ครั้งแรกก็ผิดห้องซะแล้ว, แปลโดย Iczy

ครั้งแรกก็ผิดห้องซะแล้ว, แปลโดย Iczy
แปลจาก First Time, Wrong Room! โดย East_Kaioshin
แปลและเรียบเรียงโดย Iczy

ฤดูร้อนกำลังใกล้เข้ามาทุกที ผมเองก็ใกล้จบมัธยมเข้าไปทุกทีเหมือนกัน
ผมชื่อแซ็ค อายุอานามเพิ่งจะครบ 18 ปีบริบูรณ์เมื่อสองสามเดือนก่อนนี้เองครับ
สารภาพอย่างไม่อายว่าผมยังไม่เคยมีประสบการณ์เสียวกับเขา
ผมมีแฟนที่คบกันมาสามปีอยู่คนนึง แต่พับผ่าซิเธอไม่ยอมมีอะไรกับผม ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
หล่อนพูดแต่เพียงว่าเธอยังไม่พร้อม ผมก็เลยต้องวางแผนกันหน่อย กะว่าจะพาหล่อนไปเปลี่ยนบรรยากาศให้มันโรแมนติคขึ้นอีกหน่อย
พ่อแม่ผมมีบ้านพักผ่อนอยู่ริมทะเลสาปเล็ก ๆ ตอนเด็ก ๆ ในช่วงฤดูร้อน ผมกับพี่สาวตัวแสบไปพักที่นั่นบ่อย ๆ
ผมกะการณ์ทุกอย่างสำหรับวันสุดสัปดาห์นี้ไว้เป็นที่เรียบร้อย ผมนัดเธอมาที่บ้านผมในวันรุ่งขึ้นเพื่อจะชวนเธอไปพักที่นั่น
“ไปน่านะ แอชลี่” ผมอ้อน
“ไม่รู้ซิ แซ็ค เสาร์อาทิตย์นี้จะมีธุระรึเปล่าก็ไม่รู้” เธอตอบ
“โธ่ โรงเรียนรึก็ปิดแล้วคุณยังจะมีธุระอะไรอีก มีเวลาว่างทั้งทีน่าจะไปเที่ยวรับอากาศบริสุทธิ์บ้าง” ผมเว้าวอนเต็มที่ มองตาเธอก็รู้ว่าเธอกำลังคิดหนัก

จังหวะนั้นเองที่พี่สาวผมโผล่เข้ามา เธอชื่อลิซ่าครับ อายุ 19 ปี กำลังจะเข้ามหา’ลัยในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้
ไอ้พวกเพื่อน ๆ ผมมันชอบกระเซ้าผมว่ามีพี่สาวสวยหยาดเยิ้ม
เธอไว้ผมสีแดงยาวถึงเอว ดวงตาสีเขียวมรกตและริมฝีปากสีแดงสด
ที่สามารถบันดาลให้ผู้ชายทั้งหลาย (ยกเว้นผม) อ่อนระทวยเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ

ดูสีหน้าก็รู้ว่าเธอแอบฟังผมคุยอยู่
“ขอไปด้วยได้ป่ะ ไม่มีอะไรทำวันหยุด อยากไปยิงนกตกปลาบ้าง” พี่สาวผมพูด
ผมกำลังจะบอกปฏิเสธว่าผมกะจะไปกับแอชลี่สองต่อสอง แต่ไม่ทันได้พูด
แอชลี่ก็ทำท่าดีอกดีใจแล้วบอกพี่สาวผมว่า ก็ดีน่ะสิ เธอจะได้มีเพื่อน
จากนั้นแอชลี่ก็หันมาจูบผมแล้วบอกว่า เธอต้องรีบกลับบ้านแล้วล่ะไม่งั้นจะดึก
ผมจูบลาเธอ แล้วบอกว่าผมจะไปรับเธอที่บ้านตอนห้าโมงเย็นวันศุกร์

หลังแอชลี่เดินออกไปแล้ว ผมเพิ่งเห็นว่าพี่สาวผมยังยืนอยู่ที่เดิม ผมเลยหันไปเหน็บเธอ
“ขอบคุณมากเลยนะที่เข้ามาเป็นกขค” แล้วกระโดดขึ้นยืน
“อ้าว ทำไมพูดยังงั้นล่ะ” นี่พี่สาวผมเธอยังไม่รู้ตัวเองว่าทำอะไรลงไป
“ก็ผมกะจะไปกะเธอสองคน แต่พี่ต้องเข้ามาสอด ทำให้เสียเรื่องจนได้” ผมตอบอย่างมีอารมณ์
“น้อย ๆ หน่อย นี่นายยังฝันว่าเธอจะยอมนายยังงั้นเหรอ คบกันมาตั้งสามปีแล้วเธอยังยอมให้แค่ลูบ ๆ คลำ ๆ แล้วมีเหตุผลอะไรที่เธอจะยอมขึ้นเตียงกะนายเอาตอนนี้ เธอน่ะแค่คบนายเล่น ๆ เท่านั้นแหละ ยังโง่งมงายอยู่อีก” เธอตอบแล้วเดินมาจ้องตาผม ผมก็จ้องตอบอยู่พักนึงแล้วก็หันขวับเดินกลับไปห้องผมเอง

วันศุกร์….
ผมรีบกลับมาบ้าน ยัดเสื้อผ้าเท่าที่คว้าได้ลงกระเป๋าเดินทาง แล้วก็ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ
หลังแต่งตัวเสร็จ ผมก็เดินลงไปที่ห้องพี่สาวผมแล้วเคาะประตู
“เข้ามาเลย” ผมได้ยินเธอขานรับ ผมก็เลยเดินเข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้ข้างประตู
พี่สาวผมยังหวีผมอยู่ที่เตียง เราสองคนนั่งเงียบไม่คุยกันพักใหญ่ ผมเป็นคนทำลายความเงียบงันก่อน

“พี่ ผมขอโทษเรื่องเมื่อคืน ผมแคร์แอชลี่มากแล้วผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึง เอ่อ” ผมพูด
เธอวางหวีลงแล้วหันมาหาผม
“พี่ก็พูดแรงเกินไปเหมือนกัน ถ้าคำพูดของพี่เมื่อคืนทำให้เธอเสียใจ พี่ขอโทษ” เธอตอบ

เราสองคนนั่งหยอกล้อกันฉันพี่สาวน้องชายต่ออีกพักนึงจนใกล้ ๆ ห้าโมงเย็น
ผมกับพี่สาวก็ลงไปที่รถแล้วขับตรงไปบ้านแอชลี่
สรุปสุดท้ายเราก็ไปถึงบ้านพักตอนใกล้จะหกโมงครึ่ง

ใกล้มืดเต็มทีผมเลยบอกสองสาวว่าผมจะไปหาฟืนมาในขณะที่พวกเธอขนย้ายข้าวของออกจากกระเป๋าเดินทาง
ระหว่างนั้นผมก็คิดอยู่ในใจ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ ผมเริ่มวางแผน
ผมจะดอดเข้าห้องเธอคืนนี้ แล้วจะพยายามงาบเธอให้ได้ โอ้ พระเจ้า! ผมตื่นเต้นมาก

ผมรีบเก็บฟืนและเมื่อกลับถึงบ้านพักมันก็มืดไปเรียบร้อยแล้ว
พี่สาวผมกำลังทำอาหารเย็นอยู่ ผมรีบยัดท่อนฟืนที่หามาได้เข้าไปในเตาผิงแล้วจุดไฟเพราะอีกสักพักอากาศจะหนาวมาก
ขณะที่ผมยืนอุ่นมือตัวเองอยู่ พี่สาวผมก็เดินมายืนข้าง ๆ ผมพร้อมกับขวดวิสกี้ในมือ

“พี่ไปเจอมันที่ไหนล่ะนั่น” ผมถาม
“ใต้เคาน์เตอร์หลังกองข้าวโพดกระป๋องทางโน้น” เธอตอบแล้วนั่งลง ยื่นขวดให้ผม
“สักอึกสิ ครั้งแรกจะรู้สึกรสชาติมันแย่ แต่พอกินต่อไปก็จะชอบมันไปเอง” เธอพูดไปตาก็จ้องกองไฟไป
ผมเปิดขวดแล้วยกขึ้นดื่ม โอย เธอพูดถูกแฮะ ผมหลับตาปี๋ รู้สึกคลื่นไส้อยากอ้วก
ผมเลยกระโจนลุกขึ้นแล้วจ้ำอ้าวไปที่อ่างล้างหน้า เอียงหน้ากรอกน้ำจากก๊อกเข้าปาก
ระหว่างนั้นผมได้ยินเสียงพี่สาวผมหัวร่องอหาย แหมสนุกจังนะ
ในที่สุดผมก็เดินกลับมานั่งลงที่เดิม ให้ตายสิ เธอยังหัวเราะไม่หยุด

“เฮ้ แซ็ค ฉันจะเข้านอนแล้วนะ วันนี้เหนื่อยจังเลย” เสียงแอชลี่ดังมาจากข้างหลังผม
ผมหันไปมองเธอแล้วหัวใจแทบหยุดเต้นเลยครับ ก็เธอเล่นใส่แต่เสื้อทีเชิร์ตขนาดใหญ่เกินตัวกับกางเกงนอน
ผมมองตามเธอไปจนลับสายตา ได้ยินเสียงเดินไปตามทางเดินแล้วก็เสียงเปิด-ปิดประตูตามมา

ผมถูกทิ้งให้อยู่กับพี่สาวตัวแสบที่ยังไม่หยุดหัวเราะหรือนี่ ผมหันไปแหวใส่เธอ
“ถ้าคิดว่าสนุกนัก ทำไมไม่ลองกินมั่งล่ะ” ได้ผลครับ เธอหยุดหัวเราะแล้วหันมามองผม
“ก็น่าสนอยู่นะ แต่ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แค่อยากเห็นสีหน้านายตอนดื่มเท่านั้นแหละ” เธอตอบ
ผมตีหน้ายักษ์ใส่เธอ ยิ่งกลับทำให้เธอหัวเราะขึ้นมาอีก
“เอาล่ะ ฉันไปนอนบ้างล่ะ แล้วเจอกันตอนเช้า กู๊ดไนท์”
เธอพูดพร้อมลุกขึ้นยืน ผมนั่งนิ่งอยู่ข้างกองไฟ ได้ยินเสียงเธอเดินไปตามทางเดินแล้วมีเสียงเปิด-ปิดประตู

ผมนั่งอยู่ตรงนั้นราวครึ่งชั่วโมง แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปตามทางเดินบ้าง
ผมจำได้ว่าแอชลี่บอกว่าเธอจะอยู่ห้องด้านซ้ายส่วนพี่สาวผมอยู่ห้องฝั่งตรงข้าม
ผมเดินไปที่หน้าห้องนอนแอชลี่ ค่อย ๆ หมุนลูกบิดแล้วเปิดประตูแทรกตัวเข้าไป
จากนั้นก็ปิดประตูอย่างรวดเร็ว

ผมรีบถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงในก่อนจะเดินไปที่เตียง ข้างในห้องมืดสนิท
ผมรออยู่พักหนึ่งจนสายตาเริ่มปรับเข้ากับความมืดและมองเห็นร่างเธอตะคุ่ม ๆ อยู่บนเตียง
ผมโน้มตัวลงไปจูบเธอ เธอสะดุ้งตกใจและพยายามจะยันตัวลุกขึ้น
ผมแตะนิ้วกับริมฝีปากเธอแล้วกระซิบบอกให้เงียบไว้ ไม่อยากให้พี่สาวที่อยู่ห้องตรงข้ามตื่น

เธอเอนตัวกลับลงไปและไม่ส่งเสียงอะไรอีก ผมบอกเธอว่าขอผมสักครั้งคืนนี้เถอะ
หลังจากคืนนี้ถ้าเธอไม่อยากจะยุ่งกับผมอีก ผมก็ยอมทุกอย่าง ผมยังบอกเธออีกว่า
ที่ผ่านมาเธอทำเหมือนไม่อยากมีผมร่วมอยู่ในชีวิตเธอ แต่ขอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อน ขอผมนะ

ผมอ้อนวอนเธอในขณะที่กำลังก้มตัวลงไปจูบเธอ ผมเห็นเธอพยักหน้าในความมืด
ผมเลยโน้มตัวลงไปจูบเธอนิ่งนาน แปลกแฮะ รู้สึกริมฝีปากเธอหนาอวบอิ่มกว่าแต่ก่อน
แต่ช่างเถอะ ผมสลัดความสงสัยออกไปจากสมองแล้วเริ่มจูบไล่ต่ำลงมา

ว้าว นี่เธอคงจะต้องถอดเจ้าเสื้อทีเชิ้ร์ตกับกางเกงนอนออกไปก่อนหน้านี้แน่ ๆ
เพราะเหลือแต่อันเดอร์แวร์บาง ๆ อยู่บนตัว ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่า
เธออาจจะรู้ว่าผมต้องการอะไรแล้วก็เห็นด้วยว่าคงถึงเวลาแล้วที่เราจะได้มีความสุขด้วยกันเสียทีในคืนนี้
ผมยิ้มออกมาและรู้สึกตื่นเต้นมาก ผมจูบต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนถึงอันเดอร์แวร์
แล้วใช้มือทั้งสองข้างรูดมันลงมาตามขาอันเรียวยาวจนมันหลุดออกจากตัวเธอ

ผมไล่จูบกลับขึ้นไปตามขาเธอจนถึงเนินสวาท ขาเธอดูเพรียวกว่าที่ผมเคยได้เห็นก่อนหน้านี้แฮะ
เมื่อถึงโคกสวาท ผมก็หยุดแล้วลดหัวลงต่ำใช้ลิ้นเล่นกับปุ่มกระสันต์ของเธอ
ผมได้ยินเธอครางเสียงดัง ก็เลยหยุดลิ้นแล้วเงยหน้ากระซิบบอกเธอว่า เสียวขนาดไหนก็อย่าส่งเสียงดังนะ เดี๋ยวพี่สาวผมตื่น

ผมเห็นเธอพยักหน้าในความมืด ผมก็เลยขบปุ่มกระสันต์เธอต่อ
ผมเลื่อนมือขึ้นไปแล้วค่อย ๆ เอานิ้วแยงเข้าไปในรูสวาทที่ชุ่มแฉะของเธอ
ผมหยุดดูดดุนเม็ดละมุดและถอนนิ้วออกมา ใช้มือแบะแคมเธอออกแล้วแทงลิ้นลงไปแทน
ผมเริ่มกวาดลิ้นไปรอบ ๆ สัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำ และได้ยินเสียงเธอครางกระเส่าด้วยความซ่านเสียว

ผมหยุดเลียและกลับไปดูดดุนปุ่มเสียวเธอใหม่ ผมสอดนิ้วกลับเข้าไปแล้วชักเข้าชักออกหลืบสวาทของเธอ
สะโพกเธอเริ่มเด้งสู้นิ้วผมตอนที่แทงลึกลงไปพร้อม ๆ กับดูดเม็ดละมุดไปด้วย
ผมได้ยินเธอครวญครางแล้วแน่นิ่งไป จากนั้นก็รู้สึกว่าเธอสั่นกระตุกไปทั้งตัวเมื่อน้ำเธอแตกทะลักคามือผม
ผมดึงนิ้วออกมาแล้วก้มลงไปเลียน้ำรักของเธอ จนเธอถึงสวรรค์อีกครั้งด้วยลิ้นของผม

ผมถอนศีรษะออก น้ำรักเธอเปื้อนหน้าผมเต็มไปหมด ผมลงไปยืนข้างเตียง รูดกางเกงในตัวเองออก
เจ้าท่อนเนื้อขนาด 7 นิ้วของผมแข็งโป๊กและเต้นตุบ ๆ ผมเลื่อนตัวไปทาบทับตัวเธอแล้วจับหัวเจ้าน้องน้อยของผมจ่อเข้ากับปากช่องสวาทเธอ
ผมโน้มตัวลงไปจูบเธออย่างดูดดื่ม แปลกแฮะ แม้แต่รสจูบก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน

ผมเลื่อนหน้าต่ำลงไปใกล้หูเธอแล้วกระซิบว่า ขอผมนะ เธอพยักหน้าอนุญาต
ผมก็เลยสอดใส่แท่งแห่งความเป็นชายของผมเข้าไปในตัวเธอช้า ๆ
ผมหยุดกึกเมื่อส่วนหัวของดุ้นเนื้อผมสัมผัสกับเยื่อพรหมจารีของเธอ
ผมเชื่อมาตลอดว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์และตอนนี้ผมได้พิสูจน์แล้ว
ผมก้มหน้าลงไปหาเธออีกครั้งแล้วกระซิบข้างหูเธอ แน่ใจนะ
เธอพยักหน้าอีกครั้ง ผมเลยดันท่อนเอ็นอย่างแรงจนมันทะลวงผ่านเยื่อพรหมจารีของเธอเข้าไป
ผมรู้สึกเธอกัดไหล่ผมแล้วร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตัวเธอสั่นเทา

ผมก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บเหมือนกันตอนที่เธอกัดไหล่ผม ผมหลับตาแน่นพยายามไม่สนใจความเจ็บนั้น
หลังจากนั้นนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เธอก็ปล่อยไหล่ผมแล้วยกตัวขึ้นจูบผม
ผมจูบตอบเธออย่างดื่มด่ำขณะที่ผมดันแท่งเนื้อผมเข้าไปในช่องสวาทของเธอจนสุด
ผมพยายามจะให้มันเข้าไปลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมเสียวมาก มีความสุขราวกับได้ล่องลอยสู่สวรรค์
ผมแช่ดุ้นเนื้อผมไว้อย่างนั้นครู่หนึ่ง จากนั้นก็เริ่มซอยสะโพก ช่องหลืบของเธอรัดท่อนเอ็นผมแน่นราวกับคีม

ผมหลับตาลงดื่มด่ำกับความสุข ความคิดวิ่งพล่านในหัวว่าการร่วมรักมันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง
ผมไม่อยากให้มันยุติลงเลย ผมยังซอยกระเด้าต่อไป ผมได้ยินเธอร้องออกมาเมื่อเธอน้ำแตกคาดุ้นเนื้อผม
เธอยื่นมือมาดันหน้าอกผมจนผมลงไปนอนข้าง ๆ ผมเลยกลิ้งไปตามผลักแล้วยกตัวเธอขึ้นคร่อมตัวผม

เธอวางมือบนหน้าอกผมแล้วเริ่มโขยกตัวบนท่อนเอ็นผม ผมเด้งสะโพกขึ้นรับกับการกระแทกลงของเธอ
เสียงครวญครางของเธอดังแทบตลอดเวลา ผมรู้สึกว่าจุดสุดยอดกำลังใกล้เข้ามาในขณะที่ผมได้ยินเธอร้องออกมา

“เย็ดฉัน เย็ดฉันแรง ๆ เลย แซ็ค” เธอร้องโหยหวนในขณะที่เธอถึงจุดสุดยอด
ผมแทบช็อคในขณะที่ผมถึงจุดสุดยอด ผมจำเสียงนั้นได้ มันเป็นเสียงพี่สาวผม!
เธอฟุบตัวลงมาบนหน้าอกผมในขณะที่ท่อนเอ็นผมยังฝังคาอยู่ในรูสวาทเธอ

ผมลุกขึ้นนั่งหอบหายใจ ไม่ใช่เพราะเหนื่อยหรอกครับ
แต่เพราะช็อคที่รู้ว่าผมเพิ่งเปิดบริสุทธิ์พี่สาวแท้ ๆ ของผมเองไปเมื่อกี้นี้เอง
ผมเริ่มขอโทษขอโพยเธอแต่เธอก็ปิดปากผมด้วยนิ้วเธอ
“ผม…ผมไม่รู้จะขอโทษพี่ยังไง ผมคิดว่าพี่เป็นแอชลี่ ผมไม่คิดมาก่อนเลย ทำไมพี่ไม่หยุดผม พี่ต้องจำเสียงผมได้ตอนที่ผมพูด บ้าจริง ผมเลยเปิดบริสุทธิ์พี่ทั้ง ๆ ที่เราเป็นพี่น้องกัน ทำไมล่ะ” ผมอ้อนวอน

แล้วผมก็ประหลาดใจที่เธอหัวเราะแล้วตอบว่า
“พี่ก็อยากให้ครั้งแรกของพี่ตื่นเต้นน่าจดจำที่สุดเหมือน ๆ กับเธอนั่นแหละ และก็อยากให้เป็นคนที่พี่ไว้วางใจ จะมีใครดีกว่าน้องชายที่รักคนนี้ อีกอย่างพี่รู้ว่าแอชลี่ไม่มีทางยอมเธอแน่ และเธอจะต้องเสียใจสุด ๆ พี่ก็เลยขอแลกห้องกับเธอโดยไม่ได้บอกเหตุผลแท้จริง พี่บอกกับเธอว่าเธอน่าจะชอบห้องพี่มากกว่าเพราะมันมองเห็นทะเลสาป” เธอพูด

ผมเริ่มอธิบายว่าพี่น้องทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง เธอก็ตัดบทผมอีก
“ฟังนะ พี่รู้ว่าเธอมีความสุขมากพอ ๆ กับพี่ และตอนนี้พี่ก็ดีใจมากที่เราสองคนได้มีความทรงจำที่ดี ๆ ที่เป็นความลับระหว่างเราสองคนตลอดไป”
เธอพูดแล้วยื่นมือไปเปิดโคมไฟ ผมพบว่าตัวเองกำลังจ้องมองดวงตาสีเขียวมรกต ริมฝีปากแดงสดกำลังห่อตัวด้วยรอยยิ้ม
เธอเองก็จ้องตอบผม ท่อนเอ็นผมยังคาอยู่ในหลืบร่องของเธอและผมรู้สึกว่ามันกำลังแข็งตัวขึ้นอีกครั้ง
เธอเองก็รู้สึกได้เหมือนกัน
“ว่าไงจ๊ะพ่อน้องชาย เรามาเริ่มกันอีกทีดีมั้ย?” เธอเย้า ผมเริ่มเบือนหนี
แต่เธอก็ดึงตัวผมลงไปจูบและทำให้ดุ้นเนื้อผมฝังลึกลงไปกว่าเดิมอีก
ผมครางด้วยความเสียวซ่าน เธอยิ้ม ผมยิ้มตอบ เธอพูดถูก จะมีใครเหมาะที่จะสละความเป็นหนุ่มบริสุทธิ์ของผมให้ไปมากกว่าเธอ
ผมเอนตัวลงไปจูบเธอ ครู่เดียวท่อนเอ็นผมก็ผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วเราก็ร่วมรักกันไปจนกระทั่งตีสองและหลับผล็อยไปในอ้อมกอดของกันและกัน

บทส่งท้าย
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ผมกับแอชลี่ก็แยกทางกัน เธอบอกว่าเธอพบใครบางคนที่เหมาะกับเธอตั้งแต่เมื่อปีก่อน
แต่เธอไม่กล้าบอกผมเพราะกลัวผมจะเสียใจ ผมแค่ยักไหล่แล้วบอกเธอว่า
ผมก็กะอยู่แล้วว่ามันคงเป็นทำนองนั้น แต่เธอก็น่าจะบอกผมให้เร็วกว่านี้

หลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งปี ผมกับลิซ่าก็ยังคงมีความสุขด้วยกันไม่มีว่างเว้นทุกครั้งที่สบโอกาส
ผมมีแฟนสาวคนใหม่ที่ผมคิดจะจริงจังด้วย
แต่ลิซ่าก็บอกว่า ถ้าผมต้องการเธอเมื่อไหร่
เธอก็ยินดีที่จะร่วมสนุกด้วยเมื่อนั้น