ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

The Paradox บทที่ 2.2 อุทกมาร อุทกเทพ

  1. Home
  2. The Paradox & The Zodiac by Buta
  3. The Paradox บทที่ 2.2 อุทกมาร อุทกเทพ
Prev
Next

The Paradox บทที่ 2.2 อุทกมาร อุทกเทพ

“คุณเอ..หนูริน …หนีไป..”

เสียง จ.ส.ต.แม้นวงศ์ ที่นอนอยู่ท้ายรถครวญครางขึ้น ขณะที่รถซูซฺกิคาริเบียนของผมกำลังตะบึงด้วยความเร็วเต็มที่กลับไปยังหมู่ บ้าน เสียงครวญครางทำให้พ่อครูคำแปง ซึ่งกำลังฟังผมอธิบายสาเหตุที่ต้องรีบไปที่บ้านน้องกิฟท์ หันกลับไปหาร่างที่เพิ่งฟื้นสติจากการถอดถอนปราณพิทักษ์เทพเมื่อ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา ชายชราปีนข้ามเบาะหลังไปยังร่างน้าแม้นแล้วตบหน้าเบาๆ เพื่อกระตุ้นสติ

“ไอ้แม้น …ตื่นเร็ว ข้ามีเรื่องต้องถามเอ็ง… ”
“พ่อครู…นี่ นี่..ผมอยู่ที่ไหน…แล้วคุณเอ กับหนูริน.. ”

เสียงกระท่อนกระแท่นของน้าแม้นเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก พ่อครูคำแปงทาบฝ่ามือเข้ากับทรวงอกที่ตำแหน่งหัวใจอดีตตำรวจตะเวนชายแดน เพื่อถ่ายทอดปราณคุ้มครองหัวใจและเร่งให้สติกลับมาเร็วขึ้น

“ท่านไกรวิทย์กับท่านหญิงรินปลอดภัยดี เอ็งไม่ต้องห่วง แต่ตอบข้ามาเดี๋ยวนี้ว่าเอ็งจะเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไหม”

พ่อครูคำแปงตอบคำถามพร้อมกับป้อนคำถามกลับ ซึ่งทำให้ผมสงสัยเล็กน้อย เพราะแทนที่ชายชราจะสั่งให้น้าแม้นเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กลับถามว่า “เล่าได้หรือไม่”

“ได้ พ่อครู ผมส่งคุณเอให้ขึ้นรถไปกับน้องรินแล้วกลับเข้ามาตรวจบริเวณบ้าน มันก็เหมือนกับมีผีเข้ามาสิงในร่างผม บังคับให้ผมขับมอร์เตอร์ไซด์สะกดรอยตามคุณเอกับหนูรินไปห่างๆ ผมเห็นคุณเอกับหนูริน ที่ลำห้วย กำลัง…เอ้อ.. ”
“ หลังจากนั้นเป็นอย่างไรน้าแม้น… ”

ผมรีบถามตัดบท เมื่อรับรู้ว่าน้องรินที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังก้มศีรษะใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด

“ไอ้ผีตัวนั้นมันบังคับให้ผมเข้าไปทำร้ายคุณเอ ผมพยายามจะร้องเตือนแต่ก็ทำไม่ได้ มันบังคับผมให้ต่อสู้กับคุณเอ แต่ผมรู้ว่าจุดประสงค์หลักของมันคือการฆ่าหนูริน ไม่ใช่คุณเอ”
“อะไรนะ …ฆ่าริน …ทำไมกัน ”

น้องรินอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหู..ทำให้ผมต้องละมือจากพวงมาลัยมาบีบมือ น้อยๆ ที่สั่นเทาไว้ คำกล่าวของน้าแม้นไม่ได้ทำให้ผมตกใจแต่ประการใดเพราะมันสอดคล้องกับสิ่งที่ ผมกำลังคิดและประมวลสรุปเป็นเหตุผลอยู่

“ไม่เป็นไรไอ้แม้น เอ็งพักผ่อนก่อน…ท่านไกรวิทย์กับท่านหญิงรินปลอดภัยดี”

ชายชราปลอบน้าแม้นพร้อมกับเกร็งปราณเข้าสู่นิ้วมือ เพื่อสกัดจุดหลับ ทำให้น้าแม้นสิ้นสติไปทันที ก่อนหันมาบอกผม

“ไอ้แม้นไม่เป็นไรแล้วท่านไกรวิทย์ เมื่อกี้ข้าสั่งให้มันเล่าเพื่อตรวจดูว่าพลังควบคุมจิตวิญญานของปราณพิทักษ์ เทพยังคงอยู่หรือไม่ เพราะถ้ามันยังอยู่ไอ้แม้นจะไม่สามารถเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เลย มันจะเป็นเพียงหุ่นให้ผู้ใช้ปราณบังคับไปตลอดชีวิต นี่แสดงว่าอุทกมารของท่านหญิงทำลายพลังปราณพิทักษ์ได้ทั้งหมด ขอเพียงมันพักผ่อนก็จะฟื้นคืนสภาพเดิมแล้ว… ”

ผมพยักหน้าขณะที่เท้ายังคงกดคันเร่งให้รถพุ่งไปข้างหน้าเต็มกำลังเครื่อง ยนต์ นาฬิกาที่หน้าปัดรถยนต์บอกเวลา 15.40 น. ทำให้หัวใจผมเต้นระรัว เพราะไม่แน่ใจว่าจะไปยังจุดหมายทันหรือไม่

“พี่เอ..ทำไมมันถึงต้องการทำร้ายริน รินไม่เข้าใจเลย”

น้องรินเอ่ยปากถามขึ้นเบาๆ อย่างงุนงง

“น้องรินนึกถึงความจำพี่ ที่น้องกิฟท์บอกให้รู้ก่อนตายได้ไหม”

น้องรินพนักหน้ารับ แต่ริมฝีปากเรียวบางของเด็กหญิงสั่นระริก

“คุณลุงสมภพข่มขืนน้องกิฟท์ ”

น้องรินพึมพำแผ่วเบา..

“แล้วน้องรินคิดว่าคุณลุงสมภพจะทำอย่างนั้นได้หรือ”

ผมถามน้องริน ขณะที่สมองผมหวนนึกไปถึงนายตำรวจวัยกลางคนท่วงท่าสง่างามสมชาย ที่มีแต่ความเมตตา ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ โดยไม่ยอมสยบต่ออิทธิพลใดๆ แต่ในขณะเดียวกันก็รักและเอ็นดูบุตรสาวอย่างที่สุด ซึ่งความรักและเอ็นดูนั้นก็พลอยเผื่อแผ่มาถึงผมและน้องรินที่เป็นเพื่อนสนิท ของน้องกิฟท์ด้วย

“รินเองก็ไม่อยากเชื่อ”
“แล้วน้าแม้นล่ะ รินคิดว่าน้าแม้นจะทำสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรือ”

ผมถามซ้ำพร้อมหักพวงมาลับรถสุดแรงเพื่อเลี้ยวเข้าไปยังหมู่บ้าน มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านเด็กหญิงที่กำลังจะประสบเหตุการณ์ที่จะทำลายอนาคตของ เด็กหญิงอัจฉริยะไปอย่างสิ้นเชิง

“น้าแม้น…ลุงสมภพ… ที่เอหมายความว่า….”

เสียงน้องรินอุทานออกมาเมื่อผมกระทืบเบรกหยุดหน้าบ้านของน้องกิฟท์ ผมใจหายวูบเมื่อเห็นรถยนต์ประจำตำแหน่งของคุณลุงสมภาพจอดอยู่ในตัวบ้าน…ผม รีบเปิดประตูรถวิ่งเข้าไปในบ้านพร้อมส่งเสียงบอกน้องรินและพ่อครูคำแปงที่ วิ่งตามมา

“มันไม่ใช่คุณลุง… ”

ผมพาร่างผ่านประตูไม้สักบานคู่ที่เปิดอ้าอยู่ พุ่งเข้าไปในบ้านที่ปราศจากผู้คน ทันใดนั้นเสียงร้องกรีดลั่นก็ดังขึ้นจากชั้นบน

“อย่า…คุณพ่อ…เป็นอะไรไป …อย่า…อย่าทำกิฟท์”

เสียงตึงตังโครมครามดังลั่นขึ้นตามมา ผมกระโจนพรวดเดียวขึ้นบันไดไปยังห้องน้องกิฟท์ ที่ปิดสนิทอยู่ โดยมีน้องรินและพ่อครูคำแปงตามมาอย่างกระชั้นชิด

“ว๊าย…คุณพ่ออย่า…ช่วยด้วย… ”

เสียงกรีดลั่นดังขึ้น… ผมผนึกปราณทั้งหมดขึ้นและโถมใส่ประตูไม้สักหนาหนักของห้องน้องกิฟท์เต็มแรง จนมันแตกกระจายเป็นชิ้นๆ ขณะที่ร่างผมพุ่งเข้าไปด้านใน ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้ผมต้องสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ

ร่างชายกลางคนผู้เคยเป็นบิดาที่รักและห่วงใยน้องกิฟท์ คุกเข่าอยู่บนเตียงนอนที่ปูด้วยผ้าลายการ์ตูนที่ลูกสาวโปรดปราน ขณะที่ร่างน้องกิฟท์กลับเปลือยเปล่าอยู่ภายใต้การกดทับ ร่างบอบบางดิ้นรนไปมาอย่างไร้ผลเนื่องจากสองมือถูกยึดกุมไว้กับพื้นเตียง สองขาเรียวยาวของเด็กหญิงถูกเข่าของผู้ที่เคยเป็นบิดากดแยกออกจากกัน เปิดเผยเนินนูนเปล่งปลั่งที่ไร้เส้นขนปกคลุม ขณะที่ลำลึงค์สีดำสนิทขนาดมหึมาเกินมนุษย์ของ พ.ต.อ.สมภพ กำลังจรดจ่อห่างสองแคมบางใสไม่กี่นิ้ว ศีรษะของคุณลุงสมภพหันมายังประตูห้องเมื่อรับรู้ถึงการมาถึงของผม น้องริน และพ่อครูคำแปง ดวงตาที่ส่งประกายสีทองเจิดจ้า และใบหน้าที่ยิ้มแสยะอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ผมรู้ในทันทีว่าข้อสัณนิษฐานของผมไม่ผิดพลาดเลยแม้แต่น้อยคำพูดของน้อง กิฟท์ในอนาคตห่างจากจุดนี้ 15 ปี ผุดขึ้นในความทรงจำของผม

‘ คุณพ่อบุกเข้ามาเหมือนไม่ใช่คุณพ่อที่กิฟท์รู้จัก เข้ามาปล้ำฉีกเสื้อผ้ากิฟท์ จับกิฟท์ตรึงกับเตียงแล้วเอาควยยักษ์ทะลวงแทงเข้าไปในหีกิฟท์จนฉีก แต่พอมันเข้าไปมิดคุณพ่อก็ร้องลั่นเหมือนกับเจ็บปวด กระด้งออกไปจากเตียงร้องลั่นออกมา กิฟท์ตาฝากหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่เห็นควยคุณพ่อมันมีแสงสีทองกระจายออก คุณพ่อฟุบลงกับพื้น เงยหน้ามองกิฟท์ ร้องไห้ออกมาแล้วออกวิ่งออกไปจากห้อง กิฟท์พยายามลงจากเตียงก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นที่ชั้นล่าง พอกิฟท์ออกมาก็เห็นคุณพ่อยิงตัวตายอยู่ที่ห้องรับแขก…’

“พี่เอ….ช่วยกิฟท์ด้วย… ”
“ น้องริน….คุณลุงสมภพอย่าทำอะไรกิฟท์นะ… ”

เสียงน้องกิฟท์ กับน้องรินประสานกันจนเป็นเสียงเดียว ขณะที่ร่างซึ่งเกือบจะข่มขืนเด็กหญิง ปล่อยมือจากการยึกข้อมือน้องกิฟท์ไว้ แล้วยันกายลุกขึ้นยืน หันด้านหน้ามาทางผม เปิดโอกาสให้น้องกิฟท์กลิ้งตัวลงจากเตียงและโถมเข้ากอดผมไว้แน่น ทั้งที่ร่างยังคงเปลือยเปล่า

“พี่เอ…พี่เอ…คุณพ่อเป็นอะไรไม่รู้ ช่วยกิฟท์ด้วย ”

น้องกิฟท์สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนผมที่โอบกอดนวลเนื้อเปล่งปลั่งของวัยแรก แย้มไว้แน่น ก่อนที่ผมจะปลอบโยนน้องกิฟท์ ร่างคุณลุงสมภพก็ก้าวลงจากเตียง มาเผชิญหน้ากับผม น้องริน พ่อครูคำแปง ประกายสีทองเริ่มแผ่กระจายขอบเขตจนดูราวกับเป็นหมอกคลุ่มร่างไว้ แต่ยังไม่สามารถปกปิดแววตาดุร้ายที่จับจ้องมายังผม แต่ประกายตานั้นกลับเปลี่ยนเป็นประหลาดใจทันทีที่เห็นร่างน้องรินซึ่งยืน อยู่เบื้องหลัง

“เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมเจ้ายังไม่ตาย…เกิดอะไรขึ้นกับท่านพี่…”

เสียงแหบเครือเปล่งออกมาจากลำคอคุณลุงสมภพ แตกต่างไปจากน้ำเสียงยามปกติที่ทุ้งหนักเปี่ยมด้วยอำนาจของผู้กำกับการตำรวจ นครบาล เชียงใหม่อย่างสิ้นเชิง

“ปราณพิทักษ์เทพ…นี่คือปราณพิทักษ์เทพจริงๆ ”

พ่อครูคำแปงพึมพำออกมาขณะที่ร่างชายชราก้าวล้ำมาบดบังร่างผมและน้องรินเอาไว้ ใบหน้าคุณลุงสมภพกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดของพ่อครูคำแปง

“เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงรู้จักปราณของข้า…”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้จักข้า จงรู้ไว้เพียงว่าผู้ที่ถูกส่งมาสังหารท่านหญิงริน ถูกกำจัดไปแล้ว และเจ้าจะเป็นคนต่อไป…”

ร่างที่เคยเป็นบิดาของน้องกิฟท์ สั่นเทิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของพ่อครูคำแปง ส่งเสียงตวาดลั่น

“บังอาจ..ไม่มีปราณใดในโลกทำลายปราณพิทักษ์เทพได้ โดยฌฉพาะไอ้แก่อย่างเจ้าที่เพียงข้ามองก็รู้ว่าปราณในกายเจ้าคือปราณมารเอกะ อันต่ำต้อย ส่วนเจ้าหนุ่มนี่ถึงจะเป็นผู้ใช้ปราณคชสีห์ ปราณที่ถ่ายทอดจากากรสมสู่ในสายเลือดอันต่ำทราม พลังของเจ้ายังไม่สามารถทำอันตรายใดต่อท่านพี่ของข้าได้…ปราณแห่งมารอัน ต่ำช้าทั้งนั้น..จงส่งตัวนังเด็กผู้หญิงทั้งสองคนนี้มาให้ข้าเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคนอย่างทรมานที่สุด”

ประกายแสงสีทองที่มือสองข้างของบิดาผู้ให้กำเนิดน้องกิฟท์ เพิ่มความสว่างขึ้น ผมรีบดันร่างน้องกิฟท์ให้น้องรินรับไว้ ก่อนถลันร่างไปยืนเคียงข้างพ่อครูคำแปงเพื่อป้องกันเด็กหญิงทั้งสอง เพราะรู้ดีว่านั่นคือสัญญานแสดงการรวมพลังปราณทำลายล้างอันรุนแรงที่เกิน ความสามารถของมนุษย์จะต้านทานได้

“ เจ้านั่นแหละที่ ต่ำช้า…นายเจ้าสั่งให้เจ้าฆ่าเด็กหญิงคนนี้..ไม่ได้ให้ข่มขืน เจ้าคือผู้ต่ำช้าลุ่มหลงในราคะ ไม่คู่ควรกับการเป็นผู้ครองปราณ…”

ร่าง พ.ต.อ.สมภพ เซถอยไปด้านหลังเมื่อได้ยินคำพูดของผม ส่งเสียงร้องด้วยความโกรธ

“เจ้าเป็นใคร รู้คำสั่งนายท่านได้อย่างไร…”

ผมสูดลมหายใจเพื่อระงับความตื่นเต้น เมื่อรู้ว่าการคาดเดาจากสิ่งที่เกิดขึ้นและประสบการณ์การต่อสู้กับร่างที่ สิงสู่น้าแม้น ทำให้ปมปัญหาเริ่มคลี่คลายแม้จะยังไม่กระจ่าง แต่ผมก็พอเห็นทางที่จะเอาชนะร่างเบื้องหน้าได้ แม้ความหวังจะดูลางเลือนก็ตาม

“ เรายังรู้อีกว่านายเจ้าไม่ได้บอกว่าเด็กหญิงทั้งสองคนนี่เป็นใคร ทำไมต้องฆ่า และเจ้าเห็นเด็กหญิงคนนี้ เจ้าก็เกิดความวิปริตต้องการร่วมเพศโดยคิดว่าหลังจากเจ้าระบายความใคร่แล้ว จึงจะฆ่านางทิ้ง ข้ากล่าวถูกหรือไม่”

ผมฉวยโอกาสขู่ตามการคาดคะแนของผมต่อไป ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำลายสมาธิของศัตรูแล้วผมยังหวังที่จะล้วงความลับให้มาก ขึ้นเพื่อเตรียมต่อสู้ในอนาคต…ซึ่งก็ดูจะได้ผลเมื่อร่างของคุณลุงสมภพเซ ตึงๆ ไปพิงผนังอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัว ส่งเสียงสั่นสะท้าน

“ ไม่จริง นายท่านสั่งข้ากับพี่ท่านสองคนเท่านั้น แม้แต่สิบสองเทวะดาราก็ไม่รู้ นี่เจ้า….”

ผมส่ายหน้าไปมาพยายามแสดงสีหน้าอย่างสมเพช แต่จดจำทุกคำพูดเอาไว้

“เจ้าไม่มีค่าแม้แต่น้อย วันนี้คือวันตายของเจ้า จิตเจ้าจะต้องสูญสลายไม่มีวันได้กลับมาในโลกนี้ได้อีก”
“ไม่จริง….ข้าจะฆ่าเจ้า…ฆ่าเจ้าทุกคน…นายท่านจะต้องให้อภัยข้า…”

ร่างที่ถูกสิงสู่ของคุณลุงสมภพลอยตัวขึ้นเหนือพื้น โถมใส่ผมอย่าลืมตัว ผมผนึกปราณทั้งหมดในร่างที่ฝ่ามือ หมุนตัวหลบร่างที่โถมใส่แล้วกระแทกมวลปราณทั้งหมดเข้าที่กลางหลังคุณลุงสมภพ ทันที

………เปรี๊ยะ……….เพล้ง….

มวลปราณทั้งหมดของผมถูกสะท้อนกลับโดยเกราะเทพที่คุ้มครองร่าง โชคดีที่ผมกระแทกในมุมเฉียงทำให้พลังที่สะท้อนไม่เข้าปะทะผมโดยตรง แต่หันเหไปทางหน้าต่างห้องนอนจนหน้าต่างกระจกแตกกระจายปลิวว่อนราวกับถูก พายุ ขณะที่สองมือผมปวดปลาบจากแรงกระแทก ความตระหนกพุ่งขึ้นมาในสมาธิผมอย่างรุนแรงเมื่อรับรู้ว่าแม้แต่ในห้วงที่ ศัตรูโกรธจนขาดสติ ผมก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านเกราะปราณคุ้มครองร่างของมันได้ ร่างศัตรูเซถลาไปตามแรงปะทะแต่กลับยืนหยัดมั่น จ้องเขม็งมายังผม ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเริ่มสงบลง เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแสยะ…

“ไม่มีทางทำลายเกราะเทพของข้าได้หรอก เจ้าเตรียมตัวตายทั้งหมดนี่แหละ..”

ประกายสีทองเริ่มผนึกรวมที่มือของผู้ทรงปราณเทพพิทักษ์เบื้องหน้าอีกครั้ง … พ่อครูคำแปงถลันเข้ามายืนเคียงข้างผม

“ท่านไกรวิทย์หลบไป ให้ข้ารับมือมันเอง…”
“ไม่..พ่อครู…ผมจะสู้กับมันให้ถึงที่สุด….”
“ท่านไม่สามารถทำลายปราณมันได้…ปล่อยให้ข้ารับมือมันก่อน ส่วนท่านรีบไปรับอุทกมารมาทำลายมันให้เร็วที่สุด…อย่าช้า.. หลีกไป..”

พ่อครูคำแปงกระซิบบอกผม ก่อนตวาดก้องเมื่อเห็นประกายแสงทรงกลมถูกผนึกขึ้นแล้วสะบัดใส่ผมด้วยความเร็วราวสายฟ้า…

…….ตูม………

ร่างชายชราผู้สอนวิชาปราณคชสีห์ให้ผมยืนแน่งนิ่งหลังการปะทะพลัง ขณะที่ร่างคุณลุงสมภพกลับเซถลาไปติดผนังห้อง ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ส่งเสียงคำราม…

“ ไอ้แก่ เจ้าถืออะไรอยู่ในมือ”

ผมเหลือบสายตามายังมือขวาของพ่อครูคำแปง ที่ใช้ปะทะพลังปราณพิทักษ์เทพเมื่อครู่ มันถูกพันไว้ด้วยผ้าสีชมพูลายการ์ตูน ซึ่งผมจำได้ในทันทีว่ามันเป็นผ้าเช็ดหน้าของน้องรินที่ใช้ประจำตัว

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้จัก…ลุกขึ้นมา ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้กับเจ้าเอง…”

ร่างคุณลุงสมภาพเหยียดตรง ใบหน้าโหดเหี้ยมแสยะยิ้ม…พลันร่างนั้นก็เริ่มลอยตัวสูงขึ้นช้าๆ พร้อมประกายสีทองเรืองรองที่เปล่งออกมาจากร่างกาย..เป็นภาพที่ผมคุ้นเคยและ รู้ดีว่ามันจะตามาด้วยการโจมตีเป้นระลอกที่ยากต่อการรับมือ

“พ่อครู…ระวัง ”
“ท่านไกรวิทย์นำท่านหญิงริน และท่านหญิงกิฟท์ออกไป…ข้าจะรับมือมันเอง …ข้ามั่นใจว่าจะต้านทานมันได้ครึ่งชัวยามแต่ท่านต้องรีบนำอุทกมารกลับมา โดยด่วน มิฉะนั้นเมื่อลมปราณพิทักษ์เทพสลาย มันจะทำให้ผู้กำกับสมภพต้องเป็นหุ่นของมันตลอดไป”
“แต่…”

ผมยังพยายามขัดขืนเพื่อร่วมต่อสู้..พ่อครูคำแปงชูผ้าสีชมพูขึ้นโถมไปข้างหน้า ขฯะที่น้องรินรีบฉุดผมให้ออกมาจากห้อง

“ พี่เอ..เวลามีน้อย พี่เอรีบรับอุทกมารจากน้องกิฟท์เดี๋ยวนี้เลย…”
“น้องริน…น้องรินรู้…”

ผมอุทานออกมาเมื่อรับรู้ว่าน้องรินก็สามารถคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน เด็กหญิงพยักหน้าแล้วหันไปดึงร่างเปลือยของน้องกิฟท์ขึ้นมาให้ผมรับไว้..

“พอพี่เอถามมัน รินก็รู้ทันทีว่าเป้าหมายของมันคือทำลายรินกับกิฟท์ แสดงว่ากิฟท์ต้องเป็นมารดาเทพอสูรอีกคนหนึ่ง พวกมันถึงไม่เสียดายที่จะต้องใช้ปราณพิทักษ์เทพมากำจัด… ”

“และการที่คุณลุงสมภาพแผดร้องหลังจากเอาอวัยวะของมันใส่ไปในตัวน้องกิฟท์ ทำให้เลือดพรหมจรรย์น้องกิฟท์หลั่งออกมา เป็นอุทกมารทำลายปราณพิทักษ์เทพ ตามที่น้องกิฟท์เคยบอกพี่ก่อนตาย…”

ผมเสริมข้อข้อสรุปของน้องริน ขณะที่น้องกิฟท์ในวงแขนผมเบิกตาโพลง รับฟังสิ่งที่ผมและน้องรินพูดกันอย่างไม่เข้าใจ

“พี่เอ..พี่ริน พูดอะไรกัน กิฟท์ยังไม่ตายนะ…”

………สวบ.. สวบ…สวบ……..อั๊ก….

กระแสพลังเป้นสายพุ่งทพลุออกจากผนังห้อง ตรงมาที่จุดซึ่งผม น้องริน และน้องกิฟท์ยืนอยู่ ผมรีบล้มลงกลิ้งตัวทับร่างน้องกิฟท์ไว้ เพื่อป้องกันอันตราย…ขณะเสียงพ่อครูคำแปงดังขึ้น..

“ท่านไกรวิทย์ รีบด่วน..ข้าจะต้านมันไม่ไหวแล้ว…. ”

ขณะที่ผมละล้าละลัง น้องรินรีบฉุดผมและน้องกิฟท์ให้ออกห่างจากเฉลียงหน้าประตูห้อง แล้วส่งเสียงอย่างร้อนรน

“พี่เอ..เมื่อกี้รินให้ผ้าเช็ดหน้าที่รินใช้เช็ดเลือดกับพ่อครู.. พ่อครูบอกว่าแม้มันจะเป็นคราบของอุทกมารแต่ก็มีพลังพอที่จะต้านเกราะพลังของ ปรษณพิทักษ์เทพได้ แต่การทำลายมันต้องใช้อุทกมารเท่านั้น..น้องกิฟท์ รินไม่มีเวลาอธิบาย แต่น้องกิฟท์ต้องให้พี่เอเย็ดที่นี่และเดี๋ยวนี้ด้วย…”

“อะ..อะไร กัน ..พี่เอ..พี่ริน.. ”

ผมสูดลมหายใจ ดึงร่างบอบบางมากอดไว้แน่น ภาพของหญิงสาวที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ในอีก 15 ปีข้างหน้าผุดขึ้นมาในความทรงจำ ผมตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ปล่อยให้เด็กหญิงที่ผมแสนรักคนนี้ประสบชะตากรรมอัน โหดร้ายที่รออยู่

“น้องกิฟท์ ฟังพี่นะ..คุณพ่อน้องกิฟท์ถูกมารสิงสู่อยู่ ผู้ที่พยายามข่มขืนน้องกิฟท์เมื่อครู่นี้ไม่ใช่คุณพ่อแต่เป็นผู้ที่ต้องการ ฆ่าน้องรินและน้องกิฟท์ ตามคำสั่งของใครบางคนที่ไม่ต้องการให้น้องทั้งสองให้ลูกที่จะทำลายพวกมันใน อนาคต.. แต่การต่อสู้กับมันตอนนี้มีเพียงเลือดพรหมจรรย์ของน้องกิฟทืเท่านั้นที่จะ ทำลายมันได้ …”
“น้องกิฟท์ เมื่อกี้รินกับพี่เอก็ถูกมันใช้ร่างน้าแม้นโจมตีที่หน้าบ้านเล็ก แต่รินกับพี่เอใช้อุทกมารที่มาจากเลือดพรหมจรรย์ของรินทำลายมันไปแล้วตัว หนึ่ง…”

ผมกับน้องรินพยายามอธิบายให้น้องกิฟท์ที่ร่างกายยังคงสั่นเทาอยู่ในอ้อมแขน ผมฟัง ใบหน้าของเด็กหญิงอัจฉริยะสงบลงเป็นเครื่องหมายที่ผมคุ้นตาว่ามันแสดงถึงการ ใช้ความคิดของเด็กหญิง

“หมายความว่าพี่เอกับพี่รินได้…”

ผมรีบพยักหน้ารับ

“พี่กับน้องรินเป็นของกันและกันแล้ว…….”

ใบหน้าน้องรินเป็นสีแดงเล็กน้อย แต่พยักหน้ารับเพื่อรับรองคำพูดของผม น้องกิฟท์มีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย ส่งเสียงแผ่วเบา

“พี่เอกับพี่รินเป็นแฟนกันแล้ว กิฟท์จะ…”

น้องรินหยุดคำพูดน้องกิฟท์ด้วยการขยับร่างกอดเพื่อนผู้เป็นเสมือนน้องสาวไว้

“กิฟท์ก็ต้องเป็นแฟนพี่เอด้วย รินไม่ยอมให้กิฟท์แยกไปเด็ดขาด… ”
“แต่พี่เอจะ..”

เสียงน้องกิฟท์สั่นเครือ..ผมพลิกร่างเปลือยบอบบางของน้องกิฟท์เข้าหาตัว ประทับจูบหนักแน่นที่ริมฝีปากนุ่มนวล ครั้งหนึ่งก่อนถอนริมฝีปากเพื่อจ้องไปในดวงตาของเด็กหญิงที่ผมแสนรัก

“พี่รักน้องกิฟท์มาตลอดเช่นเดียวกับน้องริน พี่จะไม่ยอมให้อะไรมาแยกพวกเราจากกันทั้งนั้น”
“พี่เอ…”

น้องกิฟท์อุทานออกมากอดร่างผมไว้แน่น โดยมีน้องรินสวมกอดทางด้านหลัง

……….โครม………..
เสียงดังกึกก้องจากผนังห้องนอนที่พังทลายลง ร่างผู้ทรงปราณพิทักษ์เทพ กับพ่อครูคำแปงลอยตามออกมาตามช่องแตก ประกายสีทองหุ้มร่างทั้งสองเอาไว้จนเห็นเป็นภาพลางเลือน แต่ก็มองออกว่าการต่อสู้กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด ท่ามกลางกระแสลมรุนแรงที่พัดกระจายออกมาจากปราณกักอสูร

“ท่านไกรวิทย์ รีบด่วน ข้าจะกันมันไว้ไม่ได้แล้ว ”

เสียงพ่อครูคำแปงตวาดลั่นเมื่อเห็นผมกับน้องทั้งสองยังคงกอดกันอยู่ที่หน้า ระเบียง ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นสถานการณ์เบื้องหน้า ผมจำเป็นต้องร่วมเพศกับน้องกิฟท์ในทันทีเพื่อชักนำอุทกมารที่ผมเชื่อว่าผนึก อยู่ในร่างกายของน้องกิฟท์ ทั้งที่รู้ว่าการร่วมรักโดยปราศจากความพร้อมในสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้น้อง กิฟท์เจ็บปวดไม่ต่างกับการถูกข่มขืนอย่างแน่นอน แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

“ น้องกิฟท์….ฟังพี่นะ พี่รักน้องกิฟท์ที่สุด แต่พี่จำเป็นต้องเย็ดน้องกิฟท์เดี๋ยวนี้เพื่อทำลายผู้ที่สิงสู่อยู่ในร่าง คุณลุงสมภพ น้องกิฟท์จะต้องเจ็บมากแต่พี่ขอให้น้องกิฟท์อดทน เพื่อคุณพ่อน้องกิฟท์ และอนาคตของพวกเราทั้งสาม …..”
“พะ พะ พี่เอ..จะเย็ดกิฟท์ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลยหรือ..”

น้องกิฟท์อ้าปากค้าง ส่งเสียงอุทานตะกุกตะกัก

“ พี่จะอธิบายให้กิฟท์ฟังทีหลัง แต่ตอนนี้พี่เอต้องเย็ดกิฟท์ จนกิฟท์ถึงจุดสุดยอด เวลาไม่มีแล้วกิฟท์แยกขาออกเดี๋ยวนี้…..”

น้องรินระร่ำระลักบอกน้องกิฟท์ พร้อมดึงขาเรียวของเด็กหญิงให้แยกออกจากกัน ผมรีบปลดเครื่องห่อหุ้มท่อนล่างออกจากกาย แท่งเนื้อของเด็กหนุ่มวัย 15 ยังคงอ่อนตัวเนื่องจากอารมณ์เพศยังไม่สามารถก่อเกิดขึ้นมาได้ ผมรีบกระตุกแก่นกายเพื่อเร่งให้กล้ามเนื้อขยายตัวพร้อมสำหรับการร่วมรักแต่ กลับดูเหมือนว่าอวัยวะสำคัญกลับไม่ยอมแข็งตัวในห้วงเวลาที่ต้องการที่สุด เช่นนี้

“พี่ริน กิฟท์ไม่เข้าใจ แต่กิฟท์รู้ว่าพี่เอกับพี่รินรักกิฟท์ ถ้าการเย็ดกิฟท์เป็นสิ่งจำเป็น พี่เอก็รีบเข้ามาเลย กิฟท์ยอมทำทุกอย่างเพื่อพี่เอ พี่ริน”

น้องกิฟท์ตอบน้องรินด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวตามลักษณะนิสัยของเด็กหญิงที่ มั่นใจในตัวเอง น้องรินเอื้อมมือมาคว้าแก่นกายของผม แต่ต้องร้องอุทานออกมา

“พี่เอ…มันยังไม่พร้อม”
“พี่รู้ พี่พยายามอยู่…”
“งั้นรินช่วยเอง พี่เอรีบปลุกอารมณ์น้องกิฟท์ให้พร้อมก่อน”

น้องรินกัดฟันตอบ ก่อนเคลื่อนร่างลงไปอมแก่นกายผมไว้ทันที ลิ้นน้อยๆ สะบัดวนรอบส่วนหัวเพื่อกระตุ้นความเสียวให้พุ่งโพลงขึ้น ผมดึงร่างเปลือยของน้องกิฟท์เข้ามากอดไว้แน่น

“กิฟท์ …. อดทนไว้นะ”

ผมกระซิบพร้อมเคลื่อนมือลงไปกุมเนินนูนน้อยๆ ที่ปราศจากขนเบื้องล่าง แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ผมก็ยังอดตื่นตะลึงไปกับขนาดของมันไม่ได้ แรงดีดสะท้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือผมบอกให้รู้ว่าน้องกิฟท์ครอบครองสิ่งที่ ผู้ชายทุกคนฝันหา ร่างน้องกิฟท์ก็กระตุกเฮือกเมื่อนิ้วผมแยกสองแคมเปล่งปลั่งออกออกจากกัน ขณะที่แก่นกายผมที่ถูกห่อหุ้มด้วยปากอบอุ่นของน้องรินเริ่มขยายตัวขึ้นอย่าง รวดเร็วเมื่อสัมผัสลิ้นของเด็กหญิงที่โลมเสียส่วนปลายที่ไว้ต่อการสัมผัส จนมันแข็งตัวเต็มที่ น้องรินรีบปล่อยแท่งเนื้อออกจากช่องปาก ร้องสั่งอย่างเด็ดขาด

“ พี่เอ …เดี่ยวนี้เลย”

นิ้วของผมที่สัมผัสปากแคมน้องกิฟท์สัมผัสความเปียกชื้นน้อยๆ ของอารมณ์รักน้องกิฟท์ที่เริ่มปรากฏขึ้น แม้จะยังห่างไกลจากความพร้อมสำหรับการร่วมรัก…แต่ผมก็ต้องนำแก่นกายมาจ่อ ที่ปากทางเข้าเพื่อทำลายเยื้อพรหมจารีย์น้องกิฟท์ให้เร็วที่สุด

……..เปรี้ยง………….อั๊ก..

กระแสลมกรรโชกผ่านร่างผมเมื่อแรงปะทะของปราณระเบิดขึ้นระหว่างการต่อสู้ ทำให้ผมต้องหันไปดูด้วยความห่วง และพบว่าร่างพ่อครูคำแปงกระเด็นไปติดผนังห้องนั่งเล่น ริมฝีปากชายชรามีโลหิตไหลซึมเป็นทาง…ขณะที่ร่างของคุณลุงสมภพลอยอยู่กลาง อากาศ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ…

“ปราณเอกะอสูร แม้จะต่ำต้อยแต่ก็ต่อสู้กับข้าได้นานถึงเพียงนี้..ไม่เลวเลยตาเฒ่า แต่มันจบแต่นี้แหละ..”
“ท่านไกรวิทย์ พาท่านหญิงทั้งสองหนีไป .. ข้าต้านมันไม่ได้แล้ว…”

เสียงพ่อครูคำแปงสั่นสะท้าน ใบหน้าของผู้ทรงปราณพิทักษ์เทพหันตามมายังผม ดวงตาเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าผมกำลังจะทำลายความสาวของน้องกิฟท์

“พวกเข้ากำลังทำอะไร…หรือว่า…สตรีนางนี้คือมารดาเทพอสูร…อุทกมาร”

เสียงตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้น เมื่อตระหนักว่าผมและน้องกิฟท์กำลังทำอะไร ลูกกลมเรืองแสงก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่สองมือซึ่งประกบอยู่กลางหน้าอก และผลักเข้าใส่ร่างผมกับน้องกิฟท์ทันที

“ไม่…พี่เอ…น้องกิฟท์ ”

น้องรินร้องลั่นพร้อมโผร่างมากอดผมไว้ด้านหลังเพื่อบังปราณพลังที่ทรง อานุภาพทำลายล้างสูงสุด ขณะที่ผมก็ต้องโคจรปราณคชสีห์กระจายไปทั่วร่างเพื่อเตรียมตัวต้านทานทั้งที่ ว่าไม่สามารถป้องกันได้ ในเสี้ยววินาทีนั้นจิตใจของผมกลับสงบแม้รู้ว่าผม น้องริน และน้องกิฟท์จะต้องถูกทำลายใต้ปราณพิทักษ์เทพ แต่ห้วงลึกของจิตใจกลับปลอดโปร่งที่รับรู้ว่าในที่สุดเราทั้งสามคนจะไม่ต้อง แยกจากกันอีกต่อไป พลังปราณจากร่างน้องรินแผ่กระจายเข้าประสานกับปราณผม แม้ปราณคชสีห์ในร่างน้องรินที่ได้รับถ่ายทอดจากการร่วมรักจะยังไม่แข็งแกร่ง แต่เด็กหญิงก็สามารถอาศัยความทรงจำความรู้และประสบการณ์ของผมโคจรพลัง ป้องกันได้ กระแสปราณกระจายทั่วร่างกระจายทั่วร่างขณะที่ลุกกลมพลังทำลายล้างพุ่งเข้ามา ผมหลับตาซึมซับความรู้สึกสมผัสของเด็กหญิงผู้เป็นที่รักทั้งสอง พร้อมที่จะรับความตาย

ขณะที่จิตผมนิ่งสนิทพลังปราณจักรวาลที่วนเวียนในร่างผม พลันระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงกระจายตัวออกไปทุกรูขุมขน เสื้อผ้าทุกชิ้นในร่างผมและน้องรินทางด้านหลังสลายหายไปตามกระแสพลังที่ ระเบิดออก แต่แทนที่กระแสพลังจะปะทะกับปราณโจมตีที่พุ่งเข้ามา ทุกสิ่งกลับอยู่ในความเงียบสงัด

“ พี่เอ…ดู…เกิดอะไรขึ้น.. ”
“ อะไรน่ะ…ทำไม..”

เสียงของน้องรินและน้องกิฟท์ที่สั่นสะท้านประสานกัน ทำให้ผมลืมตาขึ้นและพบกับภาพที่แปลกประหลาดที่สุดที่เคยพบมา

เบื้องหน้าผมลูกกลมพลังปราณพิทักษ์เทพลอยนิ่งสนิทอยู่ห่างร่างผมและน้องทั้ง สองเพียงไม่ถึงสองเมตร แต่ร่างกายผมไม่สามารถสัมผัสถึงกระแสพลังไม้แต่น้อย ไกลออกไปร่างของคุณลุงสมภพอยู่ในท่วงท่าโถมร่างตามปราณที่ส่งมาโจมตี ก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ รอบด้านไม่มีการเคลื่อนไหวหรือเสียงใดๆ สายตาผมจับจ้องไปที่ฝุ่นผงที่เกิดจากการต่อสู้ซึ่งควรจะล่องลอยอยู่ทั่วห้อง แต่มันกลับอยู่กับที่ราวกับเวลาหยุดนิ่งและมีเพียงผม น้องริน และน้องกิฟท์เท่านั้นที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ ผมเอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อสัมผัสลุกกลมพลัง แต่ก่อนจะถึงผมกลับสัมผัสถึงพลังชนิดหนึ่งที่ขวางกั้นผมเอาไว้ ผมค่อยๆ เลื่อนมือไปตามสิ่งกีดขวางและรับรู้ว่ามันมีลักษณะเป็นลูกกลมใสราวกับกระจก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร ที่กักผมและน้องทั้งสองไว้ภายใน..

“พี่เอ…มันคืออะไร.. ”

เสียงน้องรินถามขึ้น แต่ผมทำได้เพียงส่ายศีรษะไปมา

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น พี่เชื่อว่านอกลุกกลมนี้เวลาทั้งหมดหยุดนิ่ง มีเพียงพวกเราที่อยู่ภายในเท่านั้นที่ยังคงเคลื่อนไหวได้”

สัมผัสอบอุ่นของผิวกายน้องกิฟท์เคลื่อนมาในอ้อมแขนผม ร่างบอบบางสั่นสะท้าน

“ นี่เป็นวิชาการต่อสู้ของพี่เอหรือเปล่า”

ผมหันไปฝืนยิ้มให้น้องกิฟท์ พยายามควบคุมน้ำเสียงให้สงบเพื่อลดความตื่นตระหนกที่กำลังเกิดขึ้น

“ในโลกนี้ไม่มีวิชาการต่อสู้ใดสามารถหยุดเวลาได้หรอกน้องกิฟท์ พี่เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“พี่เอ…”

เสียงอุทานของน้องรินทำให้ผมต้องหันหน้าไปหา และพบว่าแสงสว่างรอบด้านกำลังลดลง ภาพทั้งหมดนอกลุกกลมสลายไปราวกับภาพต่อจิ๊กซอว์นับล้านชิ้นที่กระจายออก ความมืดเข้าปกคลุมอย่างรวดเร็ว จนไม่ปรากฏแสงใดๆนอกจากความมืดที่ราวกับมันได้ผนึกตัวเป็นวัตถุครอบพื้นที่ ทรงกลมทั้งหมดเอาไว้ แต่ภายในลูกกลมร่างทั้งสามของผม น้องริน และน้องกิฟท์ กลับเปล่งประกายแสงเรืองรองด้วยตัวเอง จนทำให้สายตาสามารถมองเห็นได้ ร่างกายทั้งหมดดูราวกับปราศจากแรงโน้มถ่วง ล่องลอยอยู่ภายในอาณาเขตทรงกลมเล็กๆ อย่างอิสระ จนผมต้องดึงร่างเปลือยของน้องทั้งสองเข้ามากอดไว้แน่นทำให้ทุกส่วนของร่าง กายแทบจะผนึกเป็นเนื้อเดียวกัน

“เราอยู่ที่ไหน….”

น้องรินพึมพัมยกมือขึ้นดูแสงเรืองที่ส่องออกมาจากร่างกายอย่างงุนงง ผม ผมสูดกลิ่นกายหอมกรุ่นของน้องรินและน้องกิฟท์ที่อบอวลอยู่ภายใน ในใจปราศจากความวิตกแม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเหนือความเข้าใจ เพราะผมยังมีน้องทั้งสองอยู่เคียงข้าง

“พี่ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยเราก็ได้อยู่ด้วยกันนะ”

น้องรินหันใบหน้ามาหาผม ประทับจูบอย่างนุ่มนวล

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รินก็จะอยู่กับพี่เอ”
“กิฟท์ยังไม่เข้าใจอะไรเลยพี่เอ…แต่ในเมื่อพี่เออยู่กับกิฟท์แบบนี้ กิฟท์ก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”

น้องกิฟท์ซุกหน้าเข้ากับอกผมส่งเสียงราวกับละเมอ ร่างบอบบาง สั่นระริกอยู่ในวงแขนผม ผิวกายที่หอมกรุ่นระเหยกลิ่นอายของเด็กหญิงแรกรุ่นที่แสนบริสุทธิ์อบอวลอยู่ ในลูกกลมใส ผมหันไปทางน้องรินและพบว่าเด็กหญิงก็กำลังจับจ้องผมอยู่ ดวงตาน้องรินไม่แสดงอาการหวาดกลัวใดๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับยิ้มให้ผมอย่างอ่อนหวานแล้วเบียดร่างเปลือยเข้ากับน้องกิฟท์ ก่อนเชยคางเรียวบางขึ้นแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน

“ถ้ากิฟท์อยากเข้าใจทุกอย่างเหมือนกับรินและพี่เอ…รินจะช่วยนะ”
“ช่วยอย่างไรหรือพี่ริน ”
“อย่างนี้ไงล่ะ..”

น้องรินพลิกร่างขึ้นทับผมเพื่อยื่นใบหน้าไปยังน้องกิฟท์ ริมฝีปากเรียวบางผนึกแนบกับริมฝีปากน้องกิฟท์ที่เบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ ร่างน้องรินกดทับท่อนบนน้องกิฟท์ไว้โดยมีร่างกายท่อนล่างของผมรองรับ

“พี่ริน…”

น้องกิฟท์ครางออกมาแผ่วเบาเมื่อน้องรินเลื่อนมือขึ้นมาเกาะกุมหน้าอกที่ เกือบจะแบนราบของน้องกิฟท์เอาไว้ในฝ่ามือและคลึงไปมาอย่างช้าๆ ผมรู้ในทันทีว่าน้องรินต้องการทำสิ่งใดและในเมื่อผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิด อะไรขึ้นในอนาคต ผมก็ไม่ควรต้องกังวลอะไรอีกต่อไป มือผมเลื่อนไล้ไปตามแผ่นหลังน้องรินเคลื่อนลงไปตามแนวกึ่งกลางสะโพกครัด เคร่ง และสอดผ่านต้านขาเรียวนุ่มเข้าไปเกาะกุมเนินเนื้ออวบอิ่มที่เพิ่งรองรับแก่น กายของผมไปเมื่อเช้า..

“พี่เอ….ดะ เดี๋ยว…”

น้องรินครางออกมาเบาๆ เมื่อนิ้วผมไต่ไปตามสองแคมเปล่งปลั่ง จนกระทบเม็ดเสียวที่ซุกตัวอยู่เหนือร่องหลืบคับแน่น

“พี่ริน…ยะ อย่าบี้มัน ”

น้องกิฟท์ครางด้วยเสียงสั่นๆ เมื่อน้องรินใช้นิ้วบี้เม็ดหัวนมน้อยๆ บนหน้าอกไปมา ทำให้ผมหันไปหาน้องกิฟท์และประทับจูบกับริมฝีปากที่ยังสั่นสะท้านทันที ร่างน้องกิฟท์แอ่นขึ้นเมื่อถูกโจมตีพร้อมกัน ลิ้นผมสอดผ่านเรียวฟันขาวสะอาดเข้าสู่ความอบอุ่นหอมหวานภายใน ลิ้นน้อยๆ ส่ายไปมาอย่างไร้ทิศทางด้วยอารมณ์ที่พลุ่งขึ้น แต่เมื่อกระทบกับลิ้นผมมันก็กลับเกี่ยวกระหวัดแน่นราวกับต้องการที่พึ่งพิง ความหวานถ่ายทอดผ่านปลายลิ้นราวกับน้ำทิพย์ ขณะเดียวกันนิ้วชี้ของผมก็เริ่มแทรกตัวผ่านสองแคมชุ่มชื้นของน้องรินที่ เริ่มหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาช้าๆ

“ พี่เอ…อย่าเพิ่งนะ ..ให้น้องกิฟท์ก่อน..รินรอได้…”

น้องรินครางออกมา เมื่อนิ้วผมสอดลึกเข้าไปภายในช้าๆ แต่สะโพกน้อยๆ ดูราวกับปฏิเสธความต้องการของเจ้าของ มันกลับส่ายไปมาเพื่อให้หลืบเนื้อภายในเสียดสีกับนิ้วให้มากขึ้น

“ อะ..อะ พี่ริน กิฟท์…”

น้องกิฟท์ถอนปากจากการจูบอย่างกระทันหัน ร่างบอบบางของเด็กหญิงวัยยังไม่เต็ม 12 สะท้านเฮือกมือซ้ายผมที่ยังเป็นอิสระเลื่อนต่ำลงตามลำตัวน้องกิฟท์จนมาถึง เนินนูนที่ผมเคยสัมผัสเมื่อครู่ที่ผ่านมา แต่แทนที่ผมจะพบกับความอวบนูนเปล่งปลั่ง มือผมกลับสัมผัสหลังมือของน้องรินที่กำลังประกบบดคลึงเนินสาวของน้องกิฟท์ไป มา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องกิฟท์ร้องครางออกมาเมื่อครู่

มือน้องรินขยับออกเพื่อเปิดทางให้ผมเกาะกุมเนินเนื้อน่ารักไว้แทนที่ แต่มือน้องรินกลับเปลี่ยนเป้ามหายมากุมรอบแท่งเนื้อของผมที่กำลังแข็งปั๋ง จากการตื่นตัวของอารมณ์รัก น้องรินสัมผัสแท่งเนื้อที่พรากความสาวของเด็กหญิงไปอย่างนุ่มนวลแล้วกระทอก เบาๆ ความเสียวจากากรสัมผัสส่วนหัวที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม ยิ่งทำให้มันขยายตัวเต็มที่จนความเสียวแทบระเบิดออกมา

ผมพยายามหันเหความสนใจมายังร่องเนื้ออวบอิ่มของน้องกิฟท์ หยาดน้ำใสเอ่อซึมออกมาตามร่องสองแคมที่ปิดสนิท ร่างบอบบางบิดส่ายไปมาเมื่อนิ้วผมเสียดสีด้านบนของร่องหลืบจนพบเม็ดเสียว น้อยๆ ที่ฝังตัวอยู่ด้านบน เพียงสัมผัสเบาๆ ร่างน้อยก็สั่นสะท้าน

“พะ พี่เอ…ตรงนั้น มัน ..มัน กิฟท์ เสียว…เสียวเหลือเกิน ”

น้ำหล่อลื่นของเด็กหญิงทะลักออกมาราวทำนบแตก..จนนิ้วผมชุ่มโชก ผมขยับเปลี่ยนให้นิ้วโป้งบดคลึงเม็ดเสียวต่ออย่างนุ่มนวล และใช้นิ้วกลางเสียดสีร่องเสียวของน้องกิฟท์ขึ้นลง จนสามารถกดแทรกผ่านลงไประหว่างสองแคมได้

“ อะ..อะ…มัน…เข้าไปแล้ว….พี่เอ…อูวส์…. ”

อารมณ์รักของเด็กหญิงที่เพิ่งพ้นวันเกิดอายุ 11 ปีมาได้เพียง 4 เดือน ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง สะโพกน้อยๆ แอ่นขึ้นรับการสอดใส่ของนิ้วที่ค่อยๆ ผ่านลึกลงไปสู่ความเป็นสาวอย่างช้าๆ ผมพลิกร่างให้น้องกิฟท์มาอยู่ใต้ร่าง แล้วดันขาเรียวให้แยกออกจากกันก่อนดึงแท่งเนื้อออกจากมือน้องรินอย่างง่าย ดาย จากการที่เจ้าของมือหยุดขยับมือ แต่กลับเบียดแผ่นหลังผมไว้แน่นจนหน้าอกกะทัดรัดแทบจะแบนราบไปตามแรงกด ขณะที่กระเด้งสะโพกรับการสอดใส่ของนิ้วอย่างลืมตัว

“ซีดส์……อ๊าวส์…พี่เอ…ริน……”

นิ้วผมสัมผัสแรงกระตุกถี่ยิบภายในร่องหลืบน้อยๆ ของน้องริน ร่างงามสั่นระริก ก่อนที่ผมจะถอนนิ้วออกแล้วดึงร่างน้องรินให้ลอยขึ้นมาด้านบน พร้อมกับค่อยๆ กดแท่งเนื้อลงไปสู่ความฉ่ำเยิ้มของน้องกิฟท์ ส่วนบานของแท่งเนื้อแทรกผ่านความคับแคบของสองแคมลงไปอย่างยากลำบากแม้จะมี น้ำหล่อลื่นจำนวนมากช่วยเหลือ สองแคมปริแยกออกรัดรึงส่วนปลายของแท่งเนื้อที่ไวต่อความรู้สึก ส่งผ่านความนุ่มนวลรัดรึงที่เสียวจนจนผมแทบจะกลั้นความรู้สึกต้องการดันมัน ลงไปฝังไว้ทั้งหมดในครั้งเดียวไม่ได้

“ พี่เอ…กิฟท์เจ็บ…เบาๆ หน่อยนะ…”

เสียงสั่นระริกของน้องกิฟท์ดังขึ้น ทำให้น้องรินที่เพิ่งขึ้นไปถึงจุดสุดยอดด้วยนิ้วของผม พลิกร่างและดึงตัวเองลงมาหาร่างน้องกิฟท์ และจูบหน้าอกเต่งที่ยังไม่พัฒนาการเต็มที่อย่างอ่อนโยน

“ โอย…พี่ริน…อย่าดูด….กิฟท์”

น้องกิฟท์ครวญครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเม็ดยอดอกสีแดงราวทับทิมถูก น้องรินดูดดื่มราวกับทารกที่หิวโหย ร่างน้อยบิดส่ายเป็นระลอกจนกลับเพิ่มแรงสะท้อนให้ส่วนหัวของแท่งเนื้อผมผ่าน จมลงไปในร่องหลืบได้ทั้งหมด

“พี่เอ…พี่ริน กิฟท์…กิฟท์ เสียวเหลือเกิน…ใจจะขาดแล้ว….โอ๊ย…พี่เอ…กิฟท์เจ็บ…”

น้องกิฟท์ร้องลั่นออกมาเมื่อผมไม่สามารถระงับความต้องการจากความเสียวที่ถูก ร่องเด็กหญิงบดอัดไว้ไม่ได้ และตัดสินใจยึดสะโพกกะทัดรัดเอาไว้ก่อนที่จะกดอัดแก่นกายทั้งหมดลงสู่ความ สาวของเด็กหญิง มันฉีกผ่านเยื่อพรหมจารีย์ลงไปจนรู้สึกได้ถึงการฉีกขาด แล้วมุดตัวต่อเนื่องลงฝังความยาว 5 นิ้วของเด็กหนุ่มวัย 15 ลงไปจนมิด ใบหน้าน้องกิฟท์บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ทำให้ผมต้องหยุดการเคลื่อนไหวแล้ว ทาบร่างลงทับน้องกิฟท์ไว้

“เจ็บมากไหมน้องกิฟท์…พี่จะหยุดก่อนนะ”

เด็กหญิงที่บัดนี้ได้มอบความสาวมาให้ผมอย่างสมบูรณ์ ฝืนยิ้มให้ผมก่อนตอบด้วยเสียงสั่นเครือ

“เจ็บที่สุดเลยพี่เอ…มันฉีกหรือเปล่าก็ไม่รู้….พี่รินเจ็บอย่างนี้หรือเปล่า”

เด็กหญิงหันไปถามน้องรินที่ยังคงลูบไล้ผิวกายนุ่มเนียนของน้องกิฟท์อย่างปลอบประโลม

“รินก็เจ็บเหมือนน้องกิฟท์นั่นแหละ..แต่เดี๋ยวน้องกิฟท์ก็จะมีความสุขที่สุด”
“พี่รินไม่หลอกกิฟท์นะ…”

น้องกิฟท์จ้องตาน้องรินอย่างคาดคั้น ทำให้ผมและน้องรินอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ผู้หญิงทุกคนพอมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกก็ต้องเจ็บแบบนี้แหละน้องกิฟท์ น้องรินไม่ได้หลอกน้องกิฟท์เลย…”

ผมลูบไล้ผิวกายเนียนบางของน้องกิฟท์ไปมา ขณะที่แท่งเนื้อถูกหลืบที่แน่นสนิทของน้องกิฟท์บีบรัดไว้ทุกส่วน แต่ผมยังไม่พยายามเคลื่อนไหวเพราะต้องการให้น้องกิฟท์เคยชินกับการสอดใส่ เสียก่อน

“ กิฟท์รู้นะว่ามันต้องเจ็บ กิฟท์เคยอ่านมา แต่ไม่รู้เลยว่ามันเจ็บถึงขนาดนี้…”

“ก็น้องกิฟท์ยังเด็กมากนี่นา เพิ่ง 11 ขวบเอง..รินแก่กว่าเกือบปียังแทบรับ เอ้อ..ควยของพี่เอไม่ได้เลย เจ็บแทบตายเหมือนกัน…”

น้องรินพึมพำพลางค้อนมายังผมแบบไม่จริงจังอะไรนัก

“ ตอนหลังไม่เห็นน้องรินร้องเจ็บเลย เห็นแต่บอกให้พี่เร่งอีก เร่งอีก…”

ผมแหย่น้องริน ทำให้เด็กหญิงร้องอุทานออกมาแล้วระดมทุบผมเป็นการใหญ่..

“พี่เอขา…”

เสียงน้องกิฟท์เรียกผมเบาๆ อย่างอ่อนหวาน ใบหน้าเด็กหญิงเป็นสีชมพูเข้ม

“ทำไมหรือน้องกิฟท์…”
“พี่เอ…ค่อยๆ ขยับได้ไหม…กิฟท์อยาก เอ้อ…”

ผมก้มลงจูบริมฝีปากน้อยๆ นั้น สองแขนกอดร่างบอบบางไว้แน่นแล้วเริ่มถอนแท่งเนื้ออกอย่างช้าๆ จนมาถึงกึ่งกลางก็กดมันกลับเข้าไป ท่ามกลางเสียงครวญครางในลำคอของน้องกิฟท์..ระยะกระด้าของผมค่อยๆ เพิ่มขึ้นช้าๆ ขณะที่เด็กหญิงดูดลิ้นผมอย่างกระหาย สองมือไขว่คว้ามาโอบหลังผมดึงเจ้าไปกอดแน่น สะโพกเริ่มเคลื่อนที่รับการกระเด้าอย่างช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มความเร็ว

“อื้อ…อื้อ..อึ๊ด…อะ..อะ โอ๊วส์ พี่เอ…มันเสียว…เสียว…เสียวเหลือเกิน”

น้องกิฟท์คราวญครางในลำคอก่อน สะบัดหน้าออกจากการจูบ ใบหน้าเด็กหญิงส่ายไปมาร่างน้อยบิดเป็นเกลียวจนแทบพ้นการกอดรัดของผม ทำให้ผมต้องยกตัวขึ้นจับเอวคอดกิ่วเป็นหลัก แล้วกระหน่พกระเด้าร่องหลืบถี่ยิบ…สองมือน้องทิพย์เปลี่ยนมายึดท่อนแขนผม ไว้ ร่างเปลือยขาวผ่องแผ่สีชมพูเข้มไปทั่วร่างจากากรสูบฉีดเลือด…ผมก้มลงมอง ภาพแนินนูนอวบอิ่มที่สองแคมบีบรัดแท่งเนื้อจนตึงเป็นวงกลมแน่นเปรี๊ยะ.. เลือดพรหมจรรย์ที่ผสมน้ำหล่อลื่นเคลือบแท่งเนื้อจนเป็นสีแดงจางๆ ความเสียวกรุเกรียวมาจุกตัวที่ปลายลำลึงค์ ผมกระหน่ำกระเด้าตามที่ใจปราถนา

“โอ๊วส์ พี่ พี่เอ…เร่งอีก …อีก…อีก…โอ๊ย…..กิฟท์…อ๊าส์…..”

สะโพกน้องกิฟท์ยกสูงขึ้นเกร็งตัวอัดแน่นกับหน้าท้องผม ร่องหลืบภายในกระตุกตอดขมิบที่ส่วนปลายลำลึงค์เป้นจังหวะ ผมกัดฟันหลับตาแน่นปลดปล่อยน้ำรักพร้อมปราณคชสีห์เข้าสู่ร่างกายน้องทิพย์ เป้นระลอก…ความรู้สึกทั้งมวลถูกส่งผ่านปราณเข้าไปวนเวียนในร่างกายและจิต ใจเด็กหญิง ดูดซับความทรงจำทั้งหมดพร้อมกับถ่ายทอดความทรงจำของชายหนุ่มอายุ 35 ที่ย้อยเวลามายังร่างเด็กหนุ่มอายุ 15 ให้กับน้องทิพย์ทั้งหมด ก่อนย้อนกลับมาสู่ร่าง

ใบหน้าที่เหนื่อยอ่อนจากการไต่ไปถึงสุดยอดครั้งแรกในชีวิตของน้องกิฟท์ เปลี่ยนไปเป็นความตื่นตระหนก ดวงตาเรียวยาวเบิกโพลงขึ้นเมื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่าง กายหลังการร่วมรัก ผมรู้ในทันทีว่าจิตใจของน้องกิฟท์กำลังตื่นตกใจกับภาพความทรงจำต่างๆ ที่หลั่งไหลเข้าไป ทำให้ผมต้องรีบกอดร่างที่สั่นเทาไว้แน่น

“น้องกิฟท์ ไม่ต้องตกใจ ปล่อยใจให้รับมันไว้ พี่จะนำปราณให้กิฟท์เอง..”

ผมรีบบอกพร้อมเคลื่อนปราณผ่านแท่งเนื้อที่ยังคงฝังตัวอยู่ในร่างกายเด็กหญิง ชักนำไปตามแนวทางปราณคชสีห์ผ่านเรือนจักรทั้งสี่ ก่อนบรรจบกันที่ศูนย์กลางบริเวณท้องน้อย น้องกิฟท์หลับตากอดร่างผมไว้แน่นครูใหญ่ ก่อนผ่อนแรงลงพร้อมกับลืมตาขึ้น

“พี่เอ..พี่ริน กิฟท์เข้าใจแล้ว…มัน มัน ไม่น่าเชื่อ…กิฟท์ตายไปแล้ว พี่รินก็ตายไปแล้ว แต่ตอนนี้พวกเรากลับมาอยู่ที่นี่…กิฟท์….”

น้องรินเคลื่อนร่างที่ไร้น้ำหนักเข้ามาโอบกอดน้องกิฟท์และผมไว้

“น้องกิฟท์อย่าเพิ่งสงสัยอะไร…รินเชื่อว่าทุกอย่างต้องมีคำตอบให้เรารู้ แต่ตอนนี้ปัญหาที่สำคัญคือเราอยู่ที่ไหน และจะเป็นอย่างไรต่อไป…”

ผมกอดร่างน้องรินที่เคลื่อนเข้ามาไว้แน่น

“พี่เองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเหมือนกัน … พวกเราอาจต้องติดอยู่ในนี้โดยไม่มีกำหนด..หรืออาจจะต้อง…”
“ถ้ามีพี่เออยู่ด้วย…ถึงรินจะต้องตายที่นี่รินก็ขอตายพร้อมกับพี่เอ..รินไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น”
“กิฟท์ก็ไม่กลัวหรอกพี่เอ…ถ้าการย้อนเวลาของพี่เอต้องยุติลงแบบนี้ กิฟท์ก็ดีใจที่สุดแล้ว ดีใจที่ได้เป็นของพี่เอ..ได้อยู่กับพี่ริน..”

เด็กหญิงทั้งสองผู้เป็นภรรยาของผมประสานเสียงบอกความในใจที่ทำให้ผมตื้นตัน ในหัวใจ ชีวิตผมมาถึงจุดนี้แล้ว ได้ปลดเปลื้องความทรงจำอันแสนทรมานของน้องทั้งสอง ได้น้องรินและน้องกิฟท์มาอยู่ เคียงข้างกัน แม้วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตผมก็พร้อมที่จะยอมรับมันอย่างเต็มใจ

“พี่รักน้องรินและน้องกิฟท์เท่าชีวิตของพี่เอง…”

ผมกอดร่างทั้งสองไว้แน่น ถ่ายทอดความอบอุ่นให้กันและกัน ผมไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าน้องรินและน้องกิฟท์จะต้องรับรู้ความหมายและขอบ เขตของรักที่ผมมีให้จากส่วนลึกของความทรงจำที่น้องทั้งสองได้ครอบครองร่วม กัน..

“พี่เอ…ถอน..เอ้อ..ควย พี่ออกไปก่อนได้ไหม กิฟท์ขอขยับตัวหน่อย..”

น้องกิฟท์ร้องอุทรณ์เบาๆ ทำให้ให้ผมขยับร่างและดึงลำลึงค์ออกจากร่องเสียวเด็กหญิงช้าๆ ท่ามกลางเสียงสูดปากและเสียงบ่นเบาๆ..

“อูย..เมื่อกี้กิฟท์ก็เสียวสุดๆนะ แต่ทำไมตอนเอาออกมันยังเจ็บก็ไม่รู้”

ผมและน้องรินหัวเราะเบาๆ พร้อมกัน เมื่อเห็นเด็กหญิงกลับสู่อาการกระเง้ากระงอดที่เห็นเป็นประจำยามที่พวกเรา ทั้งสามอยู่ด้วยกัน แต่ก่อนที่ผมจะเอ่ยคำพูดใดๆ ผมก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อพบว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับลูกกลมใสที่ล้อมรอบ ผมและน้องทั้งสอง ประกายสีแดงเรื่อกระจายขึ้นมาจากส่วนล่างของลูกกลมใส ผมก้มลงไปมองด้านล่างแล้วก็ต้องอุทานออกมา…

หยดเลือดจากการร่วมรักระหว่างผมกับน้องกิฟท์ ผสมกับน้ำรักที่ผมหลั่งเข้าไปในร่างกายเด็กหญิง เอ่อล้นออกมาจากร่องหลืบน้อย จนกระทบกับผนังที่ใสราวผลึก ประกายสีแดงเริ่มก่อตัวขึ้นจากหยดเลือดแล้วกระจายออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวด เร็ว เพียงไม่กี่วินาทีลุกกลมทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม อึดใจต่อมาแสงสีขาวคล้ายฟ้าแลบก็แผ่ตัวออกครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดราวใยแมลง มุม แล้วเริ่มจางลงช้าๆ

“พี่เอ…ดู…”

เสียงน้องรินดังลั่น แต่ผมไม่จำเป็นต้องหันไปตามสายตาน้องรินแต่อย่างใด เพราะภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าบอกให้รู้ว่าสิ่งใดกำลังจะเกิดขึ้น
ความืดสนิทภายนอกลุกกลมระหว่างที่ผมร่วมรักกับน้องกิฟท์ เริ่มสว่างขึ้นเรืองๆ ทีละน้อย ภาพห้องโถงใหญ่ของบ้านน้องกิฟท์เริ่มคืนกลับมา มันยังเป็นภาพเดิมที่ผมเห็นก่อนความมืดเข้าปกคลุม ประกายวงกลมของปราณพิทักษ์เทพอยู่ห่างจากผมเพียงช่วงตัวคน ร่างคุณลุงสมภพที่ถูกผู้ทรงปราณพิทักษ์เทพสิงสู่ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศในท่วง ท่าที่กำลังกระโจนตามพลังปราณมาหาผมและน้องทั้งสองไกลออกไป ร่างของพ่อครูคำแปงนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นห้อง เลือดไหลออกมาจากปาก แต่ดวงตาที่ทอแววประหวั่นพรั่นพรึงและหมดความหวังจับจ้องมาที่ลูกกลมพลัง ปราณที่กำลังจะกระทบเป้าหมาย

“พี่เอ..ระวัง ลุกกลมกำลังจะสลาย เวลากำลังจะกลับเดินแล้ว….”

น้องกิฟท์สะบัดร่างออกจากวงแขนของผม ดวงตาเด็กหญิงเปล่งประกายวาววับ เป็นแววตาที่ผมแสนคุ้นเคยยามที่เด็กหญิงอัจฉริยะผู้นี้สามารถใช้สมองแก้ไข ปัญหาที่ผ่านเข้ามาได้ ภายนอกประกายสีแดงหลงเหลือเพียงหมอกสีชมพูจากงๆ กระแสอากาศเริ่มกระทบร่างกาย อย่างช้าๆ ลุกกลมพลังปราณเบื้องหน้าเริ่มเคลื่อนไหวและเพียงเสี้ยววินาที มันก็พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วเต็มที่

“กรี๊ด….อย่า…”
“ น้องกิฟท์…ไม่นะ…”

น้องรินและผมส่งเสียงร้องลั่นออกมาพร้อมกัน เมื่อร่างเปลือยบอบบางของน้องกิฟท์ดีดตัวเองจากพื้นทะยานเข้าใส่ลูกกลม ราวกับจะป้องกันมิให้มันกระทบร่างผมและน้องริน ทั้งที่น้องกิฟท์รู้ดีว่าไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย ผมพยามคว้าร่างปลายเท้าน้องกิฟท์ไว้เพื่อดึงให้พ้นจากการปะทะแต่มือผมเฉียด ปลายเท้าไปเพียงเสี้ยวมิลลิเมตร ร ดวงตาผมเบลิกดพลงเมื่อรับรู้ภาพการปะทะของร่างกายเด็กหญิงที่ผมเแสนรักกับ ปราณพลังที่รุนแรงเกินการต้านทานกำลังจะเกิดขึ้นและพรากชีวิตออกจากร่างน้อง กิฟท์ตลอดกาล…แต่..

……..ซ่า…..

ตาที่เบิกโพลงของผมกลับต้องเปิดค้างเมื่อร่างน้องกิฟท์เข้าสู่ลูกกลมพลัง แต่ปราศจากเสียงระเบิดกึกก้อง ตรงข้ามลุกกลมพลังที่ส่องแสงเจิดจ้ากลับดับวูบสลายไปอย่างรวดเร็วเกิดเสียง ราวกับการสาดน้ำเย็นจัดเข้าสู่เตาไฟ ร่างน้องกิฟท์ลอยตัวผ่านตรงไปยังร่างของคุณลุงสมภพผู้เป็นบิดาที่กำลังโถม เข้าหา จากด้านหลังผมเห็นร่างน้องกิฟท์กางแขนออก พร้อมแยกสองขาเรียวออกจากกัน ร่างน้อยเข้าหาผู้เป็นบิดา ขณะที่ดวงตาของคุณลุงสมภาพเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว

“อุทกเทพ…เป็นไปไม่ได้…อ๊ากกกกกกกกกก………”
“คุณพ่อ…คุณพ่อ…กลับมาหากิฟท์เดี๋ยวนี้…”

เสียงของผู้ที่สิงสู่ร่างคุณลุงสมภพร้องลั่นราววสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับเสียงร้องของน้องกิฟท์ที่พร่ำส่งเสียงทันทีที่น้องกิฟท์ปะทะร่าง บิดาและโอบกอดไว้แน่น แสงสีแดรงเจิดจ้าก่อตัวขึ้นรอบร่างทั้งสองและลอยขึ้นไปหยุดนิ่งอยู่กลางห้อง .. ประกายสายฟ้าแลบแปลบปราบวนอยู่รอบวงแสง ทันใดนั้นประกายสีทองรูปคนก้กระดอนออกมาจากวงแสงไปกระแทกผนังด้านตรงข้าม พร้อมเสียงครวญคราง

“ท่าน…ท่านคือเทพ….ทำไม..ทำไมไปมั่วสุมกับมาร…ข้า….. ”

แสงสีทองรูปคนระเบิดเป็นวงแสงกว้างอย่างรุนแรง จนผนังด้านที่กระทบทะลุเป็นช่องกลม แล้วสูญสลายไป เสียงเปรี๊ยะของประกายไฟฟ้าแลบปลาบเบาๆ ครู่นึ่งก่อนจางหายตามมาด้วยความเงียบที่เข้าปกคลุม

ผมและน้องรินยืนขึ้นดูวงแสงสีแดงที่ลอยลงต่ำอย่างช้าๆ จนกระทบพื้นแล้วจางตัวไป ปรากฏร่างเปลือยของน้องกิฟท์กอดร่างผู้เป็นบิดาแน่น ผมรีบวิ่งลงบันไดไพร้อมน้องรินไปยังร่างน้องกิฟท์ และต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อพบว่าน้องกิฟท์ร้องไห้สะอึกสะอื้น อยู่บนอกคุณลุงสมภพ ผู้ที่แผ่นอกสะท้อนขึ้นลงจากการหายใจบอกให้รู้ว่าคุณลุงสมภาพยังมีชีวิตอยู่ ผมดึงร่างน้องกิฟท์ขึ้นมา เด้กหญิงโถมเข้ากอดผมไว้แน่นส่งเสียงปนสะอื้น..แต่น้ำเสียงของเด็กหญิง เปี่ยมไปด้วยความโล่งใจ

“พี่เอ…คุณพ่อไม่เป็นไรแล้ว…กิฟท์ช่วยคุณพ่อได้แล้ว..”
“น้องกิฟท์…น้องกิฟท์…กิฟท์ทำอะไรน่ะ…เจ็บที่ไหนบ้างหรือเปล่า”

ผมกอดร่างบอบบางไว้แน่น แล้วถามด้วยความเป็นห่วง เด็กหญิงส่ายหน้าเบาๆ

“กิฟท์ไม่เป็นไรหรอกพี่เอ…ความจำพี่เอที่โคนต้นรังตอนที่พี่รินกอดน้าแม้น เข้าจนไอ้คนที่สิงร่างอยู่สลายไป ทำให้กิฟท์เชื่อว่าร่างกายกิฟท์ก็น่าจะมีอุทกมารจากการ…เอ้อ..เย็ดกับพี่ เอเช่นกัน..กิฟท์เลยตัดสินใจเสี่ยงช่วยช่วยคุณพ่อแบบนี้ และกิฟทืก็คิดไม่ผิด เพียงแต่กิฟท์ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนที่ไอ้คนที่มาสิงคุณพ่อสลายไป มันไม่เหมือนกับที่เกิดกับน้าแม้นเลย..”

เสียงไอเบาๆ ดังขึ้น ผมหันไปพบร่างพ่อครูคำแปงยันกายขึ้นมาช้าๆ

“นั่นเพราะท่านหญิงกิฟท์หาได้มีอุทกมารไม่…สิ่งที่ขับไล่ผู้ทรงปราณที่มา สิงสู่คุณสมภาพคืออุทกเทพที่มาจากการร่วมรักครั้งแรกของท่านหญิงกิฟท์… ”

พ่อครุคำแปงพึมพำแผ่วเบาราวกับจะกล่าวกับตัวเอง

“อุทกเทพ….”

ผม น้องริน และน้องกิฟท์อุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกตะลึง พ่อครูคำแปงพยักหน้ารับอย่างอ่อนระโหย

“ใช่แล้ว..อุทกเทพ..ข้าคำแปงมีบุญยิ่งนักที่ได้เห็นเทพมารดา และมารดาเทพอสูรพร้อมๆ กัน และยังได้เห็นอัคคีเทพทำลายปราณพิทักษ์เพทพจนสิ้นไปกับสายตาตัวเอง…แม้ข้า จะสูญเสียปราณทั้งหมดไป ข้าก็ไม่เสียดายแล้ว… ”
“พ่อครู…หรือว่า…”

ผมอุทานลั่น รีบส่งร่างน้องกิฟท์ให้น้องรินประคองไว้ ก่อนเข้ามาประคองร่างชายชราผู้อบรมวิชาปราณแก่ผมตั้งแต่วัยเยาว์ มานั่งยังโซฟา ร่างที่แทบปราศจากเรียวแรงของพ่อครุคำแปงยิ่งทำให้หัวใจผมตกวูบเพราะนั่น หเป้นอาการของผู้ถูกทำลายปราณทั่วร่าง จนจักรปราณทั้งสี่สูญสลายไม่สามารถก่อเกิดพลังได้อีก

“ปราณเอกะมารของข้าถูกทำลายโดยปราณพิทักษ์เทพแล้ว.. แต่ข้าไม่เสียใจเลย เพราะข้าได้เห็นเทพและอสูรร่วมก่อเกิดกับตาตัวเอง…”

พ่อครูคำแปงยิ้มให้ผมอย่างอ่อนระโหย แต่ประกายตาของชายชราเปียมไปด้วยความปิติ

“พ่อครูพักผ่อนก่อนเถอะ…”

ผมตัดบทแล้วผนึกปราณที่นิ้วสกัดจุดประสาทพ่อครูเพื่อปิดกั้นประสาทสัมผัส ปล่อยให้ชาบชราเข้าสู่การหลับลึก ก่อนหันมาหาน้องรินและน้องกิฟท์ ที่มีสีหน้าสงสัยกับสิ่งที่พ่อครูคำแปงพูด

“ตอนนี้ให้พ่อครูหลับไปก่อน มาช่วยพี่พาคุณลุงสมภพไปพักผ่อนดีกว่า”

แต่ก่อนที่ผมจะขยับ เสียงครางก็ดังขึ้นจากปากของคุณลุงสมภพ..

“ ลูกกิฟท์…ลูกกิฟท์…”

น้องกิฟท์ผละจากการประคองของน้องรินแล้วทรุดตัวลงกุมมือผู้เป็นบิดาไว้แน่น

“คุณพ่อ กิฟท์อยู่นี่ คุณพ่อกลับมาหากิฟท์แล้ว…”

เสียงเด็กหญิงสะอึกสะอื้นด้วยความดีใจ ผมและน้องรินทรุดตัวลงคุกเข้าข้างร่างคุณลุงสมภพ ผมรีบผนึกปราณที่ฝ่ามือช้อนใต้ลำคอบิดาน้องกิฟท์เพื่อสัมผัสตำแหน่งจักร พสุธาที่ต้นคอ ก่อนถ่าสยทอดพลังปราณเข้าสู่ร่างเพื่อปลุกสติสำนึกให้กลับคืนมา ครู่หนึ่งดวงตาของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ก็เบิกขึ้น จับจ้องน้องกิฟท์ น้องรินและผมที่คุกเข่าอยู่โดยรอบ ก่อนขยับแขนเพื่อยันร่างกายให้ลุกขึ้นนั่งพิงเบาะโซฟาเอาไว้ โดยมีผมค่อยๆ ประคองช่วย…

“ลูกกิฟท์ หนูริน เอ..พ่อขอบใจทุกคนนะ…”

เสียงแผ่วเบาเปล่งออกมาจากปากคุณลุงสมภพ ทำให้ผมโล่งอกเมื่อพบว่าแม้จะดูอ่อนล้าแต่สติสัมปัญชญะของคุณลุงสมภพได้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์

“ คุณพ่อ… ”
“คุณลุง…”

เสียงน้องกิฟท์น้องรินประสานกัน ขณะที่น้องกิฟท์โถมเข้ากอดร่างผู้เป็นบิดาไว้แน่น เสียงคุณลุงสมภพดังขึ้ยอย่างอ่อนระโหยแต่ค่อยๆ มั่นคงขึ้น

“พ่อเห็นและรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น…แต่พ่อไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเอง ได้เลย…พ่อไม่เข้าใจหรอกนะว่าสิ่งใดเข้าสิงสู่พ่อ แต่ฟังจากที่พวกลุกๆ ทุกคนและลุงคำแปงพูด ก่อเชื่อว่ามันต้องมีสิ่งใดที่เกินการรับรู้ของมนุษย์ธรรมดาเข้ามาเกี่ยว ข้อง และลุกๆ ทั้งสามคนต่างเข้าไปมีส่วนด้วย…”

“คุณลุงครับ ผมสัญญาว่าจะเล่าทุกสิ่งให้คุณลุงฟังโดยไม่ปิดบังอะไรเลย แต่ตอนนี้ผมอยากให้คุณลุงพักผ่อนก่อน ”

ผมถอนการถ่ายปรารออกจากร่างคุณลุงสมภพ ที่หันหน้ามามองผมอย่างขอบคุณ ก่อนถามผมอย่างอ่อนโยน

“เอยังเรียกพ่อว่าคุณลุงอยู่อีกหรือ….”

ผมงุนงงไปชั่วครู่ก่อนนึกได้ถึงความหมายที่แท้จริงของประโยคคำถามของคุณลุง สมภพ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าภาพการร่วมรักระหว่างผมกับน้องกิฟท์อยู่ในการรับรู้ของ คุณลุงสมภพทั้งหมด ทำให้ผมต้องตะกุกตะกักตอบ

“คุณพ่อ…..”

คุณลุงสมภพกอดร่างน้องกิฟท์ไว้แน่น ก่อนดันร่างเปลือยของลูกสาวมาทางผม

“พ่อฝากกิฟท์ให้เอดูแลด้วย…ต่อไปนี้เอคือสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวนี้ รวมทั้งหนูรินด้วย”
“คุณพ่อ”

ผม น้องรินและน้องกิฟท์ประสานเสียงเบาๆ ออกมาพร้อมกัน

“เอาล่ะ เอพาน้องทั้งสองไปพักที่บ้านเอก่อน พ่อจะจัดการให้ลุกน้องมาเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ ทุกคนจำไว้นะว่ามีพวกโจรจีนฮ่อค้ายาเสพติดบุกมาทำร้ายพ่อที่บ้าน จนเกิดการต่อสู้กัน…ถ้าใครถามก็บอกตามนี้ เรื่องที่เหลือพ่อจะจัดการมให้เอง…อ้อ.. แล้วก็ปล่อยให้ลุงคำแปงพักอยู่ที่นี่แหละ พ่อจะให้ลูกน้องมาดูแลเอง ”

คุณลุงสมภพสั่งการกำหนดสถานการณ์สิ่งแวดล้อมอย่างชำนาญด้วยประสบการณ์ของนาย ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ โดยไม่เปิดโอกาสให้ผมคัดค้านหรือโต้แย้งใดๆ

“เแล้วคุณลุง…เอ้อ..คุณพ่อจะให้ผมพาน้องกิฟท์กลับมากี่โมงครับ…”

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ มองหน้าผมอย่างจริงจัง

“ พากลับมาหลังจากกิฟท์คลอดลูกคนแรกก็แล้วกัน…..”
“ คุณพ่อ….”

เสียงน้องกิฟท์ร้องลั่น…ผละจากร่างผมเข้าทุบบิดาอย่างงอนๆ..แต่ใบหน้าแดงจัดด้วยความอาย

“ไปได้แล้ว…อ้อ…ที่สำคัญ ไปหาเสื้อผ้าใส่ซะก่อนนะทุกคน….”

คูณลุงสมภพเตือนอย่างยิ้มๆ ทำให้ผม น้องริน และน้องกิฟท์ ต้องร้องอุทานออกมาเมื่อรู้ตัวว่าตลอดเวลาที่เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นทุกคน อยู่ในร่างเปลือย น้องรินและน้องกิฟท์รีบผละออกจากผมและวิ่งขึ้นไปที่ห้องน้องกิฟท์เพื่อหา เสื้อผ้าสวมใส่ แต่ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นยืนคุณลุงสมภาพก็เอื้อมมือมาจับมือผมไว้

“เอ… พ่อฝากน้องด้วยนะ อย่าทำให้น้องเสียใจ สัญญากับพ่อได้ไหม”

ผมสบตาบุรุษผุ้เป็นบิดาของเด็กหญิงที่ผมรัก ก่อนตอบอย่างจริงจังจากส่วนลึกที่สุดของจิตใจ

“ผมจะปกป้องน้องกิฟท์ และน้องรินด้วยชีวิตของผมเองตลอดไปครับ ผมสัญญา”

Related

Prev
Next

Comments for chapter "The Paradox บทที่ 2.2 อุทกมาร อุทกเทพ"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

© 2025 Madara Inc. All rights reserved