Home Alone โดดเดี่ยวผู้น่าฟัด - ตอนที่ 2 "ปากกาเมจิก"
“เฝ้าบ้านดีๆนะลูก” คุณแม่ยังสาวคนหนึ่งกล่าวกับลูกสาวคนเดียวของเธอ “แน่ใจนะว่าจะไม่ไปด้วยน่ะ” ลูกสาวพยักหน้าตอบ “งานเลี้ยงน่าเบื่อจะตาย หนูว่าอยู่บ้านเฉยๆยังจะดีซะกว่าอีก” เด็กสาวกล่าวอย่างเซ็งๆ “งั้นเดี๋ยวเย็นๆแม่จะกลับนะ” คุณแม่เลิกตื้อเธอ “ค่าาา” รถยนต์คันหรูค่อยๆเคลื่อนออกจากประตูช้าๆ เด็กสาวช่วยแม่ปิดประตูเมื่อรถคันงามเคลื่อนออกจากบ้านไปแล้ว เธอปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา แล้วเดินกลับเข้าบ้านอย่างสบายอารมณ์
“แคท” เด็กสาวหน้าตาน่ารักวัย 13 ปี เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ พ่อแม่ของเธอทำธุรกิจเอกชนรายได้เหลือกินเหลือเก็บ แม้วันนี้จะเป็นวันเสาร์แต่พ่อของเธอก็ยังทำงานอยู่จนเย็น ส่วนแม่ของเธอก็ชอบเหลือเกินที่จะไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กับหมู่เพื่อนสนิท จนเป็นเรื่องที่ชินซะแล้วที่จะต้องอยู่บ้านคนเดียวในวันหยุดเช่นนี้ แคทนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ในบ้านอย่างสงบโดยไม่รู้เลยว่าวันนี้ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร
[ตุบ!] เสียงอะไรบางอย่างตกลงข้างๆบ้านของแคท เด็กสาวทำเป็นไม่สนใจนั่งอ่านการ์ตูนเรื่องโปรดต่อไป [ออด~~~~] เสียงออดหน้าบ้านขัดจังหวะเธอ แคทลุกขึ้นมองไปที่หน้าบ้านผ่านช่องประตูก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดเล่นฟุตบอลแบบเต็มยศ ชายหนุ่มมองมาทางเธอทำท่าเหมือนให้เธอช่วยเก็บอะไรบางอย่างที่ตกอยู่ข้างบ้าน แคทหันไปมองที่ข้างบ้านก็เห็นลูกฟุตบอลลูกหนึ่งหล่นอยู่ในสนามหญ้าของบ้านเธอ < ทำไมมาเตะบอลแถวนี้นะ...แย่จริงๆเลย > แคทนึกหงุดหงิดในใจพลางเปิดประตูออกไปเก็บบอลให้ชายคนนั้น ชายหนุ่มยิ้มให้แคททำเอาเธอต้องรีบละสายตา วันนี้แคทใส่ชุดเสื้อยืดสีเหลืองกับกระโปรงยีนส์สั้นๆแค่ครึ่งน่อง ผมเธอยาวจนเกือบถึงเอวถักเปียเล็กๆข้างละอันรัดด้วยยางรัดสีเหลืองเข้ากับชุด หน้าตาของเธอดูน่ารักไม่แพ้ใครๆในละแวกบ้าน ส่วนผิวพรรณก็ผุดผ่องตามแบบลูกผู้ดีที่ได้รับการดูแลอย่างดี แคทจึงไม่แปลกใจเลยที่ชายหนุ่มจะจ้องมองเธอแบบนั้น เด็กสาวแอบยิ้มไม่ให้ชายคนนั้นเห็นก้มลงเก็บลูกบอลช้าๆ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเธอ ทันทีที่แคทสัมผัสลูกบอลนั่นกระแสไฟฟ้าจากลูกบอลก็แล่นผ่านมือนิ่มๆของเธอ ช๊อตร่างของเด็กสาวผู้น่าสงสารจนสลบเหมือดไปทันที เด็กสาวล้มลงพร้อมสติที่ค่อยๆเลือนหายไป…
ดวงตากลมๆค่อยเปิดขึ้นช้าๆพร้อมกับสติที่กลับคืนมาของเด็กสาว แคทรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัวซึ่งก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อเธอลืมตามองร่างกายของเธอก็พบว่าตอนนี้เธอถูกมัดมือมัดเท้า นอกจากนี้ปากของเธอก็ยังถูกมัดแน่นจนไม่สามารถพูดออกมาเป็นเสียงได้ < เกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ...ทำไมเราเป็นแบบนี้? > แคทนอนอย่างสิ้นอิสระบนเตียงลายคิตตี้สีชมพูของเธอเอง “ตื่นแล้วเหรอน้องแคทคนสวย” เสียงที่ไม่คุ้นหูสะกิดความสนใจเธอจากด้านหลัง แคทพยายามเอียงคอหันไปดูที่มาของเสียงทั้งๆที่ถูกมัดอยู่ ก็เห็นชายคนที่ทำลูกฟุตบอลหล่นใส่บ้านเธอนั่งอยู่บนเตียงเดียวกัน “พอดีน้าเห็นหนูจู่ๆก็หลับไป น้าเลยช่วยอุ้มเข้ามานอนในห้องนอนของหนูน่ะ” เหตุผลของเขาช่างน่าเชื่อถือจนเด็กสาวกลัวตัวสั่น < แล้วทำไมต้องมัดแคทด้วย...ปล่อยแคทนะ! > แคทพยายามดิ้นหนีห่างชายแปลกหน้าให้มากที่สุด น้ำตาใสๆเอ่อล้นเบ้าตา “อะไรกัน…ซึ้งจนน้ำตาไหลเลยเหรอ” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับคลานตามเด็กสาวไปอย่างใจเย็น < อย่าเข้ามานะ...ออกไป!> แคทใช้เท้าที่ถูกมัดอยู่พยายามถีบชายแปลกหน้าแต่ก็ไม่เป็นผล ซ้ำร้ายยังเพิ่มตัณหาให้ชายหนุ่มมากขึ้นเมื่อกางเกงในสีขาวที่ซ่อนอยู่ใต้กระโปรงเผยให้เขาเห็น ชายหนุ่มคว้าขาของเด็กสาวได้อย่างง่ายดาย “เป็นเด็กเป็นเล็ก…มายกแข้งยกขาให้ผู้ใหญ่ดูได้ไงกัน” ชายหนุ่มพูดจบเธอก็ยังไม่เลิกดิ้น แคทดิ้นสุดชีวิตหวังหนทางรอด “อยากโชว์นักใช่มั๊ย? ไหน…ขอน้าดูซิว่ามีอะไรมาโชว์” < ไม่ใช่นะ...ปล่อย! > แคทรีบส่ายหัวปฏิเสธทันทีแต่ป่วยการที่เขาจะสนใจ ชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิดึงแคทเข้ามาหาตัวเขา < อย่า...ฮือๆๆ > ก้นของแคทขึ้นไปเกยบนตักส่วนหัวชี้ไปด้านหน้าของเขา ท่อนขาขาวๆที่ยังดิ้นไม่เลิกถูกยกขึ้นพาดบ่าชายหนุ่ม แคททั้งกลัวทั้งอายเพราะตอนนี้กระโปรงยีนส์ของเธอไหลลงไปกองบนหน้าท้องตามแรงโน้มถ่วง เผยชั้นในของเธอให้ชายแปลกหน้าดูแบบเต็มๆตา “ว๊าว! เซ็กซี่จังเลย มิน่าล่ะ…ถึงอยากโชว์นัก ฮ่าๆๆ” <ไม่ใช่นะ...ฮือๆๆ> ชายหนุ่มหัวเราะอย่างสนุกสนานพร้อมไปกับเสียงปฏิเสธที่ดังอู้อี้ในปากของเด็กสาว กลิ่นกายของแคทหอมรัญจวนใจชายหนุ่มยิ่งนัก โดยเฉพาะกลิ่นที่ลอยมาจากภายในเนื้อผ้าบางๆกลางหว่างขาเธอ “เซ็กซี่น่าหอมจริงๆเลย ขอน้าหอมให้ชื่นใจหน่อยนะ” แคททำตาโตด้วยความตกใจ < ม่ายยยยย...อย่าน้าาาาา > แคทกรีดร้องสุดเสียงแต่ก็ดังไม่พอที่จะทำให้ชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยตัณหาหยุดทำพฤติกรรมเลวๆกับเธอ มือซ้ายล็อคขาเด็กสาวไว้แน่น มือขวาดันก้นของเธอจนลอยขึ้นมาระดับเดียวกับหน้าของเขา ชายแปลกหน้าก้มหน้าลงซุกหว่างขาของแคท จมูกของเขาทิ่มบดเนินเสียวสูดดมกลิ่นหอมของเนื้อผ้าและเนื้อตัวของเธอไปพร้อมๆกัน “อาาา…ชื่นใจเหลือเกิน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นบอกเด็กสาวแล้วก็ก้มลงซุกไซ้ต่ออย่างหื่นกระหาย < ฮือๆๆ อย่าทำแคทเลย...ปล่อยแคทเถอะ...ฮือๆๆ > แคทกลัวชายหนุ่มจับใจร้องไห้จนไม่มีแรงจะห้ามหนุ่มหื่น ปล่อยให้เขาดมกลิ่นสาบสาวตรงส่วนที่เธอใช้ฉี่เป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นแคทเลิกดิ้นเอาแต่ร้องไห้ชายหนุ่มก็หยุดสูดดมกลิ่นลับเฉพาะของเธอ เขาทิ้งตัวเด็กสาวลงกับเตียงปล่อยให้เธอสะอึกสะอื้นต่อไปอีกซักพัก “เอาล่ะ…สาวน้อย” ในที่สุดชายหนุ่มก็เริ่มพูดอีกครั้งเมื่อเห็นแคทสงบลงแล้ว “หนูอยากให้น้าปล่อยหนูไปใช่มั๊ย?” แคทกลัวชายแปลกหน้าจับใจแต่ก็กลั้นใจพยักหน้าตอบเขาในทันที “งั้นเอางี้…ถ้าน้าถามอะไรแล้วหนูยอมบอกน้าตามความจริง น้าจะแก้มัดที่เท้าให้” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอ ที่จริงแคทอยากให้เขาปล่อยเธอเลยมากกว่า แต่แค่นั้นก็ยังดีกว่าถูกมัดแบบนี้ < ถามอะไรล่ะ?...ถามมาเลย หนูยอมบอกทุกอย่าง ปล่อยหนูไปเถอะนะ > แคทได้แต่หวังในใจลึกๆว่าจะได้รับอิสรภาพในไม่ช้า “ตกลงมั๊ย?” ชายหนุ่มถามอีกครั้งก็ได้เห็นการพยักหน้าของแคทตอบรับ “ดีมาก…น้าถามไม่ยากหรอก แค่พยักหน้าหรือส่ายหน้าก็พอ” เด็กสาวพยักหน้าอีก “แคทอายุเท่าไหร่แล้วครับ 13 แล้วใช่มั๊ย?” คำถามแรกเด็กสาวพยักหน้าตอบอย่างง่ายดาย “แคทเป็นลูกคนเดียวใช่มั๊ย?” “เวลานอน แคทนอนคนเดียวสินะ?” “วันนี้กินข้าวเที่ยงแล้วรึยัง?” คำถามแล้วคำถามเล่าเด็กสาวพยักหน้าตอบอย่างเร่งรีบเพราะอยากเป็นอิสระเร็วๆ แต่รอยยิ้มของชายหนุ่มช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก จนกระทั่งคำถามต่อไปมาถึง “วันนี้แคทใส่กางเกงในสีขาวใช่มั๊ย?” แม้ทั้งคู่ต่างก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเห็น แต่ชายหนุ่มก็ยังถามเธออีก แคทพยักหน้าตอบอย่างอายๆ < ถามบ้าอะไรเนี่ยะ...ก็เห็นๆอยู่ > เด็กสาวถึงกับบ่นพึมพำในใจ “ปกติเวลานอนแคทใส่กางเกงในรึเปล่า?” คราวนี้เด็กสาวลังเลแต่ในที่สุดก็ส่ายหัวตอบปฏิเสธไป “จริงเหรอ?” เสียงชายหนุ่มคราวนี้ไม่ใช่คำถามแต่ฟังดูเหมือนจับโกหกเธออยู่ เด็กสาวเริ่มกลัวขึ้นมานิดๆแต่ก็พยักหน้าตอบว่าจริง แคทไม่คิดว่าชายแปลกหน้าจะรู้ข้อมูลของเธอขนาดนั้น “น้าบอกให้หนูตอบตามความจริงใช่มั๊ย? แล้วทำไมถึงโกหกน้า!” แคทกลัวจนตัวซีด < รู้ได้ยังไงว่าแคทโกหกอ่ะ! > เธอไม่เคยใส่กางเกงในนอนเลยเพราะชุดนอนที่มีกางเกงขายาวก็เพียงพอกับความต้องการแล้ว “เด็กไม่ดี…ชอบโกหกผู้ใหญ่ สงสัยต้องทำโทษซักหน่อยแล้วมั๊ง” แคทรีบส่ายหัวปฏิเสธทันที < ไม่เอา...อย่าตีแคทนะ แคทกลัวแล้ว! > ชายหนุ่มขู่เด็กสาวจนขวัญหนีไปหมด “สรุปว่าปกติน้องแคทใส่กางเกงในนอนรึเปล่า?” ชายหนุ่มถามซ้ำอีกครั้ง คราวนี้แคทส่ายหน้าตอบด้วยความกลัวแต่ฝ่ายชายกลับยิ้มด้วยความสะใจ “ก็แค่นั้นแหละ…ยอมรับตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องแล้ว” เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะโล่งอกที่ไม่ถูกทำโทษ “แคทมีแฟนรึยัง?” คำถามใหม่ตามมาคราวนี้แคทรีบส่ายหัวแทบไม่ทัน “แล้ว…มีคนที่ชอบมั๊ย?” แคทก้มหน้าก่อนจะพยักหน้าตอบโดยไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม “เคยช่วยตัวเองมั๊ย?” เด็กสาวกลืนน้ำลายลงคอเพราะคำถามสุดโหด < เฮ้ย!...ถามอะไรอย่างงี้อ่ะ > เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่วิงวอนให้เขาเปลี่ยนคำถาม “อย่าโกหกนะ” คำอธิบายสั้นๆแต่เข้าใจง่ายทำให้แคทจำใจต้องพยักหน้าตอบด้วยความอับอาย เธอรู้สึกเหมือนตัวเล็กลงทุกทีๆที่ตอบคำถามเรื่องส่วนตัวของเธอ “ฮ่าๆๆ เด็กสมัยนี้มันยังไงกันนะ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ “ทุกวันรึเปล่า?” คำถามนี้ค่อยยังชั่ว เธอส่ายหัวตอบแบบไม่ค่อยอายมากนัก “ก่อนนอน?” ไม่ใช่… “ตอนอาบน้ำ?” เด็กสาวพยักหน้า “อืม…เข้าท่าดี ในห้องน้ำก็ไม่มีใครจับได้เนอะ” ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกตชวนให้เด็กสาวอายเพราะนั่นคือความจริง หน้าของเธอแดงกล่ำราวกับมะเขือเทศ “เอาล่ะ…คำถามสุดท้ายแล้ว” แคทรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ยินคำพูดนี้ “วันนี้แคทช่วยตัวเองไปรึยัง?” คำถามสุดท้ายก็ยังไม่วายประจานตัวเธอเอง แคทตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าตอบรับอย่างเอียงอาย เด็กสาวชำเลืองมองชายผู้ที่เอาแต่ถามคำถามสัปดนกับเธอก็เห็นแต่รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเล่ห์กล สักพักชายหนุ่มก็เอื้อมมือคว้าเชือกที่พันรอบขาของเธอออก ปล่อยเด็กสาวให้เป็นอิสระตามสัญญา
ทันทีที่ขาของแคทได้รับอิสระ เธอยืนขึ้นด้วยขาทั้งสองกระโจนลงจากเตียงวิ่งตรงไปยังประตูทางออก เพื่อหนีออกจากชายแปลกหน้า หนีออกจากบ้านของเธอเองให้เร็วที่สุด แต่พอไปถึงประตูเธอก็ลืมสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งไป มือของแคทที่ถูกมัดไพล่หลังอยู่ไม่สามารถเปิดประตูไปสู่ความเป็นอิสระได้ “แล้วกัน…จะรีบไปไหนจ๊ะที่รัก เรายังไม่เสร็จธุระกันเลยนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็นพลางเดินตรงมายังที่ซึ่งสาวน้อยกลัวจนตัวสั่นติดมุมห้อง “เวลาผู้ใหญ่ช่วยเหลืออะไรก็ต้องขอบคุณเขาสิถึงจะถูก ไม่ใช่วิ่งหนีอย่างนี้ มันเสียมารยาทรู้มั๊ยแคท” ชายหนุ่มสั่งสอนเธอราวกับเป็นครูสอนจริยศึกษา “เด็กไม่ดีอย่างนี้ต้องทำโทษกันหน่อยแล้ว” พูดจบเขาก็หอบเอวเด็กสาวอุ้มกลับมายังเตียงของเธอ ขาทั้งสองของแคทถีบมั่วไปทั่วเพื่ออิสรภาพ “ดิ้นนักเหรอๆ นี่แน่ะ!” [เพี๊ยะ!]ฝ่ามืออันหยาบกร้านฟาดลงไปที่น่องขาขาวๆของเด็กสาวจนเกิดรอยแดงรูปมือบนนั้น เด็กสาวเจ็บจนร้องลั่น “จะดิ้นอีกมั๊ย?” < ไม่แล้วค่ะ...ไม่แล้ว ฮือๆๆ > แคททั้งส่ายหัวทั้งส่งเสียงตอบเพราะเกรงว่าเขาจะลงมืออีกรอบสอง เด็กสาวถูกอุ้มมานอนคว่ำหน้ากับขอบเตียง ช่วงขาของเธอตกลงมาอยู่กับพื้นในลักษณะคุกเข่าโดยลำตัวและหัวของเธออยู่บนเตียง แต่ด้วยความที่เตียงสูงกว่าช่วงขาของเธอทำให้เข่าของแคทลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย หน้าของเธอหันออกด้านข้างเพื่อให้หายใจสะดวก แคททุเลาอาการเจ็บลงแล้วแต่ก็นอนนิ่งอยู่ในท่านั้นด้วยไม่อยากจะเจ็บตัวอีกต่อไป “เอาล่ะ…น้าจะต้องตีแคทซัก 3 ที โทษฐานที่แคทวิ่งหนีน้าล่ะนะ” แคทได้ยินก็รีบส่ายหัวร้องขอความเป็นธรรม โดนจับนอนท่านี้เด็กสาวรู้ดีว่าจะโดนตีตรงส่วนไหน < ไม่นะคะ...น้า อย่าตีหนู...อย่า > กระโปรงยีนส์ถูกตลบขึ้นไปกลางหลังเผยให้เห็นกางเกงในสีขาวอีกครั้ง “อย่าดิ้นนะ…ถ้าดิ้นล่ะก็ จะโดนอีกเป็น 5 เท่าเลย” ชายหนุ่มพูดดักทางไว้ทันก่อนที่แคทจะเริ่มดิ้นพอดี เธอกลัวจนตัวสั่นแต่ก็ไม่กล้าขยับตัว “ต้องอย่างนี้สิ ทำผิดก็ต้องกล้ารับผิด…เข้าใจมั๊ย?” แคทเข้าใจแจ่มแจ้งแต่เธอก็ไม่เห็นว่าการวิ่งหนีชายหนุ่มโรคจิตคนนี้จะเป็นความผิดอย่างไร เธอได้แต่เฝ้าภาวนาให้เหตุการณ์เลวร้ายนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว สัมผัสของมือชายหนุ่มที่ก้นของแคทดึงเธอกลับสู่โลกปัจจุบัน ชายหนุ่มโรคจิตของเธอลูบคลำบั้นท้ายนิ่มๆที่ไม่เคยต้องมือใครอื่นอย่างสนุกสนาน ซ้ายทีขวาทีบ้างก็มุดเข้าไปในร่องก้นบ้างก็ขยำจนแทบจะแหลกคามือ แคททั้งกลัวทั้งอายเพราะสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยในสถานการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ และแล้วกางเกงในของเด็กสาวก็ค่อยๆถูกดึงเลื่อนต่ำลง “อ๊ะๆ อยากโดนรึไง” ชายหนุ่มย้ำเตือนสติแคทให้นอนนิ่งไว้เมื่อเห็นเธอทำท่าจะขยับ แคทจำต้องนอนเฉยๆแม้เธอจะต้องโชว์ก้นขาวๆให้เขาดูก็ตาม กางเกงในตัวน้อยหลุดลงไปกองที่หัวเข่าปล่อยให้เด็กสาวนอนก้นโด่งโชว์ความขาวของแก้มก้นให้ชายแปลกหน้าดูอย่างเต็มตา “แหม…ขาวจริงว้อย” ชายโรคจิตวิจารณ์เธออย่างสะใจ แคทได้แต่หลับตาเพราะไม่อยากรับรู้ว่าชายหนุ่มกำลังทำอะไรเธออยู่ ฝ่ามือคู่เดิมกลับมาบีบคลำบั้นท้ายแคทอีกหลายนาที และแล้วมือคู่นั้นก็ละจากแก้มก้นงามงอนของเธอ [เพี๊ยะ!] ฝ่ามืออันเดิมกลับมาสัมผัสก้นของแคทอีกครั้ง < โอ้ยยยยย!> คราวนี้ปะทะกับผิวเนื้อนิ่มๆของเธออย่างแรง แคทเจ็บปวดจนสะดุ้งโหยง เธอไม่เคยโดนตีก้นแบบนี้มาก่อน แม่ของแคทเลี้ยงเธอราวกับไข่ในหินทีเดียว [เพี๊ยะ!] ฝ่ามือที่สองซ้ำรอยเก่ายิ่งเพิ่มความเจ็บแสบให้เด็กสาวยิ่งขึ้น < ฮือๆๆ ไม่เอาแล้ว...อย่าาาาา> [เพี๊ยะ!] ฝ่ามือสุดท้ายอัดปะทะบั้นท้ายเด็กสาวอย่างแรงยิ่งกว่าสองครั้งที่ผ่านมา แคทเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจร้องโอดครวญอย่างคนเสียสติ บั้นท้ายที่เคยขาวผ่องกลับแดงไปด้วยฝ่ามือทั้งสามของชายโรคจิต ก้นของแคทร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อชายหนุ่มได้สัมผัสมันอีกครั้ง เขาลูบคลำก้นเด็กสาวเล่นราวกลับจะช่วยปล่อยขวัญเธอให้หายเจ็บไวๆ “คราวหลังจะหนีน้าไปไหนอีกมั๊ย” แคทส่ายหน้าตอบทันทีทั้งๆที่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่…
ชายหนุ่มโรคจิตละจากแคทไปเตรียมอุปกรณ์อะไรบางอย่าง แคทไม่ทันได้มองเพราะมัวแต่หลับตาข่มความเจ็บปวดของตนอยู่ สักครู่ชายหนุ่มก็กลับมานั่งบนเตียงข้างแคทอีกครั้ง “แคทจ๋า…คราวนี้น้าจะขอทดสอบอะไรอีกซักหน่อยนะ” ชายแปลกหน้าเริ่มแผนการณ์ขั้นต่อไป < ยังไม่จบอีกเหรอ...ปล่อยหนูไปเถอะนะ ขอร้องล่ะ > เด็กสาวรู้ตัวดีว่าเรื่องคงไม่จบง่ายๆ แต่ก็หวังอยู่ตลอดว่าเธอจะได้รับอิสระในไม่ช้า “น้าจะขอฉีดยาให้แคทซักเข็มนึงนะ” เด็กสาวสะดุ้งโหยงหันไปมองทางหนุ่มโรคจิตก็เห็นในมือของเขาถือเข็มฉีดยาที่มีน้ำยาสีเหลืองส้มพร้อมที่จะฉีดใส่เธออยู่เต็มหลอด แคทรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “เอาน่าาา…ไม่ใช่ยาเสพติดหรอก ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ…ฮิๆๆ” เสียงหัวเราะของเขาทำให้แคทกลัวยิ่งกว่ารู้ว่าจะถูกฉีดยาบ้าซะอีก “ฉีดเข็มนี้แล้วน้าจะเปิดผ้าปิดปากแคทให้…ดีมั๊ย?” ชายโรคจิตยื่นข้อเสนอ < แกะผ้าออกอย่างเดียว ไม่ต้องฉีดยาไม่ได้เหรอ... > เด็กสาวบ่นพึมพำในใจเพราะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ สำลีชุบแอลกอฮอล์เย็นๆแปะลงที่สะโพกของเด็กสาวบอกให้เธอรู้ว่าจะโดนฉีดตรงส่วนไหน แคทสูดหายใจเข้าไปเต็มปอดเตรียมตัวรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้น ปลายเข็มจรดลงบนผิวหนังเด็กสาวแล้วค่อยๆจมหายลงไปเรื่อยๆ แคทหลับตาปี๋ด้วยความเจ็บปวดราวกับมีฝูงมดนับ 10 ตัวกำลังแย่งกันกัดสะโพกของเธออยู่ น้ำยาในหลอดค่อยๆไหลเข้าสู่ร่างกายของแคทจนหมดหลอด เข็มถูกถอนออกจากสะโพกเธอ ชายโรคจิตปล่อยให้เด็กสาวนอนพักฟื้นอีกครู่หนึ่ง
แคทชำเลืองมองชายโรคจิตอย่างเคียดแค้น เธอไม่เคยทำอะไรให้เขาทำไมจะต้องมาเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ด้วย ความคิดของเด็กสาวหยุดลงเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังตั้งกล้องวีดีโอที่ปลายเตียงและหันมาทางเธอ < จะทำอะไรหนูอีก...พอได้แล้ว > ชายหนุ่มคลานเข้ามานอนข้างๆแคทโดยไม่สนเสียงอู้อี้ๆของเธอ “น้าไม่ชอบเด็กดื้อ…แคทคงไม่อยากให้น้าอารมณ์เสียใช่มั๊ย” แคทพยักหน้าตอบ เธอไม่อยากถูกตีอีกแล้ว “ดี…คราวนี้น้าจะแก้ผ้าที่ปากให้แคท เราจะได้คุยกันสบายๆนะ” เด็กสาวค่อยสบายใจขึ้น “แล้วถ้าคิดจะร้องให้ใครช่วยล่ะก็…หนูลำบากแน่ เพราะนั้นจะทำให้น้าโกรธมาก” ชายหนุ่มขู่ไว้ล่วงหน้าก่อนบรรจงแกะผ้าผูกปากแคทออกอย่างใจเย็น แคทมีเรื่องอะไรอยากจะพูดมากมายแต่พอปากของเธอได้รับอิสระแคทกลับนิ่งเงียบ เธอกลัวว่าเสียงของเธออาจทำให้หนุ่มโรคจิตโกรธขึ้นมาก็ได้ ชายหนุ่มเห็นแคทเงียบก็เอามือลูบหัวเธอเล่นอย่างเอ็นดู “น่ารักมาก…” คำชมของชายหนุ่มไม่ทำให้แคทสบายใจขึ้นเลย เด็กสาวสูดหายใจหนึ่งทีก่อนจะเปล่งเสียงออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ “น้าทำอย่างนี้กับแคททำไม?” เสียงเธอสั่นๆด้วยความกลัวว่าคำถามของเธออาจทำให้โดนตีได้ แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มให้เธออย่างสบายอารมณ์ “ไม่มีอะไรมากหรอก…น้าชอบรังแกเด็กน่ารักๆ สะใจดี” คำตอบของชายหนุ่มยืนยันความเป็นโรคจิตของเขาอย่างชัดเจน คราวนี้เองที่แคทรู้สึกว่าเธอไม่น่าเกิดมาน่ารักเลย “น้าปล่อยแคทไปเถอะนะคะ…หนูกลัวแล้ว” แคทเริ่มกล้าพูดมากขึ้น เธอรีบขอความอิสระจากเขาทันที “เหอะ! ไม่ต้องรีบร้อนน่า…เรามีเวลาอีกตั้ง 3 ชั่วโมงไม่ใช่เหรอ” เด็กสาวหันไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าบ่ายสามโมงแล้ว ชายโรคจิตรู้ทุกความเคลื่อนไหวในบ้านของแคทเป็นอย่างดี มือที่ลูบหัวเด็กสาวอยู่เลื่อนลงไปโอบไหล่ของเธอดึงเข้าหาตัวเขา ถึงแม้แคทจะรังเกียจชายหนุ่มยิ่งนักแต่เธอก็ไม่กล้าขยับตัวดิ้นหนีเขา ชายโรคจิตก้มลงหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ต่อหน้ากล้องวีดีโอที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองคน “ถ่างขาออกโชว์กล้องหน่อยซิ น้องแคทคนสวย” หัวใจแคทแทบตกลงไปที่ตาตุ่ม กางเกงในเธอหลุดไปกองอยู่กับพื้นแล้ว ขืนเธอถ่างขาออกเธอคงต้องกลายเป็นดาราหนังโป๊ไปแน่ๆ “คุณน้าขา…แคทไม่ได้ใส่…” เด็กสาวพยายามทำเสียงออดอ้อนสุดชีวิต “รู้แล้วว่าไม่ได้ใส่ นั่นแหละที่น้าต้องการ เร็วๆเข้า โชว์หีให้กล้องดูหน่อย” ชายโรคจิตย้ำคำสั่งของเขาอีกครั้งคราวนี้เสียงดุมากขึ้นจนเด็กสาวเริ่มกลัวเจ็บมากกว่ากลัวอาย แคทค่อยๆเลื่อนขาออกจากกันช้าๆ “อีก…ถ่างออกกว้างๆ” แคทหลับตาฝืนใจเปิดเผยของลับของเธอตามคำสั่งชายหนุ่มด้วยความละอาย กลีบเสียวของวัยรุ่นแย้มบานออกช้าๆตามจังหวะการถ่างขาของเจ้าของ บนเนินเสียวมีพุ่มกอหญ้าอ่อนๆเป็นเส้นเล็กๆกระจายอยู่บ่งบอกพัฒนาการของวัยแรกสาว “ว๊าว! หีแคทเนี่ยะโหนกดีจังนะ เป็นเพราะไม่ชอบใส่กางเกงในนอนรึเปล่า” ชายโรคจิตวิจารณ์สรีระเด็กสาวเสียงดัง ทำเอาแคทอายหนักเข้าไปใหญ่ หน้าของเธอแดงจนรู้สึกร้อนไปหมด
“เอาล่ะ…เข้าเรื่องซักที” ชายหนุ่มพูดขึ้นหลังจากหยอกล้อเธอต่อหน้ากล้องวีดีโอของเขาอีกเกือบ 10 นาที “แคทชอบช่วยตัวเอง…แต่ตอนนี้มือหนูไม่ว่างแล้ว เพราะฉะนั้นคราวนี้น้าจะช่วยแคทเองนะ ดีมั๊ย?” ชายโรคจิตถามคำถามที่ทำให้แคทต้องผวาอีกแล้ว “เอ่อ…ไม่เป็นไรค่ะ คือตอนนี้แคทไม่อยาก…” เด็กสาวรีบหาหนทางบ่ายเบี่ยงทันที “ไม่เป็นไรน่า…น้ารู้ว่าแคทเงี่ยนแล้ว ฮิๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะอย่างสนุกสนาน “แต่มีกติกาอยู่นิดหน่อยนะ” < พอซักทีเหอะ > แคทเริ่มบ่นในใจกับความโรคจิตไร้ขีดจำกัดของชายหนุ่ม “ระหว่างที่น้าช่วยตกเบ็ดให้แคท…แคทต้องจ้องไอ้นี่ตลอดห้ามละสายตาไปไหน” ชายโรคจิตคว้าปากกาเมจิกที่ใช้เขียนบนกระดานไวท์บอร์ดออกมาให้แคทจ้อง “ทำได้มั๊ยที่รัก” ชายหนุ่มจบการอธิบายกติกา “เสร็จแล้วน้าจะปล่อยหนูใช่มั๊ยคะ?” แคทอยากเป็นอิสระไวๆ รีบต่อรองทันทีที่มีโอกาส “อืม…ก็ได้ แต่อย่าลืมว่าต้องจ้องมันตลอด ห้ามละสายตาไปไหน จนกว่าแคทจะเสร็จ” เด็กสาวพยักหน้าตอบรับ การจ้องปากการะหว่างที่ถูกชายแปลกหน้าตกเบ็ดให้คงไม่ลำบากเท่าไรหากมันแลกกับอิสรภาพของเธอได้ ชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะวางปากกาไวท์บอร์ดลงบนเตียงระหว่างขาของเด็กสาว ปากกาห่างจากร่องเสียวเธอไปเกือบคืบ แต่ระยะที่แคทมองเห็นนั้นมันไม่ได้ห่างจากร่องเสียวของเธอเท่าไหร่เลย แคทสามารถมองเห็นร่องเสียวของเธอแล้วปากกาด้ามนั้นได้ในเวลาเดียวกัน เมื่อวางตำแหน่งของปากกาเสร็จแล้ว มือสากๆของชายโรคจิตก็เข้าจู่โจมร่องเสียวแคททันที ขาของเด็กสาวถึงกับกระตุกเล็กน้อยกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยนั้น “จ้องเอาไว้” ชายหนุ่มเตือนสติแคทให้ทำตามกติกาที่ตกลงกันไว้ แคทจ้องปากกาและมือโรคจิตที่ลูบคลำเนินสงวนของเธอไปพร้อมๆกัน ลมหายใจของแคทเริ่มถี่ขึ้นเมื่อร่องเสียวของเธอถูกนิ้วด้านๆลากขึ้นลากลงกระทบติ่งเสียวของเธออย่างต่อเนื่อง แม้เด็กสาวจะถูกสั่งให้จ้องแต่ปากกาเมจิกแต่เธอก็รู้ดีว่ากล้องวีดีโอกำลังบันทึกภาพของเธอเอาไว้ทั้งหมด แคทพยายามกลั้นความรู้สึกเสียวที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆด้วยไม่อยากให้กล้องบันทึกภาพอันน่าอายของเธอ น้ำสวาทค่อยๆซึมไหลออกมาภายนอกฟ้องชายแปลกหน้าให้เขารู้ว่าตอนนี้แคทมีอารมณ์ร่วมเพียงใด “อิๆๆ เริ่มเสียวแล้วใช่มั๊ยคนเก่ง” ชายโรคจิตแซวแคท เธอไม่สนใจตอบ เอาแต่จ้องมองปากกาตามคำสั่งที่ได้รับหวังเพียงแต่อิสรภาพของเธอ แคทเริ่มรู้สึกแปลกๆ เธอพยายามจะแอบละสายตาไปมองนาฬิกาซักหน่อยแต่กลับทำไม่ได้ เหมือนกับปากกาด้ามนั้นมีแรงดึงดูดให้เธอจ้องมันตลอดเวลา พร้อมกันนั้นเธอยังรู้สึกเสียวมากขึ้นเรื่อยๆและเริ่มคิดแผลงๆที่อยากจะเอาปากกานั้นมาสอดใส่รูเสียวของเธอ <คิดอะไรของเราเนี่ยะ...น่าเกลียดจริงๆเลย> แคทบ่นกับความทะลึ่งของตัวเองในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ ขณะที่นิ้วของชายหนุ่มเริ่มควานหาทางเข้าถ้ำของเธอและเริ่มทำการขุดเจาะ แคทกลับจินตนาการไปว่าเธอกำลังเอาปากกาเมจิกด้ามนั้นช่วยตัวเองอยู่ ความเสียวที่แคทรู้สึกนั้นมากกว่าครั้งไหนๆที่เธอเคยทำ ร่างกายเธอเริ่มบิดไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ลมหายใจของเธอเริ่มไม่เป็นจังหวะ เสียงเล็กๆน้อยๆหลุดลอดออกมา ชายโรคจิตรู้แล้วว่าแคทกำลังจะเสร็จในไม่ช้า เขารีบซอยนิ้วของเขาเข้าออกร่องเสียวที่ฉ่ำแย้มไปด้วยคราบเสียวของแคท เสียงน้ำในร่องเสียวดังออกมาให้ทั้งคู่ได้ยิน อารมณ์ใคร่ของแคทพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เธอตัวสั่นโก่งก้นรับนิ้วของชายโรคจิตที่เธอนึกว่าเป็นปากกาเมจิกจนกระทั่งขึ้นสวรรค์ไปในที่สุด แคทนอนหมดแรงจนหลับไป
แคทลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอยังอยู่บนเตียงของเธอ ความรู้สึกบอกเด็กสาวว่าเธอยังคงถูกมัดมือไพล่หลังอยู่ นอกจากนี้ยังมือเชือกอีกเส้นมัดเธอติดกับหัวเตียงไม่ให้เธอลงจากเตียงไปไหนได้อีกด้วย แคทหันมองไปรอบๆก็เป็นชายโรคจิตยังคงจ้องมองเธออย่างสบายอารมณ์ “ไหนว่าจะปล่อยแคทไงล่ะ” เด็กสาวถามหาความเป็นธรรม “เดี๋ยวซี่…แคทยังไม่เสร็จธุระกับเจ้านี่เลย” ปากกาเมจิกด้ามเดิมถูกยกขึ้นมาต่อหน้าเด็กสาว เธอจ้องมันตาไม่กระพริบ แคทไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้เช่นเดียวกับครั้งก่อน นอกจากนี้เธอยังรู้สึกเสียวมากยิ่งขึ้นด้วย แคทเริ่มกลัวกับความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง “นี่น้า…ทำอะไรแคทน่ะ” ชายหนุ่มยิ้ม เขาวางปากกาไว้บนโต๊ะแล้วก็ถือกล้องวีดีโอเดินเข้าหาเด็กสาวเรื่อยๆ เธอยังคงจ้องมองปากกาบนโต๊ะอย่างไม่ะสายตาพร้อมกับลมหายใจที่ค่อยๆถี่ขึ้น “เริ่มเงี่ยนแล้วใช่มั๊ย…สาวน้อย” ฤทธิ์ยาทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นนั่นเอง “ต่อไปนี้ทุกครั้งที่แคทเห็นปากกาไวท์บอร์ดไม่ว่าที่ไหนก็ตาม หนูก็จะรู้สึกแบบเดียวกันนี้แหละ” เด็กสาวหน้าซีดเมื่อนึกถึงหน้าชั้นเรียนของเธอที่ใช้กระดานไวท์บอร์ดสอนนักเรียนเป็นประจำ “ไม่นะ!” แคทอุทานเสียงดังพลางหนีบขาเพื่อทุเลาความเสียวที่เกิดขึ้น น้ำเสียวระลอกสองเริ่มไหลบ่าออกมา เด็กสาวดิ้นไปมาหาหนทางจะระบายความรู้สึกอัดอั้นที่ยิ่งนานก็จะยิ่งก่อตัวมากขึ้น “อ้ายยยย….น้า ช่วยหนูด้วย!” แคทส่งเสียงร้องอย่างไม่มีทางเลือก เธอถูกมัดมือไพล่หลังแถมผูกติดกับหัวเตียง ไม่มีทางเลยที่ความเงี่ยนของเธอจะถูกระบายออกถ้าไม่มีชายโรคจิตที่อยู่ตรงหน้าช่วย “จะให้น้าช่วยอะไรเอ่ย?” ชายโรคจิตถามแคททั้งๆที่รู้ความต้องการของเธอ เขายื่นกล้องซูมเข้าไปที่ใบหน้าของแคทเพื่อรอฟังคำตอบ “ช่วย…ช่วยเอาปากกานั่น…” เด็กสาวขอร้องไปหนีบขาไป “เอาไปทำอะไรเหรอ?” ชายหนุ่มหยิบปากกาบนโต๊ะเข้ามาโชว์ต่อหน้าเด็กสาว แคทจ้องมันตาไม่กระพริบ “เอามาใส่จิ๋มแคทที…เร็วๆ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างสะใจแต่ดูเหมือนแค่นี้ยังแกล้งแคทไม่หนำใจพอ “เวลาขอร้องผู้ใหญ่เค้าพูดกันแบบนี้เหรอ” แคทเงี่ยนจนไม่มีเวลาจะมาอายแล้ว เธอรีบหาคำพูดตอบเพื่อให้ชายหนุ่มพอใจที่สุดก่อนที่เธอจะขาดใจตายซะก่อน “น้าขาาา…แคทขอร้องล่ะ…เอาปากกาอันนั้นมาใส่จิ๋มแคทที แคทเสียวจะแย่แล้วววว อ้าาา” เด็กสาวไม่เหลือคราบความเป็นผู้ดีขอร้องให้ชายแปลกหน้าบำบัดความใคร่ให้เธออย่างออดอ้อน “อืม…แล้วจะใส่ยังไงเนี่ยะ หนีบขาแน่นซะอย่างนี้” แคทได้ยินดังนั้นเธอรีบแหกขาออกทันที “เร็วๆค่ะ” ร่องเสียวเด็กสาวแฉะไปด้วยน้ำเสียวของเธอที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ติ่งเสียวของเธอแข็งโผล่แทรกกลีบเสียวออกมาทักทายชายแปลกหน้าอย่างเป็นกันเอง ชายโรคจิตมัวแต่บันทึกภาพแห่งความประทับใจเอาไว้จนลืมความปรารถนาของแคท “น้าขา…เร็วๆ อาาาา” ชายโรคจิตก้มลงเลียร่องเสียวของแคทแทนคำขอของเธอ แม้แคทจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แคทแอ่นเนินหีรับการโลมเลียของชายโรคจิตอย่างลืมตัว ในที่สุดความใคร่ของเด็กสาวก็ถูกปลดปล่อยอีกครั้ง แคทนอนหมดแรงล้มตัวลงนอนอย่างหมดท่า
ชายหนุ่มปล่อยให้แคทนอนพักเพียงครู่เดียวเท่านั้น เขาก็เอาปากกาไวท์บอร์ดมาจ่อหน้าเธอ <ไม่นะ...ไม่เอาแล้ว!> เด็กสาวไม่มีทางเลือก เธอจ้องมองปากกาสุดสวาทของเธอราวกับต้องมนต์ อารมณ์ใคร่ของแคทถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง “น้า…” แคทเรียกชายโรคจิตสั้นๆเพราะต่างก็รู้แล้วว่าแคทต้องการอะไร ชายโรคจิตไม่ตอบแต่กลับเริ่มถอดกางเกงของเขาออก ท่อนเสียวอันมหึมาใหญ่กว่าปากกาเมจิกของเธอตั้งตระหง่านขึ้นมาต่อหน้าเด็กสาว ชายโรคจิตขยับตัวเข้ามาใกล้แคทในระยะที่เธอนั่งทับเขาได้อย่างสบายๆ ปากกาเมจิกถูกวางทิ้งไว้ห่างตัวเธอ ชายหนุ่มนั่งเงียบรอให้แคทแก้สถานการณ์เอาเอง “น้าคะ…ช่วยหยิบปากกาเมจิกนั่นมาใส่จิ๋มหนูทีสิ” แคทยังไม่รู้ตัว ขอร้องชายโรคจิตด้วยประโยคเดิมๆ แต่ชายหนุ่มกลับเฉยเมยต่อคำขอของเธอ “คุณน้าขา…เร็วๆซี่” แคทเริ่มกระวนกระวายใจเพราะความใคร่กำลังก่อตัวสูงขึ้นยังไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะให้สิ่งที่เธอต้องการ แคทก็จำเป็นต้องหาสิ่งอื่นทดแทน เธอก้มลงมองท่อนเสียวของชายแปลกหน้า จินตนาการไปว่ามันคือปากกาเมจิกที่วางตั้งอยู่ แคทกำลังจะนั่งคร่อมแท่งเสียวของชายหนุ่มก็กลับถูกปฏิเสธ “หืม…จะทำอะไรน่ะ? แคท” ชายหนุ่มแกล้งถามเสียงแข็งแต่ในใจหัวเราะอย่างสะใจ “ได้โปรดเถอะน้า…หนูไม่ไหวแล้ว” แคทไม่รอคำตอบของชายโรคจิตรีบนั่งคร่อมแท่งเสียวขนาดยักษ์นั่นทันที ด้วยคราบความใคร่ของเธอทำให้ท่อนเสียวแหวกผ่านร่องสวาทของเด็กสาวเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งท่อนเสียวแทงเยื่อพรหมจรรย์ของเธอจนขาดกระจุย เลือดสาวไหลอาบแท่งเสียวจนแดงฉานสร้างความเจ็บปวดให้เธอยิ่งนัก แต่นั่นเทียบไม่ได้กับความใคร่ที่เธอต้องการจะปลดปล่อยมันออกมาเลย เด็กสาวตั้งหน้าตั้งตาขย่มท่อนเสียวที่เพิ่งชิงความบริสุทธิ์ของเธอไปอย่างไม่ใยดี ฝ่ายชายหนุ่มก็ซึมซับความรู้สึกของร่องเสียวที่บีบรัดแท่งปากกาเมจิกด้ามโตของเขาอย่างมีความสุข “อาาาา…แคทนี่เก่งจริงๆเลย ครั้งแรกก็ขย่มน้าซะแรงเชียว คงจะเงี่ยนมากล่ะสิท่า” เด็กสาวไม่สนใจคำพูดแซวของชายโรคจิตแล้วเพราะสวรรค์ของเธอกำลังอยู่ตรงหน้า แคทรู้ตัวกับความเปลี่ยนแปลงรีบขย่มท่อนเสียวอย่างไม่กลัวหักกลัวพัง จนในที่สุดก็พาชายหนุ่มขึ้นสวรรค์ไปอย่างพร้อมเพรียงกัน น้ำเงี่ยนของทั้งคู่รวมทั้งเลือดสาวของแคทไหลปนกันออกมาจากร่องเสียวเด็กสาวก่อนที่เธอจะหมดแรงล้มลงอย่างเหนื่อยอ่อน
อีกชั่วโมงต่อมาเด็กสาวตื่นขึ้น ในที่สุดแขนของเธอก็ได้รับอิสระ แคทมองไปรอบๆก็ไม่เห็นชายโรคจิตคนนั้นแล้ว ความรู้สึกเจ็บแปล๊บแว๊บเข้ามาเตือนให้เธอรู้ตัวว่าเพิ่งเสียความบริสุทธิ์ให้ชายแปลกหน้าไป แคทค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ เธอมองไปยังโต๊ะในห้อง และแล้วแคทก็เห็นมันอีกครั้ง…ปากกาเมจิกตั้งตระหง่านอยู่บนโต๊ะเหมือนกับรอให้เธอตื่นขึ้นมาทักทายมัน “โอ…ไม่นะ” เด็กสาวได้แต่อุทานพร้อมกับคว้ามันมาถือไว้กับมือ…
อีก 5 วันให้หลัง แคทก็จำต้องหาที่เรียนที่ใหม่ที่ไม่ใช้ปากกาไวท์บอร์ดสอนหน้าชั้นเรียน…