The Paradox & The Zodiac by Buta - The Zodiac บทที่ 4.5 ก่อนเริ่มสงคราม

The Zodiac บทที่ 4.5 ก่อนเริ่มสงคราม

‘พี่จานีส เอาขาตีน้ำสิ ไม่ต้องกลัวจมหรอกทิพย์จับอยู่ ขืนพี่จานีสยังกลัวแบบนี้จะว่ายน้ำได้ยังไงล่ะ’
‘ก็เกิดมาจานีสไม่เคยว่ายน้ำนี่นาน้องทิพย์ จานีสเกิดที่เนปาลแล้วก็ไปอยู่ในเทือกเขา จานีสเพิ่งได้ลงน้ำในสระเป็นครั้งแรกแบบนี้’
‘ทุกอย่าง ก็ต้องมีครั้งแรกทั้งนั้นแหละพี่จานีส ถ้าพี่จานีสว่ายเป็นอีกหน่อยรับรองพี่จานีสจะติดใจมาว่ายทุกวัน เหมือนที่พี่จานีสติดใจให้พี่เอเย็ดนั่นแหละ’
‘บ้า…ทิพย์เนี่ย จานีสชอบคนเดียวที่ไหน ทิพย์ก็ชอบเหมือนกันแหละ ยิ่งเซี่ยวเล้งด้วยแล้ว เมื่อเช้านี้ครางไม่ยอมหยุดเลย’
‘พี่จานีส… เดี๋ยวเหอะ ถ้าเซี่ยวเล้งว่ายน้ำเป็นเมื่อไหร่ จะท้าพี่จานีสแข่ง ใครแพ้อดเย็ดกับพี่เอสามวัน เอาไหม’
‘เซี่ยวเล้ง.บ้า..จานีสไม่พูดด้วยแล้ว..’

เสียง เด็กสาวทั้งสามหยอกเย้ากันอย่างสนุกสนานในสระว่ายน้ำของบ้านราชเทวี ทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงการผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันในชั่ว เวลาเพียง 1 คืน ที่กลับทำให้ชีวิตผมได้เพิ่มเมียรักเข้ามาในชีวิตอีก 3 คน

หลังผม จานีส น้องทิพย์ ได้พาเซี่ยวเล้งออกจากนิวาศมังกรเมื่อเวลารุ่งสางเพื่อมายังบ้านพักของผม และติดต่อจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับไปอยู่ร่วมกันที่เชียงใหม่ พร้อมกับโทรศัพท์บอกให้น้องริน น้องทิพย์และเหมียวรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาอย่างคร่าวๆ ทำให้ทั้งน้องรินน้องกิฟท์ และเหมียว ตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้พบกับน้องทิพย์ซึ่งทุกคนรู้จักดีผ่านความทรงจำของ ผม ส่วนเรื่องของจานีสและเซี่ยวเล้งผมไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมา มากนัก เพราะไม่สามารถอธิบายทุกสิ่งผ่านทางโทรศัพท์ได้ และผมก็รู้ดีว่าการ “ถ่ายทอดความทรงจำ” ให้น้องรินและน้องกิฟท์ จะสามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าคำพูดมากนัก

ผมจองได้ตั๋วเดินทางกลับเชียงใหม่ในเวลาสองทุ่ม ทำให้ผมและภรรยาทั้งสามที่ผมได้รับเข้ามาร่วมชีวิตในชั่วเวลาเพียง 1 คืนอันยาวนานได้มีโอกาสพักผ่อนเป็นครั้งแรกหลังผ่านเหตุการณ์ต่อสู้ดิ้นรน เอาชีวิตรอดจากความตายมาด้วยกัน ความเหนื่อยอ่อนทำให้ทุกคนผล็อยหลับเป็นตายอยู่บนเตียงใหญ่ในห้องนอน และตื่นมาในเวลาใกล้เที่ยงด้วยความหิวโหย ทำให้ผมต้องพาทุกคนไปรับประทานอาหารกลางวันที่สยามแสควร์ และเมื่อกลับมาถึงบ้าน น้องทิพย์ก็ชักชวนให้ทุกคนว่ายน้ำที่สระน้ำประจำบ้าน เพื่อผ่อนคลายร่างกายก่อนที่จะเดินทางกลับเชียงใหม่ในเวลากลางคืน แม้ว่าในทีแรกจานีสและเซี่ยวเล้งที่ว่ายน้ำไม่เป็นทั้งคู่ทำท่าลังเล แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนจากผม จานีสและเซี่ยวเล้งก็ยินยอมและตามน้องทิพย์ไปเลือกชุดว่ายน้ำที่น้องรินและ น้องกิฟท์จัดเก็บไว้ที่ห้องแต่งตัว ก่อนที่จะพากันมาลงน้ำโดยมีน้องทิพย์ทำหน้าที่สอนจานีสและเซี่ยวเล้ง ขณะที่ผมปลีกตัวไปโทรศัพท์ยืนยันการเดินทางกับสายการบินและสั่งงานกับคนดูแล บ้านครู่ใหญ่ ก่อนออกมานั่งพักผ่อนที่เก้าอี้นอนริมสระว่ายน้ำและเฝ้ามองร่างเมียรักทั้ง สามที่กำลังกระเซ้าเย้าแหย่กันอย่างร่าเริง

ร่างงามเปล่งปลั่งที่ขาวผ่องจนสะท้อนประกายแสงอาทิตย์ของเซี่ยวเล้งซึ่งอยู่ ในชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สีขาวของน้องกิฟท์ ส่งเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจขณะลุกขึ้นยืนในเขตน้ำตื้นแล้วใช้ปราณควบคุม สายน้ำเป็นลำพุ่งตรงไปหยอกล้อน้องทิพย์ จนน้องทิพย์ส่งเสียงร้องด้วยความสนุกสนานพร้อมผนึกรวมสายน้ำลำสาดพุ่งมา ต่อสู้ โดยมีจานีสคอยปรบมือส่งเสียงเชียร์อยู่ไม่ขาดระยะ ผมอดยิ้มไม่ได้กับอากัปกริยาเซี่ยวเล้งที่กลับมาเป็นเด็กสาวผู้ร่าเริงแจ่ม ใสอย่างไม่เหลือเค้าเดิมของธิดามังกรฟ้าแห่งจักรราศีที่เคยต่อสู้แลกชีวิต กับผมในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งผมเชื่อว่านอกจากการได้ร่วมรักและผนึกปราณร่วมกับผมแล้ว ความแจ่มใสของเซี่ยวเล้งน่าจะเกิดจากการที่เด็กสาวได้ระบายความอัดอั้นตันใจ ทุกอย่างให้ผม น้องทิพย์ จานีสฟัง ระหว่างที่ร่วมรักอย่างนุ่มนวลกับเด็กสาวทั้งสามในอ่างอาบน้ำใหญ่ของนิวา ศมังกร ทำให้ผมได้รู้ว่าสิ่งที่จานีสเคยบอกเล่าเกี่ยวกับเซี่ยวเล้งนั้นเป็นความ จริงทุกประการ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างถังฮวงผู้เป็นบิดาและถังหลินพี่ชายต่างมารดา ที่เมื่อทั้งสองได้พบกับความงามของเซี่ยวเล้งเป้นครั้งแรกก็ถึงกับตกตะลึง และในคืนแรกที่เซี่ยวเล้งมาถึงตำหนักมังกรฟ้า ทั้งสองก็พยายามหาเด็กสาวพรหมจารีย์คนหนึ่งเตรียมมอบให้จักราศี เพื่อกักตัวเซี่ยวเล้งไว้ปรนเปรอความต้องการทางเพศ แต่จานีสซึ่งขณะนั้นเป็นโหราทาสที่รับบัญชาจากเทพสุรัสวดีให้เดินทางมาพร้อม เทพอารักษ์ของจักรราศี พบเสียก่อนว่าเด็กสาวที่ถูกปลอมแปลงมานั้นหาใช่เซี่ยวเล้งผู้สืบทอดสายเลือด แห่งสำนักมังกรฟ้าไม่ จานีสจึงรีบบุกมาช่วยได้ทันก่อนที่ถังหลินจะสามารถข่มขืนเซี่ยวเล้งได้ไม่ กี่อึดใจ แต่แทนที่เซี่ยวเล้งจะกล่าวโทษถังฮวงและถังหลิน เด็กสาวกลับวิงวอนให้จานีสปกปิดความผิดของทั้งสองเอาไว้และรีบเดินทางไปยัง แชงกรีล่าพร้อมจานีสทันที ซึ่งเซี่ยวเล้งอธิบายให้ผมฟังว่าแม้จะเคียดแค้นต่อถังฮวงและถังหลินเพียงใด แต่ด้วยการอบรมที่เข้มงวดจากมารดาที่ยึดถือขนบประเพณีโบราณอย่างเคร่งครัด ทำให้เซี่ยวเล้งไม่สามารถให้ร้ายผู้เป็นบิดาได้แม้ส่วนลึกของจิตใจเด็กสาวจะ ไม่มีความผูกพันใดๆ กับถังฮวงแม้แต่น้อยก็ตาม ตลอดเวลาที่เซี่ยวเล้งระบายความในใจ ผมประคองกอดร่างงามนั้นไว้แนบแน่นและปลอบประโลมจิตใจร่างกายของเซี่ยวเล้ง ด้วยความทะนุถนอมพร้อมกับจานีสและน้องทิพย์ ที่คอยให้กำลังใจและยืนยันที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเซี่ยวเล้งตลอดไป จนในที่สุดธิดามังกรฟ้าที่โดดเดี่ยวเดียวดายก็สูญสิ้นไปจากจิตใจเด็กสาว พร้อมกับการเข้ามาของสามีและเพื่อนในชีวิต ทำให้ผมได้เห็นความร่าเริงแจ่มใสเยี่ยงเด็กสาวธรรมดาจากเซี่ยวเล้งเป็นครั้ง แรก

‘ไม่เอาแล้ว น้องทิพย์สอนจานีสต่อเถอะ เซี่ยวเล้งจะขึ้นแล้วล่ะ..’
‘จะขึ้นไปหาพี่เอล่ะสิ พี่เซี่ยวเล้ง ระวังนะเดี๋ยวพี่เอจับเย็ดอีก ทิพย์ไม่ช่วยด้วยนะเออ..’
‘บ้า..ทิพย์เนี่ย..’

เซี่ยวเล้งค้อนน้องทิพย์แวบหนึ่ง ก่อนก้าวตรงมาที่บันไดสระน้ำซึ่งผมนั่งพักอยู่ แล้วดึงร่างขึ้นจากสระน้ำ พร้อมส่งจิตทักทายผม

‘พี่เอนอนสบายเลย ไม่มาว่ายน้ำกับพวกเซี่ยวเล้งเหรอ’

ผมยิ้มให้เซี่ยวเล้งแต่ก่อนที่ผมจะส่งจิตตอบ ภาพของเด็กสาวแรกรุ่นในชุดบิกินี่สีขาวชุ่มน้ำที่เพิ่งขึ้นจากสระก็ทำให้ผม ต้องชะงักการส่งจิตออกไปในทันที

ใบหน้ารูปไข่งดงามของเซี่ยวเล้ง โดดเด่นจาการรวบเรือนผมยาวสลวยไปไว้ด้านหลัง อวดหน้าผากกลมนูนและรอยยิ้มแจ่มใสที่เพิ่มความน่ารักให้ดึงสายตาทุกคู่ แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของผมมากที่สุดกลับเป็นทรวงอกครัดเคร่งที่เบียด แน่นอยู่ในบิกินี่ท่อนบนที่เคยเป็นของน้องกิฟท์ผู้มีเรือนกายบอบบาง ซึ่งเมื่อถูกสวมใส่บนร่างเซี่ยวเล้งที่ร่างกายเติบโตเต็มสาว ทำให้นวลเนื้อเต่งตึงถูกบีบอัดจนชุดว่ายน้ำแทบปริขาดจากกัน ความบางเบาของเนื้อผ้าสีขาวที่เปียกน้ำทำให้ยอดอกสีชมพูเข้มปรากฏให้เห็น เป็นรูปร่างอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงหรือสีของป้านวงกลมสีชมพูอ่อนรอบเม็ดยอด ต่ำลงไปเป็นเอวคอดกิ่วที่ผายออกตามแนวสะโพกอวบกลมกลึง และเมื่อเซี่ยวเล้งก้าวขาข้างหนึ่งขึ้นมาจากสระน้ำ เนื้อผ้าของบิกินี่ท่อนล่างก็เบียดแทรกเข้าไปในร่องรัก อวดความอวบนูนและสองแคมเปล่งปลั่งที่ประดับด้วยเส้นไหมนุ่มนวลต่อสายตาผม ทั้งหมด ภาพอดีตเทวะนารีผู้อยู่เหนือโลกกีย์วิสัยที่กลับอวดเรือนร่างแทบเปลือย เปล่าต่อหน้า ทำให้แท่งเนื้อของผมขยายตัวในทันที แต่ก่อนที่ผมจะส่งจิตตอบรับเซี่ยวเล้ง จิตที่แจ่มใสของจานีสก็ดังขึ้น

‘เซี่ยวเล้งรอจานีสด้วย…จานีสก็จะขึ้นล่ะ เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว’
‘พี่จานีสส่งมือมา เซี่ยวเล้งจะช่วยดึงนะ’

ร่างงามของเซี่ยวเล้งหันกลับไปหาจานีสที่เคลื่อนร่างตรงเข้ามา แล้วก้มตัวลงยืนมือให้จานีส ทำให้สะโพกอวบของเซี่ยวเล้งและเนินรักด้านหลังอวดความตึงเต่งที่ยิ่งเพิ่ม ความแข็งให้แก่นกายผมมากขึ้นไปอีก ผมพยายามสะกดใจและหันไปสนใจกับร่างจานีสที่ถูกเซี่ยวเล้งฉุดขึ้นมา แต่แทนที่อารมณ์ผมจะผ่อนคลายลง ผมกลับต้องกลั้นหายใจกับภาพของจานีสที่กำลังขึ้นจากน้ำในชุดว่ายน้ำสองชิ้น ของน้องรินไม่ได้

ชุดว่ายน้ำเหลืองสดที่จานีสสวมใส่อยู่ เป็นชุดที่ผมซื้อให้น้องรินเพื่อหยอกล้อโดยไม่ได้ตั้งใจให้สวมใส่จริงจัง เพราะมันเป็นชุดแบบสายคาดที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดปลายยอดอกเอาไว้ พร้อมกับผ้าสามเหลี่ยมชิ้นจิ๋วที่ห่อหุ้มเนินรักเบื้องล่าง นอกจากนั้นไม่มีเนื้อผ้าใดๆ อีกเลยนอกจากเส้นเชือกที่โยงผ้าชิ้นน้อยทั้งสองไว้กับร่างกาย ซึ่งในทันทีที่จานีสก้าวขาข้างหนึ่งขึ้นมาจากขอบสระ ผ้าชิ้นล่างก็บิดออกจากตำแหน่งเผยให้เห็นเนินรักอิ่มอูมที่ปกคลุมด้วยไรขน บางเบาอย่างชัดเจนแวบหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาปิดเนินรักไว้อีกครั้งจานีสก้าวขึ้นมายืนบนขอบสระได้ทั้งสอง ขา แล้วเดินเข้าหาผมพร้อมเซี่ยวเล้งพร้อมส่งจิตทักทาย

‘พี่เอ..ที่เชียงใหม่มีสระน้ำในบ้านพี่เอหรือเปล่า จานีสคิดว่าชอบว่ายน้ำแล้วล่ะ’

ความงามของเด็กสาวสองวัยที่ประชันกันในชุดว่ายน้ำที่เปิดเผยร่างกายเต่งตึง ของวัยสาวแทบทุกสัดส่วน ร่างเด็กสาววัย 17 ปีที่ปราศจากตำหนิบนผิวขาวเป็นประกายราวไข่มุก ตัดกับผิวสีน้ำผึ้งละเอียดเนียนของจานีสผู้กลับร่างมาเป็นเด็กหญิงวัย 14 ที่เต่งตึงราวกับจะปริแตกออกได้เมื่อสัมผัส ทำให้ผมไม่สามารถระงับความต้องการของร่างกายไว้ได้อีกต่อไป ทันทีที่เรือนกายกึ่งเปลือยของเด็กสาวทั้งสองมาถึงเก้าอี้ที่ผมนอนพักอยู่ ผมก็ผุดลุกขึ้นแล้วคว้ามือของทั้งสองดึงร่างงามเข้ามาล้มลงในอ้อมอกผม ทำให้จานีสและเซี่ยวเล้งส่งเสียงอุทานออกมาพร้อมๆ กัน

‘อุ๊ย..’
‘ว๊ายพี่เอ..ทำอะไรน่ะ…’

ผมซุกหน้าลงกับหน้าอกอวบอิ่มของเซี่ยวเล้ง ขณะที่สองมือกอดกระชับจานีสและเซี่ยวเล้งเข้ามาเบียดแน่นกับร่างกายผม

‘`เซี่ยงเล้งกับจานีสสวยขนาดนี้ ใครจะทนได้ล่ะ’

ผมส่งจิตกับเด็กสาวทั้งสอง ขณะใบหน้าดุนดันอยู่กับเต้านมเต็มสาวของเซี่ยวเล้งที่ถูกจมูกผมดันเนื้อผ้า บิกินี่ให้เปิดออก จนผมสามารถสูดดมความหอมของเนินอกและสัมผัสหัวนมสีชมพูเม็ดงามที่กำลังเริ่ม แข็งตัวจากการสัมผัสด้วยลิ้น ทำให้ร่างเซี่ยวเล้งที่พยายามดิ้นรนออกจาการกอดรัดในตอนแรกเริ่มอ่อนระทวยลง ทีละน้อย เช่นเดียวกับร่างจานีสที่ถูกผมแทรกมือรั้งสายบิกินี่ที่ปกปิดเนินนูนอวบอิ่ม เบื้องล่างและคลึงเคล้นสองแคมรักจนจานีสต้องแอ่นเนินรักเข้าบดอัดมือผมพร้อม กับน้ำทิพย์ที่เริ่มเอ่อซึมออกมาไม่ขาดระยะ

‘โอย…พี่เอ เซี่ยวเล้งเสียว…นี่เซี่ยวเล้งเป็นอะไรไป ทำไมพอถูกพี่เอสัมผัสร่างกายของเซี่ยวเล้งดูเหมือนจะพร้อมรับให้พี่เอเย็ด ทุกที…อูย…ยะอย่า…อย่าถอด…พี่เอ…นี่มันกลางแจ้งนะ…’

เซี่ยวเล้งครางออกมาและพยายามบอกให้ผมหยุด เมื่อมือผมเลื่อนไปดันบิกินี่ท่อนบนให้ถลกขึ้นไปจากทรวงอกอิ่ม จนเต้าเต่งทั้งสองหลุดจากการห่อหุ้มอวดความสมบูรณ์โดยปราศจากสิ่งปิดกั้น เม็ดยอดสีชมพูทั้งสองสั่นระริกแข็งตัวชูชันราวกับจะเรียกร้องให้ผมดอมดมไม่ รู้เบื่อ

‘จะ จานีส..ก็เสียวเหลือเกิน…ร่างกายจานีสก็เหมือนเซี่ยวเล้ง…พอถูกพี่เอ สัมผัส หีจานีสก็ปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาเป็นสายทันที ..อาวห์…พี่เอ…อูย นิ้วพี่เอเข้าไปลึกจัง…’

ผมเล้าโลมและกระตุ้นเรือนร่างเซี่ยวเล้งและจานีสพร้อมกันด้วยความปรารถนาที่ พุ่งขึ้นโดยไม่คำนึงว่ากำลังอยู่ในสถานที่เปิดโล่ง เพราะผมรู้ดีว่าม่านไม้เลื้อยที่ปลุกเป็นผนังรอบสระน้ำสามารถป้องกันสายตาคน ภายนอกได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในอดีตที่ผมอยู่ที่พร้อมน้องรินและน้องกิฟท์ เก้าอี้ริมสระน้ำตัวนี้ก็เป็นสถานที่ที่ผมร่วมกรักกับทั้งสองมานับครั้งไม่ ถ้วน แต่อย่างไรก็ตามเสียงคราญครางของเซี่ยวเล้งและจานีสที่บอกถึงร่างกายซึ่ง พร้อมรับการร่วมรักในทันทีที่ได้สัมผัสกับผม ทำให้ผมเองก็อดประหลาดใจไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่าหลังจากการรับวารีนาคราชและพลังชีวิตจากผลึกมังกรจนทำให้ ปราณในร่างผมทวีความเข้มแข็งขึ้นจนแทบอยู่ในระดับเดียวกับเหล่าเทวะนารีแห่ง จักราศี ความต้องการทางเพศของผมก็ยกระดับเพิ่มขึ้นเช่นกันจนไม่สามารถอดกลั้นกับความ งามของเซี่ยวเล้งและจานีสได้ แต่ก่อนที่ผมจะเริ่มรุกคืบหน้ากับเด็กสาวทั้งสอง แก่นกายผมก็สัมผัสความอบอุ่นที่นุ่มนวลพร้อมจิตน้องทิพย์ที่แทรกเข้ามา

‘เผลอเดี๋ยวเดียว…พี่เอจะเย็ดพี่เซี่ยวเล้งกับพี่จานีสอีกแล้ว…แต่ทิพย์ขอชิมพี่เอก่อนล่ะ..’

ความอบอุ่นนุ่มนวลที่ครอบแก่นกายผมอยู่พร้อมกับสัมผัสของลิ้นเรียวเล็กซึ่ง กำลัง เกลี่ยวนรอบหัวบานที่ไวต่อความรู้สึก ทำให้ผมรู้ทันทีว่าน้องทิพย์กำลังใช้ปากน้อยๆ ให้ความสุขกับผม ขณะที่ผมกำลังร่างกายเบียดอัดกับความนุ่มเนียนของจานีสและเซี่ยวเล้งที่ขนาบ อยู่ทั้งสองข้าง มือน้อยๆของน้องทิพย์กระชับโคนแท่งเนื้อที่ชูชันไว้ ขณะศีรษะของเด็กหญิงโยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ริมฝีปากเรียวบางที่อ้าออกรับท่อนลำของผมบีบรัดลำเนื้อไว้แน่นราวกับร่องรัก ของน้องทิพย์เอง เมื่อประกอบกับการกระตุ้นของลิ้นที่ส่วนหัวจึงทำให้ความเสียวพุ่งพรวดขึ้นมา ในเวลาอันสั้นจนแทบระเบิดออกมา

‘อูย น้องทิพย์..พี่ เสียว..จะ จะ ไม่ไหวอยู่แล้วนะ…’

‘พี่เอไม่ต้องกลั้นหรอก ควยพี่เอแข็งได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ขอน้ำรักให้ทิพย์ชิมรสของมันเถอะนะ..’

‘อูว์..ทิพย์ ทิพย์ พี่ มะ มาแล้ว…’

ความ เสียวจากการดูดกลืนและโลมไล้ท่อนลำด้วยปากของน้องทิพย์ทะลักพรวดมาถึงปลาย หัวบาน จนผมต้องเกร็งท้องน้อยแล้วระเบิดน้ำรักพุ่งทะลักเข้าไปในปากน้องทิพย์ แต่แทนที่น้องทิพย์จะบ้วนมันทิ้งไปเด็กสาวกลับตั้งใจดูดกลืนน้ำรักทุกหยาด หยดจากแก่นเนื้อที่กระตุกเป็นจังหวะถี่ๆ จนกระทั้งหยดสุดท้ายถูกรีดออกไป

‘ดีใจจัง นี่เป็นครั้งแรกที่ทิพย์ได้ชิมน้ำรักของพี่เอ…’

น้องทิพย์ส่งจิตขึ้นมาให้ผม ขณะค่อยๆ ปล่อยแท่งเนื้อออกจากปากอย่างทะนุถนอม ความชำนาญในการใช้ปากของน้องทิพย์ทำให้ผมแปลกใจในครั้งแรก แต่ก็ระลึกขึ้นมาได้ว่าร่างเด็กสาวแรกแย้มวัย 12 ที่กำลังเคลื่อนร่างขึ้นมาเบียดแทรกระหว่างเซี่ยวเล้งกับจานีสนี้ แท้จริงแล้วคือเด็กหญิงที่มีจิตและประสบการณ์ทางเพศของเด็กสาววัย 19 ที่แคยต้องทนทุกข์ทรมาณอยู่ในซ่องของสำนักมังกรฟ้ากว่า 2 ปี และถูกบังคับให้ปรนเปรอชายที่มาซื้อบริการทุกรูปแบบ แม้สิ่งเหล่านั้นจะไม่เคยเกิดขึ้นในห้วงเวลาปัจจุบันที่ผมได้เข้าเปลี่ยน แปลงอดีต ไปแล้ว แต่ประสบการณ์ในเกมส์รักในจิตของน้องทิพย์ก็ยังคงอยู่โดยไม่ได้ลบเลือนไป

‘พี่เอชอบไหม…ถ้าพี่เอชอบทิพย์จะใช้ปากให้พี่เอมีความสุขทุกเวลาตามแต่พี่เอต้องการนะ’

ผม คลายมือจาการเล้าโลมเซี่ยวเล้งและจานีสเพื่อดึงร่างน้องทิพย์ที่ยังคงอยู่ใน ชุดว่ายน้ำขึ้นมาแทรกอยู่บนอกระหว่างเซี่ยวเล้งและจานีส ก่อนส่งจิตตอบอย่างอ่อนโยน

‘ชอบสิ น้องทิพย์เก่งจนทำให้พี่กลั้นไม่ได้เลยรู้ไหม พี่จะตอบแทนน้องทิพย์บ้างล่ะ’

‘งั้นพี่เอเย็ดทิพย์ก่อนเลย..เซี่ยวเล้งจะช่วยดีไหม’

‘เอาเลยพี่เอ..จานีสจะถอดชุดน้องทิพย์ให้’

เซี่ยวเล้งกับจานีสส่งจิตมาพร้อมกัน จานีสลุกขึ้นนั่งแล้วเกี่ยวสายชุดว่ายน้ำของน้องทิพย์ออกจากไหล่และดึงลงไป เบื้องล่างจนหน้าอกเล็กกระทัดรัดของน้องทิพย์ชูช่อเต็มตาอยู่เบื้องหน้าผม แต่ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปสัมผัสความเต่งตึงของนมคู่น้อย เก้าอี้สนามที่รับน้ำหนักของคน 4 คนพร้อมกันก็ส่งเสียงลั่นออกมาราวกับจะหักได้ในทุกวินาที ทำให้ผมต้องกางแขนออกรวบร่างงามของเมียรักทั้งสามไว้ในอ้อมแขนก่อนผนึกปราณ ขึ้นในร่าง แล้วลอยตัวขึ้นสาดพุ่งไปยังบานประตูห้องรับแขกที่เปิดกว้างเพื่อเข้าไปภายใน และเบี่ยงร่างลอยไปยังห้องนอนใหญ่ของผม ก่อนทิ้งร่างที่มีเด็กสาวทั้งสามในวงแขนลงบนฟูกหนานุ่มและปล่อยทุกคนให้นอน เรียงรายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่กว้างกว่า 8 ฟุต ที่ผมสั่งต่อเป็นพิเศษเพื่อใช้เป็นวิมานรักของผมกับน้องรินและน้องกิฟท์ และบัดนี้กำลังจะกลายเป็นสนามรักของเมียรักทั้งสามที่ผมเพิ่งรับเข้ามาร่วม ชีวิต

ผมขยับร่างลุกขึ้นนั่งบนเตียงเพื่อซึมรับภาพความงามของเด็กสาวสามวัยที่ เรียงรายกันอยู่บนเตียงด้วยหัวใจอิ่มเอม เซี่ยวเล้งที่นอนอยู่ซ้ายสุดยังคงเปลือยท่อนบนอล่างจากการเล้าโลมของผมเมื่อ ครู่ที่ผ่านมา ทรวงอกเต็มสาวอวดความสมบูรณ์เต่งตึงต่อสายตาผมโดยที่เซี่ยวเล้งไม่ได้ปิด ป้อง ดวงตายาวเรียวสุกใสจับจ้องผมด้วยความรักและบอกให้รู้ว่า เต็มใจที่จะตอบสนองความต้องการของผมทุกประการ ตรงกลางเป็นร่างของน้องทิพย์ที่อยู่ในชุดว่ายน้ำชิ้นเดียวสีดำของน้องริน ซึ่งดูจะเหมาะกับรูปร่างเด็กหญิงวัย 12 ของน้องทิพย์มากกว่าชุดบิกินี่ นมคู่น้อยที่เพิ่งตั้งเต้าถูกชุดว่ายน้ำรัดไว้จนปรากฏเป็นเพียงเนินน้อยๆ แต่ความอวบอิ่มของเนินรักที่นูนเด่นเกินวัยก็ดันเนื้อผ้าเป็นรูปร่างชัดเจน แม้กระทั่งรอยแยกระหว่างสองแคมที่แสนรัดรึง ใบหน้าหวานน่ารักของน้องทิพย์ยิ้มพรายเมื่อพบว่าสายตาผมจับจ้องเนินรักนั้น ด้วยเพลิงรักที่ใกล้ระเบิดออก ขวาสุดเป็นร่างในชุดว่ายน้ำแบบเชือกของจานีส ซึ่งแทบจะปกปิดทรวงอกกลมกลึงและโหนกนูนของความเป็นหญิงไม่ได้ ลำขาอวบของจานีสบิดไขว้กันใบหน้าน่ารักแดงฉานราวกับอดีตโหราทาสที่กลับร่าง มาเป็นเด็กสาววัย 14 ผู้นี้จะเขินอายที่ต้องเปิดเผยเรือนร่าง ให้ผมเห็น แต่เด็กหญิงก็ไม่ได้ปิดป้องความลับของสตรีจากสายตาผมแต่อย่างใด

ผมสูดลมหายใจผนึกปราณระเบิดเสื้อผ้าทุกชิ้นสลายออกจากร่าง เผยให้เด็กสาวทั้งสามเห็นร่างเปลือยที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและแก่นกายความ ยาวกว่า 7 นิ้วที่กำลังแข็งตัวเต็มที่จนยกตัวตั้งฉากกับพื้นเตียง

‘พี่จะเริ่มที่ใครดีนะ…น้องทิพย์ดีไหม’

ผมส่งจิตไปยังกลุ่มเมียรักเบื้องหน้าพร้อมขยับร่างเตรียมโถมลงทาบทับร่างบอบ บางของน้องทิพย์ที่อยู่ตรงกลาง แต่น้องทิพย์กลับหัวเราะกิ๊ก แล้วพลิกร่างไปกอดจานีสทางด้านขวาไว้ ก่อนส่งจิตตอบผม

‘ทิพย์มีสัญญากับพี่จานีส…สงสัยพี่เอต้องเริ่มกับพี่เซี่ยวเล้งก่อนแล้วล่ะ’

‘มะ มะ ไม่เอานะ น้องทิพย์โกงนี่นา เมื่อกี้พี่เอบอกที่สระน้ำว่าจะเย็ดน้องทิพย์ก่อนนี่นา… อุ๊ย..’

เซี่ยวเล้งส่งจิตอุทธรณ์ราวกับจะประทวงน้องทิพย์พร้อมผุดร่างขึ้นนั่งทันที แต่ก็ต้องร้องอุทานออกมาเมื่อผมโน้มตัวไปทับให้ร่างงามกลับลงไปนอนโดยมีผมกด ทับอยู่ด้านบน พร้อมจูบริมฝีปากอิ่มเป็นสัญญาณว่าผมจะปฏิบัติตามความต้องการของน้องทิพย์..

‘พี่เอ…อืมห์…’

เซี่ยวเล้งส่งจิตครางออกมาเมื่อผมแทรกลิ้นเข้าไปล้มรสความหอมหวานจากปาก น้อยๆ ที่กำลังส่งลิ้นมาเกี่ยวกระหวัด ดวงตาที่เบิกโพลงเมื่อผมเริ่มทาบทับกลับหรี่ปรือลงพร้อมกับยกลำแขนมากอดคอผม ไว้ หน้าอกผมแนบแน่นกับนมคู่งามที่พยายามใช้ความตึงเต่งต่อต้านการกดทับแต่ก็ ต้องยอมแพ้เมื่อผมสอดมือไปลูบไล้หัวนมเม็ดงามจนแข็งตัวสู้การสัมผัส

‘พี่เย็ดเซี่ยวเล้งมา 2 ครั้งแล้วแต่ยังไม่ได้ชิมเซี่ยวเล้งของพี่เลย…พี่ขออนุญาตท่านเทวะนารีนะ..’

ผมส่งจิตไปยังเซี่ยวเล้งที่กำลังบิดส่ายทรวงอกกับแผ่นอกของผมด้วยอารมณ์รัก ที่กำลังพุ่งพล่าน แต่เด็กสาวก็ยังสามารถรวมจิตตอบผมอย่างกระท่อนกระแท่น

‘พะ พะ พี่เอ เรียกชื่อนั้นเซี่ยวเล้งทำไม..แล้วพี่เอจะชิมอะไร ว๊าย..อย่า..พี่เอ…’

จิตเซี่ยวเล้งร้องระล่ำละลัก เมื่อผมถอนจูบแล้วเลื่อนตัวปราดลงมาตามร่างกายขาวละเอียดนุ่มเนียนผ่านลาน หน้าท้องเรียบตึงมาถึงขอบบิกินี่สีขาว พร้อมกับเกี่ยวมันด้วยนิ้วลากลงมาค้างอยู่ที่หน้าขาอ่อนอวบอย่างรวดเร็วจน เซี่ยวเล้งไม่ทันขัดขืนและต้องร้องออกมาเมื่อผมฝังใบหน้าลงระหว่างสองแคมอวบ อิ่มที่กำลังเยืองนองไป ด้วยน้ำรักแรกสาวกลิ่นหอมอบอวลที่ระคนกลิ่นคาวน้อยๆของร่องรักกระจายขึ้น มากระทบ จมูกกระตุ้นอารมณ์รักผมให้พลุ่งพล่านและอดใจไม่ได้ที่จะต้องส่งลิ้นแทรกเข้า ไปชิมความหอมหวานของเซี่ยวเล้ง

‘รสของเซี่ยวเล้วหอมแบบนี้เอง…อย่างนี้พี่คงต้องชิมบ่อยๆ แล้วล่ะ’

‘พะ พี่เอ มันสกปรก..อย่า…โอย อย่าเน้นตรงนั้น เซี่ยวเล้ง สะ เสียว…อื๋ยส์’

ทันทีที่ลิ้นผมฉกวูบลงไปที่เม็ดเสียวเหนือแคมอวบอิ่ม ร่างเซี่ยวเล้งก็กระตุกเฮือกสองมือไขว่คว้าเส้นผมของผมแล้วจิกแน่น พร้อมส่งจิตห้ามราวกับพยายามจะดึงศีรษะผมออกจากเนินรัก แต่เมื่อผมเร่งใช้ลิ้นกระตุ้นจุดสำคัญถี่ๆ มือนั้นก็กลับกดศีรษะผมให้ฝังแน่นลงกับร่องรัก ขณะสองขาอ่อนอวบงามบอกส่ายไปมาอย่างไร้ทิศทาง

‘พี่เอ..พี่เอ..ยะ เย็ดเซี่ยวเล้งเร็วเข้า..เซี่ยวเล้งไม่ไหวแล้ว…’

จิตเซี่ยวเล้งร้องขอการร่วมรักด้วยสำเนียงสั่นสะท้าน ทำให้ผมจำใจต้องละการลิ้มรสความหอมหวานและเลื่อนตัวขึ้นนั่งคุกเข่าระหว่าง สองขาที่แยกออกว้าง เนินรักอูมอิ่มเปียกโชกไปด้วยน้ำรักจนเส้นไหมบางเบาเอนราบลงกับสองแคม ผมดึงแก่นกายที่แข็งจนแทบระเบิดขึ้นมาจ่อระหว่างสองแคมแล้วกดมันจมวูบลงไปใน ความบีบรัดของกลีบเนื้อเบื้องหน้า ที่แม้จะผ่านการร่วมรักมาสองครั้งและหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาเป็นสาย แต่แรงบีดรัดของสองแคมก็ยังคงบดผนังหลืบรักทุกส่วนกับลึงค์ผมแน่นจนแทบฝ่าลง ไปไม่ได้

‘มะ มาแล้ว…ควยพี่เอแน่นไปหมดเลย…อูว์..พี่เอค่อยๆ ก่อนนะ…เซี่ยวเล้งยังไม่…อ๊ายส์’

จิตเซี่ยวเล้งครางออกมาเมื่อส่วนหัวของลำลึงค์ผมถูกบีบรัดแน่นสนิทจนความ เสียวพุ่งพรวด ทำให้ผมต้องสูดลมหายใจยาวแล้วกดแท่งเนื้อทั้งหมดลงไปฝังตัวในหลืบรักในคราว เดียว

‘หีเซี่ยวเล้งก็ทั้งคับทั้งดูด…ถ้าพี่ช้าอยู่คงต้องทะลักก่อนที่จะได้เย็ดแน่ๆ’

‘โอย พี่เอ… นี่พี่เอทำให้เซี่ยวเล้งกลายเป็นหญิงร่านราคะไปแล้วรู้ไหม…อ๊าวส์… เซี่ยวเล้งไม่นึกเลยว่าการเย็ดจะทำให้มีความสุขและเสียวถึงขนาดนี้…’

‘เซี่ยวเล้งอย่าคิดว่าตัวเองเป็นหญิงร่านราคะเลย ธรรมชาติให้ความต้องการแก่มนุษย์ การร่วมรักเป็นการรวมร่างกายและจิตใจเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ใช่สิ่งที่ผิดเลยแม้แต่น้อย เซี่ยวเล้งอย่านำวิถีพรหมจารีย์ที่ฝืนธรรมชาติของจักรราศีมาใช้กับชีวิตใหม่ ที่กำลังรอเซี่ยวเล้งอยู่ จะ จะ จานีส เองก็ได้รับรู้ถึงความสุขนี้…โอ๊วส์ น้องทิพย์ จานีส..กะ ใกล้แล้ว …อ๊ายส์’

จิตของจานีสส่งแทรกจิตของเซี่ยวเล้งทันทีเมื่อได้รับรู้ ว่าเซี่ยวเล้งกำลังคิดว่าตนเองเป็นหญิงร่านราคะ ทำให้ผมต้องหันความสนใจจากกระเด้าแก่นกายในหลืบรักเซี่ยวเล้ง ไปยังภาพร่างปลือยเปล่าที่ปราศจากชุดว่ายน้ำของจานีสและน้องทิพย์ที่กำลัง ใช้ลิ้นปลุกเร้าอารมณ์ให้กันและกันในท่วงท่าตะแคงข้าง ใบหน้าจานีสฝังที่อยู่ระหว่างขาอ่อนเรียวยาวของน้องทิพย์หันมาทางผม ขณะพยายามส่งกระแสจิตอธิบายให้เซี่ยวเล้งคลายกังวล แต่ความเสียวจากลิ้นน้องทิพย์ก็ทำให้จานีสต้องหยุดกระแสจิตไว้ ขณะร่างอวบอิ่มสีน้ำผึ้งกระตุกระริกเมื่อความเสียวมาถึงจุดสุดยอด

‘พี่จานีส…ทิพย์ …ก็ …กะ ใกล้แล้ว…โอย….มาแล้ว….’

ร่างเด็กสาวสองวัยสั่นกระตุกด้วยความเสียวสุดยอดเกือบจะพร้อมๆ กัน เสียงครวญครางที่รอดออกมาจากลำคอของจานีสและน้องทิพย์ยิ่งทำให้อารมณ์รักผม คุโชน สองแขนผมกระชับต้นขาอ่อนอวบแน่นของเซี่ยวเล้งไว้กับเอว แล้วกระเด้าส่งแท่งเนื้อผลุบเข้าออกเนินรักที่นองไปด้วยน้ำหล่อลื่นของอดีต ธิดามังกรฟ้าโดยไม่ยั้งความเร็วอีกต่อไป หัวเหน่าผมกระแทกเนินอวบที่ส่งแรงสะท้อนกลับมาทุกครั้ง ใบหน้างามของเซี่ยวเล้งบิดส้ายไปมาด้วยความเสียวซ่าน สองขาโอบรอบเอวผมและเหนี่ยวเข้าหาตัวเป็นจังหวะตามการเคลื่อนไหวของแก่นกาย ผมก้มหน้าดูภาพแก่นกายที่ฝ่ากลีบเนื้อเข้าออกจนหลืบเนื้อสีชมพูจัดปลิ้น ตามอออกมาด้วยความภูมิใจที่ได้มีโอกาสครอบครองเด็กสาวผู้งดงามคนนี้

‘พี่เอจ๋า…เร่งอีก ๆ เซี่ยวเล้งจะไม่ไหวแล้ว…ว๊าย..เอามันออกไปทำไม….’

เซี่ยวเล้งครวญครางด้วยความเสียวที่ใกลุถึงจุดหมาย แต่กลับร้องออกมาเมื่อพบว่าแทนที่ผมจะเร่งกระเด้าพาเด็กสาวแรกรู้รสรักผู้ นี้ไปสู่จุดหมาย ผมกลับกระชากแก่นกายออกจากร่องรักทั้งหมด แล้วพลิกร่างเซี่ยวเล้งให้นอนคว่ำลงกับพื้นเตียง ก่อนยกสะโพกอวบกลมขึ้นสูงจนพลูเนื้อทั้งหมดเผยตัวอยู่เบื้องหน้า

‘เซี่ยวเล้งของพี่…ธิดามังกรฟ้าควรจะรับรสรักในท่ามังกรหมอบเอาไว้นะ…’

‘มังกรหมอบอะไรพี่เอ…ว๊าย…โอ๊ย…มัน…มันลึกที่สุดเลย….’

เซี่ยวเล้งส่งจิตถามผมด้วยความสงสัยกับความหมายของคำว่ามังกรหมอบ แต่เมื่อผมจ่อลึลึงค์ยาวเหยียดเข้ากับร่องรักทางด้านหลังแล้วกดมันเข้าไปรวด เดียวจนสุดทาง เด็กสาวก็ต้องร้องครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้และไม่จำเป็นที่ผมจะต้องอธิบาย ความหมายของ “มังกรหมอบ” ให้เซี่ยวเล้งรู้อีกต่อไป สองแขนผมเหนี่ยวเอวคอดกิ่วของเซี่ยวเล้งเอาไว้ ก่อนกระเด้าอัดสะโพกเต่งตึงถี่ยิบ ทำให้เซี่ยวเล้งต้องยันกายขึ้นมาเพื่อใช้สองมือยันร่างตนเองกระเด้งตอบการ กระเด้าของผมทางเบื้องหลัง

‘อูว์… พี่เอ..ท่ามังกร…มังกรหมอบแบบนี้…ควยพี่เอกระแทกมดลูกเซี่ยวเล้งแล้ว…อ๊าย…’

‘ท่านี้หีเซี่ยวเล้งก็ดูดควยพี่แน่นหนึบเลย…เซี่ยวเล้งชอบไหม’

‘ชะ ชะ ชอบ…เซี่ยวเล้ง..ชะ ชอบ… ว๊าย…มะ ไม่ไหวแล้ว…โอ๊วววววววววว’

‘พี่ พี่ก็…อูว์…’

สะโพกกลมกลึงที่อัดแน่นกับหน้าท้องผมสะท้านเฮือกเมื่อความเสียวสุดยอดมาถึง ร่างงามแอ่นตัวเป็นวงโค้งเมื่อน้ำรักผมฉีกเข้าไปในร่องรักทางด้านหลังเนือง นองจนล้นออกมา ผมฟุบร่างลงแนบแผ่นหลังนวลเนียนที่ทิ้งตัวลงนอนคว่ำกับพื้นพร้อมกัน ขณะที่ปราณในร่างผมหลั่งไหลเข้าประสานกับปราณของเซี่ยวเล้งรอบแล้วรอบเล่าจน เข้าสู่ภาวะสมดุล ก่อนที่จะแยกกลับเข้าสู่ร่างตนเอง

‘พี่เซี่ยวเล้งเจอท่านี้เข้าไปแล้วล่ะพี่จานีส…ท่าทางจะไม่ไหวแล้ว ทำไงดีล่ะ ทิพย์ยังไม่ได้ชิมรสหีของพี่เซี่ยวเล้งเลยนะ’

น้องทิพย์แกล้งส่งจิตกับจานีส แต่ผมรู้ดีว่าความจริงน้องทิพย์ตั้งใจที่จะหยอกล้อเซี่ยวเล้งมากว่า ซึ่งก็ได้ผลเพราะร่างเซี่ยวเล้งที่ยังคงถูกผมทาบทับอยู่ด้านหลังสะดุ้งเฮือก ก่อนหันหน้าไปทางน้องทิพย์แล้วส่งจิตอุทธรณ์

‘น้องทิพย์ เซี่ยวเล้งไม่ไหวแล้วเมื่อกี้เซี่ยวเล้งจะขาดใจกับท่ามังกรหมอบ อย่าเพิ่งรังแกกันเลยสงสารเซี่ยวเล้งนะ’

ผมหันตามสายตาเซี่ยวเล้งไปยังน้องทิพย์ที่หมุนร่างกลับมากอดจานีสอยู่ด้าน ข้าง ใบหน้าที่น่ารักของเด็กหญิงที่ผมเฝ้าติดตามหามาตลอดยิ้มพรายด้วยดวงตาเป็น ประกาย ขณะสบตาเซี่ยวเล้ง โดยไม่รู้ตัวว่าผมกำลังจับจ้องหน้าอกคู่น้อยที่เพิ่งผลิบานและเรือนร่างผอม เพรียวของเด็กหญิงวัย 12 ที่ทุกสัดส่วนเพิ่งเริ่มสะสมเนื้อหนังเพื่อก้าวไปสู่ความเปล่งปลั่งของเด็ก สาว ลำขายาวเรียวตรงที่ดูเก้งก้างราวเด็กผู้ชายแต่เนินรักไร้ขนที่อวบอิ่มเกิน อายุซึ่งโดดเด่นอยู่ที่หน้าขานั้น ทำให้ร่างที่บอบบางนี้กลับมีความงดงามในรูปแบบของความสดใสไร้เดียงสาที่ สามารถกระตุ้นอารมณ์รักได้ไม่ต่างกับเด็กสาวที่เติบโตเต็มวัยเช่นเซี่ยวเล้ง ผมดึงแก่นกายออกจากร่างเซี่ยวเล้งอย่างรวดเร็วพร้อมกับคว้าร่างน้องทิพย์ออก มาจากอ้อมกอดจานีส แล้วพลิกร่างน้องทิพย์ลงนอนคว่ำเคียงคู่กับเซี่ยวเล้ง

‘ว๊าย..พี่เอ…เริ่มเย็ดด้วยท่านี้เลยหรือ ..’

น้องทิพย์อุทานออกมาเมื่อถูกผมจับลงนอนคว่ำและดึงเอวคอดเรียวให้ยกตัวสูง ขึ้น ทำให้น้องทิพย์รับรู้ความต้องการของผมในทันทีและยกสะโพกโก่งขึ้นมาโดยที่ผม ไม่ต้องออกแรงยกช่วยแต่อย่างใด สองแคมสดใสไร้ขนมาบดบังความโหนกนูนของเนินเนื้อเผยตัวอยู่ใต้สะโพก สองขาเรียวที่กางออกเล็กน้อยทำให้รอยแยกสีชมพูสดกลางหลืบรักเผยความงามให้ เห็นเต็มตา ผมขยับร่างเข้าประชิดสะโพกเล็กๆ แล้วจ่อแก่นกายที่ยังคงแข็งตัวเต็มที่แม้จะผ่านการหลั่งน้ำรักให้เซี่ยวเล้ง มาแล้ว เข้าระหว่างกลางสองแคมอวบ ผมออกแรงกดหนักๆจนกลีบแคมที่คับแน่นต้องยอมอ้าออกรับลำลึงค์เข้าไปช้าๆ จนอัดแน่นเข้าไปในหลืบรักเด็กหญิงสุดความยาว

‘อูย..พี่เอ..พี่เอเย็ดทิพย์มาสามครั้งแล้ว แต่ทำไมยังคับแน่นไปหมดแบบนี้ก็ไม่รู้…’

‘น้อง ทิพย์คงต้องพยายามทำหีให้ชินไว้แล้วล่ะ..เพราะภายใต้ปราณของพี่เร่งเร้า หีของน้องทิพย์จะคงรักษาความแน่นหนึบแบบนี้ไปนานเท่านาน ถ้าน้องทิพย์ไม่เชื่อตอนกลับไปถึงเชียงใหม่ก็ถามน้องริน น้องกิฟท์ กับพี่เหมียวดูก็ได้นะ’

‘แล้วพี่เอชอบหีแน่นๆ คับๆ แบบนี้หรือเปล่าล่ะ..ถ้าพี่เอชอบทิพย์ก็จะ…อื๋ย…โอย พี่เออย่าลากควยรูดแตดแบบนั้นสิ…ทิพย์ใจจะขาดอยู่แล้ว…’

น้องทิพย์ ครางออกมาด้วยความเสียวเมื่อผมกระเด้าหลืบรักคับแน่นช้าๆ แต่เน้นความยาวที่ลากออกมาจนเกือบพ้นปากแคม แล้วกดกลับเขาไปใหม่จนสุด ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นหลับตาพริ้มขณะที่ริมฝีปากส่งเสียงหอบกระชั้นด้วยความ เสียว จนผมอดใจไม่ได้ที่จะต้องกระเด้าถี่ขึ้นทีละน้อย พร้อมโน้มร่างไปทาบแผ่นหลังนวลเนียนเพื่อใช้มือเคล้นเต้านมคู่น้อยที่ทิ้ง ตัวเป็นพวงตามแรงดึงดูดโลกในท่าคุกเข่า หัวนมเม็ดน้อยแข็งตัวสู่การสัมผัสอย่างไม่กลัวเกรงขณะน้องทิพย์ก็เริ่มตอบ โต้การกระเด้าของผมด้วยการเด้งสะโพกรับแก่นกายผมอย่างลืมตัว

‘พะ พะ พี่เอ…ระ เร่งเลย…ทิพย์…อูยส์…สะ เสียว …จะ จะ อ๊ายส์….’

ร่องหลืบคับแน่นของน้องทิพย์กระตุกถี่ยิบเมื่อความเสียวสุดยอดมาถึงเด็กหญิง พร้อมกับมดลูกน้อยๆ ที่ส่งแรงขมิบตอดหัวลำลึงค์ของผม จนความเสียวสุขสุดยอดระเบิดเป็นน้ำรักฉีดพุ่งเข้าไปเป็นสาย ร่างบอบบางของน้องทิพย์ทรุดฮวบลงกับพื้นเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่สะโพกที่ถูกสองมือผมประคองอยู่ยังคงยกสูงอัดแน่นอยู่กับแก่นกายผม ปล่อยให้ผมส่งปราณเข้าไปวนเวียนในร่างพร้อมถ่ายทอดความทรงจำระหว่างกัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นเฉพาะกับน้องริน น้องกิฟท์ น้องทิพย์ และน้องพิมเท่านั้น

‘โอยพี่เอ…ท่านี้มันเสียวจริงๆ …มิน่าล่ะพี่เซี่ยวเล้งถึงครางไม่หยุดเลย’

น้องทิพย์ส่งจิตแผ่วเบามาให้ผม ขณะที่การโคจรปราณสิ้นสุดและปราณทั้งสองสายกลับเข้าสู่ร่าง ผมค่อยๆ ถอนแก่นกายออกจากร่องรักแล้วปล่อยมือให้ร่างน้องทิพย์ทิ้งตัวลงไปนอนเคียง ข้างเซี่ยวเล้ง

‘น้องทิพย์นี่ ล้อเซี่ยวเล้งเรื่อยเลย…’

เซี่ยวเล้งยกแขนขึ้นตีสะโพกน้องทิพย์ที่นอนเคียงข้างเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงฉาน ขณะน้องทิพย์หัวเราะออกมาอย่างซุกซนแล้วหันกลับไปอีกด้านซึ่งมีจานีสน อนตะแคงเฝ้าชมการร่วมรักของผมกับน้องทิพย์ด้วยใบหน้าอมยิ้มน้อยๆ

‘พี่จานีสยิ้มอะไร…ถึงตาพี่จานีสแล้วนะ…เอ้ามาคุกเข่าซะดีๆ พี่เอจะได้ใช้ท่าทังกรหมอบกับพี่จานีสด้วย’

จานีสเงยหน้าขึ้นสบตาผมที่กำลังจับจ้องเรือนร่างเปลือยสีน้ำผึ้งด้วยความ ต้องการ ทั้งที่เพิ่งเสร็จจากการร่วมรักกับเซี่ยวเล้งและน้องทิพย์ ใบหน้างดงามของจานีสเปล่งประกายแดงระเรื่อ ก่อนขยับร่างลุกขึ้นมาอยู่ในท่าคุกเข่าและแยกท่อนขาอวบออกจากกันเล็กน้อย จนกลับเนื้ออวบอิ่มเผยความงามให้ผมเห็นโดยไม่ปิดบัง

‘ถ้าพี่เอต้องการ จานีสก็พร้อมที่จะรองรับ..พี่เอเย็ดจานีสเถอะ จานีสต้องการพี่เอเช่นกัน’

พลูเนื้องามที่เผยให้เห็นช่องทางรักผ่านกลีบเนื้อสีชมพูสดที่เยืองนองไปด้วย น้ำหล่อลื่นของจานีส ทำให้แก่นกายผมที่หดตัวลงเล็กน้อยหลังการหลั่งน้ำรักเข้าสู่ร่างน้องทิพย์ กลับแข็งตัวขึ้นมาเต็มที่อีกครั้ง จนผมเองก็อดประหลาดใจไม่ได้กับความต้องการทางเพศที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้น สุด แต่ความยั่วยวนของร่างเปลือยจานีสที่พร้อมรอรับการร่วมรักทำให้ผมไม่สามารถ ครุ่นคิดได้อีกต่อไป แต่แทนที่ผมจะกดแก่นเนื้อเข้าไปสู่ร่องรักจานีสในท่าคุกเข่า ผมกลับพลิกร่างทิ้งตัวลงนอนหงายข้างน้องทิพย์ แล้วกอดร่างจานีสที่แสดงท่าทีแปลกใจให้เคลื่อนขึ้นมาอยู่บนกายผมในท่านั่ง

‘สำหรับจานีส พี่ขอเป็นหงส์เหินร่อนแทนมังกรหมอบนะ..’

‘หงส์อะไรกันพี่เอ…อุ๊ย…นี่ นี่ พี่เอจะ. อื๋ย..’

จานีสครางออกมาเมื่อผมผนึกปราณยกร่างอวบอิ่มของอดีตโหราทาสที่กลับมาเป็น เด็ก สาวแรกแย้มวัย 14 ขึ้นสูงจากหน้าท้อง แล้วหย่อนร่างอวบอิ่มลงมาในตำแหน่งที่สองแคมอวบจ่อกับปลายหัวบานของลำลึงค์ ผมที่ชูชันเต็มที่เบื้องล่าง ก่อนถอนพลังปล่อยให้น้ำหนักตัวของเด็กสาวทำหน้าที่แหวกกลีบเนื้อของตนเองรับ การบุกรุกของแท่งเนื้อ กลีบเนื้อนุ่มนวลภายในร่างจานีสหุ้มกระชับลำลึงค์ไว้แน่นขณะมันเคลื่อนผ่าน ไปจนสุดปลายหลืบรักในคราวเดียว

‘โอ๊ว..พี่เอ…ควยพี่เอมันยันมาถึงหน้าท้องจานีสแล้วนะ…’

จานีสครางออกมาด้วยความคับแน่นที่อัดอยู่ภายในร่างระคนกับความเสียวที่เกิด ขึ้น ผมเอื้อมมือไปจับเอวคอดกิ่วของจานีสไว้แล้วผนึกปราณยกร่างอวบอิ่มขึ้นไปเล็ก น้อยแล้วปล่อยกลับลงมา แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะทางให้มากขึ้นทีละน้อยท่ามกลางเสียงสูดปากของจานีส

‘พี่เอ…โอย…มันทั้งแน่นทั้งเสียวไปหมดแล้ว’
‘จานีสชอบไหม…พี่จะปล่อยมือล่ะ คราวนี้จานีสต้องเป็นฝ่ายเย็ดพี่ตกลงไหม’
‘จะ จะ ให้จานีสเย็ดพี่เอ…ทำยังไง…จานีสทำไม่เป็นน่ะพี่เอ..’

เด็กสาวครางออกมาเมื่อผมขอให้จานีสเป็นฝ่ายบุกแทนที่จะตั้งรับเหมือนที่ผ่าน มา ผมปล่อยมือจากเอวจานีสแล้วเปลี่ยนทิศทางมากุมสองเต้าเต่งตึงที่กำลังสั่น ระริกตามอาการสั่นสะท้านด้วยความเสียวของเจ้าของ แล้วบีบเคล้นความเต่งตึงที่แสนเย้ายวนจนหัวนมสีน้ำตาลอ่อนชูชันแข็งตัวอยู่ ในฝ่ามือผม

‘พี่เอจะให้พี่จานีสเป็นฝ่ายกระเด้าน่ะ…พี่จานีสยกหี ขึ้นแล้วกดกลับลงมาสิ …นั่นแหละ..พี่จานีสหมุนสะโพกเป็นวงกลมด้วยสิ ควยพี่เอจะได้บี้แตดพี่จานีสไปพร้อมกัน…’

น้องทิพย์ที่ยังคงนอน คว่ำร่างอยู่บนเตียงแต่หันใบหน้ามาดูการร่วมรัก ส่งจิตกระตือรือล้นแนะนำจานีส ทำให้จานีสกัดฟันยกสะโพกขึ้นแล้วเริ่มกระเด้าแก่นกายของผมช้าๆ พร้อมกับส่ายสะโพกเป็นวงกลมน้อยๆ ตามคำแนะนำของน้องทิพย์

‘อูย…น้องทิพย์…มันเสียวไปหมดแล้ว…พี่เอ…ชะ ชอบไหม…จานีส..กะ กระเด้าแบบนี้พี่เอชอบไหม’
‘ชอบสิ..หีจานีสทั้งแน่นทั้งหนึบแบบนี้..พี่จะทนไม่ไหวอย่แล้วนะ’

จานีสส่งจิตกระท่อนกระแท่นถามผม พร้อมยันสองมือกับหน้าท้องผมแล้วเริ่มต้นกระเด้าเร็วขึ้นทุกขณะ ใบหน้างามแหงนขึ้น ปากน้อยๆ เผยอส่งเสียงหอบกระเส่าออกมาไม่ขาดระยะ ผมบี้เคล้นนมคู่งามหนักขึ้นอย่างลืมตัว ขณะสายตาก็จับภาพแคมเนื้ออูมอิ่มที่แก่นกายซึ่งมันปลาบไปด้วยน้ำเสียวของจา นีสกำลังผลุบเข้าออกเป็นจังหวะ สะโพกกลมกลึงที่บิดส่ายน้อยๆ ยิ่งทำให้ปาดมดลูกเสียดสีกับส่วนหัวลำลึงค์ที่ไวต่อความรู้สึก จนความเสียวพลุ่งขึ้นเป็นระลอก ผมขยับสะโพกกระเด้ารับการบุกของจานีสอย่างลืมตัว จนแต่ละครั้งที่เนินรักกระทบหน้าท้องผม ก่อให้เกิดแรงบวกที่บดอัดแก่นกายกับหลืบรักมากขึ้น

‘พี่เอ..พี่เอ..พี่เอ…จะ จานีส…ไม่ไหวแล้ว….มะ มาแล้ว….อ๊าย…’

ร่างอวบอิ่มกระแทกเนินนูนลงมาเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับความเสียวของผมที่ถึงจุดระเบิด น้ำรักของผมฉีดพุ่งขึ้นไปในร่างจานีสเป็นสาย ทำให้เด็กสาวสั่นสะท้านแล้วฟุบร่างลงกับตัวผมด้วยความเหนื่อยอ่อน ปราณในร่างผมที่ผ่านเข้าสู่ร่างจานีสวนเวียนไปตามช่องโพรงร่างกายจานีสรอบ แล้วรอบเล่า แต่ไม่ใช่เพื่อถ่ายทอดปราณหรือความทรงจำในลักษณะเดียวกับเซี่ยวเล้งและน้อง ทิพย์ หากเป็นการผนึกปราณเข้าสู่อวัยวะที่กำเนิดใหม่ของจานีสให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ที่สุด ซึ่งผมรู้ดีว่าเด็กสาวที่แสนอ่อนโยนผู้นี้มีร่างกายที่บอบบางราวกับแก้ว เพราะปราศจากความสามารถในการซ่อมแซมร่างกายของตนเองทุกรูปแบบ และการรับปราณจากผมเป็นวิธีเดียวที่จะร่างกายนี้ให้คงอยู่ต่อไปได้

‘พี่เอ…จานีสขอถอนควยพี่เออกก่อนนะ..จานีสไม่ไหวแล้วล่ะ’

จานีสส่งจิตแผ่วเบาบอกผมก่อนที่จะค่อยโหย่งสะโพกขึ้นอย่างยากเย็นเพื่อถอด แก่น กายที่ยังคงแข็งตัวอัดแน่นในหลืบรักออกช้าๆ ผมพยักหน้ารับก่อนพลิกร่างจานีสให้ลงมานอนตะแคงแล้วค่อยๆ ถอนแท่งเนื้อออกมาจนหมด ปล่อยให้จานีสพลิกตัวลงนอนหงายบนเตียงข้างร่างเปลือยของน้องทิพย์และเซี่ยว เล้ง

ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียง เพื่อรับภาพงดงามขอเด็กสาวต่างวัยทั้งสามที่นอนเรียงรายบนเตียงด้วยร่างกาย เปลือยเปล่า เซี่ยวเล้งและน้องทิพย์ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในท่านอนคว่ำได้พลิกร่างขึ้นมา นอนหงายระหว่างที่ผมกำลังร่วมรักกับจานีส ทำให้ทุกสัดส่วนของเมียรักทั้งสามเปิดเผยต่อสายตาผมโดยปราศจากสิ่งปกปิดใดๆ ทรวงอกสามคู่ที่มีขนาดต่างกันแต่เท่าเทียมกันในด้านความงามและความเต่งตึง อวดความงามประชันกันราวกับจะให้ผมเป็นผู้ตัดสิน เนินรักทั้งสามยังคงมีน้ำรักที่ผมฉีดเข้าสู่ภายในร่างกายไหลออกมาเป็นสายจน นองพื้นเตียง แต่ยิ่งทำให้เนินรักทั้งสามดูเย้ายวนให้สอดใส่แก่นกายเข้าไปรับความสุขสุด ยอดอย่างไม่รู้เบื่อ อารมณ์รักของผมกลับก่อตัวขึ้นอีก แก่นกายที่อ่อนลงเล็กน้อยหลังร่วมรักกับจานีสกลับแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ผมอดตระหนกกับความต้องการของร่างกายที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่าร่างกายผมกำลังเรียกร้องให้ผมร่วมรักโดยไม่มีการหยุดพัก แต่ก่อนที่ผมจะเริ่มต้นการร่วมรักอีกครั้ง เซี่ยวเล้งก็ยันร่างขึ้นนั่งพิงพนักเตียงอย่าเหนื่อยอ่อน แต่ดวงตาของเด็กสาวพลันเบิกโพลงขึ้นเมื่อเห็นแก่นกายที่ฟื้นคืนสู่ความแข็ง แกร่งเต็มที่ของผม

‘โอย..พี่เอเย็ดพวกเซี่ยวเล้งทั้งสามคนไปหมดแล้ว ควยพี่เอยังแข็งแบบนี้เลยหรือ’

จิตที่แฝงความตื่นตระหนกของเซี่ยวเล้งทำให้น้องทิพย์และจานีสพากันผุดร่าง ขึ้น นั่งบนเตียงและจับตามองแก่นกายผมอย่างแปลกใจ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะส่งจิตใดๆ ออกมา ใบหน้าของเด็กสาวทุกคนก็เปลี่ยนจากความงุนงงไปเป็นใบหน้าที่แสดงถึงอารมณ์ รักที่เข้าครอบครองอีกครั้ง ดวงตาทั้งสามคู่หรี่ปรือในขณะที่ริมฝีปากของทุกคนเผยอออกเล็กน้อย ร่างกายทั้งสามเปล่าเปลือยเริ่มบิดส่ายไปมาและเคลื่อนเข้ามาหาผมพร้อมกัน อย่างลืมตัว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผมแน่ใจว่าความต้องการทางเพศที่ดูราวจะไม่มีที่สิ้นสุด ของผมนี้ ไม่น่าจะเป็นความต้องการตามธรรมชาติอย่างแน่นอน ร่างเมียรักทั้งสามที่เคลื่อนเข้าสู่อ้อมกอดผม ส่งสัมผัสที่กระตุ้นความรู้สึกให้ลุกโพลงขึ้นไปอีกจนผมต้องรีบกัดลิ้นตัวเอง จนเจ็บแปลบ เพื่อพยายามระงับความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะหน้าอกเต่งตึงทั้งสามคู่กำลังเบียดอัดกับร่าง กายของผมกำลังทำให้แก่นกายผมร่ำร้องที่จะเข้าไปฝังตัวอยู่ร่างงดงามของ เซี่ยวเล้ง จานีส และน้องทิพย์

‘นะ..นะ นี่เกิดอะไรขึ้น ..ทำไมพี่ถึงต้องการเย็ดทุกคนแบบนี้’

จิตส่วนหนึ่งของผมที่ยังคงสติไว้ได้ส่งกระแสจิตออกมาด้วยความแปลกใจ แต่ร่างกายผมกลับตอบสนองเลือดเนื้อวัยสาวที่เสียดสีอยู่รอบข้าง แก่นกายผมถูกมือเรียวงามข้างหนึ่งคว้าไว้แน่นและก่อนตามมาด้วยสัมผัสอบอุ่น นุ่มนวลในปากน้อยๆ ที่กำลังดูดมันราวกับเป็นขนมที่รสชาติดีที่สุดในโลก ลิ้นเรียวเล็กเกลี่ยวนรอบส่วนปลายที่ไวต่อความรู้สึกจนความเสียวผมพุ่งขึ้น สูง และเมื่อผมละสายตาลงมาก็ต้องแปลกใจถึงขีดสุด เพราะแทนที่เจ้าของปากจะเป็นน้องทิพย์ผู้เคยให้ความสุขผมแบบนี้ ศีรษะที่กำลังซุกกับหน้าขาผมและปรนเปรอความเสียวด้วยปากกลับเป็นเซี่ยวเล้ง ผู้อ่อนหวานที่ไร้ประสบการณ์ทางเพศมาก่อน

‘พะ พะ พี่เอ..พี่เอรีบโคจรปราณในแนวของปราณราหูแยกจิตออกมาจากสัมผัสทางกายก่อน.. โอย..งจานีสเสียวเหลือเกิน ต้องการพี่เอที่สุด.. แต่ แต่ ถ้าพี่เอไม่หยุดกระตุ้นความต้องการของพวกจานีสทั้งสาม พวกเราคงต้องเย็ดกันไม่หยุดแน่ๆ…อ๊าวส์..’

กระแสจิตที่สั่นระริก ด้วยความเสียวของจานีสส่งผ่านยังผม ในขณะที่ผมกำลังดึงแก่นกายออกจากปากเซี่ยวเล้งเพื่อฝังมันลงไปในร่องรัก ของอดีตเทวะนารีผู้งดงามอีกครั้ง จิตที่ส่งมาเตือนสติของจานีสทำให้ผมรู้ว่าจานีสน่าจะรู้เหตุผลที่ทำให้ผม เกิดความต้องการทางเพศไม่หยุดและพยายามหาทางแก้ไข ผมรีบสะกดความต้องการร่วมรักอย่างยากเย็นเพื่อผนึกปราณแยกเป็นสองสายแยก โคจรสวนทางตามแนวทางของปราณราหู เพียงชั่วขณะจิตที่ร้อนรนด้วยอารมณ์ต้องการทางเพศก็เริ่มสงบลงทีละน้อย พร้อมกับการเคลื่อนไหวร่างกายของเด็กสาวทั้งสามที่ค่อยๆ ลดลงตามมาจนหยุดนิ่ง

‘พี่เอ…พวกเราเป็นอะไรไป..เซี่ยวเล้งสงสัย ตั้งแต่อยู่ที่สระน้ำแล้วว่าทำไมพอสัมผัสร่างกายพี่เอ ความต้องการให้พี่เอเย็ดก็พลุ่งขึ้นมาในสมองเซี่ยวเล้งจนควบคุมไม่ได้เลย’

อดีตเทวะนารีผู้งดงามส่งจิตที่แฝงความกังวลในน้ำเสียงมายังผม ขณะเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาจากแก่นกายและสบตาผมด้วยใบหน้าแดงซ่าน พร้อมกันนั้นจิตน้องทิพย์ก็ดังขึ้นสนับสนุนเซี่ยวเล้ง

‘นั่นสิพี่เอ. ทิพย์ก็แปลกใจเหมือนกันนะ..ทำไมทิพย์ถึงรู้สึกต้องการให้พี่เอเย็ดตลอดเวลา เพียงสัมผัสตัวพี่เอ หีทิพย์ก็หลั่งน้ำออกมาจนเปียกไปหมดเลย..’

ผมกอดร่างงามทั้งสามไว้ในวงแขน ก่อนส่งจิตให้ทั้งสามอย่างไม่แน่ใจ

‘พี่เองก็ไม่รู้ แต่พี่เชื่อว่าการที่พี่ปฏิบัติตามคำแนะนำของจานีส ทำให้พี่สามารถระงับความต้องการได้ แสดงว่าจานีสน่าจะรู้เหตุผลใช่ไหม’

จานีสขยับร่างออกจากอ้อมแขนผมอย่างนุ่มนวลแล้วลุกมาอยู่ในท่านั่ง ก่อนถอนหายใจยาวแล้วส่งจิตแผ่วเบาออกมา

‘ทีแรกจานีสก็ไม่เฉลียวใจหรอก เพราะจานีสนึกว่าความต้องการที่จะให้พี่เอเย็ดเกิดจากธรรมชาติของจานีสเอง แต่เมื่อครู่หลังจากทุกคนถึงจุดสุดยอดไปแล้วและควรจะพักร่างกาย ความต้องการของจานีสกลับพุ่งขึ้นมาอีกทันที หีจานีสกระตุกปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมามากมายเหมือนน้องทิพย์ทั้งที่ร่างกายจา นีสหมดแรงจากการเย็ดกับพี่เอไปแล้ว..จานีสเลยฉุกติดถึงตำราโบราณเกี่ยวกับ อาณาจักรมังกรที่เคยอ่านในห้องสมุดของจักราศี ตำนานนั้นบอกถึงอำนาจอมตะของเผ่าพันธุ์มังกรอันมีที่มาจากพลังผลึกมังกร ผลักดันเหล่ามังกรผสมพันธ์กันตลอดเวลาจนสามารถขยายอาณาจักรใต้พิภพให้กล้า แข็งและก่อสงครามกับมนุษย์เมื่อหมื่นปีที่แล้ว’

‘พี่จานีส..เซี่ยวเล้งไม่เข้าใจ ตำราที่พี่จานีสเล่ามาเซี่ยวเล้งก็เคยอ่าน แต่เผ่าพันธ์มังกรมาเกี่ยวข้องกับพี่เอได้อย่างไร’

จานีสหันใบหน้ามาทางเซี่ยวเล้งแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนหวานก่อนส่งจิตตอบ

‘พวกเรายังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เซี่ยวเล้งฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน บ่อมังกรเทวะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ร่างหินของเทพมังกรอัคคีสถิตอยู่พร้อมกับผลึกมังกรที่ ปล่อยพลังชีวิตให้เทพมังกรอัคคีคืนชีวิตทุกวัน พร้อมกับทุกชีวิตที่ตกลงไปในบ่อมังกรเทวะ และปล่อยเพลิงมงกรเผาผลาญทุกดวงวิญญานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ชั่วกัลป์ แต่ด้วยชะตาลิขิตทำให้พี่เอและน้องทิพย์ตกลงไปในบ่อมังกรเทวะและรอดพ้นเพลิง มังกรมาได้ จนสามารถใช้วารีนาคราชสลายผิวหนังของมังกรอัคคีปล่อยผลึกมังกรออกมา และดูดรับพลังชีวิตนั้นไว้ทั้งหมด ซึ่งพลังนั้นเองที่ปลุกจานีสกลับขึ้นมาจากความตายและสร้างร่างใหม่ให้จานีสอ ย่างที่เซี่ยวเล้งเห็นอยู่นี้’

ดวงตาเรียวยาวของเซี่ยวเล้งเบิกกว้าง เมื่อรับรู้เรื่องราวที่จานีสถ่ายทอดออกมา ใบหน้างดงามของอดีตธิดามังกรฟ้าปรากฏความประหวาดใจครู่ใหญ่ก่อนถอนใจยาวและ ส่งจิตออกมา

‘เป็นเช่นนี้เอง..เซี่ยวเล้งเข้าใจแล้ว พี่จานีสขอให้เซี่ยวเล้งเป็นฝ่ายอธิบายบ้างนะ เพราะเซี่ยวเล้งคิดว่าเซี่ยวเล้งก็รู้สาเหตุที่พี่เอกับพวกเราเกิดความต้อง การร่วมรักอย่างรุนแรงแบบนี้แล้ว’

จานีสยิ้มให้เซี่ยวเล้งอย่างอ่อนโยนแล้วพยักหน้าเป็นเชิงมอบหมายให้เซี่ยวเล้งอธิบายแทน

‘การที่พี่เอและน้องทิพย์ผสานปราณเข้ากับพลังชีวิตของผลึกมังกร แม้จะส่งผลให้พลังปราณก้าวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเท่าเทียมกับเทวะนารี แต่พลังชีวิตจากผลึกมังกรนั้นมิใช่พลังชีวิตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สามารถ สะกดกลั้นความต้องการของตนเองได้ แต่เป็นพลังชีวิตที่ต้องการแพร่ขยายเผ่าพันธุ์ออกไปไม่สิ้นสุด ดังนั้นเมื่อน้องทิพย์รับปราณจากพี่เอ การที่จานีสรับพลังชีวิตจากพี่เอมาคืนชีวิต และการที่พี่เอทำลายพลังมังกรวิบัติที่เซี่ยวเล้งเคยครอบครองด้วยการส่งปราณ ของพี่เอเข้ามาให้เซี่ยวเล้ง ทำให้ร่างกายของเซี่ยวเล้ง พี่จานีส และน้องทิพย์มีกระแสพลังเดียวกันและเชื่อมโยงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพี่ เอ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่พี่เอเกิดความต้องการทางเพศ พลังชีวิตในร่างพวกเราทั้งสามก็จะตอบรับและกำหนดให้ร่างกายพร้อมรับการร่วม รักทันที เซี่ยวเล้งอธิบายถูกต้องไหมพี่จานีส’

จานีสผงกศีรษะรับคำถามของเซี่ยวเล้ง ในขณะที่ผมและน้องทิพย์ต้องตกตะลึงไปกับสิ่งที่จานีสและเซี่ยวเล้งอธิบาย

‘พี่จานีส พี่เซี่ยวเล้ง.. แล้วมันจะมีผลอย่างไรกับพี่เอและพวกเราบ้าง’

น้องทิพย์ส่งจิตถามด้วยความกังวล ทำให้จานีสกับเซี่ยวเล้งสบตากันแวบหนึ่งก่อนหันมาฝืนกับน้องทิพย์

‘ก่อนที่จานีสจะตอบน้องทิพย์ จานีสอยากถามพี่เอก่อนว่าหลังจากพี่เอ เอ้อ…เย็ด และส่งปราณเข้ามาร่างพวกเราทั้งสามคนจนวนกลับเข้าสู่ร่างพี่เอ ปราณพี่เอมีการเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่’

คำถามจานีสทำให้ผมอดสะท้านใจ ไม่ได้ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมกำลังกังวลหลังจากการร่วมรักกับเด็กสาวทั้งสาม ปราณในร่างผมมีการปรับตัวในรูปแบบที่ผมเคยประสบมาก่อนจริงๆ ซึ่งในขั้นแรกผมคิดว่าอาจเกิดจากการร่วมรักอย่างต่อเนื่อง แต่คำถามของจานีสทำให้ผมรับรู้ในทันทีว่าน่าจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ผมพยักหน้ากับจานีสและเซี่ยวเล้งก่อนส่งจิตอธิบายช้าๆ

‘ปราณในร่าง พี่มีการเปลี่ยนแปลงจริง ก่อนหน้านี้หลังจากที่พี่เย็ดกับน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว ปราณของพี่จะหมุนวนโคจรในร่างของทุกคนอย่างนุ่มนวลแต่หนักแน่น และหลังจากปราณถ่ายกลับมาแล้วความต้องการทางเพศของพี่จะสงบนิ่งชั่วคราว รูปแบบนี้เกิดขึ้นกับน้องทิพย์ในครั้งแรกที่พี่เย็ดน้องทิพย์เหมือนกัน แต่หลังจากพี่ได้รับพลังชีวิตจากผลึกมังกรและหลอมรวมกับปราณในร่างสำเร็จ ความต้องการทางเพศของพี่ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนพี่เองก็รู้สึกว่าต้องการเย็ดกับทุกคนตลอดเวลา นอกจากนี้รูปแบบการโคจรปราณในร่างของพี่กับพวกน้องๆ ทุกคนก็เปลี่ยนไป ปราณของพี่ที่โคจรในร่างพวกเรากลับรุนแรงและแกร่งกร้าวอย่างที่พี่ไม่เคย ประสบมาก่อน จานีสบอกได้ไหมว่าเกิดจากอะไร’

จานีสหันไปสบตากับเซี่ยวเล้งด้วยสายตาแสดงความกังวล แต่กลับเป็นเซี่ยวเล้งที่ส่งจิตตอบกลับมา

‘พี่เอคงรับรู้ตำนานการต่อสู้ของเทพวิรุณปักขะกับเทพมังกรวารี และเทวะนารีแห่งจักรราศีทั้ง 12 ที่สลายจิตต่อสู่กัลป์เทพมังกรอัคคีแล้ว แต่พี่เอคงยังไม่รู้ว่าเทพมังกรทั้งสองมิใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์ พลังของเผ่าพันธ์มังกรเกิดจากผลึกมังกรอัคคีที่พี่เอได้รับไปกับผลึกมังกร วารีที่ยังคงฝังอยู่ใต้พิภพร่วมกับร่างของเทพวิรุณปักขะ เทพมังกรอัคคี และเทพมังกรวารี คือผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์มังกรทั้งมวล และมีเพียงเทพมังกรทั้งสองเท่านั้นที่สามารถสร้างไข่มังกรให้กำเนิดมังกร ขึ้นมาได้ มังกรที่เกิดขึ้นจากเทพทั้งสองล้วนเป็นมังกรบริวารที่ไร้เพศ มีหน้าที่ปกป้องอาณาจักรและทำลายศัตรูเท่านั้น ดังนั้นในแต่ละวันเทพมังกรทั้งสองจะสมสู่กันแทบตลอดเวลาเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ มังกร ผลึกมังกรอัคคีที่พี่เอได้รับเป็นพลังชีวิตของเพศผู้ทำให้เมื่อรวมกับปราณ ของพี่เอ จึงกระตุ้นความต้องการทางเพศของพี่เอให้ลุกโพลงตลอดเวลา ด้วยความปรารถนาจะสืบเผ่าพันธ์ และยิ่งพี่เอร่วมรักกับพวกเรามากเท่าไหร่พลังชีวิตของผลึกมังกรก็ยิ่งแข็ง แกร่งขึ้น แต่นั่นกลับทำให้พลังปราณของพี่เอที่ก้าวขึ้นมาในระดับเดียวกับเทวะนารีต้อง ชะงักไว้ในจุดนี้โดยไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่ระดับการผสานเป็นอันหนึ่งอัน เดียวกับพลังชีวิตของผลึกมังกรอัคคี จนมีระดับเทียบเทียมเทพเจ้าเช่นเทพสุรัสวดีได้

ร่างผมและน้องทิพย์สะท้านขึ้นพร้อมกันกับสิ่งที่จานีสบอกเล่า น้องทิพย์ผุดร่างลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งทันทีแล้วส่งจิตกับจานีส

‘อย่างนั้นหมายความว่าพวกเราต้องหยุดเย็ดพี่เอแล้วหรือพี่จานีส…’

จิตน้องทิพย์ที่แฝงแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เซี่ยวเล้งกับจานีสหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จานีสจะส่งจิตตอบ

‘ไม่ใช่ว่าจะต้องหยุดหรอกน้องทิพย์ และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เย็ดกับพี่เออีก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจานีสกับเซี่ยวเล้งก็คงทนไม่ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่านับแต่นี้ไปพี่เอต้องพยายามแบ่งกระแสปราณตามแนวทางของปราณราหู เพื่อป้องกันไม่ให้ความต้องการทางเพศของผลึกมังกรมาครอบงำจนพี่เอไม่สามารถ ระงับความต้องการได้ แต่หากเป็นความต้องการตามธรรมชาติของพี่เอเอง นั่นก็ไม่เป็นอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น และกลับจะยิ่งทำให้ปราณในร่างพี่เอเพิ่มความสามารถในการควบคุมพลังจากผลึก มังกรอัคคีให้เป็นปราณที่ใช้ในการต่อสู้ได้อีกด้วย’

คำอธิบายของจานีสประกอบกับสภาพความต้องการทางเพศในร่างผมที่สามารถระงับลง ได้จากการแบ่ง แยกปราณโคจรตามแนวทางปราณราหู ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ก่อนจะตอบจิตกับเมียรักทั้งสาม

‘อย่างนั้นพวกเราทุกคนก็ต้องช่วยพี่ อีกทางหนึ่ง หากเมื่อใดก็ตามที่พี่ไม่สามารถระงับพลังจากผลึกมังกรอัคคีได้ พวกเราทุกคนก็ต้องเป็นฝ่ายปฏิเสธความต้องการของพี่แทนนะ ไม่อย่างนั้นพี่….’

ผมพยายามของความช่วยเหลือจากจานีส เซี่ยวเล้งและน้องทิพย์ แต่จิตของเซี่ยวเล้งกลับดังขัดขึ้นมากลางคัน

‘นั่น เป็นไปไม่ได้เลยพี่เอ เพราะปราณในร่างของเซี่ยวเล้ง จานีส และน้องทิพย์ ล้วนเป็นปราณที่ได้รับถ่ายทอดมาจากพี่เอ ทำให้เมื่อใดที่พี่เอต้องการเย็ด ปราณในร่างพวกเราก็จะตอบสนองทันทีโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เหมือนที่พี่เอเกิดความต้องการเมื่อครู่ที่ผ่านมา ที่ทำให้ความต้องการทางเพศเข้าควบคุมจิตใจของเซี่ยวเล้ง จานีส และน้องทิพย์ จนไม่สามารถต่อต้านได้’

‘มิน่า..หีทิพย์ถึงหลั่งน้ำรักออกมาจนล้นในทันทีที่สัมผัสกับควยพี่เอ…’

จิตน้องทิพย์ครางแผ่วเบา ทำให้ผม จานีส และเซี่ยวเล้งอดหัวเราะออกมาไม่ได้ บรรยากาศตึงเครียดค่อยๆ สลายไป ในใจผมแม้จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าการรับพลังชีวิตจากผลึกมังกร อัคคีเข้าสู่ร่าง กลับเป็นการปิดกั้นโอกาสที่ปราณจะก้าวผ่านระดับสูงสุดของมนุษย์ไปสู่ระดับ เทพเจ้าเช่นเดียวกับเทพสุรัสวดี แต่ใจอีกส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าการที่ปราณผมก้าวขึ้นมาถึงระดับเดียวกับเหล่า เทวะนารีแห่งจักรราศี ก็เป็นสิ่งที่เกินคาดฝันสำหรับผู้ทรงปราณทุกคนบนโลกนี้แล้ว

‘พี่จานีส..พี่เซี่ยวเล้ง..งไม่มีทางอื่นเลยหรือที่พี่เอจะหลุดพ้นจากกรอบของปราณปัจจุบันได้’

น้องทิพย์ส่งจิตถามด้วยความผิดหวัง ทำให้ผมต้องลุกขึ้นกอดร่างบอบบางของน้องทิพย์ไว้ในอ้อมแขนก่อนส่งจิตปลอบโยน

‘ไม่ เป็นไรหรอกน้องทิพย์ พี่เชื่อว่าแม้พลังปราณของพี่จะไม่เท่าเทียมกับเทพสุรัสวดี แต่หากพวกเราร่วมใจกัน ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะเกินความตั้งใจของพวกเราไปได้แน่’

น้องทิพย์นิ่งเงียบไปชั่วขณะ ดวงหน้าอ่อนหวานของเด็กหญิงซุกนิ่งกับอกผมเป็นเชิงยอมรับ

‘แต่มันก็ใช่ว่าจะไร้หนทางนะพี่เอ…’

จิตจานีสดังขึ้นแผ่วเบา ทำให้ผมและน้องทิพย์ต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับอดีตโหราทาสผู้งดงามทันที

‘พี่จานีสคงไม่ได้หมายความถึงผลึกมังกรวารีใช่ไหม?’

จิตเซี่ยวเล้งดังสวนจานีสขึ้นมาทันที ด้วยน้ำเสียงแฝงความตื่นตระหนกจนผมรับรู้ได้

‘จานีสคิดเช่นนั้นจริงๆ เซี่ยวเล้ง ถ้าหากพี่เอสามารถรับพลังจากผลึกมังกรวารีผสานกับพลังจากผลึกมังกรอัคคีได้ สำเร็จ พลังชีวิตจากผลึกทั้งสองผสานกันเองเป็นอันหนึ่งเดียว และทำให้พี่เอหลุดพ้นจากของเขตแห่งมนุษย์เข้าสู่ระดับเทพเจ้าอย่างแน่นอน’

จานีสส่งจิตตอบเซี่ยวเล้ง แต่ผมจับได้ถึงความรู้สึกท้อถอยที่แฝงอยู่ในจิตจานีสอย่างชัดเจน

‘พี่จานีสหมายถึงผลึกมังกรที่ฝังอยู่ร่วมกับเทพวิรุณปักขะในมหาอาณาจักร มนุษย์ เทพเมื่อหมื่นปีที่แล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเราจะรออะไรกันล่ะไปที่นั่นกันเถอะ’

น้องทิพย์ส่งจิตบอกจานีสด้วยความตื่นเต้น

‘น้องทิพย์ ที่จานีสบอกนั้นถูกต้องทุกประการ แต่ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดที่จะเข้าไปยังมหาอาณาจักรที่ล่มสลายนั้นได้ เพราะนอกจากมันจะจมอยู่ใต้ท้องทะเลลึก ถูกทับถมด้วยศิลาหนานับร้อยเมตรที่แม้แต่เทพสุรัสวดีก็ยังไม่อาจผ่านเข้าไป ได้แม้จะเคยพยายามมาหลายครั้งก็ตาม ด้านนอกของซากมหาอาณาจักรยังถูกเฝ้ารักษาจากเทวะนารีแห่งราศีมีน ที่ปกครองเผ่าพันธุ์กึ่งมัจฉานับหมื่น ที่ไม่มีผู้ทรงปราณใดสามารถผ่านเข้าไปได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากเทพสุรัสวดี ดังนั้นแม้พวกเราจะรู้ว่าผลึกมังกรวารีอยู่ที่ใด แต่ก็เหมือนกับว่าไม่รู้เพราะไม่มีทางที่จะเข้าไปถึงที่นั่นได้’

คำบอกเล่าของเซี่ยวเล้งทำให้ใบหน้าน้องทิพย์สลดลง แต่ยังคงส่งจิตที่เด็ดเดี่ยวออกมา

‘พี่เอบอกไว้ว่าไม่มีสิ่งใดเกินความตั้งใจ ทิพย์จะหาทางให้ได้คอยดูเถอะ’

ผมสูดลมหายใจลึก เพื่อผนึกปราณในร่างกายให้โคจร ก่อนส่งจิตกับเด็กสาวทั้งสามผู้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม

‘ทุกอย่าง ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเถอะนะ พี่ขอเพียงน้องทิพย์ จานีส และเซี่ยวเล้งจงจำไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะปกป้องทุกคนด้วยชีวิตของพี่เอง แต่ตอนนี้ได้เวลาที่พวกเราจะเตรียมตัวเดินทางกลับเชียงใหม่ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันที่นั่น ทุกคนจะได้พบกับพ่อแม่ของพี่ และน้องริน น้องทิพย์ กับเหมียว ซึ่งจะเป็นครอบครัวเดียวกับทุกคนตลอดไป’

‘ชีวิตของจานีสอยู่กับพี่เอ…จานีสพร้อมแล้ว’
‘เซี่ยวเล้งก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง และร่วมเป็นกำลังให้พี่เอตลอดไป’
‘ทิพย์รอที่จะใช้ชีวิตกับพี่เอมาตั้งแต่แรก แต่พี่เออย่าลืมน้องพิมอีกคนนะ ทิพย์แทบรอเจอน้องพิมไม่ไหวแล้ว’

เด็กสาวผู้งดงามทั้งสามส่งจิตตอบรับผมแทบจะในเวลาเดียวกัน ทำให้หัวใจผมอบอุ่นด้วยความรักที่ทุกคนมอบให้ พร้อมกับความหวังในอนาคต

‘เอาล่ะ…กลับบ้านกันเถอะ’

——————————————————–

‘น้องทิพย์…เจ้าเครื่องนี้มันบินได้จริงๆ หรือ’

จานีสส่งจิตถามด้วยความกังวลขณะที่น้องทิพย์ช่วยปรับเข็มขัดประจำที่นั่ง ชั้น หนึ่งของเครื่องบินโดยสารที่กำลังจะนำผมและเด็กสาวทั้งสามกลับไปยัง เชียงใหม่ คำถามของจานีสทำให้ผมอดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าในความทรงจำอันยาวนานของจานีสไม่เคยรับรู้ถึงการคงอยู่ของ พาหนะสมัยใหม่ที่สามารถย่นระยะการเดินทางจากหลายๆ วันเป็นไม่กี่ชั่วโมงได้ ทั้งนี้เนื่องจากจักรราศีสามารถติดต่อกันทางจิตทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ พาหนะในการติดต่อ และหากต้องเดินทางด้วยร่างกาย ก็สามารถใช้ปราณช่วยการเดินทางด้วยความเร็วเกินกว่าสายตามนุษย์จะจับภาพได้ ทัน ความหวาดหวั่นของจานีสต่อเครื่องบินจึงไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดใดมากไปกว่า เด็กที่กำลังเดินทางด้วยเครื่องบินครั้งแรก

‘ทิพย์รับรองน่ะพี่จานีส ไม่ต้องกลัวไปหรอก มนุษย์ธรรมดาทั้งโลกเขาก็เดินทางกันแบบนี้ทั้งนั้น’

‘ถ้าจานีสกลัวก็ย้ายมานั่งกับพี่เอเอาไหม’

เซี่ยวเล้งส่งจิตถามจานีสด้วยความห่วงใย แต่เด็กสาวไม่มีท่าทีหวาดกลัวเครื่องบินเหมือนจานีส แม้จะเป็นการเดินทางโดยเครื่องบินครั้งแรกเช่นกัน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์มาตลอด ต่างกับจานีสที่ใช้เวลาแทบทั้งหมดในอดีตในห้องสมุดของจักราศี จานีสส่ายหน้าน้อยๆ แล้วฝืนยิ้มให้เซี่ยวเล้งที่นั่งคู่กับผมในเก้าอี้ด้านหน้า ก่อนส่งจิตตอบ

‘ไม่ต้องหรอกเซี่ยวเล้ง..จานีสต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกสมัยใหม่นี้ด้วยตัวเองให้ได้’

‘ดีแล้วล่ะพี่จานีสนั่งกับทิพย์ดีกว่า ขืนไปนั่งคู่กับพี่เอ เดี๋ยวก็โดนพี่เอจับเย็ดอีก พี่เซี่ยวเล้งก็ระวังเถอะ’

‘บ้า..ทิพย์เนี่ย..นี่บนเครื่องบินนะ คนอยู่ตั้งเยอะไม่ใช่ที่บ้านสักหน่อย’

‘พี่เซี่ยวเล้งไม่รู้อะไร..พี่เอน่ะเย็ดได้ทุกที่แหละ กลางอากาศก็ยังเย็ดทิพย์ซะไม่รู้กี่รอบ ไม่เชื่อถามจานีสดูก็ได้’

‘ไม่เอาแล้ว ทิพย์อย่าพูดไป จานีสอายนะ..’

กระแสจิตของเด็กสาวทั้งสามที่เย้าแหย่กันอย่างร่าเริง ทำให้จิตผมผ่อนคลายและทิ้งศีรษะลงบนพนักพิงหลับตาเพื่อรอคอยเวลาเดินทางกลับ ไปหาน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียวที่เชียงใหม่ ในอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้า เพียวชั่วครู่เครื่องบินก็เริ่มเคลื่อนที่และทะยานขึ้นบนอากาศ ผมพยายามหลับตาสงบจิตเพื่อพักผ่อน แต่ทันทีที่สัญญาณปลดเข็มขัดดังขึ้น ผมก็ไม่สามารถหลับตาลงได้ เมื่อจิตน้องทิพย์ดังขึ้นมาในสมอง

‘พี่เอ…แล้วใครจะมารับพวกเราที่เชียงใหม่ล่ะ พี่ริน หรือพี่กิฟท์ หรือว่าจะเป็นพี่เหมียว’

‘ก่อนที่พวกเราจะขึ้นเครื่อง พี่โทรไปหาน้องรินที่บ้านเล็กแล้วล่ะ น้องรินจะให้คนสนิทของคุณพ่อมารับพวกเราที่สนามบิน ส่วนพวกน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว จะพาหนูนิดไปรอพบพวกเราที่บ้านคชสีห์ ที่คุณพ่อ คุณแม่และน้องพิมรออยู่ ทิพย์ จานีส กับเซี่ยวเล้ง จะได้รู้จักทุกคนพร้อมกันในทีเดียวเลย’

ผมส่งจิตตอบน้องทิพย์แต่ก็รู้ว่าจานีสและเซี่ยวเล้งก็ได้รับรู้จิตของผมพร้อมกัน

‘พี่เอ..ครอบครัวพี่เอจะรังเกียจจานีสหรือเปล่าที่จานีสเคยเป็นต้นเหตุของการทำร้ายครอบครัวพี่เอในอดีต’

‘เซี่ยวเล้งก็กลัวเหมือนจานีสนั่นแหละ เพราะเซี่ยวเล้งเองก็เคยเป็นหนึ่งในเทวะนารีแห่งจักรราศีที่เป็นศัตรูของ ครอบครัวพี่เอ โดยเฉพาะพี่เหมียวที่สูญเสียพ่อแม่และพี่สาวไปเพราะการสังหารของมิถุกานารี แห่งจักรราศีเมถุน’

ผมโอบร่างเซี่ยวเล้งเข้ามาแนบตัวอย่างอ่อนโยน พร้อมกับน้องทิพย์ที่เอื้อมมือไปกุมมือของจานีสไว้

‘จานีสและเซี่ยวเล้งไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแม้แต่น้อย ครอบครัวพี่ทุกคนพร้อมที่จะรับเซี่ยวเล้งและจานีสเป็นสมาชิกคนหนึ่งอย่างแน่ นอน พี่ขอบอกน้องทั้งสองคนว่าโหราทาสและธิดามังกรฟ้า ที่เคยเป็นศัตรูของบ้านคชสีห์ได้สูญสิ้นไปจาโลกแล้ว มีแต่จานีสกับเซี่ยวเล้งที่ร่วมเป็นร่วมตายกับพี่และน้องทิพย์มาเท่านั้น และที่สำคัญพี่รับรองว่าน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว จะรักน้องทิพย์ เซี่ยวเล้ง และจานีส เหมือนกับที่พี่รักทุกประการ ป่านนี้ทุกคนคงตั้งหน้าตั้งตารอพวกเราแล้วล่ะ’

เซี่ยวเล้งพยักหน้า รับจิตที่ผมถ่ายทอดให้ ก่อนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผมอย่างอ่อนหวานเป็นสัญญาณรับรู้และเชื่อมั่นในสิ่ง ที่ผมบอก ส่วนจานีสที่นั่งอยู่ด้านหลังผมก็กุมมือน้อยๆ ของน้องทิพย์บีบไว้แน่น ผมส่งกระแสจิตบอกทุกคนพร้อมกัน

‘เอาล่ะพวกเราพักก่อนเถอะ อีกชั่วโมงเดียวก็จะถึงเชียงใหม่แล้ว…พี่จะ..อั๊ค…’

ก่อนที่ผมจะจบการส่งกระแสจิต กระแสพลังประหลาดขุมหนึ่งพลันก่อขึ้นในร่างผมและแผ่คลุมหัวใจผมอย่างรวดเร็ว จนหัวใจผมเต้นถี่ยิบ ขณะเดียวกันภาพทุกคนในบ้านคชสีห์ปรากฏแว่บขึ้นในจิตผมราวสายฟ้าแลบ ทำให้ปราณในร่างผมปั่นป่วนจนต้องร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก พร้อมกับอาการเจ็บแปลบที่หัวใจจนผมต้องก้มตัวเพื่อใช้มือกุมหัวใจเอาไว้

‘พี่เอ…’
‘พี่เอ..เป็นอะไรไป’
‘พี่เซี่ยวเล้ง ประคองพี่เอไว้เร็ว’

จิตเซี่ยวเล้ง จานีส และน้องทิพย์ ส่งเสียงประสานขึ้นพร้อมๆ กันด้วยความตกใจ ขณะที่เซี่ยวเล้งรีบประคองร่างผมไว้แล้ว ประกบฝ่ามือเตรียมถ่ายทอดกระแสพลังเข้ามาในร่างกายผม แต่ก่อนที่ปราณของเซี่ยวเล้งจะผ่านเข้ามา ความเจ็บแปลบที่หัวใจก็สลายไปอย่างไร้ร่องรอย ปราณในร่างผมกลับโคจรตามปกติราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นหากแต่ความรู้สึก คล้ายจิตใจถูกกดทับไว้ด้วยก้อนหินที่มองไม่เห็นยังคงสภาพอยู่

‘ไม่ต้องตกใจ พี่ไม่เป็นอะไรแล้ว..เพียงแต่เมื่อครู่มันเกิดพลังประหลาดเข้ากดทับหัวใจจนปราณโคจรไม่สะดวก แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ’

ผมพยายามระงับความรู้สึกประหลาดที่คล้ายจิตใจถูกกดทับเอาไว้ และส่งจิตไปน้องทิพย์จานีส และเซี่ยวเล้งที่จับจ้องมองผมด้วยสายตากังวล

‘พี่ เอ..บอกจานีสหน่อย ตอนที่พี่รู้สึกถึงพลังที่กดทับหัวใจ จิตของพี่เอสัมผัสภาพอะไรหรือไม่ และตอนนี้พี่เอมีอาการจิตใจถูกหน่วงด้วยพลังบางอย่างหรือเปล่า’

จิตจานีสถามผมอย่างร้อนรน ทำให้ผมต้องสบตาเด็กสาวอย่างประหลาดใจเพราะดูราวกับว่าจานีสจะรู้ถึงสาเหตุ ที่เกิดอาการนี้ขึ้นกับผมเป็นอย่างดี ผมพยักหน้ารับกับจานีสเพื่อยืนยันอการที่จานีสเล่าให้ฟัง ก่อนส่งติตอธิบายสิ่งที่ผมสัมผัส

‘เมื่อครู่นี้พี่เกิดภาพของคุณพ่อ คุณแม่ น้องริน น้องกิฟท์ เหมียว และหนูนิด ผ่านวูบเข้ามาในจิต และตอนนี้ก็ยังคงมีความรู้สึกว่าจิตพี่ถูกกดดันด้วยอาจบางอย่าง จานีสรู้หรือว่ามันเกิดจากอะไร’

อดีตโหราทาสผู้กลับมาอยู่ในรางเด็กหญิง สบตาผมด้วยสายตาแสดงความวิตก

‘ผู้ทรงปราณระดับสูงสุดจะเกิดอำนาจจิตรับรู้อันตรายที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้ ใกล้ชิด อาการที่พี่เอเล่ามาบอกให้รู้ว่าครอบครัวพี่เอที่เชียงใหม่ อาจกำลังเกิดอันตราย นี่ถ้าหากจานีสยังคงมีปราณ จานีสก็สามารถอาศัยวันเดือนปีเกิดของครอบครัวพี่เอมาคำนวณในวิชาเนตรจักรวาล มาทำนายสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้….แต่ตอนนี้’

‘พี่จานีส ถ้าทิพย์ถ่ายปราณให้ตอนนี้ พี่จานีสจะใช้วิชาเนตรจักรวาลได้ไหม’

น้องทิพย์ส่งจิตขัดจานีสอย่างรวดเร็ว ทำให้จานีสหันไปสบตาน้องทิพย์ก่อนส่ายศีรษะ

‘วิชาเนตรจักรวาลต้องใช้ปราณจากจุดศูนย์กระจายไปสัมผัสพลังธรรมชาติ ปราณจากการสัมผัสธรรมดาไม่สามาารถก่อพลังให้เกิดจากจุดศูนย์ได้…นอกเสีย จาก…แต่ตอนนี้มันทำไม่ได้…’

‘จานีสหมายถึงการร่วมรักเพื่อรับ ปราณจากพี่เอเข้าสู่จุดศูนย์ แต่ติดขัดที่ตอนนี้พวกเราอยู่บนเครื่องบินท่ามกลางมนุษย์ธรรมดามากกมายใช่ ไหม…’

เซี่ยวเล้งส่งจิตส่งจิตขัดจังหวะจานีสทันที พร้อมลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของตนเองข้างผม ขณะที่จานีสเงยหน้าขึ้นสบตาเซี่ยวเล้งอย่างประหลาดใจแว่บหนึ่ง…แต่ทันใด นั้นใบหน้างดงามของจานีสก็ปรากฏสีแดงจัดบนสองแก้ม ก่อนพึมพำออกมาเบาๆ..

‘จริงสิ จานีสลืมไป มีเทวะนารีแห่งจักรราศีอยู่ที่ไหน ก็ต้องมีวิชามายาพรางตาอยู่ที่นั่น…’

‘จานีสไม่ต้องลังเลอะไรแล้ว….ลุกมานั่งกับพี่เอเดี๋ยวนี้…’

จานีสผุดร่างลุกขึ้นอย่างว่าง่ายแล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผมที่กำลังมองอากัปกริยาของเด็กสาวทั้งสองอย่างงุนงง ขณะที่เซี่ยวเล้งยืนอยู่ที่กลางช่องทางเดินแล้วส่งเสียงอุทานลั่นออกมา…

“ว๊าย…หนู…”

เสียงกรีดร้องของเซี่ยวเล้งทำให้ผู้โดยสารทึกคนหันมาจับจ้องสายตาที่เซี่ยว เล้งเป็นจุดเดียว ทันใดนั้นผมก็รับรู้ถึงพลังแผ่วเบาที่กระจายออกจากร่างเซี่ยวเล้งราวกับหมอก ควันไร้สภาพที่แผ่ออกคลรอบคลุมพื้นที่นั่งของผู้โดยสารชั้นหนึ่งทั้งหมด…

“อุ๊ย..ขอโทษค่ะ…พอดีผ้ามันพันที่ขา…เลยเผลอตกใจร้องออกมา…ขอโทษทุกคนนะคะ”

เซี่ยวเล้งส่งเสียงบอกผู้โดยสารทุกคน ทำให่ทุกสายตาที่เคยจับจ้องเซี่ยวเล้งกลับเลิกความสนใจและหันไปทำกิจกรรมของ ตนเองตามปกติ เวี่ยวเล้งยินนิ่งอยุ่ครู่หนึ่งก่อนทรุดร่างลงนั่งคู่น้องทิพย์ที่มองด้วย ความงุนงง ขณะที่เซี่ยวเล้งเริ่มส่งจิตอธิบาย

‘พี่เอ น้องทิพย์ ไม่ต้องตกใจ เซี่ยวเล้งไม่ได้บ้า แต่เมื่อกี้เซี่ยวเล้งต้องการดึงสายตาของทุกคนมายังเซี่ยวเล้งเพื่อใช้วิชา มายาพรางตา ตอนนี้ทุกคนจะมองภาพพวกเราทุกคนเป็นภาพของผู้โดยสารที่นั่งอยู่กับที่ธรรมดา โดยไม่รับรู้ว่าพวกเราจะทำอะไรทั้งสิ้น พี่เอเย็ดจานีสเดี๋ยวนี้เลย…จานีสจะได้ใช้ปราณของพี่เอกับวิชาเนตรจักรวาล เพื่อทำนายอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวพี่เอ..’

จิตของเซี่ยวเล้งที่บอกมา พร้อมกับที่จานีสก้าวขึ้นมานั่งครอมบนหน้าขาผม ทำให้ผมตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนส่งจิตตะกุกตะกักอย่างไม่แน่ใจ

‘จะ จานีส…เซี่ยวเล้ง…นี่อะไรกัน พี่ไม่เข้าใจ…’

‘พี่ เอไม่ต้องกังวลเรื่องใดทั้งสิ้น เซี่ยวเล้งใช้วิชามายาพรางตาซึ่งเป็นวิชาเฉพาะของเทวะนารีในการพรางร่างไม่ ให้มนุษย์ทั่วไปเห็นการต่อสู้ นี่เป็นวิชาที่มีรากฐานมาจากหลักโยคะศาสตร์ ที่อาศัยหลักการที่ว่ามนุษย์จะเห็นในสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าจะเห็นเท่านั้น มาใช้ร่วมกับการผนึกปราณควบคุมจิตและโสตสัมผัส ทำให้ไม่มีผู้ใดเห็นหรือได้ยินสิ่งที่เราทำ แต่จะเห็นเพียงภาพที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นภาพปกติ คือภาพของคนโดยสารเครื่องบินธรรมดาเท่านั้น…พี่เอเย็ดจานีสเดี๋ยวนี้เถอะ ..จานีสอยากช่วยพี่เอ…’

จิตจานีสอธิบายให้ผมรับรู้อย่างแผ่วเบา ขณะที่ร่างอวบอัดด้วยวัยสาวซึ่งนั่งคร่อมตักผมอยู่เอนเข้ามาหา จนทรวงอกเต่งตึงในเสื้อยืดรัดรูปอัดแน่นกับหน้าอกผม ขณะที่เบื้องล่างภายใต้กระโปรงผ้าฝ้ายบางเบาที่แผ่คลุมหน้าตัก เนินรักของจานีสที่อยู่ในกางเกงในตัวน้อยเบียดชิดกับเป้ากางเกงผมและเริ่ม เสียดส่ายไปมา ทำให้ความต้องการของผมลุกโพลงขึ้นอีกครั้ง สองมือผมสอดเข้าไปใต้กระโปรงบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงของจานีส ก่อนวกมือสอดเข้าไปใต้กางเกงในเพื่อกุมเนินรักอวบอิ่มเอาไว้ในฝ่ามือ จานีสส่งเสียงหอบเบาๆ เมื่อผมสอดนิ้วเข้าไปในร่องรักคับแน่นที่เริ่มปรากฏความชุ่มชื้นทะลักออกมา เนืองนอง ก่อนเป็นฝ่ายสอดมือเข้ามาปลดกระดุมกางเกงผมแล้วดึงมันลงไปพร้อมกางเกงใน จนแก่นกายผมเป็นอิสระดีดตัวขึ้นมากระทบเนินรัก

‘พี่เอ…เร็วเข้า…เย็ดจานีสเดี๋ยวนี้เลย จานีส พร้อมแล้ว…’

จานีสส่งจิตครางออกมาเบาๆ ด้วยความเสียว ทำให้ผมรีบดึงนิ้วออกจากร่องหลืบแล้วกระตุกกางเกงในตัวน้อยออกจากสะโพกจานีส ในทันที ปลายแก่นเนื้อผมสัมผัสกับร่องรักที่ฉ่ำเยิ้ม ขณะที่จานีสถอนหายใจยาวแล้วจับแก่นเนื้อผมตรึงไว้กับที่ ก่อนเป็นฝ่ายกดสะโพกลงมาด้วยตัวเอง…

‘อ๊าวส์….’

จานีส ครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อแก่นกายผมถูกน้ำหนักตัวจานีสกดลงมา สองแคมอ้าออกรับการแทรกตัวด้วยความเต็มใจแต่ยังคงไว้ซึ่งความคับแน่นเกิด บรรยายเอาไว้ สะโพกจานีสค่อยๆ เคลื่อนลงมาที่ละน้อย ท่ามกลางความเสียวจากการบีบรัดของกลีบเนื้อภายในของจานีส เพียงครู่เดียวแท่งเนื้อผองผมก็ฝังตัวเข้าไปอยู่ในหลืบน้อยของจานีสจนหมด ทั้งลำ

‘อูย…ควยพี่เอยาวจัง…แน่นไปหมดแล้ว….’

‘หีจานีสก็หนึบแน่นไปหมด….จานีสไหวไหม เปลี่ยนท่าให้พี่อยู่ข้างบนดีกว่านะ..’

‘มะ มะ ไม่ได้ …พี่เอ….จานีสต้องอยู่ในท่านั่ง…จึงจะโคจรปราณได้…จะ จะ จานีส ขอเย็ด พะ พี่เอ..เอง..นะ อื๋ยส์…’

จานีสร้องครางออกมาเมื่อสะโพกอวบอิ่มของเด็กสาวเริ่มยกตัวขึ้นและกดกลับลงมา ช้าๆ เป็นจังหวะ สองแขนกลมกลึงยันหน้าอกผมไว้เป็นหลักทรงตัว ขณะค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการกระเด้าทีละน้อย ความเสียวที่เริ่มก่อตัวขึ้นในลำลึงค์ทำให้ผมต้องใช้มือที่เป็นอิสระสอดเข้า ใต้ชายเสื้อยืดแล้วถลกมันขึ้นเหนือศีรษะ ปล่อยให้หน้าอกตูมเต่งที่อัดแน่นอยู่ในบราสีลูกไม้ที่เคยเป็นของน้องรินเผย ความงามอยู่ต่อหน้า ความงามสมบูรณ์ของนมเด็กสาววัยแรกแย้มที่แม้เจ้าของร่างจะกระเด้าแก่นกายผม อย่างลืมตัว แต่ความเต่งตึงของมันทำให้มีเพียงอาการกระเพื่อมเล็กน้อย ยิ่งเป็นภาพที่ยั่วตาจนผมต้องสอดมือเข้าใต้ผ้าบางเบาของบราเพื่อคลึงเค้น ความเต่งตึงและสัมผัสหัวนมที่ชูชันอยู่ใต้ฝ่ามือผม

‘อื๋ย…พี่เซี่ยวเล้ง…เห็นพี่เอเย็ดแบบนี้ ทิพย์เองก็แทบไม่ไหวแล้วนะ…’

‘เซี่ยวเล้งก็แย่เหมือนกันน้องทิพย์….แต่น้องทิพย์อย่างไปแตะตัวพี่เอเด็ด ขาดนะ …ไม่งั้นพลังชีวิตจากผลึกมังกรของพี่เอจะเข้ากระตุ้นน้องทิพย์จนคุมตัวเอง ไม่ได้…’

‘ทิพย์รู้แล้วล่ะพี่เซี่ยวเล้ง…แต่ต้องมาดูพี่เอคลึงนมพี่จานีสแบบนี้…ทิพย์ก็..ว๊าย…พี่เซี่ยวเล้ง…อย่า..’

‘เซี่ยวเล้งจะเป็นฝ่ายช่วยน้องทิพย์บ้างล่ะคราวนี้…นมน้องทิพย์เต่งดีจังเลยนะ…’

‘อูย…พี่เซี่ยวเล้ง…ยะ อย่าดูดแบบนั้น….’

จิตของเซี่ยวเล้งกับน้องทิพย์ที่โต้ตอบกันเบื้องหลัง ทำให้ผมอดเหลียวหน้ากลับไปด้านหลังไม่ได้ และพบกับภาพน้องทิพย์ที่นอนหงายอยู่บนเก้าอี้ในสภาพเสื้อยืดถูกถลกขึ้นไปกอง รวมกันที่คอ นมน้อยๆ ของเด็กหญิงวัย 12 ชูช่อเต่งโดยมีศีรษะเซี่ยงเล้งก้มลงแนบกับเต้าและดูดเน้นปลายยอดสีชมพูเข้ม จนร่างน้องทิพย์บิดไปมาด้วยความเสียว ขณะเดียวกันมือของน้องทิพย์ก็ควานเข้าไปภายใต้เสื้อของเซี่ยวเล้งและบี้ เคล้นหน้าอกอวบอิ่มในเสื้อไปมา ภาพที่เห็นยิ่งทำให้ผมต้องเน้นมือบีบหน้าอกจานีสอย่างลืมตัว ขณะที่จานีสเร่งกระเด้าเนินรักกับแก่นกายผมถี่ยิบ

‘พี่เอ….อื่ย…หีจานีสให้ความสุขพี่เอไหม…’

‘อูวห์…หีจานีสสุดยอด…ทั้งตอดทั้งขมิบแบบนี้ พี่จะไม่ไหวแล้วนะ…’

‘จานีส…จานีสก็ มะ มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊ายส์….มะ มาแล้ว…’

ร่างอวบอื่มที่กระเด้าแก่นกายผมถี่ยิบ หยุดกึกในทันที พร้อมกับการบีบรัดของกล้ามเนื้อภายในร่างกายจานีสเป็นระลอก จานีสครางออกมายาวเหยียดพร้อมกับที่แก่นกายผมพ่นน้ำรักขึ้นไปราวน้ำพุ มดลูกจานีสขมิบต้อนรับน้อรักของผมอย่างกระหายยิ่งเพิ่มความเสียวให้ผมจนแทบ จะหยุดการทะลักทะลายไม่ได้..

‘พะ พะ พี่เอ…บอก..วันเดือนปีเกิดครอบครัวพี่เอให้จานีส…ดะ เดี๋ยวนี้..’

ท่ามกลางความเสียวสุดยอด ปราณของผมพุ่งผ่านเข้าไปในร่างกายจานีสและถูกเด็กสาวชักนำให้รวมกลุ่มอยู่ ที่จักรอัคคีที่ท้องน้อย ก่อนเริ่มพุ่งขึ้นสู่ด้านบนอันเป็นตำแหน่งของสมอง ผมรู้ในทันทีว่านี่คือการใช้ปราณผนึกวิชาเนตรจักรวาลของจานีส ผมรีบส่งจิตบอกวันเดือนปีเกิดของบุคคลในครอบครัวที่เชียงใหม่ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ น้องริน น้องกิฟท์ เหมียว และน้องนิดให้จานีสรับรู้ช้าๆ ขณะที่จานีสเริ่มเคลื่อนกายเปลี่ยนท่าจากการคร่อมร่างผมมาเป็นท่านั่งขัด สมาธิบนตักผม โดยที่แก่นกายผมยังคงผนึกแน่นอยู่ภายในร่างของเด็กสาวและถ่ายปราณเข้าไป อย่างต่อเนื่อง

‘พะ..พะ พี่เซี่ยวเล้ง ..พะ พอก่อน…พี่เอ..เย็ดเสร็จแล้ว…พี่จานีสกำลัง…’

‘โอ๊วส์…น้องทิพย์ ก็หยุดบี้หัวนมเซี่ยวเล้งก่อนสิ…อูวห์…’

‘พี่เซี่ยวเล้งดูสิ…นั่นอะไรน่ะ’

น้องทิพย์กับเซี่ยวเล้งหยุดการเล้าโลมร่างกายฝ่ายตรงข้ามพร้อมกันและหันมา ให้ ความสนใจกับภาพจานีสที่กำลังผนึกวิชาเนตรจักรวาล จนร่างปรากฏรัศมีกระจายออกบางๆ ใบหน้าที่เคยคราญตชครางด้วยความเสียวจากการร่วมรัก กลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าสงบนิ่ง ขณะที่สองมือเด็กสาวประสานกันที่หน้าอกอวบอิ่มและเคลื่อนปลายนิ้วสัมผัสกัน เป็นจังหวะ…

‘นั่นคือวิชาเนตรจักรวาลของจานีสน่ะน้องทิพย์…อีกครู่เดียวจานีสก็จะบอกสิ่งที่เกิดขึ้นให้พี่เอรับรู้..’

เซี่ยวเล้งอธิบายให้น้องทิพย์ที่ยังคงจับจ้องภาพเบื้องหน้าด้วยความสนใจ ขณะที่ผมเริ่มรู้สึกถึงการโคจรย้อนกลับของกระแสปราณในร่างจานีสกลับเข้ามาใน ร่างช้าๆ จนในที่สุดจานีสก็ลืมตาขึ้นและส่งจิตให้ผมด้วยน้ำเสียงกังวล

‘พี่ เอ…เนตรจักรวาลบ่งชี้ได้ไม่ชัด แต่มันบอกให้รู้ว่ากำลังมีบุคคลที่น่ากลัวบุกรุกไปยังที่พักของครอบครัวพี่ เอ และทุกคนที่นั่นกำลังเผชิญหน้ากับบุคคลนั้นอยู่ แต่จานีสไม่สามารถบอกได้ว่าครอบครัวพี่เอจะได้รับอันตรายใดๆ หรือไม่ เพราะชะตาของทุกคนยังคงเข้มแข็ง แต่ขณะเดียวกันพลังของบุคคลที่เผชิญหน้ากับครอบครัวพี่เออยู่ก็เป็นพลังที่ สูงสุดยอด …จานีสสัมผัสได้ถึงพลังบางประการที่กั้นกลางระหว่างครอบครัวพี่เอกับคนผู้ นั้น…นั่นน่าจะเป็นตัวกำหนดว่าฝ่ายใดจะประสบภัยในการต่อสู้…อืมห์…จา นีสสัมผัสพลังของคนผู้นั้นได้เล็กน้อย..เป็นพลังที่ดูคุ้นเคยยิ่งนัก หรือว่า….’

จานีสพยายามถ่ายทอดคำพยากรณ์จากวิชาเนตรจักรวาลให้ผม รับรู้ช้าๆ แต่ก่อนที่เด้กสาวจะจบคำพยาการณ์ จิตของเซี่ยวเล้งก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงตระหนกสุดขีด

‘พี่เอ…เซี่ยวเล้งรู้แล้ว…มิถุกานารีเทวะนารีแห่งราศีเมถุน กำลังนำผู้ทรงปราณของตระกูลโรหิณีบุกบ้านคชสีห์…’