The Games - ตอนที่ 1
บ้านเดี่ยวชั้นเดียว แต่ทว่าโอ่โถง รอบบ้านมีสนามหญ้า ปลูกต้นไม้รายล้อม มันคือน้ำพักน้ำแรงของวิทิต เค้าอายุ 47 ปี มีอาชีพรับราชการอยู่ทางภาคเหนือ ด้วยความอดออมพร้อมด้วยคู่ชีวิตที่ขยันการงานอย่างงามตา ครอบครัวจึงได้มีบ้านที่สวยงาม งามตาอายุ 41 ปี เคยทำอาชีพขายอาหารแต่ปัจจุบันฐานะทางการเงินดีขึ้นมาก วิทิตจึงให้งามตาดูแลงานบ้าน ทั้ง 2 มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นชายชื่อว่าคมกริช อายุ 23 ปี เรียนจบจากกรุงเทพ เมื่อจบแล้วก็กลับมาหางานทำใกล้บ้าน คนที่ 2 เป็นหญิงชื่อเปอร์โย อายุ 22 ปี เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ปัจจุบันเธอเรียนอยู่ปีสุดท้าย
“แม่ครับ วันเย็นนี้ไอ้แบงค์มันจะมาบ้านเรานะครับ” เช้าของวันเสาร์คมกริชวิ่งเข้าครัวตะโกนบอกแม่
“อ้าว… แบงค์ขึ้นเหนือมาเหรอลูก” งามตาหันกลับไปถามลูกชายทั้ง ๆ ที่ 2 มือยังล้างภาชนะอยู่
“ครับ มันมาเยี่ยมบ้านน่ะครับ”
“งั้นคมก็โทรบอกให้แบงค์พาพ่อกับแม่เค้ามาทานข้าวด้วยกันเลยสิ”
“คงไม่ต้องหรอกครับแม่ เพราะไอ้แบงค์มันบอกว่ามันจะมากับเพื่อนอีกคน” สิ้นคำคมกริชก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องทันที
“เฮ่อ… ลูกคนนี้ไม่รู้จักโตจริง ๆ” งามตาส่ายหน้าพูดเบา ๆ
“แม่คะ เปอร์ไปเรียนแล้วนะคะ” เปอร์โย เดินผ่านห้องครัวส่งเสียงบอกแม่
“จ้าลูก… อย่ากลับเย็นนะ” งามตาเหลียวรับคำ พลางคิดไปว่าชุดนักศึกษาแนบเนื้อตัวเล็ก กับกระโปรงสั้นรัดจนเห็นเป็นขอบชั้นในคงเป็นที่นิยมของสมัยนี้
“ค่ะแม่” สิ้นเสียงตอบพร้อมกับเสียงประตูที่ปิดลง
<-------->
เวลาเดินผ่านไปเฉกเช่นทุกวัน แต่วันนี้ดูเหมือนมันจะผ่านไปเร็วมากในสายตาของงามตา เพราะเธอต้องตระเตรียมอาหารไว้ต้อนรับแขกที่กำลังจะมาในไม่ช้า เธอแหงนมองนาฬิกา 5 โมงเย็นแล้ว พลันก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในบ้าน แต่เสียงนั้นมันคุ้นหูทำให้ไม่ต้องรีบเร่งอะไรมากนัก
“อ้าวตา วันนี้ทำอะไรเยอะแยะ”
“อ๋อ แบงค์เพื่อนลูกจะมาบ้านเราน่ะ”
“เหรอ เอ… จู่ ๆ ทำไมถึงจะมานะ อึ่ม… มีอะไรให้ผมช่วยบ้าง”
“ถ้าคุณคิดจะช่วย ตาว่าคุณช่วยไปอาบน้ำดีกว่า ทำงานมาเหนื่อย ๆ”
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวผมมา” วิทิตพูดพร้อมขโมยหอมแก้มภรรยาฟอดใหญ่
“บ้า… คุณเนี่ย ไม่โตเหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูกเลยจริง ๆ” งามตาออกอาการเขินเล็กน้อย ถึงแม้จะแต่งงานกันมาหลายสิบปีแต่การแสดงความรักของทั้ง 2 นั้นไม่ลดลงเลย เค้าเชื่อมั่นว่ามันจะทำให้ครอบครัวมีความสุข
<-------->
“ติ๊งต่อง” งามตาหันตามเสียงกริ่งประตู เธอรีบล้างมือแล้วออกไปเปิดทันที
“สวัสดีครับ”
“อ้าว… แบงค์มาแล้วเหรอ เข้ามาในบ้านก่อนสิ แหม ไม่ได้เจอซะนานโตเป็นหนุ่มเลยนะเรา ว่าแต่เมไม่มาด้วยเหรอ” งามตาถามแบงค์อย่างเป็นกันเอง
“อ๋อ… เมเค้าไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่น่ะครับ เอ่อ… ป้าครับ นี่กล้าครับ เป็นเพื่อนผมกับคมสมัยเรียนที่กรุงเทพน่ะครับ”
“สวัสดีครับคุณป้า” กล้ายกมือไหว้งามตาอย่างสุภาพนอบน้อม
“สวัสดีจ้า ทำตัวตามสบายนะ” ทั้ง 3 คน คุยไปพลางเดินไปพลาง
“เฮ่ย! ไอ้แบงค์ ไอ้กล้า มาแล้วเหรอวะ ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะมึง”
“คม พูดเพราะ ๆ สิจ๊ะลูก”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ป้าตา เราคุยกันอย่างนี้แหละ”
“อ้าวว่าแต่ทำไมไม่เห็นเปอร์โยเลยล่ะครับ”
“ไปเรียนน่ะ อีกซักพักคงกลับ”
“กลับมาแล้วค่ะ” ยังไม่ทันขาดคำเปอร์โยก็เปิดประตูเอ่ยทักทายอย่างที่ทำทุกวัน
“เปอร์มาก็ดีแล้ว ไปช่วยแม่ทำกับข้าวหน่อย”
“ค่ะ…”
<-------->
ระหว่างที่รองามตาทำกับข้าว เพื่อนสนิททั้ง 3 ก็มานั่งคุยสารทุกข์สุกดิบตามประสาวัยรุ่น ที่สำคัญทั้ง 3 คนต่างรู้ความลับของกันและกัน
“คม น้องมึงสวยขึ้นทุกวันเลยนะโว้ย” แบงค์ซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟายาวหน้าโทรทัศน์ข้าง ๆ กับคมกริชพูดเสียงกระชิบ
“เหี้ยและมึง น้องกูนะ”
“กูรู้แล้วน่า”
“ว่าแต่น้องเมของมึงเป็นไงบ้างวะ น่ารักชิบหาย” คมกริชกระชิบตอบ
“อ้าว… ไอ้เหี้ย เดี๋ยวเหอะ”
“เฮ่ย! เรื่องนี้กูยังไม่ได้ดู”
“เรื่องอะไรว่ะกล้า”
“Battle Royale”
“โห่… บ้านแม่งก็โคตรจะรวย เสือกไม่มีเงินซื้อหนังดูเหรอวะ หรือว่ามัวแต่ออกกำลังกายในร่มจนไม่มีเวลา” คมกริชพูดแดกดัน
“เอาดูดิ กูชอบเรื่องนี้ แม่งมันสัตว์อะ” แบงค์รีบพูดเสริม
“งั้นกูเปิดนะ” กล้าหันมาถาม
“เรื่องของมึง” สิ้นคำแผ่นซีดีก็ถูกเปิดทันที เพียงฉายไปได้ไม่นาน ฉากปลอกคอระเบิดก็เผยให้เห็น
“หนังอะไรน่ะลูก” วิทิตซึ่งมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะกินข้าวไม่นาน เมื่อเหลือบไปเห็นฉากน่าสยดสยองนั้นก็เอ่ยถามขึ้น
“Battle Royale น่ะครับพ่อ นักเรียนทุกคนต้องสวมปลอกคอ แล้วต้องฆ่ากัน เหลือคนสุดท้ายถึงชนะไม่ต้องตาย ถ้าไม่เชื่อฟังคุณครูหรือพยายามแหกกฎ แค่ครูกดรีโหมดปลอกคอก็ระเบิดทันที”
“หนังโหดแบบนี้ไม่น่าเอาเข้ามาฉายในเมืองไทยเลยนะ”
“ก็แค่หนังน่ะครับพ่อ ดูเอาสนุก ๆ”
<-------->
และแล้วทุกคนก็นั่งรับประทานอาหารค่ำกันอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางความเป็นกันเอง
“ติ๊งต่อง”
“เอ๋… ใครมาอีกล่ะ”
“เดี๋ยวผมไปเปิดเองครับแม่” คมกริชรีบลุกไปเปิดประตู และก็ต้องชะงักกับเบื้องหน้า ชายชุดทหารสีดำสวมหมวกไหมพรมปิดบังอำพรางหน้ายกปืนขึ้นจ่อเอวเค้าโดยพลัน
“หันหลังกลับ แล้วเดินไป” คมกริชกลืนน้ำลายลงคอ ค่อย ๆ หันหลังกลับช้า ๆ ชายชุดดำปิดประตูแล้วใช้ปากกระบอกปืนดันหลังให้คมกริชเดิน เมื่อมาถึงโต๊ะอาหาร
“ใครน่ะลูก” วิทิตเอ่ยถาม
“กูเอง!!!” ชายชุดดำถีบข้อพับทำเอาคมกริชทรุดตัวลง แล้วจ่อปากกระบอกปืนไปที่ศีรษะของเค้า
“ว้าย!!!!”เสียงสาว ๆ กรีดร้องด้วยความกลัว
“อย่า… มาปล้นเหรอ… ชั้น.. ชั้นมีเงิน จะเอาเท่าไหร่ อย่าทำลูกชายชั้นเลย”
“กูไม่ได้มาปล้น!! กูมาเล่นสนุก”
“อะไรกัน!” คมกริชตะโกนหมายจะหันกลับมาสู้ แต่ก็โดนด้ามปืนทุบเข้าที่ศีรษะ แต่ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก
“อย่าทำลูกชั้นเลย แกอยากได้อะไร” งามตารีบวิ่งมาคุกเข้าตรงหน้าร้องขอชีวิตลูกชาย น้ำเสียงเธอสั่นเครือน้ำตานองหน้า
“แดกนี่เข้าไป” ชายชุดดำควักกล่องเหล็กที่ไว้สำหรับใส่บุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อโยนลงบนโต๊ะอาหาร เมื่อกระแทกพื้นโต๊ะมันก็เปิดออก ภายในมีลูกกลม ๆ คล้ายชอกโกแลต ทุกคนนิ่งเมื่อได้เห็น
“กูบอกให้แดกไง” ชายชุดดำพูดพลางเงื้อปืน
“จ้า.จ้า ชั้นยอมกินแล้วจ้า” งามตาลนลานหยิบก้อนสีดำนั้นเพราะกลัวอันตรายที่จะเกิดกับลูกชาย
“กลืนเลย อย่าเสือกเคี้ยวล่ะ ไม่งั้นกูระเบิดสมองไอ้เหี้ยนี่แน่” งามตากระเดือกเม็ดสีดำนั้นลงคอ ความใหญ่มันประมาณลูกแก้วที่เด็กไว้สำหรับเล่นดีดลูกหิน ซึ่งมันก็พอจะทำให้น้ำหูน้ำตาของเธอไหลจนตาแดงก่ำ
“แม่…” คมกริชร้องเรียกด้วยความสงสาร
“พวกมึงด้วย แดกทุกคน มึงก็ด้วย” ชายชุดดำถีบเข้ากลางหลังของคมกริชจนเค้าถลาไปเกยที่โต๊ะอาหาร ท่ามกลางความเครียดนั้น ทุกคนหยิบเม็ดปริศนาสีดำกลืนมันลงท้องโดยไม่รู้ว่าคืออะไร
“ดีมาก เด็กดี” ชายชุดดำเก็บปืนเปลี่ยนเป็นควักแท่งบางอย่างลักษณะเหมือนรีโหมดออกมาแทน ทุกคนฉงนในการกระทำของเค้า กล้าซึ่งนั่งอยู่ใกล้กับชายชุดดำที่สุดได้โอกาสที่เค้าไม่มีปืนในมือลุกขึ้นหมายจะชาร์ต แต่ทว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“โอ้ย!!!!!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับร่างที่ทรุดลงนอนกองกับพื้นของกล้า
“กูไม่ได้อยากทำเลย ให้ตายสิ กูแค่มาเล่นสนุก ๆ เท่านั้น ขออย่าบังคับกูเลย” ชายชุดดำพูดกับกล้าที่จู่ ๆ ก็นอนชักดิ้นชักงอก่อนจะแน่นิ่ง โดยมีมือกุมบริเวณหน้าอก
“ว้าย!!!” บรรดาผู้หญิงเห็นก็กรีดร้อง ซึ่งเปอร์โยถึงกับน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ขอโทษนะ ที่พวกมึงแดกเข้าไปเมื่อครู่น่ะ เป็นเครื่องช็อตไฟฟ้า”
“หาเครื่องช็อตไฟฟ้า” งามตาพูดตาเบิกโพลง
“เออ พวกมึงฟังไม่ผิดหรอก กูมาที่นี่แค่อยากเล่นอะไรหนุก ๆ ก็แค่นั้น ถ้ากูไม่กดรีโหมด พรุ่งนี้พวกมึงก็ขี้มันออกมาแล้ว แต่ไอ้เหี้ยนี่มันเสือกห้าว” ชายชุดดำพูดพร้อมก้มมองร่างที่กองอยู่บนพื้นเบื้องหน้า
“พวกมึงไม่ต้องห่วงมันยังไม่ตายหรอก เพราะกูช็อตมันแค่แป๊บเดียว มึง… เอามันออกไปทิ้งข้างนอกกูเห็นแล้วไม่สบอารมณ์” ชายชุดดำชี้ปลายกระบอกปืนไปที่แบงค์ เค้าจำใจต้องลุกออกมาประคองร่างที่ไร้สติเพื่อนำออกนอกบ้าน
“ไอ้สัตว์ ถ้ามึงโทรเรียกตำรวจกูจะฆ่าพวกมึงให้หมด ส่วนพวกมึงไปรอที่ห้องรับแขก ไป!!!” ชายชุดดำตะคอกใส่พร้อมยกรีโหมดขึ้น มันทำเอาทุกคนไม่เว้นแม้แต่วิทิตผวารีบลุกขึ้นเดินไปตาม ๆ กัน
<-------->
เมื่อทุกคนออกจากห้องอาหารชายชุดดำก็เดินตามไปติด ๆ
“นั่งพื้นโว้ย!! โซฟานั่นของกู” ทุกคนสะดุ้งรีบทำตามทันที กลับลงไปนั่งแยกไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง
“เฮ่ย! เทพ!! ไอ้เหี้ยนี่จะโทรบอกตำรวจ” ชายชุดดำอีกคนจิกผมแบงค์เดินเข้ามายังห้องรับแขก อีกมือหนึ่งกำโทรศัพท์มือถือไว้
“ไอ้เหี้ยนี่อยากตาย” เทพเดินเข้าหาพร้อมเหวี่ยงกำปั้นใส่ท้องน้อยจนแบงค์ล้มลงนอนตัวงอเป็นกุ้ง แล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชายชุดดำชี้รีโมทไปที่แบงค์
“ยะ… อย่า… โอ้ยยยยยยยย!!!!!” คำขอร้องยังไม่ทันจบลง เทพก็กดรีโมททันที ร่างของแบงค์กระตุก ตาเบิกโพรงด้วยความเจ็บปวด แล้วค่อย ๆ นิ่งลง
“เหี้ยเอ้ย… มึงบังคับกูเองนะ… กะ เอ้ย.. ไอ้ชาติ มึงไปเตรียมงาน กูอยากดูแล้ว” เทพสั่งชาติแล้วกลับมานั่งที่โซฟา ชาติก็รีบวิ่งกลับออกไปนอกบ้าน ไม่นานเค้าก็กลับมาพร้อมกลับกระเป๋าใบใหญ่
“มึงเลือกเอาแล้วกันห้องไหนก็ได้” คำพูดของเทพทำเอาทุกคนงุนงง
“OK” ชาติรีบวิ่งไปพร้อมกระเป๋าใบใหญ่นั้นทันที
<-------->
“เรียบร้อยแล้ว” เพียงไม่นานนัก เสียงชาติดังขึ้นมา ทุกคนก็หันไปมอง เห็นเค้ากำลังผ่อนสายไฟมาตามทางจนกระทั่งถึงโต๊ะที่เทพนั่งอยู่ สายไฟนั้นโยงมาจากห้องนอนของวิทิต เทพล้วงเอาโน้ตบุคออกจากกระเป๋าสีดำที่ชาติหิ้วมา แล้วเสียบสายต่าง ๆ เข้าหากันอย่างชำนาญ ไมค์ถูกตั้งไว้ด้านหน้า ภาพบนจอคือห้องนอน
“ทดสอบ… ทดสอบ…” เสียงพูดนั้นดังไปยังห้องนอนของวิทิต
“ชาติมึงคุมไอ้พวกนี้ไป ถ้ามันยึกยักฆ่าแม่งเลย” เทพสั่งพร้อมยื่นรีโหมดให้
“พวกมึง เข้าไปในห้อง” ทั้งหมดลุกขึ้นทำตามอย่างจำยอม เมื่อทุกคนเข้าห้องแล้วชาติก็ปิดประตูทันที
“Lady and gentleman ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ THE GAME” เสียงประกาศออกลำโพง แต่ล่ะคนมองตามก็เห็นมีกล้องทีวีวงจรปิดติดอยู่ด้วย
“ไม่ต้องมอง ถ้าใครขืนยุ่งกับมันคนนั้นจะได้ออกไปนอนข้างนอกตามไอ้คนที่เพิ่งโดนกูช็อตไป” เทพพูดสวนโดยพลันที่เห็นทุคนมอง
“เกมส์… เกมส์อะไรกัน” คมกริชเอ่ยขึ้น
“พวกมึงเคยดู Battle Royale มั๊ย”
“Battle Royale” คมกริชตกใจเบิกตาโพลงพร้อมอุทานออกมาเบา ๆ
“กติกาง่าย ๆ แต่กูจะไม่ให้มึงฆ่ากันหรอก มันโหดร้ายเกินไป ยิ่งพูดกูก็ยิ่งสงสารไอ้ 2 คนที่ปางตาย มันไม่มีโอกาสได้เสวยสุขแบบพวกมึง เอาล่ะ กติกาคือ มีเพียงวิธีเดียวที่จะได้อยู่เห็นตะวันของวันพรุ่งนี้ นั่นคือ ทำตามหัวข้อที่กูบอก ใครทำไม่ได้ ตาย!!!”
“อะไรกัน!!” เปอร์โยอุทานหน้าซีดเผือด ปล่อยชั้นออกไป เธอวิ่งเข้าหาประตูหมายจะเปิดมันออก
“อย่าเชียวถ้ายังไม่อยากตาย” เสียงปรามเนิบ ๆ แต่กลับทำเอาเธอชะงัก 2 ขาหมดเรี่ยวแรงนั่งพับเพียบลงกับพื้นห้องอย่างหมดหนทาง
“กูมีเวลาให้ 1 ชั่วโมง โดยมีภารกิจให้ทำตามทีละข้อ ถ้าเล่นเกมส์ผ่านตามที่กูบอกไว้ 5 ข้อกูจะปล่อย ถ้าไม่ทำตามเกมส์ของกู…”
“เกมส์เหี้ยอะไรของมึง!!! ไอ้เหี้ยบอกมาเลย มึงบอกมา!!!!” คมกริชเห็นน้องสาวนั่งร้องไห้ก็เกิดเดือดดาน ตะโกนท้าทายทั้งที่เทพยังพูดไม่ทันจบ
“งั้นกูจะเริ่มจับเวลาล่ะนะ ตอนนี้ 2 ทุ่มพอดี”
“ภารกิจข้อที่ 1 ผู้ชายอายุมาก ถอดเสื้อผ้าให้ผู้หญิงอายุน้อยออกให้หมด อ่อ… ไม่สิ พวกมึงคงเป็นครอบครัวเดียวกัน เอาเป็นว่า พ่อถอดเสื้อผ้าลูกสาวออกให้หมด”
“ไอ้เหี้ย!!! มึงจะบ้าเหรอ สัตว์ นี่ครอบครัวกูนะ!!!” คมกริชตะโกนด่า
“มึงไม่อยากทำก็ตามใจ เวลามันก็เดินไปเรื่อย ๆ ครบชั่วโมงเมื่อไหร่ แล้วเกมส์ยังไม่จบ กูจะเผาบ้านนี้ทิ้ง!”
“ว่าไงนะ” วิทิตลุกขึ้นอุทานทันที บ้านหลังนี้เป็นน้ำพักน้ำแรงที่เค้าสร้างมา จู่ ๆ กลับจะมาถูกเผาง่าย ๆ เค้าวิ่งไปยังประตูบิดลูกบิดโดยพลัน มันหมุนได้แต่กลับติดบานพับซึ่งคล้องกุญแจอยู่ด้านนอก
“ไม่มีประโยชน์ พวกกูล๊อคมันจากด้านนอก” วิทิตไถลตัวลงกองอยู่กับพื้นอย่างสิ้นหวัง เค้าเหลียวมองไปยังลูกสาวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ช้า ๆ
“ไม่นะคะพ่อ” เปอร์โยเงยหน้ามองเอามือขวาขึ้นกอดหน้าอกไว้
“เปอร์ลูกพ่อ พ่อไม่อยากเสียบ้านหลังนี้ไป” เปอร์โยได้ฟังก็รีบถอยหลังจนไปติดมุมห้อง
“พ่อ… พ่อจะหลับตาเปอร์ พ่อจะไม่มอง”
“แม่คะ แม่” เปอร์โยร้องเรียกแม่ งามตาซึ่งนั่งฟังทุกคำพูดของวิทิตแต่ก็ไม่มีทีท่าแย้งอะไร เธอเองก็หวาดกลัว และไม่คิดว่าสามีจะคิดอะไรเกินเลยกับลูกสาว
“เปอร์ลูกแม่ แม่… ” งามตาไม่มีคำพูดใดเธอเบียงหน้าไม่มอง เพียงเปลือกตาหลับลงน้ำตาก็ไหลเป็นทาง
“พี่คม พี่คมช่วยเปอร์ด้วย” คมกริชซึ่งรักเปอร์โยปานแก้วตาดวงใจ แต่ก็ต้องกัดฟันทน เด็กหนุ่มค่อย ๆ ข่มตาหลับลงพร้อมหายใจยาวเพื่อเป็นการสงบสติอารมณ์ เมื่อทุกคนเงียบหมด วิทิตจึงคลานเข้าหาลูกสาว
“พ่อจะหลับตา ลูกพ่อ… พ่อจะหลับตา” วิทิตพูดเมื่อมาคุกเข้าอยู่ตรงหน้าลูกสาว เปอร์โยสะอื้นเล็กน้อยแต่มันคือฉันทามติของทุกคนให้เธอต้องเสียสละ เธอจึงค่อย ๆ ลดมือที่ปิดบังหน้าอกอิ่มของตนเองลง เปอร์โยสาววัย 22 หน้าอกอวบอิ่มกลมกลึงในชุดนักศึกษารัดแนบเนื้อจนกระดุมแทบปริ เอวคอด กระโปรงสั้นเหนือเข่าเข้ารูป นั่นคือภาพที่วิทิตเห็นก่อนจะหลับตาลง เค้าค่อย ๆ ยกมือขึ้นช้า ๆ นิ้วถูกกรีดออกเพื่อไม่ให้ฝ่ามือได้สัมผัสถูกเต้าอวบของลูกสาว เค้าต้องการเพียงแค่ให้นิ้วได้ปลดกระดุมออกเท่านั้น แต่การที่จะหาจุดที่เป็นกระดุมโดยไม่มองนั้นเป็นเรื่องยากยิ่ง วิทิตถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วค่อย ๆ เอื้อมมือไปยังเนินอกอิ่มช้า ๆ เปอร์โยเม้มริมฝีปากหลับตาปี๋ ปลายนิ้วค่อย ๆ จรดลงบนเสื้อนักศึกษา แต่มันกลับไม่ใช่กระดุม ปลายนิ้วทั้ง 2 ข้างกลับแทรกตัวผ่านร่องเสื้อซึ่งปริด้วยความคับแน่นของเต้าอวบเข้าไปจนแตะเข้ากับก้อนเนื้อใต้ชุดนักศึกษา เปอร์สะดุ้งเล็กน้อยแต่ยังไม่ลืมตา วิทิตไล่นิ้วขึ้นมาจนเจอกระดุมเม็ดบน พอมันหลุดออกก็เหมือนถูกปลดปล่อย เสื้อรัดติ้วเด้งดีดเพราะหน้าอกที่อวบอัด เมื่อเม็ดแรกหลุดไปจึงไม่เป็นการยากสำหรับเม็ดต่อไป จนกระทั่งเม็ดสุดท้าย เมื่อเปอร์โยเห็นว่ากระดุมถูกถอดออกหมดแล้วจึงยกมือขึ้นหมายจะถอดเสื้อออกเอง
“อย่าเชียว!! อีนี่กูบอกว่าให้ผู้ชายถอดไม่ใช่มึง” เสียงจากลำโพงทำเอาเด็กสาวสะดุ้งพร้อมกับวิทิตที่ลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ ภาพที่เค้าเห็นคือเต้าอิ่มภายใต้บราเซียสีชมพูอ่อน มันทั้งขาวทั้งอวบได้รูป เห็นเช่นนั้นวิทิตก็รีบสะบัดหน้าหลับตาลงอย่างรู้สึกผิด
“เปอร์… พ่อขอโทษ พ่อขอโทษ” ผู้เป็นพ่อรีบเอ่อปากขอโทษขอโพยเมื่อพลั้งเผลอไปมองเอาเต้านมของลูกสาวอย่างไม่ตั้งใจ
“อย่าชักช้า… กูขอเตือน เวลามันกำลังเดินไปไม่หยุด และนี่เกมส์มันเพิ่งเริ่มขึ้น” เสียงเตือนจากเทพที่ดูเหมือนจะหวังดี ทำเอาวิทิตต้องกำมือทั้ง 2 ข้างแน่นด้วยความคับแค้นใจที่ช่วยอะไรครอบครัวไม่ได้เลย เค้าสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะผ่อนลมออกทางปากช้า ๆ แล้วค่อย ๆ คลายกำปั้นออก มือทั้ง 2 ข้างยกขึ้นอีกครั้ง มันสั่นเทาและขยับเข้าหาตัวลูกสาวอย่างช้า ๆ เค้ารู้สึกถึงคอปกเสื้อทั้ง 2 ข้างจึงค่อย ๆ ไล่ลงมายังตัวเสื้อด้านหน้า 2 มือจับมันแหวกออกช้า ๆ วิทิตต้องขยับตัวเข้าใกล้เธอเพื่อถอดแขนเสื้อทั้ง 2 ข้างให้พ้นจากไหล่น้อย ๆ ของลูกสาว มันเท่ากับว่าหน้าของเค้าต้องยื่นเข้าไปใกล้ร่างน้อย ๆ นั้นโดยอัตโนมัติ แต่ด้วยความที่เค้าหลับตาอยู่จึงไม่ทราบ แต่กลิ่นกายจากต้นคอขาว ๆ ของเด็กสาวสะพรั่งนั้นมันช่างเตะจมูกนัก เมื่อไอร้อนจากตัวลูกสาวปะทะเข้ากับแก้มเค้ารู้ได้ทันทีว่าขณะนี้เค้าอยู่ในท่าไหน แต่ในเวลานี้วิทิตไม่ได้คิดถึงสิ่งใดนอกจากทำภารกิจให้เสร็จสิ้นเพื่อช่วยครอบครัวอันเป็นที่รัก เสื้อตัวน้อยถูกถอดออกอย่างไม่ยากเย็นนัก จากนั้นมือของเค้าก็ค่อย ๆ คลำหาตะขอบราเซียของลูกสาว เพียงมือของผู้เป็นพ่อแตะโดนแผ่นหลังก็ทำเอาเปอร์โยสะดุ้งเบา ๆ ซึ่งวิทิตก็รู้สึกได้ เค้าจึงยิ่งต้องระวังไม่ให้แตะถูกเนื้อต้องตัวลูกสาว แต่ยิ่งระวังเท่าไหร่มันยิ่งทำให้เค้าไม่มีไม่มีสมาธิเท่านั้น แต่ไม่นานตะขอมันก็ดีดออกจากกัน ร่างของสาวน้อยกระตุกตามแรงดีด จังหวะของการหายใจเริ่มแปรปรวน เธอรู้ทันทีว่าอีกไม่นานเต้าอวบอิ่มของตัวเองกำลังจะไร้ซึ่งบราเซียปิดบัง วิทิตค่อย ๆ จับสายคล้องไหล่รูดลงมาช้า ๆ และแล้วบราเซียสีชมพูอ่อนก็หลุดออกจากร่างสาวน้อย สิ่งที่เผยให้เห็นในมอนิเตอร์ทำเอาเทพกลืนน้ำลาย
“ดีมาก… แต่กูว่ามึงช้าเกินไป ภารกิจง่าย ๆ ที่มึงยังทำได้แค่ครึ่งเดียว มึงรู้รึป่าวว่ามันผ่านไป 10 กว่านาทีแล้ว ถ้าพวกมึงยังไม่ยากดำเป็นตอตะโกไปพร้อม ๆ กับบ้านนี้ กูขอแนะนำให้เร่งมือหน่อย เวลามันไม่คอยพวกมึงที่มัวแต่เหนียมอายกันนะโว้ย”
“เปอร์โยลูกพ่อ พ่อขอโทษ แต่พ่อต้องทำ เชื่อพ่อนะ อีกไม่ช้ามันจะจบลง” วิทิตพูดทั้งที่ยังก้มหน้าหลับตา น้ำตาลูกผู้ชายที่ต้องทนกล้ำกลืนทำในสิ่งที่ไม่อยากแม้แต่จะคิดค่อย ๆ ซึมเล็ดออกมาจากเปลือกตาที่ปิดสนิท จนกระทั่งมันหยดลงสู่พื้นห้อง แต่จู่ ๆ เค้าก็ได้รับรู้ถึงสัมผัสอันนุ่มนวล ปลายนิ้วโป้งน้อย ๆ ของลูกสาวค่อย ๆ ปาดผ่านแก้มที่เปียกชุ่ม วิทิตลืมตาขึ้นช้า ๆ เค้ามองหน้าลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่ง
“ทำเถอะค่ะพ่อ ถึงยังไงร่างกายนี้ก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อมอบให้หนู” เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาที่แดงก่ำแต่ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม บัดนี้เธอปลงได้กับสิ่งที่กำลังดำเนินไป ไม่มีใครต้องการให้มันเกิดขึ้น เธอหวังเพียงว่าฝันร้ายนี้มันจะผ่านไปโดยเร็ว เปอร์โยยันตัวขึ้นยืนพลางหลับตาลงพร้อมสูดหายใจลึก เมื่อเป็นเช่นนี้วิทิตจึงขยับตัวขึ้นนั่งคุกเข่า เบื้องหน้าเค้าคือกระโปรงนักศึกษาสั้นแค่หน้าขาที่ฟิตพอดี สะโพกผายรับกับเอวที่คอดกิ่วเรื่อยลงมายังเรียวขาขาวเนียนไร้ที่ติ วิทิตประคองมือข้างซ้ายขึ้นแตะยังสะโพกลูกสาวพร้อมด้วยมือขวาที่เอื้อมไปยังด้านหลัง ซิบตัวน้อยถูกรูดลงช้า ๆ พร้อมกับขอบกระโปรงที่คลายตัวออก แต่ถึงกระนั้นแม้ซิบจะถูกรูดลงจนสุดแล้วด้วยสะโพกที่ผายออกของเธอมันทำให้กระโปรงไม่หลุดร่วงลงมากองกับพื้น ชายหนุ่มจึงปล่อยนิ้วที่จับซิบ ลดมือลงจับชายกระโปรงสั้นนั้นออกแรงดึงมันลงเบา ๆ ไม่ช้าสีดำขลับของกระโปรงนักศึกษาก็ค่อย ๆ เลื่อนลงเผยให้เห็นชั้นในสีเดียวกับบราเซีย เมื่อผ่านพ้นสะโพกกลมกลึงมันก็หลุดกองลงกับพื้น วิทิตหายใจแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เค้าประคอง 2 มืออันสั่นเทาแตะเข้ากับสะโพกอันกลมกลึงของลูกสาว เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสก็ทำเอาเปอร์โยร่างกระตุกใบหน้าร้อนผ่าว นิ้วชี้ทั้ง 2 ข้างเริ่มเกาะเกี่ยวขอบชั้นในตัวจิ๋วพร้อมรั้งมันลงช้า ๆ เนินนูนภายใต้เส้นไหมอ่อน ๆ สีดำปรากฏให้เห็นทีละน้อย ๆ และด้วยสัญชาติญาณของหญิงสาว เธอบีบหน้าขาเข้าหากันแน่น แต่ก็ไม่วายที่อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายจะถูกปลดออกจากตัวเธอ บัดนี้ร่างของหญิงสาวยืนเปลือยเปล่าอวดสรีระให้ผู้เป็นพ่อได้ยลอย่างเต็มตา
“เออ… ก็แค่นั้นแหละ ไม่เห็นจะยากซักหน่อย ฮ่า ๆ ๆ” เมื่อเปอร์โยรู้ว่าภารกิจแรกได้ลุล่วงแล้วก็รีบนั่งลงหยิบเสื้อขึ้นมาปิดบังเรือนร่างตนเองทันที
“ใครให้มึงเอาเสื้อขึ้นมาปิด!!” เปอร์โยสะดุ้งตามเสียงตะคอก
“ไม่งั้นกูจะให้ถอดเสื้อออกทำไม แม่งโง่เหี้ย ๆ” เสียงด่าทอทำเอาเด็กสาวตกใจน้ำตาไหล เธอจำใจละทิ้งเสื้อที่ปิดร่างเปลือยเปล่า เปอร์โยนั่งพับเพียบแขนข้างหนึ่งยกขึ้นบังเต้าอวบอีกมือที่เหลือต้องคอยปกปิดส่วนล่างไว้ สภาพในตอนนี้ของเด็กสาวไม่ต่างอะไรจากลูกนกที่ตกใจเสียงปืนของนายพรานอันโฉดชั่ว
“ข้อแรกพวกมึงใช้เวลาไป 15 นาที กูไม่อยากเดาเลยว่าพวกมึงจะได้เห็นแสงตะวันของพรุ่งนี้รึป่าว”
“ไอ้เหี้ย!!! ข้อต่อไปมึงจะให้ทำอะไร ไม่ต้องมาพูดถ่วงเวลา” คมกริชตะโดนเสียงลั่นห้อง เค้าลุกขึ้นมองไปยังกล้องที่จับภาพอยู่ 2 มือกำหมัดแน่น
“ฮ่า ๆ ๆ ใจร้อนจังนะมึง อยากมีความสุขแบบพ่อของมึงบ้างสินะ ได้เดี๋ยวกูจัดให้” คำพูดของเทพทำเอาคมกริชชะงัก เค้าหันมองน้องสาวทันที
“ไม่ใช่… ไม่ใช่… แม่มึงต่างหาก ไม่ใช่น้องสาว”
“ไอ้สัตว์!!!” คมกริชกัดกรามก้มหน้าด่าผ่านไรฟันเบา ๆ แต่แฝงไปด้วยความโกรธ สายตาอีก 2 คู่ต่างมองไปยังงามตาทันที
“อ๊ะ ๆ ๆ โกรธงั้นเหรอ งั้นกูไม่ให้มึงถอดเสื้อแม่มึงก็ได้… เอาล่ะ ข้อ 2 ทุกคนในห้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด” สิ้นเสียงคำสั่งทุกคนในห้องต่างพากันหันหน้าไปมองไปยังกล้องที่จับจ้องอิริยาบถของพวกเค้าทันที
“ใช่… พวงมึงไม่ต้องงง กูให้พวกมึงถอดเสื้อผ้าออกให้หมด นี่ถือว่ากูปราณีแล้วนะ ที่ไม่ให้ลูกถอดเสื้อผ้าแม่ตัวเอง ฮ่า ๆ ๆ” เสียงหัวเราะที่เปล่งออกมาจากลำโพงนั้นมันช่างแฝงไปด้วยความสะใจ แต่ทว่าคำสั่งนี้เองที่ทำเอาคนทั้ง 3 ที่ยังมีเสื้อผ้าติดกายอยู่ค่อย ๆ เหลียวหันมามองกันและกัน
“ไม่นะคะ ไม่ ชั้นไม่ถอด ไม่” งามตานั่งกอดเข่าตัวสั่น พร้อมส่ายหน้าตามองสามีอันเป็นที่รัก ปากพร่ำปฏิเสธปานคนเสียสติ
“นี่มันก็เป็นแค่เกมส์ ถ้าพวกมึงผ่านมันไปได้ มันก็จบ อีกอย่ากูก็ไม่ได้ให้มึงฆ่ากันเองซักหน่อย แค่หลับหูหลับตาทำไปก็สิ้นเรื่อง กูอยากบอกนะ ยิ่งพวกมึงขัดขืนมันยิ่งทำให้กูสนุกว่ะ บางบ้านที่กูเคยไปแม่งสั่งปุ๊บทำปั๊บแป๊บเดียวจบเกมส์ กูล่ะโคตรเบื่อ เอาเถอะเลือกเอาว่าจะทำตามหรือจะรอความตาย จงอย่าลืมว่าเวลาไม่เคยคอยใคร” เสียงเตือนอย่างเย็นชาทำเอาคมกริชคอตกถอนหายใจ เค้าค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าตัวออกทีล่ะชิ้น ๆ จนเหลือแต่กางเกงใน
“ตา… ทำเถอะ…” ทั้งเงื่อนไขเรื่องบ้าน เรื่องความปลอดภัยของทุกคน วิทิตเห็นเช่นนั้นจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยปากกับภรรยา เค้าหมดความลังเลที่จะลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าตามลูกชาย เพียงไม่นานทั้งพ่อและลูกชายก็เปลือยเปล่า ลำควยของทั้งคู่เหี่ยวห้อยโตงเตงด้วยความกลัว แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังยาวกว่า 4 นิ้ว เปอร์โยซึ่งนั่งอยู่มุมห้องได้เห็นก็รีบเปลี่ยนอิริยาบถมาเป็นนั่งกอดเข่าก้มหน้าหลับตาเพื่อไม่ให้ให้ภาพ แต่ในความมืดเมื่อเปลือกตาหลับลงนั้นกลับบังเกิดภาพระหว่างเธอและพี่ชายที่เคยร่วมรักกันอย่างดูดดื่มในใจจึงรีบสลัดภาพนั้นทิ้งไปเสีย
“แม่ครับ… พวกเราไม่มีทางเลือก” คมกริชหันหลังให้ผู้เป็นแม่พูดพร้อมค่อย ๆ เดินไปยังผนังห้องแล้วนั่งลงหันหน้าเข้ากำแพง งามตาที่ยังคงสะอึกสะอื้นกับความกลัวมองหน้าวิทิตที่เดินผ่านไปนั่งยังอีกมุมห้องหนึ่ง ตอนนี้เหลือเพียงแต่ตัวเธอที่ยังมีเสื้อผ้าติดร่าง นี่อาจเป็นชะตากรรมที่ครอบครัวเธอต้องเผชิญ ทุกสิ่งมันสับสนไปหมด นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น หรือนี่เป็นเพียงแค่ฝัน
“พวกมึงช้ากว่าที่กูคิดนะ หรือว่าพวกมึงอยากตาย!!!” แต่แล้วเสียงจากลำโพงก็กระชากเธอออกจากภวังค์แห่งความคิด ตายงั้นเหรอ บัดนี้ความตายนั้นไม่น่ากลัวเลยสำหรับเธอเมื่อเทียบกับความอดสูที่จะต้องแก้ผ้าต่อหน้าโจรร้าย แต่เมื่อเธอมองไปยังลูกชาย เด็กหนุ่มที่เพิ่งจะทำงาน เค้ายังต้องเติบโตและสร้างครอบครัวที่อบอุ่นต่อไป เปอร์โยเด็กสาวที่ยังมีอนาคตสดใสในภายภาคหน้า ความเป็นห่วงลูกฉุดดึงตัวเธอให้ลุกขึ้นช้า ๆ งามตายกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้มก่อนจะค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด เพียงกระดุมเม็ดที่ 2 ถูกเกาะออกหน้าอกที่แสนอวบก็ปริดันกระดุมเม็ดถัดลงมาให้แทบหลุด เสื้อเชิ้ตแขนยาวถูกปล่อยลงกับพื้นข้างตัว พร้อมกับ 2 มืออ้อมไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอบราเซีย ไม่นานบราขนาด 34 คับ C ก็หลุดตามเสื้อลงไป เต้าอวบกลมได้รูปแม้จะคล้อยนิดหน่อย แต่ปลายยอดเล็กสีน้ำตาลอ่อนตัดกับผิวขาว ๆ ของคนเหนือ ทำเอา 2 โจรที่มองผ่านกล้องต้องหายใจยาว
“สวยอะไรอย่างนี้” เทพเผลอพูดออกไปอย่างลืมตัว แต่คำพูดที่แทรกตัวผ่านลำโพงมานั้นทำเอาคมกริชที่นั่งหันหลังให้ถึงกับเผลอคิดจินตนาการตามไป งามตาที่หมดสิ้นแล้วซึ่งความกลัวเริ่มถอดกระโปรงออก มันหลุดอย่างง่ายดาย หน้าท้องเธอยังคงแบนราบเหมือนของสาว ๆ เอว 24 กับสะโพก 35 ช่างรับกางเกงชั้นในผ้าบางไม่ต่างจากซีทรูสีขาวยิ่งนัก นิ้วเรียวค่อย ๆ เกี่ยวขอบสายชั้นในเส้นเล็ก ๆ เพื่อจะรูดมันลง แต่แล้ว
“พอแล้ว…” เสียงสิ้นสุดคำสั่งทำเอางามตาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“อย่าเพิ่งดีใจไป มันยังไม่จบ ข้อนี้พวกมึงใช้เวลาไป 8 นาที รวมเป็น 23 นาที อีก 3 ข้อเท่านั้น พวกกูก็จะไป แต่เวลา 37 นาที สำหรับพวกมึงมันช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับความยืดยาดลังเล…”
“พวกแกรีบบอกมาเลย เรื่องมันจะได้จบ ๆ ไปซะ” เทพยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงแทรกขึ้นมา เสียงนั้นทำเอาทุกคนงุนงง งามตานั่นเอง บัดนี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วขอเพียงให้มันจบลงไปเท่านั้น… เธอคิด
“ดี! ข้อ 3 กูจะให้ลูก ๆ ได้เป็นลูกกตัญญู” ทั้งคมกริช และเปอร์โย เงยหน้าขึ้นทันที
“พ่อ กับแม่ แยกกันไปนอนลงกับพื้นข้าง ๆ เตียงทั้ง 2 ข้าง” ถึงแม้ความหวาดกลัวจะลดน้อยลงมาก แต่คำสั่งที่ยังไม่ชัดเจนส่งให้ ทั้งงามตา และวิทิตยังคงนิ่ง
“กูบอกให้ทำตามไง สัตว์!” เทพตะคอกเสียงออกลำโพงดังลั่น 2 สามีภรรยาถึงกับสะดุ้ง ทำตามที่สั่ง โดยวิทิตนอนอยู่ด้านขวาของเตียง และงามตาอยู่ทางด้านซ้าย
“เอาล่ะ ลูก ๆ ทั้ง 2 วันนี้ปรนนิบัติ คุณพ่อคุณแม่กันหน่อย ข้าง ๆ เตียงกูได้วางขวดเบบี้ออยล์ไว้ให้พวกมึงแล้วคนล่ะขวด ไป… จงเอามันชโลมตัวผู้ให้กำเนิดแล้วนวดคลายความเครียดที่ได้รับจากพวกกูซะ ฮ่า ๆ ๆ” เปอร์โยและคมกริชซึ่งนั่งอยู่กันคนละฟากลุกขึ้นตามคำสั่ง เพียงทั้ง 2 ได้มองเรือนร่างของกันและกันก็นึกถึงอดีตที่ได้เสพสมความสุขอันแสนดูดดื่ม เปอร์โยก้มหน้าเล็กน้อย เธอหน้าแดงโดยไม่รู้ตัว ทั้ง 2 ต่างเดินเพื่อไปยังร่างของบุพการี เปอร์โยซึ่งเดินถึงก่อน เธอก็นั่งลงข้างงามตาผู้เป็นแม่
“ใครบอก… กูให้ลูกชายนวดแม่ ลูกสาวนวดพ่อต่างหาก ฮ่า ๆ ๆ” ทั้ง 4 คนถึงกับตะลึงในคำพูดนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก
“พวกมึงจะโวยวาย จะด่ากู หรือจะไม่ทำก็ได้ แต่เวลามันยังคงเดินต่อไป” คมกริชถอนหายใจยาวแล้วเดินกลับมายังเตียงอีกฟาก เมื่อสวนกับน้องสาวก็ได้เห็นภาพ แม่ผู้ให้กำเนิดนอนร่างเปลือยเปล่าเหลือเพียงชั้นในบาง ๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย ไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวภาพตรงหน้าเธอคือพ่ออันเป็นที่เคารพ กลางลำตัวเป็นลำควยที่เหี่ยวนิ่มดูไร้พิษสงแต่เมื่อเห็นแล้วทำเอาหัวใจเด็กสาวหวั่น ๆ พิกล ทั้ง 2 หนุ่มสาวรู้สึกตัวร้อนผ่าวอย่างแปลกประหลาดก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ
“นั่นแหละ อย่างนั้น ว่าง่าย ๆ โตเร็ว ๆ ข้อนี้ มีข้อจำกัดเป็นเงื่อนเวลา กูจะเปิดเพลง เพลงจบถือว่าผ่านภารกิจ แต่… กูขอเตือน ถ้ากูเห็นว่าพวกมึง 2 คนไม่ตั้งใจนวดให้ทั่วตัว ย้ำให้ทั่วตัว หรือ หยุดนวดกูจะกด Pause เพราะฉะนั้น เพลงนี้จะสั้นหรือจะยาว มันอยู่ที่พวกมึง 2 คน เอาล่ะ บนหัวของพ่อกับแม่มึง กูวางขวดเบบี้ออยล์ไว้ พวกมึงเอามาชโลมตัวแล้วนวดซะ ไม่ต้องห่วง มันไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ระคายผิว เพราะกูใช้นวดควยเป็นประจำ ฮ่า ๆ ๆ” คมกริชซึ่งนั่งอยู่ข้างงามตาแต่หันหน้าไปยังปลายเตียง เค้ายังคงนิ่งไม่ทำตามคำสั่ง แต่แล้วก็มีมือเย็น ๆ มาจับที่ข้อมือของเค้า คมกริชเหลียวตามสัมผัสที่ได้รับทันที
“ทำเถอะลูก เราไม่มีทางเลือก” นี่คือคำที่ถูกเปล่งออกมาจากปากของงามตาผู้เป็นแม่ เธอพูดกับลูกชายด้วยแววตาที่อบอุ่นก่อนที่จะค่อย ๆ เบี่ยงหน้าหลับตาลงช้า ๆ คมกริชเห็นเช่นนั้นจึงเอื้อมไปหยิบขวดเบบี้ออยล์แต่ระหว่างที่ยกตัวเอื้อมไปนั้นเอง ปลายควยซึ่งห้อยอยู่ก็พลันสัมผัสเข้ากับแก้มขวาของงามตา
“อุ้ย… ขอโทษครับแม่” คมกริชรีบกล่าวขอโทษพร้อมโหย่งตัว แต่ไม่มีเสียงตอบจากเธอ งามตายังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น เมื่อเด็กหนุ่มได้น้ำมันอยู่ในมือก็กลับมานั่งขัดสมาธถอนหายใจยาว เค้าเริ่มพินิจพิจารณาเรือนร่างที่อยู่ตรงหน้า มันช่างงดงามเสียนี่กระไร เต้าอวบใหญ่กับหน้าท้องที่แบนราบ ขยับสลับขึ้นลงตามแรงหายใจ ที่กลางลำตัวนั้นถึงแม้จะมีชั้นใน แต่ด้วยเป็นผ้าบาง ๆ จึงมองเห็นเส้นไหมอันดำขลับแต่ทว่าไม่รกรุงรัง มันเป็นเนินนูนน่าลองจับดูยิ่งนัก คมกริชเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหูร้อน ลำควยมีปฏิกิริยาแปลก ๆ จนต้องใช้มือซ้ายกดท่อนเอ็นลง เสียงกริ๊กเป็นสัญญาณให้งามตารู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น และแล้วฝาขวดก็ถูกเปิดออก น้ำมันถูกหยดลงบนหน้าท้องของเธอ เด็กหนุ่มใช้มือซ้ายแตะลงไปเบา ๆ อย่าประหม่า ปลายนิ้วกลางเริ่มลูบวนเป็นวงกลมช้า ๆ สลับกับน้ำมันที่หยดลงไปทีละน้อย เพียงไม่นานคมกริชก็เริ่มกล้าพอที่จะใช้ฝ่ามือลูบไล้เรือนร่างนั้น ซึ่งงามตาก็รู้สึกได้ถึงแรงสัมผัสที่เพิ่มขึ้น เด็กหนุ่มจ้องมองเต้านมที่กระเพื่อมขึ้นลงพลางกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก เค้ายังคงกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะนวดเลื่อนขึ้นไป แต่ในความคิดนั้นเอง เพลง… ใช่เพลงยังไม่ได้เปิดขึ้นทั้ง ๆ ที่เค้าก็นวดเรือนร่างของผู้เป็นแม่แล้ว คมกริชหันมองไปยังกล้องที่จับจ้องอยู่
“ควย ๆ มึงไม่ต้องมองกู มึงหันไปมองน้องสาวมึงโน้น มันยังเบี่ยงหน้าหลับตาอยู่เลย” เทพซึ่งกำลังจับจ้องการกระทำของคมกริชอย่างจดจ่อรีบสวนขึ้นก่อนที่คมกริชจะเอ่ยปาก เด็กหนุ่มได้ฟังก็พลันหันไปมองน้องสาวยังฟากตรงข้ามของเตียงทันที สิ่งที่เห็นคือเปอร์โยกำลังลืมตาขึ้นมองมายังเค้าพอดี คมกริชขมวดคิ้วพยักหน้าเบา ๆ บอกให้น้องสาวทำตามที่โจรสั่ง
“เราไม่มีเวลาแล้ว” คมกริชบอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงปลงตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คิดซะว่านวดให้พ่อเหมือนตอนเด็ก ๆ ก็แล้วกัน” เด็กสาวเหลียวมองไปตามเสียง คุณพ่อของเธอพูดพลางยื่นขวดน้ำมันให้พร้อมค่อย ๆ หลับตาลง เปอร์โยยื่นมือไปรับมันแต่โดยดี แต่ในใจยังคิด เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เธอก็เคยนวดให้พ่อแต่มันไม่ใช่ในสภาพเปลือยเปล่าเช่นนี้ เด็กสาวเงยหน้ามองพี่ชายอีกครั้ง ซึ่งคมกริชก็พยักหน้าเบา ๆ ไม่นานเสียงกริ๊กก็ดังขึ้น น้ำมันถูกหยดลงบนตัวของวิทิตพร้อมกับเสียงเพลงบรรเลงที่ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าเกมส์ข้อ 3 ได้เริ่มขึ้นแล้ว มือน้อย ๆ ค่อย ๆ ลูบน้ำมันไปทั่วร่างของวิทิต ด้วยความที่เปอร์โยไม่ถูกอำนาจฝ่ายต่ำครอบงำ มันจึงไม่ยากที่เธอจะนวดไล้ไปตามลำตัวและแขนของผู้เป็นพ่อ ต่างกับคมกริชที่ยังคงลูบหน้าท้องของงามตาอยู่ เค้าเริ่มกัดริมฝีปากพร้อมพยามยามบังคับการหายใจให้เป็นปกติ เพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังหัวใจเต้นแรง มือซ้ายที่ลูบไล้อยู่ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมายังฐานของเต้าอวบพลางใช้ปลายนิ้วโป้งวนขึ้นไปก่อนจะลูบไปยังสีข้าง หัวใจเด็กหนุ่มแทบจะหยุดเต้น นี่เค้าได้สัมผัสเต้าอวบของแม่ คมกริชทำแบบเดิมอยู่ 2 – 3 ครั้งจนแน่ใจว่าไม่มีเสียงติงจากงามตา ความย่ามใจเริ่มเกาะกินความคิดของเด็กหนุ่ม เค้าเริ่มหยดน้ำมันลงบนปทุมถันของแม่โดยตรงซึ่งงามตาก็รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการนวดน้ำมันนี้ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายสบายตัว มือหยาบ ๆ ของคมกริชค่อย ๆ ลูบขึ้นมาจากหน้าท้องผ่านใต้ฐานของเต้าอวบ อุ้งมือเค้าบีบก้อนเนื้อเบา ๆ แล้วลูบขึ้นโดยมีง่ามนิ้วชี้และนิ้วกลางบรรจงหนีบที่หัวนมของเธอเบา ๆ ก่อนจะผ่านไปยังลำคอขาวให้เหมือนกับไม่จงใจ รสสัมผัสนี้ทำเอางามตาถึงกับขนลุกเล็กน้อยพร้อมกับจะลืมตาแต่มือของลูกชายที่ลูบลงไปยังแขนข้างขวาของเธอทำให้เธอรู้สึกว่ามันคงเป็นการนวดธรรมดา งามตาจึงยังคงนอนหลับตารับความผ่อนคลายอยู่เช่นนั้น ต่างจากคมกริชที่ยิ่งนวดยิ่งเครียด เค้าเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เต้าอวบนั้นช่างมีแรงดึงดูด มันนุ่มเนียนและยังลื่นไปด้วยน้ำมันที่ชโลมอยู่ ปลายยอดก็ชูชันเป็นเม็ดถึงแม้จะไม่เป็นสีชมพูแต่ก็น่าขบดูด เหลียวไปมองยังกลางลำตัว ความโหนกนูนของเนินหีนั้นถ้าได้เอาลำควยแทรกผ่านเข้าไปจนหนอกควยบดกับเนินหีมันจะรู้สึกดีแค่ไหน ความคิดของเด็กหนุ่มเริ่มเตลิดไปไกล มืออันสั่นเทาด้วยความคิดที่แสนอุบาทว์ค่อย ๆ นวดไล้กลับมายังหัวไหล่ของผู้เป็นแม่ น้ำมันถูกบีบลงบนเรือนร่างเปลือยอีกครั้งแต่ทว่าครั้งนี้คมกริชบีบมันจนเปียกชุ่มไปทั้งร่าง ไม่ว่าจะเป็นแขนขาหรือว่าลำตัว เว้นไว้เพียงแต่ส่วนกลางที่ยังถูกปกปิดด้วยชั้นในตัวน้อยอันแสนบาง ขวดเบบี้ออยล์ถูกวางลงตรงหน้างามตาที่เปลือกตายังคงปิดสนิท 2 มือของเด็กหนุ่มเริ่มทำงานไปพร้อม ๆ กัน ความประหม่าหายไปแต่กลับมีความกระสันในจิตใจเข้าแทนที่ มือซ้ายของเค้านวดคลึงผ่านหน้าท้องอันแบนราบลงไปยังสะโพกผาย เพียงขอบชั้นในถูกน้ำมันที่ติดมากับฝ่ามือก็แปลเปลี่ยนจากสีขาวเป็นใสจนแนบเนื้อ คมกริชบรรจงบีบนวด 2 ขาด้วยมือซ้ายโดยยังมีมือขวาวางอยู่บนหน้าท้องของเธอ การที่ถูกนวดอย่างนี้มันทำให้งามตารู้สึกผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าที่ต้องยืนอยู่ทั้งวัน
“อื่ม…” เสียงครางด้วยความสบายเล็ดออกมาจากริมฝีปากของงามตา ซึ่งคมกริชก็ได้ยิน เด็กหนุ่มทึกทักเหมาเอาเองว่านี่คือเสียงแห่งความกระสันของมารดา มือขวาที่วางอยู่ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นช้า ๆ โดยยังมีมือซ้ายนวดวนอยู่บริเวณต้นขาซ้ายของเธอ คมกริชไม่ลังเลแล้วที่จะบีบนวดยังเต้านมอวบตรงหน้า ความนุ่มกับความลื่นผสมผสานให้เด็กหนุ่มเคล้นคลึงเต้านมผู้เป็นแม่ด้วยความนิ่มนวล งามตาเริ่มรู้สึกถึงปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของการนวดของลูกชาย มือซ้ายที่เคยบีบคลึงกลับค่อย ๆ กลายเป็นลูบเบา ๆ สลับหยุดนิ่งกลายเป็นมือขวาที่นวดวนอยู่กับเต้านมของเธอ แต่แทนที่งามตาจะลืมตามองเพื่อหยุดการกระทำของลูกชาย เธอกลับมีความรู้สึกแปลก ๆ อุ้งมือซึ่งไม่ใช่ของสามี หากแต่เป็นของลูกชายที่เธอเลี้ยงดูมาแต่เล็ก เค้ากำลังคิดอะไรกับเรารึป่าว งามตาเริ่มสับสนในความคิด สัมผัสที่แผ่วเบาค่อย ๆ เน้นขึ้นกับเต้าอวบของเธอ ปลายยอดถูกเขี่ยด้วยนิ้วโป้งเมื่อฝ่ามือนวดผ่านครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่มันก็ทำเอาอารมณ์ของเธอครุกรุ่นขึ้นมา ยิ่งคิดงามตาก็ยิ่งหัวใจเต้นแรงขาทั้ง 2 บีบเข้าหากันโดยอัตโนมัติ น้ำบางอย่างกำลังแทรกตัวผ่านร่องหลืบของเธอจนรู้สึกได้ นี่เรากำลังมีความต้องการกับลูกชายงั้นเหรอ ความคิดของเธอปั่นป่วนไปหมด แต่แล้วมันก็หยุดลงเมื่อมือที่นวดคลึงเต้านมเธอยกขึ้น แต่เพียงเสียววินาทีนั้นเอง ความแฉะก็ประดังมายังส่วนกลางของเธอ คมกริชบีบน้ำมันลงบนชั้นในตัวน้อยของแม่ ผ้าเบาบางเมื่อถูกน้ำมันก็แนบติดกับผิวเผยให้เห็นเส้นไหมและพูเนื้อเปรียบประดุจไม่ได้ใส่อาภรณ์ใดเลย งามตารู้สึกเช่นนั้นจึงจะลืมตาขึ้นแต่ช้าไป มือซ้ายซึ่งวางอยู่บนหน้าขาของเธออยู่แล้วแทรกปลายนิ้วผ่านร่องขาทั้ง 2 ที่บีบเข้าหากับก่อนจะรูดผ่านขึ้นไปยังพูเนื้อ โดยปลายนิ้วชี้ถูเข้ากับร่องหีของเธออย่างจัง ร่างของงามตากระตุกสะท้าน เปลือกตาที่ตั้งใจจะลืมขึ้นเมื่อครู่กลับกลายเป็นบีบเข้าหากันพร้อมขมวดคิ้วด้วยความเสียว ปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ ส่งให้คมกริชยิ่งย่ามใจซึ่งคราวนี้เค้าไม่ได้คิดผิด ความเงี่ยนเข้าครอบงำแม่ลูกทั้ง 2 จนถึงขั้วหัวใจซะแล้ว แค่ปลายนิ้วชี้ถูกพูเนื้อเบา ๆ ก็ปลุกลำควยของเด็กหนุ่มให้ตื่นขึ้น มันค่อย ๆ แข็งตัวเป็นลำ แต่คมกริชหาสนใจมันไม่ เค้าเริ่มตักตวงความสุขในการสัมผัสเรือนร่างของผู้เป็นแม่โดยหมดสิ้นแล้วซึ่งความกลัว มือขวาของเค้าบรรจงบีบนวดเต้านมของแม่สลับไปมาทั้ง 2 ข้าง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ ที่ใช้เพียงปลายนิ้วเขี่ย ครั้งนี้เด็กหนุ่มนวดสลับใช้นิ้วบีบบี้หัวนมเธอเบา ๆ มือซ้ายซึ่งสาระวนอยู่กับหน้าขาค่อย ๆ แหวกต้นขาเธอออกช้า ๆ ซึ่งมันก็แยกออกตามใจเด็กหนุ่มหวัง เค้าค่อย ๆ บีบนวดทั้งต้นขาและเต้านมไปพร้อม ๆ กัน
“อื่ม…” เสียงครางดังออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนั้นหามาจากความผ่อนคลายไม่ มันกลับเปลี่ยนเป็นความเสียวที่ได้รับจากรสมือของลูกชายที่เธอเลี้ยงมาจนเติบใหญ่ คมกริชเริ่มลูบปลายนิ้วขึ้นมายังขาหนีบของแม่โดยใช้ปลายนิ้วเกี่ยวลอดผ่านขอบชั้นในเข้าไปสัมผัสเนินเนื้อเล็กน้อย แล้วลูบมันขึ้นไปจนปลายนิ้วผ่านออกมายังสะโพกด้านข้างก่อนจะหมุนลงไปลงยังต้นขาอย่างเก่า ตอนนี้มือที่บีบนวดเต้าอวบเริ่มไม่ทำงานแล้วเพราะคมกริชกำลังใส่ใจกับพูหีอูม ๆ ตรงหน้า เค้าเริ่มโหย่งตัว เปลี่ยนเป็นท่านั่งคุกเข่าเพื่อเอื้อมไปนวดต้นขาทั้ง 2 ข้างพร้อม ๆ ใบหน้าที่ก้มลงมองตรงกับเนินเนื้อพอดีช่างกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเด็กหนุ่มให้พุ่งพล่าน งามตาที่ความเงี่ยนเข้าครอบงำนั้นเมื่อรู้สึกว่าลูกชายเปลี่ยนท่านั่งจึงเปิดเปลือกตามอง และภาพที่เห็นก็ทำเอาเธอยิ่งจมดิ่งลงในห้วงแห่งราคะ ลูกชายคนเดียวกำลังขะมักเขม้นนวดต้นขาของเธอ แก่นกายกลางลำตัวชี้โด่เป็นลำ มองด้วยสายตาคงไม่น้อยกว่าหกนิ้วครึ่งเป็นแน่ นี่ลูกชายเธอก็คงจะเงี่ยนในเรือนร่างของเธอด้วยเช่นกันสินะ ความคิดอัปรีย์ต่าง ๆ ที่รุมเร้าเข้ามาส่งให้น้ำเงี่ยนของเธอยิ่งไหลออกมา 2 ขาค่อย ๆ แยกออกช้า ๆ อย่างลืมตัว งามตาหลับตาลงอีกครั้งพร้อมซึมซับความเสียวที่ลูกชายป้อนให้ ซึ่งเธอก็ไม่ผิดหวังเลย เพียงขาเธอแยกออกเล็กน้อยนั้นมันทำให้คมกริชทำอะไรได้ถนัดขึ้นมาก 2 มือของเด็กหนุ่มกดปลายนิ้วทั้ง 4 ลูบลงกับหน้าขาลงไปถึงหัวเข่าแล้วลูบขึ้นมาด้วยอุ้งมือโดยมีนิ้วโป้งอยู่ด้านใน เมื่อถึงยังโคนขาคมกริชใช้นิ้วโป้งข้างซ้ายนำร่องผ่านขอบชั้นในเข้าไปรั้งพูหีซ้ายให้เปิดออก ก่อนจะตามด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลางข้างขวาแซะผ่านขอบชั้นใน แล้วค่อย ๆ กรีดปลายนิ้วกลางรูดตั้งแต่ง่ามก้นผ่านขึ้นมายังร่องเสียวที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนแล้วลากผ่านช่องหีขึ้นมายังเม็ดละมุน คมกริชลองคลึงมันเบา ๆ พลันร่างของผู้เป็นแม่ก็กระตุกรับ ยิ่งเห็นเช่นนั้นคมกริชก็ยิ่งได้ใจ เค้าเริ่มใช้ปลายนิ้วกลางนั้นหมุนวนไปมากับเม็ดเสียวที่เริ่มเต่งขึ้น
“อื้มมมมม…” เสียงครางกับอาการตอบรับดังกล่าวทำเอาเด็กหนุ่มหน้ามืดพอที่จะกล้าทำอะไรเพิ่มมากขึ้นโดยลืมนึกไปว่านี่คือแม่บังเกิดเกล้าของตน มือซ้ายที่ช่วยประคองรั้งพูหีถูกถอนออก เช่นเดียวกับมือขวา มือทั้ง 2 ค่อย ๆ ลูบไล้ขึ้นมาจนพ้นขอบชั้นในตัวน้อย แล้วสิ่งที่งามตาไม่คาดฝันว่าลูกชายจะกล้าก็บังเกิดขึ้น คมกริชค่อย ๆ กดปลายนิ้วกลางทั้ง 2 ข้างแทรกผ่านขอบชั้นในแล้วดันมือลงหมายจะให้ชั้นในอาภารณ์ตัวสุดท้ายหลุดออกไป