The Paradox 1.3 รสของความแค้น
The Paradox 1.3 รสของความแค้น
พุทธศักราช 2520
ไกรวิทย์รู้สึกตัวขึ้นท่ามกลางความมืดมิด สัมผัสรอบข้างเย็นยะเยือก รอบกายถูกห่อหุ้มไว้ด้วยวัตถุยืดหยุ่นหนาหนัก ความเจ็บปวดที่ศีรษะกลับปะทุขึ้นมาจนร่างกายสะดุ้งสุดตัว สองแขนพยายามไขว่คล้าหาที่ยึดเหนี่ยวร่างกายขึ้นนั่ง ทันใดนั้นเด็กหนุ่มได้ยินเสียงร้องลั่นของผู้ชายที่แสดงถึงความตกใจสุดขีด พร้อมกับเสียงห้ามปรามและเสียงอุทานเซ็งแซ่อยู่โดยรอบ ก่อนที่ไกรวิทย์จะรับรู้สิ่งอื่น เบื้องหน้าก็ปรากฏรอยแยกของแสงสว่างทำลายความมืดที่ครอบคลุมร่าง ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยสองสามใบหน้าปรากฏอยู่ในสายตาที่ลางเลือน
“ เร็ว รีบตามอาจารย์หมอมาเร็ว คนนี้ยังไม่ตาย ”
“ เป็นไปได้ยังไง หัวใจไม่ทำงานมาวันนึงแล้วนะ ”
“ อย่าเพิ่งสงสัยรีบเอาออกมาเร็วๆ เข้า ”
เสียงรอบข้างดังขึ้นจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ความเจ็บปวดที่ระดมโจมตีสมองทำให้ไกรวิทย์ไม่สมาารถจับความหมายของคำพูด ได้ มโนภาพปรากฏเพียงร่างของเด็กหญิงผู้เป็นที่รัก..ริมฝีปากแห้งผากของเด็ก หนุ่มเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา ก่อนที่สติรับรู้จะจางหายไปอีกครั้ง…
“น้องริน ”
———————————
“ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว เป็นไงบ้างลูก ”
เสียงที่แสนคุ้นเคย ดังขึ้นพร้อมกับดวงตาของไกรวิทย์ค่อยๆ เปิดกว้าง ภาพของอรอุมาที่นั่งอยู่ขอบเตียงกุมมือของชายหนุ่มไว้แน่น พร้อมดวงตาที่เป็นประกายด้วยน้ำตา เป็นภาพแรกที่ปรากฏขึ้นแก่สายตาของไกรวิทย์ มือนุ่มนวลเอื้อมมาลูบศีรษะอย่างห่วงใย ทำให้ไกรวิทย์รู้สึกได้ถึงผ้าพันแผลที่ปกคลุมศรีษะเอาไว้แน่นหนา สายตาเด็กหนุ่มค่อยๆ ปรับตัวรับภาพรอบข้างทีละน้อย ภาพของมารดาที่ห่วงใยค่อยชัดขึ้น พร้อมกับภาพของพ่อเลี้ยงไกรสร ที่ยืนอยู่ด้านหลัง โดยมีร่างของ จ่าสิบตำรวจตรีแม้นวงศ์ และชายชราที่เด็กหนุ่มจำได้ได้ทันทีว่าคือครูคำแปงผู้ถ่ายทอดวิชามวยคชสีห์ ให้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ก่อนที่เด็กหนุ่มจะสามารถเอ่ยคำพูดใดๆ ร่างในชุดขาวจำนวนมากก็กรูกันเข้ามาจากประตู แล้วเริ่มตรวจสอบวัดค่าต่างๆ ของเครื่องมือแพทย์ที่รายล้อมอยู่รอบเตียง
“คุณพ่อ คุณแม่ ผมอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น น้องรินอยู่ไหน”
ไกรวิทย์ส่งเสียงถามออกมาแผ่วเบา ไกรสรรีบก้าวมาประชิดเตียงผู้ป่วย จับมือบุตรชายคนเดียวของตระกูลคชสีห์ไว้แน่น
“ เออยู่ที่โรงพยาบาล อย่าเพิ่งถามอะไรนะลูก ตอนนี้เอปลอดภัยแล้ว พักรักษาตัวให้แข็งแรงเสียก่อน ”
ไกรวิทย์สั่นหน้า พยายามยันร่างขึ้นนั่ง อรอุมาหันไปสบตาแพทย์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง และเข้าช่วยประคองเมื่อได้รับสัญญานพยักหน้าจากผู้เป็นเจ้าของไข้
“เท่าที่ดูจากอาการ ผมคิดว่าคุณไกรวิทย์ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ แต่คงต้องพักผ่อนอีกสัก 3-4 วันก่อนที่จะกลับบ้านได้ ”
เสียงนายแพทย์ที่ยืนดูชาร์ทผู้ป่วยเอ่ยขึ้นกับไกรสร อรอุมายิ้มให้บุตรชายอย่างโล่งใจ ลูบศีรษะที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าพันแผลอย่างห่วงใย..ขณะที่พยาบาลแทงเข็มเข้า เส้นเลือดที่แขนของเด็กหนุ่มแล้วเดินยาเข้าสู่กระแสเลือด นายแพทย์ยิ้มให้ไกรวิทย์ แล้วพยักหน้าให้กับพยาบาลก่อนพากันกลับออกไปจากห้อง
“เอพักผ่อนให้มากๆ นะ แม่เป็นห่วงเอเหลือเกิน ”
ไกรวิทย์เอื้อมมือไปกุมมือมารดาไว้แน่น พยายามส่งเสียงถาม
“เกิดอะไรขึ้นกับผมครับแม่ แล้วน้องพิมอยู่ที่ไหน ผมจำได้ว่าอยู่กับน้องพิม แล้วก็มี… ”
อรอุมายกมือขึ้นกดปากบุตรชายไว้ เอ่ยปรามเบาๆ..
“อย่าเพิ่งถาม เอพักผ่อนให้มากๆ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ”
“แล้วน้องริน…น้องรินอยุ่ที่ไหน ผมจะ..”
ไกรวิทย์พยายามส่งเสียงถาม ขณะที่ฤทธิ์ยาเริ่มเข้าครอบคลุมประสาทรับรู้ นับตาเด็กหนุ่มปิดลง ร่างเอนกลับไปในท่านอนโดยมีไกรสรและอรอุมาช่วยกันประคอง อรอุมาหันไปสบตาสามี
“ถ้าเอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนูริน จะทนรับได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะท่านพี่ ”
ดวงตาไกรสรทอประกายโกรธแค้นเจิดจ้าขึ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดของอรอุมา ริมฝีปากกดแน่นก่อนเค้นเสียงออกมาอย่างดุดัน
“พี่สาบานว่าพี่จะตามล่ามันจนถึงที่สุด.คนที่ทำกับตาเอและหนูรินแบบนี้ จะต้องไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แม้นไปกับข้าเดี๋ยวนี้”
ไกรสรหันไปสั่งคนสนิท แล้วหันกลับไปจากห้อง อรอุมาหันหาร่างผู้เฒ่าที่เผ้าดูเหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ
“เอถูกทำร้ายได้ยังไงกัน พ่อครู..ท่านพี่เคยบอกอรว่าไม่มีใครทำร้ายผู้สำเร็จวิชามวยคชสีห์ได้ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ”
ผู้เฒ่าพยักหน้ารับคำพูดของอรอุมา
“เป็นความจริงแม่หญิง แต่ปราณของมวยคชสีห์จะหยุดการหมุนเวียนปกป้องร่างกายชั่วคราว หากเกิดการร่วมประเวณี ข้าเชื่อว่าเอกับหนูรินคงจะมีความสัมพันธ์พันธ์ทางกายที่ริมห้วยนั่น จนเป็นโอกาสให้มันผู้นั้นฉวยเข้าทำร้ายหลังจากการหลั่งปราณชีวิตของเอ ข้ามั่นใจว่านี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ ผู้นั้นต้องรู้ถึงข้อจำกัดของปราณคชสีห์ และคอยทำร้ายในจังหวะเดียวที่เป็นไปได้ ”
ใบหน้าอรอุมาซีดเผือก..
“ในเชียงใหม่ ไม่มีใครรู้จักที่มาของมวยคชสีห์ไม่ใช่หรือพ่อครู มีแต่บุคคลในตระกูลข้าและพ่อครูเท่านั้น ที่รับถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรจาม ”
ครูมวยผู้เฒ่าพยักหน้า
“แม่หญิงกล่าวถูกต้อง ข้าจึงสงสัยว่าน่าจะมีศัตรูของตระกูลคชสีห์แอบแฝงมาก่อการครั้งนี้ ”
“ โธ่ ตาเอของแม่ ”
อรอุมากลั้นสะอื้น ใบหน้างามเนืองนองด้วยน้ำตาขณะลูบไล้ใบหน้าบุตรชาย ขณะที่ชายชราลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ
————————-
….1 เดือนต่อมา..
ใต้ต้นรังใหญ่ริมลำห้วยอันเป็นสถานที่ซึ่งทุกสิ่งเกิดขึ้น ไกรวิทย์นั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ริมลำห้วย สายตาเด็กหนุ่มจับจ้องวัตถุที่กำไว้ในมือ มันคือกรอบแว่นตาพลาสติคกลมสีแดง ที่เคยถูกสวมใส่โดยเด็กหญิงผู้เป็นเจ้าของหัวใจ แต่บัดนี้สิ่งที่เป็นรินลดาหลงเหลือแต่เพียงกรอบแว่นสายตาที่เล็นส์ข้าง หนึ่งแตกเป็นรอยร้าวเท่านั้น คำพูดของ จ.ส.ต.แม้นวงศ์ ที่บอกเล่าสิ่งที่พบเห็นดังขึ้นในสมองของเด็กหนุ่ม
“ผมตามมาเจอคุณเอนอนนิ่งอยู่ที่โคนต้นไม้ ข้างศพหนูริน ที่ถูกแทงตรงหัวใจ อวัยวะเพศถูกตัดคว้านออกไปทั้งหมด ทีแรกผมคิดว่าคุณเอเสียชีวิตไปแล้ว เลยรีบไปแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสถานที่และนำคุณเอกับหนูรินไปชัณสูตร แต่คุณเอฟื้นขึ้นมาก่อนเลยถูกส่งไปที่โรงพยาบาล ส่วนศพหนูรินคุณจักแก้วท่านมารับไปบำเพ็ยกุศลและเผาไปหมดแล้วระหว่างที่คุณ เอไม่ได้สติในโรงพยาบาล 2 อาทิตย์ ตอนนี้พ่อเลี้ยงจักรแก้วกับครอบครัวย้ายออกจากหมู่บ้านไปแล้วครับ”
ไกรวิทย์ละสายตาจากกรอบแว่น หันไปถาม จ.ต.ต.แม้นวงศ์ ที่ตามมาคอยดูแล เมื่อเด็กหนุ่มแข้งความต้องการที่จะมายังสถานที่เกิดเหตุเมื่อเช้าที่ผ่านมา
“ตำรวจยังไม่ได้ร่องรอยไอ้คนที่ทำเลยหรือน้าแม้น ”
เสียงของเด็กหนุ่มเปี่ยมไปด้วยความแค้น แววตากร้าวจนอดีตตำรวจต้องก้มหน้าลง ก่อนส่ายหน้าตอบเบาๆ
“ผมถามเพื่อนๆ ที่สถานีทุกคนแล้ว เขาบอกว่าไม่มีหลักฐานที่โยงไปถึงตัวผู้ต้องสงสัยเลย และตั้งสมมุติฐานว่าอาจเป็นฝีมือของพวกโจรฮ่อที่บังเอิญขนยาเสพติดผ่านเส้น ทางนี้เพื่อหนีการจับกุม แต่ยังไงพวกนั้นก็ยังพยายามสืบหาเต็มที่ครับ ”
“ แว่นตาที่น้าแม้นเอามาคืนผมอันนี้ น้าแม้นจำได้ไหมว่าเก็บมาจากตรงไหน ”
ไกรวิทย์ถามด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความโกรธคนรู้สึกได้ แม้นวงศ์กลืนน้ำลาย ก่อนชี้ไปที่ลำห้วยตรงหน้า
“ แว่นตาของหนูรินตกไปอยู่ในน้ำตรงนี้ครับ ”
ไกรวิทย์เดินไปยังจุดที่แม้นวงศ์ชี้ ทรุดตัวลงจ้องไปยังลำธารเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย เสียงกระแอมดังขึ้นเบื้องหลังทำให้เด็กหนุ่มหันหน้ามายังแม้นวงศ์ที่มีสี หน้าราวกับว่ากำลังตัดสินใจบางอย่าง
“น้าแม้นมีอะไรจะบอกผมหรือเปล่า ”
แม้นวงศ์ถอนใจเบาๆ ก่อนแบมือให้เด็กหนุ่มดูวัตถุที่อยู่ในฝ่ามือ มันเป็นลูกกลมสีดำสองลูกขนาดเส่นฝ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตรขนาดเท่ากัน ผิวของลูกกลมทั้งสองเรียบรื่น จนเห็นร่องรอบของการเจาะรูผ่านลุกกลมทั้งสองลูก
“อะไรน่ะ น้าแม้น เมหือนเป็นเม็ดประคำใช่ไหม ”
แม้นวงศ์พยักหน้าขณะที่ปล่อยให้ไกรวิทย์หยิบเม็ดลูกประคำทั้งสองไปพิจารณา
“ผมเจอเม็ดนึงตกอยู่ในน้ำใกล้แว่นตาของหนูริน และเมื่อกลับมาตรวจละเอียดอีกครั้งเมื่อกี้นี้ ก็เจออีกเม็ดที่โพรงโคนต้นรัง ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป้นของที่คนร้ายทำตกไว้หรือเปล่า เลยอยากให้คุณเอได้เห็นก่อนที่จะเอาไปให้ตำรวจ”
น้าหนักของลูกประคำกระทบฝ่ามือไกรวิทย์ ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่ามันมีน้ำหนักมากกว่าที่ควรจะ เป็นสำหรับลูกประคำที่โดยทั่วไปทำมาจากไม้กลึง หรือดินเผา เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดก็พบรอยประทับเล็กๆเป็นรูปวงกลมล้อมรอบสัญลักษณ์นา ซีปรากฏลึกอยู่ผิวของเม็ดประคำทั้งสองลูก แม้นวงศ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ตำรวจในฐานะผู้นิยมสะสมพระเครื่องเอ่ย ขึ้นเบาๆ เมื่อพบว่านายน้อยเบื้องหน้ามีท่าทีแปลกใจกับน้ำหนักและรอยสลักที่ปรากฏ
“นี่ไม่ใช่เม็ดประคำของไทยครับ แต่น่าจะเป็นของที่ทำมาจากภาคเหนือของพม่า อาจจะเป็นธิเบต เพราะทางนั้นนิยมใช้ดินที่มีส่วนผสมของแร่เหล็กในการทำลูกประคำ ส่วนสัญลักษณ์ที่ดูเหมือนเครื่องหมายนาซีนั้นสวัสดิกะนั้น เป็นเครื่องหมายแห่งมงคลตามความเชื่อของนิกายตันตระแห่งธิเบต ไม่ใช้สัญลักษณ์นาซีอย่างที่พวกข้าเข้าใจกัน”
“ธิเบต ตันตระ… ”
ไกรวิทย์พึมพำขึ้นราวกับจะทบทวนความจำ ทันใดนั้นดวงตาทั้งสองของเด็กหนุ่มก็เบิกกว้างส่งเสียงอุทานออกมา
“น้าแม้น..นี่มันของจั๋วกองคำสึ่งตึงใช่ไหม ”
สมองของไกรวิทย์ปรากฏภาพชายหนุ่มหน้าตาดีผิวพรรณขาวละเอียดราวสตรีบุตรชาย ของพ่อเลี้ยงคำพงษ์ ที่มีบ้านพักเป็นเรือนไทยล้านนาขนาดใหญ่ห่างจากหมู่บ้านออกไป 1 กิโลเมตร จั๋วกองคำประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่บวชเณร จนเกิดอาการทางประสาทเชื่อว่าตนเองเป็นพระลามะจากธิเบตที่กลับมาเกิด ทำให้ลาสิขาบทออกมานั่งภาวนาตามแนวทางมหายานอยู่ภายในบ้านพักโดยไม่พบปะผู้ คน แต่บางครั้งชายหนุ่มก็เกิดอาการคุ้มคลั่ง ออกจากบ้านมาเดินภาวนานับลูกประคำในทีชุมชนโดยไม่มีเสื่อผ้าปกปิดร่างกาย ทำให้กลายเป็นเรื่องตลกขบขันของคนทั่วไป และทำให้พ่อเลี้ยงคำพงษ์อับอายจน ต้องปลูกบ้านขนาดเล็กซุกซ่อนไว้เป็นที่อยู่เฉพาะของกองคำเพื่อป้องกันมิให้ บุตรชายอาละวาดกับบุคคลในครอบครัว แต่กองคำก็ยังสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมออกมาในชุมชนได้เสมอ จนเป็นภาพที่ชินตาเมื่อเห็นแก้วคำน้องสาววัย 14 ของกองคำต้องออกมาบังคับให้พี่ชายกลับไปสู่บ้านพัก บ่อยครั้งที่ไกรวิทย์เองก็ได้ยินเสียงวิจารณ์ของชาวบ้านถึงความเสียดายหน้า ตาที่งดงามราวสตรีของกองคำ รวมทั้งแก้วคำน้องสาวที่เรียนอยู่ชั้น ม.ศ.2 ในโรงเรียนเดียวกันกับไกรวิทย์ เด็กสาววัย 14 ที่มีใบหน้าอ่อนหวานที่ถอดพิมพ์มาจากกองคำ ผิวกายข่าวผ่องและรูปร่างอวบอิ่มแบบหญิงชาวล้านนา ทำให้เด็กหญิงได้รับความสนใจจากเด็กหนุ่มแทบทั้งโรงเรียน แต่เมื่อเด็กชายเหล่านั้นได้รับรู้ถึงความผิดปกติของพี่ชายเด็กหญิงที่ถูก ชาวล้านเรียกหาว่า “จั๋วกองคำสึ่งตึง” ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองภาคเหนือที่หมายถึงคนบ้า เด็กหนุ่มเหล่านั้นก็ถอยห่างไม่กล้าเข้าทำความรู้จัก รวมทั้งเด็กหญิงวัยเดียวกันในชั้นเรียนก็พยายามถอยห่างแก้วคำ จนทำให้เด็กหญิงเป็นคนไม่มีเพื่อนและหลบไปอยู่คนเดียวที่ห้องสมุดแทบทุกวัน
ดวงตาของอดีตตำรวจตะเวนชายแดนเบิกกว้าง เมื่อได้ยินไกรวิทย์เอ่ยชื่อของกองคำ
“ทำไมผมถึงนึกไม่ถึง ใช่แล้วล่ะคุณเอ ลูกปะคำนี้ต้องเป็นของไอ้กองคำแน่ๆ เดี๋ยวผมจะไปแจ้งเรื่องนี้กับเพื่อนผม ลากตัวไอ้กองคำมาสอบสวนให้มันสารภาพให้ได้ ”
ไกรวิทย์เอื้อมมือไปฉุดร่างแม้นวงศ์ที่ทำท่าจะหันกลับไปยังยานพาหนะ
“น้าแม้น ผมขอร้อง อย่าเพิ่งบอกใคร ขอเวลาผมหาหลักฐานสักสองสามวันก่อนนะ”
แม้นวงศ์สบตาเด็กหนุ่มเบื้องหน้า อดีตตำรวจชายแดนอดรู้สึกสั่นสะท้านไม่ได้เมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวที่เปี่ยม แววอาฆาตแค้นของเด็กหนุ่ม และรับรู้ถึงความหมายของคำว่า “หาหลักฐาน” ที่ไกรวิทย์หมายถึงนั้นคืออะไร
———————–
ร่างสูงโปร่งในชุดสีดำหยุดอยู่ข้างรั้วไม้ขัดด้านข้างของบ้านพ่อเลี้ยงคำ พงษ์ แสงจันทร์ในคืนแรม 14 ค่ำริบหรี่ จนทำให้ร่างในชุดสีดำนั้นสามารถยกตัวข้ามผ่านรั่วโดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น เสียงตีเกราะ 1 ครั้งของยามในหมู่บ้านที่ห่างออกไปดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด บอกเวลาตีหนึ่ง อากาศรอบกายเย็นเยียบจนลมหายใจส่งควันหมอกออกมาเป็นสาย เงาร่างสีดำเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบมุ่งหน้าไปยังด้านหลังของเรือนพักทรง ล้านนาโบราณที่ตะคุ่มอยู่ในความมืด ไปยังบ้านชั้นเดียวขนาดเล็กที่ซุกตัวอยู่ห่างออกไปกว่า 100 เมตร ร่างนั้นชะงักนิดชั่วครู่เมื่อพบว่าหน้าต่างกระจกที่มีม่านปิดกั้นมีแสงไฟ สลัวของตะเกียงลอดออกมา เป็นสัญญานบอกให้รู้ว่าผู้พักอาศัยในบ้านหลังนี้ยังไม่เข้าสู่นิทราดังเช่น คนทั่วไป เงาร่างสีดำแนบตัวเข้ากับผนังบ้าน แสงเรืองๆ ที่รอดออกมาจากหน้าต่างที่ส่องออกมากระทบเผยให้เห็นใบหน้าของไกรวิทย์ ที่กำลังฟังเสียงที่เกิดขึ้นภายในห้อง เสียงหอบกระชั้นเบาๆ ราวกับเจ้าของเสียงกำลังได้รับความทรมาน ดังกระทบหูของเด็กหนุ่มที่แนบกับผนังบ้าน แต่ไม่ปรากฏเสียงของการสนทนาใดๆให้จับความได้ เด็กหนุ่มเคลื่อนกายมาที่ประตูทางเข้าเพื่อหมุนลูกบิดประตูช้าๆ และเมื่อพบว่ามันล๊อค เด็กหนุ่มหยิบแผ่นพลาสติคแข็งบางออกจากกระเป้าเสื้อสอดเข้าไปในช่องว่างของ ประตู เพียงลากหนักๆครั้งเดียว ตามวิธีซึ่งแม้นวงศ์เคยสอนให้ บานประตูก็ขยับตัวเปิดออกโดยปราศจากเสียง
ไกรวิทย์สอดร่างผ่านช่องว่างของประตูเข้าสู่ภายในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว สายตาที่ชินกับความมืดทำให้เห็นว่ามันเป็นบ้านที่แทบปราศจากเครื่องเรือนใดๆ มีเพียงโต๊ะเก้าอี้ขนาดเล็กตั้งอยู่ที่กลางห้องและตู้กระจกขนาดใหญ่กิน พื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของผนัง แม้จะอยู่ในความมือแต่สายตาไกรวิทย์ก็ยังเห้นว่าตู้ใบนั้นบรรจุหนังสือไว้ แน่นทุกชั้น สายตาเด็กหนุ่มจับจ้องไปที่ประตูห้องเล็กที่เชื่อมติดกับห้องกลาง มีประตูสองบานและทั้งสองบานล้วนมีแสงสว่างเรืองๆ รอดออกมาทางช่องว่างใต้ขอบประตู ใจของไกรวิทย์เต้นแรงเมื่อรับรู้ว่ามีผู้อยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 1 คนต่างจากที่คาดเอาไว้ว่าจะมีแต่เพียงกองคำเพียงคนเดียว
เสียงน้ำกระทบพื้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทำให้ไกรวิทย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อรู้ว่าห้องที่ติดกันเป็นห้องน้ำ บางทีกองคำกำลังอาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่จะเข้านอน เด็กหนุ่มขยับร่างไปซุกร่างที่ด้านข้างของตู้อย่างเงียบเชียบเพื่อรอจังหวะ ที่กองคำจะออกมาจากห้องน้ำ
เสียงน้ำเงียบลง พร้อมเสียงบิดลุกบิดประตูดังแกร็ก แต่ก่อนที่ไกรวิทย์จะขยับตัวออกจากที่ซ่อน ร่างที่ปรากฏอยู่หน้าห้องน้ำกลับเป็นร่างของเด็กหญิงที่ห่อร่างด้วยผ้าขนหนู ผืนใหญ่ แสงตะเกียงวับแวมจากภายในห้องน้ำส่องกระทบร่างนั้นจนเกิดประกายของหยดน้ำ เรืองรองท่ามกลางความมืด ผ้าเช็ดตัวผืนสั้นเต่อที่ห่อหุ้มหน้าอกอวบพุ่งตระหง่าน ทำให้ชายผ้ายิ่งรั้งตัวสูงจนแก้มก้นขาวเนียนปรากฏออกมากว่าครึ่ง ใบหน้างดงามหันข้างมากระทบแสงตะเกียงทำให้ไกรวิทย์จำได้ทันทีว่านี่เป็นร่าง ของแก้วคำ เด็กหญิงผู้เงียบขรึมในโรงเรียน
ร่างอวบอิ่มของเด็กหญิงเดินออกจากห้องน้ำเดินตรงไปยังประตูห้องด้านข้าง ไกรวิทย์ถอนหายใจเมื่อพบว่าตนเองกลับเข้ามายังบ้านของแก้วคำแทนที่จะเป็นกอง คำ แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะลุกขึ้นจากที่ซ่อนเพื่อออกไปจากบ้าน เสียงนุ่มนวลที่แฝงอำนาจของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นกระทบหู
“มาแล้วหรือ ทำไมอาบน้ำนานนัก ”
เสียงหวานใสแต่เบาจนแทบไม่ได้ยินดังขึ้นตามมา
“วันนี้อากาศร้อน แก้วอาบน้ำนานไปหน่อย ท่านพี่อย่าโกรธแก้วนะ ”
เสียงหัวข้าะเบาๆ ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงแผ่วต่ำ
“งั้นก็รีบเข้ามา ดึกแล้ว ”
ไกรวิทย์ขยับร่างมายังประตูห้องที่แก้วคำเข้าไป เด็กหญิงเพียงแต่ดึงประตูให้ปิดลงอย่างลวกๆ โดยไม่ได้ปิดล๊อค ทำให้ยังคงมีช่องว่างสำหรับสายตาไกรวิทย์มองเข้าไปภายในได้ ภาพที่เห็นทำให้เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากไว้แน่นเพื่อป้องกันมิให้เสียงอุทาน หลุดออกมา
บนเตียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ชิดผนังห้อง ร่างเปลือยของแก้วคำคุกเข่า คร่อมส่วนขาของชายหนุ่มวัย 20 เศษที่นอนหงายเปลือยร่างประสานมือกับท้ายทอยจับจ้องสายตามายังเรือนร่าง เปลือยงดงามเบื้องหน้า อวัยวะเพศขนาดใหญ่แข็งตัวชูชันอยู่ในมือของเด็กหญิง ที่กำลังก้มหน้าไปไล้เลียแท่งเนื้ออย่างทะนุถนอม สะโพกอวบกลมยกตัวขึ้นเมื่อเจ้าของร่างก้มศีรษะลงไปเพื่ออ้าปากอมอวัยวะนั้น เข้าไปทั้งหมด เด็กหญิงขยับศรีษะขึ้นลงอย่างช้าๆ พร้อมรูดท่อนเนื้อที่อยู่ปากให้สัมผัสกับความอ่อนนุ่มในช่องปาก เสียงครางของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างพึงพอใจ
“อืมห์ ดีมาก แก้วเก่งขึ้นมากเลยนะ เดี๋ยวนี้ฟันไม่ครูดควยของพี่แล้ว เสียวดีจริงๆ ”
เด็กหญิงปลดปล่อยแท่งเนื้อออกจากปาก ยิ้มให้ชายหนุ่มเบื้องหน้า
“ขอให้พี่กองคำมีความสุข แก้วก็พร้อมจะทำให้พี่ ”
เด็กหญิงตอบแล้วกลับอ้าปากกลืนแท่งเนื้อกลับเข้าไปอีกครั้ง ขณะที่ไกรวิทย์นิ่งไปด้วยความตกตะลึงเมื่อรับรู้ความสัมพันธ์ลับของสองพี่ น้อง สายตาของเด็กหนุ่มจับจ้องไปที่ใบหน้าของกองคำที่ไม่ปรากฏร่องรอยของอาการ วิกลจริตที่เคยพบเห็นเป็นประจำอีกต่อไป ใบหน้าที่งดงามราวสตรีหลับตาพริ้มด้วยความเสียวที่เกิดขึ้นจากแรงดูดของปาก แก้วคำเบื้องล่าง สองมือเปลี่ยนจากการประสานหนุนศีรษะ มายังทรวงอกอวบอิ่มขนาดผลแอปเปิลขนาดใหญ่ ที่แม้จะอยู่ในอาการก้มตัวก็ยังไม่หย่อนตัวลงตามแรงดึงดูด สองมือกองคำกุมหน้าอกทั้งสองไว้เต็มมือ ออกแรงบี้เคล้นอย่างแรงจนหน้าอกอวบบิดเบี้ยวไปตามแรงเคล้น แต่เมื่อแรงบีบคลายตัว หน้าอกงามทั้งคู่ก็ดีดกลับสู่สภาพเดิมทันที แสดงให้เห็นถึงความเต่งตึงครัดเคร่งของวัยสาว 14 อย่างเต็มที่ หัวนมเม็ดเล็กสีแดงจัดชูชันเป็นไต เต้นระริกอยู่ท่ามกลางแสงตะเกียง สายตาไกรวิทย์เลือนมาสู่สะโพกกลมอวบอิ่มที่ยกตัวสูง ลำขาอวบแน่นแยกตัวออกเล็กน้อย เผยให้เห็นโคกนูนที่สองแคมเบียดตัวออกมาทางด้านหลัง แม้จะอยู่ในเงาจากแสงตะเกียง แต่ก็ยังสามารถเห็นไรขนอ่อนที่ขึ้นเป็นแนวบางๆ รอบเนินนูนอย่างชัดเจน สองแคมเด็กหญิงเต้นระริกหยาดน้ำรักวัยสาวเอ่อล้นออกมาปกคลุมร่องหลืบที่ปิด สนิทราวกับไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้าไปมาก่อน
สะโพกอวบของเด็กหญิงเริ่มบิดส่ายไปมาอย่างลืมตัวเมื่อมือของพี่ชายที่เคล้น คลึงหัวนมเปลี่ยนทิศทางมายังร่องหลืบฉ่ำเยิ้ม นิ้วเรียวยาวไล้ผ่านร่องอย่างทะนุถนอมก่อนแทรกผ่านน้ำรักจมลงไปจนมิดข้อนิ้ว แรก ร่างแก้วคำสะท้านเฮือก ปล่อยแท่งเนื้อในปากออก ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอกว้าง เสียงคราญครางกระเส่าดังกีะท่อนกระแท่น
“ทะ ท่านพี่..แก้ว สะ เสียวเหลือเกิน…จะ เข้าไปอีกได้ไหม..แก้วไม่ไหว..อ๊าส์ อย่าบี้ตรงนั้น.. ”
นิ้วกลางของชายหนุ่มหันมาบดขยี้เม็ดเสียวที่ไวต่อความรู้สึกของแก้วคำ จนเด็กหญิงต้องครางลั่นอย่างควบคุมไม่ได้ สองมือเกร็งบีบหน้าขาของผู้เป็นพี่ชายแน่น ขณะที่นิ้วชี้กองคำกระเด้าร่องหลืบน้อยถี่ยิบด้วยความลึกไม่เกิน 2 ข้อนิ้ว ใบหน้าหวานของแก้วคำสะบัดส่ายไปมาราวกับได้รับความเจ็บปวด แต่สะโพกเด็กหญิงขยับตัวรับการแทรกตัวของนิ้วมืออย่างลืมตัว ราวกับพยายามให้นิ้วนั้นกดลึกเข้าไปมากกว่า 2 ข้อ แต่ดูเหมือนผู้เป็นพี่ชายจะพยายามรักษาระดับความลึกไว้ไม่ไห้จมลงไปจนสุด น้ำรักไหลย้อยลงมาตามนิ้วกองคำราวกับกระแสน้ำตกจนชุ่มโชกลงมาถึงผ้าปูที่นอน เพียงนิ้วเรียวยาวขยับหมุนวนอีกไม่กี่ครั้งร่าง แก้วคำก็เกร็งตัวแอ่นไปด้านหน้า..
“ทะ ท่นพี่…แก้ว..ปะ ปะ ไปแล้ว…. ”
เรือนร่างงามสั่นระริก ส่งเสียงหอบสะท้าน ก่อนฟุบร่างลงกับแผ่นอกของผู้เป็นพี่ชาย
“ทำไมพี่ไม่เย็ดแก้วเสียที แก้วต้องการมากพี่ก็รู้ ”
เสียงแก้วคำดังขึ้นบนแผ่นอกพี่ชายในเชิงตัดพ้อ กองคำลูบไล้เรือนผมยาวสลวยของน้องสาวเบาๆ สายตกวาดผ่านรอยแตกประตูอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้ไกรวิทย์สะดุ้งเล็กน้อย แต่ควบคุมสติไว้ได้เมื่อเห็นว่ากองคำกวาดสายตาไปรอบด้านโดยไม่มีจุดหมายใด พิเศษ
“พรหมจารีย์ของแก้วไม่ใช่ของพี่ พี่ทำได้แต่เพียงเตรียมแก้วให้พร้อมสำหรับท่านผู้นั้น พี่ไม่สามารถเย็ดแก้วได้แม้พี่จะต้องการน้องของพี่อย่างมากก็ตาม”
กองคำตอบคำถามน้องสาว ทำให้แก้วคำยันร่างขึ้นสบสายตาพี่ชายอย่างไม่พอใจ
“ท่านพี่ตอบอย่างนี้ทุกที แล้วเมื่อไหร่คนคนนั้นจะมาล่ะ ”
กองคำยิ้มให้น้องสาว สายตาหันมาจับจ้องช่องว่างของประตู
“คงอีกไม่นานหรอก หรือเอ็งจะว่ายังไงไกรวิทย์”
ไกรวิทย์สะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินคำพูดของกองคำ ขณะที่ร่างเปลือยของแก้วคำสะดุ้งสุดตัว หันมามองที่ประตูอย่างตกใจสุดขีด สองมือเด็กหญิงคว้าผ้าห่มข้างตัวขึ้นมาปิดบังเรือนร่างอวบอัดขาวสล้าง สายตาของเด็กหญิงเบิกว้างเมื่อเห็นประตูห้องนอนเปิดออกช้าๆ พร้อมกับร่างเด็กหนุ่มในชุดดำเดินเข้ามาอย่างปราศจากความเกรงกลัว
“ พี่เอ… ”
เสียงแก้วคำร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อพบว่าเบื้องหน้าคือรุ่นพี่ร่วมโรงเรียน ที่แม้จะไม่รู้จักกันแต่ชื่อเสียงของเด็กหนุ่มในฐานะนักเรียนเรียนดีเด่น และหน้าตาที่เป็นที่สนใจของเพศตรงข้าม ทำให้เด็กหญิงทราบชื่อของผู้บุกรุกได้ในทันที
“ทำไมเพิ่งมาล่ะไกรวิทย์ ข้ารอเอ็งมาหลายอาทิตย์แล้วนะ ”
กองคำยันร่างขึ้นจากเตียง แล้วก้าวออกมาเผชิญหน้ากับไกรวิทย์ทั้งที่ยังเปลือยร่าง ไกรวิทย์สบตาชายหนุ่มเบื้องหน้าแน่วนิ่ง
“นายรู้ว่าเราจะมาได้อย่างไร ”
กองคำ หันกายไปที่โต๊หัวเตียงก้มร่างลงหยิบสายสร้อยประคำขึ้นมาชูขึ้นเบื้องหน้า แล้วโยนให้ไกรวิทย์
“เอ็งมาตามหาสิ่งนี้ใช่ไหม ”
ไกรวิทย์รับสายสร้อยมา เพียงชำเลืองมองแว่บเดียวเด็กหนุ่มก็รู้ว่าลักษณะของเม็ดประคำเป็นแบบเดียว กับเม็ดประคำที่เก็บได้ในสถานที่เกิดเหตุสูญเสียหญิงอันเป็นที่รักอย่างแน่ นอน นิ้วของเด็กหนุ่มเคลื่อนไปยังรอยต่อลูกประคำ พร้อมกับเสียงของกองคำดังขึ้น
“ไม่ต้องเสียเวลานับหรอก ข้าบอกให้ก็ได้ เส้นนี้มีอยู่ 106 ลูก ขาดไป 2 ลูก ”
นัยน์ตาไกรวิทย์เบิกโพลง แค่นเสียงออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
“หมายความว่าอย่างไร มึงเกี่ยวข้องกับการตายของน้องรินยังไง ”
กองคำหัวเราะหึหึ กับสรรพนามเรียกหาที่เปลี่ยนไปของไกรวิทย์หึหึ ในลำคอ ใบหน้าที่ดูราวสตรีของเด็กหนุ่มดูสงบอย่างยิ่งต่างกับใบหน้าของชายวิกลจริต ที่ชาวบ้านเห็นกันชนชินตา ชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นเสยผม และกล่าวคำพูดที่ทำให้ไกรวิทย์ต้องตกกตะลึง
“นี่เอ็งยังไม่รู้อีกหรือว่าข้านี่แหละเป็นคนข่มขืนและฆ่ารินลดา…เอ็งมาหาข้าเพราะเหตุนี้มิใช่หรือ ”
เสียงอุทานของแก้วคำดังลั่นเมื่อได้ยินคำพูดของพี่ชาย ขณะที่ไกรวิทย์โผเข้าหาร่างชายหนุ่มเบื้องหน้าอย่างลืมตัว กำปั้นที่รวบรวมกำลังทั่วร่างของเด็กหนุ่มพุ่งอัดเข้าที่ใบหน้างดงามของกอง คำที่ยังคงยิ้มอย่างอ่อนหวาน พลันร่างชายหนุ่มก็พลิกไปทางด้านข้างราวมายากล ทำให้ไกรวิทย์เซถลาไปข้างหน้า ช่องท้องกลับกระทบกับเข่าของกองคำที่พุ่งขึ้นอัดอย่างแรงจนลมหายใจเด็กหนุ่ม ชะงักไปชั่วขณะ ร่างไกรวิทย์ทรุดลงงอกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่กองคำก้าวเข้ามาจิกเส้นผมบังคับให้ไกรวิทย์เงยหน้าขึ้นสบตา
“มวยคชสีห์ที่ลือลั่นมีแต่นี้เองหรือไกรวิทย์ อาจารย์เอ็งไม่ได้บอกหรือว่าข้อห้ามของการใช้ปราณคชสีห์คือการระงับใจให้ เป็นสมาธิ รับรู้การเคลื่อนไหวของศัตรูจากกระแสปราณ เสียแรงที่เรียนวิชาชั้นสูงมาเป็นสิบปีจริงๆ”
ไกรวิทย์พยายามสูดลมหายใจระงับความเจ็บปวด ขาขวาปาดเป็นวงตัดข้อเท้ากองคำเบื้องหน้า บังคับให้ชายหนุ่มต้องปล่อยมือจากการจิกเส้นผม ปล่อยให้ไกรวิทย์ทรงกายขึ้นอีกครั้ง
“มึงเป็นใคร ทำไมต้องทำกับกูและน้องรินแบบนั้น ”
กองคำหันกายกลับไปที่เตียงอย่างไม่สนใจคำถามของไกรวิทย์ ชายหนุ่มทอดร่างลงนอนเหยียดยาวดึงผ้าห่มออกจากร่างเปลือยของน้องสาวโดยที่ แก้วคำไม่กล้าขัดขืน มือลูบคลำผิวเนื้อนวลเนียนของร่างเปลือยด้านข้างที่กำลังสั่นระริกด้วยความ ตกใจอย่างสบายอารมณ์
“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น ท่านพี่เป็นคนฆ่าน้องรินลดาหรือ ท่านพี่ทำได้ยังไง.. ”
แก้วคำถามด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน ทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องหน้าถาโถมกดดันจนเด็กหญิงแทบไม่สามารถควบคุม สติได้ แต่ยังคงพยายามหาความกระจ่างจากพี่ชายผู้เป็นที่รัก
“มนุษย์จะรับรู้เหตุผลของเทวะได้อย่างไรกัน.พี่ไม่จำเป็นต้องอธิบายไม่ว่ากับแก้ว หรือเจ้าโง่คนนี้ ”
ขาดคำกองคำยกมือขึ้นรับแรงเตะของไกรวิทย์ที่ทะยานเข้าใส่ เด็กหนุ่มระงับสติที่เปี่ยมไปด้วยความแค้น ผนึกปราณกับท่อนขาเพื่อโจมตีผู้ที่นั่งอยู่บนเตียง เสียงท่อนขาแหวกอากาศเข้ากระทบกับลำแขนของกองคำดังสั่นเป็นเสียงเดียว
………….กร๊อบ…………”
กองคำหงายร่างไปด้านหลัง ขณะที่ไกรวิทย์พบว่าแรงกระแทกระหว่างส่วนแข้งกับกับท่อนแขนของกองคำส่งความ ปวดร้าวอย่างรุนแรงมายังสมอง แต่เด็กหนุ่มก็มั่นใจว่าแรงเตะกวาดที่ผนึกปราณคชสีห์อย่างเต็มที่ได้ทำให้ กระดูกท่อนแขนของกองคำหักเป็นสองท่อนอย่างแน่นอน
กองคำพลิกร่างลงจากเตียงมายืนเผชิญหน้าไกรวิทย์ แขนขวาของผู้วิกลจริตห้อยตกลงอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ยืนยันให้ไกรวิทย์รู้ว่าความรู้สึกถึงกระดูกท่อนแขนแตกเมื่อกระทบแรงเตะนั้น เป็นความจริง แต่ใบหน้ากองคำกลับไม่แสดงความเจ็บปวดของกระดูกที่หักสะบั้น สายตาเพียงเหลือบมองแว่บหนึ่ง ด้วยประกายดุร้ายแต่กลับเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“ ไม่เลว นี่สิถึงจะเป็นพลังของปราณคชสีห์ แขนข้างนี้หักอย่างคู่ควรแล้ว ”
ไกรวิทย์ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว เมื่อเห็นภาพที่ขัดต่อสิ่งที่ควรเป็นเบื้องหน้า แต่ยังคงถ่มด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับความโกรธอย่างเต็มที่
“มึงจะบอกไหมว่ามึงทำร้ายกูกับน้องรินทำไม ”
กองคำยิ้มให้เด็กหนุ่มอย่างแจ่มใส ก่อนตอบอย่างไม่สนใจ
“ข้าพอใจ ข้าก็ทำ ไม่ต้องมีเหตุผล ข้าเห็นเรินลดางามนัก และเจ้าก็เย็ดไปแล้ว ข้าคิดจะเย็ดบ้าง แต่ก็รู้ว่าเจ้าไม่ยอมแน่ ข้าจึงฆ่าเจ้าเสียก่อนจะเย็ดนังเด็กรินลดา แต่ข้าเพิ่งรู้ว่าเจ้าฝึกปราณคชสีห์มีพลังคุ้มครองเส้นเลือดทั่วร่างแม้จะ หยุดหายใจไปแล้ว นับว่าข้าพลาดไปมิฉะนั้นข้าคงจะควักอวัยวะของเจ้าออกมาทิ้งเหมือนเด็กรินลดา เจ้าจะได้ไม่มีโอกาสฟื้นกลับมาอีก ”
ไกรวิทย์ตกตะลึงกับถ้อยคำที่กองคำกล่าวราวกับเป็นเรื่องธรรมดาที่ชอบด้วย เหตุผล เพลิงโทสะลุกโพลงขึ้นครอบงำจิตใจของเด็กหนุ่มราวไฟป่า สติและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขาดสะบั้น ปราณคชสีห์ที่วนเวียนในร่างกระจายตัวอย่างสับสนก่อนหมุนเวียนไปในทิศทางที่ เด็กหนุ่มไม่รู้จัก ไกรวิทย์กระโจนเข้าใส่ร่างชายหนุ่มเบื้องหน้าด้วยความรุนแรงราวพายุ ร่างทั้งสองพลันโผนเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงกระแสปราณแตกกระจายออกด้านข้างจน แม้แต่แก้วคำที่ซุกตัวอยู่บนเตียงต้องกลิ้งหลบลงไปซุกตัวอยุ่ที่มุมห้อง หมัดที่แข้งกร้าวรุนแรงของไกรวิทย์ระดมโจมตีจุดรวมปราณทั่วร่างของกองคำ อย่างไม่ออมรั้ง ขณะที่ชายหนุ่มที่หลงเหลือเพียงแขนข้างเดียวก็ยังสามารถปิดกั้นได้อย่างไม่ เพลี่ยงพล้ำ
“ดี ดี แรงขึ้นอีก ข้าอยากเห็นนักว่าปราณคชสีห์เวียนกลับจะรุนแรงได้ขนาดไหน ”
เสียงกองคำดังก้องขึ้น กลางการต่อสู้ แต่สติของไกรวิทย์มุ่งมั่นอยู่กับการโจมตีคู่อาฆาตเบื้องหน้าจนไม่รับรู้ ความหมาย เด็กหนุ่มรวมปราณไว้ที่ฝ่ามือแล้วหมุนตัวซ่อนไว้ที่แผ่นอกโดยเปิดแผ่นหลัง รับการโจมตี ทำให้กองคำงุนงงไปชั่วพริบตา แต่ก็ฉกฉวยโอกาสหักศอกซ้ายหมุนใส่เพื่อกระแทกจุดปราณที่กระดูกสันหลัง แต่ร่างไกรวิทย์กลับย่อตัวลง หมุนคว้างราวกับลูกข่าง สันฝ่ามือที่รวมปราณไว้ถูกสับเข้าช่องท้องกองคำเต็มที่จนร่างโปร่งของชาย หนุ่มกระเด็นไปติดผนัง ร่างทรุดฮวบลงกับพื้น ไกรวิทย์โถมเข้าหาโดยไม่รั้งรอ อัดสันหมัดกระแทกจุดประสาทบนศีรษะกองคำอย่างรุนแรง จนร่างชายหนุ่มแน่นิ่ง
“นี่เองหรือ..คชาซ่อนงา…ยอดเยี่ยม..ยอดเยี่ยม ”
เสียงดังมาจากร่างที่ทรุดลงไปนอนงออยู่กับพื้น ไกรวิทย์เดินเข้าหาลากร่างกองคำขึ้นมานั่งบนเก้าอี้โดยไม่กังวลกับการตอบโต้ เพราะรู้ดีว่าการกระแทกเข้าที่ศูนย์ประสาท ทำให้ร่างกายกองคำเป็นอัมพาตชั่วคราว แต่ประสาทรับความรู้สึกและการพูดยังคงทำงานตามปกติ เด็กหนุ่มกระชากผมกองคำขึ้นเพื่อบังคับให้สบตา
“มึงเป็นใครกันแน่ ทำไมรู้จักกระบวนท่าของมวยคชสีห์ ”
กองคำยิ้มราวกับร่างกายไม่ได้รับความเจ็บปวดใดๆ จากการจูโจมของท่าสังหาร ที่ทำให้กระเพาะอาหารแตก จนเลือดไหลซึมออกมาที่มุมปาก
“ข้าไม่จำเป็นต้องบอกเอ็ง…อีกไม่นานเอ็งก็จะได้รับรู้จากเมียเอ็งในนรก แล้ว ว่าแต่เอ็งรู้ไหมว่านังรินลดาน่ะ มันร้องขนาดไหนตอนควยกูทะลวงหีมันจนแหกน่ะ”
เพลิงโทษะพลุ่งขึ้นในสมองเด็กหนุ่มเมื่อได้ยินคำพูดของกองคำ ไกรวิทย์เงื้อฝ่ามือผนึกปราณเตรียมฟันคอต่อเพื่อหักกระดูกคอกองคำ
“ไอ้สัตว์นรก…ตายซะเถอะมึง ”
ก่อนที่ฝ่ามือจะกระทบ ร่างไกรวิทย์ต้องเซถลาเมื่อถูกกระแทกทางด้านหลัง เด็กหนุ่มหันขวับไปพบร่างเปลือยเปล่าของแก้วคำถลันเข้ามายื้อยุดแขนไว้แน่น
“พี่เอ..อย่าฆ่าพี่กองคำ แก้วขอร้อง…. ”
เด็กหนุ่มสะบัดร่างแก้วคำกระเด็นไปบนเตียง แม้สติเด็กหนุ่มจะถูกบดบังด้วยเพลิงแค้น แต่ร่างเปลือยเปล่าอวบอัดของเด็กหญิงวัย 14 ที่นอนหงายอยู่บนเตียง เผยให้เห็นเนินนูนของเพศหญิงที่มีขนาดเกินวัยอย่างเต็มที่ ก็ยังปรากฏต่อสายตาจนทำให้เลือดวัยหนุ่มสูบฉีกแรงขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุม ได้ ไกรวิทย์หันไปยังร่างกองคำที่ยังคงหลับตาเตรียมรับความตาย
“ไอ้กองคำ กูยังไม่ให้มึงตาย แต่กูจะให้มึงดูว่าเวลาคนที่รักถูกข่มขืนน่ะ มึงจะรู้สึกยังไง ”
ไกรวิทย์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เดินเข้าหาร่างเปลือยของแก้วคำที่ยังคงเหยียดยาวอยู่บนเตียง ร่างเด็กหญิงสะท้านเฮือกเมื่อไก้ยินคำพูดของไกรวิทย์ ร่างเปลือยพยายามลุกขึ้น แต่ช้ากว่าการโถมเข้าใส่ของไกรวิทย์ที่ผลักร่างเด็กหญิงให้กลับนอนหงายบน เตียง
ดวงตากองคำเบิกโพลงขึ้นในทันทีที่ได้ยินคำพูดของไกรวิทย์ ใบหน้าที่ราวกับสตรีบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ส่งเสียง สั่นสะท้าน..
“ไม่ ไม่ได้ เอ็งมาฆ่าข้าเดี๋ยวนี้เลย แต่อย่าทำอะไรแก้ว เอ็งไม่มีสิทธิ์ เอ็งไม่มีสิทธิ์ แก้วเป็นของท่านผู้นั้นถ้าเอ็ง…ไม่นะ..อย่า… ”
เสียงกองคำตะโกนลั่นเมื่อเห็นไกรวิทย์โถมเข้าหาร่างแก้วคำที่พยายามดิ้นรนบน เตียง สองมือไกรวิทย์ตะโบมใส่หน้าอกเต่งตึงที่ตระหง่านอยู่ตรงหน้าอย่างมันมือ สัมผัสได้ถึงความแข็งเป็นไต ขยี้เม็ดยอดสีชมพูจัดโดยไม่สนใจว่าเจ้าของกำลังดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากากร รุกราน มือไกรวิทย์ย้ายลงไปที่เนินนูนอิ่มอูมเบื้องล่าว นิ้วเด็กหนุ่มกดแทงผ่านร่องหลืบวัยสาวอย่างไม่ปราณี ฉีกกระชากหลืบเนื้อภายในลงไปจนมิดโคนนิ้ว
“โอ๊ยเจ็บ…พี่เอ…ปล่อยแก้ว อย่าทำแก้ว… ”
แก้วคำร้องลั่นเมื่อรับรู้ว่านิ้วแข็งแรงของรุ่นพี่โรงเรียนที่แก้วคำเคยแอบ มองอยู่เป็นประจำด้วยความนิยมใคนหน้าตาและการเรียน ทะลุผ่านเยื่อพรหมจรรย์ที่แม้แต่พี่ชายของเด็กหญิงยังไม่เคยยอมทำลาย ความเจ็บปวดจากการถูกรุนรานโดยไม่ยินยอมพร้อมใจปะทุขึ้นอย่างรูรนแรง เด็กหญิงสะบัดมือข่วนหน้าเด็กหนุ่มอย่างแรงจนเกิดรอยยาวเป็นแนว เลือดไหลซึมออกมาเป็นสาย
“อีสัตว์.. ”
ไกรวิทย์ขบกรามกรอด กำหมัดกระแทกหน้าทองนวลเนียนของร่างเปลือยเบื้องหน้าจนร่างแก้วงอตัวด้วย ความจุกเสียด เรียวแรงต่อต้านทั้งหมดถูกสูบออกจากร่างเด็กหญิง สองมือหยุดการเคลื่อนไหวต่อต้านพร้อมการดิ้นรน ปล่อยให้ไกรวิทย์กระชากนิ้วเข้าออกในร่องหลืบโดยไม่สามารถขัดขืน น้ำตาเด็กหญิงไหลออกมาเป็นสายด้วยความเจ็บปวด และเสียใจ แต่ไกรวิทย์ไม่รับรู้อาการใดๆ ของเด็กหญิง สมองเด็กหนุ่มมีเพียงภาพเด็กหญิงผู้เป็นที่รักกำลังถูกเดนมนุษย์ผู้เป็นพี่ ชายร่างเปลือยเบื้องหน้าข่มขืนแล้วสังหารอย่างทารุณ
“หีมึงแน่นดีจริงๆ พี่มึงไม่เคยเย็ดจริงๆ หรือวะ”
ไกรวิทย์พึมพำอย่างพอใจเมื่อชักมือกลับมาเห็นเลือดพรหมจรรย์ของแก้วคำบนนิ้ว ที่ทะลวงเข้าไปในร่องหลืบบริสุทธิ์ เด็กหนุ่มลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากร่าง แล้วโถมขึ้นทาบทับร่างเปลือยงดงาม แก่นกายขนาด 5 นิ้วของเด็กหนุ่มวัย 15 ชูชันจนเส้นเลือดขยับกระตุกเป็นระยะ ไกรวิทย์แทรกร่างลงระหว่างขาอวบของแก้วคำ แยกขาเด็กหญิงออกว้างโดยปราศจากการขัดขืน แท่งเนื้อถูกจ่อกับปากทางเข้าสู่ความเป็นหญิง ไกรวิทย์หยุดจ่อมันไว้ที่กลางสองแคมก่อนหันไปยังร่างกองคำที่เก้าอี้ด้าน ข้างเพื่อพบว่าดวงตากองคำเบิกโพลง ด้วยความเคียดแค้นกับภาพเบื้องหน้า..
“มึงดูซะไอ้กองคำ กูจะเย็ดน้องสาวมึงเดี๋ยวนี้แล้ว ”
“อย่า เอ็งไม่รู้หรอกว่าเอ็งกำลังจะทำอะไรลงไป..อย่า.. ”
เสียงกองคำตะโกนลั่น ขณะที่ไกรวิทย์กดแท่งเนื้อผ่านสองแคมเข้าไปอย่างรุนแรง ท่อนลำถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากผนังร่องหลืบที่ปราศจากน้ำรักมาหล่อลื่น แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดของเด้กหนุ่มได้ มันฝ่าเข้าสู่ส่วนลึกของร่างเด็กหญิงอย่างไม่ปราณี สองแคมที่แม้จะอิ่มอวบเกินวัย 14 แต่ เมือไม่มีสิ่งหล่อลื่นมาช่วย สองแคมก็ฉีกขาดอย่างรุนแรง
“โอ๊ย พี่เอ…แก้ว เจ็บ อย่า..เอามันออกไป สงสารแก้วเถอะ… ”
เด็กหญิงร้องลั่นเมื่อรับรู้ว่าอวัยวะเพศชายขนาดใหญ่ทะลวงเข้ามาภายในร่าง เด็กหญิงเจ็บปวดราวกับร่างถูกผ่าแยกออกเป็นสองเสี่ยง แต่ไกรวิทย์ไม่สนใจกับเสียงร้องของเด็กหญิงแม้แต่น้อย
“กูไม่สงสาร พี่มึงทำกับน้องรินของกูอย่างให้อภัยไม่ได้ กูจะต้องเย็ดมึงให้พี่มึงรับรู้ความรู้สึกของกู ”
เด็กหนุ่มคำรามตอบอย่างสะใจ สองมือจับเอวคอดของแก้วคำยกขึ้นโย่งตัวกระเด้าถี่ยิบอย่างไม่ปราณี จนสองเต้าเบื้องหน้ากระเพื่อมสั่นระริก ไกรวิทย์ขยี้มือกับเต้าเต่งอย่างมันมือบีบเคล้นไปมาเพื่อรับสัมผัสที่แข็ง เป็นไตของหน้าอกเด็กหญิงวัย 14 พร้อมกับความรัดรึงของร่องหลืบเบื้องล่างที่ดูดดึงกระชับแน่นจนความเสียวของ เด็กหนุ่มพุ่งทพยานขึ้นสูง
“ทั้งนมทั้งหีมึงนี่เยี่ยมจริงๆ ว่ะนังแก้ว พี่มึงดีแต่แหย่ไม่เคยเย็ดเลยใช่ไหม อูย… ”
ความเสียวระดมมาที่ปลายแท่งเนื้อไกรวิทย์อย่างรุนแรง เด็กหนุ่มรีบหยุดการกระแทกเนินนูนเบื้องล่าง พร้อมกลั้นหายใจเพื่อยืดระยะเวลาการทะลักทลาย ก่อนหันหน้าไปยังกองคำที่หลับตาลงเพื่อไม่ให้เห็นภาพน้องสาวถูกข่มขืนอย่าง ทารุณ เด็กหนุ่มแสยะยิ้มอออกมาอย่างสะใจ เริ่มขยับแท่งเนื้ออย่างช้าๆ เมื่อความเสียวที่เกือบควบคุมไม่ได้คลายตัวลง ท่อนลำในร่องหลืบของแก้วคำเริ่มขยับตัวขึ้นลงอีกครั้ง แต่ไกรวิทย์ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าส่วนปลายของแท่งเนื้อถูกดูดตอดอย่าง นุ่มนวลเป็นระยะ พร้อมกับสายธารน้ำหล่อลื่นเอ่อซึมขึ้นมารอบท่อนลำจนสามารถขยับกระเด้าได้ ง่ายขึ้น ประสบการณ์ทางเพศของเด็กหนุ่มบอกให้รู้ว่าร่างที่ตนเองกำลังข่มขืนเริ่มเกิด อารมณ์ทางเพศขึ้น แต่เมื่อเด็กหนุ่มกันมาจับจ้องใบหน้าแก้วคำก็ต้องแปลกใจที่พบว่าใบหน้าเด็ก หญิงไม่ปรากฏอาการบ่งบอกถึงอารมรณ์เพศแม้แต่น้อย มันยังคงเป็นใบหน้าที่แสดงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง และน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายจนชุ่มที่นอนเท่านั้น ความขัดแย้งระหว่าปฏิกิริยาตอบสนองภายในอวัยวะเพศเด็กหญิง กับอารมณ์ที่แสดงออกมาใบหน้า กระตุ้นให้สติของไกรวิทย์เริ่มฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับปราณคชสีห์ที่หยุดนิ่งและกลับโคจรไปตามเส้นทางเดิมอย่างช้าๆ ร่างเด็กหนุ่มสะท้านอย่างรุนแรงเมื่อตระหนักว่าตนเองกำลังร่วมเพศอยู่กับ เด็กหญิงร่วมโรงเรียน
“แก้วคำ ..นี่ นี่ พี่กำลัง…เกิดอะไรขึ้น ”
ร่างเด็กหญิงเบื้องล่างสั่นระริก เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ข่มขืน ดวงตาเด็กหญิงจับจ้องใบหน้าไกรวิทย์แน่วนิ่ง ก่อนถอนใจยาว
“ชะตาลิขิตมาแบบนี้ แก้วจะทำอะไรได้ พี่เอรีบปล่อยน้ำรักของพี่มาในตัวแก้วเถอะ ”
“พี่ พี่ พี่ทำอะไรลงไป.. ”
เสียงไกรวิทย์ตะกุกตะกัก ท่อนล่างหยุดการเคลื่อนไหว เด็กหนุ่มดึงท่อนลำขึ้นจากร่องหลืบของเด็กหญิง แต่ก่อนที่มันจะพ้น แก้วคำรีบยกมือขึ้นกอดเอวไกรวิทย์ไว้แน่น พร้อมกดให้แท่งเนื้อกลับลงไปสู่ภายในจนมิด
“อย่าเอามันออกไปพี่เอ..ถ้าพี่เอเอามันออกไปทั้งพี่เอและแก้วจะต้องตายทั้ง คู่ มีทางเดียวเท่านั้นคือพี่ต้องปล่อยน้ำเชื้อของพี่มาให้แก้วรับไว้ ”
“อย่า แก้ว อย่าพูด…อย่าบอกมันเด็ดขาด ”
เสียงกองคำดังลั่นขึ้น อย่างตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่แก้วคำกำลังเอ่ยต่อเไกรวิทย์ แก้วคำเบือนหน้าไปมองพี่ชายด้วยน้ำตา สั่นหน้าช้าๆ
“มันสายไปแล้วท่านพี่ พี่เอทำลายพรหมจรรย์แก้วไปแล้ว มดลูกของแก้วกำลังเคลื่อนไหวเตรียมรับน้ำรัก ไม่มีทางที่แก้วจะให้กับท่านผู้นั้นได้แล้ว”
แก้วคำหันไปกล่าวเบาๆ กับไกรวิทย์ที่ยังคงงุนงงกับทุกสิ่งที่ได้ยิน
“แก้วถูกท่านพี่เตรียมร่างกายมาตั้งแต่ 8 ขวบเพื่อเตรียมรับเชื้อสายแห่งเทพ ท่านพี่กระตุ้นจิตแก้วให้แยกออกจากอวัยวะเพศ เพื่อให้แก้วแยกความรักออกจากหน้าทีสืบสายพันธ์ แม้แก้วจะรักท่านพี่แต่ก็ไม่สามารถเย็ดได้ เพราะท่านผู้นั้นต้องการแต่เด็กหญิงพรหมจารีย์เท่านั้น”
ไกรวิทย์นิ่งไปกับคำบอกเล่าของเด็กหญิง..แก้วคำสบตาเด็กหนุ่มผู้รับความสาวของตนเองไปโดยไม่เต็มใจแน่วนิ่ง ก่อนเอ่ยเบาๆ
“พี่เอ เย็ดแก้วให้เสร็จเถอะ ”
ไกรวิทย์ สบตากลมโตของเด็กหญิงเบื้องล่างอย่างสับสน
“พี่ พี่ขอโทษ…พี่จำไม่ได้เลยว่าพี่ทำอะไรกับแก้ว”
แก้วคำยิ้มบางๆ ให้อย่างอ่อนระโหย
“แก้วไม่โกรธพี่เอหรอก เป็นความผิดของท่านพี่ที่ไปทำร้ายพี่เอกับน้องรินลดา และก็เป็นความผิดของแก้วเช่นกันที่ไม่สามารถรองรับความต้องการของท่านพี่ได้ จนทำให้เกิดเรื่องขึ้น พี่เอไม่ต้องโทษตัวเอง ท่านพี่ตั้งใจบังคับให้พี่เอเกิดความโกรธจนไม่สามารถควบคุมได้ ผู้ที่ข่มขืนแก้วไม่ใช่พี่เอ แต่เป็นอำนาจฝ่ายมืดในตัวพี่เอที่ถูกปราณย้อนกลับปลุกขึ้นมา แก้วไม่โกรธพี่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…”
เด็กหญิงก้มหน้าต่ำ..เลือดถูกสูบฉีดขึ้นบนใบหน้าจนเป็นสีแดงระเรื่อ
“แก้วชอบพี่เอมาตั้งแต่ชั้นประถมแล้ว ถ้าแก้วไม่ต้องรับหน้าที่สืบสายพันธ์ แก้วคงพยายามเป็นแฟนพี่เอมานานแล้วล่ะ การได้เย็ดกับพี่เอก็เป็นสิ่งที่แก้วต้องการ พี่เอไม่ต้องโทษตัวเองนะ”
ร่างไกรวิทย์หยุดนิ่ง ท่อนลำยังคงแข็งตัวอยู่ในความอบอุ่นรัดรึงของร่องหลืบเด็กหญิง กริยาของเด็กหญิงที่เปิดเผยความในใจยิ่งทำให้เป็นภาพที่กระตุ้นอารมณ์ เพศอย่างรุนแรง ไกรวิทย์ก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มเนียนนั้นอย่างช้าๆ ริมฝีปากแก้วคำเปิดรับการแทรกสอดของลิ้นเด็กหนุ่มอย่างเต็มใจ ร่างอวบอิ่มบิดส่ายไปมาใต้แผงอกไกรวิทย์จนรู้สึกได้ถึงการแข็งตัวของหัวนม เม็ดน้อยบนแผ่นอกของเด็กหนุ่ม มือน้อยๆของแก้วคำบีบแก้มสะโพกไกรวิทย์อย่างกระตุ้นเตือนให้เคลื่อนไหว ทำให้แท่งเนื้อแข็งแกร่งเริ่มขยับตัวกระเด้าขึ้นลงรับแรงบีบรัดของร่องเนื้อ อย่างช้าๆ ขณะที่สะโพกอวบอิ่มของแก้วคำก็แอ่นตัวรับการกระเด้าอย่างเต็มใจ มือเด็กหนุ่มเคลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นหน้าอกแก้วคำ สัมผัสความตื่นตัวของหัวนมเม็ดน้อยในอุ้งมือ จนร่างเด็กหญิงสั่นระริก
แก้วคำถอนริมฝีปากออก ซุกหน้าลงกับซอกคอไกรวิทย์แน่น ส่งเสียงเบาๆที่ข้างหู
“แก้วไม่เจ็บแล้ว พี่เอให้แก้วเถอะ… ”
ไกรวิทย์พยักหน้ารับ เพิ่มความเร็วกระเด้าถี่ยิบ เสียงเนินนูนปะทะกับหน้าท้องเด็กหนุ่มประสานเป็นจังหวะ ใบหน้าแก้วคำสะบัดไปมาด้วยความเสียวที่พุ่งขึ้นกลบความเจ็บปวด สองมือเด็กหญิงจิกขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น สะโพกยกตัวสูงอัดขึ้นรับการกระเด้าเต็มที่ ร่างงามสั่นสะท้าน…
“อ๊าย…พะ พะ พี่เอ…มาเลย…แก้ว แก้ว..จะ…โอ๊วส์.. ”
พร้อมกับการถึงจุดสุดยอดของเด็กหญิง ความเสียวที่ระดมมายังท่อนปลายลำของไกรวิทย์ก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง น้ำรักกระหน่ำฉีดเข้าไปในร่องหลืบจนท่วมทะลักออกมาภายนอก ไกรวิทย์ซบหน้าลงกับอกงามอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ก่อนที่แท่งเนื้อจะหดตัว ความรู้สึกของเด็กหนุ่มก็รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวแปลกประหลาดของกระแสปราณใน ร่างกาย ที่มีการถ่ายเทปราณอบอุ่นจากร่างเด็กหญิงเข้ามารวมกับปราณคชสีห์อย่างช้าๆ ทำให้เด็กหนุ่มต้องชะงักการถอนแท่งเนื้อออกจากร่างแก้วคำ และพยายามเคลื่อนปราณรองรับปราณที่ตนเองไม่รู้จักเอาไว้..
แก้วคำลืมตาขึ้นอย่างอ่อนระโหย ใบหน้าเด็กหญิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนกระซิบเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ว่าผู้รับความสาวไป กำลังเคลื่อนปราณรับปราณสายใหม่เอาไว้
“แก้วให้พี่เอทุกอย่าง ที่พี่เอได้ไปนอกจากพรหมจารีย์ของแก้วแล้ว ยังมีปราณจักรวาลที่ท่านพี่ปลุกเอาไว้ในมดลูกแก้วด้วย พี่เอไม่ต้องกังวล มันไม่มีผลร้ายใดๆ ต่อปราณคชสีห์ของพี่เอ แต่จะเพิ่มระดับการรับรู้ของพี่เอให้มากขึ้น ”
ไกรวิทย์โคจรปราณอย่างช้าๆ จนกลับมายังจุดศูนย์ รับรู้ได้ถึงการผสมผสานปราณตามที่เด็กหญิงบอก เด็กหนุ่มสบตาแก้วคำแน่วนิ่ง
“สิ่งที่พี่ทำไปพี่จะรับผิดชอบ พี่จะไปบอกท่านพ่อท่านแม่ให้มาหมั้นแก้วเอาไว้ก่อน แล้วจะ… ”
นิ้วเรียวงามของเด็กหญิงยกขึ้นปิดปากชายหนุ่มไว้ ก่อนตอบอย่างมั่นใจ
“สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างแก้วกับพี่เอไม่ใช่ความรัก มันเป็นเพียงชะตาที่ถูกลิขิตไว้เท่านั้น แก้วไม่บังคับให้พี่เอต้องมาใช้ชีวิตกับแก้วตลอดไปหรอก สิ่งที่แก้วอยากขอพี่เอมีเรื่องเดียวเท่านั้น พี่เอจะให้กับแก้วได้ไหม”
ไกรวิทย์พยักหน้ารับ
“ถ้าไม่เกินความสามารถพี่ พี่สัญญา ”
แก้วคำประคองใบหน้าเด็กหนุ่มไว้ในอุ้งมือ สบตาแน่วนิ่ง
“แก้วรู้ว่าสิ่งที่ท่านพี่ทำกับพี่และน้องรินลดานั้นยากต่อการให้อภัย แต่แก้วอยากขอให้พี่เออย่าฆ่าท่านพี่ ปล่อยให้ตำรวจดำเนินคดีท่านพี่ตามกฎหมาย แก้วจะเป็นพยานถึงคำสารภาพของท่านพี่ให้เอง พี่เอจะทำให้แก้วได้ไหม ”
ไกรวิทย์ขบกรามแน่น หันไปมองร่างกองคำที่ยังคงนั่งหลับตานิ่งอยู่บนเก้าอี้ ความโกรธเริ่มกลับเข้ามาสู่จิตสำนึกอย่างรุนแรงเมื่อคิดถึงคำสารภาพสิ่งที่ กองคำกระทำกับรินลดา สติกับความโกรธต่อสู้กันอย่างรุนแรงภายใต้จิตสำนึก เด็กหนุ่มสูดลมหายใจยาวลึกก่อนหันหน้ากลับไปหาแก้วคำ
“พี่ตัดสินใจแล้ว แม้ว่ากองคำจะทำสิ่งที่เลวร้ายแต่พี่ก็ไม่มีอำนาจจะลงโทษมัน พี่รับคำขอของแก้วคำ ”
รอยยยิ้มบนใบหน้าเด็กหญิงเปิดกว้าง แก้วคำโน้มคอไกรวิทย์เข้ามาประทับจูบเพื่อแสดงความขอบคุณ ความหอมหวานของปากเด็กหญิงและหน้าอกที่แนบแน่นกับร่างไกรวิทย์ ทำให้แท่งเนื้อที่เพิ่งคลายความแข็งแร่งจากการระเบิดนำรักชุดใหญ่เมื่อครู่ เริ่มตื่นตัวอีกครั้งในร่องหลืบแก้วคำ เด็กหญิงหน้าแดงเมื่อรับรู้อาการคับตึงภายในซอกกลืบเนื้อที่เพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ไกรวิทย์สูดลมหายใจลึกๆ ระงับความต้องการเสพสมกับเรือนร่างงดงงามไว้ ก่อนค่อยๆ ถอนแก่นกายออกจากความรัดรึง ทำให้เด็กหญิงต้องแอ่นสะโพกตามพร้อมสูดปากด้วยความเจ็บเมื่อหัวเงี่ยงกระทบ รอยแผลฉีกขาดที่สองแคม
“พี่ขอใช้โทรศัพท์ โทรไปหาตำรวจก่อนนะ ให้เขามาควบคุมตัวกองคำไว้ เพราะพี่เองก็ไม่แน่ใจว่าถ้ายืดระยะเวลาออกไป พี่จะระงับอารมณณ์ไว้ได้อีกหรือเปล่า ”
ไกรวิทย์บอกแก้วคำอย่างจริงจัง แล้วลุกขึ้นจากเตียงไปยังโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงด้านของเด็กหญิง แก้วคำยันกายลุกขึ้นนั่งเผยให้เห็นหน้าอกตูมตั้งกระจ่างอยู่กลางแสงวับแวม ของตะเกียงจนเป็นประกายสีทอง ทำให้ไกรวิทย์ต้องพยายามระงับอารมณ์ตื่นตัวที่พลุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ใจของเด็กหนุ่มบอกตนเองว่าแก้วคำเป็นเด็กหญิงที่มีหน้าตาและเรือนร่างที่ สามารถกระตุ้นดำกฤษณาของเพศชายทุกคนได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีอายุเพียง 14 ปีก็ตาม เด็กหนุ่มย้ายสายตาจากหน้าอกงามอย่างยากเย็นหันไปหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อ กดหมายเลขของแม้นวงศ์
……….สวบ……..
“โอ๊ย…ทะ ทะ ท่าน พี่…ทำไม… ”
เสียงวัตถุแหวกอากาศตามมาด้วยเสียงร้องจากความเจ็บปวดของแก้วคำดังลั่นขึ้น ไกรวิทย์หันหน้ากลับมาทันที หูโทรศัพท์ในมือเด็กหนุ่มหล่นลงกับพื้นเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏบนเตียง
ร่างเปลือยของแก้วคำนอนหงายอยู่บนที่นอน เหนือหน้าอกตูมตั้งด้านซ้ายปรากฏวัตถุยาวที่มีปลายเป็นลูกกลมฝังอยู่ฝังอยู่ มือของเด็กหญิงกุมปลายวัตถุที่โผล่พ้นออกมาราวกับจะพยายามดึงออก เลือดทะลักออกมาราวสายน้ำ ดวงตาแก้วคำเบิกโพลงราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แววตาที่ไกรวิทย์เห็นบนใบหน้าเด้กหญิงไร้แววของชีวิตอีกต่อไป ความหนาวเหน็บแผ่ไปทั่วร่างไกรวิทย์เมื่อตระหนักว่า วัตถุนั้นทะลุผ่านตำแหน่งหัวใจของแก้วคำและหยุดลมหายใจของเด็กหญิงในทันที
ร่างกองคำยืนอยู่บนพื้นหน้าเก้าอี้ที่ก่อนนี้ไกรวิทย์นำไปใช้วางร่างที่ถูก สกัดศูนย์ประสาท ใบหน้ากองคำ บิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น ในมือถือวัตถุรูปร่างประหลาด เป็นโลหะปลายแหลมรูปร่างคล้ายปลายหอกซัด แต่ทุกด้านมีขนาดเท่ากัน ส่วนโคนมีด้ามถือยาวพ้นฝ่ามือที่กองคำกุมอยู่ ปลายสุดของด้ามถือเป็นลูกกลมเหล็กโปร่ง ถักทอเป็นลวดลายประหลาด ไกรวิทย์ใจสั่นสะท้านเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวัตถุนั้นคืออะไร
“กริชสลายปราณ ”
เด็กหนุ่มพึมพำออกมา ทุกส่วนของร่างกายเกร็งเขม็งเพื่อรับการจู่โจมของอาวุธโบราณชนิดเดียวที่สามารถทะลุการป้องกันของปราณได้
“ไม่เลวที่รู้จัก.. แต่เอ็งไร้ประสบการณ์จนไม่รู้ว่าการสัดศูนย์ประสาทของผู้มีปราณวนเวียนใน ร่าง แม้จะทำได้แต่ปราณจะโคจรผลักดันจุดศูนย์ประสาทให้กลับสู่สภาพเดิมภายในครึ่ง ชั่วโมง.”
ไกรวิทย์ขบกรามกรอด
“ทำไมมึงไม่ฆ่ากู ไปฆ่าแก้วคำทำไม”
กองคำหัวเราะราวกับคนเสียสติ
“นังทรยศ ข้าอุตส่าห์ปลูกฝังปราณจักวาลไว้ในร่างมันเพื่อให้มันรับเชื้อสายเทวะของ ท่านผู้นั้น แต่มันกลับมอบทุกสิ่งให้เอ็ง ทั้งที่มันสามารถจะสูบปราณชีวิตของเอ็งทั้งหมดออกมาปล่อยให้เอ็งแห้งตายโดย ไม่รู้สาเหตุได้อย่างสบาย และที่สำคัญ…. ”
กองคำลูบคลำกริชสลายปราณในมืออย่างลุ่มหลง
“ถ้าฆ่าเอ็งให้ตายทันทีด้วยกริชสลายปราณ มันก็เป็นการตายที่ง่ายเกินไปสำหรับผุ้ที่บังอาจทำร้ายข้าถึงขนาดนี้ เอ็งต้องพบการลงโทษแบบเดียวกับนังรินลดา ทรมาณด้วยความเจ็บปวดจนกว่าจะสิ้นใจ.. ”
ไกรวิทย์ขยับร่างไปทางปลายเตียงอย่างระมัดระวัง ประสบการณ์การต่อสู้ที่ฝึกฝนมาทำให้ทราบดีว่าระยะห่างเพียงเตียงนอนขวางกั้น แบบนี้ แม้จะเป็นผู้มีวิชาการต่อสู้ก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงความเร็วของกริชสลายปราณ ที่ถูกซัดออกจากมือของผู้ทรงปราณเช่นกองคำได้
“ก่อนเอ็งจะตายตามนังรินลดาและนังแก้วคำ ข้าจะบอกให้ว่าจะฆ่าเอ็งอย่างไร…”
กองคำจับตาการเคลื่อนไหวของไกรวิทย์เขม็งแต่ยังคงระเบิดความโกรธแค้นเป็นคำพุดไม่หยุด
“ข้าจะตรึงกริชสลายปราณที่ปอดขวาให้ลมปราณทะลักออกมาทีละน้อย เอ็งจะค่อยๆ ขาดอากาศหายใจยิ่งพยายามสูดลมเข้าไปเท่าไหร่ เอ็งจะยิ่งเจ็บปวดจนแทบขาดใจ แต่เอ็งจะยังไม่ตาย …ยังไม่ตายจนกว่าปราณจะแห้งเหือดไปใน 2 ชั่วโมง คราวนี้แม้แต่เทวราชก็ช่วยเอ็งจากความตายไม่ได้อีกแล้ว…”
ไกรวิทย์สูดลมหายใจลึก พยายามสะกดสติให้พ้นการรบกวนความคิดจากกองคำ สมองเด็กหนุ่มนึกถึงคำพูดของพ่อครูคำแปง
‘วิถีแห่งปราณมีสองสาย สายหนึ่งเข้มแข็งแกร่งกร้าว อีกสายหนึ่งอ่อนไหวซับซ้อน ปราณคชสีห์เป็นปราณที่เกิดจากปราณคชสารแนวแข็งกร้าวของอาณาจักรอโยธยา ผสานกับกับปราณสีหราชที่นุ่มนวลว่องไวแห่งอาณาจักรล้านนา ทำให้เป็นปราณที่สมบูรณ์ในการต่อสู้ทั้งรับและรุก แต่จุดอ่อนที่สำคัญคือสติของผู้ทรงปราณที่จะต้องยึดมั่นควบคุมให้แน่วแน่ มิฉะนั้นหากเกิดโทษะ โมหะ โลภะและราคะ ครอบงำจิตใจ ปราณจะโคจรย้อนกลับ และเปลี่ยนผู้ทรงปราณให้เป็นผู้นิยมการเข่นฆ่า พาตัวเองเข้าสู่ความมืดตลอดกาล’
ภาพของผู้ทรงปราณที่วิปลาสเช่นกองคำเบื้องหน้า ทำให้ไกรวิทย์หนาวยะเยือกไปทั่วร่าง เป็นความหนาวที่มิได้เกิดจากความหวาดกลัว แต่เกิดจากการระลึกได้ว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมาตนเองปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบ งำจนปราณคชสีห์ย้อนกลับ แม้ปราณจะกลับเข้าวิถีจากการร่วมรักกับแก้วคำ แต่เด็กหนุ่มก็ตระหนักถึงสภาพความรุนแรงที่ก่อขึ้นระหว่างขาดสติ ภาพของกองคำเบื้องหน้ากลับดูคล้ายนกับภาพในกระจกเงาของตนเองหากปล่อยให้ปราณ มืดเข้าครอบงำจิตใจ
“เวลาเอ็งไปพบนังรินลดาในนรก ข้าฝากเอ็งบอกมันหน่อยนะว่า หีมันยอดเยี่ยมที่สุดที่ข้าเคยเย็ดมา บอกให้มันรอข้าอีกหน่อย ข้าจะตามลงไปเย็ดมันในนรกตลอดกาล”
เสียงชายวิปลาสเบื้องหน้าดังขึ้น แม้ไกรวิทย์จะรู้ว่านี่เป็นวิธีกระตุ้นให้เพลิงโทสะเข้าครอบงำ เพื่อทำลายความสามารถในการป้องกันตัวเอง แต่ความโกรธของวัยหนุ่มกลับก่อตัวขั้นโดยไม่สามารถควบคุมได้ ปราณคชสีห์เริ่มชะงักการโคจรเพื่อหาทางแทรกไปยังช่องทางย้อนกลับดังเช่นที่ เคยเกิดขึ้นเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่ก่อนที่ความสามารถในการควบคุมปราณของไกรวิทย์จะพังทลาย ความอบอุ่นสายหนึ่งก็แผ่ขึ้นมาจากท้องน้อย กระจายตัวปิดกั้นช่องทางย้อนกลับของปราณทั้งหมด และผลักดันให้ปราณกลับเคลื่อนตัวในทิศทางเดิม
‘ปราณจักรวาล’
ไกรวิทย์ร้องในใจด้วยความตื้นตัน เมื่อรู้ว่าสิ่งที่แก้วคำได้มอบให้ก่อนตายกำลังช่วยปรับสภาพปราณจให้กลับสู่ จุดสมบูรณ์อีกครั้ง เด็กหนุ่มจับจ้องมือซ้ายที่กุมกริชสลายปราณของกองคำไว้แน่วแน่ ขณะที่บังคับร่างกายให้สั่นเทิ้มราวกับกำลังประสบสภาพปราณย้อนกลับ ดวงตากองคำทอเบิกโพลงด้วยความอำมหิต ก่อนส่งเสียงร้องตะโกนสนั่น
“ช่วยด้วย ขโมย ขโมย… ”
ดวงตาที่ลุกโพลงของกองคำจับจ้องไกรวิทย์
“เดี๋ยวคนของท่านพ่อข้าก็จะแห่กันมา พวกมันจะพบศพนังแก้ว กับเอ็งที่ถูกแทงทะลุอก ข้าจะบอกพวกมันว่าเอ็งเข้ามาข่มขืนนังแก้วแล้วฆ่าทิ้ง พอข้ามาพบเอ็งก็ทำร้ายจนข้าแขนหัก ข้าจึงจำเป็นต้องป้องกันตัวแค่นี้ข้าก็พ้นผิดทุกข้อ ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าพ่อเลี้ยงไกรสรพ่อเอ็งจะอยู่ในเชียงใหม่ได้ยังไง เมื่อลูกชายกลายเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืนแบบนี้ ”
สติไกรวิทย์สงบนิ่ง ขณะที่ท่าทางภายนอกแสดงออกถึงความโกรธแค้นขาดสติ ร่างเด็กหนุ่มโถมทะยานเข้าหากองคำ พร้อมกับประกายแว่บของกริชสลายปราณถูกซัดออกจากมือกองคำ มันพุ่งเข้าตรงเป้าหมายที่อกด้ายขวา ร่างไกรวิทย์กระดอนกลับไปตามกระแสปราณที่แฝงมากับกริช กลิ้งตกไปจากเตียงลงไปนอนตะแคงอยู่บนพื้น สองมือเด็กหนุ่มกุมด้ามกริชไว้ราวกับพยายามถอนออก เลือดไหลรินออกมาตามด้ามกริช ร่างเด็กหนุ่มกระตุกเป็นระยะ ขณะที่กองคำสืบเท้าเข้ามายืนอยู่ปลายเท้า…
“เจ็บใช่ไหม..ดีมาก จงทรมาณต่อไปจนกว่าจะสิ้นใจเถอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
——ฉึก——
ประกายวูบพลุ่งขึ้นจากพื้นห้องนอน พุ่งใส่หน้าผากกองคำที่ยังหัวเราะอยู่ มันจมมิดเข้าไปในหน้าผาก แรงกระแทกส่งร่างกองคำให้ปลิวกระเด็นไปยังผนังห้องนอนตรงข้าม แล้วกองนิ่งอยู่กับพื้นในท่านั่ง ดวงตากองคำเบิกโพลงอย่างไม่ยินยอมเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น วิญญานวิปลาสหลุดลอยออกจากร่างไปตลอดกาล….
ไกรวิทย์ยันร่างขึ้นจากพื้น กุมหน้าอกขวาไว้แน่นเพื่อห้ามเลือด เด็กหนุ่มถอนใจยาวเมื่อพบว่าร่างศัตรูสิ้นลมหายใจ แม้จะปวกแปลบปลาบจากรอยแผลที่หน้าอกอันเกิดจากการซัดของกริชสลายปราณ ที่แม้เด็กหนุ่มจะผนึกกระแสปราณสองชนิดป้องกันไว้และใช้มือซ้ายปิดเป้าหมาย ที่อกด้านขวา แต่ความคมกล้าก็ยังทะลุผ่านหลังมือซ้ายเข้ามาในแผ่นอกเกือบ 1 นิ้ว เด็กหนุ่มก้าวหยุดเท้าจับจ้องร่างของกองคำอย่างชิงชัง
“มึงไม่ได้เจอน้องรินในรกแน่นอน…มีแต่ความทรมาณชั่วกัลป์เท่านั้นรอมึงอยู่ ”
เด็กหนุ่มพึมพำราวกับจะส่งวิญญานชั่วร้ายไปยังขุมนรก หันกายกลับมายังร่างไร้วิญญาณของแก้วคำบนเตียง สอฝมือกุมมือเด็กหญิงที่เริ่มเย็นชืดไว้แน่น
“แก้ว พี่ขอโทษ…พี่จะไม่ลืมแก้วตลอดไป ”
ราวกับวิญญาณแก้วคำจะรับรู้ เปลือกตาที่เบิกโพลงของเด็กหญิงกลับปิดลงอย่างช้าๆ ขณะที่เสียงดังของฝีเท้าจำนวนมากวิ่งตรงเข้ามายังบ้าน ไกรวิทย์สูดลมหายใจหนักๆ เด็กหนุ่มทราบดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนี้ไม่สามารถบอกเล่าให้ผู้ใดเชื่อ ถือได้ เด็กหนุ่มหอบเสื้อผ้าตนเองขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งร่างออกจากหน้าต่าง แต่กลับเผชิญหน้ากับชายกลางคนท่วงท่าเปี่ยมอำนาจยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า ในมือถือปืนลูกซองสั้นกระชับแน่นเล้งตรงมาที่ร่างเด็กหนุ่มผุ้ที้เพิ่งพุ่ง ร่างออกมาจากหน้าต่างห้องนอน
“พ่อเลี้ยงคำพงษ์ ”
“ไกรวิทย์ ”
เสียงบุคคลทั้งสองดังเรียกชื่อผู้อยู่ตรงหน้าพร้อมกัน ขณะที่พ่อเลี้ยงคำพงษ์ยังคงตกตะลึงอยู่ เสียงของชายฉกรรจ์ก็ดังลั่นขึ้นใบบ้าน..
“พ่อเลี้ยง มันฆ่าคุณหนูทั้งสองคน จับมันไว้ ”
ใบหน้าพ่อเลี้ยงคำพงษ์ตกตะลึงแว่บหนึ่งและเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นรุนแรง นิ้วในโกรางไกปืนกระดิกเพื่อสังหารเป้าหมายเบื้องหน้าทันที
—–เปรี้ยง———
ปราณในร่างไกรวิทย์ตื่นตัวก่อนที่นิ้วพ่อเลี้ยงสมพงษ์จะขยับ ร่างเด็กหนุ่มพลิกหลบลูกกระสุนอย่างเฉียดฉิว ก่อนวิ่งออกไปด้านหลังบ้านกระโดดข้ามรั้วเข้าสู่อนาคตที่มืดมนไม่ต่างจาก ความมืดสนิทของท้องฟ้ายามใกล้รุ่งเบื้องหน้า