ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

The Zodiac บทที่ 4.2 วารีนาคราช

  1. Home
  2. The Paradox & The Zodiac by Buta
  3. The Zodiac บทที่ 4.2 วารีนาคราช
Prev
Next

The Zodiac บทที่ 4.2 วารีนาคราช

เวลาสี่โมงเย็น ทำให้ถนนคอนแวนต์เบื้องล่างที่ผมเฝ้าจับตาอยู่เต็มไปด้วยรถยนต์จำนวนมากที่ มารอรับบุตรหลานจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ร่างนักเรียนหญิงจำนวนมากพรั่งพรูออกจากประตูโรงเรียนหลังเสียงออดบอกเวลา เลิกเรียนดังขึ้นไม่นานนัก สายตาผมจับจ้องไปที่ประตูเพื่อเฝ้ารอร่างของเด็กหญิงวัย 12 ของน้องทิพย์วารี ซึ่งเป็นผู้ที่ผมมีความสัมพันธ์ด้วยในอดีตที่ผ่านมาของผม แต่มันกลับเป็นอนาคตของห้วงเวลาปัจจุบัน

ผมบิดตัวเล็กน้อยเพื่อ เปลี่ยนอิริยาบถหลังจากเฝ้าอยู่กับที่มาเป็นเวลานาน เพราะตั้งแต่ผมเดินทางด้วยเครื่องบินมาถึงกรุงเทพพร้อมน้องเมย์และน้องมินท์ เมื่อเช้า ผมก็ตรงมาเฝ้าอยู่ที่นี้ในทันทีและได้เห็นร่างน้องทิพย์ลงจากรถเข้าไปใน โรงเรียนตอนเช้า แต่หลังจากนั้นผมก็ผนึกสมาธิจับตาความเคลื่อนไหวอยู่กับที่โดยไม่ขยับร่างไป ไหนเพราะไม่ต้องการให้ความเคลื่อนไหวใดๆ ของน้องทิพย์วารีคลาดสายตาไปได้อีก แต่ในสมองผมยังคงอดคิดถึงน้องเมย์และน้องมินท์ที่ที่เดินทางกลับกรุงเทพมา พร้อมกับผมด้วยความเสียดายไม่ได้ เพราะแม้หญิงสาวที่แสนงดงงามทั้งสองจะแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยว่าพร้อมจะมี ความสัมพันธ์กับผม อย่างไรก็ตามผมต้องระงับความต้องการไว้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของทั้งสอง เอง ทั้งที่ส่วนลึกของจิตใจผมยังคงจำได้ถึงเรือนร่างและรสสัมผัสที่รัดรึงของสอง สาวที่ผมรับความบริสุทธิ์เอาไว้ แต่กลับต้องปิดบังไม่ให้ทั้งสองรับรู้

จากดาดฟ้าของตึกแถวตรงข้ามโรงเรียนที่ผมแฝงร่างอยู่ ภาพเด็กหญิงวัยประถมจนถึงมัธยมที่เคลื่อนไหวขวักไขว่อยู่เบื้องล่าง มิได้ทำให้สมาธิของผมที่จรดจ่ออยู่กับน้องทิพย์เสียไป แม้ว่าใบหน้าและเรือนกายของเด็กหญิงในตระกูลสูงซึ่งเปล่งปลั่งงดงงามด้วยวัย สาวดึงดูดสายตาเพศชายจะปรากฏให้เห็นอยู่นับไม่ถ้วนก็ตาม แต่จิตใจผมมุ่งอยู่กับเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของการเดินทางจากเชียงใหม่ลง มากรุงเทพในครั้งนี้ คือเพื่อช่วยน้องทิพย์จากเหตุการณ์ที่ถูกเพื่อนชายล่อลวงไปให้ทรชนกลุ่มใหญ่ ข่มขืนที่โรงแรมย่านจรัลสนิทวงศ์ และส่งต่อไปให้กับซ่องโสเภณีในสำเพ็งจนทำให้ชีวิตน้องทิพย์ต้องพบกับหายนะ ที่ไม่สามารถลืมเลือนได้

ภาพเด็กหนุ่มวัย 16-17 ในชุดเสื้อแจกเกตหนังที่บังคับมอร์เตอร์ไซด์ยามาฮ่าสีดำสนิทมาจอดที่หน้า โรงเรียน กระตุ้นความทรงจำของน้องทิพย์ที่ยังคงฝังแน่นในจิตใจผมทันที ผมรู้ดีว่าร่างนั้นคือเด็กหนุ่มชื่อชาติที่เข้ามาทำความรู้จักน้องทิพย์ เมื่อ 3 เดือนก่อนและอาศัยความอ่อนโลกและความเงียบเหงาของน้องทิพย์แทรกตัวผ่านเข้า สู่หัวใจเด็กหญิงจนเป็นที่ไว้ใจ โดยที่น้องทิพย์ไม่รู้เลยว่าเป้าหมายที่แม้จริงของเด็กหนุ่มผู้นี้คือการ ระบายความใคร่กับร่างอ่อนเยาว์บริสุทธิ์ของน้องทิพย์และให้สังเวยกามแก่ เพื่อนในกลุ่มของมันทุกคนก่อนที่จะนำไปขายต่อที่ซ่องโสเภณีในความควบคุมของ สำนักมังกรฟ้าที่เยาวราช ผมขบกรามแน่นระงับความต้องการที่จะสังหารเด็กหนุ่มอย่างยากเย็น เพราะผมรู้ดีว่าในห้วงเวลาปัจจุบันนี้ น้องทิพย์ยังคงไว้วางใจมันและไม่รู้จักว่าผมคือใคร การแทรกแซงเข้าไประหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสอง จึงทำได้ต่อเมื่อชาติเปิดเผยสันดานที่แท้จริงออกมาก่อนเท่านั้น

ความเคลื่อนไหวของนักเรียนเบื้องล่างลดน้อยตามเวลาที่ผ่านไป จนความมืดเริ่มเข้าครอบคลุมพื้นที่หน้าโรงเรียน ผมถอนใจยาวเมื่อความทรงจำน้องทิพย์ในร่างบอกให้รู้ว่าน้องทิพย์ได้โทรไปบอก ที่บ้านให้ไม่ต้องมารับโดยอ้างการทำกิจกรรม และรอจนนักเรียนทั้งหมดออกจากโรงเรียนแล้วจึงหลบออกมาพบกับชายหนุ่มที่นัด หมายไว้ ทันใดนั้นดวงตาผมก็กระตุกวูบเมื่อเห็นภาพร่างบอบบางของเด็กหญิงวัย 12 ในชุดนักเรียนก้าวออกมาจากประตูโรงเรียนอย่างไม่แน่ใจ ใบหน้าหวานใสหันขวับไปมาราวกันจะสอดส่ายสายตาหาคน จนหางเปียสองเส้นที่ถักมัดเส้นผมยาวสลวยสะบัดเป็นวงกว้าง ด้านหลังเด็กหญิงสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ไว้ และในทันทีที่เห็นร่างเด็กหนุ่มบนรถจักรยานยนต์ เด็กหญิงก็พยักหน้าให้และออกเดินไปยังถนนสีลมในทันทีพร้อมกับที่เด็กหนุ่ม ชื่อชาติสตาร์ทรถและขับตามไปห่างๆ ผมถอนใจยาวเมื่อเห็นอากัปกริยาของเด็กหญิงทิพย์วารี วัย 12 เบื้องล่าง เพราะความจำของน้องทิพย์นจิตใจผมบอกว่าในวันนี้น้องทิพย์นัดให้ชาติมารอที่ หน้าโรงเรียนเพื่อหนีออกจากบ้าน โดยนำทรัพย์สินมีค่าจากบ้านติดตัวมาในกระเป๋าเป้ด้านหลัง ซึ่งน้องทิพย์เชื่อว่าจะนำไปขายเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับชาติ ทีผู้ซึ่งเด็กหญิงเชื่อว่าเป็นผู้เดียวในโลกที่รักตนเองอย่างจริงใจ ในขณะที่ทุกคนในบ้านกลับมองน้องทิพย์เป็นตัวกาลกิณีที่ทำให้ครอบครัวประสบ ความล้มเหลวทางธุรกิจ ร่างที่เคลื่อนห่างออกไปทำให้ผมต้องกระจายปราณไปทั่วร่างแล้วดีดตัวไปตามยอด ตึกราวกับปุยนุ่นที่ไร้น้ำหนักติดตามไปโดยไม่คลาดสายตา

น้องทิพย์ ก้าวขาอย่างรวดเร็วแล้วเลี้ยวเข้าซอยที่เงียบสงบก่อนถึงถนนสีลม ขณะที่รถมอร์เตอร์ไซด์ของชาติก็เลี้ยวตามเข้าไป แล้วจอดข้างตัวเด็กหญิงพร้อมเปิดกระเป๋าสะพายดังเสื้อคลุมตัวใหญ่ให้น้อง ทิพย์สวมใส่ซ่อนเสื้อนักเรียนในทันที ก่อนที่เด็กหญิงจะก้าวขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่เร่งเครื่องออกมาจาก ซอยอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าเข้าถนนสีลม ผมสูดหายใจลึกแล้วดีดร่างตามไปห่างๆ ตามยอดตึกด้วยวิชาคชสีห์เเหินบินอันเป็นปราณเคลื่อนที่ร่างของผม ที่ผมแน่ใจว่าความรวดเร็วของมันทำให้สายตาของผู้คนเบื้องล่างหรือแม้กระทั่ง คนที่อยู่บนตึกก็ไม่สามารถจับภาพของผมได้

รถจักรยานยนต์ที่พาร่าง น้องทิพย์ออกห่างจากโรงเรียนทุกขณะ มุ่งหน้าผ่านการจราจรที่เบาบางไปยังสะพานกรุงธน โดยมีผมติดตามไปอย่างไม่คลาดสายตา ภาพน้องทิพย์ที่กอดร่างชาติไว้แน่นแล้วกระซิบคุยที่ข้างหูขณะข้ามสะพานกรุ งธน แม้จะไม่ได้ยินแต่ความทรงจำของน้องทิพย์ในร่างผมก็ทำให้ผมรู้ดีว่าทั้งสอง กำลังพูดอะไรกัน

“พี่ชาติจะพาทิพย์ไปไหน”
“เดี๋ยวพี่จะพาทิพย์ไปหลบในโรงแรมข้างหน้าก่อนนะ..”
“พี่ชาตินั่นมันโรงแรมม่านรูดไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เป็นไรหรอกทิพย์ พี่รักทิพย์ พี่ไม่ทำอะไรทิพย์หรอก เราเข้าไปหลบจนมืดก่อนแล้วค่อยออกเดินทางไปทางใต้กันสองคน”
“ไปเลยไม่ได้หรือพี่ชาติ ทิพย์ไม่อยากเข้าไปในโรงแรมแบบนี้เลย”
“ทิพย์เชื่อใจพี่เถอะ…ถ้าไปตอนนี้อาจเจอตำรวจตั้งด่านตรวจนะ”
“แต่พี่ชาติต้องสัญญานะว่าอย่าเพิ่งทำอะไรทิพย์…ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วทิพย์จะให้ทุกอย่างกับพี่ชาติเอง”
“พี่สัญญา เอาล่ะถึงแล้ว..เดี๋ยวพอพี่จอดรถทิพย์รีบเข้าไปในห้องเลยนะ..”

เนื้อหาการสนทนาในความทรงจำดังขึ้นในสมองผม ทำให้ผมอดถอนใจด้วยความสงสารเด็กหญิงวัย 12 ที่อ่อนต่อโลกไม่ได้ เพราะสิ่งรอน้องทิพย์อยู่ในห้องของโรงแรมนั้นคือกลุ่มชายฉกรรจ์เพื่อนของ ชาติ 6 คน ที่จะเข้าจับเด็กหญิงให้ชาติข่มขืนเป็นคนแรกและตามมาด้วยการระบายความใคร่ ที่รุนแรงยาวนานตลอดคืนก่อนที่ทั้งหมดจะนำทรัพย์สินที่น้องทิพย์ติดตัวมา แบ่งกันและนำร่างที่ไร้สติของน้องทิพย์ไปขายที่ซ่องโสเภณีย่านสำเพ็ง

ผมจับตามองรถมอร์เตอร์ไซด์ที่เลี้ยวเข้าในซองจอดหน้าห้องพักของโรงแรมเขม็ง ปราณที่ผนึกรวมที่ใบหูทำให้ประสาทรับเสียงผมเพิ่มความไวขึ้นอีกหลายเท่า ผมจับตามองร่างน้องทิพย์ที่เดินเข้าไปในห้องพร้อมกระจายปราณไปทั่วร่างเพื่อ เตรียมเคลื่อนไหว เพราะผมรู้ดีว่าเมื่อน้องทิพย์เข้าไปได้ไม่นาน ไอ้ชาติจะเดินตามเข้าไปและถอดหน้ากากสุภาพบุรุษออกในทันทีโดยจะเด็กสาวให้ ทอดร่างลงบนเตียงแล้วเปิดประตูห้องน้ำให้กลุ่มชายชั่วทั้ง 6 คนออกมา ปราณที่ผนึกเป็นเส้นสายถ่ายทอดเสียงที่เกิดขึ้นในห้องออกมาให้ผมรับรู้ราว กับทุกสิ่งเกิดขึ้นตรงเบื้องหน้า ไม่ใช่ดาดฟ้าตึกแถวตรงข้ามที่ผมกำลังเฝ้ารอเวลาอยู่

“พี่ชาติ …ทำอะไรน่ะ…”
“กูจะเย็ดเอ็งน่ะซี…เฮ้ยพวกเราออกมาได้ กูพานังคนสวยจากเซ็นต์โยเซฟมาแล้ว”
“ว๊าย…อย่านะพวกแกเป็นใครออกไปนะ….ช่วยด้วย…”
“ไอ้กร..มึงอุดปากมันไว้…เดี๋ยวกูขอดูเนื้อในนังนี่หน่อยซิ แม่งเล่นตัวฉิบหาย … ”
“แคว๊ก…”
“เฮ้ย…อะไรกัน พวกแกเป็นใคร…อ๊าก……. ”
“ กรี๊ดดดดดดดดดดด……… ”

เสียงร้องด้วยความตกใจและความเจ็บปวดของไอ้ชาติ ที่ตามมาด้วยเสียงกรีดลั่นของน้องทิพย์ ทำให้ผมต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะนั่นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยอยู่ในความทรงจำที่ผมมีอยู่ ทำให้ผมสาดพุ่งร่างไปยังห้องของโรงแรมที่น้องทิพย์อยู่ทันที แต่ขณะที่ร่างผมยังไม่ทันพ้นจากพื้นดาดฟ้า หลังคาของโรงแรมเบื้องหน้าก็ระเบิดแตกออกเป็นช่องใหญ่ พร้อมกับชายชราร่างสูงในชุดเสื้อคลุมสีดำสนิทลอยตัวขึ้นมาราวกับค้างคาวตัว มหึมา ตามด้วยร่างสันทัดของชายอีกสองคนในชุดสีดำรัดกุมที่พุ่งขึ้นมาหยุดอยู่ ยนพื้นหลังคาที่แตกออกจากกัน ภาพเบื้องหน้าทำให้ผมสะท้านใจเฮือกเมื่อพบว่าในวงแขนของชายชรามีร่างเปลือย ของน้องทิพย์ที่กำลังดิ้นรนไปมาแต่ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ ซึ่งเป็นอาการของผู้ที่ถูกสกัดปราณกล่องเสียงเอาไว้ ขณะที่ชายชราหันหน้ามามองร่างผมที่กำลังสาดพุ่งเข้าหา ก่อนเอ่ยคำสั่งดังสนั่น

“มีผู้ทรงปราณอยู่ที่นี่….ฆ่ามัน…”
“น้อมรับคำสั่งท่านประมุข”

ร่างสันทัดของสองชายฉกรรจ์สาดพุ่งเข้ารับผม ขณะที่ชายชราลอยตัวขึ้นอย่างรวสดเร็วแล้วสาดพุ่งร่างไปทางทิศตะวันออก ผมผนึกปราณทั้งหมดในร่างผลักออกปะทะท่านพลังรุนแรงของชายมั้งสองเบือ้งหน้า ด้วยความหวังที่หวังยุติศึกให้เร็วที่สุดและรีบตามชายชราที่พาร่างน้องทิพย์ ออกห่างไปทุกขณะ

“….เปรี้ยง…..”

ปราณของผมปะทะกับปราณ มังกรฟ้าของสองชายฉกรรจ์เบื้องหน้าตรงๆ แรงสะท้อนมหาศาลกระทกกลับเข้าหาสองแขนผมจนกระดูกลั่นเปรี๊ยะ พร้อมกับร่างผมที่ปลิวกลับไปยังดาดฟ้าเดิมที่ผมพุ่งร่างเข้ามา ทำให้ผมอดตระหนกกับความเข้มแข็งของปราณเบื้องหน้าไม่ได้ เพราะปราณของแต่ละคนแทบจะอยู่ในระดับเดียวกับถังหลินองครักษ์อันดับหนึ่งของ สำนักมังกรฟ้าที่ผมปลิดชีพไปเมื่ออาทิตย์ก่อน และยิ่งเมื่อเป็นการผนึกพลังเข้าด้วยกันแล้ว จึงทำให้ผมกระเด็นกลับออกมาโดยไม่สามารถกำจัดศัตรูเบื้องหน้าได้

ร่าง ชายทั้งสองที่ปะทะพลังกับผม ก็ไม่ได้เปรียบกว่าแม้แต่น้อย พลังมหาศาลของการปะทะปราณส่งร่างทั้งสองให้ตกวูบกลับลงไปในห้องที่ถูกทำลาย เบื้องล่าง แต่ขณะที่ผมรวบรวมปราณทั้งหมดขึ้นได้อีกครั้งแล้วดีดตัวไปตามร่างชายชรา ร่างของทั้งสองก็พุ่งขึ้นกลับมาขวางหน้าผมบนหลังคา ทำให้ผมต้องทิ้งร่างลงเผชิญหน้าศัตรูทั้งสอง

“เราคือกวงเม้ง และผู้นี้คือปักเซ้ง องครักษ์อันดับสองและสามแห่งสำนักมังกรฟ้า ท่านคือผู้ใด”

ชายฉกรรจ์ชุดดำเบื้องหน้าเอ่ยปากต่อผมด้วยวิธีของผู้ทรงปราณก่อนการต่อสู้ ทำให้หัวใจผมพลันสะท้านเยือกเมื่อรับรู้ว่าร่างเบื้องหน้าทั้งสองคือ องครักษ์อันดับสองและสามของสำนักมังกรฟ้า ซึ่งมีชื่อคู่เคียงกับถังหลิน ซึ่งนั่นหมายความว่าชายชราที่นำร่างน้องทิพย์จากไปจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ถังฮวงผุ้เป็นประมุขสูงสุดแห่งสำนักมังกรฟ้า ผมสูดลมหายใจลึกจับจ้องสายตาที่ใบหน้าขาวสะอาดของกวงเม้งและใบหน้าที่ปุปะ ด้วยบาดแผลของปักเซ้ง ก่อนตอบอย่างเคร่งขรึม

“เราคือไกรวิทย์แห่งตระกูลคชสีห์ …ท่านทั้งสองจะต่อสู้ด้วยวิธีใด”

ดวงตาของสององครักษ์ทอประกายวูบเมื่อได้ยินชื่อตระกูลคชสีห์ .. แต่สีหน้าปักเซ้งกลับทอประกายเย้ยหยันก่อนเอ่ยเสียงแหบพร่า..

“ที่ แท้เป็นผู้ครองปราณมารที่สมสู่ในสายเลือด…วันนี้เรามีภารกิจสำคัญ หากเจ้ารู้ชั่วดีก็จงหนีไปเสียอย่ามายุ่งกับเรื่องของสำนักมังกรฟ้า…”
“เราต้องยุ่ง เพราะผู้ที่ถังฮวงนำตัวไปคือผู้ที่เรารู้จัก ….”

ก่อนที่ผมจะพูดจบ กวงเม้งพลันส่งเสียงหัวร่ออย่างเหยียดหยามแล้วตวาดลั่น

“เจ้าไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับท่านประมุข แม้เจ้าจะรู้จักนาง แต่บัดนี้นางเป็นของท่านประมุข อีกไม่กี่ชั่วยามข้างหน้า ท่านประมุขจะรับพรหมจารีย์ของนางเพื่อปลดปล่อยวารีนาคราช เสริมให้ท่านประมุขเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง…แต่ข้าเชื่อว่าหลังจากท่าน ประมุขเสร็จธุระแล้ว เจ้าก็สามารถไปขอรับซากศพของนางกลับมา..หรือเจ้าจะให้ข้านำส่งไปให้ก็ได้… ”

คำพูดของกวงเม้งทำให้ความโกรธของผมพุ่งขึ้นมาจนแทบควบคุมไม่ได้ แต่ยังคงขบกรามถามกวงเม้งเพื่อหาข้อมูลช่วยน้องทิพย์

“ถังฮวงพาสตรีนางนั้นไปที่ใด เราจะไปฆ่ามัน”

สององรักษ์ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินคำพูดผมที่ประกาศจะสังหารประมุขสูงสุดของสำนักมังกรฟ้า

“เรา จะบอกให้ก็ได้ว่าท่านประมุขจะนำสตรีนางนี้ไปยังสำนักใหญ่มังกรฟ้า และจะเย็ดนางที่กลางหอบูชามังกรของสำนักโดยมีบริวารทั้งหมดมาร่วมพิธีเพื่อ เป็นพยานในการรับวารีนาคราช แต่เจ้าไม่มีโอกาสไปร่วมรับรู้แน่นนอน เพราะเจ้าจะต้องจบชีวิตที่นี่..เดี๋ยวนี้…”

กระแสพลังเจิดจ้าแลบ แปลบออกมาจากสองมือปักเซ้งพุ่งใส่ร่างผมในทันที แต่นั่นไม่ได้อยู่เหนือความตาดหมายผมแต่อย่างใด ประสบการณ์ที่ได้ต่อสู้กับผู้ทรงปราณระดับสูงของสำนักมังกรฟ้าทำให้ผมคุ้น เคยกับกระแสพลังนี้และแผ่พุ่งพลังเข้าปะทะอย่างทันท่วงที

“….เปรี๊ยะ… ”

พลังสะท้อนจากการปะทะปราณทำให้ร่างปักเซ้งส่ายโอนเอนวูบหนึ่งแล้วเซถอยหลัง ไปสอง ก้าวด้วยใบหน้าซีดเผือก ในขณะที่ร่างผมเพียงสะท้านเฮือกแต่ยังคงทรงตัวอยู่ได้ ทำให้ผมอดคลายใจไม่ได้เมื่อรับรู้ว่าปราณของปักเซ้งแม้จะแข็งกร้าวรุนแรงแต่ ความเข้มแข็งของปราณยังเป็นรองผมอยู่…

“นี่ไม่ใช่ปราณคชสีห์…เจ้าเป็นใคร…”

ปักเซ้งคำรามลั่น พร้อมกับเสื้อผ้าที่เบ่งพองขึ้นเป็นสัญญานของการโคจรปราณเตรียมโจมตี แต่ก่อนที่ผมจะตอบ ร่างกวงเม้งที่อยู่ด้านข้างกลับโผขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วดำดิ่งลงหาผมอย่างรวด เร็วพร้อมประกายสายฟ้าที่แลบแปลปลาบระหว่างนิ้วมือ ขณะเดียวกันร่างปักเซ้งก็ดีดเข้าหาผมเต็มกำลังโดยผนึกสองฝ่ามือเข้าหากัน แล้วสะบัดพุ่งปราณมังกรฟ้าเข้าหาผม…

ประสบการณ์รับการโจมตีพร้อม กันทั้งด้านบนและล่างของสำนักมังกรฟ้าที่ผมเผชิญมาสองครั้ง ทำให้ผมสามารถกำหนดหนทางต่อสู้ได้ในทันที ร่างผมหมุนเป็นวงราวลูกข่างพร้อมกำหนดจิตที่ภาพของน้องรินน้องกิฟท์ ก่อเกิดประกายสีแดงเจิดจ้าขึ้นในฝ่ามือซ้ายและประกายสีม่วงสดใสขึ้นในมือขวา สองมือพลันผนึกเข้าหากันระหว่างที่ปราณคุ้มครองกายกระจายออกรับการจู่โจมของ สององครักษ์

…….บรึม……ซ่า…..

พลังปราณมังกรฟ้า ทั้งสองสายที่กระทบม่านพลังหมุนวนของผมแตกระเบิดออกแล้วกระจายออกไปโดยส่ง แรงสะเทือนรุนแรงเข้ามายังร่างผม แต่ยังคงอยู่ระดับที่ผมต้านรับได้ ร่างผมพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสวนกับร่างปักเซ้งที่ตกลงมายืนเคียงข้างกวงเม้ง ผมผนึกพลังสองสายเจ้าหากันเพื่อโคจรในแนวทางแห่งกาฬปราณจนประกานสีแดงม่วง ทั้วสองสายกลืนเข้าหากันกระจายเป็นละอองสีดำแผ่ออกรอบร่าง…แล้วผนึกปราณลง โจมตีสององรักษ์ที่เบิกตาโพลงด้วยความหวาดหวั่นอยู่เบื้องล่าง

“….กาฬปราณ….”
“…เป็นไปไม่ได้..จ้าววิรุณปักขะ….”

องครักยษ์มังกรฟ้าทั้งสองแผดเสียงร้อง พร้อมกระแทกพลังปราณรับการโจมตี

….เปรี๊ยะ….อ๊ากส์….

กาฬปราณจากร่างผมที่กระหน่ำลงยังเบื้องล่างปะทะพลังปราณมังกรฟ้าทั้งสองสาย เต็ม ที่ จส่งร่างผมให้กระดอนขึ้นไปกว่า 10 เมตร แต่ขณะที่ร่างผมตกกลับลงมา ภาพเบื้องล่างก็ทำให้ผมสะท้านใจกับผลของกาฬปราณไม่ได้

“…เจ้า…เจ้าคือทายาทของจ้าววิรุณปักขะ…อ๊าก..อ๊อก…”
“…จักรราศีปล่อยให้วิชานี้ถ่ายทอดมาได้อย่างไร…ข้า…ข้า…”

ร่างกวงเม้งและปักเซ้งนอนขดตัวกระตุกระกริกอยู่กับพื้น ใบหน้าสององรักษ์ที่ปะทะกาฬปราณซีดเผือก ส่งเสียงกระท่อนกระแท่นด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ชั่วอึดใจความเคลื่อนไหวทั้งหมดก็หยุดลงพร้อมกับร่างทั้งสองที่ถูกสีดำ สนิทเข้ากลืนผิวกายอย่างรวดเร็วแล้วสลายร่างกายที่เคยเป็นผู้ทรงปราณระดับ สูงของสำนักมังกรฟ้าทั้งสองให้เหลือเพียงฝุ่นผงสีดำสองกองอยู่เบื้องหน้า…

ผม สูดลมหายใจลึกเพื่อตรวจสอบปราณในร่างกาย และพบว่าผลจากการปะทะแม้ผมจะสามารถทำลายศัตรูที่เข้มแข็งทั้งสองได้ แต่การเร่งผนึกกาฬปราณที่ผมยังไม่ชำนาญเข้าหักหาญกับทั้งสอง ทำให้จักรปราณทั้งสี่กระทบกระเทือยอย่างรุนแรง จนทำให้ปราณในร่างไม่สามารถระดับความเข้มแข็งสูงสุดเอาไว้ได้ และต้องการการพักผ่อนอย่างน้อย สองชั่วโมงเพื่อฟื้นฟู แต่ผมรู้ดีว่าเวลาสองชั่วโมงนั้นเป็นไปไม่ได้เพราะน้องทิพย์กำลังถูกนำตัวไป ยังสถานที่ซึ่งผู้ทรงปราณทุกคนหวั่นเกรง….สำนักมังกรฟ้า…

—————————

อาคารทรงกลมหลังคารูปโดมที่กินอาณาบริเวณกว่า 1 ไร่ ปรากฏอยู่เบื้องหน้าผมในทันทีที่ผมพุ่งร่างผ่านวงล้อมของอาคารพาณิชย์ย่านสำ เพ็งที่ล้อมรอบอาคารทรงกลมนี้อยู่ทุกด้าน เป็นเครื่องปิดบังมิให้ชาวบ้านทั่วไปรับรู้ว่าด้านหลังของย่านการค้าที่จอแจ ของชุมชนชาวจีนในกรุงเทพฯ กลับมีอาคารมหึมาซุกซ่อนอยู่เบื้องหลัง โดยที่ไม่มีพ่อค้าแม้ค้าชาวจีนในไทยคนไหนกล้าเอ่ยปากบอกสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ ให้คนภาพนอกฟัง เพราะรู้ดีว่าสำนักมังกรฟ้าจะสังหารบุคคลนั้นและครอบครัวในทันทีที่ความลับ ถูกเปิดเผยออกไป.. ทำให้ตลอดห้วงที่ผ่านมา อาคารทรงกลมประดับลวดลายมังกรทองทะยานเมฆรอบด้านหลังนี้ สามารถคงสภาพความลับของสำนักใหญ่มังกรฟ้าไว้ได้ และมีเพียงผู้ทรงปราณเท่านั้นที่รับรู้ว่ามีสถานที่นี้อยู่ แต่ไม่เคยมีศัตรูใดกล้าเข้ามา เพราะรู้ดีว่าพลังปราณของถังหลินและบริวารมังกรฟ้านั้นเป้นพลังที่ไม่มี ผู้ทรงปราณใดในโลกสามารถต่อต้านได้

ผมฟุบกายลงเหนือดาดฟ้าของอาคาร หลังหนึ่งที่อยู่เยื้องมาทางด้านหน้าทางเข้าตำหนักมังกรฟ้า พร้อมกับเร่งโคจรปราณในร่างเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการปะทะกับสอง องครักษ์อย่างเต็มที่ เพราะรู้ดีว่าการช่วยน้องทิพย์ครั้งนี้ผมจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับ ถังฮวงได้อย่างแน่นอน ปราณที่เข้มแข้งขึ้นส่วนหนึ่งจะทำให้โอกาสที่ผมและน้องทิพย์รอดชีวิตจากคืน นี้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน แต่การเร่งปราณวิชาคชสีห์เหินบินเพื่อเดินทางมาตำหนักมังกรฟ้าก็กลับทำให้ อาการบาดเจ็บของผมเพิ่มมากขึ้นและเป็นอุสรรคอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูปราณให้ กลับเข้าสู่ระดับสูงสุด..

แสงไฟจากคบเพลิงของบริวารมังกรฟ้าไหลเป็น สายเข้าสู่ภายในตำหนักที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ผมอดใจหายวูบไม่ได้เมื่อนึกถึงคำพูดของปักเซ้งที่บอกว่าถังฮวงจะร่วมรักกับ น้องทิพย์เพื่อรับวารีนาคราชท่ามกลางหมู่บริวารมังกรฟ้าทุกคน ซึ่งนั่นหมายความว่านอกจากถังฮวงแล้ว ผมยังจะต้องฝ่าบริวารมังกรฟ้าระดับสูงกว่าร้อยคนที่กำลังทยอยกันเข้าไปใน อาคาร และนั่นทำให้โอกาสที่ผมและน้องทิพย์จะจากสถานที่นี้ไปโดยปลอดภัยยิ่งลดน้อย ลงไปอีก. ..

ส่วนหนึ่งของจิตใจผมอดนึกถึงคำเตือนของเหมียวเมื่อ อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้ เพราะถ้าหากผมเชื่อเหมียวโดยนำน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว มาด้วยกัน ภรรยาทั้งสามของผมก็สามารถใช้กาฬปราณในร่างช่วยต่อสู่กับบริวารมังกรฟ้าทั้ง หมด และเปิดทางให้ผมต่อสู้กับถังฮวงต่อตัว อันจะเพิ่มโอกาสในการช่วยน้องทิพย์ได้มากขึ้น แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงขึ้นนี้ ผมก้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้จนปราณอึดสุดท้ายในร่างสูญสิ้น

ทันทีที่ร่างบริวารมังกรฟ้าทั้งหมดหายเข้าไปในตำหนักและประตูใหญ่ปิดลง ผมผนึกปราณคชสีห์เหินบินดีดตัวมายังชายคาหลังคารูปโดมของตำหนักมังกรฟ้า เบื้องหน้า แล้วทิ้งตัวลงอย่างแผ่วเบาโดยปราศจากเสียง ก่อนผนึกปราณทะลวงแผ่นกระเบื้องประดับโดมออกเป็นช่อง แล้วสอดร่างเข้าสู่ภายในโดมอย่างรวดเร็ว สายตาที่ไวต่อความมืดของผมพิจารณาสถาพรอบตัวอย่างระมัดระวัง และพบว่าผมกำลังอยู่บนฝ้าเหนือโดมที่เบื้องล่างมีเสียงการสนทนาของบริวาร มังกรฟ้าดังลั่นขึ้นมาอย่างชัดเจน ผมเคลื่อนร่างอย่างเงียบเชียบไปยังส่วนกึ่งกลางของโดมที่มีแกนเสาไม้ขนาด ใหญ่ยึดโครงสร้างของโดมทั้งหมดไว้ที่ศูนย์กลาง ก่อนผนึกพลังอัคคีเทพที่ปลายนิ้วแล้วเจาะแผ่นฝ้าจนทะลุเป็นรูกว้างพอที่ผมจะ ใช้สายตาสังเกตการณ์สภาพเบื้องล่างได้ เพียงผมแนบดวงตาลงกับช่องที่เจาะไว้ ภาพทั้งหมดของห้องโถงรูปทรงกลมอันเป็นศูนย์กลางของตำหนักมังกรฟ้าก็ปรากฏ ขึ้นต่อสายตา

ภาพบริวารมังกรฟ้ากว่าร้อยคนที่กระจัดกระจายเป็นครึ่ง วงกลมเต็มส่วนพื้นที่ด้านเหนือ ทำให้ผมอดสูดหายใจด้วยความกังวลไม่ได้ เพราะทุกคนล้วนมีลักษณะของผู้ทรงปราณระดับสูงและหากบอกว่าจะมีใครสักคนรอด จากการระดมโจมตีของกลุ่มคนทั้งหมดคงเป็นเรื่องที่ไม่มีผุ้ทรงปราณใดยอมเชื่อ อย่างแน่นอน สายตาผมกวาดไปทางช่องว่างด้านใต้ ที่มีโดมผ้าไหมสีแดงตั้งอยู่บนพื้นกลางส่วนของของโดมด้านใต้ โดยไม่มีบริวารมังกรฟ้าคนใดเข้าใกล้ในรัศมี 10 เมตรโดยรอบ ด้านหลังโดมผ้าเป็นพื้นยกที่นำไปสู่บัลลังค์ขนาดใหญ่สลักเสลาภาพมังกรทะยาน ผ่านเมฆอย่างดงามราวกับจะมีชีวิต กลุ่มบริวารมังกรฟ้าสิบคนแยกย้ายเป็นสองแถวรายล้อมบัลลังค์ไว้

“…ตูม…ตูม…ตูม…..”

เสียงกลองเภรีพลันดังก้องขึ้นทำให้ผมอดสะดุ้งไม่ได้ ภาพเบื้องล่างกลุ่มบริวารมังกรผ้าที่แยกย้ายกันอยู่ในครั้งวงกลมของโดมส่วน เหนือ ยุติการสนทนาทั้งหมดแล้วพลิ้วกายเข้าประจำที่เป็นแถวสิบแถวอย่างเป็นระเบียบ หันหน้าเข้าหาบัลลังค์ด้านใต้.. พร้อมกับเสียงประกาศดังกึกก้อง…

“…ประมุขมังกรฟ้าปรากฏ…ทั่วพิภพน้อมกราบกราน….”

ม่านสีดำหนาหนักที่ขึงกั้นผนังด้านใต้แยกตัวออกพร้อมกับร่างถังฮวงในชุด เสื้อ คลุมสีดำสนิทปักลวดลายมังกรทองเป็นประกายระยิบระยับที่ปกเสื้อคลุมทั้งสอง ฟาก ลอยตัวออกจากช่องแยกราวกับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากแรงดึงดูดของโลก และเคลื่อนที่ช้าๆ มาหยุดนิ่งเหนือบัลลังค์ก่อนลอยตัวต่ำลง ท่ามกลางเสียงื้ออึงสรรเสริญของกลุ่มบริวารทั้งหมด..ใจผมเต้นระทึกเมื่อเห็น ภาพเบื้องล่างที่แสดงถึงปราณมังกรฟ้าระดับสุดยอดของถังฮวง ที่สามารถควบคุมปราณผลักดันร่างให้ลอยอยู่ในอากาศได้ ซึ่งเป็นระดับปราณที่สูงกว่าผมขั้นหนึ่งและบอกให้ผมรู้ว่าการต่อสู้เพื่อ ช่วยน้องทิพย์ในคืนนี้ โอกาสที่ผมจะรอดไปจากตำหนักมังกรฟ้าดูน้อยจนแทบจะเป็นไปไม่ได้

ถังฮวงพลันยกมือขึ้นช้าๆ เป็นสัญญาน ทำให้เสียงสรรเสริญของบริวารมังกรฟ้าทั้งหมดเงียบสนิท ก่อนที่ประมุขตำหนักมังกรฟ้าจะลุกขึ้นยืนตระหง่านและเอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียง ทรงอำนาจ

“บริวารแห่งมังกรฟ้าจงฟังข้า วันนี้ฟ้าได้ประทานโอกาสสำคัญที่จะทำให้ข้าบรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งปราณมังกร ฟ้าอันไม่เคยปรากฏมาก่อน พวกเจ้าทุกคนจะได้เป็นพยานรับรู้ร่วมกันเพื่อช่วยกันกระจายอำนาจของข้าให้ ผู้ทรงปราณทุกคนรับรู้และหวาดกลัว และหลังจากวันนี้ตำหนักมังกรฟ้าจะทะยานขึ้นเป็นสำนักอันดับหนึ่งแห่งแผ่น ดิน”
“….ตำนักมังกรฟ้า….บัญชาทั่วพิภพ…”

เสียงตอบรับกระหึ่มของบริวารมังกรฟ้าทั้งหมดดังเป็นเสียงเดียว ทำให้ถังฮวงเผยอยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ก่อนเดินลงมาที่โดมผ้าสีแดงกลางห้อง

“ด้วยลิขิตฟ้า ทำให้เทพสุรัสวดีแห่งจักรราศี มีบัญชาผ่านธิดามังกรฟ้าแห่งราศีมังกรลูกสาวข้า ให้ข้าทำหน้าที่กำจัดสตรีซึ่งก่อกำเนิดมาพร้อมกับวารีนาคราช ที่เป็นหนึ่งสี่ของผู้ร่วมก่อกัลป์สูญ บัดนี้นางอยู่ที่นี่แล้ว….”

ถังฮวงยกมือขึ้นประสานเหนืออกหลังกล่าววาจาจบ แล้วแผ่พุ่งปราณไปยังโดมผ้าสีแดง ทำให้ผ้าที่คลุมโดมอยู่ฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยปลิวว่อน เผยให้เห็นร่างเปลือยของเด็กหญิงวัย 12 นอนอยู่บนเตียงไม้ขนาดใหญ่ที่ครอบไว้ดด้วยโครงเหล็กรูปโดม มือและเท้าของเด็กหญิงถูกมัดตรึงด้วยเชือกอย่างแน่นหนาไว้กับเสาเตียงทั้ง สี่ ทำให้ขาเรียวงามขาวสะอาดของเด็กหญิงแยกออกจากกัน เผยร่องรักอิ่มอูมที่ปราศจากเส้นขนตระหง่านอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างในห้องโถง และสายตาของบริวารมังกรฟ้าทั้งหมด

“…น้องทิพย์…”

ผมอุทาน ออกมาอย่างลืมตัวเมื่อเห็นชัดเจนว่าเด็กหญิงที่ถูกพันธนาการในท่าที่พร้อม รับการร่วมรักเบื้องล่างคือน้องทิพย์ที่ผมต้องมาช่วย ดีที่เสียงครางฮือของบริวารมังกรฟ้าทั้งหมดที่ดังขึ้นเมื่อเห็นร่างเปลือยงด งงามของน้องทิพย์ดังขึ้นทำให้กลบเสียงอุทานของผมลงได้ แต่ขณะเดียวกันผมก็ต้องระงับความโกรธแค้นที่เกิดขึ้นอย่างยากเย็นเมื่อเห็น ว่าน้องทิพย์กำลังพยายามดิ้นรนจากการผุกมัดอย่างเต็มที่แต่ปราศจากผล ใบหน้างดงามของเด็กหญิงแสดงอาการตกใจอย่างรุนแรงเมื่อพบว่าตนเองกำลังเปิด เผยเรือนร่างเปลือยอยู่ท่ามกลางสายตาของชายฉกรรจ์กว่าร้อยคน แต่น้องทิพย์กลับไม่สามารถเปล่งเสียงขอความช่วยเหลือออกมาได้ เนื่องจากถุกปราณมังกรฟ้าปิดสกัดเส้นเสียง
ดวงตาถังฮวงจับจ้องเรือนร่างน้องทิพย์อย่างหื่นกระหาย ก่อนกล่าวกับบริวารต่อไป

“นับแต่โบราณกาล ทุกหนึ่งพันปีจะปรากฏมารดาเทพอสูรและเทพมารดาขึ้นบนโลกเพื่อกำเนิดตัวแทนของ เทพและอสูร ที่จะรวบรวมกำลังของผุ้ทรงปราณฝ่ายสว่าง และฝ่ายมืดเข้าตัดสินว่าฝ่ายใดจะครอบครองอาษราจักรปราณไปอีกหนึ่งพันปี แต่ไม่เคยเลยที่ตัวแทนแห่งเผ่าพันธุ์นาคราช และเผ่าพันธุ์ยักษ์จะกำเนิดขึ้นมาบนโลก ”

ถังฮวงเอื้อมมือมาลูบไล้ ทรวงอกแรกผลิของน้องทิพย์อย่างแผ่วเบา โดยที่เด็กหญิงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ มีเพียงใบหน้าที่แสดงความแค้นเคืองถึงที่สุด แต่ถังฮวงไม่ได้ใส่ใจและกล่าวต่อไปขณะที่นมคู่น้อยของน้องทิพย์ยังคงอยู่ใน อุ้งมือหยาบกร้าน

“แต่บัดนี้ ธิดานาคราชและทาริกาอสุระได้กำเนิดขึ้นพร้อมมารดาเทพอสูรและเทพมารดา เป็นสัญญานว่าอำนาจแห่งความมืดที่ครอบคลุมจักรวาลกำลังเตรียมทำสงครามครั้ง สุดท้ายกับอำนาจฝ่ายแสงแห่งเทพเจ้า เพื่อสร้างกัลป์สูญขึ้น แต่โอกาสนั้นของพวกมันกำลังจะถูกทำลายลงในวันนี้ เพราะข้าผู้เป็นประมุขมังกรฟ้า จะรับเอาวารีนาคราชที่ฝังอยู่ในร่างสตรีนางนี้เอาไว้เอง และด้วยวารีนาคราชที่ทรงอิทธิฤิทธ์เทียบเท่าอุทกมา อุทกเทพ และธารอสุระ…ปราณมังกรฟ้าของข้าก็จะเพิ่มพูนขึ้นไปสู่ระดับเทียม เทพเจ้า….”

“…..ท่านประมุขจะเป็นเทพเจ้า….. ”
“…..ผู้ใดต่อต้านมังกรฟ้าจักต้องพินาศด้วยอำนาจเทพเจ้า…”
“….มังกรฟ้าจะครอบครองแผ่นดิน….”

เสียงประสานสรรเสริญของบริวารมังกรฟ้าดังขึ้นเซ็งแซ่ ทำให้ถังฮวงยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ก่อนละมือออกจากทรวงอกแรกผลิของน้องทิพย์ และชี้มายังบริวารทุกคน…

“อีก ครู่เดียวข้าจะเย็ดธิดานาคราช เพื่อทำลายเยื่อพรหมจรรย์รับวารีนาคราช หลังจากนั้นพวกเจ้าจะได้เย็ดนางตามลำดับตำแหน่งจนกว่านางจะสิ้นใจตามคำสั่ง ของท่านเทพสุรัสวดี…”

เสียงหัวร่ออย่างชั่วช้าของบริวารมังกรฟ้าดังลั่นขึ้น ขณะที่บริวารผู้หนึ่งเปล่งเสียงออกมา

“ถ้าเช่นนั้นท่านองครักษ์ถังหลินก็จะได้เป็นคนแรกที่จะเย็ดนางต่อจากท่าน ประมุข แต่ท่านองครักษ์ และท่านกวงเม้ง ปักเซ้ง ยังไม่กลับมายังตำหนักเลย…ดังนั้นท่านที่ปรึกษาถังซา คงต้องรับโชคดีครั้งนี้แล้ว”

ใบหน้าถังฮวงปรากฏแววสงสัยวูบหนึ่ง ก่อนหันมายังกลุ่มบริวารที่ยืนอยู่ข้างบัลลังค์

“ถังซา ตอนนี้ถังหลินอยู่ที่ใด”

ชายกลางคนใบหน้าสี่เหลี่ยมประดับเครารกครึ้ม เคลื่อนร่างออกจากกลุ่มแล้วก้อมคำนับถังฮวงก่อนตอบเบาๆ

“ท่านถังหลินไม่ได้ติดต่อกลับมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว แต่ข้าเชื่อว่าท่านถังหลินคงติดภารกิจสำคัญมากว่าจะเปิดอันตรายใดๆ”

ดวงตาถังฮวงเป็นประกายวูบ ก่อนตวาดเบาๆ

“ถังหลินลูกข้ามีฝีมือเป็นรองเพียงข้าเท่านั้น เจ้าไม่ต้องคิดไปว่าจะมีใครในโลกทำอันตรายมันได้ แล้วกวงเม้งกับปักเซ้ง อยู่ที่ใด”

ใบหน้าที่ปรึกษาถังซา แสดงอาการงุนงงเล็กน้อยก่อนตอบเบาๆ

“ท่านองครักษ์กวงเม้ง และท่านองครักษ์ปักเซ้งติดตาม ท่านประมุขออกไป แต่ยังไม่กลับเข้ามาที่ตำหนักเลย ”

เสื่อคลุมบนร่างถังฮวงพองตัวออกวูบหนึ่ง เป็นสัญยานของการรวมปราณ ก่อนตวาดเสียงเกรี้ยวกราด

“เมื่อ ชั่วยามที่แล้ว ข้าสั่งให้พวกมันสังหารผู้ทรงปราณที่มาปรากฏตัวอยู่ยังสถานที่ที่ข้านำตัว ธิดานาคราชมา ด้วยปราณของพวกมันทั้งสองไม่ควรที่จะทิ้งเวลายาวนานเพียงนี้…”

“ท่านประมุขถังฮวงไม่จำเป็นต้องรอพวกมันทั้งสอง…เพราะตอนนี้วิญญานของพวกมันกำลังลอยล่องไปสู่นรกภูมิแล้ว”

อากัป กริยาของถังฮวงที่แสดงความว้าวุ่นใจกับความล่าช้าของกวงเท้ง ปักเซ้ง ทำให้ผมฉุกคิดแผนการร์ที่จะช่วยน้องทิพย์ออกมาได้ ผมผนึกปราณกระแทกพื้นฝ้าเพดานสูงจนทะลายออกเป็นช่องแล้วลอยตัวลงมากลางห้อง โถงพร้อมกับส่งคำพูดกระตุ้นเพลิงโทษะของถังฮวงขณะที่ร่างกำลังลอยต่ำลงมา

“…..บังอาจ…”
“…จับมันไว้…”
“….ฆ่าผู้บุกรุกให้สิ้น… ”

เสียง ตวาดของบริวารมังกรฟ้าดังลั่นเซ็งแซ่ทันทีที่เห็นร่างผมทะยานลงมาจากด้านบน และมายืนอยู่ข้างเตียงที่พันธนาการน้องทิพย์เอาไว้ ร่างองครักษ์ที่ล้อมบัลลังค์พลันถลันมาล้อมรอบตัวผม แต่ทุกสิ่งกลับเงียบลงเมื่อถังฮวงยกมือขึ้นและหันมาเผชิญหน้าผม..

“ผู้ เยาว์ที่บุกรุกตำหนักมังกรฟ้าเป็นใคร เจ้าคงมีความสามารถไม่น้อยที่สามารถหลบหนีกวงเม้งกับปักเซ้งมาได้ จงประกาศนามให้ข้ารู้ก่อนสิ้นลมหายใจเถอะ….”

ผมสบตาแวววับของถังฮวงอย่างไม่กลัวเกรง

“เรามิได้หลบหนีพวกมันทั้งสอง แต่เราเป็นผู้สังหารพวกมันก่อนเดินทางมาที่นี้ เราคือไกรวิทย์แห่งตระกูลคชสีห์..”

ความเงียบเข้าปกคลุมห้องโถงตำหนักมังกรฟ้าอยู่ชั่วขณะ แต่ไม่นานนักทุกคนทั่วห้องก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“ปราณคชสีห์ทำลายสองสุดยอดแห่งปราณมังกรฟ้า…เด็กน้อยนี้เสียสติไปแล้ว… ”
“มันคงไร้สติถึงมาบุกตำหนักมังกรฟ้า….และพูดเรื่องขบขันที่สุดแบบนี้ได้… ”
“ปราณมารต่ำช้า…เอาชนะปราณมังกรฟ้า…ความคิดเจ้าน่าสังเวชนัก……..”

เสียง อึงอื้อดังขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะ แต่ถังฮวงกลับไม่หัวเราะตามบริวารและเพ่งมองมาที่ผมอย่างตื่นตัว ซึ่งผมทราบดีว่าท่าร่างที่ผมเหินร่อนลงมาจากหลังคานั้นทำให้สุดยอดฝีมือผู้ นี้รู้ดีว่าคำพูดของผมไม่ใช่คำพูดของคนไร้สติอย่างแน่นอน…

“ปราณ คชสีห์แม้จะเป็นปราณที่ผสานความแข็งกร้าวอ่อนหยุ่นเข้าด้วยกันจนมีความ รุนแรงยากต้านรับก็จริง แต่ที่เจ้าอ้างว่าสามารถสังหารปีกเซ้งกวงเท้งนั้น ข้าไม่สามารถเชื่อได้ แต่ข้าไม่สนใจที่จะซักถามความจริงที่เจ้าหลบรอดพวกมันมาที่นี่ เพราะข้ายังมีภารกิจสำคัญกับสตรีนางนี้อยู่… ฆ่ามันซะ”

ถังฮวงเอ่ย กับผมด้วยน่ำเสียงที่ดูเหมือนจะสงบเงียบแต่สุดท้ายกลับลอยตัวขึ้นพุ่งกลับไป นั่งที่บัลลังค์และตวาดสั่งให้องรักษ์ทั้งสิบที่รายรอบเข้าสังหารผมทันที

กระแส ปราณรุนแรงสิบสายพุ่งวาบเข้าหาผมพร้อมกับร่างยอดฝีมือทั้งสิบถาโถมเข้ามาราว พายุ ผมกัดฟันผนึกพลังปราณในร่าง จิตกำหนดภาพน้องกิฟท์เพื่อดึงพลังแห่งอุทกเทพออกมาผนึกไว้ที่ฝ่ามือ และกำหนดจิตถึงน้องรินเพื่อดึงพลังจากอุทกมารขึ้นมา แต่ผมก็ต้องลอบคร่ำครวญในใจเมื่อพบว่าปราณในร่างไม่สามารถก่อปราณสองสาย พร้อมกันได้ ทำให้โอกาสที่ผมจะผนึกพลังสองสายให้เกิดกาฬปราณนั้นหมดสิ้นไปในทันที ผมกัดฟันแน่นและเร่งผลักประกายสีแดงเจิดจ้าเข้าปะทะกับพลังปราณทั้งสิบสาย ตรงๆ ด้วยปราณทั้งหมดที่มี

“…เปรี้ยง………..พรึ่บ….. ”
“อ๊ากส์…”
“ร้อนๆ..โอ๊กส์… ”

พลัง อัคคีเทพที่ผมผนึกขึ้นสุดตัวพุ่งเข้าปะทะปราณมังกรฟ้าทั้งสิบสายจนเกิดเสียง ระเบิดก้อง ส่งแรงสะท้อนกลับมาจนกระดูกสองแขนผมลั่นเปรี๊ยะ…แต่กลุ่มองรักษ์ทั้งสิบ กับเผชิญหน้ากับลุกไฟที่ร้อนแรงเข้ากระแทกกระเด็นไปคนละทิศทาง เปลวเพลิงร้อนแรงลุกท่วมร่างจนทำให้ทุกคนวิ่งกระเสือกกระสนหาทางดับไฟที่ กำลังกัดกินผิวหนังเข้าสู่อวัยวะภายใน

“………..อัคคีเทพ……. ”

ถัง ฮวงลุกขึ้นจากบัลลังค์อย่างลืมตัวเมื่อเห็นภาพความตายของบริวารเบื้องหน้า อกากรตกตะลึงของประมุขังกรฟ้าทำให้ผมตัดสินใจพุ่งร่างเข้าหาเตียงที่น้อง ทิพย์ถูกพันธนาการอยู่แล้วประกบมือกรีดเส้นเชื่อกทั้งสี่ออกในชั่วพริบตา ก่อนช้อนร่างบอบบางของน้องทิพย์ขึ้นแล้วบอกอย่างรวดเร็ว

“ทิพย์…พี่มาช่วยแล้ว ขึ้นมากอดหลังพี่ไว้เร็ว…”

แม้ จะเป็นชั่วเวลาเสี้ยวอึดใจ แต่สายตาน้องทิพย์ที่ประสานกับผมก็บอกให้ผมรู้ทันทีว่าแม้ผมจะไม่เคยพบน้อง ทิพย์ในห้วงเวลาปัจจุบันมาก่อน แต่ประกายตาน้องทิพย์กับทอแววมั่นใจและพลิกตัวจากพันธนาการขึ้นมากลางหลังผม โดยไม่ลังเลใจ ผมกระตุกผ้าที่ปูรองเตียงขึ้นสะบัดด้วยปราณจนขาดออกจากกันแล้วแผ่คลุมร่าง เปลือยของน้องทิพย์ทางด้านหลังให้ผนึกแนบกับแผ่นหลังผม ก่อนมักดปมไว้ที่หน้าอกเพื่อประกันว่าต่อจากนี้ร่างเมียรักในอนาคตของผมจะ ไม่แยกจากกันแม้ความตายกำลังจะกรายเข้ามาก็ตาม

“นี่ไม่ใช่ปราณคชสีห์ แต่มันคือพลังอัคคีเทพ อันเกิดจากการหลอมรวมปราณกับอุทกเทพอย่างแน่ชัด…ที่แท้เจ้าคือบุรุษที่ถูก กำหนดให้ครอบครองพลังสุดยอดทั้งสี่ในโลกเพื่อก่อกำเนิดกัลป์สูญใช่หรือไม่”

ชั่ว อึดใจเดียวที่ผมใช้ช่วยน้องทิพย์ ถังฮวงก็พ้นจากอาการตกตะลึง แล้วตวาดถามผมอย่างเกี้ยวกราด ผมหันหน้ามาประจัญสุดยอดฝีมือของตำหนักมังกรฟ้าอย่างไม่กลัวเกรง ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงร่างน้องทิพย์ที่เกี่ยวแขนขารัดแผ่นหลังผมไว้แน่น ราวกับจะมอบชีวิตไว้ให้ผมปกป้อง

“เราไม่ทราบเรื่องที่ท่านกล่าว แต่สตรีนางนี้คือคนรักของเรา และเราจะไม่ยอมให้นางเป็นอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น”

ร่าง น้องทิพย์ที่กลางหลังผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินคำพูดของผม แต่เด็กหญิงไม่สามารถกล่าวว่าจาใดได้ เนื่องจากถูกปิดกั้นกล่องเสียง ขณะเดียวกันถังฮวงเบื้องหน้าก็เปล่งเสียงคำรามอย่างอำมหิต

“เจ้าคิดหรือว่าการที่เจ้าสามารถใช้อัคคีเทพจะทำให้เจ้ารอดพ้นจากตำหนักมังกรฟ้า…”

ผม ผนึกปราณทั่วร่างขึ้นอย่างเร่งร้อน แต่ก็ต้องสะท้านใจวูบเมื่อพบว่าพลังปราณในร่างลดลงอย่างรวดเร็วจากการปะทะ กับองครักษ์ทั้งสิบ ในขณะที่เสือ้ผ้าถังฮวงเบื้องหน้าเบ่งพองขึ้นและพลิ้วเป็นระลอก บอกถึงการรวมปราณเพื่อเตรียมโจมตี สมองผมครุ่นคิดอย่างรวดเร็วถึงหนทางรอดมีดูจะเป็นไปไม่ได้ แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่น…

“หากตำหนักมังกรฟ้าจะเข้ากลุ่มรุม เราก็คงต้องยอมรับชะตากรรม และค่อยไปประกาศให้วิญยานในปรภพรู้ว่าถังฮวงผุ้ยิ่งใหญ่แห่งตำหนักมังกรฟ้า ไม่กล้าสู้กับผุ้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเพราะเกรงกลัวอัคคีเทพ”

ใบหน้าถังฮวงบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงกับคำพูดของผม ประมุขมังกรฟ้าพลันตำ-รามก้องแล้วตวาดด้วยเสียงสนั่นจนห้องโถงสะเทือน

“บริวาร มังกรฟ้าจงฟัง เราจะฆ่าผู้โอหังคนนี้ด้วยมือของเราเอง…พวกเจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว และหากเราพ่ายแพ้ จงน้อมส่งมันออกไปเยี่ยงอาคันตุกะผู้มีเกียรติ เข้าใจหรือไม่…”

เสียงขานรับของบริวารมังกรฟ้าดังกระหึ่มขณะถังฮวงขยับร่างมาหาผมหร้อมประกายสายฟ้าแปลบปลายระหว่างนิ้วมือ…

“…. เราจะสังหารเจ้าในสามกระบวนท่า ..ตอนนี้เจ้ามีสิ่งใดจะตกทอดเป็นคำพุดถึงเครือญาติของเจ้าหรือไม่..เรา รับรองจะถ่ายทอดทั้งหมดให้พวกมันได้รู้ก่อนที่จะสังหารตระกูลเจ้าให้าสิ้นไป จากแผ่นดิน”

ถังฮวงคำรามออกมาก่อนการโจมตี แต่นั่นกลับทำให้ความหวังผมเพิ่มความเป็นไปได้อีกเล็กน้อย เพราะการที่ถังฮวงยอมต่อสู่กับผมตัวต่อตัวทำให้ผมไม่ต้องระวังการโจมตี ของบริวารมังกรฟ้าร้อยกว่าคนที่รายล้อมอยู่ และโอกาสของผมจะเพิ่มขึ้นอีกหากถังฮวงโกรธจนขาดสติและส่งผลกระทบถึงความเข้ม แข็งของปราณมังกรฟ้า

“เราไม่มีสิ่งใดตกทอด นอกจากข่าวที่เราขอบอกให้ท่านรู้ว่า ถังหลินองรักษ์อันดับหนึ่งของท่านถูกเราสังหารที่เชียงใหม่…ท่านไม่มีผู้ สืบตระกูลอีกต่อไปแล้ว…มังกรฟ้าจะจบที่ท่านในวันนี้”

ดวงตาถังฮวงเบิกโพงราวกับจะทะลักออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของผม ร่างชายชราสั่นระริก

“ปะ เป็นไปไม่ได้…ลูกข้า…เจ้า..บังอาจนัก…”

ร่าง ถังฮวงถลันวูบมาหาผมอย่างบลืมตัว พร้อมพลังปราณที่รุนแรงกระจายออกรอบข้างจนสิ่งของทุกชิ้นในห้องโถงปลิวว่อน ราวเศษขยะ ผมผนึกปราณจากการหนดจิตภาพน้องรินจนก่อเกิดประกายสีม่วงขึ้นในฝ่ามือทั้งสอง ข้างแล้วผลักเข้าปะทะร่างถังฮวงที่โถมเข้ามาอย่างเต็มกำลัง…

“………บรึม……..”

พลัง หมุนวนจากร่างถังฮวงที่แม้จะไม่มีกระบวนท่าแต่ความรุนแรงของมันก็กระแทกร่าง ผมจนให้ปลิวออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ จนตกลงบนพื้นข้างเตียงกลางห้องโถง ขณะที่ถังฮวงยืนนิ่งอยู่กับที่และจับจ้องฝ่ามือตนเองที่กำลังก่อเกิดสีดำ กระจายลุกลามขึ้นไปยังข้อมือด้วยความตระหนก…

“นี่ไม่ใช่อัคคีเทพ…มันคือจิตมาร…สุดยอดวิชาจากอุทกมาร…เจ้ารับอุทกเทพและอุทกมารไว้หร้อมกันได้อย่างไร…..”

ผม ยันร่างลุกขึ้นอย่างยากเย็น ปราณในร่างขาดสมดุลจนไม่สามารถโคจรอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมใจหายวูบเมื่อพบว่าแม้ถังฮวงจะบาดเจ็บจากจิตมาร แต่ก็ดชูเหมือนว่าความเข้มแข็งของปราณมังกรฟ้าจะสามารถปกป้องผลของจิตมารได้ เพราะเพียงถังฮวงสูดลมหายใจลึกยาว สีดำที่เริ่มแผ่ขึ้นไปยังท่อนแขนก็กลับหดตัวลงจนมาหยุดที่ข้อมืออีกครั้ง…

“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตไปจากที่นี่…จงเตรียมรับความตายได้แล้ว… ”

ร่าง ถังฮวงย่างเข้ามาช้าๆๆ ขณะที่ผมไม่สามารถกลั้นเลือดเสียในช่องอกได้ และต้องกระอักออกมาจนนองพื้นพื้นล่าง…ปราณในร่างแม้จะยังคงหลงเหลือแต่ผม ก็รู้ดีว่ามันไม่สามารถต่อต้านถังฮวงอีกแม้แต่กระบวนท่าเดียว

ร่าง น้องทิพย์กลางหลังผมพลันสั่นระริก พร้อมกับกระแสพลังที่อ่อนโยนราวสายน้ำถ่ายเทเข้าสู่จักรวารีกลางหลังผม แล้วก่อเป็นพลังกระตุ้นให้ปราณผมรวมตัวอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

“….ทิพย์….”

ผม อุทานออกมาเบาๆ ขณะที่เด็กหญิงกอดรัดร่างผมไว้แน่นและยังคงถ่ายทอดพลังชีวิตออกมาไม่หยุด ทำให้ผมต้องระงับความแปลกใจที่เกิดขึ้นและผนึกพลังปราณที่กำลังก่อตัวขึ้น ใหม่อัคคีเทพและจิตมารในสองมือก่อนประกบเข้าหากัน ปราณที่ก่อกำเนิดใหม่แม้จะไม่เท่าเทียมกับสภาพปกติ แต่มันก็พอเพียงที่จะก่อให้เกิดพลังสองสายที่จำเป็นสำหรับการก่อกาฬปราณขึ้น ผมซุกมือประสานกันแน่น สบตากับถังฮวงที่กำลังก้าวเข้ามาโดยปล่อยให้เลือดไหลจากปากไม่หยุดเพื่อล่อ ให้ถังฮวงเข้าใจว่าผมกำลังบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถต้านรับการโจมตีได้อีกต่อ ไป
ถังฮวงยุดร่งในตำแหน่งห่างจากผมไม่ถึง 5 เมตร พลังปราณมังกรฟ้าที่สองมือพลันเปลี่ยรนรูปร่างเป็นประกายแสดงเรืองรองที่มี สายฟ้าแล่นแปลบปลาบอยู่ภายใน ประมุขตำหนักมังกรฟ้าเงยหน้าขึ้นหัวเราะก้อง ก่อนตวาดก้อง

“ผู้สังหารลูกข้าต้องได้รับความทรมาณที่สุดก่อนตาย ทั้งร่างกายและจิตใจ เจต้าควรจะยินดีที่จะได้เป็นผู้รับพลังหมื่นมังกรที่ข้าเพิ่งฝึกปรือสำเร็จ เป็นคนแรก เจ้าจะพบกับสภาพเส้นเอ็นทั่วร่างฉีกสลาย จักรทั้งสี่โคจรย้อนกลับ อันเป็นคววามทรมาณที่ไม่มีใครได้รับมาก่อน แต่เจ้าจะยังไม่ตาย เพราะเจ้าจะต้องได้เห็นข้าเย็ดคนรักของเจ้าจนตายคาควยด้วยตาของเจ้าเอง…. จงรับหมื่นมังกรฟ้า…”

ประกายแสงในฝ่ามือถังฮวงแตกระเบิดออกเป็น กลุ่มก้อน พุ่งวาบเข้าหาผมในระยะประชิด ผมผนึกกาฬปราณด้วยปราณทั้งหมดในร่างแล้วปล่อยออกจากสองหมัดที่ต่อยออกในวิชา มวยคชสีห์นามคชสีห์เคียงคู่..

“…..รับไม่ได้ …นั่นคือกาฬปราณ…”

เสียง ตวาดจากหญิงสาวที่สดใสกังวานก้องขึ้น ด้วยอานูภาพที่ทำให้ห้องโถงทั้งหลังสั่นสะเทือน พลังมหาศาลที่ผมไม่เคยพบพานมาก่อนกดกระหน่ำลงมาจากเบื้องบน สกัดกลางระหว่างพลังหมื่นมังกรกับกาฬปราณจนยังเกิดระเบิดกึกก้องจากการปะทะ ของพลังสามสาย…

…………เปรี้ยงงงงงงง………….

มรสุม พลังกระหน่ำออกจากจุดศูนย์กลางการปะทะ ทำให้ร่างผมปลิวกระเด็นไปยังศูนย์กลางของห้องโถงทรงกลม ขณะที่ถังฮวงก็ส่ายร่งโงนเงนด้วยใบหน้าซีดเผือก พร้อมกับประกายสีดำของกาฬปราณที่แม้ส่วนใหญ่จะถูกเบี่ยงเบนออกจากเป้าหมาย แต่ปลายพลังยังคงที่สามารถกระแทกถังฮวงจนต้องหยุดอยู่กับที่และโคจรพลัง อย่างเร่งร้อนเพื่อต่อต้านการแทรกซึมของกาฬปราณที่กำลังหาทางเข้าสู่จักรใน ร่าง

“กาฬปราณบังเกิด…กัลป์สูญ อยู่ไม่ห่างแล้ว ท่านเทพสุรัสวดีทรงรับรู้แจ่มแจ้ง …”

กระแสเสียงสดใสกังวานในอากาศทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นหาที่มา และต้องตะลึงกับภาพที่ได้เห็น

ร่าง สตรีสาววัยไม่เกิน 17 ปี ที่ทั่วร่างเกือบเปลือยเปล่า มีเพียงสายคาดโลหะสีทองอมฟ้าสลักลวดลายมังกรคาดเป็นเส้นสายปิดทรวงอกตูมตั้ง และต่อเชื่อมเป็นเส้นผ้านหน้าท้องขาวเนียนแผ่ออกเป็นแผ่นโลหะขนาดเท่าฝ่ามือ คลุมเนินรักทั้งหมดเอาไว้ ใบหน้าที่สงบนิ่งราวกับเป็นผู้อยู่เหนือโลกอิ่มสมบูรณ์ด้วยโครงรูปหน้าที่งด งามไร้ตำหนิใดๆ เรือนร่างงามขาววสล้างค่อยๆ ลอยลงมาสู่พื้นเบื้องล่างช้าๆ สองเท้าเปล่งประกายขาวนวลกระจายออกเป็นแผ่นกลมรองรับร่าง จนดูราวกับเป็นร่างของเทพธิดาที่ใช้ปุยเมฆเป็นพาหนะลงมาเยือนโลกหล้า

“…………..คารวะธิดามังกรฟ้าปห่งราษีมังกร…….”

เสียงกระหึ่ม ก้องของบริวารมังกรฟ้าทุกคนดังขึ้น พร้อมกับการคุกเข่าลงก้มหน้ากับพื้น ราวกับทุกคนไม่กล้าจับจ้องร่างเกือบเปลือยที่อยู่เบื้องหน้า ผมสะท้านใจอย่างรุนแรงเมือ่ได้ยินคำกล่าวขานของบริวสารมังกรฟ้าและรู้ใน ทันทีว่าร่างสตรีผู้งดงงามจนสามารถหยุดลมหายใจของชายทุกคนนี้ คือหนึ่งในเทวนารีแห่งจักรราศีนามธิดามังกรฟ้า…

สตรีงามหันไปหาถัง ฮวงที่ยังคงสงบนิ่งโคจรพลังในท่ายืนด้วยสายตาทอประกายกังวลเล็กน้อยที่เห็น ว่าถังฮวงยังคงไม่สามารถขับสลายพลังกาฬปราณรอบตัว ใบหน้างดงามเผยอรอยยิ้มบ่างๆ ก่อนสะบัดมือเข้าหาถังฮวงราวกับปราศจากการใช้กำลังปราณใด แต่พลังสีดำของกาฬปราณกลับสลายสูญจากร่างถังฮวงในทันที ถังฮวงลืมตาขึ้นจับจ้องร่างธิดามังกรฟ้าเบื้องหน้า

“………เซียวเล้ง……. พ่อขอบใจ…นี่ถ้าลูกมาไม่…”
ก่อนที่ถังฮวงจะจบประโยค เสียงใสกังวานก็ดังขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ…

“บิดา เราคือธิดามังกรฟ้าแห่งราศีมังกร แม้จะเป็นธิดาท่านแต่สถานะของเราไม่อนุญาตให้ท่านเรียกชื่อของเราตรงๆ เช่นนี้..”

ถังฮวงชะงักคำพูดก่อนก้มศีรษะลงคารวะบุตรีของตนเองเบื้องหน้า

“ท่าน เทวนารีอภัยให้ข้าด้วย….ข้าดีใจจนเสียกริยา….แต่ถ้าท่านเทวนารีไม่มาข้า อาจต้องเสียทีแก่บุรุษเบื้องหน้าที่ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันสามารถใช้กาฬ ปราณได้…”

ใบหน้าธิดามังกรฟ้าหันมาจับจ้องผมเขม็ง โดยไม่สนใจคำพูดของผู้เป็นบิดา ริมฝีปากรุประจับอิ่มเต็มเผยอออกพร้อมส่งเสียงสดใสกังวานกับผม

“ท่านเป็นผู้ใช้กาฬปราณ…นับได้ว่าเป็นศัตรูแห่งจักราศี อภัยด้วยที่เราจำเป็นต้องสังหารท่านและสตรีที่ท่านปกป้องในที่นี้…”

ก่อนที่ผมจะตอบธิดามังกรฟ้า ถังฮวงที่ด้านหลังก็ส่งเสียงขัดขึ้น

“ท่าน เทวนารี ข้าไม่ขัดข้องที่ท่านจะสังหารบุรุษผู้นี้แต่สตรีที่อยู่บนหลังมันคือธิดา นาคราช ขอท่านเมวนารีดปรดมอบนางให้ข้า เพื่อที่ข้าจะได้รับวารีนาคราชจากนางด้วยเถิด… ”

ดวงตาเรียวยาวของธิดามังกรฟ้าเปล่งประกายโกรธเคืองขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนตวาดตอบผู้เป็นบิดาเป็นบิดา

“บิดา ท่านลุ่มหลงในวิชาฝีมือและกามราคะจนกล้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของเทพธิดา สุรัสวดี ถ้าบิดาท่านสังหารนางแต่แรกพบ ทุกสิ่งก็จะจบลงและเราก็ไม่จำเป็นต้องสวมใส่เกราะมังกรเพื่อมาต่อสู้กับ บุรุษผู้นี้ ทุกอย่างเป็นความผิดของท่าน..แล้วจะมาหวังให้เรามอบสตรีนางนี้ให้ท่านระบาย ราคะอีกหรือ…”
“แต่…แต่…เอาเถอะ..ข้ายอมรับผิด ท่านเมวนารีขอประทานอภัยให้ข้าด้วย…แต่ท่านต้องสังหารมันให้สาสมเพราะมัน เป็นผู้ที่สังหารถังหลินพี่ชายของท่าน…”

ถังฮวงส่งเสียงตะกุกตะกัก ในทีแรก แต่กลับตวาดก้องบอกเรื่องที่ผมสังหารถังหลินให้ธิดามังกรฟ้าผู้เป็นน้องสาว รับรู้ ดวงตางดงงามของธิดามังกรฟ้าเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นบวูบหนึ่ง ก่อนตอบเสียงเย็นชา

“มันสังหารถังหลินแล้วจะเป็นไร พี่ชายที่มักมากราคะของข้าสมควรตายตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว ถ้าท่านไม่ขอข้าไว้…ท่านลืมไปแล้วหรือว่าในคืนก่อนที่ข้าจะถูกส่งตัวไปยัง จักรราศี มันพยายามข่มขืนข้าโดยไม่คำนึงว่ามันเป็นพี่ชายแท้ๆ…ดังนี้นข้าจึงไม่ เสียใจกับการตายของมันแม้แต่น้อย แต่ท่านไม่จต้องกังวลใจ ข้าจะสังหารบุรุษหนุ่มผู้นี้ตามหน้าที่ของข้า..ไม่มีใครสามารถรอดพ้นพลัง มังกรวิบัติแห่งจักราศีมังกรได้หรอก..”

ตลอดเวลาที่ธิดามังกรฟ้าพูด กับถังหลิน ดวงตายาวเรียวของหญิงสาวจับจ้องดวงตาผมโดยไม่ละสายตาแม้แต่แว่บเดียว ผมกัดฟันผนึกปราณที่กระจายจากการปะทะเมื่อครู่อย่างยากเย็น สมองขบคิดถึงพลังมหาศาลที่กดกระแทกลงมาเมื่อครู่ซึ่งผมเองทราบดีว่าตั้งแต่ เข้าสู่อาณาจักปราณผมไม่เคยพบพลังที่รุนแรงและทรงอานุภาพถึงขนาดนี้มาก่อน เพราะแม้มันจะไม่กระแทกผมตรงๆ แต่แรงกระทบก็ทำให้ปราณทั่งร่างผมที่เพิ่งเริ่มรวมตัวอีกครั้งจากพลัง ประหลาดที่ออกมาจากร่างน้องทิพย์ กลับแตกซ่านไปอีกและยากต่อการรวมปราณยิ่งกว่าเดิม

“………ท่านคือธิดามังกรฟ้าแห่งจักรราศี…….”

ผมสบตาสตรีงามเบื้องหน้าอย่างไม่หวั่นเกรงและถามเพื่อความแน่ใจ

‘ถูก ต้องเราคือธิดามังกรฟ้า เรามาที่นี่เพราะการปรากฏของกาฬปราณ และจำเป็นต้องกำจัดท่านก่อนที่กาฬปราณจะบรรลุถึงความว่างเปล่าแห่งธาตุ… แต่ท่านจะเป็นใครไม่จำเป็นต้องบอกเราเพราะเรามิได้อยู่ในโลกแห่งปราณ…เรา ทำหน้าที่พิทักษ์แสงสว่างตามบัญชาแห่งเทพสุรัสวดีเท่านั้น’

ผมสะดุ้ง เฮือกเมื่อพบว่าคำพูดที่ผมได้ยินมิได้มาจากปากที่นิ้งสนิทของธิดามังกรฟ้า แต่มันถูกส่งตรงมายังสมองด้วยอำนาจจิตที่แข็งกล้า.. ทำให้ผมต้องรระงับความตระหนกและส่งกระแสจิตตอบกลับไป

‘จักราศี พิทักษ์แสงสว่างและความยุติธรรมเช่นใดกัน จึงมุ่งมั่นสังหารเด็กหญิงผู้นี้ทั้งที่นางเป็นเพียงผู้ปราศจากปราณ…หาก ท่านเทวนารีทรงความยุติธรรมก็จงต่อสู้กับเราและปล่อยให้นางเป็นอิสระ จะได้หรือไม่.. ’

ดวงตาธิดามังกรฟ้าทอประกายวูบเมื่อพบว่าผมสามารถสื่อสารทางจิตได้เช่นเดียวกัน ริมฝีปากงามเผยอยิ้มบางๆ อย่างอับจนปัญญา

‘ขอ อภัยท่าน เราเองไม่สามารถตัดสินใจได้ เราเพียงรับรู้ว่าสตรีนางนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะก่อกัลป์สูญขึ้น และเราจำเป็นต้องสังหารนางเพื่อปกป้องโลกนี้ แต่ถ้าท่านยินยอมให้เราสังหารนาง เราก็ขอรับรองกับท่านว่าเราจะปล่อยท่านไปจากที่นี่โดยไม่ทำอันตราย แม้เราจะรู้ว่าท่านคือทายาทแห่งกาฬปราณก็ตาม เพราะหากไมปราศจากธิดานาคราชเช่นนางแล้ว กาฬปราณของท่านก็จะหยุดการเปลี่ยนแปลงลงเท่านี้ ส่วนท่านจะต่อสู่แย่งชิงในโลกของผู้ทรงปราณอย่างไรนั้น เราไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย…’

ผมขบกรามแน่นก่อนตอบกลับไปอย่างแน่วแน่

‘ หากปราศจากสตรีนางนี้ชีวิตเราก็ไร้ทุกสิ่ง ท่านเทวนารีจะสังหารเราก็เชิญเถอะ…’

ธิดามังกรฟ้าส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาทอแววเสียดายผสมความรู้สึกที่คาดเดาไม่ออก…

‘ถ้าเช่นนั้นเราจำเป็นต้องสังหารท่านพร้อมกับนาง…’

กระแส จิตธิดามังกรฟ้าดังขึ้นอย่างอ่อนโยนในจิตผม แต่เนือ้หากลับขัดแย้งกับความอ่อนโยนอย่างสิ้นเชิง ผมพยักหน้ารับคำเตือนอย่างไม่หวาดกลัว ทั้งที่รู้ว่าโอกาสที่จะรอดชีวิตจากที่นี่ไปได้หมดสิ้นลงแล้ว..

‘………เราพร้อมที่จะตายกับสตรีนางนี้….เชิญท่านเทวนารีลงมือเถอะ…’

ใบ หน้าธิดามังกรฟ้าจับจ้องผมด้วยแววตาประหลาด ก่อนปรากฏกระแสพลังกระจายออกมาจากทุกรูขุมขน ก่อตัวรวมกันหมุนวนรอบร่างเกือบเปลือยที่ห่อหุ้มด้วยสายโลหะของเกราะมังกร ความเร็วของพลังหมุนวนเริ่มก่อตัวอย่างรวดเร็วและเพิ่มแรงกดดันขึ้นจนบริวาส รมังกรฟ้าทั้งหมดต้องถอยร่างไปรวมกันที่ผนังเพื่อผ่อนคลายแรงกดดัน..

พลัง ประหลาดจากน้องทิพย์ยังคงไหลเข้าสู่ร่างผมไม่ขาดสายทำให้ผมสามารถฉวยโอกาส ที่สนทนากับธิดามังกรฟ้าฟื้นฟูปราณบางส่วนขึ้นได้ และผนึกพลังทั้งหมดที่มีอยู่รวมตัวก่อกาฬปราณขึ้นพร้อมรับการจู่โจมครั้งสุด ท้ายจากเทวนารีแห่งจักรราศี ที่ผมรู้แก่ใจว่าไม่สามารถต้านทานได้

“…….มังกรวิบัติ……ทำลายมวลมาร….”

เสียง ธิดามังกรฟ้าตวาดก้องโดยไม่ผ่านกระแสจิต กังวานลั่นจนผงธุลีทั่วห้องโถงปลิวคลุ้งลงมารวมกับกระแสพลังหมุนวน ร่างงดงามลอยขึ้นเหนือพื้นสูงแล้วหยุดนิ่งกลางอากาศชั่วอึดใจ ก่อนที่พลังทั้งหมดจะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวแหวกอากาศกระแทกลงหา

ด้วย สายตาผู้เฝ้าดูอยู่รอบข้าง คงเห็นเพียงภาพของธิดามังกรฟ้ากระหน่ำปราณที่ปั่นอากาศจนเกิดกระแสลมคลุ้ม คลั่ง แต่มีเพียงผมที่ต้องเผชิญกับพลังมังกรวิบัติโดยตรงเท่านั้นที่รับรู้ว่า กระแสพลังที่กำลังพุ่งเข้ามา หากหลับตาลงจะเห็นภาพทางจิตของพลังรูปมังกรนับไม่ถ้วนที่แยกย้ายกันลงมาโจม ตีทุกด้าน โดยปราศจากหนทางหลบหนี ผมสูดหายใจลึก รับรู้ถึงอาการสั่นระริกของน้องทิพย์ที่กลางหลัง ก่อนส่งเสียงปลอบประโลมเด็กหญิงเป็นครั้งสุดท้าย

“ทิพย์..พี่ขอโทษที่พี่ช่วยทิพย์ออกไปไม่ได้ แต่พี่ขอตายพร้อมกันกับทิพย์นะ… ”

ใบ หน้าเด็กหญิงซบกับไหล่ผมแน่น ศรีษะน้อยๆ ผงกขึ้นลงบอกให้รู้ว่าแม้น้องทิพย์จะไม่สามารถรับรู้ความทรงจำที่มีระหว่าง กันกับผมได้ แต่เด็กหญิงก็รู้ดีว่าผมพยายามสุดความสามารถแล้วที่จะช่วยเหลือ แม้จะล้มเหลวในที่สุดก็ตาม

ภาพน้องริน น้องกิฟท์ เหมียว น้องทิพย์ น้องพิมปรากฏขึ้นในจิตใจเป็นครั้งสุดท้าย ผมกำหนดจิตลาจากเมียรักผมทุกคน ก่อนกัดฟันกระแทกปราณทั้งหมดที่มีรับการโจมตีจากสุดยอดวิชาแห่งจักราศีที่ ปราศจากผู้ต่อต้าน พลังกาฬปราณที่มองผ่านจิตกระจายเป็นเส้นสายพุ่งเข้าต่อต้านพลังรูปมังกร อย่างเต็มกำลัง แต่ปริมาณและความรุนแรงของพลังมังกรวิบัติก็ยังสามารถแทรกผ่านกาฬปราณลงมา กระหน่ำปราณคุ้มครองร่างผมอย่างไม่ปราณี

…………….เปรี้ยง….บรึม…………………..

แรงกระแทก มหาศาลกระหน่ำลงมาหาผมราวโลกทั้งโลกถล่มลงมา ปราณคุ้มครองร่างไม่สามารถกระจายครอบคลุมเลื้อผ้าที่สวมใส่ ทำให้ผ้าทุกชิ้นบนร่างผมและเศษผ้าที่ผมฉีกกระชากมาจากเตียงเพื่อใช้รักร่าง น้องทิพย์กับแผ่นหลังฉีกกระจายออกปลิวว่อนภายใต้มรสุมพลัง ผมกัดฟันรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างนอกลำบากขณะที่จักรทั้งหมดในร่างกาย สั่นสะเทือนราวจะแตกสลาย อันเป็นอาการบอกให้รู้ว่าปราณและพลังชีวิตทั้งหมดของผมกำลังจะสูญไปตลอดกาล ผมกัดฟันใช้ปราณอึดสุดท้ายยยันร่างกายให้ลุกขึ้น ดวงตาแดงฉานจากการแตกของเส้นเลือดจับจ้องร่างธิดามังกรฟ้าที่กระดอนขึ้นจาก แรงปะทะและกำลังกลับลงมาพร้อมกระแสพลังมหาศาลที่ผมรู้ดีว่าไม่สามรถต่อต้าน อีกแม้แต่ครั้งเดียว…

“ตายแบบนี้มันง่ายเกินไป เจ้าต้องตายอย่างทรมานที่สุด ”

เสียง ถังฮวงคำรามลั่น ขณะโผเข้าหาบัลลังค์มังกรแล้วกดหัวรูปสลักมังกรที่ท้าวแขน ก่อนที่ผมจะรับรู้สิ่งใด ใต้เท้าผมก็ปราศจากที่ให้หยั่งร่าง พลังปราณมหาศาลดันร่างผมและน้องทิพย์พุ่งลงไปในความมืดมนเบื้องล่าง แต่หูผมยังได้ยินเสียงหัวร่อราวเสียสติของถังฮวงที่แผดก้องลงมา

“จงเผชิญทัณฑ์ทรมานในบ่อมังกรฟ้าจนกว่าจะตายเถอะ”

————————————————-

“…………บิดา…ท่านทำอะไรกัน……..”

ร่าง เปล่งปลั่งของธิดามังกรฟ้าพลันทิ้งตัวลงกับพื้นจับจ้องช่องทางลงสู่บ่อมังกร ฟ้าที่ปิดลงอย่างตกตะลึงและหันไปตวาดถังฮวงด้วยน้ำเสียงเกี้ยวกราด.. ทำให้ถังฮวงอดก้มหน้าลงไม่ได้ แต่ชั่วขณะก็เงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นธิดาแล้วตอบอย่างหนักแน่นด้วยแววตาอาฆาต แค้น

“ท่านเทวนารีโปรดอภัยข้า…มันผู้นี้บังอาจทำลายผู้สืบตระกูล ถังแห่งมังกรฟ้า ข้าไม่สามรถอนุญาตให้มันตายภายใต้ปราณมังกรวิบัติอย่างง่ายดายได้ ข้าต้องการให้มันต้องเผชิญอัคคีมังกรที่แผดเผาร่างมันทั้งเป็น จึงจะสาสมกับความแค้นของข้า…”

ดวงตายาวเรียวของธิดามังกรฟ้าจับจ้องผู้เป็นบิดาอย่างจนปัญญา… ครู่ใหญ่จึงถอนใจยาวแล้วส่งเสียงแผ่วเบาราวกับจะพูดกับตนเอง…

“แล้ว กันไปเถอะ ภารกิจของจักรราศีสำเร็จแล้ว ธิดานาคราชและบุรุษผู้ก่อกัลป์สูญตกไปในบ่อมังกรฟ้าที่ไม่มีใครสามารถรอดพ้น ออกมาได้…ทุกสิ่งถือว่าจบกันเท่านี้ และข้าก็จะไม่กลับลงมาที่นี่อีกต่อไป …บิดาท่าน ข้าลาก่อน….”

“…………เซียวเล้ง……….”

ถัง ฮวงร้องออกมาขณะที่ร่างธิดามังกรฟ้ากลับลอยขึ้นสู่ช่องแตกของหลังคารูปโดม เบื้องบน ประกายแสงสีขาวพลันเปล่งประกายเจิดจ้าล้อมรอบร่างธิดามังกรฟ้าแล้วพุ่งวาบ หายไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน..

—————————————

มี เพียงความมืดราวกับทุกสิ่งดับสูญไปจากจักรวาลแวดล้อมอยู่รอบข้าง ขณะที่ร่างผมและน้องทิพย์ตกลงไปยังเบื้องล่าง เสียงลมกระหน่ำข้างหูบอกให้ร้ถึงความเร็วที่ตกลงอย่างชัดเจน ผมหลับตาแน่วนิ่ง รวบรวมกำลังที่เหลือน้อยนิดพลิกร่างน้องทิพย์จากกลางหลังเข้ามากอดไว้ทาง ด้านหน้า ขณะที่น้องทิพย์ก็กอดร่างเปลือยเข้ากับร่างผมราวกับต้องการแทรกร่งให้เป็น เนื้อเดียวกัน พร้อมที่จะรับแรงแทกเมื่อถึงพื้นที่จะนำความตายมาสู่ผมและน้องทิพย์ แต่เวลากลับผ่านไปเรื่อยๆ จนร่างที่ตกลงของผมเริ่มหล่นลงด้วยความเร็วคงที่ แต่พื้นล่างและความตายก็ยังก็ยังคงมาไม่ถึง ขณะที่ปราณในร่างผมเริ่มฟื้นตัวขึ้นช้าๆ จากพลังชีวิตในร่างน้องทิพย์ จนผมสามารถเคลื่อนไหวมือรวมปราณตบคลายจุดสกัดกล่องเสียงของน้องทิพย์ได้ใน ที่สุด

“ ทิพย์…ได้ยินพี่ไหม….”
“ทิพย์ได้ยิน…ทิพย์พูดได้แล้ว…”

เสียง กังวานหวานที่ผมคุ้นเคยของ “นังทิพย์” เปล่งขึ้นมากระทบหูผมอย่างชัดเจนแม้สองหุผมยังคงอื้ออึงจากแรงลมที่พัด กระหน่ำอยู่รอบกายพร้อมกับร่างผมและน้องทิพย์ที่ยังคงร่วงหล่นลงสู่เบื้อง ล่าง

“พี่ขอโทษนะ..ที่ช่วยน้องทิพย์ออกไปจากที่นี่ไม่สำเร็จ…”

ผมกระซิบข้างหูเด็กหญิงในอ้อมแขน

“ทิพย์ ไม่ว่าพี่หรอก ทิพย์รู้ว่าพี่ต้องการมาช่วย…แต่พี่มีคนเดียวจะไปสู้พวกนั้นอย่างไร เพียงแต่ทิพย์ไม่เข้าใจเท่านั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้น และพี่เป็นใครทำไมถึงมาช่วยทิพย์…”

ร่างผมและน้องทิพย์ยังคงหล่นร่วงลงไปในความมืดที่ไร้สิ้นสุด ขณะที่ผมกระซิบตอบ

“ขอให้ทิพย์รู้ว่าทิพย์คือคนรักของพี่…คนที่พี่พร้อมสละชีวิตให้ก็พอ…เวลาเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว..”

“ทิพย์ รู้แต่ว่าเมื่อทิพย์เห็นหน้าพี่ครั้งแรก พี่คือคนที่อยู่ในความฝันของทิพย์มาตั้งแต่ทิพย์จำความได้ แต่ทิพย์ไม่รู้ว่าพี่คือใคร ในความฝันมีแต่ภาพของพี่กำลังดูแลปลอบประโลมทิพย์ยามเสียใจ พี่เป็นความหวังของทิพย์มาตลอด แต่ทิพย์เสียใจที่เมือ่พบพี่ในที่สุด ทิพย์กลับไม่มีโอกาสรู้จักพี่อีกแล้ว…”

เด็กหญิงซุกหน้าลงกับแผ่นอกผม ส่งเสียงกระซิบอย่างสิ้นหวังให้ผมได้ยิน

“พี่ชื่อเอ ทิพย์จำไว้ ส่วนเรื่องของเรานั้นหลังจากทุกสิ่งสิ้นสุด พี่เชื่อว่าวิญญาณของเราจะได้พบกันและทิพย์จะจำพี่ได้ในที่สุด”
“…..พี่เอ…. เอ๊ะ….”

เด็ก หญิงส่งเสียงพึมพำออกมาราวกับต้องการจดจำชื่อผมไว้ในส่วนลึกของจิตใจ แต่กลับอุทานออกมาอย่างแปลกใจเมื่อพบความเปลี่ยนแปลงของอากาศรอบข้าง ที่ผมเองก็รู้สึกได้เช่นกัน

กระแสลมที่พัดหวีดหวิวอื้ออึงตลอดที่ ร่างผมและน้องทิพย์ตกลงมาเบื้องล่างเริ่มลดระดับลง อันเป็นผลมาจากความเร็วในการตกลดลงจนรู้สึกได้ แม้ผมจะยังคงรับรู้ว่าถึงการหล่นลงไปอย่างต่อเนื่องแต่ก็ดูเหมือนว่าเบื้อง ล่างมีบางสิ่งบางอย่างที่ชะลอการตกกระแทก และนั่นหมายความว่าโอกาสที่ผมและน้องทิพย์จะรอดชีวิตเพิ่มสูงขึ้นมาบ้าง

“ทิพย์ เรากำลังชะลอการตกลง…คงใกล้จะถึงปลายของบ่อนี้แล้ว”

ผมกระซิบบอกร่างบอบบางในอ้อมแขน ขณะที่น้องทิพย์ก้ซุกหน้าแน่นกับแผ่นอกผม พร้อมส่งเสียงราวละเมอ

“ ไม่ว่าจะไปสุดที่ไหน ทิพย์ขออยู่กับพี่เอเท่านั้น…พี่เออย่างปล่อยทิพย์นะ”

ผม ก้มลงจูบหน้าผากกลมมนของเด็กหญิงอย่างลืมตัว จิตที่เริ่มผ่อนคลายจากการเตรียมรับความตายเริ่มสัมผัสความหอมกรุ่นของผิว กายเด็กหญิงแรกแย้มในอ้อมแขนที่พุ่งขึ้นมากระทบประสาทสัมผัส

“พี่ไม่มีวันปล่อยให้ทิพย์ห่างไปจากพี่อีกแล้ว…”

ผม กระซิบตอบ ขณะที่สายตาผมสัมผัสกับแสงเรื่อๆ ที่แม้จะแทบมองไม่เห็นแต่ในความมืดที่ผมตกลงมายาวนานกว่าครึ่งชั่วโมงนี้ แสงเรืองๆ กลับดูราวกับเป็นแสงอาทิตย์ยามเที่ยง ผมสอดส่ายสายตาหาจุดกำเนิดแสงและพบว่ามันมาจากด้านล่างที่ผมกำลังตกลงไป อย่างช้าๆ จนในที่สุดผมก็เห็นวงกลมแสงชัดเจนอยุ่เบื้องล่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจุดนั้นน่าจะเป็นที่สิ้นสุดของการตกลงมาครั้งนี้ และจากความเร็วของการตกที่ลดลง ทำให้ผมเชื่อว่าแม้ปราณคุ้มครองกายในร่างจะยังไม่สามารถฟื้นฟู แต่แรงกระแทกก็คงไม่ทำอันตรายผมและน้องทิพย์จนถึงชีวิตอย่างแน่นอน

“ข้างล่างมีแสงสว่าง เราคงใกล้จะถึงพื้นแล้วล่ะน้องทิพย์”

ผมกระซิบบอกเด็กหญิง ทำให้น้องทิพย์ผงกศีรษะขึ้นแล้วเพ่งมองสภาพรอบข้าง แต่กลับตอบมาด้วยน้ำเสียงสงสัย

“ทิพย์มองไม่เห้นอะไรเลยพี่เอ…แสงตรงไหนน่ะ ”

ผม งุนงงอยุ่ครู่หนึ่ง จึงนึกขึ้นได้ว่าน้องทิพย์เป็นเพียงเด็กหญิงที่ปราศจากปราณ ทำให้ประสาทรับรู้ทางสายตามีความไวน้อยกว่าผู้ทรงปราณระดับสูงเช่นผม แสงเรืองที่น้อยนิดจึงไม่เกิดประโยชน์ใดๆ กับน้องทิพย์ ต่างกับผมที่มันสามารถช่วยให้ผมเห็นสภาพรอบข้างได้มากขึ้น ไม่นานนักร่างผมและน้องทิพย์ก็ตกลงผ่านวงกลมแสงเข้าสู่พื้นที่กว้างขนาดใหญ่ พร้อมกับแรงดึงดูดที่ดูราวกับลดลงจากระดับปกติมาก ทำให้ร่างผมและน้องทิพย์ลอยลงสู่พื้นเบื้องล่างช้าๆ ขณะที่สายตาผมกวาดรอบเพื่อรับรู้สภาพรอบข้าง แต่ภาพที่ปรากฏต่อสายตาทำให้ใจผมสั่นสะท้านโดยไม่สามารถควบคุมได้

เบื้อง ล่างคือพื้นที่ว่างขนาดใหญ่รูปครึ่งวงกลมขนาดครึ่งสนามฟุตบอลที่สมบูรณ์ราว กับผ่าลูกบอลออกเป็นสองส่วนแล้วครอบเอาไว้ ทุกด้านเป็นหินที่ส่งแสงสว่างเรืองๆ เกิดจากประกายสีเขียวของฟอสฟอรัสที่แทรกอยู่ตามรอยแตกของผนัง แต่สิ่งที่ทำให้ผมสั่นสะท้านคือภาพของสิ่งที่อยู่บนพื้น ซึ่งแม้จะมีแสงเพียงน้อยนิด แต่ผมก็รู้ว่ามันคือโครงกระดูกมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ก่อสุมกันราวกับ ภูเขานาดย่อม ผนผนังด้านหนึ่งมีรูปสลักมังกรขนาดใหญ่จากหินที่โผล่พ้นผนังมาครึ่งตัวกิน พื้นที่เกือบหนึ่งในสามของพื้นที่ทั้งหมด เฉพาะส่วนหัวของมังกรก็มีขนาดกว้างไม่ต่ำกว่าสามเมตร สลักด้วยผีมือประณีตจนแว่บแรกที่ผมเห็น สมองผมกลับคิดว่านั้นคือมังกรที่มีชีวิตจริงๆ

“ทิพย์เห็นอะไรบางอย่างแล้วพี่เอ…แต่มันเลือนรางจนจับไม่ได้ว่าคืออะไร”

เมื่อ ลงมาถึงจุดกำเนิดแสง ดวงตาของมนุษย์ธรรมดาเช่นน้องทิพย์ก็เริ่มรับรู้สภาพรอบข้าง แต่ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องล่างทำให้ผมอดดีใจไม่ได้ที่น้องทิพย์ยังไม่เห็น สภาพของโครงกระดูกมนุษย์ ที่บอกให้รู้ว่าอีกไม่นานนักกระดูกของผมและน้องทิพย์ก็จะรวมเป็นส่วนหนึ่ง ของภูเขากระดูกเบื้องล่าง

“ทิพย์กอดพี่ไว้แน่นๆ นะ…เราไปที่ด้านนั้นดีกว่า”

ขณะ ที่ร่างผมสัมผัสพื้นกระดูกเบื้องล่างโดยแทบไม่ปรากฏแรงกระทบจากการตกลงจาก ที่สูง ผมก็รวบรวมกำลังที่ยังคงเหลือดีดร่างตนเองแะละน้องทิพย์ขึ้นจากพื้น พุ่งตรงไปยังรูปสลักมังกรเพื่อพาน้องทิพย์ไปยังส่วนหัวของมังกรที่ผมเห็นว่า มีพื้นที่พอที่จะทรงกายอยู่ได้โดยไม่ต้องให้น้องทิพย์ลงไปสัมผัสภาพที่น่า หวาดหวั่นของโครงกระดูกเบื้องล่าง แรงดึงดูดที่น้อยกว่าปกติ ทำให้ร่างผมลอยขึ้นอย่างงายดายและร่อนลงบนเป้าหมายศีรษะมังกรอย่างแม่นยำ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหินส่วนหัวของมังกรที่กว้างใหญ่กว่าสองเมตรและ ราบเรียบพอให้ผมและน้องทิพย์พักผ่อนได้ ผมทรุดกายลงนั่งกับพื้น ขณะที่น้องทิพย์เคลื่อนตัวออกจากอ้อมแขนผมเมื่อเท้าสัมผัวพื้นหินของศิลาหัว มังกร แล้วทรุดตัวลงคุกเข่าตรงข้ามผม ก่อนควานมือมาหาแและกุมมือผมไว้แน่นทั้งสองข้าง

“อย่างน้อยตอนนี้เราก็ปลอดภัยแล้วนะ…”

ผมส่งเสียงบอกเด็กหญิงเบื้องหน้าเบาๆ

“แล้วเราอยู่ที่ไหนกันพี่เอ…ทำไมมันถึงเหมือนกับทิพย์ไม่มีน้ำหนักตัวเลย”

น้องทิพย์ส่งเสียงสั่นๆ ถามผม

“ก่อน ที่ช่องทางจะปิด พี่ได้ยินถังฮวงพูดว่าบ่อมังกรฟ้า นี่คงเป็นก้นบ่อนั่นแน่ๆ แต่พี่ก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าทำไมแรงดึงดูดจึงลดลงแบบนี้ แต่นั่นก็ดีนะ เพราะมันทำให้เราไม่หล่นลงมาแหลกเหลวอยู่ข้างล่างนี่ไง”

ผมพยายามตอบ คำถามน้องทิพย์พร้อมปลอบให้เด็กหญิงคลายความกังวลลงบ้าง แต่ดูเหมือนน้องทิพย์จะยังคงสับสนกับทุกสิ่งรอบข้าง ร่างเปลือยเปล่าของเด็กหญิงสั่นระริกจนผมต้องดึงร่างน้อยเข้ามากอดไว้ข้างๆ โดยที่น้องทิพย์ไม่ได้ขัดขืนแต่กลับเบียดร่างหาผมแน่นราวกับต้องการความ อบอุ่น ชั่วขณะใบหน้าเด็กหญิงก็ปรากฏสีแดงเรื่อๆ และพึมพำขึ้น

“ดีนะที่มันมืด ทิพย์ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น ไม่งั้นคงอายพี่เอแย่เลย”

คำ พูดของน้องทิพย์ทำให้ผมหัวเราะเบาๆ ในใจและอดก้มลงพิจารณาร่างน้องทิพย์ในอ้อมแขนไม่ได้ เพราะน้องทิพย์ไม่รู้ว่าในสภาพแสงเช่นนี้ประสาทตาของผู้ทรงปราณเช่นผมมอง เห็นทุกอย่างได้ชัดเจน และเรือนร่างเปลือยเปล่าของน้องทิพย์ทุกส่วนก็ไม่เป็นความลับต่อสายตาผมดัง ที่น้องทิพย์เข้าใจแต่อย่างใด

เมื่อความสงบเข้ามาครอบคลุม ทำให้ผมมีโอกาสพิจารณาน้องทิพย์ที่นั่งอยู่ด้านข้างได้อย่างละเอียด ใบหน้าของเด็กหญิงอ่อนเยาว์ต่างกับ “นังทิพย์” ที่ผมคุ้นเคย ความอ่อนเยาว์สดใสยังคงปรากฏอยู่บนผิวหน้านวลละเอียดของวัยแรกสาว ดวงตากลมโตสุกใสจับจ้องมายังผมพร้อมกุมมือผมไว้แน่น โดยเข้าใจว่าผมมองไม่เห็นภาพใดๆ ทำให้ผมเห็นประกายตางดงงามที่แฝงความสับสนของเด็กหญิงอย่างชัดเจน

ผม ถอนสายตาลงต่ำมายังทรวงอกเปลือยเปล่าที่ชูช่องดงงามอยู่ข้างตัวผม ในความทรงจำผมจำได้ดีว่าทรวงอกเต่งตึงของน้องทิพย์มีขนาดเต็มมือยามคลึง เคล้น ต่างกับทรวงอกคู่น้อยที่เพิ่งผลิบานเบื้องหน้า จงอยสีชมพูประดับปลายยอดยังคงสงบนิ่งอยู่บนป้านสีชมพูอ่อน หัวใจผมเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อคิดถึงความรู้สึกในอดีตที่ผมสัมผัสทรวงอกคู่ นี้ยามเติบโตเต็มที่ แต่ภาพของมันขณะที่ยังเป็นทรวงอกครัดเคร่งของเด็กหญิงวัย 12 ย่าง 13 กลับมีความงดงงามน่าสัมผัสไม่น้อยกว่ากันแม้แต่นิดเดียว กลิ่นไอหอมกรุ่นของเด็กหญิงแผ่พุ่งขึ้นรอบตัวหลัง ทำให้ผมอดสูดลมหายใจเพื่อเก็บกลิ่นหอมบริสุทธิ์เอาไว้ไม่ได้ ขณะที่น้องทิพย์ขยับร่างเหยียดขาออกไปตามแนวยาวของศีรษะมังกร.. เนินรักที่เคยซุกตัวอยู่ภายใต้การขดตัวของท่อนขาเด็กหญิงจึงเผยตัวให้ผมเห็น ชัดเจนเป็นครั้งแรก

แม้จะเป็นภาพทางด้านข้าง แต่แนวอวบอิ่มของสองแคมของเด็กหญิงก็เด่นนูนขึ้นเป็นวงโค้งงดงงามปรากฏต่อ สายตาผม เนินนูนเกลี้ยงเกลาที่ปราศจากเส้นขนใดๆ มารบกวนสายตาทำให้ภาพของร่องรักที่ซ่อนตัวอยู่กลางการอบรอบของสองแคมยังคง ปิดสนิทปราศจากร่องรอยของการบุกรุก ปรากฏต่อสายตาผม หัวใจผมสะท้านไหวด้วยความรู้สึกผสมกันระหว่างความดีใจที่ในที่สุดผมก็สามารถ ช่วยให้น้องทิพย์พ้นจากการย่ำยีของของกลุ่มชายชั่วได้ แต่ขณะเดียวกันผมก็สะท้อนใจที่การช่วยเหลือของผมต้องมาจบสิ้นลงในก้นบึ้งของ บ่อมังกรฟ้า ที่จะเป็นสถานที่ฝังร่างของผมและน้องทิพย์ไว้ตลอดกาล

“พี่เอ…คิดอะไรอยู่หรือ”

เสียงแผ่วเบาของน้องทิพย์ดังขึ้นข้างตัว ทำให้ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบเด็กหญิง

“พี่อดเสียใจไม่ได้ที่ไม่สามารถช่วยน้องทิพย์ออกไป แล้วกลับมาจบลงที่นี่”

มือบอบบางของน้องทิพย์เอื้อมคลำผ่านร่างผมมาที่ใบหน้าแล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่ เอช่วยไม่ไให้ทิพย์ต้องตกเป็นของคนพวกนั้น และปกป้องทิพย์ด้วยชีวิตของพี่เอเอง แม้ทิพย์จะไม่เข้าใจสิ่งที่พี่เอเล่าที่ว่าทิพย์เป็นคนรักของพี่เอ.. แต่ทิพย์ก็รู้ว่าพี่เอรักทิพย์ด้วยชีวิต ถ้าทิพย์จะต้องตายพร้อมพี่เอที่นี่ ทิพย์ไม่เสียใจหรอก พี่เออย่างตำหนิตัวเองเลย…แต่ว่า…”
“ ทำไมหรือน้องทิพย์…”

ผมถามเมื่อพบว่าเด็กหญิงหยุดการสนทนาไปครู่หนึ่งและดูเหมือนจะมีความต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง

“พี่เล่าให้ทิพย์ฟังได้ไหมว่าทำไมพี่ถึงบอกว่าทิพย์เป็นคนรักของพี่ และทำไมทิพย์ถึงฝันถึงพี่มาตั้งแต่ทิพย์จำความได้”

เด็กหญิงถามผมเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ ทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปจับมือเรียวบางทั้งคู่เอาไว้แล้ว

“ทิพย์มานั่งข้างหน้าพี่ตรงนี้สิ พี่จะเล่าทุกอยางให้ฟัง”

เรียว ขายาวขาวสะอาดของน้องทิพย์เบียดเข้าหาท่อนขาผม เมื่อน้องทิพย์ขยับร่างออกจากอ้อมกอดแล้วพลิกตัวมานั่งขัดสมาธิตรงข้ามผม ดวงตากลมโตจับจ้องมาทางผมทั้งที่อยู่ในความมืดที่เด็กหญิงมองไม่เห็นอะไร แต่กลับทำให้ผมต้องพยายามระงับสติ เมื่อท่านั่งของทิพย์ทำให้ร่างกายเปล่าเปลือยงดงงาม ทรวงอกครัดเคร่งและเนินรักอิ่มนูนเผยตัวเองอยู่ตรงหน้าผมตรงๆ

ผม จับมือน้อยๆ กุมไว้แน่นแล้วเริ่มอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องทิพย์ตลอดหลายปีใน อนาคต ขณะที่น้องทิพย์นิ่งฟังอย่างเงียบสนิท มีเพียงปฏิกิริยาสั่นระริกที่มือน้อยเมื่อผมเล่าถึงการที่น้องทิพย์ในอดีต ถูกรุมข่มขืนแล้วนำตัวไปขายที่ซ่องโสเภณีย่านสำเพ็ง ใบหน้าหวานใสของเด็กหญิงเริ่มแดงระเรื่อเมื่อการเล่าเรื่องอย่างละเอียดของ ผมดำเนินไปถึงการใช้ชีวิตที่คลองน้อยในแก๊งค์ของผมและนำไปสุ่การร่วมรักกัน ในที่สุด หลังจากนั้นเรื่องเล่าก็ดำเนินไปสู่การย้อนเวลาของผม และการย้อนกลับมาช่วยให้น้องทิพย์พ้นจากชะตากรรมที่โหดร้าย แต่ในที่สุดผมก็ล้มเหลวจากการแทรกแซงของตำหนักมังกรฟ้า และทำให้ทุกสิ่งมาจบลงที่ก้นบ่อมังกรฟ้าแห่งนี้

เรื่องเล่าที่ยาวนานจบลง ขณะที่น้องทิพย์ยังคงนิ่งอยู่เนิ่นนานก่อนถอนใจเบาๆ

“พี่ เอรู้ไหมว่าเรื่องที่พี่เอเล่า ถ้าเป็นคนอื่นได้ฟังเขาต้องคิดว่าพี่เอเสียสติแน่ๆ แต่สำหรับทิพย์ที่ฝันเห็นพี่เอมาตลอดชีวิต ในฝันของทิพย์ทิพย์เห็นสถานที่ที่ทิพย์ไม่รู้จัก เห็นคนที่ทิพย์รู้สึกว่ามีความสัมพันธ์ด้วย ซึ่งล้วนแต่อยู่ในเรื่องที่พี่เอเล่าให้ฟังทั้งนั้น…ทิพย์เชื่อพี่เอนะ..”

ผมถอนใจยาวแล้วฝืนยิ้มให้น้องทิพย์ทั้งที่รู้ว่าเด็กสาวมองไม่เห็น

“ทุกสิ่งที่พี่เล่าเป็นความจริง หาทิพย์รับถ่ายทอดความทรงจำทั้งหมดของพี่ไปทิพย์ก็จะรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง”

เด็กหญิงหน้าแดงฉาน แล้วก้มหน้าลงพึมพำราวกับจะพูดกับตัวเอง

“การถ่ายทอดความทรงจำจากการ…เอ้อ…เย็ด…กันน่ะหรือพี่เอ..”

ผมหัวเราะเบาๆ แล้วยกมือไปลูบศีรษะเล็กๆ เบื้องหน้า

“….น้องทิพย์กลัวหรือ… ”

เด็กหญิงพยักหน้ารับ ก่อนตอบกลับมาเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงฉานแต่น้ำเสียงมั่นคงเกินเด็กหญิงอายุ 12

“ทิพย์ กลัว..แต่ทิพย์มั่นใจในตัวพี่เอ และที่สำคัญทิพย์ไม่รู้ว่าเราจะออกไปจากที่นี่ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้มทิพย์ก็ไม่อยากตายโดยที่ไม่รู้ความจริงด้วยตัวของทิพย์เอง”

เด็ก หญิงสูดหายใจลึกก่อนลุกจากท่าขัดสมาธิ ความนมือมาหาผมแล้วคลานเข้ามาหาวงแขนผมที่รอรับอยู่ ผมดึงร่างนวลเนียนมาประทับกอดไว้แน่นกับอก ขณะที่น้องทิพย์กระซิบเบาๆ

“…พี่เอรักทิพย์ไหม….”
“…เท่าชีวิต….”
“…งั้นพี่เอ…เย็ดทิพย์เถอะ…ทิพย์ต้องการเป็นของพี่เอ…”

ร่าง เปลือยนุ่มนวลของน้องทิพย์กระเถิบเข้ามาเบียดผมแน่น จนผมรับรู้ถึงทรวงอกคู่น้อยที่อัดแน่นอยู่กับแผ่นอกผม ร่างเด็กหญิงสั่นน้อยๆ เมื่อผมเชยคางเรียวขึ้นแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างทะนุถนอม โดยที่เจ้าของริมฝีปากเผยอรับจูบแรกในชีวิตอย่างเต็มใจ รสหอมหวานของริมฝีปากอ่อนเยาว์กระจายผ่านมาให้ผมสัมผัส และเมื่อผมเพิ่มแรงสัมผัสของริมฝีปากก็ทำให้สองมือของน้องทิพย์เคลื่อนไปมา ก่อนโอบรอบคอผมไว้พร้อมส่งเสียงครางในลำคอ

มือผมเลื่อนไปลูบไล้แผ่น หลังบอบบางที่กำลังเติบโตไปสู่วัยสาวสะพรั่ง ผ่านเอวเรียวยาวแบบเด็กหญิงแรกรุ่นขึ้นมาสู่ทรวงอกคู่น้อยที่ยังคงเบียดกับ แผ่นอกแผม ร่างบอบบางของน้องทิพย์ถอยหลังเล็กน้อยเปิดทางให้มือผมเลื่อนไล้ไปเกาะกุม ความเต่งตึงของสองเต้าไว้ เม็ดยอดเล้กๆ ที่เคยฝังตัวอยุ่สงบนิ่งกลับเริ่มแข็งตัวขึ้นในฝ่ามือเมื่อผมเพิ่มแรงเคล้น คลึง ลมหายใจน้องทิพย์เริ่มกระชั้นถี่จนผมรู้สึกได้ ขณะที่ร่างเด็กหญิงเริ่มบิดส่ายไปมากับอามรณ์รักที่เกิดจาการสัมผัสของ เพศตรงข้ามเป็นครั้งแรกในชีวิต ผมเลื่อนมืออีกข้างลงต่ำตามแนวเอวนุ่มนวล ไปยังสะโพกอวบอิ่มกลมกลึงด้านล่าง บีบเคล้นรับสัมผัสแรงสะท้อนของสะโพกงามอย่างละลานใจ ก่อนเริ่มวกมือลงไปสู่ความเป็นสาวของน้องทิพย์

“…………..ครืน……………….”

เสียงกังวานก้องดังขึ้นก่อนที่มือผมจะสัมผัสเนินรักของน้องทิพย์ ทำให้ผมต้องชะงักมือไว้แล้วต้องอุทานออกมากับสิ่งที่เกิดขึ้น
แสง สีฟ้าเรื่อเรืองปรากฏขึ้นจากส่วนหัวมังกรที่ผมกับน้องทิพย์กำลังเริ่มการ ร่วมรัก ทำให้น้องทิพย์อุทานออกมาอย่างตกใจ แสงสว่างเริ่มเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้น จนทำให้อาณาบริเวณทั้งหมดของถ้ำใต้บ่อมังกรฟ้าสว่างไสวไปทั่ว และทำให้ภาพภูเขาของโครงกระดูกที่กองสุมกันอยู่เบื้องล่างปรากฏแก่สายตาน้อง ทิพย์อย่างชัดเจน

“พี่เอ…นั่น…นั่น กระดูกคนไม่ใช่หรือ…”

อามรณ์รักของน้องทิพย์ที่กำลังเริ่มขึ้นหายไปในทันทีที่เห็นภาพน่ากลัวเลื้องล่าง เด็กหญิงกอดผมแน่นด้วยร่างสั่นสะท้าน

“ทิพย์ไม่ต้องกลัว พี่อยู่นี่…”
“มันเกิดอะไรขึ้นน่ะพี่เอ..แสงมาจากไหนกัน..”
“มันเกิดจากตรงที่เราอยู่นี่ เป็นศิลารูปหัวมังกร…พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน …แต่..เอ๊ะ…”

ผมพยายามระงับความตกใจให้น้องทิพย์ แต่กลับเป็นฝ่ายอุทานออกมาเองเมื่อเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องล่าง

โครง กระดูกทั้งหมดที่กองสุมกันอยู่เริ่มมีการเคลื่อนไหวราวกับโครงกระดูกทุกร่าง พยายามหาทางหนีออกจากกัน แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องร้องอุทานออกมาก็คือโครงกระดูกทุกโครงเริ่มเปลี่ยนจาก สีขาวเป็นสีแดง และในชั่วอึดใจดูราวกับว่าสีแดงนั้นพอกตัวหนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกล้ามเนื้อมนุษย์ ที่เริ่มยืดตัวขึ้นแล้วเคลื่อนไหวไปมา ไม่นานนักผิวหนังก็เริ่มก่อตัวขึ้นคลุมกล้ามเนื้อแดงฉาน เส้นผมเริ่มงอกขึ้นบนส่วนศีรษะ จนในที่สุดร่างของมนุษย์จำนวนมากก็เบียดเสียดกันอยู่เบื้องล่าง เสียดพูดด้วยภาษาโบราณที่ผมพอเข้าใจดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ

“…ทรมานเหลือเกิน… ”
“..เมื่อไหร่จะสิ้นสุดเสียที… ”
“…ข้าต้องการความตาย..ทำไมเทพเจ้าจึงไม่ยอมฟังคำขอร้องของข้า..”

กลุ่ม มนุษย์ทั้งเพศชายและหญิงในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าเคลื่อนไหวอยู่เต็มพื้น เบื้องล่างขณะที่เสียงคราญครางประสานกันมากขึ้นเรื่อยๆจนยากต่อการจับใจความ ผมกอดร่างเปลือยของน้องทิพย์ไว้แน่นขณะพิจาณากลุ่มคนที่เคลื่อนไหวอยู่ เบื้องล่าง เพียงั่วครู่เดียวผมกลับพบความประหลาดใจเมื่อพบว่าทำร่างนั้นล้วนแต่เด็ก หนุ่มสาวที่มีอายุไม่เกิน 14-15 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายทุกส่วนกำลังอยู่ในภาวะเจริญพันธ์เต็มที่ แต่มีเพียงไม่กี่คู่ที่กำลังเริ่มเล้าโลมเพื่อร่วมรักกัน ในขณะที่ส่วนใหญ่กลับร้องคร่ำครวญราวกับได้รับความทรมานทั้งที่ไม่มีสิ่งใด เป็นอันตรายเกิดขึ้น

ประกายแสงสว่างที่ศิลาหัวมังกรซึ่งผมและน้อง ทิพย์อยู่เจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ จนคนธรรมดาเช่นน้องทิพย์ต้องหลับตาแน่น แต่ก่อนที่ผมจะคิดวิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังเผชิญ ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านขึ้นมาจากพื้นของศิลาและแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างผม พร้อมกับกระตุ้นปราณในร่างให้ก่อตัวฟื้นกลับอย่างรวดเร็ว และเพียงครู่เดียวปราณที่อ่อนล้าในร่างผมก็กลับฟื้นขึ้นสู่สภาพที่สมบูรณ์ ราวกับไม่เคยผ่านการต่อสู้ที่แทบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว ผมสูดลมหายใจลึกกระชับร่างน้องทิพย์แน่นก่อนรวมปราณลงที่เท้าและดีดตัวขึ้น ไปยังช่องกลมที่ผมหล่นลงมา เพื่อหาทางกลับไปสู่เบื้องบนโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ ครึ่งวงกลมเบื้องล่าง

ร่างผมพุ่งวาบไปยังช่องว่างราวสายฟ้าด้วยปราณ ที่สมบูรณ์เต็มที่และสภาพแรงดึงดูดที่น้อยนิด จนร่างผมผ่านเข้าไปสู่ความมืดสนิทของช่องทางที่ผมตกลงมา แต่ขณะที่ผมพยายามทะยานร่างขึ้นสูงผมกลับปะทะกับพลังไร้รูปที่แข็งกร้าว อย่างรุนแรงจนร่างผมต้องกระดอนกลับลงมาในพื้นที่เบื้องล่างอีกครั้ง ทำให้ผมต้องใช้ปราณฟาดไปยังผนังเพื่อเหินกลับมายังศิลาหัวมังกร และพบว่าแสงสว่างของศิลาหัวมังกรเริ่มเปลี่ยนจากสีฟ้าสว่างเป็นสีแดงระเรื่อ ในขณะที่ร่างเด็กหนุ่มสาวทั้งหมดเบื้องล่างกลับฟุบลงกับฟื้นและเปล่งสะอื้น ไห้ดังระงมไปทั่ว

“…พี่เอ…นี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้น…ทิพย์กลัว”

น้อง ทิพย์ครางเสียงสั่นระริกเมื่อเห็นสภาพเบื้องหน้า แต่ก่อนที่ผมจะปลอบเเด็กหญิงให้สงบลง เสียงกังวานใสราวกับเด็กหญิงแรกรุ่นก็ดังขึ้นในจิตผม

‘บุรุษผู้ก่อกัลป์สูญ หากท่านไม่ต้องการถูกเพลิงมังกรเผาผลาญจนเป็นกระดูก ก็จงลงตามแนวคอมังกรเดี๋ยวนี้’

ผม สะดุ้งกับเสียงทางจิตที่ดังขึ้น ก่อนหันขวับไปยังจุดที่เสียงกล่าวถึงและต้องนิ่งงันเมื่อพบว่าเบื้อง ล่างบริเวณส่วนปลายของศิลารูปมังกรที่เป็นต้นคอ มีร่างเปลือยเปล่าของเด็กหญิงวัย 13-14 ปี ยืนอยู่ แต่สิ่งที่แปลกประหลาดกว่า คือสีผิวของเด็กหญิงรวมทั้งผมที่ยาวสลวยลงมาถึงกลางหลังของเด็กหญิงกลับเป็น สีขาวนวลราวน้ำนมโดยปราศจากสีอื่น มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่เปล่งประกายสีเหลืองจางๆ สะท้อนกับแสดงสีแดงของศิลาหัวมังกรที่กำลังเข้มข้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

‘ หนูเป็นใคร..แล้วนี่กำลังเกิดอะไรขึ้น..’

ผมส่งกระแสจิตตอบกลับ แต่เด็กหญิงเบื้องล่างไม่ตอบคำถามและส่งกระแสจิตกลับมาอย่างร้อนรน

‘เราไม่มีเวลาอธิบาย ท่านจงพาสตรีนางนั้นลงมาที่นี่เดี๋ยวนี้’

กระแส จิตที่แสดงความกระวนกระวายของเด็กหญิง ทำให้ผมตัดสินใจพุ่งร่างลงไปโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่น และพบว่าร่างเด็กหญิงกำลังจมหายลงไปในส่วนคอของศิลามังกร พร้อมกับพยักหน้าเป็นสัญญานให้ผมตามลงไป ผมกระจายปราณป้องกันตัวคลุมร่างตนเองและน้องทิพย์ไว้ก่อนพุ่งร่างมาถึงจุด ที่เด็กหญิงลึกลับหายไปและพบว่าเด็กหญิงรออยู่ภายในหลุ่มวงรีเล็กๆ ขนาดกว้างยาวไม่เกินสองเมตร ที่พอเพียงสำหรับคนอย่างมากสองคน เด็กหญิงผมขาวรีบเอื้อมมือมาดึงให้ผมลงไปพร้อมน้องทิพย์ ความคับแคบทำให้จึงทำให้พื้นที่ทั้งหมดถูกอัดแน่นและร่างของเด็กหญิงลึกลับ ก็เบียดแน่นอยู่กับผมทุกสัดส่วน

‘ระงับสติให้ดี ท่านกำลังจะได้สัมผัสกับขุมนรกที่โหดร้ายที่สุด..’

เสียง เด็กหญิงลึกลับดังขึ้นในจิต ขณะเอื้อมมือไปคว้าแผ่นศิลาขรุขระด้านบนมาผิดปากหลุมเอาไว้ เสียงแปลกหูทำให้น้องทิพย์ลืมตาขึ้นและเบิกตาโพลงด้วยความแปลกใจที่พบว่า กำลังเบียดร่างอยู่กับเด็กหญิงแปลกหน้า แต่ก่อนทีน้องทิพย์จะถามสิ่งใด เสียงคำรามลั่นก็ดังขึ้นพร้อมกับหลุ่มศิลาที่ผมและเด็กหญิงทั้งสองแทรก ร่างอยู่เคลื่อนไหวโยกเยกไปมา

“ ..อะ..อะไรกัน…”

น้อง ทิพย์อุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องชะงักคำพูดเมื่อพบว่ารอบข้างถูกปกคลุมด้วยความร้อนระอุที่แทบจะแผด เผาร่างกายทุกส่วนให้เป็นผุยผง แผ่นศิลาเบื้องบนเปลี่ยนเป็นสีแดงเจิดจ้า จนเกิดแสงสว่างเรืองๆ ขึ้นในหลุมที่ผมและเด็กหญิงทั้งสองซ่อนร่างอยู่

‘นี่เกิดอะไรขึ้น…เราอยู่ที่ไหนกัน..’

ผม หันขวับไปหาใบหน้าเด็กหญิงลึกลับที่ด้านข้างและส่งกระแสจิตถามอย่างรวดเร็ว แต่ผมก็ตอดแปลกใจกับภาพใบหน้าของเด็กหญิงที่ปรากฏในระยะใกล้อย่างชัดเจนไม่ ได้ เพราะมันเป็นภาพใบหน้าของเด็กหญิงที่งดงามจนสั่นจิตใจของเพศตรงข้ามได้อย่าง ง่ายดาย โครงหน้าสามเหลี่ยมที่ปลายคางเรียวเล็กน่ารัก ดวงตากลมโตทอประกายสีเหลืองเรือนลาง ริมฝีปากอิ่มเชิดงอนเล็กน้อยประกอบเป็นโครงหน้าของความงามที่กำลังก้าวไปสู่ วัยสาว แต่สีผิวทั้งหมดกลับเป็นสีขาวราวน้ำนมเช่นเดียวกับเส้นผมที่เป็นสีขาวราว เงินยวง ซึ่งผมรู้ดีว่านี่มิใช่เป็นสีผิวและผมตามธรรมชาติแต่เกิดจากอาการผิดปกติของ เม็ดสีในร่างกายที่วงการแพทย์ถือเป็นโรคทางกรรมพันธ์และไม่มีทางรักษา แต่อาการนี้เมื่อกลับปรากฏบนใบหน้าที่งดงงามกลับทำให้เกิดภาพที่แปลกตาและ ประกอบขึ้นเป็นความงามอีกรูปแบบที่ต่างจากสตรีทั่วไป

ร่างเปลือย อบอุ่นของเด็กหญิงลึกลับเบียดแน่นกับผมจนรับรู้ได้ถึงความเต่งตึงของทรวงอก อวบอิ่ม ที่ส่วนปลายประดับด้วยเม็ดยอดสีขาวสะอาด เบื้องล่างสะโพกผมถูกเบียดด้วยเนินรักที่ปกคลุมด้วยเส้นขนอ่อนนุ่มละเอียด จนรับรู้ได้ถึงความนุ่มเนียนหยุ่นตึงของสองแคมรักเบื้องล่าง แต่ก่อนที่ผมจะเกิดความรู้สึกใด เสียงทางจิตของเด็กหญิงก็ดังขึ้นแผ่วเบา

‘มังกร ทุกตัวจะมีช่องแยกรูปไข่ที่ส่วนต้นคอ เพื่อเป็นที่เก็บรักษาไข่มิให้ถูกกระทบจากความร้อนที่เกิดขึ้นยามพ่นเพลิง มังกรออกจากปาก นี่เป็นสถานที่เดียวเท่านั้นในถ้ำมังกรแห่งนี้ที่สามารถรอดพ้นการเผาผลาญของ เพลิงมังกรได้…’

‘…เพลิงมังกร..ที่นี่มีมังกรอาศัยอยู่หรือ..’

ผมถามอย่างงุนงง ขณะที่เด็กหญิงลึกลับยิ้มบางๆ ก่อนตอบด้วยจิต

‘ศิลา ที่ท่านเห็นมิใช่ศิลาสลัก แต่เป็นเทพมังกรอมตะ ที่เทวนารีทั้ง 12 แห่งจักราศีภายใต้การนำของเทพวิรูณปักขะแห่งจักราศีคนแบกงู ร่วมพลังสละชีวิตสะกดอำนาจแห่งเทพมังกรไว้ที่นี้เมื่อหมื่นปีก่อน และส่งร่างมาฝังไว้ในศิลาวินาศใต้พื้นโลกแห่งนี้ แต่เทพมังกรก็ยังคงมีชีวิตอยู่ด้วยผลึกจิตมังกรที่ฝังอยู่ในร่าง ทำให้ทุกวันในยามเที่ยงคืนซึ่งเป็นเวลาที่ผลึกมังกรฟื้นพลัง เทพมังกรก็จะกลับมีชีวิตอยู่ 1 ชั่วยาม แต่ไม่สามารถหนีออกจากศิลาวินาศได้ ทำให้เทพมังกรพ่นเพลิงมังกรด้วยความโกรธเกรี้ยวดังที่กำลังเกิดอยู่ภายนอก.. หากท่านออกไปในขณะนี้ ร่างท่านจะถูกเผาผลาญจนเหลือแต่กระดูก แต่เมื่อถึงยามเที่ยงคืนเมื่อผนึกมังกรฟื้นคืนพลัง ท่านก็จะกลับฟื้นชีวิตอีกครั้งในร่างของตัวท่านเองในวัยเริ่มเจริญพันธ์ หาใช่ร่างปัจจุบันไม่..หลังจากนั้นท่านก็จะถูกเพลิงมังกรเผาผลาญอีก และกลับฟื้นขึ้นมาอีกไม่รู้จบ ตราบใดที่เทพมังกรยังมีชีวิตอยู่’

คำบอกเล่าของเด็กหญิงทำให้ผมสะท้านใจอย่างรุนแรง เมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับผมและน้องทิพย์หากยังติดอยู่ในสถานที่นี้

‘แล้วทำไมจึงไม่มีใครหลบหนีกลับไปสู่เบื้องบนยามที่ฟื้นชีวิตล่ะ..’

ผมส่งจิตถามเด็กหญิง ซึ่งทำให้ใบหน้างามสลดลงและตอบกลับมา

‘เมื่อ ท่านถูกเพลิงมังกรผลาญร่าง ปราณในร่างท่านจะถูกทำลาย แม้จะฟื้นชีวิตอีกครั้งก็จะอยู่ในสภาพของผู้ไร้ปราณ ยิ่งกว่านั้นทางลงมายังบ่อมังกรแห่งนี้ถูกปิดกั้นไว้ด้วยพลังไร้สภาพของเทพ มังกรที่สกัดสิ่งมีชีวิตทุกชนิดหรือแม้กระทั่งวิญญานมิให้ผ่านออกไปได้ มีเพียงพลังงานจากเพลิงมังกรเท่านั้นที่สามารถผ่านออกไปยังเบื้องบน และนั่นพลังนั้นคือที่มาของปราณมังกรฟ้าที่ตำหนักมังกรฟ้าใช้ฝึกปรือจนเป็น สำนักยิ่งใหญ่ในอาณาจักรผู้ทรงปราณ หลังจากผู้ก่อตั้งสำนักได้ค้นพบบ่อมังกรแห่งนี้เมื่อสองร้อยปีก่อน’

ผม นิ่งงันไปกับคำอธิบายของเด็กหญิงที่บอกความจริงให้ผมรู้ว่าผมและน้องทิพย์จะ ไม่มีวันหนีออกไปจากบ่อมังกรฟ้าแห่งนี้ได้ และในที่สุดก็จะต้องจบชีวิตในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มมนุษย์บื้องล่าง ที่ต้องฟื้นชีวิตมารับความทรมานไม่สิ้นสุด ผมพยายามระงับใจและถามสิ่งที่ผมสงสัยในตัวของเด็กหญิง

‘แล้วหนูเป็นใคร ทำไมจึงตกมาอยู่ในบ่อมังกรฟ้าได้ ถังฮวงไม่ยอมละเว้นแม้แต่เด็กอย่างหนูเลยหรือ’

เด็กหญิงฝืนยิ้มให้ผม ก่อนตอบกลับมา

‘อย่า เรียกเราว่าหนู อันเป็นถ้อยคำที่ใช้เรียกเด็ก เรามิใช่เด็กหญิงอย่างที่ท่านเห็น เราชื่อจานีสถือกำเนิดในดินแดนกันดารของเนปาลเมื่อ ร้อยยี่สิบปีก่อนพร้อมโรคร้ายที่ทำให้ร่างกายเราไร้สี แต่สวรรค์กลับเมตตาให้เรามีอำนาจรับรู้อนาคต ทำให้เราถูกนำตัวมาฝึกวิชาพยากรณ์ในตำหนักจักรราศี และรับตำแหน่งโหราทาสทำงานรับใช้เทพสุรัสวดีแห่งจักราศีด้วยชีวิต…’

ใจ ผมสั่นสะท้านเมื่อรับรู้ว่าเด็กหญิงที่เบียดร่างอยุ่กับผมคือคนของจักรราศี แต่ก่อนที่ผมจะเกิดปฏิกริยาใด กระแสจิตอ่อนโยนของจานีสก็ดังขึ้นอย่างร้อนรน

‘ท่านไม่ต้องเกรงอันตรายใดๆ เราเองก็ถูกเทพสุรัสวดีลงโทษที่เราทำงานผิดพลาด และกำหนดให้เราต้องมารับความทรมานอยู่ที่นี่โดยไม่รู้จบ’

คำตอบของจานีสทำให้ผมคลายความเครียดลงบ้าง แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเด็กหญิงส่งกระแสจิตสืบต่อ

‘เรา ไม่หวังให้ท่านให้อภัยใดๆ แต่เราต้องการบอกท่านว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตท่าน เกิดจากการทำนายของเรา ไม่ว่าจะเป็นการส่งผู้ทรงปราณพิทักษ์เทพไปทำลายเทพมารดา และมารดาเทพอสูร อีกทั้งเป็นผู้กำหนดสถานที่ปรากฏของทาริกาอสุระ และธิดานาคราชให้จักราศีล่วงรู้ การที่ท่านมาอยู่ที่นี้จึงนับเป็นความผิดของเราทั้งหมด แม้เราจะได้สำนึกแล้วว่าสิ่งที่เราทำไปเพื่อปกป้องคุณธรรมและแสงสว่างนั้น ที่แท้กลับเป็นการสนองอำนาจและความต้องการครอบงำโลกของเทพสุรัสวดีเท่านั้น …แต่เราก็ไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้ นอกจากจะบอกท่านว่าสิ่งเดียวที่เราหวังก็คือโอกาสที่จะไถ่ถอนโทษทัณฑ์ที่ กระทำไป และการอภัยจากท่านเท่านั้น’

ผมขบกรามแน่นด้วยความโกรธเมื่อ รับรู้ว่าจานีสคือผู้ที่ก่อวิบัติขึ้นในชีวิตผมมาโดยตลอด ร่างผมสั่นระริกด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ใช้ปราณฟาดสังหาร เด็กหญิงเบื้องหน้าให้แหลกลาญคามือ อาการของผมทำให้น้องทิพย์อุทานออกมาด้วยความตกใจ

“พี่เอเป็นอะไรไป … ทำไมพี่เอมองหน้าพี่โดยไม่พูดอะไรแต่กลับตัวสั่นแบบนี้”

เสียง ของน้องทิพย์ปลุกผมจากการครอบงำของอารมณ์ ผมเริ่มอธิบายถึงการสนทนาทางการะแสจิตของผู้ทรงปราณระดับสูง และสิ่งที่จานีสบอกเล่าให้น้องทิพย์ทั้งหมด แต่ผมกลับต้องแปลกใจเมื่อแทนที่น้องทิพย์จะแสดงท่าทีโกรธแค้นเช่นเดียวกับผม น้องทิพย์กลับถอนใจยาวและยิ้มให้ผม

“ทิพย์ไม่โกรธอะไรพี่จานีสหรอก พี่เอ ทุกสิ่งเป็นการทำตามหน้าที่ และที่สำคัญพี่จานีสก็รับกรรมในสิ่งที่กระทำลงไปแล้ว…พี่จานีสตรงหน้าไม่ ใช่โหราทาสที่มีอายุร้อยกว่าปี แต่เป็นเด็กหญิงคนหนึ่งเช่นเดียวกับทิพย์เท่านั้น โหราทาสที่เป็นศัตรูของพี่เอตายไปแล้ว เด็กที่อยู่ตรงหน้าพี่เอเป็นเพียงผู้ที่เกิดใหม่และสำนึกกับความผิดที่ก่อ ขึ้น พี่เอจะโกรธแค้นไปก็จะยิ่งทำให้ความอาฆาตพยาบาทเกิดขึ้นไม่รู้จบนะ”

คำ พูดของน้องทิพย์ทำให้สติผมกลับคืนมาอีกครั้ง จริงทีเดียว โหราทาสที่เป็นศัตรูคู่แค้นของผมสูญสลายไปแล้ว เด็กหญิงเบื้องหน้าเป็นเพียงร่างที่กลับกำเนิดขึ้นมารับควาทรมานเพลิงมังกร อันไม่รู้จบเท่านั้น ผมสุดลมหายใจลึกก่อนส่งจิตไปยังจานีส

‘เราไม่ ถือโทษใดๆ กับท่านอีกต่อไปแล้ว จริงอย่างที่น้องทิพย์พูด ในเมื่อชีวิตเราทั้งหมดจะต้องดับลงในที่นี้ จะยึดติดกับความแค้นไปทำไม…’

ใบ หน้างดงามของจานีสเผยอรอยยิ้มที่งดงงามสะท้านใจ ดวงตาใสแจ๋วเปล่งประกายเรืองรอง ขณะที่เด็กหญิงที่กลับร่างมาจากโหราศทาสผู้มีอายุ 120 ปี กอดร่างผมแน่นขึ้นและส่งจิตละล่ำละลักมายังจิตผม

‘เราขอบคุณท่าน เราขอตั้งจิตว่าหากการทรมานครั้งนี้สิ้นสุดลงและวิญญาณของเราได้ไปเกิดใหม่ เราจะขอเกิดเป็นข้ารับใช้ท่านไปทุกชาติภพ’

ผมฝืนยิ้มให้จานีส ก่อนตอบ

‘หวัง ว่าเราคงมีโอกาสที่จะตายโดยไม่ต้องฟื้นขึ้นมารับทัณฑ์ทรมานจากเพลิงมังกรก็ พอแล้ว แต่ว่า..จานีส ท่านบอกเราได้ไหมว่าทำไมท่านจึงรู้ว่าเราเป็นใครในทันที่ท่านเห็นเราตกลงมา ยังที่นี้’

จานีสเงยหน้าขึ้นมองผม และส่งจิตกลับมา

‘เราอาศัย วิชาพยากรณ์ บอกให้รู้ว่าผู้ก่อกัลป์สูญจะประสบภัยพิบัติ และจะต้องปรากฏร่างในสถานที่นี้ ในทันที่ที่เห็นท่านใช้ท่าร่างและการผนึกกาฬปราณ เราก็รู้แล้วว่าท่านคือผู้ใด แต่เราเองก็ไม่สามารถ….’

กระแสจิตจา นีสหายไปกลางคัน ขณะที่แสงสีแดงเรืองรองภายนอกหายไปจนทำให้พื้นที่ภายในหลุมกลับมืดลงอีก ครั้ง ผมเอื้อมมือไปหาจานีสแต่กลับต้องตกใจเมื่อพบว่าสิ่งทีมือผมสัมผัสไม่ใช่ผิว กายละเอียดเนียนของเด็กหญิงอีกต่อไป แต่กลับเป็นโครงกระดูกมนุษย์ ทำให้ผมเข้าใจในทันทีว่าปฏิกิริยาจากผนึกมังกรซึ่งฟื้นชีวิตให้ผู้ที่ถูก เหลิงมังกรเผาผลาญได้หยุดลงชั่วคราว ทำให้โครงกระดุกทุกร่างกลับสู่สภาพเดิม ที่จะฟื้นชีวิตมาอีกครั้งเพื่อรับความทรมาณจากเพลิงมังกรในวันต่อไป

ผม กอดร่างน้องทิพย์ไว้ขณะเปิดแผ่นหินที่ผิดปากหลุมออก กระแสความร้อนที่พุ่งเข้าปะทะทำให้ผมต้องขยายปราณคุ้มครองร่างให้คลุมร่าง น้องทิพย์ ก่อนที่จะดีดตัวออกจากหลุมมาหยุดยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมของบริเวณหัวมังกร ซึ่งบัดนี้ผมได้รับรู้แล้วว่านี่ไม่ใช่รูปสลักจากหินดังที่เข้าใจครั้งแรก หากเป็นมังกรที่ยังคงมีชีวิตเป็นอมตะจากผลึกมังกรในร่าง

ผมหวนคิด ถึงคำบอกเล่าของจานีส และคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะยุติทัณฑ์ทรมานทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสถานที่นี้ เพราะทุกสิ่งเกิดจากพลังของผลึกมังกรที่ทำให้ทุกชีวิตฟื้นคืนขึ้นรับความ ทรมานไม่สิ้นสุด ดังนั้นหากผมสามารถทำลายผลึกมังกร ซึ่งผมรู้ดีว่าเป็นศูนย์พลังบำเพ็ญของมังกรตามตำนานที่ฝังอยู่ในส่วนหัวของ มังกร ก็จะทำให้ทุกสิ่งสิ้นสุดลง และผมกับน้องทิพย์ที่ไม่สามารถหนีไปจากสถานที่แห่งนี้ก็จะสามารถตายได้อย่าง สงบโดยไม่ต้องฟื้นขึ้นมารับเพลิงมังกรอีก

ผมประคองร่างน้องทิพย์ ให้ลงนั่งกับพื้นผิวส่วนหัวมังกรที่กลับสู่สภาพความเป็นหินและเย็นตัวลงจน ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังน้องทิพย์ ก่อนผนึกพลังกาฬปราณขึ้นแล้วกดประทับลงที่ส่วนหัวมังกร

“….บรึม…. ”

เสียง ปะทะของกาฬปราณที่รุนแรงของผมกับส่วนผิวของหัวมังกรดังสนั่น กระแสลมปั่นป่วกรรโชกจนร่างน้องทิพย์ที่อยุ่ด้านหลังแทบปลิวออกไปจากบริเวณ ทำให้ผมต้องรีบโถมร่างไปดึงกลับเข้ามา แต่เมื่อผมกลับมายังบริเวณที่ผมกระหน่ำพลังลงไป ก็ต้องสะท้อนใจเมื่อพบว่ากาฬปราณไม่สามารถแม้แต่จะก่อให้เกิดรอยขีดข่วนบน พื้นผิว

“…พี่เอ..ทำอะไรน่ะ….”

น้องทิพย์ลุกขึ้นแล้วมากอดแขนผมไว้ทางด้เบื้องหลังเมือ่ได้ยินเสียงผมถอนใจยาว

“พี่ ตั้งใจจะทำลายผลึกมังกรเพื่อปลดปล่อยทุกชีวิตไป แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เราคงต้องเวียนว่ายเกิดใหม่แล้วถูกทำลายในที่นี้ตลอดไป…พี่ขอโทษทิพย์นะ ที่ไม่สามารถปกป้องทิพย์ได้ ”

น้องทิพย์เบียดร่างมาแนบแขนผมจนผมสัมผัสได้ถึงทรวงอกคู่น้อยที่แนบบแน่นกับร่างผม

“ตั้งแต่ ทิพย์ถูกจับตัวมาจากโรงแรมที่พวกคนเลวกลุ่มนั้นพยายามข่มขืนทิพย์ ทิพย์ก๋ไม่ได้หวังจะมีชีวิตต่อไปแล้วล่ะพี่เอ…การที่ทิพย์ได้พบคนที่ทิพย์ ฝันถึงมาตลอดและรับรู้ความเป็นจริงระหว่างพี่เอกับทิพย์ ทิพย์ก็พอใจและดีใจที่จะได้อยู่กับพี่เอตลอดไป ถึงจะเป็นสถานที่แบบนี้ก็ตาม…”
ผมพลิกร่างน้อยมาตรงหน้า และกอดไว้แน่นก่อนกระซิบข้างหูเด็กหญิง

“ทิพย์จงรู้ไว้ว่า พี่รักทิพย์และจะไม่มีวันพรากจากทิพย์ไปอีกแล้ว…. ”

ใบหน้าเปล่งปลั่งของน้องทิพย์ซบกับอกผมและกอดตอบแน่น ก่อนส่งเสียงกระซิบอย่างอายๆ

“ก่อนที่เราจะตาย พี่เอจะมอบความทรงจำในชีวิตให้ทิพย์ร่วมรับรู้ได้ไหม”

ผมทรุดร่างลงนั่งและดันร่างเปลือยเปล่าของน้องทิพย์ให้นอนตะแคงกับพื้นก่อนลงนอนเคียงข้างและโอบร่างงามไว้ในอ้อมแขน

“…ถ้าทิพย์พร้อม…พี่ก็…”

น้อง ทิพย์พยักหน้ารับและโน้มแขนมาดึงคอผมจูบก่อนที่ผมจะพูดจบ ผมผนึกริมฝีปากรับความหอมหวานในปากน้องทิพย์อย่างอ่อนโยน เรือนร่างนุ่มเนียนถูกผมทาบทับสนิทแน่น อารมณ์รักที่ถูกขัดจังหวะจากากรฟื้นคืนของลึกมังกรเริ่มค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ลิ้นเรียวเล็กของน้องทิพย์เริ่มเปิดทางยอมรับการเกี่ยวพันของลิ้นผม ที่แทรกเข้าสู่ความหอมหวานภายใน สองมือน้องทิพย์โอบลูบไล้แผ่นหลังผมอย่างลืมตัว ขณะที่มือผมเลื่อนต่ำลงไปหาสิ่งหวงแหนของน้องทิพย์เบื้องล่าง

สองแคม เปล่งปลั่งที่ปราศจากเส้นขนปกคลุมกระทบกับฝ่ามือผมที่ลูบไล้แผ่วเบา แต่กลับทำให้ร่างน้องทิพย์สะดุ้งกับการสัมผัส เด็กหญิงจิกมือลงกับแผ่นหลังผมในทันทีที่ปลายนิ้วผมเลื่อนไล้ไปตามรอยผ่า นุ่มนวลที่กำลังมีน้ำหล่อลื่นเอ่อซึมออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิตเด็กหญิง สะโพกกลมกลึงบิดส่ายราวกับจะหลบหลีกการรุกล้ำของนิ้วแต่กลับแอ่นตัวเข้าหา เมื่อปลายนิ้วผมแทรกผ่านสองแคมลงไปอย่างแผ่วเบา

“อูวห์…พี่เอ…ทิพย์…ทิพย์ มัน…”

เด็ก หญิงผละจากการจูบที่เพิ่มความเร่าร้อนชั่วขณะ และครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา ทำให้ผมถอยร่างลงมาสู่เนินอกเนียนที่เป็นที่ตั้งของสองเต้าคู่น้อย ซึ่งส่วนปลายกำลังแข็งตัวด้วยอารมรณ์รักที่ถูกกระตุ้น แม้รอบข้างจะมืดสนิท แต่สายตาผมยังคงสามารถรับภาพงดงามของทรวงอกแรกรุ่นน้องทิพย์ที่สั่น ไหวจากร่างสั่นระริกที่ถูกปลุกเร้าต่อเนื่อง ความงามของสองเต้าเบื้องหน้าทำให้ผมต้องฟุบหน้าลงกับอกเต่งตึงและเม้มริม ฝีปากให้เม็ดยอดงามเข้ามาดุนดันกับลิ้นผม

“อื้อ..อูวห์…พี่เอจ๋า…..ยะ อย่างดูด..ทิพย์ สะ..เสียวไปหมดแล้ว…อุ๊ย…”

ขณะ ที่น้องทิพย์น้องครวญครางจากความเสียวที่ทรวงอก นิ้วผมที่รับรู้ความเปียกชื้นที่หลั่งออกจากสองแคมก็แทรกตัวผ่านเข้าสู่ความ คับแคบภายในช้าๆ จนน้องทิพย์ต้องร้องออกมาอย่างลืมตัว สะโพกกลมบิดส่ายไปมาเมื่อผมเริ่มใช้นิ้วโป้งกดคลึงเม็ดเสียวน้อยๆ ที่แข็งตัวรับการสัมผัส
ผมค่อยๆ ละใบหน้าจากทรวงอกอิ่ม ถอยลงมาไล่มาตามลานหน้าท้องเนียน พร้อมกับละมือจากการรุกล้ำเข้าสู่ร่องหลืบขึ้นมาเกาะกุมความหยุ่นตึงของหน้า อกคู่น้อยไว้ ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปยังเนินรักเบื้องล่าง กลิ่นหอมจรุงของน้ำหล่อลื่นเด็กหญิงวัย 12 กรุ่นขึ้นมากระทบจมูกขณะผมมาถึงเนินนูนอวบอิ่มสมวัย สองแคมเปียกชุ่มไปดวยน้ำเสียวที่หลั่งออกมาไม่หยุด จนผมอดไม่ได้ที่จะต้องไล้ลิ้นเข้าระหว่างกลางสองแคมบางใสเพื่อรับรสหอมหวาน ของน้องทิพย์

“อ๊สย…พะ..พะ พี่เอ…ยะ..อย่า…มัน…สกปรก….”

เสียง คราญครางของน้องทิพย์ฟังดูคุ้นหูผมอย่างประหลาด ทำให้ความทรงจำผมหวนกลับไปถึงครั้งแรกที่ผมใช้ลิ้นกับเนินรักน้องทิพย์วัย 19 ปี เป็นครั้งแรกไม่ได้ เพราะในครั้งนั้นน้องทิพย์ก็พยายามขัดขืนไม่ให้ผมใช้ลิ้นกับอวัยวะที่น้อง ทิพย์เชื่อว่ามันสกปรกจากที่ผ่านการร่วมรักกับผู้ชายมานับไม่ถ้วน จนทำให้น้องทิพย์ไม่อยากให้ผมใช้ลิ้นสัมผัส แต่เมื่อผมยังคงยืนกรานที่จะมอบความสุขให้น้องทิพย์ด้วยลิ้น นั่นกลับเป็นการทำให้น้องทิพย์แน่ใจในความรักที่ผมมีให้และทำลายความรู้สึก รังเกียจตนเองของน้องทิพย์ไปอย่างสิ้นเชิง…

ลิ้นผมแทรกผ่านลงไปสู่ร่องรักบริสุทธิ์ของเด็กหญิง และขบเน้นสองแคมเบาๆ เพื่อปลุกความต้องการของน้องทิพย์ให้โลดแล่นพร้อมรับแก่นกายของผม ใบหน้าเด็กหญิงบิดส่ายไปมา สองมือขยุ้มเส้นผมของผมแน่นราวกับต้องการจะดึงให้ผมหยุดการรุกล้ำ แต่แล้วสองมือนั่นเองกลับกดศีรษะผมให้ฝังแน่นกับเนินรักมากขึ้น สะโพกน้อยๆ เริ่มสั่นระริกขณะที่ร่างเด็กหญิงเกร็งตัวสะท้านเฮือก

“พี่เอจ๋า…พี่เอจ๋า….ทิพย์…มัน…มัน ..จะ…แล้ว…อ๊าวส์….”

น้อง ทิพย์แอ่นสะโพกขึ้นสูงอัดปากผมให้สนิทกับเนินนูน ร่างเกร็งที่หยุดค้างชั่วขณะก่อนทิ้งลงกับพื้นบอกให้รู้ว่าเด็กหญิงวัย 12 ได้พบจุดสุดยอดเป็นครั้งแรกในชีวิตแล้ว.. ผมละปากออกจากเนินรักและเลื่อนตัวขึ้นทับร่างงามบอบบางเบาๆ ก่อนจ่อแก่นกายที่แข็งตัวเต็มที่เข้ากับสองแคมปากช่องทางเข้าสู่ความสาวของ น้องทิพย์.แล้วกดลงเบาๆ กับความฉ่ำชื้นที่ไหลนองอยู่ น้องทิพย์สะดุ้งเบิกตากว้างเมื่อรับรู้ว่าสองแคมกำลังถูกรุกรานจากสิ่งใหญ่ และแข็งกว่าลิ้นหลายเท่าตัว

“ทิพย์…พี่ขอนะ”

ผมก้อมลง กระซิบข้างหูน้องทิพย์แผ่วเบา ขณะที่เด็กหญิงพยักหน้ารับอายๆ และหลับตาปี๋เมื่อผมเริ่มฝังแก่นเนื้อเข้าสู่ความคับแน่นของร่องรักที่ยัง ไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้าไปมาก่อน แคมอวบอิ่มที่แม้จะเริ่มมีพัฒนาการไปสู่วัยสาวแต่ยังคงมีขนาดที่ดูจะเล็ก เกินไปสำหรับรองรับการบุกรุกจากแท่งเนื้อของผู้ชายที่เติบโตเต็มที่เช่นทีผม ร่างน้อยบอบบางเกร็งแน่นเมื่อปากทางเข้าเริ่มแยกออกจากแรงดันจนเปลี่ยนสภาพ จากแคมยาวเรียวมาเป็นวงกลมที่พยายามขยายตัวรับแท่งเนื้ออย่างเต็มกำลัง แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผลเพราะส่วนปลายของแก่นกายผมเริ่มรับรู้ถึงการปริแยกของ ร่องรักเบื้องล่าง

“พะ พะ พี่เอ…ทิพย์…เจ็บ…เจ็บจัง…”

น้องทิพย์ร้องออกมาเบาๆ เมื่อความเจ็บปวดจากการฉีกขาดของร่องรักกำลังเกิดขึ้น

“ทิพย์ทนไหวไหม…ถ้าไม่ไหวพี่หยุดก่อนก็ได้นะ…”

ผม กระซิบที่ข้างหูน้องทิพย์อย่างอ่นโยน แต่แท่งเนื้อกลับเริ่มกระเด้าขึ้นลงที่ปากทสองแคมสั้นๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย น้องทิพย์ส่ายหน้าและกระซิบตอบทั้งๆ ที่ใบหน้ายังคงแสดงออกถึงความเจ็บที่ได้รับ

“เวลาเราเหลือน้อยแล้วพี่เอ…ทิพย์ทนได้ พี่เอเข้ามาเถอะ..เย้ดทิพย์ตามที่พี่เอต้องการเลย”

“พี่จะค่อยๆ ไปข้างหน้านะ…ทิพย์ทนอีกนิด..”

ผม เริ่มเพิ่มระยะการกระเด้าสั้นๆ ที่ปากแคมน้อยให้มากขึ้น จนดูเหมือนว่าร่องรักเยาว์วัยกำลังขยายตัวสเองตามธรรมชาติด้วยน้ำหล่อลื่น ที่เพิ่มปริมาณออกมาอีกครั้ง ใบหน้าน้องทิพย์เริ่มคลายตัวจากความเจ็บและกลับบิดส่ายไปมาพร้อมกับลูบไล้ แผ่นหลังผมด้วยอาการที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการกดให้สะโพกผมอัดแท่งเนื้อลงไป ให้มากขึ้น ทำให้ผมตัดสินใจเพิ่มระยะทางการกระเด้าและกดแก่นกายลงไปหนักๆ จนหัวบานผลุบพรวดเข้าไปในร่องรักแน่นหนึบของน้องทิพย์ทั้งหัว

“อ๊าวส์….พี่เอ…ของพี่เข้าไปแล้ว…”

น้องทิพย์ครางออกมาเบาๆ ขณะที่ผมบิดสะโพกเป็นวงเพื่อเพิ่มแรงเสียดสีของลำลึงค์กับเม็ดเสียวของเด็กหญิง

“ทิพย์เจ็บมากไหม ”
“เจ็บจังพี่เอ…แต่พี่เอไม่ต้องห่วง…ทิพย์ทนได้ พี่เอมาเถอะ..”

เด็ก หญิงกระซิบตอบผมด้วยเสียงกระเส่า แต่ก่อนที่ผมจะตัดสินใจอัดแก่นเนื้อทะลวงเบื่อพรหมจรรย์ของเด็กหญิงวัย 12 ผมก็ต้องชะงักกึกเมื่อเสียงทางจิตที่ผมคุ้นเคยที่สุดดังขึ้นอย่างชัดเจน

‘พี่เอ…พี่เอของทิพย์…เย็ดทิพย์เดี๋ยวนี้เลย….ทิพย์จะมอบความสาวให้พี่เอ…’

กระแส จิตที่กระทบจิตผม ทำให้ผมงุนงง เพราะมันดังขึ้นขณะที่น้องทิพย์กำลังส่งเสียงร้องคราญครางด้วยความเสียวอยู่ จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่น้องทิพย์จะสามารถสส่งเสียงสนทนาทางจิตไปพร้อมๆ กันได้ ทำให้ผมรีบส่งกระแสจิตตอบทันที

‘ทิพย์…ทิพย์ใช้จิตสื่อกับพี่ได้หรือ…’

กระแสจิตที่ตอบกลับมาเป็นเสียงอุทานด้วยความลิงโลดสุดขีด…

‘พี่เอ…พี่เอได้ยินทิพย์หรือ….’
“พี่เอจ๋า…ทิพย์ ทิพย์ เสียว…มันเสียวเหลือเกิน.. ”

สำเนียง จากจิตน้องทิพย์ดังขึ้นพร้อมเสียงน้องทิพย์ที่บอกถึงความเสียวของตนเอง ทำให้ผมสับสนยิ่งขึ้น ผมกระซิบข้างหูน้องทิพย์เบาๆ พร้อมกับส่งกระแสจิตที่มีเนื้อหาต่างกัน

“ทิพย์ …พี่ขอทิพย์นะ…”
‘ได้ยินสิ..ทำไมทิพย์ส่งจิตมาได้ทั้งที่กำลังพูดอยู่…พี่งงไปหมดแล้ว’

กระแสจิตน้องทิพย์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว…

‘พี่ เอ นี่ทิพย์เอง…ทิพย์ที่อายุ 19 ทิพย์ที่เคยเป็นเมียพี่เอที่คลองน้อย ทิพย์ที่ถูกกักอยู่ในร่างนี้มาตั้งแต่ทิพย์จำความได้ …แต่ทิพย์ไม่สามารถควบคุมร่างนี้ได้ …ทิพย์ดีใจที่สุดที่พูดกับพี่เอได้เสียที ทั้งที่เห็นและรับรู้ว่าพี่เอกำลังมาช่วยทิพย์…ทิพย์รักพี่เอนะ…ตอนนี้ ทิพย์เสียว…เสียวเหลือเกิน …พี่เอเย็ดทิพย์เดี๋ยวนี้เลย…’

กระแส จิตน้องทิพย์ที่ตอบมาอย่างกระท่อนกระแท่นด้วยความเสียว ทำให้ผมรับรู้ในทันทีว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับร่างกายและจิตของน้องทิพย์ เพราะนั่นเป็นอาการเดียวกันที่เกิดกับผมเมื่อผม “ตื่น” ขึ้นมาจากอนาคตกลับสู่อดีต จิตของชายหนุ่มวัย 30 ปีของผมที่แทรกตัวอยู่ในร่างของนายไกรวิทย์วัย 15 ที่สามารถรับรู้การสัมผัสและความรู้สึกทั้งหมด แต่ไม่สามารถบังคับควบคุมร่างกายในอดีตได้ จนกระทั่งผมร่วมรักกับน้องรินซึ่งทำให้จิตทั้งสองผนึกเข้าหากันเป็นหนึ่ง เดียว และสภาพเช่นนี้กำลังบังเกิดกับน้องทิพย์เช่นกัน

ผมสูดลมหายใจ ลึกด้วยความปิติที่น้องทิพย์กำลังจะกลับเข้ามสู่โลกของผมโดยสมบูรณ์ ท่อนเนื้อที่แข็งตัวเต็มที่ถูกดึงออกจากแคมรักน้องทิพย์วัย 12 จนส่วนหัวหลุดออกจากการบีบรัด ทำให้เด็กหญิงแอ่นสะโพกตามมาอย่างลืมตัว ผมกดอัดแท่งเนื้ออย่างแรงทะลวงสองแคมฉ่ำเยิ้มทะลุผ่านเยื่อพรหมจรรย์ที่บอบ บางลงไปในครั้งเดียว จนรู้สึกได้ถึงการฉีกขาดและกล้ามเนื้อสั่นระริกในร่องหลืบที่ถูกแก่นกายของ ชายผ่านเข้าไปจนสุดเป็นครั้งแรก….

“โอ๊ย…พี่เอ…หีทิพย์ฉีกแล้ว…. ”
‘พี่เอ…จะ..จะเจ็บ…จัง แต่ ทิพย์..ทิพย์..มีความสุขเหลือเกิน…’

เสียง จากปากน้อยๆของน้องทิพย์วัย 12 ดังประสานกับเสียงทางจิตของทิพย์วารีวัย 19 ที่ฝังจิตอยู่ในร่างน้องทิพย์ ผมกดแก่นเนื้อไว้ในร่องรักที่บีบรัดมันไว้แน่นด้วยความเสียวจนแทบจะระเบิด น้ำรักออกมา

“หีทิพย์แน่นจริงๆ ยอดเยี่ยมที่สุดเลย…”
‘หีทิพย์แน่นจริงๆ ยอดเยี่ยมที่สุด’

ผมส่งเสียงและกระแสจิตพร้อมกัน ก่อนเริ่มขยับลำลึงค์ยาวเหยียดขึ้นลงช้าๆ
“พี่เอ…พี่เอ…ชะ ชะ ช้าหน่อย…ทิพย์เจ็บ….”
‘พี่เอ…เร่งอีก…เย็ดทิพย์…เย็ดทิพย์เลย…’

น้อง ทิพย์ทั้งสองในร่งเดียวส่งเสียงครวญครางที่ขัดแย้งกันเอง ทำให้ผมตัดสินใจประนีประณอมด้วยการยกร่างขึ้นแล้วเคล้นคลึงทรวงอกเต่งของ เด็กหญิงด้วยสองมือ จนน้องทิพย์แอ่นเต้านมคู่น้อยให้ผมบี้คลึงอย่างเต็มใจ ขณะที่ผมเพิ่มระยะกระเด้ามากขึ้นทุกขณะพร้อมความเร็วในการกระเด้าที่ถี่ขึ้น
“อื๋ย…อะ อ๊าวส์…พะ พะ พี่เอ…สะ เสียว…เสียว….”
‘สะ เสียวเหลือเกิน พะ..พะ พี่เอ…’

“อ๊าย…พะ พะ พี่เอ…ทิพย์…แรง แรงๆ ทิพย์…ทิพย์ จะ…….”
‘อ๊าย…พะ พะ พี่เอ…ทิพย์…แรง แรงๆ ทิพย์…ทิพย์ จะ……. ’
“ปะ…ปะ ไปแล้ว….อ๊าวส์…..”
‘ปะ…ปะ ไปแล้ว….อ๊าวส์…..’

ร่างบอบ บางของเด็กหญิงกระตุกเฮือกเมื่อผมกระเด้าเนินรักถี่ยิบ จนส่งน้องทิพย์ไปถึงจุดสุดยอด … พร้อมกับความเสียวที่กรูมาอยู่ที่ปลายลำลึงค์ ผมกัดฟันแน่นและระเบิดน้ำรักที่อัดแน่นเข้าสู่มดลูกน้องทิพย์ทั้งหมด พร้อมฟุบร่างลงกอดร่างงามที่เป็นเมียผมอย่างสมบูรณ์ไว้แนบแน่น ขณะที่ปราณในร่างเคลื่อนเข้าสู่ภายในร่างกายน้องทิพย์

‘พี่เอ… ทิพย์..ทิพย์คุมร่างกายนี้ได้แล้ว…..’

กระแส จิตน้องทิพย์ส่งเสียงให้ผมรู้ด้วยความดีใจ ขณะที่ปราณในร่างผมเคลื่อนเข้าไปวนเวียนในร่างน้องทิพย์ เข้ากระตุ้นปราณธรรมชาติของเด็กหญิงให้ระเบิดตัวออกและโคจรไปตามแนวทางปราณ คชสีห์ และในขณะเดียวกันจิตผมก็เข้าประสานกับจิตน้องทิพย์เป็นหนึ่งเดียวถ่ายทอด ความทรงจำทั้งหมดให้แก่กัน จนจิตทั้งสองเข้าสู่ภาวะภวังค์ระดับสูงไม่รับรู้สภาพรอบข้าง มีเพียงปราณที่ยังวนเวียนถ่ายเทในร่างกายทั้งสองที่ยังคงเคลื่อนที่ไม่หยุด ยั้งไปตามวงรอบแห่งจักรทั้งสี่ในร่างกาย จนในที่สุดจิตและปราณก็ปรับตัวเข้าสู่สภาวะสมดุลย์ ก่อนแยกออกจากกันกลับคืนสู่ร่างอย่างช้าๆ

ผมลืมตาขึ้นสบตาน้องทิพย์ ที่กำลังจับจ้องใบหน้าผมด้วยความรักเต็มหัวใจ รอยยิ้มสดใสของน้องทิพย์และการสบตาแน่วนิ่งบอกให้ผมรู้ว่าการถ่ายทอดปราณและ ความรงจำทั้งหมดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ดวงตาของน้องทิพย์ที่บัดนี้เป็นผู้ทรงปราณระดับสูงสามารถมองเห็นในความมืด เช่นเดียวกับผม และทิพย์วารีที่ผมรักได้กลับมาอยู่ในอ้อมแขนผมแล้ว

‘ทิพย์รอพี่เอมาตลอด 12 ปีนี่เลยรู้ไหม คิดถึงพี่เอที่สุด…….’

น้องทิพย์ส่งจิตบอกผมขณะที่สองมือยังคงลูบไล้ร่างกายผมไปมาทุกสัดส่วน

‘พี่ก็ดีใจเหลือเกินที่ได้ทิพย์กลับมา…แต่เสียดายที่เราคงไม่มีทางรอดไปจากที่นี่ได้..’

ผมตอบจิต พร้อมก้มลงจูบริมฝีปากหอมหวานและซึมรับความสดชื่นทั้งหมดเอาไว้

‘ทิพย์ รู้ทุกอย่างจากการถ่ายทอดความทรงจำของพี่เอ… แต่ทิพย์ไม่เสียใจเลยที่ทิพย์จะต้องตายที่นี่พร้อมพี่เอ ทิพย์เพียงแต่เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตกับพี่เอร่วมกับพี่ริน พี่กิฟท์ พี่เหมียว เท่านั้น ’

น้องทิพย์ตอบกลับมาด้วยกระแสจิต มั่นคงปราศจากความหวาดกลัวใดๆ ทำให้ผมอดชื่นชมจิตใจเข้มแข็งของเมียรักคนนี้ไม่ได้ ผมถอนใจแล้วส่งกระแสจิตบอกน้องทิพย์

‘ไหนๆ เราก็จะต้องตายที่นี่ เรามาสำรวจดูรอบๆ ก่อนดีไหม…’

น้อง ทิพย์พยักหน้าโดยไม่ตอบเป็นกระแสจิต ขณะที่ผมค่อยๆ ถอนแก่นกายที่ยังคงแข็งตัวเต็มที่อกจากร่องรักเด็กหญิง จนน้องทิพย์สูดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บที่เกิดขึ้นจากการฉีกขาดของสองแคม

‘ทิพย์ดีใจที่สุดที่ได้มอบความสาวให้พี่เอ…แต่มันแสบจริงๆ นะ…เอ๊ะ..’

กระแส จิตที่น้องทิพย์บ่นออกมาขณะก้มหน้าไปดูลำลึงค์ผมที่ถอนยวงออกไป ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้…แต่เสียงอุทานที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องก้มลงมองตามและ ต้องอุทานออกมาเช่นกัน

ประกายแสงสว่างเขียวเรืองรองหลั่งไหลออกมาตาม น้ำรักผสมเลือดพรหมจรรย์จากร่องรักน้องทิพย์ และเริ่มแผ่เป็นวงกว้างไปบนศีษะมังกรที่มีสภาพเป็นหิน แต่ก่อนที่ผมจะทำความเข้าใจใดๆ พื้นของศีษะทังกรที่ผมยืนอยู่ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนทำให้ผมต้องโคจรปราณทั่วร่างก่อนโอบร่างน้องทิพย์ให้ทะยานออกจากตำแหน่ง เดิมขึ้นไปในอากาศ…

“………………ก๊าซซซซซซซซซซซซ…………………..”

เสียง ร้องดังสนั่นสะท้อนไปทั่วบริเวณ ผมจับจ้องภาพเบื้องล่างอย่างตกตะลึงเมื่อพบว่าร่างเทพทังกรที่กลายเป็นหิน กลับฟื้นคืนสภาพมังกรที่มีชีวิตอีกครั้ง และกำลังบิดร่างไปมาราวกับได้รับความเจ็บปวดถึงที่สุด สองปีกกระพือเร่งร้อนจนเกิดกระแสลมปั่นป่วนไปทุกตารางนิ้ว สองเท้าหน้าตะกุยกองโครงกระดูกเบื้องล่างจนกระจายไปทั่วบริเวณ ดวงตามังกรหันมาทางผมและแผดเสียงร้องด้วยความโกรธแค้นก่อนอ้าปากกว้างและพ่น เพลิงมังกรออกมาเป็นลูกไฟดวงใหญ่มหึมา…

ผมสะท้านใจเฮือกเมื่อความ ร้อนมหาศาลจากเพลิงมังกรพุ่งเข้ามาใกล้ตัว ปราณทั่วร่างรวมตัวที่เท้าในวิชาคชสีห์เหินบินดีดตัวหลบออกจากรัศมีดวงไฟ อย่างเร่งร้อน พร้อมกับร่างน้องทิพย์ที่กำลังตามมาอย่างรวดเร็วด้วยวิชาปราณเดียวกัน ทำให้ผมซึ่งแม้จะตระหนกกับการโจมตีจากเพลิงมังกรก็ยังอดดีใจไม่ได้ที่น้อง ทิพย์รับถ่ายทอดปราณปราณและแนวทางการใช้ทุกรูปแบบจากผมไปได้

‘พี่เอ…เกิดอะไรขึ้น’

จิตน้องทิพย์ดังขึ้นด้วยเสียวแสดงความตื่นตระหนก

‘พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าเพลิงมังกรยังคงกระจายแบบนี้ อีกไม่ถึงห้านาทีทุกที่จะต้องครอบคลุมไปด้วยไฟแน่ๆ..’

ร่างบอบบางของทิพย์ร่อนพุ่งเข้าหาผมและกอดไว้แน่น..
‘ทิพย์จะตายพร้อมกันกับพี่เอ…เท่านี้ทิพย์ก็ดีใจแล้ว’

ผม กอดร่างน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่นขณะเฝ้ามองเพลิงมังกรที่เริ่มลุกลามจากพื้นขึ้น สูงทุกขณะ แต่ทันใดนั้นเสียงร้องของมังกรก็เงียบไป เพลิงมังกรที่พ่นออกจากปากต่อเนื่องกลับหยุดลง ผมหันไปมองเทพมังกรที่กำลังเปลี่ยนกลับไปสู่สภาพความเป็นหินแข็งอย่างงุนงง ก่อนพยักหน้ากับน้องทิพย์และดีดร่างไปยังตำแหน่งศีรษะมังกร

‘..พี่เอ…นั่นอะไรน่ะ… ’

น้อง ทิพย์อุทานออกมาเมื่อกลับมาถึงศีษะมังกรและพบว่าพื้นที่ซึ่งเคยเป็นสถานที่ ร่วมรักเมื่อครู่ กลับถูกกัดกร่อนอย่างรุนแรงจนทะลวงลึกลงไปในภายในศีรษะมังกรเป็นระยะทาง เกือบสองเมตรทำให้ดูเหมือนหลุมที่สร้างจากหิน และที่ก้นหลุมปรากฏประกายแสงเรืองรองสีฟ้าระยิบระยับลอยนิ่งอยู่ คำบอกเล่าของจานีส ทำให้ผมรู้ในทันทีว่าลูกกลมเบื้อล่างจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากผลึก มังกรที่เป็นต้นกำเนิดของทันฑ์ทรมานทั้งปวงซึ่งดวงวิญญาณในสถานที่ได้รับ อยู่

‘….มันคือผลึกมังกร…’

ผมส่งกระแสจิตให้น้องทิพย์รับ รู้ ก่อนใช้ปราณดึงดูดให้ผลึกมังกรลอยตัวขึ้นสูงจนพ้นปากหลุม น้องทิพย์จับจ้องประกายแสงสีฟ้าระยิบระยับอย่างสนใจก่อนส่งกระแสจิตกับผม

‘แล้ว มันออกมาได้ยังไงล่ะพี่เอ..เมื่อกี้พี่เอก็พยายามทำลายหัวมังกรนี้อย่างเต็ม ที่แล้วแต่ก้ทำไม่ได้ คราวนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมหัวมังกรถึงยุบตัวลงไปแบบนั้น…’

ภาพแสงเรืองสีเขียวเรืองรองที่ไหลออกมาจากร่องรักน้องทิพย์พร้อมน้ำรักและครบเลือดทำให้ผมเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

‘…….. วารีนาคราช….ทิพย์คือธิดานาคราชจริงๆ …และมีแต่วารีนาคราชที่มีพลังเท่าเทียมอุทกมาร อุทกเทพเท่านั้น จึงสามารถทำลายผิวหนังที่แข็งแก่งของเทพมังกรจบชีวิตอมตะของมัน และเปิดช่องทางถึงผลึกมังกรนี้ได้…’

น้องทิพย์ก้อมหน้าลง ใบหน้าปรากฏสีแดงระเรื่อ..โดยไม่ตอบคำของผม ซึ่งผมรู้ดีว่าความทรงจำที่ผมถ่ายทอดให้น้องทิพย์ทำให้เด็กหญิงรับรู้ตำนาน โบราณเหล่านี้เป็นอย่างดี ผมสูดลมหายใจลึกผนึกพลังที่ฝ่ามือทั้งสองเปี่ยมล้น ก่อนบอกน้องทิพย์

‘ถ้า เราทำลายผนึกมังกรนี้ .. ดวงวิญญาณทั้งหมดที่ถูกพลังมังกรกักขังในที่นี้ก็จะเป็นอิสระ และเราก็มีโอกาสที่จะหนีรอดกลับขึ้นไปบนพื้นดินข้างบนได้…ทิพย์ระวัง นะ…’

‘ตกลงพี่เอ…ทิพย์จะช่วย เราทำลายมันพร้อมกันเลยนะ ..หนึ่ง สอง สาม…’

ผม พุ่งพลังกาฬปราณประทับใส่ผลึกมังกรเต็มกำลังพร้อมน้องทิพย์ กระแสพลังสีดำสนิทของกาฬปราณสองสายพุ่งเข้าหาประกายสีฟ้าของผลึกมังกรใน ทันที

…………ตูม……………..เปรี๊ยะ…………….

“ ………เอ๊ะ…..”
“….อะ อะ อะไร…”

เสียงระเบิดดังสั่นขณะที่ผลึกมังกรแตกกระจายออกจากกัน แต่ผมและน้องทิพย์ก็ต้องอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อพบว่ากระแสพลังมหาศาลที่ กระจายออกจากผลึกมังกรกลับแทรกเข้าสู่ร่างผมและน้องทิพย์อย่างรุนแรง จนร่างผมกระเด็นแยกออกจากน้องทิพย์ไปคนละทาง แต่แล้วกลับเกิดแรงดูดกลับเข้ามาหากันอีกครั้งและผนึกร่างผมและน้องทิพย์ เข้าไว้ด้วยกัน ขณะที่พลังปราณในร่างผมก็ดูดซับพลังร้อนระอุจากผลึกมังกรเข้าสู่ร่างไม่หยุด จนราวกับเส้นเลือดทุกเส้นกำลังจะปริแตกออกจากกัน ความเจ็บปวดระดมเข้าใส่ร่างผมจนแทบสิ้นสติ

‘พี่เอ…ทิพย์…มันเจ็บ…ทรมานเหลือเกิน…’

จิตน้องทิพย์ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้ผมต้องกัดฟันข่มความปวดร้าวใน ร่างเพื่อดึงร่างน้อยที่กำลังสั่นระริกเข้ามากอดไว้แน่น แม้ร่างกายผมจะเจ็บปวดจนดูราวกับจะแตกออกทุกขณะ..ผมก็อดตระหนกไม่ได้ที่ร่าง น้องทิพย์แทนที่จะร้อนแผดเผาดังที่ผมกำลังประสบ แต่กลับเป็นความเย็นยะเยือกราวน้ำแข็งแทน

‘ทิพย์…พี่รักทิพย์…ถ้าเราจะตายที่นี่พี่ก็ขอให้ทิพย์อยู่ในอ้อมกอดพี่นะ..’

น้องทิพย์กอดผมไว้แน่น ใบหน้างามแสดงความเจ็บปวดแสนสาหัส ทำให้ผมต้องประทับจูบเพื่อบอกให้รู้น้องทิพย์รู้ว่าผมพร้อมที่จะอยู่เคียง ข้างน้องทิพย์ไปตลอดกาล แต่ทันทีที่ริมฝีปากผมสัมผัสน้องทิพย์ กระแสพลังเย็นยะเยียบจากร่างน้องทิพย์ก็หลั่งไหลพรั่งพรูเข้ามาในร่างผมราว ทำนบแตกทำให้ความร้อนที่กำลังจะแผดเผาร่างกายผมลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันความร้อนในร่างผมก้พลุ่งเข้าไปในร่งน้องทิพย์จนทำให้ร่างที่ กำลังสั่นระริกหยุดนิ่งลงและปรากฏสีเลือดขึ้นบนใบหน้างามที่เคยขาวซีด อาการทีเกิดขึ้นทำให้ความทรงจำผมเมื่อครั้งศึกษาตำราโบราณผุดขึ้นมาทันที

‘..หยิน..หยาง ร่วมศูนย์…’

ผมอุทานออกมาในจิตถึงแนวทางปราณโบราณที่ระบุถึงสมดุลแห่งพลังจักรวาลระหว่าง หยินซึ่งเป็นตัวแทนของความเย็นเยียบมืดมิด กับหยางซึ่งเป็นตัวแทนของความร้อนและแสงสว่าง ซึ่งผู้ทรงปราณตามแนวทางเต๋าโบราณเฝ้าหาทางสมดุลของพลังทั้งสองกระแสเป็น เป้าหมายสูงสุด

‘………ทิพย์…เย็ดกับพี่เดี๋ยวนี้… …’

ผมส่งกระแสจิตร้อนรนไปยังน้องทิพย์ที่กำลังผ่อนคลายร่างกายรับความสมุลย์ของ พลังความร้อนและความเย็นในร่างกาย ทำให้น้องทิพย์สะดุ้งเฮือก..แต่เมื่อผมดันร่างน้องทิพย์ให้นอนหงายลงกับพื้น และเอื้อมมือลงไปกุมเนินรักอวบอิ่มที่ยังคงเปยียกชุ่มจากน้ำรักของผมที่ผ่าน มา น้องทิพย์ก็พยักหน้ารับพร้อมแอ่นสะโพกร่างรับการเคล้นคลึงโดยไม่ขัดขืน และเอื้อมมือมากุมแก่นกายผมไว้ก่อนดึงเข้าหาตัว หัวบานของผมแทรกผ่านสองแคมคับแน่นลงไป พร้อมกับแอ่นสะโพกรับแรงกดลำลึงค์ของผมที่กำลังดันความยาวทั้งหมดลงไปฝังใน ร่องหลืบน้องทิพย์…

พลังความเย็นที่ไหลเข้าร่างผมจากปากน้องทิพย์ เริ่มรวมตัวกับพลังความร้อนในร่างผมและถ่ายทอดกลับสู่ร่างน้องทิพย์ทางร่อง รักที่กำลังบีบรัดลำลึงค์ของผมแนบแน่น การแลกเปลี่ยนพลังร้อนเย็นระหว่างกันหมุนเวียนอย่างรวดเร็วขณะผมเริ่ม กระเด้าแท่งเนื้อกับร่องรักน้องทิพย์แต่เมื่อผมเร่งจังหวะการกระเด้าให้เร็ว ขึ้นตามความเสียวจากการร่วมรัก การแลกเปลี่ยนพลังก็เริ่มช้าลงตามความเร็วที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ

‘พี่เอ…มันอุ่นไปหมดทั้งตัวเลย…สบายที่สุด…อื๋ย…..พี่เอ..ทิพย์จะไปอีกแล้ว…’
‘พี่ก็..ก็..จะมาแล้ว…โอ๊วส์…’

น้ำรักจากลำลึงค์ผมสูบฉีดระลอกที่สองเข้าไปในร่างน้องทิพย์อีกครั้ง ปราณในร่างผมที่ผ่านการผสานความร้อนเย็นเมื่อครู่ไหลเข้าหาปราณในร่างน้อง ทิพย์ที่ผ่านการผสานมาเช่นเดียวกัน ผสานกันจนสมดุลภายใต้จิตที่ผนึกเป็นหนึ่งเดียว ก่อนแยกตัวออกจากกันเพื่อกลับเข้าสู่ร่าง
ผมลืมตามองน้องทิพย์ที่นอน เหยียดยาวด้วยใบหน้าสงบนิ่งราวเทพธิดาด้วยความรัก ก่อนค่อยๆ ถอนแก่นกายออกจากร่องหลืบน้องทิพย์จนพ้นจากแรงบีบรัด ทำให้น้องทิพย์เปิดเปลือกตาขึ้นแล้วยิ้มให้ผมอย่างอ่อนแรง

‘ถ้าพี่เอเย็ดทิพย์แบบนี้ทุกวัน ..สงสัยหีทิพย์หลวมโพรกก่อนอายุ 19 แน่ๆเลย’

กระแสจิตน้องทิพย์ส่งมายังผมอย่างอ่อนระโหยแต่แฝงแววสุขสมจนสัมผัสได้

‘ด้วยปราณของพี่ …หีทิพย์จะยังคงทั้งบีบทั้งดูดแบบนี้ไปตลอดพี่รับรองเลย’
‘พี่เอเนี่ย…’

น้องทิพย์ลุกขึ้นนั่งแล้วค้อนผมอย่างอนๆ ขณะที่ผมลุกขึ้นยืนและฉุดร่างน้องทิพย์ให้ลุกตามขึ้นมา การออกแรงลุกครั้งนี้ทำให้ผมรับรู้ถึงสภาพการเปลี่ยนแปลงของแรงดึงดูดจาก เดิมที่มีน้อยจนแทบไม่ปรากฏมาเป็นแรงโน้มถ่วงตามปกติ ซึ่งผมรู้ในทันทีว่าเป็นผลจากการที่ผมทำลายผลึกมังกรที่ควบคุมแรงดึงดูดใน ห้องนี้ไปเมื่อครู่ …

ผมสูดลมหายใจลึกเพื่อรวบนวมปราณแต่ต้องร้อง อุทานออกมาด้วยความตระหนกและตื้นต้นพร้อมๆ กัน เพราะสภาพปราณในร่างกายของผมแทนที่จะจำกัดอยู่ในขอบเขตของร่างกาย แต่บัดนี้มันกลับแผ่ซ่านออกไปรอบข้างเป็นวงกว้างและสามารถสัมผัสรับพลัง ชีวิตรอบข้างได้อย่างละเอียดชัดเจนแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของกระแสเลือดใน ร่างกายของน้องทิพย์ที่อยู่ข้างๆ

‘พี่เอ..นี่มันพลังอะไรกัน ทำไมมันถึงเหมือนกับจะปะทุออกมาจากทั่วร่างได้แบบนี้..’

น้องทิพย์ส่งจิตถามผมแผ่วเบาขณะที่ทดลองแผ่ปราณเข้าสู่มือเรียวบางแล้วสะบัด ไป อย่างไม่ตั้งใจไปยังผนังตรงข้าม แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับทำให้ผมและน้องทิพย์ต้องเบิกตาโพลงด้วยความแปลกใจเมื่อ พบว่าพลังที่สะบัดออกไปเหมือนไม่ตั้งใจของน้องทิพย์กลับพุ่งวาบไปปะทะกับ ผนังถ้ำจนระเบิดเสียงดังก้องและเศษหินจำนวนมากหล่นพรูลงมาเผยให้เห็นรูโหว่ ขนาดใหญ่บนผนังที่เคยราบเรียบ

‘นี่คงเป็นผลจากการแตกสลายของผลึก มังกรที่เราทำลายไป โดยไม่รู้ว่ามันจะส่งพลังเข้าสู่ร่าง ดีที่ทิพย์กับพี่รับพลังคนละรูปแบบทำให้เราสามารถเย็ดกันเพื่อถ่ายเทพลัง ร้อนเย็นที่อกมาได้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้พี่คงถูกความร้อนเผาร่างเป็นผงและน้องทิพย์ก็คงกลายเป็น น้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายไปแล้ว’

น้องทิพย์หน้าแดงฉานเมื่อได้ยินกระสจิตที่ผมถ่ายไป มือน้อยกุมแขนผมแน่นก่อนส่งจิตกลับมาอย่างอ่อนโยน

‘ถ้าพี่เอต้องการจะจะถ่ายปราณแบบนี้เมื่อไหร่ ทิพย์พร้อมเสมอนะ…’

ผมยิ้มให้เมียรักที่กลับกลายจากเด็กหญิงวัย 12 ผู้ปราศจากปราณใดๆ มาเป็นผู้ทรงปราณระดับสูงที่น้อยคนจะต้านทานได้

‘พี่เอ…ตอนนี้พลังมังกรที่ปิดกั้นทางกลับขึ้นข้างบนไม่มีอีกแล้วใช่ไหม..’

น้องทิพย์ส่งจิตถามผมอย่างไม่แน่ใจ ทำให้ผมตื่นตัวในทันทีกับหนทางที่จะรอดไปจากจุดอับแห่งนี้…ผมผนึกปราณลง ที่เท้าทั้งสองเพื่อใช้วิชาคชสีห์เหินบิน และก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าปลายเท้าผมกลับมีม่านหมอกเรืองๆ ปรากฏรอบเท้าขณะที่ร่างลอยตัวขึ้นช้าๆ..โดยไม่ต้องโคจรปราณเหมือนดังแต่ก่อน เป็นสัญญาณของปราณที่ก้าวเข้าสู่ระดับสูงสุดทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นเปล่ง เสียงตะโกนก้องด้วยความยินดี และกุมมือน้องทิพย์ที่เริ่มปรากฏม่านหมอกเรืองๆ ที่เท้าเช่นกัน พุ่งวาบเข้าไปหาปล่องที่จะนำผมและน้องทิพย์กลับไปสู่โลกเบื้องบน

Related

Prev
Next

Comments for chapter "The Zodiac บทที่ 4.2 วารีนาคราช"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

© 2025 Madara Inc. All rights reserved