเย็ดมึงเลยหรือ” แม่ถามเสียงสั่นและเร็ว อารมณ์เดือดขึ้นมาอีก
“ไม่รู้เหมือนกันแต่….” ลูกสาวก้มหน้าวางมาลัยดอกมะลิที่ร้อยค้างลงบนอ่างข้างตัว
“แล้วตอนกูมา ทำไมมึงทั้งสองแก้ผ้ากอดกันกลม ควยไอ้นั่นก็แข็งโด่”
“ก็ใช่น่ะสิ น้าทองนุ่งผ้าขนหนูอยู่ก่อนนี่ และควยเขาก็แข็งอยู่แล้ว”
“เออ….เออว่าไป มันปล้ำมึงลงที่เตียงแล้วมัน….”
“กอดฉัน จูบฉัน”
“ที่ไหน”
“ปาก”
“ที่ไหนอีก”
“หน้า คอ อก”
“มันบีบนมมึงมั้ย”
“บีบ”
“แรงมั้ย”
“เจ็บเลยล่ะ”
“ไอ้หน้าหี….” นางเจียมเผลอตัว
“แล้วเขาก็ว่า…”
“มันว่ายังไง”
“เขารักฉันมากกว่าแม่” ลูกสาวบอกซื่อ ๆ
“ไอ้หน้าหี ไอ้คนไม่มีสันดาน ไอ้….” นางทำท่าจะส่งเสียงดัง ขึ้นอีก แต่ลูกสาวปรามไว้
“เบาซีแม่ อายบ้านอื่นเขาบ้าง”
“เออ….เออมึงเล่าไป”
“ฉันพยายามดิ้น และจะร้องแต่อายคน กลัวคนอื่นได้ยิน”
“แล้วไง”
“เขาจูบที่ปากนาน”
“มันมั้ย” และนางนึกในอก “ทีกูละก็….มันไม่ค่อยจะจูบปาก ทั้งที่กูไม่ได้กินหมากเหมือนคนโบราณ”
“ฉัน ….ฉัน….” ลูกสาวอ้อมแอ้ม เมื่อนึกขึ้นได้ถึงจูบของพ่อ เลี้ยง…และเป็นจูบแรกในชีวิตที่โดนจั๋ง ๆ อย่างถึงใจ
“เคลิ้มเลย…” แม่ต่อคำให้ลูกสาว
“เอ้อ….เอ้อ…ยังงั้นมั้ง มัน…มันบอกไม่ถูก”
“อีดอก”
“แล้วเขาก็จับหีฉัน”
“จับหี” แม่อุทานตาโต กระเถิบเข้าใกล้ลูกสาวอีก
“ฉัน…ฉันเลยหยุดดิ้น”
นางเจียมผุดลุกยืนอย่างโกรธจัด ปากก็ว่า
“เล่าไป”
“ต่อจากนั้น เขาก็….”
“ก็อะไร”
“ก็จับขาฉันถ่างออกจากกัน และก้มลงดูดนมฉันด้วย”
“บ้า บ้าบอคอแตก ไอ้ห่าทอง” นางเหลืออด “แล้วไงต่อ”
“เขา เขาเอาควยมาจ่อหีฉัน”
“โอ้ยอีบ้า…มึงยอมให้เย็ดง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ”
“เปล่า ควยเข้าไปนิดเดียว ฉันเจ็บ ฉันบิดตัวออกแม่ก็มาเห็น”
“โอยจะเป็นลม” นางเจียมเซถอยหลังสองก้าวแล้ว นั่งลงใกล้ลูกตรงที่เดิม ยกมือทาบอกนิ่ง สมองคิดถึงลูกคนเล็กที่ผัวเจ้าเล่ห์ ฉุดติดมือไปด้วย
วันเวลาเดียวกันกับที่ นางสาวพิไลกำลังเล่าเหตุการณ์ครั้งแรกในชีวิตให้แม่พัง ขณะนั้นนายทองและเด็กหญิงอนงค์ กำลังนั่งอยู่ใน ห้องของโรงแรมโทรม ๆ และสกปรกย่านหัวลำโพง
นายทองดื่มเหล้าเป็นระยะ แต่เด็กหญิงอนงค์นั่งกอดเข่า มองฉงนอยู่บนเตียง
“ง่วงก็นอนซี” พ่อเลี้่ยงบอก มองลูกเลี้ยงอย่างเลื่อนลอย
แต่เด็กหญิงว่า
“กลับบ้านเหอะ ป่านนี้อีอี๊ดกับไอ้ป๋องคงเลิกขายหนังสือพิมพ์กลับบ้านแล้ว”
นายทองหัวเราะ แสร้งว่า
“ยังมั้ง เพิ่งสี่ทุ่ม”
“เหรอ…” เด็กหญิิงพาซื่อ
“นอนซะ” นายทองบอกอีก
“ไม่ง่วง” เด็กหญิงลุกลงจากเตียง
นายทองลุกบ้าง เดินไปจับแขนลูกเลี้ยงนั่งลงที่เดิม ค่อย ๆ จับเธอนอนหงายลง หัวเราะอย่างเป็นสุขพร้อมกับเลื่อนมือแกล้งๆ ป่ายมาที่หน้าอกเด็กหญิง ความรู้สึกสัมผัสบอกเขาว่า
อา….นมมีแล้วนี่หว่า….
เด็กหญิงนอนมองหน้าพ่อเลี้ยงงุนงง แต่นิ่งเฉยทั้งที่อกถูกลูบแล้วลูบอีก แรก ๆ ก็ลูบนอกเสื้อแผ่ว ๆ ไป ๆ มา ๆ มือพ่อเลี้ยงก็ลอดเข้าไปในเสื้อ
ลูกสาวคนเล็กนางเจียม ทักพ่อเลี้ยง
“น้า…น้าทอง…. ทำแบบนี้ทำไม”
“น่า น้าจะกล่อมให้หลับ ตื่นขึ้นเราก็กลับกัน พอดีกับผีออกจากแม่” เขาพูดพลางลูบผิวเนื้อแน่นเนียน ๆ ของเด็กพลาง หัวใจพองโต และนึกขำ ที่ได้ไล้โลมนมอกขนาดฝาขนมครกของเด็ก
ลูบไปเด็กก็เคลิ้ม ๆ ขนลุกเป็นบางครั้ง หัวใจสันเป็นบางคราว….หน้ามืด ใจหวิวสลับกัน นายทองยังลูบอยู่เรื่อย ๆ ด้วยมือข้างเดียวนั้น ปากก็บอก
“หลับตาเสียซิ….”
เด็กหญิงหลับตา
เขาใช้มือว่างอีกข้างหนึ่ง ลูบจากหน้าท้องต่ำลงมาที่โคนขา เขาลูบทั้งที่ร่างกายส่วนนั้นของเธอมีกางเกงยาวห่ออยู่
“น้าทอง…” เสียงเด็กสั่น
“น่า…หลับซะ” มือหนึ่งบีบเบาที่หัวนม อีกมือหนึ่งไล้หีไม่มีขนเด็กอย่างถนอม
เวลานานขึ้น เด็กหญิงก็ยิ่งใจสั่น เสียงที่พยายามเรียกชื่อเขาก็เริ่มจางหาย แต่ปากผงาบจะพูดถาม จะเรียก น้าทองทำไมอย่างนั้น น้าทองทำไมอย่างนั้น
เผลอปั้ปเดียว เสื้อหลวม ๆ ที่เธอสวมก็หลุดจากกาย
เผลออีกปั้ปเดียว พ่อเลี้ยงไซ้หน้าลงเลียหน้าผาก เปลือกตา ดั้งจมูก และหยุดนิ่งที่ปาก
แต่ความไม่เคย และความกลัวที่จู่โจมขึ้นมาในสำนึก เด็กหญิงเม้มปากเข้าหากันแน่น
นายทองเงยหน้าพูดเสียงนุ่มหู
“อย่าหุบปากอย่างนั้นซิ…ไม่งั้นผิดผีนะ”
“ผิ…ผิ ผีอะไรคะ” เสียงเธอขาดเป็นห้วง ๆ
ก่อนที่ปากเธอจะหุบ และอย่างรวดเร็ว ทางทองประกบลงไป แทรกลิ้นลงชำแรก และด้วยลิ้นที่ใหญ่กว่า ปฏิบัติการกวาดในปากเด็กหญิงจึงทำได้มากกว่า ลิ้นที่รู้งานหน้าที่ได้ดีกว่า วินาทีนั้น มันจึงมีทั้งตอดลิ้นเด็ก ตบเพดานปากบน ไล้เหงือกในทั้งซ้ายขวา ผสานกับบทอันช่ำชอง มือจับนมเบาๆ บีบบี้แรงขึ้น พร้อมกับมือที่อยู่ในหีนิ้วหนึ่งถูกเหยียดรีดผ่าสองแคม…หัวนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ทำหน้าที่แหวก นิ้วกลางกำลังจะทำหน้าที่เจาะให้ลึกลงไป ลึกลงไปในหี
เด็กส่ายสะโพกดิ้น สองแขนเริ่มมีปฏิกิริยาผลักดันอกพ่อเลี้ยง แต่การถูกเร้าด้วยยุทธกาม ที่เจนจัด…พลังส่งไม่มีเหลือให้แขนและมือ มิหนำซ้ำจิตใจก็ป้อแป้ปวกเปียก สมองพล่านหมุนเหมือนลูกข่าง สั่นสะท้านบอกตัวเองไม่ถูก ส่วนหน้าก็ไหวหวั่น ส่วนใจก็หวิว ส่วนหีก็เริ่มคัน กล้ามหีบีบรัดแล้วคลายออก เมือกน้ำเม็ดเล็ก ๆ ผุดออกจนนองในหีเหมือนน้ำเยี่ยว
พ่อเลี้ยงยังคงใจเย็นต่อไป และปริ่มปิติเมื่อรู้แล้วว่าเด็กก็มีอารมณ์เพศ เขารำพึงกับตัวเองในอก
“น้ำเงี่ยนออกแล้วนี่หว่า”
และควยเริ่มแข็ง แต่เขายังไม่ดึงมันออกจากกางเกงที่ห่ออยู่สองชั้น ทั้งยังไม่ยอมเปลื้องกายท่อนบนออกจากเสื้อ
ปากหลุดจากกัน เด็กพูดเหมือนละเมอ
“น้าทองจะทำอะไรหนู”
“อย่าถามซี่ เดี๋ยวผีเข้าอีกคนหรอก”
“น้าทอง…”
เขาขานรับด้วยจูบอีกครั้ง และคราวนี้มือที่บีบนมเปลี่ยน ปลดกางเกงเด็กออก
เธอดิ้นปากหลุดจากกันอีกครั้ง
เด็กกระเส่าอย่างตกใจ
“น้าทอง”
เขาครางกระหึ่มให้เป็นกังวานเสียงขู่
เด็กนิ่ง ปล่อยให้เขาเปลื้องกายจนเปลือยเกลี้ยง และรวดเร็วในไม่กี่วินาที เขาเปลื้องให้แก่ตัวเองบ้าง
ทั้งสองเปลือย
ไฟสว่างส่องเห็นร่างเด็กอวบกว่าปกติ และแม้วัยเพียงสิบสอง คอดกิ่วของเอวก็ดูงาม ส่วนสะโพกนั้น ยังแบบบางอยู่แต่ความกลมมนและเกลี้ยงเกลา ไม่ทำให้ผิวคล้ำหมดความมีเสน่ห์ สูงขึ้นมาบนช่วงอก พินิจโดย ๆ ยามนั้น ความหน้ามืดก็แล่นซ่านทั่วกายมนุษย์อย่างเขา
นายทองกระโจนตะครุบเด็กที่เบิกตาโตมองร่างเปลือยอย่างกำยำของเขา บทจูบแรงขึ้นเช่นเดียวกับบทบาทของมือทั้งสองข้าง ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปอยู่ยังตำแหน่งไหน ความหนักหน่วงมักจะปรากฏ ขณะนั้นเด็กจึงอ่อนปวกเบียก
และแล้วนาทีอันสำคัญก็มาถึง
นายทองจับขาเธอถ่างกว้าง บรรจงสอดควยปลายบานถอก เข้าไปที่ปากหี แต่เด็กร้องลั่น
“เจ็บ”
เขาดึงกลับ ใช้มือลูบไล้แหย่ยั่ว เอาน้ำลื่นมาเลี้ยงในรูหีอีก แล้วแหย่ควยเข้าไปใหม่
“เจ็บ” เธอตะโกนดังกว่าเดิม….และดิ้นแรงขึ้น
เขาดึงควยออกมาใหม่ ความเงี่ยนแล่นช่านทั่วทุกเม็ดเลือด
และอย่างคาดไม่ถึง เขาก้มหน้าลงไปเลียหี ใช้ลิ้นฉวัดเฉวียน ล่อจนหีเด็กเบียกโชกด้วยน้ำเงี่ยน…เวลาเดียวกัน ความเสียวสุดตัวก็เป็นของเด็กเต็มที่
เธอคราง “ซี๊ด….”
เธอร้องครวญ
“อูย…”
เธอดันหี เธอส่ายก้น
หึเธอร้อน แตดเธอเต้น และเต้นแรง เมื่อสัมผัสกับปลายลิ้นที่ช่ำชอง
“ซี๊ด…อูย….โอย….” ดันต่อเนื่องกันเป็นแพลูกบวบ
นายทองยังใช้ลิ้นอยู่อีก จนกระทั่งเด็กกระตุกเหมือนปลาดุกถูกทุบ วินาทีนั้น และด้วยความเร็ว เขาทะลึ่งร่างนาบกด ขาเขาเขี่ยขาเธอถ่างกว้าง กัดฟันบอกมันเอง
“เป็นไง เป็นกัน”
ควยใหญ่และยาวกว่าเจ็ดนิ้ว แต่ปลายบานใหญ่อย่างมีพรสวรรค์…พรวดเข้าไปในหีเด็ก
“โอ้ย….” เธอร้องลั่น หัวพุ่งขึ้นไปชนขอบเตียง
ควยที่เข้าไปได้มิดยังไม่ถึงนาทีก็หลุดออก เขาพุ่งตามเข้าไปเสียบใหม่ และครั้งนี้มันเข้าไปได้ไม่ยากนัก เพราะเลือดเด็กนองออกมาผสมกับน้ำเงี่ยน
ควยจมลงไปลึก จนดันปากมดลูกเด็ก เขาจูบปากเธอแน่นกันเสียงร้องเนื่องกั้นไม่มีหยุด พ่อเลี้ยงซอยก้นถี่ ความใหญ่และยาวผลุบเข้าผลุบออกในหีเหมือนลูกสูบ เด็กทั้งเจ็บทั้งแสบ และทั้งเสียวได้ระยะเวลาหนึ่งเธอก็หลับตาแน่นิ่ง ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับควยได้จังหวะบ้วนอสุจิใส่เต็มหีที่นองด้วยเลือดพรหมจารีย์บริสุทธิ์
เพียงเจ็ดวันที่ผัวไหม่และลูกคนสุดท้องหายไป นางเจียมก็เริ่มมีจิตวิปริตผิดกว่าที่เคยเป็นมา ประลาทที่เคยเป็นอย่างอ่อน ๆ เริ่มจะแข็งตัวขึ้น ลูก ๆ ที่เหลืออยู่ร่วมบ้านเริ่มจะเข้าหน้าไม่ติด โดยเฉพาะพิไล หล่อนมักได้รับการแสดงออกอย่างชิงชัง ด้วยจิตสำนึกของผู้เป็นแม่ และนั่นมันเท่ากับทำให้สาวน้อยผู้ยังฝันถึงรสจูบพ่อเลี้ยง ลังเล ว้าวุ่น…
“ชักจะเบื่อแล้วละ” วันหนึ่งเธอเปรยกับน้องสาวคนรอง ขณะอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“เบื่ออะไรวะแอ๋ว” น้องสาวถาม รวบพวงมาลัยที่ร้อยแล้วใส่ตะกร้า
“เบื่อแม่ เบื่อบ้าน” พิไลพูดออกมาตรง ๆ
“บ้า…” เนื้อดีพูดขัน ๆ “ไม่มีเหตุผล”
“ก็แกไม่เห็นหรือ แม่บ่นเกลียดฉันก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกัน”
น้องสาวยกตะกร้ามาลัยไปวางที่หนึ่ง เข้าในครัว ยกสำรับอาหารมื้อกลางวันออกมา แล้วว่า
“คิดมากประสาทแดกนะ มะมา กินข้าวกัน”
“กินไม่ลงว่ะ” พี่สาวส่ายหน้าปฏิเสธ ทิ้งน้ำหนักตัวพิงผนังบ้าน
“ห่วงอีนงค์หรือ”
“เฉย ๆ”
“ป่านนี้เสร็จไอ้น้าเฮงซวยแล้วมั้ง”
“กูก็ว่างั้นแหละ”
“เออว่ะ แอ๋ว ถามตรง ๆ เถอะวะ มึงก็เสร็จไอ้พ่อเลี้ยงเหมือนกันใช่ไหม”
“ประสาท”
“ตอบกูซิ…กูถามนะ”
“ไม่” พี่สาวบอกเสียงกระด้าง มองดูน้องสาวเปิบข้าวใส่ปากด้วยมือ
“ไม่จริงมั้ง กูสังเกตดูใจมึงลอย ๆ ยังไงชอบกล” น้องสาวพูดขณะเคี้ยวข้าว
“เป็นไงวะ”
“เหมือนคนที่เคยโดนมาแล้ว….แล้วมันว่ะ”
“อีบ้า พูดอย่างกับว่ามึงเคยโดนควย”
น้องสาวหัวเราะ แล้วว่า
“กูบอกให้มั้ยล่ะ”
“อะไร”
“กูน่ะโดนไอ้ตำรวจคนที่จับกูหนก่อนเย็ดแล้ว”
“ฮ้า….จริงหรือวะ”
“จริงซี่….”
“เมื่อไหร่”
“เดือนก่อน มึงจำไม่ได้หรือ กูนอนซมเพราะเจ็บหีตั้งหลายวัน”
“อือม์….” พิไลลากเสียง ในหัวใจเบิกพอง อย่างอยากฟัง เรื่องราวของคนเย็ดกัน
“เย็ดกันนี่มันเจ็บหรือ”
“แสดงว่ามึงยังไม่โดน”
“เออ มึงโดนแล้วเล่าให้กูฟังที”
น้องสาวหัวเราะเปิดเผยตามสันดาน
“แรกๆ ก็ไม่อยากไปกับมันหร็อก แต่มันขู่ กูเลยไปโรงแรมกับมัน มันกอด มันจูบกูใหญ่เลย”
“เบ็นไงบ้าง”
“ห่า…. จูบกันนี่มันฉิบหายว่ะ”
“แล้วเย็ดล่ะ ตอนที่มึงโดนควยน่ะ”
“มันบอกยากแฮะ จะว่าเจ็บก็เจ็บ ว่าปวดก็ปวด แต่มันคัน ๆ บอกไม่ถูก แต่พอมาตอนหลัง ๆ มันนัดมา นัดกูไปเย็ดอีก หนสี่หนห้า มันฉิบหาย มันจริงๆ พูดถึงกูยังอยากแล่นไปหามันเลย มันบอกมันรักกูว่ะ”
“ดีใจซิวะที่จะได้เป็นเมียตำรวจ”
“ธรรมดา เดี๋ยวนี้กูก็รักมันว่ะ” หล่อนพูด พร้อมกับอิ่มข้าวมื้อกลางวัน
“อ้อ…เฮ้ย….อีกตะกร้าหนึ่ง กูแบ่งไว้ให้ไอ้ป๋องมันแล้วนะ บอกมันด้วย วันนี้ให้ไปขายรวมกับกูที่ศาลพระพรหมเอราวัณ”
คล้อยหลังกันไม่กี่นาที น้องชายอีกคนของพิไลก็ก้าวสวบ ๆ เข้ามาในบ้าน ซึ่งขณะนั้น หล่อนกำลังเอนหลังอยู่บนเตียงในห้องนอนของแม่ สมองกำลังคิดถึงภาพต่าง ๆ ของคนเย็ดกัน คิดไป หล่อนก็นึกถึงหน้าพ่อเลี้ยงไป นึกไปทั้งที่ชังน้ำหน้าเขา แล้วก็มาลงเอยที่เผลอฝันทั้งยังไม่หลับว่า กำลังจะถูกควยพ่อเลี้ยงแหย่เข้าไปในหี
แต่เสียงเด็กชายดังกุกกักขัดขึ้นเสียก่อน
“ไม่มีใครอยู่บ้านเลยหรือ แม่..แม่….”
“ป๋อง กินข้าวซะ แล้วเอาตะกร้ามาลัยที่อีอี๊ดทิ้งไว้ในครัว ไปขายรวมกับมันที่เอราวัณ” พิไลพูดสวนออกไป
“วันนี้ ไม่ไปว่ะ ฉันจะนอนหน่อย เมื่อคืนล่อไพ่กับน้าแม้นเสียสว่าง”
“ไอ้ห่าเอ้ย เบ็นเด็กเบ็นเล็กหัดเล่นไพ่เล่นการพนัน”
น้องชายหัวเราะครื้นเครง ย้อนพี่สาวว่า
” ใครบอกว่าฉันเป็นเด็กเป็นเล็ก ฉันมีเมียแล้วนะ”
“พูดเล่นไม่อายปาก อายุมึงเท่าไรวะมีเมีย”
“สิบห้าจะเต็มก็มีเมียได้แล้วนี่นา” น้องชายบอก
“ใครวะเมียมึง”
“อีแต๋วลูกน้าหวาดไงล่ะ”
พี่สาวสะดุ้งเหมือนถูกผีหลอก
“ไอ้บ้า จริงหรือ”
“น้องชายขอตัวอาบน้ำชำระกาย แล้วจึงก้าวขึ้นไปนอนคุยกับพี่สาวบนเตียง
“สนมากหรือ” น้องชายถาม
“น่า….อย่าเล่นตัวนัก ฉันเป็นพี่แกนะ บอกให้เล่าก็เล่าซี….”
น้องชายดึงหมอนข้างไปกอด แล้วว่า
“ความจริงฉันไม่ตั้งใจหรอก แต่วันนั้นอีแต๋วมันชวนฉันไปที่บ้าน เล่าสิ่งในบ้านที่มันเห็นให้ฟัง”
“อะไรวะ”
“คนเย็ดกัน”
“ใครกับใคร”
“พี่สาวคนโตของมันกับแฟน”
“อือม์….เล่าไป”
“อีแต๋วมันว่า พี่สาวมันคร่ำครวญ ท่าจะมัน มันเลยอยากลอง”
“เลยชวนมึงไปลอง”
“เออสิ” เด็กชายอ้าปากหาว
“แล้วมึงเย็ดเขาเป็นหรือ”
“ส.บ.ม.”
“ทำไมเป็น ใครสอนมึง”
“โธ่เอ้ย… ก็ฉันแอบดูแม่เย็ดกับน้าทองบ่อยไป”
“ระยำ’
น้องชายหัวเราะ อ้าปากหาวอีก
พี่สาวว่า
“เล่าต่อซี่”
“อย่าให้ฉันเล่าเลย เดี๋ยวฉันทนเงี่ยนไม่ไหว”
“บ้า….พูดถึงก็เงี่ยนหรือ”
“อื่อ เดี๋ยวนี้ควยฉันยังทำท่าจะลุกเลย นึกถึงหีอีแต๋วแล้ว โอ้ย….เย็ดมั้น…มัน”
ด้วยความลืมตัว พิไลเอื้อมมือไปกำควยน้อง พลางว่า
“ไหนขอดูหน่อยซิ”
“พอ ๆ เดี๋ยวฉันเงี่ยนจริง ๆ ตามหาอีแต๋วไม่เจอ ต้องไปเสียเงินให้กะหรี่แน่ ๆ เลย”
” ไอ้บ้า คิดเกินเด็ก”
“อ้าว ยังว่าฉันเบ็นเด็กอีกหรือ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ใครบอก กะหรี่ฉันก็เย็ดมาแล้วนะ”
“ฮ้า….”
“ฮ้าแฮ้อะไรกัน ไอ้ดอน ไอ้พูน พาฉันไปลองมาแล้ว”
“แสดงว่าแกช่ำชองทีเดียว” พิไลถาม พร้อมกับล้วงมือเข้าไปจับควยน้อง แล้วหล่อนก็ถึงบางอ้อ และแทบไม่เชื่อว่า น้องชายอายุเพียงแค่นี้ ควยจะใหญ่กว่าความคิดของหล่อนขณะนั้น
และความเจ้ากรรมนั่นก็เหลือร้ายถูกมือพี่สาวกำแท้ ๆ กลับแข็งสู้มือขึ้นมาเชียว เวลาเดียวกัน ไอ้หนุ่มป๋องก็ครางฮือ
“ปล่อยเถอะพี่….” เสียงเด็กชายเบา
“ทำไม”
“ฉัน…ฉันจะทนไม่ไหว”
พี่สาวหน้าแดง ความคิดสับสน กำควยน้องชายแน่น
เด็กชายพยายามปลดมือพี่สาวออกแต่ไม่สำเร็จ เพราะขณะนั้น พิไลคิดฝันบ้าบอคอแตก ไม่เป็นเรื่องเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว
เด็กชายเบือนหน้ามองพี่สาว สายตาพร่ามัว เห็นหน้าพี่เป็นหน้าแต๋ว บางทีก็เห็นเป็นหน้ากะหรี่ที่เขาเคยเย็ด สลับกันไปมา
เช่นเดียวกับพี่สาว กำควยน้องชายครู่หนึ่ง เมื่อเบือนหน้ามอง ก็เห็นหน้านั้นเป็นนายทอง สลับกับเป็นใบหน้าของคนอื่น ๆ ไม่ใช่น้องชายตัวเอง
แล้วโดยไม่มีความคิด เด็กชายก้มหน้าลงจูบปากพี่สาว
พี่สาวกระหวัดกอดและจูบน้องชายแน่น
น้องชายสอดมือบีบนม อูม อวบแน่นและใหญ่ของพี่สาว
พีสาวบี้ลิ้นเล่นกับน้องชายอย่างเมามัน
ทั้งสองลืมตัวลืมตน หน้ามืด ไม่มีพูด ไม่มีถามกันอีก
ด้วยบทกะหรี่สอนมา เด็กชายนำมาใช้กับพี่สาวอย่างเป็นผล เสื้อผ้าพิไลถูกปอกออกจนเกลี้ยง เช่นเดียวกับตัวเขาเอง กะหรี่สอนให้เขาดูดนม เขาดูด
พิไลครางเสียงสั่น
“อี๊ด…. อูย….” พลางบิดอกแอ่นใส่ปากน้องชาย
กะหรี่สอนให้เขาแหย่หีผู้หญิงก่อนเย็ด เด็กชายแหย่
พิไลสูดปากเสียว
“ซี๊ด….”
กะหรี่บอกเขาขูดแตดผู้หญิงนาน ๆ เขาเขี่ยและบี้แตด
พี่สาวสั่นเกร็งทั้งร่าง เสียงครางดังแรงขึ้นอีก
“ซี๊ด….ซี๊ด….”
กะหรี่สอนเขาสังเกตหีผู้หญิง….เมื่อมีน้ำออกนองมือ ให้เอามือออก แล้วเอาควยใส่ เขาสังเกตและปฏิบัติได้ตามคำสอนเปี๊ยบ
พิไลถ่างขา หีอ้างับควย ในสำนึกคิดว่า ควยนั้นคือควยพ่อเลี้ยง กระเส่าบอก
“อย่า….อย่าแรงนะ”
ความเงี่ยนที่มีเป็นทุนอยู่ ประกอบกับน้องชายทำถูกเกม น้ำเงี่ยนหลั่งออกมาถูกใช้งานอยู่ก่อน พอควยจ่อเข้าปากหี มันก็ผลุบเข้าไปเลย ตำแตดโป้ง ปลายสุดเกือบจ่อปากมดลูก
พิไลสะดุ้งโหยง ร้องว้ากเสียงลั่น
เด็กไม่ฟังเสียง ก้มหน้าก้มตาอย่างสนุก
พี่สาวถูกเข้ากับอาการนั้น ควยไม่ใหญ่นัก จึงไม่ทำให้หล่อนเจ็บ เมื่อไม่เจ็บ มันก็มีแต่ความคัน ยิ่งถูกดัน คันก็ยิ่งแรง แรงจนไม่อาจทนนิ่งให้สะโพกวางเฉยอยู่กับฟูกได้ พิไลร่อนก้นเป็นโดยสัญชาตญาณ
ส่วนน้องชายก็ฉลาดเหลือ ที่รู้จักกดเวลาหีถูกยกสูง เกมแบบนั้นเลยเป็นผลส่งให้ปลายควยตำเข้ากับปากมดลูก และดูเหมือนจะเป็นพรสวรรค์ของเด็กผู้โชคดีที่ได้เรียนรู้การเย็ดก่อนวัยอันควร ประกอบกับธรรมชาติพิเศษในร่าง การหลั่งไวไม่เป็นของเขา ความสุขจากการที่ควยเสียดเข้าออกในหี พิไลจึงได้รับมันจนถึงจุดที่สุด หล่อนแอ่นอ้าจนหีลอย ดันร่างน้องชายยกสูง ซึ่งก็เป็นตอนที่น้องชายสุดโก่งแล้วเหมือนกัน ครู่เดียวเขื่อนน้ำพิไลก็แตกทะลัก และได้จังหวะกับน้องชายหลั่งอสุจิเต็มที่มีพลัง พุ่งแรงมากทีเดียว มากจนหีของพิไลรู้สึกเหมือนถูกทุบ หล่อนร้อง
“ซี๊ด…” ยาวและนาน
เช่นเดียวกับเด็กชายที่กัดกรามเน้นควยตัวเกร็งแน่น กอดพี่สาวนิ่ง
เผลอแผล็บ ๆ นายทองและเด็กหญิงอนงค์ก็จากนางเจียมไปครบเดือนแล้ว
วันใหม่ของต้นเดือนใหม่ของคิมหันต์ย่างเข้ามา นางเจียมลืมนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วอย่างง่าย หล่อนลืมเรื่องราวเหล่านั้นง่าย เช่นเดียวกับคนไทยทั่ว ๆ ไป ที่มักจะลืมความเจ็บปวดต่าง ๆ ลงง่ายเสมอ
แต่กับพิไลซึ่งเป็นลูกสาวของนาง สิ่งที่เกิดขึ้นกับหล่อนเมื่อเดือนที่แล้ว ติดต่อกันเกือบจะวันเว้นวันและเกือบจะทุกครั้งที่มีโอกาส อยู่กันตามลำพัง พี่กับน้องมักจะเย็ดกันเสมอ
“เฮ่ย…หากเห็นไอ้ป๋องหายไปกลางวัน มึงอยากดูมันไปนอนเย็ดใคร ตามมันไปที่บ้านนะ” มันเป็นคำพูดขานกันที่เริ่มจะดังขึ้นเรื่อยๆ
แรก ๆ เนื้อดีเฉย ด้วยนึกว่าน้องชายมีรูปร่างผิดวัยกว่าคนอื่น แต่ฟัง ๆ ไปที่ไหนได้
“เออว่ะ ไม่รู้มันเย็ดพี่สาวได้ยังไง”
ทันทีที่ได้ยิน เนื้อดีก็ถามผู้พูด
“มึงว่าน้องกูเย็ดใครวะ”
“โอ้ยอีอี๊ดหน้าโง่ มึงยังไม่โดนบ้างหรือ”
“โดนควยน้องน่ะหรือ”
“เออ” ผู้พูดมองหน้าเนื้อดีหยันๆ
“บ้า พี่น้องที่ไหนเขาเย็ดกัน ไอ้จัญไร”
หนุ่มแตกพาน ผู้พูดหัวเราะงอหายก่อนว่า
“เออ….เออ พูดไป ไม่เห็นหีกับควยคากันอยู่ กูให้มึงเหยียบ”
“ตกลง” ” เนื้อดีพูดห้วน ๆ ฝากตะกร้าพวงมาลัยกับคนสนิทได้ ก็แจ้นกลับบ้านในเดี๋ยวนั้น
ก้าวล่วงพ้นสะพานทอดข้ามน้ำครำ เนื้อดีข่มใจส่งสายตามองไปที่บ้านก่อน เวลาเช่นนี้สลัมก็คือสลัม บ้านของหล่อน หรือบ้านคนอื่นก็เหมือนกัน ทุกคนที่เป็นสมาชิกครอบครัว มักจะพากันออกนอกบ้านไปทำมาหากินใส่ปากท้อง
แล้วเนื้อดีก็ได้ยินเสียงลอดออกมาจากห้องใน เป็นเสียงหัวเราะระริกของชายหญิง หล่อนย่องเข้าไปจนชิดฝา แนบหูฟัง
“วันนี้ลองยืนเย็ดกันใหม่ในห้องน้ำดีมั้ยพี่แอ๋ว” เสียงเด็กชายป๋อง
เนื้อดีหัวใจเต้นผาง ๆ ด้วยความอายแทนคนทั้งสอง
“ไม่เอา เอาท่าแบกขาฉันที่นี่ก่อน” เป็นเสียงของพิไล
เนื้อดีแนบหารูให้ตาได้มองเห็นภาพเบื้องหน้า หล่อนแทบไม่เชื่อว่าจะพบพิไลนอนคว่ำหน้า สองมือเหนี่ยวขอบหัวเตียง สองขาพาดอยู่บนบ่าเด็กชายป๋อง ซึ่งขณะนั้น เขากำลังกึ่งยืนกึ่งย่อแอ่นควยอัดเข้าไปหาหี
เสียงเด็กชายป๋อง
“ท่านี้ลำบากจัง”
“แล้วแกไปจำเขามายังไง ไม่ใช่ผิดแบบหรือ” พิไลถาม
“ไม่น่า ฉันจำได้แม่น ท่านี้ได้ยินพี่อีแต๋วว่าถูกเย็ดแล้วมันนัก”
“งั้นสอดควยเข้าไปลึก ๆ ซี่” พิไลบอก
เนื้อดีหน้าชา และนึกไปว่า หากแม่มาเห็นจะเป็นยังไง แต่เชื่อขนมเจ๊กกินก่อนได้เป็นโหล กลางวันเช่นนี้ แม่ของพวกหล่อนไม่กลับมาบ้านแน่ แต่ก็ไม่เสมอไป แล้วเมื่อเห็นภาพเช่นนั้น เนื้อดีจึงถามตัวเองซ้ำซากขึ้นอีก
“แม่เห็นจะเป็นยังไง แม่เห็นจะเป็นยังไง”
และถามตัวเองต่อไป
“ความจริงออกมารูปนี้ จะโผล่เข้าไปว่าคนทั้งสองก็ไม่ถูก” เนื้อดีคิด และคิดต่อ
“อันเกมเย็ดกัน มันก็สนุกอย่างนี้แหละ ได้เย็ดแล้วครั้งหนึ่ง มันก็อยากครั้งสอง”
คิดไป ก็ดูภาพพี่สาวกับน้องชายเย็ดกันไป ได้ยินเสียงครางพี่สาวตอนควยเข้าไปได้สุด
“ซี๊ด…”
เนื้อดีก็เริ่มคันหีขึ้นมาวาบ ๆ
เด็กชายป๋องวางขาพี่สาวลงจากบ่า บ่นเบา ๆ
“ฉันไม่ถนัดท่านี้เลยพี่แอ๋ว”
“งั้นเอาโก้งโค้งอย่างเมื่อวานนี้”
“เออดี ท่าหมาเย็ดกันฉันชอบ” เด็กชายพูดหัวเราะ
เข่าสองข้างของพิไลคู้ แต่ตูดถูกยกสูงด้วยการแอ่นหลังช่วย หน้ายังคว่ำอยู่ ส่วนเด็กชายยังยืน ครู่หนึ่งเขาก็ก้มหน้าลงช้อนกอดพี่สาวทางด้านหลัง สองมือรวบจับนมสองข้าง ภาพนั้น เนื้อดีเห็นแล้วเริ่มคันทั้งหี และเสียวที่ปลายหัวนม ภาพตำรวจหนุ่มที่เคยเย็ดตัว เกิดในหัวคิดเลือน ๆ
“เร็วหน่อยซี่….กำลังอยาก” เสียงพิไลดังขึ้นอีก
เด็กชายว่า
“ใจเย็นๆ น่า ฉันจะจัดท่าสอดควยเข้าให้ถนัด”
เนื้อดีจ้องดูควยน้องชาย แล้วเธอก็กลืนน้ำลาย มันไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของที่หล่อนเคยโดน เผลอ ๆ ของตำรวจคนนั้นอาจจะเล็กกว่าของน้องชายเธอเสียอีก แต่ที่แน่ๆ ความยาวของควยน้องชาย ที่เห็น ขณะนี้มันยาวกว่าของตำรวจนั้นแน่ๆ ที่แน่เพราะควยน้องชายหล่อน ใครๆ ก็เห็นมาตั้งแต่แบเบาะแล้ว
” ไอ้เด็กคนนี้ควยมันยาวเกินตัว
“ซี๊ด….” พิไลสูดปาก ขยุ้มหัวเตียงแน่น
“อูย….” เด็กครวญ “ท่านี้ฉันชอบจริงๆ”
ควยจมเข้าไปในหี กระแทกมดลูกดังกึก ๆ
“มันมั้ยพี่แอ๋ว” น้องถามพี่
“เร็วซี่ กระแทกแรงๆนะ” พิไลบอก
น้ำในรูหีเนื้อดีไหลเยิ้ม
เสียงสะพานข้ามน้ำครำดังอ๊อดแอ๊ด เนื้อดีหันขวับไปมอง ไอ้คนที่บอกหล่อนมาแอบดู ส่งสัญญาณถามเป็นภาษาใบ้ว่า
“เชื่อกูมั้ยล่ะ”
เนื้อดีกวักมือเรียกเพื่อนหนุ่มรุ่นพี่มาดูใกล้ ๆ ด้วยกัน พร้อมกับส่งสัญญาณบอกให้ระวังเสียง
ประมาณ อดิเรก คลานก้าวโย่งอ้อมบ้านนางเจียมไปดูอีกทางหนึ่ง
เนื้อดีลุกขึ้นตามไป และแปลกใจเป็นอย่างมากที่รูนั้นมันถูกเจาะใหญ่อย่างไม่มีใครสังเกต และมีหลายรูด้วย
เนื้อดีกระซิบถามเพื่อนรุ่นพี่
” ไอ้มาณ มึงพาเพื่อนมาเจาะที่นี่หรือ”
ประมาณตอบ
“เขาเจาะไว้ ตั้งแต่แม่มึงเย็ดกับผัวใหม่โน่นแล้ว”
ทั้งสองต่างมองการเย็ดของป๋องกับพิไล
ป๋องดึงควยเข้าออกในหีพี่สาวเร็วเหมือนลูกสูบรถยนต์
พิไลโอดโอยกัดฟันเค้นหัวเตียงอย่างมันในอก น้ำในหีนองเนืองแต่ไม่ทำให้ควยเจอน้ำลื่นจนหลวม ตรงกันข้าม การเย็ดท่าโก้งโค้งแบบนั้น แตดมักจะมีโอกาสถูกควยบี้ได้อย่างถนัด มัน….มันก็เป็นความมันอย่างยิ่งยวดของผู้ถูกเย็ด
ป๋องบีบนมพี่สาวอย่างไม่ปรานี ใบหน้าก็จูบซอกคอพี่เพลินไป ส่วนสะโพกไม่ยอมยั้งในท่าซอย พรสวรรค์เด็กชายดีมากที่สุด ยิ่งซอยก็ดูเหมือนควยยิ่งแข็ง ขณะแข็ง การซอยมันก็สะเด่า แต่น้ำเงี่ยนเขาหลั่งช้า…ช้ามากจริงๆ
สิบนาทีผ่านไปแล้ว น้ำเงี่ยนเด็กยังไม่หลัง การซอยก็เพลินอยู่ พิไลคงเหนื่อยกับท่านั้น เธอค่อยๆ เหยียดขายาว และนาบร่างลงกับฟูก ป๋องนาบลงตาม เขี่ยขาพี่สาวถ่างออก ก้นก็ยังซอยอยู่ ปากก็ว่า
“แบบนี้ก็ดีจัง
“หีหนีบควยแน่นมั้ย” พิไลถาม
“ซี๊ด…อูย….เร็ว ๆ พี่….พี่จะออกแล้ว”
ป๋องดีดก้นป้าบ ๆ ๆ ๆ
พิไลส่ายก้นบ้าง เด้งก้นขึ้นใส่น้องบ้าง แล้วก็ร้องโอ้ยเสียงยาว
“ออกแล้วหรือ”
“หนึ…หนึ่งแล้ว…”
“ฉัน…ฉันยังอยู่….”
“งั้นซอย…เร็ว…เร็วอีกได้….ได้มั้ย”
ป๋องตอบด้วยซอย
สิบห้านาทีผ่าน
ประมาณ อดิเรกคลานกลืนน้ำลาย ไม่เชื่อว่าไอ้เด็กรุ่นน้องมันจะโคตรนักเย็ด แล้วเขาก็เกิดอยาก…ความคิดสับสน หันมองเนื้อดีอย่างไม่ตั้งใจ แต่ตอนนั้น สาวผู้ร่วมมองกำลังจ้องเพลินอย่างลืมตัว
หนุ่มสะกิด
สาวสะดุ้ง
หนุ่มกระซิบ
“เอ็งไม่เงี่ยนหรือ”
เนื้อดีตอบ
“เงี่ยนสิ”
ประมาณยิ้มหน้าแดง กระซิบต่อ
“เราไปเย็ดกันที ดีไหม”
“น่า…กูหน้ามืดจริง ๆ ”
“ที่ไหน” เนื้อดีถาม
สองคนลืมตัว พูดกันไป เสียงก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ ดังจนพิไลและ ป๋องได้ยิน ทั้งสองนิ่งฟัง
ได้ยินเสียงประมาณชัดเจนพูดชัดเจน
“บ้านกู”
และเสียงเนื้อดีว่า
“มีคนมั้ย”
“มึงก็รู้”
“ไม่มีแน่นะ”
ป๋องดึงควยออกจากหี ก้มกระซิบถามพี่สาว
“ใครนะ”
พิไลตอบ
“ไม่รู้สิ”
แล้วป๋องก็ส่ายตาหารูแอบมอง ทันทีที่เห็น เขารีบตะกายมาบอกพี่สาว
อีอี๊ดกับไอ้มาณ”
“หา…” เสียงพิไล
“มันคงจะไปเย็ดกัน” ป๋องว่า
“งั้นป๋องมาเย็ดพี่ต่อให้เสร็จ แล้วเราไปแอบดูมันมั่ง”
ป๋องเย็ดพี่สาวต่อ ความมันยังคงอยู่ แต่พิไลเริ่มลดลงบ้าง จนกระทั่งยี่สิบนาทีล่วงแล้ว เด็กจึงหลั่งน้ำเงี่ยนพรวด
ยังไม่ทันที่ประมาณกับเนื้อดีจะเข้าไปใกล้บ้านกว่านั้น หูทั้งสองก็แว่วเสียงคนออกมาจากบ้านที่เห็นประตูปิดอยู่
เนื้อดีว่า
“ไหนบอกว่าไม่มีคน”
“เอ…กูชักสงสัย” ชายหนุ่มพึมพำและว่า “หรือน้องพ่อกูที่มาจากสุรินทร์ ไปได้ ไก่มากก”
” ใครนะน้องพ่อมึง” เนื้อดีถาม
“มึงคงไม่เคยเห็นหร็อก กูเองก็เพิ่งเห็นสามสี่วันมานี่เอง เห็นพ่อว่า อาเป็นกุ๊ยข้างคิวรถ หนีคดีฆ่าคนมาอยู่ ได้สามสี่วันแล้ว”
“พ่อมึงล่ะไปไหนเสีย”
“อยู่ แต่คงที่บ่อน”
“เออ แล้วหมู่นี้พ่อมึงเอาเมียใหม่แล้วยัง”
“ยัง” ประมาณตอบพลางคิดพลาง
“แล้วมึงฟัง นั่นเสียงผู้หญิงนะ” เนื้อดีเกือบจะลืมความเงี่ยนอยู่แล้ว “หรือเมียอามึงกำลังเย็ดกับผัว”
ประมาณส่ายหน้า
“ห่า.. .อากูมาคนเดียว”
แล้วเนื้อดีว่า
“เสียเวลาจัง กูกลับไปขายมาลัยดีกว่า”
ประมาณรั้งแขนไว้
“อย่าเพิ่งไป ขอกูทีก่อน”
“ยังอยากอยู่หรือ” เนื้อดีถามเสียงเบา
ประมาณคราง
“สงสารกูเถอะวะอี๊ด…”
“ที่ ไหนล่ะ ช้ากูก็หมดอยากนา” เนื้อดีพูดเรื่อย ๆ เลย ๆ
นึ่งครู่หนึ่ง ประมาณก็ว่า
“แอบดูคู่นี้ก่อนมั้ย”
“ดีเหมือนกัน”
ทั้งสองย่องเข้าไปใกล้บ้าน เสาะหารูแอบดูภาพในห้องนั้น
เนื้อดีเกือบช็อคทันทีที่ตาเห็น อุทานในอก
“แม่….”
ประมาณจับแขนเนื้อดี กระซิบข้างหู
“แม่มึงนี่หว่า”
เนื้อดีถาม
“อามึงหรือนั่น”
“เออว่ะ ทำไมรู้จักกันเร็วจริง”
“สงสัยเจอกันที่บ่อน”
แล้วทั้งสองชิงกันแอบมอง
นางเจียมนอนหงายถ่างขา อาประมาณคว่ำหน้าทับ เย็ดกันในท่าธรรมดา แต่ดูที่ผู้เป็นเจ้าของหี รู้สึกสนุกมากกว่าฝ่ายชาย
ขณะเย็ดกันอยู่ ชายว่า
“จะให้ฉันไปอยู่บ้านร่วมเรือนเลย ลูก ๆ จะไม่ว่าเอาหรือ”
“ไม่น่า บ้านนี้มันสิทธิ์ฉัน ลูกมันต้องเชื่อฉันซี” เสียงนางเจียม
“แต่ถ้าผัวเก่ากลับมาล่ะ” ชายผู้นั้นถาม
“คุณกล้วมันหรือ”
“กลัวคนหรือ” แล้วเขาหัวเราะ แช่ควยนิ่ง สองแขนดันน้ำหนักท่อนบนไว้ มองหน้าคล้ำ ๆ ของนางเจียม นึกในใจ “อีนี่ก็พอเอาเป็นเมียได้นี่หว่า….”
“ว่าไง กลัวเขาหรือ”
“ว่าแต่ว่า…” เขาพูดช้า พร้อมกับบดควยในหีในลักษณะแกว่งปลาย
นางเจียมสูดปาก
“ซี๊ด…” สองแขน สองมือ ดึงก้นเขาลงใส่ตัวเองแน่น
“เมื่อไหร่จะให้ฉันไปเป็นผัว”
เนื้อดีใจเต้น นึกชังน้ำหน้าแม่ขึ้นมาติดหมัด ความรู้สึกอยาก และความรู้สึกคันหีหายไป หล่อนรังเกียจแม่เรื่องเปลี่ยนผัวเสมอมา
ส่วนประมาณนิ่งฟัง และตามอง ความอยากยังคงอยู่ในสมองนึกหาที่จะดึงเนื้อดีไปหาที่เย็ด
เสียงใหม่ก็ดังมาทางข้างบ้านประมาณ
เนื้อดีหันมองไปเห็นก่อน
เด็กชายป๋องชี้หน้าพี่สาว ยิ้มฟันขาว พิไลกวักมือเรียกน้องสาว
เนื้อดีผละจากประมาณ เดินย้อนไปทางคนทั้งสองก่อนเข้ามาใกล้บ้านประมาณมากกว่านั้น แล้วกระซิบเสียงสั่นรวดเร็ว
“อีแอ๋วไอ้ป๋อง แม่เรากำลังให้เขาเย็ดที่บ้านไอ้มาณ”
“หา….” พิไลลากเสียง
ป๋องถาม
“กับใคร”
“กูไม่เคยเห็นหน้า”
ทั้งสามนิ่ง
ลมร้อนหอบตัวม้วนผ่านคนทั้งสาม
ประมาณลังเล คิดไม่ออกว่าจะดึงเนื้อดีไปที่ไหน แต่ยังแอบดูอาเย็ดกับแม่เพื่อนบ้านรุ่นไล่เลี่ยกันอยู่ที่เดิม
แล้วเนื้อดีพูดขึ้นมาเหมือนฟ้าแลบ
“แอ๋วกับป๋อง มึงเย็ดกันมันมั้ย”
พิไลจ้องหน้าน้องสาว แก้มแดง
“มึงเห็น” หล่อนถามแก้ขวย
” ไอ้มาณก็เห็น”
ป๋องว่า
“มึงกำลังจะไปเย็ดกับไอ้มาณ…แต่พอดีเจอแม่ก่อน จริงมั้ย”
เนื้อดีหัวเราะ
“ทำไมมึงรู้วะป๋อง”
“มึงแอบดูกูเย็ดพี่แอ๋ว แล้วมึงก็ชวนกันออกมาบ้านไอ้มาณ”
ทั้งสามหัวเราะ
เนื้อดีชวน
“ไปแอบดูแม่เย็ด กับไอ้นั่นมั้ย”
พิไลว่า
“กลับไปเย็ดกันที่บ้านดีกว่าแอบดูคนอื่น”
เนื้อดีเดินตามพี่กับน้องหน้าตาเฉย แล้วว่า
“ห่า เห็นเรื่องเย็ด พูดเรื่องเย็ด กูชักเงี่ยนติดหมัดแล้วซี นี่เงี่ยนมา หีกูจะถูกควยใครแหย่ดีวะ”
” ไอ้มาณไงล่ะ” ป๋องบอก
เนื้อดีมองกลับหลัง เห็นประมาณยืนมองตาละห้อย หล่อนแกล้งโบกมืออำลา แต่ในใจนึกอยากปฏิบัติตามคำบอกของน้อง ทว่าปากกลับพูดซื่อ ๆ
“เห็นควยแกแล้วอิจฉาอีแอ๋วจังว่ะ”
“งั้นก็ให้ฉันเย็ดดีมั้ย” ป๋องว่า
เนื้อดีดึงแขนพิไลหยุดเดิน ในสมองสว่างวาบ หัวใจเต้นเร็วด้วยความดีใจอย่างไม่คิดมาก่อน
“อีแอ๋ว…” เสียงน้องสาวคนรองสั่ง
“ทำไม” พี่สาวจ้องหน้าถาม
“มึงเบีนพี่ มึงยังให้ไอ้ป๋องเย็ด กูล่ะ บ้างดีมั้ย”
“เงี่ยนหรือ” พี่สาวถาม
“เออ เพราะแอบดูมึงนั่นแหละ”
ป๋องหัวเราะ และว่า
“เออ ดีเหมือนกันนะ ตั้งแต่ฉันเย็ดอีแต๋วกับอีณีพร้อมกันคราวโน้น จนเดี๋ยวนี้ฉันยังไม่มีโอกาสอย่างนั้นเลย”
เนื้อดีมองหน้าน้องชาย ถามเกือบจะพร้อมกัน ด้วยประโยคเดียวกันกับพิไล
“มึงเคยเย็ดผู้หญิงพร้อมกันสองคน”
“พูดแล้วจะหาว่าโม้ ฉันลองมาทั้งอีแต๋วกับอีณี และกับกะหรี่ ข้างบ้านเราสองคนน่ะ วันนั้นมันคงเงี่ยน มันหลอกฉันไปสอนซะเก่งวิชาไปเลย”
พิไลกับเนื้อดีมองหน้ากันนิ่ง ในสมองต่างมีแต่ภาพสัปโดกสัปดนพล่านเต็มไป….
ป๋องนั่งมองความแตกต่างของรูปร่างพี่สาวทั้งสอง
วินาทีเชื่อมกันนั่นเอง เด็กชายจูบพลางใช้มือแหย่หีพี่สาวคนรองพลางปากก็ยังประกบดูดลิ้นเริงอยู่ และนี่เอง เป็นการเร้าจุดสวาทที่ให้เผลออย่างรวดเร็วกับเนื้อดี เพราะเพียงปากหลุดเป็นอิสระวินาทีเดียว หล่อนก็ครางเสียงสั่น
“อูว์….” หล่อนถูกน้องชายจูบอีก และในหีถูกนิ้วมือเขาแยงแหย่เข้าไปบี้แตดซึ่งกำลังเต้นดุบ ๆ
เสียงพิไลพ้อขึ้นค่อนข้างเครียด
“อี๊ด แกไม่ลูบหีฉันตามที่ป๋องบอกนะ”
เนื้อดีควานมือจับหีพี่สาว บีบสองแคมเข้าหากัน แล้วจึงควานนิ้วมือตามแบบป๋องเข้าไปบี้แตด
พิไลครวญ
“ซี….ซี….ซี๊ด…. ”
ป๋องดึงปากออกจากปากพี่สาวคนรอง ไซ้หน้าดอมดมสองแก้ม ม้วนปากเข้าไปเลียหูหล่อน
เนื้อดีครางอย่างไม่เคยเป็น
“ซี๊ด…” และว่า “อุ้ย….อูย….เสียวว่ะ”
“ทำไมเสียว” พิไลถาม
” ไอ้ป๋องบี้แตด และเลียหูมันส่งถึงกันไงไม่รู้ว่ะ อูย….เสียว…”
พิไลก็ว่า
“เออ มือแกแหย่แตดฉัน ฉันก็เสียวเหมือนกันว่ะ แต่ไม่มาก”
ป๋องเงยหน้าพูด
“พี่อี๊ดแหย่ไม่เป็นน่ะซิ ถึงไม่เสียว”
พี่สาวคนโตฉวยโอกาสว่า
” ไหนแกลองแหย่ให้พี่สิ”
ป๋องเปลี่ยนหี
เนื้อดีท้วง
“ดึงออกทำไมวะ กำลังมันส์ยกร่อง”
น้องชายว่า
“งั้นเสียบด้วยควยเลยมั้ย”
“นั้นแหละกูกะลังรอ” พี่สาวคนรองคว้าควยน้องชายยัดเข้าไป ในหี ส่วนพี่สาวคนโต เมื่อถูกมือที่ชำนาญกว่าบดแตด เสียงครางก็ดังยาว
“อู….อูย….เสียวจัง”
“แกหงายดีมั้ย ฉันจะขี่เอง” เนื้อดีบอกน้องชาย
ป๋องถาม
“ทำไมรู้จักท่านี้ละ”
พิไลตอบแทน
“ไอ้ตำรวจมันคงสอน”
“เออสิวะ” เนื้อดีพูด” ท่านี้เวลาทำเอง เลือกส่ายก้นให้หีถูกควยตำได้ถูกใจตัวเองมากเลยแหละ”
“เหรอ” พี่สาวคนโตฉงน และแกล้งว่า
“เอ้า….แกขย่มครู่น่ะ แล้วฉันขอลองดูบ้าง”
“ฉลาด” น้องสาวหัวเราะ ยกก้นโขยกควยอย่างไม่กลัวหีเจ็บ มดลูกกระแทกปลายควยดังกึก…. จังหวะใดที่อยากให้แตดถูกตำ ค่าที่เคยถูกสอนมาก่อน หล่อนเบี่ยงไป ก้นส่ายสูง มิช้า ความเงี่ยนก็ให้ความสุขเป็นทวีคูณ เสียงกราม เสียงลอดปากดังสนั่น
พิไลเหลือบมอง เห็นใบหน้าเป็นความสุขของน้องสาวเช่นนั้น ความอิจฉาก็ปรากฎ หล่อนผลักเนื้อดีออก และว่า
“ขอฉันลองมั่งซี”
เด็กชายมองพี่สาวทั้งสอง มือซ้ายบีบนมพี่สาวคนรอง มือขวาแหย่หีพี่สาวคนโตและว่า
“เปลี่ยนกันไปมาก็ดีเหมือนกันนะ ควยฉันจะได้แข็งนาน ๆ”
เนื้อดีว่า
“เอางั้นก็เอา เรามันพี่น้องกัน”
พิไลขึ้นขี่น้อง จับควยแทงเข้าไปในหี แล้วถามน้องสาว
“ควยเข้าไปแล้วมึงทำไงวะอี๊ด”
“อีห่า…มึงก็ยกก้นขึ้น ๆ ลงๆ เดี๋ยวหีก็บอกเองแหละว่า มึงควรส่ายซ้ายหรือขวา หรือเบี่ยงต่ำเบี่ยงสูง”
พิไลลองทำตาม แล้วก็เริ่มแปลกใจขึ้นเรื่อย ๆ การทำเองแบบนั้น มันให้ความสนุกมากกว่าปล่อยให้น้องกระเด้าฝ่ายเดียว ยิ่งเบี่ยงยิ่งบ่าย ยิ่งส่าย หีก็รู้ที่ต้องการเองอย่างอัตโนมัตินั้น เสียงครางจึงดังไม่แพ้กัน
“ซี๊ด….ซี๊ด….”
“มัน…”
“เสียวที่สุดเลย….
ทั้งหมดเป็นคำของพิไลคนเดียว
เนื้อดีผลักพี่สาวออกบ้าง และว่า
“กูมั่งซี…”
ป๋องหัวเราะ เมื่อพี่สาวเร่งโขยกหีคาบควยตัวเองอย่างแรง และเขาก็ยิ่งมัน มือที่ตั้งใจจะบีบนมคนนั้นแหย่หีคนนี้ ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ มันป่ายเปะปะจับมั่วไปทั้งสองคน ยิ่งความเสียวดึงสู่ที่ใกล้สุด การกระทำยิ่งพัลวัน ทำไปเด็กเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ยังขาดกลที่ถูกสอนมาอีกแบบหนึ่ง เมื่อคิดได้ เขาก็บอกพี่สาวคนโตว่า
“พี่แอ๋ว ยืนขึ้นซี่ ช่วยกดกันพี่อี๊ดใส่ควยผมแรง ๆ หน่อย”
“เข้าท่า….” เนื้อดีพูดเสียงสั่น เพราะลมหายใจกำลังเริ่มหอบ
พิไลปฏิบัติตามคำผู้ช่ำชอง มิช้า หล่อนก็รู้เองว่า นอกจากกดช่วยแล้ว ควรดึงช่วยอีกด้วย
นั้น… มันเป็นเครื่องส่งให้เด็กบิดกายครวญคราง และว่า
“อูย…อูย…มันจัง”
เนื้อดีก็ร้อง
“ซี๊ด….จะ…ออก….แล้ว….แล้ว’
“เออออกเสีย แล้วพี่บ้าง” พิไลบอก นึกสนุก
แล้วเนื้อตัวก็เกร็งทาบลงจูบปากน้องนิ่ง น้องชายพยายามกลั้นไม่ให้อสุจิหลั่งแต่ก็เล่นลิ้นกับพี่สาวคนรองจนเกือบระงับเสียวไม่อยู่
ครู่หนึ่งพิไลจึงผลักน้องสาวกลิ้งออกห่างควย แล้วยัดหีตัวเองครอบควยพรวดลงไป
คราวนี้ก็เลยกลายเป็นทีของเนื้อดีขย่มช่วยบ้าง และเพราะหล่อนเป็นคนร่าเริงชอบแกล้ง และชอบเล่นหัวผู้อื่นมากอยู่ เมื่ออยู่ในท่าเป็นผู้ชายส่งอีกแรง เธอจึงกดจึงดึงไม่ปรานี
และเป็นสิ่งที่พลิกล็อค แทนที่จะทำให้พิไลเจ็บ กลับเป็นการส่งให้เธอเสียวสุดยั้ง ทั้งเนื้อดีจับส่าย จับแกว่งจับกดอีกด้วย หีเธอก็ยิ่งคัน คันมากเท่าใด เมือกน้ำก็หลั่งมากเท่านั้น ประกอบกับน้องชายจะได้ที่ เขาก็ไม่อาจกลั้นได้อีกต่อ จึงพยายามกระเด้งส่งขึ้นมาอีกแรง ทั้งดันทั้งรับหี พิไลสู้ศึกหนักจนร้องและซี๊ดสลับกันไม่หยุด
เนื้อดีเห็นเช่นนั้น ก็ยิ่งขย่มแรงขึ้นอีก
เพียงครู่เดียวพิไลก็เกร็ง น้องชายก็เกร็ง….
อีกไม่ถึงเสี้ยววินาที น้ำรักของคนทั้งสองก็จะถึงขั้นแตก จังหวะนี้เอง ที่เตียงเริงรักเขาทั้งสามหัก
“โครม….”
อสุจิน้องชายพุ่งใส่หีพี่สาวคนโตอย่างแรง
ในหีพี่สาวก็บีบเมือกน้ำออกแรงเหมือนกัน
ส่วนเนื้อดีร้อง
“ว้าย….หีแหก”
ครู่เดียว ทั้งสามก็หัวเราะเสียงดังพร้อมกัน และวินาทีนั้นเอง เสียงแม่ก็ดังมาจากปลายทางเข้าบ้าน
“เฮ้ย….ใครพังบ้านกูเว้ย”
“แม่มา” เนื้อดีกระเส่าบอก
พิไลพลิก กลิ้งเข้าไปแต่งตัวในห้องเดียวกับน้องชาย
นางเจียมเข้ามาถึงชายคาบ้าน….เสียงกุกกักได้ยินชัด นางจึงตะโกนถามขึ้นอีก
“ใครทำอะไรวะ”
ป๋องแสดงตนเป็นคนมีปฏิภาณที่เร็วกว่าคนอื่น เขารีบว่า
“ฉันกำลังจะงีบสักหน่อย เตียงหักจ้ะแม่”
ลูกทั้งสามหันหน้ามองกันด้วยความรู้สึกที่ว่างโหวง เมื่อแม่บอกขึ้นง่ายๆ ว่า
“ไหว้น้าเขาเสียซิ เขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนเราแทนน้าทอง”
พิไลยกมือไหว้ พ่อเลี้ยงคนใหม่ก่อน ตามด้วยเนื้อดี ซึ่งไหว้พร้อมกับทิ้งหางตาบอกความรังเกียจให้ผู้รับไหว้รู้เป็นนัย แต่สำหรับป๋อง เขาไม่ไหว้ แต่ก็ไม่แสดงกิริยาใดออกมา นอกจากเลี่ยงเข้าไปในห้องครู่หนึ่ง กลับออกมาก็ว่า
“พี่อี๊ดเราไปขายหนังสือพิมพ์กันต่อเหอะ”
เนื้อดีตอบน้องชาย
“ไปก็ไป”
นางเจียมชิงว่า
“เอ้อ.. .แอ๋วแกอยู่ก่อนนะ เดี๋ยวไปซื้อกับข้าวมาฉลองกันหน่อย”
พิไลก้มหน้า
ผู้จะมาร่วมเรือน ในฐานะพ่อเลี้ยงคนใหม่ของบ้านจ้องมองพิ ไลด้วยสายตาวาววาวผิดปกติ ลูกสาวนางเจียมเองก็รู้ดี แต่ขณะนั้นตัวผู้จะเป็นเมียของเขาเองกลับไม่ทันสังเกต เพราะรีบรุดเข้าไปดูเตียงนอนในห้องเสียก่อน
“เอ ….ดวงกูนะกู เพิ่งได้ไพ่มาไม่ถึงพัน ท่ามันต้องซื้อเตียงใหม่แล้วละ”
พิไลอ้อมแอ้มบอกแม่
“นอนกับพื้นไม่ดีกว่าหรือ อีกหน่อยก็เรียกช่างเพิ่มมาช่วยซ่อมให้ได้นี่แม่”
พ่อเลี้ยงคนใหม่ซึ่งมีผิวดำเหมือนหมึกกล่าวขึ้นว่า
“หายืมแต่เครื่องมือมา เดี๋ยวทำเองได้”
“คุณเป็นช่างไม้ด้วยหรือ” นางเจียมถามผัวใหม่
“ถนัดพอกับฆ่าคน” เขาตอบเชิงให้เสียงนั้นขู่พิไลกลาย ๆ และขณะพด เขาลอบทิ้งหางตาให้เธอด้วย
แต่พิไลเบ็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง แม้เธอจะรู้ แต่เธอก็เฉยเสีย
แล้วก็ได้เวลาแดดร่มลมตก นางเจียมบรรจงปรุงอาหารอีสานอย่างดีเลี้ยงรับขวัญผัวใหม่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเหล้า
การดื่มกินอย่างกันเอง โดยมีเพื่อนบ้านสนิทข้างเคียงมาร่วมวงสี่ห้าคนแล้ว ลูกของนางเจียมไม่อยู่ฉลองด้วยเลย รวมทั้งพิไลด้วย และขณะที่พวกนั้นเริ่มส่งเสียงบอกความมึนเมา ลูกสาวคนโตก็คิดหาทางเก็บเสื้อผ้าเล็ดลอดหนีออกจากบ้าน โดยกะการณ์เอาว่าจะไปชวนน้องทั้งสองตามไปด้วย
แต่พอกำลังคิดอะไรเพลินอยู่ในห้องตามลำพัง พ่อเลี้ยงคนใหม่ย่องเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทันทีที่อยู่ใกล้กัน เขารีบก้มหน้ากระซิบ
“คุณน่ารักที่สุดเลยในบ้านนี้”
พิไลกระแทกเสียงเบา ๆ
“ทะลึ่ง”
พูดจบ เขาก็หันไปยักคิ้วกับเพื่อนร่วมวง
หลายคนฮาครืนอีกครั้ง
พิไลก้าวออกมานอกห้อง ทุกคนหันมองนางเจียม แหวถาม เสียงอ้อแอ้
“ว่าไงวะอีแอ๋ว จะเข้าตำราไอ้ทองตั้งแต่วันนี้อีกเลยหรือ”
พิไลอึ้งครู่หนึ่ง ทำให้ทุกคนเงียบ แล้วหล่อนว่า
“แม่…”
“อาราย” นางเจียมวางขวดเหล้า นั่งยองแหงนหน้ามองลูกสาว คนโต ในใจให้หวั่น ๆ ว่า ไอ้ผัวใหม่ท่าจะชอบลูกกูละกระมัง
“ฉันอยากหนีจากบ้านนี้แล้วล่ะ”
ด้วยความหลงผิด และความด้อยในปัญญา นางเจียมชิงโพล่งขึ้นว่า
“เฮ้ย….มึงพูดจริงหรือพูดเล่นวะ”
“จริงแม่” พิไลตอบ
เฒ่าสม คู่หูเฒ่าแปลกถามอย่างตกใจ
“มึงเป็นอะไรวะแอ๋ว”
“ฉันไม่ชอบพ่อเลี้ยงคนนี้” เธอตอบตรง ๆ เป็นครั้งแรก
ผัวใหม่นางเจียมหน้าแดงซ่าน สะอึกงุนงง หันหน้ามองเมียผู้มีอายุมากกว่า ขยับปากจะพูด แต่ถูกนางเจียมชิงกล่าวขึ้นก่อน
“ลูกกูมันเก่งซะอย่างนี้ เออวะ เมื่อไม่ชอบ แกจะไปอยู่ไหนก็ ไป”
พิไลหันกลับเข้าห้อง เก็บเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น ในสมองนึกหาที่ที่จะไปพักอาศัยชั่วคราว แล้วก็จะดิ้นรนหางานทำใหม่ภายหลัง
การตัดสินปัญหาใด ๆ ของคนไร้การศึกษา และเติบใหญ่ในถิ่นสลัมมักจะง่ายเช่นนั้นเสมอ
แต่พอพิไลจะหิ้วกระเป๋าไกลบ้านลับตาไปจริง ๆ นางเจียมก็ร้องไห้โฮออกมาเหมือนเด็ก ๆ
เพื่อนร่วมวงของนางหันหน้ามองผู้มาใหม่ เหมือนกับอยากบอกว่า
“ถ้าแกเบ็นลูกผู้ชาย เลือกตัดสินใจใหม่เถอะวะ แม่เขาลูกเขาอยู่กันตามลำพังจะดีกว่า….”
แต่ชายหน้าดำเป็นเหมี่ยง ไม่รู้นัยความหมายนั้น เขาเพียงแต่นึกขันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วและง่ายดายเกินไป และเขาก็ไม่ขยับไปปลอบผู้จะเป็นเมียสืบไปไม่…ตรงกันข้าม ในสมองเขากลับวาดแผนใหม่ซ้อนขึ้นมาอีก
“อีนังนี่ไป ช่างหัวมัน เป็นไร…”
แต่ความคิดเขายังไม่ผ่านชั่วโมง นางเจียมเองก็ยังเสียน้ำตาไม่มาก….ทั้งหยดสุดท้ายก็ยังคาอยู่ที่อก ผลุบผลับ ป๋องกับอี๊ดก็ก้าวเข้ามาในบ้าน บอกแม่ด้วยเสียงเฉียบขาด
“แม่ฉันมาลา….”
นางเจียมตะโกนเหมือนคนฝันร้าย
“พวกแกจะไปไหน”
” ไปกับพี่แอ๋ว”
นางเจียมสบถด่า
“อีลูกดอกทอง ลูกอีช้างลากเย็ด จะไปก็ไม่ไปแต่ตัว เสือกหลอกน้องไปอีก….โฮ ๆ ….”
เพื่อนร่วมถิ่นสลัมในวงเหล้านางเจียมต่างพากันทะยอยลา กลับบ้านซ้ำเข้าไปอีก
นางเจียมเกลือกกลิ้งกับพื้นเหมือนเด็ก ๆ
ผัวใหม่ของนางคนเดียว ที่นั่งตัวแข็งเหมือนจอมปลวก ขยับแต่เหล้าเทใส่ปาก
เก็บของเสร็จ ป๋องก็ออกจากห้องพร้อมพี่สาวคนรอง ด้วยความเป็นเด็กค่อนข้างแก่น และมีแววกล้าแบบคนฉลาดอยู่ เด็กชายแสร้งพูดกับพ่อเลี้ยงคนล่าสุด
“ฝากแม่ด้วยนะน้า…..”
ชายผิวดำเป็นเหมี่ยงตอบเสียงหนัก
“ฝากกี่วันวะ”
เนื้อดีรู้ทันในคำถามนั้น เธอทนไม่ได้ที่จะไม่พูดสักประโยกหนึ่งขึ้นมา
“วันเดียวก็ดีแล้วหละ”
นางเจียมผลุดลุกขึ้นยืนเท้าสะเอวเหมือนคนบ้า แผดเสียงตะโกน
“ไป พวกมึงจะไปไหนก็ไป กูจะเย็ดกับผัวใหม่ดับอารมณ์กลุ้ม กูจะเย็ด เย็ด ๆ ๆ ๆ กูจะเย็ดกันจนกว่าจะมีลูกขึ้นมาอีก แล้วกูจะเลี้ยงมันให้โตขึ้นมาเนรคุณกู ทิ้งกูไป ไปเสียให้เร็ว ลูกอีผีจับยัดมาเข้าหีกู….”
เนื้อดีกับน้องชายเกี่ยวกันเดินเฉียดแม่หน้าตาย หุบปาก
เสียงระฆังที่ปากซอยดังกังวานบอกเวลาเพียงสี่ทุ่มเท่านั้น
คล้อยหลังใครต่อใคร… ..จนเหลือเพียงสองต่อสอง บุรุษผิวดำเป็นเหนี่ยงก็ตระกองก้มอุ้มนางเจียมเข้าไปในห้องนอน กระซิบเบา ๆ
“เสียใจไปทำไมน่ะ”
“คราย ครายบอกว่าคนอย่างนางเจียมเสียใจ คนอย่างอีเจียมไม่รู้จักกับคำว่าเสียใจ”
“งั้นทำตัวเป็นเด็กทำไม”
“ฮ่ะ…ฮ่ะ…” นางเจียมหัวเราะเหมือนคนบ้า
“เบาน่า….” ผัวใหม่ติง
“เบาแบวอะไรกัน มันไปกันหมดแล้วหรือ”
“เออ….”
“มะ…มะ….เรามาเย็ดกัน สร้างลูกขึ้นมาใหม่”
เขาหัวเราะแค่น ๆ แต่ควยก็แข็งโด่ขึ้นมาง่าย ๆ
นางเจียมเอื้อมมือคว้า หัวเราะอย่างสบอารมณ์ขึ้นใหม่
” ให้มันได้อย่างนี้ซีน่า พูดเรื่องเย็ดปุ้บควยต้องแข็งปั้บ”
“ชอบหรือ”
“ใครวะไม่ชอบควย”
“เอ้าแก้ผ้า” เขาสั่ง
“ก็ได้….” นางเจียมลากเสียง รั้งผัวใหม่ลงกอดกลิ้งบนเตียงหักที่ยังไม่จัดระเบียบใหม่
แต่ชายผิวดำดึงนางเจียมลงกลิ้งกับพื้นไม้ ทั้งสองเปลือย กอดกันครู่หนึ่งควยก็เข้าไปในหี
นางเจียมสูดปาก
“อูย…ควยใหญ่ถูกใจจริง ๆ ”
เขาไม่พูด แต่กระเด้าด้วยท่าแบกสองขาพาดบ่า
“เบาไป” นางเจียมเตือน
ชายตบก้นลงแรงกว่าเดิม
เสียงควยกับหีฟาดกันดังผับ ๆ ๆ
นางเจียมซี๊ด และร่อนก้นรุนแรง
แล้วผัวใหม่ของนางก็ถึงขีดหลั่งอสุจิ แต่นางเจียมเพียงแต่กำลังจะถึงจุดใกล้ๆ จะสุดยอดเท่านั้น
และนั้นฤทธิ์สุรา ทำให้นางครางอย่างรู้สึกผิดหวัง
“ทำใหม่เร็วเหมือนเป็ด”
“ยังไม่ถึงใจหรือ” ชายถาม
นางเจียมตอบเสียงขม
“ใช่สิ กำลังมัน เอาต่อได้มั้ย”
“หมดแรงจริง ๆ แหมกลางวันก็สองแล้วนะ”
“แต่คืนนี้ฉันขอสาม” นางบอกห้วน ๆ ผัวใหม่หัวเราะ
“สามก็ไม่ต้องเย็ดด้วยควยแล้วซี่”
“อะไรก็ได้ที่แกจะทำให้หีฉันหายคัน”
นิ่งกันครู่หนึ่ง ระฆังที่ปากซอยดังขึ้นอีก สองยามแล้ว
ผัวใหม่นางเจียมทนถูกเซ้าซี้ไม่ไหว เขาจึงคิดหาสิ่งมาทิ่มหีผู้ร่านจนสั่น
แล้วเขาก็คิดขึ้นได้ถึงขวดเหล้าเปล่าๆ
มันเป็นกรรมวิธีใหม่ที่นางเจียมไม่คิดว่าจะพบและจะเจอ แต่มันทั้งเจอและพบเมื่อผัวใหม่จุดไม้ขีดไฟทิ้งลงไปในขวดเปล่า ก่อนไฟมอดดับ เขาก็ยัดปากขวดเข้าไปในหีนาง กระฉอกดึงเข้าออกเหมือนควย
นางเจียมครางไม่ส่ำ
“อูย….มัน….มัน”
ก็จะไม่มันได้อย่างไรได้เล่า ในเมื่อหีถูกควยขวดผลุบเข้าออก และควยขวดนั้นอีก ที่มีสภาพสามารถดูดลมในหี และสามารถเป่าลมในหีได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังสามารถซับน้ำเงี่ยนที่ไหลนองอยู่ ให้เข้าไปในขวดได้อย่างไม่ยากนัก ดึงเข้าดึงออก หีก็เริ่มแห้ง พอแห้งก็เริ่มเจ็บ และแสบ แต่นางยังเสียวอยู่ ผัวใหม่ก็ยังไม่เมื่อยแขน
แล้วเสียงใหม่ก็ดังควบกับเสียงซี๊ด….เจ็บ…
“ซี๊ด….”
“อูย….เบาหน่อย”
ผัวใหม่หยุดขวด เมื่อเห็นเลือดไหลออกมาเปรอะมือ เขาหัวเราะเหมือนคนบ้าและเผลอละเมอไปว่าหีนั้นใหม่ และเลือดนั้นคือเลือดสาวพรหมจารีย์คิดได้เช่นนั้น ควยเขาก็แข็งขึ้นมาอีก เขาเหวี่ยงขวดทิ้ง ยัดควยพรวดเข้าไปในหี นางเจียมหัวเราะ และผวากอด
“เออ ควยจริงอย่างนี้สิมัน” นางจับเขานอนหงาย แล้วขึ้นขี่
ชายว่า
“ดีเหมือนกัน ฉันนอนให้สบายควย”
” ไม่ซี่….” นางเจียมว่า “แกต้องร่อนควยด้วย”
ขณะพูด นางไม่ยอมหยุดกิริยากระเด้า ทั้งหีตัวเองร้อนฉ่าแล้ว
และก่อนจุดสุดยอดของนางมาถึง ชายผู้หนึ่งก็เซซังก้าวเข้ามาทางประตูที่ไม่ได้ปิด
เสียงชายผู้นั้นขาดเป็นห้วง
“เจียม….เจียม….”
นางเงียบ เพราะกำลังเข้าไคลแม็กซ์แต่ชายผู้เป็นผัวใหม่ตะโกนถาม
“ใครวะ”
นางเจียมหลั่งน้ำเงี่ยนนิ่ง ฟังเสียงตอบจากปากชายลึกลับ
“เจียม เจียมอยู่มั้ย….” นางหันไปมองผู้ที่ยังยืนตรงขอบประตูอยู่ แม้แสงไฟจะสาดมาจากนอกห้อง แต่ความคุ้นเคยกันมาก่อน ทำให้นางเจียมจำได้ทันทีว่า ผู้ที่มาคือใคร นางแผดเสียง
“ไอ้ทอง”
“เออ…ฉัน ฉันเอง ฉันถูกแทง”
กล่าวจบเขาก็ล้มฟุบคาประตู
นางเจียมหวีดร้องอย่างตกใจ ดิ้นหีหลุดจากควย พร้อมกับตัวเองผุดลุก
ทั้งนางและผัวใหม่ก้มมองผู้แน่นิ่ง เห็นเลือดโทรมกายเขาแดงฉาน
ชายผิวเหนี่ยงถาม
“ใครหรือ”
นางเจียมเดินไปคว้าผ้าถุงมานุ่งกระโจมอก กล่าวเสียงเครือ
“ผัวเก่าฉันเอง”
“แล้วทำยังไงล่ะ” ผัวใหม่ถาม
นางเจียมไม่รีรอคำตอบ เพราะในสำนึกของความเป็นคนไทยแท้ แม้จะมีความชิงชังซ่อนอยู่ภายใน แต่ถึงคราวที่ฝ่ายหนึ่งอับจน มันอดไม่ได้ที่จะแสดงความเป็นชาวพุทธออกมา
“ช่วยเขาหน่อย”
“งั้นไปแจ้งความ แล้วส่งโรงพยาบาล”
นางเจียมอึ้ง สมองสับสน นึกถึงภูมิหลังของนายทอง อดีตผัวสามปี
นายทองเคยเป็นโจรมาก่อน หนีคดีมาเช่นเดียวกับไอ้ผัวใหม่ เลือดอาบแบบนี้ อาจจะหนีไม่พ้นเขาคงไปทำอะไรสักอย่างหนึ่งมา….โดยเฉพาะสิ่งที่ทำนั้น เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย
“ไม่เมาะ ไม่เมาะ” เสียงนางเจียมพึมพำ
ผัวใหม่ว่า
“ทำไม”
“เขาเหมือนแกน่ะแหละ หนีคดี”
เท่านั้นเองโจรก็รู้เหลี่ยมโจร ผัวใหม่นางเจียมก้มลงจับชีพจรคนเจ็บ สายตาสำรวจบาดแผล
สามแผลคือรอยถูกแทงด้านหลัง หนึ่งแผลเป็นทางยาวพาดหัว จากกกหูถึงท้ายทอย สำนึกนักเลงบอกทันทีว่า หมอนี่ถูกรุมด้านหลังด้วยมีดสองชนิด
เขาพูดเสียงปกติ
“ไปหาทิงเจอร์มา มีมั้ย”
นางเจียมเปิดไฟทุกดวงในบ้าน หาไม่พบสิ่งที่ต้องการ
เขาบอกขึ้นใหม่
เหล้าพอมีเหลืออยู่เกือบครึ่งขวด ชายผิวดำเทราดใส่แผลเหล่านั้น
นายทองไม่ขยับ ทั้งที่แผลสดๆ เต้นยิบ ๆ แล้วเขาก็บอกเมียบังเอิญ
“รอเดี๋ยวนะ กลับไปบ้านพี่ชายฉันก่อน”
“จะทิ้งฉันไปไหน” นางเจียมกล่าวรวดเร็ว
“ใจเย็นน่า ฉันไม่ทิ้งแกหร็อก แต่จะไปเอายาพื้นบ้านจากสุรินทร์มาโป๊ะแผลไอ้หมอนี่” แล้วเขาก็รีบผลุนผลันจากไป
ว้นกับคืนที่นายทองหลับเพราะมีดสองแบบ
ก่อนไก่ขันในวันใหม่ เขาก็ครางอู้อี้
“น้ำ…ขอน้ำหน่อย”
นางเจียมงัวเงียลุก กล่าวเสียงโลดเริง “ฟื้น..ฟื้นแล้วหรือ”
หลังดื่มน้ำเข้าไปเล็กน้อย เขาก็รู้สึกมีพลังลืมตาดูหน้าอดีตเมีย สำนึกเก่า ๆ บอกให้เขาชิงพูด
“เรื่องเก่า ๆ ฉัน…ฉันขออภัย”
นางเจียมตอบแบบนักเลง
“อย่าเพิ่งพูดอะไรน่ะ” แต่ครู่เดียวเท่านั้น นางก็ถามขึ้นว่า “เออแล้วอีนงค์ล่ะ”
นายทองหลับตานิ่งครู่หนึ่งก่อนตอบ
“มัน มันหนีฉันตามเด็กลูกน้องฉันไป”
“ที่ไหน” นางเจียมเป็นห่วงลูกคนเล็กขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“ที่คลองตัน ฉัน ฉันตาม…”
“ไปพบมันหรือ”
“ฮื่อ…”
“เมื่อไหร่”
“ก็…ที่ฉันถูกแทงมานี่ ก็เพราะอีนงค์ !” ในที่สุดนายทองก็บอกออกมา
“ฉันไม่เข้าใจ แกถูกแทงเรื่องอะไรวะ”
ผัวใหม่ตื่นขึ้นมาฟังเรื่องราว แต่ยังนอนนิ่งอยู่บนฟูก
นายทองรวบเรื่องเล่าสั้น ๆ จับความได้เพียงว่า เด็กหญิงอนงค์เมื่อตกเป็นของเขาแล้ว เขาก็เลี้ยงดูเธอเบ็นเมียอย่างหลงใหล ต่อมาเขารับเด็กพเนจรคนหนึ่ง มาร่วมแก๊งค์กรีดกระเป๋าและดักจี้คนตามซอกซอย ไม่กี่วัน…ไอ้เด็กคนนั้นและเด็กหญิงอนงค์ก็แล่นหนีตามกัน ความแค้นทำให้เขาตามไปติด ๆ ทันกัน เพราะรู้กันอยู่ โดยมีเพื่อนของไอ้เด็กเนรคุณเขาคนนั้นบอกทาง แต่เมื่อเผชิญหน้ากัน การต่อสู้ด้วยหมัดลุ่นๆ เริ่มขึ้นก่อน เขากำลังจะพิชิตมันได้อยู่มือ แต่ผู้ที่แทงคือเด็กหญิงอนงค์ เธอจ้วงแทงเขาทีเดียวติดกันสามแผล
“แล้วแผลที่หัวแกล่ะ” นางเจียมถาม
“ก็…ไอ้เด็กคนนั้นล่ะ ลุกขึ้นมาฟัน มันกะเอาให้ฉันตาย” เสียงนายทองผสมแค้น
“ทำไมไม่ตายวะ ถูกฟันถูกแทงที่คลองตัน หน็อยดันมาโผล่ดินแดง”
“ฉัน…ฉันหนีมากับแท็กซี่”
ทั้งสองนิ่ง
ฟ้าเริ่มสว่าง
นางเจียมกอดเข่าอยู่พักหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นว่า
“ไอ้ทอง! รู้มั้ย? กูมีผัวใหม่แล้ว”
“ใครล่ะ” เขาถาม
“คนที่เขาช่วยมึงกับกู นอนยังไม่ตื่น”
นางเจียมบอก
“ตื่นแล้ว” เสียงผัวใหม่บอกมา พร้อมกับเขาลุกนั่งควานหาบุหรี่จุดสูบ
นายทองหลับตานิ่ง
นางเจียมเดินไประริกกับผัวใหม่
“จะล้างหน้าไก่เหมือนทุกวันมั้ย”
“ไม่อายผัวเก่าแกหรือ” ผัวใหม่ถามปนหัวเราะ
นางเจียมหัวเราะบ้าง และเกิดความคิดพิเรนทร์ หันไปตะโกนพูดกับผัวเก่า
“ทองวะ อย่าโกรธกูเลยนะ จะให้ผัวใหม่มันล้างหน้าไก่หน่อย”
ไม่มีเสียงตอบจากนายทอง แต่การที่เมียเก่าเย็ดกับผัวใหม่ ให้ ได้ยินเสียง แม้จะเจ็บปวดเพราะพิษบาดแผลอยู่ พลังหนึ่งก็เกิดขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว มันผสานผสมกับความเคียดและแค้น และนึกอยากเย็ดติดหมัดขึ้นมาบ้าง
นางเจียมกับผัวใหม่เอง ก็เย็ดกันได้รสล้างหน้าไก่พิเศษกว่าทุกวัน
นางเจียมนั้น มีความรู้สึกได้ทำอะไรสักอย่างลงไปในขณะความต้องการนั้น รู้สึกนางสะใจ และสุขใจจนน้ำเงี่ยนพรูอีก ทำให้ผัวใหม่พลอยมันเพิ่มขึ้นจากความรู้สึกที่เป็นเหมือนผู้ชนะ ว่าตนได้เย็ดเมียคนอื่นต่อหน้า
ปกติแล้วเช้าเช่นนี้ เขาและนางมักจะเย็ดกันเพียงทีเดียว แต่วันนี้ เช้านี้ สองเขาเย็ดกันติดต่อกันถึงสามครั้งซ้อน
“โอ้ย….จะทรมานกูหรือนี่”
ผัวใหม่นางเจียมตอบ
“อยากเย็ดหรือเพื่อน”
นางเจียมหันไปมองหว่างหน้าท้องคนเจ็บ นางแปลกใจมาก ที่เห็นกางเกงนายทองตุงขึ้นมา นางจึงถาม
“อะไรวะ มึงเพิ่งฟื้น ควยแข็งด้วยหรือนี่”
ผัวใหม่นางมอง หัวเราะ และว่า
“ยากันเด็ดไหมเพื่อน แกฟื้นปุ้บมีกำลังปั้บ เออ พอจะเย็ดไหวไหม ถ้าอยาก”
นายทองกัดกรามกรอด
นางเจียมลุกไปปลดดุมกางเกงผัวเก่าออก หันหน้ามาทางผัวใหม่ถาม
“จะโกรธฉันไหม หากฉันจะเอาหีถูน้ำออกจากควยไอ้นี่สักที”
ผัวใหม่หัวเราะ
“โอ้ย…ตามสบาย เอ้า. .เอาดี….กูจะได้มอง”
นางเจียมถ่างขาเอาหีครอบควยคนเจ็บ
นายทองนอนกัดฟันนิ่งด้วยความรู้สึกแค้นสะใจตนเอง และบอกไม่ถูก
ผัวใหม่เตือนขึ้นว่า
“ยังไงแกอย่าทำให้ร่างเขาสั่นมากแล้วกัน เดี๋ยวแผลฉีก”
“สบาย…” นางเจียมว่า พร้อมกับดึงหีขึ้นลงช้า ปากก็ว่า “อือม์ ควยคนเจ็บห่าอะไรวะ แข็งเหมือนไม้”
ทำไปได้สักอึดใจหนึ่ง นางเจียมก็เริ่มเสียวเร็วขึ้น
นายทองเองก็มันจนต้องยกสะโพกร่อน
ผัวใหม่นั่งดู และหัวเราะ และว่า
“เอาละซี… ..กูชักอยากอีกแล้วซี”
นางเจียมหันไปทางผัวใหม่
“ควยแข็งแล้วยังล่ะ”
“เออว่ะ” เขาตอบ
นางเจียมทำท่าจะดึงหีออกจากควย แต่เสียงนายทองดังขึ้นแผ่วๆ ว่า
“ช่วยทำให้น้ำเงี่ยนกูออกก่อนเถอะ”
หนึ่งเดือนผ่านไป ไวเหมือนโลกหมุนด้วยเครื่องจักร นายทองแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังอยู่ร่วมบ้านกับนางเจียมและนายชัยอยู่ ในระยะนี้เอง ผู้ที่เป็นหญิงกำลังตกเป็นอาหารปากชิ้นสำคัญของชาวสลัมดินแดง
เมื่อตะวันต่ำดวงจะลับโลกอยู่รอมร่อ ไอ้หนุ่มนักเที่ยวบันลือในถิ่นสลัม ก็เขยกมาจากปากซอย….เพื่อนคนหนึ่งเห็นเข้าก็เรียกมาร่วมโต๊ะ แล้วถาม
“ไปไหนมาวะ ชาติชายชุณหาแมลงวัน”
“ห่า วันนี้กูเจอลูกนางเจียมผัวสอง” หนุ่มคนนั้นพูดเสียงปกติ
“คนเล็ก คนโต หรือคนรอง” หลายคนถาม
ร้านเจ็กดอมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีอาหารปากชิ้นใหม่
“เห็นอีแอ๋วกับอีอี๊ด” หนุ่มคนนั้นกล่าวจบ ก็หันไปตะโกนสั่งโอเลี้ยงมากลั้วคอ
“ที่ไหนวะ” ไอ้หวังลูกกรรมกรช่างไม้ ซึ่งหลงรักพิไลอยู่ถามร้อนรน
หนุ่มนักเที่ยวผู้ร่ำลือแห่งย่านสลัม พูดเหมือนหน่ายในหัวใจ
“อือม์ ไอ้กูล่ะให้สงสัยเหลือเกินวะ ทำไมเด็กจากชนบทไกล ๆ ไม่ก็ลูกคนยากคนจน หรือรวมทั้งไอ้พวกเชื้อสลัมอย่างเรา ทำไมมันชอบไปเป็นกะหรี่ขายหีกันนัก”
หนุ่มผู้หลงรักพิไลถามอย่างลังเล
“หมายความว่า มึงเห็นอีแอ๋วกับอีอี๊ดในซ่องกะหรี่”
“เออว่ะ” หนุ่มผู้นั้นตอบห้วนและเร็ว เหมือนเสียงหินหล่นจากฟ้าลงไปในน้ำ