ไร้เดียงสา - ตอนที่ 15
” พี่เดช ออกไปเลยนะ!! แก้วไม่อยากคุยกับพี่แล้ว”คุณแก้วลุกขึ้น พร้อมชี้นิ้วไปทางประตู
“คะ ครับ “ผมเดินคอตกออกมา ปล่อยให้คุณหนูทั้งสองอยู่ภายในห้องกันตามลำพัง
เช้าตรู่วันถัดมา วันที่อากาศแจ่มใส ผมงัวเงียตื่นขึ้นจากที่นอนเก่าๆภายในห้องพักของคนงาน มีอาการปวดเมื่อยไปทั่วร่างกายเนื่องจากเมื่อคืนคงออกแรงเยอะไปหน่อย ระบมไปทั่วโคนช่วงขาหนีบ และเดชน้อยยังซม หดตัวแน่นิ่งใต้กางเกง ผมแอบได้ยินแม่บ้านคุยกันในห้องครัว ว่าคุณหนูฟางเธอไม่สบายนอนซมอยู่ในห้องต้องให้แม่บ้านเอาโจ๊กขึ้นไปให้บนห้อง ส่วนคุณแก้วเธอกลับไปตั้งแต่ช่วงเช้ามืดแล้ว ใจผมเสียอยู่เหมือนกันเกรงว่าหากคุณแก้วเอาเรื่องเมื่อคืนไปพูดกับใครมีหวังผมเข้าคุกแน่ๆ แต่ก็คงไม่หรอกเพราะเธอสองคนเป็นเพื่อนรักกันจะตายคงไม่อยากให้เพื่อนเธอเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่ๆ คิดแล้วก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย ช่วงเวลาสามสี่วันมานี่ผมเองก็ไม่เจอคุณหนูฟางเลยล่ะครับ เธอเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ตอนไปเรียนเธอก็เรียกรถแท็กซี่มารับตอนเย็นกกลับมาเธอก็ผลุบหายเข้าในบ้าน ผมเลยไม่รู้ว่าตอนนี้คุณหนูเธอจะมีอาการอะไรจะโกรธผม หรือแค่ช่วงนี้ยังทำใจไม่ได้ที่มีอะไรกับผมแล้วยังเขินอายอยู่ ปัญหาหนักสุดคงจะเป็นเพื่อนเธอที่รู้เรื่องราวระหว่างผมและคุณหนูเข้าเสียแล้ว แต่ทุกอย่างยังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิม จนเวลาผ่านไปเกือบเดือน ….
“พี่เดชค่ะ …ฟางซื้อมาฝากค่ะ” เสียงหวานๆดังขึ้นจากด้านหลังขณะผมกำลังสาละวนกับการล้างรถให้คุณท่านที่โรงจอด จนผมต้องหันไปที่ต้นเสียง
“เอ่อ…ขอบคุณคุณหนูมากครับ”ผมรับกล่องพิซซ่าจากมือคุณหนู เธอก้มหน้าสายตาหลบขณะยื่นมาให้ แล้วทำท่าจะเดินจากไปเข้าในตัวบ้าน
“เอ่อ คุณหนู …วันนี้กลับมาเร็วนะครับ”ผมพยายามชวนคุยเพื่อหยุดเธอขณะกำลังหันหลังกลับ เพราะอยากจะได้เห็นใบหน้า และได้ยินเสียงเธออีกครั้ง นานนับเดือนแล้วที่ผมเองไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเลยนับตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้น
“ อ๋อ.. พอดีวันนี้ฟางขอลากลับก่อนน่ะค่ะ พี่ฟ้าเขาชวนให้ไปเป็นเพื่อนในงานเลี้ยงรับตำแหน่งใหม่ของพี่เขา น่ะค่ะ” คุณหนูเอ่ยตอบกลับมา พร้อมส่งยิ้มน้อยๆให้ผม แค่นี้ใจผมก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาก มองไปที่ใบหน้าที่แสนหวาน น่ารัก รูปร่างที่เล็กของเด็กสาว 14 ปี ขนาดกำลังกะทัดรัด ในชุดนักเรียน ม ต้น แบบนี้ ใจผมแทบจะละลายเสียให้ได้ เธอคงไม่โกรธผมแล้วแน่ๆ ผมยิ้มให้คุณหนู ดูเธอจะยังเขินๆกับการพูดคุยกับผมอยู่ไม่น้อย ยืนบิดไปมา เท้าแตะไปมาที่พื้น เราสองคนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี่ไปเรื่อย ผมพยายามสรรหาเรื่องต่างๆมาคุย บางครั้งคุณหนูก็จะหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเจอผผมเล่นมุขขำๆ ที่อ่านมาจากไลน์ บ้าง ในเน็ตบ้าง ดับอาการเขินอายลงไปได้มาก
“เอ่อ พี่เดชค่ะ ฟางเกือบลืมไปแหน่ะ …พี่ฟ้าบอกว่าวันนี้จะให้พี่เดช ช่วยขับรถไปรับส่งเราที่งานด้วยค่ะ พี่เขาไม่อยากขับเองกลัวอันตราย เพราะงานคงเลิกดึกน่ะค่ะ “คุณหนูฟางเอ่ยบอก ผมรับคำอย่างน้อบน้อมเพื่อแสดงให้คุณหนูเห็นว่าถึงแม้ผมจะล่วงเกินคุณหนูไปแล้ว แต่ผมก็ไม่มีทีท่าจะแสดงอาการ หรือ ทำให้เธอต้องลำบากใจในฐานะคนรับใช้แบบผม คุณฟ้าเธอเป็นพี่สาวของคุณหนูฟางครับ เธอเรียนจบมาจากต่างประเทศ ตามที่ผมเคยบอกไว้คราวต้นๆ ทำงานด้านการทูต ประจำกระทรวง นานๆผมจะเจอคุณฟ้าที เพราะเธอจะชอบบินไปโน่น นี่ บ่อยๆ อยู่บ้านไม่มาก คุณฟ้าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆคนหนึ่ง ถ้าเอาดีเรื่องเป็นนักแสดงผมว่าสามารถเป็นระดับนางเอกแถวหน้าของเมืองไทยได้แบบสบายๆ เพราะหุ่น ใบหน้า ทรวดทรง อง เอว นี่แป๊ะไปหมด คงถอดแบบมาจากแม่ของเธอเลยเพราะเคยได้ยินมาว่าคุณผู้หญิงสมัยสาวๆ ก็เคยเป็นถึงแชมป์นางงามประจำจังหวัด มาก่อน คุณฟ้าดูอายุน่าจะราวๆ 26 -27 ปีนี่แหละ เก่งไปทุกเรื่อง เส้นสายของคุณท่านก็มีมากโข ในกระทรวง ทำให้หน้าที่การงานคุณฟ้าพลอยรุ่งไปด้วย แบบก้าวกระโดด ตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆทุกปี ทั้งๆที่อายุยังน้อย แต่เธอก็คงเก่งด้วยหล่ะครับ ก็เห็นแม่บ้านเคยบอกว่าเธอพูดได้ตั้งสามสี่ภาษา หากคุยกับผมก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ระดับมันสมองคงต่างกันลิบลับ ตั้งแต่ผมอยู่ที่นี่มา ยังไม่เคยเห็นแฟนคุณฟ้าสักที ได้ยินเหล่าแม่บ้านเคยคุยกันที่ห้องครัว ว่าคุณฟ้าเธอไม่เคยมีแฟน และไม่มีใครกล้าจีบด้วยกระมัง เพราะเธอเป็นหญิงเก่งไปทุกด้านอย่างงั้น แถมเธอวางตัวเหมาะสม ไปทุกด้าน จะว่าหยิ่งก็ไม่ใช่ ผมว่าเธอวางตัวดีมากๆเสียมากกว่า ประมาณว่าคุยได้แต่ห้ามล้ำเส้น ประมาณนี้ ผมพูดคุยกับคุณหนูได้สามสี่นาทีเธอก็ขอตัวไปเตรียมตัวไปงานคืนนี้ ดูเธอจะสบายใจขึ้นมากหลังจากที่ได้คุยกับผม และผมเองก็สบายใจด้วยเช่นกัน ผมรีบลงมือล้างเล็กซัส คันงามสีขาวมุก ของคุณฟ้าทันทีเพราะเป็นรถที่เธอใช้ประจำ ตอนช่วง หกโมงเย็น ผมก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวรอคุณหนูที่หน้าคฤหาสน์ ชั่วครู่ สายตาผมก็เห็นผู้หญิงสองคนคือคุณหนูฟางและคุณฟ้าเธอกำลังก้าวลงบันไดด้านหน้า และเดินตรงมาที่รถที่ผมจอดติดเครื่องเปิดแอร์เย็นฉ่ำรออยู่ ผมมองค้างนิ่งจนแทบไม่เคลื่อนไหวร่างกายใดๆด้วยภาพความงามของผู้หญิงทั้งคู่กำลังก้าวเดินเข้ามา คุณหนูฟางเธอแต่งตัวสมวัยน่ารักๆ เป็นชุดเดรสลูกไม้แขนกุด โชว์เนื้อไหล่และท่อนแขนที่ขาวเนียน กระโปรงบานๆเสมอเข่าดูน่ารัก ใบหน้าแต่งแต้มด้วยแป้งเด็กธรรมดา เพียงทาลิปสติกสีอ่อนๆให้ริมฝีปากลอยเด่นขึ้นมา ผมมัดเกล้าเป็นหางม้าไปทางด้านหลัง ดูช่างน่ารักและทะนุถนอมจริงๆ ส่วนคุณฟ้า เธอใส่เป็นชุดเดรสแขนกุดเหมือนกันแต่เป็นสีดำกำมะหยี่ ยาวคลุมไปยังปลายเท้า ตัดกับผิวเนื้อที่ขาวนวล จนผิวเนื้อลอยเด่นเปร่งออร่าขึ้นมาเลยทีเดียว ใบหน้ารูปไข่ แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ หน้าอกน่าจะสัก 38 –-39 นิ้ว ซึ่งดูใหญ่พอสมควร มันชูชันดันชุดเดรสเป็นเนินขึ้นมาเป็นก้อนงาม รอบเอวที่คอดกิ่ว โค้งแอ่นรับสะโพกที่ผาย เป็นแนวโค้ง ดูสง่า สมเป็นกุลสตรี ลูกผู้ดี ผมสยายยาวคลุมถึงกลางหลัง รองเท้าส้นสูงช่วยดันร่างให้สูงชะลูดโปร่ง ดูเด่น ความสูงของเธอไม่น่าต่ำกว่า170 แน่ๆ โดยรวมดูมีทรวดทรงกว่าคุณหนูฟางที่ยังมีอะไรออกมาไม่เยอะไม่เด่นชัดเท่าคุณหนูฟ้าอยู่มาก อาจเพราะคุณฟ้าเธอโตเต็มวัยกว่า เหมือนเจ้าหญิงในหนัง ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว ผมมองจนเกือบเสียมารยาท รู้ตัวอีกทีคุณหนูทั้งสองก็ใกล้ถึงรถแล้ว จึงตั้งสติค่อยๆเปิดประตูทั้งสองฝั่งให้คุณหนูเข้าไป
“แหมมม..พี่เดชมองสะพี่ฟ้าเขินเลยนะนี่ แฮะๆๆ”คุณหนูฟางแซวผมหลังจากขับออกมาจากตัวบ้าน จนถูกคุณฟ้าแกล้งหยิกที่ต้นแขนเธอเบาๆ
“โอ๊ยยย!!พี่ฟ้าน่ะ ฟางเจ็บนะ แซวนิดหน่อยทำเขินไปได้”คุณหนูฟางเอ่ยพรางลูบต้นแขนที่กำลังแสบๆคันๆจากรอยหยิกเบาๆจากพี่สาว
“ก็เล่นไม่รู้เรื่อง … เดี๋ยวเหอะ แก่แดดใหญ่แล้วนะเราน่ะ”คุณฟ้าก้มหยิบโทรศัพท์เช็คงานไปมาในรถต่อไม่ได้สนใจกับสิ่งรอบข้าง ผมเลยได้แต่ทำเงียบไม่กล้าหันมองทางกระจกหลัง เพราะกลัวคุณหนูฟางเธอจะแกล้งแซวอีกจะเป็นเรื่อง ไม่รู้เธอหวงพี่สาว หรือหวงผมกันแน่ น่ะสิ จนมาถึงที่โรงแรมใหญ่ดัง ที่ใช้จัดงาน ผมนำรถจอดเทียบส่งคุณหนูฟางและคุณฟ้าเสร็จก็นำไปจอดที่จอดรถ สังเกตเห็นตั้งแต่ทางเข้าโรงแรม มีชายหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ต่างมองคุณหนูทั้งสองเป็นตาเดียว แบบปานจะกินเลือดกินเนื้อกันเลยทีเดียว จนผมแอบปลื้มแทนเจ้านายทั้งสองของผมเสียไม่ได้ ที่ความสวยสง่าสามารถสะกดสายตาคนรอบข้างให้หันมองบางครั้งบางคนถึงกับต้องเอี่ยวตัวกลับหลังมามองแบบเสียมารยาทด้วยซ้ำ แต่คุณฟ้าและคุณหนูฟางก็ทำเป็นไม่สนใจเดินแบบสง่างามเข้าไปในงานแบบช้าๆ ช่วงเลาล่วงมาจนเกือบสี่ทุ่มกว่าๆแล้ว ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ในรถ รอเจ้านายแสนสวยทั้งสองกลับออกมาจากในงาน
“ตุบๆๆๆ ……พี่เดชๆๆๆ!!! ช่วยด้วยๆ” ผมตื่นจากผวังค์ ด้วยอาการงัวเงีย หันไปด้านข้างประตูเห็นคุณหนูฟาง ยืนตัวสั่น ทุบกระจกด้วยอาการตื่นตกใจ ผมรีบเปิดประตู ออกจากรถทันที ต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นแน่ๆ
“ คุณหนูมีอะไรหรือครับ”ผมถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นอาการคุณหนูฟางหน้าซีดเผือกยืนตัวสั่น น้ำตาใสๆไหลอาบลงข้างแก้ม เธอรีบยืนมือมากุมสองมือของผมพร้อมเขย่าไปมา คล้ายกับคนที่ทำอะไรไม่ถูกเวลานี้
“ พี่ๆๆ ฟ้า พี่ฟ้า …แย่แล้ววว” คุณหนูพูดสั่นเครือ ร้องไห้ไปด้วย
“คุณฟ้าทำไมครับ บอกผมมา คุณหนูใจเย็นๆครับ ค่อยๆพูด” ผมพยายามรวบรวมสติคุณหนูฟาง ให้นิ่งเสียก่อนเพราะเธอดูร้อนรน และตกใจเป็นอย่างมาก
“ พี่เดช ช่วยพี่ฟ้าด้วย พี่ฟ้าโดนใครไม่รู้ น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ผู้ชาย พาขึ้นรถ ขับไปไหนไม่รู้ ฮือๆๆๆๆ”คุณหนูพูดไปร้องไห้ไป ผมแทบจับใจความอะไรไม่ได้ แต่ก็เดาเหตุการณ์ได้บ้างว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆเพราะคุณฟ้าเธอคงไม่ทิ้งให้น้องสาวตัวเองไว้แบบนี้แน่ๆ
“ อ่าว แล้วคุณฟ้า เธอไปได้ไงครับ ทำไมถึงไม่พาคุณหนูไปด้วย”ผมถามเพื่อความแน่ใจ
“ คือพี่ฟ้า เหมือนคนเมาเลยอ่ะค่ะ ทั้งๆที่ตอนแรกยังดีๆอยู่และพี่ฟ้าเป็นคนไม่ดื่มเหล้า เบียร์ด้วย แต่ พอหนูหันไปทางที่ก่อนหน้านั้นพี่ฟ้ายืนคุยกับเพื่อนร่วมงานแล้วก็เห็นพี่ฟ้า เดินโซเซ เหมือนคนเมา ไม่มีแรง แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งแอบพยุงประคองตัวพี่ฟ้าออกไปจากงาน หนูรีบตามออกมาไม่ทัน ก็เห็นเขาดันตัวพี่ฟ้าเข้าไปในรถแล้ว แล้วก็รีบขับออกไป หนูก็รีบวิ่งมาตามพี่เดชนี่เหละค่ะ “คุณรหนูพอตั้งสติได้ก็รีบเล่าให้ฟัง จนผมพอจะเดาเหตุการณ์ได้ ว่าคุณหนูฟ้าคงจะโดนมอมยาแน่ๆ ผมได้แต่คิดๆๆ
“เอ่อ คุณหนู รู้จักผู้ชายคนนั้นไหมครับ”ผมถามด้วยอาการตื่นตกใจไม่แพ้กัน
“ไม่รู้ค่ะ ฟางไม่เคยเห็นเพื่อนๆของพี่ฟ้าที่ทำงานเลยไม่รู้จักใครเลย ฮือๆๆๆๆ”คุณหนูเอาแต่ร้องไห้ น้ำตาไหลอาบสองแก้มไม่ขาดสายด้วยอาการเป็นห่วงพี่สาวของตน
“เอางี้ ….โทรแจ้งตำรวจเลยครับ เดี๋ยวผมโทรเดี๋ยวนี้แหละ” ผมทำท่าจะกดโทรศัพท์ออก แต่ถูกคุณหนูฟางดึงโทรศัพท์ออกจากมือ จนผม งง กับการกระทำ
“ไม่ได้นะพี่เดช ..หากแจ้งตำรวจ พี่ฟ้าก็เสียหาย เป็นข่าวใหญ่แน่ๆ แล้วพ่อแม่ ครอบครัวฟางจะอยู่ยังไง ฮือๆๆๆๆ” ผมล่ะงงกับผู้ดีจริงๆ กลัวชื่อเสียงไปหมด แต่คุณหนูเธอคงกลัวพี่สาวเสียหาย แน่ๆ เพราะเธอรักพี่สาวของเธอมาก
“อืมมม งั้นเอาอย่างนี้ คุณหนูลองเปิด ไอโฟนดูสิครับ เช็คดูว่าโทรศัพท์คุณฟ้าตอนนี้อยู่ไหน เราจะได้ตามได้” ผมเอ่ยบอกแบบอาการคนรีบร้อนและเป็นห่วง
“จริงสิ!! แป๊บนะค่ะ ฮืออๆๆๆๆๆ”คุณฟางกดโทรศัพท์โทรหาพี่สาวเธอปลายสายก็ไม่มีคนรับ เธอจึงเข้าแอพในโทรศัพท์ค้นหาGPSของพี่สาวเธอ
“นี่ๆๆพี่เดช พี่ฟ้าไปที่นี่”คุณหนูเอ่ยแบบดีใจออกมาที่สามารถค้นหาโทรศัพท์พี่สาวเธอได้ ผมมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์กำลังเคลื่อนไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งไม่ไกลจากนี้มากนัก ผมรีบให้คุณฟางขึ้นรถแล้วบึ่ง เหยียบคันเร่งพุ่งไปตามสัญญานโทรศัพท์ทันที จนดูเหมือนสัญญานมันไปหยุดที่ตัวหมู่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านหรู มีแต่พวกมีเงินมาซื้อไว้ทั้งนั้น ผมใช้เวลาเกือบครึ่ง ชั่วโมงกว่าจะมาถึงหมู่บ้านนั้น และกว่า รปภ หมู่บ้านจะให้เข้าได้ คุณหนูเธอต้องเล่นบทเจ้าของบ้านข้างใน จน รปภ เชื่อสนิท เพราะดูจากรถหรูที่ขับมาแล้วสร้างความน่าเชื่อถือได้มาก รถผมจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ใหญ่โต สองชั้น แต่เงียบปิดไฟมืด มีแต่รถเบนซ์จอดนิ่งอยู่ แต่ตามสัญญานในมือถือมันอยู่ในรถเบนซ์ที่จอดภายในบ้านหลังนี้แน่ๆ ผมรีบบอกคุณหนูฟาง ให้รอที่ในรถเพราะกลัวอันตราย ดูคุณหนูเธอนั่งตัวสั่นที่เบาะหลัง ร้องไห้ตลอด เวลาด้วยความเป็นห่วงพี่สาว
“คุณหนูอยู่ในนี้นะครับ เดี๋ยวผมมา อย่าไปไหนนะครับ”ผมรีบบอก แล้วเปิดประตูรถกระโดดปีนข้ามรั้วสูงกว่าสองเมตรหน้าบ้านย่องเข้าไปในตัวบ้านที่มืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ หากเข้าบ้านผิด ล่ะก็ผมโดนตำรวจสอยหรือไม่ก็กินลูกตะกั่วแน่ๆ ผมย่องไปที่หน้าประตูบ้านอ่าววว ไม่ได้ล๊อค หรือนี่ สงสัยคงจะรีบแล้วลืมแน่ๆ ผมแง้มประตูเข้าไปในตัวบ้านอย่างเงียบกริบ จนผมเหมือนได้ยินเสียงผู้หญิง ซึ่งผมจำได้ว่าเป็นเสียงคุณฟ้า ดังลงมาจากชั้นสอง ผมเริ่มมั่นใจว่าผมมาถูกทางแน่ๆ
“ อย่า!!!!…ฮือออๆๆๆๆ….ออกไป๊ปปปป!!!! ช่วยด้วยยย อุ๊บบบบบบ!!!!.”เสียงร้องดังลอดมาจากประตูห้องนอนชั้นสอง เสียงเหมือนขาดหายไปเหมือนมีคนเอาอะไรมาอุดปากคุณฟ้าไว้ ทันทีที่จะร้อง เสียงเหมือนอาการคนเมา เสียงลากยาวๆๆ ร้องไม่เต็มเสียง เบาๆแทบจะไม่ได้ยินออกมาจากตัวห้อง หากไม่ตั้งใจฟังดีๆ ผมย่องมาจนถึงหน้าประตูห้องนอนบานใหญ่ต้นเสียง เสียงยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
“ บอกให้อยู่เฉยๆ… อืมมมม ทำไมขาวแบบนี้อู๊ยยย อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวก็โดนหมัดเจ็บตัวอีกหรอก”เสียงผู้ชายดังลอดออกมา ทำให้ผมรู้ว่าภายในห้องน่าจะมีผู้ชายคนเดียวแน่ๆ
“ อย๊าาาาา!!! ฮือๆๆ อย่าทำฟ้าาา!!ขอร้อง ฮืออๆ อย๊า!!!.” เสียงดังลอดออกมาจากประตูอีกครั้ง
“ปึ๊กก!!!.”เสียงเหมือนคนโดนทุบ ผมใจหายทันที แล้วเสียงจากภายในห้องก็กลับเงียบอีกครั้ง ผมย่องลงไปในครัวอย่างรวดเร็ว ควานหาของแข็งจนเจอเข้ากับมีดเล่มใหญ่จึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นมาชั้นบนอีกครั้ง ค่อยๆใช้มือหมุนลูกบิดช้าๆ อืมมม โชคยังเข้าข้างผม มันไม่ได้ล๊อคไว้ ผมค่อยๆแง้มประตูออกช้าๆจนผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในอย่างชัดเจนเนื่องจากไฟที่เปิดสว่างไสว ทั่วห้อง
“จ๊วบบบบๆๆ แพล๊บบบบบๆๆ”เสียงดูดก้อนเนื้อเนินหน้าอกดังชัดเจนจนผมต้องยืนหยุดนิ่งเพื่อรอดูสถานการณ์
“อย๊าาาาา!! ฮือๆๆๆ โอ๊ยยยยย ฟ้าขอร้อง…. ฮือๆๆๆๆ “ คุณฟ้าร้องระงมไปมา ภาพที่ผมเห็นคือร่างกายที่เปลือยท่อนบน ขาวโพลน นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอนอันใหญ่ โดยมีไอ้หนุ่มหน้าตี๋ นั่งกดทับไปที่ลำตัวคุณฟ้า ตัวมันเองมันถอดกางเกงถอดเสื้อก่อนหน้านี้แล้ว เหลือไว้แต่กางเกงในสีขาวที่มันสวมใส่ กำลังก้มลงละเลงปลายลิ้นและริมฝีปากประทับดูดเลีย ไปทั่วเนินหน้าอก ที่ขาวและตูมบาน ปริ้นไปมาตามแรงเค้นของมือทั้งสองของมัน เม็ดยอดทรวงที่สีชมพูเข้มตัดกับผิวเนื้อที่ขาวเนียน กำลังโดนมันดูดเลียอย่างมูมมาม ทั้งสองเต้า เสื้อชุดเดรสของคุณฟ้าตอนนี้ถูกมันฉีกขาดทึ้งจนลงไปกองที่หน้าท้องน้อย กระโปรงบาน ถูกมันใช้มือข้างหนึ่ง ถลกชายกกระโปรงขึ้นมาจนกองไว้ด้านบน โดยมีตัวของไอ้ตี๋นั้นคล่อมทับเอาไว้ด้านบน มันพยายามจะใช้มือของมัน เกี่ยวขอบกางเกงในกระชากออกมาโดยมีมือที่เหมือนไร้เรี่ยวแรงของคุณฟ้า พยายามยื้อยุด จับข้อมือมันไว้แน่น มืออีกข้างของคุณฟ้าพยายามทุบไปที่ไหล่ของมันแต่เหมือนมันช่างเบาเหลือเกิน หน้าท้องของคุณฟ้าเป็นรอยเขียวช้ำผมเดาได้เลยว่าไอ้ตี๋นี้คงต่อยทุบไปที่ท้องเธอแน่ๆ เพราะเธอนอนตัวงอเป็นกุ้งอยู่แบบนี้ ผมค่อยๆย่างเข้ามาภายในห้องนอนอย่างเงียบกรีบ กำลังทำท่าจะกระโดถีบไอ้หนุ่มหน้าตี๋มันเข้าให้แล้ว แต่พลันเกิดความคิดด้านชั่วของผมผุดขึ้นมาจากสมอง ทำให้ผมที่กำลังง้างขา ต้องค่อยๆลดขาลงมาแล้วย่องไปยืนแอบอยู่ในมุมที่คิดว่าไอ้ตี๋และคุณฟ้าไม่เห็นแน่ๆ ซึ่งก็คือข้างตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ปลายเตียง
“ อยู่เฉยๆน่า… จะดิ้นทำไมห๊ะ หรืออยากจะโดนอีก”ได้หนุ่มทำท่าง้างมือจะทุบไปที่ท้องน้อยคุณฟ้าอีกครั้ง ทำให้คุณฟ้าถึงกับนิ่ง ร่างกายไม่ขยับด้วยความกลัว คงทำได้เพียงแค่ร้องไห้จนน้ำตาไหลอาบสองแก้มที่ขาวนวลสะพรั่งจนเปียกชุ่มไปทั่วหมอน
“ดี!!นิ่งเสีย อย่าขัดขืน ไม่งั้นเดี๋ยวเจ็บตัวแน่ ! มานี่!! .” ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ที่คล่อมอยู่ด้านบน กระชากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของคุณฟ้า พลิกหงายใช้น้ำหนักตัวมันนั่งลงไปที่ต้นขาของคุณฟ้าที่หนีบชิดเข้าหากันแน่น มันใช้สองฝ่ามือที่ดูใหญ่กดทับไปที่หัวไหล่อันขาวผ่องทั้งสองข้างของเธอ พร้อมก้มหน้าลงประทับปากไล้ไปที่ยอดปลายทรวงที่สั่นไหวกระเพื่อมคลอนไปมา
“จ๊วบบบๆๆ หวานเหลือเกิน ฝันมานานแล้ว แพล๊บบบบๆๆ” มันทั้งดูดทั้งเลียไปทั่วทรวงอกจนผมเห็นเป็นรอยแดงช้ำเป็นจั๊มๆ ห่อเลือดจากแรงดูดไปทั่วก้อนเนื้อทรวงอกตัดกับผิวขาวเนียนจนเด่นชัด ทรวงอกที่ขนาดล้นมือไหวกระเพื่อมไปมา ไปตามแรงบีบเคล้นของมัน น้ำลายของมันไหลเปรอะไปทั่วทั้งลำคอ และปลายยอดทรวง จนเงาเลื่อมสะท้อนแสงไฟในห้องนอน มือของมันทั้งบีบทั้งเคล้นไปทั้งสองเต้า อย่างลนลาน จนปรากฎรอยป้านเป็นรูปมือแดงๆที่ผิวเนื้อขาวๆของก้อนเนื้อ
“อย๊า!!!!!ฮือๆๆ ขอร้องนะๆๆ เห็นแก่เราเป็นเพื่อนกันนะ ฟ้าขอร้องฮืออๆๆๆๆ” คุณฟ้าเอ่ยร้องเสียงหลงขณะมันพยายามใช้หัวเข่าของมันทั้งสองง้างต้นขาคุณฟ้าให้แบะอ้าออก แล้วพยายามดันสอดลำตัวของมันแทรกเข้ากลางหว่างขาของเธอ จนคุณฟ้าพยายามดิ้นอีกครั้ง พร้อมจะหนีบขาแน่น จนมันทำมือง้างจะทุบเข้าที่ท้องน้อยคุณฟ้าอีกครั้ง เธอถึงกับกลัว และหยุดดิ้นในทันที ใบหน้าขาวผ่อง สะอื้นไห้ น้ำตาไหลอาบสองแก้วนวล มือทั้งสองของเธอประสานไขว้กันปกปิดก้อนทรวงอก ที่ไหวสะท้อนขึ้นลงไปมา เหมือนเริ่มยอมรับชะตากรรม ปล่อยให้มันพยายามใช้มือดึงรั้งกางเกงชั้นในตัวจิ๋ว อย่างเอาเป็นเอาตาม มือเธอข้างหนึ่งยังคอยพยายามเหนี่ยงดึงขอบกางเกงในไว้สุดแรงที่เธอมีจนเนื้อผ้ายานยาวยืดไปตามแรงดึงเกือบขาด เรียวขาที่ขาว ยาว พยายามหนีบเข้าหากันแน่น ไอ้ตี๋มันเห็นท่าดึงกางเกงในยากเย็นมันจึงไม่สนใจกับการดึงยื้อแย่ง แต่มันกลับรีบถอดกางเกงในมันออกทันที ผมยังไม่เห็นช่วงล่างคุณฟ้าได้ถนัดเพราะมีลำตัวไอ้ตี๋มันบังเอาไว้ แต่ผมเดาว่าคงเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด เพราะไอ้ตี๋มันมีทีท่าร้อนรน จ้องมองลงไปที่หว่างขาคุณฟ้าอยู่สักพัก คุณฟ้าตอนนี้นอนร้องสะอื้นเบาๆ มือข้างหนึ่งกุมขอบกางเกงแน่นกำไว้แน่นเหมือนเป็นปราการสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องรักษา เปลือกตาปิดเม้มข่มตาแน่น ตัวสั่นระริกด้วยความกลัวและไม่อยากเห็นภาพน่าสะอิดสะเอียนตรงหน้า ไอ้ตี๋มันเริ่มหยิบเอาเชือกสายรัดอะไรบางอย่างออกมาจากข้างเตียง มันค่อยๆเคลื่อนตัวเองแทรกเข้าไปหว่างขาคุณฟ้าอย่างช้าๆ มันจับข้อพับขาหนีบคุณฟ้าทั้งสองข้างงอพับแล้วดันเอนลู่ขึ้นไปจนต้นขาแนบไปกับทรวงอกและลำตัว โดยที่ตัวมันมองไม่ละจากจุดกลางลำตัวคุณฟ้าอย่างหื่นกระหาย มันใช้เชือกผ้าผูกไปที่ข้อเท้าคุณฟ้ามัดเข้ากับโคนขาพับงอเข้าหากันจนแน่นอย่างช้าๆที่ละข้าง แล้วจับข้อมือคุณฟ้ามามัดรวมประสานกันไว้ ด้านหน้า
“ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ช่วยฟ้าด้วย!!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!. ฮือๆๆๆ”เสียงคุณฟ้าคำรามออกมาอย่างคนหมดหวัง สิ้นหวังอดสู่ ปล่อยโฮออกมา อีกครั้งเมื่อช่วงล่างตัวเองที่สงวนไว้รักษาไว้มาแสนนานตอนนี้กลับเปิด แบอร่าม อย่างท้าทายสายตา ให้กับคนที่เธอไม่ได้รัก ถึงแม้จะมีเนื้อผ้ากางเกงในปิดไว้อีกชั้นก็ตาม สองมือเรียวเล็กที่โดนมัด ประสานไว้แน่นที่ริมฝีปากบางๆพร้อมกัดจนเป็นห่อเลือดที่ฝ่ามือเพื่อระบายความอับอายและกลัว ผมเห็นไอ้ตี๋ที่หันหลังให้ผมนั้นมันนั่งนิ่งจ้องมองไปที่หว่างขาคุณฟ้าแบบกินเลือดกินเนื้อ มันกดท่อนขาคุณฟ้าไว้แน่น แนบลำตัวเธอ พร้อมพยายามแบะออกให้กว้าง จนผมเห็นมันค่อยๆก้มลงช้าไปใบหน้าของมัน อยู่ห่างจากจุดสงวนของคุณฟ้าแค่ปลายนิ้ว
“โฮฮฮฮๆๆๆๆฮือออออๆๆๆอย่าทำฟ้า!!”คุณฟ้าถึงกับสะดุ้งทันที ผมเห็นมันใช้หน้ามันก้มลงตรงกลางระหว่างขาคุณฟ้า พร้อมเป่าลมพ่นรดเสียงดังฟืดฟาด นอกกางเกงในตัวบาง เหมือนพยายามสูดดมความหอมที่ลอยออกมาจากภายในใต้เนื้อผ้าบางๆ คุณฟ้าเริ่มพยายามดิ้นอีกครั้ง แต่มันใช้มือมันดันขาหนีบคุณฟ้ากดแน่นแนบลำตัวของเธออย่างแรง สะโพกขาวๆผมเห็นส่ายหลบไปมา ซ้ายที ขวาที หนีแรงลมจากปากที่เป่าออกมาของไอ้ตี๋นั้น
“ ฟู่ๆๆๆ ”
“ ขนาดแค่ลมอุ่นๆจากปากพี่ น้องฟ้ายังดิ้นขนาดนี้เลยหรือจ๊ะ “ ไอ้ตี๋มันหัวเราะชอบใจ เสียงลมเป่ารดจากปากพร้อมสูด ดมหายใจเข้า เต็มปอดจากบริเวณกลางหว่างขาคุณฟ้าดังขึ้นไปมา พร้อมหน้าไอ้ตี๋มันพยายามเอนเคลื่อนตามสะโพกของคุณฟ้าที่พยายามส่ายหลบไปมาเพื่อหนีจากลมเป่ารดลมจากปากมันพ่นกระทบไปที่กลางลำตัวเหมือนมันต้องการแกล้งแหย่ เล่นกับเหยื่ออันโอชะของมันไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน
“ฮือๆๆๆๆๆปล๊อยยยยยย!!!ฟ้า”คุณฟ้าปล่อยโฮ ออกมาเป็นระรอกๆ สองมือเรียวเล็กทั้งสองที่ถูกมัดพยายามออกแรงดันหัวของไอ้ตี๋ให้พ้นจากหว่างขาของเธอ ปลายขาทั้งสองที่ขาวสะอาดนิ้วเท้างองุ้ม จิกเกร็ง ชูลอย สั่นไหวส่ายไปมาอยู่เหนือหัวของไอ้ตี๋ ตามแรงจับดันของมัน ผมได้เห็นอะไรไม่ค่อยถนัดนักเนื่องจากมุมที่ผมยืนมันเป็นมุมปลายเตียงที่โดนไอ้ตี๋มันบดบังร่างคุณฟ้าจนมิด แต่ผมสังเกตเห็น มันมีกล้องวีดีโอ ตั้งไว้ข้างเตียงผมเดาได้เลยว่าไอ้ตี๋นี่มันคงแอบถ่ายการทำภารกิจของมันไปด้วยแน่ๆ ผมยังคงยืนนิ่งเงียบในมุมเพื่อรอเวลา ปล่อยให้ทั้งห้องตอนนี้มี ทั้งเสียงร้องไห้ของคุณหนูฟ้า และเป่าพ่นลมแรงๆดังปนเประงมกันไปหมดจะว่าไปเหมือนมันจะแอบเป็นโรคจิตนิดๆด้วยสิ จนเดชน้อยของผมมันปวดแข็ง เป็นสันพองดันกางเกงจนอึดอัดไปหมด ไอ้ตี๋มันทำท่าจะก้มหน้าลงต่ำกำลังจะอ้าปากครอบไปที่กลางลำตัวนอกเนื้อผ้ากางเกงในเมื่อเกิดอาการทนไม่ไหวกับความสด อูมโหนกแน่น และขาวตรงหน้า
“ พี่ฟ้าๆ อยู่ไหน”เสียงเรียกของคุณหนูฟางดังขึ้นมาจากชั้นล่างพลันทำให้ไอ้ตี๋ถึงกับสะดุงโหย่ง หันซ้ายหันขวาอย่างตกใจ
“ ฟะๆฟาง ช่วยพี่ด้วย!!!”คุณฟ้าร้องเสียงหลงบอกน้องเธอพร้อมดิ้นไปมาทั้งๆที่มีเชือดมัดอยู่ทั้งแขนและขา ผมเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเดินไปถีบกลางหลังไอ้ตี๋นั้นอย่างจัง
“ โคร๊มมมมม!!!!.” เสียงร่างไอ้ตี๋กระแทกหล่นไปที่โต๊ะข้างเตียง นอนหงายแผ่ โชว์ท่อนลำอันกระจิดริดของมัน ที่ตอนนี้หดสั้นเหมือนของเด็ก เนื่องจากกำลังมึนงง กับเหตุการณ์ ของไอ้ตี๋นั้นเทียบกับของผมแล้วต่างกันราวกับพ่อ กับลูก
“ไอ้เหี้ยย!!มึงเข้ามาได้ไงว่ะ”ไอ้ตี๋รวบรววมสติได้ทำท่าจะยืนเพื่อต่อสู้ แต่ผมไวกว่ามัน ตรงเข้าไปกระโดดถีบไปที่ใบหน้าของมันจนหงายลงไปที่พื้นอีกรอบ เลือดมันกลบปากจนหยดไปตามพื้นห้อง
“ อู๊ยย!!ไอ้เหี้ย มึงทำกู มึงตายย!!.”ไอ้ตี๋เหมือนพยายามจะคลานแล้วใช้มือเปิดไปที่ลิ้นชักข้างเตียง ผมรู้เลยว่าต้องมีอะไรอยู่ในนั้นแน่ๆ จึงง้างเท้าแตะหวดเข้าไปเต็มที่ ตรงช่องท้องของมันแบบเต็มเหนี่ยว ไม่รอพิธีใดๆ
“ปั๊กกกก!!!.”ร่างไอ้ตี๋ กระเด็นไปตามแรงหวดหน้าแข้งของผม ถึงกับนอนจุกตัวงอบนพื้น สีหน้าทรมาน ผมเห็นคุณหนูฟางเข้ามาในห้องเธอรีบวิ่งไปหาพี่สาวเธอ และกำลังแก้มัด ผมยังไม่มีเวลาหันกลับไปดูเธอทั้งสองหรอกตอนนี้ เพราะไอ้ตี๋มันทำท่าจะลุกขึ้นอีกรอบพยายามจะตรงไปที่ลิ้นชักอีกครั้งด้วยความหวัง ผมเลยรีบเดินไปถึงลิ้นชักก่อนมัน แล้วเปิดออกมาดูปรากฏว่าเห็นปืนบาเร็ตต้า 9มม อยู่ภายใน ผมคว้าปืนขึ้นมา ช่วงไอ้ตี๋กำลังจะถึงตัว มันกำลังโผนกระโดตัวเองเข้ามาหมายจะแย่งปืนจากมือผม
“ปั๊กกกก….โครม!!!.” เสียงหวดด้ามปืนกระทบเข้าจังๆที่กลางหน้าผากจนไอ้ตี๋หน้าหันไปอีกทางตามแรงกระแทก ส่งผลให้ร่างของมันทรุดฮวบลงไปนอนหายใจรวยริน แน่นิ่งสิ้นฤทธิ์อยู่กับพื้น เลือดอาบทั่วใบหน้า ผมยังไม่หนำใจแตะหวดไปที่ใบหน้าของมันสุดแรงเกิดอีกครั้ง
“ปั๊กกก!!!.” หน้าไอ้ตี๋สะบัดตามแรงอัดจากปลายตีน เลือดย้อยออกทั้งปากและจมูก ผมทำท่าจะเล่นงานมันอีกครั้งให้สนุก
“ พี่เดช พอก่อน!!รีบพาพี่ฟ้า ออกจากที่นี้ก่อน เถอะค่ะ”เสียงเรียกจากคุณแก้วดังขึ้นห้ามผม ผมจึงหยุดการลงโทษของมันไว้ แล้วหันมาทางคุณหนู เห็นเธอใช้ผ้าห่มห่อร่างกายคุณฟ้าไว้จนมิด และพยายามกำลังประคองคุณฟ้าก้าวลงจากเตียงด้วยอาการทุลักทุเล เนื่องจากคุณฟ้าเธอดูเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง และอยู่ในสภาพมึน งง กับฤทธิ์ยา
“คุณหนูค่อยๆประคองคุณฟ้า ออกไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมจัดการทางนี้แป๊บเดียว”ผมตอบกลับคุณหนูไปพร้อมหันมาทางไอ้ตี๋นั้นอีกครั้ง คุณฟางช่วยพยุงคุณฟ้าเดินอย่างโซเซไปมา ออกประตูไป ผมก้มลงมองไอ้ตี๋นั้นอีกครั้งมันยังคงสลบเหมือด แต่ยังหายใจระทวย ผมยิ้มมุมปากอย่างสมเพศกับมันจริงๆ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน หาเรื่องตายแล้ว ดีนะผมไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่งั้นมันตายไปแล้ว ผมมองไปที่กล้องวีดีโอที่มันแอบบันทึกภารกิจระยำของมัน ผมดึงแผ่นเมมโมรี่ออกมาแล้วใส่ในกระเป๋ากางเกง ตรงไปที่โต๊ะของเตียงพร้อมเขียนกระดาษไว้ว่า
“หากมึงไม่อยากตาย กับการกระทำของมึง จะให้โอกาสมึงรีบไสหัวไปให้พ้นหน้าคุณฟ้าอย่ามาให้เห็น” แล้วผมก็วางมันลงบนโต๊ะ แล้วรีบเดินออกจากห้องกลับไปที่รถ เห็นคุณหนูฟางกำลังโอบกอดคุณฟ้าปลอบประโลมอยู่ที่เบาะด้านหลัง พันผ้าห่มแน่นรอบกาย ผมจึงรีบขับรถออกมา จนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น
“เอ่อ ขอบใจนายเดชมากนะ ที่มาช่วยฟ้า น้องฟางเล่าให้ฟังหมดแล้ว ฟ้าขอบใจมากๆ”คุณหนูฟ้าเรียกผมเข้าพบ พร้อมคำขอบใจ และซาบซึ้ง โดยมีคุณหนูฟางนั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆบนโซฟา
“ไม่เป็นไรครับผม มันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องดูแลคุณหนูของบ้านอยู่แล้ว เออ แล้วนี้คุณหนูจะเอาเรื่องกับมันไหมครับ”ผมถามพร้อมก้มหน้างึดๆ นั่งอยู่ที่พื้นด้านล่างโซฟาอันใหญ่
“นั่นแหละที่ฟ้าเรียกนายเดชมา ก็เพราะเรื่องนี้ด้วย ฟ้าขอให้นายเดช เออ…เก็บเรื่องเมื่อคืนเป็นความลับอย่าบอกใคร ไม่เช่นนั้น ทั้งตัวฟ้าเองและครอบครัว คงเป็นข่างใหญ่โต และจะส่งผลเสียกับหน้าที่การงานของคุณพ่อตามมาแน่ๆ”คุณฟ้าเอ่ยพร้อมสะอื้นเบาๆ ผมสังเกตเห็นขอบดวงตาเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้หนักมาทั้งคืน เธอคงจะรู้สึกอึดอัดที่ไม่สามารถทำอะไรกับไอ้ตี๋นั้นได้ จึงระบายด้วยการร้องไห้ออกมาก็เท่านั้น
“ขอรับ ผมจะเก็บทุกอย่างเป็นความลับครับหากมันทำให้คุณหนูสบายใจ”ผมรับคำพร้อมก้มตัวออกมา คุณหนูฟางยังคงช่วยปลอบประโลมคุณฟ้าที่ยังเสียขวัญอยู่ทั้งวัน โดยเธอโทรไปที่กระทรวงเพื่อขอลาป่วยและยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่พบเจอเลวร้ายที่สุดในชีวิตลูกคุณหนูของเธอ จนเวลา ล่วงผ่านไปนานเกือบสัปดาห์ คุณหนูฟางและคุณฟ้าเธอรู้สึกอาการด้านจิตใจดีขึ้นมามาก ผมแอบได้ยินคุณฟ้าพูดกับคุณหนูฟางว่าไอ้หน้าตี๋มันลาออกจากงานแล้วไปไหนไม่มีใครรู้ มันทำให้คุณฟ้ารู้สึกปลอดภัยและสบายใจขึ้นมาก คุณฟ้าทำดีกับผมมากกว่าเมื่อก่อนมากทั้งซื้อขนม ซื้อเสื้อมาฝากผมอยู่ตลอดหากเธอไปต่างประเทศแล้วกลับมา ส่วนคุณหนูฟางเธอก็เริ่มพูดคุยกับผมมากขึ้น แต่เธอยังไว้ตัวเก็บอาการเหมือนเคย ไม่ไปไหนมาไหนกับผมตามลำพัง ยังคงให้แท็กซี่ไปรับมาส่งเหมือนเคย จะเจอเธอก็เพียงก่อนไปโรงเรียนแล้วกล่าวสวัสดีทักทายนิดหน่อยเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าคุณหนูฟางคงไม่มีวันลืมความสุขที่ผมเคยมอบให้ถึงสองครั้ง แน่ๆ แต่เธอจะเก็บอาการวางตัวได้ดีขนาดไหนต้องให้เวลากำหนด
ผ่านไปเกือบสองสัปดาห์เช้าตรู่หลังจากที่ผมส่งคุณท่านที่ทำงานแล้ว ผมแอบแวะไปที่ร้านโทรศัพท์ เพื่อซื้อซิม และเครื่องใหม่ กลับมาเซ็ทเครื่องที่ห้องพักคนงาน พร้อมหยิบเม็มโมรี่ จากที่เคยแอบจิ๊กจากห้องไอ้ตี๋มันออกมาโหลดลงเครื่อง ภาพที่ปรากฏมันชัดเจนแบบHD กล้องมันดีจริงๆสงสัยซื้อมาแพง ภาพที่เห็นมันเป็นภาพไอ้ตี๋มันค่อยๆพยุงร่างของคุณฟ้า วางลงบนขอบเตียงขาห้อยลงพื้นด้านล่าง ตัวมันถอดเสื้อผ้าออกหมดอย่างร้อนรนเหลือไว้แต่กางเกงในของมัน โดยคุณฟ้าเธอยังนอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียง ภาพไอ้ตี๋มันยืนนิ่งจ้องมองร่างคุณฟ้าอย่างหื่นกระหายเป็นพักๆ แล้วมันก็คลานขึ้นมาบนเตียงใช้สองมือของมันค่อยๆปลดซิปชุดเดรสข้างลำตัวคุณฟ้าออกอย่างช้าๆ แต่เหมือนไม่ทันใจมันเพราะชุดมันรัดทำให้ปลดยากมันจึงออกแรงกระชากไปที่คอเสื้อแล้วกระชากแรงๆจนชุดเดรสขาดติดปลายมือของมัน ผมเห็นคุณฟ้าเธอสะดุ้งตื่นทันทีแล้วทำท่ากรีดร้อง พร้อมใช้มือที่อ่อนแรงทั้งสองของเธอจับยื้อไปที่ข้อมือของไอ้หน้าตี๋ที่มันกำลังกระชากชุดชั้นในบราตัวบนออกมาด้วย เสียงในห้องดังอื้ออึงไปหมด ทั้งเสียงเสื้อชั้นในที่โดนกระชากขาด เสียงกรีดร้องของคุณฟ้า จนก้อนเนื้อขนาดล้นมือดีดผึ่งออกมา ให้เห็น ผมเห็นแล้วยังต้องแอบกลืนน้ำลาย มันเป็นทรวงอกที่สวยงามมากจริงๆ ขาวเนียน กลมกลึงไปหมด ขนาดใหญ่ น่าจะสัก 38 – 39 นิ้ว ล้นมือทีเดียว กระเพื่อมไหวไปมาอวดยอดปลายทรวงที่ประดับด้วยเม็ดทับทิมสีชมพูเข้ม เป็นป้านแดงบนยอดผมเห็นแว๊บเดียวไอ้หน้าตี๋ก็ทรุดใบหน้าก้มลงโลมเลียไปทั่ว ทรวงอกทั้งสอง โดยที่คุณฟ้าได้แต่เอามือทุบไปที่ไหล่ และคอยดันหัวของมันให้พ้นจากร่างกายเธอพร้อมดิ้นไปมา จนชายกระโปรงล่นมาถึงโคนขาเรียวเล็กที่ขาวเนียน จากแรงดิ้น จนไอ้หน้าตี๋เหมือนมันทำอะไรไม่ถนัด จะก้มดูดก็มีมือของคุณฟ้าคอยป่ายปิดทรวงอกไปมา ผมเห็นมันง้างหมัดทุบไปที่หน้าท้องของเธอ จนเธอตัวงอเป็นกุ้ง แล้วมันก็จับยึดไหล่ของเธอให้นอนแบนราบกับที่นอนอีกครั้งพร้อมก้มลงดูดเลียไปทั่วทรวงอกของคุณฟ้า ถึงฉากตอนนี้ผมคิดว่าผมน่าจะเข้ามาในห้องแล้วเพราะเห็นเงาตัวเองไหวๆอยู่ ผมมองภาพในหน้าจอเหมือนที่ผมเคยเห็นของจริงมาก่อนหน้านี้อีกครั้ง เลื่อนภาพเพล์ซ้ำไปซ้ำมาดูหลายรอบ ผมติดใจกับก้อนเนื้อทรวงอกของคุณฟ้าที่เบ่งตูมบานไม่หย่อนคล้อย มันมีขนาดที่กำลังพอดีมือจริงๆ สวยงามไปหมดทั้งร่างกาย ท่อนขาที่เรียว ขาว ใบหน้าที่นวลเนียนอมชมพู หุ่นผิดกับคุณหนูฟางแตกต่างกันเลยทีเดียว คุณหนูฟางจะออกเล็กๆไปหมด ตัวก็เล็กหน้าอกก็ยังไม่ใหญ่แค่ตูมเป็นก้อนเนื้อออกมา พอมาเจอหุ่นพี่สาวของเธอคุณฟ้าที่เป็นผู้ใหญ่กว่าแบบนี้ อย่างที่เขาว่า นมเป็นนม ตูดเป็นตูดจริงๆ ผมถึงกับครางในลำคอเลยทีเดียว จนเดชน้อยมันพองก้าดันกางเกงประท้วงจนปวดไปหมด ผมหยิบสมุดจดขึ้นมา ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ ที่ผมเคยแอบคัดลอกจดไว้จากแม่บ้านที่คอยดูแลในตัวบ้านใหญ่ จะต้องมีเบอร์โทรคุณหนูคุณท่านคุณผู้หญิง ไว้เพราะเผื่อมีอะไรจะได้สามารถติดต่อได้สะดวก ผมเมมเบอร์คุณหนูฟ้าไว้ในเครื่องใหม่ของผม ทันทีนั้นโปรแกรมไลน์ก็เด้งชื่อคุณหนูฟ้า หน้าProfile สวยน่ารัก ใส่หมวกครั้งไปทำงานที่ปารีส ผุดขึ้นหน้าจอทันที อ้า….เป็นโอกาสของผมแล้ว ผมพิมพ์ขอความส่งไปหาคุณฟ้าทันที
“ สวัสดี จำพี่ได้ไหมครับน้องฟ้า” ผมพิมพ์ไปแล้วรอการตอบกลับ อย่างใจจดจ่อ ข้อความยังคงไม่อ่าน จนผมรอจนเผลอหลับไป ตกใจตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเตือนข้อความดังขึ้น
“ใครค่ะ…” เอาหล่ะ คุณฟ้าตอบกลับมาแล้วผมใจเต้นรัวและตื่นเต้น พิมพ์ตอบกลับไป
“ อืมม จำพี่ไม่ได้หรอ งั้นเดี๋ยวดูรูปนี้อาจจำได้นะ”มือไม้ผมสั่นไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองคิดผิดหรือเปล่า แต่ผมคิดดีแล้วคิดมาตลอดสองสัปดาห์ ผมแค๊ปรูปจากวีดีโอเป็นไฟล์ภาพ เลือกในช่วงที่ไอ้หน้าตี๋มันกำลังก้มลงดูดเลียไปที่ทรวงอก แล้วกดส่งไปในไลน์ด้วยใจระทึกผลตอบกลับ รูปถูกส่งออกไปแล้ว และปลายทางก็อ่านแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับใดๆ ผมรอนิ่งไปเกือบห้านาที จนในที่สุด มีข้อความตอบเข้ามา
“ ทำไมทำกับฟ้าแบบนี้ .. ต้องการอะไร” ข้อความสั้นๆ แต่ผมว่าตอนนี้คุณฟ้าคงอยู่ไม่สุขแล้วแน่ๆ รีบพิมกลับไป
.”ไม่ได้ต้องการอะไร … และอย่าคิดแจ้งความไม่อย่างงั้นวีดีโอนี้จะถูกส่งไปทั่วเว็บทุกเว็บ พี่ตั้งเวลาส่งไฟล์ไว้แล้วในเมล์ หากไม่เข้าไปแก้ไขเวลาที่ตั้งส่งทุกหนึ่งวัน มันจะถูกส่งไปทุกที่จริงๆ” ผมพิมพ์ตอบกลับไป คุณฟ้ายังคงนิ่งเงียบไม่พิมพ์อะไรตอบกลับมา จนผมส่งข้อความไปกระตุ้นอีกครั้ง
“ พี่ต้องการแก้แค้นไอ้คนขับรถของน้องฟ้าเท่านั้น มันทำพี่เจ็บ มันต้องรับผิดชอบ” ผมพิมพ์ไป จนรอสักพักก็มีข้อความตอบกลับมาอีกครั้ง
“ นายเดชเขาไม่เกี่ยว บอกมาเลยดีกว่าพี่นพต้องการเงิน หรือรถ บ้าน เดี๋ยวฟ้าจัดการให้ ฟ้าขอไฟล์คืน ” เอาหล่ะครับ ผมรู้แล้วไอ้หน้าตี๋นั่นมันชื่อนพ รีบพิมพ์กลับไป
“ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกของพวกนี้พี่มีแล้ว พี่ต้องการแก้แค้น หากพี่แก้แค้นเสร็จแล้วพี่ก็จะคืนไฟล์ทั้งหมดให้ “ผมพิมพ์ไป
“ยังไง” คุณฟ้าตอบกลับมาสั้นๆ
“ก็ไม่ยาก เพียงน้องฟ้าทำตามที่พี่นพบอกทุกอย่าง ทำเสร็จเรื่องหนึ่ง พี่ก็จะให้Password ตัวหนึ่ง ที่ใช้เข้าเมล์เข้าไปลบไฟล์ เอาม่ะ” ผมพิมพ์ไปใจลุ้นไป
“ แล้วฟ้าจะรู้ได้ไงว่ามันไม่มีไฟล์ไว้ที่อื่นอีก” คุณฟ้าตอบกลับมาอย่างคนฉลาด
“อันนี้ก็แล้วแต่น้องฟ้าล่ะกัน แต่พี่นพพูดคำไหนคำนั้น หากไม่เชื่อก็รอดูข่าวใหญ่ได้เลย” ผมพิมพ์ไป รอตอบกลับ ซึ่งนานเกือบสิบนาทีได้คุณฟ้าถึงตอบกลับมา
“ จะให้ฟ้าทำอะไร แต่ห้ามทำร้ายคนอื่น “คุณฟ้าพิมพ์กลับมา ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ที่สามารถปลอมเป็นไอ้หน้าตี๋จนคุณฟ้าหลงเชื่อได้ เธอคงคิดว่าไอ้หน้าตี๋มันคงอยากแก้แค้นผม ที่ไปตะบันหน้ามันเข้ากระมั่ง
“ ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่อออก พรุ่งนี้จะบอกล่ะกัน สวัสดีครับ”ผมพิมพ์กลับไปด้วยใจที่เต้นระรัว ผมคิดแผนไว้ดีแล้วหากตำรวจจะตามจับก็คงไปไล่ล่าไอ้หนุ่มหน้าตี๋นั้นเพราะมันป็นคนถ่ายคลิป เบอร์ใหม่ ซิมใหม่ เครื่องใหม่ ยากที่จะตามมาถึงตัวผมแน่ๆ ผมคิดได้ดังนั้นก็นอนหลับอย่างมีความสุขรอให้ถึงวันพรุ่งนี้
เช้าวันรุ่งขึ้นผมออกไปรดน้ำที่สวนหน้าคฤหาสน์ ดั่งเช่นทุกวัน คุณหนูฟางเธอกล่าวทักทายผมแล้วขึ้นรถเท็กซี่ไปโรงเรียนตามปกติแต่เช้า จนผมเห็นคุณหนูฟ้าเธอเดินลงมาจากคฤหาสน์ กำลังจะไปทำงานด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองผิดปกติ ชุดทำงานที่รัดแน่นไปทุกสัดส่วน เป็นชุดสูทผูกแน็กไท สีดำ หน้าอกดันชุดนอกออกมาจนนูนเด่นลอยเบื้องหน้า เอวคอดกิ่วแอ่น รับกับสะโพกผายที่สวมกระโปรงเหนือเข่า ดูเป็นผู้หญิงมั่น ใบหน้าที่ขาวเนียน แม้จะดูเศร้าหมองและขอบตาช้ำเหมือนคนร้องไห้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถลดระดับความสวยงามเพอร์แฟคของตัวเธอให้ลงได้เลย ผมแอบมองแล้วเดินตรงไปที่คุณฟ้าพร้อมกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับคุณฟ้า วันนี้ไปทำงานสายเลยนะครับ”ผมเอ่ยพร้อมสังเกตอาการที่เศร้าหมองบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ ….”เธอตอบสั้นๆ เหมือนมีเรื่องกลุ้มใจที่ไม่สามารถบอกใครให้รับรู้ได้ ก้มหน้าที่เศร้าหมองเหมือนคนกำลังหลบสายตาเมื่อทำอะไรผิด แล้วรีบก้าวขึ้นรถขับไปทำงาน