ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

The Paradox & The Zodiac by Buta - The Zodiac บทที่ 5.3.1 ศิลาปฏิสาร

  1. Home
  2. The Paradox & The Zodiac by Buta
  3. The Zodiac บทที่ 5.3.1 ศิลาปฏิสาร
Prev
Next

The Zodiac บทที่ 5.3.1 ศิลาปฏิสาร

พ.ศ.2530

————————————————————-

กระแสปราณที่กระจายไปทั่วทุกเซลในร่างกายผม ผ่อนคลายลงหลังจากผมถอนจิตออกจากการผนึกปราณ อันเป็นกิจวัตรประจำวันที่กระทำมาตลอด ประสาทสัมผัสที่ไวกว่ามนุษย์ธรรมดานับร้อยเท่ารับรู้การเคลื่อนไหวทุกสิ่ง รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นสายลมแผ่วเบาที่กระทบร่างกาย หรือเสียงใบไม้ที่ไหวกระทบกันห่างไกลออกไป ซึ่งเพียงแต่ผมพุ่งจิตไปที่ตำแหน่งต้นกำเนิดของเสียง ผมก็จะสามารถแยกได้แม้กระทั่งเสียงที่เกิดจากใบไม้ใบใดใบหนึ่ง

ผมค่อยๆ ผ่อนลมหายใจยาว เพื่อปรับกระแสปราณหลังจากการโคจรต่อเนื่องมาสามวันเต็มก่อนลืมตาลุกขึ้นจาก แท่นอาสนะในห้องส่วนตัวของผม ที่ตั้งอยู่ในชั้นใต้ดินลึกสุดของสถานที่นี้ ดวงตาผมพบกับภาพผนังหินแกรนิตสีดำสนิทขัดเรียบที่บุทั้งส่วนพื้นห้อง ผนังและเพดานจนทั้งห้องมืดสนิท แต่ความมือนี้ไม่เป็นอุปสรรคในการมองเห็นแม้แต่น้อยสำหรับสายตาของผู้ทรง ปราณเช่นผม ภาพเทพเจ้าที่ปรากฏในแผนภาพวงกลมแมนดาราซึ่งถูกสลักลงไปในผนังหินเบื้องหน้า ดูราวกับมีชีวิตและเคลื่อนไหวไปตามจิตที่ผมกำหนด ผมนึกถึงคำบอกเล่าของคุณพ่อที่เคยบอกผมว่าแผนภาพแมนดาราจะสะท้อนอำนาจปราณ ของผู้รับรู้ จากขั้นเริ่มต้นที่เห็นภาพเคลื่อนไหว ไปจนถึงขั้นสูงที่สามารถกำหนดการเคลื่อนไหวของภาพได้ดังที่ผมกำลังรับรู้ อยู่ในปัจจุบัน แต่ขั้นตอนสูงสุดที่แผนภาพแมนดาราจะเปิดประตูทางจิตเข้าสัมผัสเป็นหนึ่ง เดียวกับจักรวาลนั้น ยังคงเป็นเพียงนิยายที่เล่าสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล และเท่าที่ผมรู้ยังไม่เคยมีใครที่สามารถบรรลุถึงชั้นนั้นได้

ผมลุกขึ้นก้าวเดินตรงไปที่ประตูห้องที่เปิดออกในทันทีที่ผมเข้าใกล้ ด้วยระบบเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวเฉพาะกระแสปราณของผมและเหล่าภรรยา ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ประตูทุกบานของสถานที่นี้ เบื้องหน้าเป็นห้องโถงกว้างรูปกลมที่มีรัศมีกว่า 30 เมตร ที่ขอบผนังวงกลมเรียงรายไว้ด้วยประตูแยกไปสู่ห้องย่อย 13 ห้องตั้งอยู่รอบวงกลม ห้องทั้ง 13 ห้องนี้ถูกใช้งานเพียง 8 ห้อง เป็นที่พักของผมและภรรยาทุกคน อีกสี่ห้องยังคงว่างอยู่โดยปราสจากผู้อาศัย ระหว่างการออกแบบบก่อสร้างนั้นเดิมทีกำหนดสร้างเพียงแปดห้องเท่านั้น แต่ระหว่างเริ่มก่อสร้างจานีสเป็นผู้สั่งการให้แก้ไขแบบเป็น 13 ห้อง แต่เมื่อเวลาต่อมาผมพยายามถามถึงสาเหตุที่ต้องเพิ่มจำนวนห้อง จานีสกลับมีสีหน้างุนงงและจำไม่ได้ว่าตนเองคือผู้ที่ขอให้เปลี่ยนแปลงแบบ ซึ่งผมก็ไม่ได้พยายามเค้นถามต่อไปเพราะรู้ดีว่าจิตของจานีสน่าจะถูกชักจูง โดยเสียงทางจิตที่เคยเกิดกับผม เซี่ยวเล้ง และจานีส มาก่อน แต่ในเมื่อมันไม่ได้เกิดผลเสียอะไร ผมก็ปล่อยให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นโดยไม่ขัดขวาง

อากาศภายในห้องเย็นบริสุทธิ์ราวกับอยู่กลางแจ้ง ด้วยการทำงานของเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศมหึมาที่ติดตั้งอยู่ ทำให้ผู้พำนักอยู่ไม่รู้สึกเลยว่าสถานที่นี้อยู่ลึกให้ภูเขาหินกว่าร้อยเมตร ผมคิดไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในห้วงสองปี หลังจากบ้านคชสีห์ถูกบุกโจมตีโดยมิถุกานารี ซึ่งแม้ทุกคนจะร่วมกันทำลายมิถุกานารีไปได้ แต่ผลที่ตามมาคือการเปิดเผยสถานะที่แท้จริงของบ้านคชสีห์ให้จักรราศีรับรู้ ทำให้ผมต้องสั่งการให้ย้ายบ้านคชสีห์มายังหุบเขาที่ตั้งของ “บ้านเล็ก” ซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวของผม พร้อมติดตั้งเครื่องสร้างภาพของ ดร.หวังปิง ไว้โดยรอบ ทำให้เมื่อมองจากภายนอกหรือทางอากาศ สถานที่นี้จะเป็นเพียงเนินเขารกร้างที่ปราศจากผู้คน ขณะเดียวกันตระกูลโรหิณีภายใต้การนำของน้องนิวผู้เป็นประมุขมาเป็นส่วนหนึ่ง ของตระกูลคชสีห์ ก็จำเป็นต้องย้ายสำนักเพื่อหลบหนีการโจมตีของจักรราศีเช่นกัน และได้มาใช้พื้นที่เดียวกันเป็นสำนักแห่งใหม่ ด้วยกำลังคนของตระกูลคชสีห์กับตระกูลโรหิณี บ้านเล็กที่เคยเงียบสงบก็ถูกปรับแต่งด้วยอำนาจของผู้ทรงปราณ ร่วมกันเจาะภูเขาก่อสร้างสถานที่ซึ่งจะเป็นสำนักใหม่ของตระกูลคชสีห์และ โรหิณีลึกเข้ามาใต้ภูเขาเพื่อป้องกันการโจมตีจากจักรราศีในอนาคต

การก่อสร้างทั้งหมดใช้เวลากว่าหนึ่งปี แต่ด้วยอำนาจของเงินที่ผมได้รับจากการเป็นหุ้นส่วนของบริษัท Microsoft ที่ทำกำไรมหาศาล ทำให้ผมมีขีดความสามารถทางการเงินเต็มที่ในการจัดซื้อเครื่องใช้ที่จำเป็น จากแหล่งต่างๆ อย่างลับๆ จนการก่อสร้างเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ และพื้นที่ชั้นลึกสุดของอาคารใต้ดิน ถูกใช้เป็นที่พักของผมและกลุ่มภรรยาของผมทั้ง 6 คน ชั้นถัดขึ้นไปเป็นที่พักของคุณพ่อคุณแม่ และศิษย์ใกล้ชิดของตระกูลคชสีห์และโรหิณี ซึ่งคุณพ่อผมรับหน้าที่ฝึกอบรมให้อย่างเต็มที่ ส่วนอาณาเขตด้านนอกของภูเขา ศิษย์ตระกูลคชสีห์และโรหิณี ได้ดำเนินการปลูกไร่ชาทั่วพื้นที่ และใช้สถานะคนงานไร่ชาปกปิดตนเอง ทำให้สภาพของสถานที่แห่งนี้ในสายตาคนภายนอกรับรู้เพียงว่าเป็นไร่ชาขนาดใหญ่ ที่ปลูกเพื่อส่งขายต่างประเทศเท่านั้น

ผมก้าวเข้าไปยังประตูลิฟท์ แต่ก่อนที่ผมจะกดปุ่มเปิดประตูก็พบว่าที่หน้าลิฟท์มีกระดาษที่เขียนด้วยลาย มือของจานีสติดอยู่ ผมอ่านข้อความที่ปรากฏอย่างแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติการติดต่อระหว่างผมกับหญิงสาวทุกคนที่มีความสัมพันธ์กับผมจะกระทำ ผ่านกระแสจิต จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ตัวอักษรสื่อข้อความถึงกัน โดยเฉพาะในเมื่อทุกคนอยู่รวมกันที่นี่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามผมก็รีบเข้าไปในลิฟท์แล้วกดหมายเลข 1 ซึ่งเป็นหมายเลขของชั้นบนพื้นดิน ที่ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของถ้ำลับของผม น้องริน น้องกิฟท์ และห้องทดลองส่วนตัวของเหมียว แต่ปัจจุบันพื้นที่ทั้งหมดถูกปรับขยายให้เป็นห้องทรงโดมขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นที่ฝึกซ้อมปราณการต่อสู้ของผมและเหล่าสตรีผู้เป็นที่รักทุกคน

เพียงชั่วอึดใจลิฟท์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าจากเซลพลังงานของ ดร.หวังปิง ก็นำผมขึ้นมาที่ชั้น 1 อย่างนุ่มนวล เสียงตวาดหวานใสของน้องทิพย์เป็นสิ่งแรกที่ผ่านเข้ามากระทบหูผมทันทีที่ประ ตูลิฟท์ถูกเปิดออก ผมก้าวออกจากประตูลิฟท์และจับจ้องภาพเด็กสาวที่เติบโตเข้าสู่วัย 15 ปี ลอยตัวขึ้นกลางอากาศ เรือนร่างเพรียวระหงปกคลุมด้วยเกราะมังกรวารีสีฟ้าใสเป็นประกาย ขณะที่สองมือเด็กหญิงผลักกระแสพลังนาคบาศก์เรืองรองเป็นสายลงสู่เบื้องล่าง

‘ พี่ริน พี่กิฟท์ ลองรับพลังนาคบาสก์ของทิพย์ดูหน่อยนะ’
กระแสจิตสดใสของทิพย์วารีดังก้องในจิตผม ขณะที่จิตอ่อนโยนของน้องรินและจิตที่ร่าเริงแจ่มใสของน้องกิฟท์ก็ดังขึ้นพร้อมกัน
‘พี่ไม่กลัวน้องทิพย์หรอก ถ้าคิดว่านาคบาศก์จะผ่านม่านพลังจิตมารได้ก็ลองดู’
‘เดี๋ยวก็รู้ว่านาคบาศก์ที่แซกซึมไปทุกหนแห่งจะผ่านเพลิงแห่งอัคคีเทพของกิฟท์ได้หรือเปล่า’

ภาพของน้องรินและน้องกิฟ์ที่ยืนหยัดรับการโจมตีของน้องทิพย์อยู่ด้านล่าง เป็นภาพของหญิงสาวเต็มวัยสองคนที่แทบเปลือยเปล่า ร่างเมียรักของผมทั้งสองปกคลุมไว้ด้วยสายใยเรืองแสงต่างสีที่ผนึกตัวครอบ คลุมอวัยวะสำคัญในร่างกายเอาไว้จากการโจมตีด้วยปราณ ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นเพียงสายใยบางๆ ที่ห่อหุ้มนร่างกาย แต่ผู้ทรงปราณทุกคนที่รู้จักเกาะปราณล้วนทราบดีว่าหากปราศจากปราณที่สูงส่ง ยิ่งกว่าแล้ว ก็ไม่มีพลังใดที่จะแทรกผ่านสายใยที่ถักทอขึ้นเป็นเกราะปราณนี้ได้

ร่างน้องรินที่ห่อหุ่มด้วยเกราะปราณสีม่วงสดใส เปล่งประกายสีม่วงเจิดจ้าขณะที่พลังนาคบาศก์จากน้องทิพย์แยกเป็นสองสายแยก ย้ายโจมตีน้องรินและน้องกิฟท์พร้อมกัน ทันทีที่นาคบาศก์ปะทะกับม่านพลังสีม่วงแห่งจิตมาร เสียงกรีดแหลมสูงบาดหูก็ดังขึ้นด้วยพลังราวกับจะสามรถแทรกเข้าไปทุกรูขุมขน ของผู้ได้ยิน พลังนาคบาศก์แตกกระจายเป็นสายโอบล้อมร่างน้องรินไว้อย่างแน่นหนา แต่ไม่สามารถแทรกผ่านม่านพลังจิตมารที่เปล่งประกายวูบวาบเข้าไปได้แม้แต่ น้อย ขณะเดียวกันพลังนาคบาศก์อีกสายหนึ่งที่พุ่งลงโจมตีน้องกิฟท์พร้อมกัน ก็ปะทะกับกลุ่มอีคคีสีแดงฉานที่ผนึกขึ้นในมือของน้องกิฟท์ ส่งประกายสีแดงสะท้อนใบหน้าที่อ่อนเยาว์ราวเด็กสาวรุ่นให้เป็นสีแดงเข้ม เรือนร่างโปร่งบางของน้องกิฟท์ปกคลุมด้วยใยพลังปราณสีแดงเข้มถักทอเป็นลวด ลายแผ่ปกคลุมทรวงอกเต่งตูมและเนินเนื้ออวบอิ่มเบื้องล่างของหญิงสาวเอาไว้ ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อพบว่าแม้น้องกิฟท์จะส่งกระแสจิตตอบโต้น้องทิพย์ราวกับ ไม่สนใจพลังนาคบาศก์ แต่ใบหน้าของน้องกิฟท์กลับไม่ปรากฏแววเลินเล่อแม้แต่น้อย ดวงตายาวเรียวด้วยเชื้อจีนของน้องกิฟท์จับจ้องการโจมตีของน้องทิพย์อย่าง ระมัดระวังและแผ่พุ่งพลังอัคคีเทพเข้าปะทะพร้อมกับใช้ท่าร่างหาช่องว่าง เพื่อโจมตีกลับในทันทีที่เป็นไปได้

‘พี่เอ ออกจากห้องผนึกปราณแล้ว ’

กระแสจิตที่เปี่ยมความดีใจดังขึ้นในจิตผม ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องหันหลังไปหาเจ้าของจิตที่พุ่งร่างเข้ามาหา ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นจิตของน้องนิวผู้ก่อกำเนิดใหม่จากการผสานจิตของ เหมียวเพื่อนรักร่วมสถาบันของผมกับหนูนิดผู้เป็นเสมือนน้องสาวแท้ๆ ของผมเมื่อสองปีที่ผ่านมา เพียงแวบเดียวเรือนร่างอบอุ่นของน้องนิวก็สวมกอดผมทางด้านหลังเอาไว้แน่น จนผมต้องหันไปคว้าร่างเด็กสาวมาทางด้านหน้า เพื่อที่จะพบกับดวงหน้าสดใสของเด็กสาวผู้มีสองจิตผสานเป็นหนึ่งเดียว

‘น้องนิวจะไปฝึกร่วมกับน้องริน น้องกิฟ์ น้องทิพย์หรือ’

ผมส่งจิตถามน้องนิวเมื่อพบว่าร่างของเด็กสาวห่อหุ้มไว้ด้วยเกราะปราณเช่น เดียวกับหญิงสาวอีกสามคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ แต่เกราะปราณของน้องนิวกลับมีลักษณะแปลกกว่าทุกคน เพราะสายใยที่ห่อหุ้มเรือนร่างเด็กสาวแยกออกเป็นสายใยสีขาวบริสุทธิ์ราวหิมะ ในซีกขวาของร่าง ในขณะที่ซีกซ้ายเป็นสายใยปราณสีดำสนิทดูแปลกตา ซึ่งในครั้งแรกที่น้องนิวสามารถโคจรปราณก่อเกราะปราณขึ้นได้ จานีสผู้รอบรู้ถึงกับอุทานออกมาและบอกอย่างตื่นเต้นว่าเกราะปราณที่น้องนิ วก่อขึ้นนั้นมีลักษณะตรงกันกับเกราะปราณแห่งเทวนารีจักรราศรีเมถุนในตำนาน โบราณ

‘นิวเองก็เพิ่งเสร็จจากการไปควบคุมให้พวกเราเจาะเส้นทางน้ำใหม่ลงมาที่หน้า ห้องของพวกเราในชั้นล่างสุดอยู่ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อีกสักสองวันเราคงจะมีสระน้ำสำหรับฝึกพลังที่กลางห้องโถงรวมอย่างที่พี่เอ ต้องการแน่ๆ’

จิตแผ่วหวานของน้องนิวส่งมายังผมอย่างร่าเริง ขณะที่ดวงตาของเจ้าของจิตที่ประกอบขึ้นจากหญิงสาวที่ผมรักสองคนสบตาผมด้วย ความรักที่ผมรับรู้ได้มาโดยตลอด

‘น้องนิวคงเหนื่อยแย่เลย แล้วจะมาฝึกต่อโดยไม่พักผ่อนเสียก่อนหรือ’

น้องนิวส่ายหน้าช้าๆ

‘พักไม่ได้หรอกพี่เอ…พี่เอดูสามคนนั่นสิ เขาฝึกปราณกันอย่างหนักแบบนี้ ถ้านิวหยุดไปแต่วันเดียวเป็นได้โดนพี่ริน พี่กิฟท์ น้องทิพย์ รังแกเอาแน่ๆ..นี่อีกเดี๋ยวพี่เซี่ยวเล้งก็จะขึ้นมาฝึกด้วย ..พี่เอจะอยู่ดูพวกเราฝึกก่อนไหม’

ผมยิ้มให้น้องนิวที่จับจ้องตาผมอย่างมุ่งหวัง แต่ผมจำเป็นต้องสั่นศีรษะเป็นคำตอบ

‘ตอนนี้คงยังไม่ได้หรอกน้องนิว เมื่อกี้พี่พบกระดาษที่จานีสเขียนบอกไว้ ให้พี่ไปพบด่วนหลังการฝึกปราณเสร็จ สงสัยจะมีเรื่องสำคัญ เอาเป็นว่าถ้าพี่เสร็จจากจานีสพี่จะรีบลงมาดูการซ้อมของพวกน้องนิวทุกคน นะ….’

‘พี่จานีส…’

น้องนิวส่งจิตแผ่วเบาที่ดูราวจะเป็นการรำพึง แต่น้ำเสียงที่แฝงความกังวลยังส่งผ่านมาถึงผมจนรู้สึกได้ ทำให้ผมต้องส่งจิตถามน้องนิว

‘น้องนิวกังวลอะไรเกี่ยวกับจานีสหรือเปล่า’

‘นิวสังเกตว่าสองอาทิตย์มาแล้วที่พี่จานีสดูจะเงียบไป และไม่ต่อยเข้ามาคลุกคลีกับทุกคนเหมือนเคย แม้กระทั่งตอนที่พวกเราเย็ดกับพี่เอ พี่จานีสก็ดูเหมือนพยายามหลีกเลี่ยงหาทางปลีกตัวไปอยู่คนเดียว แต่บางทีนิวอาจจะคิดไปเองก็ได้’

คำบอกเล่าของน้องนิวทำให้ผมต้องคิดย้อนกลับไปถึงการใช้ชีวิตของจานีสที่ผ่าน มา ซึ่งแม้หญิงสาวจะดูแจ่มใสรื่นเริง แต่ผมเองก็พอจะรับรู้ถึงความผิดปกติในจิตใจที่จานีสพยายามซ่อนไว้ ในใจอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามเมื่อผมพยายามถามก็จะถูกเด็กสาวกลบเกลือนไปและตอบสนองผมด้วย ความเร่าร้อนของการร่วมรักจนทำให้ผมต้องยุติความสนใจไปแทบทุกครั้ง

‘น้องนิวไม่ต้องเป็นห่วงจานีสหรอกนะ เดี๋ยวพี่จะไปคุยกับจานีสเอง…’

น้องนิวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน พร้อมเบียดเรือนร่างงดงงามที่เกือบเปลือยเปล่าเข้ามาในอ้อมแขนผมแน่น ก่อนกระซิบข้างหูผมเบาๆ

‘คืนนี้พี่เอมาหานิวที่ห้องได้ไหม…’

จิตน้องนิวบอกถึงสิ่งที่เด็กสาวต้องการอย่างชัดเจน ทำให้ผมต้องกอดร่างเพรียวระหงที่ก่อเกิดจากการรวมจิตสองสตรีที่ผมรักไว้แน่น แล้วจูบริมฝีปากเบื้องหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณตอบรับก่อนปล่อยให้น้องนิวออกจากอ้อมกอดไปร่วมการฝึกซ้อมกับน้อง ริน น้องกิฟท์และน้องทิพย์

ภาพสะโพกกลมกลึงของน้องนิวภายใต้การปกคลุมของเกราะปราณ ทำให้ความร้อนขุมหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากตำแหน่งจักรอัคคีที่ท้องน้อยของผม บอกให้รู้ว่าความต้องการร่วมรักอันเป็นผลกระทบจากการรับพลังจากผลึกมังกร กำลังกระจายออกมา จนทำให้ผมต้องรีบใช้พลังจิตของตนเองสงบจิตที่เริ่มถูกกระตุ้นอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีว่าหากผมปล่อยให้ความต้องการลุกโพลงขึ้นมาอย่างเต็มที่ หญิงสาวทุกคนเบื้องหน้าที่จะต้องถูกชักนำด้วยความต้องการทางเพศจนไม่สามารถ ทำสิ่งอื่นใดได้นอกจากการร่วมรักกับผมในทันที

‘พี่เอลำบากแย่เลยนะ ที่ต้องควบคุมตัวเองตลอดเวลาแบบนี้’

กระแสจิตอ่อนโยนดังขึ้นในจิตผม ที่รับรู้ในทันทีว่าเป็นกระแสจิตของหญิงสาวที่ผละละจากการเป็นหนึ่งในเทวนา รีเพื่ออยู่ร่วมกับผมและเหล่าหญิงสาวทุกคนในที่นี้ ผมหันกลับไปพบกับดวงหน้างามของเซี่ยวเล้งเบื้องหลังกำลังยิ้มให้ผมด้วยความ ยินดี ที่เห็นผมหลังจากการปลีกตัวฝึกปราณมาสามวันเต็ม และเดินเข้ามากอดผมไว้ในวงแขนนุ่มนวล

‘ลำบากอะไรหรือเซี่ยวเล้ง’

‘เมื่อกี้ตอนที่เซี่ยวเล้งออกมาจากลิฟท์ เซี่ยวเล้งรับรู้ถึงความต้องการของพี่เอแว่บหนึ่งก่อนสลายไป จึงรู้ว่าน้องนิวคงกระตุ้นความต้องการของพี่เอขึ้นมาแน่ และพี่เอก็ต้องพยายามสะกดมันไว้เพราะไม่ต้องการรบกวนการฝึกปราณของทุกคน เซี่ยวเล้งเห็นใจพี่เอนะที่ต้องควบคุมตัวเองแบบนี้ ในเมื่อพี่เอถูกล้อมไปด้วยพี่ริน พี่กิฟท์ น้องทิพย์ น้องนิว พี่จานีส ที่สวยและน่ารักทุกคนเลย’

ผมกระชับเรือนร่างสมบูรณ์เต็มสาวของเซี่ยวเล้งไว้แน่น ก่อนส่งจิตไปยังหญิงสาวผู้งดงงามเบื้องหน้า

‘แล้วทำไมไม่นับหญิงสาวที่สวยที่สุดคนนี้ไว้ด้วยล่ะ…พี่เจอเซี่ยวเล้งทีไร พี่แทบคุมตัวเองไม่ให้ดึงเซี่ยวเล้งมาเย็ดไม่ได้เลยรู้ไหม’

อดีตเทวนารีแห่งราศีมังกรหัวเราะเบาๆ ในอ้อมแขนผม

‘เซี่ยวเล้งก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้พี่เอเย็ดสักหน่อย พี่เอต้องการเซี่ยวเล้งเมื่อใด เซี่ยวเล้งก็พร้อมที่จะสนองรับเสมอ พี่เอก็รู้ดี’

‘งั้นคืนนี้พี่จะไปหาเซี่ยวเล้งที่ห้องนะ..’

หญิงสาวผู้งดงามพยักหน้ารับด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

‘แต่ตอนนี้ปล่อยเซี่ยวเล้งก่อนเถอะพี่เอ…เซี่ยวเล้งต้องไปร่วมฝึกปราณกับทุกคนแล้ว’

ผมพยักหน้ารับปล่อยให้เซี่ยวเล้งที่อยู่ในชุดนอนผ้าฝ้ายเบาบางออกจากอ้อมกอด อย่างเสียดาย หญิงสาวหันมายิ้มให้ผมอย่างสดชื่น ก่อนส่งเสียงตวาดก้องเพื่อผนึกพลังจนชุดนอนทั้งหมดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้น น้อย ร่างสูงโปรงกลับถูกห่อหุ้มด้วยเกราะมังกรฟ้า และสาดพุ่งเข้าสู่วงต่อสู้ของน้องริน น้องกิฟท์ น้องทิพย์ และน้องนิวทันที

ผมมองภาพเบื้องหน้าด้วยความภูมิใจในปราณที่สูงสุดยอดของหญิงสาวทั้งห้า เกราะปราณต่างสีสันและรูปทรงที่ทุกคนสวมใส่อยู่ เป็นสัญญาณบอกให้รู้ถึงระดับปราณที่สูงเกินกว่าผู้ทรงปราณธรรมดาในโลก เมื่อประกอบกับความสนิทสนมกลมเกลียวของทุกคน ผมก็มั่นใจอยู่ลึกๆ ว่าแม้ขุมกำลังของบ้านคชสีห์แม้จะยังไม่ทัดเทียมกับจักรราศี แต่ก็น่าจะเพียงพอกับการป้องกันตัวจากการโจมตีในทุกรูปแบบได้ อย่างก็ตามเมื่อนึกถึงคำบอกเล่าของเซี่ยวเล้งและจานีสถึงขุมกำลังมหาศาลของ จักรราศี รวมทั้งปราณแห่งเทพเจ้าที่ไร้ผู้ต้านทานของเทพสุรัสวดี ผมก็ต้องถอนใจออกมาเบาๆ และยอมรับว่าบ้านคชสีห์ยังคงต้องซ่อนเร้นร่องรอยของตนเองต่อไป จนกว่าโอกาสที่เหมาะสมจะมาถึง

สองเท้าพาผมออกจากห้องฝึกปราณ ขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองของสถานที่ซึ่งเคยเป็นบ้านพักรับรองขนาดเล็กสามหลัง แต่ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยการรื้อทิ้งทั้งหมดและสร้างเป็นห้องโถงที่อยู่ลึกเข้า มาในหินภูเขาแทนที่ เพื่อใช้เป็นห้องพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวคชสีห์ที่ต้องการแสงสว่าง ธรรมชาติ ส่วนลึกเข้าไปเป็นทางเดินย่อยที่ทอดไปสู่ห้องขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกใช้เป็นห้องสมุดสะสมเอกสารและตำราโบราณของตระกูลคชสีห์ ห้องนี้เองที่ปัจจุบันแทบจะกลายเป็นห้องส่วนตัวของจานีส อดีตโหราทาสแห่งจักรราศี ผู้มักจะใช้ที่นี้เป็นที่ศึกษาค้นคว้าตำราต่างๆ และบ่อยครั้งที่จะนอนอยู่ที่นี่แทนที่จะลงไปยังห้องส่วนตัวชั้นล่างสุด

ผมเดินต่อมายังประตูห้องสมุดก็เปิดกว้างอยู่ตรงหน้า ผ้าม่านสีขาวโปร่งบางเบาที่หน้าต่างภายในห้องสะบัดพริ้วด้วยสายลมเย็นจากภาย นอก ผมสาวเท้าเข้าไปเงียบๆ เพื่อพบกับภาพเบื้องหลังของเด็กสาววัย 14 ปี ที่ยืนก้มตัวลงขีดเขียนอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือขนาดใหญ่ริมหน้าต่าง แสงสว่างยามเช้าจากภายนอกส่องผ่านทะลุชุดนอนผ้าฝ้ายสีขาวบางเบาจนทำให้ดูราว กับว่าร่างนั้นถูกปกคลุมด้วยหมอกควันเลือนลาง เปิดเผยเรือนร่างอวบอิ่มเต็มสาวอย่างเต็มที่ สายตาผมจับจ้องสะโพกอวบอิ่มครัดเคร่งที่อวดตัวโดดเด่นจากท่าก้มตัวลงขีด เขียนอยู่บนโต๊ะ เพียงผมขยับตัวมาทางด้านข้างเล็กน้อย ทรวงอกงามปราศจากสิ่งห่อหุ้มภายใต้เสื้อนอนก็อวดสัณฐานกลมกลึงที่ประดับด้วย เม็ดยอดสีแดงสดใสอย่างชัดเจนเมื่อต้องแสงสว่างยามเช้า นี่คือร่างของจานีสที่แม้เวลาจะผ่านไปสองปี แต่ร่างงามที่กำเนิดใหม่จากพลังชีวิตแห่งผลึกมังกรยังคงสภาพของเด็กหญิงวัย 14 ปีเอาไว้ ราวกับนาฬิกาชีวภาพหยุดนิ่งตลอดไป ซึ่งผมทราบดีอยู่แล้วว่าชีวิตและวิญญาณของเด็กสาวเบื้องหน้าดำรงอยู่ได้ด้วย ปราณและพลังชีวิตที่ผมถ่ายทอดให้เท่านั้น

ใบหน้าน่ารักของเด็กสาวผู้ก่อกำเนิดใหม่ หลังถูกเพลิงมังกรสลายร่างในบ่อมังกรเทวะของสำนักมังกรฟ้า จับจ้องอยู่ที่แผ่นหนังเล็กๆ เก่าคร่ำคร่าเบื้องหน้า ริมฝีปากน้อยๆ เม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด จากการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาตลอดสองปี ผมรู้ว่านี่คืออาการจมอยู่ในสมาธิของจานีสที่จะดึงความสนใจของเด็กสาวไปทั้ง หมดโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ผมอดยิ้มออกมาในใจไม่ได้ขณะเคลื่อนร่างอย่างแผ่วเบามาทางเบื้องหลังของเด็ก สาว ซึ่งหากร่างบื้องหน้าเป็นน้องริน น้องกิฟท์ น้องทิพย์ เซี่ยวเล้ง หรือน้องรินที่ล้วนเป็นผู้ทรงปราณระดับสูงแล้ว ผมจะไม่มีทางเข้าใกล้ได้แบบนี้เพราะปราณในร่างจะรับรู้การเคลื่อนไหวรอบตัว ได้ในทันที

สะโพกอวบที่เบื้องหน้าขยับเล็กน้อยจากการเปลี่ยนอิริยาบถของจานีส ผิวสีน้ำผึ้งเต่งตึงปรากฏรางเลือนภายใต้เนื้อผ้าบางเบาที่แทบไม่สามารถปิด กั้นสายตาของผู้ทรงปราณเช่นผม สายตาผมมองทะลุไปยังพลูเนื้ออวบอิ่มที่อวดความงามทางด้านหลังระหว่างสองขา ที่แยกจากกันเล็กน้อย กลิ่นกายหอมละมุนของจานีสกรุ่นมากระทบประสาทสัมผัสของผม จนทำให้แก่นกายที่ผมพยายามระงับเอาไว้เมื่อครู่เริ่มขยายตัวลุกชูชันอีก ครั้ง แต่ในเมื่อห้องสมุดที่เงียบสงบนี้มีเพียงผมกับจานีส ผมจึงตัดสินใจที่จะไม่ควบคุมที่พลุ่งขึ้นมา ท่อนเนื้อยาวเหยียดที่ว่างเว้นจากการร่วมรักมาสามวันเต็มกลับคืนสู่ความแข็ง แกร่งในทันที ขณะที่สะโพกของจานีสเบื้องหน้าเริ่มบิดส่ายไปมาพร้อมกับจิตของเด็กหญิงที่ รำพึงกับตัวเอง

‘อูว์..สงสัยพี่เอกำลังจะเย็ดใครใกล้ๆ นี้อีกแล้ว….เฮ้อ’

ผมอดขำกับจิตของจานีสที่กำลังถูกโน้มนำจากความต้องการของผมไม่ได้ สองปีที่ผ่านมาทำให้ผมคุ้นเคยกับการที่หญิงสาวรอบกายผมทุกคนถูกกระตุ้นจาก ความต้องการทางเพศของผม แต่จากการทดสอบนับครั้งไม่ถ้วนผมก็สามารถกำหนดได้ว่าจิตที่ถูกโน้มนำจะอยู่ ในรัศมีไม่เกิน 20 เมตร และนี่เองทำให้จานีสรำพึงออกมาเมื่อเกิดความต้องการทางเพศ เนื่องจากเด็กหญิงรู้ดีว่าผมต้องเกิดอารมณ์เพศอยู่ใกล้ๆ เพียงแต่ไม่ทราบว่าบุคคลที่ผมกำลังจะร่วมรักด้วยมิใช่ใครอื่นนอกจากตัวเอง

‘อุ๊ย….อะ…พะ พี่เอ….อื๋ย’

เพียงผมใช้มือดึงชายชุดนอนของจานีสขึ้นมาเหนือเอว จานีสก็สะดุ้งเฮือกและร้องอุทานออกมาเมื่อมือผมวางลงบนสะโพกเต่งตึงเบื้อง หน้า ร่างเด็กสาวพยายามหันตัวกลับแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากสองมือผมยึดตรึงเอา ไว้ในท่าหันหลัง และเมื่อผมเคลื่อนแก่นกายที่แข็งเขม็งเข้าจ่อกับร่องรักจากทางด้านหลัง ร่างอวบอัดก็สั่นระริกในทันทีที่ส่วนปลายแก่นกายผมจรดอยู่กับสองแคมนุ่มนวล ที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อลื่นของจานีส

‘พะ พะ พี่เอ…ยะ อย่าเพิ่ง อูวส์…’

จิตกระท่อนกระแท่นของจานีสส่งออกมาราวกับจะห้ามปราม แต่เมื่อส่วนปลายของแก่นเนื้อแทรกผ่านความรัดรึงของแคมรักอวบเข้าไปจนมิดหัว เด็กสาวก็กลับครางออกมาด้วยความเสียว สองขาแยกออกจากกันอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่ร่างท่อนบนฟุบฮวบลงกับพื้นโต๊ะโดยไม่สามารถควบคุมได้

‘ก็จานีสแต่งตัวแบบนี้ อยู่ในท่านี้ พี่จะทนได้ยังไงกันล่ะ…’

จิตผมส่งไปอย่างนุ่มนวล ขณะขยับร่างดันแก่นกายเข้าไปในความอบอุ่นรัดรึงของร่างกายจานีสจนจมมิดลงไป สุดความยาว หน้าท้องผมอัดแน่นกับสะโพกอวบอิ่ม ขณะที่สองมือผมย้ายตำแหน่งจากการเกาะกุมสะโพกสอดเข้าไปด้านหน้าเคล้นคลึงนม เต่งตั่งคู่งามไว้ทั้งสองเต้า ก่อนที่จะเริ่มกระเด้าความหนึบแน่นช้าๆ

‘โอ๊วส์..พี่เอ…มันลึกจัง….แน่นไปถึงหน้าท้องเลย’

‘จานีสไม่ชอบหรือ…งั้นพี่เอาออกนะ…’

ผมแกล้งส่งจิตหยอกเย้าเด็กสาว และทำทีจะดึงแก่นเนื้อออกจากร่องรักที่กำลังตอดหนุบหนับ ทำเอาจิตจานีสอุทานออกมาแล้วโก่งสะโพกตามออกมาทันที

‘มะ ไม่เอานะ…พี่เอ…อย่าเอาออกไป ว๊าย….’

จิตจานีสร้องลั่นเมื่อแทนที่ผมจะดึงแก่นกายออกตามที่แกล้งบอก ผมกลับกดอัดมันพรวดเดียวกลับเข้าไปในหลืบรักในจังหวะเดียวกับที่เด็กหญิง โก่งสะโพกดันตามออกมา แรงปะทะทำให้แท่งเนื้อผมอัดเข้าไปจนสุดโคน ส่วนปลายที่ไวต่อความรู้สึกกดเบียดอยู่กับปากมดลูกจานีส จนร่างน้อยสั่นสะท้าน

‘โอย….พี่เอบ้า…มดลูกจานีสพังหมดพอดี…..ซีดส์’

‘ไม่ต้องกลัวพังหรอก…เดี๋ยวพี่จะใช้ปราณซ่อมให้….อูว์ หีจานีสตอดควยพี่แน่นเลยนะ.. ’

‘ ก็ควยพี่เอทั้งยาวทั้งใหญ่จนชนมดลูกแบบนี้ หีจานีสจะไม่ตอดได้ยังไง…อาห์..พี่เอ…จานีสเสียว..อย่าเพิ่งบี้หัวนมจานีสแบบนั้น’

หัวนมกลมเล็กของจานีสแข็งตัวราวกับก้อนหินในอุ้งมือผมที่เร่งบี้เคล้นความ เต่งตึงของสองเต้าวัยสาว สองมือจานีสยันร่างท่อนบนขึ้นเหยีดกายให้ให้ผมเฟ้นฟอนเต้านมงามอย่างเต็มที่ ทั้งที่จิตของเด็กหญิงครางราวกับจะห้ามปราม

‘โอยพี่เอ…เย็ดแรงๆ โอ๊วส์ จานีสจะแย่แล้ว….’

‘จานีสแน่นไปหมดทั้งตัวเลยนะ….ไม่ต่างอะไรกับที่พี่เย็ดจานีสครั้งแรกเลย..’

‘ก็ร่างกายจานีสไม่เติบโตตามเวลานี่พี่เอ…พี่เอเบื่อหรือเปล่าที่ต้อง ต้อง อูย..สะ เสียว…ต้องมาเย็ดร่างกายของเด็กอายุ 14 แบบจานีส…’

‘พี่จะเบื่อได้ยังไง ไม่ว่าร่างกายหรือหีจานีส มีแต่จะดึงดูดให้พี่เย็ดตลอดเวลา…อูย…จานีส..พี่ พี่ จะไม่ไหวแล้วนะ…’

‘พะ พะ พี่เอ…ไม่ต้องยั้งแล้ว…จานีสก็ ก็….อ๊ายยยยยย’

สองแขนจานีสเหยียดดันร่างขึ้นสุดตัว สะโพกกลมกลึงสั่นระริก กล้ามเนื้อทุกส่วนภายในร่องรักตอดแก่นกายผมถี่ยิบ บีบเคล้นจนผมต้องสูดลมหายใจเฮือกแล้วปล่อยน้ำรักที่อัดอั้นมาตลอดสามวัน กระฉูดเข้าไปในร่างจานีสเป็นสายราวน้ำพุ พร้อมกับร่างผมที่ฟุบลงกับแผ่นหลังนวลเนียน ปล่อยให้ปราณในร่างส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายจานีสเพื่อโคจรไปตามจักรทั้งสี่และ เส้นเลือดทุกสาย

‘โอย..พี่เอ…จานีสมีความสุขเหลือเกิน จานีสต้องการเหลือเกินที่จะอยู่รับใช้พี่เอด้วยความรู้และร่างกายกับพี่เอตลอดไป …’

จิตอ่อนระโหยด้วยความสุขสมของจานีสดังขึ้น ขณะที่ปราณผมเข้าวนเวียนในร่างกายเด็กสาว แต่ถ้อยคำที่จานีสส่งมาทำให้ผมอดแปลกใจไม่ได้ เพราะมันดูราวกับว่าเด็กหญิงกำลังมีความกังวลบางอย่างซ่อนอยู่ในจิตใจ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะถาม ปราณของผมที่วนเวียนอยู่ในร่างจานีสก็ได้สัมผัสว่าอวัยวะสำคัญในร่างกายเด็ก สาวปรากฏการเสื่อมสลายลงเล็กน้อย ทำให้ผมต้องรีบส่งพลังชีวิตที่ได้จากผลึกมังกรเข้าไปปรับสภาพให้ฟื้นฟูกลับ สู่ปกติ.. ซึ่งแม้จะใช้เวลาไม่นานนัก แต่การเสื่อมสลายที่เกิดขึ้นทำให้ผมเกิดความกังวลขึ้นมา ขณะที่จานีสส่งจิตมายังผมอย่างนุ่มนวล

‘พี่เอพบการเสื่อมสลายของอวัยวะภายในจานีสแล้วใช่ไหม’

ผมอดสะท้านใจกับนื้อความที่จิตจานีสส่งมาให้ไม่ได้

‘พี่พบแล้ว แต่จานีสไม่ต้องห่วงนะ พี่ใช้ปราณปรับเข้าสู่สภาพเดิมแล้ว..จานีสไปทำอะไรมาหรือเปล่า ทำไมอวัยวะภายในถึงเสื่อมสลายได้ล่ะ’

จานีสถอนหายใจเบาๆ

‘จานีสไม่ได้ทำอะไรหรอกพี่เอ…สิ่งนี้เริ่มปรากฏเมื่อสามเดือนที่แล้ว แต่พี่เอไม่ทันสังเกตเพราะพวกเราเย็ดกันแทบทุกวัน ปราณของพี่เอปรับสภาพร่างกายของจานีสตลอดเวลา จนจานีสเองก็ไม่สามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่เมื่อพี่เอกักตัวฝึกปราณสามวันในครั้งนี้ จานีสจึงรู้ตัวว่าร่างกายของจานีสเริ่มเกิดการเสื่อมสลายลงอย่างช้าๆ แม้ว่าในขณะนี้มันจะยังคงไม่มีปัญหา แต่อีกไม่นานนักมันจะเสื่อมสลายเร็วขึ้น จากการศึกษาของจานีสพบว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ร่างกายจานีสจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็วจนต้องให้พี่เอถ่ายปราณรักษาสภาพให้ทุก วัน’

คำบอกเล่าของจานีสทำให้ใจผมวูบลงทันที และรู้ดีว่าด้วยว่าการวิเคราะห์ที่มีพื้นฐานจากความรู้ที่สร้างสมมากว่าร้อย ปีของจานีสนั้นไม่มีทางที่จะผิดพลาดได้อย่างแน่นอน ผมขบกรามแน่น ปราณที่ส่งเข้าไปในร่างจานีสยังคงวนเวียนไม่หยุดยัง ขณะที่ผมส่งจิตตอบ

‘พี่ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร…หากจานีสจำเป็นต้องได้รับการถ่ายทอดปราณทุก วัน พี่ก็จะเย็ดจานีสทุกวัน ดีเสียอีกที่จานีสจะได้ไม่มีข้ออ้างหลีกเลี่ยงการเย็ดกับพี่อีก…’

ใบหน้าน่ารักของเด็กสาวชาวเนปาลีแดงระเรื่องเมื่อผมบอกถึงความตั้งใจของผมออกไป ก่อนส่งจิตตอบมา

‘นั่นหมายความว่าจานีสจะต้องติดตามพี่เอตลอดเวลา…และพี่เอจะต้องเย็ดจานีสมากขึ้นเรื่อยๆ พี่เอจะไม่เบื่อจานีสหรือ’

ผมสูดลมหายใจลึก ดึงปราณที่โคจรครบรอบกลับเข้าสู่ร่าง ก่อนดึงแก่นกายที่ยังอัดแน่นอยู่ในหลืบรักจานีสทางด้านหลังออกมาช้าๆ

‘พี่จะเบื่อจานีสได้ยังไงในเมื่อ……หีจานีสทั้งตอดทั้งคับแบบนี้’

‘อ๊ายงงงงพี่เอ….พะ พะ พอแล้ว…จานีสไม่ไหวแล้ว’

จานีสส่งจิตครวญครางเมื่อผมอัดแก่นเนื้อกลับเข้าไปในหลืบรักอีกครั้ง ก่อนสั่นศีรษะเป็นเชิงประท้วง…ทำให้ผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ และค่อยๆ ถอนแท่งเนื้อออกมา แต่ยังไม่ทันที่หัวบานจะพ้นการบีบอัดของสองแคมอวบ จานีสก็ส่งจิจมาอย่างเอียงอาย

‘พี่เอ…ไหนๆ พี่เอก็เย็ดจานีสแล้ว พี่เอเดินปราณเข้าจักรของจานีสอีกครั้งได้ไหม จานีสอยากอาศัยปราณพี่เอ เพื่อใช้วิชาเนตรจักราลตรวจสอบอันตรายที่อาจเกิดกับพวกเราสักหน่อย แต่พี่เอคงต้องเปลี่ยนท่าโดยไม่ให้ควยพี่เอจะหลุดดออกจากแคมจานีสนะ’

ผมอดยิ้มในใจไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าหากผมถอนแก่นกายออกจากร่างเด็กสาว ก็จะเป็นการปิดกั้นการเชื่อมโยงของปราณในทันทีและหากจะถ่ายปราณให้จานีสใช้ วิชาเนตรจักรวาลได้ ก็หมายความว่าผมต้องร่วมรักกับจานีสอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจากท่าทางอ่อนระโหยของจานีสทำให้ผมรู้ว่าเด็กสาวยังไม่พร้อมที่จะเริ่ม เกมรักอย่างต่อเนื่อง ผมสูดลมหายใจผนึกปราณในร่างขึ้นเพื่อลอยตัวขึ้นกลางอากาศพร้อมจานีส ก่อนหมุนสลับทิศทางร่างกายเพื่อจัดให้จานีสมาอยู่ทางด้านหน้าโดยไม่ต้องถอน แก่นกายออกจากร่างเด็กสาว และจัดร่างจานีสให้อยู่ในท่าครอมร่างผมไว้ ก่อนที่ผมจะทิ้งตัวลงที่เตียงพักผ่อนในห้องสมุดในท่านอนหงายโดยมีร่างที่ยัง อยู่ในชุดนอนของจานีสคร่อมทับอยู่

‘อูย…พี่เอง.หมุนควงแบบนี้ ควยพี่เอบดหีจานีสจนแทบฉีกเลยนะ…’

จานีสสูดปากออกมาอย่างลืมตัว พร้อมกับส่งจิตบ่นออกมา แต่เมื่อผมเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อนอนจานีสถลกออกทางศีรษะ เพื่อชมความงามของเรือนร่างเด็กสาว จานีสก็ยกมือขึ้นชูเหนือศีรษะเปิดทางให้ผมดึงชุดนอนตัวหลวมออกไปโดยไม่ขัด ขวาง ปล่อยให้ทรวงอกตูมเต่งเป็นอิสระ ซึ่งแม้ผ่านการร่วมรักและฟอนเฟ้นมานับไม่ถ้วน แต่ทรวงอกของจานีสก็ยังคงความงามของเด็กสาวแรกรุ่นเอาไว้อย่างสมบูรณ์ หัวนมสีน้ำตาลที่ถูกเลือดสูบฉีดจนเปล่งประกายสีแดงจางๆ แข็งตัวเป็นเม็ดกลมเต่งบนผิวเต่งตึงที่ดูราวจะปริแตกเมื่อสัมผัส งดงามจนผมอดไม่ได้ที่จะต้องเอื้อมมือไปเคล้นคลึงนมคู่งามเบื้อหน้า เด็กสาวคร่อมอยู่เหนือร่างผมโดยแท่งเนื้อยังคงฝังแน่นอยู่ในหลืบรักอัน รัดรึง สองแขนจานีสยันออกผมไว้เพื่อให้ร่างตั้งตรง ใบหน้าที่เคยสะท้อนความเสียวยามร่วมรักกลับเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง เป็นสัญญาณของการรวบรวมปราณในร่างเพื่อใช้วิชาเนตรจักรวาล

ปราณในร่างผมที่ส่งถ่ายไปยังจานีสเคลื่อนที่ไปตามวิถีจิตแห่งวิชาเนตร จักรวาล ตลอดห้วงที่ผ่านมาผมช่วยให้จานีสใช้วิชานี้ในการทำนายมาตลอดจนผมรู้ถึงทิศ ทางและวิธีการใช้ปราณของจานีสเป็นอย่างดี แต่กระบวนการผนึกจิตเพื่อรับรู้อนาคตนั้นเป็นวิชาเฉพาะตัวของจานีส แม้ว่าจานีสจะไม่ได้ปิดบังและพยายามสอนให้ทุกคนรับรู้ แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครสามารถเรียนรู้วิชาเนตรจักรวาลได้แม้แต่เพียง ผิวเผิน

สองมือผมยังคงเค้นรับความนุ่มละมุนที่แฝงแรงดีดสะท้อนของสองเต้างามอย่างไม่ รู้เบื่อ และรับรู้ถึงหัวนมที่ถูกปลุกเร้า พร้อมกับน้ำหล่อลื่นที่ไหลหลั่งออกมาจากสองแคมรักชุมโชก แต่ดวงหน้าจานีสยังคงอยู่ในความสงบของสมาธิระดับสูงที่แบ่งแยกจิตใจออก จากร่างกายที่ถูกกระตุ้นออกจากกันอย่างเด็ดขาด

เวลาผ่านไปกว่าสิบห้านาที ก่อนที่จานีสจะระบายลมหายใจออกมา จิตที่เคยแยกออกจากร่างกายกลับเข้าครองร่าง พร้อมกับใบหน้าแดงซ่านเมื่อพบว่าร่างกายตนเองกำลังถูกปลุกเร้าจนพร้อมสำหรับ การร่วมรักอีกครั้ง

‘อื๋ย…พะ พะ พี่เอนี่…ไม่เคยปล่อยให้หีจานีสหยุดเลยนะ…อูว์’

ผมยิ้มให้จานีส ก่อนเริ่มขยับสะโพกเบื้องล่างให้บดคลึงกับติ่งเสียวของเด็กสาว สองมือจับเอวคอดกิ่วเอาไว้เป็นหลักทรงตัวให้จานีส ที่เริ่มยกสะโพกกลมกลึงขึ้นลงอย่างช้าๆ

‘ อาห์…ขืนอยู่ใกล้พี่เอแบบนี้ จานีสคงต้องเย็ดกับพี่เอทั้งวันแน่…..อูย สะ เสียวดีจัง…’

จานีสส่งจิตครางออกมา ขณะที่ผมรับรู้ความบีบกระชับของหลืบเนื้อรัดรึงด้วยความเสียวไปทั้งร่าง ภาพแคมรักอวบอิ่มที่กำลังกลืนกินแท่งเนื้อเข้าออก ตามจังหวะการกระเด้าของจานีส น้ำหล่อลื่นชุมโชกส่งกลิ่นหอมคาวอ่อนกรุ่นมากระทบจมูกยิ่งเพิ่มความเสียวให้ ผมจนต้องกระเด้งสะโพกตอบรับจานีสทุกจังหวะ

‘จะ จานีส …สะ เสียวเหลือเกินพี่เอ….’

‘พี่ก็..ก็ จะไม่ไหวแล้ว….จานีสเก่งขึ้นทุกวันเลยนะ…อาห์’

‘ก็ใครสอนให้จานีสรู้จักการเย็ดล่ะล่ะ เดี๋ยวนี้จานีสแทบจะขาดควยพี่เอไม่ได้แล้ว…อ๋าย….’

จิตจานีสส่งเสียงกระท่อนกระแท่น ขณะร่างสั่นระริกเด็กสาวทรุกฮวบลงทาบร่างผมไว้ มดลูกส่วนลึกของจานีสส่งแรงตอดมายังส่วนหัวแท่งเนื้อถี่ยิบ จนผมไม่สามารถกลั้นไว้ได้อีกต่อไป สองแขนผมโอบรัดร่างงามที่ทาบอยู่ด้านบนไว้แน่น พร้อมกับแอ่นสะโพกฉีดน้ำรักขึ้นไปในโพรงรักอันแน่นหนึบเป็นระลอก ร่างจานีสสั่นระริกเกร็งกระตุกเป็นจังหวะ ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงทีละน้อยและฟุบร่างแน่นิ่ง ผมเอื้อมมือไปเชยคางกลมมนของเด็กสาวขึ้น และจูบริมฝีปากน้อยๆ อย่างนุ่มนวล

‘จานีสเป็นไงบ้าง มีความสุขไหม’

ลิ้นเรียวเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นผมอย่างนุ่มนวล ก่อนที่จิตจานีสจะส่งเสียงตอบเบาๆ

‘พี่เอก็รู้ว่าจานีสมีความสุขที่สุด …’

‘แล้วเมื่อกี้วิชาเนตรจักรวาลของจานีสบอกอะไรให้รู้บ้างหรือเปล่า’

‘จานีสตรวจความเคลื่อนไหวของจักราศีผ่านวันเดือนปีเกิดของคนในจักรราศีที่จา นีสรู้จัก แต่ไม่พบว่ามีสิ่งบอกเหตุที่เกี่ยวข้องกับเราเลย..ส่วนกลุ่มเทวนารีก็ยังคง สงบนิ่ง มีเพียงตุลยาเทวีแห่งราศีตุลย์ กับนารีธนูแห่งราศีธนู ที่จานีสพบว่ามีการเคลื่อนไหว แต่จานีสเองก็ไม่รู้ว่าเทวะนารีทั้งสองจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราหรือ เปล่า’

จิตจานีสตอบผมอย่างหนักแน่นตามลักษณะความมั่นใจในวิชาเนตรจักรวาลของตนเอง

‘เป็นไปได้หรือไม่ที่เทวะนารีทั้งสองจะร่วมกันโจมตีพวกเรา’

ผมส่งจิตถามจานีสอย่างไม่จริงจังนัก แต่จานิสสั่นศีรษะทันที

‘นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรอกพี่เอ..ด้วยพลังปราณเหนือโลกของเทวะนารี ไม่มีความจำเป็นใดที่เทวะนารีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน และไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของจักรราศี ยกเว้นการต่อสู่กับเผ่าพันธุ์มังกรเมื่อหมื่นปีก่อนเท่านั้น ที่สำคัญที่สุดพี่เอต้องไม่ลืมว่าแม้พี่เอจะมีปราณเข้มแข็งในระดับเดียวกับ เทวะนารี แต่หากเทวะนารีต่อสู้พ่ายแพ้ก็สามารถสลายพลังของตนเองตกตายพร้อมคู่ต่อสู้ ได้ด้วยการระเบิดปราณในร่างกายที่ทำลายทุกสรรพสิ่งรอบข้าง คู่ต่อสู้ไม่มีทางจะรอดชีวิตได้แม้จะมีจำนวนมากเท่าใดก็ตาม ดังนั้นเทวะนารีจึงทำหน้าที่เพียงลำพังเสมอมา’

‘ถ้าเช่นนั้น จานีสคิดว่าตอนนี้พวกเราพอจะต่อสู้กับเทวนารีได้หรือยัง’

ผมลูบไล้แผ่นหลังเรียบเนียนของจานีสไปมา ขณะส่งจิตถามข้อสงสัยที่ค้างอยู่ในใจ จานีส นิ่งงันไปครู่หนึ่งก่อนถอนจูบออกและมองหน้าผมอย่างเป็นกังวล

‘พี่เอ จานีสขอตอบพี่ตรงๆ ว่าแม้พี่เอจะมีปราณสูงสุดยอดเทียบได้กับเทวะนารี แต่พี่เอต้องไม่ลืมว่าที่ผ่านมาแม้พี่เอจะชนะเซี่ยวเล้งได้ นั่นก็เป็นเพราะเซี่ยวเล้งเกิดนิมิตรที่ลดทอนพลังอำนาจของผลึกจักรราศรี อีกทั้งเกราะกาฬปราณของพี่เอสลายเกราะมังกรฟ้าของเซี่ยวเล้ง จนพี่เอสามารถทำลายพรหมจรรย์เซี่ยวเล้งได้ก่อนที่เซี่ยวเล้งจะสลายปราณทำลาย ล้างทุกสิ่ง แต่หากเป็นเทวะนารีผู้อื่น แม้พี่เออาจจะชนะในการปะทะปราณแต่พี่เอก็ไม่มีทางรอดพ้นจากอำนาจทำลายล้าง อันเกิดจากการสลายปราณของเทวนารี ดังนั้นจานีสจึงจำเป็นต้องบอกว่า ตราบใดที่ปราณพี่เอยังไม่อยู่ในระดับเทพเจ้าเฉกเช่นเทพสุรัสวดี พี่เอหรือแม้กระทั่งพวกเราทุกคนรวมกัน ก็ไม่มีทางชนะเทวะนารีคนใดคนหนึ่งโดยที่พวกเราสามารถรอดชีวิตมาได้…’

คำตอบของจานีสทำให้ผมต้องถอนใจยาว เพราะนั่นหมายความว่าถึงผมและภรรยาทุกคนจะมีปราณในระดับใกล้เคียงเทวะนารี แต่หากต้องต่อสู้กัน ผมและทุกคนก็ไม่สามารถรอดชีวิตได้หากเทวะนารีต้องการสละชีวิตในการต่อสู้

‘จานีสเคยบอกพี่ว่าหากพี่สามารถผสานพลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคีเข้ากับพลัง ชีวิตจากผลึกมังกรวารีได้ ปราณของพี่จะเข้าสู่ภาวะเทียมเทพเจ้า แต่จานีสเองก็ยอมรับว่าไม่มีทางที่จะไปยังสถานที่ซึ่งผลึกมังกรวารีสถิตย์ อยู่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่าพวกเราจะต้องหลบซ่อนตัวจากจักรราศีไปตลอด ชีวิตใช่ไหม’

ดูเหมือนจานีสจะจับน้ำเสียงผิดหวังในจิตผมได้ เด็กสาวเอื้อมมือมากุมมือผมไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนส่งจิตนุ่มนวลมาให้

‘พี่เอลืมน้องพิมไปแล้วหรือ อีกสามปีน้องพิมก็จะมีประจำเดือนครั้งแรก เมื่อพี่เอรับพรหมจรรย์ของน้องพิมมาพร้อมธารอสุระ ผสานอำนาจแห่งอัคคีเทพ จิตมาร วารีนาคราช และธารอสุระเข้าด้วยกัน พี่เอจะสำเร็จปราณสูงสุดแห่งธาตุธรรมชาติ ที่เหนือกว่าเทวะนารีทั้งมวล เมื่อถึงเวลานั้น เทวะนารีนางใดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่เอ..แต่’

การบอกเล่าทางจิตของจานีสทำให้ภาพเด็กหญิงวัยแปดปี ผุดขึ้นมาในจิตของผม ใบหน้ากลมแจ่มใส และรูปร่างที่กำลังเติบโตไปสู่ความเป็นสาวอย่างช้าๆ เพื่อกลับไปสู่ร่างของน้องพิมวัย 12 ปีที่ผมเคยร่วมรักด้วยในอดีต ช่วงสองปีที่ผ่านมา น้องพิมได้มาพักรวมกับผมและภรรยาทุกคนในที่อาคารใต้ดิน เนื่องจากทุกคนทราบดีว่าเด็กหญิงผู้น่ารักคนนี้จะมีบทบาทสำคัญและจะต้องอยู่ ร่วมกับทุกคนในฐานะภรรยาอีกคนหนึ่งของผมในอนาคต ทำให้หน้าที่ในการดูแลและให้การศึกษาน้องพิมถูกกระจายไปยังทุกคนอย่างเท่า เทียม อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้ที่น้องพิมผูกพันใกล้ชิดที่สุดคือน้องทิพย์ ผู้เคยใช้ชีวิตร่วมกับน้องพิมในอนาคต

เมื่อนึกถึงน้องพิม ผมก็อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ เพราะน้องพิมดูจะแสดงอาการเป็นเจ้าของและหวงแหนผมอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากน้องริน น้องกิฟท์ น้องนิว น้องทิพย์ เซี่ยวเล้งและจานีสแล้ว หากผมมีการพูดจากับบริวารสตรีคนใดของตระกูลคชสีห์และโรหิณีให้น้องพิมเห็น น้องพิมจะแสดงอาการกระเง้ากระงอดและเข้าแยกผมออกมาทันที จนเป็นเรื่องที่ขบขันระหว่างสมาชิกของครอบครัว รวมทั้งเหล่าบริวารสตรีทุกคนที่รู้ว่าหากเห็นน้องพิมอยู่กับผม จะไม่มีใครเข้ามาใกล้อย่างเด็ดขาด แต่ก่อนที่ผมจะส่งจิตแสดงความคิดเห็นใดๆ จิตที่แฝงน้ำเสียงกังวลของจานีสก็ดังต่อเนื่องขึ้นมา

‘…แต่การรวมธาตุธรรมชาติ ก็จะทำให้พี่เอกลายเป็นผู้ก่อกำเนิดกัลป์สูญ ที่จะทำลายจักราศรีซึ่งนั่นหมายความว่า ภารกิจของจักราศรีจะถือการทำลายพี่เอเป็นเป้าหมายสูงสุด และพี่เอจะไม่มีสถานะเป็นมนุษย์โลกที่มีกฏแห่งเทวะห้ามเหล่าเทพเข้ามายุ่ง เกี่ยวอีกต่อไป การดำรงอยู่ของผู้ก่อเกิดกัลป์สูญอันเป็นสถานะเหนือมนุษย์โลก จะเป็นการทำลายข้อจำกัดห้ามลงสู่โลกหล้าของเทพสุรัสวดีในทันที คราวนี้ผู้ที่พี่เอจะต้องเผชิญหน้าจะไม่ใช่เทวะนารีนางใดนางหนึ่งอีกแล้ว แต่จะเป็นองค์เพทสุรัสวดีเอง และเหล่าเทวะนารีทั้งหมด จะร่วมผนึกพลังทำลายพี่เอและพวกเราเช่นเดียวกับที่เคยร่วมต่อสู้กับเผ่า พันธ์มังกรเมื่อหมื่นปีก่อน จานีสคิดว่าเรื่องกำหนดเวลาของน้องพิมที่จะสามารถถ่ายทอดธารอสุระในอีกสามปี ข้างหน้านี้ จักรราศรีก็รู้เช่นกัน และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ช่วงนี้ทุกสิ่งสงบเงียบ..เพื่อเตรียมโจมตีพวก เราในอีกสามปีข้างหน้าในทันทีที่ข้อจำกัดแห่งเทวะถูกยกเลิก’

คำบอกเล่าของจานีสทำให้ผมสะท้านใจต่ออนาคตที่กำลังจะมาถึง แต่ผมพยายามระงับใจเอาไว้และส่งจิตตอบจานีสอย่างร่าเริง

‘อะไรมันจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเถอะ ขอเพียงพี่มีน้องทุกคนที่พี่รักอยู่ข้างกาย ถึงจะมีชีวิตต่อไปได้อีกเพียงสามปีแต่พี่ก็แน่ใจว่าจะเป็นชีวิตที่พวกเรามี ความสุขที่สุด แต่ตอนนี้พี่กำลังคิดว่าจะมีความสุขกับจานีสอีกสักครั้งดีไหมนะ…’

ประโยคสุดท้ายที่ผมส่งจิตให้จานีส ดูเหมือนจะได้ผล เพราะเด็กสาวหัวเราะคิกออกมาอย่างลืมตัว ก่อนยกมือน้อยๆ ขึ้นทุบอกผม

‘พี่เอนี่ พอปล่อยอารมณ์จากการสะกดปราณทีไร พวกจานีสทุกคนแทบคลานกลับห้องตัวเองไม่ได้ทุกที แต่ตอนนี้จานีสขอร้องให้พี่เอสะกดปราณไว้ก่อนนะ เพราะจานีสอยากคุยเรื่องอื่นกับพี่เอ…’

จิตที่ส่งน้ำเสียงเป็นงานเป็นการของจานีส ทำให้ผมนึกถึงสาเหตุที่ผมมาหาจานีสขึ้นมาได้

‘จริงสิ พี่มาหาจานีสเพราะโน๊ตที่จานีสเขียนบอกไว้ จานีสมีอะไรจะบอกพี่หรือ’

‘พี่เอถอนควยออกไปก่อนนะ…แล้วอย่าลืมสะกดปราณไว้ก่อน ไม่งั้นจานีสคงเล่าให้พี่ฟังไม่ได้แน่’

ผมพยักหน้ารับ พร้อมกับพลิกร่างจานีสให้มาอยู่ในท่าตะแคงแล้วค่อยๆ ถอนแก่นกายที่ฝังแน่นในหลืบรักเด็กสาวออกมาช้าๆ ปล่อยให้น้ำรักมหาศาลไหลรินออกมาเจากสองแคมป็นสาย แต่ดูเหมือนว่าจานีสจะไม่สนใจทำความสะอาดร่างกายแต่อย่างใด เด็กสาวรีบลุกขึ้นทั้งที่ร่างงามยังเปลือยเปล่า และพยักหน้าให้ผมเดินตามไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่เคยเป็นสถานที่ร่วมรักก่อน หน้านี้

ทันทีที่ผมเดินมาถึงโต๊ะพร้อมจานีส นิ้วของอดีตโหราทาสก็ชี้ไปที่แผ่นหนังสี่เหลี่ยมจัตุรัสเก่าคร่ำคร่าขนาด ประมาณหกนิ้วที่วางอยู่บนพื้นโต๊ะ บนแผ่นหนังมีลายเส้นประหลาดโยงใยสับสน ประกอบกับตัวอักษรที่แปลกตาจารึกอยู่รอบขอบทุกด้าน แต่ก่อนที่ผมจะถามสิ่งใด จิตของจานีสก็ดังขึ้น

‘จานีสได้แผ่นหนังจารึกนี้มาเมื่อสามอาทิตย์ก่อน มันแทรกอยู่ในปกของหนังสือโบราณของตระกูลคชสีห์ที่จานีสหยิบมาศึกษา ตอนที่จานีสจะเก็บบังเอิญปกของมันไปเฉี่ยวกับขอบตู้จนขาดออกเป็นช่องเล็กๆ ทำให้จานีสเห็นแผ่นหนังนี้แทรกอยู่ใต้ปก เลยดึงออกมาดู ทีแรกจานีสเองก็งงกับจารึกที่ปรากฏ แต่พอศึกษาเปรียบเทียบกับภาษาเทวนาครีก็พบว่ามีความคล้ายคลึงกันในรูปอักขระ อยู่บ้าง แต่การออกเสียงกลับแตกต่างกัน จานีสพยายามเทียบเคียงภาษาโบราณที่เคยเรียนรู้มานับร้อยภาษา จนเมื่อวานนี้เองที่จานีสได้พบว่ามันคือการออกเสียงในภาษากูโบสที่เป็นภาษา แห่งเทพเจ้ายุคอาณาจักรปราณ และเมื่อถอดแปลออกมาจานีสก็รับรู้เนื้อหาของมันได้ แต่ยังมีบางส่วนที่จานีสต้องขอความช่วยเหลือจากพี่เอนี่แหละ ’

อักขระและลายเส้นสับสนที่ปรากฏบนแผ่นหนังเก่าคร่ำคร่าเบื้องหน้า ดูสับสนจนผมเชื่อว่าหากไม่ใช่จานีสผู้ใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในหอสมุดแห่งจัก ราศรีแล้ว คงไม่มีผู้ใดสามารถทำความเข้าใจกับมันได้อีกแน่

‘แล้วจานีสจะให้พี่ช่วยอย่างไรล่ะ พี่เองก็ไม่เข้าใจอักขระเหล่านี้แม้แต่ตัวเดียวนะ’

เด็กสาวค้อนขวับให้ผมอย่างแง่งอน ก่อนส่งจิตตอบ

‘พี่เอนี่ไม่ได้ฟังจานีสเลยใช่ไหม จานีสบอกแล้วไงว่าจานีสแปลได้ นี่พี่เอเอาแต่จ้องนมจานีสอย่างเดียว….พี่เอช่วยจานีสก่อนนะ ถ้าพี่เอยังต้องการจานีสอีก จานีสจะให้พี่เอเย็ดทั้งวันเลยก็ได้’

ผมอดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ เมื่อรู้ว่าจานีสเข้าใจนิสัยผมกระจ่าง เพราะแม้ผมจะสกัดปราณระงับความต้องการทางเพสที่พลุ่งขึ้นมาตลอดเวลาได้ แต่ความงามของทรวงอกเต่งเต้าที่ด้านข้างก็ทำให้จิตใจผมไขว้เขวจนจับใจความ จิตที่จานีสส่งมาไม่สมบูรณ์ ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้เพื่อให้จานีสเริ่มแปลข้อความออกมา

กึ่งปัจฉิมกึ่งอุดร สิบสองวารจากหลักแห่งเทวะ ปัจฉิมศิลาปฏิสาร ค้างวานอยู่ในพิภพ ธนูเวียนบรรจบส่องหญิงพรหมจรรย์ทุกพันปี ศิลาส่องประกายสี ผู้มีวาสนาผ่านสระวงเดือนสิบโยชน์เข้าสู่คูหาศิลา เบื้องล่างนั้นไร้ทุกสิ่ง ทางแท้จริงเร้นเหนือคูหา นำจิตสมดุลย์สู่ประตูแห่งชะตา เผชิญหน้าศิลาปฏิสาร พลังแห่งจักรวาลมาเป็น……

จิตของจานีสหยุดแปลลงกระทันหัน ทั้งที่ข้อความยังไม่ยุติ ทำให้ผมซึ่งกำลังหลับตาเพื่อตรึกตรองความหมายของอัขระที่จานีสอ่าน ต้องลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย

‘อ้าว จานีสหยุดแปลทำไมล่ะ…’

‘ส่วนที่เหลือขาดหายไปน่ะพี่เอ…แต่เท่าที่จานีสแปลออกมาจานีสพอเข้าใจว่านี่คือลายแทงบอกแว้นทางไปสู่สิ่งที่เรียกว่าศิลาปฏิสาร’
‘แล้วศิลาปฏิสารคืออะไรล่ะจานีส มันสำคัญอย่างไรทำไมจึงต้องมีลายแทงด้วย’

ผมถามด้วยความสงสัย ขณะที่จานีสเองก็สั่นศีรษะไปมาช้าๆ

‘จานีสเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เท่าที่จานีสรู้จากบันทึกโบราณ ได้กล่าวถึงอีกจักรวาลหนึ่งที่อยู่คู่ขนานกับจักรวาลของเราแต่คนละมิติ ทุกสิ่งในจักรวาลนั้นล้วนตรงข้ามกับจักรวาลของเรา เชื่อกันว่าหากสสารใดไหลผ่านช่องว่างมิติไปสู่อีกจักรวาลหนึ่ง สิ่งที่รั่วไหลไปนั้นจะเรียกว่าปฏิสารที่มีอำนาจทำลายล้างจักรวาลอีกด้าน หนึ่งอย่างรุนแรงที่สุด ดังนั้นศิลาปฏิสารจึงน่าจะหมายถึงวัตถุจากอีกจักรวาลหนึ่งที่ตกค้างอยู่ใน จักรวาลนี้ และมีชิ้นหนึ่งที่ค้างอยู่ในโลกของเรา น่าเสียดายที่ท่อนสุดท้ายของตัวอักขระขาดหายไปประโยคหนึ่ง มิฉะนั้นเราคงรู้แล้วว่าศิลาปฏิสารมีไว้เพื่อประโยชน์ใด แต่อย่างไรก็ตามหากจานีสคาดเดาไม่ผิด ของสิ่งนี้น่าจะเกี่ยวพันกับพลังปราณรูปใดรูปหนึ่ง ’

ผมหันไปสบตาจานีสอย่างงุนงงกับคำอธิบายที่ดูจะเหนือความเข้าใจของผม

‘แล้วจานีสรู้หรือว่ามันอยู่ที่ไหน’

เด็กสาวผู้รอบรู้พยักหน้ารับอย่างมั่นใจ

‘จากข้อความในลายแทงบ่งชี้ถึงหลักแห่งเทวะ ซึ่งหมายถึงขุนเขาแห่งหิมาลัย อันเป็นถิ่นกำเนิดของจานีส และบ่งชี้ถึงระยะทาง วารที่กล่าวถึงคือมาตราวัดระยะโบราณที่มาจากการเดินทางของผู้ทรงปราณในหนึ่ง วัน ซึ่งเทียบได้กับระยะทางสามร้อยกิโลเมตรในปัจจุบัน ลายแทงบ่งชี้มาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ สิบสองวารเทียบได้กับระยะทางประมาณ สี่พันกิโลเมตร ซึ่งก็คือภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ลายแทงนี้มาอยู่ในประเทศไทย จานีสเชื่อว่าในอดีตคงมีคนตีความมันออกและพยายามมาหาศิลาปฏิสาร แต่คงไม่สำเร็จ ทำให้ต้องซุกซ่อนลายแทงนี้เอาไว้ในปกหนังสือ จนจานีสได้มาพบโดยบังเอิญ’

คำอธิบายของจานีสทำให้ผมเข้าใจสิ่งที่ลายแทงโบปราณบอกขึ้นมาเล็กน้อย

‘แล้วที่เหลือล่ะหมายความว่าอย่างไร’

จานีสเอนกายมาแนบร่างผม พร้อมส่งจิตแผ่วเบา

‘ก็นี่แหละที่ทำให้จานีสต้องขอให้พี่เอช่วย เพราะแม้จานีสจะมาอยู่กับพี่เอที่เชียงใหม่มาสามปีแล้ว แต่พี่เอก็รู้ว่าจานีสไม่เคยออกไปจากสถานที่นี้เลย จานีสจึงไม่มีทางตีความลายแทงนี้ได้’

ผมอดถอนใจเบาๆ ไม่ได้เมื่อคิดถึงการที่จานีสมาใช้ชีวิตในสถานที่นี้ เพราะเด็กสาวยังคงดูเหมือนจะยึดติดกับรูปแบบชีวิตเดิมที่ใช้มากว่าร้อยปีใน อดีต แม้ผมหรือน้องๆ ทุกคนจะพยายามชวนจานีสออกไปนอกบ้านคชสีห์บ้าง แต่จานีสก็จะยิ้มรับและขอตัวอย่างนุ่มนวลทุกครั้ง
‘แล้วจานีสตีความข้อความส่วนที่เหลืออย่างไรบ้างล่ะ’

‘ข้อความต่อจากการระบุตำแหน่งที่บ่งถึงภาคเหนือของประเทศไทยแล้ว จานีสเชื่อว่าธนูและหญิงพรหมจรรย์น่าจะหมายถึงเวลาที่ตำแหน่งของดวงดาวที่ เป็นลูกธนูของจักรราศรีธนูชี้ตรงไปยังดวงดาวตำแหน่งหัวใจของจักรราศรีกันย์ อาทิตย์ที่ผ่านมาจานีสได้คำณวนจักรดาราแล้วก็ต้องตกใจเพราะนั่นคือเวลาอีก สองวันหลังจากนี้…ที่ลูกธนูจะชี้ตรงไปยังหัวใจของหญิงพรหมจรรย์ ซึ่งเท่ากับว่าหากเราจะเสาะหาศิลาปฏิสาร เราจะต้องตีความบ่งชี้ที่ซ่อนของมันให้ได้ภายในสองวันนี้เท่านั้น มิฉะนั้นทุกอย่างจะสิ้นสุด แล้วต้องรอไปอีกหนึ่งพันปี ก่อนที่ศิลาปฏิสารจะปรากฏอีกครั้ง’

ผมอึ้งไปชั่วขณะกับสิ่งที่จานีสบอกเล่า แต่ในใจผมรู้ดีว่าถึงผมหรือแม้กระทั่งจานีสจะยังไม่สามารถรู้ถึงศิลาปฏิ สารอย่างแจ่มแจ้ง แต่ดูเหมือนว่าวัตถุนี้น่าจะเป็นของล้ำค่าที่มีความเกี่ยวพันกับผู้ทรงปราณ และหากมีอยู่จริงก็น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับบ้านคชสีห์ที่ต้องเตรี ยมตัวรับการโจมตีของจักรราศรีในอนาคตอันใกล้

‘แล้วจานีสตีความได้ไหมว่าศิลาปฏิสารอยู่บริเวณไหนในภาคเหนือของไทย’

อดีตโหราทาสผู้กลับกลายมาเป็นภรรยาคู่ใจและมันสมองแห่งตระกูลคชสีห์ส่ายหน้าช้าๆ

‘มันยากที่จะตีความในเมื่อจานีสไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศส่วนนี้ แต่เท่าที่จานีสคาดไว้ ศิลาปฏิสารน่าจะอยู่ในถ้ำใต้ภูเขา ที่มีสระน้ำใหญ่กว้างสิบโยชน์อยู่ด้านหน้า และมีทางเข้าลับอยู่เหนือพื้นถ้ำที่คนทั่วไปไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ แต่สถานที่เช่นนี้จานีสคงต้องอาศัยพี่เอช่วย เพราะพี่เอเกิดและเติบโตในที่แห่งนี้ พี่เอพอจะคาดเดาได้ไหมว่ามันคือที่ใดกัน.’

คำถามของจานีสทำให้ผมต้องใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ในความทรงจำผมดูจะไม่ปรากฏสถานที่ที่จานีสอธิบายเลยแม้แต่น้อย เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ จานีสซึ่งเพ่งมองใบหน้าผมตลอดเวลาก็ถอนใจเบาๆ ออกมา

‘ถ้าแม้กระทั่งพี่เอกยังคิดไม่ออก เราก็คงต้องยอมรับว่ามันอาจจะไม่ใช่วาสนาของพวกเราที่จะได้พบกับศิลาปฏิสาร นี้ แต่มาคิดอีก ถึงพี่เอจะรู้สถานที่ แต่การตีความที่บอกว่าผู้ซึ่งจะผ่านประตูเข้าไปนั้นจะต้องมีจิตสมดุลย์ ข้อนี้จานีสเองก็ขบคิดไม่เข้าใจอยู่ดี …..’

ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความผิดหวังของจานีสทำให้ ผมต้องกระชับร่างเด็กสาวเข้ามาในอ้อมแขนแน่น แต่ก่อนที่ผมจะส่งจิตเพื่อปลอบประโลมจานีส เสียงใสๆ ก็ดังขึ้นที่หน้าประตูห้องสมุด

“พี่เอ…พี่จานีส อยู่ไหม พี่รินให้พิมมาตามพวกพี่ไปกินข้าวเช้า อุ๊ย…พี่เอกับพี่จานีสเย็ดกันอีกแล้วหรือ”

เสียงของน้องพิมเด็กหญิงวัยย่าง 9 ปี ดังขึ้น ขณะที่เจ้าของเสียงเดินเข้ามาและร้องอุทานเบาๆ เมื่อพบว่าผมและจานีสเปลือยร่างกอดกันและกันอยู่ แต่เด็กหญิงดูจะไม่แปลกใจอะไรมากนัก เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมา น้องพิมซึ่งพำนักอยู่ร่วมกับทุกคนที่ห้องส่วนตัวชั้นล่างสุด พบเห็นการร่วมรักของผมกับภรรยาทุกคนเป็นประจำจนดูเป็นเรื่องธรรมดา และน้องทิพย์ผู้ซึ่งน้องพิมสนิทด้วยที่สุดก็คอยดูแลน้องพิมทุกอย่างไม่ว่าจะ เป็นการใช้ชีวิต การผนึกปราณในร่าง ไปจนถึงการอธิบายถึงปราณที่ถ่ายทอดด้วยการร่วมรักของผม

ผมหันไปหาเด็กหญิงที่อยู่ในชุดเสื้อนอนผ้าฝ้ายโปร่งบาง และกางเกงนอนขาสั้นรัดรูปที่สั้นมาถึงโคนขา ใบหน้ากลมที่ผมคุ้นเคยยิ้มอวดไรฟันขาวสะอาด แม้ผมจะไม่ตั้งใจผมพิจารณาร่างกายที่ค่อนข้างอวบเกินวัยของน้องพิมอย่าง ละเอียด แต่ก็รับรู้ได้ถึงทรวงอกที่เริ่มผลิบานเป็นรูปร่างอยู่ใต้ชุดนอนบางเบาจนมอง ทะลุไปยังหัวนมเล็กๆสีชมพูเข้มได้รางๆ กางเกงนอนขาสั้นอวดโคนขาอวบที่อัดแน่นอยู่ภายในด้วยสะโพกที่เต่งตึงอยู่ภาย ใน การรัดรึงของเนื้อผ้าด้านหน้าทำให้เนินรักน้อยๆ ปรากฏเป็นรูปร่างอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแม้จะมีวัยเพียง 8 ปี แต่การฝึกปราณและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ร่างกายทุกส่วนของน้องพิมเติบโตอย่างรวดเร็วจนดูราวกับเด็กหญิงที่อายุ 10 ปี

“น้องพิมไปบอกทุกคนนะว่าอีกห้านาทีพี่กับจานีสจะตามไป”

น้องพิมพยักหน้ารับก่อนหันหลังและวิ่งออกไปจากห้องอย่างร่าเริง พร้อมส่งเสียงสดใสไปตลอดทาง

“พี่เอเย็ดพี่จานีส พี่เอเย็ดพี่จานีส….”

ผมหันมายิ้มให้จานีสในอ้อมแขน และพบว่าเด็กสาวก็ยิ้มตอบกลับมา ราวกับว่ากริยาน่ารักที่น้องพิมแสดงออกทำให้ความรู้สึกผิดหวังของจานีสบ รรเทาลง พร้อมกับส่งจิตมายังผม

‘น้องพิมน่ารักจังเลยนะพี่เอ…เสียดายที่พี่เอจะต้องรออีกสองปีกว่าน้องพิมจะมีประจำเดือนและพร้อมที่จะมอบธารอสุระให้พี่เอ’

ดวงหน้ากลมที่ประกอบด้วยประกายตาสุกใส และริมฝีปากน้อยๆ ของน้องพิมวัย 12 ในอนาคตที่ผมเคยมีสัมพันธ์รักในคืนก่อนที่จะย้อนเวลากลับมาในอดีต ปรากฏขึ้นในความคิดผม ก่อนจะกลับกลายเป็นภาพดวงหน้าของเด็กหญิงวัย 8 ปี ซ้อนขึ้นมา แม้น้องพิมในปัจจุบันจะยังคงมีรูปร่างที่กำลังก้าวไปสู่วัยสาวไม่เต็มที่ แต่ดวงหน้านั้นจะเติบโตไปเป็นน้องพิมผู้เป็นภรรยาผมอย่างไม่มีทางผิดพลาด ความทรงจำของเรือนร่างเด็กหญิงวัย12 ที่มอบพรหมจรรย์ให้ผมอย่างเต็มใจ ความรัดรึงของหลืบรักแรกแย้ม และเสียงครวญครางของน้องพิม ทำให้อารมณ์รักผมเริ่มคุโพลงขึ้นมาอีกครั้ง จนผมต้องรีบระงับจิตไว้อย่างยากเย็น ก่อนหันไปชวนจานีสให้จัดเครื่องแต่งกายและลงไปร่วมรับประทานหารกับทุกคนใน ห้องอาหารใหญ่

‘พี่เอมาแล้ว….’

จิตสดใสของน้องกิฟท์ดังขึ้นเป็นเสียงแรกเมื่อผมและจานีสย่างเท้าเข้าไปใน ห้องอาหารที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า และยิ้มรับการมาของผมอย่างเต็มที่หลังจากที่ผมกักตัวฝึกปราณสามวันเต็มใน ห้อง ทำให้จิตของภรรยาผมทุกคนทักทายผมเซ็งแซ่ ยกเว้นน้องพิมที่ดูอารมณ์ไม่ดีนักเหมือนทุกครั้งที่พบว่าผมกับทุกคนใช้จิต ติดต่อกัน ขณะที่มีเพียงน้องพิมเท่านั้นที่ไม่สามารถติดต่อกับผู้อื่นทางจิตได้

“ทานกันเถอะ พี่หิวแล้วล่ะ…”

ผมส่งเสียงปกติออกไปเพื่อให้น้องพิมได้รับรู้ด้วย แต่คำพูดของผมทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาดังไปทั้งห้อง ขณะที่น้องทิพย์ส่งเสียงหยอกเย้า

“พี่เอจะไม่หิวได้ยังไง…พอออกจากห้องมาก็ไปเย็ดพี่จานีสเลย…ดูหน้าพี่จานีสก้รู้แล้วว่าต้องเจอไปไม่ต่ำกว่าสองครั้งแน่ๆ”

คำพูดของน้องทิพย์ทำให้เสียงหัวเราะดังลั่นอีกครั้ง ขณะที่จานีสมีสีหน้างุนงงเพราะไม่เข้าใจภาษาไทยที่น้องทิพย์พูดออกมา ที่ต่างจากการสื่อสารทางจิต แต่เมื่อน้องรินที่นั่งอยู่ข้างๆ อธิบายให้ฟังทางจิต จานีสก้หน้าแดงฉานแล้วหันไปทุบน้องทิพย์เบาๆ ซึ่งยิ่งทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นไปอีก

ระหว่างทานอาหารผมอธิบายเรื่องลายแทงศิลาปฏิสารที่จานีสพบให้ทุกคนฟัง ทำให้ทุกคนหันมาให้ความสนใจในทันที และพยายามระดมความคิดตีความสถานที่ซึ่งระบุไว้ แต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะในความทรงจำของทุกคนไม่รู้จักถ้ำใดที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำใหญ่มหึมาตาม ที่ระบุในลายแทงแม้แต่น้อย จนในที่สุดผมก็ต้องยอมรับว่าด้วยเวลาที่เหลือเพียงสองวันนั้นเป็นไปไม่ได้ ที่จะตีความทุกอย่างกระจ่าง และคงต้องปล่อยให้ผู้มีวาสนาในอีกหนึ่งพันปีข้างหน้าเป็นผู้ไขปริศนาของศิลา ปฏิสารต่อไป

หลังอาหารเช้าเสร็จสิ้น น้องๆ ทุกคนก็แยกตัวไปปฏิบัติหน้าที่ประจำวันที่แยกย้ายกันรับผิดชอบ ในส่วนของน้องรินซึ่งรับตำแหน่งพี่สาวคนโตของทุกคน ตามข้อเสนอของน้องกิฟท์ที่ให้นับอาวุโสตามลำดับเวลาที่ร่วมรักกับผม ทำให้น้องรินรับหน้าที่ดูแลและควบคุมการทำหน้าที่ของส่วนงานต่างๆ ส่วนที่เหลือแยกย้ายกันทำหน้าที่ฝึกปราณให้ขุมกำลังของตระกูลคชสีห์ อันประกอบด้วยบริวารของตระกูลดั้งเดิม กับบริวารโรหิณีที่เข้ามาร่วม ทำให้ขุมกำลังของตระกูลคชสีห์มีจำนวนกว่าสามร้อยคน ซึ่งหากเป็นภาวะปกติขุมกำลังนี้พอเพียงสำหรับผงาดขึ้นเป็นสำนักใหญ่ใน อาณาจักรปราณ แต่เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจักราศรีที่ไร้ผู้ต่อต้าน สิ่งเดียวที่ตระกูลคชสีห์ทำได้ก็เพียงการซ่อนตัวสงบนิ่งอยู่ดังเช่นใน ปัจจุบัน

หลังการเก็บตัวฝึกปราณสามวันเต็ม ทำให้ผมต้องใช้เวลาในช่วงเช้าทั้งหมดไปกับการตรวจสอบหน้าที่ของบริวารตระกูล คชสีห์ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งผมก็ต้องชื่นชมไปกับการอุทิศตัวของทุกคน เพราะทุกสิ่งดำเนินไปโดยไร้ข้อบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของหน้าฉากที่ทำหน้าที่ซื้อขายใบชาเพื่อปิดบังสถานที่ ตั้งของตระกูลคชสีห์ หรือการฝึกปรือวิชาฝีมือที่ภรรยาทุกคนของผมและคุณพ่อร่วมกันดูแลจนกำลังของ ตระกูลคชสีห์ทุกคนมีฝีมือและปราณรุดหน้าราวติดปีกบิน

หลังจากการตรวจตราทั้งหมดเสร็จสิ้น ผมเดินกลับมาที่อาคารเหนือพื้นดิน ซึ่งเป็นที่อยู่ของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อเล่าเรื่องการพบลายแทงศิลาปฏิสารให้รับทราบ แต่เมื่อผมเอื้อมมือไปที่ประตูห้องของคุณพ่อเพื่อจะเคาะประตูเรียก ประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างเปลือยเปล่าของเด็กหญิงวัย 12 เปิดประตูออกมาพอดี ทำให้เด็กหญิงผู้เผชิญหน้าผมอุทานออกมาด้วยความตกใจก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่า ข้างหนึ่งกับพื้นและส่งเสียงคารวะ

“ฟ้าใสคารวะท่านประมุขน้อย”

ผมจับจ้องใบหน้าเด็กสาวที่เงยขึ้นสบตา ใบหน้ารูปไข่ที่ประดับลักยิ้มข้างแก้มทั้งสองประกอบเป็นดวงหน้าที่สดใสน่า รักของเด็กหญิงแรกรุ่นที่กำลังเติบโตไปสู่วัยสาวเต็มที่ ผมจำได้ในทันทีว่าเด็กสาวผู้นี้เป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กหญิงฝาแฝดรุ่นที่สอง จำนวน 12 คู่ ที่มิถุกานารีคัดเลือกมาเตรียมฝึกปราณราหูตั้งแต่อยู่ในวัยเด็ก แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้รับการถ่ายทอดสลักราหู มิถุกานารีก็ถูกกำจัดโดยหนูนิด ทำให้น้องนิวที่กำเนิดจาการรวมจิตของหนูนิดและเหมียว ได้กำหนดให้เด็กหญิงทั้ง 24 คน เข้ารับการฝึกปราณคชสีห์แทนที่

เรือนกายบอบบางของฟ้าใสที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าผมแม้จะเป็นรูปร่างของเด็กหญิง ที่ยังไม่เติบโตเต็มที่แต่ทรวงอกเล็กๆ เต่งตึงก็ชูช่ออย่างงดงาม ช่วงขาเรียวยาวขาวใสจนแทบมองทะลุไปยังเส้นเลือดภายใต้ผิวบอบบาง ในท่าคุกเข่าข้างเดียวทำให้อวัยวะเพศของเด็กหญิงเผยตัวต่อสายตาผมทั้งหมด ร่องรักน้อยๆ แยกจากกันโดยมีคราบเลือดผสมน้ำรักไหลรินออกมาเป็นสายหยดลงสู่พื้น บ่งบอกถึงการสูญสิ้นพรพหมจรรย์ไปเมื่อไม่กี่อึดใจที่ผ่านมา พวงแก้มที่ประดับลักยิ้มของเด็กหญิงแดงซ่านเมื่อพบว่าดวงตาผมจับจ้องอยู่ที่ คราบน้ำรักเบื้องล่าง

ผมละสายตาจากร่างฟ้าใส มองเข้าไปภายในห้องนอนใหญ่ และพบกับร่างเปลือยเปล่าของคุณพ่อที่อยู่ในท่านั่งบนเตียง สองขาช้อนใต้สะโพกเคร่งครัดของร่างเปลือยเด็กหญิงอีกผู้หนึ่งที่มีดวงหน้า เหมือนกับฟ้าใส สองมือคุณพ่อโอบรอบเอวคอดกิ่วของเด็กหญิง เพื่อขยับร่างให้เคลื่อนเข้าออกตามจังหวะการกระเด้าแท่งเนื้อมหึมาเข้าสู่ ร่องรักน้อยๆ ของเด็กหญิง ที่มีร่องรอบปริฉีกจากกัน โลหิตพรหมจรรย์ชโลมแท่งเนื้อเพศชายแท่งแรกในชีวิตจนแดงฉาน แต่ดูราวกับว่าเด็กหญิงจะลืมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น สองขาเรียวเล็กโอบรอบเอวคุณพ่อผมแน่น ดวงตาที่คงจะเรียวยาวสุกใสเช่นเดียวกับฟ้าใสปิดแน่นสนิท ริมฝีปากอ้ากว้างส่งเสียงกระท่อนกระแท่น

“ท่านประมุข….ฝะ ฝน เสียว…มะ ไม่ ไม่เจ็บแล้ว….แรงแก อีก…”

“เราก็ใกล้จะมาแล้ว เจ้าจงเตรียมรับปราณของเราให้ดี …. อย่าลืมผนึกพลังชีวิตของเจ้าไว้ที่จักรอัคคี..อูว์…หีของเจ้าตอดไม่แพ้พี่ สาวเลย…..”

“อ๊าว….ทะท่านนนนนนนนน……”

เรือนร่างบอบบางของเด็กหญิงที่เรียกตัวเองว่าฝน สั่นสะท้านไปทั่วร่าง แอ่นเนินรักเข้าอัดแน่นกับแก่นกายคุณพ่อผมที่กำลังระบายลมหายใจเฮือก พร้อมฉีดน้ำรักเข้าสู่ร่างเด็กหญิงเป็นระรอกแต่ใบหน้าคุณพ่อผมแทนที่ปล่อย อารมณ์ตามความเสียวสุดยอด ใบหน้าที่งามสง่าสมวัยนั้นกลับดูเคร่งขรึมพร้อมส่งเสียงชี้แนะเส้นทางปราณ ให้เด็กหญิงอย่างจริงจัง ก่อนส่งเสียงเรียบๆ ออกมา

“เอ รอพ่อก่อนนะ แล้วลองตรวจสอบปราณของหนูฟ้าใสให้พ่อด้วย….”

ผมส่งเสียงรับคำอย่างเป็นปกติ เพราะภาพการถ่ายทอดปราณที่เห็นเบื้องหน้านี้เป็นสิ่งที่ผมพบเห็นอยู่เป็น ประจำ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณพ่อที่คุณแม่ของร้องกึ่งบังคับให้ทำหน้าที่ถ่ายทอด ปราณให้บริวารสตรีของตระกูลโรหิณีที่ยังไม่เคยฝึกปราณราหู รวมทั้งใช้ปราณคชสีห์ทำลายสลักราหูของสตรีที่ผ่านขั้นตอนเริ่มต้นของปราณ ราหูมาแล้ว โดยอาศัยแนวทางปราณราหูที่ถูกต้องในคัมภีร์ ทำให้คุณพ่อไม่ต้องกังวลว่าจะถูกดูดดึงปราณไปแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังต้องทำหน้าที่ตรวจสอบความก้าวหน้าของปราณที่ทุกขั้นตอนต้อง อาศัยการร่วมรักทั้งสิ้น ทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณพ่อต้องเหน็ดเหนื่อยกับภารกิจนี้จนแทบไม่มีเวลา หยุดพัก อย่างไรก็ตามขั้นตอนการทำลายพรหมจรรย์เด็กหญิงเพื่อถ่ายทอดปราณคชสีห์โดยตรง นั้นไม่เคยเกิดขึ้น เพราะกลุ่มเด็กหญิงพรหมจารีย์ฝาแฝดรุ่นสองทั้ง 24 คน และเด็กหญิงผู้เป็นบริวารรับใช้อีก 24 คนนั้น เพิ่งเริมแตกเนื้อสาวและส่วนใหญ่ยังไม่มีประจำเดือน ทำให้ผมไม่เคยเห็นขั้นตอนนี้มาก่อน แต่ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าบอกให้ผมรู้ว่าบัดนี้เด็กหญิงทั้ง 48 คนได้เติบโตพร้อมสำหรับการถ่ายทอดปราณแล้ว และบางทีเด็กหญิงทั้งสองเบื้องหน้า อาจจะเป็นเด็กหญิงคู่แรกที่เข้ารับปราณคชสีห์จากคุณพ่อของผม ผมยิ้มออกมาในใจเมื่อรู้ว่านับแต่นี้ภารกิจของคุณพ่อจะต้องหนักขึ้นไปอีก หลายเท่า

“ฟ้าใส จงยืนขึ้นให้เราตรวจปราณของเจ้า”

ผมละความสนใจจากการถ่ายทอดปราณของคุณพ่อบนเตียงและหันมาสั่งฟ้าใสให้ยืนขึ้น ปล่อยให้ผมทาบฝ่ามือเข้ากับทรวงอกเล็กๆที่เพิ่งผลิบานทั้งสองเต้า ฝ่ามือผมสัมผัสความเต่งตึงของเต้านมเด็กหญิงที่หัวนมกำลังชูชันด้วยความ ตื่นเต้นกับการสัมผัส ประกอบกับเรือนร่างเปลือยบอบบางที่สั่นน้อยๆ เบื้องหน้า ทำให้อารมณ์ต้องการร่วมรักของผมเริ่มก่อเกิดอีกครั้ง จนผมต้องรีบผนึกสมาธิสะกดเอาไว้ในทันทีและส่งปราณเข้าไปร่างเด็กหญิงเพื่อ ตรวจสอบ ปราณของผมที่ส่งผ่านเข้าไปในร่างฟ้าใสตรวจพบขุมพลังกล้าแข็งของปราณคชสีห์ ที่กำลังเริ่มการโคจรตามจักรปราณ ซึ่งแม้ในชั้นต้นปราณยังไม่สามารถกระจายไปสู่จุดเส้นต่างๆ ได้ครบถ้วน แต่ประสบการณ์ของผมก็บอกให้รู้ว่าเพียงในอีกไม่กี่เดือนปราณในร่างเด็กหญิง จะทวีพลังมากขึ้นจนก้าวสู่สถานะผู้ทรงปราณชั้นสูงอย่างแน่นอน ผมปล่อยมือออกจากทรวงอกเต่งของฟ้าใส และบอกให้เด็กหญิงไปชำระล้างร่างกาย ก่อนจะหันไปทางคุณพ่อที่เพิ่งถอนแก่นกายออกจากร่างเด็กหญิงผู้เป็นน้องสาว ของฟ้าใส

“ฝนปราย ปราณในร่างเจ้าก่อตัวแล้ว จงไปชำระล้างร่างกายแล้วเจ้ากับฟ้าใสจงกลับมาพบเราที่นี่อีกครั้งในอีก 12 ชั่วโมง เราจะตรวจสอบการโคจรของพวกเจ้าสองพี่น้องอีกครั้ง”

เด็กหญิงที่ชื่อฝนปรายผู้เป็นน้องสาวของฟ้าใส ขานรับคำสั่งเบาๆ พร้อมยันกายลุกขึ้นจากเตียงและก้าวลงจากเตียงเดินมายังประตู และย่อกายลงคารวะผมเช่นเดียวกับพี่สาว ก่อนเดินออกไปจากห้องโดยถอยหลังออกอย่างสำรวมตามข้อบังคับอันเข้มงวดของ ตระกูลคชสีห์ ผมรีบกำจัดภาพเนินรักของฝนปรายที่ผมเห็นเมื่อเด็กหญิงย่อตัวลงเมื่อครู่ออก จากสมอง แล้วเดินไปหาคุณพ่อทันที

“ลูกเอ ฝึกปราณเสร็จสิ้นแล้วหรือ…”

“เสร็จแล้วครับ เลยได้มีโอกาสดีมาเห็นคุณพ่อถ่ายปราณให้ฝนปรายและฟ้าใส…นี่คงเป็นเด็กหญิงรุ่นสองคู่แรกที่คุณพ่อถ่ายปราณใช่ไหมครับ”
พ่อเลี้ยงไกรสรผู้เป็นบิดาผมส่ายหัวและถอนใจเบาๆ ก่อนตอบ

“นี่เป็นคู่ที่สามแล้วล่ะ สองวันมานี้กลุ่มเด็กหญิงฝาแฝดทั้ง 24 คนทยอยมีประจำเดือนกันจนพ่อแทบไม่มีเวลาพักเลย นี่ยังไม่รวมถึงอีก 24 คนที่ตระกูลโรหิณีกำหนดให้เป็นบริวารรับใช้ประจำตัวของฝาแฝดแต่ละคนด้วยนะ …พ่อคิดว่าตอนที่มิถุกานารีคัดเลือกเด็กทั้ง 48 คนนี้มา คงคัดมาจากความพร้อมในการสืบพันธ์มากกว่าอายุแน่ๆ ไม่งั้นทุกคนคงไม่มีประจำเดือนในช่วงเวลาเดียวกันแบบนี้แน่…ว่าแต่คืนนี้ พ่อยังมีฝาแฝดอีกสองคู่ที่จะต้องถ่ายปราณ ไม่รู้ว่าเอพอจะมีเวลาพอจะช่วยแบ่งจากพ่อไปสักคู่หนึ่งได้ไหม”

ผมพยักหน้ารับคำโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดใดๆ ขณะที่ใจผมอดคิดไปถึงการทดลองถ่ายปราณของผมไปยังกลุ่มเด็กสาวพรหมจรรย์รุ่น แรกของตระกูลโรหิณี ซึ่งแทนที่เด็กสาวเหล่านั้นจะสามารถรับปราณคชสีห์ พลังแห่งอัคคีเทพ จิตมาร วารีนาคราช และพลังชีวิตจากผลึกมังกรเช่นเดียวกับกลุ่มภรรยาทั้งหกของผม กลับปรากฏว่ามีเพียงปราณคชสีห์เท่านั้นที่ผ่านเข้าสู่จักรปราณของกลุ่มเด็ก สาว ความแตกต่างที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่แม้กระทั่งจานีสผู้รอบรู้เรื่องปราณก็ไม่ เข้าใจ แต่ก็ได้สันนิฐานว่าพลังปราณของผมจะถ่ายทอดอย่างสมบูรณ์ไปยังบุคคลพิเศษเท่า นั้น แต่หากเป็นสตรีทั่วไป สิ่งที่ถ่ายทอดออกไปจะมีแต่เพียงปราณคชสีห์เพียงอย่าเดียว

“ว่าแต่เอมาหาพ่อมีเรื่องอะไรหรือ..”

ผมทรุดตัวลงนั่งข้างคุณพ่อและเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่จานีสค้นพบลายแทงศิลา ปฏิสารเพื่อหวังว่าบางทีคุณพ่อที่ใช้ชีวิตอยู่ในเชียงใหม่มาตลอดอาจพอคาดเดา สถานที่ที่ระบุในลายแทงได้ แต่ผมก็ต้องผิดหวังเพราะคุณพ่อเองก็ดูจะงุนงงกับข้อความเหล่านั้นไม่แพ้ผม

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะเอ..เดี๋ยวพ่อจะลองถามพ่อครูคำแปงให้อีกที บางทีพ่อครูอาจจะทราบเรื่องนี้มากกว่าพอ ถ้าได้ผลอย่างไรพ่อจะไปบอกเอก็แล้วกัน”

ผมรับคำเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมกลับไปยังห้องของผม แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไร ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง เมื่อคุณพ่อผมส่งเสียงอนุญาตให้เข้ามา ร่างเด็กหญิงสองคนก็ก้าวเข้ามาในห้องและย่อกายลงคารวะคุณพ่อและผมพร้อมกัน

“เจสสิก้า คารวะท่านประมุข”
“รีน่าคารวะท่านประมุข”

ร่างเด็กหญิงทั้งสองที่คุกเข่าเงยหน้าขึ้นมายังผมและคุณพ่อ เป็นเด็กหญิงที่แม้จะมีผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายและผิวขาวผ่องแบบชาวยุโรป อย่างชัดเจน แต่ดวงหน้าคมเข้มและดวงตาเรียวตามลักษณะของชาวเอเซีย ทำให้ผมรู้ว่าทั้งสองเป็นเด็กหญิงลูกครึ่ง สมองผมจำได้ในทันทีว่าเจสสิก้าและรีน่า เป็นพี่น้องฝาแฝดวัย 11 ปี ผู้มีบิดาเป็นชาวฝรั่งเศสและมารดาเป็นชาวไต้หวัน ทำให้เด็กหญิงทั้งสองผสานลักษณะเฉพาะของสองชนชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ก่อเป็นรูปลักษณ์โครงหน้างดงามแบบชาวเอซียตะวันออกและรูปร่างที่เติบโตเกิน วัย 11 ปี ด้วยเชื้อสายของชาวยุโรป

เรือนร่างอวบอิ่มเกินอายุจริงของเจสสิก้าและรีน่า ถูกปกคลุมด้วยผ้าแพรเบาบางห่มร่างกายในลักษณะคล้ายส่าหรีของชาวอินเดีย แต่ปราศจากเสื้อผ้าชิ้นใน ทรงอกอวบงามขาวผ่องอวดความงามรำไรภายใต้เนื้อผ้าที่บางราวหมอกควัน และเช่นเคยในท่าย่อกายคารวะด้วยการคุกเข่าข้างหนึ่ง เนินรักอวบอูมที่ไร้เส้นขนใดๆ ก็ปรากฏต่อสายตาผมและคุณพ่ออย่างเต็มที่ ทำให้ใจผมอดเต้นแรงขึ้นไม่ได้

“เอช่วยพาหนูเจสสิก้าและหนูรีน่าไปถ่ายทอดปราณให้พ่อหน่อยนะ พ่อขอตัวพักผ่อนก่อน”

เสียงคุณพ่อบอกให้ผมจัดการตามที่ตกลงกันไว้ ขณะที่ตัวคุณพ่อเองก้าวเดินออกไปทางประตูด้านหลัง ซึ่งผมรู้ว่าเป็นประตูที่ต่อเชื่อมไปยังห้องของคุณแม่ ที่ไม่อนุญาตให้คนนอกครอบครัวเข้าไปอย่างเด็ดขาด ผมรู้ดีว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาในหัวใจคุณพ่อมีคุณแม่เท่านั้น และการที่คุณแม่ขอร้องให้คุณพ่อยอมถ่ายทอดปราณให้บริวารโรหิณี ซึ่งหมายถึงการร่วมรักกับเด็กหญิงเด็กสาวที่งดงามจำนวนมาก แม้จะเป็นสิ่งผู้ชายทั้งโลกใฝ่ฝันถึง แต่สำหรับคุณพ่อแล้วนี่เป็นเพียงหน้าที่และฝืนความรู้สึกคุณพ่ออยู่ไม่ใช่ น้อย ผมถอนใจเบาๆ ก่อนหันไปหาเด็กหญิงทั้งสองที่ยังคงอยู่ในท่าคุกเข่าคารวะอยู่

“ตามเรามาที่อาคารใน….”

เด็กหญิงทั้งสองขานรับและลุกขึ้นยืนเดินตามผมกลับมายังสถานที่พักของผมโดย ไม่ส่งเสียงใดๆ แว่บหนึ่งที่ผมมองผ่านดวงตาเด็กหญิงทั้งสอง ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเห็นแววตาตื่นเต้นยินดีปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งผมรู้ดีว่าในตระกูลคชสีห์นี้มีเพียงผมและคุณพ่อเท่านั้นที่สามารถทำ หน้าที่ทำลายพรหมจรรย์เด็กหญิงเพื่อถ่ายทอดปราณคชสีห์ได้ แต่ที่ผ่านมาการทำลายพรหมจรรย์เด็กหญิงทั้งหมดเป็นการถ่ายทอดของคุณพ่อ จึงทำให้เมื่อเจสสิก้าและรีน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้รับรู้ว่าพวกตนจะเป็น เด็กหญิงสองคนแรกในกลุ่มฝาแผดรุ่นสองของตระกูลโรหิณีที่จะได้รับการถ่ายทอด ปราณจากผมโดยตรง

เด็กหญิงทั้งสองต่างพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองอย่างเต็มที่เมื่อผมเดินนำ ผ่านเข้าไปยังอาคารชั้นใน อันเป็นพื้นที่เฉพาะของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งบริวารของตระกูลคชสีห์น้อยคนที่จะมีโอกาสผ่านเข้ามาภายใน ใบหน้าเด็กหญิงทั้งสองทอแววเคร่งเครียดในทันที่ทีผมก้าวเข้าไปในลิฟท์และ พยักหน้าให้ทั้งสองตามเข้ามา เพราะรู้ดีว่าลิฟท์ตัวนี้กำลังนำลงไปสู่หัวใจของอาคารที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน

“เจสสิก้า รีน่า ทำตัวตามสบายเถอะ พวกเจ้าสองคนมีชื่อเล่นหรือไม่”

ผมถามเด็กหญิงทั้งสองในลิฟท์ เพื่อหวังให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้น

“เพื่อนๆ เรียกเจสสิก้าว่าเจส แต่รีน่าไม่มี…”

รีน่าส่งเสียงตอบอย่างสำรวม ขณะที่เจสสิก้ารีบส่งเสียงขัดขึ้น

“ท่านประมุขน้อย รีน่าพูดไม่จริงหรอก เพื่อนๆ เรียกรีน่าว่าแม่ชี…”

“มะ ไม่นะ…ไม่เอา…ท่านประมุขน้อยอย่าไปเชื่อ…”

“ก็จริงๆ นี่นา พี่รีน่าเอาแต่ศึกษากับฝึกปราณ ไม่ยอมคุยกับผู้ชายอื่นๆ เลย…”

เจสสิก้าผู้มีฐานะเป็นน้องสาวส่งเสียงบอกผมอย่างแจ่มใส ขณะที่ผู้เป็นพี่สาวก้มหน้านิ่งใบหน้าขาวผ่องเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ทำให้ผมรู้ว่าสองสาวฝาแฝดคู่นี้แม้จะมีใบหน้าที่เหมือนกันจนแทบจะมองไม่ออก แต่นิสัยของทั้งสองต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เจสสิก้ามีท่าทางแจ่มใสผ่อนคลายความเครียดลงเมื่อผมเริ่มสนทนา และยืนปล่อยตัวอย่างสบายๆ ทั้งที่เรือนร่างห่อคลุมไว้ด้วยผ้าแพร่เบาบางชิ้นเดียวที่ไม่สามารถปิดกั้น สายตาผมให้มองทะลุไปยังความงามของอวัยวะสงวนได้ แต่รีน่าผู้เป็นพี่สาวกลับยืนกอดอกปิดบังเต้านมคู่งามที่มีขนาดเท่าผลแอ ปเปิลขนาดใหญ่เอาไว้แน่น และพยายามเบี่ยงสะโพกอวบกลมกลึงเพื่อให้เนินรักพ้นสายตาผมตลอดเวลา ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดทำให้ผมอดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้

“ท่านประมุขน้อยต้องช่วยให้พี่รีน่าหายจากโรคกลัวผู้ชายให้ได้นะ…”

เสียงสดใสเจสสิก้าดังขึ้นเมื่อเด็กหญิงเห็นรอยยิ้มของผม

“เจส..ไม่เอา..อย่าพูดแบบนั้นเดี๋ยวท่านประมุขน้อยจะลงโทษนะ..”

รีน่าส่งเสียงตอบกระท่อนกระแท่นด้วยความตกใจที่เห็นน้องสาวหยอกล้อต่อหน้าผม ผู้เป็นประมุขรองของตระกูลคชสีห์ ทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปลูบศีรษะรีน่าอย่างเอ็นดู และต้องยิ้มออกมาเมื่อเด็กหญิงสะดุ้งสุดตัวในทันทีที่ถูกสัมผัส

“รีน่า เจสสิก้า จำไว้ ในที่นี่แม้เราจะเป็นประมุขรองของตระกูล แต่เราอนุญาตให้พวกเจ้าปล่อยตัวตามสบาย เราไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่ในกรอบระเบียบที่เคร่งครัด และขอสั่งให้พวกเจ้าทั้งสองเรียกเราว่าพี่เอเมื่อไม่มีผู้ใดอยู่ด้านข้าง นี่เป็นคำสั่งพวกเจ้าเข้าใจหรือไม่”

เด็กหญิงทั้งสองรับคำเบาๆ และพึมพัมคำว่า พี่เอ ราวกับต้องการจำให้ขึ้นใจ ผมหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก้าวออกจากประตูลิฟท์ในทันทีที่จอดสนิทในชั้นล่างสุด เจสสิก้าและรีน่ามองภาพห้องโถงรูปทรงกลมกว้างใหญ่เบื้องหน้าด้วยความแปลกใจ ที่ชั้นลึกสุดของสถานที่นี้กลับมีห้องโถงขนาดมหึมาที่เรียงรายด้วยประตูห้อง ส่วนตัวทั้งสิบสามห้องล้อมรอบอยู่

“นี่เอง ห้องของท่านประมุขน้อย เอ๊ย พี่เอ และนายหญิงทั้งเจ็ด แต่อีกห้าห้องเป็นห้องของใครกัน”

เสียงกังวานใสของเจสสิก้าอุทานออกมาเบาๆ เมื่อพบภาพเบื้องหน้าที่เป็นที่ร่ำลือกันในกลุ่มบริวารตระกูลคชสีห์ แต่น้อยคนที่จะได้ลงมาเห็นด้วยตาตนเอง ขณะที่รีน่ารีบกระตุกแขนน้องสาวและส่งเสียงปรามเบาๆ แต่ผมเพียงยิ้มรับโดยไม่ตอบอะไรและพาทั้งสองมาที่หน้าประตูบานใหญ่ของห้องผม ที่เปิดออกในทันทีที่ผมเข้ามาใกล้ ด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่รับสัญญาณเฉพาะตัวของผมและภรรยาทั้งเจ็ด ซึ่งนับรวมน้องพิมเข้าไว้ด้วย

ผมก้าวนำเด็กหญิงทั้งสองเข้าไปในห้องส่วนตัวที่มีเตียงขนาดสิบสองฟุตตั้ง ตระหง่านอยู่กลางห้อง อันเป็นสถานที่ที่ผมพักผ่อนและร่วมรัก แต่ในปัจจุบันผมไม่ค่อยได้ใช้เตียงนี้ในการร่วมรักกับภรรยาทุกคนพร้อมกัน บ่อยครั้งนัก เพราะไม่ต้องการให้อำนาจแห่งผลึกมังกรส่งผลกระทบกับวงกว้างบ่อยครั้งเกินไป จนทำลายเวลาการฝึกปรือปราณของทุกคน ทำให้การร่วมรักในช่วงหลังผมจะไปหาภรรยาแต่ละคนที่ห้องส่วนตัวเพื่อร่วมรัก ทีละคนแทน เพื่ออาศัยผนังหินหนาหนักปิดกั้นการกระจายปราณไปรบกวนผู้อื่น

ประตูหินปิดตัวเองลงอย่างเงียบสนิทเมื่อเจสสิก้าและรีน่าผ่านเข้ามาในห้อง ผมหันไปบอกสองเด็กหญิงฝาแฝดอย่างกันเอง…

“ทำตัวตามสบายนะ ไปอาบน้ำก่อนก็ได้ถ้าไม่สบายตัว ห้องน้ำอยู่ด้านข้าง”

เด็กหญิงทั้งคู่สั่นศีรษะพร้อมกัน ขณะที่เจสสิก้าตอบมาอย่างอายๆ

“ท่าน…เอ้อ…พี่เอ..เจสสิก้ากับรีน่าอาบน้ำชำระกายทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่านผู้เฒ่าคุ้มกฎดูแลทำความสะอาดทุกส่วนด้วยตนเอง”

“แล้วท่านผู้เฒ่าบอกหรือเปล่าว่าเจสสิก้ากับรีน่าต้องทำอย่างไร”

พวงแก้มเจสสิก้าแดงฉานเมื่อตอบกลับมาเบาๆ

“ท่านผู้เฒ่าบอกว่าเจสสิก้ากับรีน่าต้องมอบร่างกายบริสุทธิ์ให้ท่านประมุข ไกรสร และรองรับปราณคชสีห์ที่ท่านประมุขถ่ายทอดให้ โดยห้ามส่งเสียงสนทนา หรือร้องออกมาเด็ดขาด”

ผมถอนใจเบาๆ กับกฎที่กำหนดโดยผู้เฒ่าคุ้มกฏและตั้งใจว่าจะหาทางเปลี่ยนแปลงความเข้มงวด ที่กีดกันผู้คนให้ห่างจากผู้นำตระกูลแบบนี้ให้ได้

“นั่นอาจจะเป้นข้อบังคับของคุณพ่อ แต่สำหรับพี่…เจสสิก้ากับรีน่าไม่ต้องควบคุมตัวเองหรือปฏิบัติตามกฏแต่ อย่างใด จงปล่อยตัวตามสบาย และไม่ต้องกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพราะนี่คือธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน..เอาละ ไปพักที่เตียงก่อน พี่จะอาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันต่อนะ…”

ผมหันหลังให้เด็กหญิงทั้งสองและเดินไปยังห้องน้ำที่ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่งของ ห้องเพื่อชำระล้างร่างกายที่นับตั้งแต่ผมออกจากห้องฝึกปราณในตอนเช้าและร่วม รักกับจานีส ไปจนถึงการตรวจงานประจำวัน ร่างกายที่หมักหมมของผมยังไม่ได้รับการชำระล้างใดๆ ผมจึงใช้เวลาค่อนข้างนานในอ่างอาบน้ำใบที่ขุดเจาะลงไปในพื้นหินเป็นแอ่งกลม กว้างกว่า 4 เมตร กระแสน้ำอุ่นจัดของระบบน้ำวนช่วยกระตุ้นร่างกายผมให้สดชื่น และอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเวลานานพอควรที่ผมกับน้องริน น้องกิฟท์ น้องทิพย์ น้องนิว เซี่ยวเล้ง และจานีส ไม่ได้ลงมาอาบน้ำร่วมกันในแอ่งน้ำใบนี้

กว่าครึ่งชั่วโมงที่ผมใช้เวลาในห้องน้ำ แต่เมื่อผมกลับออกมาที่ห้องนอน ภาพที่ปรากฏบนเตียงทำให้ผมอดอมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้ เพราะทั้งเจสสิก้าและรีน่าต่างถอดผ้าแพรที่พันร่างกายของตนเองเอาไว้และขึ้น ไปนอนหงายเหยียดยาวเคียงคู่กันกลางเตียงนอน ดวงตาเด็กหญิงทั้งสองหลับแน่นกุมมือกันและกันเอาไว้ราวกับต้องการสร้างกำลัง ใจในการเผชิญหน้ากับการสูญเสียความสาวที่เพิ่งผ่านการมีประจำเดือนครั้งแรก มาได้เพียงสองวัน แต่เมื่อผมเดินไปใกล้เตียงและเห็นภาพเบื้องหน้าชัดเจน หัวใจผมพลันเต้นระทึกอย่างลืมตัว

ร่างด้านซ้ายมือเป็นร่างเปลือยขาวราวนมสดของเจสสิก้า ดวงตาบนในหน้าน่ารักปิดแน่น แต่ผมรู้ว่าเด็กหญิงแอบเปิดตาเป็นช่องแอบดูผมอยู่ และเมื่อเห็นผมจับจ้องร่างกายเปลือยเปล่าของตนเอง ใบหน้านั้นก็แดงซ่านเป็นสีชมพูอย่างรวดเร็ว สายตาผมจับจ้องผ่านนมคู่งามที่มีขนาดราวเด็กสาววัย 15-16 แทนที่จะเป็นเต้านมของเด็กหญิงอายุ 11 ป้านยอดสีชมพูอ่อนที่ประดับด้วยเม็ดยอดสีชมพูเข้มจัด สะท้อนขึ้นลงตามการหายใจถี่ๆ ด้วยความตื่นเต้นของเด็กหญิง ต่ำลงไปเป็นเนินหน้าท้องที่ราบเรียบ ผิวกายขาวนวลเปล่งปลั่งสะท้อนแสงไฟจนแทบส่องประกายออกมา ช่วงเอวเด็กหญิงยังค่อนข้างตรงจากวัยอันเยาว์ที่ทำให้สะโพกยังไม่ผลิบานก่อ เป็นช่วงเอวคอดกิ่วเช่นหญิงสาววัยสูงกว่า แต่ความครัดเคร่งของสะโพกแรกรุ่นนั้นก็เป็นความงามที่ยั่วยวนเพศตรงข้ามไม่ แพ้กัน ที่กึ่งกลางสะโพกตั้งเนินรักน้อยๆสมวัยวางตัวงดงามโดยปราศจากเส้นขนใดๆ มารบกวนสายตา สองแคมกะทัดรัดปิดร่องรักไว้สนิทแน่น จนแม้ว่าเจสสิก้าจะแยกขาออกจากกัน หลืบรักภายในก็ไม่ปรากฏออกมาแม้แต่น้อย ต้นขาอวบที่สมบูรณ์และเต่งตั่งไปด้วยเนื้อหนัง ดูแตกต่างกับขาเรียวยาวของเด็กหญิงวัยเดียวกันเช่นปรายฝนและฟ้าใส ที่เพิ่งผ่านการร่วมรักไปเมื่อครู่

สายตาผมเปลี่ยนเป้าหมายไปยังรีน่าทางด้านขวา เด็กหญิงหลับตาสนิท ปล่อยให้ผมสำรวจความงามของเรือนกาย เต้านมเด็กหญิงผู้พี่ดูจะมีขนาดย่อมกว่าเจสสิก้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยรูปลักษณ์กลมกลึงไร้ที่ติและความเต่งตึงที่สามารถรู้สึกได้ด้วยตา เปล่า ทำให้ผมยอมรับว่าว่านี่เป็นทรวงอกที่งามสมบูรณ์สมวัยคู่หนึ่ง เม็ดยอดสีเดียวกันกับป้านวงกลมสีชมพูชูช่อเป็นเม็ดงามรอการสัมผัส ผมไล่สายตาผ่านลานหน้าท้องไปถึงตำแหน่งสำคัญที่สุดของสตรี แล้วก็ต้องกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น เพราะในขณะที่เต้านมของรีน่ามีขนาดเล็กกว่าเจสสิก้าแต่เนินรักของเด็กหญิง กลับอวบเปล่งนูนขึ้นมาเป็นเนินย่อมๆ ท้าทายสายตา และเมื่อผมจับตาไปที่รอยผ่าที่ขนาบด้วยแคมอวบอิ่ม ผมก็ต้องแปลกใจเพราะมันมีน้ำใสๆ ซึ่งเยิ้มออกมาบางๆ ราวกับเด็กหญิงกำลังเกิดอารมณ์ทางเพศ ทั้งที่ดูจากบุคลิกภายนอกของรีน่าเป็นเด็กหญิงท่าทางขี้อายที่หวาดกลัว เพศตรงข้าม

ภาพงดงามที่เร้าอารมณ์รักของเด็กหญิงที่เติบโตเกินวัย 11 ปีทั้งสองคน ทำให้รอยยิ้มด้วยความเอ็นดูของผมที่เห็นสองเด็กหญิงเปลือยร่างจากระยะห่าง เปลี่ยนไปเป็นความต้องการทางเพศในทันที ผมสะบัดผ้าขนหนูผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่ออกไปและก้าวขึ้นเตียงไปอยู่ ระหว่างกลางปลายเท้าเด็กหญิงทั้งสอง และเริ่มลูบไล้ความนุ่มเนียนของเรียวขาทั้งคู่พร้อมกัน ทันทีที่มือผมสัมผัสผิวกาย ร่างเด็กหญิงทั้งสองก็สะท้านเฮือก ผิวกายขาวผ่องสั่นสะท้าน สองมือที่กุมกันไว้เกร็งแน่น แต่ทั้งคู่ยังคงหลับตาแน่นโดยไม่ยอมลืมตาขึ้นมา

ผมตัดสินใจปล่อยมือจากร่างเจสสิก้า เพื่อลูบไล้สะโพกครัดเคร่งของรีน่า ด้วยความสงสัยถึงน้ำใสที่ซึมเอ่อออมาจากร่องรัก ร่างอวบอัดของเด็กหญิงบิดตัวทันที่ที่ฝ่ามือผมไล้ผ่านแก้มก้นเต่งตึงและช้อน มันขึ้นมาจนเนินรักนูนเด่นต่อหน้าผม กลิ่นหอมคาวอ่อนของน้ำหล่อลื่นแรกสาวกรุ่นขึ้นกระทบจมูก จนผมอดไม่ได้ที่จะต้องฝังใบหน้าลงไปชิมรส

“อุ๊…อุ๊….”

เพียงปลายลิ้นของผมกระทบรอยแยกเด็กหญิง รีน่าก็บิดกายส่ายเนินรักหนีการสัมผัสราวกับลิ้นผมเป็นถ่านไฟแดงที่กระทบผิว กาย แต่เมื่อไม่สามารถรอดพ้นเนื่องจากสองมือผมเกาะกุมแก้มก้นน้อยๆ ไว้แน่น สองมือเด็กหญิงก็กลับยกขึ้นมาขยุ้มศีรษะผมอย่างลืมตัวพร้อมเสียงอึกอักในลำ คอ ซึ่งผมรู้ในทันทีว่าเด็กหญิงยังคงไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมาตามข้อบังคับที่ ผู้คุ้มกฎตราไว้ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะละปากออกจากเนินรักหอมกรุ่นเพื่อบอกให้เรีน่าร้องออกมา ตามใจต้องการ เจสสิก้าที่นอนอยู่เคียงข้างและรับรู้ว่าผมตัดสินใจเลือกรีน่าสำหรับการร่วม รักเป็นคนแรก ก็ชันกายลุกขึ้นและส่งเสียงบอกพี่สาว

“รีน่า…พี่เออนุญาตให้ส่งเสียงได้ ไม่ต้องกลั้นไว้หรอก…รีน่าเป็นอย่างไรบ้าง”

“เจส…เจส รีน่าเสียวไปหมดแล้ว….โอย พี่เอ..ละ เลียหีรีน่า….”

“รีน่า..อดทนไว้ เมื่อกี้นี้ฟ้ากับฝนบอกเจสสิก้าว่ามันเสียวและจะเจ็บ แต่มันจะมีความสุขที่สุด”

“แต่รีน่าจะ…อุ๊ย พี่เอแยงลิ้นเข้าไปแล้ว….”

“พี่เอ…เจสสิก้าจะช่วยอะไรได้บ้าง…”

สองเด็กหญิงพี่น้องส่งเสียงให้กัน ขณะที่ผมแทรกลิ้นเข้าไปสู่หลืบรักรีน่าที่กำลังหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาเจิ่ง นอง ผมตัดสินใจถอนปากออกจากเนินรักอวบอิ่มของรีน่าและขยับร่างขึ้นทาบทับความ นุ่มนวลของเด็กหญิงเอาไว้ พร้อมกับดันร่างเจสสิก้าที่ด้านข้างให้นอนลงแล้วประกบริมฝีปากเข้ากับปาก น้อยๆ ช่างพูดนั้น ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้เนินรักของรีน่า นิ้วชี้ผมเลื่อนขึ้นลงตามแนวรอยผ่าน้อยๆ จนสัมผัสกับเม็ดเสียวที่ผุดขึ้นมาสู้การสัมผัส สองแขนรีน่าโอบรัดร่างผมที่ทาบทับอยู่แน่น ส่งเสียงร้องครางลั่น

“พี่เอ….ตรง ตรงนั้น เบาๆ มันจี๊ดไปหมดแล้ว….”

ขณะเดียวกันลิ้นเรียวเล็กของเจสสิก้าที่ถูกผมเกี่ยวพันก็เริ่มปรับตัวรับรู้ รสสัมผัสของจูบแรกในชีวิต เด็กหญิงเริ่มจูบตอบผมอย่างเร่าร้อน ร่างงามแอ่นตัวขึ้นจนนมอวบตึงอัดแน่นกับท่อนแขนผม สองแขนน้อยๆ ไขว่คว้าสะเปะสะปะราวกับจะหาที่เกาะเกี่ยว เพียงครู่เดียวผมก็ได้รับรู้ว่าสะโพกถูกบดเบียดด้วยเนินรักของเจสสิก้าแน่น สนิท เด็กหญิงส่ายสะโพกให้สองแคมเสียดสีกับร่างของผมอย่างลืมตัว จนผิวกายผมสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นที่เจสสิก้าหลั่งไหลออกมาเป็นทาง ส่วนรีน่าที่ถูกนิ้วมือผมไล้ปลายนิ้วชี้ไปตามร่องรัก และนิ้วโป้งคลึงเม็ดเสียวเป็นวงก็ส่งเสียงหอบกระเส่าออกมาไม่หยุด มือขวาเด็กหญิงกำมือผมที่ประกบเนินรักไว้แน่นเหมือนพยายามดึงมันออก จากอวัยวะที่หวงแหนของตนเอง แต่เมื่อผมแข็งขืนไว้ แรงดึงนั้นก็กลับเปลี่ยนเป็นแรงกดที่พยายามอัดมือผมให้แนบแน่นกับเนินรักมาก ยิ่งขึ้น น้ำหล่อลื่นที่ไหลหลั่งออกมาทำให้นิ้วชี้ผมสามารถแทรกผ่านสองแคมตีบคับลงไป ได้ลึกขึ้นทีละน้อยจนจมลึกลงไปเสมอข้อนิ้วที่สอง ปลายนิ้วที่ไวต่อความรู้สึกของผมสัมผัสได้ถึงเยื่อพรหมจรรย์หยุ่นตึง แต่บางจนผมรู้ว่าหากฝืนใช้แรงเพิ่มขึ้นอีกเพียงนิดเดียว นิ้วผมก็จะกลับกลายเป็นอวัยวะของผู้ชายชิ้นแรกที่บุกรุกเข้าสู่ความลับที เด็กหญิงซุกซ่อนมาเป็นเวลา 11 ปีเต็ม

เรือนกายของเด็กหญิงฝาแฝดทั้งสองที่แสดงอาการตอบสนองอย่างเร่าร้อน บอกให้ผมรู้ว่าเด็กหญิงทั้งคู่พร้อมที่จะรองรับการร่วมรักครั้งแรกในชีวิต แล้ว ผมตัดสินใจถอนจูบจากเจสสิก้า ถอนมือจากการบี้เคล้นเนินรักของรีน่า แล้วโหย่งตัวขึ้นเหนือร่างรีน่าผู้พี่ ปลายแก่นกายที่แข็งราวจะระเบิดออกทุกขณะจรดจ่อเข้าระหว่างสองแคมเล็กๆ แต่อวบอิ่มของรีน่า ที่แยกขาออกกว้างราวกับจะรับรู้ถึงวินาทีสำคัญที่สุดในชีวิต

“ระ รีน่า …จะเจ็บ….พะ พี่เอ…ค่อยๆ ก่อน..โอ๊ย…มันเข้ามาแล้ว…ควยพี่เอเข้ามาแล้ว”

รีน่าส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตระหนกระคนเจ็บปวดเมื่อปลายหัวบานของผมมุด ผ่านลงไประหว่างสองแคมช้าๆ แม้เด็กหญิงจะมีอวัยวะเพศที่อวบเกินวัย 11 ปีไปมาก แต่ขนาดของมันก็ยังไม่สามรถเทียบกับเด็กหญิงวัยสูงกว่าได้ การบุกรุกของแท่งเนื้อจึงทำให้ปากทางเข้าเริ่มปริจนฉีกออกเล็กน้อย แต่นั่นกลับทำให้แก่นเนื้อของผมรับรู้ถึงความรัดรึงปนนุ่มนวลของหลืบเนื้อ เด็กหญิงอย่างเต็มที่ จนผมอดสูดปากด้วยความเสียวไม่ได้ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดของรีน่าทำให้ผมต้องชะงักการบุกรุกไว้ ชั่วขณะ และหันไปดึงร่างเจสสิก้าที่ด้านข้างขึ้นมาให้ศีรษะเด็กหญิงอยู่ที่หน้าอก ตั้งเต้าของรีน่า ก่อนพยักหน้าเป็นสัญญาณให้เจสสิก้าช่วยปลุกอารมณ์รักรีน่าอีกแรงหนึ่ง เด็กหญิงผู้น้องยิ้มรับสัญญาณผม พร้อมกับเริ่มเม้มเม็ดยอดสีชมพูของรีน่าเข้าไปดูดไซร้ในปากทันที

“เจสสสิก้า ยะ อย่า..อย่าดูดนมรีน่าแบบนั้น..มะ ไม่ไหว…ช่วยรีน่าด้วย..”

ร่างอวบอัดของรีน่าบิดส่ายไปมาเมื่อถูกน้องสาวโจมตีจุดที่ไวต่อความรู้สึก พร้อมกับการลูบไล้ของผม ใบหน้าน่ารักที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเมื่อครู่เริ่มคลายตัวลงช้าๆ ขณะที่สะโพกเริ่มขยับตัวไปมาราวกับต้องการให้ส่วนปลายของแก่นกายผมที่ฝัง อยู่ในร่องรักเสียดสีกับหลืบเนื้อนุ่มนวลภายในมากขึ้น ผมค่อยๆ ดึงส่วนปลายออกมาช้าๆ และกดกลับเข้าไปเป็นจังหวะสั้นๆ ถี่ๆ แท่งเนื้อครูดเม็ดเสียวรีน่าเป็นจังหวะ จนเด็กหญิงสั่นสะท้านไปทั่วร่าง สะโพกน้อยแอ่นตัวขึ้นสูงจนแก่นกายผมจมลงลึกไปทั้งหัวบาน แต่เด็กหญิงดูจะไม่รู้ตัวเมื่อความเสียวสุดยอดครั้งแรกมาเยือน

“อ๊าวส์….พะ พะ พี่เอ…รีน่า รีน่า ฉี่จะราดแล้ว…อ๊ายยยยยยยยยยยยยย”

เรือนกายเด็กหญิงกระตุกระริก น้ำรักแรกสาวทะลักออกมานองเนืองจนหัวบานผมจมลงไปถึงเยื่อสาวภายใน ผมสูดลมหายใจลึก ดึงแก่นเนื้อออกมาจนแทบพ้นสองแคมก่อนกดมันกลับลงไปหนักๆ ทะลวงเยื่อพรหมจรยรย์บอบบางของรีน่าขาดผึงในคราวเดียว

“โอ๊ย…พี่เอ…อะ เอาออกก่อน…รีน่า…จะ เจ๊บ….”

เด็กหญิงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เมื่อแก่นกายผมจมพรวดลงไปในความตืบตันของหลืบเนื้อทั้งหมดจนส่วนปลายชนเข้า กับปากมดลูกเด็กหญิงดังกึก ความเสียวจากการบีบรัดรอบลำลึงค์กระจายซ่านไปทั่วร่าง แต่ผมพยายามระงับความต้องการที่จะกระเด้ารับความเสียวให้ถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เด็กหญิงผู้เพิ่งสูญสิ้นความสาวเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ผมเลื่อนมือไปลูบไล้ลำขาอวบด้านในของรีน่าก่อนยกร่างเด็กหญิงขึ้นมาอยู่ใน ท่านั่งเช่นเดียวกับที่ผมเห็นการร่วมรักของคุณพ่อในห้องนอนที่ผ่านมาเมื่อ ครู่ การเปลี่ยนอริยาบทกระทันหันทั้งที่แก่นกายผมยังคงฝังแน่นในร่างรีน่า ทำให้เด็กหญิงร้องออกมาด้วยความตกใจ

“พี่เอ..ทะทำอะไรน่ะ…”

“พี่จะดูรีน่าให้ชัดๆ ไง…”

ผมใช้ขาโอบรอบใต้สะโพกรีน่าแล้วดันหลังให้เนินรักกดอัดกับหน้าท้องผมแน่น ก่อนที่จะใช้สองมือจับเอวเด็กหญิงไว้และเริ่มขยับร่างกายอ่อนเยาว์ให้เป็น ฝ่ายกระเด้าผมช้าๆ

“อื๋ย..งพี่เอ….คะ ควยพี่เอครูดหีรีน่า…..”

“หีรีน่าอมควยพี่เอแน่นเลย…มีเลือดออกมาเยอะด้วย รีน่าเจ็บไหม”

เสียงสั่นๆ ของเจสสิก้าที่แนบร่างอยู่ข้างผมและมองภาพแก่นกายมหึมาผลุบเข้าออกสองแคมรักของพี่สาวช้าๆ ดังขึ้น ข้างหูผม

“รีน่าเจ็บมากเลยเจส..แต่มันก็เสียวด้วย….ตะ ตะ แต่ ตอนนี้ไม่ ไม่ค่อยเจ็บแล้ว…มีแต่ อูย..สะ เสียว..พี่เอ…เร็วอีก..อีก…”

รีน่าร้องออกมาอย่างลืมตัวเมื่อผมเร่งความเร็วในการโยกร่างเด็กหญิงกระเด้า เข้าตามความเสียวโดยไม่ยั้ง สองขาเด็กหญิงยกส่ายสะเปะสะปะไปมาอย่างไร้ทิศทาง แต่ในที่สุดขาคู่งามก็พบตำแหน่งที่ดีที่สุด นั่นคือการโอบรัดรอบเอวผมไว้แน่น สองมือโอบรอบคอผมไว้ปล่อยให้ผมเป็นฝ่ายกำหนดความถี่ของการกระเด้าอย่างเต็ม ที่ ท่ามกลางเสียงครวญครางของเด็กหญิง

“ฮ๊าวส์………ระ รีน่า…………”

ร่างอวบอิ่มขาวโพลนของรีน่ากระตุกเฮือก เมื่อความเสียวสุดยอดครั้งแรกในชีวิตมาถึง กล้ามเนื้อทุกส่วนเต้นระริก หลืบรักหดตัวแน่นราวกับต้องการจะบีบเคล้นแก่นกายผมให้แหลกในคราวเดียว ผมหลับตาแน่นเมื่อความเสียงพลุ่มขึ้นถึงที่สุด น้ำรักจำนวนมากกระฉูดเข้าไปในร่างเด็กหญิงจนเอ่อนองออกมา พร้อมกับปราณทั้งร่างของผมที่ไหลผ่านเข้าสู่เรือนกายแฝดผู้พี่

“รีน่า…สงบจิตลงเดี๋ยวนี้…จงฟังพี่ให้ดี…ผนึกปราณที่จักรอัคคี ปล่อยใจให้ปราณพี่เข้าสลายปราณธรรมชาติ……………”

ดวงตาที่เบิกโพงด้วยความแตกตื่นของรีน่าเมื่อรับรู้ว่ามีกระแสปราณมหาศาล หลั่งไหลเข้ามาในร่างกาย หลับลงทันทีที่ผมบอกแนวทางโคจรปราณให้เด็กหญิงปฏิบัติ ไม่นานนักปราณธรรมชาติในร่างรีน่าก็ถูกปราณผมสลายและกระจายออกเป็นปราณใหม่ ที่เมื่อผ่านการชักจูงไปตามจุดเส้นการโคจร พร้อมอธิบายตำแหน่งต่างๆให้รีน่ารับรู้โดยละเอียด…เด็กหญิงก็สามารถโคจร ปราณก่อเกิดมวลปราณคชสีห์ในร่างตนเองเป็นครั้งแรก แต่สำหรับผมแล้วเมื่อตรวจสอบกระแสปราณของรีน่าก็ต้องพบกับความผิดหวังเล็ก น้อย แม้จะเป็นสิ่งที่คาดอยู่แล้วก็ตาม เพราะปราณในร่างรีน่ามีเพียงมวลปราณบริสุทธ์ของปราณคชสีห์ โดยปราศจากปราณหนุนเสริมและพลังชีวิตจากผลึกมังกรที่ผมเคยถ่ายทอดให้ภรรยา ทุกคน แสดงว่าการถ่ายทอดปราณทั้งหมดในร่างผมอย่างสมบูรณ์นั้นจะเกิดกับเฉพาะบุคคล ที่มีข้อกำหนดพิเศษเท่านั้น แต่ข้อกำหนดนั้นคืออะไร แม้แต่จานีสผู้ทรงความรู้สูงสุดในโลกแห่งปราณก็ไม่สามารถอธิบายได้…

เวลาผ่านไปชั่วครู่ใหญ่จนผมมั่นใจว่ารีน่าสามารถโคจรปราณเองได้แล้ว ผมค่อยๆ ถอนปราณทั้งหมดออกจากร่างรีน่าพร้อมกับแก่นเนื้อที่ยังคงแข็งตัวเต็มที่ออก จากมาจากสองแคมอวบ น้ำรักจำนวนมากหลั่งไหลออกมาเป็นสายผสมกับเลือดสาว ปากแคมรีน่าที่เคยมีร่องรอยฉีกขาดจากการรองรับแก่นเนื้อผม กลับปิดสนิทปราศจากรอยแผล อันเป็นคุณลักษณะพิเศษของปราณคชสีห์ที่จะฟื้นฟูร่างกายของสตรีที่รับการถ่าย ทอดทันที

ทันทีที่แก่นกายผมถอนออกจากร่างรีน่า มือเล็กๆ ของเจสสิก้าก็จับมันเอาไว้ทันที พร้อมกับร่างของเด็กหญิงฝาแฝดผู้น้องโถมเข้ามาในอ้อมกอดผม

“พี่เอ….ขอเจสสิก้าบ้าง….”

ทรวงอกที่อวบอิ่มเกินพี่สาวของเจสสิก้าอัดแน่นอยู่กับร่างผมจนรู้สึกได้ถึง ความเต่งตึงและสัมผัสของหัวนมน้อยที่แข็งชูชัน ผมพลิกกายลงนอนหงายกับพื้นโดยมีเจสสิก้าทาบร่างอยู่ด้านบน สองมือผมคลึงเคล้นแก้มก้นเต่งตึง ก่อนแทรกมือผ่านร่องก้นทางด้านหลังอ้อมไปยังพลูเนื้อเจสสิก้า ที่กำลังฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อลื่นแรกของเด็กหญิง

“พี่เอ…ขอเจสสิก้าเถอะ เห็นพี่เอเย็ดรีน่าแบบนี้ เจสสิก้าทนไม่ไหวแล้ว….”

“เจสสิก้าพร้อมหรือยัง….ถ้าพร้อมก็ยกสะโพกขึ้นนะ พี่จะถ่ายทอดปราณให้เจสสิก้าเดี๋ยวนี้เลย”

ผมบอกให้ฝาแผดผู้น้องที่ทาบทับร่างเปลือยอยู่บนตัวผมโก่งสะโพกขึ้น เด็กหญิงผู้ปราศจากประสบการณ์ทางเพศมาก่อนมีสีหน้างุนงงเล็กน้อย แต่ก็ยอมโก่งสะโพกขึ้นตามความต้องการของผม และในทันทีที่แก่นกายผมพ้นจากการกดทับ มันก็ชี้ชันผงาดขึ้นในตำแหน่งจรดจ่ออยู่กับกลางร่องรักเจสสิก้า เพียงผมเอื้อมมือไปดันสะโพกเด็กหญิงให้ลดลง หัวบานของมันก็แทรกสองแคมบางใสของเจสสิก้าพอดีราวกับวัดไว้ล่วงหน้า ความเปียกชุ่มฉ่ำที่หลั่งจากร่องรักเด็กหญิงมาชโลมปลายแก่นเนื้อบอกให้รู้ ว่าอารมณ์รักเจสสิก้าพร้อมอยู่นานแล้วที่จะรับรู้ประสบการณ์รักครั้งแรกใน ชีวิต

“อูยพี่เอ จะเอาควยพี่เย็ดใส่ไปในหีเจสสิก้าในท่านี้เลยหรือ”

เจสสิก้าส่งเสียงครงออกมา แต่ไม่คัดค้านใดๆ แต่เมื่อปลายแก่นกายผมที่ดูเหมือนจะผ่านสองแคมบอบบางเข้าไปได้ในครั้ง แรกกลับชะงักความคืบหน้า เมื่อแคมน้อยทั้งสองขยายตัวออกอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดช่องทางให้แก่นเนื้อที่มีขนาดเส้นรอบวงกว่าหกนิ้วผ่าน เข้าไปได้

“ซีดส์…พี่เอ….ใหญ่จัง….หีเจสสิก้าจะฉีกแล้ว…..”

ผทกัดฟันแน่นกับความเสียวจากปลายแก่นกายที่แทรกผ่านสองแคมเข้าไปได้เล็กน้อย แม้เจสสิก้าจะมีเต้านมอวบอิ่มกว่ารีน่าผู้เป็นพี่ แต่สำหรับพลูเนื้อเบื้องล่างแล้ว รีน่าผู้เหนียมอายกลับเหนือกว่าทั้งความอวบเปล่งและโหนกนูน ในขณะที่กลีบเนื้อเจสสิก้าดูบอบบางบริสุทธิ์ขัดกับบุคลิกกล้าแสดงออกของเด็ก หญิง ความปริตึงของปากแคมรักที่กำลังพยายามรับอวัยวะเพศชายดุ้นแรกในชีวิต บอกให้ผมรู้ว่าหากฝืนอัดลงไปหาความเสียวภายในโดยที่เจสสิก้ายังไม่พร้อม ร่องรักเยาว์วัยนี้จะต้องฉีกขาดยับเยินแน่นอน

“ถ้าเจสสิก้ายังไม่พร้อม รอก่อนก็ได้นะ…”

ผมบอกเด็กหญิงเบาๆ ทั้งที่ใจหนึ่งต้องการให้แก่นกายผมมุดไปจนสุดทางรักของเจสสิก้า แต่เด็กหญิงกลับสั่นศีรษะไปมาอย่างดื้อดึง

“ไม่เอา พี่เอเย็ดพี่รีน่าไปแล้ว รีน่ากำลังผนึกปราณ ถ้าพี่เอไม่ให้ปราณเจสสิก้า รีน่าต้องข่มทับเจสสิก้าแน่ๆ เป็นไงเป็นกัน เจสสิก้าจะ… โอ๊ย…..”

ยังไม่ทันที่เจสสิก้าจะพูดจบ เด็กหญิงก็ตัดสินใจทิ้งร่างให้น้ำหนักสะโพกกดอัดสองแคมเข้ากับแก่นเนื้อผม ที่จุกอยู่ น้ำหนักของมันทำให้สองแคมบางใสฉีกขาดจากกันในทันที เด็กหญิงร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเหยเกน้ำตาทะลักออกมาจากดวงตายาวรีเป็นสาย ขณะหอบสะอื้นฮักๆ อยู่บนอกผม…ร่างกายเบื้องล่างผมสัมผัสได้ถึงเลือดจากการฉีกขาดของแคมรัก ผสมเยื่อพรหมจรรย์ที่หลั่งรินออกมา แต่พร้อมกันนั้นหลืบรักที่ยับเยินของเจสสิก้าก็บีบกระชับแก่นกายผมแน่นสนิท กล้ามเนื้อภายในหลืบน้อยๆ ที่กระตุกด้วยความเจ็บปวดกลับยิ่งเพิ่มความเสียวให้แก่นกายผมจนแทบไม่สามารถ ควบคุมน้ำรักได้

ผมค่อยๆ ลูบไล้เรือนกายนุ่มเนียนของเจสสิก้าที่ทาบทับและกอดผมไว้แน่น น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาดสายจนผมต้องจูบที่หางตาเรียวเพื่อซับน้ำตาให้

“เจสสิก้าเจ็บมากไหม”

ผมกระซิบถามแผ่วเบา เด็กหญิงผงกศรีษะรับอย่างอ่อนแรงและส่งเสียงสะอื้นตอบ

“เจ็บที่สุดเลยพี่เอ….เพื่อนของเจสสิก้า ที่เพิ่งรับปราณจากท่านประมุขเมื่อวานบอกว่าเจ็บมาก แต่พอทนได้ และจะมีความสุขที่สุด แต่ไม่รู้ทำไมเจสสิก้าถึงมีแต่เจ็บอย่างเดียว หีเหมือนจะฉีก ควยพี่เอเหมือนถ่านไฟร้อนๆ ที่เข้ามาในหีเจสสิก้า….”

“ก็เจสสิก้าเร่งร้อนที่จะเย็ดเพื่อรับปราณคชสีห์แข่งกับรีน่าทั้งที่หีของเจ สสิก้ายังไม่พร้อมนี่นา แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ อีกครู่เดียวเมื่อเจสสิก้ารับปราณคชสีห์ไปแล้ว หีของเจสสิก้าจะฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม หลังจากนั้นการเย็ดจะมีแต่ความสุข ไม่มีความเจ็บปวดอีกแล้ว”

“พี่เอรับรองกับเจสสิก้านะ….”

“พี่รับรอง”

“ถ้าอย่างนั้นพี่เอก็เย็ดเจสสิก้าให้เสร็จเถอะ….”

“แล้วเจสสิก้าไม่เจ็บแล้วหรือ…”

“เจ็บสิพี่เอ…เจ็บที่สุดในชีวิตเลย…แต่…”

ใบหน้าเจสสสิก้าแดงวูบ ก่อนกล่าวต่อ…

“ตอนนี้มันบอกไม่ถูก..มันยังเจ็บ พอควยพี่เออยู่นิ่งๆ มันก็คลายเจ็บลงนิดหน่อย แต่ไม่รู้ทำไมเจสสิก้ารู้สึกอยากจะให้มันเจ็บอีกก็ไม่รู้….”

ผมอดขำในใจกับคำตอบของเจสสิก้าไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าด้วยวัยที่อ่อนเยาว์และไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศใดๆ เด็กหญิงจึงไม่สามารถแยกความรู้สึกเสียวกับความเจ็บออกจากกันได้ แก่นกายผมที่แม้จะทะลวงร่องรักบริสุทธิ์ของเด็กหญิงจนยับเยิน แต่ในเวลาเดียวกันนั้นมันก็เสียดสีจุดที่ไวต่อความรู้สึกของเจสสิก้าทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นติ่งเสียว ร่องแคม หรือปุ่มประสาทรับความรู้สึกภายในหลืบรัก ความรู้สึกเสียวที่แทรกผ่านความเจ็บปวดเข้ามานี่เอง ทำให้เจสสิก้ารู้สึกว่าอยากลิ้มรสของมันอีกครั้งแม้จะต้องแลกมาด้วยความเจ็บ ก็ตาม

ผมค่อยบิดแก่นกายที่ถูกกล้ามเนื้อเจสสิก้าบีบอัดไว้แน่น แล้วส่ายสะโพกเป็นวงกลมเล็กๆ เพื่อให้แก่นกายทำหน้าที่เบิกช่องทางความเป็นหญิงของเจสสิก้าให้ค่อยๆ คุ้นเคยกับการสัมผัส อีกทั้งยังเน้นการเสียดสีกับติ่งเสียวเหนือร่องรักอย่างนุ่มนวล จนทำให้เจสสิก้าส่งเสียงครางเบาๆ ออกมา

“อูว์…พี่เอ…เจสสสิก้า หวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้….ซีดส์…อูย พี่เอ ค่อยๆ ก่อนนะ”

เจสสิก้าสูดปากเบาๆ เมื่อผมเริ่มเปลี่ยนการควงมาเป็นการกระเด้าเข้าออกสั้นๆ พลูเนื้อที่บีบอัดแท่งเนื้อของผมแน่นสนิท ทำให้การเคลื่อนที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่หลังจากผมกระเด้าสั้นๆ อย่างนุ่มนวลต่อเนื่อง สัมผัสของผิวแก่นเนื้อก็รับรู้ถึงความลื่นที่ค่อยๆ ซึมซาบออกมาเคลือบลำลึงค์ไว้ช้าๆ พร้อมกับใบหน้าที่เคยแสดงความเจ็บปวดของเจสสิก้าก็คลายตัวลง ดวงตาเรียวยาวหรี่ปรือ แต่สองแขนของเด็กหญิงกลับกระชับร่างผมแน่นเข้า ขณะที่ร่างเริ่มบิดตัวน้อยๆ ประสบการณ์ของผมบอกให้รู้ว่าความเจ็บที่เคยครองคลุมประสาทรับความรู้สึกของ เด็กหญิงเริ่มถูกแทนที่ด้วยความเสียวมากขึ้นทุกทีจนเริ่มเข้าแทนที่ประสาท สัมผัสทั้งหมดเอาไว้แล้ว

“หีเจสสิก้ายอดเยี่ยมมากเลยรู้ไหม ทีแรกพี่คิดว่ามันเล็กอย่างนี้ไม่น่าจะรับควยพี่ได้เลย แต่ตอนนี้มันทั้งดูดทั้งตอดเลยนะ..”

ผมกระซิบข้างใบหูขาวสะอาดและเม้มติ่งหูน้อยๆ จนเจสสิก้าสั่นสะท้านไปทั่วร่าง

“หีเจสสิก้าสู้รีน่าได้ไหมพี่เอ…”

“สู้ได้สิ ไม่แพ้รีน่าแน่นอนพี่รับรอง…”

ผมหันไปมองร่างเปลือยเปล่าของรีน่าที่ยังคงนอนเปลือยเปล่าหลับตาสนิทเพื่อ โคจรปราณโดยไม่รับรู้การร่วมรักของผมกับน้องสาว เนินรักโหนกนูนของรีน่ายังคงมีน้ำรักของผมและเลือดพรหมจรรย์ไหลซึมออกมาบางๆ แรงดูดตอดและการบีบรัดของเนินรักรี่น่าให้ความสุขผมอย่างล้นเหลือ แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าความเสียวที่ได้รับจากเจสสิก้าผู้น้องซึ่งแม้จะมีร่อง รักแคบเล็ก สองแคมบอบบางไม่อวบอิ่มมากนัก แต่สัมผัสและการตอบสนองของหลืบรักนั้นดูจะให้ความประทับใจผมไม่ต่างกันเลย แม้แต่น้อย และคำตอบที่ผมให้กับเจสสิก้านั้นเป็นความทุกประการ

“เจสสิก้ากลัวมาตลอดว่าหีเจสสิก้าสู้รีน่าไม่ได้ เจสสิก้าดีใจให้ความสุขพี่เอได้…พี่เอ…อ๊าว..”

เด็กหญิงร้องครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อผมพบว่าการกระตุ้นจุดเสียวและการ สนทนาเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด ทำให้แท่งเนื้อผมสามารถอาศัยน้ำหล่อลื่นที่เอ่อล้นออกมาเคลื่อนตนเองได้มาก ขึ้นทุกขณะ ในที่สุดผมก็สามารถดันสะโพกของเจสสิก้าขึ้นสูงจนส่วนปลายเกือบพ้นร่องรัก และปล่อยมันกลับลงมาให้หลืบรักกลืนกินมันได้ทั้งหมด ผมกระชับร่างเล็กกระทัดรัดแต่อวบอิ่มของเจสสิก้าไว้แน่น แล้วเริ่มใช้มือสองข้างที่กุมสะโพกเจสสิก้าช่วยขยับขึ้นลงช้าๆ เสียงซูดปากด้วยความเสียวของเด็กหญิงดังไม่ขาดระยะ ไม่นานนักผมก็พบว่าแรงที่ใช้ยกสะโพกเด็กหญิงนั้นลดลง เพราะเจสสิก้ากลับเป็นฝ่ายกระเด้าสะโพกรับความเสียวด้วยตัวเอง จนผมสามารถปล่อยมือเป็นอิสระเพื่อยกร่างเด็กหญิงขึ้นมาในท่านั่งคร่อม เปิดโอกาสให้ผมสามารถเคล้นคลึงเต้านมที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระเด้าอย่าง เต็มที่

“อูว์ พี่เอ…สะ เสียว…”

“พี่ก็เสียว..งเจสสิก้าไม่เจ็บแล้วใช่ไหม..ง”

“อาห์…จะ เจ๊บอยู่พี่เอ.แต่มันเสียว…เจสสิก้าต้องการให้มัน…มัน….อ๊าย…มะ มาแล้วววว”

ร่างน้อยๆ ของเด็กหญิงกระตุกระริก ก่อนทิ้งร่างที่นั่งคร่อมลงมาฟุบกับอกผม หลืบรักน้อยๆ ตอดหัวบานที่ไวต่อความรู้สึกของผมอย่างแรง จนน้ำรักผมกกระฉูดขึ้นไปในร่างเจสสิก้าราวน้ำพุ

“โอ๊ว…พี่เอ….ควยที่เออ..น้ำพี่เอ….มันไหลเข้ามาใหญ่เลย..อาห์..นี่คือปราณพี่เอใช่ไหม”

เด็กหญิงครางแผ่วเบาเมื่อรับรู้ว่าปราณของผมกำลังทะลักทะลายเข้าไปในร่าง ผมรีบกระซิบให้เจสสิก้าสงบจิตและบ่งบอกวิธีโคจรปราณให้เด็กหญิงอย่างจริงจัง และก็เช่นเดียวกับรีน่าผู้เป็นพี่สาว ปราณที่ก่อเกิดในร่างเจสสิก้ามีเพียงปปราณคชสีห์ที่บริสุทธิ์เท่านั้น ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมคาดเดาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ผมช่วยชักนำปราณให้เจสสิก้าอยู่ครู่ใหญ่จนเด็กหญิงสามารถโคจรปราณได้ด้วยตน เอง จึงค่อยดึงแก่นกายออกมาช้าๆ และต้องยิ้มออกมาเมื่อพบว่าสองแคมบอบบางของเจสสิก้าที่ฉีกขาดอย่างน่ากลัว เมื่อครู่ กลับเข้าสู่สภาพเดิมเช่นเดียวกับรีน่า และมีเพียงน้ำรักผสมเลือดสาวที่ไหลรินออกมาระหว่างสองแคมเท่านั้นที่เป็น เครื่องบ่งบอกถึงการร่วมรักที่ผ่านมา

ผมขยับร่างมาที่ขอบเตียงและลุกขึ้นยืนพิจารณาร่างเปลือยเปล่าของเด็กหญิง ฝาแฝดทั้งสองบนเตียงด้วยความพอใจที่ทั้งสองกำลังอยู่ในสมาธิจิตในการรวบรวม ปราณ ผมระบายลมหายใจยาวและเตรียมก้าวไปชำระล้างร่างกาย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงใสๆ ที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นหน้าประตู

“พี่เอ….พิมมีอะไรมาให้พี่เอดูด้วยแหละ…ว๊าย…”

ร่างน้อยๆ ของน้องพิมวัย 8 ปี ถลันเข้ามาในห้องผมพร้อมน้ำเสียงตื่นเต้น แต่เมื่อสายตาน้องพิมพบกับภาพร่างเปล่าเปลือยของรีน่าและเจสสิก้าบนเตียงผม น้องพิมก็ร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มสดใส กลับเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว ก่อนสะบัดหน้าหันร่างวิ่งออกจากห้องไปในทันที

“น้องพิม”

ผมร้องเรียกน้องพิมตามหลัง แต่เสียงฝีเท้าเด็กหญิงที่ห่างออกไปทุกขณะ ตามมาด้วยเสียงประตูห้องส่วนตัวของน้องพิมเปิดและปิดตามหลัง ทำให้ผมต้องถอนใจออกมาเพราะทราบนิสัยแง่งอนของเด็กหญิงผู้จะเติบโตเป็นภรรยา อีกคนหนึ่งของผมคนนี้ดีว่า แม้น้องพิมจะยอมรับน้องริน น้องกิฟท์ น้องทิพย์ เซี่ยวเล้ง จานีส และน้องนิว แต่การยอมรับนี้ไม่ได้ขยายครอบคลุมไปถึงสตรีอื่น ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา หากน้องพิมรับรู้ว่าผมได้ร่วมรักกับศิษย์สตรีของตะกูลโรหิณีเมื่อใด เด็กหญิงก็จะแสดงอาการแง่งอนกับผมเป็นเวลาหลายวันทุกครั้ง และแม้น้องทิพย์จะพยายามชี้แจงเหตุผลที่ผมจำเป็นต้องร่วมรักกับศิษย์สตรี โรหิณีจนน้องพิมเข้าใจแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าความหวงแหนในตัวผมที่น้องพิมมีก็ยังคงไม่เคยลดลง โดยเฉพาะในวันนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกที่น้องพิมได้เห็นภาพผมหลังการร่วมรักกับ สตรีอื่นด้วยตนเอง ทำให้อารมณ์หึงหวงของเด็กหญิงยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจนระเบิดออกมาเป็น ความกราดเกรียวที่ผมเห็นเมื่อครู่

“พี่เอ….”

เสียงเรียกเบาๆ ของรีน่าที่เพิ่งเสร์จสิ้นจากการโคจรปราณ ทำให้ผมหันกลับไปยังเด็กหญิงทั้งสองและพบว่ารีน่ากำลังลุกขึ้นนั่งบนเตียง ขณะที่เจสสิก้ายังคงโคจรปราณไม่เสร็จสิ้น สีหน้าของรีน่าบอกให้ผมรู้ว่ารีน่าได้เห็นภาพความกราดเกรียวของน้องพิมด้วย ตาตัวเอง

“พี่เอ…ท่านหญิงพิม…โกรธรีน่าหรือเปล่า”

ผมส่ายหน้าช้าๆ คำถามของรีน่าที่ถามถึงน้องพิม ผู้เป็นหนึ่งในนายหญิงทั้งเจ็ดที่บริวารตระกูลคชสีห์เรียกขาน และเป็นที่รับรู้กันว่าน้องพิมคือนายหญิงน้อยๆ ที่หึงหวงผมที่สุด ต่างจากนายหญิงอีกหกคนที่เหลือ ซึ่งเข้าใจธรรมชาติของการถ่ายทอดปราณคชสีห์เป็นอย่างดี และไม่เคยขัดขวางการทำหน้าที่ถ่ายทอดปราณของผม

“ไม่มีอะไรหรอก แต่พี่ฝากให้รีน่าเฝ้าดูเจสสสิก้าโคจรปราณให้เสร็จ แล้วพวกเราทั้งคู่ก็ไปทำความสะอาดร่างกาย รอพี่อยู่ที่นี่ พี่จะไปข้างนอกสักครู่..”

โดยไม่รอคำตอบจากรีน่า ผมรีบหันกลับไปคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมอย่างลวกๆ แล้วออกจากห้องและมุ่งไปที่ห้องนอนส่วนตัวของน้องพิมเพื่อทำความเข้าใจกับ เด็กหญิงผู้กำลังเสียใจ ท่าทีโกรธรุนแรงอย่างที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อนของน้องพิมทำให้ผมอดกังวลไม่ ได้ ใจหนึ่งผมอดคิดถึงคำเตือนของจานีสก่อนหน้านี้ที่ย้ำเสมอขอให้ผมหลีกเลี่ยง การอยู่กับน้องพิมสองต่อสองเพื่อป้องกันไม่ให้ผมร่วมรักกับน้องพิมก่อนเวลา อันควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปนอนในห้องนอนของน้องพิมโดยปราศจากบุคคลที่สาม นั้น เป็นสิ่งที่จานีสห้ามอย่างเด็ดขาด ซึ่งผมก็ยอมรับคำขอร้องของจานีสทั้งที่รู้ดีว่าถึงแม้ผมจะอยู่สองต่อสองกับ น้องพิมก็ไม่มีทางที่ผมจะร่วมรักกับเด็กหญิงวัยเพียง 8 ปีได้ อย่างไรก็ตาม อารมณ์รุนแรงที่น้องพิมแสดงออกมา ทำให้ผมตัดสินใจที่จะทำความเข้าใจกับน้องพิมด้วยตนเองโดยตรง แทนที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่น้องทิพย์เหมือนที่ผ่านมา และยอมละเมิดคำขอร้องของจานีสเป็นครั้งแรก

ประตูหินหนาหนักเคลื่อนที่เปิดทางให้ผมในทันทีที่เซ็นเซอร์ตรวจจับพบผมที่ หน้าห้องพักส่วนตัวของน้องพิม ผมก้าวเข้าไปภายในด้วยความรู้สึกแปลกที่เล็กน้อย เพราะตั้งแต่ตระกูลคชสีห์ย้ายมาอยู่ที่นี่ และก่อสร้างทุกสิ่งเสร็จลง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามาในห้องน้องพิม ขณะที่ห้องของน้องริน น้องกิฟท์ น้องทิพย์ เซี่ยวเล้ว จานีส และน้องนิว ถูกผมใช้เป็นสถานที่ร่วมรักกับทุกคนแทบไม่เว้นวัน

ภายในห้องตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สดใสตามวัยเยาว์ของเจ้าของ เตียงนอนหนานุ่มที่ประดับด้วยผ้าคลุมเตียงลายการ์ตูนเจ้าแมวเหมียวคิตตี้ ตั้งเด่นอยู่สุดผนัง ขนาบข้างด้วยชั้นวางหนังสือที่สูงไปจรดผนัง เครื่องไฟฟ้าอำนวยความสะดวกและบันเทิงจัดวางเต็มผนังด้านขวาของห้อง ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งจัดตั้งตู้เสื้อผ้าไว้ภายใน บนเตียงนอนร่างน้อยๆ ของน้องพิมนอนคว่ำหน้าสะอึกสะอื้นอยู่ โดยไม่สนใจว่าผมได้เข้ามาในห้อง ผมถอนใจเบาๆ ก้าวไปที่เตียงก่อนทรุดกายลงนั่งข้างร่างน้องพิม ก่อนยกมือขึ้นลูบเส้นผมหนานุ่มของเด็กหญิงอย่างทะนุถนอม

“น้องพิม…เป็นอะไรไป ไม่คุยกับพี่สักหน่อยหรือ”

ผมส่งเสียงนุ่มนวลถามเด็กหญิงผู้กำลังเสียใจ แต่โกหญิงกลับร้องไห้โฮออกมาและสะบัดศีรษะหนีการสัมผัสของผม

“พี่เอไม่ต้องมายุ่งกับพิม…พี่เอไม่รักพิม แล้วจะมาหาพิมทำไม”

ผมกระเถิบขึ้นไปนั่งบนเตียง แล้วดึงร่างน้องพิมขึ้นมากอดในอ้อมแขน แม้น้องพิมจะพยายามขัดขืนดิ้นรน แต่เมื่อผมใช้แรงต่อต้านและกอดร่างน้อยๆ นั้นไว้ครู่หนึ่ง น้องพิมก็ยุติการดิ้นรนแต่ยังคงสะอื้นไม่หยุด น้ำตาไหลออกจากดวงตาเป็นสายจนเปียกชุ่มเสื้อคลุมที่ผมสวมอยู่

“ใครบอกว่าพี่ไม่รักน้องพิม น้องพิมคือชีวิตของพี่ ไม่มีวันที่พี่จะทอดทิ้งน้องพิมหรือแม้แต่จะทำให้น้องพิมเสียใจอย่างแน่นอน … บอกพี่เถอะว่าโกรธพี่เรื่องอะไร”

เสียงสะอื้นของเด็กหญิงวัย 8 ปี ดูจะค่อยสงบลง เมื่อผมย้ำความรู้สึกที่ผมมีให้รับรู้

“พี่เอเย็ดผู้หญิงอื่นอีกแล้ว…พี่เอก็รู้ว่าพิมไม่อยากให้พี่เอเย็ดใครอื่นนอกจากพี่ๆ ทั้งหกคนเท่านั้น”

“แต่น้องพิมก็รู้ใช่ไหมว่าพี่จำเป็นต้องถ่ายทอดปราณให้ผู้หญิงในตระกูล คชสีห์และโรหิณี นั่นเป็นเพียงการถ่ายทอดปราณที่พี่จำเป็นต้องทำ แต่พี่รับรองว่าคนที่พี่รักทีเพียงพวกเราทั้งเจ็ดคน น้องริน น้องกิฟ์ น้องทิพย์ น้องเซี่ยวเล้ง จานิส น้องนิวและน้องพิม ทุกคนคือชีวิตของพี่ ไม่มีใครอื่นที่พี่จะรักอีกหรอก…”

ผมกอดกระชับร่างน้อยๆ ไว้แน่นและส่งเสียงปลอบโยนน้องพิมเบาๆ ซึ่งดูเหมือนจะได้ผล น้องพิมยุติการดิ้นรนและกอดตอบผมแน่น ส่งเสียงตัดพ้อเบาๆ กลับมา

“พี่เอบอกว่ารักพิม แต่พี่เอไม่เคยสนใจพิมเลย ห้องของพิมพี่เอก็ไม่เคยเข้ามา…”

“ก็พี่เข้ามาแล้วไง ถ้าน้องพิมไม่ว่าพี่จะเข้ามาทุกวันเลยดีไหม…”

“แน่นะ…พี่เอสัญญาแล้วนะ”

“ตกลงพี่สัญญา แต่น้องพิมต้องสัญญากับพี่เหมือนกันนะว่า น้องพิมต้องเข้าใจความจำเป็นที่พี่ต้องเย็ดผู้หญิงอื่น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพี่รักน้องพิมและพี่ๆ ทุกคนน้อยลงเลย”

น้องพิมส่ายหน้าช้าๆ เมื่อผมขอให้เด็กหญิงสัญญาที่จะเลิกโกรธเกรี้ยวในการที่ผมต้องร่วมรักกับ สตรีอื่น ดวงหน้ากลมที่ประดับดวงตากลมโตสุกใสจับจ้องดวงตาผมแน่วแน่

“พิมจะไม่โกรธได้ยังไง ในเมื่อพี่เอเย็ดกับทุกคนแต่ไม่เย็ดพิม…”

ผมสะอึกไปกับคำพูดของเด็กหญิงวัย 8 ปี ที่ยังไม่มีแม้แต่ประจำเดือน

“น้องพิมยังเด็กมากนะ..พี่สัญญาว่าอีกสามปี เมื่อน้องพิมมีประจำเดือนครั้งแรก พี่จะเย็ดน้องพิมทันที แต่ตอนนี้ร่างกายน้องพิมยังไม่พร้อมหรอก….”

“พิมรู้ว่าร่างกายพิมยังไม่พร้อม พี่ทิพย์บอกพิมแล้ว แต่พิมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพอพิมเห็นพี่เอเย็ดกับพี่ริน พี่กิฟท์ พี่ทิพย์ พี่เซี่ยวเล้ง พี่จานีส พี่นิว ใจของพิมถึงถึงเต้นแปลกๆ ก่อนหน้านี้พิมก็ไม่รู้สึกอะไรมาก แต่สักปีมานี้ไม่รู้ว่าทำพอพิมเห็นพี่เอเย็ด หีของพิมบางทีก็สั่น บางทีก็มีน้ำประหลาดซึมออกมา บางทีพิมก็สั่นไปทั้งตัว อารมณ์หงุดหงิดไปหมด ยิ่งเมื่อกี้นี้พอพิมเห็นพี่เอยืนควยแข็งอยู่ในห้อง มีรีน่ากับเจสสิก้าที่อายุมากว่าพิมนิดเดียวอยู่ด้วย และหีทั้งสองคนเปรอะไปด้วยน้ำพี่เอ อารมณ์พิมก็โกรธวูบจนคุมไม่ได้ …. พิมขอโทษพี่เอด้วย แต่พิมเองก็ไม่แน่ใจว่าถ้าพิมเห็นแบบนี้อีก พิมจะคุมตัวเองตามที่พี่เอต้องการได้ไหม…”

น้องพิมระบายความรู้สึกตนเองออกมาอย่างยืดยาว ด้วยถ้อยคำที่ทำให้ผมต้องจับจ้องใบหน้ากลมน่ารักของเด็กหญิงอย่างละเอียด เพราะมันบอกให้รู้ว่าแม้น้องพิมจะมีอายุเพียง 8 ปี แต่การใช้ชีวิตอยู่ร่วมในครอบครัวที่การร่วมรักเป็นเรื่องปกติที่ไม่จำเป็น ต้องปิดบังระหว่างกัน ส่งผลสะท้อนให้ความต้องการทางเพศของน้องพิมปะทุขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ความหงุดหงิดฉุนเฉียวที่เริ่มเกิดบ่อยครั้งขึ้นในห้วงปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นผลมาจากความต้องการของสตรีที่ปราศจากทางออก

“น้องพิมฟังพี่ให้ดีนะ….น้องพิมอาจจะยังไม่เข้าใจสิ่งที่พี่และน้องทิพย์ เคยบอกพิมว่าพวกเราทั้งสามคนเคยใช้ชีวิตร่วมกันมาก่อนในอนาคต แต่พี่ขอบอกว่าขณะนี้ถ้าพี่ทำได้ที่จะไม่ลังเลที่จะเย็ดน้องพิมเลย ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาพี่เฝ้ารอให้น้องพิมกลับมาเป็นน้องพิมที่พี่เคยเย็ด ทุกลมหายใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องรออีกสามปี จนกว่าน้องพิมจะมีประจำเดือนครั้งแรก เพราะการเย็ดของเรานั้นไม่ใช่เป็นเพียงการร่วมเพศแบบสามีภรรยาเท่านั้น แต่ยังเป็นการถ่ายทอดธารอสุระที่หลับไหลอยู่ร่างกายน้องพิมมาให้ตระกูล คชสีห์ ถ้าพี่ฝืนเย็ดน้องพิมในตอนนี้ ทุกสิ่งที่พวกเรารอกันมาก็จะสูญเปล่า…น้องพิมเข้าใจที่พี่พูดไหม”

น้องพิมมองตาผมด้วยสายตายกย่องบูชา จนทำให้ผมอดสะท้านใจไม่ได้ เพราะแววตานั้นคือแววตาของพิมพ์มาดา เด็กหญิงวัย 12 ที่ผมช่วยให้รอดพ้นจากการข่มขืนในอีก 5 ปีข้างหน้า ดวงตาเด็กหญิงสะท้อนประกายเชื่อมั่นและส่งเสียงตอบมาเบาๆ

“พิมไม่เข้าใจที่พี่เอพูดนัก แต่พิมก็รู้ดีว่าร่างกายพิมมีความหมายที่สุดต่อการอยู่รอดของตระกูลคชสีห์ พี่ๆ ทุกคนพร่ำสอนให้พิมรู้เรื่องของพี่เอ การย้อนอดีต การฝึกปราณ แต่นั่นแหละพิมก็ยังไม่เข้าใจแจ่มแจ้ง…เพียงแต่ตอนนี้พิมรู้ว่าเมื่อใดก็ ตามที่พี่เอกอดพิมไว้แบบนี้ จิตใจของพิมก็จะสงบอบอุ่นและต้องการอยู่อย่างนี้ให้นานที่สุด….ถึงพี่เอจะ เย็ดพิมไม่ได้ แต่พี่เอคงจะจูบพิมเหมือนที่พี่เอจูบพี่ๆ ทุกคนได้ใช่ไหม”

ผมยิ้มให้เด็กหญิงผู้จะเป็นภรรยาผมอย่างเต็มตัวในอีกสามปีข้างหน้า ก่อนก้มลงจูบแก้มขาวผ่องของน้องพิมเบาๆ แต่น้องพิมกลับดิ้นรนหันหน้ามาเผชิญผม

“จูบแบบนี้พี่เอก็จูบพิมมาตลอดนั่นแหละ พิมอยากให้พี่เอจูบพิมเหมือนผู้ชายจูบผู้หญิงต่างหาก”

น้องพิมจ้องตาผมครู่หนึ่งก่อนหลับตากลมโตลง ริมฝีปากน้อยๆ เผยอออก รอรับการจูบจากผมอย่างตั้งใจ กริยาของเด็กหญิงทำให้ผมอดหัวเราะในใจไม่ได้ และตัดสินใจจูบริมฝีปากเบื้องหน้าเบาๆ ครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะถอนปากออก สองแขนน้องพิมก็เกี่ยวกระหวัดคอผมไว้แน่นและเหนี่ยวรั้งให้ผมจูบต่อไป จนผมต้องยอมปล่อยให้ริมฝีปากน้อยๆ นั้นจูบต่อไปตามความต้องการ

กระแสอุ่นซ่านกระจายขึ้นมาจากริมฝีปากเรียวบาง มันหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นไอบริสุทธิ์ของเด็กหญิง จนผมเองต้องยอมรับว่านี่เป็นสัมผัสที่ชุ่มชื่นไปถึงจิตวิญญาณ แต่แล้วผมก็ต้องแปลกใจเมื่อริมฝีปากน้องพิมเผยอขึ้น ลิ้นเรียวเล็กถูกส่งผ่านมากระทบริมฝีปากผมอย่างกล้าๆ กลัว ทำให้ผมอดยิ้มในใจไม่ได้ และเผยอริมฝีปากปล่อยให้ลิ้นน้อยๆ นั้นผ่านเข้าสัมผัสปลายลิ้นผมเบาๆ แต่พริบตาที่ปลายลิ้นน้องพิมสัมผัสปลายลิ้นผม กระแสหอมหวานสดชื่นราวน้ำทิพย์ก็พลุ่งเข้ามาในปากจนผมและน้องพิมสะดุ้งพร้อม กัน มันเป็นรสสัมผัสที่แปลกประหลาดและดึงดูดให้ผมส่งลิ้นเกี่ยวกระหวัดกับลิ้น น้องพิมเพื่อซึมซาบความรู้สึกอย่างลืมตัว ดวงตาเด็กหญิงหลับพริ้ม ลมหายใจเริ่มกระชั้นถี่ขึ้นทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัว ส่วนผมเองก็ตกอยู่ในภวังค์เดียวกัน การจูบที่เพิ่มแรงบดเบียดของริมฝีปากและลิ้นที่กอดเกี่ยวพันกัน ทำให้ความร้อนขุมหนึ่งก่อตัวขึ้นในจักรอัคคีอย่างรวดเร็ว แก่นเนื้อของผมก็ขยายตัวแข็งปั๋งจนบดเบียดแน่นกับสะโพกเล็กๆที่ไร้ส่วนโค้ง ของน้องพิม สองมือผมเริ่มลูบไล้ร่างกายเด็กหญิงอย่างลืมตัว ความนุ่มละมุนและกลิ่นหอมบริสุทธิ์กระจายอบอวลในทุกประสาทสัมผัส มือน้อยๆ ของน้องพิมเริ่มไขว่คว้าร่างกายผมทุกส่วนผ่านรอยแยกของเสื้อคลุมอาบน้ำตัว หลวมที่ผมสวมใส่มาเพียงตัวเดียว มือนั้นลูบไล้ผ่านหน้าท้องผมต่ำลงไปยังแก่นกายที่เบียดแน่นกับสะโพกเด็กหญิง และราวกับร่างกายผมจะแยกตัวออกจากการบังคับของจิตใจ ผมถอยหน้าท้องตัวเองออกจากน้องพิม ทำให้แก่นเนื้อที่เคยเบียดราบกับสะโพกน้องพิมเป็นอิสระชี้ชันขึ้นมาปะทะกับ มือน้อยๆ ของน้องพิมที่กวาดลงมาด้านล่าง

เพียงมือนั้นสัมผัสกับความแข่งแกร่งของแท่งเนื้อผม ร่างน้องพิมก็สะดุ้งน้อยๆ แต่มือนั้นกลับกำแท่งเนื้อที่มือเล็กๆของเด็กหญิงวัย 8 ปีกำได้ไม่รอบเอาไว้แน่น เสียงหอบกระเส่าของน้องพิมรุนแรงขึ้นทุกขณะ เช่นเดียวกับผมที่ความต้องการทางเพศลุกโพลงจนสติผมลืมเลือนไปว่าร่างที่อยู่ ในอ้อมแขนนี้คือเด็กหญิงที่ยังไม่พร้อมที่จะร่วมเพศ ประสาทสัมผัสของผมกลับบอกตนเองว่านี่คือร่างของน้องพิมวัย 12 ที่เคยร่วมรักมอบความสาวให้ผมที่บ้านคลองน้อยในอนาคต

มือของผมไล้ตามร่างกายบอบบางผ่านขอบกางเกงนอนผ้าฝ้ายขาสั้นของเด็กหญิง ที่ผมเกี่ยวมันลงไปด้านล่างจนพ้นจากปลายขาน้องพิม มือผมโลมไล้สะโพกน้อยๆที่ยังไม่เติบโตสัมผัสความเนียนนุ่มของแก้มก้นกลมกลึง นุ่มนวล ก่อนไล้มือมาทางด้านหน้าเพื่อรับรู้สัมผัสของเนินรักที่กำลังชุ่มชื้นไปด้วย น้ำหล่อลื่นจนฉ่ำเยิ้ม ร่างเด็กหญิงสั่นเทิ้มอย่างรุนแรงเมื่อเนินเนื้อสงวนถูกมือของเพศตรงข้าม สัมผัสเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่มือของเด็กหญิงกลับกำแก่นเนื้อของผมเอาไว้แน่นและเมื่อผมเริ่มขยับสะโพก เข้าออก ก็ดูเหมือนน้องพิมจะรับรู้วัตถุประสงค์ด้วยสัญชาติญาณ มือนั้นเริ่มกระทอกแก่นเนื้อเบาๆ จนผมต้องครางออกมาด้วยความเสียวจากรสสัมผัส

ท่ามกลางอารมณ์ปราถนาที่พลุ่งพล่านผมดันร่างน้องพิมลงนอนกับพื้นเตียงที่ปู ไว้ด้วยผ้าปูที่นอนสีชมพูสดใส เสื้อยืดตัวหลวมที่น้องพิมสวมใส่ถูกผมเลิกชายเสื้อขึ้นไปกองอยู่ที่ลำคอ ปล่อยให้มือผมเลื่อนไล้ไปตามหน้าอกที่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อมือผมลูบผ่านจุดยอดของหน้าอกทั้งสองข้าง หัวนมเล็กๆ ก็แข็งชูชันขึ้นรับการสัมผัส พร้อมกับที่ร่างเจ้าของหน้าอกบิดส่ายไปมาอย่างลืมตัว มือน้อยๆ ที่กำแก่นเนื้อเบื้องล่างกระทอกแก่นกายผมถี่ยิบจนผมแทบทะลักน้ำเสียวออกมา ทำให้ผมต้องดึงแก่นกายออกจากมือน้องพิมและยกร่างขึ้นคร่อมร่างน้อยๆ นั้นไว้ แก่นกายผมชี้ตรงไปยังเนินรักของเด็กหญิงวัย 8 ปี หัวบานที่ไวต่อความรู้สึกที่สุดสัมผัสกับร่องรักที่ชุ่มชื้น พร้อมที่จะบุกเข้าไปทำลายความบริสุทธิ์เบื้องหน้า

“พี่เอจ๋า….พี่เอจะเย็ดพิมแล้วใช่ไหม ….”

เสียงเล็กๆ ที่หอบกระเส่าของน้องพิมครางขึ้นเมื่อเด็กหญิงถอนจูบจากผมทันทีที่รับรู้ว่า หลืบรักอันอ่อนเยาว์กำลังถูกจรดจ่อด้วยแก่นกายของผม แต่เสียงกระเส่านี้กลับปลุกสติผมที่กำลังหลุดลอยไปให้กลับมาในทันที และกลับตระหนักในทันทีว่าร่างที่รอรับแก่นเนื้ออยู่เบื้องล่างนี้ยังเป็น ร่างของเด็กหญิงอายุ 8 ปีที่แม้จะเต็มใจและกำลังต้องการการร่วมรัก แต่ร่างกายที่ยังไม่เข้าสู่วัยสาวนั้นไม่สามารถรองรับอวัยวะเพศชายขนาดใหญ่ ของผมได้อย่างแน่นอน ผมรีบสะกดความต้องการของตัวเองอย่างรวดเร็ว และพลิกร่างลงมานอนเคียงข้างน้องพิมก่อนที่ทุกสิ่งจะสายเกินแก้

“พี่เอ…พี่เอเป็นอะไรไป ทำไมไม่เย็ดพิม…..”

ร่างน้อยๆของน้องพิม พลิกตามมาทาบร่างผมไว้ ดวงตากลมโตเป็นประกายด้วยอารมณ์ต้องการผสมกับความงุนงงสับสนที่ผมยุติการร่วมรักกลางคัน

ผมจับจ้องใบหน้าเด็กหญิงที่กำลังจะย่างสู่ความเป็นสาวในอีกสามปีข้างหน้า อย่างสับสน จิตส่วนหนึ่งของผมสั่งการให้ยุติทุกสิ่งก่อนที่จะสายเกินไปแต่จิตอีกส่วน หนึ่งกลับเร่งเร้าให้รับความสาวของเด็กหญิงโดยเร็วที่สุด ผมพยายยามยันกายลุกขึ้นนั่งทำให้ร่างน้องพิมพลิกกลับลงไปนอนหงายเหยียดยาวบน เตียง จิตผมต่อสู้กันอย่างรุนแรงขณะสายตาจับจ้องเรือนร่างเปล่าเปลือยของเด็กหญิง

ผมยาวสลวยของน้องพิมกระจายอยู่บนผ้าปูที่นอนลายคิตี้สีชมพู ขับเน้นให้ดวงหน้ากลมมนให้กระจ่างราวกับดวงจันทร์ในท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงตากลมโตหรี่ปรือด้วยอารมณ์ปรารถนา ผิวหน้าแดงระเรื่อจนแก้มใสเนียนนั้นดูเปล่งปลั่งน่าสัมผัส ริมฝีปากน้อยๆ เผยอขึ้นรอรับการสัมผัสจากริมฝีปากเพศตรงข้าม เสียงหายใจหอบกระชั้นบ่งบอกถึงอารมณ์รักที่แม้จะถูกขัดจังหวะไปชั่วครู่แต่ มันยังคงคุกรุ่นรุนแรงพร้อมที่จะระเบิดออกมาอีกครั้งได้ทุกขณะ สายตาผมเลื่อนต่ำผ่านกองเสื้อยืดตัวหลวมที่ถูกมือผมดันไปกองอยู่ทีรอบลำคอ มือที่สั่นระริกของผมเอื้อไปจับชายของมันดึงขึ้นสูงโดยเด็กหญิงช่วยชูแขน ทั้งสองขึ้นปล่อยให้เสื้อพ้นศีรษะออกไปอย่างสะดวก และแขนเรียวบางทั้งสองข้างนั้นก็ยังคงทิ้งอยู่ท่าชูขึ้นเหนือศีรษะ เผยร่างเปลือยเปล่าทั้งหมดต่อสายตาผมโดยปราศจากสิ่งใดมาขวางกั้นสายตา

หน้าอกที่เพิ่งเริ่มผลิบานของเด็กหญิงเปลือยเปล่ากระจ่างอยู่เบื้องหน้า ขนาดของมันยังคงเป็นเพียงนูนเนื้อน้อยๆ ที่ดันตัวขึ้นจากผิวกายเต่งตึงของเด็กหญิง วงกลมบนยอดอกเป็นสีชมพูซีดจางเช่นเดียวกับหัวนมเล็กๆ ที่แม้เจ้าของจะอยู่ในอารมณ์รักครั้งแรกในชีวิตจนหัวนมนั้นแข็งตัวชูชัน แต่สีของมันก็ยังคงเป็นสีชมพูจางๆ ซึ่งบอกให้รู้ว่าหน้าอกน้อยๆ คู่นี้ยังไม่เติบโตอย่างเต็มที่ แต่จากอารมณ์ผมที่ถูกปลุกเร้าด้วยอำนาจบางอย่าง หน้าอกน้อยคู่นี้กลับเร้าความรู้สึกของผมอย่างรุนแรงจนต้องเอื้อมมือไปลูบ ไล้มันอย่างลืมตัว หัวนมเล็กๆ ถูกมือของผมไล้ผ่านจนร่างน้องพิมสั่นสะท้าน

“อาห์…พี่เอ….ยะ อย่าบี้นะ…พิม….

มือผมเลื่อนผ่านหน้าอกมายังหน้าท้องเนียนเรียบ ผิวเนื้อนุ่มละมุนอ่อนบางปรากฏรอยตุ่มขุมขนผุดขึ้นมาตามเส้นทางการเคลื่อน ไหวของมือ แม้จะมีอายุเพียง 8 ปี แต่ร่างกายน้องพิมไม่ได้บอบบางเก้งก้างดังเช่นเด็กหญิงวัยเดียวกัน ความทรงจำผมย้อนกลับไปยังร่างน้องพิมวัย 12 ในคืนที่มอบร่างกายอวบอิ่มเต็มไปด้วยเนื้อหนังให้ผม ซึ่งร่างกายสมบูรณ์ของน้องพิมวัย 8 ปีเบื้องหน้านี้ก็บอกให้รู้อย่างชัดเจนว่ามันจะพัฒนาไปสู่ความอวบอิ่มที่ผม เคยสัมผัส มือผมเลื่อนต่ำลงมาพร้อมสายตา เนินรักน้อยๆปรากฏอยู่เบื้องหน้า สองแคมบางใสขนาบข้างปกป้องร่องรักไว้แน่นสนิทจนเห็นเป็นเพียงเส้นบางๆ ที่แม้ดูด้วยตาก็รู้ได้ในทันทีว่าไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้าไปภายในทั้งสิ้น แคมทั้งสองขนาดเล็กเพียงนิ้วก้อยซึ่งแม้จะอวบนูนมากกว่าเด็กหญิงทั่วไปในวัย เดียวกัน แต่สองแคมนี้ยังไม่สามารถรองรับสิ่งแปลกปลอมใดๆ ให้ผ่านเข้าไปโดยไม่ฉีกขาดอย่างแน่นอน หยาดน้ำใสส่งกลิ่นหอมคาวอ่อนๆ ไหลซึมออกจากร่องรัก นิ้วผมไล้หยาดน้ำนั้นเกลี่ยไปตามผิวแคมอย่างนุ่มนวลจนสองแคมเปียกชุ่ม โคนขาอวบที่เต็มไปด้วยเนื้อหนังเต่งตึงของน้องพิมค่อยๆแยกออกจากกันราวกับ ต้องการรองรับการสัมผัสนั้นให้มากขึ้น ภาพเนินรักเบื้องหน้าทำให้สำนึกในการควบคุมตัวเองของผมขาดผึงลงทันที ผมพลิกร่างลงคร่อมท่อนล่างน้องพิมไว้ ซุกหน้าเข้าประกบจูบพรมร่องรักน้อยๆ นั้นอย่างลืมตัว ลิ้นผมเกลี่ยร่องรักหอมหวานขึ้นลงจนกระทบกับจุดเล็กๆ เหนือนูนเนื้อที่แข็งตัวขึ้นรับการสัมผัส พร้อมกับมือน้องพิมที่เคยเหยียดแขนทอดไปเหนือศีรษะกลับมาขยุ้มเส้นผมของผม ไว้แน่น

“อื๋ย…พี่เอ…พี่เอ….ยะ อย่าเลีย…อะ เอาออกไปก่อน พิม…”

ทั้งที่เสียงครางที่น้องพิมเปล่งออกมาพยายามห้ามปรามไม่ให้ผมฉกเลียความหอม หวานของน้ำรักแรกสาว แต่มือมือที่ขยุ้มศีรษะผมนั้นกลับกดอัดให้หน้าผมแนบแน่นกับเนินรักมากขึ้น พร้อมกับส่ายไปมาราวกับต้องการให้เนินรักถูกบดเบียดทุกส่วน ผมพยายามแทรกผ่านร่องรักเข้าไปภายในความบริสุทธิ์ของน้องพิม แต่สองแคมนั้นดูเหมือนจะไม่ยอมแยกตัวออกจากกัน และเมื่อผมฝืนใช้แรงกดอัดปลายลิ้นเข้าไปได้เล็กน้อยสองแคมนั้นก็กลับบีดตัว อัดปลายลิ้นผมไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับสะโพกเล็กๆที่ยกแอ่นขึ้นรับสิ่งแปลกปลอมแรกที่มีโอกาสผ่านเข้าไปภาย ใน

สองมือผมบีบเคล้นเต้านมที่ยังมีสภาพเป็นเนินนูนน้อยๆ บนอกน้องพิมอย่างลืมตัว จนเนินเนื้อนุ่มๆ บิดมาไปตามแรงเคล้น การเล้าโลมทั้งเต้านมและเนินรักพร้อมกันทำให้ร่างอวบน้อยๆ ของน้องพิมบิดส่ายไปมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ น้ำหล่อลื่นทะลักทลายออกมาจากร่องรักเป็นสาย ไม่ที่อึดใจร่างนั้นก็กระตุกเฮือกใหญ่ และส่งเสียงร้องสั่นระริกออกมา

“พี่เอ……ฉะ ฉะ ฉี่พิมจะราดแล้ววววววว ว๊ายยยยยยยยย…”

ความเสียวสุดยอดครั้งแรกของน้องพิมกระหน่ำร่างเด็กหญิงจนสั่นกระตุกไปทั้ง ตัว สะโพกน้อยๆ ยกแอ่นขึ้นสูงนิ่งก่อนทิ้งลงกับพื้นเตียง แต่ผมยังคงดูดซับน้ำรักทุกหยาดหยดที่ออกมาจากร่องรักน้องพิมโดยไม่ปล่อยให้ เหลือรอดออกมาเปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอนลายคิตตี้เบื้องล่างแม้แต่หยดเดียว แต่ดูเหมือนว่ายิ่งหยาดน้ำรักของน้องพิมเข้าสู่ปากผมมากขึ้นเท่าใด ความต้องการของผมยิ่งพลุ่งพล่านมากขึ้นเท่านั้น แก่นเนื้อผมแข็งตัวจนแทบระเบิดออก เพลิงราคะร้อนระอุวนเวียนอยู่ในจักรอัคคีที่ท้องน้อยจนแทบปะทุออกจากร่าง สมองผมรับรู้ด้วยความตระหนกว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ความต้องการของผม พลุ่งขึ้นสูงถึงระดับนี้ และหากไม่ระบายน้ำรักไปยังร่างน้อยๆ ของน้องพิม เพลิงนี้จะเผาผลาญปราณในร่างผมจนระเบิดออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมถอนปากออกจากเนินรักน้องพิมแล้วลุกขึ้นคุกเข่ากับพื้นเตียงก่อนพลิกร่าง น้องพิมให้นอนคว่ำลง

“พี่เอ…จะ จะ ทำอะไร….”

น้องพิมร้องอุทานออกมา เมื่อรับรู้ว่าสองมือผมกำลังช้อนใต้สะโพกยกขึ้นสูงให้น้องพิมคุกเข่าคว่า หน้าลงกับพื้นเตียง เนินรักน้อยๆ ของน้องพิมเผยตัวผ่านช่องว่างของท่อนขาอวบที่ถูกผมจัดแยกออกจากกัน ร่องรักที่เคยปิดสนิทปรากฏรอยแยกน้อยๆ ผมแทรกร่างเข้ากลางสะโพก แก่นเนื้อมหึมาจ่อเข้ากับรอยแยกเล็กๆ นั้น เตรียมแทรกตัวผ่านสองแคมที่แยกออกจนหัวบานเริ่มอัดเข้าไปในความตีบตันนั้น

“โอ๊ย…พี่เอ…หีพิมจะฉีกแล้ว”

น้องพิมร้องลั่นออกมาเมื่อปลายแก่นกายถูกดไปที่ร่องรักจนกล้ามเนื้ออ่อน เยาว์นั้นยู่ยี่ไปตามแรงกด สองแคมพยายามสกัดกั้นความสาวไว้สุดความสามารถ แต่เพลิงราคะที่กำลังเผาผลาญในร่างกายทำให้ผมไม่สนใจสิ่งอื่นใด นอกจากจะส่งแก่นเนื้อเข้าไปสู่ร่างกายน้องพิมเท่านั้น แคมเนื้อถูกบังคับให้ขยายตัวก่อนเวลาเริ่มแน่นเปรียะและกำลังจะฉีกขาดในอีก ไม่กี่วินาทีข้างหน้า

“แย่แล้ว…ควยน้าเอกำลังจะเข้ามา…อย่างนี้ธารอสุระต้องโดนทำลายแน่…”

เสียงของจิตที่คุ้นเคยอย่างประหลาดกรีดร้องดังลั่นขึ้นในสมองผม สรรพนาม “น้าเอ” ที่จิตลึกลับส่งออกมา ปลุกให้สติผมที่กำลังถูกเพลิงราคะเผาผลาญแจ่มใสขึ้นมาวูบหนึ่ง สรรพนามนี้ตลอดชีวิตผมมีเพียงคนเดียวที่เคยเรียก ห้วงสมองผมปรากฏภาพเด็กหญิงดวงหน้ากลมมนในชุดนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีวิทยา ตามมาด้วยภาพเรือนร่างอวบอัดขาวโพลงที่ร้องครางด้วยความเจ็บปวดระคนสุขสม เมื่อถูกแก่นกายผมฉีกผ่านเยื่อสาว จนจิตผมต้องส่งเสียงออกมาอย่างลืมตัว

“น้องพิม”
“น้าเอ…น้าเอได้ยินพิม…น้าเอได้ยินพิมใช่ไหม”

จิตที่สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้นส่งเสียงในจิตผม นี่ไม่ใช่จิตของน้องพิมวัย 8 ปีที่กำลังจะถูกแก่นเนื้อของผมทะลวงร่องรัก แต่เป็นจิตของน้องพิมวัย 12 ปีที่เคยร่วมรักกับผมในอนาคตอย่างแน่นอน ผมสะท้านไปทั้งร่างด้วยความยินดี เพราะแม้ผมจะรู้จากประสบการณ์ร่วมรักกับน้องทิพย์ว่าจิตน้องพิมวัย 12 ปีนั้น น่าจะยังฝังอยู่ในร่างน้องพิมวัย 8 ปี และรับรู้ทุกสิ่ง แต่ยังไม่สามารถสื่อสารกับผมได้จนกว่าจะผ่านการร่วมรักเพื่อผสานจิตระหว่าง กันเสียก่อน จิตของน้องพิมที่ส่งมาให้ผมรับรู้จึงเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย แต่ก็ทำให้ผมดีใจอย่างที่สุด

“น้องพิม..พี่ได้ยิน ได้ยินชัดเจน….”

“พี่เอ พิมอยู่ที่นี่ พิมรับรู้ทุกอย่างตั้งแต่วันที่พี่เอช่วยพิมจากบริวารมังกรฟ้าเมื่อแรกเกิด จนถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้พี่เอจงตั้งใจฟังพิมให้ดี พิมไม่รู้ว่าการติดต่อนี้จะอยู่ต่อไปได้นานเท่าไหร่ แต่พี่เอจะต้องยุติการเย็ดร่างของพิมในวัย 8 ปีนี้ในทันที มิฉะนั้นธารอสุระในร่างพิมจะไม่สามารถถ่ายทอดออกไปให้พี่เอได้…”

“แต่ แต่ พี่คุมตัวเองไม่ได้…ร่างกายพี่ต้องการน้องพิม….”

“พิมรู้ พิมสัมผัสได้ว่าร่างกายของพิมวัย 8 ปีนี้ก็ต้องการน้าเอเหลือเกิน แต่น้าเอต้องระงับมันให้ได้เดี๋ยวนี้..มิฉะนั้นนอกจากน้าเอจะไม่มีวันได้รับ ธารอสุระแล้ว ร่างกายของพิมยังจะต้องสูญสลายไปพร้อมกับการะเบิดตัวเองของปฐมธาตุแห่งธาร อสุระเช่นกัน”

“น้องพิม..น้องพิมรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร…”

ผมอดส่งจิตที่สับสนถามไม่ได้ เพราะสิ่งที่จิตน้องพิมบ่งบอกมานั้นคือวิชาปราณชั้นสูงทีมีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจ

“พี่จานีสสั่งสอนพิมตลอดเวลา แม้จิตของร่างวัย 8 ปีของพิมนั้นยังไม่สามารถรับรู้เรื่องพวกนี้ แต่พี่จานีสรู้ดีว่าจิตของพิมภายในสามารถรับรู้ได้..”

“แล้วพี่จะทำอย่างไร…”

“พี่เอ…ไม่ต้องหยุด ไม่ต้องกลัวพิมเจ็บ พี่เอเย็ดพิมเดี๋ยวนี้เลย พิมต้องการพี่เอ…”

เสียงน้องพิมวัย 8 ปีที่กำลังถูกปลุกเร้าอย่างเต็มที่ดังขึ้นแทรกการสนทนาทางจิตของผมกับน้อง พิมวัย 12 ปี เด็กหญิงขบกรามแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวดของเนินรักที่กำลังเริ่มฉีกขาด สะโพกน้อยๆ พยายามดันมาทางด้านหลังเพื่อรับแก่นกายผมเข้าสู่ร่างกาย สายตาที่สับสนของผมกวาดไปพบวัตถุหนึ่งบนหัวเตียวน้องพิม ทำให้ผมอุทานออกมาทางจิตทันที

“น้องพิม พี่รู้แล้ว…”

“น้าเอจะทำอะ….”

กระแสจิตของน้องพิมวัย 12 ปีขาดลงทันทีที่ผมถอนแก่นกายซึ่งจมลงไปเล็กน้อยในร่องรักของเด็กหญิงวัย 8 ปีออกมา ผมคว้าวัตถุที่มองเห็นบนหัวเตียงน้องพิมไว้อย่างเร่งร้อนและเปิดฝาเทของเหลว ที่บรรจุภายในออกมาในฝ่ามือ ก่อนชโลมแก่นกายผมจนชุ่มโชก

“พี่เอ…เอาออกไปทำไม…อุ๊ย…อะ อะ ไร นั่นไม่ใช่…พี่เอ…ช่องนั้นมัน…อ๊าวส์”

เสียงร้องลั่นของน้องพิมดังลั่นห้อง เมื่อแก่นกายผมที่ชโลมด้วยน้ำมันเบี้ออยล์จากขวดที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงน้อง พิม ทะลวงผ่านทวารหนักของเด็กหญิงเข้าไปจนมิดปลายเงี่ยง…จีบหูรูดรูทวารน้อง พิมที่แม้จะคับแคบแต่เมื่อถูกแก่นกายที่ลื่นปลาบด้วยน้ำมันเบบี้ออยล์ กดเข้าไป มันก็สามารถขยายตัวรองรับได้โดยไม่ฉีกขาด แก่นกายผมจมลึกเข้าไปท่ามกลางเสียงร้องครางของน้องพิม

“พี่เอ…พี่เอ…นั่นมันก้นพิม..พี่เอเย็ดก้น…อื๋ย…มันแน่นไปหมดแล้ว…”

“น้องพิมเจ็บไหม…ถ้าเจ็บพี่จะหยุดก่อนนะ…”

“มะ ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่พี่เอ..แต่มันแน่นไปหมด…อุ๊ย….”

น้องพิมร้องอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อ ผมจับร่างน้อยกำลังถูกแก่นกายผมอัดลึกเข้าไปในทวารหนัก ยกขึ้น ก่อนที่ผมจะทิ้งตัวลงนั่งโดยมีน้องพิมอยู่บนตัก น้ำหนักของเด็กหญิงทำให้แก่นกายผมมุดปราดเข้าไปจนสุดความยาว กล้ามเนื้อหูรูดขยายตัวเต็มที่บีบรัดแก่นกายผมไว้แน่นเปรี๊ยะ จนผมอดครางออกมาไม่ได้

“ก้นน้องพิมแน่นไปหมดเลย…”

“พี่เอ…ทพ ทะ ทำไมมาเย็ดก้นพิม…ทำไมพี่เอไม่เย็ดหีพิมล่ะ…”

“เดี๋ยวพี่จะบอกน้องพิมให้นะ แต่ตอนนี้…”

“อ๊าย…พี่เอ….อย่าบี้หีพิม…”

ร่างน้อยบนตักผมครวญครางลั่นเมื่อผมใช้มืออ้อมไปทางด้านหน้าเคล้นคลึงร่อง รักน้องพิมอย่างนุ่มนวล นิ้วชี้ผมกระเด้าผ่านสองแคมเบาๆ โดยระวังไม่ให้มันเข้าไปลึกเกินเยื่อพรหมจรรย์ของเด็กหญิง ขณะที่นิ้วโป้งก็เกลี่ยเม็ดเสียวที่ตื่นตัวจาการสัมผัสอย่างนุ่มนวล น้องพิมส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียว สองมือไขว่คว้าไปทั่วแต่เมื่อไม่สามารถหาที่ยึดเหนี่ยวอื่นได้ สองมือนั้นก็ชูขึ้นประสานรอบคอผมไว้เพื่อใช้เป็นหลักในการแอ่นสะโพกรับการ เคล้นคลึงร่องรัก มืออีกข้างหนึ่งของผมโอบรอบเอวเล็กๆของน้องพิมและเกร็งกำลังยกร่างเด็กหญิง ขึ้นลงจากตักช้าๆ แก่นกายที่อัดแน่นในทวารหนักเด็กหญิงผลุบเข้าผลุบออกตามจังหวะการยกตัว แรงบีบรัดของกล้ามเนื้อหูรูดส่งแรงตอดเป็นจังหวะ ทำให้ผมรู้ว่าน้องพิมกำลังขมิบก้นรับการกระเด้าทวารหนักอยู่

“พะ พี่เอ…พิมเสียว…มีนทั้งเสียวทั้งแน่นไปหมดแล้ว….”

ผมเร่งความเร็วของนิ้วชี้ที่กำลังชักเข้าออกผ่านสองแคมน้องพิม พร้อมกับจังวะการยกร่างน้องพิมรับการกระเด้าทวารด้านหลัง จนร่างน้องพิมสั่นระริกและปล่อนแขนที่โอบคอผมไว้มายันที่พื้น พร้อมกับออกแรงดันร่างขึ้นลงรับการกระเด้าทางด้านหลังด้วยตัวเอง…

“อูว์ อาห์…พี่เอ…ก้นพิมดีไหม…พี่เอชอบไหม…”

“ดีสิ…ก้นพิมทั้งคับทั้งบีบรัด ควยพี่จะทะลักแล้วนะ…”

“พะ พะ พิมก็..ก็..จะ….อ้าว เสียว…พ พี่เอ…ขอพิม…อ๊าย….”

พิมกระตุกพรวดเมื่อแก่นกายผมไม่สามารถทนทานการตบีบอัดของก้นน้องพิมได้อีก ต่อไป น้ำรักทั้งหมดที่สะสมจากความต้องการที่พลุโพลงเมื่อครู่กระหน่ำฉีดเข้าไปใน รูทวารหนักน้องพิมเป็นระลอก พร้อมกับที่สองแคมน้องพิมกระตุกระริกบีบรัดปลายนิ้วชี้ผมถี่ยิบ ร่างเด็กหญิงสั่นสะท้าน ทรุดฮวบลงกับตักผม ดวงตากลมโตปิดสนิท แม้ผมจะพยายามเขย่าร่างน้อยเบาๆ แต่ก็ดูเหมือนความเสียวสุดยอดจากการกระตุ้นทั้งร่องรักและรูทวารจะทำให้น้อง พิมหลับผลอยไปอย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่แก่นกายผมยังอัดแน่นอยู่ในทวารด้านหลัง แต่ก่อนที่ผมจะขยับร่างถอนแก่นเนื้อออกจากก้นน้องพิม ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมเสียงทางจิตอุทานลั่นของจานีสและน้องทิพย์

‘พี่เอ..หยุดเดี๋ยวนี้ พี่เอเย็ดน้องพิมไม่ได้….’

‘แย่แล้ว…พี่จานีส …สายไปแล้ว พี่เอเย็ดน้องพิมไปแล้ว…’

จิตที่ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจของจานีสและน้องทิพย์ดังลั่นในจิตผม ร่างเด็กสาวทั้งสอง สาดพุ่งอย่างร้อนรนมายังเตียงที่ผมยังคงกอดน้องพิมไว้ในอ้อมแขน โดยมีแก่นเนื้อฝังแน่นอยู่ในรูทวารหนัก พริบตาจานีสเห็นภาพที่เกิดขึ้นชัดเจน อดีตโหราทาสก็ถอนใจยาวออกมาด้วยความโล่งใจ ก่อนหันมาบอกน้องทิพย์

‘ไม่เป็นไรแล้ว…ดีที่พี่เอสะกดใจตัวเองไว้ทันและเย็ดก้นน้องพิมแทน…’

น้องทิพย์ก้าวเข้ามาใกล้ๆ และเมื่อเห็นภาพแก่นเนื้อของผมที่ยังคาอยู่ในทวารด้านหลังของน้องพิม ขณะที่หลืบรักด้านหน้ายังสดใสปราศจากสิ่งใดแผ้วพาน จิตน้องทิพย์ก็หัวเราะออกมาเบาๆ

‘โอย…พี่เอทำให้ห่วงแทบแย่ เมื่อกี้ทิพย์กับพี่จานีสไปหาพี่เอที่ห้อง แต่พบแค่เด็กหญิงสองคน อืมห์ ชื่อะไรนะ อ้อ..เจสสิก้ากับรีน่า กำลังอาบน้ำล้างหีที่พี่เอทะลวงซะยับเยินอยู่ พอรู้ว่าพี่เอตามน้องพิมออกมา พี่จานีสตกใจจนแทบเป็นลมเลยนะ รีบมาห้ามพี่เอแทบไม่ทัน….’

ผมได้แต่มองสองสาวอย่างอับจนที่จะส่งจิตตอบโต้ใดๆ ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับภรรยาทั้งหกคนของผม การร่วมรักต่อหน้าผู้อื่น หรือแม้กระทั้งการร่วมรักพร้อมกันทุกคนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นประจำจนแทบเป็น กิจวัตรประจำวันไปแล้ว แต่การที่ต้องมานั่งนิ่งโดยมีร่างน้องพิมหลับไหลอยู่ในอ้อมแขนโดยมีแก่น เนื้อผมอัดแน่นอยู่ในทวารหนักนั้น เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยกระทำมาก่อน และคงเป็นภาพที่ประหลาดสำหรับทุกคนที่พบเห็น จิตที่วุ่นวายของผมพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก

‘พี่..พี่…เอ้อ…พี่…. พี่เข้ามาในห้องน้องพิม และ…’

ยังไม่ทันที่ผมจะกล่าวจบ น้องทิพย์และจานีสก็ก้าวขึ้นมาบนเตียงสวมกอดร่างผมไว้แน่น

‘พี่เอไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก จานีสรู้เรื่องราวทั้งหมดดี ทุกสิ่งเป็นความผิดพลาดของจานีสที่เกือบจะทำให้ทุกสิ่งพินาศลง ดีที่พี่เอสามารถควบคุมตัวเองได้…จานีสต้องขอโทษพี่เอด้วย’

จานีสสวมกอดมผมแน่น และส่งจิตที่แฝงความเสียใจมาให้จนผมต้องงุนงงไป

‘จานีสขอโทษพี่ทำไม พี่เสียอีกที่ฝ่าฝืนคำขอร้องของจานีส เข้ามาอยู่สองต่อสองกับน้องพิม ถ้าจะต้องขอโทษพี่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษมากกว่า’

‘จานีสผิดเองแหละพี่เอ…ที่ขอให้พี่เออยู่ห่างน้องพิมโดยบอกเพียงว่าไม่ ต้องการให้พี่เอทำลายพรหมจรรย์ของน้องพิมก่อนธารอสุระจะพร้อม แต่จานีสไม่ได้บอกเหตุผลที่จานีสต้องห้ามพี่เอ เพราะจานีสกลัวว่าพี่เอจะโกรธที่คิดว่าพี่เอไม่สามารถควบคุมตนเองได้ แต่ตอนนี้จานีสรู้แล้วว่าพี่เอสามารถระงับความต้องการได้ด้วยตนเอง….จานีส คงเป็นห่วงพี่เอมากเกินความจำเป็น’

‘แต่พี่เองกลับไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย จานีสจะอธิบายให้พี่รับรู้ได้ไหม’

อดีตโหราทาส จับจ้องดวงตาผมแน่วนิ่ง และถอนใจเบาๆ ก่อนส่งจิตตอบ

‘พี่เอ..ธรรมชาติของปฐมธาตุทั้งสี่ อันประกอบด้วยจิตมารของน้องริน อัคคีเทพของน้องกิฟท์ วารีนาคราชของน้องทิพย์ และธารอสุระของน้องพิมนั้น จะดึงดูดกันเป็นคู่ จิตมารและอัคคีเทพนั้นเป็นธาตุตรงข้ามที่จะดึงดูดฝ่ายตรงข้ามเข้าหา เช่นเดียวกับวารีนาคราชกับธารอสุระ ดังนั้นก่อนที่พี่เอจะรับวารีนาคราชจากน้องทิพย์ แม้พี่เอจะอยู่ใกล้ชิดน้องพิมเพียงใด เพลิงราคะที่เป็นเครื่องเชื่อมธาตุทั้งสองเข้าหากันก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ในทันทีที่พี่เอหลอมละลายวารีนาคราชเข้าในร่างกาย ธารอสุระในร่างน้องพิมจะเรียกร้องหาทางเข้าร่วมกับพี่เอทุกขณะจิต และหากพี่เอเข้าใกล้ชิดน้องพิมจนเกิดการสัมผัสกระตุ้นร่างกาย ธาตุทั้งสองจะผนึกตัวสร้างเพลิงราคะที่ไม่สามารถต่อต้านได้ แต่เมื่อจานีสมาเห็นพี่เอสามารถกำหนดจิตต่อต้านและเปลี่ยนทิศทางการสลาย เพลิงราคะมายังทวารหนักด้านหลังของน้องพิมแทน จานีสก็ต้องยอมรับว่าจานีสเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่านี่เป็นอีกวิธีหนึ่ง และน่าจะเป็นวิธีเดียวที่จะสลายเพลิงราคะที่เกิดขึ้นโดยไม่ทำลายพรหมจรรย์ ของน้องพิมก่อนเวลา ’

จานีสส่งจิตอธิบายช้าๆ ทำให้ผมเริ่มเข้าใจว่าเหตุใดเมื่อผมสัมผัสร่างน้องพิมที่ทุกส่วนในร่างกาย ยังเป็นเพียงเด็กหญิงอายุ 8 ปี แต่กลับกระตุ้นความต้องการของผมให้ระเบิดออกมาจนเกือบควบคุมไม่ได้

‘แล้วทำไมหากพี่ทำลายพรหมจรรย์ของน้องพิมก่อนเวลา จะเป็นการทำลายธานรอสุระจนร่างของน้องพิมต้องระเบิดสูญสลายด้วยล่ะ’

ผมส่งจิตถามปัญหาที่ค้างคาใจกับจานีส

‘นั่นเพราะธารอสุระยังไม่ก่อเกิดพลังเต็มที่หากร่างกายเจ้าของร่างที่ธารอสุ ระตั้งอยู่ยังไม่เติบโตพร้อมรับการร่วมรัก การฝืนรับธารอสุระก่อนเวลาทำให้วารีนาคราชที่กล้าแข็งทำลายเกราะป้องกันที่ บ่มเพาะธารอสุระ เมื่อปราศจากเกราะนี้แล้วธารอสุระจะสลายตัวในทันทีก่อเกิดอำนาจทำลาย ล้างมหาศาล ที่แม้กระทั่งพี่เอเองก็ไม่สามารถป้องกันตนเองได้’

จานีสอธิบายให้ผมรับรู้อย่างตั้งใจ แต่แล้วดวงตาของเด็กสาวก็เบิกโพลงขึ้น เมื่อนึกถึงความจริงข้อหนึ่งขึ้นมาได้

‘พี่เอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร จานีสไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ใครฟัง ยกเว้นการเล่าให้น้องพิมฟังตอนที่น้องพิมกำลังหลับ’

‘ทิพย์ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าแต่พี่จานีสเล่าให้น้องพิมฟังตอนนอนหลับทำไม น้องพิมจะไปรู้เรื่องได้อย่างไร…หรือว่า……… ’

น้องทิพย์ส่งจิตถามจานีสด้วยความสงสัยแต่ในตอนท้ายดูราวกับน้องทิพย์นึกถึง เรื่องใดขึ้นมาได้ จิตที่ส่งออกมาจึงชะงักลง พร้อมกับดวงตาที่เบิก ทำให้จานีสส่งจิตอย่างนุ่มนวลกลับมา

‘จานีสรู้ว่าน้องพิมต้องรู้แน่นอน เพราะน้องพิมเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เคยมีประสบการณ์นี้’

‘จริงหรือพี่จานีส พี่จานีสติดต่อจิตของน้องพิมที่เคยใช้ชีวิตกับทิพย์ในอนาคตได้หรือ’

‘จานีสติดต่อน้องพิมของเราไม่ได้หรอกทิพย์….จานีสเพียงแต่รู้ว่าจิตของ น้องพิมวัย 12 ปีที่เคยอยู่ร่วมกับพี่และน้องทิพย์ ที่คลองน้อยในอนาคตนั้น ยังคงอยู่ในร่างของน้องพิมที่พี่กำลังกอดอยู่นี้ และสิ่งที่พี่รู้เรื่องธารรอสุระนั้นไม่ได้มาจากใครที่ไหน แต่เป็นจิตของน้องพิมนั่นเองที่พี่ติดต่อได้โดยบังเอิญเมื่อครู่นี้….’

ผมส่งจิตอธิบายต่อน้องทิพย์และจานีส ทำให้เด็กสาวทั้งสองอ้าปากค้าง อุทานออกมาพร้อมๆ กัน

‘พี่เอติดต่อจิตน้องพิมได้…พี่เอทำได้อย่างไร’

‘ไชโย ทิพย์ดีใจที่สุด น้องพิมของทิพย์ยังอยู่ในร่างนี้จริงๆ ด้วย’

ผมยิ้มให้กริยาตื่นเต้นของเด็กสาวทั้งสอง และอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป

‘ความจริงพี่ต้องสารภาพว่าหากปราศจากจิตน้องพิมนี้มาปลุกพี่จากอำนาจดึงดูด ของเพลิงราคะที่เกิดจากวารีนาคราชร่วมกับธารอสุระแล้ว พี่เองก็ไม่สามารถต่อต้านความต้องการได้เช่นกัน…และน้องพิมกับพี่คงไม่รอด ชีวิตมาได้แน่ ส่วนเรื่องที่จานีสถามว่าพี่ติดต่อน้องพิมได้อย่างไรนั้นพี่เองก็ไม่รู้วิธี การเหมือนกัน พี่จำได้แต่ว่าตอนที่พี่และน้องพิมถูกครอบงำด้วยความต้องการ และกำลังจะเย็ดกันนั้น ทันทีที่ปลายควยพี่แทรกผ่านแคมน้องพิมเข้าไปได้นิดหนึ่งจิตของน้องพิมก็ดัง ขึ้นในใจพี่ทันที แต่เมื่อพี่ถอนควยออกจิตนั้นก็ขาดหายไป ’

ใบหน้าจานีสและน้องทิพย์แสดงความงุนงงกับสิ่งที่ผมบอกเล่า แต่เพียงครู่เดียว จานีสก็อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น

‘มันเป็นเช่นนี้เอง ไม่ผิดแน่ๆ พี่เอถอนควยจากก้นน้องพิมก่อน แต่ต้องทำเบาๆ นะอย่าให้น้องพิมตื่นเด็ดขาด’

แม้ผมจะไม่รู้ว่าจานีสต้องการทำอะไร แต่ความเชื่อมั่นที่ผมมีต่อจานีสอย่างเต็มเปี่ยมทำให้ผมปฏิบัติตามโดย ปราศจากข้อสงสัย ผมรีบสูดลมหายใจลึกยาว สะกดความต้องการของตนเองจนแก่นกายในทวารหนักน้องพิมค่อยๆ ลดขนาดลงทีละน้อยจนสามารถดึงมันออกมาได้อย่างแผ่วเบา โดยที่ร่างน้อยของน้องพิมยังคงหลับสนิทในอ้อมแขนผม

‘พี่เอค่อยๆ วางน้องพิมให้นอนหงายบนเตียงนะ ระวังอย่าให้ตื่นด้วย…’

ผมค่อยๆ ยกร่างน้องพิมขึ้นมาอย่างระมักระวัง และวางร่างเด็กหญิงลงบนพื้นเตียงนอนหนานุ่ม น้องพิมยังคงหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลียจากความเสียวสุดยอดครั้งแรกของชีวิต ร่างเปลือยเปล่าอวดความงามน่ารักท่ามกลางสายตาผม น้องทิพย์และจานีส สองแคมบอบบางยังคงปิดสนิทใสสะอาดปราศจากร่องรอยใดๆ แม้สองแคมจะถูกรุกล้ำโดยแก่นเนื้อของผมไปเล็กน้อยเมื่อครู่ ที่ผ่านมา แต่ใต้เนินรักนั้น น้ำรักจำนวนมากยังคงหลั่งไหลออกมาจากทวารหลังน้องพิมจนผ้าปูที่นอนเริ่ม เปียกชุ่มเป็นดวงใหญ่

‘น้องพิมน่ารักจริงๆ นะพี่เอ ถึงน้องพิมจะอายุแค่ 8 ปี แต่มาดูน้องพิมเปลือยใกล้ๆ แบบนี้ ทิพย์ก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่เอถึงระงับความต้องการไม่ได้ หรือว่าวารีนาคราชในตัวทิพย์ก็ต่อต้านอำนาจดึงดูดของธารอสุระไม่ได้เหทือ นกับพี่เอก็ไม่รู้’

น้องทิพย์ส่งจิตพึมพำเมื่อเห็นร่างกายน้องพิมที่กำลังเติบโตเข้าสู่วัยสาว ขณะที่ผมพยายามหลีกเลี่ยงไม่เพ่งมองร่างน้องพิมเบื้องหน้าเพราะรู้ว่าแม้ ร่างนี้จะเป็นเด็กหญิงที่ยังไม่พร้อมรับการร่วมรัก แต่อำนาจของวารีนาคราชในร่างที่ดึงดูดกับธารอสุระอาจทำให้ความต้องการของผม พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก และในยามที่น้องทิพย์กับจานีสอยู่ด้วย ความต้องการของผมก็จะโน้มนำให้ทั้งคู่เกิดความต้องการขึ้นมาพร้อมกัน

‘พี่เอ…พี่เอไม่ต้องระงับอารมณ์ใดๆ ในตอนนี้ปล่อยให้มันเกิดขึ้นมาเถอะ ไม่ต้องกลัวว่าจานีสกับน้องทิพย์จะถูกปลุกเร้าไปด้วย อย่างมากที่สุดพวกเราสองคนก็ให้พี่เอเย็ดอีกรอบเท่านั้น แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาทางติดต่อกับจิตน้องพิมที่อยู่ในร่าง นี้…อ้าวไม่ทันขาดคำเลย….อูว์…’

ยังไม่ทันที่จานีสจะพูดจบ ผมก็ปล่อยจิตให้พ้นการควบคุมซึ่งส่งผลให้แก่นกายผมกลับมาลุกโชนด้วยความต้อง การอีกครั้ง พร้อมกับกระตุ้นความต้องการของจานีสและน้องทิพย์จนทั้งสองหน้าแดงซ่าน…

‘พี่เอ…อูย..อยู่ใกล้พี่เอแบบนี้หีทิพย์เยิ้มไปหมดแล้ว’

‘น้องทิพย์พยายามสะกดอารมณ์ไว้ก่อนนะ….จานีสเองก็แย่เหมือนกัน..แต่ตอนนี้พี่เอจ่อควยไปกลางหีน้องพิมด่วนเลย…’

ข้อความที่จานีสว่งผ่านจิต ทำเอาผมอดสะดุ้งไม่ได้

‘อะ อะไร…จานีสจะให้พี่เย็ดน้องพิมหรือ ก็จานีสบอกว่าห้ามพี่เย็ดน้องพิมไง….’

‘พี่เอบ้า…จานีสไม่ได้ให้พี่เอเย็ดสักหน่อย แต่จานิสต้องการให้พี่เอกดควยเชื่อมกับแคมน้องพิม โดยที่พี่เอเกิดอารมณ์ต้องการเย็ดต่างหาก….แต่พี่เอห้ามกดควยลงไปนะ จานีสกับน้องทิพย์อยู่ที่นี่ ถ้าพี่เอทนไม่ไหวก็มาเย็ดพวกเราแทน…’

ผมกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น ขณะก้าวขึ้นไปคุกเข่าคร่อมร่างเปลือยน้องพิมไว้ แล้งโหย่งตัวกดปลายแก่นเนื้อลงกลางร่องรักเบาๆ จนปลายของมันแหวกสองแคมออกรับส่วนปลายแก่นเนื้อให้จมลงไปเล็กน้อย…พร้อม กับเสียงดังขึ้นในจิตผม‘

“วิธีของพี่จานีสจะทำให้น้าเอติดต่อพิมได้ไหมนะ..โอย พิมอยากพูดกับน้าเอใจจะขาดแล้ว”

“น้องพิม…พี่ได้ยินน้องพิมแล้ว….#########

“น้องพิม น้องพิม นี่พี่ทิพย์นะ..พี่ได้ยินน้องพิมด้วย น้องพิมได้ยินพี่ไหม”

“น้องพิม…จานีสก็ได้ยินเช่นกัน…ดีใจจังที่ในที่สุดจานีสก็รู้ ว่าการถ่ายทอดความรู้ให้น้องพิมขณะหลับนั้นไม่สูญเปล่าเลย…. “

“พิมก็ได้ยินทุกคนเลย…น้าเอของพิม พี่ทิพย์ พี่จานีส พิมดีใจเหลือเกิน”

เสียงทางจิตของน้องพิม และการที่น้องพิมสามารถติดต่อกับทุกคนทางจิตผ่านการเชื่อมโยงของผม ทำให้ผมดีใจอย่างที่สุดจนแทบไม่สามารถส่งจิตออกไปได้

“น้าเอ..พิมมีเรื่องจะบอกน้าเอมากมาย…น้าเออย่าเพิ่งถอนควยออกจากหีของร่างนี้นะ “

จิตน้องพิมระล่ำระลักส่งมายังผม แต่จิตจานีสรีบแทรกขึ้นมา

“พี่เอ น้องพิม ฟังจานีสให้ดีนะ การติดต่อที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากการประสานกันของวารีนาคราชกับธารอสุระ จนเปิดช่องให้น้องพิมสามารถแทรกจิตมาเชื่อมโยงกับพี่เอได้ แต่นั่นจำกัดเฉพาะชวงที่น้องพิมที่อายุ 8 ปี หลับสนิทเท่านั้น หากร่างนี้ตื่นขึ้นมาจิตที่คงอยู่จะปิดกั้นช่องทางนี้ทันที..ต่าน้องพิมไม่ ต้องห่วงไป จานีสคิดวิธีที่จะแก้ปัญหานี้ให้ได้แล้ว…”

“ทำอย่างไรหรือพี่จานีส “

อดีตโหราทาสในร่างเด็กสาววัย 14 ยิ้มอย่างอ่อนหวานให้ผมและน้องทิพย์

“ต่อไปนี้พี่เอจะต้องมีน้องพิมตามติดไปทุกแห่ง และจะต้องนอนกับพี่เอทุกวันโดยมีริน กิฟท์ นิวทิพย์ เซี่ยวเล้งหรือจานิส คนใดคนหนึ่งอยู่ด้วย เพื่อที่เมื่อร่างน้องพิมปัจจุบันหลับ พี่เอจะได้ประสานจิตสื่อสารกับน้องพิมให้พวกเรา ขณะเดียวกันพวกเราก็จะคอยระวังไม่ให้จิตพี่เอถูกครอบงำจากธารอสุระจนเกิดการ เย็ดน้องพิมขึ้นมา ด้วยวิธีนี้พี่เอและพวกจานีสทุกคนก็จะสามารถคุยกับน้องพิมได้ทุกวัน…ดี ไหม”

“แต่ถ้าร่างนี้ของพิมไม่ยอมหลับล่ะพี่จานีส…”

จิตน้องพิมในร่างถามจานีสเบาๆ

“ถ้าไม่หลับพี่เอก็คงต้องเย็ดก้นน้องพิมให้หมดแรงหลับแบบวันนี้อีก…น้องพิมมีอะไรขัดข้องไหม “

“พิม..เอ้อ…พิมไม่ว่าหรอก…และพิมก็รับรู้ด้วยว่าร่างนี้ของพิมก็ชอบที่ถูกพี่เอเย็ดก้นเหมือนกัน”

จิตน้องพิมตอบมาอย่างอายๆ ทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้

“อย่างนั้นตกลงตามนี้ ว่าแต่พี่มีเรื่องอยากถามน้องพิมเรื่องหนึ่งที่พี่สงสัยมานานแล้ว “

“พิมคิดว่าพิมรู้นะว่าพี่เออยากรู้เรื่องอะไร…ใช่เรื่อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนที่พิมถูกแม่นำมาทิ้งที่คลองน้อยหรือเปล่าพี่เอ.. “

“ใช่แล้วล่ะ เมื่อครู่นี้น้องพิมบอกว่าน้องพิมรับรู้ทุกสิ่งตั้งแต่คืนนั้น..พี่เลยอยาก รู้ว่าพลลังมที่ทำลายองครักษ์มังกรฟ้าในคืนนั้นมาจากที่ใด..ใช่จากน้องพิม หรือเปล่า”

น้องทิพย์และจานีสจับจ้องผมอย่างสนใจ เพราะเรื่องที่ผมถามน้องพิมนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนในครอบครัวรับรู้เป็น อย่างดี ว่าในคืนที่ผมไปช่วยน้องพิมนั้น ผมต้องเผชิญกับกวงเม้งหนึ่งในองครักษ์มังกรฟ้าและเพลี่ยงพล้ำเสียทีจนต้องรอ ความตาย แต่กลับปรากฏพลังประหลาดแผ่ซ่านผ่านร่างกายผมพุ่งเข้าปะทะกวงเม้งและบริวาร จนทั้งหมดถูกกักไว้ในลูกกลมพลังประหลาดและถูกสูบลงใต้พื้นดินโดยปราศจากร่อง รอยใดๆ หลงเหลือ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ยังคงติดค้างในใจผมตลอดมา

“น้าเอ…หลังจากคืนที่พิมเป็นของน้าเอที่บ้านคลองน้อย พิมกอดพี่เอกับพี่ทิพย์หลับไป พอรู้ตัวขึ้นมาก็พบว่าพิมกำลังอยู่ในร่างทารกแรกเกิด ที่กำลังถูกน้าเออุ้มไว้ท่ามกลางคนแปลกหน้าที่พยายามทำร้ายน้าเอจนบาดเจ็บ.. ตอนนี้นพิมทำอะไรไม่ได้ จนน้าเอมองหน้าพิมแล้วบอกขอโทษที่ป้องกันพิมไม่ได้ ตอนนั้นเองร่างพิมเกิดพลังดูดประหลาดขึ้นในร่าง พิมรู้สึกเหมือนพลังจากพื้นโลกทั้งหมดถูกส่งผ่านน้าเอมาสู่ร่างพิมและผนึก เอาไว้ที่ท้องน้อยของพิม พอพวกที่โจมตีพี่เอผลักปราณมาทำร้าย พิมก็บอกตัวเองว่าพิมยังไม่อยากตาย อยากอยู่กับน้าเอต่อไป พลังนั้นก็กระจายผ่านร่างพิมไปยังน้าเอ และทำลายพวกนั้นทั้งหมดก่อนเวียนกลับมาผนึกที่ร่างพิมเหมือนเดิม.. “

จิตของน้องพิมอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในความทรงจำอย่างละเอียด ทำให้ผมรู้ว่าพลังที่ทำลายกวงเม้งพร้อมเหล่าบริวารนั้นมีที่มาจากร่างน้อง พิมจริงๆ พร้อมกันนั้นจานีสก็อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น

“ธารอสุระที่ลึกลับมีกำเนิดเช่นนี้เอง ที่แท้มันคือพลังแห่งพื้นพิภพที่ผสานชีวิตทั้งมวลเข้าไว้ด้วยกัน นับว่าจานีสได้รับรู้ความลับแห่งโลกแล้ว “

“น้องพิม..คืนนี้ทิพย์จะอยู่กับน้องพิมนะ ทิพย์จะคุยกับน้องพิมทั้งคืนเลย.. “

น้องทิพย์ส่งจิตแทรกเข้ามาทันทีที่พบว่าผม จานีส และน้องพิมกำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ทำให้น้องพิมส่งจิตอย่างร่าเริงกลับมา

“พิมก็คิดถึงพี่ทิพย์ที่สุก พี่ทิพย์คงไม่รู้หรอกว่าทุกวันที่พิมเฝ้ารับรู้การอยู่ร่วมกับพี่ทิพย์ของ ร่างนี้ พิมทรมาณใจอยากจะพูดกับพี่ทิพย์แค่ไหน ทุกครั้งที่พี่ทิพย์กระซิบกับพิมในยามร่างนี้หลับ พิมรับรู้ทุกคำพูด…เอ๊ะ…น้าเอ..พี่จานีส..ร่างนี้กำลังจะตื่นแล้ว …”

จิตน้องพิมส่งเสียงร้อนรนเมื่อร่างน้องพิมวัย 8 ปีที่ผมกดแก่นเนื้อไว้ระหว่างแคมรักเริ่มบิดตัวน้อยๆ เป็นสัญญาณว่าสติของเด็กหญิงวัย 8 ปี กำลังจะกลับมาครอบครองร่างอีกครั้ง

#########ไม่เป็นไรหรอกน้องพิม เดี๋ยวเราค่อยคุยกันก็ได้ยังมีเวลาอีกยาวนานนัก “

ผมส่งจิตบอกอย่างนุ่มนวล แต่จิตของน้องพิมกลับเร่งส่งมาอย่างร้อนรน

“ไม่ได้ น้าเอ พี่จานีส พี่ทิพย์ ต้องฟังพิมเดี่ยวนี้ พิมได้ยินเรื่องที่พี่จานีสพบลายแทงศิลาปฏิสารแล้ว…พิมรู้ว่าสถานที่นั้น อยู่ที่ไหน……”

Related

Prev
Next

Comments for chapter "The Zodiac บทที่ 5.3.1 ศิลาปฏิสาร"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

Tags:
เรื่องเสียวซีรี่ย์

© 2025 Madara Inc. All rights reserved