Lolita mansion - ตอนที่ 12 อวสาน (2)
เสียงเด็กหญิงทั้ง 10 คนที่จ๊อกแจ๊กราวกับนกกระจอกริมสระน้ำขนาด 25 เมตรที่ชั้นบนสุดของแมนชั่นบางกระเจ้า ไม่ทำให้ผมรู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามมันกลับไพเราะราวเสียงสวรรค์ที่ทำให้บ้านใหม่ของผมและเมียตัวน้อยๆ ทั้งสิบคนมีชีวิตชีวาและสร้างชีวิตให้เป็นบ้านที่แท้จริง
น้องทั้งสิบดูจะตื่นเต้นกับสระน้ำแห่งใหม่นี้ เพราะมันเป็นสระน้ำในร่วมตั้งอยู่ภายใต้เรือนกระจก รอบด้านแวดล้อมไปด้วยพรรณไม้ร่มรื่นไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก ร่างของเด็กหญิงทั้งหมดเปลือยเปล่าโดยไม่ต้องสวมใส่ชุดว่ายน้ำใดๆ ร่างงามที่สดใสด้วยวัยเยาว์ของน้องทุกคนดูราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ ที่มาเริงระบำอยู่บนโลกมนุษย์ และพบกับความสุขทางเพศจนไม่สามารถโบยบินกลับไปได้อีก แต่เหล่านางฟ้าก็เต็มใจที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งนี้พร้อมกับชายที่พวกเธอรัก..ผมเอง
ส่วนปลายของสระน้ำเป็นที่ตั้งของสระจากุชชี่ขนาดใหญ่ที่หมุนเวียนกระแสน้ำอุ่นช่วยในการผ่อนคลายความเมื่อยล้า ร่างเปลือยของน้องพิงค์กับน้องอิงค์แช่อยู่ที่ส่วนจากุชชี่อย่างสบายใจ เด็กหญิงทั้งสองซุกซิบกันแล้วหัวเราะต่อกระซิก ผมรู้ได้โดยสัญชาติญานว่าเรื่องที่สองพี่น้องคู่นี้คุยกันต้องเป็นเรื่องที่น้องอิงค์มอบความสาวให้ผมไปแล้วเมื่อเช้านี้
น้องซูกุมิขึ้นมาจากสระน้ำเดินตรงมาหาผมซึ่งนอนพักผ่อนที่เก้าอี้ข้างสระ ร่างเปลือยของน้องซูกุมิกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของผมได้ทุกครั้งที่เห็น ยิ่งเมื่อเป็นร่างเปลือยที่มีสายน้ำที่เกาะตัวมาไหลเป็นทางผ่านร่องหีอวบอิ่มลงลงสู่พื้นแบบนี้ ความรู้สึกของผมก็ถูกปลุกเร้าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ น้องซูกุมิเดินมานั่งข้างผมบนเก้าอี้เบียดสะโพกขาวนวลเข้ากับสะโพกผม
“น้าเอกไม่ลงไปเล่นน้ำหรือ..เดี๋ยวพวกซูกุมิจะแข่งว่ายน้ำกับพวกน้องรินะ น้าเอกช่วยเป็นกรรมการให้ทีได้ไหม”
เสีpงหวานๆ ของน้องซุกุมิถาม ผมเอื้อมมือไปลูบไล้ทรวงอกงามเบื้องหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนดึงร่างนั้นมาจูบปากหนักๆ ครั้งหนึ่ง
“เอาซี..มีใครแข่งบ้างล่ะ”
น้องซูกุมิตีมือผมเบาๆ ครั้งหนึ่ง
“มือน้าเอกนี่ซนที่สุด เข้าใกล้ทีไรเป็นได้จับนมแหย่หีทุกที…เดี๋ยวซุกุมิ ริโฮจัง ทากาโอะจัง เทนกะจัง และน้องมายุ จะแบ่งเป็นทีมหนึ่ง ส่วนน้องรินะ น้องโทโมเอะ น้องมิซูกิ น้องพิงค์ และน้องอิงค์จะเป็นอีกทีม ถ้าทีมใครแพ้คืนนี้ต้องช่วยให้ทีมชนะเย็ดน้าเอกแต่ห้ามเย็ดเองทั้งคืน”
“ว้า…น้าตั้งใจว่าจะเย็ดทุกคนเลยนะคืนนี้”
ผมแกล้งบ่นไปอย่างนั้นเอง เพราะการร่วมรักกับเด็กหญิงทั้งสิบคนพร้อมกันทั้งคืน ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยแม้จะเป็นร่างกายพิเศษของผมก็ตาม น้องซุกุมิค้อนผมอย่างน่ารักแล้วลุกขึ้นกลับไปที่สระน้ำเพื่อรวมกลุ่มกับทุกคน ผมมองตามร่างน้องซูกุมิแล้วนึกถึงภาพที่ผมแรกพบน้องซูกุมิบนดาดฟ้าแมนชั่นเดิมก่อนที่จะตกลงมาด้วยกัน ใจนึกขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ผมและน้องซูกุมิรอดชีวิตมาจนเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่สมบูรณ์ของผมในปัจจุบัน
————————-
บทแทรกที่ 5
ดร.นาโอมิเดินนำ พ.อ.สมิธมายังหลอดแก้วที่อยู่เคียงข้าง หลอดของนายเอกราช แสงไฟสีเขียวกระพริบอยู่ข้างแผ่นป้ายซึ่งเขียนไว้ว่า
ซูกุมิ ชินโนฮาร่า B1
อาการเริ่มต้น 5 ม.ค.2005
ดร.นาโอมิชี้ให้ดูแฟ้มบางๆ ที่มอบให้ พ.อ.สมิธ แล้วพูดเบาๆ ขณะที่ พ.อ.สมิธเปิดแฟ้มอ่านอย่างสนใจ
“ดิฉันได้ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลการเกิดคลื่นสมอง Alpha 9 ของนายเอกราชร่วมกับทุกคนที่เหลือ พบว่ามีการเกิดพร้อมกับผู้อื่นอีก 16 คน แต่มี 13คนที่เกิดเป็นประจำซึ่งก็คือหลอดที่มีไฟกระพริบทั้งหมด”
ดร.นาโอมิชี้ไปที่ร่างของเด็กหญิงในหลอดแก้ว
“เด็กหญิงซูกุมิคนนี้เป็นคนแรกที่เกิดอาการแพนโดร่าต่อจากนายเอกราช คือตอนที่คลื่นสมองของนายเอกราชกลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากหยุดไป 5 วัน เด็กคนนี้ซึ่งเฝ้าอาการของนายเอกราชอยู่ที่โรงพยาบาลก็ล้มหมดสติแล้วเข้าสู่อาการแพนโดร่า สัญญานสมองช่วงต้นสอดคล้องกับสัญญานของนายเอกราชราวกับว่าคนทั้งสองได้พูดคุยกันตลอดเวลา หลังจากนั้นอีก 21 วันผู้ที่พักอยู่ในเอกราชแมนชั่นของนายเอกราชทุกคนจำนวน 79 คนก็เข้าสู่กลุ่มอาการเดียวกัน ทำให้เกิดเป็นข่าวใหญ่ที่กรุงเทพฯ จนองค์การอนามัยโลกต้องเข้ามาตรวจสอบเนื่องจากสงสัยว่าอาจเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แต่ไม่พบอะไร ทำให้ต้องส่งร่างของทุกคนมาอยู่ที่โรงพยาบาลและย้ายนายเอกราชกับ ด.ญ.ซูกุมิมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อตรวจสอบสาเหตุ”
พ.อ.สมิธ เงยหน้าขึ้นจากแฟ้มแล้วถามเบาๆ
“แล้วสัญญานแสดงเพศสัมพันธ์ของนายเอกราชล่ะครับ”
ดร.นาโอมิ ชี้ไปที่ตารางบนแฟ้มของนายเอกราชซึ่งหญิงสาวถืออยู่ในมือ
“สัญญาน Alpah 9 เริ่มปรากฏต้นเดือนกุมภาพันธ์2005 พร้อมกับกลุ่มอาการแพนโดร่าเกิดขึ้นกับนักแสดงภาพยนต์และนักร้องหญิงของประเทศไทยจำนวน 16 คนโดยทุกคนทยอยกันเข้าสู่กลุ่มอาการห่างกัน 1 วัน ที่น่าสนใจคือหลังจากดิฉันได้ประมวลเวลาที่นายเอกราชเกิดคลื่นสมอง Alpha9 กับการเข้าสู่ภาวะแพนโดร่าของกลุ่มนักแสดงนักร้อง พบว่าสอดคล้องกัน ซึ่งดูเหมือนว่าเมื่อนายเอกราชเกิดคลื่น Alpaha 9 ก็จะมีนักแสดงหรือนักร้องหญิงคนหนึ่งหมดสติเข้าภาวะแพนโดร่า ที่น่าสนใจคือหลังจาก ด.ญ.ซูกุมิ เกิดคลื่นสมอง Alpha 9 เป็นครั้งแรกเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2005 ซึ่งเป็นการเกิดพร้อมกับนายเอกราช หลังจากนั้นการเกิดอาการแพนโดร่าในกลุ่มนักแสดงและนักร้องหญิงได้หยุดลงอย่างสิ้นเชิง และคลื่นสมองของนายเอกราชจะเกิดพร้อม ด.ญ.ซูกุมิเท่านั้น”
พ.อ.สมิธ พึมพัมออกมา พลางพิจารณาใบหน้างดงามในหลอดแก้ว
“ฟังดูคล้ายกับนายเอกราชเที่ยวไปมีเพศสัมพันธ์กับดารานักร้อง 16 คน แต่หยุดลงหลังจากมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิงคนนี้ แต่เด็กคนนี้หน้าตาน่ารักจริงๆ”
ดร.นาโอมิพยักหน้ารับ
“ความถี่ของการเกิด Alpha 9 ของทั้งคู่สูงมากจนและส่วนใหญ่จะเกิดช่วงเวลากลางคืน จนแทบเรียกได้ว่าตลอดเวลา แต่หลังจากนั้นอีก 14 วันก็พบความสัมพันธ์แบบเดียวกันกับเด็กหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งจากการตรวจสอบประวัติแล้วพบว่าเป็นเพื่อนสนิทของ ด.ญ.ซูกุมิ ”
———————-
ร่างเปลือยของน้องริโฮว่ายตรงเข้ามาที่ขอบสระซึ่งน้องซูกุมิรอที่จะสัมผัสมือเพื่อว่ายต่อ น้องริโฮเป็นคนแรกของทีมน้องซูกุมิที่กำลังแข่งว่ายน้ำกับทีมของน้องรินะ ทีแรกผมคิดว่าทีมของน้องซูกุมิคงจะชนะขาดลอยเนื่องจากมีรูปร่างที่เติบโตกว่าทีมของน้องรินะ แต่ผมกลับผิดคาดเพราะน้องรินะซึ่งเป็นคนแรกในทีมกลับว่ายอย่างรวดเร็วจนนำน้องริโฮหลายช่วงตัว ซึ่งคงเป็นผลมาจากการที่น้องรินะว่ายน้ำเป็นประจำทุกวันในขณะที่น้องริโฮชอบที่จะอ่านหนังสือตามประสาเด็กรักเรียนมากกว่า
น้องรินะขึ้นจากสระหลังจากส่งมือให้น้องโทโมเอะสัมผัส ร่างเปลือยบอบบางกระโดดมากอดผมทันทีจนหน้าอกกระทัดรัดอัดแน่นอยู่กับอกผม แล้วแกล้งส่งเสียงดังๆให้น้องซูกุมิได้ยิน ก่อนผละวิ่งไปรวมกลุ่ม
“อิ อิ วันนี้พี่ซูกุมิต้องช่วยให้รินะเย็ดน้าเอกแน่เลย”
น้องซูกุมิย่นจมูกล้อเลียนน้องรินะ ก่อนสัมผัสมือน้องริโฮแล้วพุ่งลงสระไปในทันที ผมเอื้อมมือไปช่วยดึงน้องริโฮขึ้นมาจากสระ น้องริโฮโผเข้ากอดผมแน่นบ่นเบาๆ
“โอ๊ย น้าเอก ริโฮเหนื่อยจัง”
ผมกอดน้องริโฮตอบ สองมือกุมหน้าอกตูมเต่งของน้องริโฮบีบไปมา
“‘งั้นน้านวดให้ริโฮจังนะ จะได้หายเหนื่อย”
น้องริโฮผละออกจากร่างผม แลบลิ้นอย่างน่ารัก
“ยังไม่ต้องนวดริโฮหรอก คืนนี้น้าเอกโดนริโฮนวดแน่ๆ”
ร่างอวบอัดหันกลับไปหาน้องทากาโอะที่กำลังจับจ้องน้องซูกุมิในสระเพื่อเตรียมเปลี่ยนตัว ผมมองตามสะโพกน้องริโฮแล้วยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงคืนที่เด็กหญิงเย็ดกับผมเป็นครั้งแรก น้องริโฮผู้ขี้อายในวันนั้นกลายมาเป็นน้องริโฮที่สดใสร่าเริงพร้อมรับการเย็ดในวันนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
——————————-
บทแทรกที่ 6
ดร.นาโอมิเดินผ่านหลอดแก้วที่เรียงรายมุ่งไปที่แสงไฟกระพริบสีเขียวเบื้องหน้า แล้วหยุดลงที่ป้ายระบุชื่อของผู้ที่อยู่ในหลอดแก้ว
ริโฮ ไอดะ B80
อาการเริ่มต้น 26 ม.ค.2005
ดร.นาโอมิ หยิบแฟ้มชุดหนึ่งยื่นให้ พ.อ.สมิธ ก่อนเริ่มอธิบาย
“ด.ญ.ริโฮ พักอยู่ที่เอกราชแมนชั่น ร่วมกับครอบครัว เข้าสู่อาการแพนโดร่าพร้อมกับผู้พักในแมนชั่น คลื่นสมองส่วนใหญ่ของ ดญ.ริโฮ จะสัมพันธ์กับ ด.ญ.ซูกุมิ แต่เริ่มปรากฏคลื่น Alpha 9 ในวันที่ 14 มี.ค.2005 พร้อมกับนายเอกราช หลังจากนั้น ทั้งนายเอกราช ด.ญซูกุมิ และ ด.ญ.ริโฮ ก็เกิดคลื่นนี้ร่วมกัน และบางครั้งก็เกิดแทบในเวลาเดียวกันกับ ด.ญ.ซูกุมิ”
พล.สมิธ พิจารณาร่างเด็กหญิงในหลอดแก้วแล้วเอ่ยขึ้นราวกับพูดกับตนเอง
“ฟังดูเหมือนมีเซ็กส์หมู่เลย”
ดร.นาโอมิหน้าแดงเล็กน้อย พิจารณาใบหน้ากลมน่ารักของเด็กหญิงในหลอดแก้ว ราวกับจะจำให้ขึ้นใจ ก่อนถอนหายใจเบาๆ แล้วหันมาตอบ พ.อ.สมิธ
“ถ้าวิเคราะห์ตามข้อมูลก็คงเป็นการมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันทั้งสามคน แต่ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจกว่านั้นอีก คือในอีกสามสัปดาห์ต่อมา..”
——————————
ร่างเปลือยของน้องซูกุมิและน้องโทโมเอะแทบจะกลับมาแตะน้องทากาโอะและน้องมิซูกิที่รออยู่พร้อมกัน แต่น้องทากาโอะดูจะพุ่งตัวออกไปก่อนน้องมิซูกิเล็กน้อย ร่างเปลือยงดงามที่ด้านหลังของน้องทากาโอะแสดงความงามสมบูรณ์ของสะโพกวัยสาวอย่างเต็มที่ ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงการร่วมรักทางด้านหลังกับน้องทากาโอะที่ทำเอาเด็กสาวติดใจและเรียกร้องให้ผมใช้การร่วมทางทวารหนักปิดท้ายเสมอ
ร่างน้องทากาโอะพุ่งผ่านน้ำไปอย่างรวดเร็ว และเริ่มทิ้งห่างน้องมิซูกิออกไป คงเป็นเพราะร่างกายที่เจริญเติบโตเกินวัยของน้องทากาโอะที่ทำให้เด็กสาวได้เปรียบในการแข่งขัน เมื่อเทียบกับน้องทุกคนแล้วน้องทากาโอะดูจะเติบโตเป็นสาวที่สุดราวกับอายุ 16-17 มากกว่าจะอายุ 13 ตามความเป็นจริง ใบหน้าหวานสดใสและรูปร่างที่อวบอิ่มสมบูรณ์เกินวัย ทำให้ทุกครั้งที่น้องทากาโอะออกไปข้างนอกจะมีชายหนุ่มทุกวัยพยายามแวะเวียนเข้ามาทำความรู้จักเป็นประจำ
น้องทากาโอะว่ายกลับมาแตะมือน้องเทนกะโดยนำหน้าน้องมิซูกิเกือบสองช่วงตัว แล้วยกมือขึ้นเป็นสัญญานให้ผมช่วยดึงขึ้นจากน้ำ ผมรีบเข้าไปดึงร่างสูงโปร่งงดงามขึ้นมา น้องทากาโอะโผเข้ากอดผมแน่นนมเต่งตึงที่ปลายงอนชี้ขึ้นเล็กน้อยประกบอยู่กับหน้าอกผม ความนุ่มนวลและหยุ่นตึงของมันกระตุ้นอารมณ์จนแทบทำให้ผมอยากจะจับน้องทากาโอะเย็ดเสียตรงนั้น มือผมบีบสะโพกกลมกลึงแรงๆ น้องทากาโอะหน้าแดงเมื่อรับรู้ว่าควยผมกระดกขึ้นสียดสีเนินหีงดงามของร่างเปลือยเบื้องหน้า แต่ผมต้องชะงักเมื่อมือน้อยๆ ข้างหนึ่งมากำควยผมไว้แน่นพร้อมเสียงใสๆ ดังขึ้น
“แน่ะ แน่ะ อย่าขี้โกงสิ…มิซูกิเห็นนะ”
น้องมิซูกิหัวเราะก๊กกั๊ก ดึงควยผมออกจากเนินหีน้องทากาโอะ ทำให้น้องทากาโอะหันไปกอดร่างเด็กหญิง แล้วบีบเต้านมน้อยๆ เบื้องหน้าอย่างมันเขี้ยว
“‘งั้นมิซูกิจังมาช่วยทากาโอะดีไหม”
น้องมิซุกิร้องกรี๊ด ปล่อยมือจากควยผมแล้ววิ่งไปรวมกลุ่มกับน้องรินะ ส่วนน้องทากาโอะยิ้มให้ผมอย่างสดใสแล้วเดินไปหาน้องซูกุมิ
น้องเทนกะว่ายกลับมาที่ขอบสระอย่างรวดเร็ว แม้จะนำหน้าน้องพิงค์อยู่แต่ดูเหมือนว่าน้องพิงค์กำลังไล่ตามเข้ามาทุกขณะ ซึ่งคงเป็นเพราะน้องพิงค์เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนเดิม และใช้ชีวิตกลางแจ้งที่เกาะไม้ขาวเป็นประจำ แต่ในที่สุดน้องเทนกะก็เข้าสัมผัสมือน้องมายุก่อนน้องพิงค์ครึ่งช่วงตัว น้องมายุกับน้องอิงค์พุ่งตัวออกไปไร่เลี่ยกัน ทิ้งให้น้องเทนกะกับน้องพิงค์หอบแฮ่กๆ อยู่ที่สระน้ำ ผมเดินไปยื่นมือให้ทั้งคู่แล้วดึงร่างน้อยๆ ขึ้นมาพร้อมกัน ร่างเปลือยที่ค่อยๆ พ้นน้ำจากหน้าอกไปถึงเนินหีของทั้งสอง ยิ่งทำให้ควยผมที่แข็งจากน้องทากาโอะเมื่อครู่กลับแข็งยิ่งขึ้นไปอีก หน้าอกอวบครัดเคร่งของน้องเทนกะชุ่มไปด้วยหยดน้ำ หัวนมเล็กจิ๋วที่โผล่พ้นป้านสีน้ำตาลอ่อนดูน่าลิ้มลองรสชาติของหัวนมบอดที่เพิ่งพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นรูปร่าง โหนกหีอวบอูมที่ซ่อนความลับสุดยอดของร่องหลืบแนวคลื่นเปล่งประกายกลางแสงแดดยามบ่าย ไรขนที่เริ่มขึ้นรางๆ แนบตัวเองกับสองแคมอวบเพิ่มความน่าสนใจและชวนให้ลองชิมความสุดยอดของหีที่แสนรัดรึงภายใน ส่วนน้องพิงค์แม้หน้าอกจะไม่เติบโตเท่าน้องเทนกะ แต่เรือนร่างเพรียวบนลำขาที่แข็งแรงได้รูป ประดับด้วยเนินหีไร้ขนที่เปียกชุ่มจากน้ำในสระและหยดเป็นสายลงมาตามร่องหีเล็กๆ ก็เป็นภาพที่กระตุ้นอารมณ์ได้ไม่แพ้น้องเทนกะเลย
‘เหนื่อยจังเลยน้าเอก’
เสียงทางจิตของน้องพิงค์ดังขึ้นในสมองผม
‘งั้นคืนนี้น้าช่วยปลอบให้หายเหนื่อยนะ’
‘อิ อิ งั้นพิงค์กับน้องอิงค์จะลุยน้าเอกพร้อมกันเลย ดีไหม’
ผมสื่อสารทางกระแสจิตตอบน้องพิงค์ ขณะที่สองแขนโอบน้องเทนกะและน้องพิงค์ไว้คนละข้าง หน้าอกอวบอัดของน้องเทนกะเบียดผมแน่นจนควยผมแข็งปั๋ง มือผมลูบไปที่สะโพกของทั้งสองดังเข้าหาตัวแล้วบีบเน้นหนักๆ ก่อนไล้ผ่านร่องหีอวบอิ่ม
“อูย..น้าเอก..เย็ดเทนกะตอนนี้เลยได้ไหม”
เสียงน้องเทนกะคราง ส่ายหน้าอกเสียดสีร่างผมไปมา ผมเอื้อมือไปลูบไล้เนินหีเบื้องล่างเพื่อพบว่ามันกำลังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรัก แต่เสียงน้องพิงค์รีบขัดขึ้น
“อ๊ะ อ๊ะ พี่เทนกะอย่าโกงนะ…ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเลย”
ผมหัวเราะดึงร่างทั้งสองเข้ามากอดแน่น แล้วแกล้งบ่นดังๆ
“เทนกะจังกับน้องพิงค์น่ารักขนาดนี้ น้าไม่สนใจผลแข่งขันหรอก ขอน้าเย็ดทั้งคู่เลยตอนนี้ได้ไหม”
น้องเทนกะมองน้องพิงค์แล้วพยักหน้ารับพร้อมกัน ผมดันร่างน้องเทนกะให้หงายลงกับเก้าอี้ริมสระแล้วกดควยที่กำลังแข็งโป๊กจมลงไปในร่องหีที่แสนเย้ายวนเบื้องหน้า น้องพิงค์รีบคุกเข้าลงกอดท่อนบนน้องเทนกะไว้แล้วดุนดันหน้าอกคู่งามไปมา
“โอ๊วส์….ดีจังน้าเอก”
เสียงน้องเทนกะครางเมื่อควยผมจมเข้าไปจนสุด ร่องหลืบแนวคลื่นเริ่มทำงานตอดรับลำควยจนความเสียวพลุ่งพล่าน ผมเริ่มโยกกระเด้าขึ้นลงช้าๆ
“ไม่เอา เทนกะจังขี้โกง”
“พี่เทนกะ แย่งไปแล้ว”
“โห..น้าเอก เย็ดพี่เทนกะตรงนี้เลยหรือ”
“อูยส์ น้าเอก เดี๋ยวเย็ดทากาโอะต่อนะ”
เสียงสาวๆ ประสานกันเซ็งแซ่รอบตัวผม ทุกคนมาล้อมเก้าอี้พักผ่อนที่ผมกำลังเร่งกระเด้ารูหีน้องเทนกะ ร่างเปลือยของนางฟ้าตัวน้อยๆ ที่รุมล้อมผมอยู่ยิ่งทำให้ควยผมแข็งสุดๆ เมื่อประกอบกับการถูกบีบรัดจากร่องหลืบแนวคลื่นของน้องเทนกะ ความเสียวยิ่งทวีขึ้นจนผมต้องเร่งการกระเด้าถี่ยิบ ร่างอวบอัดของน้องเทนกะกระเด้งรับบนเก้าอี้ ส่ายหน้าร้องลั่น
“อ๊าย…นะ น้าเอก…โอ๊วส์…”
ร่องหลืบสุดยอดที่บีบรัดลำควยผมเกร็งอย่างรุนแรงเป็นจังหวะ น้องเทนกะแอ่นสะโพกสุดตัวเพื่อรับควยให้ลึกที่สุดก่อนทิ้งร่างลงกับเก้าอี้ ผมถอนควยออกจากรูหีเบื้องหน้าจับร่างน้องพิงค์ที่ยังคงเคล้นคลึงหัวนมบอดของน้องเทนกะให้หงายขึ้นแล้วสอดควยเข้าสู่รูหีไร้ขนที่ผมแสนติดใจ ความฉ่ำเยิ่มจากการที่เห็นผมเย็ดน้องเทนกะเบื้องหน้าทำให้ควยผมเคลื่อนจมเข้าไปในหีน้องพิงค์ จนมิด
‘อูวส์..น้าเอก…แน่จัง’
น้องพิงค์ยกตัวขึ้นโอบรอบคอผมแน่น ปล่อยให้ผมเป็นฝ่ายกระเด้ารูหีน้อยๆ ในท่านั่ง ท่ามกล่างสายตาของทุกคนที่กำลังรุมล้อม
“อื้อฮือ..น้องพิงค์เก่งจัง อายุ 9 ขวบเองแต่รับควยน้าเอกได้หมดเลย”
“หีน้องพิงค์สวยจัง…”
“ดูสิ..น้าเอกเร่งแล้วล่ะ”
เสียงรอบข้างดังเซ็งแซ่แต่ความสนใจผมอยู่ที่ความรัดรึงของรูหีวัยเยาว์ที่กำลังขมิบรับแท่งควยผมอย่างสุดความสามารถ ผมจูบแลกลิ้นกับน้องพิงค์อย่างหนัก แต่ยังคงสื่อสารทางจิตต่อเนื่อง
‘โอ๊ย..นะน้าเอก เสียวจี๊ดๆ แล้ว’
‘น้าก็เสียว..หีน้องพิงค์เยี่ยมไปเลย’
‘โอ๊ย..เสียว…พิงค์จะไปแล้ว น้าเอกฉีดน้ำควยเข้ามาเลยนะ…’
‘น้า ก็จะ มาแล้ว…ไปพร้อมกันเลยนะ’
ผมอัดสะโพกเป็นครั้งสุดท้าย น้ำรักที่อัดแน่นพุ่งทะลักเข้าสู่มดลูกเยาว์วัย น้องพิงค์สะดุ้งเฮือกร่างกายเกร็งกอดผมแน่นก่อนฟุบร่างลงอย่างหมดแรง
ผมถอนควยออกจากหีน้องพิงค์ แล้วหันไปพบกับสายตาคาดหวังอีกแปดคู่ที่รออยู่รอบด้าน เสียงน้องรินะดังขึ้นแบบบ่นๆ
“โห..ไม่รอผลแพ้ชนะเลยหรือเนี่ย รินะอุตส่าห์จัดแข่งขัน น้าเอกเย็ดพี่เทนกะกับน้องพิงค์ไปซะแล้ว”
ผมคว้าร่างบอบบางเบื้องหน้าให้ล้มตัวลงกับตักแล้วอุ้มขึ้นไปที่เก้าอี้อีกตัวหนึ่ง
“งั้นเพื่อความยุติธรรม น้าจะเย็ดคนจัดการแข่งขันละนะ”
——————————–
บทแทรกที่ 7
“คลื่น alpha 9 ปรากฎเพิ่มขึ้นที่เด็กหญิงอีกสองคนแทบจะพร้อมกัน ด.ญ.ซูกุมิ และ ด.ญ.ริโฮ”
ดร.นาโอมิบรรยายต่อเนื่องขณะที่เดินนำ พ.อ.สมิธ ไปที่หลอดแก้วอีกสองหลอดที่อยู่เคียงข้างกัน ไฟกระพริบสีเขียวเต้นเป็นจังหวะสะท้อนแววตาของ ดร.นาโอมิ ที่ทอแววสับสน เบื้องหน้าเป็นป้ายบอกรายเละเอียดของบุคคลในหลอดแก้ว
ทากาโอะ อายะซูกิ B83
อาการเริ่มต้น 27 ม.ค.2005
เทนกะ ฮาชิโมโต้ B84
อาการเริ่มต้น 27 ม.ค.2005
“เด็กหญิงทั้งสองคนนี้เข่าสู่ภาวะแพนโดร่าพร้อมกับทุกคนในแมนชั่น ซึ่งมีข้อน่าสนใจที่ ด.ญ.ทากาโอะ เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ได้พักในแมนชั่นเช่นคนอื่นๆ แต่พักอยู่กับบิดามารดาที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น’
ดร.นาโอมิ อธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ พ.อ.สมิธ
ถามแทรกขึ้น
“หมายความว่ายังไงครับ”
“การที่ ด.ญ.ทากาโอะเข้าสู่ภาวะแพนโดร่าพร้อมคนในแมนชั่น ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในที่เดียวกัน แสดงว่าสาเหตุของแพนโดร่าไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคการติดต่อในรูปแบบใดๆ ซึ่งเมื่อประมวลประวัติแล้วพบว่า ด.ญ.ทากาโอะ และ ด.ญ.เทนกะ เป็นเพื่อนสนิทของ ด.ญ.ซูกุมิ และ ด.ญ.ริโฮ จึงเหลือความเป็นไปได้เพียงประการเดียวเท่านั้น ถึงสาเหตุของอาการแพนโดร่า”
พ.อ.สมิธ กลืนน้ำลายลงคอ แล้วถามเบาๆ
“สาเหตุคืออะไรครับ”
ดร.นาโอมิ ปิดแฟ้ม สายสายตากับผู้บังคับบัญชา The cave แล้วตอบอย่างจริงจัง
“การเหนี่ยวนำทางจิตระหว่างผู้มีอาการกับบุคคลภายนอกที่สนิทสนมคุ้นเคย”
“การเหนี่ยวนำทางจิต หมายความว่ามันแพร่กะจายไปสู่ทุกคนที่สนิทและคุ้นเคยกับผู้ป่วยหรือครับ”
ดร.นาโอมิพยักหน้ารับ
“ถูกต้องค่ะ และมีสิ่งยืนยันคือหลังจากเกิดคลื่น alpah 9 ระหว่างนายเอกราชกับเด็กหญิงทั้งสี่คน จำนวนผู้เข้าสู่อาการแพนโดร่าขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ และจากการตรวจสอบพบว่าทุกคนมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลทั้งห้า จนมีจำนวนผู้เกิดอาการ 168 คน ซึ่งนั่นเป็นช่วงที่ทางสหประชาติให้ความสนใจและขอให้สหรัฐฯ ช่วยย้ายผู้ป่วยไปยังสถานที่ที่ควบคุมได้ แต่ดิฉันเพิ่งทราบว่ามีการย้ายผู้ป่วยทั้งหมดมาที่ The Cave ในวันนี้”
พ.อ.สมิธ มีสีหน้าลำบากใจ เสียงถอนหายใจดังขึ้นก่อนตอบอย่างจริงจัง
“ในเมื่อ ดร.นาโอมิเป็นลูกสาวของท่านวุฒิสมาชิกโรเบิร์ต ผมก็คงไม่ต้องบิดบังว่าสาเหตุที่กองทัพสหรัฐฯ ย้ายผู้มีอาการทั้งหมดมาที่นี่ก็เพื่อวิจัยอาการแพนโดร่าเพื่อหาเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการติดต่อและปรับมาสร้างเป็นอาวุธชีวะภาพ”
“อาวุธเชื้อโรค”
ดร.นาโอมิ อุทานปิดปากอย่างตกใจ
พ.อ. สมิธ ฝืนยิ้ม
“ครับอาวุธเชื้อโรคเพื่อใช้ต่อผู้ก่อการร้าย แต่ในเมื่อ ดร.นาโอมิยืนยันว่าอาการนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค การวิจัยทั้งหมดก็คงไร้ประโยชน์ ผมคงต้องเสนอขอปิดการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างทั้ง 487 ตัวอย่างนี้”
ดร.นาโอมิ พยักหน้ารับ
“แล้วจะย้ายทั้งหมดไปที่ไหนล่ะค่ะ”
พ.อ.สมิธ มีสีหน้าลำบากใจ ก่อนตอบเบาๆ
“เราย้ายไม่ได้ครับ เพราะสถานที่แบบนี้มีแห่งเดียวในโลก แต่เราก็ปล่อยให้อยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ได้เช่นกัน เพราะ The Cave เป็นต้นแบบที่สมบูรณ์ที่สุดของการทดลองแช่แข็งมนุษย์ เราจำเป็นต้องใช้สถานที่นี้เพื่อการทดลองต่อไป”
ดร.นาโอมิ มีสีหน้าตกใจ อุทานออกมา
“อย่าบอกนะค่ะ ว่าทั้งหมดจะต้อง…”
พ.อ.สมิธ พยักหน้ารับอย่างเศร้าๆ
“ครับ เราจำเป็นต้องกำจัดตัวอย่างทั้งหมด”
———————
“อูวส์…..ม่ายหวายแล้วน้าเอก”
น้องมิซูกิครางลั่น ขณะที่ผมนั่งบนเก้าอี้ทำงานโดยมีร่างเปลือยน้องมิซูกิอยู่บนตัก ลำควยมันปลาบด้วยน้ำรักเคลื่อนเข้าออกรูหีน้องมิซูกิทางด้านหลังราวกับลูกสูบของเครื่องยนต์ที่ทำงานอย่างหนัก ร่างน้อยบิดส่ายไปมาด้วยความเสียวจากการถูกเย็ดรูหีอวบอัดที่คว่ำย้อยมาทางด้านหลัง สองมือผมเคล้นคลึงเต้าเต่งตึงไปมา แรงสะท้อนของเต้านมเด็กหญิงวัยแรกสาวที่ทั้งนุ่มนวลและสู้มือไปพร้อมๆ กัน ทำให้ผมเผลอขยำจนน้องมิซูกิต้องร้องครางออกมา
หัวควยที่บานพองเต็มที่อยู่ในร่องหลืบกระตุกงึกงักเป็นสัญญานว่าน้ำรักของผมกำลังจะทะลักออกมาอีกแล้ว ผมกระเด้งสะโพกเข้าอัดสะโพกครัดเคร่งบนตัก ตอบโต้การยกตัวขึ้นลงของน้องมิซูกิที่ยันมือไว้บนโต๊ะทำงาน ร่างเด็กหญิงสั่นระริกแต่ยังกระเด้าสะโพกโต้ตอบโดยไม่ยอมแพ้
“อ๊าววววววววว….”
น้องมิซูกิร้องลั่นเมื่อผมลั่นกระสุนน้ำรักชุดใหญ่เข้าสู่ร่องหลืบที่กระตุกรับ แรงขมิบหัวควยภายในรูหีเพิ่มความเสียวสุดยอดให้ผมจนต้องดึงร่างน้อยลงมากอดไว้แน่น น้องมิซูกิหงายร่างลงกับหน้าอกผม ผ่อนลมหายใจยาว
“โอย..น้าเอก มิซูกิแค่จะมาถามน้าเอกว่าจะกินอะไรกลางวัน ไหงโดนน้าเอกเย็ดอีกจนได้ก้ไม่รู้”
ผมซุกไซร้ซอกคอสาวน้อย จนน้องมิซูกิหดตัวหัวเราะกิ๊กด้วยความจั๊กกระจี้
“ก็มิซูกิจังแต่งตัวอย่างนี้มา ใครจะอดใจไหวล่ะ”
ผมหยิบกระโปรงสั้นจู๋ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานและเสื้อยืดสายเดี่ยวตัวน้อย ที่ผมแทบจะกระชากมันทิ้งเมื่อเห็น แล้วดึงตัวน้องมิซูกิมาเย็ดทั้งที่ยังนั่งทำงานอยู่ น้องมิซูกิขยับยกสะโพกถอนควยที่ฝังอยู่ออกเสียงดังพล็อก ก่อนรับชุดแสนชุดแสนเซ็กซี่ที่ผมหยิบขึ้นมาให้ แล้วขยับตัวลงจากเก้าอี้ทำงาน แต่งตัวพลางบ่นพึมพัม
“ไม่รู้น้าเอกเอาแรงมาจากไหน เย็ดมิซูกิได้ทุกวัน มิซูกิกลัวน้าเอกจะเบื่อมิซูกิซะก่อนนะ”
ผมดึงร่างเด็กหญิงที่ผมตั้งใจจะให้เป็นคนดูแลธุรกิจของผมในอนาคตมากอด แล้วกระซิบเบาๆ
“น้าไม่มีวันเบื่อมิซูกิจังหรอก..”
น้องมิซูกิหันมาจูบผมที่ปากแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ก่อนหันกลับมาบอกผม
“น้าเอกรีบลงมาทานอาหารกลางวันนะ วันนี้รับรองน้าเอกจะต้องแปลกใจ”
น้องมิซูกิยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้ววิ่งออกจากห้องทำงานไป ผมมองตามร่างนั้นด้วยความเอ็นดูก่อนลุกไปอาบน้ำเพื่อเตรียมลงไปทานอาหารกับทุกคนที่ห้องอาหารรวม
ผมและเมียทั้งสิบย้ายมาอยู่ที่แมนชั่นบางกระเจ้าได้อาทิตย์เศษแล้วทุกสิ่งราบรื่นราวกับความฝัน เมียผมทุกคนสนองตอบความต้องการของผมอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด จนผมเองก็รู้สึกแปลกใจตัวเองที่เกิดอารมณ์ต้องการร่วมรักได้ตลอดเวลาทันทีที่เห็นเมียคนหนึ่งคนใดผ่านเข้ามาในสายตา น่าแปลกที่ผมไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายการเย็ดกับทุกคน การเย็ดทุกครั้งดูราวกับเป็นการเย็ดครั้งแรกไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นหรืออามรณ์ที่พลุ่งพล่าน จนทำให้ผมเกิดความต้องการได้แทบตลอดเวลา ต่างกับประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตซึ่งหากผมมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใดเพียง 3-4 ครั้งผมก็จะเริ่มเบื่อหน่าย แต่การเย็ดกับเด็กหญิงเมียผมทั้งสิบคนให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ผมเฝ้ากระเด้าและโลมไล้ร่างกายเยาว์วัยของทุกคนอย่างมีความสุข การเย็ดทุกครั้งยิ่งเพิ่มความต้องการของผมให้วนเวียนอยู่กับร่างของเมียทุกคนโดยไม่เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย
ผมแต่งตัวเสร็จแล้วลงมาเพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับทุกคน สิ่งหนึ่งที่ผมยังไม่ชอบใจนักคือโรงครัวของที่นี่ปรุงอาหารได้ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ทุกคนออกปากบ่นเสมอจนผมเองก็พยายามติดต่อหาแม่ครัวที่มีฝีมือดีมาประจำแทนที่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไร้ผล
ที่โต๊ะอาหารใหญ่ เมียผมทุกคนนั่งรอรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา สีหน้าทุกคนมีแววประหลาดราวกับกลั้นยิ้มไว้จนผมรู้สึกถึงความผิดปกติ กลิ่นอาหารที่ลอยมายิ่งทำให้ผมแปลกใจเพราะความหอมชวนกินดูจะเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับห้องอาหารนี้ ผมนั่งลงที่โต๊ะพบว่าที่นั่งข้างผมทั้งสองด้านว่างอยู่ สายตาผมมองที่อาหารด้วยความแปลกใจเพราะไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหรือการจัดแต่งอาหารดูจะงดงามผิดแปลกจากอาหารที่กินกันมาตลอดอาทิตย์
“เดี๋ยวรอหม้อไฟสุกี้ยากี้ก่อนนะน้าเอก..โทโมเอะจังกำลังไปช่วยยกมา”
น้องรินะบอกผมเสียงใสแจ๋ว น้ำเสียงมีแววพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่ ผมหันไปสบตาทุกคนในโต๊ะที่ดูราวกับว่าอยากเห็นผมพบกับความแปลกใจครั้งใหญ่ เสียงประตูห้องครัวเปิดขึ้น น้องโทโทเอะประคองจานผักสดนำหน้าร่างสูงโปร่งที่ยกถาดหม้อสุกี้ควันกรุ่นเดินตามเข้ามา ผมจับตาใบหน้างดงามที่คุ้นเคยนั้นอย่างตกตะลึงจนต้องร้องออกมา
“ยูโกะ”
น้องยูโกะยิ้มให้ผมอย่างอ่อนหวาน ใบหน้าของหญิงสาวงามสดใสต่างจากวันที่ผมไปส่งให้เดินทางกลับไปแต่งงานที่ญี่ปุ่น ร่างงามเดินมาข้างๆ ผมแล้ววางหม้อไฟลงด้านหน้าผมก่อนทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ด้านข้างแล้วจูบแก้มผมเบาๆ โดยไม่สนใจสายตาของน้องๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะรอบด้าน
“ยูโกะมาเมื่อไหร่ มาได้ยังไงนี่”
ผมครางออกมา ยูโกะหัวเราะกิ๊กแล้วโถมกอดผมแน่นจนหน้าอกตูมตั้งอัดเข้ากับท่อนแขนผม เสียงกระซิบของยูโกะดังข้างหู
“ยูโกะจะกลับมาอยู่กับพี่เอก ไม่จากพี่เอกไปไหนอีกแล้ว”
ผมกอดตอบหญิงสาวผู้น่ารักและน้ำใจงดงามอย่างลืมตัว
“แล้วทางญี่ปุ่น…”
ยูโกะส่ายหน้า บอกผมเบาๆ
“ยูโกะหนีมาถึงที่นี่เมื่อวานนี้ ไปหาพี่เอกที่แมนชั่นเดิม คุณติ๋วบอกว่าพี่เอกพาเมียทุกคนมาอยู่ที่นี่ยูโกะเลยให้เขาพามาหาพี่เอก แต่พบกับน้องๆ ทุกคนก่อนเลยได้คุยกัน น้องทุกคนอยากให้ยูโกะมาอยู่ที่นี่ยูโกะจะได้ทำอาหารอร่อยๆ ให้พี่เอกทานตลอดไปไง พี่เอกให้ยูโกะอยู่ด้วยคนนะ”
ผมพยักหน้ารับอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ดึงร่างงามนั้นมากอดไว้แน่น แล้วกระซิบข้างหู
“พี่ยิ่งกว่าดีใจเสียอีกที่ยูโกะมาอยู่ด้วย”
ยูโกะซุกหน้าลงกับอกผม แล้วพูดเบาๆ พอได้ยินกันสองคน
“ยูโกะยังเป็นของพี่เอกคนเดียวนะ คนที่ยูโกะแต่งงานด้วยเขาหมดสมรรถภาพ ต้องการยูโกะไปแต่งงานเพื่อปิดบังความจริงเท่านั้น แต่ไม่เคยได้เย็ดยูโกะเลย ยูโกะยังคงเป็นเมียพี่เอกคนเดียวเท่านั้น”
ผมกระชับร่างงามไว้ในอ้อมกอด มือเริ่มไต่ไปตามแผ่นหลังลงสู่สะโพกงดงามอย่างลืมตัว ยูโกะหัวเราะกิ๊กก่อนผละร่างออกจากอ้อมกอดผม
“ทานอาหารฉลองกันก่อนนะพี่เอก”
ผมรู้สึกตัวว่าอยู่ในห้องอาหาร เงยหน้าขึ้นพบว่าสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ผม พร้อมรอยยิ้มแจ่มใส ทำเอาผมต้องปล่อยมือจากร่างยูโกะอย่างเสียดาย เสียงน้องโทโมเอะดังขึ้น
“พวกเราตกลงกันแล้วว่าเดี๋ยวตอนบ่ายจะไปเล่นเกมส์กันที่ห้องคอมพิวเตอร์ น้าเอกช่วยดูแลคุณแม่ของโทโมเอะหน่อยนะ”
เสียงหัวเราของเด็กหญิงทั้งสิบคนดังขึ้นพร้อมๆ กัน ยูโกะหน้าแดงชี้หน้าลูกสาวบุญธรรมอย่างล้อๆ ผมถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งใจทีทุกคนที่ผมรักมาอยู่กันพร้อมหน้า ผมหันไปหาน้องโทโมเอะที่กำลังทำหน้าล้อเลียนยูโกะแล้วแกล้งพูดดังๆ
“คนอื่นไปเล่นเกมส์ได้ แต่โทโมเอะจังต้องมากับยูโกะด้วย”
“น้าเอกบ้า…”
น้องโมโมเอะหน้าแดง สบตายูโกะแล้วก้มหน้าแต่ไม่ปฏิเสธ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคน
——————————–
บทแทรกที่ 8
ดร.นาโอมิ อ้าปากค้างกับคำตอบของ พ.อ.สมิธ อุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“กำจัด..นั่นหมายถึงการฆ่าคนทั้ง 487 คนนะค่ะ”
พ.อ.สมิธ ส่ายหน้า
“698 คนแล้วครับ เมื่อวานนี้มีผู้เกิดอาการแพนโดร่าถูกส่งมาเพิ่มขึ้น ตอนนี้กำลังเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ของเราประเมินว่าหากมีการแพร่ต่อไปในอัตรานี้ The Cave ที่สามารถรองรับได้เพียง 1000 คน จะเต็มภายในสองสัปดาห์แน่นอน เราจำเป็นต้องกำจัดต้นเหตุของการเผยแพร่ทั้งหมดก่อนที่จะสายเกินไป”
ดร.นาโอมิ ส่งเสียงตะกุกตะกักออกมาอย่างยากเย็น
“แต่ทุกคนยังมีชีวิต”
“มีชีวิตแต่ตกอยู่ในความฝันเท่านั้นครับ ในเมื่อไม่มีทางรักษาเราก็ต้องทำในสิ่งที่ต้องทำ”
ดร.นาโอมิสูดลมหายใจลึก พยายามอธิบายอย่างจริงจัง
“ดิฉันอยากบอกว่าพวกเขาไม่ได้ฝัน ทุกสิ่งที่พวกเขากำลังประสบอยู่เป็นความจริงเท่ากับที่เรากำลังพูดคุยอยู่ที่นี่ ท่านทราบไหมค่ะว่าเมื่อท่านจับต้องสิ่งของต่างๆ นั่นไม่ใช่การจับต้องจริง แต่เป็นเพียงการส่งสัญญานกระแสไฟฟ้าไปยังสมองให้รู้สึกว่าท่านได้จับต้องสิ่งของเท่านั้น การรับรู้ของพวกเรากับคนที่อยู่ในหลอดแก้วทั้งหมดไม่มีความแตกต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขาติดต่อกันสัมผัสกัน แม้กระทั่งมีเพศสัมพันธ์กันด้วยการรับรู้เหมือนกับพวกเราทุกประการ มันไม่ใช่ความฝันแต่เป็นการสัมผัสในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น การฆ่าพวกเขาไม่แตกต่างอะไรกับการฆ่าทุกคนที่อยู่ใน The cave นี้เลย มันน่าจะมีทางควบคุมการแพร่กระจายของการเหนี่ยวนำแพนโดร่าโดยไม่ต้องฆ่าพวกเขา ขอให้ท่านลองพิจารณาวิธีอื่นก่อนที่จะตัดสินใจได้ไหมค่ะ”
พ.อ.สมิธ ส่ายหน้า
“นั่นเป็นไปไม่ได้ครับ ความจริงหากมีการเปิดระบบครายโอเจนิสไว้แบบนี้ แล้วเปิดระบบปฏิบัติการ Doomsday ของ The Cave ห้องที่เราอยู่นี้จะถูกดึงลงไปใต้พื้นผิวโลกและฝังอยู่ในตะกั่วหนา 20 เมตรทันที ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่มีกระแสพลังงานทุกชนิดผ่านเข้าออก The cave ได้อีก และระบบจะดูแลร่างกายทุกคนไว้อย่างสมบูรณ์ โดยอาศัยเครื่องปฏิกรณ์ที่จะให้พลังงานอยู่ไปได้อีก 500 ปี”
ดวงตา ดร.นาโอมิฉายแววความหวังขึ้นเมื่อได้ยินคำว่า Doomsday แต่ พ.อ.สมิธ ไม่ทันสังเกต
“งั้นก็ทำเลยสิค่ะ”
“ดร.ทราบไหมครับว่า จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของ The cave คืออะไร”
โดยไม่รอคำตอบ พ.อ.สมิธ ก็กล่าวต่อไป ในขณะที่ ดร.นาโอมินิ่งฟังเงียบๆ
“The Cave เป็นโครงการลับที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ หน้าฉากเป็นการแจ้งต่อสภาว่าเป็นโครงการวิจัยเพื่อแช่แข็งมนุษย์ให้พร้อมสำหรับการเดินทางไปยังดาวดวงอื่น แต่ความจริงแล้วที่นี่เป็นสถานที่เตรียมไว้สำหรับผู้นำสหรัฐฯ และผู้มีอิทธิพลทางการเมืองหากเกิดสงครามนิวเคลียร์ล้างโลกขึ้น ทุกคนจะถูกส่งมาเข้าบรรจุในหลอดพวกนี้และแช่แข็งไว้เพื่อรอดจากสงครามที่ทำลายมนุษยชาติ The Cave ใช้เงินทุนมหาศาลและมีเพียงแห่งเดียวในโลก ดังนั้นจึงไม่มีทางเลยที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะอนุญาตให้ใช้สถานที่นี่เพื่อการเก็บรักษาผู้เกิดอาการแพนโดร่า ทางเดียวและเป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านประธานาธิบดีคือต้องกำจัดทุกร่างในห้องนี้ หวังว่า ดร.คงเข้าใจนะครับ”
พ.อ.สมิธ กล่าวจบพร้อมหันร่างเดินออกไปจากห้อง ก่อนส่งเสียงบอก ดร.นาโอมิ
“พรุ่งนี้เวลา 06.00 น. ผมจะปิดระบบทั้งหมด ดร.กรุณาเก็บข้อมูลที่ต้องการให้เสร็จในเย็นนี้ เฮลิคอปเตอร์จะมารับ ดร. เดินทางกลับเวลา 20.00 น. ผมคงไม่ได้พบ ดร.อีกแล้ว ขอลาไว้ที่นี่ก็แล้วกัน”
ร่าง พ.อ.สมิธ ออกจากห้อง ทิ้งให้ ดร.นาโอมิยื่นนิงราวกับต้องคำสาปอยู่ท่ามกลางหลอดแก้ว ที่ส่งแสงกระพริบราวกับยังไม่รู้ชะตากรรมของผู้ที่ถูกบรรจุอยู่ภายใน
——————————–
“แม่จ๋า…พ่อเย็ดโมโมเอะแล้ว..อ๊าวส์”
เสียงน้องโมโมเอะร้องลั่นเมื่อผมฝังแท่งควยเข้าสู่ร่องหลืบอวบอัดเบื้องล่าง แคมหีสองข้างยังคงบีบรัดแน่นหนึบราวกับครั้งแรกที่ผมเย็ดน้องโมโมเอะ เสียงร้องและสรรพนามที่น้องโทโมเอะใช้กับผมยิ่งทำให้อารมณ์ผมพลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้นราวกับกำลังเย็ดลูกสาวตัวเองเป็นครั้งแรก
“พ่อเย็ดเก่งไหม โทโมเอะจัง”
ร่างเปลือยของยูโกะกอดท่อนบนของน้องโทโมเอะไว้แน่น กระซิบถามข้างหูลูกสาวด้วยเสียงกระเส่าเพราะสองมือผมที่บีบเคล้นเต้างามของยูโกะจนหัวนมแข็งชูชัน
“พ่อเย็ดเก่งที่สุด เย็ดโทโมเอะทุกวันเลย..แม่ละ ชะ ชะ ชอบให้พ่อ ยะ เย็ดไหม…อื๋ยส์”
น้องโทโมเอะตอบยูโกะ ทั้งที่สะโพกอวบอัดเด้งสู้ควยผมอย่างไม่ลดละ รูหีหนึบแน่นตอดหัวควยผมถี่ยิบราวกับต้องการจะรีดน้ำรักออกมาให้เร็วที่สุด
“โทโมเอะต้องรักพ่อให้มากๆนะ … พ่อจะเย็ดเมื่อไหร่อย่าปฏิเสธ สัญญากับแม่ นะ…ซีดส์”
ยูโกะพร่ำบอกลูกสาว แล้วร้องครางออกมาเมื่อนิ้วผมแทรกตัวเข้าสู่เนินหีอวบอิ่มของร่างที่คุกเข่าอยู่ทางด้านหลัง สะโพกกลมกลึงส่ายรับแล้วกระเด้งให้นิ้วเย็ด ความชุ่มโชกที่หลั่งออกมาเป็นสายตามนิ้วมือบอกให้ผมรู้ว่ายูโกะกำลังต้องการควยผมเต็มที่แล้ว แต่ด้วยความเป็นแม่จึงให้ผมเย็ดลูกสาวก่อน ผมนึกถึงคำพูดของยูโกะที่กำชับให้น้องโทโมเอะเรียกผมว่าพ่อเวลาร่วมเย็ดกับสองแม่ลูก ยิ่งทำให้ควยผมเสียวแทบระเบิด ผมจับขาอวบของน้องโทโมเอะยกขึ้นแล้วกระหน่ำควยเข้ากระเด้ารูหีลูกสาวชั่วคราวของผมอย่างรุนแรง ความเสียวพุ่งปรี๊ดมาที่ปลายควย จนผมต้องครางลั่น
“โทโมเอะ..พะ พ่อ มาแล้ว…”
“อื้ดดดดดด พ่อจ๋า…โมโมเอะ ก็ ..ก็..อ๊ายยยยย”
สะโพกอวบอัดของน้องโทโมเอะกระตุกถี่ยิบ พร้อมกับน้ำรักผมพุ่งอัดเข้าไปเต็มแรง ผมดึงแท่งควยออกจากร่องหลืบน้องโมโมเอะทั้งที่มันยังพ่นน้ำรักอยู่แล้วอัดเข้ารูหรอวบของยูโกะที่โก้งโค้งอยู่เบื้องหน้าทันที
“โอย…พี่เอก…เย็ดยูโกะเร็วๆ…ลึกดีจัง”
ผมจับสะโพกอวบอักของยูโกะไว้ทั้งสองมือแล้วโยกควยที่ยังคงแข็งปั๋งเข้าออกแคมหียูโกะโดยไม่มีการผ่อนแรง น้ำรักที่ชุมโชกทำให้ควยผลุบเข้าออกอย่างสะดวก แต่มันยังคงความคับแน่นไว้ที่ผมติดใจเต็มที่ เสียงคราวญครางของยูโกะดังลั่นตามการเย็ดที่ดุเดือด
” พี่เอก..หียูโกะดีไหม ..สู้โทโมเอะจังได้ไหม”
“หียูโกะทั้งอวบทั้งดูด ไม่แพ้ใครรับรอง อูยส์..หนึบดีจริงๆ”
ผมไม่ได้พูดเกินความจริงแต่ประการใด แม้หีของยูโกะจะเป็นหีของหญิงสาวอายุ 27 แต่มันเป็นหีที่ไม่เคยผ่านควยผู้ชายคนไหนมาก่อนจนผมเองเป็นคนที่รับความบริสุทธิ์ไว้เป็นคนแรก และแม้ยูโกะจะไปแต่งงาน แต่ผู้ชายโชคร้ายคนนั้นก็กลับเป็นคนไร้สมรรถภาพทางเพศทำให้ไม่สามารถรับรู้ความคับแน่นสุดยอดของหีหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบเช่นยูโกะได้ หีของยูโกะให้ความรู้สึกของการตอดรัดแตกต่างจากหีของเด็กหญิงเช่นน้องโทโมเอะ ที่เกิดจากความคับแน่นของหีวัยเยาว์ ต่างกับหีที่เติบโตเต็มที่มีกล้ามเนื้อภายในที่เต้นระริกรับการเย็ดของยูโกะให้ความรู้สึกแตกต่าง แต่ก็ประทับใจไม่แพ้กัน
“พี่เอก…อูยส์ ทำไมมันเสียวอย่างนี้..อ้าวส์”
สะโพกอวบอัดของยูโกะกระเด้งรับการเย็ดของผม ความนุ่มนวลเคร่งครัดของแก้มก้นที่บดเบียดหน้าท้องผมยิ่งทำให้การกระเด้าเพิ่มรสชาติหลายเท่าความเสียวพล่านมาที่หัวควยอีกรอบ ผมรีบพลิกร่างยูโกะให้นอนหงายบนเตียงคู่กับลูกสาวที่นอนเหยียดยาวอยู่ด้านข้างแล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นให้โคกหีอวบแอ่นขึ้นก่อนกระหน่ำเย็ดถี่ยิบ ยูโกะบิดส่ายร่างราวกับเจ็บปวดแต่กระเด้งรับการเย็ดโดยไม่กลัวเกรง
“อ๊าวส์ …ยะ ยูโกะ ปะ ไปแล้ววววว”
กล้ามเนื้อหีทุกส่วนของยูโกะกระตุกถี่ยิบ ร่างงามผวาตัวขึ้นมากอดผมแน่น พร้อมกับผมระเบิดน้ำรักออกมาใส่มดลูกของยูโกะเนืองนอง…ยูโกะอัดโหนกหีเข้ากับผมควยผมแน่น ภายในหลืบหีตอดหัวควยผมถี่ดูดรับน้ำรักราวกับต้องการรับทุกหยดไม่ให้หลุดรอกออกมาภายนอก ผมพลิกตัวลงนอนตะแคงทั้งที่ควยยังฝังอยู่ในรูหียูโกะ ลูบไล้หลังนวลเนียนไปมา เสียงยูโกะครางเบาๆ
“โอย..น้ำพี่เอกเยอะจัง ยูโกะจะท้องหรือเปล่าก็ไม่รู้”
ผมจูบปากนิ่มนวล ก่อนกระซิบตอบ
“พี่ก็อยากให้ท้อง อยากให้ยูโกะเป็นแม่ของลูกพี่นะ”
“ถ้าเป็นลูกสาวก็ดี โตขึ้นจะได้ให้พี่เอกเย็ดอีก..”
ผมหัวเราะเบาๆ
“เมื่อกี้พี่ก็เย็ดลูกสาวไปแล้วไง..”
“พ่อจ๋า”
เสียงน้องโทโมเอะดังขึ้น ร่างน้อยปีนขึ้นมาทับร่างผมและยูโกะเอาไว้ ผมแกล้งตอบแบบล้อๆ
“ว่าไงลูกโทโมเอะ จะให้พ่อเย็ดอีกรอบหรือเปล่า”
น้องโทโมเอะ ซุกหน้าลงกับหน้าอกยูโกะ ครางตอบอู้อี้
“แม่บอกว่าห้ามโทโมเอะปฏิเสธ ถ้าพ่อต้องการเย็ดโทโมเอะก็พร้อม”
ผมดึงสะโพกน้องโทโทเอะให้ยกสูง เนินหีทางด้านหลังปลิ้นแคมออกมาคับสะโพก น้ำรักที่ผมฝากไว้ไหลออกมาเป็นสาย ผมถอนควยออกจากร่างยูโกะแล้วปล่อยร่างน้องโทโมเอะลงระหว่างกลางโดยหันหลังให้ผม ลำควยจ่อเข้ากับพลูหีอวบอัดก่อนดันเข้าสู่ร่างลูกสาวยูโกะ ที่ถอยสะโพกมารับแท่งควยอย่างเต็มใจ
“‘งั้นพ่อจะเย็ดลูกให้คลานเลยนะวันนี้”
“อ๊าส์…พ่อขา…”
—————————-
บทแทรกที่ 9
ดร.นาโอมิ นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่นบ่งบอกความสับสนในจิตใจ หญิงสาวเอื้อมือไปเปิดโน็คบุ๊คส่วนตัว เปิดแฟ้มข้อมูลชุดหนึ่งซึ่งซ่อนไว้จากรายชื่อไฟล์ทั่วไปด้วยความชำนาญ บนจอภาพปรากฎอักษรกระพริบ อ่านได้ว่า
พี่เอก
ดวงตากลมโตของ ดร.นาโอมิปรากฏน้ำตาคลอ ขณะที่เคอร์เซอร์ของเม้าส์ผ่านเข้าคลิกเปิดไฟล์ลับ ภาพของชายหนุ่มอายุประมาณ 26-27 ปีปรากฏขึ้นบนจอภาพ ใบหน้าของชายหนุ่มจ้องตรงมาริมฝีปากมีรอยยิ้มอย่างร่าเริง หญิงสาวเอื้อมมือไปสัมผัสหน้าจอ เสียงพึมพัมแผ่วเบาดังขึ้นจากริมฝีปาก
“พี่เอกของนาโอมิ นี่นาโอมิจะทำยังไงดี”
ท่ามกลางม่านน้ำตาจิตใจหญิงสาวหวนระลึกไปถึงอดีตที่ผ่านมา
————————–
ผมแช่ร่างอยู่ในอ่างจากุชชี่อย่างสบายใจ การเย็ดกับยูโกะและน้องโทโมเอะสองแม่ลูกให้ประสบการณ์ใหม่แก่ผมอย่างน่าประทับใจ ทำเอาผมเฝ้าเวียนว่ายเสพย์รับความสุขจากหีสองวัยอย่างลืมตัว จนแทบนับไม่ได้ว่าผมหลั่งน้ำรักเข้าสู่มดลูกทั้งสองกี่ครั้ง แต่ที่แน่ๆ ก็คือทั้งยูโกะและน้องโทโมเอะนอนสลบไสลอยู่บนเตียงผมอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
ผมหลับตาลงเพื่อพักสายตาที่เหนื่อยล้า สมองเปิดโล่ง แต่แล้วผมต้องสะดุดสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังแผ่วเบาขึ้นในสมอง เสียงที่ผมแสนคุ้นเคยและจำได้อย่างไม่มีวันลืม
“พี่เอกของนาโอมิ นี่นาโอมิจะทำยังไงดี”
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กสาวที่ใกล้ชิดกับผมที่สุดในโลกปรากฏขึ้นมาในความทรงจำ ความคิดผมย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา..
———————-
บทแทรกที่ 10
(มิถุนายน 1998)
“พี่เอก..”
เสียงใสแจ๋วของเด็กหญิงวัยแรกสาวดังลั่นขึ้น ด้านหลัง เมื่อผมหันหน้าไปก็ต้องหงายหลังลงกับพื้นเสื่อตาตามิที่ปูห้องชงชา โดยมีร่างของเด็กหญิงทับเอาไว้ด้านบน
“พี่เอกจะกลับมาบ้านก็ไม่บอกนาโอมิก่อน แล้วทำไมแอบมานั่งที่บ้านชงชาเงียบเชียว พี่เรโกะไม่มีด้วยหรือ แล้วนี่พี่เอกจะอยู่นานไหม…”
ปากน้อยๆ ระดมคำถามใส่ผมแบบไม่ยอมให้ตั้งตัว ผมมองใบหน้าแจ่มใสของเด็กหญิงเบื้องหน้าด้วยความชื่นใจ น้องนาโอมิซึ่งผมเห็นมาตั้งแต่แรกเกิด วันนี้เติบโตเป็นเด็กสาวแรกแย้มที่ส่อเค้าว่าจะกลายเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดคนหนึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดวงตากลมโตสุกใสจ้องหน้าผมอย่างกระตือรือล้น เสื้อยืดตัวเล็กรัดหน้าอกขนาดย่อมที่เติบโตเกินวัยและกางเกงขาสั้นจู๋อวดเรียวขาขาวสะอาดที่เหยียดตรงอย่างเต็มที่ไปถึงแก้มก้นเนียน ทำให้เป็นภาพที่ชายหนุ่มทุกคนที่ได้เห็นจะต้องเหลียวหลัง แต่ร่างนี้เป็นร่างของน้องนาโอมิ ลูกสาวคนเดียวของอาโรเบิร์ต มัสสุโมโต้ เพื่อนสนิทของคุณพ่อผม ซึ่งทำงานอยู่กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และกำลังจะได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ครอบครัวของน้องนาโอมิพักอยู่ในบ้านหลังเล็กเงียบสงบในอาณาเขตเดียวกันกับบ้านผม ตามคำขอร้องเชิงบังคับของคุณพ่อผมที่ต้องการให้เพื่อสนิทคนเดียวของท่านมาอยู่ด้วยกัน น้องนาโอมิจึงแทบจะเรียกได้ว่าเป็นน้องสาวแท้ๆ ของผม ที่ผมเป็นทั้งพี่เลี้ยงและครูสอนพิเศษให้มาตลอดเวลา 13 ปี ดังนั้นแม้ร่างสาวน้อยจะอยู่ในชุดอยู่กับบ้านที่ล่อแหลมสายตาชายหนุ่ม แต่สำหรับผมร่างนี้ยังคงเป็นเด็กหญิงที่ผมเคยอุ้มพาไปซื้อขนมและคอยปลอบโยนยามเสียใจเสมอมา
“เอ้า..ค่อยๆ ถามที่ละข้อสิเรานี่ โตแล้วนะ มาทับพี่แบบนี้ได้ยังไงกัน”
ผมดุอย่างไม่จริงจังนะ น้องนาโอมิหัวเราะกิ๊กขยับตัวจากร่างผมลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิตรงหน้าผม แล้วถามอย่างเป็นงานเป็นการ
“พี่เอกมาถึงเมื่อไร่เนี่ย”
แววตาสดใสของน้องสาวที่รักตรงหน้าทำให้ความขุ่นมัวในใจผมที่เกิดจากการบอกเลิกของเรโกะเลือนลางไปผมหัวเราะเบาๆ ลูบเรือนผมสั้นแค่คอที่ตัดแบบเด็กผู้ชายของเด็กหญิงแรกสาวด้วยความเอ็นดู
“พี่เพิ่งมาถึงเมื่อคืน เอ้าลืมไป พี่มีของมาฝากนาโอมิจังด้วยนะ ”
ผมหันไปหากระเป๋าด้านข้าง หยิบโน๊ตบุ๊ค IBM ใหม่เอี่ยมออกมายื่นให้น้องนาโอมิ
“เอ้า Happy Birthday ย้อนหลัง 2 วัน อายุ 13 แล้วนะน้องสาวของพี่”
น้องนาโอมิตาโตโถมเข้ากอดผม พึมพำข้างหู
“พี่เอกไม่เคยลืมวันเกิดนาโอมิเลย ขอบคุณพี่ชายม๊ากมาก”
ทรวงอกแรกสาวที่ร่างกายผมกำลังสัมผัสนิ่มนวลและหยุ่นตึงจนรู้สึกได้ว่าภายใต้เสื้อยืดตัวเล็กที่ใส่อยู่กับบ้านนั้น น้องนาโอมิไม่ได้ใส่เสื้อชั้นในไว้อย่างแน่นอน สัมผัสของน้องสาวทำเอาผมปั่นป่วนเล็กน้อยแต่พยายามระงับใจดันร่างน้องนาโอมิออกให้ไปที่โน๊ตบุ๊คเบื้องหน้า
“เอ้าดูซะพอใจไหม”
น้องนาโอมิคว้าโน๊ตบุ๊คมาเปิดอย่างชำนาญ แล้วอุทานออกมา
“โอ้โฮพี่เอก เพนเทียม 200 ด้วย”
ผมมองใบหน้าสดใสนั้นด้วยความเอ็นดู ก่อนบอกอย่างจริงจัง
“สำหรับว่าที่นักศึกษาโตไดปีหน้า จะน้อยกว่านี้คงไม่ได้แน่ๆ จริงไหม?”
ผมไม่ได้พูดล้อเล่นแต่ประการใด เด็กสาวเบื้องหน้าแม้อายุเพียง 13 ปี แต่มีระดับสมองระดับอัจฉริยะจนไม่สามารถเข้าโรงเรียนปกติได้ และต้องศึกษากับครูพิเศษซึ่งอาโรเบิร์ตเป็นผู้จัดมาให้ ซึ่งครูพิเศษแต่ละคนล้วนแต่เป็นนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์จากอเมริกาโดยตรงที่ทางสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ติดต่อประสานให้เดินทางมาสอนน้องนาโอมิ คุณพ่อผมเคยกระซิบบอกว่าน้องนาโอมิมีระดับ IQ ถึง 190 และอยู่ในโครงการพัฒนานักวิทยาศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามน้องนาโอมิยืนยันที่จะเข้าศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโตเกียวในปีหน้า และมีเพียงผมที่รู้เหตุผลในการตัดสินใจของน้องนาโอมิ
น้องนาโอมิโน้มตัวซบหน้าลงกับตักผม ส่งเสียงเบาๆ
“ถ้าพี่เอกไม่ได้จบมาจากโตได นาโอมิก็ไม่ไปเรียนโตไดหรอกนาโอมิอยากอยู่ที่นี่มากกว่า แต่นี่พี่เอกไปอยู่โตเกียวแล้วไม่กลับบ้านนานๆ นาโอมิคิดถึงพี่เอกนะ”
ผมลูบศีรษะน้อยๆ ไปมา ร่างเบื้องหน้าเป็นเด็กหญิงที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นน้องสาวแท้ๆ คนเดียวของผมในโลกนี้ ผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่าคิดถึงน้องสาวคนนี้เป็นที่สุดเหมือนกัน
“งั้นปีหน้าพอนาโอมิเข้าโตไดแล้ว พี่จะพาไปเที่ยวให้ทั่วเลยดีไหม”
น้องนาโอมิหัวเราะออกมา ยกตัวขึ้นมาจูบแก้มผมเบาๆ แต่แล้วใบหน้าสดใสก็เปลี่ยนไป ถามผมเบาๆ
“พี่เอกมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าถึงมานั่งที่นี่น่ะ”
ผมถอนใจ น้องนาโอมิสนิทกับผมจนรู้ดีว่าเมื่อใดที่ผมไม่สบายใจผมจะมาที่ห้องชงชาซึ่งเป็นเรือนหลังเล็กตั้งอยู่ด้านในของพื้นที่บ้านแยกต่างหากจากบ้านใหญ่ รอบด้านตกแต่งด้วยสวนญี่ปุ่นงดงาม ปกติแล้วที่นี่จะเปิดเพื่อรับแขกเท่านั้นแต่ผมมักจะหลบมาใช้เป็นที่สงบอารมณ์เมื่อผมไม่สบายใจเสมอ ผนยิ้มฝืนๆ ให้น้องนาโอมิ
“ไม่มีอะไรหรอก พี่มีเรื่องกับเรโกะน่ะ ตอนนี้เลิกกันแล้ว”
น้องนาโอมิอ้าปากอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ
“พี่เอกเลิกกับพี่เรโกะ..ทำไมล่ะ”
“เรื่องของผู้ใหญ่น่ะ นาโอมิจังอย่ารู้เลย”
ผมส่ายหน้าและพยายามตัดบท ผมไม่สามารถบอกน้องนาโอมิได้หรอกว่าสาเหตุที่เรโกะเลิกกับผมก็คือเมื่อสามวันที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเย็ดกับเรโกะเป็นครั้งแรกหลังจากเป็นแฟนกันมา 3 เดือน สาวสวยที่เป็นที่หมายปองของหนุ่มทุกคนในมหาวิทยาลัยโตเกียวงดงามที่สุดยามเปลือยเปล่า แต่เมื่อผมเย็ดด้วยควยขนาด 2 นิ้วครึ่งของผม มันทำให้เรโกะผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด และขอเลิกกับผมในวันรุ่งขึ้นโดยบอกตรงๆ ว่าผมไม่สามารถให้ความสุขจากการเย็ดที่เรโกะต้องการได้ ความผิดหวังครั้งนี้รุนแรงมากจนผมต้องกลับมาสงบสติอารมณ์ที่บ้าน และมายังสถานที่เดียวที่ปราศจากคนรบกวนคือที่ห้องชงชานี้
“ใครบอกว่านาโอมิเด็ก นาโอมิโตแล้วนะ มีประจำเดือนแล้วด้วย”
น้องนาโอมิประท้วงทันที กุมมือผมแน่น สายตาเด็กหญิงแสดงความห่วงใยออกมาอย่างชัดเจน ก่อนขอร้องผมต่อ
“พี่เอกเล่าให้นาโอมิฟังนะ นาโอมิอยากช่วยให้พี่เอกมีความสุข”
ผมส่ายหน้าช้าๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ประตู ภายนอกฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนัก สายฝนเย็นยะเยือกแต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยให้ผมคลายความร้อนรุ่มจากความผิดหวังได้เลย น้องนาโอมิเข้ามากอดผมไว้ทางด้านหลัง เสียงเด็กหญิงสั่นเครือ
“พี่เอกอย่าเป็นทุกข์นะ นาโอมิขอร้อง พี่เอกมีเรื่องกลุ่มใจอะไรบอกนาโอมิเถอะ”
ร่างกายผมรับรู้ถึงความอบอุ่นเบื้องหลัง แต่หัวใจกลับเหนื่อยหน่ายกับทุกสิ่งรอบข้าง ผมหันไปหาน้องนาโอมิ ดันร่างที่กอดผมแน่นออกแล้วบอกด้วยเสียงดุเครียด
“นาโอมิจังกลับไปที่บ้านเถอะ พี่ขออยู่คนเดียวสักพัก ตอนนี้อย่าเพิ่งยุ่งกับพี่เลยนะ”
น้องนาโอมิมองหน้าผมอย่างตกตะลึง ที่ผ่านมาผมไม่เคยใช้น้ำเสียงดุน้องสาวที่ผมแสนรักคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ดวงตาเด็กหญิงเริ่มมีน้ำตาเอ่อล้น ส่งเสียงสะอื้นตัดพ้อ
“นาโอมิมีพี่เอกเป็นพี่ชายคนเดียว ถ้าพี่เอกไม่สนใจ นาโอมิก็ไม่รู้จะอยู่กับใคร”
ร่างเด็กหญิงวิ่งออกไปที่สวนด้านนอกท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ร่างน้อยเปียกโชกท่ามกลางความตกตะลึงของผม เสียงน้องนาโอมิร้องดังกลางสายฝน
“พี่เอกไม่รักนาโอมิแล้ว…”
ผมตั้งสติได้รีบวิ่งออกไปอุ้มร่างน้องนาโอมิขึ้นมาแล้วพากลับเข้ามาที่ห้องชงชา ร่างน้องนาโอมิเปียกโชกจากสายฝนแต่ยังคงพยายามดิ้นรน ส่งเสียงลั่นปนสะอื้น
“พี่เอกปล่อยนาโอมิ ไม่ต้องมาสนใจนาโอมิ”
ผมกอดร่างน้อยไว้แน่นเพื่อให้หยุดดิ้น พร่ำบอกดังๆ ข้างหู
“นาโอมิจัง พี่รักนาโอมิจังที่สุดนะ รักจนไม่ต้องการให้นาโอมิจังไม่สบายใจเรื่องของพี่ เข้าใจไหมใครจะเป็นอย่างไรคิดกับพี่ยังไงพี่ไม่สนใจ มีแต่นาโอมิจังเท่านั้นที่พี่ต้องการให้มีความสุขที่สุด…”
น้องนาโอมิค่อยๆ สงบลงจนหยุดดิ้น มองหน้าผมแล้วกอดผมแน่น
“นาโอมิก็รักพี่ชายคนนี้ที่สุด นาโอมิอยากช่วยแบ่งความทุกข์ของพี่เอกบ้าง”
“เอาล่ะ..พี่เข้าใจแล้วเดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้ขอพี่เปิดเครื่องทำความร้อนก่อน เปียกฝนจนหนาวจะแย่อยู่แล้ว”
ผมวางร่างน้องสาวแสนรักลงกับพื้นก่อนหันหลังมาเดินไปเปิดเครื่องทำความร้อน แต่เมื่อผมหันกลับมาก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่านาโอมิกำลังถอดเสื้อยืดออกจากร่าง หน้าอกคู่งามขนาดใหญ่เกินเด็กญี่ปุ่นทั่วไป ตั้งตระหง่านชูช่อปลายยอดประดับด้วยเม็ดทับทิมสีแดงสดตัดกับผิวกายที่ขาวละเอียด ผมอ้าปากค้างขณะที่เสื้อยืดหลุดลงไปกองที่พื้นและน้องนาโอมิกำลังเตรียมถอดกางเกงขาสั้นจู๋ออกจากร่างตามมา
“นะ นาโอมิ ทำอะไรน่ะ”
ผมส่งเสียงตะกุกตะกัก น้องนาโอมิก้มตัวดึงกางเกงออกจากร่างไปทางปลายเท้าแล้วก้าวออกมา ร่างของเด็กหญิงมีเพียงแพนตี้ผ้าฝ้ายลายดอกไม้สีชมพูติดอยู่ เสียงน้องนาโอมิตอบผมอย่างไม่สนใจอะไรนัก
“นาโอมิก็ถอดเสื้อผ้าเปียกออกนะสิ พี่เอกถามทำไม หนาวจะตายอยู่แล้ว พี่เอกมีผ้าเช็ดตัวติดมาในกระเป๋าหรือเปล่า นาโอมิจะเช็ดผม”
ผมกลืนน้ำลาย พยายามละสายตาจากร่างเกือบเปลือยของสาวน้อยวัย 13 เบื้องหน้า แล้วหันมารื้อผ้าขนหนูผืนเล็กที่ผมติดกระเป๋าไว้เสมอโยนไปให้น้องนาโอมิ จริงอยู่ที่ผมกับน้องนาโอมิเห็นร่างเปลือยกันมาตั้งแต่เด็กและอาบน้ำร่วมกันเสมอ แต่หลังจากหน้าอกน้องนาโอมิเริ้มตั้งเต้าตอนอายุ 9 ขวบ ผมก็เลิกอาบน้ำกับน้องนาโอมิเพราะรู้ดีถึงความไม่สมควร และไม่เคยเห็นร่างเปลือยของน้องนาโอมิอีกเลยจนกระทั่งวันนี้
ผมพยายามระงับอารมณ์ทางเพศที่เกิดขึ้นอย่างยากเย็น เพราะทราบดีว่าการถอดเสื้อผ้าของน้องนาโอมิไม่มีอะไรมากว่าความไว้วางใจและเห็นผมเป็นพี่ชายที่เติบโตมาด้วยกัน การเห็นร่างเปลือยของอีกฝ่ายหนึ่งจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับน้องนาโอมิ และหากผมมีท่าทางผิดปกติก็จะเป็นการทำลายความไว้ใจที่น้องนาโอมิมีให้ผม
น้องนาโอมิทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ก้มหน้าก้มตาเช็ดศรีษะด้วยผ้าขนหนู ส่งเสียงบอกผม
“พี่เอกรีบถอดเสื้อผ้าเร็วๆ เดี๋ยวจะเป็นหวัดนะ”
ผมเดินไปนั่งที่พื้นข้างๆ น้องนาโอมิ เอื้อมมือแย่งผ้าขนหนูมาเช็ดศรีษะน้อยๆ ได้รูปนั้น น้องนาโอมิก้มหน้าลงปล่อยให้ผมเช็ดศีรษะ โดยไม่รู้ว่าภาพทรวงอกงามเบื้องล่างที่สั่นไหวไปมาตามแรงเช็ดของผมนั้นมันยิ่งเพิ่มความงดงามที่กระตุ้นอารมณ์ผมจนแทบควบคุมไม่ได้ ผมพยายามสูดหายใจลึกๆ เช็ดผมให้น้องนาโอมิจนเสร็จแล้วเริ่มใช้ผ้าขนหนูผืนเดียวกันเช็ดศรีษะตัวเองที่เปียกชุ่มโชกบ้าง
น้องนาโอมิเงยหน้าขึ้นมองผม ส่งเสียงบ่นออกมา
“พี่เอกนี่ใส่เสื้อเปียกอยู่ได้ยังไง มานี่เดี๋ยวนาโอมิถอดให้”
ผมวางผ้าขนหนูที่ใช้เสร็จแล้วลงกับพื้น กดมือน้องนาโอมิที่ยื่นมายยังกระดุมเสื้อผมเบาๆ
“เดี๋ยวพี่ถอดเอง นาโอมิไปนั่งใกล้ๆ เครื่องทำความร้อนเถอะ”
น้องนาโอมิพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินไปนั่งกอดเข่าหน้าเครื่องทำความร้อน ผมรีบลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือกางเกงในตัวเดียวแล้วเดินไปนั่งข้างๆ พยายามอยู่ห่างเล็กน้อยเพื่อไม่ให้สัมผัสผิวเนื้อนวลเนียนของน้องนาโอมิ แต่น้องนาโอมิกลับขยับเข้ามาแนบชิดผมสองแขนโอบรอบเอวผมไว้ ซุกหน้าลงกับไหล่ ส่งเสียงเบาๆ
“ขอนาโอมิกอดพี่เอกหน่อยยนะ พี่เอกอุ่นดีจัง นาโอมิไม่ได้กอดพี่เอกมาหลายปีแล้ว”
ผมโอบไหล่บอบบางของน้องนาโอมิไว้แน่น พยายามระงับความรู้สึกที่ถูกหน้าอกคู่งามสัมผัสกับต้นแขน แต่ความเต่งตึงนุ่มนวลที่สัมผัส ทำให้ควยผมเริ่มแข็งตัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก่อนที่ผมจะฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้ น้องนาโอมิก็ถามผมด้วยเสียงกระซิบ
“พี่เอกเล่าให้นาโอมิฟังได้ไหมว่าทำไมพี่เรโกะถึงขอเลิกกับพี่เอก”
ผมถอนใจ แต่ในเมื่อสัญญาแล้ว ผมก็จำเป็นต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด น้องนาโอมินิ่งฟังเงียบๆ ตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อผมอธิบายเรื่องผู้ชายผู้หญิงที่รักกันจะต้องเย็ดกันเพื่อรวมกันเป็นหนึ่งและตาเบิกโพลงเมื่อผมเล่าเรื่องที่ผมได้เย็ดกับเรโกะและถูกบอกเลิกเพราะไม่พอใจในขนาดควยเล็กๆ ของผม เสียงน้องนาโอมิถามผมสั่นๆ เมื่อผมเล่าจบ
“ควยพี่เอกเล็กมากเหรอ นาโอมิขอดูได้ไหม”
“ไม่ดีหรอนาโอมิจัง พี่เป็นผู้ใหญ่แล้ว และนาโอมิจังก็เริ่มเป็นสาว การดูควยผู้ชายน่ะไม่ใช่เรื่องที่ควรทำนะ”
ผมพยายามอธิบายแต่น้องนาโอมิสั่นหน้ากับหัวไหล่ผม
“นาโอมิเห็นควยพี่เอกตั้งแต่เด็กๆ พี่เอกก็เห็นหีนาโอมิมาตั้งแต่เกิด ทำไมจะดูไม่ได้ ถ้าพี่เอกอายเดี๋ยวนาโอมิให้พี่เอกดูหีนาโอมิก่อนนะ”
“นะ นาโอมิ ยะ…..อย่า”
ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ พยายามห้ามแต่น้องนาโอมิลุกขึ้นยืนแล้วดึงกางเกงในลงไปสู่ปลายเท้าอย่างรวดเร็วหันร่างเปลือยยืนอยู่ตรงหน้า โหนกหีน้องนาโอมิปรากฏชัดเจนห่างหน้าผมไม่ถึงฟุต ทำให้ผมต้องตกตะลึงไปกับภาพเบื้องหน้า
โหนกหีอวบอูมราวกับกระดองเต่าขนาดใหญ่ โค้งตัวประกบหน้าขาไว้เต็มพื้นที่ ความอวบอูมของโหนกหีนูนเด่นอย่างที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อนจากผู้หญิงคนใด หรือแม้จากภาพเปลือยในนิตยสาร ดูราวกับลูกเทนนิสผ่าครึ่งพุ่งออกมาโดยมีแคมหีอวบนูนสองข้างประกบไว้ ไรขนอ่อนสีดำขึ้นเป็นกระจุกน้อยๆ เหนือรอยผ่า แต่ส่วนแคมทั้งหมดมีเพียงขนอุยอ่อนๆ สีทองกระจายทั่วอาณาเขตของความสาว ร่องหลืบปิดสนิทเนินหีทั้งหมดเป็นสีชมพูงดงามเกินบรรยาย ผมถอยร่างออกมาเพื่อชื่นชมร่างเปลือยเบื้องหน้า มันเป็นร่างที่งดงามของเด็กหญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยสาวเต็มตัว แต่ก็พร้อมสำหรับการร่วมรักกับเพศตรงข้าม
หน้าอกขนาดผลแอปเปิลชูชันยุบตัวขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ เส็ดยอดของมันชูชันเป็นลูกกลมที่แม้จะไม่ได้สัมผัสก็รู้ว่าหากผ่านการกระตุ้นเม็ดน้อยๆนี้จะแข็งตัวเพิ่มรสสัมผัสรองรับอารมณ์รัก ลานหน้าท้องราบเรียบปราศจากไขมันส่วนเกิน สะโพกน้อยๆ กลมกลึงรับกับต้นขาอวบที่เรียวเป็นเส้นตรงไปจนจรดปลายเท้า ใบหน้าของน้องนาโอมิแปลกใจเล้กน้อยเมื่อเห็นผมจ้องร่างเปลือยอย่างลืมตัว สีแดงค่อยๆปรากฎบนแก้มสาวน้อยช้าๆ ยิ่งเพิ่มความงดงามให้กับใบหน้าสวยหวานอีกหลายเท่า
“พี่เอกเป็นอะไร ทำไมหายใจขัดอย่างนั้น”
เสียงน้องนาโอมิถามร่างเปลือยลดตัวลงคุกเข่าเข้ามาหาผมที่กำลังตะลึงกับความงามเบื้องหน้า ควยแข็งปั๋งแน่นอยู่ในกางเกงใน มือน้อยๆ เอื้อมมาที่กางเกงในผมก่อนจับขอบรูดลงไปทางปลายเท้าโดยที่ผมเองก็ไม่ต้องการขัดขืน แท่งควยชูชันขึ้นรับอากาศภายนอก ผมพูดอะไรไม่ออกเมื่อมือน้องนาโอมิสัมผัสควยเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“ควยพี่เอกไม่เห็นจะเล็กเลย”
เสียวน้องนาโอมิพึมพัม ผมถอนใจเมื่อรู้ว่าน้องนาโอมิไม่เคยเห็นควยอื่นใดทั้งสิ้น เมื่อเห็นควยสองนิ้วครึ่งของผมจึงไม่รู้สึกขบขันเหมือนผู้หญิงทั่วไป ผมดึงควยออกจากการเกาะกุมของน้องนาโอมด้วยความเสียดายเล็กน้อย แต่พยายามสะกดจิตใจ แล้วจับร่างเปลือยให้นั่งอยู่ตรงหน้า
“นาโอมิจังอย่าจับเลยนะ พี่บอกตรงๆ ว่านาโอมิจังของพี่สวยมาก และพี่เองก็เป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศ ถ้าขืนนาโอมิจับมันพี่คงคุมอารมณ์ไม่ได้แน่”
น้องนาโอมิถอนใจบ้าง สบสายตาผมแล้วส่งเสียงเบาๆ
“พี่เอกจะคุมอารมณ์ไปทำไม พี่เอกยังไม่เข้าใจนาโอมิอีกหรือว่านาโอมิไม่ใช่เด็ก ถึงนาโอมิจะไม่เคยเย็ดกับใครแต่นาโอมิก็อ่านเป็นศึกษาเป็น ควยพี่เอกก็บอกอยู่แล้วว่าพี่เอกต้องการอะไร”
ผมตะลึงกับคำพูดของน้องนาโอมิ นี่ผมกำลังถูกน้องสาวอัจฉริยะของผมหลอกเข้าแล้ว
“หมายความว่า..นาโอมิจัง….”
น้องนาโอมิส่ายหน้าช้าๆ
“ทำไมพี่เอกต้องให้นาโอมิพูดด้วย พี่เอกไม่รู้หรือกว่านาโอมิดีใจแค่ไหนที่พี่เรโกะเลิกกับพี่เอก นาโอมิอยากถามพี่เอกเพียงคำถามเดียวเท่านั้นว่า พี่เอกรักนาโอมิแบบไหน แบบน้องสาวแท้ๆหรือรักแบบต้องการใช้ชีวิตร่วมกับนาโอมิตลอดไป ถ้าพี่เอกไม่ต้องการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับนาโอมิ นาโอมิก็ยอมรับและจะถือพี่เอกเป็นพี่ชายไปตลอดชีวิต แต่ถ้าพี่เอกรักนาโอมิและต้องการใช้ชีวิตกับนาโอมิเหมือนที่นาโอมิต้องการอยู่กับพี่เอกตลอดไปในฐานะภรรยา พี่เอกก็ไม่ต้องคุมอารมณ์อะไร นาโอมิรักและต้องการพี่มาตลอด พี่เอกตัดสินใจแล้วบอกนาโอมิเดี๋ยวนี้”
ผมอึ้งไปกับคำถามของน้องสาวแสนรักเบื้องหน้า คำถามที่ไม่จำเป็นต้องคิดเลยว่าผมต้องการน้องนาโอมิในรูปแบบใด เพราะที่ผ่านมาผมเองก็รู้ว่าถ้าปราศจากน้องนาโอมิ ชีวิตของผมคงจะกลายเป็นชีวิตที่ว่างเปล่าไร้จุดหมาย แต่ผมต้องสะกดความรู้สึกนั้นเอาไว้เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าน้องนาโอมิคิดอย่างไรกับผม แต่เมื่อน้องนาโอมิเปิดเผยทั้งร่างกายจิตใจอยู่เบื้องหน้าผมทั้งหมดแบบนี้ ทุกสิ่งก็ไม่จำเป็นต้องสะกดกลั้นอีกต่อไป ผมสูดหายใจลึกก่อนตอบช้าๆ
“คำตอบของพี่ก็คือพี่…”
ผมดึงร่างเปลือยงดงามเบื้องหน้าเข้ามาในอ้อมกอดโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกมา น้องนาโอมิสะท้านเฮือกอยู่วงแขนผม แต่กอดตอบผมแน่น
“พี่จะขอรักนาโอมิตลอดไป นาโอมิเป็นเมียพี่นะ”
น้องนาโอมิพยักหน้า สบตาผมด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อล้น ส่งเสียงเครือ
“นาโอมิสัญญา นาโอมิจะรักพี่เอกเป็นเมียพี่เอกตลอดไป”
ผมประทับจูบแรกให้กับน้องสาวที่ผมแสนรักอย่างนุ่มนวล ความหวานชื่นและหอมกรุ่นของริมผีปากสาวน้อยถ่ายทอดมาหาผมพร้อมกับความเข้าใจระหว่างกันที่ทำลายกำแพงพี่ชายน้องสาวซึ่งมีมาตลอด 13 ปีลงจนหมดสิ้น ร่างน้องนาโอมิสั่นระริกไปกับการสัมผัสจูบครั้งแรก แต่ก็จูบตอบผมอย่างเต็มใจและเมื่อลิ้นผมกวาดเข้าสู่ภายในช่องปากลิ้นเรียวนุ่มก็กระหวัดรับอ่อนหวานนุ่มนวล
ร่างเปลือยของผมและน้องนาโอมิเอนตัวลงกับเสื่อตาตามิในห้องชงชาช้าๆ ผมลูบไล้ร่างกายนุ่มนวลของน้องนาโอมิอย่างทะนุถนอม ผิวเนื้อละเอียดอ่อนจนผมสัมผัสได้ถึงการลุกชูชันของเส้นขนตามร่างกายเมื่อถูกสัมผัส มือผมเลื่อนขึ้นมาสู่ทรางอกอวบอิ่มลูบไล้รับความเต่งตึงก่อนผ่านไปสู่หัวนมสีชมพูที่แข็งตัวทันทีเมื่อถูกบดคลึงจากฝ่ามือผม
“อาห์..อูว์…”
เสียงน้องนาโอมิครางในลำคอแต่ยังคงไม่ยอมหยุดแลกลิ้นที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์รักที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มือน้อยของน้องนาโอมิเคลื่อนลงไปกุมควยผมไว้ราวกับต้องการจะตอบโต้การถูกเคล้นคลึงหน้าอก มันขยับขึ้นลงไปมาเพิ่มความเสียวให้ผมจนต้องเพิ่มแรงเคล้นเต้านมคู่งามอย่างลืมตัว มืออีกข้างผมเคลื่อนตามลงไปหาโหนกหีนูนเด่นเบื้องล่าง เพียงสัมผัสแรกผมก็ได้รับรู้ถึงขนาดความโหนกนูนและแรงดีดสะท้อนที่เหนือกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผมเคยร่วมรักมา นิ้วผมไล้ไปตามรอยแยกที่เริ่มมีน้ำรักแรกของเด็กหญิงซึมออกมา น้องนาโอมิถอนปากจากการจูบ ส่งเสียงครางออกมา
“อู้ว พะ พี่เอก…นาโอมิ เป็นอะไรไม่รู้…มันหวิวไปหมดแล้ว”
ผมจูบไซร้ติ่งหูน้อยๆ กระซิบแผ่วเบา
“นาโอมิจังกำลังเสียวน่ะ ไม่ต้องกลัวนะ ปล่อยตัวตามสบาย อยากร้องก็ร้องออกมาไม่ต้องกลั้นมันไว้”
นิ้วโป้งผมเบื้องล่างควานหาติ่งเสียวเหนือปากทางเข้าสู่ความเป็นสาว กดคลึงไปมาเป็นวงแล้วต่อยๆ เพิ่มแรงขึ้นทีละน้อย ส่วนนิ้วที่เหลือยังคงทำหน้าที่ไล้ตามรอยแยกที่ชุ่มฉ่ำจนแคมอวบทั้งสองข้างเริ่มแยกตัวรับนิ้วที่สอดเข้าไปช้าๆ ได้ไม่ยากนัก
“พี่เอก..นาโอมิเสียวเหลือเกิน..อูวส์”
นิ้วผมข้อแรกจมลงสู่ภายในร่องหลืบหนึบแน่น ทำเอาน้องนาโอมิส่งเสียงครางยาว สองมือเกร็งกำควยผมแน่น ผมเลื่อนตัวลงต่ำเพื่อดึงควยออกจากมือน้องนาโอมิ จูบไซร้หน้าอกงดงามที่ชูช่ออย่างชื่นใจ เม็ดหัวนมชูชันยั่วให้ผมใช้ลิ้นชิมรสและสัมผัสความเต่งตึงของวัยแรกสาว ผมบดลิ้นเข้ากับเม็ดหัวนมหนักๆ จนน้องนาโอมิต้องแอ่นหน้าอกขึ้นรับการดูดดึง น้ำหล่อลื่นภายในรูหีหลั่งออกมาราวท่อปะปาแตกปล่อยให้นิ้วของผมจมลึกลงไปเรื่อยๆ จนปลายนิ้วสัมผัสเยื่อพรหมจรรย์อ่อนนุ่มที่ซ่อนความสาวไว้ภายใน ผมส่ายวนนิ้วเป็นวางในรูหีคับแน่น กล้ามเนื้อภายในบีบรัดรับแรงสัมผัส เสียงน้องนาโอมิสั่นระริก
“พะ พะพี่เอก..สะเสียว…พอก่อน…นาโอมิฉี่จะราดแล้ว…”
“ไม่ใช่ฉี่หรอก นาโอมิจังกำลังจะถึงจุดไคลแมกซ์น่ะ ปลาอยไปเลยไม่ต้องกลัวนะคนดี”
ผมเน้นคลึงติ่งเสียวแรงขึ้น โยกนิ้วเข้าออกภายในร่องหลืบถี่ยิบ น้องนาโอมิตัวสั่นสองมือลากผมขึ้นไปประกบจูบแลกลิ้นพัลวัน
“อื๋ยยยยย…นาโอมิ…ถะ ถึงงงงแล้ววว”
น้องนาโอมิอ้าปากว้างส่งเสียงร้องลั่น เพียงครู่เดียวร่างงดงามก็กระตุกเฮือกเป็นจังหวะ นิ้วผมรับแรงตอดรัดตุบๆ ภายในรูหีพร้อมกับน้ำรักแรกที่ทะลักออกมาจนชุ่มโชก ผมถอนนิ้วจากร่องหลืบเพื่อกอดกระชับน้องนาโอมิไว้แน่น จูบพรมที่ใบหน้าอย่างทะนุถนอม น้องนาโอมิลืมตามองผม ยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วซุกหน้าลงกับอกผม
“นาโอมิมีความสุขที่สุดเลยพี่เอก มันเสียวสุดยอดจริงๆ”
ผมจูบปากน้อยเบาๆ
“นาโอมิจังจะมีความสุขมากว่านี้อีก แต่ตอนนี้ขอน้าชิมรสความรักของนาโอมิจังก่อนนะ”
ก่อนที่น้องนาโอมิจะเข้าใจความหมาย ผมก็ถอยร่างลงต่ำเพื่อชื่นชมความงามของโหนกหีน้องนาโอมิอย่างเต็มตา การบุกรุกของนิ้วมือและความเสียวสุดยอดทำให้แคมหีทั้งสองข้างเปิดอ้าออกเล็กน้อย เผยให้เห็นช่องทางเข้าสู่ภายในที่เป็นสีชมพูเข้มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำรัก ผมฟุบหน้าลงกับเนินอัศจรรย์อย่างยับยั้งใจไม่อยู่เพื่อลิ้มชิมรสน้ำรักแรกสาวที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ลิ้นผมไต่ลงไปในร่อง หลืบที่ชุ่มชื้น สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของน้องสาวแสนรักน้องนาโอมิส่ายสะโพกไปมา คราวญครางเสียงสั่นระริก
“พะ..พี่เอก อย่าเลีย ตรงนั้นมันสกปรก..มัน ฮ๊าวส์ ..มัน สะเสียว…”
สองขาน้องนาโอมิยกขึ้นสูงแล้วเกี่ยวรัดคอผมให้กดลงกับเนินหีอูมอย่างไม่รู้ตัว สะโพกบิดไปมาราวกับจะสลัดให้หลุดจากการลงลิ้น แต่ลำขาเรียวงามกลับรัดแน่นขึ้นเพื่อกดใบหน้าผมให้อัดกับเนินหีนุ่ม
ผมเงยหน้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำรัก เลื่อนตัวกลับขึ้นไปหาน้องนาโอมิที่ดึงผมไปประกบจูบอย่างรุนแรง ผมจ่อปลายควยเข้ากับร่องหีฉ่ำเยิ้ม แล้วกดมันลงไปช้าๆ แม้จะเป็นควยขนาดเพียงสองนิ้วครึ่ง แต่เส้นรอบวงของมันก็มีขนาดใหญ่กว่านิ้วมือที่ผมเคยใช้มาก แคมทั้งสองข้างบีบรัดหัวควยไว้แน่น น้องน้าโอมิถอนจูบออกแล้วครางออกมา
“โอย..พี่เอก มันคับจัง พี่เอกเย็ดนาโอมิแล้วใช่ไหม”
ผมขยับควยเข้าออกปากทางอย่างทะนุถนอม จนหัวควยจมผ่านแคมทั้งสองลงไปได้ เสียงน้องนาโอมิกัดฟันแน่น ผมขยับขึ้นลงเบาๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย กระซิบตอบข้างหูน้องนาโอมิ
“นาโอมิจังทนนิดเดียวนะ พี่จะทำเบาๆ ปล่อยใจให้สบายไม่ต้องเกร็ง พี่จะขอรับความสาวของนาโอมิจังไว้ แล้วนะ”
น้องนาโอมิซุกหน้ากับคอผมแน่น พยักหน้าพึมพัม
“พี่เอกเอาเข้ามาเถอะ นาโอมิพร้อมแล้ว นาโอมิจะเป็นเมียพี่เอกตลอดไป”
ผมสูดลมหายใจกดควยผ่านเยื่อสาวขาดออกจากกัน แทรกตัวเองลงไปสู่ความอบอุ่นและความสาวของเด็กหญิงภายในที่ผมมีโอกาสเข้ามาเยือนเป็นคนแรก ผนังหลืบหีบีดรัดเกร็งตัวรับแท่งควยแนบแน่นจนแทบขยับไม่ได้ เสียงน้องนาโอมิร้องออกมาเบาๆ
“โอ๊ย..พี่เอก..อะไรฉีกก็ไม่รู้..นาโอมิเจ็บ”
ผมจูบซับน้ำตาที่ไหลออกมา เคลียใบหน้ากับแก้มน้องนาโอมิแล้วปลอบเบาๆ
“เยื่อไฮเม็นของนาโอมิจังขาดน่ะ นาโอมิจังเป็นเมียพี่เต็มตัวแล้วนะ”
“อูวส์…,มันเจ็บจัง แต่นาโอมิทนได้ พี่เอกเย็ดต่อเถอะ..นาโอมิอยากรับน้ำรักของพี่เอาไว้ในตัวนาโอมิ”
ผมจูบปากน้อยหนักๆ ลิ้นเกี่ยวพันไปมา มือสองข้างผมลลดลงไปกุมสะโพกกลมกลึงเบื้อล่าง บีบเคล้นไปมาพร้อมกับสายร่างส่วนบนให้บดเบียดกับหน้าอกเต่งของน้องนาโอมิ สองมือน้องนาโอมิโอบรัดคอผมแน่นสะโพกน้อยๆ เริ่มส่ายรับแรงปลุกเร้า ผมค่อยๆ ขยับควยเข้าออกทีละน้อยเพื่อรับน้ำหล่อลื่นที่เริ่มกลับมาชะโลมแท่งควยอีกครั้งหลังจากความเสียวเริ่มก่อตัวขึ้น เพียงครู่เดียวผมก็สามารถกระเด้าช้าๆ และเพิ่มความถี่ขึ้น
“อะ อาว…โอย สะเสียว…”
เสียงน้องน่าโอมิครวญคราง ผมยกร่างขึ้นคุกเข่ากับพื้นเสื่อตาตามิ แล้วช้อนขาเรียวงามของน้องนาโอมิขึ้นมากดพักไว้กับแขนผม ทำให้โหนกหีนูนเด่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ ผมจำเป็นต้องใช้ท่านี้เพราะเป็นท่าที่ทำให้ควยสั้นๆ ของผมเข้าไปในร่องหลืบอวบแน่นของน้องนาโอมิได้ลึกที่สุด สะโพกผมกระเด้าถี่ยิบกระหน่ำควยลงกับโหนกหีอวบนูนโดยไม่ยั้ง ยิ้งผมกระแทรกแรงเท่าไหร่แรงสะท้อนของโหนกหีอูมสุดยอดของน้องนาโอมิก็ดีดตัวกลับมาแรงเท่านั้น ยิ่งเพิ่มความเสียวจนไม่สามารถกลั้นน้ำรักได้อีกต่อไป
“พะ พะ พี่เอก ลึกจึง มันจี๊ดดด..แล้ว โอ๊วส์ ยะ อย่สาหยุดนะ พี่เอก เร่งอีก นาโอมิจะ..จะ โอ๊วส์”
น้องนาโอมิร้องลั่น ร่างกระตุกยกสะโพกขึ้นสูง ผมกดควยอัดแน่นกับโหนกหีนุ่ม ระเบิดน้ำรักเข้าไปสู่มดลูกเด็กหญิงทั้งหมด ปริมาณมันมากจนล้นไหลออกมาหยดลงบนพื้นเบื้องล่าง ผมฟุบร่างลงกับหน้าอกเต่งตึงของน้องนาโอมิอย่างหมดแรง แต่เปี่ยมไปด้วยความสุขสุดยอดที่เหนือกว่าการร่วมรักกับผู้หญิงอื่นที่ผมผ่านมาทั้งหมด
น้องนาโอมิหายใจแผ่ว ลูบไล้เรือนผมของผมแผ่วเบาไปมา
“นาโอมิมีความสุขที่สุดเลย พี่เอกล่ะมีความสุขไหม”
ผมซุกหน้าฟัดเต้างามไปมา ส่งเสียงตอบ
“พี่มีความสุขที่สุด หีนาโอมิจังยอดเยี่ยมเหลือเกิน ทำเอาพี่หมดแรงเลยนะ”
น้อวงนาโอมิทุบไหล่ผมเบาๆ
“พี่เอกพูดอะไร นาโอมิอายนะ”
ผมเลื่อนตัวขึ้นไปจูบน้องนาโอมิ แล้งกระซิบล้อๆ
“จริงๆ นะ หีนาโอมิจังทั้งนูนทั้งอวบ นี่ถ้าพี่มีควยยาวกว่านี้ นาโอมิจังจะยิ่งมีความสุขนะ”
น้องนาโอมิส่ายหน้า ยกมือขึ้นกดปากผม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“พี่เอก นาโอมิไม่สนใจหรอกว่าควยพี่เอกจะมีขนาดแค่ไหน สิ่งที่นาโอมิต้องการคือหัวใจของพี่เอก ควยพี่ให้ความสุขนาโอมิเต็มที่แล้วนาโอมิไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้ และที่สำคัญ…”
น้องนาโอมิโผเข้ากอดผมแน่น
“ถ้าควยพี่เอกใหญ่กว่านี้ เดี๋ยวสาวๆ ก็มาแย่งพี่เอกไปจากนาโอมิ”
ผมกอดร่างน้องสาวที่กลายมาเป็นเมียผมด้วยความรักเต็มหัวใจ
“พี่เอกสัญญากับนาโอมินะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะต้องอยู่กับนาโอมิตลอดไป”
ผมพยักหน้ารับ
“พี่สัญญา นาโอมิจะเป็นภรรยาของพี่ตลอดไป”
“แกร๊ก”
ผมและน้องนาโอมิสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงประตูเลื่อนห้องชงชาเปิดออก ร่างของอาโรเบิร์ตยืนนิ่งอยู่ด้านนอก
“คุณพ่อ..”
“คุณอา…”
“ลูกนาโอมิ…”
—————————————–
ผมถอนหายใจเมื่อนึกถึงสายตาของอาโรเบิร์ตที่กลับมาพบว่าผมกำลังเย็ดน้องนาโอมิอยู่ที่ห้องชงชา ท่ามกลางความตกตะลึงนั้น อาโรเบิร์ตไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทีโกรธเคือง สายตาอาโรเบิร์ตมีแต่เพียงแววตาที่แสดงความเสียใจและนำน้องนาโอมิออกไปจากห้องอะไรลูกสาวโดยไม่ได้พูดดุด่าน้องนาโอมิหรือผมแม้แต่คำเดียว และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นน้องสาวที่ผมตั้งใจจะให้เป็นภรรยา เพราะคืนนั้นเองอาโรเบริ์ตก็พาน้องนาโอมิเดินทางไปสหรัฐฯ โดยไม่บอกให้ใครรับรู้แม้กระทั่งคุณพ่อของผมที่เป็นเพื่อนสนิท
ตลอดเวลาผมพยายามหาทางติดต่อน้องนาโอมิ แต่ดูเหมือนว่าน้องนาโอมิจะหายไปจากโลกนี้โดยไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ความผิดหวังครั้งนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจทิ้งทุกอย่างในญี่ปุ่นแล้วเดินทางมาทำธุรกิจในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ แม้ปัจจุบันหัวใจผมจะได้รับการเยียวยาและถูกครอบครองโดยน้องๆ ที่น่ารักทุกคน แต่ผมก็รู้ดีว่าส่วนหนึ่งมันยังคงมีน้องนาโอมิอยู่ในความทรงจำโดยไม่มีทางที่จะลบเลือนไปได้ ผมพึมพำออกมาอย่างเลื่อนลอย
“นาโอมิจัง อยู่ที่ไหน พี่คิดถึงนาโอมิจังที่สุดนะ”
—————————-
บทแทรกที่ 11
“นาโอมิจัง อยู่ที่ไหน พี่คิดถึงนาโอมิจังที่สุดนะ”
เสียงแผ่วเบาแว่วขึ้นในสมองของ ดร.นาโอมิ หญิงสาวสะดุ้งเฮือก สายตาละจากภาพของชายหนุ่มเบื้องหน้า หันมองซ้ายขวาราวกับไม่เชื่อหูตนเอง เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของชายหนุ่มที่ ดร.นาโอมิรอคอยมาตลอดชีวิต ใจของ ดร.นาโอมิหวนคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันที่เด็กหญิงนาโอมิวัย 13 ปี มอบร่างกายให้ชายหนุ่มคนเดียวที่เธอรัก แต่หลังจากถูกบิดาพบเห็น เด็กหญิงก็ถูกบิดานำตัวมาสหรัฐฯ โดยไม่มีโอกาสร่ำลาหรือติดต่อพี่เอกของเธอได้อีก จนกระทั่งได้มาพบสามีคนแรกและคนเดียวอีกครั้งในสถานที่แห่งนี้ หญิงสาวผุดลุกขึ้นก้าวตรงไปที่หลอดแก้วที่บรรจุร่างของเอกราชวางสองมือแนบกับฝาหลอดแก้ว น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง หญิงสาวส่งเสียงแผ่วเบาราวกับต้องการจะสื่อกับผู้ที่นอนสงบนิ่งอยู่นั้น
“พี่เอก นาโอมิอยู่ที่นี่..น้องสาวคนนี้กลับมาหาพี่เอกแล้ว”
เส้นกราฟแสดงการทำงานของสมองเบื้องหน้า ซึ่งสงบนิ่งอยู่ระยะหนึ่ง กลับเต้นกระตุกขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง ดร.นาโอมิ มองจอภาพอย่างตะลึงงัน ประสบการณ์ของหญิงสาวบอกให้รู้ว่านี่คือเส้นกราฟที่แสดงอาการแปลกใจและตื่นเต้นถึงที่สุด ห้วงสมอง ดร.นาโอมิปรากฏเสียงดังขึ้นราวกับฟ้าผ่า
“นาโอมิจัง…น้องอยู่ไหน … ”
——————
“พี่เอก นาโอมิอยู่ที่นี่..น้องสาวคนนี้กลับมาหาพี่เอกแล้ว”
ผมสะดุ้งเฮือกขึ้นทั้งร่าง เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของนาโอมิจังที่ผมไม่มีวันจำผิดพลาดแม้เวลาจะผ่านไปแล้วถึง 8 ปีเต็ม ผมตะโกนลั่นออกมาอย่างลืมตัว
“นาโอมิจัง…น้องอยู่ไหน … ”
“นาโอมิอยู่ข้างๆ พี่เอกเสมอ จะไม่มีวันจากพี่เอกไปอีกแล้ว”
เสียงในสมองผมดังขึ้น ผมรู้ดีว่านี่เป็นการสื่อสารทางจิตในรูปแบบเดียวกับที่ผมสื่อสารกับน้องพิงค์ แต่ก็อดหันซ้ายขวาเพื่อหาต้นตอของเสียงในสมองไม่ได้
“นาโอมิจังมาหาพี่เถอะ พี่คิดถึงนาโอมิเหลือเกิน”
ผมส่งกระแสจิตตอบน้องสาวสุดที่รัก กระแสจิตของน้องนาโอมิเงียบไปครู่ใหญ่ แล้วกลับดังขึ้นอีกครั้ง มันเป็นกระแสจิตที่ผมรู้สึกเหมือนได้ว่าน้องนาโอมิกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง..
“พี่เอกรอนาโอมิหน่อยนะ..นาโอมิจะไปหาพี่เอกให้เร็วที่สุด จะไม่ยอมห่างจากสามีของนาโอมิอีกแล้ว”
——————-
บทแทรกที่ 12
“พี่เอกรอนาโอมิหน่อยนะ..นาโอมิจะไปหาพี่เอกให้เร็วที่สุด จะไม่ยอมห่างจากสามีของนาโอมิอีกแล้ว”
หญิงสาวตอบเสียงชายคนรักด้วยความรู้สึกสับสน การติดต่อทางจิตเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ พยายามค้นคว้าวิจัยมาเป็นเวลานาน แต่ไม่เคยมีหลักฐานยินยันได้ว่าการติดต่อรูปแบบนี้เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงสัญญานในสมองสร้างขึ้นเอง แต่ในวินาทีนี้ ดร.นาโอมิเลือกที่จะเชื่อหัวใจมากกว่าสิ่งที่พิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว สมองของหญิงสาวเริ่มปรากฏภาพรางๆ ของอาคารที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นัยตาเริ่มหรี่ปรือด้วยความงุนงง อาการที่เริ่มขึ้นทำให้ ดร.นาโอมิ เข้าใจทุกอย่างทันที ริมฝีปากส่งเสียงพึมพัมออกมา
“การเหนี่ยวนำทางจิต พี่เอกเรียกนาโอมิแล้ว”
หญิงสาวละมือที่แนบหลอดแก้ว เดินตรงมาที่แท่นควบคุมคอมพิวเตอร์หลัก ป้อนข้อมูลชุดหนึ่งลงไป เพียงครู่เดียวบนหน้าจอก็ปรากฏข้อความที่แสดงคำตอบขึ้น
ระดับพลังงานหลัก
สถานะแช่แข็ง 1,000 ปี
สถานะกึ่งแช่แข็ง 800 ปี
สถานะปัจจุบัน 500 ปี
ระดับสารอาหารหมุนเวียน
สถานะแช่แข็ง 3,000 ปี
สถานะกึ่งแช่แข็ง 1,000 ปี
สถานะปัจจุบัน 600 ปี
“ห้าร้อยปี”
หญิงสาวพึมพำออกมา รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากเรียวงาม
“พี่เอกคงต้องเบื่อนาโอมิแน่ๆ เลย”
นิ้วเรียวงามป้อนข้อมูลชุดใหญ่ลงไปในเครื่องควบคุม อักษรสีแดงเจิดจ้าปรากฏขึ้นที่หน้าจอ
โปรแกรม Doomsday เริ่มทำงาน กรุณาป้อนรหัสควบคุม
หญิงสาวอมยิ้ม นึกถึงคำที่ปรากฏบนจดหมายปิดผนึกซึ่งพบที่โต๊ะทำงานของบิดาเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา จดหมายลักษณะเดียวกันถูกส่งมายังวุฒิสมาชิกโรเบิร์ต มัสสุโมโต้ทุกสัปดาห์ ภายใต้รหัส Doomsday ซึ่ง ดร.นาโอมิทราบแต่เพียงว่าเป็นรหัสควบคุมการทำงานของโครงการบางอย่างที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุกสัปดาห์ และ วุฒิสมาชิกโรเบิร์ต ซึ่งเป็นมือขวาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้านความมั่นคงก็ต้องได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นประจำ ปกติแล้ว ดร.นาโอมิจะไม่สนใจข้อความที่ปรากฏมากนัก แต่ข้อความที่ส่งมาล่าสุดกลับเป็นข้อความที่กระทบจิตใจของหญิงสาว และจดจำไว้ในสมองโดยไม่ลืมเลือน โดยไม่คาดคิดว่าการเดินทางมาที่ The cave ครั้งนี้กลับเป็นการเดินทางมาสู่ใจกลางของโครงการ Doomsday โดยบังเอิญ
หญิงสาวป้อนประโยคในจดหมายลงบนเครื่องควบคุม
Love is Forever
ดร.นาโอมิสูดลมหายใจกดแป้น Enter จอภาพเปลี่ยนเป็นสีเขียว ปรากฏข้อความขึ้น
รหัสควบคุมถูกต้อง กรุณาปิดผนึกห้อง
ดร.นาโอมิกวาดสายตาไปรอบด้าน มีเพียงแถวยาวของหลอดแก้วเรียงรายไปสุดทางเดิน ชีวิตเดียวที่ยัง “ตื่น” อยู่ใน The Cave มีเพียงหญิงสาวที่กำลังตัดสินใจครั้งสุดท้าย นิ้วเรียวงามกดลงที่จอภาพที่ปรากฏคำ Close กระพริบถี่
ต๊อดดดดดดด……ต๊อดดดดดดดดดด
เสียงสัญญานเตือนดังลั่นขึ้นถี่ยิบ ภายนอก The Cave เสียงเตือนจากคอมพิวเตอร์หลักดังขึ้นเป็นระยะ
โปรแกรม Doomsday ทำงาน กรุณาอพยพออกจากบริเวณภายใน 10 นาที
ประตูทรงกลมของ The cave ปิดตัวเองลงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของห้องทั้งหลังว่ากำลังเคลื่อนที่ลงต่ำอย่างช้าๆ แต่ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าภายนอกเจ้าหน้าที่ The cave ทุกคนกำลังวิ่งออกจากห้องสนับสนุนอย่างบ้าคลั่ง เมื่อ The cave กำลังจมหายลงไปสู่ความมืดสนิทเบื้องล่าง
ภายใน The Cave เสียงที่ปราศจากอารมณ์ของคอมพิวเตอร์หลัก ดังขึ้นเป็นระยะ
เตรียมเข้าสู่ระบบจำศีล ในอีก 10 นาที กรุณาเข้าประจำหลอดป้องกัน
หญิงสาวถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากร่าง ก้าวตรงไปที่หลอดแก้วของคนรักแล้วทาบมือกับผนังหลอดแก้วอีกครั้ง เพื่อส่งผ่านคำพูดสุดท้ายไปยังผู้ที่นอนสงบอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่จะเดินตรงไปที่หลอดแก้วว่างหลอดหนึ่งแล้วก้าวลงไปหยิบเครื่องควบคุมมาใส่บนศีรษะ
กรอบของหลอดแก้วปิดตัวเองลงอย่างนุ่มนวล ของเหลวสีแดงเข้มเริ่มไหลเข้าท่วมร่างเปล่าเปลือยของ ดร.นาโอมิทีละน้อย ในขณะที่หญิงสาวถูกเข้าสู่ภาวะแพนโดร่าโดยสมบูรณ์
The cave หยุดการเลื่อนตัวเมื่อถึงที่หมาย เสียงแผ่นตะกั่วหนาเคลื่อนที่เข้าคลุมภายนอกทั้งหมด ดังขึ้นโดยปราศจากผู้ได้ยิน ไฟหลักทั้งหมดดับลงคงเหลือแต่เพียงแสงสีแดงเรียงรายไปตามแนวของหลอดแก้ว เสียงคอมพิวเตอร์ควบคุมดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปิดตัวเองเข้าสู่ภาวะจำศีล
ปฏิบัติการสมบูรณ์ 15 สิงหาคม 2006
————————-
“น้าเอก”..
เสียงน้องซูกุมิเคาะประตูเรียกผมที่หน้าห้องน้ำ ปลุผมตื่นจากภวังค์แปลกประหลาด แต่เสียงน้องนาโอมิ ที่ดังขึ้นก่อนจะหายไปยังกังวานอยู่ในสมองผม
“นาโอมิรักพี่เอกตลอดไป”
ผมสะบัดศีรษะ ดูนาฬิกาในห้องน้ำด้วยความประหลาดใจ เพราะมันเป็นเวลาเกือบ สองทุ่ม แสดงว่าหลังจากผมเย็ดกับยูโกะ โทโมเอะสองแม่ลูกแล้วมาแช่น้ำในจากุชชี่ เวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ผมรีบลุกขึ้นเปิดประตูห้องน้ำ เพื่อพบกับน้องซูกุมิที่ยืนยิ้มรออยู่
“น้าเอกเข้าไปทำอะไรนานจัง”
ผมส่ายหน้า ดึงร่างเมียรักมาจูบเบาๆ ก่อนตอบ
“น้าเพลียนิดหน่อยน่ะ เลยเผลอหลับไป ซูกุมิจังมีอะไรหรือเปล่า”
น้องซูกุมิพยักหน้า
“มีผู้หญิงคนหนึ่งมารอพบน้าเอกน่ะ บอกว่าจะมาสัมภาษณ์งานเป็นครูสอนให้พวกซูกุมิทั้งหมด”
ผมเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนู พลางคุยกับน้องซูกุมิอย่างไม่สนใจอะไรนัก
“แล้วเขาซชื่ออะไรล่ะ ซูกุมิเจอเขาหรือยัง เป็นไงบ้าง”
“พี่เขาไม่ยอมบอกชื่อน่ะน้าเอก พี่เขาสวยมากเลยนะ อายุยังน้อยมากแต่จบปริญาเอกแล้ว ที่น่าแปลกคือพี่เขารู้จักพวกซูกุมิทุกคนเลย ทั้งที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก ซูกุมิพยายามถามว่ารู้จักพวกเราได้ยังไง พี่เขาก็อมยิ้มไม่ยอมตอบ พอซุกุมิบอกว่าจะมาบอกพี่เอกให้ไปพบ พี่เขาก็ห้ามไว้บอกว่าปล่อยให้น้าเอกพักผ่อนไปก่อน ไม่รู้ว่าพี่เขารู้ได้ยังไง”
“อืมห์ แปลกดีนะ”
ผมแต่งตัวพลาง ถามน้องซูกุมิต่อ
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ”
“พี่เขาอยู่ที่ห้องอาหารกับทุกคน ซูกุมิชวนให้รอกินอาหารเย็นพร้อมน้าเอกน่ะ”
น้องซูกุมิบอก ขณะที่ผมแต่งตัวเสร็จแล้วเดินโอบเอวอ้อนแอ้นของเด็กหญิงออกจากห้อง
“ทุกคนชอบพี่เขาไหมล่ะ”
น้องซูกุมิพยักหน้ารับอย่างกระตือรือล้น
“ตอนที่รอน้าเอก พี่เขาคุยกับทุกคนสนิทเชียว พี่เขาน่ารักมากนะ น้าเอกรับไว้เป็นครูสอนพวกซูกุมิเถอะ”
ผมพยักหน้า
“โอเคเลย…เดี๋ยวน้าจะตกลงกับเขานะ”
ผมก้าวเข้าห้องอาหารพร้อมน้องซูกุมิ ภายในห้องทุกคนจับกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะพักผ่อนด้านหลัง รุมล้อมร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่หันหลังให้ผม ซึ่งผมแน่ใจว่าน่าจะเป็นร่างของผู้ที่มาสมัครเป็นครูสอนพิเศษให้น้องๆ ทุกคนที่แมนชั่นแห่งนี้ เสียงหัวเราะดังขึ้นต่อเนื่องในกลุ่มไม่ขาดสาย ดูจะจริงอย่างที่น้องซูกุมิบอก เพราะรู้สึกว่า “ครู” คนนี้จะเข้ากับทุกคนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผมตกลงใจในทันทีที่จะจ้างให้หญิงสาวคนนี้มาสอนเมียน้อยๆ ทุกคนของผม
น้องโทโมเอะ เงยหน้าขึ้นเห็นผมที่กำลังเดินตรงมาที่กลุ่ม แล้วโบกมือให้พร้อมร้องเรียก
“น้าเอกๆๆ ๆมานี่เร็ว ครูรอพบอยู่”
ร่างอ้อนแอ้นของหญิงสาวหันกลับมาเผชิญหน้าผมในทันที ผมสะดุ้งสุดตัว ใบหน้าเรียวงาม ดวงตากลมโต และรอยยิ้มที่แจ่มใสเมื่อประสานสายตาผม มันเป็นใบหน้าของใครไม่ได้อีกแล้ว แม้เวลาจะผ่านไป 8 ปี แต่นั่นเป็นใบหน้าของเด็กหญิงที่กำหัวใจส่วนหนึ่งของผมไว้ตลอดมา
“นาโอมิจัง”
ผมอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง น้องนาโอมิโถมออกจากกลุ่มกระโดดขึ้นกอดผมราวกับเป็นเด็กหญิงอายุ 13 คนเดิมที่ผมเคยอุ้มร่างน้อยไว้ทุกครั้งที่ผมกลับมาถึงบ้าน ร่างอบอุ่นนุ่มนวลที่แบแน่นอยู่กับผมบอกให้รู้ว่านี่เป็นน้องนาโอมิจริงๆ ไม่ใช่ความฝันที่ผมคิดไปเองแต่อย่างใด
“พี่เอกของนาโอมิ นาโอมิกลับมาหาพี่เอกแล้ว”
เสียงน้องนาโอมิพร่ำบอกข้างหูผมปนสะอื้น วงแขนหญิงสาวกอดผมแน่นราวกับไม่ต้องการแยกออกห่างแม้แต่วินาทีเดียว ผมกอดตอบยกร่างน้องนาโอมิขึ้นแล้วหมุนรอบๆ ตัวเหมือนที่ผมเคยทำกับน้องสาวคนนี้ในวัยเด็ก ก่อนวางร่างงามลงกับพื้น
“นาโอมิจัง พี่คิดถึงนาโอมิจังที่สุด มาได้ยังไงเนี่ย”
น้องนาโอมิ ยิ้มสดใส
“พี่เอกอย่าเพิ่งถามนาโอมิเลยนะ นาโอมิจะเล่าให้พี่เอกฟังทีหลัง แต่ตอนนี้นาโอมิจะมาอยู่กับพี่เอกที่นี่แหละ พี่เอกจะไล่นาโอมิไปไหนนาโอมิก็ไม่ไปทั้งนั้น”
ผมกอดร่างน้องนาโอมิไว้แน่น
“พี่ไม่มีวันปล่อยน้องนาโอมิไปไหนอีกแล้ว อยู่กับพี่ที่นี่นะ ..แต่….”
ผมชะงักนิดหนึ่งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ผมมีเมียอีก 11 คนที่พักร่วมกันอยู่ในแมนชั่นนี้ สายตาทุกคนกำลังจับจ้องมาที่ผมกับน้องนาโอมิกับผมอย่างงุนงง น้องนาโอมิหัวเราะในอ้อมอกผม ส่งเสียงเบาๆ
“พี่เอกไม่ต้องห่วงห
เอ…ไม่ทราบว่าทำไมถึงหายไปได้…สงสัยจะยาวเกินไปแน่ๆ
ลอง Post ที่ขาดหายไปอีกทีนะครับ
——————————–
“น้าเอก”..
เสียงน้องซูกุมิเคาะประตูเรียกผมที่หน้าห้องน้ำ ปลุผมตื่นจากภวังค์แปลกประหลาด แต่เสียงน้องนาโอมิ ที่ดังขึ้นก่อนจะหายไปยังกังวานอยู่ในสมองผม
“นาโอมิรักพี่เอกตลอดไป”
ผมสะบัดศีรษะ ดูนาฬิกาในห้องน้ำด้วยความประหลาดใจ เพราะมันเป็นเวลาเกือบ สองทุ่ม แสดงว่าหลังจากผมเย็ดกับยูโกะ โทโมเอะสองแม่ลูกแล้วมาแช่น้ำในจากุชชี่ เวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ผมรีบลุกขึ้นเปิดประตูห้องน้ำ เพื่อพบกับน้องซูกุมิที่ยืนยิ้มรออยู่
“น้าเอกเข้าไปทำอะไรนานจัง”
ผมส่ายหน้า ดึงร่างเมียรักมาจูบเบาๆ ก่อนตอบ
“น้าเพลียนิดหน่อยน่ะ เลยเผลอหลับไป ซูกุมิจังมีอะไรหรือเปล่า”
น้องซูกุมิพยักหน้า
“มีผู้หญิงคนหนึ่งมารอพบน้าเอกน่ะ บอกว่าจะมาสัมภาษณ์งานเป็นครูสอนให้พวกซูกุมิทั้งหมด”
ผมเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนู พลางคุยกับน้องซูกุมิอย่างไม่สนใจอะไรนัก
“แล้วเขาซชื่ออะไรล่ะ ซูกุมิเจอเขาหรือยัง เป็นไงบ้าง”
“พี่เขาไม่ยอมบอกชื่อน่ะน้าเอก พี่เขาสวยมากเลยนะ อายุยังน้อยมากแต่จบปริญาเอกแล้ว ที่น่าแปลกคือพี่เขารู้จักพวกซูกุมิทุกคนเลย ทั้งที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก ซูกุมิพยายามถามว่ารู้จักพวกเราได้ยังไง พี่เขาก็อมยิ้มไม่ยอมตอบ พอซุกุมิบอกว่าจะมาบอกพี่เอกให้ไปพบ พี่เขาก็ห้ามไว้บอกว่าปล่อยให้น้าเอกพักผ่อนไปก่อน ไม่รู้ว่าพี่เขารู้ได้ยังไง”
“อืมห์ แปลกดีนะ”
ผมแต่งตัวพลาง ถามน้องซูกุมิต่อ
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ”
“พี่เขาอยู่ที่ห้องอาหารกับทุกคน ซูกุมิชวนให้รอกินอาหารเย็นพร้อมน้าเอกน่ะ”
น้องซูกุมิบอก ขณะที่ผมแต่งตัวเสร็จแล้วเดินโอบเอวอ้อนแอ้นของเด็กหญิงออกจากห้อง
“ทุกคนชอบพี่เขาไหมล่ะ”
น้องซูกุมิพยักหน้ารับอย่างกระตือรือล้น
“ตอนที่รอน้าเอก พี่เขาคุยกับทุกคนสนิทเชียว พี่เขาน่ารักมากนะ น้าเอกรับไว้เป็นครูสอนพวกซูกุมิเถอะ”
ผมพยักหน้า
“โอเคเลย…เดี๋ยวน้าจะตกลงกับเขานะ”
ผมก้าวเข้าห้องอาหารพร้อมน้องซูกุมิ ภายในห้องทุกคนจับกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะพักผ่อนด้านหลัง รุมล้อมร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่หันหลังให้ผม ซึ่งผมแน่ใจว่าน่าจะเป็นร่างของผู้ที่มาสมัครเป็นครูสอนพิเศษให้น้องๆ ทุกคนที่แมนชั่นแห่งนี้ เสียงหัวเราะดังขึ้นต่อเนื่องในกลุ่มไม่ขาดสาย ดูจะจริงอย่างที่น้องซูกุมิบอก เพราะรู้สึกว่า “ครู” คนนี้จะเข้ากับทุกคนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผมตกลงใจในทันทีที่จะจ้างให้หญิงสาวคนนี้มาสอนเมียน้อยๆ ทุกคนของผม
น้องโทโมเอะ เงยหน้าขึ้นเห็นผมที่กำลังเดินตรงมาที่กลุ่ม แล้วโบกมือให้พร้อมร้องเรียก
“น้าเอกๆๆ ๆมานี่เร็ว ครูรอพบอยู่”
ร่างอ้อนแอ้นของหญิงสาวหันกลับมาเผชิญหน้าผมในทันที ผมสะดุ้งสุดตัว ใบหน้าเรียวงาม ดวงตากลมโต และรอยยิ้มที่แจ่มใสเมื่อประสานสายตาผม มันเป็นใบหน้าของใครไม่ได้อีกแล้ว แม้เวลาจะผ่านไป 8 ปี แต่นั่นเป็นใบหน้าของเด็กหญิงที่กำหัวใจส่วนหนึ่งของผมไว้ตลอดมา
“นาโอมิจัง”
ผมอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง น้องนาโอมิโถมออกจากกลุ่มกระโดดขึ้นกอดผมราวกับเป็นเด็กหญิงอายุ 13 คนเดิมที่ผมเคยอุ้มร่างน้อยไว้ทุกครั้งที่ผมกลับมาถึงบ้าน ร่างอบอุ่นนุ่มนวลที่แบแน่นอยู่กับผมบอกให้รู้ว่านี่เป็นน้องนาโอมิจริงๆ ไม่ใช่ความฝันที่ผมคิดไปเองแต่อย่างใด
“พี่เอกของนาโอมิ นาโอมิกลับมาหาพี่เอกแล้ว”
เสียงน้องนาโอมิพร่ำบอกข้างหูผมปนสะอื้น วงแขนหญิงสาวกอดผมแน่นราวกับไม่ต้องการแยกออกห่างแม้แต่วินาทีเดียว ผมกอดตอบยกร่างน้องนาโอมิขึ้นแล้วหมุนรอบๆ ตัวเหมือนที่ผมเคยทำกับน้องสาวคนนี้ในวัยเด็ก ก่อนวางร่างงามลงกับพื้น
“นาโอมิจัง พี่คิดถึงนาโอมิจังที่สุด มาได้ยังไงเนี่ย”
น้องนาโอมิ ยิ้มสดใส
“พี่เอกอย่าเพิ่งถามนาโอมิเลยนะ นาโอมิจะเล่าให้พี่เอกฟังทีหลัง แต่ตอนนี้นาโอมิจะมาอยู่กับพี่เอกที่นี่แหละ พี่เอกจะไล่นาโอมิไปไหนนาโอมิก็ไม่ไปทั้งนั้น”
ผมกอดร่างน้องนาโอมิไว้แน่น
“พี่ไม่มีวันปล่อยน้องนาโอมิไปไหนอีกแล้ว อยู่กับพี่ที่นี่นะ ..แต่….”
ผมชะงักนิดหนึ่งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ผมมีเมียอีก 11 คนที่พักร่วมกันอยู่ในแมนชั่นนี้ สายตาทุกคนกำลังจับจ้องมาที่ผมกับน้องนาโอมิกับผมอย่างงุนงง น้องนาโอมิหัวเราะในอ้อมอกผม ส่งเสียงเบาๆ
“พี่เอกไม่ต้องห่วงหรอก นาโอมิรู้ดีว่าทุกคนในนีร้เป็นเมียพี่เอกทั้งนั้น นาโอมิขออยู่ด้วยอีกคนเท่านั้นแหละ แต่มีข้อแม้ข้อเดียว”
“อะไรหรือนาโอมิจัง”
วงแขนน้องนาโอมิกอดผมแน่นขึ้น ริมฝีปากบางของหญิงสาวจูบผมนิ่งนาน ความหอมหวานของมันเป็นดังเช่น 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีผิด เสียงน้องนาโอมิกระซิบอายๆ ข้างหูผม
“คืนนี้พี่เอกต้องเป็นของนาโอมิคนเดียว”
—————————-
บทส่งท้าย
แสงแดดเช้าส่องเข้ามากระทบสายตาผมที่กำลังจ้องใบหน้างดงามของน้องนาโอมิ ซึ่งยังคงหลับไหลอยู่ข้างกาย การร่วมรักกับน้องนาโอมิตลอดคืนเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผมได้รับทุกสิ่งที่ขาดหายกลับเข้ามาสู่ชีวิตอย่างสมบูรณ์ เนินหีโนหกนูนที่แสนมหัศจรรย์ของน้องนาโอมิดูดรับควยของผมอย่างกระหาย ส่งแรงสะท้อนที่หนักแน่นนุ่มนวลตอบโต้การเย็ดของผมทั้งคืน จนในที่สุดน้องนาโอมิก็หมดแรงหลับสนิทโดยซุกร่างเปลือยในอ้อมกอดผมราวกับไม่ต้องการจะห่างไปแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อคืนที่ผ่านมาผมอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องนาโอมิให้ทุกคนฟังระหว่างรับประทานอาหาร ทำให้น้องทุกคนต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับน้องนาโอมิ และยอมรับ “พี่สาว’ คนใหม่ด้วยความเต็มใจ หลังจากนั้นทุกคนก็ดันให้ผมกับน้องนาโอมิขึ้นมาระลึกความหลังที่ห้องนอนใหญ่กันเพียงสองคนตลอดคืน
ผมเลื่อนไล้มือเข้ากับหน้าอกคู่งามเบื้องหน้า มันเติบโตขึ้นกว่าที่ผมเห็นครั้งสุดท้ายมาก แต่ความเต่งตึงและนุ่มนวลยังคงไม่ต่างกับทรวงอกแรกผลิของเด็กหญิงวัย 13 ที่ผมได้ร่วมรักเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา เม็ดยอดสีชมพูจัดยุบตัวลงหลังจากที่ต้องตั้งชูชันรับการดูดดมอย่างต่อเนื่องยาวนาน ผมไล้มือลงสู่เนินหีที่โค้งตัวนูนเด่นเป็นกระเปาะที่แทบใช้ฝ่ามือปิดไม่มิด ถ้าจะมีผู้ที่เทียบเคียงได้ก้คงมีแต่เพียงน้องซายากะเจ้าของเนินนูนที่ปัจจุบันกลับไปอยู่ญี่ปุ่นพร้อมพี่สาวเท่านั้น
เนินหีอวบส่งแรงสะท้อนสู้มือจนควยผมลุกขึ้นมาอีกครั้ง ผมไล้นิ้วไปมาที่หน้าปากทางเข้าสู่ร่องหลืบ สัมผัสขนหมอยอ่อนนุ่มที่ขึ้นปกคลุมแคมทั้งสองข้างไว้ น้ำรักที่ทะลักทะลายออกมาต่อเนื่องตลอดคืนทำให้ขนหมอยจำนวนหนึ่งเปียกชื้นและเกาะตัวราบกับแคมหีอวบ นิ้วผมเริ่มพยายามหาทางแทรกผ่านลงไปสู่ความแน่นหนึบภายใน พร้อมกับเจ้าของหีส่ายสะโพกช่วยให้มันจมลงไปช้าๆ
“อูย..พี่เอก..จะเย็ดนาโอมิอีกแล้วหรือ”
น้องนาโอมิครางทั้งที่ยังงัวเงีย น้ำหล่อลื่นเริ่มซึมออกมาอำนวยความสะดวกอีกครั้ง ผมยกขาเรียวงามขึ้นมาดอกไว้กับเอว แล้วค่อยๆดันควยเข้าสู่แคมหีอวบเบื้องหน้า
“อูย..พี่เอก…ใหญ่ดีจัง….”
ผมอมยิ้มขณะที่เริ่มกระเด้าช้าๆ โดยมีน้องนาโอมิช่วยขยับสะโพกตอบโต้ ใจผมคิดถึงคืนที่ผ่านมาเมื่อน้องนาโอมิเห็นควยผมที่แข็งตัวเต็มที่ด้วยความตกใจ และระล่ำระลักถามถึงควยสองนิ้วครึ่งที่ผมเคยเย็ดเมื่อ 8 ปีก่อน แต่เมื่อผมสอดควยเข้าสู่ร่องหลืบคับแน่นไปจนสุดทาง น้องนาโอมิก็ครวญครางลั่นด้วยความสุขและพร่ำบอกถึงความเสียวที่ได้รับไม่หยุด
“อูวส์…พี่เอก..ระ เร่งอีก…นา..”
น้องนาโอมิครางเสียงสั่นระริก ผมกอดเอวอ้อนแอ้นไว้แน่นแล้วกระเด้าเข้าออกถี่ยิบ ร่างงามสั่นสะท้าน สองมือรัดคอผมลงไประดมจูบไม่หยุด
“เสียว..ๆ โอย…อูวส์ นาโอมิรักพี่เอก….อ๊ายยยยยยย”
โคกหีมหึมาของน้องนาโอมิกระตุกหนุบหนับเป็นจังหวะ ผมแอ่นตัวอัดน้ำรักกระฉูดเข้าสู่ร่องหลืบน้องสาวอัจฉริยะของผมเต็มที่ ส่งเสียงกระซิบข้างใบหูขาวสะอาดนั้น
“นาโอมิจังเยี่ยมที่สุด พี่มีความสุขจังเลย นี่พี่ฝันไปหรือเปล่าที่ได้เย็ดนาโอมิจังแบบนี้”
ร่างน้องนาโอมิดูจะสะดุ้งเล็กน้อยเทื่อได้ยินคำพูดผม น้องนาโอมิเงยหน้าที่แดงเรื่อจากจุดสุดยอดขึ้นสานสายตาผม แล้วยกมือขึ้นปิดปากผม ส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดตอบเบาๆ
“พี่เอกไม่ได้ฝัน ทุกอย่างที่พี่เอกสัมผัสและรับรู้เป็นความจริง ความสุขของพี่เอกของนาโอมิ และน้องๆ ทุกคนจะคงอยู่ตลอดไปอีกยาวนาน นาโอมิรับรอง”
ผมงุนงงเล็กน้อยกับคำพูดแปลกๆ ของน้องนาโอมิ
” นาโอมิจังพูดเหมือนรู้อะไรบางอย่าง ที่พี่ไม่รู้”
น้องนาโอมิซุกหน้ากับอกผม สะโพกงามเริ่มส่ายปลุกเน้าแท่งควยของผมที่ยังคงฝังตัวอยู่ในรูหีอบอุ่น ริมฝีปากเรียวงามส่งเสียงราวกับละเมอ
“วันเวลาของทุกคนยังมีอีกยาวนาน นาโอมิจะค่อยๆ บอกพี่เอก แต่ตอนนี้พี่เอกอย่าเพิ่งถามอะไรนาโอมิเพราะนาโอมิต้องการรับความสุขจากพี่เอกให้มากที่สุดทดแทนสิ่งที่นาโอมิเสียไปใน 8 ปีที่ผ่านมา ถ้าพี่เอกยังไม่เบื่อนาโอมิซะก่อน”
ผมกระเด้าสะโพกอัดควยเข้ากับความอวบนูนของเนินหีน้องสาวแสนรัก กอดร่างงดงามไว้แน่น
“พี่ไม่มีวันเบื่อนาโอมิจัง ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปี ยี่สิบปี พี่ก็จะเย็ดนาโอมิจังแบบนี้”
เสียงน้องนาโอมิพึมพัมขึ้นมา
“ถ้าเป็น 500 ปีล่ะพี่เอก..”
——————————-
จบบริบูรณ์