ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

The Paradox บทที่ 3.4 จักรราศี

  1. Home
  2. The Paradox & The Zodiac by Buta
  3. The Paradox บทที่ 3.4 จักรราศี
Prev
Next

The Paradox บทที่ 3.4 จักรราศี

พุทธศักราช 2528

ห้อง ทรงกลมกว้างใหญ่นั้นดูเหมือนไร้ชีวิต ผนังทุกด้านประดับลวดลายแปลกตา แต่ไร้หน้าต่างและประตู แสงสว่างที่ปรากฏเรืองรองจนห้องสว่างราวกลางวันดูราวกับเป็นแสงที่เกิดขึ้น เองโดยปราศจากแหล่งกำเนิดใดๆ จากเบื้องบน แต่ถ้ามองไปบนเพดานโค้งรูปโดมที่ครอบคลุมห้องอยู่ จะพบแผนที่หมู่ดาวทั้งสิบสองราศี ที่ดวงดาวแต่ละดวงส่องประกายระยิบระยับราวกับเพชรที่กระทบแสงไฟ กลางห้องปราศจากเครื่องใช้ใดๆ มีเพียงตั่งลักษณะโบราณสิบสองตัวล้อมเป็นวงกลมเปิดพื้นที่ว่างตรงกลางที่ ตั้งแท่นหินสีดำสนิทเอาไว้ บนตั่งแต่ละตัวจัดวางลูกแก้วขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว สะท้อนแสงระยิบระยับจากดวงดาวบนเพดานจนเกิดประกายหลากสีสัน เช่นเดียวกับส่วนยอดของแท่งหินกลางห้องที่ประดับลูกแก้วไว้เช่นกัน แต่เป็นลูกแก้วที่ผ่านการเจียรนัยจนดูราวกับเพชรน้ำงามขนาดใหญ่

ท่าม กลางความเงียบ แสงสว่างเรืองรองพลันเริ่มก่อตัวขึ้นเหนือลูกแก้วลูกหนึ่งบนตั่ง ตามมาด้วยประกายแสงค่อยๆ เกิดขึ้นบนลูกแก้วจนครบทั้ง 12 ลูก กลุ่มก้อนของแสงหมุนเวียนเป็นเกลียวราวคลื่นน้ำก่อนรวมตัวเป็นภาพสตรีสาว12 นางปรากฏอยู่เหนือลูกแก้วแต่ละลูก..ไม่นานนักแสงสว่างทั้งหมดก็จางหายไปโดย ทิ้งภาพหญิงทั้ง 12 ลอยอยู่เหนือลูกแก้วราวกับภาพมายา ทุกร่างอยู่ในท่าขัดสมาธิ หลับตาพริ้มโดยไม่ปรากฏเสียงการสนทนาใดๆ

ประกาย แสงเริ่มก่อตัวขึ้นเหนือลูกแก้วลูกสุดท้ายที่ตั้งอยู่บนแท่งหินสีดำ มันแตกออกเป็นสีรุ้งที่เจิดจ้าและรวมตัวกลับมาเป็นร่างสตรีสาวในชุดผ้าโปร่ง บางสีขาว เผยให้เห็นวงหน้าที่งดงามเกินคำบรรยายใดๆ และเรือนร่างเปล่งปลั่งของวัยสาวที่ไม่สามารถซ่อนอยู่ภายใต้เนื้อผ้าโปร่ง ราวหมอกควันนั้นได้ ร่างงามเกินสตรีใดในโลกหล้าที่ลอยอยู่เหนือลูกแก้วกลางห้อง ทำให้ดูราวกับเป็นภาพเทพธิดาในความฝันที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกมนุษย์

‘ คารวะเทพสุรัสวดี’

กระแส จิตจากร่างสตรีทั้ง 12 กระจายไปทั่วห้องพร้อมกับการปรากฏร่างของสตรีงาม ดวงตาทุกคู่เปิดออกรับภาพสตรีผู้เป็นผู้นำแห่งจักรราศีเข้าสู่จักษุสัมผัส พร้อมเปิดรับกระแสจิตที่จะถ่ายทอดจากร่างสตรีผู้เป็นเสมือนเทพเจ้าเบื้อง หน้า

‘ขอต้อนรับพวกเจ้าสู่แชงกรีล่า’

สำเนียงเสนาะหวานใสกังวานขึ้นในจิตของสตรีทั้ง 12

‘ท่าน เทพสุรัสวดีมีบัญชาใดจึงทรงเรียกพวกเราทั้ง 12 มาชุมนุมกันอยู่ ณ แชงกรีล่าอันเป็นสถานที่เหนือโลกผ่านลูกแก้วเชื่อมภพ เท่าที่ข้าทราบไม่เคยปรากฏการชุมนุมของจักราศีทั้ง 12 ในสถานที่แห่งนี้พร้อมกันมาก่อน ทำให้ข้าเชื่อว่าท่านเทพต้องมีบัญชาสำคัญใดอย่างแน่นอน ดังนั้นขอท่านเทพโปรดบัญชาแก่พวกข้าที่พร้อมปฏิบัติภารกิจแห่งเทวะด้วย ชีวิต’

กระแสจิตที่กังวานทั่วห้องถูกส่งมาจากร่างหญิงสาววัยไม่เกิน 17 ปี ที่เบื้องบนเป็นตำแหน่งของดวงดาวจักรราศีมังกร ดวงตายาวรีที่ส่งประกายแวววาว บนผิวขาวผ่องและวงหน้ารูปไข่ที่ไร้ตำหนิ ทำให้เป็นใบหน้าของหญิงงามที่ยากพบพานในโลก

‘ธิดามังกรฟ้าแห่งราศีมังกรเข้าใจถูกต้องแล้ว เรามีเรื่องสำคัญยิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำรงอยู่ของจักรราศีมาหารือกับพวกเจ้า ’

กระแส จิตสดใสกังวานที่ถ่ายทอดไปยังสตรีทั้ง 12 ส่งผลให้เกิดกระแสจิตกระจายออกจากแต่ละร่างด้วยความแปลกใจและสงสัย เพราะนับตั้งแต่จักรราศีดำรงอยู่ ไม่เคยปรากฏคำพูดของผู้เป็นประมุขที่บอกถึงอันตรายต่อจักรราศีแม้แต่ครั้ง เดียว

‘ภารกิจปกป้องแสงสว่างทุกครั้งที่ผ่านมา เพียงเทวนารีแห่งจักราศีคนเดียวก็สามารถแก้ไขได้ อันตรายใดที่ร้ายแรงถึงขนาดจักราศีทั้ง 12 จักต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้อง ข้าเชื่อว่าเพียงธนูพิฆาตฟ้าในมือข้า ก็สามารถทำลายภัยคุกคามทุกประการได้แล้ว’

กระแสจิตจากร่างสตรีที่ นั่งอยู่ภายใต้ดวงดาวราศีธนู ดังกังวานขึ้น ทำให้ร่างของเทพสุรัสวดีหมุนตัวมาหาผู้ส่งกระแสจิต และมองภาพสตรีงามผมสั้นในเครื่องแต่งกายรัดกุมสัดส่วนที่เปล่งปลั่งสมบูรณ์ ไว้มิดชิด ด้วยความไม่พอใจจนปรากฏออกมาทางกระแสจิต

‘นารีธนู…อย่า บังอาจเสนอตัวโดยที่เรายังมิได้มีบัญชา ความใจร้อนวู่วามของเจ้าอาจพาให้ทุกประการพินาศ แม้พลังแห่งธนูพิฆาตฟ้าจะรุนแรงจนสามารถสลายทุกสิ่ง แต่ถ้าเจ้าไม่สามารถควบคุมตนเองได้ พลังนั้นจะกลับเป็นเครื่องทำลายตัวเจ้าเอง..’

ใบหน้าของนารีธนูเป็น สีแดงเข้มด้วยความอาย ดวงหน้างดงามสลดลงกับคำตำตำหนิและยุติความพยายามเสนอความเห็นในทันที ขณะที่กระแสจิตทุ้มต่ำนุ่มนวลดังขึ้นจากร่างสตรีที่นั่งอยู่ภายใต้ดวงดาว แห่งราศรีพฤษภ

‘ในฐานะที่วงรอบปีนี้ เราเป็นหัวหน้าของเทวนารีแห่งจักราศรี เราขอให้ทุกท่านยุติการสอบถามใดๆ ต่อท่านเทพสุรัสวดี และรอรับฟังคำบัญชาเท่านั้น’

ร่างเทพสุรัสวดี หมุนวนมาทางสตรีผู้กล่าวว่าจา และจับจ้องใบหน้ารูปกลมผุดผ่องที่อยู่บนเรือนกายอวบอัดสมบูรณ์ของตัวแทนแห่ง จักรราศีพฤษภที่ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่หัวหน้าเทวนารีประจำวงรอบโคจร ของดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เทวนารีแต่ละคนจะหมุนเวียนขึ้นรับตามลำดับเวลา วงหน้างดงามไร้ที่ติของเทพสุรัสดียังคงเรียบสนิทแต่ดวงตาทอประกายพอใจในคำ พูดของหญิงสาวเบื้องหน้า ก่อนส่งกระแสจิตสดใสกังวานในจิตของทุกคน

‘ เราเรียกพวกเจ้ามาทุกคนในวันนี้เพื่อรับฟังคำของโหราทาสแห่งจักราศี ที่ได้แจ้งต่อเราว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวในจักรวาลที่บ่งชี้ว่ากำลัง เกิดอันตรายต่อจักรราศี แต่แม้กระทั่งเราเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากมันยืนกรานว่าจะต้องบอกออกมาต่อหน้าเราและเทวนารีทั้งสิบสองเท่า นั้น ดังนั้นเราจึงเรียกพวกเจ้ามาเพื่อรับฟังพร้อมกัน…ส่งตัวโหราทาสเข้ามาได้’

วง กลมเรืองแสงเจิดจ้าพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศเบื้องหน้าของเทพสุรัสวดี แล้วรวมตัวเป็นร่างสตรีชราในอาภรรณ์สีขาวสะอาด ใบหน้าหญิงชราปรากฏริ้วรอยเหี่ยวย่นกระจายไปทั่วบ่งบอกถึงอายุขัยที่ยาวนาน แต่ดวงตานั้นกลับทอประกายเจิดจ้า และเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา

‘โหราทาสผู้ต่ำต้อยขอคารวะท่านเทพสุรัสวดีและเทวนารีทั้งสิบสอง’

กระแสจิตแจ่มใสขัดต่อวัยของโหราทาสดังขึ้น ขณะที่เทพสุรัสวดีส่งกระแสจิตตัดบท

‘เจ้าไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำไร้สาระ รีบแจ้งข่าวสารที่เจ้ารู้แก่เทวนารีเดี๋ยวนี้’

ดวงตาสดใสของโหราทาสทอแวววูบวาบก่อนหลับลงและเร่มถ่ายทอดกระแสจิต

‘ท่าน เทพสุรัสวดีและเทวนารีทั้งสิบสองคงทราบดีถึงเรื่องสงครามระหว่างเทพและอสูร ที่เกิดขึ้นบนโลกทุก 1 พันปีอยู่แล้ว กำหนดการต่อสู้ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในอีก 420 ปีข้างหน้า แต่จากการพยากรณ์ดวงดาวของข้าได้พบการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงของดวงดาวที่บอกให้ รู้ว่าเทพมารดาและมารดาอสูรได้ก่อกำเนิดในโลกแล้วเมื่อ 18 ปีก่อน…’

กระแสจิตของเทวนารีทั้ง 12 สั่นสะเทือนเล็กน้อย พร้อมกับกระแสจิตที่กราดเกรี้ยวดังขึ้นจากร่างสตรีที่นั่งในตำแหน่งราศีกรกฏ

‘หมาย ความว่าเทพและอสูรจะเริ่มสงครามก่อนกำหนดหรือ แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกันใดกับเรา เพราะจักรราศีไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในโลกแห่งปราณ เหตุใดท่านจึงคิดว่ามันจะกระทบกับจักรราศี…เราคิดว่า..’

กระแสจิตสตรีชราดังขึ้นขัดจิตของเทวะนารีแห่งราศีกรกฏ

‘ปุ ษษะเทวีกรุณารอรับฟังคำพูดของผู้ต่ำต้อยให้จบสิ้นก่อน เพราะถ้ามีเพียงการก่อกำเนิดของเทพมารดาและมารดาอสูร ผู้ต่ำต้อยคงไม่รบกวนจักราศี แต่เนื่องจากผู้ต่ำต้อยได้พบว่านอกจากเทพมารดาและมารดาอสูรแล้ว ดวงดาวยังบอกถึงการกำเนิดของธิดานาคราชและทาริกาอสุระตามมา ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้คุมธาตุทั้งสี่อันประกอบด้วยดิน น้ำ ลม ไฟ ได้กำเนิดตัวแทนในโลกมนุษย์แล้ว และหากมีผู้ใดสามารถครอบครองอุทกมาร อุทกเทพ วารีนาค และธารอสุระ จากพรหมจรรย์ของสตรีทั้งสี่เข้าประสานกับปราณของตนเองสำเร็จ ก็จะก่อเกิดสตรีที่เป็นปฐมธาตุทั้งสี่ขึ้นในโลก ……….’

‘กัลป์สูญ…นี่เจ้าหมายความว่าบุรุษผู้ครอบครองปฐมธาตุเกิดขึ้นแล้วหรือ…เหตุใดเจ้าจึงไม่บอกเราก่อนหน้านี้..’

กระแส จิตรุนแรงด้วยความโกรธพลุ่งอออกมาจากเทพสุรัสวดีทันทีที่โหราทาสกล่าวถึงปฐม ธาตุ ทำให้อากาศในห้องกว้างใหญ่สั่นสะเทือนจนร่างเทวนารีทั้งสิบสองสั่นระริก ขณะที่โหราทาสรีบฟุบร่างลงในท่ากราบกรานและตอบอย่างนอบน้อม

‘ผู้ต่ำ ต้อยได้ใช้วิชาเนตรจักรวาลกำหนดทราบจุดปรากฏของเทพมารดาและมารดาอสูร เมื่อ 8 ปีที่แล้ว และได้ส่งองครักษ์เทพผู้ฝึกวิชาปราณพิทักษ์เทพสองคนไปกำจัด แต่จิตทั้งสองคนต่างสูญหายไม่ปรากฏจิตกลับเข้าสู่ร่าง ทำให้ผู้ต่ำต้อยเชื่อว่าทั้งสองถูกอุทกมารอุทกเทพทำลายจิตของปราณพิทักษ์เทพ ไป แต่หลังจากนั้นดวงดาวแห่งมารดาอสูรและเทพมารดาก็ไม่ปรากฏอีก ผู้ต่ำต้อยจึงคิดว่าองครักษ์เทพทั้งสองได้กำจัดสตรีทั้งสองนางไปพร้อมกับตน เองแล้ว ดังนั้นผู้ต่ำต้อยจึงมิได้เรียนต่อท่านเทพสุรัสวดี แต่หลังจากนั้นผู้ต่ำต้อยตรวจพบการกำเนิดของธิดานาคราช และทาริกาอสุระ ทำให้ผู้ต่ำต้อยต้องอ้างคำสั่งท่านเทพสุรัสวดีสั่งการไปยังธิดามังกรฟ้า ให้บัญชาสำนักมังกรฟ้าส่งคนไปสังหารธาริกาอสุระในสถานที่ที่ผู้ต่ำต้อยใช้ วิชาเนตรจักรวาลกำหนดพบ แต่คนของสำนักมังกรฟ้ากลับสาบสูญไปโดยไร้ร่องรอย พร้อมกับดวงดาวแห่งทาริกาอสุระ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ต่ำต้อยฉุกใจคิดและได้เข้าไปค้นคว้าในหอคัมภีร์ จนพบว่าการที่ดวงดาวแห่งสตรีผู้เป็นตัวแทนธาตุทั้งสี่หายไปนั้นเป็นนิมิต หมายบอกว่า สตรีนั้นได้พบกับคู่ที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้รับพรหมจารีย์ของนางแล้ว ผู้ต่ำต้อยจึงรีบเข้ากราบเรียนท่านเทพสุรัสวดี เพื่อแจ้งให้รู้ว่าดวงดาวแห่งธิดารนาคราชยังคงปรากฏอยู่ และผู้ต่ำต้อยได้ใช้วิชาเนตรจักรวาลกำหนดสถานที่ที่จะพบสตรีนางนี้ได้แล้ว หากท่านเทพสามารถกำจัดนาง ธาตุทั้งสี่ก็จะไม่สมบูรณ์และไม่สามารถก่อเกิดบุรุษผู้สร้างกัลป์สูญได้ อย่างแน่นอน…ผู้ต่ำต้อยจึง…’

‘เจ้าบังอาจแอบอ้างคำสั่งข้าสั่งการองครักษ์เทพและธิดามังกรฟ้า…และจงใจปิดบังทุกสิ่งจากข้า… ’

กระแส จิตกราดเกรี้ยวสุดขีดจากเทพสุรัสวดีกระจายไปทั่วห้องโถง ขัดจังหวะการถ่ายทอดของโหราทาสด้วยความโกรธ ใบหน้างดงามเหนือโลกบิดเบี้ยวด้วยเพลิงโทษะที่พลุ่งขึ้นมา ขณะที่โหราทาสรีบระล่ำระลักตอบ

‘ผู้ต่ำต้อยมิได้ตั้งใจปิดบัง ผู้ต่ำต้อยเพียงไม่ต้องการรบกวนท่านเทพ ให้ต้องกังวลใจกับเรื่องเล็กน้อย แต่ในทันที่ที่ผู้ต่ำต้อยได้รับรู้ถึงการกำเนิดของกัลป์สูญ ผู้ต่ำต้อยจึงรีบกราบเรียนท่านเทพทันทีเพื่อให้ท่านเทพรับรู้และบัญชาเทวนา รีให้กำจัดต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด…ด้วยการสังหารธิดานาคราชเสีย..’

‘เหตุ ใดเจ้าจึงไม่ใช้วิชาเนตรจักรวาลกำหนดสถานที่อยู่ปัจจุบันของเทพมารดา มาดาเทพอสูร ทาริกาอสุระ เพื่อที่เราจะกำจัดพร้อมกันในคราวเดียว ทำไมจึงต้องมุ่งธิดานาคราชเป็นเป้าหมาย’

กระแสจิตทุ้มต่ำแต่มั่นคงของสตรีสาวที่นั่งอยู่ใต้ตำแหน่งจักราศีเมถุน ดังขึ้นถามโหราทาส

‘ท่าน มิถุกานารี แห่งราศีเมถุนคงไม่ทราบว่าวิชาเนตรจักรวาลคือการอาศัยกระแสปราณแห่งจักรวาล เชื่อมกับดวงดาวประจำตัวของเป้าหมาย โดยอาศัยจุดเปลี่ยนของชีวิตคนผู้นั้นเป็นจุดอ้างอิง ทำให้สามารถกำหนดสถานที่ได้เพียงครั้งเดียวในชั่วชีวิต ดังนั้นการที่ดวงดาวสูญหายไป และบุคคลนั้นผ่านจุดเปลี่ยนของชีวิตไปแล้ว วิชาเนตรจักรวาลจึงไม่สามารถค้นหาได้อีกต่อไป……’

โหราทาสตอบคำถามของมิถุกานารีอย่างนอบน้อม ก่อนที่กระแสจิตที่รุนแรงของเทพสุรัสวดีจะดังกังวานขึ้นในจิตทุกคน

‘โหราทาส เจ้าจองบอกเวลาและสถานที่ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของธิดานาคราชเดี๋ยวนี้ …’

‘สตรี นางนี้จะปรากฏที่ใจกลางเมืองหลวงแห่งประเทศไทย ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2528 เวลา ยามห้า หรือ 19.00 น. เป็นสถานที่โรงแรมชั่วคราวสำหรับชายหญิงร่วมรักชื่อปิ๊ปอินน์ ’

โหรา ทาสตอบคำถามของเทพสุรัสวดีอย่างบอบน้อม ขณะที่ดวงตาสตรีผู้เป็นศูนย์กลางแห่งจักราศี จับจ้องร่างหญิงชราด้วยความโกรธเกรี้ยว และส่งกระแสจิตกระจายทั่วห้องในทันที่ที่โหราทาสบ่งบอกข้อมูลทั้งหมดจบ

‘ธิดามังกรฟ้า กรุงเทพเป็นที่ตั้งของสำนักมังกรฟ้าที่อยู่ใต้บัญชาของเจ้า เจ้ามีแผนการอย่างไรที่จะกำจัดธิดานาคราช..’

ธิดามังกรฟ้าก้มศีรษะลงแล้วส่งกระแสจิตตอบอย่างมั่นใจ

‘ข้า จะสั่งการให้ถังฮวงผู้เป็นบิดาของข้า นำกำลังของมังกรฟ้าทั้งหมดเข้าควบคุมสถานที่ที่ธิดานาคราชจะปรากฏตัว ด้วยพลังปราณของบิดาข้าและสาวกแห่งมังกรฟ้า ไม่มีผู้ทรงปราณใดในโลกหล้าจะช่วยให้ธิดานาคราชพ้นจากความตายได้แน่นอน…’

เทพสุรัสวดีนิ่งฟังธิดามังกรฟ้า แล้วพยักหน้ารับ

‘ถัง ฮวงเป็นบุคคลที่มีปราณระดับสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะฝึกปรือ จนแทบจะสามารถเทียบเคียงกับเทวะนารีทั้ง 12 นั่นเป็นตัวเลือกที่ดีและข้าขอมอบหน้าที่นี้ให้แก่ธิดามังกรฟ้า..’

สตรีงามผู้เป็นตัวแทนแห่งจักรราศีเมษก้มหน้ารับคำบัญชา พร้อมส่งกระแสจิตต่อคณะเทวนารี

‘ข้า จะรับหน้าที่นี้เอง แต่ข้ามีข้อสงสัยถึงการสูญหายของ องครักษ์เทพทั้งสอง และองครักษ์กวงเม้งของสำนักมังกรฟ้าที่ผ่านมา ว่าเกิดขึ้นในสถานที่ใด และในพื้นที่นั้นมีผู้ทรงปราณใดที่สามารถทำลายปราณพิทัษ์เทพและปราณมังกรฟ้า ได้’

โหราทาสเงยหน้าขึ้นสบตาธิดามังกรฟ้า ก่อนตอบอย่างแผ่วเบา

‘องครักษ์ เทพทั้งสองสูญจิตที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ผู้ต่ำต้อยได้สั้งการให้เครือข่ายของมังกรผ้าตรวจสอบผู้ทรงปราณแล้วพบว่ามี สำนักปราณอยู่ 4 แห่ง แต่เป็นเพียงปราณระดับต่ำที่มุ่งเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายภายนอก แต่มีจุดที่ผู้ต่ำต้อยสงสัยอยู่อีกหนึ่งจุดคือมีคหบดีใหญ่ในจังหวัด เชียงใหม่ใช้นามสกุลคชสีห์…’

‘ปราณคชสีห์……….’
‘มันเกี่ยวข้องอันใดกับปราณคชสีห์..’
‘ปราณลึกลับนี้ปรากฏขึ้นในโลกอีกแล้วหรือ…’
‘ปราณคชสีห์ทำลายปราณเทพพิทักษ์…เป็นไปไม่ได้……’

กระแสจิตของเทวนารีดังขึ้นเซ็งแซ่ด้วยความตื่นตระหนกทันทีที่โหราทาสเอ่ยชื่อคชสีห์ ทำให้โหราทาสต้องรีบส่งจิตให้ข้อมูลสืบต่อ

‘แต่ จากการเฝ้าติดตามดูของสาวกตำหนักมังกรฟ้า ไม่พบว่าคนในตระกูลนี้เกี่ยวข้องใดๆ กับปราณคชสีห์ และผู้นำตระกูลก็เป็นเพียงคหบดีที่ปกระกอบธุรกิจตามปกติ …….’
‘โหราทาส เจ้าบังอาจสั่งการสาวกสำนักมังกรฟ้าให้ทำงานให้โดยไม่ผ่านข้าได้อย่างไรกัน…’

ธิดา มังกรฟ้าส่งกระแสจิตตวาดโหราทาสในทันทีที่ทราบว่ามีการใช้บริวารของมังกรฟ้า ทำหน้าที่สอดแนมตระกูลคชสีห์โดยไม่แจ้งให้ธิดามังกรฟ้าผู้เป็นนายเหนือรับ รู้

‘ผู้ต่ำต้อยผิดไปแล้ว..ท่านเทวนารีแห่งจักรราศีเมษอภัยให้ข้าด้วย’

โหราทาสลนลานก้อมตัวกราบกรานธิดามังกรฟ้าเพื่อขอภัย ขณะที่กระแสจิตของเทพสุรัสวดีดังกังวานขึ้น

‘เรา คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญที่องครักษ์เทพทั้งสองสูญหายไปในพื้นที่ ซึ่งมีผู้ใช้นามสกุลคชสีห์ปรากฏอยู่ อย่าลืมว่าปราณคชสีห์เป็นปราณลึกลับที่เกิดจากการผสานปราณมืดและสว่างเข้า ด้วยกัน ทำให้มันทีคุณสมบัติที่จะรองรับอุทกมาร อุทกเทพได้พร้อมกัน เราขอบัญชาให้เทวนารีแห่งราศีเมถุนจงส่งคนในตระกูลโรหิณีของท่านไปสืบราย ละเอียดของตระกูลคชสีห์มาให้เราเป็นการด่วน…’

‘มิถุกานารี น้อมรับบัญชาท่านเทพ…และข้าจะทำหน้าที่นี้ด้วยตนเองเพื่อประกันความมั่นใจ ว่าหากพวกมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับปราณคชสีห์ ข้าจะทำลายมันทั้งหมดมิให้มีโอกาสเกิดอันตรายได้’

ประมุขแห่งตระกูลโรหิณีตอบรับบัญชาอย่างนอบน้อม แต่กระแสจิตของธิดามังกรฟ้ากลับขัดขึ้นในทันที

‘ตอน นี้พี่ชายข้าคือ ถังหลิน ผู้เป็นองรักษ์อันดับหนึ่งแห่งสำนักมังกรฟ้ากำลังตรวจเส้นทางลำเลียงสินค้า จากพม่าเข้ามาในไทย และกำลังอยู่ในเชียงใหม่ ข้าอยากขออนุญาตท่านเทพให้พี่ชายข้ากระทำภารกิจนี้’

การขัดหน้าที่ของธิดามังกรฟ้าทำให้มิถุกานารีหันมามองด้วยสายตาไม่พอใจ แต่กลับสลายลงเมื่อเทพสุรัสวดีมีบัญชาตอบ

‘ธิดา มังกรฟ้าจงรับหน้าที่บัญชาการสังหารธิกานาคราช และให้มิถุกานารี ทำหน้าที่สืบตระกูลคชสีห์ นี่เป้นคำบัญชาของข้า..มิต้องโต้แย้งอีกแล้ว ส่วนเจ้า…’

เทพสุรัสวดีหันมาทางโหราทาสที่ยังคงฟุบร่างอยู่เบื้องหน้า

‘เจ้า บังอาจทรยศความไว้วางใจของข้า ด้วยการแอบอ้างชื่อข้าไปสั่งการมังกรฟ้า และปิดบังข้าไม่ให้รู้ถึงการกำเนิดของสตรีแห่งธาตุทั้งสี่ จนเกือบสายเกินไปที่จะแก้ไข ข้าขอลงโทษเจ้าด้วยการถอดออกจากตำแหน่งโหราทาส และให้ธิดามังกรฟ้าคุมตัวมันทิ้งลงไปในบ่อเทวะมังกรที่สำนักมังกรฟ้าให้มัน พบกับทัณฑ์ทรมาณที่สุดก่อนตาย…เอาตัวมันไป’

ท่านกลางเสียงคราว ญครางขออภัยจากโหราทาส ธิดามังกรฟ้าลอยตัวประทับมือผุดผ่องลงบนศีรษะโหราทาส ร่างหญิงชราพลันสลายเป็นวงแสงเล็กๆ ในอุ้งมือของธิดามังกรฟ้า พร้อมกับที่เทพสุรัสวดีลุกขึ้นยืนและประกาศบัญชา

‘ผู้ผิดพลาดต้องถูก ลงโทษ ผู้ประกอบความชอบจะได้รับรางวัล ข้าขอบัญชาให้เทวนารีทั้งสิบสอง ให้เตรียมคัดเลือกกุมารีในสังกัดเพื่อฝึกปราณประจำตระกูลของพวกเจ้า และพวกเจ้าต้องถ่ายทอดปราณชีวิตทั้งหมดกับกุมารีในสังกัดที่พวกเจ้าเลือกไว้ ในทันทีที่พวกเจ้าอายุครบ 25 ปีอันเป็นวาระผลัดเปลี่ยนของเทวนารีแห่งจักรราศีรุ่นใหม่ หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ถูกคัดเลือกทั้งหมดมารับถ่ายทอดปราณแห่งจักรราศี เพื่อทำหน้าที่เทวนารีต่อจากพวกเจ้า’

ความเงียบเข้าปกคลุมในทันทีที่ กระแสจิตของเทพสุรัสวดีสิ้นสุด สตรีงามทั้ง 12 หันมามองหน้ากันอย่างุนงงกับคำสั่งที่เปรียบได้กับการประหารชีวิต เพราะหากถ่ายทอดปราณชีวิตออกไปทั้งหมด ผู้ถ่ายทอดจะคงเหลือแต่เพียงร่างกายที่ปราศจากปราณไม่ต่างจากคนธรรมดา ซึ่งเท่ากับถูกตัดขาดจากโลกผู้ทรงปราณอย่างสิ้นเชิง

‘เรารู้ดีว่าพวก เจ้ากำลังไม่พอใจกับคำสั่งของเรา แต่ขอให้พวกเจ้าพึงระลึกว่าหากเทวนารีรุ่นต่อไปต้องเผชิญกับกัลป์สูญ โดยมีเพียงปราณแห่งจักราศีหนุนเสริมดังเช่นพวกเจ้าทุกคน พวกนางอาจเพลี่ยงพล้ำต่อศัตรูได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องขอให้พวกเจ้าทุกคนสละปราณชีวิตเพื่อให้วิชาประจำ สำนักของพวกเจ้าทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้ทายาท ซึ่งนั่นจะทำให้เทวนารีรุ่นต่อไปผนึกปราณดั้งเดิมกับปราณจักรราศีจนกำเนิด ปราณสูงสุดที่สามารถต่อกรกับกัลป์สูญ…พวกเจ้ายินยอมสละปราณหรือไม่…’

กระแสจิตที่เปี่ยมอำนาจของเทพสุรัสวดีซึ่งกังวานก้องในจิตของเทวะนารีทั้งสิบสอง ทำให้หญิงสาวทุกคนก้มหน้าลงรับคำบัญชาโดยไม่โต้แย้ง

‘พวกเจ้าทุกคนจงกลับไปคัดเลือกเด็กหญิงวัย 8-10 ปี แล้วแจ้งมาให้เราทราบโดยเร็วที่สุด..’

ร่าง งามที่เหนือความงามของสตรีใดในโลก พลันเปล่งประกายแสงเจิดจ้าจนแทบไม่อาจมองด้วยตาก่อนหายวับไป ขณะที่ร่างสตรีทั้ง 12 ก็เริ่มเลือนหายตามไป จนความมืดและความเงียบกลับเจ้าครอบครองห้องดังที่เคยเป็นมา

——————————————–

เสียง คลื่นน้ำกระแทกก้อนหินริมห้วยใต้บ้านพักและเสียงร้องของนกที่เริ่มออกหากิน ยามเช้าปลุกผมจากห้วงนิทรา ไอเย็นของอากาศยามเช้าที่แสนสดชื่นกลางป่าในเดือนมกราคม ทำให้ทุกชีวิตในบ้านพักหลังนี้ยังคงอยู่ภายใต้นิทรารมย์ภายใต้ผ้าห่มอัน อบอุ่น หลังจากการร่วมรักที่เร่าร้อนดำเนินมาค่อนคืน

เรือนกายอบอุ่น ที่เบียดชิดอยู่ข้างผมก่ายขาขึ้นมากอดผมไว้ ขณะที่เจ้าของขาส่งเสียงงึมงำราวกับกำลังฝันถึงการสนทนากับใครบางคน ผมพลิกศีรษะไปจับจ้องใบหน้าอ่อนหวานของน้องกิฟท์อย่างเอ็นดู ขณะที่ร่างกายสัมผัสความเนียนนุ่มของเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เบียดแน่นอยู่ กับร่างเปลือยของผม เวลาที่ผ่านไป 8 ปีนับแต่วันที่ผมกับน้องรินและน้องกิฟท์กลายมาเป็นคนๆ เดียวกัน ทำให้เรือนร่างน้องกิฟท์เปลี่ยนแปลงจากเด็กสาวจอมแก่นที่แสนซุกซน มาเป็นหญิงสาวสะพรั่งสมวัย 18 ปี ที่เพิ่งจบการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์จุฬา ด้วยอายุที่น้อยเป็นประวัติการณ์ จากการสอบเทียบในระดับ ม.ศ.4 และการเรียนอย่างเต็มที่จนจบการศึกษาเพียง 3 ปีครึ่ง ผมพิจารณาใบหน้าเด็กสาวที่ผมแสนรักด้วยความเอ็นดู ดวงหน้านั้นยังคงความอ่อนเยาว์ที่ดูราวกับเด็กสาวอายุ 15-16 มาโดยตลอด ขณะที่ร่างกายที่เคยผอมบางกลับมีเนื้อหนังขึ้นในทุกส่วน โดยเฉพาะหน้าอกที่ตูมตั้งเต็มมือแต่ยังคงความเต่งตึงของไว้สาวไว้อย่างเต็ม ที่ นวลเนื้อหน้าอกคู่งามที่เบียดแน่นอยู่กับแขนผมจนรู้สึกได้ถึงหัวนมเม็ดน้อย สัมผัสท่อนแขน ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปลูบไล้เรือนร่างนุ่มเนียนลงไปถึงสะโพกกลม กลึงเบื้องล่างเพื่อสัมผัสผิวกายเนียนละเอียดที่ทำให้ผมไม่เคยเบื่อหน่ายการ ร่วมรักกับน้องกิฟท์เลยแม้แต่น้อย

สะโพกอวบอิ่มใต้ฝ่ามือผมขยับ เล็กน้อยและเคลื่อนมาอัดเนินนูนกับสะโพกด้านข้างของผมจนรับรู้ได้ถึงแรงดีด สะท้อนของแคมรักและความเปียกชื้นจากคราบน้ำรักที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ขณะที่ดวงตากลมโตใสแจ๋วของน้องกิฟท์ค่อยๆ เปิดขึ้นและยิ้มให้ผมอย่างอายๆ เมื่อพบว่าผมกำลังจับจ้องใบหน้าน่ารักนั้นอยู่

‘พี่เอตื่นแต่เช้าเชียว’

กระแส จิตน้องกิฟท์ที่ดังขึ้นในสมองผม ทำให้ผมอดคิดไปถึงการถ่ายปราณระหว่างผมกับน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียวตลอด 5 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ เพราะปราณที่ผมเองยังไม่รู้ว่าจะกำหนดชื่ออย่างไรนี้ นอกจากจะมีพลังในการทำลายล้างที่น่ากลัวแล้ว มันยังสามารถปรับปราณคชสีห์ในร่างเมียรักทั้งสามคนของผมให้กลายเป็นปราณรูป แบบเดียวกันได้ในทันที ซึ่งนอกจากจะทำให้ทุกคนทีปราณที่เข้มแข็งที่สุดแล้ว ยังทำให้เกิดการสื่อกระแสจิตระหว่างกันได้อย่างสมบูรณ์ จนทำให้ในแต่ละวันผมแทบไม่ต้องเปล่งเสียงพูดเลย เพราะเพียงแต่คิดที่จะสื่อสารกระแสจิตของผมกับน้องทั้งสามก็สามารถเชื่อมกัน ได้ตลอดเวลา แต่น่าเสียดายที่ความสามารถพิเศษทางการสื่อสารนี้กลับจำกัดเฉพาะผมเท่านั้น ในขณะที่น้องรินน้องกิฟท์และเหมียวกลับไม่สามารถสื่อสารกันเองผ่านกระแสจิต ได้

‘พี่ตื่นนานแล้วล่ะ นอนดูกิฟท์อยู่ กิฟท์น่ารักมาเลยรู้ไหม’

ผมส่งกระแสจิตตอบเมียรักอย่างอ่อนโยนขณะที่มือก็เคลื่อนไปกุมเนินนูนอวบอิ่มไว้และคลึงเคล้นมันเบาๆ จนน้องกิฟท์ต้องพยายามส่ายสะโพกหนี

‘พี่เอเนี่ย..เมื่อคืนยังไม่พออีกหรือ..จะปลุกอารมณ์กิฟท์แต่เช้าอีกแล้ว…’
‘ก็ใครให้กิฟท์มากอดพี่แบบนี้ล่ะ..’

ผมตอบกลับทางจิตอย่างยั่วเย้า ขณะที่นิ้วพยายามแทรกผ่านร่องหลืบไปหาความรัดรึงภายใน

‘พะ.. พะ..พอก่อนเถอะพี่เอ…กิฟท์ยังไม่ได้ล้างหีเลย …ขอกิฟท์อาบน้ำก่อน เดี๋ยวกินข้าวเช้าเสร็จถ้าพี่เอต้องการกิฟท์จะมาเย็ดกับพี่เอนะ…’

ผม พยักหน้ารับและปล่อยให้ร่างสูงโปร่งงดงามลุกขึ้นจากเตียงก้าวไปห้องน้ำ แล้วหันกลับมายังร่างน้องรินที่ยังนอนหลับอยู่ทางด้านซ้าย ใบหน้า
น้อง รินเมียคนแรกของผมยังคงความน่ารักของเด็กสาววัย 12 ไว้อย่างเต็มที่ ริมฝีปากที่เผยออกเล็กน้อยเผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของใบหน้าต่อสายตาทุกคนที่พบเห็น แม้วันนี้น้องรินจะมีอายุย่างเข้า 19 ปี และจบการเรียนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ 4 ปีและพร้อมที่ศึกษาในคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนน้องรินจะหยุดอายุตัวเองไว้ที่สภาพของเด็กสาววัย 15-16 เช่นเดียวกับน้องกิฟท์ อย่างไรก็ตามร่างกายทุกส่วนกลับเติบโตขึ้นสู่ความเป็นหญิงสาวอย่างสมบูรณ์ เนินอกอิ่มที่ปรากฏพ้นจากผ้าห่มเป็นสีขาวนวลที่ยิ่งเพิ่มความเปล่งปลั่ง เมื่อกระทบแสงอสว่างยามเช้าที่ส่องผ่านกระจกเข้ามา ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปจับชายผ้าห่มและยกมันขึ้นอย่างระมักระวัง จนผ้าห่มทั้งผืนเลื่อนตกไปทางด้านข้างเปิดให้ผมเห็นเรือนร่างเปลือยงดงงาม ของน้องรินทุกสัดส่วนต่อสายตา

หน้าอกกลมกลึงที่ประดับด้วยเม็ดยอดสี ชมพูเคลื่อนตัวขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ อวดขนาดที่เติบโตจากผลส้มขนาดเล็กในอดีตมาเป็นผลแอปเปิลที่ได้รูปทรงกลมกลึง งดงามไร้ตำหนิ ลาดท้องเนียนเรียบลงไปจนโค้งขึ้นอีกครั้งในส่วนเนินนูนอวบอิ่มที่ประดับด้วย ทิวขนละเอียดนุ่มเนียน แต่ก็ไม่สามารถปกคลุมความเปล่งปลั่งของสองแคมอวบอิ่มที่ดันตัวสูงขึ้นได้ เรียวขาตรงปราศจากไขมันส่วนเกินแม้แต่น้อยยาวเรียวลงไปถึงปลายเท้าที่แยกออก จากกัน จนเปิดช่องให้สายตาผมเล้าโลมร่องหลืบสีชมพูเข้มที่ยังคงมีคราบน้ำรักเกาะ อยู่อบย่างชัดเจน ความงามสมบูรณ์ของน้องรินและน้องกิฟท์ทำให้ผมอดคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผม ต้องสูญเสียน้องทั้งสองไป พร้อมกับความตื้นตันหัวใจที่ผมมีโอกาสแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำให้น้องทั้ง สองได้กลับมาอยู่ร่วมชีวิตกับผมในปัจจุบัน

ผมก้มหน้าลงจูบริมฝีปาก เรียวบางเบื้องหน้าอย่างอ่อนโยน ลมหายใจหอมกรุ่นของน้องรินกระจายผ่านเข้ามาในช่องปากให้ผมสัมผัส ริมฝีปากน้อยๆ อ้าออกรับการจูบพร้อมกับสองแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอผมไว้แต่ดวงตาเด็กสาวยัง คงหลับพริ้มขณะกระแสจิตถูกส่งเข้ามาสมองผม

‘เช้าแล้วหรือนี่ รินรักพี่เอจัง’
‘พี่ก็รักรินที่สุด…’

ผมส่งจิตตอบขณะที่มือเริ่มเคล้าคลึงความหยุ่นตึงของน้าอกเต่งไปมาจนหัวนมเสีชมพูเริ่มแข็งตัวรับอย่างช้าๆ

‘รัก แค่ไหนก็อย่าเพิ่งเย็ดรินเลยนะ…พี่เอไปเย็ดเหมียวก่อนเถอะ..เมื่อคืน เหมียวทำงานอยู่ในห้องทดลองจนดึก ไม่ได้เข้ามานอนกับพวกเราที่ห้อง …’

ผมดึงร่างลงซุกกลางทรวงอกอวบอิ่ม เม้มเม็ดยอดน่ารักในปากก่อนใช้ลิ้นดุนดันจนมันแข็งตัวชูชัน ขณะส่งจิตตอบน้องริน

‘ขอพี่ชื่นใจน้องรินก่อนไม่ได้หรือ..’
‘อย่า เพิ่งเลยพี่เอ…อุตส่าห์มาที่บ้านเล็กทั้งที เหมียวเป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้เย็ดกับพี่เอเลย…พี่เอเย็ดเหมียวก่อนดีกว่า รินไม่ไปไหนหรอก..นะพี่เอนะ..’
‘ปากบอกไม่เอา ๆ แต่ข้างล่างนี่พร้อมแล้วไม่ใช่หรือ..’

ผม เย้าน้องริน เมื่อมือลูบล้ลงไปถึงร่องรักอวบอิ่มที่เริ่มมีน้ำหล่อลื่นเอ่อซึมออกมา ทำให้น้องรินรีบบิดสะโพกหนีการรุกรานแล้วพลิกตัวลงจากเตียง ก่อนส่งจิตกลับมาด้วยท่าทีแง่งอน

‘ก็พี่เอปลุกทั้งนมทั้งหีแบบนี้ รินจะไปทนได้ยังไง…ไม่เอาแล้วเดี๋ยวรินไปอาบน้ำก่อนดีกว่า พี่เอไปหาเหมียวเถอะ’

ขาดคำร่างเมียรักผมก็เดินตรงไปที่ประตูห้องน้ำแล้วเปิดออก พร้อมเสียงร้องของน้องกิฟท์

“ว๊าย…พี่ริน เปิดเข้ามาทำไม กิฟท์อาบน้ำอยู่นะ..”
“ก็พี่หนีพี่เอมาน่ะซี..คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ชอบปลุกอารมณ์ทุกทีเลย…”
“เมื่อกี้กิฟท์ก็หนีมา…ไม่งั้นโดนเย็ดยามเช้าอีกแน่ๆ หีบวมพอดี…”
“งั้นพี่อาบด้วยคนนะ…”
“ฮิ ฮิ…หีพี่รินก็เลอะไปหมดเลย…เมื่อคืนกี่รอบกันแน่เนี่ย…”
“บ้า..ยายกิฟท์…บ้า…”

เสียง สองสาวหยอดเย้ากันอย่างเบิกบาน ทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อรับรู้ถึงชีวิตครอบครัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น อย่างสมบูรณ์ในสถานที่แห่งนี้ ผมลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ภาพเบื้องล่างคือลำห้วยแห่งความทรงจำอันเป็นสภถานที่ซึ่งผมร่วมรักกับน้อง รินเป็นครั้งแรก บ้านพักหลังนี้ปลูกขึ้นเมื่อปีที่แล้วหลังจากที่ความเจริญเริ่มคืบคลานเข้า ไปยังพื้นที่พุทธมนฑลอันเป็นที่พักของเหมียว และเริ่มมีผู้คนมาจับจองพื้นที่ปลูกบ้านจำนวนมาก จนเพื่อนรักที่กลับมาเป็นเมียของผมเกรงว่าจะมีผู้ล่วงรู้ความลับที่ซุกซ่อน อยู่ของห้องทดลอง ดร.หวังปิง ผู้เป็นบิดา ทำให้ผมเสนอที่จะโยกย้ายห้องทดลองของ ดร.หวังปิงขึ้นมาที่เชียงใหม่ และใช้พื้นที่ในป่าแห่งนี้ที่ผมขอให้คุณพ่อซื้อไว้จากผู้ครอบครองเดิมที่ เป็นชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง มาก่อสร้างบ้านพักและเรือนรับรองแบบรีสอร์ท 3 หลังไว้ที่ตำแหน่งกลางเนินเขาที่สามารถมองลงมาเห็นลำห้วยแห่งความทรงจำได้ อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันผมก็ใช้กำลังกายของตนเองและความช่วยเหลือของน้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว ร่วมกันสร้างทางเชื่อมจากบ้านพักหลักลงมายังถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เนินเขา อย่างลับๆ ซึ่งผมและน้องๆ ทุกคนเรียกกันว่าบ้านเล็ก เป็นพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ตกทอดมาจาก ดร.หวังปิง การก่อสร้างและโยกย้ายอุปกรณ์ดำเนินไปด้วยความยากลำบาก แต่ในที่สุดทุกสิ่งก็เสร็จสิ้น ซึ่งเมื่อหลังจากผมจบการศึกษาจากคณะวิศกรรมศาสตร์พร้อมเหมียว และน้องกิฟท์จบจากคณะอักษรศาสตร์ในอีกสองปีต่อมา พร้อมกับที่น้องรินจบหลักสูตรวิทยาศาสตร์การแพทย์ พวกเราทุกคนก็ย้ายมาพักที่นี่เป็นการถาวรเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ระหว่าง ที่ผมจบการศึกษาผมก็เริ่มก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ของตนเองขึ้นใน จ.เชียงใหม่ โดยมีเหมียวร่วมทำงานเพื่อนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์จากบริษัท IBM และเริ่มติดต่อกับ Bill Gate อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดที่กำลังเริ่มต้นกิจการบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ คอมพิวเตอร์ที่ชื่อไมโครซอฟท์ ที่กำลังเริ่มวิจัยโปรแกรมควบคุมระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล พร้อมเสนอเงินร่วมลงทุนที่ผมขอให้คุณพ่อจำนองทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่กับ ธนาคาร มาแลกกับการเข้าเป็นหุ้นส่วนของไมโครซอฟท์และขอรับผลประโยชน์ 10 เปอร์เซ็นต์จากผลประกอบการจนเป็นผลสำเร็จ แม้ในครั้งแรกคุณพ่อผมจะลังเลใจกับการทุ่มทุนทั้งหมดลงไปในตลาดหลักทรัพย์ ต่างประเทศ จนเป็นหนี้ธนาคารจำนวนมหาศาล แต่หลังจากผลกำไรงวดแรกถูกส่งมาถึงก็ทำให้คุณพ่อคลายความกังวลใจไปในทันที และผมก็รู้ว่าในปีหน้าซึ่งไมโครซอฟท์จะเข้าตลาดหุ้นเป็นครั้งแรก ผมในฐานะผู้ถือหุ้น 10 เปอร์เซ็ฯต์จะได้รับเงินปันผลจำนวนมหาศาลต่อเนื่องไปจนถึงปี 2535 ซึ่งจะทำให้ผมไม่ต้องกังวลกับการดำเนินธุรกิจอีกต่อไป และสามารถทุ่มเทชีวิตกับการต่อสู้กับจักรราศีได้อย่างเต็มที่โดยมีรากฐานทาง การเงินที่มั่นคงสนับสนุน

‘พี่เอคิดอะไรอยู่’

กระแสจิตที่ อ่อนโยนของน้องรินส่งมากระทบสมองพร้อมกับร่างที่ผมแสนรักของน้องรินน้อง กิฟท์ก้าวเข้ามายืนขนาบซ้ายขวา ผมโอบเอวคอดกิ่วของเมียรักทั้งสองไว้เบาๆ ก่อนส่งกระแสจิตให้ทั้งสองคนพร้อมกัน

‘พี่คิดว่าน่าจะไประลึกความหลังที่โคนต้นรังดูสักทีจะดีไหมนะ…’
‘พี่เอเนี่ย…’

น้องรินทุบแขนผมหนักๆ ใบหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกขณะที่น้องกิฟท์หัวเราะกิ๊กออกมา

“ไม่ เอาแล้ว..เดี๋ยวรินกับกิฟท์จะไปดูเพื่อนๆ รินก่อนนะ ไม่รู้ตื่นกันหรือยัง เห็นว่าวันนี้อยากจะเล่นน้ำในห้วยและทำบาร์บีคิวกินกันที่ลานหินข้างล่าง ด้วย…ไปกันเถอะกิฟท์..”

น้องรินเอ่ยปากออกมาเพื่อให้น้องกิฟท์รับ รู้ด้วย ก่อนชวนให้ไปยังบ้านพักแขกด้วยกัน ผมมองตามร่างทั้งสองที่หายลับไปจากประตูห้อง ด้วยความเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เปิดโลกยามเช้ากับเรือนร่างงดงามของน้อง รินน้องกิฟท์ แต่ก็เข้าใจดีเพราะบนบ้านพักแขกมีเพื่อนสาวจากมหาวิทยาลัยของน้องรินสองคนมา พักด้วย เด็กสาวทั้งสองเดินทางมาจากกรุงเทพฯ พร้อมน้องรินในทันทีที่สอบปลายภาพเสร็จสิ้นและมาส่งน้องรินที่ขอโอนหน่วยกิต จากกรุงเทพฯ มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการตัดสินใจของน้องรินเองที่ต้องการจะอยู่ร่วมกับผมโดยไม่ต้องใช้ ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ คนเดียว หลังจากน้องกิฟท์ ได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์ในคณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในทันทีที่ เรียนจบ

ผมใช้เวลาไม่นานนักสำหรับการอาบน้ำชำระร่างกายยามเช้า ก่อนออกจากห้องนอนไปยังชั้นล่างของบ้านพัก แล้วกดสวิทว์ลับที่ซ่อนอยู่ที่ชั้นหนังสือ ทำให้ตู้หนังสือเลื่อนเปิดทางให้ผมลงไปยังพื้นที่ด้านล่างของตัวบ้านซึ่ง เป็นที่ตั้งของบ้านเล็กในอดีต แต่ตอนนี้มันกลับเป็นห้องเก็บเอกสารโบราณของตระกูลคชสีห์และห้องทดลองทาง วิทยาศาสตร์ของเหมียวที่นมาจากบ้านเดิม

พื้นที่เล็กๆ ที่เคยเป็นถ้ำธรรมชาติถูกปรับแต่งให้เป็นห้องกว้างที่เย็นสบายด้วยระบบปรับ อากาศซึ่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่อาจมีผลต่อเอกสาร ตู้หนังสือขนาดใหญ่เรียงรายรอบพื้นที่ โดยมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องแต่ไม่มีร่างของเหมียวปรากฏให้เห็น ทำให้ผมก้าวไปทางด้านหลังของถ้ำ ซึ่งเป็นส่วนขยายที่ผมพบโดยบังเอิญระหว่างใช้ปราณทำลายก้อนหินที่เกะกะ พื้นที่เมื่อสองปีที่ผ่านมา แต่กลับเป็นการเปิดทางไปสู่ถ้ำอีกแห่งหนึ่งที่มีขนาดกว้างกว่าบ้านเล็กหลาย เท่า กลายเป็นพื้นที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการติดตั้งเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ของเหมียว และบ่อยครั้งที่เหมียวจะลงมาอทำการค้นคว้าทดลองอยู่ที่ห้องนี้จนดึกดื่นและ ค้างคืนในห้องทดลองแทนที่จะเป็นห้องพัก ทำให้ผมต้องหาเตียงนอนและอุปกรณ์อำนายความสะดวกในการใช้ชีวิตมาติดตั้งเพิ่ม เติมให้เหมียวใช้พักผ่อนระหว่างการทำงาน

ก่อนที่ผมจะเปิดประตูเหล็ก เข้าไปยังห้องทดลอง สายตาผมก็กระทบกับกล่องเหล็กขนาด 1 ฟุตที่ติดตั้งอยู่กับผนังน้ำและมีสายไฟระโยงระยางออกมาราวกับต้นไม้ใหญ่เดิน สายไปตามผนังห้อง บางเส้นก็เดินขึ้นสูงไปยังตัวบ้านด้านบนแต่ส่วนใหญ่ฝังต่อเข้าไปในห้องทดลอง ผมรู้ว่าสิ่งที่บรรจุภายในกล่องคือเซลพลังงานต้นแบบที่สร้างขึ้นโดย ดร.หวังปิง ที่สามารถให้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาลได้คงที่และต่อเนื่องนานนับปีโดยไม่ อาศัยพลังงานจากภายนอกมาหล่อเลี้ยง และพลังงานไฟฟ้าจากเซลตัวนี้เองทีให้พลังงานบ้านพักทั้ง3 หลังและห้องทดลองต่อเนื่องมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดการทำงานแต่อย่างใด ประสิทธิภาพของมันทำให้ผมต้องนับถือความรู้ความสามารถของ ดร.หวังปิงอย่างเต็มหัวใจ เพราะรู้ดีว่าเซลพลังงานตัวนี้คือเครื่องปฏิกรณ์ปรมณูขนาดเล็กที่ไม่ต้องการ การดูแลใดๆ ทั้งสิ้นและจะให้พลังงานต่อเนื่องจนกว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์จะหมด ซึ่งก็น่าจะเป็นเวลาอีกหลายปี แต่แม้จะหมดพลังงานไปก็ไม่มีปัญหาใดๆ สำหรับผม เพราะยังมีเซลพลังงานสำรองต้นแบบอีก 5 ชุดที่ยังไม่ได้ใช้งาน ทำให้ผมมั่นใจได้ว่าสถานที่แห่งนี้จะมีพลังงานไฟฟ้าสามารถใช้ได้อย่างไม่ จำกัด โดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานจากสถานีไฟฟ้าของจังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด

ผม เปิดประตูอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนเหมียวที่อาจยังคงทำงานอยู่ อากาศภายในห้องทดลองอบอุ่นต่างจากภายนอก ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของเครื่องมืออิเล็กทรอนิคส์ภายในห้องที่ส่งความ ร้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แม้จะมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ทำงานเต็มที่แต่อุณหภูมิภายในก็ ยังอยู่ในระดับสบายๆ ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อพบว่าเพื่อนรักของผมกำลัง นอนตะแคงหลับสนิทอยู่บนเตียง ขณะที่รอบข้างซึ่งติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่และจอภาพเรียงรายยังคง ทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง

ผมทรุดตัวลงนั่งข้างเหมียวบนเตียงและ พิจารณาใบหน้างดงงามของเพื่อนร่วมคณะที่กลับมาเป็นคู่ชีวิตคนหนึ่งของผมด้วย ความรัก เสียงหายใจยาวลึกดังเป็นจังหวะบอกให้รู้ว่าเหมียวยังอยู่ในภาวะหลับสนิทจาก ความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องทำงานทดลองอย่างหนักมาทั้งคืน แต่ใบหน้านั้นยังคงเป็นใบหน้าของเด็กสาวสดใสที่แทบจะไม่ต่างไปจากเด็กหญิง อายุ 14 ผู้มอบความบริสุทธิ์ให้ผมเมื่อ 5 ปีก่อนแม้แต่น้อย ร่างบอบบางซ่อนความงามอยู่ภายใต้ชุดนอนผ้าเยอร์ซี่บางเบาที่ปราศจากชุดชั้น ใน แทนที่จะเป็นชุดเสื้อกาวน์ตัวใหญ่ที่เหมียวใช้ระหว่างการทดลองเป็นประจำทำ ให้ผมรู้ได้ทันทีว่าเมื่อคืนเหมียวก็เตรียมตัวจะขึ้นไปนอนที่ห้องพักกับผม แต่คงพบปัญหาการทดลองบางประการเหนี่ยวรั้งไว้จนต้องค้างคืนในห้องทำงานแทน

เนื้อ ผ้าที่บางเบาไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ต่อสายตาที่จะมองทะลุไปยังผิวกายขาวละเอียดอ่อนภายในแม้แต่น้อย ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาแม้ร่างกายเหมียวจะเจริญเติบโตขึ้นตามอายุแต่ก็ดูเหมือนว่าร่าง กายจะหยุดรูปร่างไว้ที่ช่วงอายุ 16-17 ปี ทำให้ร่างงามนี้ดูราวจะเป็นเด็กสาวแรกแย้มมากว่าที่จะเป็นหญิงสาวอายุ 19 อย่างที่ควรเป็น หน้าอกอวบอิ่มที่เบียดตัวกันในท่านอนตะแคงทำให้เกิดการอัดตัวจนล้นขึ้นจาก เนินหน้าอก หัวนมเม็ดน้อยที่เคยแข็งตัวชูชันยามผมเล้าโลมด้วยมือและลิ้นหดตัวสงบนิ่ง อยู่บนป้านสีน้ำตาลอ่อน สะโพกกลมกลึงน้อยๆ ราวกับเด็กสาวแรกรุ่นโค้งคัวทางข้างไปยังเรียวขาที่นุ่มนวลขาวผ่อง แต่ในท่านอนตะแคงแบบนี้ทำให้ผมไม่สามารถเห็นเนินรักแสนงามของเหมียวซึ่งซุก ซ่อนตัวเองอยู่ภายใต้การกดทับของลำขาได้

ผมก้มลงจูบแก้มหอมกรุ่นของ เหมียวเบาๆ ทำให้เหมียวครางอือในลำคอราวกับจะรู้ตัวแต่มือที่ปัดมายังข้างแก้มพร้อมกับ ที่ร่างพลิกตัวมานอนหงาย บอกให้รู้ว่านั่นเป็นปฏิกิริยาตอบสนองการรบกวนของผู้กำลังหลับสนิทเท่านั้น แต่การนอนหงานตามสบายในท่าที่เรียวขางามแยกออกจากกันเล้กน้อยทำให้ผมสามารถ เห็นเนินรักที่งดงามของเหมียวได้เต็มตา นี่เป็นเนินรักที่เติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา สองแคมเปล่งปลั่งที่ขยายตัวจากน้ำรักซึ่งผมมอบให้มาตลอดดันตัวเองขึ้นนูน เด่น เส้นไหมละเอียดขดเป็นวงล้อมรอบเนินนูน แต่ด้านข้างกลับถูกตัดแต่งอย่างเรียบร้อย ซึ่งเป็นนิสัยประจำตัวของเหมียวที่ไม่ชอบความรกรุงรังและจะโกนเส้นไหมส่วน เกินออกจากด้านข้างสองแคมเสมอๆ เพื่อความสะอาดและความมั่นใจเวลาใส่ชุดว่ายน้ำ ภาพเนินรักที่ได้รับการดูแลอย่างดีของเหมียวทำให้ผมอดคิดไปถึงภาพของเหมียว สมัยที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยไม่ได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าเหมียวไม่ชอบชำระล้างร่างกายจนเกิดกลิ่นตัวเหม็นอับ เป็นสัญญลักษณ์ แต่มีเพียงผมเท่านั้นที่รู้หลังจากการร่วมรักครั้งแรกกับเหมียวว่าเหมียว เป็นคนที่รักความสะอาดอย่างที่สุด และสภาพเหม็นอับที่ทุกคนได้พบเป็นเพียงการปลอมแปลงขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความ สนใจจากผู้อื่นโดยเฉพาะคนในจักรราศี ภาพงดงามของเหมียวนี้มีเพียงผมและบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวคชสีห์เท่านั้นที่ รับรู้

ชายชุดนอนที่สั้นเพียงครึ่งขาอ่อนโคนขา เลิกขึ้นมาอยู่ที่โคนขาอวบของเหมียวขณะที่เจ้าของร่างพลิกตัวมาอยู่ในท่านอน หงาย เนินเนื้ออิ่มอูมได้รูปปรากฏต่อสายตาผมโดยปราศจากเนื้อผ้าเบาบางบดบังสายตา อีกต่อไป สองแคมที่แม้จะผ่านการร่วมรักกับผมมานับไม่ถ้วนตลอด 5 ปี แต่ด้วยอำนาจของปราณไร้ชื่อใที่ผมถ่ายทอดให้ ทำให้ร่างกายทุกส่วนซึ่งรวมทั้งเนินรักเบื้องหน้ายังคงสภาพงดงงามไม่ต่างกับ วันแรกที่ผมร่วมรัก สองแคมเปล่งปลั่งปิดสนิทรวมกับไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้าไป เป็นความงามที่ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเคลื่อนกายไปคร่อมปลายเท้าของเหมียวไว้ แล้วก้มลงจูบความอวบอิ่มนั้นอย่างแผ่วแบา ก่อนไล้ลิ้นปตามแนวยาวของร่องรักช้าๆ ทำให้สะโพกกลมกลึงกระตุกน้อยๆ เมื่อลิ้นผมผ่านขึ้นไปถึงตำแหน่งเม็ดเสียว เหมียวเริ่มส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ เมื่อปลายลิ้นผมฉกวูบลงที่ตำแหน่งสำคัญเป็นจังหวะแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นการวนเน้นน้ำหนักจนผมรู้สึกได้ถึงการแข็งตัวของเม็ดเสียว และกลิ่นหอมคาวอ่อนๆ ของน้ำหล่อลื่นที่เริ่มซึมออกมาจากร่องรัก แต่ก่อนที่ผมจะเริ่มแทรกลิ้นเข้าไปในร่องรักกลางแคมน้อย มือเรียวบางของเหมียวก็เอื้อมมากดศรีษะผมไว้ และเสียงทางกระแสจิตก็ดังขึ้นในสำเนียงดุๆ ตามบุคลิกของเจ้าของเนินรัก

‘เอ…เอาอีกแล้ว…มาเลียหีอะไรกันแต่เช้า เดี๋ยวเหมียวกดให้หายใจไม่ออกเลยดีไหม..’
‘ไม่เห็นไปไรเลย หีเหมียวหอมออก…กดเราไว้ทั้งวันเราก็ไม่ว่าอะไร..’

ผม ส่งกระแสจิตตอบไปอย่างเย้าแหย่..ทำให้เหมียวหัวเราะออกมาแล้วขยุ้มผมของผม ขณะออกแรงดึงด้วยแรงที่ผมรู้ดีว่าเป็นการบังคับปราณให้เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ แขน ทำให้ให้ผมต้องยอมปล่อยตัวให้เหมียวลากขึ้นมาทับร่างงามไว้ จนใบหน้าน่ารักมาปรากฏอยู่ตรงหน้า

‘แล้วเอจะดมมันไปได้อีกนานเท่าไหร่ก่อนจะเบื่อเหมียวล่ะ…’

กระแสจิตเหมียวถามผมอย่างอ่อนโยน ทำให้ผมต้องจูบปากน้อยๆ เบื้องหน้า แล้วตอบด้วยความมั่นใจ

‘เราไม่มีวันเบื่อเหมียวหรอก เหมียวก็รู้ว่าเรารักเหมียวเท่าชีวิต ไม่ต่างอะไรกับที่เรารักน้องริน น้องกิฟท์เลย’
‘เหมียว รู้…แต่ไม่รู้สิ บางทีอาจเป็นเพราะเหมียวไม่เคยได้รับความรักจากใคร เหมียวเลยต้องการความรักจากเอมากเป็นพิเศษ เออย่าเบื่อเหมียวนะ…อูว์…’

เหมียว ส่งกระแสจิตตอบมา แต่เสียงในสมองผมกลับเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงคราญคราง เมื่อการจูบดำเนินไไปอย่างเร่าร้อน ขณะผมถอดกางเกงชาวเลที่ใส่และเสื้อเชิ้ตผ้าป่านออกจากร่างอย่างรวดเร็ว จนร่างกายเปล่าเปลือยก่อนดึงชายเลื้อนอนของเหมียวขึ้นมาด้านบน จนเสื้อทั้งหมดกองรวมตัวอยู่เหนือหน้าอกเต่ง ปล่อยนมคู่งามอัดแน่นกับหน้าอกผม พร้อมกับเนินเนื้อที่เปิดโล่งให้แก่นกายเบียดความยาวกับร่องรักที่ชุมชื้น พร้อมรับการร่วมรักยามเช้า

‘งั้นเราจะพิสูจน์ให้เหมียวแน่ใจนะว่าเรารักเหมียวแต่ไหน…’
‘อื๋ยส์….ช้าๆ ก่อนนะเอ….มันใหญ่จังเลย..อ๊าวส์….’

เหมียว ครางลั่นในกระแสจิต เมื่อผมโหย่งตัวขึ้นปักแก่นกายที่แข็งเต็มที่จากการปลุกเร้าด้วยภาพเรือน ร่างเปลือยของน้องรินน้องกิฟท์เมื่อเช้า ปากทางเข้าสู่ร่องหลืบที่เปิดรับการบุกรุกอย่างเต็มใจแต่สองแคมก็กลีบเนื้อ ภายในทุกส่วนยังคงทำหน้าที่บีดรัดอย่างเต็มที่ จนผมอดสูดปากด้วยความเสียวไม่ได้

‘หีเหมียวทั้งคับทั้งแน่นแบบนี้…ให้ราเย็ดทั้งวันก็ยังไหวนะ…อูย..’
‘เอจ๋า…อูย…เหมียวเสียวเหลือเกิน….อื๋ย…บะ บะ บี้นมอีกแล้ว….’

กระแส จิตเหมียวคราญครางเมื่อผมเริ่มกระเด้าร่องรักที่แน่นหนึบช้าๆ พร้อมส่ายแก่นกายเป็นวงน้อยๆ จนมันเสียดสีเม็ดเสียวที่ไว่ต่อความรู้สึกเป็นจังหวะ ขณะที่สองมือก็โจมตีส่วนบนด้วยการเคล้นเต้านมนิ่มนวลหนักๆ จนหัวนมคู่น้อยชูชันรับการคลึงของนิ้วและฝ่ามือ จนร่างบอบบางบิดส่ายไปมาด้วยความเสียว

‘เหมียวไม่ชอบให้เราบี้นมหรือ…งั้นเราจะหยุดนะ…’
‘ยะ ยะ อย่า…เอจ๋า…อย่าหยุด บี้นมเหมียวแรงๆ เหมียวชอบ…มันสะเสียว….อื๋ย…..ควงสว่านอีกแล้ว…..ดะ ดี…ดี…อูวส์..เอจ๋า …เหมียวจะแย่แล้ว….’

ลมหายใจเหมียว หอบกระชั้นถี่ ลิ้นที่กอดเกี่ยวลิ้นผมบิดตัวพัวพันกับลิ้นผมราวกับต้องการจะหลอมละลายเป็น เนื้อเดียวกัน สะโพกกลมกลึงเด้งขึ้นลงรับการกระเด้าตามอารมณ์รักที่พุ่งขึ้นสูงอย่างควบคุม ไม่ได้ ผมเร่งส่ายสะโพกเป็นวงกลมพร้อมการกระเด้า ซึ่งเป็นท่วงท่าการร่วมรักที่กระตุ้นอารมณ์เหมียวเป็นพิเศษ

‘เหมียว…เราก็..ก็ ไม่ไหวแล้ว…เหมียวมาพร้อมกันเลยนะ…’

ผม ครางในลำคอพร้อมส่งผ่านสัญญานทางจิตไปยังเมียรัก ขณะที่ร่างเหมียวบิดตัวสั่นระริกอย่างรุนแรงยกสะโพกขึ้นสูงเป็นวงโค้งรับการ กระแทกแก่นกายของผมเป็นครั้งสุดท้าย..

‘เอ…เอ..จ๋า…เหมียว…เหมียว….อ๊ายยยยยยย’
‘เราก็…โอ๊วส์…’

กระแส น้ำกามฉีดทะลักเข้าไปในร่องหลืบเหมียวเต็มแรงขณะที่กลีบเนื้อภายในทุกส่วน เต้นระริกบีบอัดแก่นกายเพื่อดูดเคล้นน้ำรักทุกหยดให้พุ่งไปยังมดลูก สะโพกที่แอ่นขึ้นของเหมียวลดตัวฮวบลงมาที่พื้นเตียงพร้อมกับร่างผมที่ทาบทับ เรือนกายงดงงามไว้ สองแขนของผมและเหมียวกอดรัดกันแน่น ขณะที่กระแสปราณหลั่งไหลเข้าประสานกันในร่างกาย ปราณทั้งสองสายหลอมรวมกันเป็นหนึ่งกระจายเป็นกลุ่มพลังงานครอบคลุมร่างกาย ทั้งหมดครู่ใหญ่ ก่อนเริ่มแยกจากกันแล้วกลับเข้าสู่ร่าง แต่แก่นกายของผมยังคงฝังตัวอยู่กับความอบอุ่นของเนินรักในร่างกายเหมียว

‘เหมียวมีความสุขไหม…’

ผมกระซิบถามเหมียวทางจิตอย่างอ่อนโยน

‘เหมียว มีความสุขที่สุด ทั้งจากจุดสุดยอดและการร่วมปราณกับเอ…ไม่รู้นะว่าคนทั่วไปเวลาเขาเย็ดกัน จะมีความรู้สึกเหมือนเราหรือเปล่า…’

‘ไม่หรอกเหมียว แม้กระทั่งผู้ทรงปราณทั่วไปก็ไม่มีความรู้สึกของการรวมปราณ เพราะนี่เป็นลักษณะเฉพาะของปราณที่ไม่เคยมีใครในโลกนี้ฝึกปรือขึ้นมาก่อน… มีเพียงพวกเรา 4 คนเท่านั้นที่ได้รับรู้..แต่เราก็เสียดายนะที่เหมียวไม่สามารถถ่ายทอดความจำ ทั้งหมดกับเราเหมือนน้องรินน้องกิฟท์ได้..’

มือน้อยๆ ของเหมียวลูบไล้ใบหน้าผมด้วยสัมผัสของความรัก ขณะกระแสจิตอ่อนโยนดังขึ้นในสมองผม

‘เหมียว ไม่เสียใจหรอก…ขอเพียงแต่เอรักเหมียวเท่านั้นก็พอแล้ว ปล่อยให้การถ่ายทอดความจำเป็นหน้าที่ของเอกับผู้ถูกเลือกทั้งสี่เถอะ.. เหมียวขอทำหน้าที่ช่วยเหลือเอทางการค้นคว้าตำราโบราณและการใช้วิทยาศาสตร์ ช่วยในการต่อสู้ของเอกับจักรราศีดีกว่า….ว่าแต่ถ้าเหมียวจำไม่ผิดอาทิตย์ หน้าคือกำหนดที่เอต้องไปช่วยน้องทิพย์วารีใช่ไหม?’

กระแสจิตของ เหมียวเริ่มคลายจากอารมณ์รักและกลับมาเป็นเหมียวที่เอาจริงเอาจังกับงานใน หน้าที่เช่นเคย คำถามของเหมียวทำให้ผมหวนคิดไปถึงหนึ่งในเมียรักที่ยังคงอยู่ในโลกภายนอกที่ ปราศจากการคุ้มครองของผม และหากผมไม่ช่วยแก้ไขอดีตให้ทันเวลาก็จะทำให้เด็กสาวที่ผมรักต้องตกไปอยู่ใน ขุมนรกของการค้าบริการทางเพศอย่างแน่นอน

‘ใช่แล้ว..แต่เหมียวไม่ต้อง ห่วงหรอกนะเรารู้กำหนดเวลาและสถานที่ทุกอย่าง ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตรายขึ้นหรอกเพราะพวกที่ทำร้ายน้องทิพย์เป็นแค่พวก นักหลอกลวงผู้หญิงเท่านั้น เราคนเดียวจัดการได้สบายมาก’

ผมตอบเหมียวอย่างไม่สนใจอะไรนักเพราะรู้ดีว่าปราณไร้ชื่อที่อยู่ในร่างกายผมมีพลังทำลายล้างเกินพอสำหรับการป้องกันตัว

‘แต่ เออย่าลืมนะว่าตอนที่เอช่วยน้องพิมเมื่อหลายปีก่อนน่ะ เอเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งกับการโจมตีของสำนักมังกรฟ้า เท่าที่เหมียวประมวลข้อมูลที่ได้รับจากเอ ริน และกิฟท์ ทำให้เหมียวเชื่อว่าศัตรูอาจมีวิธีการบางอย่างที่จะสืบทราบตำแหน่งของผู้ถูก เลือกทั้งสี่ และสามารถส่งคนมาทำร้ายได้ แต่ความสามารถนี้ของศัตรูน่าจะมีขอบเขตจำกัดที่ทำให้พวกมันไม่สามารติดตาม เป้าหมายได้ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นริน กิฟท์ และน้องพิม ก็จะต้องถูกติดตามทำร้ายแทนที่จะอยู่ได้อย่างสงบเช่นในปัจจุบัน เหมียวคิดว่าบางทีวิธีการติดตามของพวกมันอาจจะสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว สำหรับเป้าหมายหนึ่งๆ ซึ่งนั้นจะยิ่งทำให้พวกมันต้องเพิ่มความพยายามมากขึ้นหากมันกำหนดน้องทิพย์ เป็นเป้าหมาย และเออาจต้องเผชิญการต่อสู้ที่หนักกว่าที่คิดนะ’

คำ แย้งกลับของเหมียวกลับทำให้ผมต้องเริ่มคิด และยอมรับว่าข้อสัณนิษฐานของเหมียวมีความเป็นไปได้สูงมาก..เพราะมันสามารถ ตอบคำถามที่ว่าเหตุใดตลอด 5 ปีที่ผ่านมาจึงไม่เคยมีผู้ทรงปราณของจักราศีมารบกวนชีวิตความเป็นอยู่ของผม และเมียทุกคนเลย

‘เหมียวไม่ต้องห่วงหรอกนะ…เรารับรองว่าจะระวังตัวอย่างดีที่สุด เราไม่ปล่อยให้หีของเหมียวต้องเหงาแน่นอนรับรองเลย…’

ผม ตอบกลับด้วยกระแสจิตที่พยายามปลอบให้เหมียวคลายความกังวล โดยขณะเดียวกันก็เริ่มขยับแก่นกายที่ยังคงแข็งตัวภายใต้การบีบรัดของอวัยวะ เพศคุณภาพสูงของเหมียวขึ้นลงอย่างช้าๆ ทำให้ใบหน้าน่ารักของเหมียวแดงระเรื่อเมื่อรับรู้ว่าผมกำลังจะเริ่มการร่วม รักอีกครั้ง

‘เอเนี่ย…อื๋ย…จะไม่ให้เหมียวพักบ้างเลยหรือไง…เหมียวอยากจะคุยกับเอต่อนะ……อูวส์….’

กระแส จิตของเหมียวขาดกระท่อนกระแท่นเมื่อผมเริ่มกระเด้าเนินเนื้อ จนน้ำรักที่เอ่อนองอยู่เดิมกระฉอกออกมาเปื้อนพื้นเตียงเป็นสาย แต่ร่างงามก็ยังคงแอ่นสะโพกขึ้นรับอย่างไม่กลัวเกรง

‘เย็ดไปคุยไปก็ได้นี่นา…’

ผมส่งจิตตอบอย่างดื้อดึง..ก่อนดึงแท่งเนื้ออกจากร่องหลืบทั้งหมด

‘อุ๊ย…เอ เอาออกไปทำไม เหมียวใกล้แล้ว…เอ๊ะ….เอาอีกแล้ว…ท่านี้อีกแล้ว…’

จิต เหมียวอุทานออกมาเมื่อผมดึงแก่นเนื้อออก พลิกร่างงามให้นอนคว่ำแล้วดึงสะโพกให้ยกสูงขึ้นจนเหมียวกลับมาอยู่ในท่าคุก เข่าหันแก้มก้นกลมกลึงมาให้คลึงเคล้น แล้วจรดแก่นกายเข้ากับสองแคมที่ย้อยมาทางด้านหลัง ก่อนกดมันผ่านความฉ่ำเยิ้มเข้าไปจนสุดทาง

‘อ๊าวส์…เอจ๋า…มันลึกสุดๆ เลยท่านี้…’

เหมียว ครางออกมาทางจิตเมื่อผมจับสะโพกกลมกลึงเป็นหลักแล้วกระเด้าเนินรักแน่นหนึบ ช้าๆ ภาพสองแคมตึงเปรี๊ยะที่ขยายออกรับแก่นกายผมจนแทบเป็นวงกลมรับแท่งเนื้อที่ ผลุบเข้าออกที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ยิ่งเพิ่มความเสียวให้ผมจนแทบคุมความต้องการกระหน่ำฉีดน้ำรักเข้าไปอีกไม่ ได้

‘หีเหมียวหนึบแน่นจนเราจะทนไม่ไหวแล้วนะ…’
‘ไม่ไหวก็ไม่ต้องทน ..เอจ๋า..กระเด้ามาเลย กระเด้าแรงๆ เหมียว…ก็จวนแล้ว…’

ผม ละมือจากสะโพก เคลื่อนร่างเข้าประชิดสะโพกกลมกลึงที่กำลังสั่นระริก แล้วแนบร่างลงกับแผ่นหลังนวลเนียนพร้อมเคล้นคลึงเต้านมเต่งที่กระเพื่อมไป ตามการกระเด้า ความเสียวพุ่งขึ้นมาที่ปลายแก่นเนื้อทำให้ผมดึงมันออกมาจนแทบหลุดจากการ บีบรัดแล้วแทงกลับรวดเดียวจนมันหน้าท้องอัดแน่นกับสะโพกเหมียว ก่อนกระฉูดน้ำรักเข้าสู่มดลูกเหมียวเป็นครั้งที่สอง

‘เหมียว…เรา…เรา…มะ มาแล้ว..’
‘เหมียวก็…ก็…อ๊าย…….เอจ๋า….ระ รัก เอ….ที่..ที่สุด….’

ร่าง งามที่เกร็งไปทั้งร่างกระตุกเฮือกจากจุดสุดยอดแล้วทรุดฮวบลงคว่ำหน้ากับพื้น เตียงโดยมีร่างผมแนบตามลงไปทาบความ่อนละมุนของเนื้อหนังทุกสัดส่วน

‘เหมียวจะขาดใจ…พอก่อนเถอะนะเอ….’

กระแส จิตที่อ่อนล้าราวกับจะครวญครางดังขึ้นทำให้ผมค่อยๆ ขยับแท่งเนื้อออกจากร่องรักทางด้านหลังช้าๆ แต่ยังคงรู้สึกได้ถึงการขมิบตัวของร่องรักที่ยังคงตอดต่อเนื่อง อันเป็นคุณลักษณะพิเศษของร่องรักเหมียวหลังการร่วมรักครั้งที่สอง ทำให้ผมอดคิดถึงครั้งแรกที่เหมียวมองพรหมจรรย์ให้ผมไม่ได้ เพราะหลังจากการร่วมรักครั้งแรก การร่วมรักครั้งที่สองในห้องน้ำกลับทำให้ผมพบว่าร่องรักเหมียวยิ่งทวีแรงบีบ และตอดรัดมากขึ้น ซึ่งให้ความสุขผมอย่างเหลือเชื่อจนทำให้หลังจากนั้นผมต้อง “เบิ้ล” การร่วมรักกับเหมียวทุกครั้ง

‘แล้วเหมียวจะคุยอะไรกับเราล่ะ…’

ผมส่งกระแสจิตถามหลังจากถอนแก่นกายแล้วเอนตัวลงนอนข้างร่างเปลือยของเหมียว ที่พลิกตัวตะแคงมากอดผมไว้แน่น

‘เหมียวอยากคุยเรื่องหนูนิดน่ะ’

คำ ถามของเหมียวทำให้ใบหน้าเด็กหญิงวัย 12 ที่คุณพ่อคุณแม่ผมรับเป็นบุตรบุญธรรมหลังจากบิดามารดาเสียชีวิตปรากฏขึ้นใน สมอง ดวงหน้าคมเข้มแบบไทยแท้ที่กำลังเติบโตเข้าสู่วัยสาว ดวงตากลมโตเป็นประกายและรอยยิ้มแจ่มใสที่ผมได้เห็นทุกครั้งที่พบหน้า ทำให้นิดเติบโตขึ้นเป็นเด็กหญิงที่มีเค้าว่าจะสวยจนทำให้ชายหนุ่มทุกคนสนใจ ได้ในอีกไม่นานนัก

‘ทำไมหรือ..หนูนิดหนีเรียนอีกแล้วใช่ไหม’

ผม ถามทางจิตอย่างไม่สนใจอะไรมากนัก เพราะรู้จักนิสัยหนูนิดดีว่าเป็นคนรักอิสระและไม่สนใจการเรียน จนทำให้คุณพ่อคุณแม่ผมต้องให้ออกจากโรงเรียนและสอนหนังสือที่บ้านด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากผมกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่แล้ว หน้าที่นี้ก็กลับมาตกอยู่กับผม น้องริน น้องกิฟท์ และเหมียว ที่ผลัดกันสอนหนูนิดในสาขาต่างๆ ซึ่งวิธีเรียนแบบนี้ดูจะสอดคล้องกับนิสัยหนูนิด จนทำให้สามารถสอบเทียบ ป.6 ผ่านด้วยคะแนนสูง แต่ก็ดูเหมือนว่าหนูนิดจะสนิทสนมกับเหมียวเป็นพิเศษ และมักจะเข้ามาช่วยงานในห้องทดลองเป็นประจำ

‘ไม่ใช่หรอกเอ…หนูนิดตั้งใจเรียนดีมาก… แต่เหมียวอยากบอกให้เอรู้ว่าหนูนิดมีประจำเดือนแล้วนะเมื่อวานนี้เอง’

ผม นิ่งอึ้งไปกับคำบอกเล่าของเหมียว เพราะในตระกูลคชสีห์ที่ถ่ายทอดปราณผ่านการร่วมรักในสายเลือด การมีประจำเดือนคือเครื่องหมายบอกให้รู้ว่าเด็กหญิงพร้อมแล้วที่จะรับการ ถ่ายทอดปราณ ซึ่งในกรณีหนูนิดแม้จะไม่ใช่สายเลือดของตระกูลคชสีห์โดยตรง แต่จากการที่ผมสามารถถ่ายทอดปราณให้บุคคลนอกสายเลือดได้ทำให้หนูนิดต้องตก อยู่ในกฎของครอบครัวและถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องร่วมรักกับผมเพื่อรับปราณใน ทันทีที่ร่างกายเจริญเติบโตพร้อมสืบพันธ์ และเท่าที่ผ่านมาหนูนิดก็รับรู้หน้าที่นี้มาโดยตลอด

‘หมายความว่าเหมียวจะบอกเราว่า เราต้องเย็ดหนูนิดแล้วใช่ไหม’

‘ถ้า เอต้องปฏิบัติตามกฎของตระกูลก็คงจะเป็นอย่างนั้น แต่เหมียวอยากบอกเอว่าหนูนิดไม่ต้องการที่จะรองรับปราณ ไม่ต้องการจะเข้ามาใช้ชีวิตแบบพวกเรา หนูนิดบอกกับเหมียวว่าอยากจะใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าเป็นคำสั่งของเอและเอต้องการร่างกายของหนูนิด หนูนิดก็พร้อมที่จะสนองตอบแม้จะขัดกับความต้องการของตัวเองก็ตาม เหมียวเลยอยากจะปรึกษาเอว่าจะทำอย่างไรกับหนูนิดดี’

คำบอกเล่าของ เหมียวซึ่งเป็นผู้ที่สนิทสนมกับหนูนิดที่สุดและเป็นผู้ที่หนูนิดไว้ใจเบอก เล่าความต้องการให้เป็นสื่อมายังผม ทำให้ผมอดรู้สึกโล่งใจขึ้นมาไม่ได้ เพราะในส่วนลึกของจิตใจแล้วผมเห็นหนูนิดเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งที่ผม ตั้งใจจะให้หนูนิดมีชีวิตอย่างมีความสุขที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อชดเชย การสูญเสียบิดามารดาในวัยเด็ก แต่ผมไม่เคยรู้สึกต้องการด้านอื่นแม้ว่าหนูนิดจะเติบโตเป็นเด็กหญิงที่งดงาม พร้อมรับการร่วมรักกับเพศตรงข้ามแล้วก็ตาม

‘ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่เหมียว..ถ้าหนูนิดไม่ต้องการที่จะรับปราณก็ปล่อยให้ใช้ชีวิตตามที่แกต้องการดีกว่าที่จะมาบังคับใจ’

ผมตอบเหมียวทางกระแสจิตอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก ทำให้เหมียวส่งจิตตอบมาอย่างแปลกใจ

‘เหมียวนึกว่าเอจะโกรธที่หนูนิดไม่อยากเย็ดกับเอซะอีก…เหมียวว่าหนูนิดสวยมากนะ เอไม่ต้องการจริงๆ หรือ’

ผมกอดกระชับเรือนร่างอบอุ่นในอ้อมแขนแน่น ลูบไล้แผ่นหลังเนียนเรียบของเหมียวอย่างแผ่วเบา

‘ไม่ หรอก..เรามีน้องริน มีกิฟท์ มีเหมียว..ก็พอแล้ว แต่เราก็อดสงสัยไม่ได้นะ เพราะเมื่อ 5 ปีก่อน หนูนิดทำท่าเหมือนกับกระตือรือร้นที่จะฝึกปราณเป็นพิเศษ มาอ้อนให้เราเร่งถ่ายปราณให้เป็นประจำแถมเข้าไปให้พ่อครูคำแปงช่วยสอนภาษา โบราณเพื่อศึกษาคัมภีร์ปราณที่เก็บไว้ด้วย ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนความตั้งใจไปได้ ’

‘ถ้าจะให้เหมียว วิเคราะห์ เหมียวคิดว่าหนูนิดน่าจะชอบกับเด็กผู้ชายที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกจะเป็นเด็กชายชาวกระเหรี่ยงอายุเท่ากันชื่อปาเกอยะ ที่เป็นลูกของหัวหน้าคนงานของคุณพ่อนะ เด็กสองคนนี่ไม่เคยยอมห่างกันเลย บางทีก็ไปนอนที่ห้องอีกฝ่ายเป็นประจำแต่เหมียวรู้ว่าทั้งคู่ยังไม่เคยเย็ด กันแน่นอน..เพราะหนูนิดคงไม่กล้ามอบพรหมจรรย์ให้คนอื่นก่อนการรับปราณจากเอ แน่’

ข้อสันนิษฐานของเหมียวทำให้ภาพของเด็กชายหน้าตาคมเข้มที่ผมเห็น ตั้งแต่วัยเด็กปรากฏขึ้นในความทรงจำ เด็กชายชาวเชาเผ่ากระเหรี่ยงเข้ามาอยู่ในบ้านคชสีห์พร้อมกับบิดาที่ทำ หน้าที่หัวหน้าคนงานดูแลกิจการรีสอร์ทของคุณพ่อ และด้วยความที่เป็นเด็กซึ่งเอาการเอางานมีมารยาทงดงาม ทำให้คุณพ่อผมขอให้พ่อครูคำแปงถ่ายทอดปราณเอกะมาร ซึ่งเป็นปราณของผู้พิทักษ์ตระกูลคชสีห์ให้กับเด็กชายโดยตรง จนทำให้ปาเอกยะเป็นเด็กที่มีพื้นฐานปราณเข้มแข็งกว่าศิษย์ชาวกระเหรี่ยงคน อื่นที่พ่อครูคำแปงทำการคัดเลือกมาฝึกปรือวิชาปราณมารเอกะเพื่อเป็นขุมกำลัง ให้ตระกูลคชสีห์ในอนาคต

‘ถ้าหนูนิดจะชอบพอกับปาเกอยะ เราก็ไม่ห้ามปรามอะไรหรอก และจะบอกให้คุณพ่อคุณแม่ยอมรับด้วยซ้ำ..ถ้าเหมียวเจอหนูนิดก็บอกไปเลยว่าถ้า ต้องการเย็ดกับแฟนก็ไม่ต้องกังวลอะไร..ไม่ต้องกลั้นความต้องการของตัวเอง หรอก…’

ผมบอกเหมียวทางจิตอย่างอารมณ์ดี ขณะที่เหมียวทุบหลังผมทีหนึ่งอย่างงอนๆ

‘เอเนี่ยบ้าจัง…หนูนิดเพิ่งจะ 12 เองนะ…’
‘อ้าง.. ทีเหมียวก็เย็ดครั้งแรกตอนอายุ 14 ไม่ใช่เหรอ แถมยังเคยบอกเราว่าเสียดายที่ไม่เจอเราตอนอายุ 12 จะได้เสียสาวครั้งแรกพร้อมๆ กับน้องรินน้องกิฟท์น่ะ…’

ใบหน้าน่ารักของเหมียวเป็นสีแดงจัด แต่ซุกหน้าเข้ากับอกผมโดยไม่ยอมตอบโต้ ขณะที่ผมเลื่อนมือไปลูบไล้เนินเนื้อชุ่มฉ่ำเบื้องล่าง

‘สงสัยเราต้องระลึกถึงความหลังกับเหมียวเป็นครั้งที่สามแล้วล่ะ’..
‘มะ..มะ ไม่เอานะเอ…หีเหมียวบวมจะแย่แล้ว เอาออกไปก่อน…อุ๊ย…เข้ามาอีกแล้ว…ซีดส์……..’

————————————–

ร่าง หญิงสาว 4 คนที่กำลังเล่นน้ำอยู่ในลำห้วยใสเย็นอย่างเพลิดเพลินปรากฏตรงหน้าในทันทีที่ ผมก้าวลงมาจากบันไดที่ทอดลงมาจากบ้านพักมายังพื้นหญ้าที่ทอดไปสู่ต้นรังใหญ่ ริมห้วย เสียงหัวเราะต่อกระซิกของกลุ่มเด็กสาวประสานกันเป็นบทเพลงน่าฟังที่เสริม บรรยากาศของบ้านพักแจ่มใสอย่างน่าประหลาด

“แน่ะ พี่เอมาแล้ว…พวกเรามารู้จักพี่เอหน่อย เมื่อคืนกว่าจะมาถึงก็ดึกเลยไม่ได้เจอกัน”

เสียง หวานใสของน้องรินดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันมามองผมที่กำลังเดินมาหาเป็นตาเดียว ร่างเด็กสาวทุกคนที่แช่อยู่ในน้ำต่างลุกขึ้นและเดินมาหาผมที่หยุดรออยู่ที่ โต๊ะไม่สักขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใต้ต้นรังพร้อมอาหารว่างนานาชนิด

‘พี่เอ..นี่เพื่อนของริน ชอบคนไหนเป็นพิเศษก็บอกรินได้นะ….’

กระแสจิตของน้องรินส่งผ่านมาอย่างยั่วเย้าทำให้ผมอดยิ้มอดกมาไม่ได้ ขณะที่น้องรินพูดแนะนำเพื่อนทั้งสองคนให้ผมรู้จัก

“พี่ เอ คนนี้เมย์ บุษบา เพื่อนรักของรินที่เคยเล่าให้พี่เอฟังไง ส่วนคนนี้ก็มินท์ สุชาดา เรียนอยู่เภสัช แต่มาขลุกอยู่กับพวกรินประจำ เขาตามมาส่งรินที่นี่ พวกเรานี่พี่เอแฟนรินกับกิฟท์”

ผมยกมือรับไหว้ จากหญิงสาวทั้งสอง แต่ก็ต้องสะดุ้งนิดหนึ่งกับประโยคสุดท้ายในคำแนะนำของน้องรินที่บอกถึงความ สัมพันธ์ของผมกับน้องรินน้องกิฟท์โดยไม่ปิดบังกับหญิงสาวทั้งสอง แต่ก็ดูเหมือนน้องเมย์และน้องมินท์ ต่างรับรู้ความสัมพันธ์นี้อยู่แล้ว เนื่องจากทั้งสองไม่มีท่าทีแปลกใจและยิ้มให้ผมอย่างสดชื่น

“ทำตัวตามสบายนะครับ…ที่นี่มีแต่พวกเราสนุกได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนใครทั้งนั้น”

ผม ยิ้มให้ทั้งสองสาวพร้อมบอกให้ทุกคนทำตัวตามสบาย เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่คนงานซึ่งปกติจะประจำอยู่ดูแลบริเวณบ้าน พักได้หยุดงาน 1 วัน ทำให้ไม่มีผู้ใดมารบกวน และผมก็คิดว่าน้องเมย์น้องมินท์ก็คงรู้ดีอยู่แล้ว จากการที่ทั้งสองสาวต่างใส่ชุดว่ายน้ำมาเล่นน้ำในลำห้วยโดยไม่ต้องกังวลว่า จะตกเป็นเป้าสายตาของคนงานชาย

“เมย์ได้ยินชื่อพี่มาตั้งนานแล้ว เพิ่งได้พบตัวจริงวันนี้เอง แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่จะจบมหาวิทยาลัยมาตั้งสองปีแล้ว ดูยังกับเด็กปีหนึ่งแน่ะ”

เสียงหวานใสของน้องเมย์ทำให้ผมอดยิ้มในใจ ไม่ได้เพราะต่อบุคคลภายนอกแล้ว ร่างกายของผมที่ได้รับผลกระทบจากปราณโดยตรงจนทำผมดูราวกับเด็กหนุ่มวัย 18 มากว่าอายุ 22 ปีตามจริง แต่มีเพียงผมและคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ทราบว่าประสบการณ์ชีวิตของผมหากนับรวม ห้วงที่ผมใช้ชีวิตที่คลองน้อยก่อนย้อนเวลากลับมา ผมก็มีอายุประสบการณ์รวมกับเกือบครึ่งศตวรรษแล้ว ผมยิ้มให้น้องเมย์อย่างอารมณ์ดีแต่ขณะที่จะพูดตอบดวงหน้าหวานใสของน้องเมย์ ที่สบตาแล้วยิ้มให้ผมอย่างร่าเริงทำให้ผมอดสะท้านใจไปกับความเปล่งปลั่ง สมบูรณ์เต็มสาวที่ปรากฏอยู่ไม่ได้ ความงามของน้องเมย์แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับน้องรินน้องกิฟท์ที่ผลจากการครอบ ครองปราณในร่างทำให้ร่างกายชะลอการเจริญเติบโตอยู่ที่อายุ 18 ปี และคงสภาพของเด็กสาววัยรุ่นเอาไว้ ขณะที่น้องเมย์ผู้มีอายุย่างขึ้น 21 อันเป็นวัยสาวเต็มตัว ทำให้ภาพน้องเมย์ตรงหน้าเป็นภาพของความงามหญิงสาวที่ดึงดูดใจไปอีกแบบหนึ่ง แสงแดดยามสายที่กระทบเรือนร่างซึ่งห่อหุ้มอยู่ในชุดว่ายน้ำวันพีซสีเหลือง ทำให้ทรวงอกขนาดใหญ่ดันตัวเองเป็นรูปร่างภายใต้เนื้อผ้ายืดที่เปียกน้ำจาก ลำห้วยกระจ่างจ้าเต็มตา จนผมค่อนข้างแน่ใจว่าวงกลมรางๆ ที่ปรากฏอยู่ บนเนื้อผ้าบริเวณหน้าอกคือหัวนมสวยได้รูปที่ปราศจากผ้าฟองน้ำรองรับ ต่ำลงไปเป็นช่วงเอวอ้อนแอ้นที่ขยายออกบริเวณสะโพกอย่างงดงงามไปสู่ต้นขาอวบ อัดที่ปราศจากไขมันส่วนเกิน สีขาวอมชมพูของผิวเนื้อวัยสาวทำให้ผมต้องรีบเบือนสายตามายังน้องมินท์เพื่อ ระงับอารมณ์ทางเพศที่พลุ่งพล่านขึ้นมา

“ที่นี่สวยจังพี่เอตกแต่งเองทั้งหมดเลยหรือคะ”

เสียง เล็กๆ ของน้องมินท์ถามขึ้นเมื่อพบว่าผมหันมาหา แต่เมื่อสายตาผมร่างหญิงสาวผิวสีน้ำตาลอ่อนที่ซ่อนรูปร่างอยู่ภายในชุดว่าย น้ำบิกินี่สีแดงเพลิงตัวจิ๋วของน้องมินท์กลับยิ่งทำให้ความต้องการของผมลุก โพลงขึ้นเป็นทวีคูณ ใบหน้ารูปไข่ที่ประดับด้วยลักยิ้มน่ารักที่สองแก้ม และฟันกระต่ายสองซี่ที่โดดเด่นยามน้องมินท์ยิ้มแย้ม ทำให้เป็นใบหน้าที่ดูน่ารักน่าทะนุถนอมต่างจากน้องเมย์ที่ออกไปทางสวยหวาน ทรวงอกตูมตั้งอัดแน่นอยู่ภายในบิกินี่ตัวน้อย แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่เท่าน้องเมย์แต่ก็เป็นทรวงอกอิ่มอวบสมบูรณ์ที่เต่งตึงจน สามารถจินตนาการถึงแรงสะท้อนยามบีบเคล้นได้ แต่จุดสนใจที่แท้จริงบนเรือนร่างของหญิงสาวกลับเป็นความอวบเป่งของเนินรัก ที่ตระหง่านง้ำออกมากลางหว่างขาที่มีเพียงผ้าสีแดงผืนน้อยปิดอยู่ และดูเหมือนน้องมินท์จะไม่รู้ตัวว่าการเล่นน้ำในห้วยที่ผ่านมาจนเนื้อผ้า เปียกชุ่ม ทำให้ผ้าส่วนหนึ่งแทรกเข้าไปในร่องหลืบ ปรากฏเป็นรูปรอยสมบูรณ์ของเนินรักราวกับไม่มีสิ่งใดบดบังสายตา

“เอ้อ… ผีมือน้องกิฟท์เขาออกแบบน่ะครับ…น้องรินก็ช่วยด้วย พี่ไม่ค่อยเก่งเรื่องนี้หรอกมัวแต่ยุ่งกับเครื่องคอมพิวเตอร์..นี่ทานอะไร กันหรือยัง ตามสบายเลยนะครับ”

ผมพยายามระงับอารมณ์ปั่นป่วนที่เกิด ขึ้นและตอบคำถามของน้องมินท์อย่างตะกุกตะกักเล็กน้อย ทำให้เสียงหัวเราะสดใสของกระแสจิตน้องกิฟท์ดังขึ้นในสมอง

‘เห็นรูป ร่างพี่เมย์พี่มินท์ก็พูดไม่ออกเลยหรือพี่เอ…กิฟท์จะบอกให้นะว่าเมื่อกี้ นี้ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันน่ะ กิฟท์เห็นทุกส่วนของพี่ทั้งสองหมดแล้ว บอกได้แต่ว่าถ้าพี่เอไม่ได้เย็ดสองคนนี่ละก็เสียดายแย่แน่ พี่เมย์นี่ขาวเต่งตึงทั้งตัวเลย ส่วนพี่มินท์นี่หีเบ้อเริ่มอวบยังกะรถโฟล์คเต่าคันเก่าของพี่เอแน่ะ…’

ผม หันไปทางน้องกิฟท์ที่เดินเข้ามานั่งบนเก้าอี้ในชุดว่ายน้ำสีชมพูที่ดูราวกับ เป็นสีประจำตัวไปแล้ว สายตาน้องกิฟท์จับจ้องผมอย่างล้อเลียนขณะส่งกระแสจิตสนทนาชี้ชวนให้ผมสนใจ สองสาวเบื้องหน้า

‘เราน่ะตัวดีนักนะกิฟท์ … เมื่อเช้าบอกว่าจะไปเย็ดกับพี่อีกรอบไง…ลืมแล้วเหรอ..’
‘ไม่ เอาแล้ว..เมื่อกี้กิฟท์ตกลงแลกับพี่รินแล้วว่าเดี๋ยวกิฟท์จะส่งปราณกระตุ้น จักรอัคคีให้พี่เมย์ ส่วนพี่รินก็จะกระตุ้นให้พี่มินท์ ดีไหม…’
‘บ้าน่า…สองคนนี้เขาไม่ได้ชอบพี่สักหน่อย…อย่าเอาเขามาเสียตัวให้พี่เลย…’

ผมตอบไปอย่างดุๆ ขณะที่น้องกิฟท์ก็โต้กลับมาแบบงอนๆ เล็กน้อย

‘ก็กิฟท์ชอบพี่ทั้งสองคนนี่นาพี่รินก็ชอบ พวกเราไม่รังเกียจเลยนะถ้าพี่เอจะให้พี่เมย์พี่มินท์มาอยู่ด้วยกัน ’

ก่อน ที่ผมจะส่งกระแสจิตตอบน้องกิฟท์ มือเรียวบางของน้องรินก็ฉุดแขนผมให้ลงนั่งข้างๆ ร่างงดงามที่อยู่ในชุดบิกินี่สีดำสนิทตัดกับผิวขาวผ่องจนแทบเป็นประกายขณะ ที่กระแสจิตน้องรินดังขึ้นอย่างอ่อนโยน

‘น้องกิฟท์บอกพี่เอเรื่องยายเมย์กับยายมินท์แล้วใช่ไหม ถ้าพี่เอต้องการรินกับกิฟท์จะช่วยนะ…’
‘แต่พี่เพิ่งรู้จักน้องเมย์น้องมินท์วันนี้เองนะ’

ผม ตอบกลับอย่างลังเล เพราะภาพเรือนร่างในชุดว่ายน้ำที่แทบจะเห็นทุกส่วนสัดในร่างกายสองสาวทำให้ ความต้องการของผมพลุ่งพล่านขึ้น ในขณะที่มโนธรรมก็พร่ำบอกว่าไม่ควรที่จะนำทั้งสองเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิต ที่อันตรายของผม แต่กระแสจิตน้องรินที่ตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดีกลับทำให้ความยับยั้งชั่งใจของ ผมปลิวหายไปทันที

‘ทั้งสองคนเขารู้จักพี่เอมานานแล้วจากคำบอกเล่าของ รินน่ะ พี่เอไม่ต้องห่วงหรอก รินจะบอกความจริงให้พี่รู้ก็ได้ว่าทั้งสองคนก็อยากรู้ว่าที่รินคุยถึงควยพี่ เอที่ไม่เคยอ่อนตัวทั้งคืนน่ะเป็นความจริงแค่ไหน พี่เอไม่รู้หรือว่าทั้งเมย์และมินท์แต่งชุดว่ายน้ำแบบนี้ให้ให้พี่เอเห็น เพื่ออะไร’

ผมกลืนนำลายอย่างยากเย็นเมื่อสายตาเหลือบไปยังภาพก้อนเนื้อเต่งตูมในบิกินี่น้องมินท์เบื้องหน้า

‘แล้วรินไม่ว่าหรือที่พี่จะเย็ดสองคนนี้’

ผมส่งจิตถามอย่างไม่แน่ใจ แต่จิตน้องรินที่ตอบกลับมากลับเป็นสำเนียงร่าเริงสดใส

‘ถ้าเป็นสองคนนี้รินไม่ว่าแน่นอน เมย์กับมินท์เป็นเพื่อนรักของริน ที่รินเต็มใจจะอยู่ร่วมชีวิตด้วยตลอดไป น้องกิฟท์ก็ชอบทั้งสองคน’
‘งั้นก็ตามใจน้องรินน้องกิฟท์ก็แล้วกัน..แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งเลยนะ รอให้เป็นกลางคืนดีกว่า’

ประโยค สุดท้ายผมส่งกระแสจิตให้น้องรินน้องกิฟท์พร้อมกัน ทำให้สองสาวอมยิ้มและหัวเราะเบาๆ ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทำให้เมย์และมินท์ที่กำลังทานอาหารว่างอยู่หันมามองอย่างงุนงง..

“ไม่มีอะไรหรอก รินกับกิฟท์ขำพี่เอน่ะ..พอเจอสาวๆ สวยๆ แบบเมย์กับมินท์ก็กลายเป็นใบ้พูดอะไรไม่ออกเลย”

น้อง รินบอกเพื่อนสาวทั้งสองด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนความสงสัย ของสองสาว ทำให้ผมต้องพลอยผสมโรงหัวเราะ แต่มือซ้ายกลับควานลงไปที่กลางหว่างขาน้องรินกุมเนินรักเต่งนุ่มเอาไว้แล้ว บีบเคล้นเบาๆ ทำให้น้องรินสะดุ้งเฮือกกับการจู่โจม แต่ยังคงต้องรักษาสีหน้าปกติไม่ให้เพื่อนสงสัย

‘แต่ยังไงรินต้องมาให้พี่เย็ดบ่ายนี้นะ..พี่คิดถึงเจ้าตัวน้อยนี้จะแย่แล้ว…ยิ่งมานั่งอยู่ตรงนี้ด้วย’
‘บ้า…พี่เอบ้า…’

น้อง รินตอบกลับอย่างอายๆ เพราะรู้ดีว่าผมหมายถึงสถานที่ตั้งของโต๊ะอาหารว่างนี้ เมื่อ 8 ปีที่แล้วเป็นสถานที่ซึ่งน้องรินมอบความสาวให้ผมเป็นครั้งแรก

“แล้วรินจะเริ่มเรียนเมื่อไหร่เนี่ย”

น้องเมย์เอ่ยปากถามน้องริน ทำให้ผมต้องยุติการเคล้นคลึงเนินรักเพื่อปล่อยให้น้องรินคุยกับเพื่อนตามปกติ

“ก็ คงจะเป็นอาทิตย์หน้านั่นแหละ เมย์กับมินท์อยู่กับรินที่นี่อีกสัก 2-3 วันได้ไหม รินกับกิฟท์จะได้พาไปเที่ยวรีสอร์ทของคุณพ่อพี่เอที่โป่งแยง สวยมากนะ…”
“อุ๊ยดี…เอาสิ…”
“ไปวันนี้เลยได้ไหม”

น้องเมย์น้องมินท์ประสานเสียงตอบรับอย่างดีใจ ขณะที่น้องรินหันมามองผมเป็นเชิงขออนุญาต และยิ้มออกมาเมื่อผมพยักหน้ารับ

“โอเคเลย…พี่เอรับแล้ว …งั้นเดี๋ยวกินอาหารว่างเสร็จเราไปเก็บของกัน ..คืนนี้ไปค้างที่รีสอร์ทโป่งแยงดีกว่า”

น้องรินให้คำตอบเพื่อนๆ ที่กำลังหัวเราะอย่างร่าเริงขณะส่งกระแสจิตบอกผม

‘คืนนี้พี่เอมีนัดเปิดบริสุทธิ์ว่าที่คุณหมอกับเภสัชกรแล้วนะ…’

ก่อนที่ผมจะตอบน้องรินด้วยจิต เสียงใสๆ ของเด็กหญิงก็ดังลั่นมาจากด้านหลัง

“พี่เอ…พี่เอ…”

เสียง หนูนิด หรืออนิตรา น้องสาวบุญธรรมที่ผมถือเสมือนน้องสาวแท้ๆ ก็ดังลั่นขึ้นพร้อมเสียงฝีเท้าที่วิ่งตรงเข้ามาหาทำให้ผมต้องหันกลับไปพบกับ ร่างอ้อนแอ้นของเด็กหญิงวัย 12 ที่กระโดดโถมเข้าใส่ผมบนเก้าอี้ จนผมต้องถ่วงปราณลงกับเท้าเพื่อป้องกันมิให้เก้าอี้หงายหลัง ขณะที่สองแขนของหนูนิดกอดผมแน่น ส่งเสียงระล่ำระลัก

“พี่เอ พี่เหมียวบอกนิดแล้ว นิดขอบคุณพี่เอ…รักพี่เอที่สุดเลย”

ผม กอดร่างน้อยไว้หลวมๆ หันไปยังน้องเมย์น้องมินท์ที่จับตามมองด้วยความสนใจ แล้วยิ้มพร้อมสั่นศีรษะเป็นเชิงจนปัญญา ก่อนค่อยๆ ดันร่างหนูนิดออกจากการกอดรัดแต่ยังคงนั่งคร่อมตักผมไว้ ทำให้ใบหน้าน่ารักแบบไทยๆ ที่มีดวงตากลมโตเป็นประกายแวววาวปรากฏอยู่ตรงหน้า

“ระวังหน่อยสิ เรา เป็นสาวแล้วนะมากอดพี่แบบนี้ได้ยังไง เอ้าสวัสดีพี่เมย์ พี่มินท์ ซะ นี่ยายนิดน้องสาวบุญธรรมของผมเองครับ กระโดกกระเดกแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ”

ผมแนะนำหนูนิดให้สองสาวรู้จัก พร้อมส่งกระแสจิตบ่งบอกเรื่องที่เหมียวขอให้ผมปล่อยหนูนิดออกจากการถ่ายปราณให้น้องรินน้องกิฟท์รับรู้
หนู นิดลุกจากตักผมลงมายืนที่พื้นแล้วทำความเคารพน้องเมย์น้องมินท์อย่างดงงาม อ่อนช้อย ราวกับจะประท้วงที่ผมแนะนำว่าเป็นเด็กหญิงกระโดกกระเดก

“หนูนิดสวยจังเลยนะ นี่อีกสัก 2-3 ปีรับรองพี่เอต้องคอยไล่หนุ่มๆ ที่มาจีบแน่เลย”

น้อง มินท์บอกกับผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำให้ผมอดหันไปมองภาพหนูนิดที่รีบวิ่งไปนั่งข้างๆ น้องรินน้องกิฟท์ไม่ได้ ใบหน้าที่ปรากฏอยู่ยังคงเป็นใบหน้าเด็กหญิงน่ารักสดใสที่ดูราวกับอายุเพียง 8-9 ขวบแทนที่จะเติบโตขึ้นตามอายุจริงที่ย่างเข้าสู่วัย 12 ปี ผิวสีน้ำตาลที่ปรากฏบนเรือนร่างบอบบางเก้งก้างที่ไม่ปรากฏร่อิงรอยการเจริญ เติบโตของหน้าอกยิ่งทำให้หนูนิดดูอ่อนเยาว์จนไม่น่าเชื่อว่าร่างกายภายในจะ พัฒนาไปสู่ภาวะมีประจำเดือนที่พร้อมรับการร่วมรักของเพศตรงข้าม

“พี่เอ..เดี๋ยวนิดขอไปเที่ยวป่ากับปาเกอยะนะ….”

เสียง หนูนิดที่ดังขึ้นปลุกผมจากห้วงความคิด ผมหันไปยิ้มให้อย่างเอ็นดูแล้วพยักหน้าเป้นเชิงอนุญาต ทำให้หนูนิดกระโดดเข้าจูบแก้มผมหนักๆ ก่อนวิ่งตัวปลิวกลับขึ้นไปยังบ้านพัก ซึ่งมีเส้นทางด้านหลังทอดไปสู่หมู่เรือนพักของคนงานชาวกระเหรี่ยงที่เด็ก หนุ่มปาเกอยะพักอยู่กับครอบครัว

‘หนูนิดน่ารักขึ้นมากเลยนะ เมื่อไหร่จะมีประจำเดือนก็ไม่รู้’

กระแสจิตของน้องกิฟท์ดังขึ้นในสมองผม

‘เหมียวบอกพี่ว่าประจำเดือนครั้งแรกหนูนิดมาแล้วเมื่อวานนี้’

ผมส่งกระแสจิตไปบอกน้องกิฟท์น้องรินพร้อมกัน ทำให้เมียทั้งสองของผมอุทานในจิตออกมา

‘งั้นวันนี้พี่เอก็ต้องเย็ดหนูนิดแล้วล่ะสิ…จะให้กิฟท์ช่วยด้วยไหม’
‘อ้าว..งั้นกำหนดเย็ดกับเมย์ มินท์ คืนนี้ต้องเลื่อนไปก่อนล่ะซี หรือพี่เอจะเย็ดหนูนิดก่อนแล้วค่อยมาเย็ดเมย์กับมินท์’

ผม หัวเราะเบาๆในใจแล้วอธิบายคำขอร้องของหนูนิดที่ผ่านเหมียวมาให้น้องรินน้อง กิฟท์ฟัง รวมทั้งการตัดสินใจของผมที่จะให้หนูนิดใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดาโดยไม่ต้อง เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ทรงปราณ ซึ่งทำให้น้องรินน้องกิฟท์เข้าใจและยอมรับการตัดสินใจของผม

“พี่เอจะเล่นน้ำกับพวกเราไหม…นี่มินท์กับเมย์คิดว่าจะไปเล่นน้ำอีกรอบก่อนขึ้นไปเตรียมตัวเดินทาง”

น้อง มินท์ส่งเสียงใสๆ ปนหัวเราะถามผมอย่างร่าเริงทำให้ผมอดติดถึงกำหนดการคืนนี้ไม่ได้ว่าเภสัชกร สาวคนนี้จะส่งเสียงครางอย่างไรยามถึงจุดสุดยอด

“น้องมินท์ตามสบายเลย นะ เดี๋ยวพี่ต้องไปจัดข้าวของก่อน เอาเป็นว่ารถจะออกตอนบ่ายสามโมงก็แล้วกันน ยังมีเวลาเหลือเฟือ พักผ่อนตามสบายนะ”

ผมบอกน้องมินท์พร้อมกับแจ้งกำหนดการให้ทุกคนรู้ แล้วโบกมือให้ทั้งสี่สาวก่อนเดินกลับมาบนบ้านเพื่อบอกเหมียวเตรียมตัวไปค้าง คืนที่บ้านโป่งแยง แต่เมื่อผมเดินเข้าไปในบ้านก็พบกับร่างเหมียวที่พุ่งขึ้นมาจากช่องลับ และส่งกระแสจิตบอกผมอย่างร้อนรน

‘พี่เอ..เครื่องตรวจความเคลื่อนไหวบนไหล่เขาตะวันตกพบกลุ่มคนเกือบ 20 คนกำลังมุ่งลงมาทางนี้’

ผม ชะงักนิดหนึ่งกับคำบอกเล่าของเหมียวแต่ไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก เพราะเส้นทางบนไหล่เขาตะวันตกทางด้านหลังของบ้านพักมีเส้นทางเดินป่าของชาว เขาที่ทิ้งรกร้างอยู่ และที่ผ่านมานานๆครั้งก็จะมีชาวเขาใช้ผ่านทางโดยไม่รบกวนบ้านพักของผม แต่ก็ทำให้ผมจ้องติดตั้งเครื่องตรวจจับความเคลื่อนไหวไว้เพื่อบกให้รู้ถึง การบุกรุกที่อาจจะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจำนวนคนที่เหมียวระบุทำให้ผมอดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้ เพราะมันแสดงว่าเป็นคาราวานของกลุ่มคนที่ใช้เป็นเส้นทางที่มีวัตถุประสงค์ แน่นอนมากกว่าจะเป้นการผ่านทางธรรมดา

‘เหมียวไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวเราจะไปดูเอง อ้อ..แล้วเดี๋ยวเหมียวเตรียมตัวเก็บของด้วยนะ เราจะไปค้างกันที่โป่งแยง…’
‘รับทราบจ๊ะ….แต่เอระวังตัวด้วยนะ…’

เหมียวพยักหน้ารับ และกำชับผมก่อนจะเดินกลับลงไปที่ห้องทดลอง

Related

Prev
Next

Comments for chapter "The Paradox บทที่ 3.4 จักรราศี"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

© 2025 Madara Inc. All rights reserved