ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

The Paradox & The Zodiac by Buta - The Zodiac บทที่ 5.2 กำเนิดใหม่

  1. Home
  2. The Paradox & The Zodiac by Buta
  3. The Zodiac บทที่ 5.2 กำเนิดใหม่
Prev
Next

The Zodiac บทที่ 5.2 กำเนิดใหม่

“ปราณในร่างอนิตราเทวีกำลังแตกสลาย”

เสียงร้องด้วยความแตกตื่นของหญิงสาวผมจำได้ในทันทีว่าคือเสียงน้องกิฟท์ ดังมากระทบประสาทหูของผมในทันทีที่ยานพาหนะที่นำผมกับน้องทิพ์ จานีส และเซี่ยวเล้งมาถึงประตูรั้วเหล็กด้านนอกของบ้านคชสีห์ที่อยู่ห่างตัว บ้านกว่าหนึ่งร้อยเมตร หัวใจผมตกวูบทันทีที่เห็นบานประตูเหล็กหนาหนักปรากฏร่องรอยถูกทำลายด้วยพลัง ปราณที่เย็นจัดสุดขีด จนเนื้อเหล็กกล้าของประตูแตกสลายเป็นฝุ่นเปิดช่องว่างรูปวงกลมขนาดใหญ่ ความกังวลของผมยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเสียงอุทานของเซี่ยวเล้งใน ทันทีที่อดีตเทวนารีแห่งราศีมังกรเห็นภาพบานประตูที่เสียหาย

“พี่เอ…ประตูนี่ถูกทำลายด้วยพลังน้ำแข็งนิรันดร์”

ใจที่ร้อนรุ่มสุดขีดด้วยความห่วงใยสมาชิกของบ้านคชสีห์ ทำให้ผมตัดสินใจเหยียบคันเร่งรถเบ๊นซ์ตรวจการคันใหม่เอี่ยมของคุณพ่อที่ส่ง มารับผมที่สนามบิน ทะลวงบานประตูเหล็กถล่มลงพร้อมกับยานพาหนะพุ่งเข้าไปในอาณาบริเวณของบ้านและ มาหยุดอยู่ที่ลานประตูทางเข้าบ้าน ก่อนที่ผมจะสาดพุ่งร่างผ่านบานประตูหน้าที่ถูกทำลายเป็นผุยผงเข้าไปภายใน และพบว่าภายในห้องโถงกว้างใหญ่เต็มไปด้วยสตรีในเครื่องแต่งกายสีขาวสะอาด เบียดเสียดล้อมใจกลางห้องจนผมไม่เห็นสภาพภายในอย่างชัดเจน เมื่อร่างผมปรากฏเหล่าสตรีที่อยู่ภายในก็หันขวับมาพร้อมกันและส่งเสียงตวาด ลั่น

“ศัตรบุกเข้ามา”
“ตั้งปราการโรหิณีป้องกันท่านประมุข”

กลุ่มสตรีทั้งหมดขยายแนวออกขวางกั้นผมอย่างรวดเร็วพร้อมเพียง บอกถึงการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดของสำนักปราณ ซึ่งชื่อที่กลุ่มสตรีระบุว่า “โรหิณี” ทำให้ความโกรธผมพลุ่มขึ้นถึงขีดสุด เพราะนั่นเป็นชื่อสำนักปราณที่อยู่เบื้องหลังการสังหารครอบครัวของเหมียว อีกทั้งยังเคยส่งแพรวและพราว สองเด็กสาวผู้น่ารักให้มาดูดกลืนปราณคชสีห์ของผมในอดีต ผมผนึกปราณในร่างขึ้นเปี่ยมล้น ขณะที่ร่างหญิงสาว 6 นางทะยานข้ามศีรษะกลุ่มสตรีทั้งหมดมายืนหยัดเบื้องหน้าผมก่อนส่งเสียงตวาด

“ผู้มาเป็นใคร บังอาจบุกรุกบ้านคชสีห์ของท่านประมุขอนิตราเทวี”

ผมงุนงงเล็กน้อยเมื่อพบว่าหญิงสาวทั้ง 6 นางที่ยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าผมเป็นกลุ่มหญิงสาวฝาแฝด 3 คู่ ที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี ทั้งใบหน้าและรูปร่ายุงล้วนเป็นหญิงงามซึ่งยากพบพานทั่วไป ทำให้แว่บหนึ่งความทรงจำผมอดคิดไปถึงสองพี่น้องฝาแฝดแพรวและพราวผู้ล่วงลับ ไม่ได้ เพราะหากทั้งสองยังอยู่ก็น่าจะมีอายุอยู่ในวัยเดียวกันกับสตรีฝาแฝดทั้งสาม คู่เบื้องหน้าผม แต่ก่อนที่ผมจะตอบโต้การท้าทายของหญิงสาวทั้ง 6 ร่างบอบบางของน้องทิพย์ และร่างสูงโปร่งของเซี่ยวเล้งก็พุ่งขวับมายืนเคียงข้างผมและส่งเสียงทาง จิตอย่างหนักแน่น

‘พี่เอ…อย่าเสียเวลากับพวกนี้ ทิพย์กับพี่เซี่ยวเล้งจะจัดการเอง’

‘ใช่แล้ว พี่เอไปจัดการมิถุกานารีเถอะ คนพวกนี้แค่เซี่ยวเล้งกับน้องทิพย์สองคนก็พอแล้ว’

ผมผงกศีรษะรับคำน้องทิพย์และเซี่ยวเล้ง พร้อมผนึกปราณลงที่สองเท้าเพื่อเตรียมทะยานร่างข้ามศีรษะกลุ่มสตรี แต่เสียงร้องของสตรีที่แสนคุ้นเคยทำให้ผมต้องชะงักร่างลงทันที

“บริวารแห่งโรหิณีทุกคนหยุดไว้ นั่นคือท่านไกรวิทย์ผ้เป็นประมุขรองแห่งตระกูลคชสีห์”

เสียงร้องของน้องรินทำให้บริวารโรหิณีที่เตรียมรับการต่อสู้ชะงักร่างพร้อม กัน ก่อนทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นและขยับร่างเปิดทางให้ผม น้องทิพย์ เซี่ยวเล้ง และจานีสผู้ปราศจากปราณที่เพิ่งเดินตามมาถึงผ่านเข้าไปกลางห้องโดยไม่ขัด ขวาง สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะทำให้ผมงุนงงอยู่บ้างแต่สิ่งที่ทำให้ผมกังวลมากที่ สุดกลับเป็นเสียงของน้องรินที่ประสาทผมรับรู้ในทันทีว่าน้องรินได้รับบาด เจ็บค่อนข้างหนักและยังไม่ได้ทำการรักษา

‘พี่เอ….’

ร่างอบอุ่นนุ่มนวลที่ผมแสนรักของน้องรินโผเข้ากอดผมทันทีที่เห็น สัมผัสที่แนบแน่นทำให้ผมสัมผัสได้ทันทีถึงปราณในร่างน้องรินที่โคจรไม่ต่อ เนื่อง จนใจผมหายวูบ

‘พี่กลับมาแล้ว น้องรินเกิดอะไรขึ้น’

‘ตอนนี้พี่เออย่าเพิ่งถามอะไร รีบไปช่วยหนูนิดก่อน ปราณของหนูนิดกำลังจะสลายและน้องกิฟท์กับเหมียวก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย’

น้องรินส่งกระแสจิตตัดบทก่อนดึงร่างผมไปยังกลางห้องทั้งที่ผมยังคงงุนงงกับ คำบอกเล่าของน้องรินเกี่ยวกับหนูนิด แต่เมื่อผมไปถึงผมกลับยิ่งสับสนเมื่อพบกับภาพหนูนิดในสภาพเปล่าเปลือยนั่ง ขัดสมาธิอยู่โดยมีน้องกิฟท์และเหมียวนั่งขัดสมาธิขนาบหน้าหลังทาบฝ่ามือเข้า กับตำแหน่งจักรวายุบริเวณกลางหน้าอกและกลางหลัง ขณะที่ร่างหนูนิดปรากฏหมอกสีเทาจางๆ ปกคลุมร่างอยู่ แต่ยังเห็นได้ชัดเจนว่าร่างบอบบางของหนูนิดสั่นสะท้านไปทุกขุมขน

‘พี่เอมาแล้ว…พี่เอช่วยหนูนิดด้วย’

‘พี่เอ…รับต่อจากน้องกิฟท์ด่วนเลย ปราณในร่างเหมียวกับน้องกิฟท์ไม่สามารถหยุดการแตกสลายของปราณหนูนิดได้’

กระแสจิตน้องกิฟท์และเหมียวดังในสมองผมพร้อมกัน ทำให้ผมตัดสินใจที่จะไม่ถามอะไร และเข้าแทนที่น้องกิฟท์ที่รีบขยับเปิดทางให้ผมอย่างอ่อนระโหย ผมรีบประกบฝ่ามือผนึกเข้ากับหน้าอกคู่น้อยที่เต่งตึงของหนูนิดจนรู้สึกได้ ถึงหัวนมเม็ดเล็กสัมผัสอยู่ในฝ่ามือ สองขาโอบล้อมสะโพกกระทัดรัดเอาไว้แล้วดึงเข้าหาตัวผมจนเนินนูนที่เติบโตเกิน วัยของเด็กหญิงแทบจะชนกับเป้ากางเกงของผม ซึ่งหากเป็นสภาพปกติแล้วการสัมผัสลักษณะนี้จะทำให้ความปรารถนาทางเพศลุกโพลง ขึ้นได้ในทันที แต่ในสภาพเช่นนี้ใจผมคิดแต่เรื่องการช่วยเหลือหนูนิดและส่งปราณที่ผนึกขึ้น เปี่ยมล้นเข้าสู่ร่างน้อยๆนั้น พร้อมกับที่เหมียวถอนฝ่ามือออกจากแผ่นหลังหนูนิด ปล่อยให้ผมใช้ปราณรักษาได้อย่างเต็มที่

กระแสปราณผมผ่านเข้าสู่ร่างหนูนิดพร้อมกับความประหลาดใจที่พบว่าปราณของหนู นิดโคจรในแนวทางของปราณราหู แต่ผมไม่สามารถใช้ความคิดอื่นได้เพราะมวลปราณในร่างหนูนิดกำลังแตกกระจายไป สู่เส้นเลือดทั่วร่าง พร้อมที่จะแตกระเบิดออกทุกขณะ ทำให้ผมต้องผนึกปราณในร่างขึ้นในแนวทางโคจรปราณราหูย้อนกลับ เพื่อดึงดูดกระแสปราณในร่างหนูนิดให้กลับมารวมศูนย์ที่จักรอัคคีอีกครั้ง

ปราณอันเกิดจากการหลอมรวมวารีนาคราชและผลึกมังกรของผม ก่อให้เกิดพลังดึงดูดที่รุนแรงจนมวลปราณในร่างของหนูนิดหยุดการกระจายตัวและ เริ่มเคลื่อนที่ตามการชักนำของผมกลับมาที่จุดศูนย์ แต่ยังไม่มันที่ผมจะคลายใจ ผมกลับพบว่าในร่างหนูนิดมีมวลพลังประหลาดที่เยือกเย็นสุดขีดขุมหนึ่งก็โคจร อยู่รอบนอกเส้นทางเดินปราณและส่งแรงดึงดูดให้ปราณราหูในร่างหนูนิดกระจายออก ไปภายนอก ทำให้ผมต้องกำหนดจิตถึงน้องกิฟท์เพื่อก่อมวลพลังอัคคีเทพกระจายสวนทางขึ้น ต่อต้านกับมวลพลังที่เย็นยะเยือกขุมนั้น

ร่างที่สั่นระริกของหนูนิดหยุดนิ่ง พร้อมกับหมอกสีเทาจางหายไปช้าๆ ผิวกายเด็กหญิงที่เคยเป็นสีเทาจากความเย็นเริ่มปรากฏสีเลือดขึ้นอย่างช้าๆ จนสงบนิ่ง ขณะที่ปราณราหูในร่างก็กลับเริ่มโคจรตามปกติอีกครั้งโดยมีผมช่วยชักนำ แต่ขณะเดียวกันผมก็อดตื่นตระหนกไปกับปราณในร่างหนูนิดไม่ได้เพราะมันมีความ เข้มแข็งของปราณแทบจะอยู่ในระดับเดียวกับเซี่ยวเล้งในปัจจุบัน ทั้งที่ก่อนผมเดินทางไปกรุงเทพฯ หนูนิดเป็นเพียงเด็กสาววัย 12 ที่ปราศจากปราณและใช้ชีวิตอย่างสดใสเยี่ยงเด็กสาวปกติคนหนึ่งเท่านั้น

‘พี่เอ..หนูนิดเป็นอย่างไรบ้าง’

จิตที่เร่งร้อนของเหมียวส่งมาถามผมในทันทีที่เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของผม ผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังพบว่าปราณผมสามารถสะกดกระแสปราณที่ปั่นป่วนของหนูนิดลงได้ และมีทีท่าว่าจะกลับเข้าสู่สภาพปกติ ผมค่อยๆ ลดระดับปราณที่ส่งไปในร่างหนูนิดเพื่อปล่อยให้ปราณวนเวียนตามเส้นทางปกติ ด้วยตัวเอง

‘แปลกมาก ปราณในร่างหนูนิดเป็นปราณราหู พี่ไม่เข้าใจว่ามันไปอยู่ในร่างหนูนิดได้อย่างไร แถมยังเป็นปราณระดับสูงทัดเทียมถังฮวงเลยทีเดียว’

ผมฉวยโอกาสที่ผ่อนสมาธิจากากรถ่ายทอดปราณพยายามซักถามสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหมียว แต่จิตเหมียวรีบขัดขึ้น

‘ตอนนี้พี่เออย่าเพิ่งถามอะไร เหมียวอยากรู้ว่าอาการปราณสลายของหนูนิดเกิดขึ้นได้อย่างไร และพี่เอช่วยได้ไหม’

‘เท่าที่ตรวจสอบ พี่พบมวลพลังประหลาดที่แข็งกร้าวและเย็นยะเยียบถึงที่สุดล้อมอยู่ภายนอกเส้น ทางโคจรปราณราหูของหนูนิด เป็นพลังที่พยายามดึงดูดปราณในร่างหนูนิดออกไปตลอดเวลา ขณะที่ปราณในร่างพยามต่อต้านจนแตกกระจายออกไปในเส้นเลือด แต่ตอนนี้พี่คุมไว้ได้แล้ว..พี่คิดว่า….เอ๊ะ……’

ยังไม่ทันที่ผมจะตอบเหมียวจบ ผมก็ต้องอุททานออกมาด้วยความตระหนกเมื่อพบว่าการที่ผมถอนปราณออกจากร่างหนู นิด กลับทำให้พลังดึงดูดจากมวลปราณประหลาดเริ่มทวีความแข็งกร้าวอีกครั้งและดึง ดูดปราณราหูในร่างหนูนิดออกจากเส้นทางโคจรอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมต้องรีบส่งปราณกลับเข้าไปผลักดันมวลพลังประหลาดอีกครั้ง

‘เหมียว..พี่ถอนปราณไม่ได้ เพราะเมื่อใดที่ถอนมามวลพลังนั้นจะดึงดูดปราณราหูออกไปทันที นี่เกิดอะไรขึ้นกับหนูนิด พี่งงไปหมดแล้ว…’

ผมพยายามส่งจิตซักถามเหมียวด้วยความประหลาดใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และคิดว่าหากผมสามารถเข้าใจที่มาที่ไปของปรารในร่างหนูนิดผมก็น่าจะหาหนทาง แก้ไขได้

“พี่เอ กิฟท์จะเล่าเรื่องให้พี่เอฟังเอง…พี่เหมียวรีบนั่งลงให้น้องทิพย์ช่วยถ่าย ปราณรักษาก่อนเถอะ เมื่อกี้น้องทิพย์เข้ามาหากิฟท์และช่วยรักษากิฟท์ ส่วนเซี่ยวเล้งก็ช่วยพี่ริน ไม่กี่อึดใจเท่านั้นกิฟท์กับพี่รินก็เดินปราณเองได้…พี่เหมียวรีบให้น้อง ทิพย์หรือเซี่ยวเล้งช่วยเถอะ”

น้องกิฟท์ผู้แม้จะไม่สามารถรับรู้จิตของเหมียวได้ แต่ก็สามารถคาดเดาจากจิตของผมที่ส่งออกไปได้ว่ากำลังสนทนาทางจิตกับเหมียว รีบส่งเสียงเร่งร้อนมาให้เหมียวที่ได้รับบาดเจ็บหนักที่สุดแต่ก็ยังฝืนร่าง คอยเฝ้าอาการหนูนิดโดยไม่คลาดสายตา คำพูดของน้องกิฟท์ทำให้เหมียวหันไปจับตาน้องทิพย์และเซี่ยวเล้งที่รีบก้าว เข้ามาหาด้วยความกังวล

“เหมียวไม่รู้ว่าน้องทั้งสองคนไหนคือน้องทิพย์หรือเซี่ยวเล้ง แต่ตอนนี้เหมียวขอให้น้องทิพย์ช่วยเหมียวด้วย ส่วนเซี่ยวเล้งขอให้ช่วยพี่เอ เพราะเหมียวเชื่อว่าอาการหนูนิดน่าจะเกี่ยวข้องกับมวลพลังของเทวนารีที่หนุ นิดดูดกลืนเข้ามาอย่างแน่นอน”

หญิงสาวทั้งสองตอบรับคำขอของเหมียวพร้อมกัน น้องทิพย์รีบทรุดกายลงนั่งหันหน้าเข้าหาเหมียวและยื่นมากุมทรวงอกอวบอิ่มของ เหมียวไว้ ก่อนเริ่มถ่ายทอดพลังรักษา ขณะที่เซี่ยวเล้งรีบเข้านั่งด้านหลังของหนูนิดและเริ่มช่วยผมสะกดมวลพลัง ประหลาดทันที

‘พี่เอ.ก่อนพี่เอมาสักชั่วโมงหนึ่งบ้านเราถูกมิถุกานารีแห่งจักราศีเมถุนนำ กำลังของตระกูลโรหิณีบุกเข้ามา และทำร้ายท่านพ่อ พี่เหมียว พี่ริน จนได้รับบาดเจ็บไม่สามารถต่อต้านได้ แต่ก่อนที่มิถุกานารีจะสังหารพวกเรา หนูนิดได้เข้าช่วยด้วยการวางแผนให้มิถุกานารีผู้มีเชื้อสายเผ่าพันธุ์ บัณฑารีย์ผู้มีสองเพศทำลายพรหมจรรย์ของหนูนิด และฉวยโอกาสใช้ปราณราหูที่แอบฝึกเป็นความลับจากพวกเราทุกคน ดูดปราณราหูจากมิถุกานารีมาได้สำเร็จพร้อมกับพลังแห่งเทวนารีบางส่วน ทำให้มิถุกานารีขาดพลังปราณในร่างที่จะควบคุมพลังของเทวนารีและระเบิดสลาย เป็นผงธุลีไป แต่หนูนิดเองก็สิ้นสติไปจากอาการปราณสลายที่พวกเรายังหาทางช่วยไม่ได้’

น้องกิฟท์ส่งจิตอธิบายทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้ผมฟังอย่างย่อๆ แต่สรุปใจความได้ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของสมองที่ฉับไว

‘พี่กิฟท์พอจะอธิบายลักษณะการระเบิดร่างของมิถุกานารีให้เซี่ยวเล้งรับรู้ได้หรือไม่’

น้องกิฟท์อุทานออกมาเบาๆ ด้วยความแปลกใจเมื่อกระแสจิตเซี่ยวเล้งดังขึ้นในสมอง เพราะน้องกิฟทืไม่เคยมีประสบการณ์สนทนากับผู้อื่นทางจิตนอกจากผม แต่หญิงสาวผู้มัสมองเป็นเลิศก็ปรับตัวได้ในทันทีแล้วรีบตอบเซี่ยวเล้ง

‘ตอนนั้นกิฟท์ติดอยู่ในผลึกน้ำแข็งนิรันดร์แต่ก็รับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น กิฟท์เห็นหนูนิดถูกพลังบางอย่างดีดร่างออกจากการดูดกลืนปราณของมิถุกานารี หลังจากนั้นมิถุกานารีที่เคยถูกสลักราหูสะกดไว้ก็เคลื่อนไหวได้ และลุกขึ้นมาผนึกพลังน้ำแข็งนิรันดร์ แต่แว่บเดียวร่างของมิถุกานารีก็ระเบิดออกเป็นแสงสีขาวเจิดจ้าและสลายเป็น ฝุ่นไป’

‘พี่กิฟท์ แสงที่ระเบิดออกจากร่างมิถุกานารีกระจายหายไปทันทีหรือรวมตัวเป็นก้อนแสงก่อนที่จะพุ่งขึ้นท้องฟ้าหายไปภายหลัง’

เซี่ยวเล้งส่งจิตถามอย่างร้อนรน ทำให้น้องกิฟท์หลับตาครู่หนึ่งราวกับจะทบทวนความทรงจำ

‘กิฟท์มั่นใจนะ ว่าเป็นการระเบิดที่สลายตัวในทันทีไม่มีการรวมตัวเป็นลูกกลมแสงแน่นอน’

คำตอบของน้องกิฟท์ ยังผลให้เซี่ยวเล้งเม้มริมฝีปากบางเข้าหากัน พร้อมกับสีหน้าหวั่นวิตกก่อนกระจายจิตให้ทุคนได้รับรู้พร้อมกัน

‘พี่เอ และพี่ๆ ทุกคน เซี่ยวเล้งไม่เคยพูดโกหกจึงไม่สามารถปิดบังอาการของน้องนิดได้ว่า นี่คืออาการที่กระแสปราณในร่างกายน้องนิดไม่สามารถผสานกลืนกับมวลพลังจาก ผลึกแห่งราศีเมถุนของมิถุกานารีที่น้องนิดดึงดูดเข้าพร้อมกับปราณราหูได้ พลังของผลึกแห่งเทวนารีนี้เป็นพลังที่เทพสุรัสวดีถ่ายทอดให้เทวนารีหลังจาก ได้รับคัดเลือก ซึ่งการรับพลังนี้จะต้องมีพลังแห่งเทพทำหน้าที่กระตุ้นให้พลังชีวิตประสาน ขุมพลังทั้งสองเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว นี่คือเหตุผลที่เทวนารีมีพลังปราณในระดับกึ่งเทพไร้ผู้ต่อต้าน การสลายพลังจากผลึกแห่งจักรราศีออกจากร่างนั้นทำได้วิธีเดียวคือการทำลาย พรหมจรรย์ของเทวนารี ดังเช่นที่พี่เอได้กระทำต่อเซี่ยวเล้ง’

สองแก้มของอีตเทวนารีแห่งราศีมังกรแดงระเรื่อเมื่อส่งจิตบอกเล่าถึงการสลายพลังจากผลึกแห่งจักรราศีออกจากร่างตนเองด้วยการร่วมรักกับผม

‘แต่สำหรับกรณีน้องนิดนั้นต่างออกไป เพราะมิถุกานารีเป็นเทวนารีคนเดียวในจักรราศีที่ไม่มีเยื่อพรหมจรรย์เนื่อง จากที่มาของปราณในร่างคือการใช้พรหมจรรย์ดูดกลืนปราณจากบุรุษ เทพสุรัสวดีจึงต้องผนึกพลังแสงเทวะปกป้องอวัยวะเพศของมิถุกานารีแทนเยื่อ พรหมจรรย์ แต่เมื่อน้องนิดถูกมิถุกานารี…เอ้อ…เย็ด มิถุกานารีได้ดึงพลังแสงเทพไปผนึกไว้ที่จุดศูนย์กลางพลังของร่างกายคือจักร อัคคีเพื่ออนุญาตให้อวัยวะเพศชายสามารถผ่านออกมาจากอวัยวะเพศหญิงของตนเอง ได้ ดังนั้นเมื่อน้องนิดดูดกลืนปราณราหูจากจุดศูนย์ของมิถุกานารี พลังแสงเทพนี้จึงหลั่งไหลเข้ามาในร่างน้องนิด และพลอยดึงดูดมวลพลังจากผนึกราศีเข้ามา ทั้งที่วิชาปราณราหูนั้นสามาถดูดกลืนได้แต่ปราณ ไม่สามารถดูดกลืนพลังจากผลึกราศีได้ และเมื่อเข้ามาในร่างน้องนิด พลังแสงเทพก็พยายามทำหน้าที่เดิมต่อไปคือการป้องกันมิให้มวลพลังจากผลึกราศี กระจายออกไปจากร่างน้องนิด แต่มวลพลังที่น้องนิดดูดกลืนมาได้ มีเพียงกึ่งหนึ่งของมวลพลังที่แยกออกออกเป็นสองส่วน ทำให้พลังแสงเทพพยายามดูดกลืนปราณของหนูนิดจากจุดศูนย์มาเสริมให้สมดุลย์ ซึ่งหากปราณทั้งหมดในร่างน้องนิดถูกดึงออกไปรวมกับพลังแสงเทพ หนูนิดก็จะกลับไร้ปราณบังคับพลังแห่งผนึกราศีและจะต้องประสบภัยในเดียวกัน กับมิถุกานารี คือร่างน้องนิดจะต้องระเบิดออกจนเป็นผงธุลีเช่นกัน’

คำบอกเล่าของเซี่ยวเล้งเรื่องสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับหนูนิด ทำให้จิตผมและน้องๆ ทุกคนที่ผูกพันกับหนูนิดสะท้านขึ้นพร้อมกัน ด้วยความรู้ที่ทุกคนศึกษาเกี่ยวกับปราณมา ทำให้รู้ดีว่าการแผ่พุ่งพลังเข้าสะกดของผมที่กำลังดำเนินอยู่นี้ เป็นเพียงการประทังสถานการณ์ชั่วคราว แต่ไม่สามารถแก้ไขได้

‘ไม่มีทางแก้ไขหรือยืดระยะเวลาออกไปอีกเลยหรือเซี่ยวเล้ง’

ผมส่งจิตถามอดีตธิดามังกรฟ้าด้วยความหวังริบหรี่ เพราะรู้ดีว่าในที่นี้มีเพียงเซี่ยวเล้งเท่านั้นที่เข้าใจและรู้จักพลังแห่ง ผลึกเทวนารีอย่างลึกซึ้ง และหากแม้กระทั่งเซี่ยวเล้งยังอับจนหนทางแก้ไข ก็หมายความว่าชีวิตที่เยาว์วัยของหนูนิดจะต้องสูญสลายไปอย่างแน่นอน กระแสจิตที่เป็นทุกข์ของผมส่งผ่านไปยังเซี่ยวเล้งที่สั่นศีรษะเบาๆ โดยไม่ตอบ แสดงให้รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังกังวลที่สุดเป็นเรื่องจริง ผมกำลังจะสูญเสียเด็กหญิงผู้เป็นเสมือนน้องสาวที่ผมแสนรักไปตลอดกาล ทั้งที่ฝ่ามือผมยังคงเกาะกุมทรวงอกตั้งเต้าคู่น้อยที่กำลังเริ่มเติบโตไปสู่ วัยสาว และสัมผัสได้ถึงชีวิตที่พยายามดิ้นรนจากการเต้นของหัวใจภายในร่างเด็กหญิง

พร้อมกันนั้นจิตของเซี่ยวเล้งที่ได้ส่งไปยังกลุ่มรินลดาทั้งสาม ก็ทำให้ใบหน้าหญิงสาวทั้งสามซีดเผือกด้วยความตระหนก และความทุกข์จนไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ ขณะที่ผมเองก็ตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถตัดสินใจทำสิ่งใดอื่น นอกจากการถ่ายทอดปราณไปสะกดพลังแสงเทพเอาไว้ต่อไป ทั้งที่รู้ว่าอีกไม่นานผมก็ต้องยุติและต้องปล่อยให้หนูนิดสูญสลายไปโดยไม่ สามารถป้องกันได้

ความเงียบงันเข้ามาปกคลุมห้องโถงบ้านคชสีห์ราวกับทุกคนต้องการให้เวลาหยุดนิ่งไปตลอดกาล จนในที่สุดจิตของเซี่ยวเล้งก็ดังขึ้นแผ่วเบา

‘พี่เอ..ยุติเถอะ….ในโลกนี้มีเพียงเทพสุรัสวดีผู้เดียวที่สามารถแก้ไขน้อง นิดได้ แต่ไม่มีวันที่เทพสุรัสวดีจะยินยอมช่วยเหลือแน่…อย่าทรมานน้องนิดอีกต่อไป เลย…’

ผมถอนใจยาวและต้องทำใจยอมรับสิ่งที่เซี่ยวเล้งบอกมา แต่ขณะที่ผมกำลังเตรียมถอนปราณออกจากร่างหนูนิด เสียงประหลาดที่ผมเคยได้ยินมาครั้งหนึ่งระหว่างการต่อสู้กับเซี่ยวเล้งก็ดัง ก้องขึ้นในจิตผม

‘มังกรน้อยด่วนสิ้นหวังได้อย่างไร…นางคือผู้ร่วมสามีของเจ้า เหตุใดจึงไม่ถามคันชั่งน้อยผู้รอบรู้สรรพสิ่งให้หาทางช่วยเหลือ…’
‘นายท่าน มังกรน้อยไร้ปัญญา ไม่ทราบจะหาคันชั่งน้อยพบได้อย่างไร…’
‘น่าหัวเราะ … นางอยู่กับเจ้ามาตลอด คันชั่งน้อยกับมังกรน้อยเจ้าเป็นสหายร่วมตายไม่เคยห่างจากกัน เหตุใดเจ้าจึงไม่พบ’

เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมและเซี่ยวเล้งต้องมองตากันด้วยความงุนงง และจำได้ในทันทีว่านี่คือเสียงสนทนาของบุรุษและสตรีที่ราวกับดังมาจากจิต ส่วนลึกที่สุดของผมและเซี่ยวเล้ง ซึ่งหากปราศจากเสียงทั้งสอง ผมก็คงไม่สามารถสลายเกราะมังกรฟ้าของเซี่ยวเล้งเพื่อทำลายพรหมจรรย์ของธิดา มังกรฟ้าได้ แต่สำหรับบุคคลอื่นในห้องโถง ไม่มีใครได้ยินหรือรับรู้การปรากฏขึ้นของเสียงทั้งสองแม้แต่น้อย ใบหน้าทุกคนยังคงปรากฏความเสียใจและพยายามทำใจรอรับการจากไปของหนูนิด แต่ก่อนที่ผมจะถามเซี่ยวเล้งถึงความหมายของเสียงกระแสจิตประหลาดก็ดังก้อง ขึ้นในจิตของผมและเซี่ยวเล้ง

‘นายท่าน มังกรน้อย…เราอยู่ที่นี่…คันชั่งน้อยตื่นแล้ว..’

เสียงของสตรีที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้นในจิตผมและเซี่ยวเล้งพร้อมกัน ทำให้ผมและเซี่ยวเล้งต้องหันไปมองรอบข้างเพื่อหาที่มาของเสียงและพบว่าแทบ ทุกคนยังคงอยู่ในอาการเดิม มีเพียงจานีสผู้ซึ่งตลอดเวลาที่เข้ามาในบ้านคชสีห์ไม่เคยเอ่ยวาจาใดเพียงคน เดียวที่ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตระหนก ผมรู้ในทันทีว่าจานีสได้ยินเสียงที่ดังขึ้นและต้นกำเนิดของเสียงนั้นน่าจะมา จากตัวเด็กสาวผู้เป็นอดีตโหราทาสผู้นี้

‘จานีส..นั่นเสียงจากจานีสหรือ..และมันหมายความว่าอย่างไร’

เซี่ยวเล้งรีบส่งจิตสอบถามจานีส แต่เด็กสาวกลับสั่นหน้าไปมาอย่างสับสน

‘จานีสไม่ได้ส่งจิตให้พี่เอและเซี่ยวเล้ง แต่เสียงนั้นดังมาจากจิตส่วนลึกของจานีส จานีสเองก็ไม่รู้ความหมายเหมือนกัน’

ผมพยายามกำหนดจิตถามจานีสเพิ่มเติม แต่ทันทีที่ผมละสมาธิจากากรคุมปราณในร่างหนูนิด มวลพลังแสงเทพก็เริ่มดึงดูดปราณในร่างหนูนิดทันที ทำให้ผมต้องหันกลับไปสะกดพลังโดยไม่สามารถสอบถามจานีสได้ แต่เสียงที่ผมไม่รู้จักกลับดังขึ้นอีก

‘คันชั่งน้อย…เทวนารีแห่งราศีเมถุนต้องมีคุณสมบัติอย่างไรเจ้าจำได้หรือไม่’
‘นายท่านข้าจำได้ดี…’
‘มังกรน้อย แล้วเจ้าล่ะ…จำเทวนารีแห่งราศีเมถุนที่แท้จริงได้หรือไม่…’
‘นายท่าน มังกรน้อยระลึกได้แล้ว….นางจะต้องกลับมา…มังกรน้อยขอสาบานต่อหน้านายท่าน’
‘เราจะรอพวกเจ้า…’

กระแสจิตสามเสียง ที่อยู่เหนือการควบคุมของผม เซี่ยวเล้ง และจานีส สนทนากันด้วยเนื้อความที่ผมไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับเซี่ยวเล้งที่มีสีหน้างุนงง แต่ดวงตากลมโตสุกใสของจานีสกลับทอประกายแวววาวออกมา พร้อมกับส่งจิตมาอย่างเร่งร้อน…

‘พี่เอ…เซี่ยวเล้ง จานีสเข้าใจแล้ว…แม้ขณะนี้จานีสจะไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากที่ใด แต่สิ่งที่พวกเขาบอกคือกุญแจที่จะช่วยน้องนิดได้…’

‘ช่วยอย่างไรจานีส เซี่ยวเล้งไม่เห็นทางเลย’

‘เซี่ยวเล้งคิดให้ดีๆอีกที เสียงนั้นย้ำให้เราคิดถึงเทวนารีแห่งราศีเมถุนที่แท้จริง เซี่ยวเล้งเคยอ่านบันทึกในหอสมุดของจักรราศีเกี่ยวกับเทวนารีที่นำโดยเทพวิ รุณปักขะมาแล้ว เซี่ยวเล้งจำได้ไหมว่าเทวนารีแห่งราศีเมถุนมีอันใดที่แตกต่างไปจากเทวนารี ผู้อื่น…’

อดีตธิดามังกรฟ้าสงบนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนตอบ

‘ราศีเมถุนคือราศีแห่งคนคู่ เทวนารีแห่งราศีเมถุนในยุคแห่งเทพวิรุณปักขะต้องเป็นสตรีพรหมจรรย์ ที่รับถ่ายพลังจากเทพวิรุณปักขะ หาใช่การบังคับพลังแสงเทพปกป้องพลังเช่นในปัจจุบันไม่ แต่ตำแหน่งเทวนารีแห่งราศีเมถุนถูกเปลี่ยนแปลงโดยเทพสุรัสวดีเมื่อสามร้อยปี ที่ผ่านมา หลังจากขาดการสืบทอดสตรีที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะมาดำรงตำแหน่งเทวนารีแห่ง ราศีเมถุน และมีการนำประมุขแห่งตระกูลโรหิณีมารับตำแหน่งแทน’

เซี่ยวเล้งส่งจิตราวกับจะพยายามทบทวนสิ่งที่เคยศึกษาในช่วงที่หญิงสาวพำนักอยู่ในจักรราศี

‘แล้วคุณสมบัติเฉพาะของเทวนารีแห่งราศีเมถุนนี้คืออันใด…..จานีสเคยเล่าให้เซี่ยวเล้งฟัง เซี่ยวเล้งจำได้หรือไม่’

‘เทวนารีแห่งราศีคนคู่จะต้องเป็นสตรีสองวิญญาณในร่างเดียว…สองวิญญานใน ร่างเดียว…ใช่แล้วจานีส เหตุใดเซี่ยวเล้งจึงลืมวิชาเทพผนึกจิตนี้ไปได้…พี่เอ…หนูนิดมีทางช่วย เหลือแล้ว…แต่…’

จิตเซี่ยวเล้งอุทานออกมาอย่างลิงโลดในครั้งแรก แต่กลับเปลี่ยนไปในทันทีราวกันนึกประเด็นอื่นขึ้นมาได้ ทำให้น้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว ที่แม้จะไม่อาจรับรู้การสื่อสารทางจิตของจานีส แต่ด้วยจิตของเซี่ยวเล้งและผมที่ส่งออกมา หญิงสาวทั้งสามก็สามารถรับรู้ได้ด้วยความดีใจว่ายังมีหนทางช่วยเหลือหนูนิด แต่เมื่อเซี่ยวเล้งมีท่าทีลังเลในตอนท้าย ก็ทำให้เหมียวซึ่งรักถนอมหนูนิดมาตลอด รีบส่งเสียงถามเซี่ยวเล้งทันทีโดยไม่ผ่านการสื่อจิตเนื่องจากต้องการให้น้อง รินและน้องกิฟท์รับรู้ด้วย

“น้องเซี่ยวเล้ง…มีปัญหาใดที่ขัดขวางการช่วยเหลือหนูนิดหรือ…”

เซี่ยวเล้งถอนใจเบาๆ และหันไปสบตาหญิงสาวด้วยสายตาแสดงความกังวล

“พี่เหมียว เซี่ยวเล้งกับจานีสกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ในการใช้วิชาโบราณนามวิชาเทพ ผนึกจิต ที่มีบันทึกตกทอดกันมาในจักรราศีช่วยน้องนิด แต่เท่าที่เซี่ยวเล้งได้รับรู้ ตลอดหลายพันปีมานี้แม้จะมีผู้พยายามใช้วิชานี้ส่งจิตของบุคคลที่ใกล้ดับสูญ เข้าไปผนึกในร่างอื่น แต่กลับปรากฏว่าผู้ถูกแทนจิตนั้นก็ต้องสูญจิตตนเองไปเนื่องจากวิชาปราณโบราณ ที่ควบคุมจิตทั้งสองให้อยู่ในร่างเดียวนั้นสาบสูญไปหลายพันปีแล้ว ดังนั้นแม้จะสามารถช่วยย้ายจิตน้องนิดได้ แต่จิตร่างที่จิตของน้องนิดจะเข้าไปอาศัยก็จะดับสูญ เท่ากับว่าเป็นการสละชีวิตหนึ่งช่วยอีกชีวิตหนึ่ง นอกจากนี้ การผนึกจิตยังมีข้อจำกัดเฉพาะบุคคลสายเลือดเดียวกันเท่านั้นอีกด้วย ดังนั้นเซี่ยวเล้งจึงไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร…”

ผมรับฟังคำอธิบายของเซี่ยวเล้งด้วยความตื่นตระหนก เพราะข้อจำกัดที่เซี่ยวเล้งระบุมาทำให้แสงสว่างของการช่วยหนูนิดที่ปรากฏ ขึ้นรางๆ พลันดับวูบไปในทันที แต่ยังไม่ทันที่ผมจะคิดหาทางอื่น เสียงแน่วแน่มั่นคงของเหมียวก็ดังขึ้น

“นั่นไม่ใช่ปัญหา พี่เอ เซี่ยวเล้ง น้องทิพย์และน้องจานีส เพิ่งเข้ามาจึงคงยังไม่ทราบว่าหนูนิดคือผู้สืบเชื้อสายตระกูลโรหิณีเช่น เดียวกับเหมียว ดังนั้นหากชีวิตเหมียวสามารถใช้ช่วยให้หนูนิดดำรงต่อไปได้ในร่างเหมียว เหมียวก็พร้อมที่จะสละร่างนี้ให้หนูนิด เซี่ยวเล้งดำเนินการได้เลย…เหมียวพร้อมแล้ว…”

“พี่เหมียว…ไม่ได้นะ”

น้องรินน้องกิฟท์อุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกันเมื่อได้ยินคำพูดของเหมียว เช่นเดียวกับผมที่อุทานออกมาอย่างลืมตัว

“ไม่ได้เด็ดขาด พี่ไม่ยอมอนุญาตให้เหมียวสละตนเองแบบนี้ พี่รักเหมียวเท่าชีวิตและไม่ยอมให้เหมียวจากพี่ไป แม้จะเป็นการช่วยหนูนิดก็ตาม..”

ท่ามกลางเสียงอุทานและคัดค้านเซ็งแซ่ จิตผมพลันรับรู้จิตของจานีสที่ส่งมายังผมกับเซียวเล้งอย่างแผ่วเบาแต่มั่นคง

‘เซี่ยวเล้ง จำได้ไหมว่าวิชาเทพผนึกจิตนี้กำเนิดมาจากที่ใด’

‘เป็นวิชาโบราณที่มีต้นกำนิดมาตั้งแต่ยุคมหาอาณาจักรปราณ แต่เซี่ยวเล้งไม่ทราบว่าวิชานี้ก่อกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร’

เซี่ยวเล้งตอบคำถามจานีสอย่างครุ่นคิด ขณะที่เด็กสาวผู้เป็นอดีตโหรทาสที่ศึกษาสรรพตำราในหอสมุดแห่งจักรราศีมากว่าร้อยปี กล่าวสืบต่อ

‘วิชาเทพผนึกจิตก่อกำเนิดจากเทพวิรุณปักขะ ทีพยายามหาทางช่วยเหลือพี่น้องฝาแฝดสตรีคู่หนึ่งที่เทพวิรุณปักขะรักทั้งสอง ยิ่ง แต่ต่อมาสตรีผู้เป็นน้องสาวประสบภัยจากความบกพร่องของร่างกายทำให้ไม่สามารถ รองรับปราณได้ เทพวิรุณปักขะจึงได้ใช้ปราณแห่งเทพผนึกจิตของสตรีผู้น้องเข้ามาอยู่ร่วมกับ ตนเอง ก่อนส่งผ่านไปยังสตรีผู้เป็นพี่สาว ทำให้สตรีผู้มีสองวิญญาณในร่างเดียวกำเนิดขึ้น และต่อมาเมื่อเทพวิรุณปักขะจัดตั้งจักรราศีขึ้น สตรีนางนั้นก็เข้ารับตำแหน่งเป็นเทวนารีแห่งราศีเมถุนเป็นคนแรก แต่หลังจากเทพวิรุณปักขะและจักรราศีสูญสิ้น วิชานี้ก็หายสาบสูญไป เทวนารีแห่งราศีเมถุนในยุคต่อมาล้วนคัดเลือกมาจากผู้ทรงปราณที่มีจิตวิญญาน เดียว…แต่ขณะนี้….’

‘จานีสหมายความว่า……….’

เซี่ยวเล้งที่รับฟังอย่างตั้งใจ ส่งจิตที่แสดงความตื่นเต้นขึ้นมากลางคัน

‘เซี่ยวเล้งคาดคิดถูกแล้ว ปราณเทพแห่งเทพวิรุณปักขะก่อกำเนิดใหม่อีกครั้งและพี่เอคือบุคคลที่ครอบครอง กาฬปราณ จานีสเชื่อว่าหากเรานำวิชาเทพผนึกจิตมาช่วยน้องนิด โดยให้พี่เอเป็นตัวกลาง จิตของพี่เหมียวควรจะดำรงอยู่ร่วมกับน้องนิดได้…’

จานีสส่งจิตอธิบายให้ผมและเซี่ยวเล้งฟัง แต่ทุกคนในห้องที่สามารถสื่อสารทางจิต มีเพียง ผม เซี่ยวเล้งและน้องทิพย์เท่านั้นที่สามารถรับจิตของจานีสได้ จากการที่จานีสปราศจากปราณและอาศัยพลังชีวิตจากผนึกมังกรที่ผมถ่ายทอดให้ ดำรงร่างอยู่ ดังนั้นผู้ที่ปราศจากพลังชีวิตจากผลึกมังกรในร่างจึงไม่สามารถรับรู้สิ่งที่ จานีสพยายามถ่ายทอดออกมาได้ อย่างไรก็ตามตลอดเวลาที่จานีสอธิบาย น้องทิพย์ก็ถ่ายทอดคำพูดของจานีสให้น้องริน น้องทิพย์ และเหมียวรับรู้ไปพร้อมกัน ทำให้ทุกคนในห้องเกิดความเคลื่อนไหวและจีบจ้องมาที่จานีสเป็นจุดเดียว

“จานีส…เหมียวยินยอมรับ..จานีสช่วยหนูนิดให้เหมียวด้วย…”

เหมียวส่งเสียงบอกจานีสด้วยน้ำเสียงวิงวอน ที่แม้จานีสผู้ไม่เข้าใจภาษาไทยก็ยังสามารถเข้าใจได้

‘เหมียว…แน่ใจแล้วหรือที่จะทำแบบนี้’

ผมส่งจิตถามเหมียวอย่างเป็นห่วง แต่จิตเหมียวที่ส่งตอบกลับมาเปี่ยมด้วยความมั่นใจ

‘พี่เอ..เหมียวคิดมาตลอดว่าเหมียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนในโลกนี้ แต่ตอนนี้เหมียวรู้ว่าหนูนิดคือน้องสาวร่วมสายเลือดของเหมียว ดังนั้นอย่าว่าแต่การผนึกจิตเลย ต่อให้เหมียวต้องสูญจิตไปเพื่อหนูนิด เหมียวก็ยินดี พี่เอช่วยหนูนิดให้เหมียวด้วย…’

คำตอบของเหมียว ทำให้ผมกำหนดจิตไปยังเจนีสทันที

‘จานีส พี่ต้องทำอย่างไรบ้าง…’

‘ก่อนอื่นพี่เอต้องปลุกจิตหนูนิดที่ถูกปิดกั้นจากพลังแสงเทพ ให้หนูนิดมีสติก่อน…พี่เอใช้ปราณในร่างไปสลายพลังแสงเทพจุดนั้นให้เป็น ช่องว่างและรีบแทรกตัวเข้าไปปลุกจิตน้องนิด..หลังจากนั้นจานีสจะบอกพี่เอต่อ ไป..’

ผมพยักหน้ารับคำ ก่อนเริ่มถ่ายทอดปราณไปยังจักรพสุธาที่ศีรษะหนูนิด และพบว่ามันถูกปิดกั้นด้วยพลังแสงเทพอยู่ แต่เมื่อผมรวมศูนย์ปราณไปยังตำแหน่งนั้น พลังแสงเทพก็เริ่มแยกตัวออก พร้อมกับจิตผมได้สัมผัสจิตของหนูนิดที่พยายามดิ้นรนอย่างกระวนกระวายอยู่ภาย ใน

‘นี่เราเป็นอะไรไป ทำไมถึงเคลื่อนไหวไม่ได้…มองก็ไม่เห็น ไม่ได้ยินอะไรเลย…นี่เราตายไปแล้วหรือ..’

‘หนูนิด นี่พี่เอนะ ได้ยินพี่ไหม…’

‘พี่เอ…พี่เอ…พี่เอหรือนี่ ช่วยนิดด้วย นิดเป็นอะไรก็ไม่รู้…เมื่อกี้นี้นิดใช้ปราณ…’

จิตน้องนิดตอบรับผมอย่างตื่นเต้นและขอความช่วยเหลือพร้อมพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น

‘หนุนิดไม่ต้องบอกพี่ พี่รู้ทุกอย่างจากเหมียวแล้ว แต่ตอนนี้หนูนิดจงรับฟังพี่ให้ดี …’

ผมรีบแทรกจิตขัดการอธิบายของหนูนิด แล้วเริ่มบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างของเด็กหญิง และวิธีช่วยเหลือที่เป็นหนทางเดียวในการรักษาจิตของเด็กหญิงไว้ได้ จิตหนูนิดสั่นสะท้านเป็นระยะเมื่อรับรู้สิ่งที่ผมพยายามบอก แต่ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าเด็กหญิงจะสามารถสงบจิตตนเองลงได้…

‘ทั้งหมดนี้ก็หมายความว่านิดไม่สามารถรักษาร่างกายนี้ไว้ได้ และจิตของนิดจะต้องไปอยู่ในร่างของพี่เหมียว แต่นิดจะรู้สึกอย่างไร จะเป็นตัวนิดอยู่หรือไม่ล่ะพี่เอ…’

‘หนูนิด พี่ขอบอกตรงๆ ว่าพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะวิชาผนึกเทพนี้มีอยู่ในตำนานโบราณที่ตั้งแต่เทพวิรุณปักขะสูญสิ้น ก็ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน’

จิตของหนูนิดนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

‘พี่เอ นิดยอมรับ…ขอเพียงให้นิดได้อยู่กับพี่เอ และพี่ๆ ของนิดทุกคนเท่านั้น นิดยอมเสี่ยงทุกอย่าง’

‘ถ้าเช่นนั้นหนูนิดกำหนดจิตตามพี่เอกมาจากผนึกพลังแสงเทพเดี๋ยวนี้..’

จิตหนูนิดรับคำสั่งผม และเริ่มเคลื่อนไหมผ่านช่องว่างของพลังแสงเทพที่ผมเปิดเอาไว้ ซึ่งในทันทีที่จิตหนูนิดผ่านออกมาสำเร็จ พลังแสงเทพที่ปิดกั้นจักรพสุธาก็เคลื่อนออกไปรวมกันที่ส่วนอื่น ทำให้หนูนิดลืมตาขึ้นสบตาผมเป็นครั้งแรก..

‘พี่เอ…นิดควบคุมร่างได้แล้ว..เอ๊ะ..’

หนูนิดอุทานขึ้นเบาๆ เมื่อรู้สึกตัวและพบว่ากำลังนั่งขัดสมาธิในร่างเปล่าเปลือย ใบหน้านวลเนียนสีน้ำผึ้งของเด็กหญิงเป็นสีแดงฉานด้วยความอายเมื่อรับรู้ว่า ทรวงอกคู่น้อยที่เริ่มผลิบานถูกฝ่ามือผมผนึกไว้ทั้งสองเต้า ท่ามกลางสายตาของสมาชิกตระกูลคชสีห์และเหล่าบริวารโรหิณีที่มองมาเป็นจุด เดียว…ขณะที่ใจกลางฝ่ามือผมได้รับรู้ถึงหัวนมเม็ดน้อยของหนูนิดที่แข็งตัว ชูชันขึ้นมา ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากความอายหรือการสัมผัสทรวงอกที่ไวต่อการปลุก เร้าของเด็กหญิง

‘พะ พะ พี่เอ…นิด…นิด..’

‘น้องนิดพี่คือจานีส และสองคนข้างๆ พี่คือเซี่ยวเล้งอดีตเทวนารีแห่งราศีมังกร และน้องทิพย์ ตอนนี้น้องนิดอย่าเพิ่งพูดอะไร….เวลามีน้อย…จงสงบสติเตรียมรับการส่งจิต เข้าสู่ร่างพี่เอก่อนนะ…’

จานีสส่งจิตบอกหนูนิดอย่างเร่งร้อน ก่อนที่จะส่งจิตให้ผมด้วยถ้อยคำที่ทำให้ผมตกตะลึงไปชั่วขณะ

‘พี่เอ…เย็ดหนูนิดเดี๋ยวนี้เลย…’

‘อะ อะ อะไรนะ…’

‘ยะเย็ด…จะให้พี่เอเย็ดนิดตรงนี้เลยหรือ..’

จิตผมและหนูนิดอุทานออกมาพร้อมกัน

‘วิชาผนึกจิต จะต้องถ่ายทอดระหว่างที่ชายหญิงผนึกจิตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจากการร่วม รักเท่านั้น พี่เอ หนูนิด ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น…’

จิตของจานีสเร่งเร้าผมและหนูนิดอย่างร้อนรน

‘พะ พี่เอ….นะ นะ นิดรักพี่เอและพร้อมที่จะเป็นของพี่เอ แต่พี่เอรังเกียจนิดหรือเปล่าที่นิดไม่มีพรหมจรรย์ให้พี่เอ..’

หนูนิดส่งจิตถามผมอย่างลังเล ขณะผมสูดลมหายใจผนึกปราณขึ้นแล้วระเบิดออกจากรูขุมขนทั่งร่างทำให้เสื่อผ้า ทุกชิ้นที่ผมสวมอยู่สลายเป็นผุยผง แก่นเนื้อยาวเหยียดที่ลุกชูชันชี้ไปยังร่องรักของหนูนิดซึ่งห่างออกไปไม่กี่ คืบเบื้องหน้า ผมสูดลมหายใจลึกก่อนถอนฝ่ามืออกจากหน้าอกเต่งของหนูนิดและรั้งร่างน้อยเข้า มากอดไว้แน่นจนหน้าอกน้องนิดบดเบียดอยู่กับหน้าอกผม ก่อนก้มหน้าลงประทับจูบริมฝีปากเรียวบางนั้นอย่างนิ่มนวล

‘พี่ไม่เคยรังเกียจหนูนิดเลย พี่รักและปรารถนาหนูนิดมาตลอด เพียงแต่พี่ไม่ต้องการฝืนใจหนูนิดให้มาเย็ดกับพี่เท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อพี่รับรู้ความรู้สึกของหนูนิดแล้ว พี่ก็จะขอรับร่างกายหนูนิดไว้พร้อมกัน ก่อนที่ร่างกายนี้จะต้องสูญสลายไป หนูนิดพร้อมไหม…’

ผมส่งจิตอย่างอ่อนโยนไปยังเด็กหญิงพร้อมกับถ่ายทอดปราณในร่างผ่านการจูบไป ควบคุมพลังแสงเทพ ทำให้หนูนิดที่ลืมตาโพลงด้วยความแปลกใจในตอนแรกกลับพริ้มตาลงรับการจูบของผม อย่างเต็มใจ ลิ้นเรียวเล็กหอมกรุ่นกระหวัดเกี่ยวตอบโต้ลิ้นผมที่กำลังซึมรับความหอมหวาน ของหนูนิดภายใน ราวกับหญิงสาวผู้ชำนาญในเชิงรักมากว่าจะเป็นเด็กหญิงผู้เพิ่งถูกทำลาย พรหมจรรย์ไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่ผมก็ทราบดีว่าผู้ฝึกปรือปราณราหูเช่นหนูนิด จำเป็นต้องรับพลังชีวิตจากเพศชายเพื่อสร้างสลักราหู และตลอดเวลาที่ผ่านมาหนูนิดก็มีปาเกอยะคอยช่วยปลุกเร้าร่างกายแรกสาวให้ พร้อมสำหรับการดูดกลืนปราณมาตั้งแต่หนูนิดอายุเพียง 8 ปี ความเชี่ยวชาญในการจูบของหนูนิดจึงไม่ใช่สิ่งที่เกินความคาดหมายผมแต่อย่าง ใด

‘พี่เอ…นิดรอสัมผัสจากพี่เอมานานเหลือเกิน…’

เด็กหญิงส่งจิตร่ำร้องตอบสนอง เมื่อมือผมเริ่มเคลื่อนอ้อมแผ่นหลังเรียบเนียน ลงไปยังสะโพกกะทัดรัดที่เต็มไปด้วยแรงดีดสะท้อนของผิวเด็กหญิงที่กำลังก้าว ไปสู่วัยรุ่น ผมเคล้นคลึงความครัดเคร่งของนวลเนื้อสะโพกจนเจ้าของร่างบิดส่ายร่างไปมา ทำให้เนินเนื้ออวบอิ่มเกินวัยของน้องนิดเสียดส่ายกับแก่นกายของผมที่กำลัง เสียดสีส่วนปลายที่ไวต่อความรู้สึกกับน้ำหล่อลื่นเด็กหญิงที่กำลังหลั่งออก มาต่อเนื่อง มือผมวกต่ำผ่านร่องก้นหนูนิดมาทางด้านหน้าสัมผัสความชุ่มฉ่ำนั้นด้วยหัวใจ เต้นระทึกกับขนาดเนินรักที่หยุ่นตึงของหนูนิด และเพียงปลายนิ้วผมสัมผัสติ่งเนื้อเสียวเหนือร่องรักของเด็กหญิง ร่างบอบบางก็สะดุ้งเฮือกแอ่นกายเข้าเบียดหน้าท้องผมแน่นสนิท

‘อื๋ย…พี่เอ…ตรง ตรงนั้นมันเสียว…ยะ อย่าคลึง….โอ๊วส์…’

‘หนูนิดชอบไหมล่ะ….’

‘นิด…ชะ ชอบ…พะ พะ พี่เอล่ะ…ชอบร่างกายนิดไหม….โอย……’

‘หนูนิดงามขนาดนี้พี่จะไม่ชอบได้ยังไง…หีหนูนิดก็แน่นหนึบไปหมดแบบนี้…’

หนูนิดครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อผมแทรกนิ้วชี้ผ่านเข้ากลางสองแคมอวบ อิ่มจมลึกไปในร่องรักที่คับแน่น แรงบีบรัดภายในหลืบน้อยๆ ของเด็กหญิงวัย 12 บดอัดนิ้วผมทุกส่วนแทบไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ราวกับเป็นหลืบรักของหญิงพรหมจารีย์ทั้งที่เคยถูกแท่งเนื้อของมิถุกานารี ผ่านเข้าไปมาแล้วครั้งหนึ่งก็ตาม

‘อูว์…พะ พี่เอ…ยะ อย่าคว้านแบบนั้น…’

น้ำหล่อลื่นที่ทะลักทะลายออกมาทำให้ นิ้วผมค่อยๆ เคลื่อนตัวในร่องรักหนูนิดได้ง่ายขึ้น และเริ่มหมุนเป็นวงสัมผัสผนังหลืบน้อยๆ จนจิตหนูนิดต้องร้องครวญครางออกมาอย่างลืมตัว ผมค่อยๆ ถอนนิ้วออกและใช้มือประคองสะโพกหนูนิดที่กำลังส่ายเป็นวงให้หยุดนิ่ง เพื่อนำแก่นกายที่กำลังแข็งตัวจนแทบระเบิดของผมไปจรดอยู่ปากทางเข้าสู่หลืบ รักของเด็กหญิง

‘หนูนิด…เป็นของพี่นะ…’

‘พี่เอ…เอาควยพี่เอเข้ามาในตัวนิดเลย…นิดต้องการพี่เอ….อ๊าวส์…’

จิตหนูนิดครางลั่น เมื่อผมกดแก่นกายแทรกผ่านสองแคมอวบอิ่มพร้อมใช้มือกดสะโพกหนูนิดเข้าหาตัว ทำให้แท่งเนื้อยาวกว่า 7 นิ้วมุดลงไปในหลืบน้อยๆ ของหนูนิดจนฝังแน่นสนิททั้งลำในคราวเดียว…

‘โอย…พี่เอ…นิดทั้งเสียว…ทั้งคับ….’

แก่นกายผมถูกผนังหลืบรักภายในร่างกายหนูนิดบีดรัดแน่นสนิท ด้วยคุณลักษณะพิเศษของผู้ทรงปราณราหูที่เพิ่มแรงบดอัดภายใน ซึ่งหากเป็นคนธรรมดาที่ปราศจากปราณ พลังบีบอัดนี้ก็อาจถึงกับทำให้แก่นกายถูกบดขยี้จนแหลกเหลว แต่สำหรับผู้ทรงปราณในระดับเดียวกัน พลังปราณในร่างจะถูกส่งมายังแก่นกายเพื่อต่อต้านแรงบีบอัด ทำให้ประสาทสัมผัสไวขึ้นกว่าปกติหลายเท่า ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการเพิ่มรสสัมผัสและความสุขจากการร่วมรักในระดับสูงกว่า คนธรรมดาหลายเท่าเช่นกัน

‘โอว…หีหนูนิดสุดยอดจริงๆ….’

แม้กระทั่งผมเองก็ต้องครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อได้รับรู้รสรักจากอวัยวะเพศ ของเด็กหญิงผู้เป็นเสมือนน้องสาว ความคับแน่นบีบกระชับเมื่อผมเริ่มกระเด้าร่องรักหนูนิดช้าๆ จนความเสียวกระจายไปทั่วลำลึงค์ ลำขาเรียวงามนุ่มนวลของหนูนิดยกขึ้นโอบรอบเอวผมแล้วดึงร่างเข้าหารับการร่วม รัก

‘พี่เอ…นิด สะ เสียว..พะ พี่เอ กระเด้านิดแรงๆ…อื๋ย..ดะ ดีจัง’

เด็กหญิงครางออกมาเมือผมเร่งความเร็วในการกระเด้าจนหนูนิดต้องกอดเกี่ยวร่าง ผมไว้แน่น และตอบโต้ด้วยการกระเด้งสะโพกน้อยๆ รับการร่วมรักอย่างลืมตัว ขณะสองมือผมสอดเข้าเคล้นคลึงสองเต้าครัดเคร่งจนเม็ดยอดแข็งตัวชูชันราวก้อน หินอยู่ในอุ้งมือผม

‘อาห์…พี่ก็เสียว…มดลูกหนูนิดตอดควยพี่แบบนี้พี่จะกลั้นไม่ไหวแล้วนะ…’

ความเสียวที่พลุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากการตอดของปากมดลูกหนูนิดถี่ยิบทุก ครั้งที่ส่วนปลายของแก่นกายผมกระทบปากมดลูกเด็กหญิง ทำให้ผมอดครางออกมาด้วยความเสียวไม่ได้ รสสัมผัสที่แปลกประหลาดเหนือสตรีทั่วไปของสตรีผู้ทรงปราณราหูเช่นหนูนิด ยิ่งทำให้น้ำรักวิ่งกรูเกรียวมาที่ปลายแก่นเนื้อผมและพร้อมที่จะระเบิดออก ทุกขณะจิต….

‘พี่เอ…ไม่ต้องยั้ง…มะ มไม่ต้องกลั้น นิดใกล้แล้ว…โอย…อ๊าวส์…’

เด็กหญิงร้องลั่นออกมาพร้อมกับร่างกายบอบบางสั่นเกร็งกระตุกเฮือกเมือ่ความ เสียวมาถึงจุดสุดยอก ปากมดลูกหนูนิดก่อพลังปราณดึงดูดส่วนหัวแก่นกายผมเต็มที่ จนผมต้องกัดฟันแน่นแล้วกระแทกแก่นเนรื้อลงไปฝังตัวในหลืบน้อยๆ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่น้ำรักมหาศาลจะทะลักออกจากลพลึงค์ฉีดเข้าไปในร่องรักหนุนิดทั้งหมด เป็นระลอก

‘อาห์…มะ มาแล้ว….’

จิตหนูนิดส่งเสียงครางออกมาเมื่อน้ำรักผมพุ่งเข้าไปในร่างเด็กหญิงพร้อมกับปราณในร่างที่เข้าไปวนเวียนตามเส้นทางโคจรปราณของหนูนิด…

‘พี่เอ…โคจรปราณผ่านจักรทั้งสี่ด้วยพลังดูดรั้งเดี๋ยวนี้เลย..’

อาการขึ้นถึงจุดสุดยอดของหนูนิด ทำให้จานีส รีบส่งจิตบอกให้ผมปรับเปลี่ยนปราณที่กำลังทะลักเข้าไปในร่างหนูนิดให้เป็น ปราณดูดรั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อน แต่ผมรู้ดีว่านี่คือสิ่งที่ผมต้องทำเพื่อช่วยจิตของหนูนิดให้คงอยู่ต่อไปได้ ผมรีบปรับปราณให้โคจรในแนวทางวดูดรั้งแล้วส่งผ่านเข้าร่างหนูนิดตามน้ำรัก ที่ยังคงกระฉูดเข้าไปในร่องรักเด็กหญิงต่อเนื่อง ปราณดูดรั้งโคจรผ่านจักรพสุธาที่ศีรษะ จักรวารีที่กลางหน้าอก จักรวายุที่หน้าท้อง ผ่านมารวมศูนย์ที่จักรอัคคีบริเวณเนินรัก และกระจายออกตามเส้นทางย้อนทวนของปราณราหูรอบแล้วรอบเล่า จนน้ำรักผมหยุดและปราณในร่างผมร่วมผสานโคจรไปกับปราณหนูนิด ขณะจิตของจานีสดังขึ้น

‘พี่เอ..ดึงปราณทั้งหมดกลับร่างเดี๋ยวนี้ เซี่ยวเล้ง…ถ่ายปราณคุมจักรทั้งสี่ของน้องนิดไว้ อย่าให้ขาดตอนเด็ดขาด น้องทิพย์ผนึกเกราะปราณมังกรวารีให้พลังกระจายออกคลุมร่างพี่เอ น้องนิดและเซี่ยวเล้งเอาไว้’

จิตที่มั่นคงของจานีสสั่งการเด็ดขาดราวกับการบัญชาการกองทัพของแม่ทัพผู้ ยิ่งใหญ่ในอดีตกาล ซึ่งแม้กระทั่งผมเองก็อดแปลกใจกับบุคลิกที่เปลี่ยนไปนี้ไม่ได้ แต่ผมก็ระงับความรู้สึกสงสัยเอาไว้และเร่งปฏิบัติตามที่จานีสสั่งมา พร้อมกับที่เซี่ยวเล้งถลันวูบเข้ามาเบื้องหลังหนูนิดแล้วประกบฝ่ามือเข้ากับ กลางหลังเด็กหญิง ส่วนน้องทิพย์ไม่แสดงท่าทีสงสัยอันใดทั้งสิ้น เด็กสาวสูดลมหายใจผนึกปราณในร่างแล้วระเบิดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากร่างกาย พร้อมกับการก่อตัวของเกราะมังกรวารีสีฟ้าสดใสส่องประกายแสงเรืองรองไปทั่ว

ผมดึงปราณกลับเข้าร่างและรับรู้ด้วยความแตกตื่นใจว่านอกจากปราณราหูในร่าง ของหนูนิดจะถูกดูดตามมาด้วยแล้ว พลังชีวิตทั้งมวลของเด็กหญิงก็เคลื่อนตามเข้ามาสู่ร่างผมอย่างต่อเนื่อง จิตใจของหนูนิดค่อยๆ ผสานกับจิตผมและเปิดเผยทุกสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตของหนูนิดให้ผมได้รับรู้ถึง ความทุกข์ทรมานใจในการปิดบังความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดไม่ให้คุณพ่อคุณแม่ ผมรับรู้ การถูกกระตุ้นปราณราหูในร่างให้ก่อเกิดหลังเด็กหญิงแอบเข้าไปรื้อค้นคัมภีร์ ที่เหมียวเก็บไว้โดยบังเอิญ ความขมขื่นที่ต้องปิดบังความรักที่เด็กหญิงที่ต่อผม เพราะเกรงว่าหากมอบร่างกายพรหมจรรย์ให้ผม ก็จะเป็นการทำให้ปราณราหูโดกลืนปราณและพลังชีวิตของผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลอดจนความเจ็บปวดจากการถูกมิถุกานารีทำลายความสาวไปเมื่อครู่ที่ผ่านมา ความรู้สึกทั้งหมดนี้ผ่านเข้ามาในจิตผมราวประกายไฟเพียงแว่บเดียว แต่ก็ทำให้ผมเข้าใจจิตใจของหนูนิดทั้งหมดราวกับว่าเด็กหญิงคือส่วนหนึ่งของ ผมมาแต่กำเนิด

‘พี่เอ…เกิดอะไรขึ้น…ทำไมนิดไม่รู้สึกถึงร่างกายของตัวเองเลย…แล้วนี้นิดอยู่ที่ไหนกัน’

จิตของหนูนิดที่ผ่านเข้ามาสู่ร่างผมจนหมด ถามผมด้วยความสับสน ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบคำตอบเช่นกัน

‘พี่เอ..ถอนควยออกมา แล้วไปหาเหมียวเดี๋ยวนี้ เซี่ยวเล้งโคจรปราณสะกดพลังแสงเทพเอาไว้ น้องทิพย์เตรียมตัวปิดกั้นพลังแสงเทพให้ดี…ทันทีที่เซี่ยวเล้งถอนพลังสะกด ออก พลังแสงเทพและพลังจากผลึกราศีเมถุนจะแตกระเบิดออก…พี่เอ..ถอนควยเดี๋ยวนี้ เลย’

จิตที่มั่งคงเปี่ยมอำนาจของจานีสสั่งการต่อเนื่อง ทำให้ผมสูดลมหายใจลึกเพื่อตัดกระแสปราณที่เชื่อมโยงร่างกายหนูนิดและดึงแก่น กายออกจากร่างเด็กหญิง ที่บัดนี้ดูเหมือนกับเป็นร่างที่ไร้วิญญานครอบครอง ผิวกายที่เคยเปล่งปลั่งกลับหม่นหมองลงอย่างชัดเจน แต่ขณะเดียวกันภายใต้ขุมขนกลับปรากฏแสงเรืองสีขาวปรากฏกระจายไปทั่วราวกับ พยายามจะแทรกออกมาจากผิวหนัง…ผมขยับร่างมาอยู่เคียงข้างเหมียวตามคำสั่ง ของจาสีส ขณะที่อดีตโหราทาสยังคงบัญชาการต่อไป

‘เซี่ยวเล้ง อัดกาฬปราณเข้าไปในร่างน้องนิด ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้น้องนิดบาดเจ็บเพราะจิตและปราณของน้องนิดถ่ายออกไป อย่าในร่างพี่เอแล้ว น้องทิพย์เร่งพลังเดี๋ยวนี้ เอาล่ะเซี่ยวเล้งดีดตัวออกมา’

น้องทิพย์พยักหน้ารับคำสั่งของจานีส แล้วส่งประกายพลังนาคบาศก์เรืองรองไปล้อมร่างหนูนิด พร้อมกับที่เซี่ยวเล้วถอนปราณออกจากร่างเด็กหญิงและพุ่งกายออกจากบริเวณราว ประกายไฟ

…………..เปรี๊ยะ………….ตูม………………..

เสียงลั่นเปรี๊ยะราวต้นไม้ใหญ่ตกไปในกองมหาเพลิงดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงระเบิดลั่นที่ทำลายร่างกายหนูนิดเป็นผงธุลีปลิวเวียนว่อน แต่พลังอันรุนแรงสุดแสนถูกม่านพลังนาคบาศก์ของน้องทิพย์ผนึกสะกดเอาไว้ในลูก กลมพลังสีฟ้าใสมหึมา แต่ดูเหมือนว่าพลังที่สามารถเทียบเคียงเทวนารีของน้องทิพย์จะไม่สามารถสะกด ต่อไปได้เพราะพลังภายในกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วจนใบหน้างามของร้องทิพย์ ปรากฏแวววิตกขึ้น

‘น้องทิพย์ ผลักพลังทั้งหมดออกไปจากบ้าน แล้วส่งขึ้นบนอากาศ อย่าหน่วงไว้’

จานีสส่งจิตร้อนรนบอกน้องทิพย์ผู้รีบเคลื่อนร่างผลักม่านพลังทั้งมวลออกไปยังประตูบ้านที่เปิดกว้างอยู่

…………บรึม……..

ขอบเขตม่านพลังปะทะของประตูอย่างรุนแรงจนผนังพังทลายลงทั้งแถบ น้องทิพย์พาม่านพลังไปยังลานกว้างหน้าบ้าน ก่อนผนึกปราณในร่างผลักม่านพลังขึ้นสู่อากาศทันที

…………..ซ่า…………..

ในทันทีที่ม่านพลังนาคบาศก์สลายตัวลง ประกายแสงเจิดจ้าก็กลับรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนแล้วพุ่งวาบขึ้นสู่อากาศไปทางทิศ ตะวันตกราวสายฟ้าแลบพุ่ง พริบตาเดียวทุกอย่างก็กลับสงบเงียบท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่เฝ้า มองอยู่

“ท่านประมุข”

เสียงร้องด้วยความตกใจของบริวารโรหิณีประสานเป็นเสียงเดียวด้วยความตกใจ เมื่อพบว่าร่างของอนิตราเทวีผู้เพิ่งรับตำแหน่งประมุขตระกูลโรหิณีกลับสูญ สลายเป็นผงธุลีไปสิ้น

“บริวารแห่งโรหิณีไม่ต้องตกใจ…ท่านประมุขยังไม่ดับสูญจิต ขณะนี้จิตของอนิตราเทวีสถิตอยู่ในร่างของท่านไกรวิทย์ผู้นี้”

เสียงแหบพร่าของสตรีชราผู้คุ้มกฏตระกูลโรหิณีดังขึ้น หลังจากน้องรินได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้รับรู้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ความวุ่นวายคลายตัวลงและสายตาทุกคู่ของบริวารโรหิณี หันมาจับจ้องผมเป็นจุดเดียว แต่ผมไม่สามารถโต้ตอบหรืออธิบายสิ่งใดได้ เนื่องจากกำลังประสบกับสภาพจิตที่ผมเองไม่เคยได้พบมาก่อน ..

จิตของผมรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของอีกดวงจิตหนึ่งในร่างผม และรับรู้ด้วยว่าเป็นจิตของหนูนิดที่ตื่นตระหนกกับสภาพที่ยังรู้สึกว่าตนเอง ยังคงดำรงอยู่แต่กลับไม่สามารถควบคุมร่างกายของผมที่หนูนิดเข้ามาแทรกอยู่ ร่วมด้วยได้

‘พี่เอ..พี่เอ…นิดอยู่ที่ไหน นิดมองเห็น นิดรู้สึกสัมผัสต่างๆ ได้ แต่ไม่ใช่การมองผ่านสายตาและการสัมผัสของนิด…’

จิตที่ตื่นตระหนกของหนูนิดดังขึ้นในสมองผม โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบจิตของเด็กหญิงอย่างไร

‘น้องนิดอย่างเพิ่งตื่นตกใจ ทำใจให้สงบ ขณะนี้จิตของน้องนิดสถิตอยู่ร่วมกับจิตพี่เอในร่างของพี่เอ แต่ไม่มีทางที่จะควบคุมร่างกายของพี่เอได้ เพราะกระแสจิตของน้องนิดและพี่เอไม่มีความสัมพันธ์กันโดยสายเลือด น้องนิดต้องสงบใจไว้รอเวลาถ่ายจิตอีกครั้งอย่าพยายามให้จิตดิ้นรน มิฉะนั้นจิตน้องนิดอาจแตกสลายอดอกจากร่างพี่เอได้…. ส่วนพี่เอ…’

จิตที่เคร่งเครียดจริงจังของจานีสดังขึ้นเพื่อเตือนให้จิตหนูนิดหยุดความสับสน ก่อนจะส่งต่อมายังผมด้วยคำสั่งที่ทำให้ผมต้องอุทานออกมา

‘พี่เอ…เย็ดพี่เหมียวเดี๋ยวนี้…’

‘อะ อะ อะไร จะให้พี่เย็ดเหมียวตรงนี้ เดี๋ยวนี้เลยหรือ…’

‘ถูกต้อง พี่เอต้องกระทำเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นหากทอดระยะเวลาออกไปนานเข้า จิตของน้องนิดก็จะอ่อนแอลงทุกขณะ จนในที่สุดจะไม่มีพลังพอที่จะประสานจิตกับเหมียวได้’

จิตจานีสอธิบายให้ผมรับรู้อย่างเคร่งเครียดจริงจัง ทำให้ผมรู้ว่าไม่มีทางอื่นและหันไปสบตาเหมียวที่อยู่ข้างๆ แต่กลับพบว่าเหมียวมีใบหน้าแดงซ่าน และพยักหน้าให้ผมพร้อมส่งจิตอ่อนโยนมา

‘เอ..เหมียวไม่รู้หรอกว่าจานีสอธิบายอะไรกับเอ…แต่ถ้าจานีสต้องการให้เอ เย็ดเหมียว…เหมียวก็พร้อม เพียงแต่ว่า…เหมียวขอเป็นที่ห้องข้างบนได้ไหม เพราะถ้าให้เหมียวเย็ดกับเอต่อหน้าบริวารโรหิณีทั้งหมดนี้ เหมียวอายนะ…’

ผมหันไปสบตาจานีส เพื่อจะส่งจิตปรึกษา แต่พบว่าเซี่ยวเล้งได้ถ่ายทอดคำร้องขอของเหมียวให้จานีสรับรู้แล้ว และพยักหน้ารับพร้อมสั่งการ

‘พี่เอ ขึ้นไปรอที่ห้องข้างบนเลย เซี่ยวเล้งอุ้มเหมียวตามขึ้นไปห้องข้างบน น้องทิพย์พาจานีสขึ้นไปด้วย ที่สำคัญที่สุดพี่เอบอกเหมียวด้วยว่า ระหว่างการผนึกจิต จานีส เซี่ยวเล้ง และน้องทิพย์ต้องอยู่ด้วย เพื่อช่วยประสานปราณให้…’

สิ้นคำสั่งจานีส เซี่ยวเล้งรีบเคลื่อนร่างวูบไปช้อนร่างเหมียวขึ้นมาในอ้อมแขนทันทีแล้วสาด พุ่งต่อไปยังห้องชั้นบนพร้อมกับผม ตามมาด้วยน้องทิพย์ที่อุ้มร่างจานีสผู้ปราศจากปราณตามมาติดๆ ขณะที่น้องรินและน้องกิฟท์ ซึ่งยังคงอยู่ด้านล่างเริ่มอธิบายให้บริวารโรหิณีรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น

ทันทีที่ผม เซี่ยวเล้งที่อุ้มร่างเหมียว และน้องทิพย์ที่อุ้มร่างจานีสขึ้นมาที่ห้องชั้นบน เซี่ยวเล้งก็วางร่างเหมียวลงนอนเหยียดยาวบนเตียง ก่อนที่จะเริ่มแกะกระดุมเสื้อเหมียว ทำให้เหมียวรีบคว้ามือเซี่ยวเล้งไว้และส่งเสียงห้ามเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงฉาน

‘เซี่ยวเล้ง…มะ..มะต้อง เหมียวถอดเองได้…’

‘ไม่ได้หรอกพี่เหมียว ตอนนี้พี่เหมียวต้องอยู่นิ่งๆ สงบจิตเป็นสมาธิ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหว จานีสส่งจิตมาบอกให้เซี่ยวเล้งทำหน้าที่ถอดเสื้อผ้า ให้ พี่เหมียวไม่ต้องอายเซี่ยวเล้ง จานีส กับน้องทิพย์หรอกนะ..’

เซี่ยวเล้งส่งจิตบอกเหมียวเบาๆ และเริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออก ทำให้เหมียวถอนใจยาวและยอมนอนนิ่งปล่อยให้อดีตธิดามังกรฟ้าจัดการโดยไม่ขัด ขืน ขณะเดียวกันน้องทิพย์ที่วางร่างจานีสลงบนมุมหนึ่งของเตียงนอนกว้างใหญ่ ก็เคลื่อนมาช้อนร่างเหมียวให้ขึ้นมาอยู่ในท่านั่งเพื่อช่วยให้เซี่ยวเล้งที่ ปลดกระดุมเสื้อด้านหน้าของเหมียวออกแล้วดึงเสื้อออกไปทางปลายแขน พร้อมกับที่น้องทิพย์ปลดตาขอปราเซียร์ด้านหลังออกเพื่อดึงออกจากร่างเหมียว พร้อมกัน

ทรวงอกเต่งตูมของเหมียวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางแสงสว่างของดวงไฟห้องนอน ใบหน้าหญิงสาวแดงเข้มด้วยความอาย แต่ก็ยังหลับตากำหนดสมาธิผนึกปราณในร่างให้วนเวียนตามคำสั่งของจานีสที่ส่ง ผ่านเซี่ยวเล้งมา ขณะที่มือเรียวงามของเซี่ยวเล้งก็เริ่มเกี่ยวของยางยืดของกางเกงขายาวหลวมๆ ที่เหมียวสวมอยู่กับบ้าน และดึงออกจากร่างเหมียวพร้อมกางเกงในตัวจิ๋วที่หลุดออกจากปลายเท้าเหมียว พร้อมกัน เผยให้เห็นลานหน้าท้องขาวผ่อง สะโพกกลมกลึงนุ่มนวล และเนินรักนูนเด่นซึ่งปกคลุมด้วยเส้นไหมละเอียดนุ่มบางเบาที่ไม่สามารถปิด กั้นแคมรักอวบอิ่มทั้งสองได้

‘เซี่ยวเล้ง…แยกขาเหมียวออกแล้วจับข้อเท้าทั้งสอง น้องทิพย์วางฝ่ามือที่จักรวารีกลางหลังเหมียว เตรียมถ่ายทอดพลังเมื่อจานีสบอก พี่เอขึ้นมาบนเตียงเร็วเข้า’

เสียงจานีสบัญชาการอย่างต่อเนื่องด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดที่ทำให้ผม เซี่ยวเล้งและน้องทิพย์ต้องปฏิบัติตามทันที ผมก้าวขึ้นไปคุกเข่าอยู่ระหว่างขาอ่อนเรียวยาวของเหมียวที่ยังคงอยู่ในท่า นั่งเหยียดจากทั้งสองแยกจากกัน ทำให้สองแคมของเนินรักอวบนูนที่ผมไม่เคยเบื่อหน่ายของเหมียวเผยอออกเล็กน้อย จนเผยหลืบรักสีชมพูเข้มภายในต่อสายตาผม เป็นความงามที่ทำให้แก่นกายของผมลุกโชนขึ้นพร้อมสำหรับการร่วมรัก

‘น้องทิพย์ เริ่มกระตุ้นจักรอัคคีเหมียวเดี๋ยวนี้เลย…’

จานีสส่งจิตเร่งเร้าให้น้องทิพย์เริ่มกระตุ้นร่างกายเหมียวให้พร้อมรัก สำหรับการร่วมรัก แต่เมื่อน้องทิพย์เริ่มส่งปราณเข้าสู่จักรอัคคีของเหมียว ทำให้เหมียวผู้ซึ่งรู้จักวิธีใช้ปราณกระตุ้นอารมณ์รักเป็นอย่างวดีรีบส่าย หน้าเบาๆ แล้วส่งจิตไปยังน้องทิพย์..

‘น้องทิพย์ไม่ต้องกระตุ้นจักรของพี่หรอก…ร่างกายพี่พร้อมสำหรับเอเสมออยู่แล้ว…เอ..เหมียวพร้อมแล้วเย็ดเหมียวเดี๋ยวนี้เลย’

ผมเคลื่อนร่างสอดเข้าหาเหมียวในท่านั่ง ยกขาเรียวงามของเพื่อนรักผู้กลับมาร่วมชีวิตขึ้นมาโอบรอบเอว ก่อนแทรกแก่นกายเข้าหาร่องรักเบื้องหน้า สองมือผมดึงเอวคอดกิ่วของเหมียวไว้แล้วออกแรงดึงเข้าหาตัวจนส่วนปลายชองลำ ลึงค์จรดอยู่ระหว่างสองแคมอวบอิ่ม ผมเบียดร่างเข้าใกล้แล้วประทับจูบกับริมฝีปากนุ่มนวลของเหมียว และส่งจิตอ่อนโยนไปหา

‘เหมียว…เหมียวแน่ใจนะที่จะรับการผนึกจิตกับหนูนิด’

ลิ้นเรียวเล็กของเหมียวเกี่ยวกระหวัดกับผม ริมฝีปากหอมหวานบดคลึงรับการจูบอย่างนุมนวลขณะส่งจิตกลับมา

‘เหมียวมั่นใจ และยอมรับความเสี่ยงทุกประการ…เอเย็ดเหมียวเถอะ..’

‘พี่เหมียว…นิดอยู่ที่นี่…พี่เหมียวได้ยินนิดไหม’

จิตแผ่วเบาของหนูนิดดังขึ้น ระหว่างที่การจูบของผมและเหมียวเพิ่มความแนบแน่นและความเร่าร้อนขึ้นตามอารมณ์รักที่ปะทุ

‘หนูนิด…พี่ได้ยินหนูนิดแล้ว…หนูนิดมาอยู่ในร่างเดียวกับพี่นะ…อูว์ เอจ๋า..เคล้นนมเหมียวแบบนี้ เหมียวไม่ไหวแล้วนะ’

‘พี่เหมียว นิดพร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับพี่เหมียว….โอว์..พี่เหมียว นิดรับรู้สัมผัสของควบพี่เอที่จ่อกับแคมหีพี่เหมียวด้วย มันชุ่มไปหมดเลย’

‘พี่เสียว…นิด…พี่เอ…พร้อมแล้ว…เอจ๋า..เย็ดเหมียวได้แล้ว…’

จิตที่เปี่ยมอารมณ์รักซึ่งถูกกระตุ้นจาการสัมผัสของเหมียวส่งสัญญานบอกผม ด้วยความฉ่ำเยิ้มของเนินรัก ผมดันแก่นเนื้อแทรกผ่าสองแคมอิ่มช้าๆ น้ำรักที่รินหลั่งออกมาจากหลืบเร้นของเหมียว ทำให้มันผ่านเส้นทางคับแน่นเข้าไปโดยปราศจากอุปสรรคใด มีแต่การบีบรัดหนึบแน่นที่โอบอ้อมแก่นกายผมตลอดเส้นทางจากปากทางเข้าไปจนสุด ในคราวเดียว…

‘อาห์..เอจ๋า…คิดถึงควยเอจัง…มันเข้ามาหมดแล้ว…’

‘หีเหมียวก็ทั้งคับทั้งแน่นไม่ต่างกับตอนที่เราเย็ดเหมียวครั้งแรกเลย…’

‘…อื๋ย…พี่เหมียว พี่เอ…นิดรับรู้สัมผัสการเย็ดของผู้ชายจากควยพี่เอแล้ว…อาห์…มันเสียว สุดๆ แบบนี้เอง..หีพี่เหมียวแน่นไปหมด…อ๊าห์…โอย..กระเด้ามันเสียวแบบนี้หรือ นี่…’

จิตผม เหมียว และน้องนิดในร่างผม ประสานเสียงครวญครางกัน เมื่อผมเริ่มกระเด้าหลืบรักหนึบแน่นของเหมียวช้าๆ แม้ว่าการร่วมรักครั้งนี้จะเป็นการกระทำเพื่อรักษาจิตของนิดให้คงอยู่ต่อไป แต่อารมณ์รักที่เพิ่มขึ้นจากความเสียวและความแหลกประหลาดของการ่วมรักที่ราว กับเป็นการร่วมรักสามคนพร้อมๆ กัน ทำให้ความต้องการของผมลุกโชน และเริ่มเพิ่มความเร็วในการกระเด้าขึ้นทุกขณะ

‘เอจ๋า…เสียวเหลือเกิน…..ควยเอใหญ่ขึ้นหรือเปล่า ทำไมมันคับหีเหมียวแบบนี้.. อ๋าย…ยะ อย่าควงแบบนั้น ควยเอบี้แตดเหมียว…’

‘พะ พะ พี่เหมียว…หีพี่เหมียวดูดควยพี่เอแน่นเลย…อูย เสียวควยจริงๆ แบบนี้เองที่ผู้ชายถึงชอบเย็ดกันนัก….พี่เอจ๋า..หีนิดที่พี่เอเย็ด เมื่อกี้ดีเท่าหีพี่เหมียวไหม…’

‘อาห์…หีนิด หีเหมียว ดีทั้งสองเลย แต่อีกไม่นานทั้งสองหีจะรวมเป็นหนึ่งเดียว…พี่จะเย็ดทั้งเหมียวและหนูนิดพร้อมๆ กันเลย…’

สะโพกผมและเหมียวเด้งเข้าหากันถี่ยิบอย่างลืมตัว ความเสียวที่เกิดขึ้นทำให้ผมแทบลืมเลือนไปว่าน้องทิพย์ เซี่ยวเล้ง และจานีส ยังคอยเฝ้าอยู่ด้านข้าง หากจิตผมไม่ได้สัมผัสจิตที่ส่งเสียงครางของน้องทิพย์และเซี่ยวเล้ง

‘พี่เซี่ยวเล้ง…ทิพย์จะแย่อยู่แล้ว…อารมณ์รักพี่เอกระตุ้นทิพย์จนหีแฉะไปหมดแล้ว..’

‘เซี่ยวเล้งก็แย่เหมือนกันน้องทิพย์ จิตพวกเราทั้งสามผูกติดกับจิตพี่เอแบบนี้ ทำให้เซี่ยวเล้งก็แทบคุมตัวเองไม่ให้ร่วมวงเย็ดไม่ได้เลย…’

‘น้องนิด เซี่ยวเล้ง จานีสก็โดนกระตุ้นจากพลังชีวิตของผลึกมังกรอัคคีในร่างเหมือนกัน แต่อดทนไว้ก่อนนะ…พวกเราต้องรักษาปราณให้มั่นคง ไม่อย่างนั้นจิตของน้องนิดจะไม่สามารถถ่ายเข้าร่างเหมียวได้…’

จิตที่ผสมอารมณ์รักพลุ่งพล่านของเซี่ยวเล้ง น้องทิพย์ จานีส ยิ่งกระตุ้นให้ความต้องการในร่างผมลุกโพลงขึ้น แก่นกายยาวเหยียดแข็งตัวเต็มที่ กระหน่ำกระเด้าสองแคมอวบอูมของเหมียวถี่ยิบจนร่างงามสั่นสะท้าน สองแขนเหมียวรัดแผ่นหลังผมไว้แน่น ขาเรียวยาวโอบรอบเอวผมพร้อมกับแอ่นเนินนูนอัดเข้ารับการกระแทกเต็มที่

‘เอจ๋า…เหมียว…ถะ ถะ…ถึงแล้ว…….’

‘พี่เหมียว…นิด นิด เสียวหัวควยพี่เอ….ว๊าย…ทะ ทะลักออกมาแล้ว…ซีดส์…โอว…’

ผมกัดฟันแน่นเมื่อน้ำรักที่อัดแน่นไม่สามารถต้านทานความเสียวสุดยอดไว้ได้ พุ่งทะลักเข้าไปในร่องหลืบเหมียวราวน้ำป่า พร้อมกับปราณที่เริ่มพุ่งเข้าสู่ร่างกายเหมียวดังที่เคยเกิดขึ้นทุกครั้ง หลังการร่วมรัก

‘พี่เอ…ผนึกปราณดึงดูดอีกครั้ง รั้งจิตหนูนิดออกมา….น้องนิด สงบจิตปล่อยตามแรงดึงดูดของปราณ’

จานีสรีบส่งจิตสั่งการทันทีให้ผมเปลี่ยนแนวทางโคจรปราณ พร้อมกับสั่งจิตหนูนิดให้เตรียมรับการดึงดูดของปราณ…

‘พี่เอ…นิดจะออกจากร่างพี่เอแล้ว…ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่เอจำไว้นะว่านิดรักพี่เอเท่าชีวิต…’

‘พี่ก็รักหนูนิดของพี่…สงบจิตไว้ ทุกสิ่งต้องเรียบร้อย…’

‘หนูนิด เข้ามาหาพี่…พี่รอรับจิตหนูนิดอยู่…เอจ๋า…เหมียวไม่รู้ว่าการผสานจิต จะสำเร็จไหม ถ้าไม่สำเร็จ…เหมียวอยากให้เอจำเมียคนนี้ไว้ตลอดไปนะ..’

‘เหมียว…เรารักเมียของเราคนนี้เสมอ ไม่ต้องห่วงนะ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย เราไม่ยอมสูญเสียเหมียวไปหรอก…เราสัญญา’

ทันใดนั้นผมต้องรีบยุติการถ่ายจิต เมื่อรับรู้ปราณดึงดูดกำลังแยกจิตของหนูนิดออกจากจิตผมและรวมรั้งมาอยู่ที่ จุดศูนย์ พร้อมกับจิตของจานีสดังขึ้น

‘พี่เอ…รั้งปราณกลับ ส่งปราณที่จุดศูนย์ออกไป…น้องทิพย์สกัดจิตรับรู้ของเหมียว..เซี่ยวเล้งโคจรปราณดึงดูดที่สองเท้าเหมียว’

กระแสปราณในร่างผมที่ผสานจิตน้องนิดเอาไว้ถูกส่งออกจากร่างทันที ด้วยปราณดึงดูดที่เซี่ยวเล้งรวมไว้ที่เท้าเหมียว พร้อมกับที่สติของเหมียวถูกปิดสกัดด้วยปราณของน้องทิพย์ ร่างงามสั่นสะท้านเมื่อจิตของหนูนิดเคลื่อนเข้าสู่ร่าง แล้วกระจายแยกออกจากกระแสปราณของผมที่ยังคงวนเวียนอยู่ในร่างเหมียว

‘พี่เอ ดึงพลังกลับ..ผนึกกาฬปราณส่งไปในร่างเหมียว…’

‘อะ อะ ไรนะ…’

จิตผมส่งเสียงอุทานออกมาอย่างลืมตัวเมื่อได้ยินจานีสสั่งการให้ส่งปราณที่มี อานุภาพทำลายล้างสูงสุดเข้าสู่ร่างเหมียว แต่ทันใดนั้นร่างของผมกลับก่อกาฬปราณขึ้นราวกับว่าผมไม่ได้ควบคุมร่างกายนี้ อีกต่อไป พร้อมกับกระแสเสียงประหลาดที่ดังขึ้น

‘คันชั่งน้อยของข้าระลึกได้แล้ว…’
‘นายท่าน……ข้าคิดถึงนายท่านเหลือเกิน..’
‘ข้าก็คิดถึงร่างอันอบอุ่นของเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าจงนำแฝดน้อยผู้เป็นที่รักของพวกเรากลับมาเถอะ’

ยังไม่ทันที่ผมจะสามารถทำความเข้าใจกับเสียงประหลาดที่ดังขึ้น กาฬปราณในร่างผมก็ทะลักผ่านแก่นกายเข้าไปในร่างบอบบางของเหมียว จนผมอดร้องอุทานด้วยความตระหนกไม่ได้ เพราะอำนาจที่ทำลายทุกสรรพสิ่งของกาฬปราณกำลังไหลเข้าสู่ร่างที่สถิตย์ดวง จิตของผู้ที่ผมรักสองคน

‘พี่เอ…ทำอะไรน่ะ..’

จิตร้อนรนของน้องทิพย์และเซี่ยวเล้งโพล่งออกมาพร้อมกันเมื่อพบว่าร่างงามของเหมียวกำลังกลับกลายเป็นสีดำสนิทด้วยอำนาจกาฬปราณ

‘พี่เอ..เซี่ยวเล้ง..น้องทิพย์ อย่าตกใจ… พี่เอถอนควยออกมาได้แล้ว น้องทิพย์ เซี่ยวเล้ง ปล่อยให้เหมียวนอนบนเตียง..พวกเราไม่มีสิ่งใดต้องทำอีกแล้ว ทุกอย่างขึ้นกับชะตาที่ถูกกำหนดมา..’

จิตมั่นคงของจานีสกังวานขึ้น ทำให้ผมต้องถอนแก่นกายออกจากหลืบรักที่คับแน่นของเหมียว พร้อมกับที่เซี่ยวเล้งและน้องทิพย์ ต่างหยุดการควบคุมปราณและปล่อยให้ร่างเปล่าเปลือยที่กำลังกลายเป็นสีดำของ เหมียวนอนอยู่บนเตียงตามคำสั่งของจานีส

‘พี่จานีส…เกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงต้องส่งกาฬปราณเข้าไปในตัวพี่เหมียว’

น้องทิพย์ส่งจิตถามจานีสอย่างงุนงง เช่นเดียวกับผมและเซี่ยวเล้ง แต่แทนที่จานีสจะตอบ เด็กสาวกลับหันมาทางผม

‘พี่เอได้ยินเสียงสองเสียงนั่นไหม’

ผมพยักหน้ารับ ทำให้จานีสถอนใจยาวก่อนส่งจิตกลับมา ขณะที่น้องเซี่ยวเล้งเบิกตาโพลงเพราะคาดเดาได้ว่า “เสียง” ที่ผมและจานีสได้ยินนั้นคือเสียงรูปแบบเดียวกันกับที่เคยดังขึ้นก่อนที่ผมจะ ร่วมรักกับเซี่ยวเล้ง

‘พี่เอ เชื่อไหมว่าแม้จานีสจะรู้จักวิชาผนึกจิตและแนวทางคร่าวๆ แต่จานีสไม่เคยรู้วิธีการดึงดูดและส่งกาฬปราณเข้าสู่ร่างผู้รับจิตเลย สิ่งที่จานีสทำลงไปเมื่อครู่ราวกับว่ามีอำนาจบางอย่างชี้นำให้จานีสส่ง จิตออกไป..ตอนนี้พวกเราคงได้แต่รอคอยสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น…’

จิตของจานีส ทำให้ผม เซี่ยวเล้ง และน้องทิพย์ นิ่งงันไปด้วยความงุนงง.. ขณะเดียวกันประตูห้องนอนที่ถูกปิดไว้ก็เปิดออกพร้อมกับร่างน้องรินและน้อง กิฟท์ เดินเข้ามาด้วยใบหน้ากังวล แต่กลับเปลี่ยนเป็นความแตกตื่นทันทีที่เห็นภาพของร่างเหมียวที่กลายเป็นสีดำ สนิทบนเตียงนอน..ทำให้น้องทิพย์รีบเข้าไปหาทั้งสองก่อนส่งกระแสจิตอธิบาย สิ่งที่เกิดขึ้นให้รับรู้ และพามานั่งรวมกับผม ครู่ใหญ่ที่ความเงียบเข้าปกคลุม ก่อนที่เสียงอุทานของเซี่ยวเล้งจะดังขึ้น

‘พี่เอ…ร่างพี่เหมียวกำลังจะสลาย…’

ดวงตาทุกคู่ในห้องเบิกโพลงจับจ้องร่างสีดำสนิทของเหมียวบนเตียงอย่างตกใจ เมื่อพบว่าผิวกายของเหมียวกำลังสั่นเป็นระลอกคลื่น ใบหน้างดงามสลายตัวกลายเป็นแผ่นสีดำสนิทที่ปราศจากเค้าโครงใบหน้าอีกต่อไป เช่นเดียวกับทรวงอกอวบอิ่ม และเนินรักของเหมียวที่ยุบตัว เพียงชั่วอึดใจ ร่างที่เคยเป็นหญิงสาวผู้งดงามก็กลับกลายเป็นก้อนวัตถุทรงรีสีดำสนิท ที่กำลังปรากฏการสั่นสะเทือนภายในราวกับมีพายุคลื่นน้ำบรรจุอยู่

“อย่า…อย่าแตะต้อง’

จานีสส่งเสียงตะโกนห้ามดังสนั่นเป็นภาษาเนปาลีอย่างลืมตัวเมื่อเห็นทุกคน กำลังเตรียมยื่นมือไปสัมผัสวัตถุสีดำเพื่อช่วยเหลือเหมียว ทำให้ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหวแม้จะไม่เข้าใจคำพูดของจานีสก็ตาม

‘พี่เอ…จานีสเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ตำนานโบราณเรียกว่าสสารมืด ที่เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล แม้จานีสจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างของเหมียว แต่จานีสคิดว่าเราควรรอให้การเปลี่ยนแปลงสิ้นสุดก่อน…พี่เอบอกรินกับกิฟท์ ให้จานีสด้วย..’

ใจผมสะท้านไปกับสิ่งที่จานีสระบุออกมา แล้วรีบถ่ายทอดให้น้องรินกับน้องกิฟท์ ซศึ่งเป็นสองคนที่ไม่สามารถรับรู้กระแสจิตของจานีสได้ให้รีบรู้

‘พี่เอ..ดูตรงกลางนั่น’

จิตน้องกิฟท์ร้องออกมาเมื่อพบว่าใจกลางวัตถุวงรีสีดำ ก่อเกิดจุดแสงสว่างเล็กดๆ ขึ้นมา ทแลพค่อยๆ เพิ่มความสว่างขึ้นทีละน้อย ท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จับจ้อง เพียงชั่วอึดใจแสงสว่างนั้นก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วกลืนกินสีดำทั้งหมด จนวัตถุวงรีเปลี่ยนเป็นสีขาวสะอาดส่องประกายเรืองรอง แสงนั้นเปล่งประกายครู่ใหญ่ก่อนลดระดับลงพร้อมกับผิวของวัตถุเปลี่ยนเป็น ระลอกคลื่นน้ำอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ระลอกที่เกิดขึ้นดูราวกับเป็นคลื่นที่มีจุดหมาย เพราะเมื่อวงคลื่นกระจายออกไปหยุดนิ่งตามพื้นผิวในตำแหน่งต่างๆ กัน

ท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่เฝ้าดู วงคลื่นในตำแหน่งต่างๆ ที่หยุดตัวลงเริ่มสลายและเปลี่ยนรูปร่างของวัตถุวงรีให้เกิดเป็นรูปร่าง เพียงชั่วขณะทุกคนก็รับรู้ว่าเป็นรูปโครงภายนอกของมนุษย์เพศหญิง การเปลี่ยนแปลงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ก่อเกิดรูปศีรษะวงไข่สมบูรณ์ ส่วนบนที่เป็นที่ตั้งของศีรษะเริ่มปรากฏเค้าโครงดวงตาเรียวยาว จมูกที่รั้นเชิดขึ้นเล็กน้อย ตามมาด้วยริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอกออกให้เห็นการก่อตัวของฟันซี่เล็กๆ เรียงรายราวไข่มุก อึดใจต่อมาเส้นขนอ่อนๆเริ่มผุดขึ้นตามขุมขนในร่างกาย เรือนผมดำสนิทงอกกออกจากศีรษะจนหยุดที่ความยาวระดับไหล่ ลำคอระหง ทรวงอกตูมตั้งก่อตัวขึ้นช้าๆ ตามมาด้วยหัวนมเม็ดน้อยที่ผุดขึ้นมาประดับปลายยอด ลานท้องลาดเรียบค่อยๆปรากฏสะดือกลมเล็กขึ้น ก่อนที่ส่วนล่างจะแยกออกเป็นท่อนขายาวเรียว พร้อมกับสะโพกกลมกลึงไร้ที่ติที่กำลังก่อเกิดเนินเนื้อโหนกนูนตระหง่าน แล้วยุบกลางเป็นเส้นของร่องรักที่โอบรอบด้วยแคมอวบอิ่มทั้งสองข้าง ทันใดนั้นร่างที่ก่อเกิดขึ้นก็สะท้านเฮือก ลมหายถูกดูดเข้าสู่ร่างเป็นครั้งแรกและเริ่มหายใจต่อเนื่องช้าๆ

ดวงตาทุกคู่เบิกกว้างไปกับภาพเด็กสาววัยไม่เกิน 18 ปีที่นอนเปล่าเปลือยอยู่เบื้องหน้า ลมหายใจผมแทบหยุดนิ่งเมื่อเห็นความงามของดวงหน้าที่ผมแน่ใจว่าเป็นการประสาน ความหวานโฉบเฉี่ยวแบบชาวจีนของเหมียวเข้ากับความสวยคมเข้มแบบไทยของหนูนิด เรือนร่างเปลือยขาวผ่องที่แม้จะดูเป็นสีผิวของเหมียวแต่เพียงการชมด้วยสายตา ก็สามารถรับรู้ว่าเป็นผิวที่มีความนุ่มเนียนเปล่งปลั่งราวเด็กหญิงวัยไม่ เกิน 12 ปี ทรวงอกอิ่มอูมที่มีขนาดและรูปร่างเช่นเดียวกับทรวงอกคู่งามของเหมียว ดูเต่งตึงราวกับพร้อมที่จะปริแตกเมื่อถูกสัมผัส และเมื่อเลื่อนสายตาลงไปที่เนินรักที่นูนเด่นซึ่งประดับไรขนรำไร หัวใจผมก็ต้องเต้นระทึกไปกับความงามของสองแคมเปล่งปลั่งสีชมพูระเรื่อที่ปิด สนิทราวกับไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้าไปมาก่อน ส่วนโค้งนูนเด่นที่อวดตัวตระหง่านท้าทายสายตา แผ่สัณฐานด้วยขนาดที่ดูเหมือนจะเกินกว่าเด็กหญิงวัยแรกรุ่น

‘นี่เองคือวิชาผนึกจิต…ที่ผ่านมาแม้จะมีผู้พยายามใช้วิชานี้แต่ทุกรายก็ ล้มเหลว เพราะไม่มีผู้ใดสามารถใช้กาฬปราณสลายร่างและจิตทั้งสอง ก่อกำเนิดสสารมืดให้หลอมรวมชีวิตในร่างใหม่ได้ นี่เองคืออำนาจแห่งกาฬปราณที่ประสานแสงสว่างและความมืดก่อทั้งพลังทำลายล้าง และพลังแห่งการกำเนิดได้พร้อมๆ กัน…จานีสเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง’

ท่ามกลางความเงียบงันของทุคนที่เฝ้าดู จิตของจานีสดังขึ้นเบาๆราวกับจะรำพึงกับตนเอง แต่ก็สามารถอธิบายข้อสงสัยให้ผมได้ในทันที แต่ก่อนที่ผมจะสอบถามอดีตโหราทาสเพิ่มเติม ร่างเปล่าเปลือยงดงามบนเตียงก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ พร้อมกับกระแสจิตแผ่วเบาแต่มีสำเนียงแจ่มใส ดังกังวานขึ้นในจิตของทุกคนที่เฝ้าดู

‘อือ…เกิดอะไรขึ้น….เราหมดสติไปหรือนี่…’

ผมแน่ใจว่านี่ไม่ใช่จิตของเหมียวที่ผมคุ้นเคย แต่ขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่จิตของหนูนิด ดูราวกับว่าเป็นสำเนียงจิตของบุคคลแปลกหน้าแต่ก็ฟังดูคุ้นเคยอย่าง ประหลาด…

‘เหมียว..หนูนิด…ได้ยินพี่ไหม’

‘พี่เอ…พี่เอ…พี่เออยู่ไหน…’

ดวงตากลมโตของเด็กสาวเบื้องหน้าเบิกโพลงขึ้นทันทีที่ได้รับกระแสจิต และในทันทีที่เห็นผมนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ด้วยความห่วงใย ร่างงามก็ผุดลุกจากเตียงโถมเข้ากอดผมด้วยกำลังแรง จนผมแทบหงายหลัง แต่ก็รีบฝืนกายกอดร่างงามเปล่งปลั่งไว้แน่น

‘พี่เอ..พี่เอ…เอ๊ะ…อะไรกัน…ทำไมจิต…’

ร่างเปล่าเปลือยหอมกรุ่นของเด็กสาวในอ้อมกอดผม นิ่งงันไปเมื่อพยายามจะสื่อสารกับผม ก่อนที่จะยันร่างกายตนเองออกจากอ้อมกอดและสบตาผมด้วยแววตาตื่นตระหนก..จิต ที่ส่งออกมาแฝงสำเนียงประหลาดใจสุดขีดจนไม่สามารถส่งผ่านการสื่อสารต่อไปได้

‘พี่อยู่นี่…การผนึกจิตเสร็จสิ้นแล้ว…เหมียวกับหนูนิดเป็นอย่างไรบ้าง…’

ผมส่งจิตปลอบประโลมความตื่นตระหนกของเด็กหญิงเบื้องหน้าและถามคำถามที่ ทุกคนจ้องการรู้เพื่อทราบว่าภายในร่างเปลือยเปล่าของเด็กสาวแรกรุ่นผู้นี้ จิตของผู้ใดระหว่างเหมียวกับหนูนิดคือจิตที่ครองร่าง’

‘เหมียว…หนูนิด…เราคือใครกันแน่…เราคือเหมียว เรารู้ถึงทุกสิ่งที่ผ่านมาของปาริชาติไม่ว่าจะเป็นบุคคลิก อารมณ์ความคิด แต่เราก็รับรู้ทุกสิ่งของอนิตรา … เป็นหนูนิดที่รักพี่เอ เป็นเหมียวที่รักพี่เอ…แยกกันไม่ได้…เราคืออะไร…’

จิตที่สับสนของเด็กสาวยังคงสั่นสะท้าน แต่ก่อนที่ผมจะส่งจิตสอบถามเพิ่มเติม กระแสเสียงประหลาดก็พลันดังขึ้นอีกครั้ง

‘แฝดน้อยที่แสนซุกซนของข้า…อย่าตื่นตกใจ จิตของเจ้าที่แยกจากกันมานานหลายชาติภพ บัดนี้กลับมารวมกันอีกครั้งแล้ว เจ้าควรจะยินดีและมาอยู่ร่วมกับข้าอีกครั้ง…’
‘ท่านคือใคร…เหตุใดหัวใจข้าจึงอบอุ่น..เหตุใดจิตข้าจึงลิงโลดยามสดับเสียง ท่าน…ข้า…ข้า..ข้าคือ..ข้าจำได้แล้ว…นายท่าน…นายท่านที่รักของข้า …แฝดน้อยของนายท่านกลับมาหาท่านแล้ว… นานเหลือเกิน..’

ประกายตาในดวงตาเด็กหญิงที่เคยสับสนตื่นตระหนก พลันปรากฏแววตาสุกใสที่คลอดหยาดน้ำตาขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนจะสลายกลับเป็นประกายตาเด็กหญิงดังเดิม แต่ดูเหมือนว่ากระแสเสียงประหลาดที่ดังขึ้นในร่างจะทำให้เด็กสาวผ่อนคลายลง

‘พี่เอ…พี่เอ…เราบอกไม่ได้ว่าเราคือใคร เพราะจิตของเราไม่มีจิตของเหมียวและหนูนิดแยกจากกันเป็นอิสระ แต่เป็นจิตของทั้งสองที่ผนึกร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่เรารู้ว่าเรายังคงเป็นทั้งเหมียวเป็นเพื่อนและเมียรักของพี่เอ และเป็นทั้งหนูนิดที่รักเทิดทูนพี่เอมาตลอด… เราเองจึงไม่สามารถบอกพี่เอได้ว่าเราคือใคร’

ไม่ทันที่ผมจะส่งจิตตอบเด็กสาว กระแสจิตอ่อนโยนของจานีสก็ดังขึ้น

‘น้องหญิงผู้แสนงาม จานีสจะอธิบายให้ฟังนะ น้องหญิงไม่ต้องตื่นตกใจอันใด เพราะนี่คือการผนึกจิตที่บันทึกมาแต่โบราณกาล บัดนี้จิตน้องหญิงได้เกิดใหม่รวมทั้งร่างกายที่ปรับตัวเองรับจิตที่ก่อเกิด น้องหญิงคือสตรีผู้มีสองวิญญาณ ผู้เป็นเทวนารีแห่งจักราศีเมถุนเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาล …จานีสยินดีนัก และขอเสนอให้น้องหญิงกำหนดนามอีกครั้งด้วยตัวเอง…’

‘เรา..เรา..ชื่อ…เราชื่ออะไร…พี่เอ…พี่เอเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะกำหนดชื่อให้เราได้…พี่เอ…’

จิตเด็กสาวที่ดูจะผ่อนคลายลงเล็กน้อยหลังจากฟังคำอธิบายจากจานีส ส่งมายังผมเพื่อขอให้กำหนดชื่อให้ ผมยิ้มให้ดวงหน้างามซึ่งผสมผสานความหวานสดใสของเหมียว กับความงามคมเข้มของหนูนิดไว้อย่างลงตัว พร้อมกับครุ่นคิดอยู่อึดใจหนึ่ง

‘ปาริชาติ และอนิตรา เป็นสองชื่อที่ไพเราะอยู่แล้ว แต่เมื่อเมียพี่ทั้งสองรวมร่างและจิตเป็นหนึ่งเดียว พี่ก็ขอตั้งชื่อให้ใหม่ว่าปณิตา และเพื่อเป็นนิมิตหมายบ่งบอกการกำเนิดใหม่ครั้งนี้ พี่อยากจะขอเรียกชื่อปณิตาว่า น้องนิว ทุกคนเห็นด้วยกับพี่ไหม…’

‘ดีจัง…เพราะจังเลย…ต่อไปนี้รินจะมีทั้งเพื่อนและน้องชื่อนิวล่ะ..’

‘กิฟท์ ก็ชอบ…น้องนิว น้องนิว…ต้องเรียกให้ชินไว้ก่อน…’

‘ไพเราะมาก…เซี่ยวเล้งเห้นด้วยกับพี่เอ…’

‘ไชโย…พี่นิว พี่นิว…ทิพย์มีพี่สาวคนใหม่แล้ว…’

‘เป็นชื่อมาจากภาษาสันสกฤต มีความหมายถึงผู้ที่ได้รับการสรรเสริญ นับว่าที่มีความหมายที่เป็นมงคลยิ่งสำหรับการเกิดใหม่ จานีสเห็นพ้องกับพี่เอ..’

จิตของเหล่าสตรีงามทุกคนที่อยู่ล้อมรอบร่างเกิดใหม่ของน้องนิว ส่งเสียงประสานรับชื่อใหม่เป็นเสรียงเดียว ทำให้ใบหน้าน้องนิวแดงซ่าน พร้อมกับส่งจิตมายังทุกคน

‘ต่อไปนี้ นิวขออยู่ร่วมกับพี่ๆ น้องๆ ทุกคน ในฐานะคนๆ เดียว ไม่มีเหมียวหรือน้องนิดอีกต่อไป นิว ขอฝากตัวกับทุกคนด้วยนะ…’

‘แต่ตอนนี้จานีสอยากขอให้พี่เอตรวจสอบปราณในร่างของนิวก่อน ถ้าจานีสคาดไม่ผิด ปราณในร่างของนิวจะต้องเป็นปราณที่ผสานปราณราหูของน้องนิด พลังชีวิตจากผลึกมังกร กับปราณคชสีห์ที่พี่เอถ่ายทอดให้พี่เหมียวก่อนหน้านี้ เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์แล้ว…’

จานีสส่งจิตขัดจังหวะการแสดงความยินดีของกลุ่มหญิงสาวทุกคน ด้วยการขอให้ผมตรวจสอบปราณของน้องนิว ทำให้ผมต้องรีบจับมือนุ่มนวลทั้งสองข้างของเด็กสาวมาส่งปราณเข้าสู่ร่าง สัมผัสแรกของปรษณในร่างน้องนิวทำให้ผมแทบร้องโพล่งออกมาด้วยความยินดี ที่พบว่าน้องนิวมีปราณในระดับที่เท่าเทียมกับผม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการดูดกลืนปราณราหูจากมิถุกานารีของหนูนิดและพลังปราณ ดั้งเดิมของเหมียว เมื่อได้รับการหนุนเสริมด้วยพลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคี ทำให้น้องนิวกลายเป็นผู้ทรงปราณระดับสูงสุดที่กำลังก้าวเข้าไปในขอบเขตแห่ง เทพเจ้าเช่นเดียวกับเทวนารีทั้งหลาย ผมรีบส่งจิตบอกให้ทุกคนรับรู้ ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความยินดีกระจายไปทั่วห้อง…ขณะที่จิตของจานีสดัง ขึ้นอีกครั้ง

‘พี่เอ…จานีสคิดว่ายังมีสิ่งสำคัญที่สุดที่พี่เอควรรีบทำในตอนนี้อีกเรื่องหนึ่ง…’

‘อะไรหรือจานีส…’

‘พี่เออย่าลืมว่าตอนนี้น้องรินกับน้องกิฟท์ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บและรอ การรักษาจากพี่เออยู่นะ…พี่เอควรรีบรักษาให้เร็วที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นการฟื้นฟูปราณในร่างน้องรินและน้องกิฟท์แล้ว…การถ่ายทอด พลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคีให้ทั้งสองจะทำให้ปราณในร่างของรินและกิฟท์เพิ่ม ระดับขึ้นมาทัดเทียมกับพี่เอ…เช่นเดียวกับเซี่ยวเล้ง น้องทิพย์ และน้องนิว ยิ่งไปกว่านั้นน้องรินและน้องกิฟท์ก็จะสามารถสื่อจิตกับทุกคนได้พร้อมกัน ด้วย…’

จิตของจานีสที่ทุกคนได้ยินยกเว้นน้องรินกับน้องกิฟท์ ทำให้กลุ่มสตรีที่เหลือยิ้มออกมาพร้อมกัน ก่อนหันหน้ามามองผมเป็นเชิงขออนุญาต และเมื่อผมพยักหน้าทุกคนก็เริ่มเคลื่อนร่างเข้ามาหาน้องรินและน้องกิฟท์ที่ มีสีหน้างุนงง

‘อะ อะไรกัน ทำไมทุกคนมองรินแบบนั้น…อุ๊ย…น้องทิพย์ จานีสทำอะไรน่ะมากอดรินทำไม..’

‘เซี่ยวเล้ง…นิว…ยะ ทำอะไรน่ะ อื๋ย….’

หญิงสาวผู้แสนน่ารักทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อพบว่ากำลังถูกน้องทิพย์ จานีส เซี่ยวเล้ง และน้องนิว แยกย้ายกันเข้ากอดร่างงามเอาไว้
‘น้องริน น้องกิฟท์ พี่จะรักษาอาการบาดเจ็บให้นะ…’

ผมส่งจิตไปนังเมียรักทั้งสอง ทำให้น้องรินและน้องกิฟท์อุทานออกมาเมื่อรีบรู้ว่าการ “รักษา” ที่ผมหมายถึงคืออะไร

‘มะ มะ ไม่เอานะพี่เอ…รินค่อยยังชั่วแล้ว เอาไว้รักษากลางคืนก็ได้ อย่าเพิ่ง…อูว์…น้องทิพย์…จานีส ยะอย่า อย่าถอดเสื้อผ้าริน…รินอายนะ..’

‘อูว์…เซี่ยวเล้ง….ทำอะไรกิฟท์แบบนั้น…ยะ อย่าเพิ่ง…..’

น้องรินและน้องกิฟท์พยายามห้ามปรามการรุกเร้าของหญิงสาวทั้งสี่ที่เข้ากอด รัดเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าการห้ามปรามจะค่อยๆ อ่อนลงเมื่อน้องรินที่ถูกจานีสกอดเอาไว้ และจูบริมฝีปากบางของน้องรินอย่างนุ่มนวล พร้อมกับที่น้องทิพย์ค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าน้องรินออกช้าๆ และเมื่อกระโปรงผ้าฝ้ายบางเบาของน้องรินถูกปลดตะขอรูดออกจากร่างพร้อมกางเกง ในสีชมพูตัวน้อย สะโพกกลมกลึงของน้องรินก็ยกขึ้นเองโดยไม่รู้ตัวราวกับจะช่วยอำนวยความสะดวก ให้น้องทิพย์ ที่ทรุดร่างลงทาบท่อนล่างเปล่าเปลือยของน้องรินไว้ และก้มลงจูบไซร้เนินรักน้อยๆ ของน้องรินทันที

‘อูย…นะ น้องทิพย์ ทำอะไรริน…โอว์…’

‘ทิพย์คิดถึงพี่รินมานานเหลือเกิน ตั้งแต่ทิพย์ได้รับถ่ายทอดความจำจากพี่เอในอดีต ตอนนี้พี่รินมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ทิพย์ขอชิมความหอมหวานของหีพี่สาวทิพย์นะ…’

‘โอย…น้องทิพย์…พี่ก็อยากพบน้องทิพย์มาตลอด…แต่มาเจอกันก็โดนน้อง ทิพย์ใช้ลิ้นกับพี่เลย…โอ๊ว์…เสียว…น้องทิพย์ ทำไมใช้ลิ้นเก่งอย่างนี้…อูย..จานีส…รินสื่อจิตกับจานีสไม่ได้…แต่ แต่…โอว..จานีสดูดหน้ารอกรินแบบนี้…ริน..สะเสียว…’

‘พี่รินปล่อยตัวเถอะ อย่าขัดขืนพี่จานีส เห็นพี่จานีสดูเด็กๆ แบบนี้ แต่จริงๆ แล้วพี่จานีสศึกษาตำราทุกชืดมาเป็นร้อยปี เรื่องการเล้าโลมนี่ ขนาดทิพย์ยังดิ้นแล้วดิ้นอีกเวลาเจอพี่จานีสเล่นงานน่ะ…อูว์ นำเสียวพี่รินหอมจัง ทะลักออกมาเต็มไปหมดเลย…’

เรือนร่างงดงงามเปล่าเปลือยของน้องรินบิดส่ายไปมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อพบการเล้าโลมจากน้องทิพย์และจานีส พร้อมๆ กัน ขณะที่ด้านข้างร่างบอบบางของน้องกิฟท์ ก็ถูกปลดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากร่างด้วยการโจมตีพร้อมกันของเซี่ยวเล้งและ น้องนิว ที่ทำให้น้องกิฟท์บิดร่างไปมาบนเตียงด้วยอารมณ์รักที่ถูกปลุกขึ้นมาจากอดีต ธิดามังกรฟ้าผู้งดงาม กับน้องนิวมีจิตของหนูนิดผู้ชำนาญการปลุกอารมณ์รัก

‘ซะ ซะ..เซี่ยวเล้ง…อื๋ย…ยะ อย่าคลึงหน้าอกแบบนั้น…กิฟท์เสียว…’

‘พี่กิฟท์สวยจริงๆ เซี่ยวเล้งไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่กิฟท์จะอายุกว่า 20 ปีแล้ว รูปร่างพี่กิฟท์ยังเพรียวสวยยังกับวัยรุ่นเลย นมพี่กิฟท์ ก็แข็งปั๋งเลย…เซี่ยวเล้งขอดูดนะ..’

‘โอ๊วส์…เซี่ยวเล้ง….อ้าห์…นิวจ๋า….นิวปลุกกิฟท์ตรงนั่นอีกแล้ว….’

น้องกิฟท์ครวญครางกระท่อนกระแท่นเมื่อทรวงอกเต่งตูมราวกับเด็กหญิงแรกรุ่น ถูกริมฝีปากเซี่ยวเล้งเม้มยอดอกและใช้ลิ้นเลียไล้หัวนมเม็ดน้อยจนชูชัน พร้อมกับสองมือของอดีตธิดามังกรฟ้าเคล้นคลึงนวลเนื้อหน้าอกไปมา ขณะที่ด้านล่างน้องนิวผู้มีจิตของเหมียวที่เคยร่วมเกมส์รักกับน้องกิฟท์มา นับไม่ถ้วน ก็เริ่มเล้าโลมเนินรักน้องกิฟท์ ด้วยการซุกไซ้ความอวบอูมของสองแคมไปมา พร้อมใช้มือลูบไล้ขาอ่อนเรียวด้านในอันเป็นจุดซึ่งไวต่อความรู้สึกที่สุดของ น้องทิพย์ ที่มีแต่ผม น้องรินและเหมียว เท่านั้นที่รู้จุดปลุกเร้าเฉพาะตัวของน้องกิฟท์…

ภาพหญิงสาวผู้เป็นที่รักของผมทั้งสองถูกปลุกเร้าอารมณ์รักด้วยหญิงสาวอีกสี่ คนที่ล้วนกุมหัวใจของผมเอาไว้ ทำให้ผมต้องเคลื่อนร่างเข้าหาน้องรินเป็นคนแรก และในทันทีที่จานีสผู้กำลังปรนเปรอน่องรินด้วยลิ้นที่ร่องรักรับรู้สัมผัส ของผมข้างกาย จานีสก็รีบเบี่ยงร่างเปิดทางให้ผมแทรกเข้ากลางสองขาน้องรินที่บิดส่ายไปมา ด้วยความต้องการที่ถูกปลุกเร้า จนแคมรักอวบอิ่มที่ปกคลุมด้วยเส้นไหมบางเบาถูกน้ำหล่อลื่นชะโลมจนเส้นขนนั้น เปียกชุ่ม ร่องรักเผยอออกเล็กน้อยจนเห็นหลืบเนื้อสีแดงสดใสภายในกำลังกระตุกระริก ผมสูดลมหายใจลึกยาวและโน้มร่างลงทับท่อนล่างน้องรินไว้ แก่นกายที่แม้จะเพิ่งผ่านการร่วมรักกับน้องนิวเมื่อครู่ยังคงลุกโชนกับความ งามของหญิงสาวผู้เป็นรักแรกของผมในชีวิต ถูกกดผ่านสองแคมชุ่มฉ่ำลงไปช้าๆ..

‘โอ๊วส์…พี่เอ…ควยพี่เอมาแล้ว….อ๊าห์….’

น้องรินครางออกมาทันทีที่รับรู้การแทรกเข้าสู่หลืบรักน้อยๆ ที่ยังคงความแน่นหนึบนุ่มนวลไม่ต่างกับเด็กหญิงอายุ 12 ที่มอบพรหมจรรย์ให้ผมเมื่อ 9 ปีก่อน แก่นกายผมกดลงรับแรงบีบรัดภายในรวดเดียวโดยไม่หยุดจนสุดความยาวของมัน ร่างน้องรินสะท้านเฮือกพร้อมกับแอ่นสะโพกรับการบุกรุกอย่างเต็มใจ

‘หีน้องรินนี่ไม่เคยปล่อยควยให้เคลื่อนไหวง่ายๆ เลยนะ…’

‘นี่รินก็ชุ่มไปหมดแล้วนะพี่เอ….น้องทิพย์กับจานีสนี่แกล้งรินแบบนี้…คราวหน้ารินจะเอาคืนบ้างล่ะ’

‘ก็หีที่รินทั้งอวบทั้งหอมไปหมดแบบนิ้ ทิพย์จะอดใจไม่ชิมได้ยังไง…’

‘รินสวยจริงๆ จานีสไม่นึกเลยว่าพี่เอ..จะมีหญิงสาวที่งดงามน่ารักถึงขนาดนี้เป็นผู้รู้ใจ จานีสเทียบรินไม่ได้เลย น้องทิพย์ถ่ายทอดให้พี่รินรู้หน่อยนะ…’

‘อูว์…พี่เอ…กระเด้ารินช้าๆ ก่อน…น้องทิพย์บอกพี่จานีสนะ ว่าพี่จานีสสวยจริงๆ นะ…รินยังตะลึงเลยเมื่อเห็นพี่จานีสครั้งแรก…อ๊าย…น้องทิพย์…แกล้ง รินอีกแล้ว…’

น้องรินครวญครางรับการกระเด้าของผม พร้อมกับบอกให้น้องทิพย์และจานีสรับรู้ความรู้สึกของตนเอง ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผมอดดีใจไม่ได้ที่น้องรินให้ความรักและเอ็นดูน้องทิพย์ กับจานีส โดยปราศจากข้อรังเกียจใดๆ ผมโน้มร่างไปทาบทับน้องรินไว้เต็มตัว และแทนที่จานีสเข้าจูบริมฝีปากบางของน้องรินอย่างชื่นใจ พร้อมกัลป์คลึงเคล้นหน้าอกเต่งที่ยังคงตั้งเต้าตระหง่านราวกับหน้าอกเด็กสาว

‘อาห์…พี่เอจ๋า…รินเสียว…พี่เอคว้านหีรินอีกแล้วอื๋ย…’

น้องรินครางกระเส่าเมื่อผมเริ่มกระเด้าพร้อมส่ายสะโพกเป็นวงกลม ทำให้แก่นกายยิ่งบดเบียดเม็ดเสียวเหนือร่องรักน้องรินมากขึ้น…ร่างน้องริน บิดส่ายดิ้นรนจนแทบเป็นเกลียวเมื่อถูกผมเพิ่มแรงกระเด้าถี่ยิบ สองแคมคับแน่นผลุบเข้าออกตามแก่นเนื้อของผม พร้อมกับน้ำรักที่หลั่งออกมาหล่อลื่นเนืองนอง…

‘พี่ก็เสียว…จะกลั้นไม่ไหวแล้วนะ…’

‘พี่เอ…พี่เอ…ขอริน..เร่งอีก..เร่งอีก รินใกล้จะ…จะ …โอ๊วส์’

ผมอดครางออกมากับความแน่นหนึบของเนินรักน้องรินไม่ได้ ก่อนที่กลีบเนื้อในหลืบรักน้องรินจะกระตุกเป็นระลอกเมื่อบรรลุถึงจุดสุดยอด แห่งสตรี สร้างพลังดูดรัดแก่นกายผมจนความเสียวพุ่งทวีทะลันำรักออกมาเป็นระลอกคลื่น อัดเข้าไปในมดลูกน้องรินทั้งหมด

‘อูว์…น้ำพี่เอเยอะจัง….โอว..ปราณเข้ามาแล้ว…โอย..พี่เอจ๋า..พลังอะไรเข้ามาในตัวริน…’

น้องรินกอดรัดร่างผมแน่นด้วยความสุขสม ขณะน้ำรักและกระแสปราณเข้าสู่ร่างกายเช่นที่เคยเกิดขึ้นทุกครั้งหลังการร่วม รักที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้พลังปราณผมกลับกระจายพลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคีเข้าสู่ร่างน้อง รินด้วย พลังชีวิตมหาศาลผสานเข้ากับปราณในร่างน้องรินอย่างช้าๆ ตามวงรอบการโคจรปราณ พร้อมกับผนึกพลังฟื้นฟูความบอบช้ำของอวัยวะภายในที่น้องรินได้รับจากการ ต่อสู้กับมิถุกานารี พลังชีวิตที่ร้อนแรงของผลึกมังกรอัคคีหลอมรวมกับพลังปราณในร่างน้องรินที่ ก่อเกิดจากปราณคชสีห์ของผมกับพลังเย็นยะเยียบของอุทกมารที่เป้นต้นกำเนิดของ วิชาจิตมารของน้องริน ความร้อนและความเย็นประสานรับกันอย่างนุ่มนวลจนก่อเกิดปราณสายใหม่ผสานกลืน กันเป็นหนึ่งเดียว โคจรถ่ายเทระหว่างร่างผมกับน้องรินผ่านแก่นกายผมที่ยังฝังแน่นอยู่ในหลืบรัก อบอุ่น พร้อมกับที่ความทรงจำตั้งแต่การบุกเข้าไปช่วยเหลือน้องทิพย์และการต่อสู้ ดิ้นรนเอาชีวิตรอดจาดบ่อมังกรเทวะและธิดามังกรฟ้าทั้งหมด ก็ถูกถ่ายทอดไปยังน้องริน จนในที่สุดปราณทั้งสองสายก็แยกกลับเข้าสู่ร่างกาย ผมค่อย ถอนลำลึงค์ออกจากหลืบน้อยขณะที่น้องรินลืมตาขึ้นให้ผมได้พบกับประกายตาแวว วับเป็นประกายสุใส อันเป็นคุณลักษณะของผู้บรรลุปราณชั้นสูง

‘พี่เอ…ปราณในร่างรินเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเลย นี่คงเป็นพลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคีที่พี่เอได้รับแน่ๆ’

‘น้องรินเข้าใจถูกแล้ว และพลังนี้เองทำให้จานีสสามารถสื่อสารทางจิตกับน้องรินได้ในที่สุด’

น้องรินอุทานออกมาเบาๆ เมื่อจิตจานีสดังขึ้น ทำให้ผรู้ว่าในที่สุดน้องรินก็สามารถสื่อสารกับทุกคนด้วยจิตโดยไม่ต้องถูกจำกัดอีกต่อไป

‘พี่จานีส…รินได้รับรู้เรื่องของพี่จากความทรงจำของพี่เอแล้ว…รินอยากขอ เป็นตัวแทนบ้านคชสีห์ทุกคนรับพี่จานีสเข้าสู่ครอบครัวเราด้วยความยินดี…’

ดวงหน้างามของจานีสปรากฎรอยยิ้มด้วยความดีใจ พร้อมกับดวงตาที่ปรากฏริ้นน้ำตาเป็นประกาย

‘จานีสขอบคุณน้องริน…จานีสขอสัญญาว่าจะ…อุ๊ย น้องรินทำอะไรน่ะ’

จานีสอุทานออกมาเบาๆ เมื่อน้องรินที่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บพลิกตัวเข้าโถมทับจานีสไว้ใต้ร่าง พร้อมสอดสองมือเข้าใต้ชายเสื้อจานีสแล้วดึงขึ้นเหนือศีรษะ ปล่อยให้ทรวงอกอวบอิ่มภายใต้บราลูกไม้บางเบาปรากฏต่อสายตา

‘เมื่อกี้านีสแกล้งรินดีนัก คราวนี้ตารินจะตอบแทนบ้างแล้วล่ะ…น้องทิพย์จะช่วยรินไหม..’

น้องรินส่งจิตตอบอดีตโหราทาสอย่างล้อเลียน ขณะเร่งสอดมือเข้าใต้บราแล้วเคล้นคลึงความหยุ่นตึงของหน้าอกจานีส พร้อมกับชักชวนให้น้องทิพย์ที่อมยิ้มเฝ้าดูอยู่เข้าร่วมวง

‘อิ อิ พี่จานีสเสร็จทิพย์กับพี่รินแน่..พี่ริน ทิพย์จะบอกความลับพี่จานีสให้นะ พี่จานีสชอบให้ดูดหน้าอกที่สุดเลยแหละ…’

น้องทิพย์ส่งจิตบอกน้องรินขณะขยับร่างเข้าช่วยดึงกางเกงขาสั้นของจานีสออก จากร่างอย่างง่ายดาย ก่อนจะซุกใบหน้าเขากับเนินรักหอมกรุ่นของจานีส ขณะที่น้องรินก็เริ้มใช้ปากน้อยๆ เม้มเม็ดยอดสีน้ำตาลอ่อนของจานีส ทำให้ร่างของจานีสสั่นระริก

‘โอ๊วส์…จานีสแย่แล้ว เมื่อกี้ตอนพี่เอเย็ดน้องริน พลังมังกรในร่างจานีสก็ทะลักจนเสียวไปหมด…ซีดส์ น้องทิพย์ ยะ อย่าเลียหีจานีสแบบนั้น….’

ผมเลื่อนสายตาจากร่างน้องริน จานีสและน้องทิพย์ที่กำลังเข้าสู่อารมณ์รักอีกครั้ง มาทางด้านข้างซึ่งสภาพของหญิงสาวผู้งดงามอีกสามคนกำลังตกอยู่ในห้วงความ เสียวที่กำลังใกล้ถึงจุดสุดยอด

ร่างบอบบางราวกับเด็กสาวแรกรุ่นของน้องกิฟท์ ถูกเซี่ยวเล้งจัดให้อยู่ในท่าคุกเข่าคร่อมร่างเปลือยของน้องนิวเอาไว้ ขณะที่อดีตธิดามังกรฟ้าก็ถูกปลดเปลื้องเครื่องแต่งกายออกจนหมดเช่นกัน กำลังคุกเข่าซ้อนหลังน้องกิฟท์พร้อมกับใช้ลิ้นโลมเลียพลูรักน้องทิพย์ทาง ด้านหลัง…จนน้ำรักน้องทิพย์ทะลักทะลายออกมาเป็นสายให้เซี่ยวเล้วดูดดื่ม โดยไม่รังเกียจ ร่างท่อนบนของน้องทิพย์ถูกน้องนิวที่นอนหงายอยู่ใต้ร่างน้องทิพย์เคล้นคลึง หน้าอกเต่งตึงพร้อมเงยหน้าขึ้นจูบน้องทิพย์อย่างเร่าร้อนรุนแรง จิตของหญิงงามทั้งสามส่งเสียงหากันด้วยอารมณ์รักที่ใกล้ระเบิดออกทุกขณะ

‘อูว์ เซี่ยวเล้ง..ไปเรียนวิธีใช้ลิ้นมาจากไหน…อาห์ กิฟท์เสียวไปหมดแล้ว…ธิดามังกรฟ้าต้องเป็นพรหมจารีย์ไม่ใช่หรือ…ทำไม เซี่ยวเล้งถึงเก่งอย่างนี้…อื๋ย…’

‘พี่เอเย็ดเซี่ยวเล้งเมื่อวานนี้เองก็จริง แต่เซี่ยวเล้งก็รับศึกทั้งพี่เอ จานีส กับน้องทิพย์ไม่รู้ต่อกี่รอบแล้วล่ะพอมาเจอหีของพี่กิฟท์ที่ทั้งสวย ทั้งอูมแบบนี้..เซี่ยวเล้งต้องขอลองวิชาแล้ว…พี่กิฟท์ชอบไหม…’

‘ชะ..ชะ ชอบสิ…อูย ยะ ซะ ซะ เซี่ยวเล้งอย่าคลึงแตดกิฟท์..อูย นิว ดูดนมแบบนี้กิฟท์ไม่ไหวแล้ว…ว๊าย..อะไรน่ะ…พี่เอ…พี่เอเย็ดกิฟท์ แล้ว…’

ระหว่างที่เซี่ยวเล้งกำลังสั่นสะท้านไปกับความเสียวที่เซี่ยวเล้งและน้องนิ วปลุกเร้าพร้อมกัน ผมค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปด้านข้างร่างเปลือยของเซี่ยวเล้งเป็นสัญญานให้อดีตธิดามังกร ฟ้าถอนปากออกจากร่องรักน้องกิฟท์ กอนจะขยับเข้าคุกเข่าซ้อนหลังแทนที่กับสะโพกเต่งตึงกระทัดรัดเบื้องหน้า แก่นกายแข็งปั๋งจ่อไปยังกลางสองแคมที่ฉ่ำเย้ม ก่อนกดมันพรวดเดียวเข้าไปสู่ความคับแน่นภายในร่างของน้องกิฟท์ที่ผมไม่เคย เบื่อหน่ายแม้ผมจะร่วมรักกับน้องกิฟท์มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม กลีบเนื้อภายในหลืบรักของน้องกิฟท์ที่สั่นระริกรับลำลึงค์ของผมทำให้เกิดแรง บีบเคล้นเป็นระลลอกที่ยิ่งเพิ่มความเสียวผมทุกครั้งยามเคลื่อนแก่นกายเข้า ออก ผมเกาะกุมสะโพกกะทัดรัดราวเด็กสาววัยรุ่นไว้มั่น แล้วเริ่มกระเด้าอย่างช้าๆ ให้ผิวของแก่นกายบดเบียดติ่งเสียวทุกครั้งที่เคลื่อนไหว

‘อูว์พี่เอ…ท่านี้มันชนมดลูกกิฟท์ทุกครั้งที่พี่เอแทงควยเข้ามาเลย..อาห์…’

‘พี่กิฟท์ชอบท่าเดียวกับน้องทิพย์เลย…อย่างนี้อีกหน่อยเซี่ยวเล้งจะจัดให้ พี่กิฟท์คุกเข่าคู่กับน้องกิฟท์แล้วให้พี่เอแทงควยสลับกันดีกว่า..’

‘มะ มะไม่เอานะ…อูยพี่เอ…กิฟท์….’

ผมแนบร่างกับแผ่นหลังนวลเนียนของร้องทิพย์ เพื่อเอื้อมมือไปกุมสองเต้าเต่งแทนมือของน้องนิวที่กำลังเคล้นคลึงอยู่ น้องนิวยิ้มให้ผมอย่างซุกซนก่อนขยับตัวออกจากใต้ร่างน้องกิฟท์เพื่อให้ผมกด ทับน้องกิฟ์ลงไปบนเตียงในท่านอนคว่ำ มีเพียงสะโพกน้อยๆ ที่ถูกยกขึ้นสูงเพื่อรับการกระเด้าจากด้านหลัง ร่างท่อนบนของน้องกิฟท์แนบกับพ้นเตียงสองเต้าบดอัดมือผมแน่น ขณะที่สองมือเด็กสาวขยุ้มจิกผ้าปูเตียงด้วยความเสียวที่กำลังพุ่งขึ้นมาทุก ขณะ

‘พะ พะ พี่เอจ๋า….แรงอีก แรงอีก…กิฟท์ จะ จะ….อ๊ายส์…’

‘น้องกิฟท์..พี่..งพี่..มา.งแล้ววว’

สะโพกน้อยๆ ของน้องกิฟท์กระตุกเฮือก เนินเนื้ออวบอูมแอ่นขึ้นบดคลึงกับลำลึงค์ผมที่สูบออกมาจนเกือบมาพ้นปากแคม และกระแทกกลับลงไปจนสุดทางพร้อมกับความเสียวที่ทะลักออกมาเป็นสายกระฉุดเข้า ไปจนรู้สึกถึงการตอดรับของมดลูกน้องกิฟท์ที่กระตุกขมิบน้ำรักทุกหยาดหยดเข้า ไปเก็บไว้

กระแสปราณในร่างผมพลุ่งเข้าสู่ร่างน้องกิฟท์พร้อมกับพลังชีวิตแห่งผลึกมังกร อัคคีที่ร้อนแรง เข้าประสานพลังปราณเดิมในร่างน้องทิพย์ที่ก่อเกิดจากปราณคชสีห์และอุทกเทพ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของวิชาอัคคีเทพที่ร้อนแรงสุดขีดของน้องกิฟท์ แต่สภาพการเข้าประสานปราณในร่างน้องกิฟท์แตกต่างจากน้องรินที่มีปราณเย็นยะ เยียบจากอุทกมาร จนผสานกลืนกับพลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคี ในขณะที่ปราณอันก่อจากอุทกเทพของน้องกิฟท์ที่มความร้อนแรงถึงขีดสุด กลับผสานไปในอีกแนวทางหนึ่งก่อเกิดพลังปราณแข็งกร้าวร้อนแรง ที่แม้จะแตกต่งกับน้องรินแต่ก็ทรงอานุภาพในระดับเดียวกัน… ปราณในร่างผมวนเวียนในร่างน้องกิฟท์พร้อมถ่ายทอดความทรงจำระหว่างกัน จนหญิงสาวผู้เป็นเสมือนน้องสาวที่ผมแสนรักได้รับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเช่น เดียวกับน้องริน และน้องทิพย์…ก่อนที่ผมจะค่อยๆ ถอนแก่นกายออกจากร่องรักน้องกิฟท์และทอดกายลงนอนเคียงข้าง

‘โอวห์..พี่เอ…พวกเราครอบครองพลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคีร่วมกันแบบนี้ พวกเราทุกคนก็ต้องเกิดความต้องการพร้อมกันตามพี่เอทุกครั้ง…สงสัยวัน หนึ่งๆ กิฟท์คงไม่มีโอกาสได้นุ่งกางเกงในแน่ๆ เลย..’

น้องกิฟท์พลิกกายมานอนตะแคงกอดผมไว้แล้วส่งจิตมายังผมเบาๆ แบบบ่นๆ ตามนิสัยที่เคยทำมาตลอด แต่ครั้งนี้กระแสติตของน้องกิฟท์กลับถูกรับรู้โดยทุกคนรอบข้างจากสตรีทุกคน ที่ผมได้ร่วมรักและส่งผ่านพลังชีวิตจากผลึกมังกรอัคคีเข้าสู่ร่าง จนสามารถสื่อสารทางจิตได้พร้อมกัน จิตที่บ่นถึงการร่วมรักตามนิสัยของน้องกิฟท์จึงทำให้เกิดเสียงหัวเราะดัง ขึ้นจากทุกคน จนทำให้น้องกิฟท์อดอุทานออกมาเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงซ่านไม่ได้

‘ตายล่ะ..ทุกคนได้ยินกิฟท์หมดเลยหรือนี่…อย่างนี้กิฟท์ก็แอบเย็ดกับพี่เอไม่ได้แล้วสิ..’

‘พี่กิฟท์แอบเย็ดกับพี่เอไม่ได้หรอก เพราะทันทีที่ควยพี่เอแข็งขึ้นมาหีพวกเราทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะฉ่ำเยิ้มไปพร้อมๆ กัน…ทิพย์ว่าพี่กิฟท์คงต้องเตรียมใจที่จะเย็ดพร้อมกับทุกคนแล้วล่ะ..แต่ ถ้าพี่กิฟท์จะให้ทิพย์ช่วยก่อนพี่เอเย้ดก็บอกทิพย์ได้เลยนะ.พี่กิฟท์น่ารัก ขนาดนี้ ทิพย์ชักอยากจะเป็นผู้ชายบ้างแล้วจะได้เย้ดพี่กิฟท์ไม่ให้พักเลย…’

‘บ้า..ทิพย์เนี่ย..’

น้องกิฟท์หน้าแดงราวผลแอบเปิลเมื่อถุกน้องทิพย์เย้าแหย่ ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาอีกครืนใหญ่ ซึ่งผมเองก็อดในใจไม่ได้ เพราะบุคลิกของน้องกิฟท์และน้องทิพย์ที่ดูจะมีส่วนคล้ายคลึงกัน จนทำให้ดูราวกับน้องกิฟท์เกิดดาวข่มประจำตัวขึ้นมา แทนที่จะเป็นฝ่ายกระเซาเย้าแหย่ทุกคนโดยปราศจากผู้มีฝีปากทัดเทียมกัน อย่างที่ผ่านมา

ผมหันไปมองภาพเมียรักทุกคนที่กำลังแลกเปลี่ยนกระแสจิตทำความรู้จักกันอย่าง สนิทสนมบนเตียง น้องรินกุมมือเซี่ยวเล้งไว้และอธิบายทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในอดีตให้อดีต ธิดามังกรฟ้ารับรู้ ส่วนน้องกิฟทืกับน้องทิพย์ก็ดูราวกับพี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานาน ทั้งสองนอนตะแคงข้างเข้าหาและส่งจิตไต่ถามกันและกัน ซึ่งผมรุ้ดีว่าทั้งสองคนต่างได้รับถ่ายทอดความทรงจำของผมไว้ในจิต ดังนั้นแม้จะพบกันเพียงครั้งแรก แต่ทุกสิ่งที่ผ่านมาก็กระจ่างแจ้งในความทรงจำของทั้งสองคน จนทำให้ทั้งสองเข้าหากันในทันที ส่วนจานีสกำลังนั่งขัดสมาธิกุมมือน้องนิวผู้กำเนิดใหม่จากสองดวงจิตไว้และ ส่งจิตสอบถามสภาพร่างกายและความคิดของน้องนิวอย่างละอียดราวกับนายแพทย์ผู้ กำลังตรวจร่างกายของคนไข้ในความดูแล กระแสจิตที่ดังรอบตัวผมทำให้ผมรับฟังการสนทนาของจานีสกับน้องนิวไม่ถนัดนัก แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อจานีสเอื้อมมือลงไปยังเนินรักอวบอูมของน้องนิวแล้ว สอดนิ้วเข้าไปในร่องรักอย่างนุ่มนวล ขณะที่น้องนิวมีสีหน้าแดงซ่านแต่ก็ยอมให้นิ้วของจานีสรุกล้ำร่างกายโดยไม่ ขัดขืน แต่ก่อนที่ผมจะถามสิ่งใด จานีสก็ยิ้มให้น้องนิวอย่างอ่อนหวานและหันมาสบตาผม

‘พี่เอ..จานีสตรวจสอบร่างกายและจิตน้องนิวแล้ว ทุกอย่างไม่มีปัญหา ดวงจิตทั้งสองของเหมียวและน้องนิดผสานกันได้อย่างสมบรณ์ที่สุด แต่พี่เอยังจะต้องปิบัติภารกิจอีกประการให้ลุล่วงไปเดี๋ยวนี้เลย’

กระแสจิตที่มั่นคงแต่ดูเหมือนจะแฝงสำเนียงยั่วเย้าของจานีส ทำให้น้องริน น้องกิฟท์ เซี่ยวเล้ง และน้องทิพย์ชะงักการสนทนาและหันมาให้ความสนใจจานีสพร้อมกัน ใบหน้าน่ารักของจานีสเผยอดรอยยิ้มออกมา ก่อนที่จะส่งจิตมายังผม

‘น้องนิวกำเนิดใหม่จากกาฬปราณด้วยร่างกายและปราณที่สมบูรณ์เต็มที่ แต่การกำเนิดใหม่นี้กลับทำให้น้องนิวเกิดปัญหาที่พี่เอต้องแก้ไขโดยด่วน..’

‘ปัญหาอะไรหรือจานีส…’

ผมส่งจิตถามอดีตโหราทาสผู้งดงามอย่างสงสัย ขณะที่ใบหน้าใบหน้าน้องนิวมีสีเลือดแดงซ่านไปทั่ว

‘กาฬปราณทำให้น้องนิวเกิดใหม่พร้อมกับเยื่อพรหมจรรย์ ดังนั้นตอนนี้จึงเท่ากับว่าเมียคนหนึ่งของพี่เอเป็นหญิงพรหมจรรย์ จานีสไม่คิดว่าพี่เอจะปล่อยให้น้องนิวออกจากห้องนี้ไปเป็นประมุขแห่งตระกูล โรหิณีทั้งที่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่หรอกนะ..’

‘พะ..พะ..พี่จานีส…ไม่เอานะ…นิว…อุ๊ย..พี่เอ…อืมห์’

น้องนิวพยายามส่งจิตประท้วงจานีสด้วยใบหน้าแดงฉาน แต่ก็กลับต้องอุทานออกมาเมื่อผมพลิกร่างลงทาบทับร่างเปล่าเปลือยที่ก่อ กำเนิดใหม่ของน้องนิวโดยไม่ปล่อยให้เด็กสาวได้มีโอกาสทัดทาน พร้อมกับจูบบดคลึงริมฝีปากเย้ายวนใจเบื้องหน้า จนน้องนิวต้องครางออกมาและเริ่มกอดตอบร่างผมไว้แน่น…

‘อูย…พี่เอ…ทำไมแต่พี่เอจูบนิว ร่างกายทุกส่วนมันยังกับพร้อมที่จะเย็ดในทันทีเลย หีนิวฉะไปหมดแล้ว’

จิตน้องนิวส่งออกมาด้วยกระแสเสียงที่แฝงความงุนงงเล็กน้อยซึ่งผมมั่นใจว่า นี่คือบุคคลิกส่วนหนึ่งของเหมียวอดีตตเพื่อนรักร่วมมหาวิทยาลัยของผม ผู้สนใจอยากรู้คำตอบของทุกเรื่อง ทั้งๆ ที่ร่างกายกำลังถูกกระตุ้นให้พร้อมสำหรับการร่วมรัก

‘นิวไม่ต้องแปลกใจไปหรอก จานีสบอกนิวแล้วไงว่าถ้าพี่เอต้องการเย็ดเมื่อไหร่ ร่างกายพวกเราทุกคนที่รับปราณและพลังชีวิตจากพี่เอจะตอบสนองจิตของพี่เอ ทันที…อูว์ เหมือนกับที่ตอนนี้จานีสเองก็ต้องการให้พี่เอเย็ดจะแย่แล้วเหมือน…หวาย… น้องกิฟท์ไม่ต้อง…จานีส…ยะยัง…’

จานีสพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ต้องการที่กำลังปะทุขึ้นจากผลสะท้อนจากความต้อง การของผมที่มีต่อน้องนิว และอธิบายให้น้องนิวฟัง แต่กลับต้องชะงักกลางคันเมื่อร่างอวบอัดเปล่าเปลือยถูกน้องกิฟท์โถมเข้าทาบ ทับร่างจานีสให้นอนหงายซุกและไซ้หน้าอกเต่งตึงพร้อมแอ่นเนินเนื้อบดเบียดกับ สองแคมจานีส จนในที่สุดอดีตโหราทาสก็หมดความยับยั้งชั่วใจและเริ่มกอดรัดร่างน้องกิฟท์ อย่างเร่าร้อน ขณะที่ผมหันมาเคล้นคลึงนวลเนื้อนุ่มนวลของน้องนิวอย่างละลานใจไปกับความ เปล่งปลั่งที่ผสมผสานระหว่างเหมียวกับหนูนิด จนทุกส่วนของผิวกายเต็มไปด้วยแรงดีดสะท้อนสู้การสัมผัส ร่องรักเบื้องล่างทะลักน้ำหล่อลื่นออกมาจนเปียกชุ่มนิ้วมือผมที่กำลังบี้ เคล้นติ่งเสียวน้อยๆ ที่แข็งตัวจนสัมผัสได้ ใบหน้างามที่ผสานความน่ารักของเหมียวกับความคมคายของหนูนิดอย่าลงตัวบิด เบี้ยวไปมาด้วยอารมณ์ที่พลุ่มพล่าน สะโพกอวบอิ่มแอ่นขึ้นสุดเหยียดสู่การรุกรานของนิ้วมือผมราวกับต้องการให้ ผ่านเข้าสู่หลืบรักโดยเร็วที่สุด

‘พี่เอจ๋า…นิว…ตะ ต้องการเหลือเกิน ..ยะ เย็ดนิวเดี๋ยวนี้เลย..’

ผมยกสะโพกขึ้นเพื่อนำแก่นกายมาจ่อกับสองแคมน้องนิวที่บิดส่ายไปมา แต่เมื่อส่วนปลายหัวบานกระทบกับปากทางเข้า สะโพกน้องนิวก็หยุดส่ายและแอ่นขึ้นรับด้วยตนเอง จนส่วนหัวของลำลึงค์แหวกผ่านแคมอวบอิ่มเข้าไป ในจังหวะเดียวกับที่ผมกดสะโพกลงไปหนักๆ ทำให้แท่งเนื้อถูกแรงประสานมุดลงไปในหลืบรักคับแน่นของน้องนิว ผ่านการฉีกขาดของเยื่อพรหมจารีย์รวดเดียวไปฝังอยู่ในร่างเด็กสาวจนหมดความ ยาว

‘อ๊าย….จะ จะ เจ็บ….’

น้องนิวครางออกมาด้วยความเจ็บปวดจากการฉีกขาดของเยื่อขวางกั้นความสาวที่ก่อ ตัวขึ้นใหม่ ทำให้ผมต้องแช่ลำลึงค์ไว้นิ่งๆ เพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวสร้างความเจ็บปวดมากขึ้น แต่สัมผัสที่รึงสุดขีดภายในหลืบรักบีบเคล้นจนผมอดครางออกมาด้วยความเสียวไม่ ได้..

‘อาห์…หีน้องนิวแน่นไปหมดเลย…น้องนิวเจ็บมากไหม…’

‘นิวเจ็บพี่เอ…แต่นิวเคยผ่านมาแล้วทั้งจากเหมียว และนิด พี่เอไม่ต้องห่วง เย็ดนิวอย่างที่พี่เอต้องการ ไม่ต้องกลัวนิวเจ็บ…อูว์…นิวดีใจที่ได้ให้ความสาวพี่เออีกครั้ง…’

ผมค่อยๆ ดึงแก่นเนื้อขึ้นจากความรัดรึงในร่างน้องนิวเป็นระยะสั้นๆ ก่อนกดกลับลงไปเน้นๆ และค่อยๆ เพิ่มระยะทางการกระเด้าทีละน้อย…เพียงชั่วครู่เดียวร่างงามของน้องนิวก็ บิดส่ายรับการระเด้า สองเต้าเต่งตึงที่ผมเคล้นคลึงด้วยฝ่ามือถูกอัดเข้าเบียดแน่นกับมือผมจนรับ รู้ถึงหัวนมเม็ดน้อยที่แข็งปั๋วและสั่นระริกอยู่ในอุ้งมือ

‘อื๋ย…พะ พี่เอ…มันสะเสียว…เสียวกว่าแต่ก่อนมากมายเลย…ทำไมถึงเสียวขนาดนี้ นะ นิว…’

‘พี่ก็เสียว…หีน้องนิวทั้งบีบทั้งตอดควยพี่แบบนี้…พี่ก็…’

‘อ๋าย..พี่เอ..ระ เร่งอีก…อีก..อ๊า…มะ มาแล้ว…’

น้องนิวแอ่นสะโพกรับการกระเด้าสุดแรงของผม ในจังหวะเดียวกับที่ความเสียวของผมพลุ่งขึ้นถึงขีดสุด ผมกดแก่นเนื้อฝังแน่นเข้าไปจนถึงปากมดลูกน้องนิวและกระฉูดน้ำรักเข้าไปอย่าง แรง ก่อนที่จะฟุบร่างลงกับผิวเนื้อนวลเนียนของเด็กสาว ปราณในร่างผมเคลื่อนออกจากร่างเข้าผสานปราณของน้องนิวอย่างนุมนวลรอบแล้วรอบ เล่า จนกลับเข้าสู่ร่างอีกครั้ง แต่แทนที่ผมจะเหน็ดเหนื่อยกับร่วมรัก การผสานปราณในร่างกับน้องนิวกลับทำให้แก่นกายผมสดชื่นขึ้นมาและแข็งตัวเต็ม ที่อีกครั้ง

‘อูย..พี่เอ…เอาออกไปก่อน…ไม่อย่างนั้นนิวคงต้องการอีกไม่รู้จบ…นิวรับไม่ไหวแน่..’

น้องนิวครางออกมาเมื่อรับรู้ว่าผมกำลังเริ่มขยับลำลึงค์ขึ้นลงอีกครั้งช้าๆ ทำให้ผมต้องสะกดกลั้นความต้องการที่จะร่วมรักกับน้องนิวต่อไปอย่างยากเย็น และค่อยๆ ถอนออกมาจนพ้นปากแคมรักที่มีคราบเลือดพรหมจรรย์ผสมน้ำรักไหลตามออกมาเป็นสาย แต่ก่อนที่ผม จะเคลื่อนร่างออกจากการทาบทับน้องนิว แก่นกายผมก็ถูกดึงจากมือน้อยๆ ของเจ้าของร่างงามที่โถมร่างเข้ามากอดผมไว้แน่น

‘พี่เอ…ช่วยเซี่ยวเล้งด้วย…เซี่ยวเล้งต้องการพี่เอเหลือเกิน…’

ร่างนุมวลหอมกรุ่นของอดีตธิดามังกรฟ้าที่เบียดเข้าแนบร่างผมทุกส่วน ทำให้ความต้องการของผมปะทุขึ้นอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้ มือน้อยๆ ของเซี่ยวเล้งดึงแก่นเนื้อของผมไปจ่อกับสองแคมอวบอูมแล้วกดสะโพกลงมารับเข้า หลืบรักด้วยตนเองจนเข้าไปสุดโคน ท่ามกลางเสียงกระเส่าด้วยความเสียวของหญิงสาวและผมเองที่รับรู้ถึงพลังการ บีบรัดหนึบแน่นของเนินรัก..ผมเริ่มกระเด้ารับความเสียวที่หลืบรักของเซี่ยว เล้งมอบให้ช้าๆ พร้อมกับซุกไซร้ใบหน้ากับอกอวบอิ่ม ขณะที่กลางหลังผมก็ถูกสวมกอดด้วยเนื้อหนังนุ่มนวลและเสียงกระซิบทางจิตสั่น ระริก

‘พี่เอ…ทิพย์ขอต่อจากพี่เซี่ยวเล้งนะ…’

ผมเงยหน้าขึ้นจากทรวงอกเซี่ยวเล้ง และพบว่าสายตาของหญิงงามทุกคนบนเตียงล้วนจับจ้องมาที่การร่วมรักของผมด้วย แววตาร้อนรุ่มด้วยความต้องการ ผมยกแก่นกายขึ้นจนเกือบหลุดพ้นสองแคมเซี่ยวเล้งและกระแทกกลับลงไปจนเซี่ยว เล้งครางออกมาด้วยความเสียว ก่อนที่จะส่งจิตไปยังทุกคน

‘พี่ก็ไม่ยอมปล่อยให้ใครรอดพ้นการเย็ดไปได้หรอก…เตรียมตัวรับให้ดีเถอะ..’

Related

Prev
Next

Comments for chapter "The Zodiac บทที่ 5.2 กำเนิดใหม่"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

Tags:
เรื่องเสียวซีรี่ย์

© 2025 Madara Inc. All rights reserved