อสูรพลิกฟ้า NTR - ตอนที่ 3 สุนัขของจักรพรรดินี
บทที่ 3 สุนัขของจักรพรรดินี
ทั้งสองมาถึงห้อง ๆ หนึ่ง ฉืออู๋เหยาและเชียนเย่หยิงเอ๋อร์นั่งรออยู่บนเก้าอี้ ไม่นานหลังจากนั้น พวกนางก็ได้ยินเสียงบุรุษดังขึ้นด้านนอก
“ฝ่าบาทจักรพรรดินี ชื่อเทียนมีประสงค์เข้าเฝ้า”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ตกตะลึงและคาดไม่ถึงว่า “คนคนนั้น” ที่ฉืออู่เหยาเอ่ยถึงกลับเป็นชางชื่อเทียน ผู้เสมือนสุนัขบ้าในระหว่างการต่อสู้เป็นตายกับจักรพรรดิมังกร
“รีบเข้ามา ท่าทีอ้อนน้อมเช่นนั้นไม่เหมาะกับเจ้าที่กดทับข้าและย่ำยีอย่างดิบเถื่อนเมื่อไม่นานนี้”
หลังได้ยินชางชื่อเทียนที่อยู่ภายนอกก็เปิดประตูด้วยความเคารพ หากเป็นกาลก่อน มันคงพังประตูแล้วโยนฉืออู่เหยาสตรีของจอมมารซึ่งสูงส่งที่สุดในโลกล้าลงบนเตียงพร้อมกับควักความเป็นชายมากระแทกกระทั้นนางอย่างหนัก
“ได้โปรดอย่ากล่าวเรื่องตลกเช่นนั้นฝ่าบาท ชื่อเทียนนับถือพระองค์สุดหัวใจ” ชางชื่อเทียนชำเลืองมองที่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยหางตา แน่นอนมันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นโดยตรง จึงไม่ได้สังเกตว่าทั่วร่างของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ยามนี้แปดเปื้อนไปด้วยเชื้อบุรุษตั้งแต่หัวจดเท้า…ทั้งยังเป็นเชื้อบุรุษจากแกนกายของมันเอง
“ฮึฮึฮึ ครั้งก่อนที่ข้าเห็นเจ้ามีแต่ความหยาบโลนดุดัน ไหนเลยจะมีความ ‘นับถือ’ ที่กล่าวถึง เอาล่ะ ไม่ต้องระแวงให้มากความ ทำตัวเหมือนปกติก็พอ เชียนหยิงทราบแล้วว่าข้าทำอะไรกับเจ้า”
“!!!”
ชางชื่อเทียนสะบัดหน้าขึ้นทันควันเมื่อได้ยิน ถ้าเป็นอย่างที่ฉืออู๋เหยาพูด ไม่ใช่ว่ามันก็สามารถกด “เทพธิดา” นางนี้ไว้ใต้ร่างและร่วมประเวณีกับนางได้เช่นกันหรือ
ทันใดนั้นชางชื่อเทียนพลันกระโดดขึ้นราวกับสัตว์ป่าที่ร้อนรุ่มลุกเป็นไฟ และโถมตัวใส่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ ทว่าขณะที่มันหมายจะแก้อาภรณ์ของนาง มันก็ถูกตบด้วยดาบพยากรณ์คำที่โพล่ขึ้นอย่างกระทันหันและปลิวไปกระแทกพนังด้านข้าง
“…เหอะ”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์มองต่ำ
“ไอหยา…เชียนหยิง หากเจ้าฆ่าชางชื่อเทียนทั้งแบบนั้น ข้าจะไปหาแกนกายที่ใหญ่โตและใช้งานสะดวกอย่างมันได้ที่ไหนอีก?”
“ฮึ่ม ถ้ามันตายจริง ๆ อาจจะยากสำหรับเจ้าที่จะสนุกกับหยุนเช่อด้วยหนอนเล็ก ๆ ของมันได้ อย่างไรก็ตาม ขอแค่ราชินีปีศาจผู้สง่างามอ้าขากว้าง ๆ บุรุษใดบ้างที่จะไม่ปรีเข้ามาถวายตัว เจ้ามากังวลอะไรกับผู้ชายอัปลักษณ์คนเดียว?”
“ฮุฮุฮุ”
ฉืออู๋เหยาแสยะยิ้ม ถ้อยคำที่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์พูดนั้นย่อมเป็นความจริง มันไม่ยากที่จะหาบุรุษที่ดีกว่าชางชื่อเทียน แต่ทว่าฉืออู่เหยาจะไม่ทำแบบนั้น การมีอะไรกับชางชื่อเทียนไม่เพียงสร้างความพึงพอใจให้กับหยุนเช่อเท่านั้น แต่ลำพังตัวชางชื่อเทียนเองก็มีประโยชน์มากมายให้ใช้สอย
“โอ้ ไม่ต้องอายไป หรือเจ้ากลัวว่าพอคุ้นเคยกับแกนกายอันใหญ่โตของข้า เจ้าจะเหมือนจักรพรรดินีที่ร่ำร้องหาข้าทุกวันไม่ขาด”
ชางชื่อเทียนลูบหัวของตนและยืนขึ้น อึดใจนั้นเชียนเย่หยิงเอ๋อร์เหลือบมองไปยังชางชื่อเทียน แต่สิ่งที่สะดุดตาของนางหาใช่ใบหน้าของมันไม่ แต่เป็นสิ่งที่ยาวและใหญ่กว่ากระทั่งของเชียนเย่ฟ่านเทียน คนที่นางพึ่งกล่าวไปกว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็น ทั้งแท่งของมันแข็งตึงจนเส้นเลือดปูดโปนอย่างน่ากลัว และอัณฑะขนาดใหญ่สองลูกเบื้องล่างเองก็หดตัว ราวกับเตรียมพร้อมที่จะกดหญิงงามตรงหน้าและบรรเลงรักกับนางอย่างรุนแรง
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์จ้องมองอย่างว่างเปล่า ฉืออู๋เหยาพลันยิ้มและดึงร่างของชางชื่อเทียนด้วยนิ้วยาวเป็นการเชื้อเชิญให้มีทำรักกับนางอีกครั้ง
แน่นอนว่าชางชื่อเทียนมุ่งมาด้านหลังของฉืออู๋เหยาอย่างไม่เกรงใจ และยกนางขึ้นวางเหนือโต๊ะด้วยพละกำลังอันกำยำของตน จากนั้นจ่อแกนกายที่แข็งจนปวดร้าวด้วยมือตัวเอง ไปที่ช่องทางลับของจักรพรรดินีที่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชนจนเผยอกว้าง และกระแทกใส่ร่างของนางอย่างหนักหน่วงเหมือนสุนัขที่กำลังผสมพันธุ์
“อ๊ะ~”
“ฮ่าห์!?”
ทั้งคู่ร้องครางด้วยความปิติ
ในตอนทำกันครั้งแรกชางชื่อเทียนรู้สึกว่าช่องคลอดของฉืออู๋เหยานั้นคดเคี้ยวเหมือนทางเดินแคบ ๆ ตอดรัดประหนึ่งจะขยี้ผู้บุกรุกให้แหลกหลาญ โชคดีว่ามันมีความอดทนเป็นเลิศ ไม่เช่นนั้นอาจเหมือนหยุนเช่อที่ถึงสวรรค์ก่อนจะเสียบเข้าจนสุด
เมื่อแกนบุรุษทิ่มลึกลงไป มันก็กระทบกับปากมดลูกอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่าน “การฝึก” ของชางชื่อเทียน กลีบบุปผาของฉืออู่เหยาก็ไม่ได้ปิดแน่นเหมือนสตรีอื่นอีกต่อไป เมื่อแกนกายทะลวงเข้าไป มันเสมือนได้ต้อนรับคนรู้จัก แท่งบุรุษทั้งหมดถูกดูดกลืนเข้าไปอย่างง่ายดาย และในไม่ช้าก็สามารถมองเห็นวัตถุทรงยาวยื่นออกมาจากช่วงท้องน้อยของฉืออู่เหยาจากภายนอก
“บัดซบ ร่วมรักกับฝ่าบาทคราใดข้าต้องใจสั่นทุกครั้ง หากไม่ระวัง คงเผลอปล่อยเชื้อความเป็นชายออกมา”
“อ๊า~~~ ปล่อยได้เลย เจ้าสามารถพ่นเชื้อบุรุษอันร้อนลวกนั้นเข้ามายังร่างกายของราชินีปีศาจตนนี้ได้ทุกเมื่อตามต้องการ ข้าจะรับไว้ทั้งหมดเอง”
ฉืออู่เหยาทนต่อแรงกระแทกที่ป่าเถื่อนของชางชื่อเทียนจากด้านหลังในท่าสุนัข บั้นท้ายสั่นสะท้านเป็นระวิงตามจังหวะการเคลื่อนไหวเหมือนผิวคลื่น
“นังราชินีสุนัข หากข้าเสร็จได้เร็วขนาดนั้นจะยังมีหน้าไปพบใครที่ไหนอีก สตรีโสโครกเยี่ยงเจ้าไม่สมควรรับเชื้อบุรุษชั้นดีของข้าง่าย ๆ”
เพี้ยะ!!
ชางชื่อเทียนยกมือขึ้นและตบก้นของฉืออู่เหยาครั้งแล้วครั้งเล่า บัดนี้นี้ ราชินีปีศาจที่ทั้งโลกหวาดกลัวกลายเป็นเพียงหญิงเดียรัจฉานที่จมจ่อมในการร่วมรักกับชางชื่อเทียน
“อ๊ะ! ดี แรงกว่านี้! ระบายความขับข้องใจต่อสามีของข้าใส่ข้า ยิ่งขุ่นเคืองมันเท่าไรก็ทำข้าหนักเท่านั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องสามีไร้ความสามารถของข้า ไม่ว่ายังไง มันไม่อาจเพลิดเพลินกับส่วนที่ยอดเยี่ยมของข้าได้ด้วยมังกรน้อยของมัน อ๊า!”
เมื่อฉืออู่เหยาถูกชางชื่อเทียนสอดใส่ นางก็ประหนึ่งเป็นคนละคน สำหรับคนรู้จักย่อมรู้ดีว่าฉืออู่เหยายามปกติมีท่าทีที่สง่างามเพรียบพร้อมขนาดไหน เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ที่กำลังมองการแสดงจากด้านข้างเห็นสภาพนางในปัจจุบันจึงเหลือเชื่อสุดประมาณ
“เป็นอย่างที่คิด เจ้ามันก็แค่สตรีติดสัด”
สุดท้ายชางชื่อเทียนก็กระแทกอย่างแรงเป็นพิเศษ จนฉืออู่เหยาล้มคะมำไปด้านหน้า แกนกายของชางชื่อเทียนดีดพึ่งออกจากส่วนลับของฉืออู่เหยา มันส่ายขึ้นลงอย่างรุนแรงต่อหน้าต่อตาของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์
(นี่มัน… ดูใกล้ ๆ เหมือนจะใหญ่ขึ้น…)
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์กุมต้นขาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เนตรงามของนางขยับขึ้นและลงในขณะที่จ้องมองที่แท่งบุรุษ
“เทพธิดาปรมันตร์ อย่าเรียกคนอื่นว่าติดสัดพร่ำเพรื่อ เจ้ามาลองดูเถิด เมื่อได้สัมผัสเจ้าจะกลายเป็นสตรีติดสัดที่คิดแต่เรื่องอย่างว่าดุจนังจักรพรรดินีผู้นี้เช่นกัน”
ครั้นชางชื่อเทียนกล่าวจบ มันก็ตบก้นของฉืออู๋เหยาที่อยู่ข้างหน้าอีกคำรบ มันทำแม้กระทั่งใช้หัวเต่าแหย่แก้มของเฉียนเย่หยิงเอ๋อร์อย่างกล้าหาญ
เมื่อเผชิญกับความหยาบคายของชางชื่อเทียน เชียนเย่หยิงเอ๋อร์หาได้หยุดมัน นางเพียงไม่ตอบสนองใด ๆ เพิ่มเติม ทำแค่จ้องไปที่ชางชื่อเทียนอย่างดุร้ายและพูดว่า
“เจ้าสุนัขบ้า แม้ว่าข้าจะบอกว่าข้าจะสนองความปรารถนาทางเพศของหยุนเช่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะกลายเป็นสตรีชั้นต่ำเมื่อใดก็ได้ ข้าจะไม่ทำกับบุรุษอื่นเพื่อสนองความต้องการส่วนตัว หากไม่ใช่เพื่อหยุนเช่อแล้ว ข้าจะไม่ทำอะไรที่ “เปล่าประโยชน์” เช่นนี้ในตอนนี้”
วาจาเหล่านี้มีเหตุผลสำหรับชางชื่อเทียนอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นชางชื่อเทียนจึงชี้ไปที่ทั่วมุมห้องและกล่าวว่า
“มีศิลาบันทึกภาพวางอยู่รอบๆ ห้องนี้ หมายความว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนี้ จอมมารของเราจะรับชมอย่างเพลิดเพลินในภายหลัง ด้วยเหตุนั้น…”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์จ้องไปทุกทิศตามนิ้วของชางชื่อเทียนและพบว่าเป็นไปตามที่มันพูด เชียนเย่หยิงเอ๋อร์พลันถอนหายใจ ก่อนจะมองไปยังศิลาบันทึกภาพอย่างเคร่งขรึมและเอ่ยขึ้น
“หยุนเช่อ นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการงั้นรึ ข้ารู้ว่าเจ้าอยากเห็นข้าบิดเอวและส่ายสะโพกยามถูกแกนกายของหมาบ้าตนนี้รุกเร้าเหมือนสุนัขตัวเมียบนโต๊ะ ถึงมันจะไม่ใช่สิ่งที่ข้าฝักใฝ่ แต่ก็เป็นอย่างที่พูดก่อนหน้า นับแต่ข้าตัดสินใจติดตามเจ้า ข้าก็จะไม่ลังเลแม้แต่การกระทำที่ผิดศีลธรรมและไร้ยางอายเช่นนี้…”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์พูดไม่ทันจบประโยค นางก็หันศีรษะไป ใช้ลิ้นเกี่ยวส่วนปลายอย่างชำนาญและนำเข้าปาก นางเปิดปากของตนเพื่อดื่มด่ำแท่งบุรุษสีม่วงที่แข็งตัว
“อา…ทักษะการใช้ลิ้นของเทพธิดานี่มัน…โลมเลียของ ๆ ข้าได้ยอดเยี่ยมนัก”
ชางชื่อเทียนวางมือบนศีรษะของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ มันหลับตาและอิ่มเอมกับประสบการณ์การปรนเปรอของเทพธิดาผู้สูงส่งอย่างสุขใจ
ชิงหาในช่องปากของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์เล้าโลมส่วนหัวของแท่งบุรุษเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ จนรูเล็ก ๆ ตรงใจกลางเปิดขึ้นเล็กน้อยเพราะความหฤหรรษ์ เชียนเย่หยิงเอ๋อร์เห็นช่วงเวลาที่เหมาะสมก็จี้ปลายลิ้นของนางเข้าไปยังส่วนรูตรงใจกลาง
“โอ้! เทพธิดาปรมันตร์ เจ้ามีฝีมือดีราวกับโสเภณีขนาดนี้ได้อย่างไร?”
ชางชื่อเทียนตัวสั่นจากแรงกระตุ้นดังกล่าว
“อื้ม…อาห์…เหอะ…เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ข้าทำไม่ได้และทำได้ไม่ดี ต่อให้จะเป็นเรื่องต่ำช้าพรรค์นี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ยกแกนกายขึ้นด้วยมือของนางและบรรจงเลียมันอย่างช้าๆ ด้วยลิ้นโดยเริ่มจากส่วนโคน ใช้ฝีมือที่ทำให้หยุนเช่อเป็นประจำมาปรนนิบัติหมาบ้าผู้นี้
นางทำความสะอาดน้ำรักของฉืออู่เหยาที่ชโลมอยู่บนแท่ง ไล่มาจนถึงจุดที่เป็นพวงอัณฑะ และใช้ลิ้นของตนกลอกกลิ้งมัน
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์พยายามอย่างเต็มที่ที่จะดูดมันอย่างแรง ประหนึ่งว่านางต้องการดูดกินของเหลวที่อยู่ข้างใน
ถัดมาเชียนเย่หยิงเอ๋อร์คลายปากของนางและกลับไปที่แกนกาย หนนี้ แทนที่จะเอาแต่อมไว้ในปาก นางเริ่มสอดมันลงคอ ทว่าหยุดไว้ที่หนึ่งส่วนสี่ของแท่งบุรุษเท่านั้น ขณะนี้เป็นตำแหน่งที่แกนกายของหยุนเช่อเข้าถึงตามปกติหลังจากเสียบจนสุดปลาย ด้วยเหตุนั้นเชียนเย่หยิงเอ๋อร์จึงชะงักอย่างไม่ตั้งตัวตามความรู้สึกที่คุ้นชินในปาก นางมองดูส่วนยังไม่ถูกกลืนเข้าไปซึ่งยังเหลืออีกมาก ก่อนจะเหลือบมองศิลาบันทึกภาพและเริ่มดำเนินการต่อ จากตรงนี้มันเป็นดินแดนบริสุทธิ์ที่แม้แต่หยุนเช่อยังไม่เคยล่วงล้ำ ทว่าตอนนี้มันถูกทำให้เป็นมลทินจากคนที่เป็นข้ารับใช้ของมัน
ไม่นานนักเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็หยุด เนื่องจากครานี้แท่งบุรุษกำลังทะลวงเข้าไปในคอจนสุด ทว่าเมื่อเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ยังเห็นว่ามีส่วนโคนเล็ก ๆ เหลืออยู่ข้างนอก นางตระหนักว่าชางชื่อเทียนจะไม่พอใจอย่างแน่แท้ แต่จังหวะที่นางพึ่งครุ่นคิดกับตัวเองเสร็จ มือที่จับหลังศีรษะของนางกลับเริ่มออกแรง บังคับให้เชียนเย่หยิงเอ๋อร์กลืนต่อไป ทันใดนั้น ปากงามของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็ชนเข้าที่โคนของแกนกายจนมิด ปลายจมูกจมอยู่ในพุ่นขนหยาบกระด้างที่มีกลิ่นเหม็นสาบ
ชางชื่อเทียนซึมซาบความรู้สึกในลำคอส่วนลึกของของเทพธิดาปรมันตร์ และปล่อยไว้พักใหญ่ ถ้านางเป็นผู้หญิงธรรมดาแน่นอนว่าต้องขาดอากาศหายใจตายในสภาพนี้ ทว่าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์เป็นจ้าวเทวะขั้นสิบ จึงไม่บังเกิดความทรมานแต่อย่างใด
แท่งบุรุษในลำคอแข็งตระหง่าน เชียนเย่หยิงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นจับจ้องชางชื่อเทียน ตอนนี้ชางชื่อเทียนหลับตาเพื่อให้รับรู้ความรู้สึกได้เต็มที่ เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ทราบดีว่าชายคนนี้กำลังเพลิดเพลินกับสิ่งที่เรียกว่า “ความรู้สึกของการพิชิตหญิงงาม” นางอยู่สภาพนี้เช่นกันเมื่อตอนทำด้วยปากกับหยุนเช่อเป็นครั้งแรก อย่างที่คาดไว้ บุรุษทุกคนเป็นสัตว์ป่าเหมือนกัน…ยกเว้นขนาด
ในที่สุดชางชื่อเทียนก็คว้าหัวของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์และดึงออกไปเล็กน้อยอย่างช้า ๆ จากนั้นดันกลับเข้าไปอย่างแรง มันกระทุ้งคอของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ดุจเดียวกับปากล่าง
จากรูปการนี้ นอกจากเชียนเย่หยิงเอ๋อร์จะไม่รู้สึกว่าแกนกายที่อัดอยู่ในลำคอจะทำให้นางอึดอัด ตรงกันข้าม ลำคอของนางคล้ายกับถูกยืดออกจนมีขนาดใกล้เคียงแกนบุรุษแท่งนี้ ซึ่งมันยิ่งมายิ่งทำให้นางถอนตัวลำบาก
ถึงเชียนเย่หยิงเอ๋อร์จะบอกว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนองการรสนิยมของหยุนเช่อ แต่แม้นางจะไม่อยากยอมรับ นางก็ยังมีจิตใจของสตรีอยู่ข้างใน และนางก็ไม่มีทางยินดีหากลำคอของจะนางจะปรับตัวเข้ากับแกนกายของบุรุษอื่นที่นางไม่ได้รัก ทว่าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็สลัดความคิดไร้เดียงสานี้ออกอย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้ว มันจะไม่ใช่แค่ลำคอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจุดต่าง ๆ ในร่างกายที่ล้วนสอดใส่และถูกทะลวงได้ เช่นร่องสวาทหรือประตูหลัง ไม่ช้าลักษณะของมันก็จะปรับตัวให้เข้ากับผู้ชายคนอื่นที่ใหญ่กว่าหยุนเช่อในอนาคต
ตอนนั้นเอง ชางชื่อเทียนตระหนักได้ว่าเขากำลังจะถึงจุดสุดยอด ชางชื่อเทียนไม่ใช่บุรุษที่หลั่งเร็ว แต่การเผชิญหน้ากับผู้หญิงระดับฉืออู๋เหยาและเชียนเย่หยิงเอ๋อร์พร้อมกัน ไม่ว่ามันจะเป็นยอดชายมาจากไหน มันยอมถึงขีดกำจัดได้ไวกว่าปกติ
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์เองก็สัมผัสได้ นางรู้ว่าชางชื่อเทียนกำลังจะหลั่งออกมาในเวลาอันใกล้ ชางชื่อเทียนพลันกระแทกส่วนปลายเข้าไปจนสุดด้วยพลังกำลังทั้งหมดของมัน จากนั้นปล่อยเชื้อบุรุษเข้มข้นจำนวนมากเข้าสู่ท้องของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ราวกับเขื่อนกั้นน้ำที่ระเบิดออก
พรวด พรวด
เห็นได้ชัดว่าเชื้อบุรุษถูกยิงเข้าที่ท้องโดยตรงแต่ลำคอของหญิงสาวก็ยังกลืนตามอย่างช้า ๆ เชียนเย่หยิงเอ๋อร์พอรับรู้ว่าแรงหลั่งเริ่มอ่อนลงจนเกือบหยุดสนิท นากก็ยกมือขึ้นบีบอัณฑะทั้งสองของชางชื่อเทียนด้วยแรงปานกลาง
“โอ้!?”
การหลั่งที่หยุดไปแล้วถูกเชียนเย่หยิงเอ๋อร์บีบเค้นอีกระลอก
“ให้ตายเถอะ เทพธิดาปรมันตร์จะรับประทานอย่างตละกะเกินไปแล้ว”
ชางชื่อเทียนรีบกระจากแกนกายออกมาอย่างรวดเร็ว ตัวเขายังต้องถนอมกำลังไว้เพื่อต่อไปจะใช้บรรเลงรักกับนางให้สาสม มันจะน่าเสียดายเกินไปหากถูกดูดจนแห้งในตอนนี้
เมื่อมองไปที่เชียนเย่หยิงที่ใบหน้าแดงปลั่ง แกนกายของชางชื่อเทียนก็ฟื้นพลังงานอย่างรวดเร็ว
“เช่นนั้นเรามาเริ่มของจริงกัน เทพธิดาปรมันตร์ต้องการให้ข้าทำด้วยตัวเองหรือท่านเป็นฝ่ายทำ?”