ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

The Zodiac บทที่ 4.3 ตำนานจักราศี

  1. Home
  2. The Paradox & The Zodiac by Buta
  3. The Zodiac บทที่ 4.3 ตำนานจักราศี
Prev
Next

The Zodiac บทที่ 4.3 ตำนานจักราศี

‘พี่เอ…เดี๋ยวก่อน นั่นอะไรน่ะ…’

กระแสจิตที่แฝงความแปลกใจของน้องทิพย์ดังขึ้นระหว่างที่ร่างผมและน้องทิพย์ กำลังลอยพุ่งไปยังปากทางรูปวงกลมของถ้ำมังกรฟ้า ทำให้ผมต้องละความสนใจจากการบังคับทิศทางเคลื่อนร่างและหันไปมองตามมือน้อง ทิพย์ที่กำลังชี้ลงไปทางโครงกระดูกมนุษย์ที่กองสุมกันบนพื้นถ้ำด้านล่าง และพบกับภาพแปลกตาของแสงเรืองรองสีเหลืองอ่อนที่ปกคลุมโครงกระดูกทุกร่างเอา ไว้ พร้อมกันนั้นจิตผมก็สัมผัสกระแสพลังประหลาดแผ่ขึ้นมากระทบความรู้สึก มันเป็นกระแสพลังที่แสดงความสิ้นหวังและทุกขเวทนาอย่างรุนแรงจนผมอดตระหนก ไม่ได้เมื่อคิดถึงการบอกเล่าของจานีสก่อนหน้านี้…

‘บ่อมังกรแห่งนี้ถูกปิดกั้นไว้ด้วยพลังไร้สภาพของเทพมังกรที่สกัดสิ่งมีชีวิตทุกชนิดหรือแม้กระทั่งวิญญานมิให้ผ่านออกไปได้’

สัมผัสที่กำลังเกิดกับจิตผมบอกให้รู้ว่านี่คือกระแสทุกขเวทนาที่วิญญาณทั้ง หลายซึ่งถูกกักขังด้วยพลังแห่งผนึกมังกรในที่นี้ยังคงไม่สามารถหลุดพ้นออกไป ได้แม้ผลึกมังกรจะถูกผมและน้องทิพย์ทำลายและรับพลังของมันมาหลอมรวมกับปราณ แล้วก็ตาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่านอกจากผนึกมังกรที่กักขังวิญญาณเหล่านี้มาโดยตลอดแล้ว ยังมีสิ่งอื่นที่ปิดกั้นมิให้วิญญานทั้งหมดสามารถหลุดพ้นจากการกักขัง

‘นั่นคือวิญญาณที่กำลังร่ำร้องให้เราช่วยปลดปล่อย…แต่เราจะทำอย่างไรดี…’

ผมส่งกระแสจิตบอกน้องทิพย์ ขณะเปลี่ยนทิศทางร่อนกลับมาที่ศิลาหัวมังกรอีกครั้ง

น้องทิพย์หยุดยืนเคียงข้างผม ดวงตากลมโตจับจ้องแสงเรืองเบื้องล่างด้วยแววตาที่สะท้อนความสงสารในชะตากรรม ของทุกดวงวิญญาน แต่เพียงครู่เดียวดวงตาน้องทิพย์ก็เบิกกว้างและร้องอุทานออกมาอย่างลืมตัว โดยไม่ผ่านการส่งกระแสจิต

“พี่เอ…เรารับพลังจากผนึกมังกรมาใช่ไหม”

ผมพยักหน้ารับอย่างงงๆ ขณะที่น้องทิพย์สะกิดปลายเท้าพุ่งปราดลงไปยังหลุมรูปไข่บริเวณต้นคอมังกรที่ เคยเป็นสถานที่หลบภัยกับจานีสเมื่อครู่ ทำให้ผมต้องพุ่งร่างตามลงไปและพบว่าน้องทิพย์กำลังเปิดศิลาปิดช่องทางขึ้น เผยให้เห็นโครงกระดูกขาวโพลนที่เคยเป็นร่างของจานีสนอนสงบนิ่งอยู่ น้องทิพย์ก้าวลงไปในหลุมโดยไม่ลังเลและช้อนโครงกระดูกที่เปล่งประกายมีแสง เรืองสีเหลืองขึ้นมาในอ้อมแขน ก่อนสาดพุ่งร่างเบาๆกลับขึ้นมาที่ศิลาหัวมังกร โดยมีผมเคลื่อนร่างตามมาด้วยทั้งที่ยังไม่เข้าใจกับการกระทำของน้องทิพย์

น้องทิพย์วางโครงกระดูกของจานีสลงบนพื้นหินอย่างทะนุถนอม ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตาและส่งกระแสจิตกับผม

‘ทิพย์คิดว่าในเมื่อพลังจากผนึกมังกรถูกเราดูดรับไป บางทีถ้าเราถ่ายพลังในร่างเข้าสู่โครงกระดูกของจานีสก็อาจทำให้เราสามารถ สื่อสารกับวิญญาณของจานีสได้ และบอกวิธีที่เราจะปลดปล่อยวิญญาณทั้งหมดให้เรารู้’

ผมอดทึ่งกับวิธีคิดของน้องทิพย์ไม่ได้ เพราะมันแสดงให้รู้ว่าแม้เด็กหญิงจะเพิ่งได้รับการถ่ายทอดปราณเข้าสู่ร่าง พร้อมความทรงจำของผม แต่ดูเหมือนสมองของน้องทิพย์จะสามารถทำความเข้าใจกับปราณในร่างโดยกระจ่าง จนสามารถครุ่นคิดปรับวิธีการใช้ปราณได้ด้วยตนเอง ผมพยักหน้าแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเท้าของโครงกระดูก ก่อนส่งกระแสจิตให้น้องทิพย์

‘พี่เองก็คิดไม่ถึง…ทิพย์ไปนั่งที่ส่วนกระโหลกและถ่ายทอดปราณลงมาบรรจบกับ พี่นะ..พี่จะโคจรตามแนวย้อนกลับของวิชาปรารราหู ส่วนน้องทิพย์ก็ถ่ายทอดทางตรงลงมาเลย’

ผมจับกระดูกท่อนขาด้วยมือทั้งสองข้าง ขณะที่น้องทิพย์พยักหน้ารับและทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิที่ด้านบนและผนึกสองมือ ประกบกันที่กระหม่อมบนของกะโหลก ผมพยักหน้าเป็นสัญญานพร้อมกับเริ่มถ่ายทอดปราณเข้าสู่โครงกระดูกช้าๆ

ในเบื้องแรกกระแสพลังที่ผมถ่ายทอดเข้าไปดูราวกับจะสะท้อนกลับเหมือนกระทบกับ ศิลา แต่เพียงครู่เดียวแสงเรืองสีเหลืองที่ปรากฏบนโครงกระดูกจาสีสก็เริ่มจางลง ขณะที่ปราณบางส่วนก็เริ่มแทรกซึมเข้าสู่โพรงกระดูก พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสีที่เริ่มปรากฏสีแดงระเรื่อในโครงกระดูกสีขาว สโพลนไหลลามไปตามฝ่าเท้าที่จับไว้ เช่นเดียวกับด้านกะโหลกที่น้องทิพย์กำลังถ่ายทอดปราณเข้าสู่ตำแหน่งพสุธา ทำให้กะโหลกสีขาวซีดเริ่มแปรเปลี่ยนสีเป็นสีแดงจางๆและเข้มขึ้นทุกขณะ

ฝ่ามือผมที่จับกระดูกข้อเท้าเบื้องล่างเริ่มรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของการ สัมผัส กล้ามเนื้อสีแดงฉานเริ่มก่อตัวขึ้นหุ้มกระดุกอย่างรวดเร็วจนเพียงชั่วอึดใจ ฝ่ามือผมก็กลับกุมผิวเนื้อหนังสีขาวเรียบลื่นเอาไว้ ผมจับจ้องภาพกล้ามเนื้อที่ก่อตัวลามขึ้นไปยังเบื้องบนจนสมทบกับกล้าม เนื้อที่แผ่ตัวลงมาจากส่วนศีรษะ ขณะที่ผิวหนังสีขาวสะอาดแผ่ขึ้นปกคลุม จนในที่สุดร่างเคยเป็นโหราทาสของจักรราศีผู้มีอายุกว่า 120 ปี แต่ต้องถูกลงโทษให้เพลิงมังกรเผาผลาญร่างและกลับฟื้นคืนขึ้นรับทัณฑ์ทรมานใน ร่างเด็กหญิงวัยแรกรุ่น ก็ปรากฏร่างเปลือยเปล่าอยู่หน้าผม

จากท่อนล่างของเด็กหญิงทำให้สายตาผมไล่ไปตามลำขาเรียวงามไปจนถึงเนินรักอิ่ม อวบที่ตระหง่านเต็มเนินหน้าท้องอย่างเต็มที่ สองแคมเรียวยาวปิดสนิทประกบร่องรักเล็กๆ ไว้สนิทแน่น แต่ความอวบอิ่มของสองแคมก็ผลักดันให้รอยผ่าน้อยๆ เผยอออกจนเห็นร่องหลืบสีขาวสะอาดภายในรางๆ สูงขึ้นไปคือเนินท้องเรียบสนิทและหน้าอกเต่งตึงทรงกลมสมบูรณ์ที่ประดับยอด ด้วยเม็ดหัวนมเล็กๆ สีขาวซีด สีผิวที่ขาวโดยปราสจากสีอื่นแทรกอันเนื่องมาจากโรคร้ายของจานีสทำให้ร่าง เปลือยดูราวกับจะเกิดประกายส่องแสงออกมาด้วยตัวเอง ซึ่งแม้ผิวเนื้อจะดูผิดปกติจากคนธรรมดา แต่เมื่อปรากฏอยู่บนเรือนร่างเปล่งปลั่งสมบูรณ์ของวัยแรกแย้ม ก็ทำให้ผมอดหวั่นไหวไปกับความงามที่แปลกประหลาดเบื้องหน้าไม่ได้

‘พี่เอ…จานีสกลับมาแล้ว….แต่ เอ๊ะ…’

น้องทิพย์ส่งกระแสจิตให้ผมทราบขณะโคจรปราณกลับเข้าสู่ร่างและถอนมืออกจาก ศีรษะจานีส ซึ่งบัดนี้เกิดผมสีขาวราวเงินยวงปกคลุมทั่ว แต่น้องทิพย์กลับต้องร้องอุทานออกมาแล้วกลับผนึกฝ่ามือเริ่มถ่ายปราณอีก ครั้งเมื่อพบว่าในทันทีที่ปราณชะงักการโคจร ผิวของจานีสที่ศีรษะก็เริ่มยุบตัวลงเพื่อกลับสู่สภาพโครงกระดูกอีกครั้ง

‘ปราณที่เกิดจากการหลอมรวมพลังจากผนึกมังกร ฟื้นสภาพให้จานีสได้ตามที่น้องทิพย์คิดไว้ก็จริง แต่ถ้าเราถอนปราณออก จานีสก็จะกลับสู่สภาพโครงกระดูกอีก.. ’

ผมส่งกระแสจิตบอกน้องทิพย์ เมื่อรับรู้ว่าหากผมชะงักการถ่ายทอดปราณ ผิวบริเวณข้อเท้าของจานีสก็จะเริ่มยุบตัวลงเช่นกัน

‘สองท่านคาดเดาได้ถูกต้อง เรากลับคืนสภาพได้เพราะปราณที่ท่านและสตรีนางนี้ถ่ายทอดมาให้ ถ้าปราณขาดช่วงเราก็จะกลับไปอยู่ในสภาพโครงกระดูกเช่นเดิม แต่ท่านทั้งสองทำได้อย่างไร…’

ดวงตาที่ทอประกายสีเหลืองอ่อนๆ ของจานีสปรากฎให้ผมเห็นหลังจากจานีสลืมตาขึ้น และส่งจิตตอบคำถามยืนยันข้อสันนิษฐานของผม ขณะเดียวกันจิตนั้นก็แสดงความประหลาดใจที่ผมและน้องทิพย์สามารถถ่ายทอดปราณ คืนชีวิตให้ได้

‘พี่จานีส เทพมังกรสูญสลายแล้วด้วยวารีนาคราชจาก…จาก เอ้อ…เอ้..เยื่อพรหมจรรย์ของทิพย์ เมื่อครู่นี้พี่เอและทิพย์ได้พยายามทำลายผลึกมังกรแต่กลับเป็นการระเบิดพลัง ของผนึกเข้าสู่ปราณของทิพย์และพี่เอ ทำให้เราสามารถใช้ถ่ายทอดปราณฟื้นชีวิตให้พี่จานีสได้..’

น้องทิพย์ชิงส่งจิตตอบคำถามของจานีส ทำให้ผมอดประหลาดใจไม่ได้ที่น้องทิพย์สามารถรับกระแสจิตของจานีสได้พร้อมกับ ผม ซึ่งเป็นสิ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะแม้แต่การสื่อสารทางจิตกับน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว ที่ผ่านมา ผมเพียงสามารถสื่อกับคนใดคนหนึ่งหรือส่งกระแสจิตให้ทั้งสามคนพร้อมๆ กัน แต่น้องริน น้องกิฟท์ และเหมียวไม่สามารถสื่อสารกันเองได้ การที่น้องทิพย์สามารถสื่อสารทางจิตกับผมและจานีสพร้อมๆ กัน จึงเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยสัมผัสรับมาก่อน แต่ก่อนที่ผมจะเสริมสิ่งใดให้จานีสรับรู้ กระแสจิตที่ลิงโลดยินดีขจองจานีสก็ดังขึ้นในจิตของผมและน้องทิพย์พร้อมกัน

‘วารีนาคราช…. ที่แท้แม่นางคือธิดานาคราช มีแต่วารีนาคราชเท่านั้นที่สามารถทำลายผิวกายคงกระพันของเทพมังกรได้ และท่านผู้ก่อกัลป์สูญก็ได้รับ วารีนาคราชเข้าไว้ในจิตแล้ว ข้ายินดียิ่งนัก…ยิ่งกว่านั้นท่านยังรับพลังจากผลึกมังกรที่ดูดซับพลัง ชีวิตของผู้ทรงปราณนับร้อยนับพันเอาไว้เป็นของท่านเอง…นับแต่นี้จักราศีจะ ไม่สามารถบงการจักรวาลได้ตามอำเภอใจอีกแล้ว…วิญญานของผู้ถูกกักขังทั้งหมด ก็จะเป็นอิสสระ ท่านผู้มีพระคุณของข้าทั้ง ข้าขอขอบคุณทุกสิ่งที่ท่านกระทำลงไป ’

ขณะที่จานีสส่งกระแสจิต ใบหน้างดงามของอดีตโหราทาสประดับด้วยรอยยิ้มยินดี จนทำให้เป็นภาพของใบหน้าเด็กหญิงแรกรุ่นที่งดงามสะท้านใจ จนผมแทบลืมเลือนไปว่าร่างเปลือยเบื้องหน้านี้คือผู้มีอายุกว่าร้อยปี แต่ก่อนที่ผมจะคิดไปทางอื่น น้องทิพย์ส่งกระแสจิตอ่อนโยนกับจานีส

‘พี่จานีส…อย่าเรียกทิพย์กับพี่เอเป็นผู้มีพระคุณเลยเรียกชื่อธรรมดาก็พอ และถ้าพี่จานีสสามารถบอกวิธีที่จะช่วยวิญญานทั้งหมดให้เป็นอิสระจากการกัก ขังของผนึกมังกร ก็บอกให้ทิพย์รู้ด้วยเถอะ เพราะตอนนี้ทิพย์สัมผัสได้ว่าวิญญานทั้งหมดยังคงถูกกักอยู่แม้ผนึกมังกรจะ สูญสลายไปแล้วก็ตาม…’

จิตของจานีสส่งคำตอบกลับมาอย่างแจ่มใสชัดเจน

‘ท่านเอและท่านหญิงทิพย์มิต้องกังวลใจ เมื่อใดก็ตามที่ท่านจะใช้ปราณเหินบินผละจากสถานที่นี้ไป ขอให้ท่านส่งปราณดึงดูดไปยังประกายแสงเรืองของวิญญาณที่ปรากฏ ดวงวิญญาณทั้งหมดจะถูกพลังอันเกิดจากผนึกมังกรดึงดูดไปพร้อมกับท่าน และในทันทีที่พ้นจากบ่อเทวะมังกรแห่งนี้ วิญญานทั้งหมดก็จะได้รับอิสระไปก่อกำเนิดจามภพภูมิที่กรรมกำหนดได้เอง…’

‘รวมถึงท่านด้วยใช่ไหมจานีส’

ผมส่งกระแสจิตถามร่างเด็กหญิงเบื้องหน้าเพื่อความแน่ใจ ดวงตาสีเหลืองอ่อนของนานีสจับจ้องดวงตาผมนิ่งแว่บหนึ่งหนึ่งแล้วพยักหน้ารับ ก่อนส่งกระแสจิตตอบ

‘ถูกแล้ว..วิญญานข้าก็จะเป็นอิสระ…ทั้งที่ข้ายังไม่ต้องการ…ถ้าเป็นไป ได้ข้าอยากจะคงสภาพต่อไปเพื่อช่วยเหลือท่านเอต่อสู้กับจักรราศีเพื่อเป็นการ ไถ่โทษในส่งที่ข้าช่วยเหลือจักราศีทำร้ายท่านเอมาตลอด…เมื่อครู่นี้ข้าสบ ตาท่านเอและคิดจะขอร้องให้ท่านนำกระดูกของข้ากลับขึ้นไปโลกเบื้องบนด้วย เพื่อที่หากท่านต้องการให้ข้าช่วยเมื่อใด ท่านก็สามารถถ่ายปราณกระตุ้นให้ข้าฟื้นกลับมาอีกครั้ง แต่ข้ากลับลืมไปว่าหากทำเช่นนั้น ท่านจะต้องไม่ดึงวิญญาณทั้งหมดตามท่านขึ้นไปด้วย เพื่อป้องกันมิให้วิญญาณข้าแยกออกจากโครงกระดูก..ดังนั้นข้าจึงไม่อาจขอร้อง ให้ท่านรับข้าไว้แต่กลับละทิ้งวิญญานทั้งหมดในที่นี้ให้ทนทุกข์ทรมาณต่อไป ได้’

ถ้อยคำที่ส่งผ่านกระแสจิตของจานีสทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าหากมีบุคคลที่เคยทำ งานรับใช้เทพสุรัสวดีอย่างใกล้ชิดเช่นจานีสมาอยู่กับผม ก็จะทำให้การต่อสู้กับจักราศีของผมลดความเสียเปรียบลงไปได้มหาศาลจากข้อมูล ที่จานีสสามารถมอบให้ แต่ขณะเดียวกันผมก็ยอมรับว่าไม่สามารถทอดทิ้งวิญญาณจำนวนมากที่กำลังคร่ำ ครวญหาทางหลุดพ้นอยู่รอบข้างได้

‘จานีส ไม่ต้องห่วงเราหรอก เราให้อภัยท่านทุกอย่าง และจะว่าไปแล้วบุญคุณที่ท่านช่วยชีวิตเราและน้องทิพย์จากเพลิงมังกรนั้น เพียงอย่างเดียวก็สามารถทดแทนความผิดที่ท่านทำมาได้ทั้งหมด ท่านจงเป็นอิสระตามวิถีทางของวิญญานเถอะ….’

ผมบอกจานีสทางจิตอย่างหนักแน่น ขณะที่เด็กหญิงผู้มีอายุจริงกว่าร้อยปีเบื้องหน้า สบตาผมแน่วแน่ ก่อนตอบ

‘จานีสรับบัญชาท่านเอ…และขอตั้งจิตไว้ที่นี้ว่าในภพภูมิต่อไปจานีสจะเป็น ข้ารับใช้ท่านเอและท่านหญิงไปตลอดชาติภพ แต่ก่อนที่ร่างจานีสจะสลายจานีสอยากบอกท่านเอว่าถ้าเลือกได้จานีสอยากเลือก ที่จะรับใช้ท่านเอต่อไปตั้งแต่บัดนี้มากกว่า…’

ประกายตาสีเหลืองอ่อนที่จับจ้องผมเปล่งประกายที่บอกให้ผมรู้สึกว่าการรับใช้ ของจานีสน่าจะมีความหมายซ่อนเร้นอยู่ในใจ แต่ก่อนที่ผมจะถอนปราณออกจาการถ่ายเข้าร่างจานีส กระแสจิตน้องทิพบ์ก็ดังขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

‘พี่เอ เป็นไปได้ไหมที่จะคงปราณในร่างจานีสไว้โดยผ่านปราณคชสีห์’

จิตของน้องทิพย์ที่ส่งมาให้ผมและจานีสรับรู้พร้อมกัน ทำให้ผมคิดถึงรูปแบบการถ่ายทอดปราณคชสีห์ที่ผ่านการร่วมรัก ซึ่งแม้ปัจจุบันปราณคชสีห์ในร่างผมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ปราณที่สามารถ ก่อกำเนิดกาฬปราณแต่รากฐานดังเดิมของผมก็ยังคงเป็นปราณคชสีห์ และความสามารถในการถ่ายทอดปราณยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ ขณะที่ผมจะตอบน้องทิพย์กระแสจิตสั่นระริกของจานีสก็ดังขึ้น

‘ท่านเอเป็นผู้ทรงปราณคชสีห์ ปราณหนึ่งเดียวที่เกิดจากการรวมตัวของแสงสว่างและความมืด เป็นเช่นนี้เองท่านจึงสามารถครองครองอุทกมาร อุทกเทพ ก่อเกิดกาฬปราณได้ อีกทั้งยังรับวารีนาคราชไว้พร้อมกัน….เรามีหนทางที่จะรับใช้ท่านเอแล้ว แม้จะไม่สามารถรับปราณจากท่านเอได้แต่ร่างที่กำเนิดใหม่ของเราก็ยังสามารถ รับถ่ายทอดพลังชีวิตอันเกิดจากผลึกมังกรผ่านปราณคชสีห์ได้…ทำให้เราสามารถ คงร่างเพื่อรับใช้ท่านเอต่อไป…แต่นั่นหมายความว่าท่านเอต้อง…ต้อง…’

กระแสจิตของจานีสพลันชะงักลงโดยไม่ส่งต่อให้จบ ขณะที่พวงแก้มบนใบหน้างดงงามของจานีสกลับปรากฏสีแดงระเรื่องบางๆ จนทำให้เกิดสีชมพูขึ้นบนผิวหนังที่ไร้สี

‘ใช่แล้ว….พี่เอต้องเย็ดพี่จานีส…..’

ผมตะลึงไปกับจิตที่น้องทิพย์ถ่ายทอดออกมา แต่ถ้าผมเลือกที่จะให้จานีสอยู่กับผมต่อไป พร้อมกับปลดปล่อยวิญญาณทั้งหมดในถ้ำมังกรทางออกนี้ดูจะเป็นวิธีเดียว ผมจับจ้องใบหน้างดงงามของจานีสที่หลบสายตาผมพร้อมสายเลือดที่แผ่ซ่านบนร่าง ด้วยความอายจนผิวกายทั้งหมดเปล่งประกายสีชมพูรางๆ ยิ่งเพิ่มความงามให้กับร่างเปลือยเบื้องหน้ามากขึ้น หากไม่คิดถึงอายุที่แท้จริงของจานีส

‘เราคงแก่และผิวเนื้อพิการเกินกว่าที่จะกระตุ้นเพลิงปรารถนาให้ท่านเอถ่ายทอดปราณมาให้เราแล้ว…’

กระแสจิตของจานีสดังขึ้นอย่างแผ่วเบาเมื่อพบว่าผมนิ่งงันโดยไม่ส่งกระแสจิตใดๆ

‘ไม่จริง..พี่จานีสสวยมาก ทิพย์ยังอดตะลึงไม่ได้เมื่อเห็นร่างกายพี่จานีสเลย…พี่เอ..พี่เอคิดอะไรอยู่’

น้องทิพย์แย้งขึ้นเบาๆ พร้อมกับกระตุ้นเตือนผม

‘จานีส…เราขอถามอะไรท่านสักข้อก่อนได้ไหม’

ผมส่งกระแสจิตอ่อนโยนไปยังจานีส ทำให้อดีตโหราทาสจับจ้องตาผมอีกครั้งและพยักหน้ารับ

‘จานีส ท่านต้องการอยู่กับเราเพื่อรับใช้และชดเชยความผิดเพียงเท่านั้น หรือว่ามีสิ่งใดในจิตใจเบื้องลึกแฝงอยู่’

จานีสในร่างเด็กหญิงวัย 14 หลบสายตาผมวูบและนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนตอบกลับมาแผ่วเบา

‘เราขอสารภาพว่านอกจากความต้องการชดใช้ความผิดของเราเองแล้ว จิตส่วนหนึ่งของเราสั่นคลอนอย่างรุนแรงเมื่อได้เห็นท่านเป็นครั้งแรก เราบังเกิดภาพนิมิตของท่านนั่งอยู่บนบัลลังค์ทองโดยมีกลุ่มสตรีงามหลายคน หมอบเฝ้าอยู่แทบเท้าและเราก็เป็นผู้หนึ่งในกลุ่มสตรีนั้น จิตของเราร่ำร้องอยากอยู่ร่วมราวกับว่าเรารู้จักท่านมานานแสนนาน จิตของเราไม่เคยพบกับสภาพเช่นนี้มาก่อน เราจึงมุ่งหวังที่จะใช้ชีวิตกับท่านให้นานกว่านี้…ในฐานะใดก็ได้ไม่ว่าจะ เป็นผู้พยากรณ์หรือแม้กระทั่งหากท่านต้องการร่างกายนี้เราก็พร้อมที่จะสนอง ความต้องการของท่านเอด้วยร่างกายของเราเอง…แม้ว่าตลอดร้อยกว่าปีมานี้เรา พำนักอยู่ในห้องโหราจารย์ในจักรราศี เรามีเรือนกายบริสุทธิ์ที่ไม่เคยกระทบชายจนกระทั่งสิ้นชีวิตก็ตาม’

‘จานีส ท่านยังตอบไม่ตรงความหมายของคำถามเรา…เราต้องการถามท่านตรงๆ ว่าท่านรักเราหรือไม่’

ผมส่งกระแสจิตย้ำคำถามอีกครั้ง ทำให้ประกายตาจานีสส่งแสงเรืองรอง ก่อนถอนใจและตอบกลับมาอย่างหนักแน่น

‘เรายอมรับ…การพบกับท่านกระตุ้นความต้องการของสตรีให้เกิดขึ้นในจิตเรา เป็นครั้งแรก ร่างกายและจิตในเราร่ำร้องหาท่าน เราไม่ปฏิเสธว่าเรารักท่าน แต่เราก็ยอมรับหากท่านเห็นว่าเราชราและอัปลักษณ์เกินกว่าที่ท่านจะลดตัวลงมา สัมพันธ์ด้วยได้’

‘พี่เอ…’

น้องทิพย์ส่งจิตมาหาผมอย่างร้อนรน ทำให้ผมส่งยิ้มตอบเมียรักของผม แล้วปล่อยมือจากข้อเท้าเรียวกลมกลึงของจานีสเพื่อเลือนกายขึ้นทาบทับร่าง เปลือยนุ่มนวลเบื้องหน้าและประกบจูบริมฝีปากอวบอิ่มก่อนที่จะเริ่มถ่ายทอด ปราณชีวิตเข้าสู่ร่างกายเปล่าเปลือย ขณะที่ดวงตาของจานีสที่เบิกตาโพลงเมื่อริมฝีปากถูกสัมผัสจากเพศชายเป็นครั้ง แรกในชีวิต

‘ท่านเอ…อื้มห์….’

ผมส่งปราณคชสีห์ให้เข้าสู่ร่างจานีสอย่างนุ่มนวลโดยมีน้องทิพย์ช่วยนำการ โคจร ทำให้ดวงตาจานีสหลับลงและเริ่มเคลื่อนมือขึ้นมาโอบรอบคอผมไว้อย่างลืมตัว ขณะผมส่งจิตไปอย่างนุ่มนวล

‘เราถามจานีสเพราะเราก็เกิดความรู้สึกเช่นเดียวกัน เราจึงต้องถามให้มั่นใจเพราะเราไม่ต้องการฝืนจิตใจของจานีสให้มาเย็ดกับเรา …ทั้งที่เราก็ต้องการจานีสตั้งแต่แรกเห็นและสัมผัสแล้ว’

‘ท่าน..ท่านเอ…เป็นความจริงหรือนี่’

ผมหวนระลึกไปยังสภาพการเบียดเสียดร่างกายกับจานีสในหลุมมังกร และใบหน้าเรือนกายงดงามของเด็กสาวแรกรุ่นที่กระตุ้นความต้องการให้เกิดขึ้น ในใจผมอย่างเงียบๆ แต่ต่อเนื่อง และเมื่อจานีสเปิดเผยความในใจให้ผมรับรู้ ทำให้ผมไม่จำเป็นต้องระงับมันไว้อีกต่อไป

‘แต่ก่อนที่เราจะมอบปราณให้จานีสผ่านการเย็ด เรามีเรื่องที่ต้องการให้จานีสปฏิบัติตามเพื่อใช้ชีวิตกับเราต่อไป จานีสจะทำได้หรือไม่ ’

เด็กหญิงผู้กำลังส่งลิ้นเรียวเล็กเข้าเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นผมไปมา ส่งจิตตอบอย่างกระท่อนกระแท่นจากอารมณ์รักที่เริ่มปะทุขึ้นช้าๆ

‘เรายอมรับบัญชาทุกประการจากท่านเอ….โอ๊วส์…ท่านเอ…นั่น..นั่น สะ…สะ…เสียว’

ผมเลือนมือมายังทรวงอกอิ่มที่กลมกลึงราวลูกบอลขนาดย่อม และเคล้นคลึงแผ่วเบารับความหยุ่นตึงของเต้านมแรกสาว ทำให้เม็ดยอดส่วนปลายตื่นตัวเป็นม็ดแข็งสีชมพูจางๆ จากเลือดที่ถูกส่งมา ร่างงามที่ผมทาบทับบิดส่ายทุรนทุรายด้วยความเสียวที่ถูกปลุกขึ้น

‘จานีส ท่านไม่ใช่จานีสผู้เป็นโหราทาสอายุ 120 ปีอีกต่อไปแล้ว จานีสผู้นั้นตายไปในบ่อมังกรฟ้าแห่งนี้ และกลับกำเนิดใหม่เพื่อใช้ชีวิตกับเรา..บัดนี้ไม่มีโหราทาส มีแต่เด็กหญิงผู้แสนงดงามที่เรารัก ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการก็คือต่อจากนี้ไปจะไม่มีการเรียกชื่อเราเป็นท่านเอ ไม่มีการเรียกน้องทิพย์เป็นท่านหญิงทิพย์ จานีสต้องเรียกเราเป็นพี่เช่นเดียวกับเมียของพี่ทุกคน จานีสถือกำเนิดใหม่แล้วจงละทิ้งอดีตทั้งหมด และใช้ชีวิตต่อไปในฐานะเด็กหญิงดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันพร้อมกับ…พี่… จานีสจะทำได้หรือไม่…’

ดวงหน้าน่ารักของเด็กหญิงที่ผมกำลังจูบและถ่ายปราณ เบิกตาขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อได้รับรู้ความหมายที่ผมถ่ายทอดไปทางจิต

‘พี่จานีส…ดีจังเลย….’

น้องทิพย์ส่งจิตอุทานออกมาอย่างดีใจเมื่อได้ร่วมรับรู้จิตที่ผมถ่ายทอดไปยังจานีส

‘ท่านเอ…ท่านหญิงทิพย์ ไม่ใช่สิ..พี่เอ…น้องทิพย์ จานีสยอมรับ…จานีสยอมรับทุกสิ่ง ขอให้ได้อยู่รับใช้พี่เอเท่านั้น…อื๋ยส์…น้องทิพย์…ยะ อย่าบี้หัวนมจานีส….’

จานีสตอบผมด้วยจิตที่บอกถึงความติ้นตันใจ ก่อนเปลี่ยนไปเป็นกระจิตกระเส่าด้วยความเสียวในทันทีที่น้องทิพย์หันมาใช้ มือเรียวงามเคล้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มของจานีส

‘พี่เอถอนจูบจากพี่จานีสไม่ได้..เพราะพี่เอต้องถ่ายปราณให้ งั้นทิพย์จะช่วยพี่จานีสเองนะ…’

‘น้องทิพย์…โอย…น้องทิพย์อย่า…อย่าดูดแบบนั้น…’

จิตจานีสครางกระเส่าเมื่อน้องทิพย์ย้ายร่างกายมาด้านข้างผมแล้วเริ่มดูดเม้ม เม็ดยอดสีชมพูจางๆ ของจานีสไปมา จนร่างอวบอิ่มของเด็กหญิงสั่นระริก ผมเอื้อมมือลงต่ำไปยังเนินรักของจานีสเบื้องล่างแล้วต้องยิ้มในใจเมื่อพบว่า แทนที่ผมจะพบเนินรักของเด็กหญิง ผมกลับพบมือของน้องทิพย์กำลังบีบคลึงสองแคมอวบเรียวไปมาจนจานีสส่งจิตขาด เป็นช่วงๆ ด้วยความเสียว

‘น้องทิพย์…จานีส….อย่า…ตรงนั้น…ทำไม…จานีส….เสียว…จะเป็น…ลม ….อ๊าย…’

นิ้วของน้องทิพย์ที่เกลี้ยวกระตุ้นเม็ดเสียวของจานีสจนเด็กหญิงครางออกมา รีบย้ายที่เปิดทางเมื่อพบว่ามือผมกำลังเลื่อนลงไปหาเนินรักของจานีส ปล่อยให้ผมสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นที่หลั่งไหลออกมาจากร่องรักเนืองนองจน ชุ่มฝ่ามือ บอกให้รู้ว่าการปลุกเร้าที่ชำนาญของน้องทิพย์ทำให้เด็กหญิงที่เพิ่งรู้รส สัมผัสคนนี้ใกล้จะถึงจุดสุดยอดครั้งแรกในชีวิตแล้ว ผมแทนที่มือของน้องทิพย์ด้วยฝ่ามือที่กุมเนินเนื้ออวบอิ่มเอาไว้ทั้งหมด ปลายนิ้วโป้งบี้คลึงติ่งเสียวที่แข็งตัวระริกเหนือร่องแคม ขณะส่งนิ้วชี้แทรกเข้าสู่ความฉ่ำเยิ้มจนมันจมลงไปช้าๆ ท่ามกลางแรงบีบเคล้นของหลืบเนื้อนุ่มนวลภายใน

‘พะ พะ พี่เอ…ยะ อย่าหยุด มัน…ใกล้..ใกล้…แล้ว…ฮ๊าวส์…’

หลืบเนื้อในร่องรักจานีสขมิบตัวเป็นจังหวะถี่ยิบเมื่อความเสียวมาถึงจุดสุด ยอด ร่างอวบที่ผมทาบทับอยู่แอ่นโค้งขึ้นอย่างลืมตัว จนนิ้วชี้ผมสอดผ่านลึกลงไปแหวกเยื่อพรหมจรรย์ฉีกจากกันเล็กน้อยแต่ดูเหมือน จานีสจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เพราะเด็กหญิงยังคงกระหวัดลิ้นเกี่ยวพันกับลิ้นผมต่อเนื่อง ผมถอนนิ้วออกจากแรงดูดในร่องรักกแล้วยกสะโพกขึ้นทาบทับเรือนหน้าท้องเนียน ของจานีส ปล่อยให้แก่นกายที่เครียดแข็งจากความต้องการกดลงไปจ่อยังร่องรักที่ยังคง กระตุกระริกเบื้องล่าง ก่อนสอดมือทั้งสองเข้าใต้สะโพกกลมกลึงของเด็กหญิงแล้วแยกขาทั้งสองออกจากกัน

‘จานีส…พร้อมนะ…’

ผมส่งจิตเตือนเด็กหญิงที่ยังคงตกอยู่อารมณ์เสียวสุดยอด พร้อมกับจรดส่วนหัวของลำลึงค์เข้ากับสองแคมอวบ ก่อนออกแรงกดเบาๆ พร้อมกระชับสะโพกงามในวงแขนเข้าหาตัวในจังหวะเดียว แก่นกายที่ยาวเกือบเจ็ดนิ้วของผมแหวกผ่านสองแคมที่พยายามเปิดทางรับ ทะลวงผ่านเยื่อสาวที่ไม่เคยมีสิ่งใดผ่านกว่าหนึ่งร้อยปี ลงไปอัดนิ่งอยู่ร่องรักของจานีสทั้งหมดในคราวเดียว

‘โอ๊ย…พี่เอ…หะ หี จานีสฉีกแล้ว…’

ร่งเด้กหญิงที่กลับฟื้นชีวิตมาอยู่วัย 14 กระตุกเฮือกด้วยความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นผสมผสานกันระหว่างร่องแคมที่ปริแยก กับการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ แต่ร่องรักอวบอิ่มนั้นยังคงสามารถรองรับแก่นกายของผมทั้งหมดไว้ได้ แม้เจ้าของร่องรักจะแสดงอาการเจ็บปวดก็ตาม

‘พี่จานีสอดทนนิดนึงนะ…เดี๋ยวพี่เอจะได้ถ่ายพลังชีวิตให้…’

น้องทิพย์ส่งจิตปลอบปะโลมเด็กหญิงผู้พบการร่วมรักครั้งแรก พร้อมกับช่วยปลุกเร้าอามรณ์จานีสด้วยการลูบไล้เรือนร่างขาวโพลงในทุกจุดที่ ไวต่อความรู้สึก

‘น้องทิพย์…จานีสเจ็บจัง…โอ๊วส์…’

จานีสพยายามส่งจิตตอบน้องทิพย์ แต่ก็ต้องร้องออกมาเมื่อผมเริ่มดึงแก่นกายออกจากการบีบรัดช้าๆ และกดเน้นกลับลงไป

‘จานีสอดทนอีกนิด…พี่จะเริ่มช้าๆ ก่อนนะ…ทนไหวไหม..’

ผมขยับแก่นกายขึ้นลงเป็นจังหวะเบาๆ ขณะส่งจิตปลอบประโลมจานีส และเริ่มรู้สึกถึงน้ำหล่อลื่นที่เริ่มเอ่อกลับมาอีกครั้ง จนแก่นกายสามารถขยับภายใต้การบีบอัดของหลืบเนื้อได้มากขึ้นทีละน้อย…

‘จานีสทนได้..พี่เอ…พี่เอ..มาเถอะ…จะ จะ จานีส..ต้อง…กะ การ พี่..เอ… อู๊ยส์…ทำไมถึงเสียวแบบนี้..’

จานีสส่งจิตขาดเป็นห้วงๆ เมื่อผมเริ่มกระชับแรงดึงสะโพกกลมด้วยสองแขนที่สอดประสานไว้ใต้ต้นขาอวบอิ่ม และเริ่มกระเด้าเนินรักเร็วขึ้นจนร่างเด็กหญิงสั่นเทิ้มไปทั่ว สองขาเกี่ยวขึ้นมาโอบรอบเอวผมและเหนี่ยวเข้าหาอย่างลืมตัว ยิ่งทำให้การกระเด้าหนักหน่วงขึ้น…

‘จะ จานีส…หีจานีสแน่นไปหมดทั้งร่องเลย….’
‘พะ พะ พี่เอ…พี่เอ..ชอบไหม…ชอบไหม…อูย…สะเสียว…’
‘ชอบสิ…พี่ ใกล้..ใกล้แล้ว…จานีส…พร้อม…พร้อมไหม…’
‘จะ จานีส …จะ จะ จะ….โอ๊ย…มะ มาแล้ววววววววว…’

ร่างงามสั่นกระตุกขณะที่ความเสียวก็มารวมตัวที่แก่นกายผมแล้วระเบิดน้ำรัก มหาศาลลงไปในร่องรักเด้กหญิงวัย 14 ที่ขมิบรับน้ำรักทุกหยดเอาไว้อย่างหิวกระหาย…ผมฟุบร่างลงกับร่างเปลือยของ จานีสทันทีที่น้ำรักพร้อมปราณและพลังชีวิตของผมถ่ายเข้าสู่ร่างกายเด็กหญิง ปราณที่ถ่ายเข้าสู่ร่างกายที่ปราศจากพลังใดๆ รองรับทำให้มันไม่สามารถผสานและก่อเกิดปราณคชสีห์ในร่างจานีสได้ แต่พลังชีวิตของผมก็ยังคงสามารถแทรกผ่านเข้าสู่ระบบไขกระดูกและเริ่มแผ่ซ่าน ไปทั่วร่างเด็กหญิงช้าอย่างรวดเร็วราวกับเทน้ำลงไปในทะเลทรายที่แห้งผาก ทำให้ผมต้องเร่งเร้าพลังชีวิตเข้าสู่ร่างจานีสต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันจิตผมก็ต้องแปลกใจที่พลังชีวิตในร่างซึ่งควรจะอ่อนแรงลงจาก การระดมส่งเข้าสู่ร่างจานีส กลับมาสภาพเหมือนสายน้ำที่หลังไหลอย่างไม่ขาดตอน ซึ่งผมมั่นใจว่านี่คือผลจากการที่ผมหลอมรวมพลังชีวิตที่สะสมไว้ในผลึกมังกร ไว้ได้อย่างสมบูรณ์..

เวลาผ่านไปชั่วครู่ ร่างจานีสที่ก่อนหน้านี้ดูดรับพลังชีวิตจากร่างผมอย่างกระหายเริ่มลดความ เร็วในการดูดซับอย่างช้าๆ พลังชีวิตผมที่แผ่ซ่านเข้าสู่ร่างจานีสเริ่มลดความเร็วในการดูกซับลง จนในที่สุดพลังชีวิตผมก็เริ่มย้อมกลับเข้าสู่ร่างเป็นสัญญานบอกให้รู้ว่า พลังชีวิตที่จำเป็นในการคงร่างของจานีสได้ผนึกไว้ในร่างของเด็กหญิงแล้ว

‘จานีส รู้สึกอย่างไรบ้าง…’

ผมส่งจิตถามจานีสอย่างอ่อนโยน ขณะเด็กหญิงส่งจิตตอบกลับมาด้วยความตื่นเต้น

‘มันเสียวสุดๆ จานีสมีความสุขที่สุดเลยพี่เอ…แล้วพี่เอล่ะ หีจานีสให้ความสุขพี่เอไหม..’

ผมอดขำในใจไม่ได้ เมื่อพบว่าจานีสเข้าใจคำถามที่ผมถามถึงสภาพร่างกายหลังการรับพลังชีวิตผิดไป เป็นการถามถึงความสุขที่ได้รับจาการร่วมรัก แต่ผมไม่ต้องการให้เด็กสาวอับอายจึงตอบกลับไปในความมหายเดียวกัน

‘….หีจานีสเยี่ยมยอดไม่แพ้ใครพี่รับรองได้เลยนะ…’
‘…แล้วหีของทิพย์ล่ะพี่เอ….’

น้องทิพย์แทรกจิตเข้ามาอย่างกระเง้ากระงอดทำให้ทั้งผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้

‘สงสัยพี่ต้องเย็ดทั้งคู่พร้อมๆ กันมั๊ง ถึงจะรู้ได้ว่าหีใครดีกว่า แต่ตอนนี้…..จานีส ลองตรวจสอบร่างกายก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้างพี่จะถอนการถ่ายพลังชีวิตล่ะนะ’

ผมส่งกระแสจิตหยอกล้อน้องทิพย์และจานีส ทำให้เด็กหญิงทั้งสองหน้าแดงฉาน แต่ขณะเดียวกันผมก็เตือนให้จานีสเตรียมตัวผนึกพลังชีวิตในร่างให้รวมศูนย์ ด้วยตัวเองก่อนที่ผมจะหยุดถ่ายพลังชีวิต

จานีสพยักหน้ารับคำสั่งของผม ขณะที่ผมค่อยๆ ถอนปากที่ริมฝีปากจานีสอย่างแผ่วเบา พร้อมกับส่งปราณกระจายตรวจสอบระบบร่างกายของจานีสเพื่อความมั่นใจ แต่ก่อนที่ผมจะสอบถามจานีส เสียงทางจิตของน้องทิพย์ก็ดังขึ้นด้วยความแปลกใจ

‘พี่เอ..จานีส…ดูสิ…’

ผมถอนจูบและยกใบหน้าขึ้นจากดวงหน้างามของจานีส และต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าดวงตาของจานีสที่เคยเป็นสีเหลืองอ่อนเริ่มเพิ่ม ความเข้มขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่เคยขาวโพลนปราศจากสีใดๆ กลับเริ่มปรากฏสีน้ำตาลอ่อนแผ่ซ่านขึ้นมาช้าๆ…

‘อะ อะไร น้องทิพย์… ’

จานีสส่งกระแสจิตถามอย่างงงๆ เมื่อเห็นดวงตาที่แสดงความประหลาดใจของน้องทิพย์

‘ ผิว ผิวของพี่จานีสเปลี่ยนสี…มันกระจายออกไปเรื่อยๆ แล้ว…’

น้องทิพย์อุทานออกมาอีกครั้งเมื่อพบว่า สีน้ำตาลอ่อนกำลังแผ่กระจายไปทั่งร่างจานีสอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ทันทีว่าการถ่ายปราณตรวจสอบร่างกายของ จานีส แม้จะไม่สามารถก่อเกิดกระแสปราณได้ แต่ผลในการฟื้นฟูรักษาของปราณในร่างผมได้ช่วยปรับแก้ความบกพร่องในร่างของจา นีส และเม็ดสีที่ผิวหนังของจานีสที่ปรากฏขึ้น บอกให้รู้ว่าอาการของโรคที่ทำให้จานีสกลายเป็นคนเผือกกำลังถูกแก้ไขไปสู่ สภาพปกติแล้ว จานีสยดมือขึ้นมายังระดับสายตาช้าๆ ก่อนอุทานออกมา

‘พี่เอ…..ผิว…ผิว ของจานีสมีสี…มีสีแล้ว…’

‘จานีสไม่ต้องตกใจ ปราณของพี่กำลังช่วยปรับความผิดปกติในร่างจานีสทั้งหมด ตอนนี้จงระงับสติและรับการถ่ายปราณก่อนนะ..’

จานีสสบตาผมก่อนหลับตาลงอย่างว่าง่าย กระแสปราณไหลผ่านลำลึงค์เข้าสู่ร่างจานีสอย่างอ่อนโยนรอบแล้วรอบเล่า ขณะที่ร่างเปลือยของเด็กสาวที่ทอดร่างอยู่เบื้องหน้าผมก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นลำดับ เส้นผมที่เคยขาวโพลนกระจายสีดำสนิทจากโคนไปสู่ปลายๆ ช้าๆ พร้อมกับสีน้ำตาลอ่อนเปล่งปลั่งก็กระจายไปทั่วร่าง ทรวงอกขาวโพลนที่มือผมยังคงเกาะกุมความเต่งตึงกลับเป็นสีน้ำผึ้งนวลเนียน พร้อมกับเม็ดยอดที่เคยขาวซีดก็ปรับเป็นสีน้ำตาลเข้มอมชมพู ความเปลี่ยนแปลงลุกลามช้าๆ จากส่วนบนลงมายังส่วนล่าง ผ่านหน้าท้องเรียบเนียนลงมาที่เนินรักงามซึ่งร่องหลืบที่รัดรังยังคงบีบรัด แก่นกายผมแน่น สองแคมเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนระเรื่อ กลีบเนื้อภายในที่ปลิ้นออกมาจากการบดอัดของแก่นกายผมปรากฏต่อสายตาเป็นสีแดง สดใส ตัดกับน้ำรักขาวขุ่นที่เอ่อล้นออกมาจากไม่ขาดระยะ ไม่นานนักร่างเปลือยสีน้ำผึ้งของเด็กหญิงที่มีเชื่อสายเนปาลีก็เผยความงาม ทั้งหมดอยู่เบื้องหน้าผม

‘…พี่จานีสสวยจังเลย…..’

น้องทิพย์พึมพำออกมาเมื่อเห็นความงามเบื้องหน้า ขณะที่ผมดึงปราณทั้งหมดกลับเข้าสู่ร่างหลังเสณ้๗สิ้นการโคจรในร่างจานีส

‘จานีส..พี่จะถอนควยออกล่ะนะ พร้อมหรือยัง…..’

ผมส่งจิตถามจานีสเบาๆ เด็กหญิงลืมตาขึ้นและพยักหน้ารับเป็นสัญญานให้ผมค่อยๆ ถอนแท่งเนื้อออกจากความรัดรึงช้าๆ จนหลุดออกจากร่างเด็กหญิง น้องทิพย์รีบเข้าไปประคองร่างจานีสให้ลุกขึ้นนั่ง ขณะที่จานีสสูดลมหายใจลึกยาว และจับจ้องผิวกายของตนเองอย่างตกตะลึง ก่อนที่ผมจะส่งจิตใดๆ จานีสก็ลุกขึ้นแล้วคุกเข่าต่อหน้าผม พร้อมกับส่งจิตที่สั่นระริกด้วยความตื้นตันใจ

‘ชีวิตจานีสกลับมาแล้ว โรคร้ายทั้งหมดถูกกำจัด นับแต่นี้ไปจานีสคือทาสรับใช้ของพี่เอและน้องๆ ทุกคน จานีสของสาบานต่อปวงเทพเจ้าว่าจานีสจะรับใช้พี่เอด้วยชีวิตไม่ว่าจะเป็นชาติ ภพใด ’

ผมทรุดตัวลงกอดร่างงามไว้เบาๆ แล้วพยุงให้ลุกขึ้น

‘จานีส…สำหรับพี่ไม่มีคำว่าทาสหรือการรับใช้ จานีสมีอิสระที่จะใช้ชีวิตของตนเอง พี่ไม่บังคับอะไรทั้งสิ้น การเกิดใหม่ของจานีสเป็นการปลดเปลื้องพันธะในอดีตทั้งหมด แต่หากจานีสต้องการใช้ชีวิตอยุ่กับพี่และน้องๆ ทุกคน พี่ก็ยินดีที่สุด…แต่หากจานีสจะอยู่ด้วยกันจานีสต้องยอมรับว่าต่อจากนี้ไป ไม่มีอดีตโหราทาส ไม่มีอดีตที่เจ็บปวดกับการทำร้ายกัน จานีสคือเด็กหญิงที่เป็นหนึ่งในเมียของพี่ …จานีสจะยอมรับได้หรือไม่’

จานีวเงยหน้าขึ้นสบตาผมด้วยประกายตาสีดำสนิทแวววับที่เกิดขึ้นแทนดวงตาสี เหลืองอ่อนในอดีต หยาดน้าตาซึมออกมาจากหางตา ก่อนโผร่างเข้าหาอ้อมกอดผม

‘จานีสยอมรับ …ยอมรับทุกอย่าง ขอให้ได้อยู่กับพี่เอเท่านั้น…’

น้องทิพย์ขยับร่างเข้ามาโอบร่างจานีสไว้พร้อมกับผมกัน ทำให้ผมและเมียรักทั้งสองซึมซับความอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กันเนิ่นนานโดยไม่ตำ เป็นต้องกล่าววาจาใด.. เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ก่อนที่กระแสจิตน้องทิพย์ดังขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

‘พี่เอ…ทิพย์กังวลอยู่เรื่องหนึ่ง…พี่จานีสไม่มีปราณ..แล้วพวกเราจะ….’

ก่อนที่น้องทิพย์จะถามจบ ผมก็ยิ้มออกมาก่อนดึงร่างน้องทิพย์และจานีสให้ลุกขึ้นยืน และพลิกร่างน้องทิพย์เข้ามากอดไว้

‘พี่รู้ว่าทิพย์กังวลอะไร แต่ไม่ต้องกังวลนะ…เอาล่ะแยกขาออกรัดเอวพี่ไว้ …..’

ผมบังคับปราณยกร่างน้องทิพย์ขึ้น ขณะที่น้องทิพย์แยกขาออกตามคำสั่งผมด้วยสีหน้าสงสัยเล้กน้อย แต่เมื่อสองขาเรียวเกี่ยวกระชับเข้ากับเอวผม น้องทิพย์ก็อุทานออกมาเมื่อพบว่าผมกำลังจ่อแก่นกายเขึ้นไปหาเนินรักอวบอิ่ม ของน้องทิพย์ แล้วผ่อนคลายการยึดเอวน้องทิพย์ไว้จนทำให้ปลายหัวบานจ่ออยู่กับกลางร่องรัก

‘..พะ พะ พี่เอ…จะ ทำอะไร…อื๋ย….เย้ดทิพย์แบบนี้เลยหรือ….อูย…’

น้องทิพย์ส่งจิตออกมาอย่างตกใจเล็กน้อยเมื่อรับรู่ว่าผมกำลังแทรกแก่นกาย เข้าไป ในร่องรักช้าๆ แต่น้องทิพย์ก็ไม่ได้ต่อต้านใดๆ ปล่อยให้แท่งเนื้อยาวเหยียดบดอัดผ่านกลีบเนื้อเข้าไปจนสุดความยาว..ผมขยับ ร่างให้ออกจากหน้าอกเต่งของน้องทิพย์ แล้วหันไปหาจานีสที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าสงสัยที่เห็นผมร่วมรักกับน้องทิพย์ในท่าแปลกประหลาด แต่เด็กหญิงก็ไม่ขัดขืนเมื่อผมผนึกปราณยกร่างจานีสให้ลอยขึ้นและปล่อยร่าง เปลือยให้แทรกลงมาระหว่างผมและน้องทิพย์โดยหันหน้าเข้าหาน้องทิพย์.และโอบขา เรียวไว้กับเอวคอดกิ่วของน้องทิพย์…

‘พี่เอ…ทำอะไรน่ะ…’
‘พี่เอ…ทำอะไรน่ะ…’

จานีสและน้องทิพย์ส่งจิตออกมาพร้อมกันเมื่อผมโอบมือไปด้านหลังน้องทิพย์และดึงให้ร่างเด็กหญิงทั้งสองบดเบียดกันแนบแน่นในอ้อมแขน…

‘พี่จะนำน้องทั้งสองกลับขึ้นไปข้างบนไงล่ะ พร้อมนะ….’

ผมผนึกปราณที่เท้าจนก่อเกิดหมอกเรืองยกร่างขึ้นสูง … ก่อนสาดพุ่งร่างไปลอยหยุดนิ่งกลางถ้ำมังกร พร้อมผนึกปราณก่อเกิดพลังดึงดูดพุ่งลงไปหากองกระดูกที่เรืองแสงจากวิญญาณที่ ถูกกักขังไว้ แสงเรืองสีเหลืองเต้นเร่าเมื่อสัมผัสปราณแล้วรวมตัวกันอย่างรวดเร็วจนเป็น ก้อนกลมขนาดใหญ่ ก่อนที่ผมจะส่งจิตกระจายออกไปในอากาศ

‘วิญญานทั้งหลายจงตามเรากลับไปสู่ภพภูมิที่สมควรเถิด…’

ราวกับวิญญาณทั้งหมดจะรับรู้ความหมาย เมื่อผมสาดพุ่งร่างลอยขึ้นสู่ ปากช่องทางเบื้องบนเพดานถ้ำ ลูกกลมแสงที่เกาะตัวเป็นก้อนเดียวกันก็พุ่งตามมาอย่างกระชั้นชิด ขณะที่ร่างผมน้องทิพย์และจานีสพุ่งขึ้นไปสู่เบื้องบน จิตผมพลันรับรู้ความรู้สึกของดวงวิญญานที่สะท้อนความปลาบปลื้มยินดีและความ สำนึกขอบคุณอย่างชัดเจนแม้จะไม่ปรากฏเป็นคำพูดก็ตาม…

‘พี่เอ…อื๋ย…มันแน่นจัง….แล้วทำไมพี่เอต้องเย็ดทิพย์ก่อนจะขึ้นมาด้วยล่ะ…’

จิตน้องทิพย์ส่งมายังผมด้วยความเสียวที่เกิดขึ้นผสมกับความสงสัย ขณะที่จิตของจานีสตอบน้องทิพย์เบาๆ

‘จานีสคิดว่าพี่เอต้องการใช้วิธีผนึกพลังถ่ายปราณระหว่างพี่เอกับทิพย์ด้วย การเย็ดเพื่อรักษาระดับการลอยตัวของปราณให้สมบูรณ์ มิฉะนั้นด้วยระยะทางยาวไกลที่ต้องฝ่าแรงดึงดูดโลกขึ้นไปแบบนี้ หากปราณไม่ต่อเนื่องก็อาจทำให้พวกเราตกกลับลงไปได้ โดยเฉพาะเมื่อมีจานีสที่ปราศจากปราณรวมอยู่ด้วย…’

ผมอดชื่นชมความรู้เรื่องปราณของจานีสไม่ได้ เมือได้ฟังข้อสัณนิษฐานที่บ่งบอกออกมา

‘จานีสเข้าใจถูกแล้ว แต่รู้ไหมว่าถึงพี่และน้องทิพย์จะถ่ายปราณให้กันก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำจา นีสขึ้นไปพร้อมกันได้ นอกเสียจากร่างของจานีสจะมีปราณโคจรอยู่ด้วย…’

ผมตอบจานีสเบาๆ แต่ก่อนที่ผมจะอธิบายเพิ่มเติม จิตของน้องทิพย์ก็ดังขึ้นอย่างตื่นเต้น

‘ทิพย์เข้าใจแล้ว….แพรวพราว…พี่เอลามก….’

ผมอดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้เมื่อรับรู้ว่าน้องทิพย์อาศัยความทรงจำที่ผมถ่ายทอดให้จนสามารถทำความ เข้าใจกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมจะใช้เป็นหนทางนำจานีสที่ปราสจากปราณกลับขึ้นไปพร้อม กัน เนื่องจากหากปราศจากการถ่ายทอดปราณเป็นวงจรเดียวที่สามารถผนึกเพื่อใช้ออก พร้อมกับฟื้นฟูปราณที่สูญเสียไปพร้อมกัน แม้ผมและน้องทิพย์จะสามารถลอยตัวขึ้นไปได้แต่ก็ยังไม่สามารถนำร่างจานีสขึ้น ไปด้วยได้ ในขณะที่วิธีถ่ายทอดปราณราหูที่น้องแพรวและน้องพราวเคยใช้กับผมก่อนที่จะ สลายร่างไปนั้น จะทำให้ร่างของจานีสได้รับปราณวนเวียนจนสามารถผนึกวิชาคชสีห์เหินบินพร้อม กันกับผมและน้องทิพย์ ซึ่งนั่นนอกจากจะทำให้ร่างจานีสสามารถลอยตัวสูงขึ้นไปพร้อมกันแล้ว การไหลเวียนของปราณในร่างก็ยังช่วยฟื้นฟูปราณขึ้นทดแทนได้ตลอดเวลาอีก ด้วย…

‘แพรว….พราว..’

จิตจานีสดังขึ้นอย่างแปลกใจ ขณะที่น้องทิพย์สบตาจานีสอย่างล้อๆ ก่อนผนึกริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากจานีสแนบแน่นแล้วเริ่มเกี่ยวกระหวัดกับลิ้น จานีส พร้อมส่งจิต

‘พี่จานีสไม่ต้องสงสัย…ทิพย์จะอธิบายให้พี่ฟังทีหลังแต่ตอนนี้พี่จานีส ต้องปล่อยใจตามอารมณ์ของตัวเอง อย่าสะกดกลั้นความต้องการที่เกิดขึ้นนะ…’

‘น้องทิพย์…อื๋ย….ว๊าย..พี่เอ…ยะ อย่า….ซีดส์’

จานีสครางลั่นเมื่อผมดันสะโพกครัดเคร่งขึ้นสูงเหนือศีรษะ จนเนินนูนที่ปราศจากขนลอยเด่นอยู่เบื้องหน้า ผมเงยหน้าขึ้นประกบปากเข้ากับความอวบอิ่มที่ยังคงส่งกลิ่นกรุ่นของน้ำรัก อย่างไม่รังเกียจก่อนแทรกลิ้นผ่านสองแคมเข้าไปสู่ความรัดรึงภายในร่องรักจน จานีสครางออกมาด้วยความเสียว…ขณะเดียวกันสะโพกผมก็กระเด้าเนินรักของน้อง ทิพย์ช้าๆ และเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพบว่าน้ำหล่อลื่นของน้องทิพย์กำลังหลั่งออกมาชโลมลำลึงค์ เพียงผมเร่งจังหวะกระเด้าร่องรักน้องทิพย์ และใช้ลิ้นโลมไล้ติ่งเสียวของจานีส ไม่นานนักทั้งสองร่างก็สั่นระริกพร้อมๆ กัน

‘พะ..พะ พี่เอ…ทิพย์…สะ เสียว…..อ๊าย…’
‘พี่เอ…ลิ้นพี่เอ…โอย….จานีสแย่แล้ว….พี่เอ…ยะ อย่าหยุด…จานีส..มะ มาอีกแล้ว…’

หลืบรักน้องทิพย์กระตุกถี่ยิบบีดรัดแท่งเนื้อผมที่พุ่งน้ำรักเข้าไปในร่าง เด็กหญิง ขณะเดียวกับที่สองแคมของจานีสก็สั่นระริกและทะลักน้ำหอมหวานออกมาราวทำนบแตก ผมเร่งเร้าปราณเข้าสู่ร่างน้องทิพย์ที่โคจรไปตามจักรทั้งสี่ก่อนถ่ายออกมา ให้กับจานีสผ่านปากที่กำลังแลกจูบกันอย่างเร่าร้อน ทำให้ผมสามารถใช้ปรารดึงดูดตามแนวปราณราหูบังคับให้ปราณน้องทิพย์เข้าโคจรใน ร่างจานีสก่อนดูดรับกลับมาในร่างผมทางเนินรักของจานีสที่ผมดูดรับอยู่ กระแสพลังวนเวียนในร่างผม น้องทิพย์ และจานีสอย่างต่อเนื่อง ทำให้จานีสอยู่ในสภาพเป็นสื่อกลางรองรับปราณที่ถ่ายเทระหว่างผมและน้องทิพย์ เชื่อมต่อการโคจรปราณเหินบินของผมและน้องทิพย์แผ่ให้ไปถึงจานีสพร้อมกัน ทำให้ร่างทั้งสามลอยขึ้นสูงเรื่อยๆ ขณะที่พลังปราณใหม่ก่อกำเนิดทดแทนปราณที่เสียไปอย่างไม่ขาดตอน

‘พี่เอเนี่ย…คิดวิธีโคจรพลังลามกแบบนี้ได้ยังไง….แล้วนี่ทิพย์ต้องถูกเย็ดไปจนถึงข้างบนเลยใช่ไหม..’

กระแสจิตน้องทิพย์ส่งมากระทบจิตผมอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากการถึงจุดสุดยอด.. แต่ผมจับได้ว่าแม้จะดูเหมือนกับการบ่นแต่น้องทิพย์ก็เต็มไปด้วยความสุขและ ไม่ต้องการแยกเนินรักออกจากแท่งเนื้อแต่อย่างใด..

‘พี่เอ..จานีสมีความสุขเหลือเกิน….แต่อย่างเพิ่งกระตุ้นให้จานีสถึงอีกเลยนะ …’
‘สงสัยจะยากนะพี่จานีส เพราะดูท่าทางพี่เอจะชอบน้ำรักที่พี่จานีสแตกออกมามากเลยนะ..’
‘ทิพย์อย่าล้อจานีสแบบนี้สิ จานีสอายนะ…’
‘ไม่เห็นต้องอายเลย…ทิพย์ชอบจูบพี่จานีสจังมันหอมเหมือนดอกไม้ป่าเลย ถ้าเราผ่านออกไปได้แล้วมิพย์คงต้องขอพี่เอให้เย็ดทิพย์กับพี่จานีสพร้อมๆ กันทุกครั้งดีกว่า ทิพย์จะได้จูบพี่จานีสอีก…พี่จานีสไม่ชอบหรือ’
‘จานีสก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่จานีสได้สัมผัสการเย็ดจากเพศตรงข้ามและการจูบจากเพศ เดียวกัน จานีสรู้แต่เพียงว่าตอนนี้มีความสุขเหลือเกิน…’
‘อิ อิ.. หมายความว่าพี่จานีสไม่ปฏิเสธใช่ไหม……’
‘ถ้าทิพย์และพี่เอต้องการ จานีสก็พร้อมที่จะร่วมเอ้อ…เย็ด กับทิพย์นะ..’

ผมรับกระแสจิตการสนทนาระหว่างเด็กหญิงทั้งสองที่ผ่านวิกฤตชีวิตและ ประสบการณ์พิสดารมาด้วยกันด้วยความโล่งใจ ที่ผมกำลังจะรอดพ้นความตายกลับไปสุ่ครอบครัวที่ผมรักอีกครั้งพร้อมน้องทิพย์ และจานีส แม้จะรู้ดีว่าเบื้องบนคือตำหนักมังกรฟ้าที่เต็มไปด้วยผู้ทรงปราณระดับสูง แต่ด้วยปราณปัจจุบันของผมที่ได้รับวารีนาคราชจากน้องทิพย์และพลังชีวิตจาก ผลึกมังกร ประกอบกับน้องทิพย์ที่กลับกลายเป็นผู้ทรงปราณระดับสุงสุด ทำให้ผมมั่นใจว่าจะสามาถรอดพ้นจากตำหนักมังกรฟ้าไปได้อย่างแน่นอนแม้จะต้อง เผชิญกับศัตรูทีน่ากลัวที่สุดในชีวิตเช่นธิดามังกรฟ้าก็ตาม

‘พี่เอ…นี่อีกนานไหมกว่าจะถึงพื้นด้านบน…’

ห้วงคำนึงของผมสะดุดลงด้วยจิตของน้องทิพย์ที่แทรกเข้ามาหลังจากเวลาผ่านไป กว่าครึ่งชั่วโมงของการลอยตัวขึ้นสู่เบื้องสูงโดยไม่มีทีท่าว่าจะถึงพื้นผิว ทำให้ผมส่งกระแสจิตกลับไปยังน้องทิพย์และจานีส..

‘ตอนที่เราตกลงมาก็ใช้เวลากว่าชั่วโมงหนึ่งนะน้องทิพย์ ตอนนี้แม้เราจะลอยขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตามแต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับความเร็ว ตอนตกลงมา พี่คิดว่าบางทีน่าจะต้องใช้เวลาอีกชั่วโมงหนึ่งเป็นอย่างน้อย’

‘อีกนานเลย ดีนะที่พี่เอคิดวิธีโคจรปราณแบบนี้ ไม่งั้นทิพย์คงขึ้นไปไม่ถึงแน่ อย่าว่าแต่พาพี่จานีสมาด้วยเลย’

[i]‘เวลาสำหรับผู้รอคอยนั้นยาวนัก แต่สั้นเหลือเกินสำหรับผู้มีความรัก’[/i]

กระแสจิตจานีสส่งมายังผมและน้องทิพย์อย่างอ่อนโยน ทำให้น้องทิพย์หันไปให้ความสนใจจานีสทันที

‘ฟังดูเหมือนพี่จานีสสะทกสะท้อนใจอะไรหรือ..เล่าให้ทิพย์ฟังได้ไหม’

‘นี่เป็นคำพูดติดปากของเทพสุรัสวดี จานีสเองก็ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของมัน แต่จานีสก็พอจะตาดเดาได้ว่าภายใต้ความโหดร้ายของเทพสุรัสวดีนั้น มีบางส่วนที่อ่อนโยนแอบซ่อนอยู่ ’

กระสจิตที่จานีสสนทนากับน้องทิพย์เกี่ยวกับบเทพสุรัสวดีทำให้ผมอดหันมาให้ความสนใจไม่ได้

‘จานีสรู้ไหมว่าเทพสุรัสวดีคือใคร แล้วจักราศีคืออะไรทำไมถึงทำไมถึงเข้ามาแทรกแซงชีวิตของมนุษย์ได้แบบนี้ ’

จิตจานีสหยุดนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนตอบกลับมาช้าๆ…

‘เรายังมีเวลาอีกนานกว่าจะขึ้นถึงพื้นด้านบน ถ้าพี่เออยากรู้เรื่องของจักราศี จานีสก็พร้อมจะเล่าให้พี่เอและน้องทิพย์ฟังเดี่ยวนี้’
‘จานีสเล่าเถอะ พี่พร้อมที่จะรับรู้..’
‘ทิพย์ก็อยากรู้..’

จานีสหยุดนิ่งชั่วขณะก่อนเริ่มถ่ายทอดเรื่องราวของตำนานแห่งจักราศี ด้วยกระแสจิตแผ่วเบาแต่ต่อเนื่องราวกับสายน้ำ

######[i]‘นานจนไม่มีผู้ใดนับเวลาได้..จักรวาลนี้บังเกิดขึ้น พลังหนึ่งเดียวที่เคยดำรงอยู่ระเบิดออกจากกันและแตกออกเป็นสองส่วน ก่อเกิดเป็นมหสารแห่งแสง และมหสารแห่งความมืด แสงสว่างก่อเกิดมวลหมู่ดาราด้วยพลังของมหสารแห่งแสง พร้อมกับความมืดที่ล้อมจักรวาลทั้งปวงไว้ด้วยพลังของมหสารแห่งความมืด จักรวาลดำรงอยู่อย่างสมดุลระหว่างพลังทั้งสองนับกัลป์ จนกระทั่งห้วงเวลาหนึ่งพลังทั้งสองบางส่วนก็ผสมเข้าหากันโดยบังเอิญกำเนิด จิตปฐมขึ้นในจักรวาลอันอ่อนเยาว์ จิตที่เพิ่งก่อเกิดหิวกระหายความรู้ได้กระจายตัวออกเป็นมวลจิตนับไม่ถ้วน กระจายกันออกไปทุกซอกมุมของจักวาล เพียงเพื่อรับรู้ว่าจิตนั้นเป็นเอกจิตที่ดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยวและไม่มี ชีวิตรูปแบบใดกำเนิดขึ้นมาเลย จิตที่แยกออกจากกันของปฐมจิตกระจายไปทุกมุมของจักรวาลโดยไม่กลับเข้ารวมกับ ปฐมจิต เพียงเพื่อเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงแห่งจักรวาลโดยปราศจากจุดหมาย

ห้วงเวลาของการเฝ้ารอดูเหมือนจะไม่สิ้นสุด แต่แล้วส่วนเล็กๆ ของจักรดาราที่ห่างไกลจากศูนย์กลางแห่งหนึ่งก็บังเกิดจิตชั้นต่ำขึ้นโดยแฝง รวมอยู่กับสสารที่ก่อตัวขึ้นอย่างหยาบๆ หลังมวลสารพื้นฐานเกิดการรวมตัวกันด้วยอสุนียบาต จิตที่กระจายออกไปทั่งจักรวาลพลันมาชุมนุมกันอยู่ที่ดวงดาวที่ห่างไกล และเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของจิตที่ดำลังก่อกำเนิดและพัฒนาการขึ้นตามลำดับ ’[/i]############

จิตของจานีสถ่ายทอดข้อมูลต่อเนื่องให้ผมและน้องทิพย์ที่กำลังตั้งใจรับฟังจนแทบจะลืมเลือนสภาพแวดล้อมรอบกาย

#######[i]‘จากจิตหยาบๆ ที่ปราศจากความคิด โครางสร้างของสสารที่ประกอบเป็นเรือนให้จิตพำนักเริ่มสลับซับซ้อนขึ้นพร้อม กับการสร้างสมความรู้ของจิตทีละน้อย ทั้งสองสิ่งประสานหนุนเสริมกันจนในที่สุดจิตที่สามารถเรียนรู้ที่จะปรับตัว ก็กำเนิดขึ้นและแทนที่จิตจะเกิดขึ้นและดับสูญไปหลังจากสสารที่อาศัยเสื่อม สภาพ จิตนั้นกลับก่อเกิดการถ่ายเทจิตไปยังสสารชุดใหม่ที่กำเนิดขึ้นจากการแยกตัว ของสสาร และเป็นครั้งแรกที่จิตแห่งจักรวาลได้เรียนรู้ถึงการสืบพันธ์ของชีวิตรูปแบบ ใหม่ที่กำเนิดจากการแบ่งตัวเอง

จิตชั้นต่ำเริ่มกระจายแพร่พันธ์อย่างรวดเร็วจนครอบคลุมพิภพเล็กๆไว้ทั้งหมด พร้อมกับการก่อเกิดของชีวิตรูปแบบใหม่ที่ขยายพันธ์จากการรวมตัวของสองรูปแบบ ที่แตกต่างกัน ก่อเกิดการแบ่งเพศของสายพันธ์ และเพิ่มความซับซ้อนของโครงสร้างชีวิตนำมาสู่สัตว์ที่สามารถดำรงชีวิตด้วยตน เองและสืบพันธ์ด้วยการให้กำเนิดชีวิตใหม่ในร่างกาย สัตว์เลื้อยคลานได้ถือกำเนิดขึ้นและพัฒนาชีวิตจนก้าวขึ้นครอบครองโลก ด้วยเผ่าพันธุ์แห่งมังกร ซึ่งจิตแห่งจักรวาลได้เฝ้ารอคอยให้เผ่าพันธุ์เหล่านี้พัฒนาจิตให้สูงขึ้นจน สามารถติดต่อกับปฐมจิตได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าการรอคอยที่กินเวลาหลายล้านรอบการโคจรของดวงดาวไม่ประสบผล เพราะเผ่าพันธุ์แห่งมังกรยังคงอาศัยบนพื้นพิภพด้วยการเสพชีวิตอื่นเป็นอาหาร และต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอาหารมากกว่าจะพัฒนาจิตให้บริสุทธิ์ขึ้น ในที่สุดจิตแห่งจักรวาลก็ตัดสินใจทำลายเผ่าพันธุ์มังกรด้วยการผนึกพลังโน้ม นำสะเก็ดหินขนาดใหญ่พุ่งเข้าทำลายพื้นโลกเพื่อหวังให้เผ่าพันธุ์มังกรสูญไป และเปิดโอกาสให้เผ่าพันธุ์อื่นขึ้นมาครอบครองพิภพแห่งนี้’[/i]##########

สมองผมครุ่นคิดตามคำบอกเล่าของจานีส และรับรู้ว่ามันสอดคล้องกับการศึกษาของนักโบราณคดีที่ศึกษาซากดึกดำบรรพ์ของ ไดโนเสาที่สูญพันธ์ไปเมื่อหลายล้านปีก่อน รวมทั้งการสูญหายไปที่นักวิยศาตร์เชื่อว่าเกิดจากดาวหางพุ่งเข้าชนโลก ทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงจนไดโนเสาทั้งหมดไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไป ได้ และคำบอกเล่าของจานีสทำให้ผมได้รับรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากการกระทำ ของจิตแห่งจักรวาล

#######[i]‘เผ่าพันธุ์ใหม่กำเนิดขึ้นจากความพินาศของเผ่าพันธุ์มังกรที่สูญ พันธ์ไปแทบทั้งหมด มีบางส่วนที่สามารถหลบหนีเข้าสู่ถ้ำลึกภายในโลกและอาศัยธาตุอัคคีใต้พิภพ เป็นอาหาร โดยไม่กลับขึ้นมาสู่พื้นโลกอีก ทำให้เผ้าพันธ์ที่กำเนิดใหม่พัฒนาขึ้นจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กมาสู่ ชีวิตที่ซับซ้อนขึ้น และในที่สุดก็ก่อเกิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สามารถคิดหาเหตุผลได้เป็นครั้งแรก ทำให้จิตจักรวาลเฝ้าติตตามการพัฒนาความคิดของมนุษย์อย่างใกล้ชิด และรับรู้ด้วยความประหลาดใจว่านอกจากการหาอาหารแล้วเผ่าพันธุ์มนุษย์เหล่า นี้ยังต่อสู้แย่งชิงกันเองเพื่อการขยายพันธ์ และหมกมุ่นอยุ่กับการผสมพันธ์ระหว่างเพศผู้เพศเมียมากกว่ากิจกรรมใดๆ ’[/i]#####

ผมอดพิศวงกับคำบอกเล่าสั้นๆ ของจานีสไม่ได้ เพราะมันบ่งบอกถึงการกำเนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่อาศัยช่องว่างที่ไดโนเสาถูกกำจัด พัฒนาการขึ้นมาจนเป็นมนุษย์ที่ครอบครองโลกแห่งนี้

######[i]‘ด้วยความใคร่รู้จิตแห่งจักรวาลบางส่วนได้ทดลองสอดแทรกจิตเข้ารับ รู้ความรู้สึกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เมื่อได้รับรู้ความรู้สึกของมนุษย์ยามร่วมสัมพันธ์ทางเพศที่ก่อให้เกิด ความสุขอย่างแปลกประหลาด จิตจักรวาลก็หลงติดกับจิตมนุษย์และเพิ่มความถี่ในการเข้าแทรกจิตเพื่อรับ ความสุขจากเพศตรงข้ามมากขึ้นทุกขณะ พร้อมกันนั้นจิตจักรวาลบางส่วนที่ผ่านการร่วมจิตกับมนุษย์ก็ยังคงแสวงหาสิ่ง มีชีวิตประเภทอื่นเพื่อรับรู้เพศรสที่เกิดขึ้นในเผ่าพันธุ์ต่างๆ และภายในชั่วไม่กี่ร้อยรอบการโคจรของพิภพ จิตแห่งจักรวาลก็ได้แยกตัวออกจากปฐมจิตและถูกผนึกติดเข้ากับร่างมนุษย์รวม ทั้งเผ่าพันธุ์ชีวิตอื่นๆ เช่นยักษ์ นาคราช มัจฉา อสูร โดยไม่สามารถแยกออกไปได้อีก พร้อมกับการสูญสิ้นของความทรงจำในฐานะจิตจักรวาล โดยกลับเกิดความรู้สึกถึงตัวตนเป็นเอกเทศและรับรู้ถึงอำนาจที่มีเหนือชีวิต อื่นบนพิภพ’[/i]######

‘ง้วนดิน…ที่แท้ง้วนดินก็คือการเย็ดกันนี่เอง..’

ผมอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อคำบอกเล่าของจานีสระบุถึงการจุติของเทพ ที่รวมร่างกับมนุษย์ ทำให้น้องทิพย์ส่งจิตถามผมด้วยความแปลกใจ

‘ง้วนดิน…เกี่ยวอะไรด้วยล่ะพี่เอ’

‘ความคิดของพี่เอถูกต้องแล้วล่ะน้องทิพย์ ในตำนานโบราณของมนุษย์มีการกล่าวถึงพรหมที่หนีรอดจากไฟแห่งกัลป์ลงมาที่พื้น โลก และได้พบว่าพื้นโลกที่ถูกฝนชำระมีกลิ่นหอมหวนทำให้พรหมไม่สามารถระงับความ ต้องการที่ลองชิมได้ แต่เมื่อชิมแล้วร่างอันละเอียดอ่อนของพรหมก็กลับกลายเป็นหยาบขึ้นจนไม่ สามารถกลับไปใช้ชีวิตในพรหมโลกได้อีก แต่พรหมเหล่านั้นก็ยินดีที่จะอยู่บนโลกเพื่อเสพง้วนดินต่อไป แต่ในความเป็นจริงแล้วตำนานโบราณของมนุษษย์นี้ถูกเขียนขึ้นในเชิงสัญญลักษณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงความจริงที่ว่าพรหมหรือที่จริงก็คือจิตจักรวาล เสพเพศรสจนไม่สามารถถอนตัวได้’

จานีสอธิบายความหมายของง้วนดินให้น้องทิพย์ฟังเบาๆ ก่อนบอกเล่าตำนานสืบต่อ

#####[i]‘เทพกลุ่มแรกจึงถือกำเนิดขึ้นและแยกตัวออกจากสิ่งมีชีวิตมนุษย์ทั่ว ไป อำนาจที่เกิดจากพลังจักรวาลทำให้เทพกลุ่มนี้สามารถใช้พลังชีวิตก่อเกิดปราณ และเดินทางไปรวมกลุ่มกันตามลักษณะแห่งเผ่าพันธุ์ของตน กลุ่มที่เป็นมนุษย์ได้รวมตัวบนบนเกาะขนาดใหญ่ และพัฒนาปัญญาจนสามารถสร้างอาณาจักรเทพแห่งแรกได้ พร้อมกันนั้นเทพที่ร่วมกับนาคราชก็สร้างอาณาจักรของตนเองใต้พื้นสมุทร และเทพที่ร่วมกับยักษ์ก็ก่อตั้งมหาปราสาทขึ้นที่อาณาจักรลี้ลับในเทือกเขา หิมาลัย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 หมื่นปีที่ผ่านมา

อาณาจักรเทพยั่งยืนมากว่าหนึ่งหมื่นปี แต่พลังปราณกลับเริ่มเสื่อมลงเนื่องจากมีเทพจำนวนมากได้กลับไปยังสังคม มนุษย์นอกอาณาจักร และพบว่ามนุษย์เริ่มพัฒนารูปร่างหน้าตาที่งดงงามดึงดูดและกระตุ้นความต้อง การเสพเพศรสขึ้น ทำให้เทพไม่สามารถหักห้ามความต้องการได้และนำมนุษย์เหล่านั้นกลับเข้ามาพัก ร่วมในอาณาจักร ก่อเกิดเผ่าพันธุ์มนุษย์เทพที่แม้จะยังคงพลังปราณเอาไว้แต่ก็เสื่อมลงจาก ปราณดังเดิมที่กำเนิดมาในช่วงต้นอาณาจักร อย่างไรก็ตามอาณาจักรยังคงความเข้มแข็งอยู่เนื่องจากกลุ่มผู้ปกครองยังคงสืบ เชื้อสายบริสุทธิ์ด้วยการสืบทอดเชื้อสายผ่านสายเลือดเดียวกันเท่านั้น ทำให้อาณาจักรยังคงดำรงอยู่โดยมนุษย์เทพที่มีพลังปราณสูงสุดทำหน้าที่ปกครอง และจัดระเบียบสังคม จนในที่สุดก็สามารถบรรลุถึงขึ้นควบคุมพลังธรรมชาติบนพิภพ ด้วยการอาศัยความสมดุลย์ของพลังแห่งแสงสว่างและความมืด และได้รับรู้ถึงการคงอยู่ของจักรวาลในมิติอื่น แต่ก่อนที่มนุษย์เทพจะสามารถก้าวข้ามปราการแห่งมิติ ชะตากรรมกลับทำให้มนุษย์เทพเผ่าพันธุ์ผสมที่ขยายตัวจนเป็นประชากรส่วนใหญ่ ของอาณาจักร เกิดการแตกแยกทางความเชื่อโดยกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าแสงสว่างคือหนทางที่จะ ก้าวข้ามมิติไปได้ ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งกลับเชื่อว่าการผนึกพลังแห่งสสารมืดที่ครอบคลุม พื้นที่ส่วนใหญ่ของจักรวาลจึงจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง ความขัดแย้งทำให้ทั้งสองกลุ่มแปรเปลี่ยนวิถีสมดุลแห่งพลังที่เคยยึดถือมายาว นาน มาเป็นการมุ่งพัฒนาพลังแห่งแสงสว่าง และพลังแห่งความมืดด้านใดด้านหนึ่งโดยลำพัง จนเกิดพลังปราณสองสายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเป็นจุดกำเนิดของเผ่าพันธุ์เทพและมารทั้งสองฝ่ายก็เริ่มก่อความขัดแย้ง ที่พร้อมจะต่อสู่กัน แต่สถานการณ์นี้ยังไม่เกิดขึ้นเพราะอาณาจักรแห่งมนุษย์เทพยังคงถูกปกป้อง โดยกลุ่มผู้ทรงปราณสูงสุดทั้ง 13 ท่านซึ่งคัดเลือกจากผู้สืบสายเลือดบริสุทธิ์ใน 13 ตระกูลที่ยังคงสืบทายาทผ่านสายเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งถูกเรียกขานในชื่อจักราศี ตามตำแหน่งกลุ่มดาวทั้ง 13 บนท้องฟ้า

จักรราศีมีผู้นำคือเทพวิรุณปักขะแห่งราศีคนแบกงู อันเป็นจักรราศีเดียวที่รับจากจุดกำเนิดแรกเริ่มแห่งจักรวาลซึ่งบัดนี้มี สภาพเป็นหลุมดำที่ไร้ขอบเขต ทำให้เทพวิรุณปักขะเป็นหนึ่งเดียวที่เป็นเพศชาย ในขณะที่จักรราศีอีก 12 ท่านล้วนเป็นสตรีทรงความงามสูงสุดในตระกูล รับพลังที่แตกต่างกันจากกลุ่มดาวต่างๆ ก่อเป็นพลังที่ปราศจากผู้ต้านทาน จักรราศีทั้งหมดทำหน้าที่ดูแลพิภพให้ดำเนินไปในความสมดุลของพลัง

เมื่อหมื่นปีที่แล้ว อาณาจักรของมนุษย์เทพต้องเผชิญศัตรูที่ยิ่งใหญ่ จากการโจมตีของเผ่าพันธุ์มังกรที่เคยหลบหนีมหาวินาศภัยจากสะเก็ดดวงดาว ลงไปอาศัยใต้พื้นพิภพและเสพอัคคีธาตุเป็นอาหารจนสร้างภูมิปัญญาและสร้งกอง ทัพมังกรหลายล้านตัวกลับขึ้นสู่พิภพเบื้องบน ก่อมหาสงครามมระหว่างมนุษย์กับมังกร ที่ทำลายมนุษย์เทพจนแทบสูญสิ้นเผ่าพันธ์ อย่างไรก็ตามด้วยพลังแห่งจักราศีทั้ง 13 ที่นำกองทัพมนุษย์เทพทั้ง 13 กองทัพเข้าต่อสู้ โดยมีเผ่าพันธุ์ยักษ์และนาคราชเป็นพันธมิตร ทำให้ในที่สุดก็สามารถทำลายกองทัพมังกรแทบทั้งหมด แต่มนุษย์เทพ ยักษ์และนาคราชก็สูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะเทพอสรุระ ที่สูญเสียบริวารไปทั้งหมดจนต้องถอนตัวออกจากมหาสงคราม ในที่สุดก็คงเหลือแต่เพียงเทพมังกรสูงสุดทั้งสอง อันได้แก่เทพมังกรอัคคี และเทพมังกรวารี ที่นำกองทัพมังกรฝูงสุดท้ายเข้าโจมตีอาณาจักรมนุษย์เทพและนาคราชพร้อมกัน ทำให้จักราศีต้องแบ่งกำลังออกเป็นสองส่วนในสงครามสุดท้าย โดยจักราศีทั้ง 12 ต่อสู้กับเทพมังกรอัคคี และเทพวิรุณปักขะต่อสู้กับเทพมังกรวารี และในที่สุดเทวนารีแห่งจักราศีทั้ง 12 ก็ได้ผนึกพลังชีวิตทั้งหมดทำลายร่างตนเองสะกดเทพมังกีอัคคีไว้ใต้พิภพสำเร็จ แต่พลังของมังกรอัคคีก็กระตุ้นให้ภูเขาไฟใต้เกาะอันเป็นที่ตั้งของอาณาจักร ระเบิดออกและจมสูญหายไปกับมหาสมุทร ในขณะที่เทพวิรุณปักขะได้ร่วมกับพญานาคราชต่อสู้กับเทพมังกรวารีใต้สมุทรจน สามารถพิฆาตเทพมังกรวารีลงได้ แต่เทพวิรุณปักขะก็ต้องสูญพลังทั้งหมดกลายร่างเป็นรูปหินฝังอยู่ในอาณาจักร นาคราชมาจนทุกวันนี้[/i]######

‘พี่จานีส อาณาจักรนั้นคือแอตแลนติสในตำนานกรีกโบราณใช่ไหม…’

น้องทิพย์ขัดจังหวะคำบอกเล่าของจานีสเบาๆ ด้วยความเห็นที่ทำให้ผมอดชื่นชมในความช่างสังเกตของน้องทิพย์ไม่ได้ เพราะตำนานที่จานีสเล่านั้นดูจะสอดคล้องกับตำนานการล่มสลายของอาณาจักรแอ ตแลนตีสที่กล่าวถึงโดยเพลโต

‘ทิพย์เข้าใจถูกแล้ว…นั่นคืออาณาจักรที่ชาวโลกปัจจุบันรู้จักกันในนานแอตแลนติส ที่บัดนี้จมอยู่ใต้มหาสมุทรซึ่งเรียกกันว่าแปซิฟิค’

จานีสอธิบายให้น้องทิพย์ฟัง ขณะที่ผมอดคิดไปถึงข่าวการค้นพบครั้งใหญ่ของคณะโบราณคดีใต้น้ำของญี่ปุ่นเมื่อไม่นานนี้ไม่ได้

‘จานีส ที่ตั้งของอาณาจักรเทพหรือแอตแลนตีสนั้น คือบริ้วณนอกขายฝั่งหมู่เกาะริวกิว ที่ปัจจุบันนี้เรียกว่าโอกินาวาใช่หรือไม่’

ผมตั้งคำถามที่ทำให้จานีสส่งจิตกลับมาด้วยความแปลกใจ

‘พี่เอรู้เรื่องที่ตั้งของอาณาจักรเทพที่ล่มสลายได้อย่างไร..ถูกแล้ว อาณาจักรเทพตั้งอยู่ที่นั่นและปัจจุบันคงเหลือเพียงซากวิหารที่ถูกมหาสมุทร ทับถมจนไม่มีใครพบเห็น และที่นั่นคือที่ฝังร่างของเทพวิรุณปักขะที่ต่อสู้กับเทพมังกรวารีจนสูญจิต ไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับในถ้ำศิลาเบื้องล่างเราคือสถานที่ต่อสู้ของเทวนารีบริวารทั้ง 12 นางที่สลายจิตของพวกนางปิดกั้นมังกรมังกรอัคคีเอาไว้’

‘พี่เอรู้ได้ยังไง…อ้อ…ใช่แล้ว….’

น้องทิพย์พลั้งถามคำถามด้วยจิต ก่อนที่ความทรงจำของผมซึ่งถูกส่งผ่านเข้าในจิตของน้องทิพย์จะเปิดเผยให้น้อง ทิพย์รู้ถึงข่าวการค้นพบซากสิ่งก่อสร้างใต้มหาสมุทรใกล้เกาะโอกินาวา ของคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยริวกิว ที่แม้จะเป็นเพียงขั้นบันไดไม่กี่ขั้น แต่ขนาดที่มหึมากว่าขึ้นละ 100 เมตร ก็ทำให้คณะผู้ค้นพบตะลึงงงันไปกับสิ่งก่อสร้างที่เกินความสามารถของมนุษย์

‘จานีสเล่าต่อเถอะ…’

ผมตัดบทมิให้จานีสยุติคำบอกเล่าที่เปิดเผยประวัติของจักรราศี เด็กหญิงสูดหายใจรับปราณที่วนเวียนในร่างกายก่อนเริ่มถ่ายทอดตำนานแห่ง จักรราศีต่อไป

######[i]‘การสูญสิ้นของจักรราศีที่นำโดยเทพวิรุณปักขะ และการแตกสลายของอาณาจักรมนุษย์เทพทำให้เทพสุรัสวดีผู้สนับสนุนแนวทางแสง สว่าง เข้ายึดมหาปราสาทของเผ่าพันธุ์อสุระในเทือกเขาหิมาลัย และก่อตั้งจักราศีใหม่ แต่แทนที่จักราศีจะทำหน้าที่ปกป้องสมดุลแห่งพลังจักวาล เทพสุรัสวดีกลับมีบัญชาให้จักราศีทำลายมนุษย์เทพผู้สนับสนับสนุนแนวทางแห่ง ความมืด จนก่อเกิดสงครามระหว่างแสงสว่างและความมืดขึ้นเป็นครั้งแรก สงครามเกิดขึ้นนับร้อยปีและจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายแสงสว่างที่มีจักราศีสนับ สนุน หลังจากนั้นเทพสุรัสวดีได้กำหนดให้แสงสว่างคือความเที่ยงธรรมหนึ่งเดียวและ ได้เผยแพร่แนวทางไปยังมนุษย์ธรรมดาทั่วพิภพ ก่อเกิดลัทธิบูชาและศาสนาที่กำหนดวิถีปฏิบัติของมนุษย์ให้ยอมรับแสงสว่างและ ต่อต้านความมืดด้วยการกำหนดให้เป็นตัวแทนของภูตผีปีศาจที่มุ่งทำร้ายมนุษย์
มนุษย์พัฒนาความคิดความเชื่อภายใต้ความเชื่อถึงความถูกต้องของแสงสว่างและ ต่อต้านความมืดมาหลายพันปี แต่การขาดสมดุลของพลังทำให้ความมืดที่แฝงอยู่ในจิตใจของมนุษย์ถูกกดดันปิด กั้นและกลับระเบิดออกก่อเกิดความก้าวร้าวรุนแรงจนนำไปสู่สงครามนับครั้งไม่ ถ้วน และยังคงดำเนินไปจนทุกวันนี้’[/i]#######

จานีสหยุดนิ่งชั่วครู่หลังบอกเล่าตำนานที่ยาวนานให้ผมและน้องทิพย์อย่าง ละเอียด ซึ่งทำให้ผมได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับที่มาของจักราศีมากขึ้น แต่ก่อนที่ผมจะถามจานีสเพิ่มเติม น้องทิพย์ก็ส่งจิตถามด้วยคำถามที่ผมเองก็ต้องการทราบคำตอบเช่นกัน

‘พี่จานีส ทิพย์สงสัยว่าในเมื่อจักราศีสูญสิ้นไปพร้อมกับการต่อสู้กับเทพมังกรแล้ว จักราศีที่เทพสุรัสวดีตั้งขึ้นใหม่จะทำได้อย่างไรในเมื่อเทวนรีที่ทรงปราณ สูงสุดทั้ง 12 และเทพวิรุณปักขะไม่ได้เป็นผู้ถ่ายทอดให้’

จานีสส่งจิตตอบกลับมาในทันทีราวกับว่าเด็กหญิงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะได้รับคำถามนี้

#####[i]‘นั่นเป็นเพราะเทพสุรัสวดีครอบครองผลึกราศีทั้ง 12 ลูกของเทวนารีเอาไว้หลังการสูญจิตของเหล่าเทวนารีด้วยการ ผลึกราศีทั้ง 12 รับพลังจากกลุ่มดาวของจักราศีแต่ละกลุ่มที่ทรงพลานุภาพแตกต่างกัน ทำให้เทพสุรัสวดีสามารถใช้ผลึกราศีถ่ายทอดพลังให้สตรีชาวมนุษย์ผู้ถูกเลือก ให้ครอบครองพลังแห่งเทวนารีได้ แต่เนื่องจากปราศจากพลังปราณฝ่ายมืดของเทพวิรุรปักขะหนุนเสริมให้เกิดความสม ดุลย์ ผู้รับพลังจากผลึกราศีจึงไม่สามารถหลอมรวมพลังเข้ากับจิตได้ จนทำให้พลังจากผลึกราศีแตกระเบิดออกเมื่อผู้รับพลังอายุได้ 25 ปี นี่เองที่ทำให้เทวนารีแห่งจักรราศีภายใต้การนำของเทพสุรัสวดีต้องมีการสับ เปลี่ยนจากตระกูลผู้ทรงปราณทุก 10 ปี โดยจะเข้ารับตำแหน่งเมื่ออายุ 15 เพื่อรับพลังจากผนึกราศีจนมีปราณสูงสุดไร้ผู้ต้านทาน แต่จะดำรงชีวิตอยู่ได้เพียง 10 ปีก่อนแตกสลาย แต่นี่เป็นความลับที่แม้กระทั่งตัวเทวนารีเองก็ไม่รู้ มีแต่เพียงเทพสุรัสวดี และจานีสเองที่บังเอิญไปอ่านบันทึกของเทวนารีก่อนหน้าจึงได้รับรู้ความจริง ’[/i]######

ใบหน้างามและเรือนร่างงดงงามกึ่งเปลือยของธิดามังกรฟ้าปรากฏขึ้นในห้วงคิด ของผมโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้รับรู้จากจานีสว่าธิดามังกรฟ้าผู้งดงงามจะมี อายุขัยต่อไปอีกไม่เกิน 8 ปี แต่ผมรีบสะกดความรู้สึกสงสารออกไปจากจิตอย่างรวดเร็วเมื่อระลึกถึงสภาพการ เผชิญหน้าของผมกับจักรราศี

‘ถ้าเช่นนั้นจานีสบออกพี่ได้ไหมว่า เทวนารีแห่งจักราศีทั้ง 12 มีผู้ใดบ้าง…และพี่จะพบตัวได้ที่ไหน’

ผมถามคำถามที่สำคัญต่อการเผชิญหน้ากับจักราศี จานีสหยุดครุ่นคิดครู่หนึ่งเพื่อรวบรวมความคิดก่อนส่งจิตกลับมาตอบผม

#####[i]‘พี่เอ…เทวนารีแห่งจักราศีทั้ง 12 กระจายอยู่ทั่วโลกเพื่อทำหน้าที่ปกป้องแสงสว่างและทำลายความมืด จานีสจะเริ่มจากผู้ที่พี่เอเคยเผชิญมาก่อน ก็คือธิดามังกรฟ้าแห่งราศีมังกร ผู้ใช้ผลึกมังกรสร้างพลังมังกรวิบัติที่รุนแรงเกี้ยวกราดโดยปราศจากผู้ต่อ ต้าน ชื่อเดิมของธิดามังกรฟ้าคือเซี่ยวเล้งแห่งตำหนักมังกรฟ้า ได้รับการส่งตัวเข้าสู่จักราศีเมื่อ 2 ปีก่อน และได้รับความไว้วางใจจากเทพสุรัสวดีให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญมาโดยตลอด ธิดามังกรฟ้าพำนักอยู่ที่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทยแต่มีอาณาเขตปกป้อง พื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด’

‘เทวนารีแห่งราศีกุมภ์ ได้รับนามเรียกขานว่ากุมภคินี นางมีนามเดิมว่าโยนาถือกำเนิดจากชนเผ่าดั้งเดิมแห่งอนุทวีปใต้ ซึ่งพี่เอรู้จักในชื่อออสเตรเลีย นางใช้ผลึกแห่งกุมภ์ที่ควบคุมน้ำทั่งพิภพสร้างพลังวารีพิฆาตที่ทะลุทะลวงได้ แม้กระทั้งภูเขาหินทั้งลูก พำนักอยู่ที่หินใหญ่ใจกลางอนุทวีปทำหน้าที่ปกป้องอนุทวีปและหมู่เกาะน้อย ใหญ่รอบด้าน’

‘เทวนารีแห่งราศีมีนมิใช่มนุษย์ แต่นางเป็นเผ่าพันธุ์กึ่งมัจฉา ที่สืบทอดสายเลือดมาจากเทพที่ร่วมจิตกับมัจฉาในอดีต นามเดิมของนางไม่เป็นที่รู้จัก แต่ได้รับชื่อในจักราศีว่าสุรีย์มัจฉา ผู้ครองผลึกแห่งมีนสร้างพลังสมุทรวินาศ ที่ทำลายได้ทุกสรรพสิ่งหากอยู่ในห้วงสมุทร นางพำนักอยู่ที่ตำหนักบาดาลซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับซากของอาณาจักรเทพ ปกป้องมหาสมุทรและหมู่เกาะทั้งหมดของแปวิฟิค รวมทั้งทำหน้าที่ปกป้องมิให้ผู้ใดเข้าไปในซากของมหาอาณาจักรเทพ’

‘เทวนารีแห่งราศีเมษ พำนักอยู่ในทวีปดั้งเดิมของมนุษย์ที่รู้จักกันในชื่อแอฟริกา ชื่อเดิมของนางคือซาโรยี เป็นบุตรีของหัวหน้าเผ่ามนุษย์ที่สืบเชื้อสายมาแต่โบราณ นางเป็นผู้ครองผลึกแห่งราศีเมษ สร้างพลังมหาวายุที่กวาดทำลายทุกสรรพสิ่งเหนือแผ่นดิน นางได้รับการขนานนามในจักรราศีว่าเมษิยา’

‘เทวนารีแห่งราศีพฤษภ เป็นผู้ปกป้องดินแดนตอนเหนือของทวีปเอเชีย นางถือกำเนิดในอาณาเขตของแคว้นปรัสเซียซึ่งพี่เอรู้จักในชื่อรัสเซีย ปัจจุบัน นามเดิมของนางคือนาเดีย และได้รับการขานนามในจักราศีว่า การสรีย์ ผู้ครองผลึกแห่งพฤษภ ที่ทำให้แม้นางจะเป็นสตรีแต่ก็มีพลังกาสรฆาตที่แกร่งกร้าวรุนแรงที่สุดในเท วนารีทั้งมวล’

‘เทวนารีแห่งราศีเมถุนคือมิถุกานารีแห่งตระกูลโรหิณี นามเดิมของนางคือสุปาจรีย์ ผู้ถือกำเนิดจากดินแดนเดียวกับจานีสคือเนปาล ตระกูลของนางเป็นผู้ใช้ปราณราหูที่สามารถดูดพลังปราณจากผู้อื่นมาเป็นของตน เอง แต่เมื่อรับการถ่ายทอดผลึกเมถุนแล้ว พลังของนางก็กลับเป็นพลังหยุ่นยะเยียบที่เย็นจัดถึงที่สุด ขนานนามว่าพลังน้ำแข็งนิรันดร์ นางพำนักอยู่ใกล้ตำหนักจักราศีที่เทือกเขาหิมาลัย ทำหน้าที่ปกป้องชมพูทวีปไปจนจรดอาณาเขตตะวันออกกลาง’[/i]############

‘…..ปราณราหู….. ’

น้องทิพย์อุทานออกมาเมื่อได้ยินจานีสเล่าถึงจักราศีเมถุน อันมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตผมไม่ว่าจะเป็นการแย่งชิงตำแหน่งกันในตระกูล โรหิณีจนทำให้มารดาของเหมียวสิ้นชีวิต หรือแม้กระทั่งการส่งสตรีในสำนักใช้ปราณราหูที่ไม่สมบูรณ์มาดึงดูดปราณจาก ผู้ทรงปราณ เช่นที่ผมประสบกับน้องพราวน้องแพรว ซึ่งกลับทำให้ผมสามารถเรียนรู้ปราณราหูที่แท้จริงและปรับมาใช้ร่วมกับปราณ คชสีห์จนสามารถหลอมรวมปราณต่างรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน

‘ทิพย์รู้จักปราณราหูด้วยหรือ’

จานีสส่งจิตถามด้วยความแปลกใจ จนน้องทิพย์ต้องบอกเล่าเหตุการณ์ที่ผมต้องเผชิญหน้ากับผู้ทรงปราณราหูให้จา นีสฟังอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบัง ทำให้จานีสอุทานออกมาเมื่อน้องทิพย์ถ่ายทอดรายละเอียดทั้งหมดให้รับรู้

‘จานีสเข้าใจแล้ว เป็นเช่นนี้เองพี่เอจึงสามารถฝึกกาฬปราณสำเร็จ หากปราศจากปราณราหูแท้จริงที่สลายปราณต่างรูปเข้าเป็นเนื้อเดียว และโคจรปราณสองสายพร้อมกันได้ พี่เอก็ไม่สามารถใช้พลังอัคคีเทพและจิตมารก่อกำเนิดกาฬปราณ นี่นับว่าเป็นลิขิตที่ถูกกำหนดมาล่วงหน้า แม้จานีสจะแตกฉานวิชาพยากรณ์โบราณแต่ก็ไม่มีทางที่จะรู้ถึงการกำเนิดกาฬปราณ ของพี่เอได้เลย…’

‘แล้วเทวนารีอีก 6 นางของจักรราศีล่ะ พี่จานีสเล่าต่อเถอะ… ’

น้องทิพย์ส่งจิตขัดจังหวะความตื่นเต้นของจานีสเบาๆ ทำให้จานีสสูดหายใจลึกแล้วเริ่มบอกเล่าต่อ

‘เทวนารีแห่งราศีกรกฏ….’
‘จานีสหยุดก่อน…น้องทิพย์เตรียมตัว…’

ก่อนที่จานีสจะถ่ายทอดเรื่องของเทวนารีสืบต่อ ปราณรอบตัวผมก็สัมผัสความเปลี่ยนแปลงเบื้องบนจากเดิมที่เป็นช่องอากาศยาว เหยียดเหมือนจะไร้ที่สิ้นสุด กลับเริ่มปรากฏกระแสปราณกดดันย้อนกลับบอกให้ผมรู้ว่าการลอยตัวที่ยาวนานกว่า สองชั่วโมงกำลังใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ผมรีบขัดจังหวะจานีส พร้อมกับยุติการโคจรปราณผ่านร่างจานีส ก่อนจับสะโพกกลมกลึงและสองแคมที่ผนึกกับริมฝีปากผมมาตลอดออกจากจากการสัมผัส ขณะเดียวกันก็ถอนแก่นกายออกจากร่องรักของน้องทิพย์ จนน้ำรักกระจายออกไปรอบด้าน

‘อูยพี่เอ….จะเอาออกก็ไม่บอกก่อน…’

น้องทิพย์ส่งจิตมาราวกับจะประท้วงแต่ก็รับรู้ในทันทีว่าผมต้องการให้ทำอะไร..

‘ทิพย์…ผนึกพลังพร้อมกับพี่นะ จานีส กอดทิพย์ไว้ให้แน่น …ระวัง…’

ปราณที่แผ่กระจายออกรอบตัวผมสัมผัสถึงปากทางลงสู่บ่อเทวะมังกรที่ปิดสนิท อยู่เบื้องบน ผมผนึกพลังพร้อมกับน้องทิพย์และผลักกระแทกกาฬปราณออกไปเต็มกำลัง

……………ตูม……………..

แสงสว่างเจิดจ้าสาดพุ่งเข้าสู่ดวงตาผมจนพร่าพรายไปชั่วขณะ ขณะที่แผ่นหินปิดช่องทางระเบิดออกด้วยพลังที่ผมกับน้องทิพย์ผนึกขึ้นกระแทก พร้อมกัน ร่างผม น้องทิพย์ที่มีจานีสแทรกอยู่ตรงกลางลอยขึ้นสูงไปในอากาศ ก่อนลอยต่ำลงมาช้าๆ ท่ามกลางสายตาของบริวารมังกรฟ้าที่เฝ้ารักษาการณ์ในห้องจับจ้องมองมาอย่างตก ตะลึง ผมหยุดร่างลงกับพื้นพร้อมปล่อยให้น้องทิพย์และจานีสออกจากอ้อมแขน ก่อนสะบัดมือแผ่พุ่งกาฬปราณออกไปยังบัลลังค์มังกรเบื้องหน้า

………พรึ่บ…………

บัลลังค์ไม้อันแข็งแกร่งสลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตา ผมตวาดก้องใส่บริวารมังกรฟ้าที่ยังคงตะลึงงันอยู่โดยรอบ

“ไปตามถังฮวงมารับความตายเดี๋ยวนี้….”

Related

Prev
Next

Comments for chapter "The Zodiac บทที่ 4.3 ตำนานจักราศี"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

© 2025 Madara Inc. All rights reserved