ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

The Paradox บทที่ 1.4 การเปลี่ยนแปลง

  1. Home
  2. The Paradox & The Zodiac by Buta
  3. The Paradox บทที่ 1.4 การเปลี่ยนแปลง
Prev
Next

The Paradox บทที่ 1.4 การเปลี่ยนแปลง

พุทธศักราช 2535

1 เดือนผ่านไป หลังจากการฌาปณกิจร่างน้องกิฟท์ ชีวิตประจำวันของผมเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติอันน่าเบื่อหน่าย การดูแลแก๊งค์ ควบคุมกิจการนอกกฎหมาย และการขยายเขตอิทธิพลไปยังพื้นที่คลองโคนของไอ้ธง ที่กำลังแตกกระจายเนื่องจากการหายไปของหัวหน้า โดยไม่มีใครรู้ว่าซากศพไอ้ธงได้จมดินไปกับการเผาด้วยยางรถยนต์เมื่อเดือนที่ แล้ว งานที่วุ่นวายทำให้ผมแทบไม่มีเป็นตัวของตัวเอง ลูกน้องทุคนของผมทำงานอย่งเต็มที่จนในที่สุดก็สามารถเข้าครอบครองพื้นที่ คลองโคนไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จนทำให้ผมมีสถานะเป็นผู้มีอิทธิพลสูงสุดในอำเภอเล็กๆ ที่มีเพียงสี่ตำบลแห่งนี้

เสียงเคาะประตูห้องทำให้ผมต้องละความสนใจจากหนังสือพิมพ์และกาแฟเบื้องหน้า ข่าวการลุกฮือของประชาชนต่อต้านเผด็จการทหาร ไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมเท่าใดนัก ชีวิตในพื้นที่แห่งนี้ห่างไกลยิ่งจากผลกระทบทางการเมืองทุกรูปแบบ

“เฮียวิทย์ ทิพย์เข้าไปได้ไหม..”

เสียงเด็กสาวคนสนิทที่ทำหน้าที่ด้านบัญชีรับจ่าย รวมทั้งดูแลเรื่องส่วนตัวให้ผมมาตลอด 5 ปี ดังขึ้น แม้สายตาและความเข้าใจของคนภายนอกรวมทั้งลูกน้องในแก๊งค์ผมทุกคน จะเข้าใจว่านังทิพย์เป็นเมียของผม แต่ไม่มีใครรู้ความจริงแม้แต่น้อยว่าตลอดเวลาที่นังทิพย์อยู่ร่วมบ้าน ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนังทิพย์แม้แต่ครั้งเดียว อาจเป็นเพราะว่าเมื่อผมรับรู้อดีตที่โหดร้ายของนังทิพย์ หรือทิพย์วารี ธนศารสมบัติ ลูกสาวนักธุรกิจส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศ ที่กลับเปลี่ยนจากนักเรียนโรงเรียนคอนแวนต์ชั้นสูงมาถูกบังคับเป็นโสเภณี ย่านสำเพ็งจนติดโรคร้าย ที่ส่งผลให้ต้องตัดมดลูกทิ้ง ทำให้ผมมีแต่ความสงสารและไม่เคยต้องการให้นังทิพย์กระทำอื่นใดนอกจากการช่วย เหลืองานตามปกติเท่านั้น

ความคิดผมย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่นังทิพย์ก็ใช้โอกาสที่พักอยู่ในโรง พยาบาลหนีการควบคุมของแก๊งค์เก้ายอดออกมา พบกับผมเป็นครั้งแรกโดยบังเอิญที่สวนลุมพินี การช่วยนังทิพย์ที่ถูกสมุนแก๊งค์เก้ายอดรุมทำร้ายเพื่อนำตัวกลับไปเป็น โสเภณี ทำให้นังทิพย์ เข้ามาอยู่ในชีวิตผมนับแต่นั้น พร้อมทำให้ผมต้องหนีออกจากกรุงเทพมายังคลองน้อย เพื่อหลบหนีการแก้แค้นของแก๊งค์เก้ายอดซึ่งเป็นที่รับรู้ในวงการนักเลงทั้ง หมดว่าไม่สามารถตอแยได้

ผมถอนใจยาวเมื่อคิดถึงความลับของแก๊งค์เก้ายอดที่น้อยคนจะรู้ วงการนักเลงรู้แต่เพียงว่าแก๊งค์นี้เป็นชาวจีนที่ครอบครองอิทธิพลในพื้นที่ เยาวราชมานาน โดยไม่ยอมขยายอิทธิพลออกจากพื้นที่ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปแบ่งปันผลประโยชน์ทุกรูป ความโหดเหี้ยมดุร้ายของแก๊งค์เก้ายอดเป็นที่เลื่องลือ จนกลายเป็นเขตต้องหามของแก๊งค์อื่นๆ แต่ผมทราบดีว่าผู้ที่เบื้องหลังของแก๊งค์เก้ายอดต่างหากคือความน่ากลัวที่ แท้จริง และคงไม่ใครนึกถึงว่าชายชรานามถังฮวง หัวหน้าแก๊งค์เก้ายอดที่เปลือกนอกเป็นเพียงผู้เฒ่าอมโรค ที่ทแท้คือผู้สืบทอดปราณมังกรฟ้าที่ตกทอดมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งศิษย์ทั้งสี่ที่แยกย้ายกันดูแลกิจการ ล้วนเป็นผู้ทรงปราณมังกรฟ้าระดับสูง ที่แม้ไม่ต้องมีอาวุธใดๆ ก็สามารถสังหารศัตรูได้ในพริบตา การช่วยเหลือนังทิพย์โดยการสังหารสมุนของแก๊งค์เก้ายอดไปสองคน จึงเท่ากับการประกาศสงครามโดยเปิดเผยระหว่างผมกับแก๊งค์เก้ายอด จริงอยู่ที่ผมเชื่อว่าผมสามารถหักหาญกับผู้ใดผู้หนึ่งในกลุ่มศิษย์ของถังฮวง ได้ แต่ผมสำนึกดีว่าแก๊งค์ของผมยังไม่เข้มแข็งพอรับการโจมตีของบุคคลทั้งสี่ พร้อมกันได้แม้แต่ชั่วขณะเดียว ทำให้ผมต้องพาลูกน้องทุกคนหนีมาอยู่ในพื้นที่ซึ่งห่างไกลเช่นในปัจจุบัน

“เฮียวิทย์…อยู่หรือเปล่า ”

เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังซ้ำขึ้น ปลุกผมจากเหตุการณ์ในอดีต

“เข้าสิทิพย์ ประตูไม่ได้ล๊อค ”

สิ้นเสียงอนุญาต นังทิพย์ก็ก้าวเท้าเข่ามานั่งพับเพียบอยู่ข้างเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่

“เฮียบอกกี่ทีแล้วว่า ให้มานั่งบนเก้าอี้ อย่ามานั่งกับพื้นแบบนั้น”

ผมบ่นอย่างไม่จริงจังนัก เพราะรู้ดีว่านังทิพย์ไม่เคยยอมขึ้นมานั่งเสมอกับผมแม้แต่ครั้งเดียว นังทิพย์สบตาผมส่ายหน้าแล้วยิ้มบางๆ บอกให้รู้ว่าคำบ่นของผมไม่เกิดผลบังคับใดๆ กับนังทิพย์

“เอ้าว่าไง อย่ามัวแต่ยิ้มมีอะไรถึงมาหาเฮียแต่เช้า”

นังทิพย์เอื้อมมือมาหยิบไฟแช๊คขึ้นจุดไฟให้ เมื่อเห็นผมหยิบบุหรี่ออกจากซอง

“วันนี้เฮียดูอารมณ์ดีขึ้นนะ ทิพย์ดีใจที่เฮียไม่เครียดเหมือนเดือนที่แล้ว”

ผมหัวเราะเบาๆ

“วันนี้มาแปลกนะเรา จะขอให้เฮียทำอะไรล่ะ หรือจะขอเงินไปแต่งตัวกับเขาบ้าง”

นังทิพย์สั่นหน้า อาจจะเป็นอุปทานที่ผมรู้สึกว่าแววตานังทิพย์สลดลงวูบหนึ่ง แล้วกลับเข้าสู่แววตาปกติ

“ไม่ใช่เรื่องของทิพย์หรอก ทิพย์อยากมาคุยกับเฮียเรื่องหนูพิม”
“ หนูพิม..ลูกเจ็เหล็งน่ะหรือ ”

ผมทวนคำเบาๆ ใบหน้ากลมน่ารักที่ประดับด้วยแว่นสายตาคล้ายเด็กหญิงผู้เป็นที่รักของผมในอดีต ปรากฏขึ้นในความคิด นังทิพย์พยักหน้ารับ

“ก็หนูพิมที่เฮียช่วยไว้เมื่อเดือนก่อนนั่นแหละ เมื่อคืนนี้หฯุพิมมาหาทิพย์ที่ห้องร้องไห้ร้องห่มใหญ่ ไม่ยอมกลับบ้าน จนทิพย์ต้องให้ค้างคืนด้วย”

ผมสะดุ้งเล้กน้อยเมื่อได้ยินคำอธิบายของนังทิพย์ ภาพร่างเปลือยของเด็กหญิงที่เกือบถูกไอ้ธงและพวกข่มขืนผุดขึ้นมาความคิด

“หนูพิมเป็นอะไรไปล่ะ หรือว่ามีใคร…. ”

นังทิพย์สั่นหน้า เข้าใจทันทีว่าผมหมายถึงอะไร

“ไม่มีใครทำร้ายหนูพิมหรอกเฮีย แต่เเป็นเรื่องนังเหล็งน่ะ มันให้หนูพิมลาออกจากโรงเรียนไปอยู่กับร้านของน้องชายมันที่ยะลา ไอ้ห่านี่มันเคยติดคุกคดีข่มขืนมาแล้ว ถ้าหนูพิมไปอยู่ที่นั่นมันต้องข่มขืนหนูพิมแน่ๆ ทิพย์อยากรู้จริงๆ ว่าว่าถ้าหนูพิมเป็นลูกแท้ๆ ของนังเหล็งมันจะบังคับให้ลูกออกจากโรงเรียนไปอยุ่กับพวกบ้ากามแบบนี้ไหม”

เสียงนังทิพย์บอกถึงความเห็นใจหนูพิมและโกรธแค้นเจ๊เหล็งอย่างรุนแรง ผมรู้ดีว่านังทิพย์มีความรู้สึกที่ดีกับเด็กหญิงผู้ปราศจากพ่อแม่ ที่ถูกเจ๊เหล็งเก็บมาเลี้ยงเอาไว้เพียงเพื่อหวังใช้แรงงาน และจะโพนทนาชาติกำเนิดของเด็กหญิงให้ผู้คนรับรู้เสมอเวลาเมาขาดสติ ทำให้หนูพิมกลายเป็นเด็กที่เงียบขรึม มุ่งทำงานที่ได้รับคำสั่งอย่างไม่ปริปาก แต่ขณะเดียวกันก็มุมานะเรียนหนังสือจนได้รับทุนให้ไปศึกษาต่อระดับมัธยมที่ กรุงเทพในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอย่างสตรีวิทยา แต่แล้วอนาคตและโอกาสทั้งหมดก็กลับพังทลายเมื่อเจ๊เหล็งบังคับให้เด็กหญิง ละทิ้งเป้าหมายในชีวิต เพื่อให้ทำงานหาเงินมาสนองความต้องการของตนเองเท่านั้น

“อีเหล็งมันทำลายอนาคตเด็กแบบนี้ได้ยังไงกัน”

ผมโพล่งออกมาอย่างเหลืออดเมื่อได้ยินเรื่องของหนูพิม นังทิพย์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่แสดงความไม่พอใจของผม นังทิพย์เอื้อมมือมาเกาะขาผมไว้

“เฮียหาทางช่วยเด็กมันหน่อยได้ไหม..ทิพย์ขอร้อง ทิพย์กลัวว่าถ้าหนูพิมต้องออกจากโรงเรียนไปอยู่กับไอ้เหี้ยนั่น หนูพิมต้องเจอแบบเดียวกันกับที่ทิพย์เคยเจอ ทิพย์ไม่อยากเห็นเด็กที่สดใสอย่างหนูพิมต้องมีชีวิตแบบทิพย์”

เสียงของนังทิพย์ค่อยๆ เปลี่ยนจากความโกรธ ไปเป็นความเสียใจ น้ำเสียงเด็กสาววัย 19 ที่เคยประสบกับการรุมข่มขืนจากผู้ชายที่เด็กหญิงในวัยเพียง 12 ปีเชื่อว่ามีความรักมอบให้ แต่กลับเป็นการหลอกไปให้เพื่อนเดนคนทั้งกลุ่มข่มขืนอย่างทารุณ และส่งไปขายที่ซ่องในความควบคุมของแก๊งค์เก้ายอดกว่า 2 ปี จนดอกไม้แรกแย้มต้องกลายเป็นเศษซากที่เหี่ยวเฉา เช่นเด็กสาวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าผมคนนี้

ผมนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนตัดสินใจ..

“ทิพย์ไปบอกอีเหล็งนะว่า เฮียรับหนูพิมให้มาช่วยงานที่นี่ ถ้าไม่พอใจอะไรให้มาคุยกับเฮียที่นี่ แล้วก็ไปเรียกหนูพิมมาพบเฮียเดี๋ยวนี้เลย”
“ เฮียวิทย์.. ”

นังทิพย์อุทาน เงยหน้ามองผมอย่างไม่เชื่อกับสิ่งได้ยิน ทำให้ผมต้องรีบสำทับ

“ไปเร็วๆ มานั่งตะลึงอะไรกัน”

ใบหน้านังทิพย์ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องด้วยกริยาที่ราวกับเด็กหญิง ผมสูบบุหรี่ในมือพ่นควันออกมาช้าๆ รู้ดีว่าเจ๊เหล็งจะไม่กล้าขัดขืนความต้องการของผมอย่างแน่นอน เพราะยังคงหากินต้องอยู่ในพื้นที่อิทธิพลของผม ก่อนที่ผมจะดับบุหรี่ นังทิพย์ก็กลับเข้ามาห้องพร้อมกับร่างเด็กหญิงวัย 12 ในชุดเสื้อยืดหลวมๆ กางเกงกีฬาขาสั้นกระดำกระด่าง ตัดความขาวผ่องของลำขาอวบเกินอายุที่พ้นขอบกางเกงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเด็กหญิงยังคงมีร่องรอยการร้องไห้ให้เห็นได้รางๆ จากคราบน้ำตาที่เกาะกรังร่องแก้ม แต่แววตาน้องพิมกับเป็นประกายแจ่มใส ซึ่งผมรู้ดีว่าเป็นประกายที่เกิดจากการบอกเล่าการตัดสินใจของผมให้น้องพิม รับรู้เมื่อครู่ แต่ก่อนที่ผมจะทักทายเด็กหญิง ร่างน้อยๆ ก็ทรุดตัวลงคุกเข่ากราบแทบเท้าผม พร้อมเสียงสะอื้นที่ดังขึ้น

“พิมของคุณเฮียวิทย์ที่ช่วยพิม พิมจะขอรับใช้เฮียวิทย์ที่นี่”

ผมรับสอดมือเข้าใต้วงแขนเด็กหญิงเบื้องหน้า แล้วออกแรงดึงให้ลุกขึ้นกลับมาอยู่ในท่านั่งพับเพียบเช่นเดียวกับนังทิพย์ ก่อนที่จะปล่อยมือ สัมผัสที่ปลายนิ้วผมบอกให้รู้ว่าได้กระทบกับฐานหน้าอกเต่งของเด็กหญิงเบาๆ แต่ก็รับรู้ได้ถึงความครัดเคร่งของก้อนเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อยืดตัว หลวมนั้น

“หนูพิมไม่ต้องของคุณเฮีย เดี๋ยวกลับไปที่บ้านบอกนังเหล็งมันว่า เฮียจะให้หนูพิมมาทำงานช่วยนังทิพย์และให้พักอยู่ที่นี่ เฮียจะให้เงินเดือนเดือนละ 4 พัน หนูพิมจะแบ่งให้นังเหล็งเท่าไหร่ก็แล้วแต่ และที่สำคัญ”

ผมหยุดชั่วขณะก่อนกล่าวต่อ

“หนูพิมทำงานช่วยนังทิพย์เฉพาะตอนเย็นและเสาร์อาทิตย์ ส่วนกลางวันก็ไปเรียนที่โรงเรียนตามปกติ ห้ามลาออกมาอย่างเด็ดขาดเข้าใจไหม”
“เฮียวิทย์… ”

เสียงนังทิพย์และน้องพิมอุทานขึ้นพร้อมกัน น้องพิมโถมเข้ากอดขาผมไว้แน่น ส่งเสียงระล่ำละลัก

“พิมขอบคุณเฮียวิทย์ พิมพ์จะตอบแทนทุกอย่างที่เฮียต้องการ พิมพ์จะ…”

ผมลูบศีรษะเด็กหญิงเบาๆ อย่างปราณี ในใจคิดถึงร่างหนึ่งที่เคยโผเข้ากอดผมแน่นเมื่อผมบอกความในใจของเด็กหนุ่ม วัย 15 ให้รับรู้ภายใต้ร่มของต้นรังริมลำห้วยสายน้อย ก่อนขัดจังหวะคำพูดของเด็กหญิง

“เฮียมีเงื่อนไขข้อหนึ่งที่หนูพิมต้องปฏิบัติ หนุพิมจะทำได้ไหม ”

เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นสบตาผม แล้วปล่อยแขนจากการกอดขาผมไว้ พยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล

“ พิมสัญญาจะทำทุกอย่างตามความต้องการของเฮียวิทย์ ”
“เฮียจะส่งให้หนูพิมเรียนเท่าที่หนูพิมต้องการ แต่หลังจากจบการศึกษาแล้ว หนุพิมต้องไปให้พ้นจากชุมชนนี้ ไปเริ่มชีวิตใหม่ อย่าหันกลับมาที่นี่อีกเป็นอันขาด เข้าใจไหม.. ”

เด็กหญิงอ้าปากกว้าง ใบหน้าที่ฉายแววดีใจเมื่อได้ยินคำว่าส่งให้เรียน เปลี่ยนไปทันทีเมื่อผมจบคำสั่งที่ให้ออกไปจากชุมชน …

“ทะ ทะ ทำไม..พิมจะรับใช้เฮียวิทย์ที่นี่..ทำไมพิมต้องไป.. ”

ผมส่ายหน้าเบาๆ

“ที่นี่ไม่มีอะไรเลยสำหรับอนาคตของหนูพิม .. อย่าจมอยู่กับปลักโคลนที่นี่ อย่าเป็นอย่างเฮียที่ต้องทิ้งการศึกษากลางทาง เส้นทางของเฮียมันหยุดที่ตรงนี้ แต่ของหนูพิมมันจะต้องออกไปจากที่นี่ ไม่ต้องโต้แย้งอะไรแล้ว ออกไปได้ เฮียจะทำงาน”

ผมตัดบทเพื่อยุติการสนทนา นังทิพย์หันมาฉุดร่างหนูพิมให้ออกไปจากห้อง เมื่อเห็นผมหันกายกลับไปยังโต๊ะเบื้องหน้าเป็นสัญญานจบการสนทนาที่ทุกคนใน แก๊งค์เข้าใจกันดี เสียงสะอื้นด้วยความดีใจของหนูพิมและเสียงพูดของนังทิพย์ค่อยๆ ห่างออกไป ทิ้งผมให้กลับมาอยู่ในความเงียบสงบตามปกติ

ผมทอดสายตาไปยังภาพชุมชนคลองน้อยที่ปรากฏอยู่ที่หน้าต่างเบื้องหน้า ภาพของชุมชนที่เสื่อมโทรม ยากไร้จนไม่มีอนาคต ปรากฏอยู่ตรงหน้า นี่เป็นสถานที่ที่ดูเหมือนจะถูกสังคมภายนอกลืม ข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ที่ผมอ่านทุกวันบอกให้รู้ว่าโลกภายนอกกำลังพัฒนาไป ข้างหน้าอย่ารวดเร็ว การติดต่อสื่อสารเริ่ม ขยายตัวจนโลกกำลังเล็กลงทุกขณะพร้อมกับคำศัพท์ใหม่ๆ เช่นโลกาภิวัตน์กำลังเข้ามาแทนที่สังคมดั้งเดิม แต่ขณะเดียวกันปัญหาสังคมมากมายก็ขยายตัวตามมา โดยเฉพาะการข่มขืนซึ่งปรากฏขึ้นเป็นข่าวหน้าหนึ่งแทบทุกวัน ใจผมคิดไปถึงหนูพิม ที่ผมพยายามช่วยให้เด็กหญิงที่มีส่วนคลับคล้ายน้องรินคนนี้พ้นจากความล้า หลังในชุมชน แต่ผมก้ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการผลักหนูพิมให้ไปสู่ความเสื่อมโทรมของสังคมภาย นอกหรือไม่ในอนาคต หนูพิมอาจจะก้าวไปสู่อนาคตสดใส หรืออาจจะต้องกลับมาอยู่ในสภาพเดียวกับนังทิพย์ ที่ต้องติดอยู่กับสถานที่ซ่อนตัวแห่งนี้ไปอย่างไม่มีกำหนด

ในความเงียบ ผมคิดถึงความจริงอันโหดร้ายที่เกิดกับน้องกิฟท์ ตลอดเวลาที่ผมหลบหนีคดีมายังกรุงเทพ ผมไม่เคยได้รับข่าวคราวจองน้องกิฟท์อีกเลย นอกจากคำบอกเล่าของน้าแม้นวงศ์ ที่บอกผมเมื่อ 15 ปีก่อนว่าหลังจากเหตุร้ายเกิดขึ้นกับผมและน้องริน ครอบครัวน้องกิฟท์ก็ย้ายออกจากหมู่บ้านไปอย่างกระทันหัน โดยไม่มีผู้ใดทราบว่าทั้งหมดย้ายไปยังที่ใด แต่หลังจากที่ผมรับน้องกิฟท์มาจากวัดที่พำนักของผู้ป่วยโรคเอดส์ ผมก็ได้รับรู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับน้องกิฟท์ ข้อเท็จจริงที่ทำให้ผมต้องแค้นเคืองกับโชคชะตาที่เกิดขึ้น

‘ คุณพ่อข่มขืนกิฟท์ ’

เสียงแผ่วเบาที่อ่อนระโหยของน้องกิฟท์ เล่าให้ผมฟัง หลังจากผมนำร่างที่ใกล้ถึงกาลแตกดับออกมาจากวัด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องกิฟท์เกิดในวันเดียวกันกับวันที่ผมและน้องรินไป ยังบ้านเล็กริมห้วย น้องกิฟท์เล่าให้ฟังว่าหลังจากที่ผมและน้องรินกลับออกไป ในตอนบ่ายวันนั้นเองที่ พ.ต.ท.สมภพ กลับมาจากทำงานก่อนเวลา และเข้าไปข่มขืนน้องกิฟท์ ที่ห้องนอนโดยที่เด็กหญิงไม่สามารถขัดขืนได้ แต่หลังจากทำลายความสาวของลูก สาวตนเอง ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.สมภพ จะกลับได้สติและมองภาพน้องกิฟท์ที่สะอึกสะอื้นอยู่บนเตียงอย่างตกใจ และก่อนที่น้องกิฟท์จะรู้ตัว บิดาผู้เคยเป็นทุกอย่างในชีวิตน้องกิฟท์ ก็จับปืนมาจ่อขมับ และลั่นไกปลิดชีวิตตนเองต่อหน้าลูกสาว ทิ้งให้น้องกิฟท์กรีดร้องราวกับเสียสติ จนมารดาน้องกิฟท์กลับมาจากทำงานและพบสภาพอันสยดสยองในห้องของลูกสาว

แต่แทนที่คุณวีณาผู้เป็นมารดา จะแจ้งความสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หญิงผู้ใกล้เสียสติกับภาพที่เกิดขึ้นกลับสั่งการให้นำร่างไร้วิญญานของ พ.ต.ท.สมภพ และน้องกิฟท์ เดินทางเข้ากรุงเทพในคืนนั้น และนำร่าง พ.ต.ท.สมภพไปให้บิดาผู้มีอิทธิพลใน จ.ชลบุรี ทำลายอย่างลับๆ พร้อมแจ้งความให้ พ.ต.ท.สมภาพกลายเป็นผู้สาบสูญ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องกิฟท์กลับโหดร้ายยิ่งกว่า สตรีผู้เป็นมารดาที่เคยรักทะนุถนอมลูกสาว กลับโทษว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของน้องกิฟท์ และกักขังเด็กหญิงไว้ที่ จ.ชลบุรี เพื่อให้คนงานประมงใช้ร่างของเด็หญิงเป็นที่ระบายความใคร่ กว่า 10 ปี จนเด็กหญิงที่เคยสดใสราวดอกไม้แรกแย้มแย้ม กลับกลายเป็นร่างที่ไร้จิตวิญญาน และติดเชื้อโรคร้ายจนทำให้ต้องนำตัวมาทิ้งให้รอความตายที่วัดซึ่งผมไปพบ

‘กิฟท์ไม่โกรธแค้นใครอีกต่อไปแล้วพี่เอ กิฟท์ต้องการเพียงให้พี่เออยู่ข้างๆ กิฟท์ จนกว่ากิฟท์จะจากไปเท่านั้น ตอนนี้กิฟท์เพียงแต่เสียดายเวลาที่กิฟท์มีความสุขอยู่กับพี่เอและพี่ริน มันน้อยเหลือเกิน กิฟท์รู้ว่าพี่รินรักพี่เอ แต่กิฟท์ก็เคยแอบฝันว่าบางทีกิฟท์อาจจะมีโอกาสอยู่กับพี่เอและพี่ริน ในฐานะภรรยาอีกคนหนึ่ง แต่ในเมื่อสวรรค์ไม่อนุญาตให้กิฟท์ได้ตามสิ่งที่ต้องการ กิฟท์ก็คงต้องโทษโชคชะตาตัวเองเท่านั้น ….’

เสียงของน้องกิฟท์แว่วขึ้นมาจากความทรงจำ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ผมรัก ทำให้บางทีผมต้องต้องคิดว่านี่เป็นชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้เกิดขึ้นกับผู้ ที่ผมรักผมจริงๆ หรือไม่ บางทีผมอาจต้องยอมจำนนต่อโชคชะตาและปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตามความต้องการจาก เบื้องบน จนกว่าจะสิ้นชีวิต

“เฮียวิทย์..ทิพย์เข้าไปได้ไหม”

เสียงนังทิพย์ทำให้ผมสะดุ้งขึ้นจากความคิดคำนึง นาฬิกาเบื้องหน้าบอกเวลา 10 โมงเช้า ผมถอนใจยาว เมื่อพบว่าตนเองจมอยู่ในความคิดบ่อยครั้งขึ้นและนานขึ้นทุกที

“ เข้ามาสิ แล้วเรื่องหนูพิมเรียบร้อยไหม ”

ผมตอบอนุญาต พร้อมถามเรื่องของเด็กหญิงในทันทีที่นังทิพย์เข้ามาในห้อง

“เรียบร้อยแล้วเฮีย หนูพิมเอาเสื้อผ้าของใช้มาด้วยแล้ว ตอนที่ทิพย์ไปถึงน่ะ ไอ้น้องชายบ้ากามของเจ็เหล็งกำลังรอรับตัวหนูพิมอยู่พอดีเลย นี่ถ้าทิพย์เป็นผู้ชายคงได้ชกปากมันแล้ว เฮียน่าจะได้เห็นสายตามันที่มองหนูพิมนะ นี่ถ้าหนูพิมขึ้นรถไปกับมันรับรองว่าได้เสียสาวก่อนถึงยะลาแน่ๆ”

นังทิพย์รายงานด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง

“แล้วเจ็เหล็งล่ะ คัดค้านอะไรหรือเปล่า”

ผมถามอย่างไม่สนใจอะไรนัก เพราะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

“ มันจะไปกล้าอะไรล่ะเอีย พอทิพย์บอกว่าเฮียจะรับตัวหนูพิมไปอยู่ด้วยมันก็หงอเลย ทิพย์เลยสำทับบอกมันว่าเฮียจะรับหนูพิมเป็นเมียด้วย ห้ามใครเข้ามายุ่งเกี่ยวกับหนูพิมอีก”

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคำพูดของนังทิพย์

“เฮ้ย เอ็งไปบอกอย่างนั้นได้ยังไงกันนังทิพย์ ”

นังทิพย์หน้าสลดเมื่อได้ยินเสียงดุ แต่ยังคงพยายามชี้แจง

“ทิพย์ขอโทษเฮียที่บอกพวกมันอย่างนั้น แต่ถ้าหนูพิมไม่มีฐานะเป็นเมียเฮีย ไม่ช้าก็เร็วไอ้พวกหนุ่มๆกลัดมันที่นั่นต้องหาทางฉุดหนูพิมแน่ ”

ผมนิ่งไปกับคำชี้แจงของนังทิพย์ ความเป็นที่เกิดขึ้นในชุมชนเสื่อมโทรมแห่งนี้ผ่านการรับรู้ของผมมาโดยตลอด ผมรู้ดีว่าคำพูดของนังทิพย์ไม่ได้เกินเลยความจริงแม้แต่น้อย เด็กหญิงรุ่นสาวแทบทุกคนในชุมชนถ้าไม่ปล่อยตัวมีเพศสัมพันธ์ด้วยความเต็มใจ ก็จะถูกดักฉุดไปข่มขืนจนกลายเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้น การดักฉุดน้องพิมของพวกไอ้ธงเมื่อเดือนที่แล้วก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ ชัดเจน แต่ถ้าทุกคนรับรู้ฐานะของน้องพิมเป็นเมียของผมก็จะไม่มีใครกล้ามายุ่งเกี่ยว อย่างแน่นอน

“น้องพิมอายุแค่ 12 เองนะนังทิพย์ ”

ผมบ่นเบาๆ หลังจากไตร่ตรองยอมรับความจำเป็นที่นังทิพย์ต้องอ้างกับเจ๊เหล็ง

“ทำไมเฮียไม่ไปบอกไอ้พวกที่มันข่มขืนทิพย์บ้างล่ะ ว่าทิพย์อายุ 12 อย่าเพิ่งข่มขืน”

เสียงนังทิพย์ที่ตอบกลับมาสั่นเครือแตกพร่า ทำให้ผมต้องหันมองด้วยความแปลกใจ ร่างนังทิพย์ยังคงพับเพียบกับพื้นเช่นเคย แต่ก้มหน้าสะอื้น สองมือกำเป็นหมัดเกร็งแน่นอยู่ที่หน้าตัก อากัปกริยาที่แปลกไปทำให้ผมต้องลุกจากเก้าอี้มานั่งอยู่บนพื้นข้างนังทิพย์ เชยคางให้สบตาผม

“ทิพย์ เป็นอะไรไป”

นังทิพย์โผเข้ากอดร่างผมไว้แน่น ใบหน้าซุกอยู่กับหน้าอกผมจนผมรับรู้ถึงน้ำตาที่ไหลออกมาชุ่มเสื้อ ผมโอบไหล่นังทิพย์เอาไว้เบาๆ ลูบศีรษะไปมาอย่างปลอบโยน

“ทิพย์เสียใจ.. เสียใจที่ร่างกายของทิพย์ต้องสกปรกเพราะคนที่ทิพย์มอบความรักให้ เสียใจที่ทำไมทิพย์ไม่ได้พบคนดีๆ อย่างเฮียก่อนที่ทิพย์จะเป็นแบบนี้ ที่สำคัญทิพย์อิจฉาน้องพิมที่มีโอกาสหลุดพ้นจากความสกปรกโดยมีเฮียวิทย์คอย ดูแลช่วยเหลือ…เฮียวิทย์รู้ไหมว่าตลอด 5 ปีที่ทิพย์อยู่กับเฮีย ไม่มีสักคืนที่ทิพย์ไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่โรงแรมม่านรูดนั้น ทิพย์ไม่เคยลืมความขยะแขยงของควยทุกแท่งที่เข้ามาในร่างกายทิพย์ ชีวิตทิพย์ไม่มีค่าอะไรเลย ไม่มีค่าสำหรับใครทั้งนั้นแม้แต่ตัวทิพย์เอง…”

ผมกอดร่างเด็กสาวที่กำลังสะอึกสะอื้นระบายความในใจต่อเนื่อง ตลอดเวลา 5 ปีที่นังทิพย์พักอยู่กับผม เด็กสาวไม่เคยระเบิดอารมณ์เสียใจออกมาถึงขนาดนี้ ผมนึกเสียใจที่ไม่เคยสนใจสภาพจิตใจของนังทิพย์ และไม่เคยรับรู้ว่าเบื้องลึกของเด็กสาวที่ภายนอกดูเป็นปกติ จะซ่อนความรู้สึกที่เกิดจากบาดแผลในจิตใจไว้มากมาย ผมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นเล็กน้อยจนรู้สึกถึงร่างกายที่สั่นเทาของเด็กสาว บางทีถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะช่วยเหลือเด็กสาวที่ประสบชะตากรรมเลวร้ายคนนี้ ให้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับหนูพิม

“ทิพย์อย่าคิดดูถูกตัวเองแบบนั้น สำรับใครๆ ทิพย์อาจจะไม่มีค่า แต่สำหรับพี่ทิพย์คือคนที่มีค่าเสมอ”

ทิพย์วารีเงยหน้าขึ้นสบตาผม แววตาสั่นระริก

“เฮีย…”

ผมสั่นหน้าช้าๆ

“ต่อไปนี้ทิพย์อย่าเรียกเฮียอีกเลย พี่ไม่เคยชอบคำนี้ เรียกพี่ว่าพี่เอได้ไหม”

“พี่เอ…ใครกันเฮีย ”

ทิพย์วารีถามด้วยสีหน้าสงสัย

“นั่นเป็นชื่อของพี่ ชื่อที่ไม่มีใครเคยเรียกมา 15 ปีแล้ว พี่ขอโทษที่ไม่ดูแลทิพย์ให้ดีกว่านี้จนไม่รู้ว่าทิพย์ยังไม่ลืมเลือนความเลว ร้ายที่เกิดขึ้น ต่อไปนี้จงจำไว้ว่าทิพย์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ พี่จะไม่มีวันยอมให้ทิพย์ดูถูกตัวเองแบบนี้อีก และจงจำไว้นะว่าทิพย์เป็นคนที่มีค่าที่สุดสำหรับพี่”

“พี่..อะ เอ..”

ทิพย์วารีพึมพำเบาๆ อย่างไม่คุ้นเคย

“ นั่นแหละ แล้วก็หยุดร้องไห้ซะ ชีวิตของทิพย์เพิ่งผ่านมา 19 ปี ยังมีอนาคตที่ดีรอทิพย์อยู่ถ้าทิพย์กล้าที่จะก้าวไปหามัน อย่าปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับอดีตที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่จงมองไปที่อนาคตและหาทางทำให้มันดีขึ้น เข้าใจไหม”

คำพูดที่ผมพูดเพื่อกระตุ้นกำลังใจของทิพย์วารี กลับทำให้ผมตระหนักตนเองว่าผมเองต่างหากที่เป็นผู้จมอยู่กับอดีตที่ไม่ สามารถแก้ไขได้ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมาผมผลักตัวเองเข้าไปใช้ชีวิตกับความทุกข์และความทรงจำที่เจ็บปวด จนไม่มีช่องว่างสำหรับสิ่งอื่นใด การช่วยเหลือหนูพิม และการระเบิดอารมณ์ของทิพย์วารี กลับเป็นเครื่องกระตุ้นให้ผมรู้สึกตัวว่าทุกสิ่งสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ถ้าผมตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง

“ทิพย์เข้าใจแล้ว..ขอบคุณพี่เอที่เตือนสติทิพย์ แต่ทิพย์ยังไม่รู้เลยว่าทิพย์จะทำอย่างไรดีกับชีวิตตัวเอง ”

ใบหน้าเด็กสาวที่สบตาผมอยู่เบื้องหน้า สะท้อนแววตาสับสน แต่ยังคงเป็นใบหน้าของเด็กสาวที่งดงามที่สุดคนหนึ่ง หากเจ้าของใบหน้านั้นไม่ตกอยู่ในอารมณ์เศร้าหมองดังที่ปรากกอยู่ตลอดเวลาที่ ผ่านมา ผมรู้ดีว่ามีชายหนุ่มย่านคลองน้อยหลายคนพยายามทำความรู้จักทิพย์วารี แม้กระทั่งเจ้าชัยคนสนิทของผมก็ยังแสดงท่าทีสนใจเด็กสาวอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ผ่านมาทิพย์วารีดูจะไม่สนใจเพศตรงข้าม และเก็บตัวอยู่ในบ้านเงียบๆ เพื่อทำหน้าที่ดุแลกิจการของแก๊งค์โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น

“ เรื่องนั้นทิพย์ค่อยๆ คิดก็ได้ ทิพย์อาจจะเรียนต่อศึกษานอกโรงเรียนแล้วหาทางเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้ อนาคตยังอยู่อีกไกล บางทีทิพย์อาจจะได้พบผู้ชายดีๆ ที่ทิพย์จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันก็ได้นะ..”

ประโยคสุดท้ายผมพูดด้วยนำเสียงเย้าแหย่เพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์ของเด็กสาวให้สดชื่นขึ้น แต่ทิพย์วารีกลับถอนใจยาว..

“ ใครจะมาสนใจผู้หญิงที่เคยเป็นกะหรี่ล่ะพี่เอ…โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่สามารถมีลูกได้แบบทิพย์”

ผมนิ่งงันไปเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าการติดโรคร้ายของทิพย์เมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้เด็กสาวต้องผ่ามดลูกที่อักเสบรุนแรงทิ้งทั้งหมด การที่ผมพูดล้อเล่นเรื่องการแต่งงานจึงกลับเป็นการซ้ำเติมทิพย์วารีมากกว่า ที่จะปลอบใจ ผมรีบเปลี่ยนน้ำเสียงเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดทันที

“ ผู้ชายไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายไปทุกคนหรอกทิพย์ เชื่อพี่เถอะว่าผู้ชายที่จะรักทิพย์จริง โดยไม่คำนึงถึงอดีตมีอยู่แน่นอน ขอให้ทิพย์ลืมอดีตและพร้อมที่จะเปิดใจรับเท่านั้น ”

ทิพย์วารีสบตาผม ก่อนหลบสายตาแล้วถามอย่างแผ่วเบา

“ แล้วพี่เอล่ะ เคยเปิดใจรับใครบ้างหรือเปล่า”

ผมนิ่งงันไปกับคำถามของทิพย์วารี จริงทีเดียวที่ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเปิดใจรับผู้หญิงคนใดเข้าในชีวิต ไม่มีแม้กระทั่งการระบายความใคร่ตามปกติของผู้ชายทั่วไป การร่วมรักครั้งสุดท้ายของผมคือการร่วมกับแก้วคำน้องสาวของศัตรูผู้ทำร้าย น้องรินเมื่อ 15 ปีก่อน

“ตลอด 5 ปีที่ทิพย์อยู่กับพี่เอ ทิพย์รู้ว่าพี่เอไม่เคยแม้แต่จะไปเที่ยวผู้หญิง ไม่เคยมีใครที่พี่เอแสดงความสนใจ ทิพย์รู้ว่าพี่เอมีอดีตที่โหดร้าย แม้ทิพย์จะไม่รู้รายละเอียดแต่จากที่พี่เอแสดงต่อพี่กิฟท์ ทิพย์ก็รู้พี่เอไม่ใช่คนที่ไร้ความรักเหมือนที่พี่เอพยายามแสดงออก บางทีถ้าพี่เอจะยอมรับสิ่งที่ผ่านมาเหมือนที่พี่เอพยายามบอกทิพย์ พี่เอก็อาจจะเปิดใจรับใครให้มาช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของพี่เอได้บ้าง”

น้ำเสียงทิพย์วารีดูราวกับจะแทรกผ่านเข้ามาในจิตใจผมอย่างเต็มที่ ผมส่ายหน้าช้าๆ

“สำหรับพี่มันคงสายไปแล้วล่ะ”

มือเรียวบางที่อบอุ่นของทิพย์วารีเอื้อมมือมากุมมือผมไว้แน่น

“ถ้าทิพย์จะขอให้พี่เอเปิดใจรับทิพย์บ้าง พี่เอจะรังเกียจทิพย์ไหม”

ผมสะดุ้งกับคำพูดของเด็กสาวในอ้อมแขน ทิพย์วารีสบตาผมแน่วแน่ ริมฝีปากขบแน่นหลังจากใช้ความพยายามพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา ดวงตาเรียวยาวเป็นประกายด้วยความคาดหวัง ผมจ้องมองใบหน้างดงามนั้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาทิพย์วารีไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ ให้ผมรู้ถึงความรู้สึกที่มีต่อผมนอกจากความเคารพในฐานะผู้มีพระคุณเท่านั้น แต่แววตาที่ผมกำลังจับจ้องอยู่เบื้องหน้านี้ เป็นแววตาเดียวกันกับแววตาน้องรินที่ผมเคยเห็นในอดีต มันเป็นแววตาของหญิงสาวที่ตัดสินใจบอกรักผู้ที่ตนเลือกแล้วว่าคือผู้ที่จะ มอบหัวใจให้

ความเงียบชั่วอึดใจที่เข้ามาปกคลุม ทำให้ทิพย์วารีมีสีหน้าสลดลง เด็กสาวถอนสายตาจากผมก่อนก้มหน้าพึมพำ

“ ทิพย์ขอโทษพี่เอ…ทิพย์น่าจะรู้ว่ากระหรี่อย่างทิพย์ไม่คู่ควรกับพี่เอหรอก..”

ร่างเด็กสาวขยับตัวห่างจากอ้อมแขนของผม เพื่อลุกขึ้น ผมยึดร่างทิพย์วารีไว้ให้แน่นขึ้นดึงร่างบอบบางเข้ามากอด เชยคางกลมมนขึ้นให้สบตากับผม และก่อนที่ทิพย์วารีจะเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา ผมก็ประทับจูบกับริมฝีปากเรียวบางเบื้อหน้าแทนคำตอบ

ดาวตาเด็กสาวเบิกโพลง แต่หลับตาลงอย่างรวดเร็วเมื่อผมเพิ่มน้ำหนักบดเบียดริมฝีปากอ่อนนุ่ม สองแขนเด็กสาวโอบรอบคอผมแน่น เปิดปากให้ลิ้นของผมเแทรกผ่านเข้าไปรับรสหอมหวานสดชื่นภายใน กลิ่นกายทิพย์วารีหอมกรุ่นอบอวลทำให้ผมกระชับวงแขนแน่นขึ้น และปล่อยให้ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเรียวเล็กที่ตอบโต้อยู่ภายใน ร่างเด็กสาวอ่อนตัวลงจนค่อยๆ นอนหงายอยู่บนพื้นโดยมีให้ร่างผมโน้มตามลงทาบทับอย่างช้าๆ

“พี่เอ…”

ทิพย์วารีครางออกมาเมื่อผมถอนจูบ เพื่อก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่น สองแขนเด็กสาวลูบไล้แผ่นหลังผมอย่างลืมตัว สองมือผมค่อยแทรกผ่านชายเสื้อยืดลูบไล้ผ่านหน้าท้องเรียบเนียน ไปสู่หน้าอกเต่งที่ห่อหุ้มไว้ด้วยบราผ้าฝ้ายราคาถูก เพียงเคล้นคลึงเบาๆ ก็สัมผัสได้ถึงความครัดเคร่งของเต้านมที่ยังคงความแน่นของเนื้อหน้าอกของวัย สาวไว้อย่างเต็มที่ แม้จะผ่านการฟอนเฟ้นของผู้ชายมามากมายก็ตาม เพียงผมสอดมือผ่านบราตัวน้อย หัวนมแข็งปั๋งที่ชูชันขึ้นรับการสัมผัสก็บดเบียดอยู่กับฝ่ามือผม สั่นระริกด้วยอารมณ์สาว ร่างทิพย์วารีแอ่นเหยียดขึ้นราวกับต้องการให้ผมสัมผัสมันอย่างเต็มที่ เสียงเด็กสาวครางกระเส่า

“ โอย…เฮียวิทย์…ทิพย์ ทิพย์… ”
“ เรียกพี่เอสิทิพย์… ”

ผมกระซิบข้างหู พร้อมกับเลือนมืออ้อมผ่านด้านหลังที่แอ่นโค้งขึ้นเพื่อปลดตะขอบรา เพียงขยับนิ้วบราตัวน้อยก็หลุดการการควบคุมหน้าอก ก้อนเนื้อเคร่งครัดทั้งสองข้างดีดตัวอยู่เต็มอุ้งมือผม ขณะที่เจ้าของหน้าอกคู่งามกำลังบิดร่างส่ายไปมาราวกับได้รับความเจ็บปวด…

“พี่เอ…พี่เอ…ทิพย์รักพี่เอ..พี่เออย่ารังเกียจทิพย์นะ…”

ผมเน้นฝ่ามือบดเต้านมเต่งตึงทั้งคู่ สัมผัสความหยุ่นแน่นอย่างละลานใจ

“ พี่ไม่เคยรังเกียจน้องทิพย์…ต่อไปนี้น้องทิพย์ต้องใช้ชีวิตร่วมกับพี่นะ..”
“ทิพย์จะเป็นของพี่เอคนเดียว…พี่เอจะ…อื๋ย…”

ทิพย์วารีครางลั่น เมื่อรับรู้ว่ามือของผมเปลี่ยนเป้าหมายเบื้องบนมายังขอบกางเกงยืดขาสั้นตัว หลวม แล้วแทรกตัวผ่านขอบล่างไปยังกางเกงในเนื้อบางภายใน ความชุ่มชื้นเปียกชุ่มไปทั่วจนรู้สึกได้ ผมแทรกผ่ามือผ่านขอบกางเกงในเพื่อกุมเนินเนื้อทิพย์วารีเอาไว้เต็มฝ่ามือ ทิวขนหนานุ่มที่ปกคลุมเนินเนื้อให้สัมผัสที่แตกต่างไปจากอวัยวะของเด็กหญิง เช่นน้องรินและแก้วคำในอดีต แต่ก็เร้าอารมณ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแม้แต่น้อย นิ้วผมแทรกผ่านสองแคมจมลงไปภายในร่องหลืบอบอุ่นอย่างง่ายดาย เม็ดมณีที่ด้านบนแข็งตัวกระทบรับสัมผัสอย่างกระตือรือล้นพร้อมกับร่างเจ้า ของเม็ดเสียวที่แอ่นสะโพกขึ้นรับการรุกรานของมือ นิ้วชี้ผมผ่านเข้าไปสู่ความอบอุ่นภายในอย่างง่ายดายจากน้ำหล่อลื่นที่ชุ่ม โชก แต่แรงบีบรัดภายในยังคงบดเบียดนิ้วราวกับจะพยายามต่อต้านการรุกล้ำเข้าไปสู่ ปลายทาง มันเป็นแรงบีบรัดที่ไม่บอกให้รู้เลยแม้แต่น้อยว่าร่องหลืบนี้เคยถูกรุกล้ำ จากแท่งเนื้อมานับไม่ถ้วนในวัยเพียง 12 ปี อาจเป็นเพราะร่างกายที่ยังคงเจริญเติบโต และการว่างเส้นร่วมเพศมากว่า 5 ปี ทำให้มันค่อยๆฟื้นคืนสภาพสู่ความคับแน่นที่ควรเป็นของเด็กสาววัย 19

“ พี่เอ…ทิพย์ สะ เสียว.. ”

เสียงเด็กสาวกระเส่า ลมหายใจร้อนกรุ่นกระทบซอกคอผมเป็นจังหวะถี่ยิบ ผมถอนนิ้วออกจากส่วนลี้ลับของทิพย์วารี เพื่อยกร่างขึ้นมาในอ้อมแขนและมุ่งหน้ามาที่เตียงนอนในห้องด้านข้าง เด็กสาวลืมตาขึ้นเมื่อรับรู้ว่าร่างถูกยกจากพื้น แต่ก็หลับตาลงเมื่อเห็นจุดหมายที่ผมกำลังพาไปยังห้องนอนที่อยู่ติดกัน

ผมวางร่างเด็กสาวที่กำลังตกอยู่ในอารมณ์รักลงบนพื้นเตียงอย่างทะนุถนอม ทิพย์วารีหลับตาพริ้มเมื่อผมค่อย ๆ ดึงชายเสื้อยืดออกไปทางศีรษะโดยที่เด็กสาวช่วยชูแขนให้มันหลุดออกไป จากร่างอย่างเต็มใจ ทรวงอกอวบตระหง่านอวดความเต่งตึงอยู่ต่อหน้า แม้จะอยู่ในท่านั่งแต่มันยังคงตั้งเต้าอย่างมั่นคงโดยไม่คล้อยต่ำไปตามแรง ดึงดูด ผมซุกหน้าเข้าระหว่างก้อนเนื้อนวลทั้งสองซุกไซร้ไปมาเพื่อสัมผัสแรงสะท้อน ของวัยสาว ทิพย์วารีส่งเสียงหอบกระชั้น สองแขนโอบรอบคอผมแน่น ผมค่อยๆ ถอดกระดุมเสื้อออก พร้อมกางเกงแพร แล้วทาบทับเรือนร่างเปลือยท่อนบนของทิพย์วารีไว้เต็มตัว

“ พี่เอ…พี่เอ… ”

เสียงเด็กสาวพร่ำเรียกชื่อผม เมื่อผมสอดมือไปยังตะขอกางเกงขาสั้นเพื่อปลดมันออกแล้วรูดซิบพร้อมกับลากมัน ลงไปตามลำขายาวเรียว โดยที่เข้าของช่วยยกสะโพกขึ้นให้ง่ายต่อการปลดเปลืองไปพ้นร่างกาย ผมยันดายขึ้นเพื่อใช้สายตาซึม๙ับความงามเบื้องหน้า

ร่างเปลือยขาวผ่องด้วยเชื้อสายจีนของทิพย์วารี อวดความงามกับสายตาของผมอย่างเต็มที่ ใบหน้างามหลับตาพริ้ม สองแก้มแดงระเรื่อ หน้าอกคู่งามชูช่อเป็นก้อนด้วยขนาดราวกับผลฝรั่งขนาดใหญ่ที่มีเมล็ดยอดสี น้ำตาลอ่อนประดับปลายอยู่อย่างงดงาม ต่ำลงไปเป็นเนินหน้าท้องขาวเนียนที่มีไรขนอ่อนๆ นำทางลงไปสู่เนินนูนที่ปกคลุมด้วยขนหนานุ่ม ผมเลื่อนร่างลงมาต่ำเพื่อเสพรับความงามของเนินเนื้อนั้นอย่างเต็มตา และต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นเมื่อพบว่ามันโหนกนูนเด่นขึ้นมาอย่างน่า ชม สองแคมเปล่งปลั่งประกบปิดช่องทางรักไว้แน่นหนาราวกับไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้า ไปภายใน กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยขึ้นนมากระทบจมูกโดยปราศจากกลิ่นฉุนเฉียยวที่ไม่พึงประสงค์ใดๆ บอกให้รู้ว่าเจ้าของเนินเนื้อนี้รักษาความสะอาดไว้อย่างดี น้ำรักที่เอ่อล้นออกมาจากร่องระหว่างสองแคมยิ่งทำให้ทั้งเนินนูนดูเป็น ประกาย ผมซุกหน้าลงกับเนินหน้าท้องขาวผ่องแล้วค่อยๆ ลากต่ำลงไปยังความเป็นหญิงของทิพย์วารีเบื้องล่างเพื่อชิมรสหอมหวานของเด็ก สาว โดยปราศจากความรังเกียจที่มันเคยรองรับความใคร่ของผู้ชายนับไม่ถ้วนมาในอดีต แต่ก่อนที่ใบหน้าผมจะกระทบเป้าหมาย ทิพย์วารีก็ผุดร่างขึ้นดึงผมกลับขึ้นมาทาบทับร่างเปลือยเอาไว้ ก่อนส่ายหน้าไปมา

“พี่เอ..อย่า…มันสกปรก ”

ผมเลื่อนมือลงไปลูบไล้แก้มสะโพกหยุ่นตึงเบื้องล่าง

“พี่ไม่เห็นว่าจะสกปรกตรงไหนเลย มันหอมมากต่างหาก ขอพี่ชิมรสของทิพย์เถอะนะ”

เด็กสาวส่ายหน้า ขืนร่างผมไว้ไม่ยอมให้เลื่อนกลับลงไปเบื้องล่าง

“ทิพย์ไม่ได้หมายความถึงความสะอาด แต่หีของทิพย์มันผ่านควยสกปรกของผู้ชายมามาก พี่เอไม่ควรลดตัวลงไปสัมผัสมัน ขอให้หีของทิพย์รองรับความรักจากควยพี่เอดีกว่านะ…”

น้ำเสียงทิพย์วารีบอกความรู้สึกละอายในร่างกายของตนเอง ผมส่ายหน้าช้าๆ ดึงหมอนมาสอดใส่ใต้สะโพกกลมกลึงจนเนินเนื้อแอ่นตัวขึ้นนูนเด่น แล้วและฝืนร่างลงต่ำทั้งที่ทิพย์วารีพยายามดึงรั้งไว้ แต่เมื่อผมฝังใบหน้าเข้ากับเนินเนื้อเต็มๆ ร่างเด็กสาวกลับสะท้านเฮือก สองมือไหล่ผมแน่น เมื่อผมตวัดลิ้นโลมเลียสองแคมอวบอย่างไม่รังเกียจ กรุ่นไอจากร่างกายส่วนลี้ลับของทิพย์วารีไม่มีกลิ่นใดๆ ที่ไม่พึงประสงค์ มีแต่เพียงความหอมของสบู่ที่แสดงถึงการรักษาความสะอาดอย่างดี และกลิ่นคาวน้อยๆของน้ำรักที่หลั่งไหลออกมาจากร่องหลืบภายใน สองแคมสั่นระริกเมื่อลิ้นผมสอดแทรกผ่านเข้าไปและไล้เลียเม้ดเสียวด้านบนจน มันแข็งตัวขึ้นเป็นปุ่ม ร่างกายเด็กสาวบิดส่ายไปมาจนผมต้องกดสะโพกไว้แน่นเพื่อใช้ลิ้นกระตุ้นความ เสียวให้มากยิ่งขึ้น

““พี่เอ…ยะ ยะ อย่า…ไม่ดี มันสกปรก…มัน อ๊าย….ทิพย์…โอ๊วส์… ”

สะโพกอวบของทิพย์วารียกแอ่นขึ้นเหนือหมอนอัดแน่นกับลิ้นผมที่กระตุ้นเม็ด เสียวต่อเนื่องจนเด็กสาวไปถึงจุดสุดยอด…เล็บจิกที่หัวไหล่ผมเกร็งแน่นจน แทบจะฝังเข้าไปในกล้ามเนื้อ ผมยกตัวขึ้นทาบทับเรือนร่างที่ยังคงกระตุกจากจุดสุดยอด เคลื่อนแท่งเนื้อที่เกร็งแข็งขนาก6 นิ้วเศษ เข้าไปสู่ภายในร่องหลืบอบอุ่นทันที มันแทรกตัวผ่านความคับแคบภายใน น้ำหล่อลลื่นที่ท่วมทะลักเบิดทางให้มันมุดตัวลงไปฝังความยาวทั้งหมดอย่างไม่ ลำบากนัก ทิพย์วารีสะท้านร่างขึ้นเมื่อรับรู้ถึงการรุกรานของแท่งเนื้อ

“ โอว…พี่เอ…มันลึกดีจัง ทิพย์เสียว”

ผมซุกหน้ากับซออกคอไซร้ติ่งหูจนร่างทิพย์วารีสั่นระริก

“หีทิพย์นี่แน่นสุดๆ เลยนะ รัดจนพี่แทบกระเด้าไม่ได้เลย ”
“พี่เอบ้า ก็ควยพี่เอใหญ่ขนาดนี้ มันจะไม่คับยังไงได้…หีทิพย์น่ะผ่านผู้ชายมาเยอะมันไม่คับเหมือนสาวๆ หรอก”

ประโยคสุดท้ายของเด็กสาวยังคงบ่งบอกถึงความรู้สึกดูถูกตัวเอง ผมยกร่างขึ้นจ้องตาเด็กสาวตรงๆ

“ ทิพย์…จำไว้นะว่าพี่ไม่รังเกียจร่างกายทิพย์เลยแม้แต่น้อย พี่เห็นแต่ความงดงามของร่างกายและจิตใจทิพย์ ไม่ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นในอดีต นับแต่นี้มันจะไม่มีวันหวลกลับมาอีกแล้ว พี่จะปกป้องทิพย์ตลอดไป สัญญากับพี่นะว่าจะเลิกลงโทษตัวเอง และก้าวต่อไปพร้อมกับพี่..”

น้ำตาหยดใสไหลซึมผ่านหางตาทิพย์วารี เด็กสาวพยักหน้ารับแล้วโน้มคอผมไปประทับจูบอย่างหนักแน่น

“ ทิพย์เชื่อพี่เอ ต่อไปนี้ทิพย์จะมีแต่พี่เอเท่านั้น….”

ผมขยับแก่นกายที่ฝังอยู่มิดในร่างทิพย์วารีขึ้นมาช้าๆ จนแทบพ้นปากทางเข้า เด็กสาวลืมตาโพลงยกสะโพกตามขึ้นมาราวกับไม่ต้องการให้ผมถอนออกไป แต่มันกลับทำให้เกิดแรงกระแทกทันทีที่ผมกดมันกลับลงไปจนสุดอีกครั้ง

“ โอ๊วส์ พี่เอ…อย่าเพิ่งแรงนัก ทิพย์ไม่ได้เย็ดมา 5 ปีแล้วนะ…”

ผมหัวเราะเบาๆ แต่ก็ยอมลดความแรงลงเล็กน้อย ผมทาบร่างลงทับแล้วค่อยๆ กระด้าอย่างช้าๆ แรงเสียดสีและดูดรัดของร่างกายเด็กสาวผนึกรอบแท่งเนื้อผมทุกส่วน แม้จะไม่แน่นตึงจนขยับไม่ได้แบบหญิงสาวบริสุทธิ์ แต่มันก็แน่นเกินพอสำหรับสร้างความเสียวในการร่วมรัก เวลาที่ผ่านไปสามารถฟืนฟูร่ายกายของอดีตหญิงงามเมืองที่ถูกทารุณกรรมทาง เพศอย่างหนัก ให้กลับมาอยู่ในสภาพเปล่งปลั่งสมบูรณ์ของวัยสาวได้อย่างสมบูรณ์

“ ซี๊ดส์…พี่เอ…เร่งอีกก้ได้ ทิพย์ ไม่เจ็บแล้ว…โอย… ”

ผมสอดแขนเข้าใต้แผ่นหลังประคองร่างเด็กสาว ดึงขึ้นมาให้อยู่ในท่านั่ง ทำให้ต้นขาอวบสอดมาโอบเอวผมอย่างอัตโนมัติ

“ อุ๊ย พี่เอ…ทำอะไรน่ะ”
“พี่อยากเห็นทิพย์ชัดๆ อยากเห็นทิพย์มีความสุขด้วยตาของพี่เอง”

ผมตอบพร้อมกระเด้าแท่งเนื้อเข้าออกถี่ยิบ หน้าอกคู่งามแกว่งตัวตามแรกกระแทก สองแขนทิพย์วารีกอดรอบคอผมแน่น แหงนหน้าขึ้นสูดปากด้วยความเสียว ขณะที่ผมก้มหน้าลงชมภาพแท่งเนื้อวิ่งเข้าออกร่องหลืบอวบอิ่มเบื้องล่าง เสียงกระทบหน้าท้องกระทบกันเป็นจังหวะ ลำเนื้อชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นเป็นมันระยับวิ่งเข้าออกอย่างไม่รู้จักเหน็ด เหนื่อย ความเสียวกรูขึ้นมาสะสมที่ปลายพร้อมที่จะระเบิดออกทุกขณะ ผมรีบดันร่างทิพย์วารีลงนอนหงายกับพื้นเตียง ยกสองขาขึ้นสูงให้พาดอยู่ในแขนผม เนินเนื้อยิ่งยกตัวสูงอัดแน่นกับการกระเด้า

“ พี่เอ…พี่เอ…ทิพย์จะ…จะ ถึงแล้ว …อ๊าย..ส์…..”

ร่างเด็กสาวกระตุกถี่ยิบ ผมยกแขนขึ้นเพื่ออัดเนินนูนเข้ากับแท่งเนื้อก่อนกระแทกเป็นครั้งสุดท้าย น้ำรักที่ไม่เคยหลั่งออกมากว่า 15 ปี ทะลักเข้าไปภายในร่างกายทิพย์วารีราวน้ำพุ สองแขนผมทิ้งลงปล่อยท่อนขาเด็กสาวลงบนพื้นเตียงพร้อมกับร่างของผมทาบทับ เรือนร่างงามไว้ด้านบน น้ำรักยังคงกระตุกฉีดเข้าไปเป็นระยะ…

“ อือ…โอย…พี่เอ…ท่วมไปหมดแล้ว….เอ๊ะ…อะไร”

ทิพย์วารีร้องอุทานเบาๆ ขณะที่ผมรับรู้ถึงปราณในร่างกายเคลื่อนตัวเข้าสู่ร่างกายทิพย์สารีพร้อมกับ น้ำรัก ร่างกายเด็กสาวดูดรับปราณช้าๆ และเริ่มวนเวียนไปตามแนวทางของปราณคชสีห์ ทั้งที่ผมไม่ได้ควบคุม

“ พี่เอ…อะไร มันไหลอยู่ที่ท้องทิพย์ ”
“ หลับตาซะทิพย์ ทำใจให้สงบ ไม่ต้องกลัวนะ ”

ผมรีบปลอบทั้งที่ยังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็เชื่อว่ากระแสปราณจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ กับเด็กสาวอย่างแน่นอน ทิพย์วารีหลับตาลงตามคำบอกของผม ขณะที่ผมค่อยๆ เคลื่อนปราณเข้าสู่แรงดึงดูดในร่อง หลืบเด็กสาว มันกระจายตัวตามตำแหน่งจักรชีวิตของปราณคชสีห์ แล้วค่อยๆ รวมตัวย้อนกลับมายังร่างกายผมอีกครั้ง ภาพเบื้องหน้าผมพลันเลือนลงปรากฏภาพและความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยตามเข้าสู่ จิตใจผมอย่างรวดเร็ว มันเป็นภาพของทิพย์วารีในชุดนักเรียนเซ็นต์โยเซฟคอนเวนต์ ที่กำลังถูกกลุ่มชายหนุ่ม กระชากชุดนักเรียนออกจากร่างบนเตียงนอนที่ดูคล้ายโรงแรมม่านรูด เด็กหญิงขัดขืนดิ้นรนอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถต้านทานแรงของชายจำนวนมากที แยกย้ายกันตรึงแขนขาไว้รอบด้าน เด็กหนุ่มคนหนึ่งหัวเราะอย่าลำพองก้าวเข้ามาที่หว่างขาแล้วกดแท่งเนื้อลงมา ในร่องหลืบเปล่งปลั่งที่ปราศจากเส้นขนอย่างไม่ปราณี ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของเด็กหญิงและความรู้สึกเคียดแค้นชิงชังอย่าง รุนแรง ภาพของเด็กหญิงเปลี่ยนไปเป็นภาพในอาคารซอมซ่อ ชายชราจำนวนมาก เวียวยว่ายมาเสพร่างกายเด็กหญิงต่อเนื่อง จิตใจเด็กหญิงเปลี่ยนเป็นทอดอาลัยในชีวิต

ความทรงจำมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่สมองผมอย่างต่อเนื่อง ภาพชีวิตวัยเด็กของทิพย์วารีที่ถูกครอบครัวตั้งข้อรังเกียจว่าเป็นเด็ก กาลกิณี เนื่องจากเกิดมาพร้อมกับการเสียชีวิตของบิดา ชีวิตที่ถูกดุด่าจากครอบครัวตลอดเวลาจนทำให้เด็กหญิงแสวงหาที่พึ่งทางใจ และถูกเด็กหนุ่มหลอกลวงให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ากาม ทุกสิ่งพุ่งเข้ามาในจิตใจผมพร้อมกับปราณที่ย้อนกลับไปหมุนเวียนในร่างกาย ทิพย์วารีอีกครั้ง
ร่างกายผมและทิพย์วารีผนึกแน่นท่ามกลางความเคลื่อนไหวของปราณที่ค่อยๆ ช้าลงจนในที่สุดทุกสิ่งก็สงบนิ่ง ผมผ่อนลมมหายใจยาว ลืมตาขึ้นและพบว่าดวงตาเรียวยาวของทิพย์วารีกำลังจับจ้องใบหน้าผมด้วยสายตา งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ พี่เอ เกิดอะไรขึ้น ..ทิพย์รู้สึกเหมือนกับเข้าไปอยู่ในชีวิตพี่เอ รับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแม้กระทั่งความรักที่พี่เอมีให้พี่ริน พี่กิฟท์… ”

ผมสั่นศีรษะด้วยความงุนงงเช่นกัน

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พี่เองก็รับรู้ชีวิตของทิพย์ตั้งแต่เกิด รับรู้ความทุกข์ที่ทิพย์ได้รับทุกอย่าง ราวกับว่าความทรงจำทั้งหมดของทิพย์ถ่ายทอดมาให้พี่ พร้อมกับความทรงจำของพี่ถ่ายทอดไปยังทิพย์”

ทิพย์วารีเบิกตากว้าง แต่สองแก้มแดงระเรื่อ..

“หมายความว่าพี่เอก็รู้ว่าทิพย์คิดอะไรกับพี่เอใช่ไหม…”

ความทรงจำของทิพย์วารีแทรกเข้าสู่การรับรู้ของผม ความรักที่เด็กสาวมีให้ผมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาแต่ถูกเก็บไว้ด้วยความละอาย ในอดีตของตนเอง ปรากฏในสมองผมอย่างชัดเจน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือผมได้รับรู้ว่าร่องรอยบาดแผลในอดีตของทิพย์วารีเลือน หายไปจากผลของการร่วมรักที่ผ่านมา ผมรับรู้ถึงความตั้งใจแน่วแน่ของเด็กสาวที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผมตลอดไป ผมยิ้มให้ทิพย์วารีอย่างอ่อนโยน

“แล้วทิพย์รู้ไหมล่ะว่าพี่รู้สึกอย่างไรกับทิพย์”

ใบหน้าหวานใสซุกเข้ากับหน้าอกผมอย่างอายๆ

“ทิพย์รู้ ทิพย์แน่ใจแล้วว่าพี่เอไม่รังเกียจอดีตของทิพย์แม้แต่น้อย ต่อไปนี้ทิพย์จะอยู่เคียงข้างพี่เอตลอดไป เอ๊ะ… ”

เด็กสาวอุทานเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าแก่นกายผมที่ยังคงแข็งตัวอยู่ในร่องหลืบเริ่มขยับขึ้นลงอีก ครั้งช้าๆ ทั้งที่เพิ่งหลั่งน้ำรักจำนวนมากออกไป ผมทาบร่างลงกับความอวบอัดนิ่มนวลเบื้องล่างและเริ่มเคลื่อนไหวรับความสุขอีก ครั้ง ทิพย์วารีสูดลมหายใจลึกยาวพร้อมแอ่นเนินนูนขึ้นรับการกระเด้าอย่างเต็มใจ

“พี่เอไม่ต้องยั้งนะ เย็ดทิพย์ตามที่พี่เอต้องการเลย ”

——————————————

“โอย…พี่เอ…ทิพย์ไม่ไหวแล้ว เกิดอะไรขึ้น ทำไมควยพี่เอถึงแข็งไม่หยุดแบบนี้…”

ทิพย์วารีส่งเสียงคราญครางเมื่อผมหลั่งน้ำรักครั้งที่สองขณะที่เด็กสาวไต่ไป ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งที่หก กล้ามเนื้อในร่องหลืบสั่นระริกรับน้ำรักที่กระฉูดลงไปจนเนืองนองออกมาด้าน นอก แต่แท่งเนื้อยังคงแข็งปั๋งและความรู้สึกต้องการของผมก็ยังคงเกิดขึ้นต่อ เนื่องพร้อมที่จะร่วมรักต่อไปอีก แต่เพียงผมเริ่มกระเด้าอีกครั้งทิพย์วารีก็สั่นหน้าส่งเสียงคราญครางอย่าง หมดแรง

“พี่เอ..ทิพย์รับต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ…สงสารทิพย์เถอะ…”

ผมสุดหายใจลึกเพื่อระงับความต้องการที่ยังลุกโพลงในจิตใจ ถอนแท่งเนื้อออกมาช้าๆ จนพ้นจากร่างงามที่นอนหงายอยู่ เผยให้เห็นช่องทางรักบวมแดงจากการเสียดสีกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยไม่หยุด น้ำรักไหลย้อนกลับออกมาเป็นสายจนเปรอะเปื้อนที่นอนเป็นวงกว้าง ผมเอนร่างลองนอนเคียงข้างทิพย์วารี ดึงร่างงามมากอดไว้ในท่าตะแคง ก่อนจูบหน้าผากโหนกนูนชื้นเหงื่อเบาๆ..

“ พี่ขอโทษนะ..ทิพย์น่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวเลย”

ทิพย์วารีส่ายหน้าช้าๆ

“ทิพย์ต่างหากที่ต้องขอโทษพี่เอ ที่ไม่สามารถรับความต้องการพี่เอได้.. พี่เอยังต้องการอีกหรือเปล่า”

ผมลูบไล้แผ่นหลังเรียบลื่นไปมา สัมผัสแรงดีดสะท้อนของแก้มสะโพกด้านหลัง

“พี่ยังต้องการอยู่ แต่ไม่เป็นไรหรอก..ทิพย์พักผ่อนดีกว่า”

ทิพย์วารียันกายออกจากอ้อมแขผม ลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วบอกผมเบาๆ..

“พี่เอรอทิพย์เดี๋ยวนะ..”

เด็กสาวก้างลงจากเตียง แล้วแต่งตัวอย่างลวกๆ ก่อนขยับร่างออกไปจากห้อง

ผมนอนพิจารณาแก่นกายที่ยังคงแข็งตัวชูชันอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมาหลังจากการหลั่งน้ำรัก ผมต้องพักผ่อนระยะหนึ่งจึงจะเริ่มเกมส์รักครั้งใหม่ แต่ครั้งนี้ดูราวกับว่าความต้องการของผมพุ่งพล่านอยู่ภายในร่างกายและต้อง การระบายออกอย่างไม่สิ้นสุด ปราณคชสีห์วนเวียนในร่างกายอย่างไม่ขาดตอนซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกับคำเตือนของ พ่อครุคำแปงอาจารย์ ที่ย้ำเสมอว่าการ่วมรักกับเพศตรงข้ามต้องกระทำในสถานที่ปลอดภัยเนื่องจาก ปราณคชสีห์จะหยุดโคจรชั่วคราวเป็นเวลา 1 ชั่วยามหากมีร่วมรักกับเพศหญิงจนเกิดการหลั่งน้ำกาม เหตุการณ์ณืที่เกิดกับนผมและน้องรินเมื่ออ 15 ปีก่อน คือหลักฐานยืนยันความจริงข้อนี้ เพราะหากปราณคชสีห์ไม่หยุดการโคจรหลังจากที่ผมหลั่งน้ำรักเข้าไปในร่างกาย น้องริน กองคำก็จะไม่สามารถเข้าใกล้มาทำร้ายผมได้

การคิดถึงศัตรูผู้ทำลายทุกสิ่งของผม ทำให้ผมระลึกได้ถึงเหตุการณ์ร่วมรักระหว่างผมกับแก้วคำ และการถ่ายเทปราณจักรวาลที่กองคำเพราะสร้างในร่างกายเด็กหญิงเพื่อเตรียมมอบ ให้ “ท่านผู้นั้น” แต่ผมกลับเป็นผู้ทำลายพรหรมจรรย์ของแก้วคำและรับปราณจักรวาลที่ผมไม่รู้จัก ไว้แทน ภาพความร้อนเร่าทางเพศของแก้วคำอันเกิดจากปราณจักรวาล ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าบางทีการร่วมเพศครั้งแรกในรอบ 15 หลังการร่วมรักกับแก้วคำ อาจเป็นการปลุกกกระแสปราณจักรวาลในร่างกายผมขึ้นมา และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการซึมซับและถ่ายเทความทรงจำระหว่างผมกับ ทิพย์วารี แต่ผู้ที่จะให้ความกระจ่างผมได้ก็มีเพียงกองคำ ที่ถูกผมสังหารไปแล้ว กับพ่อครูคำแปงอาจารย์ผมเท่านั้น แต่ผมก็ไม่มีหวังที่จะได้พบพ่อครูคำแปงอีกต่อไป เพราะพ่อครูได้เสียชีวิตพร้อมคุณพ่อคุณแม่ผมในเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ จ.ภูเก็ตเมื่อ 5 ปีก่อน

“พี่เอ…ทิพย์มาแล้ว”

เสียงทิพย์วารีดังขึ้นปลุกผมจากห้วงความคิด ผมเงยหน้าขึ้นจากแท่งเนื้อชูชัน ตามเสียงเรียก แต่ก็ต้องรีบคว้าผ้าห่มมาปกคลุมท่อนล่างทันที เมื่อพบว่าทิพย์วารีจูงร่างเด็กหญิงผมสั้นในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเข้ามา ในห้องนอนของผมพร้อมกัน

“น้องพิม…ทิพย์”

ทิพย์วารีหัวเราะอย่างเบิกบานใจ พาร่างน้องพิมมาสั่งบนเตียงข้งๆ ผม เด็กหญฺงก้มหน้างุดแต่สองแก้มแดงจัด ซึ่งผมแน่ใจว่าเกิดจากการเห็นแท่งเนื้อของผมอย่างเต็มตาก่อนที่ผมจะทันนำผ้า ห่มมาคลุมไว้

“ทิพย์พาน้องพิมมาช่วยพี่เอ…พี่เอยังต้องการอยู่ไม่ใช่หรือ”
“ อะ อะ อะไรกัน…ทิพย์..พี่… ”

ผมได้แต่ตกตะลึงพูดจาตะกุกตะกักไม่เป็นภาษา ทิพย์วารีโน้มตัวมากอดผมไว้กระซิบข้างหู แต่ในระดับเสียงที่ผมรู้ดีว่าน้องพิมที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆ ต้องได้ยินแน่นอน

“พี่เอลืมไปแล้วหรือว่า ทิพย์รับรู้ความรู้สึกทุกอย่างของพี่เอแล้ว พี่เอคิดยังไงกับน้องพิมทิพย์ก็รู้ และที่สำคัญ น้องพิมก็ตั้งใจที่จะเป็นเมียพี่เออยู่แล้ว”

ในสมองผมปรากฏภาพน้องพิมคุยกับทิพย์วารีที่ห้องของเด็กหญิง ความทรงจำของทิพย์วารีที่ถ่ายทอดมาให้ผม ทำให้ผมรับรู้ว่าทั้งสองได้คุยกันเรื่องที่น้องพิมจะมาอยู่ที่บ้าน และน้องพิมได้ขอให้ทิพย์วารีบอกให้ผมรับน้องพิมไว้เป็นภรรยาด้วยร่างกาย มิใช่การบอกคนภายนอกตามที่ผมสั่งไว้เท่านั้น ในความทรงจำของทิพย์วารี น้องพิมพร่ำบอกถึงบุญคุณที่ผมมีต่อเด็กหญิง และความต้องการที่จะตอบแทนผมด้วยร่างกายของตนเอง ซึ่งเมื่อมันปรากฏในสมองผม ทำให้แก่นกายใต้ผ้าห่มที่อ่อนตัวลงจากความตกใจเมื่อครู่กลับผงาดขึ้นอีก ครั้ง พร้อมกับภาพเรือนร่างเปลือยเปล่าอวบอัดของน้องพิมที่ผมเคยสัมผัสเมื่อเดือน ที่ผ่านมา ทรวงอกอวบเกินวัยและเนื้อหยังเต่งตึงซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยมองดูด้วยความ สงสาร กลับปรากฏมาเป็นภาพกระตุ้นอารมรณ์รักของผมอย่างรุนแรง ผมมองเรือนร่างอวบของเด็กหญิงที่ก้มหน้าอยู่ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เสื้อยืดสีขาวบางๆ บนร่างน้องพิม ทำให้เห็นเฟิร์สบราไร้สายที่ห่อหุ้มทรวงอกอวบกลมไว้ภายใน กางเกงขาสั้นที่เปิดเผยลำขาอวบอัดสมบูรณ์ของวัยสาว เมื่ออยู่ในท่านั่งทำให้เป้ากางเกงอัดแน่นเข้ากับเนินนูนเด็กหญิงจนเป็น รูปร่างกลมนูน ยิ่งทำให้อารมรณ์ผมกระเจิดกระเจิงมากขึ้น

“เอ้อ…พี่…น้องพิม…จะ..”

ผมยังคงตะกุกตะกัก แต่ทิพย์วารีกลับลุกขึ้นจากเตียง ดึงร่างน้องพิมมานั่งชิดผม ก่อนหันหลังเดินออกจากห้องพร้อมส่งเสียง

“ไม่รู้ล่ะ พี่เอตัดสินใจเองก็แล้วกัน พิมพ์โดยเย็ดจนหีบวมแล้ว ไปนอนดีกว่า… ”

น้ำเสียของเด็กสาวที่ออกไปจากห้องดูสดชื่นและร่าเริงผิดกับ “`นังทิพย์” ที่ผมรู้จัก อากัปรกริยาที่เปลี่ยนไปเป็นเด็กสาวสดใส ทำให้ผมต้องยิ้มออกมา แต่ความสนใจผมก็ต้องกลับมาอยู่ที่ร่างเด็กหญิงด้านข้าง เมื่อน้องพิมเอื้อมมือมากุมมือผมที่อยู่นอกผ้าห่มเอาไว้

“น้าเอ…พิมต้องทำอย่างไรบ้าง… ”

เสียงเด็กหญิงที่สั่นระริก ทำให้ผมเชยคางที่ก้มอยู่ขึ้นมาสบตา ใบหน้าที่ผมได้พิจารณาอย่างละเอียดเป็นครั้งแรก เป็นใบหน้ากลมของเด็กหญิงวัย 12 ที่สบตาผมด้วยดวงตากลมโตสุกใส หางตาชี้ขึ้นเล็กน้อยทำให้ดูโฉบเฉี่ยวตัดกับใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างน่าสนใจ แว่นสายตาพลาสติคสีแดงที่คล้ายกับแว่นกับน้องริน เพิ่มความน่าสนใจและทำให้เป็นใบหน้าของเด็กนักเรียนที่รักการเรียน มากกว่าจะเป็นเด็กหญิงที่กำลังเตรียมมอบร่างกายให้ผู้ชายคนแรกในชีวิต แต่ก็กลับเป็นความขัดแย้งที่กระตุ้นอารมณ์รักของผู้ชายทุกคนได้อย่างง่ายดาย

“น้องพิมแน่ใจหรือ…”

ผมพยายามระงับความรู้สึกทางเพศที่กำลังปะทุ ถามด้วยเสียงแผ่วเบา น้องพิมสบตาผมแน่วนิ่ง

“ ถ้าพี่เอไม่รังเกียจพิม พิมพร้อมจะให้พี่เอทุกอย่าง ขอเพียงแต่พี่เออย่าทิ้งพิมเท่านั้น พิมไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว”

ผมดึงร่างอวบอัดเข้ามากอดในวงแขน

“ถ้าน้องพิมเพียงต้องการตอบแทนน้าที่ช่วยน้องพิมไว้ ก็อย่าฝืนใจตัวเองเลยนะ น้าไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนจากน้องพิมทั้งนั้น และน้าก็จะไม่ละทิ้งการดูแลน้องพิมแน่นอน จนกว่าน้องพิมจะพบผู้ชายที่ดีพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอด ”

น้องพิมก้มหน้าหลบสายตาผม เสียงสั่นเครือแผ่วเบาดังขึ้น

“ น้าเอรังเกียจพิมใช่ไหม… พิมคงไม่สวยพอสำหรับน้าเอ”

ผมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น

“น้าไม่เคยรังเกียจพิมเลย พิมเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักที่สุด ถ้าพิมถามน้าตรงๆ น้าก็ขอบอกว่าน้าต้องการพิม แต่น้าจะไม่มีวันบังคับให้พิมต้องทำอะไรที่ฝืนใจตัวเองเด็ดขาด”

น้องพิมเงยหน้าขึ้น ดึงมือที่กุมมือผมดึงขึ้นและนำมาวางไว้ที่หน้าอกเต่งตรงตำแหน่งหัวใจ

“พิมอาจจะเด็กเกินไป แต่พิมรู้ว่าพิมต้องการอะไร ตั้งแต่วันที่น้าเอช่วยพิมจากพวกนั้น พิมพ์ก็รู้แล้วว่าพิมได้พบคนที่ดีที่สุดสำหรับพิมแล้ว ขอเพียงพี่เอไม่รังเกียจพิมเท่านั้น พิมพร้อมที่จะเป็นของน้าเอแม้ว่าน้าเอจะไม่รักพิมก็ตาม”

ความรู้สึกตื้นตันพลั่งพรูขึ้นมาในใจผม เด็กหญิงเบื้องหน้าแม้จะมีอายุเพียง 12 ปี แต่การทำงานหนักและหน้าที่รับผิดชอบเกินตัว ทำให้ความคิดของเด็กหญิงดูราวกับเด็กสาวเต็มตัว ที่กำลังต้องการความรักจากเพศตรงข้าม สัมผัสที่นุ่มนวลเต่งตึงของหน้าอกวัยสาวภายใต้ฝ่ามือผม สะท้อนความรู้สึกอบอุ่นที่เกิดขึ้นในหัวใจผมบอกให้รู้ว่าผมควรตัดสินใจอย่าง ไร

“ปัญหาคือ….น้าก็รักน้องพิมนี่สิ จะทำยังไงดีนะ”

ผมพูดโดยพยายามเปลี่ยนอามรณ์ให้สดชื่นขึ้น เพื่อปลุกน้องพิมจากอารมณ์เศร้าให้กลับมาเป็นเด็กหญิง ที่สดใสอย่างที่ควรเป็น ร่างน้องพิมสะท้านกับคำพูดผม เงยหน้าขึ้นสบตาผมอย่างไม่เชื่อหู

“ น้าเอ…น้าเอรักพิม… ”

เสียงเด็กหญิงทวนคำ ก่อนโถมร่างอวบอัดเข้ามาในอ้อมแขน ผมหัวเราะเบาๆ จับคางน้อยๆ สั่นเพื่อยกใบหน้าขึ้นมาสบตาผมอย่างเอ็นดู

“ก็รักนะสิ…ทำยังไงดีล่ะ.. ”

น้องพิมยิ้มออกมา ทั้งน้ำตา…ขณะที่ผมดันร่างน้อยให้ออกห่างจากตัว แล้วเอื้อมมือไปยังชายเสื้อยืดที่เอวน้องพิมเพื่อดึงมันขึ้นช้าๆ

“น้าเอ…จะ..จะ..”
“ น้าขอดูน้องพิมให้เต็มตานะ…ไม่ต้องอายหรอก..”

น้องพิมสูดหายใจลึก แต่ไม่ขัดขืนเมื่อผมยกชายเสื้อพ้นออกจากศีรษะ หน้าอกอวบเด็กหญิงที่ห่อหุ้มด้วยเฟริรศบราสีเนื้อปรากฏอยู่ตรงหน้า ผมดึงร่างน้องพิมให้ลงจากเตียงมายืนอยู่ตรงหน้า โดยไม่สนใจว่าผ้าห่มที่คลุมแก่นกายผมเลื่อนหล่นไปด้านข้างทำให้มันเป็นอิสระ และชูชันเต็มสายตาเด็กหญิง มือผมปลดกระดุมกางเกงขาสั้นแล้วรูดซิบไปจนสุดราง ปล่อยให้แรงโน้มถ่วงดึงดูดกางเกงตัวน้อยลงไปกองกับปลายขา ร่างขาวโพลนของเด็กหญิงวัย 12 ที่มีเพียงบราและกางเกงในลายการ์ตูนกระต่าย สว่างจ้าอยู่หน้าผมราวกับจะส่งประกายออกมาด้วยตนเอง
ควมอวบอัดของน้องพิมเปิดเผยตัวเองอย่างเต็มที่ หน้าอกเต่งคู่งามอัดแน่นอยู่ใต้บราเนื้อบาง ที่มองผ่านทะลุเห็นยอดอกสีชมพูเข้มได้รางๆ ปุ่มนูนน้อยๆ ที่ดันตัวเองออกเป็นรูปร่างบนเนื้อผ้าบอกให้รู้ว่าอามรณ์เด็กหญิงกำลังเริ่ม รับรู้ประสบการณ์ความรักครั้งแรก ลานหน้าท้องราบเรียบผายออกตามความกว้างของสะโพกอวบกลมที่มีกางเกงในน่ารักปก ปิดจุดสำคัญที่สุดของเด็กหญิงไว้ ผมต้องกลืนน้ำลายเมือนึกถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ ภาพเนินนูนอวบอิ่มที่เคยเห็นเมื่อเดือนที่ผ่านมาปรากฏขึ้นในความทรงจำ สายตาผมไล่ลงมาที่ลำขาอวบที่แน่นไปด้วยเนื้อหนังจนไม่ปรากฏช่องว่างใดๆ ระหว่างกลาง เรือนร่างเกือบเปลือยของเด็กหญิงสั่นน้อยๆ เมื่อรับรู้ว่าผมกำลังใช้สายตาจับจ้องร่างกายที่เปล่งปลั่งสมบูรณ์ จนสีแดงเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ยิ่งขับเน้นผิวกายขาวผ่องของเด็กหญิงให้เห็นสีชมพูอ่อนๆ ทั่วร่าง

“ พะ พิมต้องถอดออกไหมน้าเอ…. ”

เสียงแผ่วเบาดังขึ้นปลุกผมจากความงามเบื้องหน้า ผมพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่น้องพิมเริ่มดึงบราตัวน้อยออกจากศีรษะ แล้วก้มตัวลงเกี่ยวของกางเกงในไล่ลงไปทางปลายเท้า ร่างเปลือยเปล่าของเด็กหญิงก้าวออกจากวงกางเกงในขยับมายืนอยู่ตรงหน้าผม
หน้าอกตูมเต่งขนาดผลแอปเปิลสองลูก ตระหง่านอยู่ตรงระดับสายตาผมที่กำลังนั่ง ป้านสีชมพูเล็กๆประดับบนยอดอกที่มีหัวนมคู่น้อยสีชมพูเข้มตั้งอยู่กึ่งกลาง หน้าอกงามทั้งคู่ขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจถี่ๆ ของเด็กหญิง สายตาผมเลื่อนลงไปจับจ้องเนินนูนที่ตระหง่านอยู่เบื้องล่าง ลมหายใจชะงักกึกกับภาพสองแคมเปล่งปลั่งโดดเด่นโดยปราศจากเส้นขนแม้แต่เส้น เดียวมาปกคลุม มีเพียงไรขนบางๆ ที่เหนือเนินนูนตรงตำแหน่งเม็ดเสียว ช่องทางเข้าสู่ภายในปิดสนิทไร้ช่องว่าง ประกบกันเป็นพูอิ่มอวบด้วยขนาดที่เบียดคับหน้าขา ขนาดของมันน่าจะเป็นของหญิงสาววัยรุ่นอายุ 17-18 มากกว่าจะปรากฏอยู่บนเรือนร่างของเด็กหญิงอายุเพียง 12 ปีตรงหน้าผม

ผมเอื้อมมือไปลูบไล้สะโพกอวบอิ่มเบื้องหน้าอย่างลืมตัว ผิวกายน้องพิมสั่นระริกเมื่อถูกสัมผัส แต่เด็กหญิงยังคงยืนนิ่งให้ผมเลื่อนไล้มือไปตามผิวกายนุ่มนวลโดยไม่ขัดขืน

“ น้องพิม…..งดงามเหลือเกิน…”

ผมครางแล้วฉุดร่างน้อยเข้ามาในอ้อมกอดออกมาอย่าลืมตัว จนน้องพิมล้มตัวลงมาบนร่างผม ใบหน้ากลมน่ารักของน้องพิมมาลอยอยู่ตรงหน้า ดวงตาหลับพริ้ม สองแก้มแดงเปล่งปลั่ง ริมฝีปากเผยอออกเล็กน้อย เป้นภาพที่ทำมให้ผมไม่สมารถยับยั้งใจได้อีกต่อไป ริมฝีปากผมประทับแนบแน่นกับความเย้ายวนของริมฝีปาดอวบอิ่มเบื้องหน้า น้องพิมสะท้านเฮือกกับรสจูบแรกในชีวิต สองแขนกอดรอบคอผมไว้ด้วยสัญชาติญาณ ก่อนเผยอริมฝีปากรับการดุนดันของลิ้นผมผ่านไร้ฟันไปยังลิ้นน้อยๆ หอมกรุ่นที่รอคอยอยู่ภายใน เพียงสัมผัสปลายเบาๆ ลิ้นก็ถดถอยเข้าไปอย่างตกใจ แต่กลับค่อยๆ กลับขึ้นมาแตะลิ้นผมอย่างกลัวๆ กล้าๆ และเมื่อได้รับรสหวานชื่นของการสัมผัสมันก็กลับเริ่มเกี่ยวพันกับลิ้นผม อย่างเต็มใจ พร้อมกับร่างเปลือยอวบอิ่มที่เริ่มบิดส่ายไปมาบนร่างผม หน้าอกขาดใหญ่เกินตัวถูกเจ้าของอัดร่างเข้าเบียดหน้าอกผมจนแนบแน่น จนผู้รับรู้ได้ถึงความครัดเคร่งและหัวนมที่กำลังชูชันเป็นก้อนแข็ง เพียงผมส่ายร่างให้เกิดการเสียดสีมากขึ้นร่างน้อยในอ้อมแขนก็ยิ่งเพิ่มแรง เบียดอัดเข้ามาจนแทบจะหลอมกลืนเป็นเนื้อเดียว

สองแขนเด็กหญิงเริ่มเปลี่ยนจากการโอบรอบคอผม มาเป็นการลูบไล้แผ่นหลังผมไปมา เมื่อมือผมเคลื่อนตัวไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มจนถึงสะโพก นิ้วผมสอดผ่านร่องก้นลงไปช้าๆ เพื่อวกกลับขึ้นมาด้านหน้า และทาบนิ้วลงกับปากทางเข้าสู่ความสาวของเด็กหญิง ผมสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นที่นองเนืองออกมาจากร่องหลืบ และเมื่อผมเริ่มถูนิ้วที่วางทาบระหว่าวงสองแคมอวบช้าๆ น้องพิมก็สะดุ้งเฮือก ถอนปากจากการจูบส่งเสียงครางกระเส่า

“นะ น้าเอ…มัน..มัน พิมเป็นอะไรไม่รู้ อย่าไปถูตรงนั้น…อ๊าวส์…มันจี๊ดๆๆ ”

ปลายนิ้วผมวางอยู่เหนือปุ่มเล็กๆ เหนือร่องหลืบเด็กหญิง สัมผัสความแข็งตัวจนรู้สึกได้ เพียงผมไล้ปลายนิ้วคลึงวนเป็นวงอย่างช้าๆ น้องพิมก็อุทานลั่น

“ อูวส์….น้าเอ…มันจี๊ดๆ แล้ว พอก่อน อย่าคลึงตรงนั้น….”

ปากน้อยๆ ของเด็กหญิงอ้ากว้าง ก่อนกัดหัวไหล่ผมอย่างแรง เมื่อผมยังไม่ยอมหยุดการเคล้นคลึง สะโพกน้อยๆ สั่นเป็นวงอย่างบ้าคลั่งจนผมต้องพลิกร่างน้องพิมให้อยู่ในท่านอนหงายเพื่อ ใช้นำหนักตัวผมกดทับท่อนล่างของเด็กหญิงเอาไว้ ท่านี้ทำให้ผมต้องเปลี่ยนมือจากการสัมผัสด้านหลังกลับมากุมเนินนูนอวบทาง ด้านหน้า ความอูมอิ่มและขนาดที่เต็มอุ้งมือของเนินนูนทำเอาผมต้องสูดลมหายใจลึกเพื่อ ระงับความต้องการที่จะนำแท่งเนื้อประจำตัวเข้าไปสัมผัสคุณภาพความเป็นหญิง ของน้องริน ผมต้องการให้น้องพิมไปถึงจุดสุดยอดครั้งแรกโดยปราศจากความเจ็บปวดเพื่อ เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการร่วมรักอย่างเต็มรูปแบบต่อไป

ขณะที่นิ้วผมยังคงคลึงเคล้นติ่งเสียวจนร่างงามบิดส่าย ผมค่อยๆ ลดร่างลงไปฝังใบหน้ากับหน้าอกอวบเพื่อสัมผัสความนุ่มหยุ่นของหน้าอกอวบของ น้องพิม ริมฝีปากผมฉกวูบเม้มเม็ดหัวนมน้อยๆ ข้างหนึ่งเอาไว้ในปาก แล้วใช้ลิ้นกดอัดปลายยอดของมันไปมา พร้อมกับมืออีกข้างที่ว่างจากการโมจตีเนินนูนหน้าขา ก็บี้คลึงหัวนมอีกเม็ดพร้อมกัน…

“ น้าเอ….พะ พอ ก่อน…พิม…ซี๊ดส์…..โอ๊ย ตายแล้ว…พิม…อ๊าวส์… ”

สะโพกอวบอิ่มของน้องพิมกระตุกเป็นจังหวะกระดอนขึ้นลงถี่ยิบ เป้นสัญญานวาสเด็กหญิงไปถึงจุดหมายวัยสาวเป็นครั้งแรกแล้ว ผมรีบผละจากหน้าอกด้านบนเคลื่อนตัวลงไปยังสะโพกที่ยังคงสั่นระริก แล้วฉกริมฝีปากไปลิ้มรสหอมหวานของน้ำรักแรกน้องพิม ที่กำลังทะลักทะลายออกมาจากร่องหลืบ ลิ้นผมสัมผัสความหอมระรื่นที่แทบปราศจากกลิ่นคาว มันหอมหวานราวกับน้ำทิพย์ ผมดูดซับทุกหยาดหยอดพร้อมใช้ลิ้นเลียไล้ไปตามของสองแคมนูนเด่นที่ไม่มีเส้น ขนใดๆ มารบกวนสายตา ความนุ่เต่งตึงของสองแคมที่ปกป้องช่องทางรักยิ่งทำให้ผมแน่ใจว่ามันจะบีบรัด แก่นกายของผมอย่างเต็มที่ยามสอดใส่ ลิ้นผมสอดแทรกลึกลงไประหว่างสองแคมกวาดเลียน้ำทิพย์ที่ยังหลงเหลือย่างชื่น ใจ ….

ร่างที่เริ่มผ่อนคลายจากความเสียวของน้องพิม กลับสั่นระริกอีกครั้ง เมื่อผมโลมเลียเนินเนื้องดงามไปมา สองแขนน้องพิมกุมศีรษะผมแน่นราวกับจะดึงมันขึ้น แต่แล้วก็กลับกดอัดให้ใบหน้าผมแนบเนินนูนต่อไป ทำให้ปลายจมูกผมกลับกดคลึงตรงตำแหน่งเม็ดเสียวหนักขึ้นตามตัว น้องพิมบิดส่ายร่างไปมาจนสะโพกแทบหลุดจากการเกาะกุม

“น้าเอ พอก่อน…ขอพิมพักบ้าง เมื่อกี้พิมแทบขาด จะ…ใจ…อ๊ะ …โอ๊วส์ อย่า…อย่า..”

น้องพิมร้องเสียงหลง เมื่อผมถอนปากจากการโลมไล้เนินนูนแล้วค่อยๆ สอดนิ้วกลางลงระหว่างสองแคมที่บีบกระชับ มัเคลื่อนเข้าไปช้าๆ สัมผัสกระชับแน่นของพื้นผิวภายในที่พยายามต้านทานการรุกรานอย่างเต็มที่ แต่มันก็ยังคงจมลงไปได้จากความลื่นของน้ำรักที่เนืองนองอยู่ภายในร่องหลืบ ผมเคลื่อนร่างกลับขึ้นทาบทับร่างเปลือยนวลเนียนเอาไว้ กระซิบที่ที่ข้างใบหูน้องพิมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการุกรานเบื้องล่าง

“ น้องพิมรู้สึกอย่างไร…มีความสุขไหม…”

น้องพิมพยักหน้ารับอย่างอายๆ

“ ทีแรกพิมเสียวจนนึกว่าจะฉี่ออกมาแล้ว แต่มันกลับเสียวจนถึงที่สุดยังกับพิมลอยขึ้นไปบนฟ้าแล้วตกลงมาทันที นี่ใช่ไหมน้าเอที่เขาเรียกว่าเย็ด…..”

ผมหัวเราะเบาๆ .. ค่อยๆ สอดนิ้วลงไปลึกอีกเล็กน้อย..

“ยังหรอก เมื่อกี้น้องพิมเสียวถึงจุดสุดยอดน่ะ … น้าต้องเอาควยนี่ใส่เข้าไปในหีน้องพิมก่อนถึงจะเรียกว่าเย็ด มันจะเจ็บนิดหน่อยแต่เสียวกว่านี้อีกหลายเท่า ………”

ผมดึงมือน้องพิมให้เลื่อนไปกุมแก่นกายแข็งปั๋งเอาไว้ น้องพิมลืมตาโพลงเมื่อสัมผัสขนาดของมัน

“ มันใหญ่จังเลยน้าเอ…”

เด็กหญิงอุทานออกมา แต่ยังคงกุมแท่งเนื้อเอาไว้แน่น ผมสอดนิ้วลงไปในร่องหลืบทีละน้อยระหว่างที่น้องพิมผงกหัวขึ้นจับจ้องแท่ง เนื้อในมือ

“ ไม่ใหญ่เกินที่น้องพิมจะรับไว้หรอกรับรอง”

ผมกระซิบเบาๆ นิ้วยังคงจมลงไปผ่านจุดที่ควรเป็นเยื่อพรหมจรรย์โดยไม่สิ่งใดกีดขวาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคาดไว้แล้วตั้งแต่เห็นน้องพิมใช้จักรยานเป็นพาหนะไปกลับ ตลอดเวลา เยื่อสาวที่บอบบางย่อมไม่สามารถต้านทานแรงกระแทกนั้นได้ แต่ก็เป็นการดีสำหรับการร่วมรักครั้งแรกเพราะจะเป็นการลดความเจ็บปวดที่เกิด ขึ้นจากการแทรกแท่งเนื้อเข้าสู่ร่างกาย

“ อูย..น้าเอ..เบาๆ หน่อยนะ พิมเจ็บ….”

น้องพิมร้องออกมาเบาๆ เมื่อรับรู้ว่านิ้วผมกำลังเคลื่อนลงไปเรื่อยๆ

“ หีน้องพิมทั้งอวบทั้งแน่นเลยรู้ไหม..”

ผมกระซิบเบาๆ น้องพิมหน้าแดงยกมือขึ้นทุบหลังผมหนักๆ

“น้าเอนี่พูดหยาบคาย….พิมอายนะ…อู๊ยส์ …น้าเอมันเข้าไปลึกจัง..”

น้องพิมครางออกมาเมื่อนิ้วกลางผมแทรกเข้าไปจนสุดความยาว

“ น้องพิมยังเจ็บไหม.. ”
“มันเจ็บแปลบๆ น่ะน้าเอ..แต่ก็เสียว”

ผมเคลื่อนนิ้วขึ้นมาช้าๆ แล้วกดกลับลงไป โดยเพิ่มระยะทางทีละน้อย สะโพกอวบของน้องพิมเริ่มบิดรับการเคลื่อนไหวของนิ้ว ผมก้มลงจูบน้องพิมแนบแน่น เด็กหญิงหลับตาลงพร้อมกับกอดร่างผมไว้และแลกลิ้นกับผมอย่างลืมตัว ขณะที่นิ้วผมเพิ่มระยะได้ยาวขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการกระเด้านิ้วเข้าสู่ร่องหลืบอย่างเต็มที่ โดยที่สะโพกน้องรินกระด้งรับนิ้วต่อเนื่อง…

“ผมพลิกสะโพกน้องพิมที่ยังคงกระเด้งรับนิ้วให้อยู่ในท่าตะแคง ถอนนิ้วออกจากร่องหลืบ เพื่อยกขาอวบขึ้นสูงมาเกี่ยวที่เอวผม ทำให้แท่งเนื้อผมจ่ออยู่กับปากทางเข้าสู่ความเป็นสาว ผมค่อยๆกดหัวบานของแท่งเนื้อลงระหว่างสองแคมที่ชุ่มน้ำรัก กระเด้าขึ้นลงสั้นๆ ให้ส่วนหัวค่อยๆ แหวกสองกลีบเข้าไปช้าๆ ขณะที่น้องพิมยังคงกระเด้งสะโพกรับ ทำให้ส่วนหัวค่อยเพิ่มระยะทางเข้าไปเรื่อยๆ โดยที่น้องพิมยังคงปล่อยอารมณ์ไปกับการจูบที่ร้อนแรง และการลูบไล้หน้าอกคู่งามจนร่างงามสั่นระริก

น้ำรักน้องพิมไหลออกมาชุ่มโชกจนปากทางเข้าเปียกลื่น ผมตัดสินใจกดแท่งเนื้ออย่างแรงจนส่วนปลายจมวูบลงไปในร่องหลืบ ผมรู้สึกได้ถึงสองแคมที่แยกออกตึงเปรี๊ยะบีบรัดหัวของแท่งเนื้อราวกับจะผลัก ดันมันออกมา น้องพิมสะดุ้งเฮือก

“โอ๊ย…น้าเอ…อะ อะไร พิมเจ็บ…มันฉีกแล้ว….เอาออกไปก่อน….”

ผมหยุดการเคลือ่นไหว แช่แท่งเนื้อไว้ในระดับเดิม ก่อนกระซิบปลอบเด็กหญิง

“ เจ็บมากไหมน้องพิม…ไม่เป็นไรแล้วมันผ่านเข้าไปได้แล้ว เดี๋ยวก็หายเจ็บทนหน่อยนะ เมียของน้า”

น้องพิมเบิกตากลมโตที่มีน้ำตาเอ่อริ้น ขึ้นสบตาผม

“พิมเป็นเมียน้าเอแล้วหรือ…”

ผมหัวเราะเบาๆ เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้เด็กหญิงที่กำลังสูญเสียความสาว

“เป็นแล้วสิ ควยน้าเข้าไปในหีน้องพิมแล้ว น้องพิมเป็นเมียน้าจริงๆ แล้วนะ”

น้องพิมยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

“พิมดีใจ…พิมเป็นเมียน้าเอแล้ว น้าเอต้องรักพิมให้มากๆ นะ”

ผมขยับแท่งเนื้อเล็กน้อยเพื่อผ่อนแรงบีบรัด

“ น้าจะรักน้องพิมตลอดไป ไม่มีใครรังแกน้องพิมได้อีกแล้ว”

น้องพิมโน้มศีรษะขึ้นมาจูบผม

“ พิมก็จะเป็นของน้าเอคนเดียว อูย…น้าเอ..ค่อยๆ ก่อนนะ พิมยังเจ็บอยู่เลย”

เด็กหญิงครางออกมาเมื่อรับรู้ว่าแก่นกายของผมกำลังพยายามหาทางลงไปให้ถึงจุด หมาย ผมรีบประทับจูบเด็กหญิงอีกครั้งเพื่อหันเหความสนใจ จนน้องพิมเริ่มจูบตอบอีกครั้ง มือผมลูบไล้ผ่านแผ่นหลังไปยังสะโพกบีบเคล้นความเต่งตึงไปมา พร้อมกับส่ายหน้าอกเสียดสีกับเต้านมที่อัดแน่นกับหน้าอกผม เสียงครางในลำคอของเด็กหญิงบอกให้รู้ว่ารสสัมผัสนั้นกำลังกระตุ้นอารมณ์รัก ให้พุ่งทะยานขึ้น ผมค่อยๆ ส่ายสะโพกเป็นวงกลมเล็กๆ เพื่อเบิกทางเข้าที่คับแคบ น้ำหล่อลื่นที่เริ่มไหลออกมาอีกครั้งช่วยให้ลำลึงค์เสียดสีเม็ดเสียวเหนือ ร่องรักไปมา ใบหน้าเด็กหญิงแดงก่ำ สะโพกน้อยๆ เริ่มเคลื่อนไหวรับการสอดใส่ ผมค่อยๆ กดแก่นกายท่อนยางผ่านความรัดรึงลงไปทีละน้อย สัมผัสความรู้สึกที่มันฉีกผ่านริ้วกล้ามเนื้อภายในลงไปช้าๆ น้องพิมผงะใบหน้าออกจจากการจูบเมื่อรับรู้ถึงการเคลื่อนตัวดำดิ่งเข้าไปใน ร่างกาย

“อ๊ะ…อะ อ๊า…โอย…น้าเอ….พิมเจ็บ…”
“น้องพิมอดทนอีกนิดนะ….”

ผมปลอบเด็กหญิงอย่างอ่อนโยนแต่ยังไม่หยุดการทะลวงผ่านกลีบเนื้อภายในลงไป น้องพิมัดฟันแน่นแต่ยังคงพยักหน้าเป็นสัญญานให้ผมรุกต่อโดยไม่ยับยั้ง แท่งเนื้อยาวเหยียดกดอัดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะฝังความยาวทั้งหมดไว้ ภายใน

“โอ๊ย…น้าเอ สงสารพิมเถอะ…พอก่อน…”

เสียงเด็กหญิงสั่นสะท้าน น้าตาเอ่อออกมาจนเปียกท่อนแขนผม

“มันเข้าไปหมดแล้วล่ะน้องพิม…หีน้องพิมรับไว้ได้ทั้งหมดเลยนะ เห็นไหม…”

ผมดันร่างเด็กหญิงออกเล็กน้อยในท่าตะแคง เพื่อให้ก้มผ่านไปดูภาพแท่งเนื้อผมที่ฝังอยู่ภายในร่องหลืบ ก่นอดึงออกมาช้าๆ ภาพแท่งเนื้อที่เป็นมันปลาบจากน้ำรักและริ้วรอยเลือดจางๆ ทำให้น้องพิมเบิกตากว้าง

“ เลือดออกด้วย…จิ๋มพิมฉีกแน่ๆ เลย…อ๊าวส์ ”

เด็กหญิงพึมพำออกมาเทื่อเห็นคราบเลือด แต่ก็ต้องกลับแหงนหน้าครางลั่นเมื่อผมดันแท่งเนือ้กลับเข้าสู่ความอบอุ่นคับแน่นภายในอีกครั้ง
“ ครั้งแรกก็ต้องมีเลือดออกเป็นธรรมดา น้องพิมไม่ต้องกลัวนะ…ต่อจากนี้ไปน้องพิมจะมีแต่ความสุขเท่านั้น ….น้องพิมยังเจ็บอยู่ไหม”

ผมปลอบและถามอย่างห่วงใย น้องพิมก้มหน้าอายๆ แต่สองแขนกระหวัดเข้าโอบร่างผมไว้

“ เจ็บอยู่น้าเอ แต่ไม่มากแล้วมันชาๆ มากกว่า น้าเอทำต่อเถอะ…”

ผมเชยคางกลมมนของเด็กหญิงขึ้นสบตาแล้วยิ้มให้

“ งั้นน้าเริ่มละนะ..”

น้องพิมพยักหน้ารับเบาๆ ซุกหน้าเข้ากับอกผม ขณะที่ผมค่อยๆ เพิ่มแรงกระเด้าร่องรักทีละน้อย เสียงลมหายใจเด็กหญิงดังแรงขึ้นเป็นจังหวะ สองแขนกอดร่างผมไว้แน่นขณะที่ร่างอวบอิ่มไหวระริกไปตามแรงกระแทกเบื้องล่าง น้ำหล่อลื่นจำนวนมากเอ่อซึมมาอำนวยความสะดวกจนแท่งเนื้อของผมสามารถวิ่งผลุบ เข้าออกร่องหลืบที่แสนคับแคบเบื้องหน้าได้เต็มที่ ความรัดรึงของมันที่บีบกระชับทุกส่วนของท่อนลำบีบเคล้นจนน้ำรักผมวิ่งพรูกัน มารออยู่ที่ส่วนปลายพร้อมที่จะระเบิดออกทุกขณะ.. ผมสุดลมหายใจลึกก่อนพลิกร่างอวบอิ่มมาอยู่ในท่านอนหงาย สองขาอวบแยกออกกว้าง สองมือเด็กหญิงเกร็งจิกผ้าปูที่นอนแน่น ใบหน้าน่ารักบิดส่ายไปมาบนหมอน ส่งเสียงครางกระเส่า

“น้าเอ…น้าเอ…พิม..พิม…มะ ไม่ไหวแล้ว ”

ร่างน้อยกระตุกถี่ยิบพร้อมกับการขมิบภายในร่องรักที่กระหน่ำท่อนเนื้อผมทุก ด้าน ผมยันร่างขึ้นแอ่นท่อนลำไปข้างหน้า ก่อนกระเด้าหนักครั้งสุดท้าย น้ำรักทั้งหมดพรั่งพรูเข้าไปยังมดลูกเด็กหญิง จนสะโพกน้องพิมกระดอนขึ้นลงเป็นจังหวะ ทันใดนั้นสิ่งที่เกิดหลังการร่วมรักของผมกับทิพย์วารีที่ผ่านมาก้กลับเกิด อีกครั้งระหว่างที่น้ำรักผมกำลังฉีดใส่มอลูกน้องพิมเป็นระลอก

ปราณของผมถ่ายเทไปกับน้ำรักพร้อมสัมผัสรอบด้านที่เลือนหายไป ผมรู้สึกถึงการแทรกจิตวิญญาณเข้าไปสู่ร่างน้องพิมและซึมซับความทรงจำทั้งหมด ของเด็กหญิงเอาไว้ ภาพจำนวนมากผ่านจิตใจผมราวกับภาพยนต์ที่เร่งความเร็วสูง แต่ผมก็ยังคงรับรู้ประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดของน้องพิมได้ราวกับเกิดขึ้นกับ ตัวผมเอง

ปราณวนเวียนในร่างน้องพิมครู่ใหญ่ แล้วเริ่มรวมศูนย์กลับมายังอวัยวะเพศเด็กหญิงก่อนถ่ายเทกลับมาสู่ร่างผม พร้อมกับประสาทสัมผัสที่กลับคืนมาอีกครั้ง ร่างผมทาบทับน้องพิมแน่นสนิท เด็กหญิงหลับตาพริ้ม ใบหน้าแสดงอารมณ์ที่แตกต่างกันไปมา บางครั้งก็ดูราวกับจะยิ้ม แต่ก็กลับเป็นเศร้าเสียใจในเวลาต่อมา ครู่ใหญ่ใบหน้านั้นก็หยุดการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับดวงตากลมโตที่เปิดขึ้นสบตากับผม

“น้าเอ…พิมเห็นทุกอย่าง…นี่เกิดอะไรขึ้น เวลาคนเราเย้ดกันจะต้องเป็นแบบนี้หรือน้าเอ..”

ผมยิ้มให้เด็กหญิงแล้วส่ายหน้าช้าๆ..

“ อย่าถามน้าเลย เพราะน้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ก่อนหน้านี้น้าก็เย็ดกับทิพย์แล้วเกิดแบบเดียวกัน..แต่น้ากลับดีใจนะเพราะ น้าได้รู้ว่าน้องพิมรักน้าจริงๆ ไม่ใช่เพียงแต่ต้องการตอบแทนบุญคุณน้าเท่านั้น”

น้องพิมยกมือขึ้นลูลบล้ใบหน้าผมอย่างนุ่มนวล

“พิมก็ดีใจ ที่ได้รับรู้ว่าน้าเอก็รักและต้องการพิม ไม่ใช่แต่สงสารพิมเท่านั้น แต่พิมก็สงสารน้าเอเรื่องน้าริน และน้ากิฟท์ พิมไม่เคยรู้เลยว่าน้าเอผ่านชีวิตที่ทรมานถึงขนาดนั้น…เอ๊ะ..”

ดวงตากลมโตที่สบตาผมเบิกกว้างขึ้น จับจ้องใบหน้าผมด้วยความงุนงง

“มีอะไรหรือน้องพิม ”
“ พิมตาฝาดไปหรือเปล่า แต่ทำไมรู้สึกว่า น้าเอหน้าตาเปลี่ยนไป”

คราวนี้กลับเป็นผมที่เป็นงุนงงบ้าง

“ เปลี่ยนไปยังไหรือน้องพิม ”
“ พิมอธิบายไม่ถูก แต่ดูเหมือนว่าหน้าพี่เอจะไม่มีริ้วรอยที่พิมเคยเห็น รอยแผลเป็นที่แก้มก็ไม่มี หรือพิมจำผิดไป”

ผมยกมือขึ้นลูบแก้มซ้ายซึ่งเคยมีรอยแผลเป็นยาวจากคมมีดในการต่อสู้กับแก๊งค์ เก้ายอดที่สวนลุมพินี แน่กลับสัมผัสถูกความเรียบลื่นของผิวหน้า ที่ผมเองยังแปลกใจเพราะมันเป็นผิวที่ยืดหยุ่นนุ่มนวลราวกับใบหน้าเด็กหนุ่ม มากกว่าที่จะเป็นผิวของผุ้ที่ผ่านประสบการณ์ต่อสู้ในวงการนอกกฎหมายมาอย่าง โชกโชนเช่นผม

“น้าเอดูเป็นหนุ่มขึ้นมากเลย ผิวก็ขาวขึ้น”

น้องพิมจับจ้องและลูบไล้ใบหน้าผมอย่างแปลกใจ ทำให้ผมตัดสินใจช้อนร่างน้องพิมขึ้นมาในวงแขนและอุ่มไว้ด้านหน้าทั้งที่แก่น กายผมยังคงฝังแน่นอยู่ในร่างกายเด็กหญิง

“ อุ๊ย…น้าเอ…ทำอะไรน่ะ…”

ผมไม่ตอบแต่เดินตรงไปที่กระจกบานใหญ่ ภาพในกระจกสะท้อนร่างเปลือยเปล่าขาวโพลงของน้องพิม ที่อยู่ในวงแขนด้นหน้าผม แต่เมื่อผมพิจารณาใบหน้าจของตนเองกลับต้องอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ เพราะแม้มันจะเป็นใบหน้าของผมอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่มันกลับไร้ริ้วรอยของกาลเวลาปรากฏ มันกลับเป็นใบหน้าของชายหนุ่มเต็มวัยอายุประมาณ 20 ปีเศษ แทนที่จะเป็นชายอายุ 35 อย่างที่ควรเป็น

“นี่เกิดอะไรขึ้น…”

ผมนิ่งงั้นชั่วขณะแล้วพึมพำออกมาด้วยความงุนงง

“ น้าเอ…ขอพิมลงก่อนเถอะ.. ”

เสียงเด็กหญิงในอ้อมแขนปลุกผมให้รู้ตัว ผมรีบเดินกลับมายังเตียงเพื่อปล่อยให้ร่างน้องพิมนอนลงบนเตียงก่อนถอนแท่ง เนื้อออกจากร่องรักเด็กหญิงช้าๆ

“ อูย…แสบไปหมดเลยน้าเอ..”

น้องพิมบ่นเบาๆ เมื่อแท่งเนื้อหลุดพ้นร่องหลืบน้อย น้ำรักของผมไหลย้อนกลับเอ่อตามามาเป็นสายผสมคราบเลือดเป็นริ้วสีชมพูจางๆ ผมก้มลงจูบหน้าผากกลมกว้างของน้องพิมเบาๆ

“น้องพิมมีความสุขไหม…”

น้องพิมพยักหน้ารับอย่างอายๆ

“ พิมมีความสุขที่สุด…น้าเอล่ะ”

ผมหัวเราะเบาๆ ก้มลงช้อนร่างเปลือยน้องพิมขึ้นมาในวงแขน ก่อนอุ้มขึ้นพาเดินตรงไปยังประตู

“ อุ๊ย..น้าเอ..จะไปไหน พิมแก้ผ้าอยู่นะ..เดี่ญวพี่ทิพย์เห็น”
“ น้าจะพาน้องพิมไปนอนพักผ่อนไง นอนที่นี่ไม่ได้หรอกผ้าปูที่นอนเปียกไปหมดแล้ว”

น้องพิมก้มหน้าลงอย่างอายๆ แต่ไม่ขัดขืนเมื่อผมพาเดินออกจากห้อง แต่ก็กลับอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าผมตรงไปยังประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามซึ่งเปิด อ้าอยู่

“น้าเอ..นั่นห้องพี่ทิพย์ ไม่ใช่ห้องพิม”

ผมยิ้มให้เด็กหญิง แต่ ยังคงตรงเข้าไปในห้องทิพย์วารี

“ไม่เอานะน้าเอ..ว๊ายพี่ทิพย์…อย่ามองนะ”

ร่างเปลือยขาวโพลนของทิพย์วารีที่นั่งอยู่หน้ากระจกแต่งตัวหันกลับมาเมื่อ รับรู้ว่ามีผู้เข้ามาในห้อง เด็กสาวอุทานอย่างยินดีเมื่อเห็นผมอุ้มน้องพิมที่เปลือยเปล่าเข้ามาในห้อง

“น้องพิมเสร็จพี่เอไปแล้วหรือ… เป็นไงบ้าง โอ้โฮ…หีบวมเหมือนพี่เลย นี่พี่เอคงเย็ดไม่ยั้งแน่ๆ ใช่ไหม”

สองแขนน้องพิมกอดผมแน่น พยายามเบียดร่างเข้ากับผมเพื่อซ่อนสายตาทิพย์วารี

“ไม่เอาแล้ว พี่พิมพ์…ทิพย์อายนะ”

ทิพย์วารีหัวเราะเสียงสดใส หันกลับมาสบตาผม แต่ดวงตาเด็กสาวกลับเบิกกว้างเช่นเดียวกันกับผมที่เห็นความเปลี่ยนแปลงมที่ เกิดขึ้นกับทิพย์วารี

ใบหน้ารูปไข่ของเด็กสาวปราฏการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับผม ริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากประสบการณ์ที่ทารุณในอดีต ดูจะสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง ความเปล่งปลั่งของวัยสาวปร่ากฎขึ้นแทนที่อย่างชัดเจน ดวงตาที่จับจ้องผมอยู่เป็นประกายสุกใส ริมฝีปากอิ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ ผมเลื่อนสายตาจับจ้องร่างกายเปลือยเปล่าของทิพย์วารี ผิวกายเด็กสาวดูขาวขึ้นจนแทบเปล่งประกาย หน้าอกตูมตั้งของเด็กสาวดูเต่งตึงขึ้นจนรู้สึกได้ด้วยสายตา เนินนูนหน้าขาก็เช่นกัน มันดูราวกับจะเพิ่มความอวบอิ่มและสดใสราวกับไม่เคยผ่านการร่วมรัก ขณะเดียวกับทิพย์วารีก็จับจ้องใบหน้าผมด้วยสายตาแปลกใจ

“พี่เอ..พี่เอดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ..เหมือนกับจะหนุ่มขึ้นมากในทันที”

เสียงเด็กสาวเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

“ ทิพย์ก็เหมือนกัน…รู้สึกตัวไหม”

ผมถามทิพย์วารี เพื่อคลายข้อสงสัย เด็กสาวพยักหน้า

“เมื่อครู่นี้ ทิพย์ก็นั่งดูตัวเองในกระจก.. ทีแรกทิพย์ก็ไม่แน่ใจ แต่เมื่อพี่เอบอกอย่างนี้ทิพย์ก็รู้ว่าสายตาและความรู้สึกทิพย์ไม่ได้ผิด ปกติ ทิพย์อธิบายไม่ถูก แต่มันเหมือนกับว่าเคยมีภูเขาลุกหนึ่งกดทับอยู่แต่ตอตนรี้ทั้งหมดมันหายไป ทุกสิ่งดูแจ่มใสและงดงามไปหมด.. นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

ผมวางร่างน้องพิมนั่งบนเตียง แล้วดึงร่างทิพย์วารีลงมานั่งขนาบข้างผม เพื่อโอบแขนรอบสตรีทั้งสองผู้เป็นเมียผมอย่างสมบูรณ์เอาไว้

“พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าจะให้เดาพี่เชื่อว่าน่าจะเป็นผลของการถ่ายเทปราณของพี่กับทิพยืและน้อง พิม แต่อย่างไรและทำไมพี่ตอบไม่ได้ แจ่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่เกิดผลเสียหายกับร่างกายของพวกเรา มีแต่จะดีขึ้น ดังนั้ยอย่างไปคิดถึงหรือกังวลกับมันเลยนะ”

“ ปราณคชสีห์ ปราณจักรวาล”

เสียงทิพย์วารีและน้องพิมพึมพำขึ้นพร้อมกัน แต่ผมไม่แปลกใจที่ทั้งสองรู้จักชื่อของปราณที่ไหลวนเวียนในร่างกาย เพราะทราบดีประสบการณ์และความทรงจำทั้งหมดของผมถูกถ่ายเทไว้ในจิตใจของทั้ง สอง เช่นเดียวกับที่ผมรับเอาไว้ ทำให้บัดนี้ผมและเมียรักทั้งสองเท่ากับเป็นคนๆ เดียวกันโดยปราศจากความลับทุกเรื่อง

“น้าเอรับรู้ชีวิตของพี่ทิพย์ แต่ทำไมพิมไม่ได้รับรู้ล่ะ ทั้งที่พี่เอถ่ายทอดความทรงจำมาให้พิมหลังจากที่เอได้รับจากพี่ทิพยืแล้ว”

น้องพิมถามผมเบาๆ ด้วยประเด็นที่ผมนึกไม่ถึง

“น้องพิมหมายความว่าน้องพิมรับรู้แต่ประสบการณ์ของพี่แต่ไม่ได้รับรู้เรื่องใดที่เกี่ยวกับทิพย์เลยหรือ”

น้องพิมพยักหน้ารับ ผมเองก็ต้องยอมรับว่าไม่เข้าใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น บางทีการถ่ายทอดชีวิตอาจเกิดขึ้นเฉพาะบุคคลที่ถ่ายทอดปราณแต่ไม่สามารถส่ง ผ่านความทรงจำของบุคคลที่สาม หรืออาจมีเหตุผลอื่นที่ผมยังไม่สามารถหาคำตอบได้ในขณะนี้ ผมถอนใจยาวแล้วบอกกับเด็กสาวทั้งสอง

“ตอนนี้ช่างมันเถอะนะ…พี่อยากพักแล้วล่ะ ขอให้พี่ได้นอนอยู่กับทิพย์และน้องพิมแบบนี้ก่อน เรื่องอื่นๆ เอาไว้ว่ากันทีหลัง ตกลงไหม”
ผมเอนกายลองนอนบนเตียงโดยมีน้องพิมและทิพย์วารีขนาบซ้ายขวา แก่นกายที่ผ่านการหลั่งน้ำรักไปสามครั้งในเวลา เพียง 2 ชั่วโมงเริ่มอ่อนตัวลง แม้จะมีร่างเปลือยงดงามที่สามารถกระตุ้นอารมณ์รักให้ลุกโพลงสองร่างขนาบ ข้างอยู่ก็ตาม

“`พี่เอ….”

เสียงเบาๆ ของทิพย์วารีเรียกผม ขณะที่ร่างเด็กสาวพลิกตัวมานอนตะแคงกอดผมไว้ สองมือลูบไล้หน้าอกผมไปมา

“ทำไมหรือทิพย์…จะให้พี่เย็ดอีกรอบหรือเปล่า”

ทิพย์วารีทุบอกผมเบาๆ

“บ้า พี่เอนี่ หีทิพย์ยังไม่หายระบมเลย พี่เอไปเย็ดน้องพิมดีกว่า….”
“ไม่เอานะ…พิมยังไม่หายเจ็บเลย..”

เสียงใสๆ ของน้องพิมดังลั่นขึ้นเป็นเชิงประท้วง ขณะที่เจ้าของเสียงก็พลิกร่างกมากอดผมไว้เช่นกัน

“ทิพย์อยากปรึกษาพี่เอ…พี่เอพอจะรับฟังได้ไหม”

น้ำเสียงของทิพย์วารีดูจริงจัง กระตุ้นให้ผมต้องหันหน้าไปสบตาเด็กสาว

“เอาสิ…มีอะไรหรือ ”

ทิพย์วารีถอนใจยาว ขณะที่ผมรับรู้ว่าน้องพิมอีกด้านหนึ่งก็ยกศีรษะขึ้นมาแนบกับอกผมเพื่อรับฟังทิพย์วารีเช่นกัน

“ทิพย์ได้รับรู้ว่าพี่เอเป็นใครแล้ว พี่เอไม่ควรจะจมปลักอยู่ในที่แบบนี้เลย ทุกสิ่งในอดีตมันก็ผ่านไปแล้ว พี่เอบอกทิพย์เองว่าไม่ควรไปติดยึดอยู่กับมันอีก ทิพย์เองก็เชื่อพี่เอและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นแล้ว แต่พี่เอล่ะ พี่เอคิดจะเปลี่ยนอนาคตของตนเองบ้างไหม ถ้าพี่เอพร้อมทิพย์ก็พร้อมที่จะเป็นกำลังใจไปกับพี่เอในทุกแห่ง ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ”

เสียงใสๆ ของน้องพิมดังขึ้นเสริม

“น้าเอ..พิมเห็นด้วยกับพี่พิมพ์นะ…ถึงพี่เอจะไม่กลับไปบ้านเกิดที่ เชียงใหม่ แต่เมืองไทยยังมีที่ให้พี่เอไปตั้งรกรากและเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้มาก มาย พิมกับพี่ทิพย์จะเคียงข้างพี่เอตลอดไปไม่ว่าจะเป็นที่ไหน”

ผมยันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง น้องพิมกับทิพย์วารี พลอยลุกขึ้นมาด้วยกันและกุมมือผมไว้คนละข้าง ผมมองร่างเปลือยเปล่าที่แสนงดงามของเมียรักทั้งสองอย่างตื้นตันหัวใจ คำพูดที่แสดงออกถึงความห่วงใยของทั้งคู่บอกให้รู้ว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวใน โลกอีกต่อไปแล้ว อย่างน้อยผมจะมีทิพย์วารีและน้องพิมเคียงคู่ตลอดไป ผมหวนคิดไปถึงน้องริน น้องกิฟท์ แก้วคำ และบุคคลในอดีตมี่ผ่านมาในชีวิต ทุกสิ่งผ่านพ้นไปแล้วไม่มีทางใดที่ผมจะสามารถย้อนคืนกลับมาได้อีก แต่เมียรักทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้าผมต่างหากที่ผมควรจะสร้างชีวิตให้ดีขึ้น กว่าการตกปลักอยู่ในสังคมนอกกฏหมายแห่งนี้ ผมกุมมือนุ่มนวลทั้งสองไว้แน่น ก่อนพยักหน้าเป็นสัญญานตกลงใจ

“คืนนี้หลังจากทุกคนหลับแล้ว ทิพย์กับน้องพิมเก็บของส่วนตัวให้หมด พี่จะพาพวกเราไปจากที่นี่”
“ พี่เอ”
“น้าเอ”

เสียงทั้งสองประสานกันพร้อมกับร่างเปลือยอบอุ่นโถมเข้ามากอดรัดผมแน่น

“พิมจะไปกับน้าเอ..ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน”
“ทิพย์ก็เหมือนกัน ทิพย์จะอยู่กับพี่เอตลอดไป”

ผมโอบรัดร่างทั้งสองไว้แน่นราวกับจะรวมเป็นร่างเดียว
“เอาล่ะพักผ่อนก่อนเถอะ..คืนนี้ต้องเดินทางอีกนานนะ…”

ผมเอนกายลงบนที่นอนโดยมีร่างทิพย์วารีและน้องทิพย์ซุกเข้ามาเคียงข้าง ครู่เดียวเสียงหายใจสม่ำเสมอของทั้งสองก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ผมโอบร่างทั้งสองไว้ หลับตาลงเพื่อพักผ่นร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินทางไปสู่อนาคตที่รออยู่ ข้างหน้า

Related

Prev
Next

Comments for chapter "The Paradox บทที่ 1.4 การเปลี่ยนแปลง"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

© 2025 Madara Inc. All rights reserved