ไร้เดียงสา - ตอนที่ 13
ผ่านไปสองสัปดาห์ หลังกลับจากหัวหิน
“ นายเดช อาทิตย์นี้ผมจะไปต่างประเทศนะ ยังไงฝากไปรับ ส่งยัยฟางที่โรงเรียนให้ด้วย “ เสียงคุณท่านกล่าวคำสั่ง ก่อนที่ท่านจะบินไปติดต่องานที่ต่างประเทศ พร้อมกับคุณผู้หญิงและคุณ ฟ้า พี่สาวสุดสวยของคุณฟาง ทำให้ทั้งบ้านตอนนี้มีผมเป็นผู้ชายคนเดียวที่ต้องรับภาระดูแลเรื่องภายในบ้าน และมีแม่บ้านอีกสองคน คือ ป้า นงค์และพี่แจ่ม คอยดูแลเรื่องอาหารการกิน ตั้งแต่ผมกลับจากหัวหินคราวที่แล้วนั้น ผมยังไม่มีอากาสได้พูดคุยกับคุณหนูฟางสักครั้งดูเธอเหมือนจะคอยหลบหน้าผมตลอด ตอนเช้าเธอจะติดรถพี่สาวเธอไปส่งที่โรงเรียนกลับมาตอนเย็นเธอก็จะหมกตัวอยู่แต่ภายในคฤหาสน์ ซึ่งผมเองปกติหากคุณท่านไม่เรียกใช้ก็ไม่สามารถเข้าไปในคฤหาสน์อยู่แล้ว ทำให้ผมยังเดาท่าทีของคุณหนูฟางไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไรหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่หัวหิน
ตอนช่วงเย็นวันเสาร์ ผมตะบึงรถบีเอ็มคันงามของเจ้านายเพื่อไปรับคุณหนูฟางจากสถาบันกวดวิชาตามคำสั่งของคุณท่าน แห่งหนึ่งกลางเมือง
“ ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะกระจกดังขึ้น ผมสะดุ้งลืมตาขึ้น จากการเผลอหลับภายในรถบริเวณลานจอด เหลือบมองออกไปก็เห็น คุณหนู ฟางยืนหอบหนังสือรอข้างๆรถ
“ อ่าวพี่เดช วันนี้มารับฟางหรอค่ะ เออ ใช่ คุณพ่อกับคุณแม่ ท่านพาพี่ฟ้าไปติดต่องานนี่ ฟางลืมเสียสนิทเลย “ คุณหนูกล่าวขึ้น หลังจากที่ผมเดินอ้อมไปเปิดประตู ฝั่งผู้โดยสาร เบาะหลังให้เจ้านายขึ้นมา นั่ง
“ ครับผม ช่วงนี้ผมคงต้องมารับ ส่งคุณหนู ก่อนน่ะครับ “ ผมกลับมานั่งประจำตำแหน่งคนขับ โดยแกล้งทำเป็นปรับกระจกมองหลังให้เห็นใบหน้าคุณหนูให้ชัดๆ ให้หายคิดถึงสักหน่อย อืมมม วันนี้คุณหนูเธอแต่งตัวน่ารักชะมัด ผมเกล้าเป็นหางม้า ใบหน้าขนาดไม่ได้แต่งเติมอะไรแค่ทารองพื้นเบาๆ ก็ เนียน ใส ปากนิดจมูกหน่อย เสื้อยืดสีขาว ลายลูกไม้ และใต้หนังสือสามสี่เล่มด้านล่างที่เธอนำมาวางไว้บนตักมีกระโปรงสั้นบานๆพริ้วๆเหนือเข่ามานิดหน่อยดูแล้วน่ารักสมวัยจริงๆ แต่ผมแอบมองนานไม่ได้หรอก ต้องรีบออกรถ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนจับพิรุธได้
“ เอ่อ คุณหนู จะไปไหนก่อนเข้าบ้านหรอเปล่าครับ” ผมแกล้งชวนคุย หลังจากที่ออกรถมาได้สักพักและรู้สึกภายในรถมันเงียบเกินไป เพราะคุณหนูไม่พูดไม่จา ได้แต่จ้องหน้าจอมือถือ กดโน่นกดนี่
“ อืมมม ฟางว่า ไหนๆคุณพ่อไม่อยู่แล้วจะเกเรสักหน่อย คริๆ อืมมม งั้นฟางไปดูหนังดีกว่า เต็มที่ก็สองชั่วโมง นี่เพิ่งบ่ายสามเอง ถึงบ้านก็คงไม่เกินหกโมงเย็น “ คุณหนูกล่าวออกมา พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าที่ตัวเองจะได้มีเวลาไปไหนมาไหนตามใจเสียที เพระเวลาที่คุณท่านทั้งสองอยู่เธอจะไม่ค่อยได้มีโอกาศไปไหนหรอกครับ เลิกเรียนมาก็ต้องกลับบ้าน วันหยุดก็ต้องติวหนังสือ เป็นแบบนี้ตลอด ผ่านไปชั่วครู่ ผมขับรถมายังลานจอดใต้ดินในห้างใหญ่ใจกลางเมืองเพื่อส่งคุณหนูขึ้นไปดูหนัง
“ อ่าวพี่เดช ไม่ลงมาหรอค่ะ “ คุณหนูเอ่ยขึ้นเมื่อตัวเองก้าวลงจากรถแล้วเห็นผมกลับเข้าไปในรถทำท่าจะนอนรอในรถ
“ เอ่อ ผมรอที่รถได้ครับ คุณหนูดูหนังให้สนุกเถอะครับ” ผมกล่าวไป
“ ไม่เอาหรอกค่ะ ฟางไม่เคยเดินห้างคนเดียว ปกติจะมีเพื่อนๆหรือคุณพ่อ คุณแม่ หรือไม่ก็พี่ฟ้ามาเดินด้วย วันนี้พี่เดชมาเดินเป็นเพื่อนฟางก่อนล่ะกัน” คุณหนูเอ่ยพรร้อมสีหน้าที่หวานๆ ใสๆ อยู่ข้างตัวรถ จนผมต้องรับคำเดินเป็นเพื่อนคุณหนูเข้าไปในห้าง ช่วงที่เดินผมไม่บังอาจเดินตีคู่หรอกครับ ผมทิ้งระยะไว้นิดหน่อยให้เดินตามหลังเจ้านายนิดดๆ ดูคุณหนูเดินดูโน่นดูนี่ ทำให้ผมได้มีโอกาศมองคุณหนูจากด้านหลังเต็มที่ กระโปรงที่ไหวพริ้วตามแรงบิดของสะโพกยามเดิน ไปมา เหนือบริเวณโคนขาที่ขาว สะอาด เรียว เล็ก ช่างหน้ามองเสียยิ่งกระไร เอวที่คอดกิ่ว รับกับแผ่นหลังที่แอ่นโค้งได้รูป ลำตัวที่ไม่แตกต่างจากเด็กอายุ 14 ทั่วไปที่ยังเล็ก น่าทนุถนอม เห็นแล้วใจละลายเสียทีเดียว ผมแอบมองจนเคลิ้มกับอารมณ์ที่ประดังเข้ามาอีกระรอก จนมาหยุดที่หน้าโรงหนังชื่อดัง ผมละทึ้งกับโรงหนังจริงๆครับมันดูหรูหราไปหมด จนคุณหนูซื้อตั๋วหนังเสร็จเดินเข้ามาหาผม แล้วบอกเข้าไปในโรงกัน
“ เอ่อ คุณหนู ให้ผมเข้าไปดูด้วยหรอครับ ผมรอข้างนอกก็ได้นะครับ” ผมเอ่ย
“ โอ๊ยย ไม่ได้หรอกค่ะพี่เดช มายังนี่แล้วจะปล่อยให้พี่เดช รอข้างนอกได้ไง อีกอย่างมันเป็นหนังที่ฟางอยากดูด้วยเห็นตัวอย่างแล้วชอบเลย มันหนังผีอ่ะ อยากดูก็อยากกลัวก็กลัว มาเถอะมาดูเป็นเพื่อนฟางก่อน นะๆๆ” คุณหนูทำเสียงอ้อนราวกับเด็กน้อย ผมจะขัดใจทำไมล่ะครับเพราะได้ดูหนังโรงหรูๆแบบนี้แถมดูกับเด็กสาวสวยเสียด้วย เกิดมาเคยดูแต่หนังแก้บน ตามวัด ตามศาลเจ้า ไม่เคยเข้ามาในโรงแบบนี้ ลองสักหน่อยไม่เสียหลาย
“ โอ้โฮ้ !!ทำไมมันหรูอย่างนี้หล่ะครับ “ ผมเอ่ยพึมพำเบาๆอย่างอดไม่ได้ เมื่อผมเข้ามาในโรงแล้วเห็นทั้งโรงมีแต่ที่นั่งโซฟาคู่ มีเคาน์เตอร์เล็กๆไว้วางขนมและ อาหารข้างๆ และในโรงมีโซฟาไม่กี่คู่ แต่ละคู่จะเว้นช่วงห่างพอสมควร ผมเดินเก้เก้กังๆ นั่งลงบนโซฟาที่นุ่มตามหมายเลขที่ในตั๋วระบุ มองไปรอบๆแบบคนไม่เคยเห็น จนคุณหนูแอบยิ้มขำ
“ แหมม พี่เดชมองเสียยังกับไม่เคยเห็นเนะ” คุณหนูแซวขณะนั่งลงข้างๆโดยมีพนักแขนโซฟาคั่นไว้ตรงกลาง ไว้วางแขนระหว่างกลาง เธอจัดแจง กางผ้าห่มผืนใหญ่ที่ทางโรงหนังจัดเตรียมให้ มาคลุมลำตัวไว้ พร้อมขำนิดๆ ที่เห็นอาการผมมองไปรอบๆ
“ ก็ไม่เคยเห็นจริงๆน่ะครับ มันนหรูหราจริงๆ ไม่อยากจะถามเลยค่าบัตรเท่าไร “ ผมเอ่ย พร้อมกางผ้าห่มมาห่มลำตัวเหมือนคุณหนู เมื่อรู้สึกถึงไอแอร์ที่เย็นฉ่ำภายในโรงหนังที่กระทบเข้าหาตัว ชั่วครู่ก็มีพนักงานมาเสริฟอาหาร ก่อนหนังฉาย ผมแอบหยิบทานเล่นมันอร่อยจริงๆ ดูคุณหนูเธอจะชอบแอบมองอาการผมข้างๆพร้อมขำๆที่เห็นผมประหม่าเหมือนเด็กบ้านนอก จนไฟในโรงหนังเริ่มปิดสนิท หนังเริ่มฉาย ตอนนี้ผมไม่ค่อยเห็นคุณหนูที่นั่งข้างๆหรอกคับ โรงแบบนี้มันมืดจริงๆ จะเห็นแค่ลางๆตอนมีแสงจากหน้าจอมันสว่างขึ้นมา แต่ไอ้หนังที่ดูมันเป็นหนังผี ฉากมืดมันก็เลยมีเยอะ ยิ่งทำให้โรงมืดหนักไปอีก ผมเห็นคุณหนูปรับเบาะให้เอนสุดจนเกือบจะเป็นแบบกึ่งนอน ผมก็เลยทำตามมั้ง กว่าจะหาปุ่มปรับเจอเล่นเอาเหงื่อออกเหมือนกัน จะถามก็กลัวขัดเวลาดูหนังของเธอ อายก็อาย
หนังฉายไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเฉยๆกับหน้าจอและเนื้อหาผีๆที่หนังแสดง อาจเพราะผมเป็นคนไม่กลัวผีล่ะมั้ง เลยเฉยๆ ก็มันเป็นแค่หนังอ่ะ ผมจะกลัวทำไม แต่ดูคุณหนูเธอจะนั่งเกร็ง คลุมผ้าห่มเสียเกือบมิดหัว โผล่มาแต่ลูกตา และมีอาการสะดุ้งทุกครั้งที่มีฉากน่ากลัวประกอบกับเสียงประกอบฉากที่ดูตื่นเต้น มีบ่อยครั้งเธอเล่นคลุมหัวเสียมิด เหมือนไม่อยากดู แต่เผลอแว๊บเดียวก็ค่อยๆโผล่หน้ามาดูต่อเมื่อเห็นว่าฉากน่ากลัวผ่านไปแล้ว ไอ้หนังมันไม่เท่าไรหรอกแต่ไอ้เสียงแอฟเฟ็กของหนังนี่แหละผมว่ามันน่ากลัวกว่าอีก ชอบทำเสียงให้ตกใจเป็นระยะๆ ดูแล้วคุณหนูเธอช่างน่ารักสมวัยจริงๆ ผมยังอดขำกับอาการที่เธอแสดงออกไม่ได้
“ ว๊ายย!!.” เสียงคุณฟางร้องตกใจเมื่อเห็นฉากผีในจอโผล่หน้า จนเธอเผลอนอนขดหดขา เอียงลำตัวเอนมาใช้มือทั้งสองข้ามผ่านผนักพิงคว้าหมับเขาที่ต้นแขนของผมแล้วก้มหัวหมอบกับไหล่ผมเสียแน่น ผมล่ะอดขำกับอาการของเธอไม่ได้ แต่ก็ต้องแอบนิ่งๆไว้ พอฉากผีผ่านไป เธอก็รู้สึกตัวเหมือนจะอายๆ เอนตัวกลับไปเหมือนเดิม จนเหมือนฉากผีมันมีบ่อยขึ้น เวลาเธอตกใจ เธอก็จะเอียงมีซบหน้าเข้ากับไหล่ผมบ่อยขึ้น จนตอนหลังๆ ดูท่าแล้วเธอไม่เอนตัวกลับไปแล้ว แต่ซบค้างไว้แบบเดิม แต่ตาก็คอยมองไปที่หน้าจอเป็นระยะๆ พอฉากหวาดเสียวเธอก็หันมาซบแบบเดิมอีก จะว่าไปเหมือนกับคู่รักไม่มีผิด ใครจะไปคิดว่านี่เป็นเจ้านายกับขี้ข้า จนผมลองเริ่มดูอาการของคุณหนูว่าจะพัฒนาต่อไปไกลแค่ไหน ของอย่างนี้ต้องกล้าที่จะลอง
“ อึ๊บบบ !! เอ้าาาา ผมเอาพนักพิงออกดีกว่า คุณหนูจะได้ถนัดๆ เมื่อยแย่” ผมแกล้งดันพนักพิงแขนระหว่างกลางขึ้นเปิดที่กั้นกลางออก คุณหนูเหมือนจะเขินๆที่คอยมาซบไหล่ผม จนผมต้องเอาพนักแขนออก แต่ดูเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ ดีเหมือนกันค่ะ บรึ๊ยยย…มันน่ากลัว จะตาย” คุณหนูยิ้มเขินๆในความมืด แล้วกลับมาใช้แขนทั้งสองคล้องต้นแขนผมไว้แน่น เอาหน้ามาซบที่หัวไหล่แล้วดูหนังต่อ พอถึงฉากหวาดเสียวดูคุณหนูจะสะดุ้งทุกครั้ง ผมรู้สึกเหมือนเธอจะค่อยๆเขยิบตัวมาฝั่งที่นั่งผมเรื่อยๆจนบริเวณท่อนแขนผมสำผัสถึงความนุ่มหยุ่นๆ แผ่วๆของทรวงอกเธอที่โดนท่อนแขนทุกครั้งที่คุณหนูขยับตกใจ จนไอ้เดชน้อยมันเริ่มพองก้า ดันกางเกงยีนส์โป่งพองออกมาเป็นลำสัน ใต้ผ้าห่มด้านล่าง ใจผมเริ่มเต้นแรงจนกลัวว่าคุณหนูจะได้ยินเสียก่อนแต่เสียงในโรงมันคงดังกลบหมดล่ะมั้ง
“ แอร์ในนี้หนาวจังเลยนะครับ ผมงี้หนาวไปหมดเลย” ผมเอ่ยขึ้นพร้อมทำเสียงสั่นๆ
“ งั้นพี่เดชเอาผ้าห่มของพี่เดชมาทบกับของฟางจะได้เป็นสองชั้นดีไหมค่ะ เผื่อจะได้อุ่นขึ้น” คุณหนูกล่าวขึ้นเมื่อเห็นอาการสั่นงึกๆของผม ก็เข้าทางผมล่ะสิครับ ผมเลยจัดแจงเอาผ้าห่มของคุณหนูมาทบเป็นสองชั้นแล้วก็ห่มคราวนี้ก็เหมือนใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันแล้วนอนเอนชิดติดกันเสียด้วย ใครมาเห็นตอนนี้ก็คงคิดว่าเป็นคู่รักกันแน่ๆ แต่ใครจะไปเห็นล่ะ
คุณหนูนอนขดใต้ผ้าห่มหน้าคอยซบที่ไหล่ผมและตาก็คอยมองไปที่หน้าจอเป็นระยะๆ คราวนี้ผมคิดอะไรออกแล้วล่ะครับ มือทั้งสองของผมที่เคยวางไว้ใต้ผ้าห่มด้านคุณหนูผมแกล้งกางออกเล็กน้อย จนเวลาคุณหนูตกใจกลัวเธอจะคอยเอนตัวเขยิบมาจนชิดท่อนแขนผม ทำให้ปลายนิ้วมือผมสำผัสโดนท่อนขาบริเวณโคนขาอ่อนเธอที่ใต้ผ้าห่ม แต่ผมยังไม่กล้าลูบหรอก กลัวหากเธอไม่พอใจขึ้นมาล่ะงานเข้า ตกงานแน่ๆ ได้แต่เกร็งปลายนิ้วค้างไว้คอยเวลาเธอขยับเข้ามาทีไรก็มาสำผัสโดนปลายนิ้วผมทุกครั้ง จะว่าไปผมรู้สึกมันก็เหมือนผมลูบนั่นแหละเพราะดูคุณหนูเธอจะเอียงขยับไปมาบ่อยๆ มันก็เลยไปโดนโคนขาอ่อนเธอบ่อยขึ้นๆ ผ่านไป เกือบครึ่งเรื่องดูท่าจะไม่มีอะไรตื่นเต้นมากกว่าเดิม ผมเลยแกล้งนอนหลับสะเลย กะไว้ว่าไม่มีอะไรคืบหน้างั้นก็ขอหลับดีกว่า ใจจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เครียดเปล่าๆ โดยทำเสียงกรนเบาๆ เพราะไม่ต้องการให้คุณหนูเขินเกร็งและอาย เวลาขยับมาโดนตัวผม
“ พี่เดชๆ อ่าวหลับสะหล่ะ คนอะไรดูหนังผียังหลับได้ คริๆ” คุณหนูเอ่ยขึ้นหลังได้ยินเสียงแกล้งกรนเบาๆของผม และลองเขย่าตัวผมดูแล้วไม่มีอาการตอบรับ คงนึกว่าผมได้มาเจอแอร์เย็นๆและผ้าห่มอุ่นๆ คงเผลอหลับไปล่ะมั้ง แล้วก็เป็นตามที่ผมคาดไว้จริงๆครับ ดูเธอจะมีอาการเกร็งเขินอายน้อยลง แขนทั้งสองที่เคยคล้องต้นแขนผมไว้ เปลี่ยนเป็นคล้องไว้ด้วยแขนเดียวส่วนอีกแขนของเธอ ขยับวางพาดวางฝ่ามือไว้บริเวณแผ่นอกที่กว้างใหญ่เป็นแผ่นของผม พร้อมแนบแก้มมาซบที่หัวไหล่ของผม จนผมรู้สึกถึงความอบอุ่นบริเวณท่อนแขนที่เกิดขึ้น ที่ตอนนี้โดนทรวงอกเบียดกระชับแน่นเข้ามาจากด้านข้าง ผมยังคงแกล้งกรนเบาๆ ให้เธอได้ยิน เพื่อจะดูอาการของคุณหนูต่อไปว่าเธอจะเปลี่ยนไปขนาดไหนหลังจากที่เคยโดนผมทะลวงพรมจรรณ์ไปครั้งที่อยู่หัวหินคราวที่แล้ว จะติดใจ ในรสกามณ์ที่ผมปรนเปรอให้ จนห้ามใจไม่ไหว หรือเรียกสั้นๆว่าใจแตก หรือ จะเข็ดขยาดในรสกามณ์
คุณหนูยกขาทั้งสองข้างขึ้นมานอนคด ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับผม ในโซฟาที่เอนเกือบจะเป็นกึ่งนอน เอนตัวมาซบจนชิดกับท่อนแขนด้านข้างลำตัว มือด้านซ้ายผมที่วางค้างใต้ผ้าห่มตอนนี้ตำแหน่งมันไปวางแหมะลงบนโคนขาอ่อนของเธอ ดูคุณหนูจะไม่ขยับโคนขาหลบเสียด้วย กลับเหมือนค่อยๆขยับเลื่อนตัวลงเล็กน้อยให้ปลายนิ้วผมที่วางค้างไว้แตะโดนปลายกระโปรงตัวน้อยให้เลิกขึ้นจนเกือบถึงโคนขาอ่อนด้านในแล้วเธอเหมือนจะค้างไว้แบบนั้น จนปลายนิ้วผมรู้สึกถึงความอุ่นใต้กระโปรงและนุ่มเนียนของผิวที่สำผัส ดูคุณหนูจะลังเลชั่วครู่ เหมือนกล้าๆกลัวๆ
“ พี่เดชค่ะๆ” คุณหนูฟางแอบส่งเสียงเรียกผมเบาๆคล้ายกระซิบแหบพร่า พร้อมเขย่าเล็กน้อยที่ต้นแขนเหมือนเป็นการดูอาการผมไปในตัว แต่ผมยังคงแกล้งทำเสียงกรนต่อไป จนเธอแน่ใจว่าผมหลับลึกแน่ๆ ใบหน้าเธอก็กลับซบมาที่หัวไหล่ของผมตามเดิม ท่อนโคนขาอ่อนเบื้องล่างของคุณหนูปลายนิ้วผมสำผัสถึงอาการที่เริ่มสั่นไหวเล็กน้อยเหมือนคล้ายคนอยู่ในอากาศที่หนาวสั่นๆ มือน้อยๆที่วางไว้บนแผงอกผมเริ่มมีอาการลูบไปมาตรงแผงอก เป็นวงกลม ลมหายใจของคุณหนู หายใจแรงขึ้นจนผมสำผัสได้จากทรวงอกที่วางแนบท่อนแขนผมดันขึ้นลงถี่ขึ้นๆ มือซ้ายของคุณหนู ไล้เบาๆจนค่อยๆเหมือนจะเลื่อนลงไปทีละนิดๆ จนถึงบริเวณหน้าท้องน้อยของผมแล้ววางนิ่งไว้แบบนั้น จนผ่านไปสักระยะ เหมือนคุณหนูจะห้ามใจตัวเองไว้ไม่ไหวหรืออย่างไรไม่ทราบ เธอผ่อนลมหายใจแรงๆออกมาครั้งสองครั้งแล้วค่อยๆเลื่อนมือเล็กๆต่ำลงผ่านหัวเข็มขัดของผมจนมาวางฝ่ามือลงบริเวณเดชน้อยของผมที่นูนโป่งเป็นสันพร้อมค่อยๆใช้ฝ่ามือคลึงเบาๆ จนผมต้องแอบผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆจากความเสียวและตื่นเต้นที่ได้รับไม่คิดว่าคุณหนูจะกล้าขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเห็นผมหลับด้วยก็ได้ จึงกล้าที่จะทำอะไรตามที่จิตใจตนเองต้องการ และอาจด้วยความเป็นเด็กที่อ่อนต่อโลก ถึงลืมนึกไปว่าคนหลับอะไรเจี๊ยวล่ะตุงแข็งเลย มือผมถึงกับจิกเกร็งทุกครั้งเมือคุณหนูเธอลูบเบาๆไปมานอกเนื้อผ้าหนาๆของกางเกงยีนส์ที่ผมสวมอยู่
.” อืมมมม พรจ๋าาาาา….มาหาพี่อีกแล้วหรอ” ผมเอ่ยเบาๆ แกล้งให้คุณหนูได้ยิน ผมยังต้องใช้มุกเดิมที่เคยใช้เพื่อให้คุณหนูคลายความกังวล และดูท่าทางจะได้ผล มือเล็กที่ที่ลูบไล้ใต้ผ้าห่มเริ่มคลึงไปมาเน้น บดคลึงมากขึ้น
“ ค่ะ …. พร มาหาพี่ คิดถึงพี่เหลือเกิน” เอาแล้วไง!! เสียงคุณหนูฟางที่แหบพร่าดังเบาๆบริเวณข้างๆใบหูผม และเธอดันแกล้งใช้ชื่อตัวเองว่า พร เสียด้วย จนผมเริ่มเสียวปนตื่นเต้นจนลำตัวสั่นเบาๆ และแกล้งค่อยๆยกสะโพกให้ลอยขึ้นลงเล็กน้อยทุกครั้งที่มือเล็กๆของคุณหนูลูบไล้ไปมา มือข้างที่ผมวางค้างไว้ด้านล่างบนผิวกายโคนขาเริ่มคว่ำฝ่ามือ ค่อยๆลูบไล้ไปมาบริเวณโคนขาของคุณหนูด้านในเบาๆ จนผมรู้สึกว่าเธอจะเขยิบเข้ามาจนชิดเบียดกับลำตัวผม พร้อมค่อยๆขยับแยกท่อนยาขึ้นเล็กน้อยให้มือผมลูบไล้ไปมาได้ลึกขึ้น แต่ผมก็ทำไรได้ไม่มากเพราะในท่าแบบนี้ผมไม่ถนัดที่จะลูบไล้สูงขึ้นได้นอกจากต้องเปลี่ยนท่าจัดแจงใหม่ แต่ยังก่อน เอาแค่นี้ก่อนให้สุกงอมแล้วค่อยว่ากันก็ไม่เสียหาย คุณหนูดูเธอจะตัวสั่นเล็กๆตลอดเวลา หนาจอของโณงหนังผมว่าเธอคงไม่ได้สนในแล้วล่ะครับ
“ฟรืดดดด” เสียงรูดซิปกางเกงยีนส์ของผมดังเบาๆด้านล่างใต้ผ้าห่มจากฝีมือของคุณหนู เธอขยับมือรูดซิปกางเกงออกเบาๆ พร้อมใช้มือเดียวของเธอค่อยๆปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงออกค่อนข้างทุลักทุเล กว่าจะปลดได้ผมต้องแกล้งทำเป็นแขม่วพุงให้ปลดง่ายๆเสียแทบแย่ แล้วเธอจึงค่อยๆส่งปลายนิ้วลุบไล้วนไปมานอกผ้ากางเกงในอีกชั้นของผม เหมือนกำลังชั่งใจ ของงี้ต้องกระตุ้นนะ
“ พรจ๋า…. พี่คิดถึงพรเหลือเกิน “ ผมแกล้งพึมพำเบาๆเหมือนให้คุณหนูได้ยิน
“ จ๊ะ ..พรก็คิดถึงพี่ ….เดช มาก พรคิดถึงทุกวัน แต่…พร ‘’ คุณหนูแกล้งเรียกตัวเองแบบนั้นและค้างไว้แบบนั้น ปลายนิ้วที่กำลังลูบไล้วนไปมาทั่วท่อนลำ จู่ๆคุณหนูก็ใช้มือล้วงจากขอบยางยืดด้านบนลงไปด้านในสำผัสเข้ากับเนื้อแท้ ของดุ้นยัก์เข้าเต็มๆอย่างอดใจไว้ไม่ได้
“ ฮู๊ยยยยย”จนผมเสียวกับสำผัสที่โดนฝ่ามือนุ่มๆคว้าหมับเข้ากำรอบท่อนลำ จนต้องสูดลมหายใจระบายแรงๆ พร้อมแอ่นสะโพกกระดกยกขึ้นสู้เบาๆ คุณหนูกำแน่นพร้อมใช้หัวแม่มือลูบไล้ที่ปลายหัว จนมีน้ำคาวเล็กๆไหลซึมออกมาเปียกไปทั่วปลายท่อนลำ มือที่คุณหนูเธอกำนั้นกำไม่รอบท่อนของผมเลยครับ เธอได้แต่กำและไล้หัวแม่มือเล่นแบบนั้นเหมือนคิดถึงมันเหลือเกิน แต่ทำอะไรไม่เป็นว่าจะต้องทำแบบไหนต่อไป จะให้ผมสอนให้เดี๋ยวแผนก็จะแตกกันพอดี จะนิ่งเฉยก็คงไม่ไหว ทำไงดีขืนปล่อยแบบนี้มีหวังค้างเติ่งกันทั้งคู่แน่ๆ จะให้ผมลุกไปขย่มเลยมันก็จะดูไม่สมจริง ว่าคนหลับ จะขยับตัวมากเดี๋ยวคนที่นั่งโซฟาด้านข้างๆก็จะเห็นอีกถึงแม้จะห่างพอสมควร และมืดแต่ต้องปลอดภัยไว้ก่อน แหมมลำบากจริงหน่ออ ผมนิ่งคิดสักพักจนคิดอะไรออก ในขณะที่นิ้วมือคุณหนูกำลังลูบไล้ท่อนลำผมอย่างแผ่วเบาเหมือนกลัวว่าผมจะตื่น
.” อ่ะ !!! คุณหนู ทำอะไรผมน่ะครับ” ผมแกล้งทำเป็นสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ทำหน้าตาตกใจพร้อมใช้มือของผมกุมหมับไปจับที่ข้อมือน้อยๆของคุณฟางไว้แน่น
“ ว๊ายยย!! ……พี่เดช…..ฟะๆๆๆฟางเอ่อ….ฟาง “ คุณหนูเองก็สะดุ้งสุดตัวเพราะความตกใจ พร้อมจะชักมือกลับ แต่ติดที่ผมกำข้อมือเธอไว้แน่น เลยดึงกลับออกไม่ได้ ดูสีหน้าเธอเกิดอาการหวาดกลัว และเขินอายอย่างมากที่โดนผมจับได้ แบบคาหนังคาเขาแบบนี้ จึงได้แต่ก้มหน้างึดๆ ตัวสั่นๆอย่างกับลูกนก ตกน้ำ
“ คุณหนูทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ …. ใครรู้เข้าแย่แน่ๆ … .” ผมแกล้งทำเป็นบ่นพึมพำ พร้อมกับค่อยๆปล่อยข้อมือเธอให้เป็นอิสระ เธอรีบชักมือกลับพร้อมรับขยับตัวเองออกไปที่โซฟาด้านของเธอจนชิดขอบ ก้มหน้า คว้าผ้าห่มมาคลุมจนเหลือแต่ช่วงหัว ก้มหน้าหลบต่ำไม่มองจอหนัง จนผมเห็นอาการแล้วอดขำไม่ได้แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ก่อน ผมแกล้งทำเป็นเงียบสักพักหลังจากจัดการกับกางเกงให้เข้าที่ เก็บเดชน้อยกลับเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นว่าคุณหนูนิ่งเงียบ ไม่พูดจา เอาแต่ก้มหน้า ตัวสั่นงึกๆ เหมือนโดนจับผิดได้
“ อืมมม จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้เรื่องเลวร้ายอะไรหรอกครับ หากเป็นผม เพราะผมมันแค่คนรับใช้ไม่ไปพูดให้ใครรู้อยู่แล้ว หากคุณหนูไปทำแบบนี้กับคนอื่นเรื่องมันอาจไม่ดีแน่เลย ผมรับรองครับเรื่องนี้จะเป็นความลับของเราสองคน คุณหนูสบายใจได้” ผมพยายามพูดหว่านล้อมให้คุหนูรู้สึกดีและสบายใจขึ้น พร้อมตะแคงตัวหันหน้าไปที่เธอ
“ คุณหนูต้องการรู้เรื่องแบบนี้หรือครับ ผมหมายถึงเรื่องเพศน่ะครับ” ผมยิงคำถามตรงๆเข้าไปดูเธอยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ได้แต่ก้มหน้าเหมือนเด็กโดนจับผิดกำลังโดนลงโทษยังไงยังงั้น
“ คุณหนูเคยทำแบบนี้กับใครบ้างไหม …คือผมกังวลน่ะครับ” ผมยิงคำถามอีกชุด
“ ไม่…เคย ค่ะ พะๆพี่เดช……อย่าบอกใครน่ะค่ะ..ฟะๆฟาง อาย” คุณหนูก้มหน้าพร้อมเอ่ยเสียงเบาๆตอบกลับมาแบบตะกุกตะกัก
“แล้วทำไมคุณหนู ถึงกล้าทำกับผมล่ะครับ …. “ผมยิงคำถามอีกชุด
“คือ….ฟะๆๆฟาง …. แค่…อยากรู้….อยากสำผัสแค่นั้นน่ะค่ะ…มัน…..บอกไม่ถูก…”หากไฟในโรงหนังไม่มืดป่านนี้ผมคงเห็นแก้มคุณหนูคงแดงสุกดั่งลูกตำลึงแล้วล่ะมั้ง คงอายแบบสุดๆ ที่โดนผมจับได้ แต่ผมยังเล่นบทพ่อพระต่อไป
“ อืมมม…. ไหนๆก็ไหนๆ เรื่องนี้จะเป็นความลับครับ ผมสัญญา คุณหนูสบายใจได้เลยนะครับ อ่ะ หันมายิ้มก่อน ผมจะได้ไม่กังวล จะได้รู้ว่าคุณหนูของผมสบายใจขึ้นแล้ว ไม่ต้องอายผมครับ เรื่องแบบนี้ใครๆเขาก็เป็นกัน อ่ะยิ้มก่อนครับ นะครับ” ผมแกล้งทำเสียงอ้อนเด็ก ให้เธอยิ้มคลายความเขินและไม่สบายใจ ดูเธอจะค่อยๆโล่งใจขึ้นมากหลังจากที่ผมไม่ดุเธอและจะเก็บเป็นความลับ เธอจึงค่อยๆหันมายิ้มแบบแห้งๆน้อยๆ นิดหนึ่งแล้วก้มหน้าเอาผ้าห่มคลุมไปจนถึงมิดคางต่อ พอผมเห็นเธอคลายความกังวลแล้วก็เริ่มแผนต่อ
“ งั้นเดี๋ยวผม จะช่วยคุณหนูเอง ผมมันคนรับใช้เห็นเจ้านายไม่สบายใจเรื่องอะไรผมอยากจะช่วยน่ะครับ” ผมเอ่ยเสียงเบาๆ โน้มหน้าไปพูดเบาๆข้างใบหูเล็กๆจนเกือบจะชิดกับแก้มของคุณหนู
“ อุ๊ยย!!… พี่เดช… จะทำอะไรค่ะ….” คุณฟางเธอสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นผมยื่นหน้าไปใกล้แบบนั้น พร้อมแววตาตกใจปนสับสน ผมไม่รอช้าครับ หันซ้ายหันขวาเห็นว่าโซฟาข้างๆ มันระยะห่างอยู่พอสมควร มันมืดจนไม่เห็นว่ามีคนหรือไม่มี หากผมทำอะไรที่ไม่ประเจิดประเจ้อเกินไปน่าจะไม่มีอะไรต้องกังวล ผมค่อยๆเลื่อนตัวเองลงต่ำไปด้านล่างช้าๆ ดูคุณหนูฟางเธอมองตาม แบบ งงๆ ว่าผมจะทำอะไร แล้วที่บอกว่าช่วยเธอ จะช่วยอะไร ทำไมผมเลื่อนตัวเองไปคลานอยู่ด้านล่างโซฟา
“ พี่เดช … ขึ้นมา .. ลงไปทำอะไรตรงนั้นน่ะค่ะ” เธอกระซิบเบาๆ พร้อมมองซ้าย ขวา กลัวใครเห็น พอผมลงไปด้านล่างโซฟาแล้วก็ค่อยๆคลานเข่ามาคุกเข่าอยู่ด้านหน้าคุณหนูที่ตอนนี้เธอพับเข่ายกขึ้นไปนั่งพับเพียบบนโซฟา พร้อมห่มผ้าห่มเสียมิดไปถึงปลายคาง แบบทำหน้างงๆ ผมค่อยๆเลิกชายผ้าห่มจากด้านล่างขึ้นช้าๆ แล้วก้มหน้าใช้หัวมุดเข้าไป
.” ว๊ายยย!!พี่เดช… ทำอะไรค่ะ….พะๆๆพี่เดช ถอยไปก่อน … เดี๋ยวใครเห็น…พี่เดช!!.” คุณหนูถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นผมใช้หัวมุดชายผ้าห่มเข้ามา เธฮใช้มือทั้งสองใต้ผ้าห่ม ดันหัวไหล่ทั้งสองข้างของผม ให้ถอยออกไป พร้อมดิ้นขลุกขลักไปมาพยายามจะชันตัวขึ้น
“ คุณหนู นิ่งๆเงียบๆสิครับ…เดี๋ยวคนก็เห็นกันพอดี เดี๋ยวก็กลายเป็นเรื่องหรอกครับ..ผมแค่ต้องการจะช่วยเฉยๆ” ผมบ่นพึมพัมเบาๆใต้ผ้าห่มผืนหนาของโรงหนัง ดูเหมือนจะได้ผล ดูเธอจะนิ่งไปเลยครับ มีแต่มือที่คอยดันหัวไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้ด้านล่าง ใต้ผ้าห่มตอนนี้มันมืดไปหมดมองอะไรก็ไม่เห็น มันก็มีเพียงแต่สาปกลิ่นหอมๆจากน้ำยาปรับผ้านุ่มของกระโปรงคุณหนูที่อยู่เบื้องหน้าผมเท่านั้น จนผมต้องค่อยๆใช้มือควานหาข้อเท้าทั้งสองที่พับเพียบอยู่กับที่นั่งพอควานหาเจอก็ค่อยๆดันขยับให้ปลายเท้าทั้งสองของคุณหนู ห้อยลงมาที่ปลายโซฟา
“ พะๆๆ พี่เดช…จะทำอะไร!! ฟะๆๆ ฟางกลัว…. ออกไปก่อนเดี๋ยวใครเห็น” คุณหนูพูดแทบเป็นเสียงกระซิบให้ผมได้ยินใต้ผ้าห่ม พร้อมขืนขาทั้งสองไว้แต่สู้แรงมือที่ผมเหนี่ยวรั้งไว้ไม่ได้ จึงค่อยๆคลายแรงขืนออก
“คุณหนู..ใช้ผ้าห่มปิดหลังผมไว้ที เดี๋ยวใครเห็นเข้า” ผมเอ่ยบอกเบาๆ เพราะแผ่นหลังผมมันโผล่พ้นชายผ้าห่มออกมาเดี๋ยวใครจะเห็นเข้าจะเป็นเรื่องดูเธอจะตกใจไม่หาย จะห้ามผมก็ไม่ได้เสียเมื่อเห็นว่าผมคงไม่ยอมลุกจากตรงนั้นง่ายๆแน่ เธอจึงรีบคว้าชายผ้าห่มด้านล่างให้ปิดคลุมแผ่นหลังทั้งตัวของผมจนมิด แบบงงๆ มือน้อยๆทั้งสองของคุณหนู กำแน่นที่ชายผ้าห่มด้านบน ที่ห่มปิดจนถึงปลายคาง หากไม่สังเกตุดีๆ ก็คงเหมือนเธอมาดูหนังคนเดียว แล้วตอนนี้ ผมเชื่อว่าตอนนี้เธอคงไม่ได้สนใจอะไรที่หนอจอหนังผีแล้วล่ะ คงกำลัง งงกับผมอยู่ว่าจะทำอะไร จะดิ้น จะหนีก็กลัวคนมอง เลยได้แต่นอนนิ่งๆ ใต้ผ้าห่ม
“ พะๆๆพี่เดช…. จะทำอะไรค่ะ…อย่าๆค่ะ…ฟางกลัว….พี่เดช อย่า…” คุณหนูแอบกระซิบเบาๆบอกผมแบบกังวล เมื่อผมค่อยๆใช้มือจับไปที่หัวเข่าทั้งสองข้างของเธอใต้ผ้าห่มผืนหนาให้แบะแยกออกจากกันอย่างช้าๆ แม้จะมีแรงขืนต่อต้านจากการเกร็งของต้นขาอยู่บ้าง แต่ก็คงจะต้านแรงมือของผมที่เกร็งสู้ไม่ไหว ชายผ้าห่มด้านล่างโป่งขึ้นลงไหวๆ จากที่หัวผมขยับไปมา เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ถนัด ถึงแม้ข้างในผ้าห่มมันจะมืดแต่ผมก็ได้กลิ่นสาปสาวลอยเข้ามาประทะปลายจมูกผมแบบแผ่วๆ เป็นกลิ่นที่หอมหวานรัญจวนใจเสียยิ่งกระไร ทั้งต้นขา และข้อเท้าคุณหนูดูจะเกิดอาการสั่นเบาๆคลายๆกับคนเจออากาศที่หนาวเย็น คงจะรู้สึกตื่นเต้นปนกลัว และสงสัย คละเคล้ากันไป เมื่อผมจัดท่าทางด้านล่างโดยแบะขาทั้งสองข้างคุณหนูให้แยกออกจากกันได้แล้วจึงค่อยๆเลื่อนคลานตัวเองเข้าไปแทรกบริเวณช่วงกลางระหว่างเข่าทั้งสองข้างของเธอ ที่พับห้อยขาลงมาด้านล่างปลายโซฟา มือน้อยๆของคุณหนูทั้งสองข้างยังคงดึงรั้งชายผ้าห่มด้านบนขึ้นไปปิดมิดจรดปลายคางเหมือนจะกลัวผ้าห่มตกลงด้านล่างแล้วใครจะรู้เข้า
.” อ่ะ!!…พะๆๆพี่เดช…..” คุณหนูสะดุ้งตัว ตกใจ เมื่อผมเริ่มใช้มือทั้งสองวางแหมะลงบนโคนขาอ่อนทั้งสองของเธอ พร้อมลูบเบาๆ
“ คุณหนูเงียบไว้นะครับ เดี๋ยวใครเห็นเข้า เฉยๆนะครับ…..” ผมเอ่ยออกไป เบาๆพร้อมเสียงแหบพร่าเหมือนคนขาดน้ำมาหลายวัน ดูคุณหนูจะวิตกไม่น้อย ท่อนขาเริ่มสั่นๆเบาๆ มือน้อยๆจิกเกร็งแน่นกับชายผ้าห่มที่ปลายคาง ใบหน้าหันซ้ายที ขวาที เหมือนกังวลกลัวใครจะสังเกตุเห็น แต่คงอยู่ในช่วงฉากมืดของหนังผีเพราะดูเหมือนทั้งโรงมันจะมืดเสียจริงๆ
“พะๆๆพี่เดช…ปล่อยฟางก่อนนนน อย่าาาา!!….” คุณหนูรีบกระซิบบอกเบาๆ พร้อมเอียงเบี่ยงสะโพกหนีไปมา ด้านล่างเมื่อผมใช้มือทั้งสองข้างค่อยๆเลิกชายกระโปรงสั้นที่บานๆสูงขึ้นและสูงขึ้น จนมันสูงไปติดที่สะโพกที่คุณหนูนั่งทับอยู่ แต่ด้านหน้ากระโปรงโดนผมตลบสูงไปจนกองอยู่ที่หน้าท้องน้อยของเธอ
“คุณหนูอย่าปล่อยชายผ้าห่มด้านบนลงมานะครับ เดี๋ยวมันเลื่อนลงมากองแล้วเดี๋ยวมีคนเห็นเข้า ถือไว้แบบนั้นแหละครับ” ผมรีบเอ่ยเบาๆเพราะดูคุณหนูจะพยายามลดสอดมือลงมาจับชายกระโปรงให้ปิดลงจากที่โดนผมเปิดมันขึ้น พอได้ยินเสียงผมร้องเตือน เธอจึงคิดขึ้นได้ว่ากลัวคนเห็นจึงชักมือกลับไปจิกชายผ้าห่มด้านบนไว้แน่นตามเดิม
“ ว๊ายย!!.” เสียงเบาๆของคุณหนูที่ตกใจ เมื่อผมสอดมือทั้งสองข้างไปใต้โคนขาทั้งสองแล้วออกแรงดึงให้สะโพกของคุณหนูเลื่อนต่ำลงมาจนเสมอกับของโซฟา ทำให้ตัวคุณหนูตอนนี้เหมือนกึ่งนอนเหยียด ผมค่อยๆใช้มือทั้งสองลูบไล้ไปมาทั้งบริเวณปลีน่อง ต้นขา และขึ้นมาถึงโคนขาด้านในเบาๆ ดูอาการสั่นของเธอยังไม่จางหาย มีอาการเกร็งท่อนขาพยายามจะหนีบขาเข้าหากันตลอดเวลา แต่ติดลำตัวของผมที่กั้นระหว่างกลางไว้
“อรึ๊ยยยย!!พะๆๆพี่….เดช…ทำอะรายยยยยยยฟางงงงงค่ะ อร๊ะๆ!!. “ คุณหนูพูดติดๆขัดๆเบาๆแทบกระซิบ เมื่อผมปล่อยปลายลิ้นหยาบๆแตะสำผัสเข้าไปที่โคนขาด้านใน จนมือทั้งสองข้างที่ผมคอยลูบไล้และคอยจับหัวเข่าทั้งสองข้างของเธอให้คอยแบะแยกออกจากกันอยู่นั้นสำผัสได้ถึงกลุ่มของไรขนอ่อนทั่วบริเวณท่อนขาลุกเกรียวเป็นหนาม ขึ้นมา พร้อมอาการสั่นไหวระริกๆเบาๆ ผมแลบปลายลิ้นออกมายาวเหยียด ไล้ไปทั่วโคนขาอ่อน พร้อมทั้งดูดดุน เบาๆ เสียงดังจ๊วบ จ๊าบบ อยู่ด้านล่าง เลียโคนขาด้านหนึ่งก็สลับมาอีกฝั่งหนึ่งให้เท่าๆกัน มันทั้งหอม หวาน เนียน และนุ่ม จริงๆ ผิวที่เนียน เรียบ บวกกับความหอมของผิวเนื้ออ่อนๆ ส่งผลให้ผมเริ่มตระกราม มูมมาม ขึ้น เหมือนคนตายอดตายอยากมาจากไหน ทั้งดูด เลียจนทั่วโคนขาด้าน ในและนอก เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายไหลเยิ้ม สะโพกน้อยๆของคุณหนูส่ายไหวไปมาเบาๆ เหมือนพยายามเบี่ยงหลบความรู้สึกที่เกิดขึ้นเรื่อยๆให้คลายน้อยลง
“ อร่ะย์ย์….. พะๆๆๆพอก่อนค่ะ พี่เดช…….ฟะๆๆ ฟางว่าเราพอก่อนนะค่ะฟะๆๆฟาง อร๊ายยย!!.” คุณหนูแอ่นสะโพกขึ้นเบาๆพร้อมหยุดพูดทันทีที่ผมส่งปลายจมูกสำผัสโดนไปที่กลีบร่องกุหลาบน้อยๆที่หอมหวาน พร้อมพ่นลมหายใจเป่าเบาๆให้ไออุ่นๆกระทบไปที่บริเวณร่อง โดยมีชั้นในตัวบางกั้นกลางไว้อีกชั้น จนผมได้รับถึงกลิ่นหอมปนคาวๆโชยออกมาจากด้านในแพนที้ตัวน้อย และปลายจมูกผมสำผัสถึงความเปียกชื้นได้ คุณหนูพยายามจะส่ายสะโพกให้เบี่ยงหลบไปมา แต่โดนท่อนแขนทั้งสองข้างของผมสอดรัดล๊อคไว้ใต้โคนขาของเธอทำให้เบี่ยงไปมาไม่ได้สะดวกนัก ใบหน้าของเธอผมไม่สามารถเห็นได้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไร เพราะผมมุดอยู่ใต้ผ้าห่มด้านล่าง จะมีก็แต่ได้ยินเสียง ครางในลำคอเบาๆของคุณหนูที่ได้ยิน และอาการสั่นกระตุกบริเวณท่อนขาที่เรียวเล็กของเธอ แต่ข้างล่างใต้ผ้าห่มตอนนี้ กลิ่นคาวหอมๆ ทั้งคาวน้ำหวานและกลิ่นสาปสาวประดังปนเปกันไปหมด จนเดชน้อยของผม พองแข็งจนปวดตุบๆอยู่ด้านล่าง ในกางเกงใน
“ อร๊ายยย!!!… พะๆๆพี่เดช ค่ะ…..อร่ะส์สสส” คุณหนูเด้งสะโพงขึ้นอีกครั้งเบาๆพร้อมอาการเกร็งไปทั่วท่อนขา เมื่อผมห่อปลายลิ้นแล้วลากถูไปตามแนวยาวของร่องเสียวผ่านแพนที้ตัวบาง จนชุ่มไปด้วยน้ำลายไปหมด ท่อนขาของคุณหนูจากที่เคยเกร็งพยายามจะหุบเข้าตลอดตอนนี้กลับเป็นค่อยๆแบะอ้าออกอย่างช้าๆ ทุกครั้งที่เจอผมสั่งปลายลิ้น ไปลากรัวตามร่องเสียวและซอกโคนขาหนีบขอบแพนทรี้ด้านล่าง ช่วงจังหวะคุณหนูเด้งสะโพกเพราะความเสียวที่ได้รับแบบลืมตัว ผมก็อาศัยจังหวะนั้นดันชายกระโปรงที่คุณหนูนั่งทับด้านล่างให้พ้นสะโพก ไปกองอยู่ที่ขอบเอวที่คอดกิ่ว ท่อนขาที่เรียวเล็กเริ่มค่อยๆอ้าแบะออกแบบอัตโนมัติ จนเกือบจะขนานกับขอบโซฟา ผมอาศัยจังหวะคุณหนูกำลังเคลิ้มกับปลายลิ้นที่ผมลากวนตามร่องเสียว แอบส่งปลายนิ้วเกี่ยวขอบแพนทรี้ตัวน้อยบริเวณซอกโคนขา ให้เบี่ยงออกอย่างช้าๆปัดไปทางซ้าย คุณหนูยังคงเคลิ้มไม่รู้สึกตัว ว่าตอนนี้แคมกลีบกุหลาบได้ปราศจากสิ่งป้องกันเสียแล้ว แถมอวดโฉมตระหง่านท้าทายกับผู้มาเยือน แต่ผมก็ยังมองไม่เห็นหรอกครับเพราะด้านล่างมันมืดไปหมด ได้แต่เพียงกลิ่นที่สำผัส โชยมาประทะเข้ากับจมูก มันหอมจริงๆ หอมแบบน้ำหอมราคาแพงขนาดไหนก็ไม่หอมหวานเท่า ผมไม่รอช้า ค่อยๆเลื่อนใบหน้าโน้มไปด้านหน้าเหมือนมีแม่เหล็กดูดเข้าไป แล้วฝังปลายจมูก เข้าไปเต็มๆกับกลีบร่องรักแบบไม่มีสิ่งใดขวางกั้นอีกแล้ว เนื้อสำผัสเนื้อ
“ ซี๊ดดดดดดดส์สสส…..อร๊ายยยยย” คุณหนูถึงกับลากเสียงเสียวเสียยาวเลยทีเดียว เมื่อปลายจมูกผมมันฝังเข้าไปในร่องแคมจนยู่ไปตามแรงกด สะโพกเด้งแอ่นขึ้นมารับอย่างท้าทาย ท่อนขาทั้งสองของเธอตวัดเข้ามาเกี่ยวรัดแผ่นหลังของผมจนแน่น คล้ายคนเล่นยูโดยังงั้นข้อมือน้อยๆของเธอถูกริมฝีปากบางๆคาบกัดไว้จนแน่นเพื่อคลายความเสียวที่ได้รับ และไม่ให้ออกเสียงดังไปกว่านี้ มือข้างหนึ่งของผมค่อยๆช้อนขึ้นไปจากด้านล่าง ไปสำผัสเข้ากับทรวงอกด้านบนที่ตอนนี้แอ่นขึ้นลงไปมาใต้ผ้าห่มอย่างแผ่วเบา พร้อมกับใช้หัวแม่มือคลึงวนไปมาผ่านเนื้อผ้า ทั่วทรวงอกจนผ้าห่มสั่นไหวไปมา แต่ดีที่คุณหนูเธอดึงชายผ้าห่มตึงและสูงจรดปลายคางจึงกำบังสายตาได้ดีอยู่ทีเดียว ส่วนมืออีกข้างที่อยู่ด้านล่างเลื่อนมาอยู่ตำแหน่งของปลายเม็ดเกสรด้านบนกลีบแคม ที่ตอนนี้หากผมเห็นได้ในที่มืด คงบวม แดงแทบสุก เปร่งยื่นออกมาชูช่อท้าทาย ผมใช้ปลายหัวแม่มือและปลายนิ้วชี้ค่อยๆดันแบะกลีบกุหลาบทั้งสองข้างแยกออกจากกันแล้วห่อปลายลิ้นจนแข็งส่งไปแตะสำผัสโดนเข้ากับเม็ดเกสร ที่โผล่แย้มออกมา จากด้านใน ทันที
“ อร๊ายยยยส์ อร๊ะๆๆๆๆๆซี๊ดดดดดดส์”ผมได้ยินเสียงคุณหนูครางยาวๆ พร้อมแอ่นเอวดันขึ้นโค้งเป็นสะพาน พร้อมกับร่างกายที่สั่นไหวระริก ท่อนขาที่รัดลำตัวผมไว้ ยิ่งกลับรัดแน่นขึ้นไปอีก ผมเริ่มรัวปลายลิ้นเข้ากระทบกับยอดเกสรแบบถี่ยับ สลับกับการใช้ทั้งริมฝีปากตะปบดูดเลียจน เนื้ออ่อนๆรอบเม็ดเกสรที่ถูกอ้างับเข้าเต็มริมฝีปาก ยืดยาวตามแรงดูดขึ้นมาด้านบน น้ำลายผสมกับน้ำหวานที่ไหลทะลักออกมาเรื่อยๆไหลย้อยเป็นสายยืดลงไปด้านล่างจนเปียกชุ่มไปทั่วเบาะโซฟา มือด้านบนที่ผมกำลังคลึงทรวงอกอยู่นั้นมีมือของคุณหนูอีกข้างมาจับที่หลังมือพร้อมบีบเบาๆใต้ผ้าห่มแบบไม่รู้ตัว เหมือนผมไม่ได้คิดไปเอง มือน้อยๆของเธอเหมือนค่อยๆเลิกชายเสื้อยืดของเธอขึ้นเองอย่างช้าๆ พร้อมมาจับมือผมให้วางในตำแหน่งปลายทรวงของเธอ ผมจึงใช้ฝ่ามือเค้นเบาๆผ่านชุดชั้นใน แล้วค่อยๆใช้ปลายนิ้วสอดจากด้านล่างบรา เข้าไปจนสำผัสโดนเข้ากับยอดปลายเม็ดทับทิม ที่ตอนนี้แข็งชูชันอยู่บนยอดทรวงอก ดูเธอจะพึงพอใจไม่น้อย ถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาดังๆ เมื่อผมใช้หัวแม่มือกับปลายนิ้วชี้ บี้ขยี้เบาๆกับเม็ดทับทิม โดยมีมือของคุณหนูคอยประกบบีบมือผมกำแน่นเหมือนเป็นไกด์นำทาง ใต้ผ้าห่ม
“ จ๊วบบบ!!แพล๊ลบบบบบบๆๆ” เสียงดูดเลียร่องแคมดัวขึ้นเบาๆเบื้องล่าง อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทั่วปลายจมูกและบริเวณริมฝีปากของผมเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำหวานที่เอ่อล้นออกมาจากด้านในร่องแคม
“ อร๊ายยยย!!พะๆๆพี่เดชค่ะ…..พอๆก่อน ฟางๆๆ จะแย่แล้ว!! อร๊ะๆๆๆๆ ซี๊ดส์สสสส…..” คุณหนูเอ่ยเสียงเบาๆปนแหบเครือในลำคอ พร้อมยกเด้งสะโพกขึ้นมาบดอัดเข้ากับปากหนาๆของผมด้านล่างไปมา จนผมค่อยๆใช้ปลายนิ้วกลางถูไถจี้ไปที่บริเวณปากทางเข้ารูเสียวคลึงปนวงกลมเบาๆ น้ำหวานที่เอ่อล้นออกมาช่วยทำหน้าที่หล่อลื่นเป็นอย่างดี ก่อนจะค่อยๆบรรจงกด แยงปลายนิ้วเข้าไปด้านในอย่างช้าๆผ่านรูรักที่ตีบตัน บีบรัดปลายนิ้วมือตอดตุบๆจนสำผัสได้
“ ซี๊ดดดด!!!….พะๆๆๆพี่เดชขาาาาาาาาา…….อู๊ยยยยยยยส์”เสียงคุณหนูเอ่ยออกมาจากลำคอเบาๆ แบบลากยาวเสียงหวานใส เมื่อปลายนิ้วของผมจมลงไปสุดข้อนิ้วจนถึงโคน ด้านในรูสวาท ตอดรัด ตุบๆไปที่นิ้วกลางของผม พร้อมสะโพกที่แอ่นขึ้นและสั่นระริก ลิ้นและริมฝีปากของผมยังคงรัวละเลงไปทั่วติ่งเสียว และเนื้อแคมด้านในอย่างไม่ลดละ ส่วนด้านบนอุ้งมือของผมบรรจงบีบเคล้นไปทั่วก้อนทรวงอกที่ขนาดกำลังพอดี ผมเริ่มงอปลายนิ้วกลางที่อยู่ด้านในรูสวาทหงายฝ่ามือขึ้น แล้วค่อยๆบรรจงแยงออก และสวนกลับ เข้าไปในโพรงถ้ำที่ตีบตันอย่างช้าๆ โดยปลายนิ้วผมสำผัสถึงผนังถ้ำเนื้อหยุ่นๆด้านในที่นุ่มพยายามบีบตอดรัดไปทั่วลำนิ้ว ผมเริ่มแยงเข้าออก เร็วๆขึ้นและเร็วขึ้น
“ แจ๊ะๆๆๆๆ” เสียงน้ำหวานไหลออกมาอย่างท่วมท้นทะลักมากระทบเข้ากับฝามือผมดังเบาๆอย่างต่อเนื่อง
“ ซี๊ดดดด….พี่…เดช….ขาาาาาาา ….ฟะๆๆฟาง…….จะ…ไม่ไหวแล้ววววววว!!.” ดูคุณหนูจะคุมตัวเองไม่ไหว ใช้สองมือตัวเองล้วงลงมากุมที่หัวผมแน่นพร้อมปลายนิ้วที่จิกเกร็งเส้นผมขยุ้มไปมา จนผมเกรงว่าผ้าห่มที่ด้านบนนั้นจะไหลตกลงมาด้านล่างอยู่เหมือนกัน สะโพกยกและดันแอ่นขึ้นบดแน่นเข้ากับริมฝีปากของผม จนผมคิดว่าคุณหนูคงใกล้ที่จะถึงจุดสุดยอดในไม่ช้านี้แน่ๆ เพราะร่างกายเธอมีอาการเริ่มสั่นมากขึ้น มือและเท้าเกร็งแน่น แต่แล้วผมก็รีบดึงนิ้วออกมาจากช่องรูสวาท และถอนใบหน้าออกมาทันที แล้วค่อยๆคลานหมอบกลับเข้าที่นั่งบนโซฟาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่คุณหนูยังคงอยู่ในอาการหอบ และหันหน้ามาทางผมมองแบบงุน งง ที่จู่ๆผมผละออกมา แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ดวงตาเธอหยาดเยิ้ม ริมฝีปากล่างที่โดนไรฟันขบจนแดงกล่ำคล้ายห่อเลือด เหม่อมองผมแบบ เขินอายและ สงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมแกล้งทำหน้าตาแบบเฉยเมย ไม่รู้ร้อนหนาว คุณหนูค่อยๆจัดเสื้อผ้าใต้ผ้าห่มอย่างช้าๆ และเขินอาย ก้มหน้างุดๆตลอดเวลา เราทั้งคู่ต่างเงียบ ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของกันและกัน จนผ่านไปสักพักแสงไฟในโรงหนังก็ถูกเปิดขึ้นมาแสดงถึง ได้เวลาหนังจบเรื่อง เราทั้งคู่เดินออกมาจากในห้าง จนเข้ามาในรถ ที่บริเวณลานจอด ผมยังคงแกล้งไม่พูดจาใดๆ ดูคุณหนูเธอจะเขินอายหนักมาก ไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย มือประสานไว้ที่หน้าตักตลอดเวลาพร้อมอาการร่างกายสั่นเบาๆ จนผมเคลื่อนตัวรถออกจากห้าง
“ เอ่อออ…คุณหนูครับ เมื่อครู่สิ่งที่เกิดขึ้น ผมขอโทษด้วยนะครับ ผมเพียงแค่ต้องการเป็นที่ระบายให้คุณหนู รู้สึกดี และอยากเห็นคุณหนูมีความสุขเท่านั้น เรื่องที่เกิดขึ้นเราจะปิดไว้เป็นความลับแน่นอนครับ” ผมเอ่ยขึ้นเบาๆ ภายในรถ ขณะจอดติดไฟแดง ทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นตลอดระยะทาง คุณหนูยังคงนิ่งเงียบ ไม่พูดจา อยู่ด้านหลังเบาะผู้โดยสาร
“ ค่ะ..ฟางก็ผิดด้วยที่…..เผลอตัวไปขนาดนั้น …พี่เดชค่ะ…เอ่อออ… เรื่องนี้ขอรู้แค่เพียงเราสองคนนะค่ะ” คุณหนูเอ่ยเบาๆข้ามหลังเบาะออกมา หลังจากนิ่งไปชั่วครู่ ใครจะไปรู้ว่าตอนที่อยู่ในโรงหนังผมแทบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ผมประเมินสถานการณ์ดูแล้ว หากทำอะไรไปตอนนั้น ก็เสี่ยงที่จะถูกคนอื่นเห็นได้แน่นอน มันที่สาธารณะ สู้ทำให้คุณหนูค้างเติ่งไว้แบบนั้น และติดใจในรสกามณ์ที่ผมมอบให้ดีกว่า ของอย่างนี้ผมหวังกินยาวๆมากกว่าเอาตัวเองเข้าไปในคุกครับ แต่ดูคุณหนูเธอจะเข้าใจไปอีกแบบกับผม เธอคงเข้าใจว่าผมเป็นสุภาพบุรุษเสียเหลือเกิน ไม่รังแกเธอทั้งที่มีโอกาส เสียกระมัง
“ ได้ครับ เรื่องนี้จะรู้แค่เราสองคน .”ผมเอ่ยออกมาเบาๆและสั้นๆ สายตาจับจ้องไปบนท้องถนน
“ ฟางขอขอบคุณพี่เดชมากนะค่ะที่ …เอ่อ… ไม่รังแกฟางไปมากกว่านี้” นั่นไงหล่ะ เธอรู้สึกอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ มันทำให้ผมดูเป็นคน ดีและน่าไว้ใจไปแล้วสำหรับเธอ
“ อ้อ..หากเรื่องนั้น คุณหนูไม่ต้องกังวลหรอกครับ ผมรู้ตัวเองตลอดว่าผมเป็นคนรับใช้ ผมไม่ทำอะไรไปหรือรังแกคุณหนูมากกว่านี้หรอกครับ จะทำให้คุณหนูเสียหายได้ ขอแค่ทำให้คุณหนูมีความสุข และ สบายใจ ผมก็ดีใจแล้วครับ” ผมยังคงเล่นบทพระเอกต่อไปอีก ผมมองไปที่ด้านหลังกระจกมองหลังแอบเห็นรอยยิ้มของเธอปรากฎขึ้นแบบสบายใจขึ้นมาก ดูช่างน่ารักเสียจริงๆ ผมจึงชวนคุณหนูคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ จนเธอคลายความเขินอายลงไปมาก ตอนนี้ภายในรถเริ่มมีเสียงหัวเราะใสๆแบบน่ารักๆของคุณหนูดังขึ้นมาเป็นระยะๆที่เธอฟังเรื่องราวสนุกๆที่ผมเล่าให้ฟังตลอดระยะทาง จนกระทั่งรถได้ได้เคลื่อนเข้าจอดในโรงจอดรถของตัวบ้าน
“ เอ่อ พี่เดช ค่ะ ฟางมีเรื่องอยากจะถามอ่ะค่ะ” คุณหนูเอ่ยขึ้นเสียงเบาๆ เมื่อเครื่องจอดดับสนิท
“ คือ… ฟางรู้สึก…ดีมากๆค่ะ กับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ และดีใจที่พี่เดชไม่รังแกฟาง ทั้งๆที่มีโอกาส “ คุณหนูกล่าวแบบเสียงเบาๆเหมือนชั่งใจว่าจะพูดอะไรต่อไป ผมยังคงแกล้งยิ้มรับ และสีหน้าปกติ
.” คือ… พี่เดชจำยัยแก้วได้ไหมค่ะ ที่เราไปเที่ยวหัวหินกัน “ คุณหนูถามผม ผมพักหน้างึกๆแบบสงสัย
“ คือ ว่า ฟางรักเพื่อนคนนี้มากเลยล่ะค่ะ และมันยังไม่เคยมีแฟน มาก่อนเลย จนบางครั้งมันเคยสงสัยเรื่อง…เอ่อ… ระหว่างผู้ชาย และผู้หญิง จากในหนังอ่ะค่ะ ว่าจริงๆแล้ว มันจะรู้สึกแบบไหน จริงไหม อะไรอย่างเนี้ยค่ะ ยัยแก้ว เคยคุยเรื่องนี้ให้ฟางฟังบ่อยๆ จนฟางกลัวว่าด้วยความอยากรู้ของมัน และความเป็นคนขี้สงสัย อาจจะทำให้มันไปเสียตัวพลาดพลั้งให้กับใครเข้าน่ะค่ะ” คุณหนูฟางกล่าวเสียยาวออกมาแบบอ้อมๆ ผมยังคงทำหน้าตาปกติตั้งใจฟัง
“ ตอนนี้ฟางไว้ใจพี่เดชมากเลยค่ะ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอ่อ…ฟางอยากให้ยัยแก้ว มันลองเอ่อ…สัมผัสกับ….เอ่อ….” คุณหนูเอ่ยขึ้นสะเสียงเบาแทบไม่ได้ยินแบบเขินๆ
“ลองสำผัสและเห็นของผู้ชายดูน่ะค่ะ ฟางว่ามันจะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร ของจริง ต่างจากในหนังที่เห็นไหม แค่สำผัสน่ะค่ะ เพราะฟางไว้ใจพี่เดชมาก คิดว่าคงไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร และคงไม่รังแกฟางและเพื่อนฟาง เลยเถิดจนเสียหาย”คุณหนูกลั้นหายใจพูดออกมาเบาๆแทบกระซิบเหมือนกลัวใครได้ยินทั้งๆที่อยู่ในรถที่ปิดสนิท เอาแล้วครับ ผมคิดว่าผมสามารถทำให้คุณฟางติดใจในรสกามณ์ที่ผมมอบให้เสียแล้วแต่ยังคงมีอาการเขินอายไม่กล้าอยู่ ถึงกับต้องการให้เพื่อนรักได้รับรู้ถึงความรู้สึกของความสุขที่เกิดขึ้นด้วย ผมแกล้งถอนหายใจออกมายาวๆ กางเกงด้านล่างเดชน้อยพองก้าปวดตึบๆอย่างไม่อาจบังคับได้
“ เรื่องนั้นผมไม่ติดอะไรอรอกครับ ผมมันคนรับใช้ เจ้านายต้องการอะไรผมทำให้ได้หมดครับ แต่คุณแก้วเธอจะกล้าหรอครับ” ผมถามปนสงสัย ดูคุณหนูจะนิ่งคิดไปชั่วครู่
“ อืมม ฟางว่าฟางมีวิธีพูดค่ะ เอาเป็นว่า พี่เดช ตกลงนะค่ะ ฟางจะได้นัดเพื่อนมาที่บ้านพรุ่งนี้” คุณหนูเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มใสๆที่ปรากฎอยู่บนใบหน้า ช่างน่ารักเหมือนเด็กได้ของเล่นเสียจริงเชียว แค่คิดว่าผมจะได้เห็นคุณแก้วและจะมาลองเรื่องเพศศึกษากันผมก็ใจเต้นโครมครามแล้วล่ะครับ
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมได้ยินเสียงแม่บ้านคุยกันว่าวันนี้คุณหนูจะมีเพื่อนมาค้างที่บ้าน ผมก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ดูท่าแล้วคุณหนูฟางคงเอาจริงเสียแล้วงานนี้ ผมรีบทำงานส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วกลับเข้าไปในห้องเลือกเสื้อผ้าที่หอมๆ ใส่ พอนึกถึงสิ่งที่คุณฟางพูด ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้เลยจัดการรีดพิษไปจากร่างกาย สามสี่รอบ ในห้องน้ำ จนถึงเวลาช่วงเย็นเพื่อนคุณหนูก็มาถึง ผมแอบชะเง้อมองทางหลังพุ่มไม้ข้างบ้าน คุณแก้วนั้นเองครับ เธอก้าวลงมาจากรถที่คนขับรถส่วนตัวมาส่ง รูปร่างที่สูงโปร่ง วันนี้คุณแก้วใส่กางเกงยีนส์ขายาวทำให้ท่อนขาดูเรียวเล็ก เอวที่คอดกิ่วรับกับสะโพกที่ผายออก หน้าอกที่ดันเสื้อยืดตัวเล็กออกมาเป็นลูกขนาดพอเหมาะกับเด็กสาววัย 14 ใบหน้าที่ออกแนวเรียวเล็ก ผมยาวประบ่า ผิวพรรณ์ขาวนวลใส เกลี้งเกลา ปากนิดจมูกหน่อยดูแล้วสวยไม่แพ้กันกับคุณหนูฟางเลยทีเดียวจะออกแนวเซ็กซี่เล็กๆเสียด้วยซ้ำ ที่คุณหนูฟางเธอจะออกแนวสาวหวานๆน่ารักๆ ผมเหม่อมองไปมา ใจก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้ จนเวลาล่วงไปเกือบสองทุ่ม ทั้งบ้านเงียบสงัด ผมกำลังนอนดูทีวีที่ห้องคนรับใช้ที่สร้างไว้นอกตัวบ้านใหญ่ จนได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นชื่อเป็นเบอร์โทรของคุณหนูฟางที่เธอเคยให้ไว้
“ สวัสดีค่ะพี่เดช เอออ พี่เดชยุ่งเปล่าค่ะ พอดีฟางอยากให้ขึ้นมาที่บ้านใหญ่หน่อยนะค่ะ” เสียงในสายเอ่ยขึ้น
“ อ้อ ไม่ยุ่งครับ งั้นเดี๋ยวผมขึ้นไปนะครับ” ผมตอบไปด้วยใจระรัว
“เออ พี่เดช ระวังอย่าให้ใครเห็นตอนเข้ามานะค่ะ ฟางจะเปิดกลอนประตูหลังไว้ พี่เดช ขึ้นมาที่ห้องของฟางนะค่ะ ห้องที่มีตุ๊กตาหมีห้อยไว้หน้าห้องน่ะค่ะ” คุณหนูกำชับ เพราะห้องในบ้านใหญ่ มีหลายห้องมาก ผมก็ไม่เคยึ้นไปหรอกครับ จะมีก็แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกแถมเป็นห้องของคุณหนูฟางอีกเสียด้วย ผมรีบจัดแจงตัวเอง โดยใส่กางเกงขาสั้นแบบผ้าร่ม เสื้อยืดตัวเก่ง กึ่งวิ่งกึ่งเดินเลาะขอบตึกแล้วมองซ้ายขวา แง้มประตูหลังพอเข้าไปด้านในได้ ผมค่อยๆย่องขึ้นบันไดตรงไปห้องที่คุณหนูบอกไว้พร้อมเคาะประตูเบาๆ
“ก๊อกๆๆ “ ผมเคาะเบาๆ พร้อมประตูบานใหญ่ค่อยๆแง้มออกมานิดหน่อย ทำให้เห็นใบหน้าหวานๆเล็กจิ้มลิ้ม และขาวใสของคุณหนูฟางโผล่ออกมาจากภายใน เธอเปิดให้ผมเข้าไปด้านใน พร้อมชะโงกมามองข้างนอกซ้ายขวาก่อนปิดประตูและลงกลอนจนเรียบร้อย
“ เออ พี่เดชค่ะ ยัยแก้วยังอยู่ห้องข้างๆนี้แหละกำลังอาบน้ำอยู่ ฟางคุยกับมันแล้ว ตอนแรกมันตกใจและจะไม่เล่นด้วยท่าเดียว แต่ฟางบอกว่าพี่เดชไว้ใจได้ และเรื่องนี้จะเป็นความลับ ใช่ไหมค่ะ” คุณหนูกล่าวยืนยันให้แน่ใจอีกครั้ง ผมพึ่งพิจารณาคุณหนูฟางอีกครั้งตอนเข้ามา เธออยู่ในชุดนอนสีขาวสะอาดลูกไม้ เป็นแบบคลุมสวมหัวชายกระโปรงสั้นเสมอเข่า เป็นตัวโคร่งๆ ดูน่ารักสมวัย
“ใช่ครับ แล้วแต่คุณหนูสั่งได้เลยครับ ผมยินดีรับใช้”ผมกล่าวด้วยเสียงปนตื่นเต้น
“พี่เดช เอ่อ ต้องห้ามทำอะไรเราสองคนมากกว่าที่เราสั่งนะค่ะ “ คุณหนูกล่าวย้ำอีกครั้ง
“อืมมได้ครับ” ผมรีบตอบ
“ แต่ยัยแก้วมันยังกลัวอยู่เลยค่ะ ดีนะที่มันเคยเห็นพี่เดชและรู้ว่าพี่เดชเคยช่วยมัน และเป็นคนที่มันไว้ใจ ฟางคุยกับยัยแก้วแล้วตกลงกันว่าเพื่อความปลอดภัยและสบายใจ ของฟางและยัยแก้ว เอ่อ …พีเดชต้องโดนมัดมือและปิดตานะค่ะ เพราะฟางและยัยแก้วยังอายอยู่ที่จะทำอะไรแบบนี้ และพี่เดช ห้ามพูดหรือออกเสียงอะไรนะค่ะ ทำตัวให้นิ่งที่สุด เพราะจะทำให้ยัยแก้วมันเขินได้” คุณหนูกล่าวเสียงกระท่อนกระแท่นจากความเขินอาย
“อืมม ได้ครับเอาที่คุณหนูสบายใจได้เลยเดี๋ยวคุณหนูมัดมือผมไว้ได้เลยครับ” ผมรีบกล่าวออกไป ภายในห้องนอนคุณหนูฟางนี่หรูหราเสียจริงๆ เตียงขนาดใหญ่และฟูกที่หนาเป็นศอก คลุมด้วยผ้าปูสีขาวสะอาดตา บนเตียงมีตุ๊กตาหมีเรียงรายเป็นแถวยาว ภายในห้องถูกประดับด้วยวอล์เปเปอร์ลายหมี แอร์ที่เย็นฉ่ำ คุณหนูนำผ้าเช็ดตัวมามัดผมไว้ที่ข้อมือทั้งสองข้างติดกัน แล้วให้ผมลงไปนอนหงายบนกลางเตียงที่หนาและนุ่ม เธอเดินอ้อมเอาผ้าเช็ดตัวอีกผืนที่ยาวกว่า คล้องไปที่ข้อมือที่โดนมัดไว้แล้ว ชูแขนทั้งสองผมขึ้นเหนือหัว นำปลายผ้าไปผูกติดไว้กับหัวเตียง ผมมองเธอเดินไปมาด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้คุณหนู และคุณหนูก็เอาผ้ามาปิดตาผมไว้จนแน่น มืดไปหมด เสียงหัวใจผมเต้นสั่นระรัว ด้วยความตื่นเต้น เดชน้อยดันกางเกงออกมาเป็นสันแนวยาวจนผมไม่สามารถควบคุมได้ ภายในห้องเงียบ ไปชั่วครู่ จนได้ยินเสียงเปิดประตูและปิด
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง จนผมเกือบจะเผลอหลับเพราะความนุ่มสบายของที่นอนและแอร์ที่เย็นฉ่ำภายในห้อง มารู้สึกตัวตอนได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา และเสียงปิดประตูดังขึ้น
“ แก เอาจริงหรอ” นั่นเสียงคุณแก้ว ผมจำได้ เธอถามเพื่อนอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ
“ เออ .. จริงสิ ไม่มีอะไร ไม่มีการล้ำเส้น เราคุยกับพี่เดชไว้แล้ว ดูสิเรามัดพี่เขาไว้แล้ว สบายใจได้ แกจะได้รู้เสียทีว่าในหนังอ่ะมันเหมือนของจริงไหม” คุณหนูฟางกล่าวสำทับเพิ่มความเชื่อมั่น
“แล้วแก เคยลองแล้วหรอ ถึงกล้าให้ฉันลองอ่ะ” คุณแก้วถาม
“ เอ่ออ… จะบอกว่าเคยเห็นแล้ว แต่….. ตอนนี้นมันมืดและไม่ได้ตั้งใจอ่ะ” คุณหนูฟางกล่าวเสียงอ้อมแอ้มมม
“ต๊ายยย แล้วแกไปเห็นได้ไง!! ห่ะยัยฟาง” คุณแก้วคาดคั้น
“เอ่อ ตอนนั้น มันลืมตัวอ่ะ แต่แกอย่าพูดถึงมันเลย … เชื่อฉันแกจะชอบ มันจะรู้สึกแปลกๆ ดีกว่าเราไปทำกับคนอื่น นี่พี่เดช ไว้ใจได้ เชื่อเรา”คุณหนูกล่าวย้ำแบบหนักแน่น พร้อมเสียงที่เงียบสนิทภายในห้อง สักพักจนผมรู้สึกถึงเตียงที่ไหวยวบลงด้านข้างทั้งสองฝั่ง เหมือนมีคนขึ้นมานั่งบนเตียงขนาบทั้งสองข้าซ้ายขวา ผมยังคงแกล้งนอนนิ่งไม่พูดจาเพราะอาจทำให้คุณหนูเขินอาย พร้อมใจที่เต้นระทึก ปลายเท้าเหยียดยาว จนคิดว่าตอนนี้ เดชน้อยคงจะดันกางเกงขาสั้นออกมาเป็นสันยาวโป่งพองอยู่เบื้องล่าง ไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น จนผมรู้สึกถึงมีมือมาจับชายเสื้อผมค่อยๆเลิกขึ้นด้านบนช้าๆ จนไปกองอยู่ที่เหนือแผงอก ตอนนี้หน้าท้องที่เป็นมัดๆ ที่ไหวขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ และแผงอกที่ดูแข็งแรงเป็นแผ่นกว้างคงปรากฎต่อสายตาคุณหนูทั้งสอง กลุ่มไรขนอ่อนๆบริเวณท้องน้อยของผมขึ้นดกดำยาวไปใต้สะดือและหายเข้าไปในกางเกงขาสั้น
“แก …ฉันว่าเราปิดไฟก่อนไม่ดีหรอ เขินว่ะ”เสียงคุณแก้วดังขึ้นเบาๆ
“ แกจะเขินอะไร ก็ฉันปิดตาพี่เดชไว้แบบนี้ เขาไม่เห็นหรอก เราจะได้ดูแบบชัดๆไง” เสียงคุณหนูฟางตอบกลับเธอทั้งสองนิ่งเงียบไปชั่วครู่เหมือนกำลังนิ่งคิดอะไรอยู่ แล้วจู่ๆก็มีมือนุ่มๆมาวางตรงบริเวณกล้ามเนื้อท้องของผม พร้อมลูบไล้คลึงไปมาเบาๆ
“แก ดูสิ มัดกล้ามของผู้ชาย แข็งจัง” คุณหนูฟางกล่าว พร้อมมีอีกมือเพิ่มเข้ามาสำผัสเบาๆบริเวณหน้าท้องของผมพร้อมลูบไปมาเบาๆ ผมรู้สึกสยิวจนต้องแขม่วท้องอยู่บ่อยครั้งที่โดนสำผัส เธอสองคนลูบไล้ไปมาทั่วท้องและแผงอกของผมเหมือนเด็กได้ของเล่น
“แก ลองจับดูสิ “เสียงคุณฟางเอ่ยเบาๆ จนผมรู้สึกถึงมีมือที่สั่นเทาค่อยๆวางลงบนเดชน้อยของผมนอกเนื้อผ้า
“ อืมม แข็งยังกับท่อนไม้เลยอ่ะ ไม่น่าเชื่อ “ เสียงคุณแก้วเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น ผมล่ะตื่นเต้นกว่าอีก เพราะเธอเล่นวางมือพร้อมลูบไปมาตามสันแนวยาวอย่างใคร่รู้กับสิ่งแปลกใหม่ที่ได้เจอ
“ ฟาง เรา…ขอดูข้างในได้ไหมอ่ะ”เสียงคุณแก้วเบาๆแทบกระซิบ จนผมรู้สึกว่ากางเกงขาสั้นของผมถูกปลายนิ้วใครสักคนค่อยๆเกี่ยวขอบยางยืดด้านบน ดึงลงช้าๆโดยมีผมคอยช่วยยกสะโพกขึ้นให้กางเกงมันพ้นสะโพกลงไป
“ แก …. ถอดกางเกงนั้นด้วย”เสียงคุณแก้วเอ่ยสั่งคุณหนูฟาง เธอค่อยๆเกี่ยวขอบยางยืดกางเกงในตัวเก่งของผมดึงลงช้าๆ จนมาคาไว้ที่ต้นขา ตอนนี้เดชน้อยของผมทั้งลำปรากฎต่อสายตาคุณหนูทั้งสอง พร้อมสั่นหัวงึกๆ ปลายท่อนลำมีน้ำคาวไหลซึมออกมาเล็กน้อย วางพาดไปตามท้องน้อยความยาวของมันเกือบถึงสะดือของผม ด้วยขนาด 8 นิ้วของมันพร้อมเม็ดมุกอีกสี่เม็ดเรียงรอบลำ ท่อนลำที่อวบอ้วน เท่าข้อมือเด็ก คงทำให้คุณหนูทั้งสองตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะเสียงเงียบสนิทไปเลย
“ แก้วแกลองจับดูสิ”คุณหนูฟางเอ่ยกับเพื่อน ชั่วครู่ผมรู้สึกถึงมีมือนุ่มๆเข้ามากำรอบท่อนลำคลึงไปมาช้าๆ
“ อืมมแก ทำไมมันแข็งอย่างนี้หล่ะ กำไม่รอบเลยอ่ะ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เจ้านี่จะเข้าไปอยู่ในตัวผู้หญิงได้เนอะ น่ากลัวจัง!! แอ๊ะนี่ มีเม็ดๆอะไรไม่รู้อ่ะ ไม่เห็นเหมือนในหนังเลยอ่ะ แกดูสิ”คุณแก้วเธอร้องบอกเพื่อน เสียงเงียบไปสักพัก แต่มือที่จับท่อนลำนั้นพลิกไปมา เหมือนต้องการสำรวจดูให้ละเอียดเพราะความสงสัย ผมได้แต่สูดหายใจเข้าปอดยาวๆ เพราะความเสียวมันเกิดขึ้นกับผมเรื่อยๆ โดยคุณหนูไม่รู้ตัวว่าการจับพลิกไปมานั้นมันเท่ากับนวดเดชน้อยให้ผมแบบไม่รู้ตัว
“ แบบนี้ พี่เขาไม่ปวดแย่หรอ แข็งยังกับท่อนไม้เลย แถมมีเม็ดๆอะไรนี่อีก ของผู้ชายคงจะมีแค่บางคนละมั่ง… ในหนังไม่มี “ คุณแก้วออกมาด้วยความสงสัยเบาๆ ผมไม่สามารถตอบได้หรอกครับเพราะผมรับปากคุณหนูฟางไว้แล้วว่าจะนิ่ง และไม่พูดอะไรออกมา
“คงไม่หรอก เราว่า เราว่าตุ่มๆนั้นคงเป็นเหมือนพันธุกรรมของใครของมันมากกว่า คงเหมือนไฝอ่ะ บาคนมีบางคนไม่มี “ เสียงคุณหนูฟางดังขึ้นเบาๆ เหมือนตัวเองจะรู้แต่ไม่รู้
“แก มีน้ำซึมๆออกมาด้วยหล่ะ ดูสิ” เสียงคุณแก้วดังขึ้นแบบตื่นเต้น พร้อมกับความรู้สึกที่เสียวแปร๊บบริเวณปลายท่อนลำเมื่อมีมือมาบดคลึงไปที่หัวบานไปมา จนผมต้องเผลอแอ่นเอวลอยขึ้นน้อยๆ จนได้ยินเสียงหัวเราะของคุณๆทั้งสองดังเบาๆ
“ เราว่าพี่เขาคงรู้สึก แปลกๆอ่ะดูสิ จับตรงนี้ทีไร พี่เขาขยับตัวทุกครั้งเลยอ่ะ คริๆ” เสียงคุณแก้วขำหัวเราะชอบใจที่เห็นผมเด้งเอวเบาๆไปมาเธอยิ่งชอบ เลยยิ่งใช้อุ้งมือนวดคลึงปลายท่อนลำแรงขึ้น บีบเคล้น เบาๆ จนผมต้องห่อปากพ่นลมหายใจระบายความเสียวและตื่นเต้นลง
“แก จะไปแกล้งพี่เขาทำไมอ่ะ …. ไหนแกอยากทำแบบในหนังไม่ใช่หรอ อยากรู้ก็ลองทำดูสิ โอกาสมาแล้ว “ เสียงคุณหนูฟางดังขึ้นบอกเพื่อน ผมยังงงว่าพวกเธอจะทำอะไรเหมือนในหนัง ด้วยใจระทึก ภายในห้องนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จนผมถึงกับเสียวแปร๊าบบไปที่ท่อนลำ เมื่อรู้สึกถึงมีอุ้งปากอุ่นๆ งับครอบเขามาบริเวณปลายหัวเห็ดพร้อมแรงดูด ดุน
“จ๊วบบบ!!!” เสียงดูดหัวเห็ดดังขึ้นพร้อมกับปลายลิ้นที่ดุนเลียไปรอบๆท่อนลำอย่างช้าๆ
“ ยัยแก้วไม่เห็นเหมือนในหนังเลยอ่ะ มันต้องอมเข้าไปในปากให้มิดไม่ใช่หรอ “ เสียงคุณหนูฟางร้องท้วงเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองเพียงแค่ใช้ลิ้นเลียไปมาเหมือนเลียไอติม
“ มันจะเข้าไปมิดปากได้ไง ของพี่เขายาวสะขนาดนั้น แต่ทำไมในหนังมันทำได้น่ะ ไหนแกลองทำฉันดูก่อนสิ” คุณแก้วเอ่ยบอกเพื่อน พร้อมละปากออกมา ชั่วครู่เดียวกลับมีริมฝีปากอุ่นๆอีกด้านอ้างับครอบไปที่ปลายหัวเห็ด พร้อมทั้งพยายามอ้างับให้ปลายท่อนลำทะยานเข้าไปตุงในอุ้งปากน้อยๆ แต่คงจะทำไม่ได้
“แค๊กกๆๆๆ” เสียงสำลักของคุณฟางดังขึ้น เมื่อพยายามกลืนท่อนลำหวังจะให้มันเข้าไปให้หมดลำตามในหนัง แต่จนแล้วจนรอด มันก็เข้าไปได้แค่ครึ่งลำ ก็ชนเข้ากับปลายลิ้นไก่ จนต้องสำลักออกมา แถมผมยังรู้สึกเจ็บๆอีกเพราะเธอเล่นครูดฟันไปโดนท่อนลำผมจนเจ็บจี๊ดๆ ทุกครั้งที่พยายามจะกลืนมันลงไปให้ได้
“ เราว่า มันเข้าได้แค่บางคนอ่ะ ทำไมของพี่เดชถึงไม่ได้เนอะ “ เสียงคุณแก้วดังขึ้นอย่างสงสัย แต่ดูคุณฟางเธอยังคงพยายามดูดเลียท่อนลำของผมอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าไปได้ไม่หมดปากเธอก็หันมาดูดเลียบริเวณรอบหัวเห็ดและรอบท่อนลำอย่างลืมตัว จนน้ำลายเปรอะเปื้อนไปทั่วเธอทั้งดูด ดุน
“จ๊วบบบๆๆๆ”เสียงดูดไปทั่วท่อนลำ พร้อมความเสียวที่ผมได้รับมันทวีขึ้นมาเรื่อยๆ ดีนะที่วันนี้ผมได้ปล่อยน้ำไปสามสี่ยกแล้วด้วยมือตัวเอง ไม่งั้นผมมีหวังต้องสะดุดสุดทางฝันตั้งแต่หนังไม่ฉายเป็นแน่ คุณฟางเธอเลียหนักขึ้นๆ พร้อมใช้อุ้งมือนวดคลึงไปทั่วลำท่อนเหมือนคิดถึงโหยหามันมาแสนนาน จนคุณแก้วรู้สึกว่ามันดูเหมือนในหนังเหลือเกินกับความเก่งกาจที่เพื่อนเธอแสดงให้ดู
“ นี่ยัยฟาง หยุ๊ดดดดดๆๆๆ พอเลยๆ แหมๆ ให้ทำให้ดูแค่นี้ เล่นเหมือนในหนังเลย แกไปจำมาสะเหมือนเลย “ คุณแก้วร้องทักเพื่อนพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆของทั้งคู่ ที่คงตอนนี้กำลังรู้สึกสนุกและผ่อนคลายเรื่องความเขินอายน้อยลง
“ไหนขอฉันลองทำบ้างดิ” เสียงคุณแก้วเอ่ยขึ้นพร้อมกับ มีความอุ่นที่งับครอบไปที่หัวเห็ดโดยมีปลายลิ้นเลียดูด ดุน ไปมาบริเวณท่อนลำ อุ้งมืออุ่นๆนวดคลึงพร้อมชักขึ้นลงเบาๆ จนผมต้องแอ่นสะโพกเด้งสวนเข้าหาริมฝีปากด้านล่างไปมาเพื่อระบายความเสียวที่ได้รับ เธอดูดเลียเหมือนต้องการเอาชนะคุณหนูฟางว่าเธออาจทำได้เหมือนในหนังกว่าหรือเก่งกว่า คุณแก้วเธออ้างับครอบปลายหัวบานลงเข้าไปในอุ้งปากจนเกือบครึ่งแล้วพงกหัว สาวขึ้นสาวลง โดยยังมีหัวบานอยู่อัดเต็มกระพุ้งแก้มมาเร็วขึ้นๆ ดีนะที่คุณแก้วยังทำไม่เป็นมีหลายจังหวะที่ไรฟันเธอมาโดนกับท่อนลำของผมจนมันรู้สึกเจ็บแป๊บๆ เลยทำให้บรรเทาความเสียวลงไปบ้าง ไม่งั้นผมคงต้องมีแตกคาปากน้อยๆแน่ๆ ผมทำได้แต่เพียงแขม่วท้องเกร็งแน่นและผ่อนลมหายใจแรงๆเพื่อระบายความเสียวเบื้องล่าง จู่ๆผมก็ขนลุกซู่ขึ้นมาเมื่อมีปลายลิ้นอุ่นๆมาเลียที่บริเวณหัวนมของผม ผมไล้วนไปมา คงเป็นคุณหนูฟาง ที่ทนดูเพื่อนที่กำลังสนุกกับท่อนลำของผมไม่ไหว จนต้องมาระบายกับหัวนมของผมด้านบน พร้อมใช้มือไล้คลึงไปมาทั่วแผงอก
“อ๊าซ์ซซ!!.”ผมเก็บอาการไม่ไหวถึงกับต้องเปล่งเสียงออกมาในลำคอ คุณหนูฟางเธอดูดเลียใช้ปลายลิ้นงับครอบไปที่หัวนมของผม ซ้ายที ขวาที คงจะจำมาจากในหนังอีกตามเคย ส่วนด้านล่างคุณแก้วเธอก็กำลังสนุกกับการดูดเลียท่อนลำของผมแบบเอาเป็นเอาตาย คุณหนูฟางเธอไล้ปลายลิ้นขึ้นมาเรื่อยๆจนอยู่บริเวณซอกคอของผม และไซ้ท์ไปมาหลังใบหูเบาๆจนขนทั่วร่างของผมลุกเกรียวตั้งชัน จนเริ่มจะทนกับความเสียวที่ได้รับไม่ไหวเสียแล้ว จะร้องบอกกับคุณหนูๆก็ไม่ได้ว่าผมกำลังจะแตกแล้วนะ สะโพกของผมแอ่นโค้งดันขึ้นสุดหล้า ปลายเท้าเหยียดเกร็ง คุณแก้วเธอยังคงดูด อมครอบท่อนลำสาวขึ้นลงไปมาอย่างไม่ลดละ คุณหนูฟางโน้มตัวมาใช้ปลายลิ้นบรรจงเลียเข้าไปที่ยอดหัวนมของผม จนในที่สุด
“ อร๊ากกกก!!!!ซี๊ดดดดดส์”
“อ๊ายยย!!!” คุณแก้วร้องเสียงตกใจในลำคอ เมื่อรู้สึกถึงมีน้ำอุ่นๆพุ่งเข้าไปในอุ้งปากอัดแน่นจนเธอสำลักออกมา ผมแอ่นสุดตัว น้ำกามข้นคลัก แตกทะลักพุ่งทะยานเข้าไปในอุ้งปากบางๆของคุณแก้วมากมาย จนคุณแก้วถึงกับสะดุ้งตกใจ รีบคายปากหลุดออกมาแทบไม่ทัน ด้วยความไม่เคยมาก่อน จนคุณหนูฟางรีบหันกลับมาดูเพื่อนด้วยความตกใจ
“แค๊กๆๆๆ ……พี่เดช ทำอะไรอ่ะ ดูสิแก้วเลอะหมดแล้ว “ คุณแก้วกล่าวอย่างอารมณ์เสีย จนคุณฟางพอเธอเห็นทั่วใบหน้าของเพื่อนรักเปรอะไปด้วยน้ำคาว และมีน้ำขุ่นข้นไหลซึมออกมาบริเวณมุมปาก จึงได้แต่หัวเราะ
“คริๆๆๆ ยัยแก้ว กลืนเข้าไปเลย เหมือนในหนังไง มันกินได้ เราเคยดู”คุณหนูฟางยุเพื่อนให้กลืนน้ำคาวที่ตอนนี้ยังอัดเต็มอุ้งปาก แต่ดูคุณแก้วเธอจะไม่ชินกับเรื่องนี้ผมได้ยินเสียงเธอรีบวิ่งลงจากเตียงไปที่ห้องน้ำพร้อมเสียง สำลักค๊อกแค๊กดังออกมา แต่ทันใดนั้นปลายท่อนลำที่ตอนนี้ยังไม่อ่อนตัวลง และเหมือนจะยังโดนรีดน้ำออกไม่หมด เพราะคุณแก้วเธอรีบคายออกมาเสียก่อน กลับโดนอุ้งปากคุณฟางครอบงับแทนที่ พร้อมดูดเลียดุนอย่างโหยหา จนผมรู้สึกว่าน้ำคาวที่ค้างอยู่ในท่อนลำเริ่มพุ่งกระฉูดออกมาเป็นระรอกๆ เข้าไปในปากของคุณหนู คุณฟางเธอทั้งดูด เลียน้ำคาวจนหมดหยดสุดท้าย จนทั่วท่อนลำสะอาดเอี่ยมราวกับโดนทำความสะอาดมาอย่างงั้น ผมได้แต่สูดปากพ่นความเสียวอย่างจับใจ และรู้สึกชื่นชมคุณหนูฟางที่สามารถดูดกลืนน้ำคาวของผมเข้าไปจนหมด
“อ่าวว ยัยฟาง เธอกลืนเข้าไปเลยหรอ” เสียงคุณแก้วที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำดังขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะเบาๆของคุณฟาง
“ก็ในหนังมันทำได้อ่ะ เลยอยากรู้ว่ารสชาติมันเป็นแบบไหน ก็ไม่เลวนะแก มันออกเฟื่อนๆคอนิดหน่อยแต่ก็หวานๆเค็มๆปะแล่มๆ เสียดายแกคายทิ้งเลยไม่รู้” เสียงคุณหนูฟางเอ่ยขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะของเพื่อนเธอเบาๆ
“ ไม่อ่ะ กลิ่นมันแปลกๆคาวๆ เราไม่ชอบอ่ะ ไหน ดูสิ! ของพี่เขาอยู่ๆก็อ่อนไปเลยอ่ะ นี่หรอที่เขาเรียกว่าผู้ชายเสร็จแล้วอ่ะ” เสียงคุณแก้วถามเพื่อนเพื่อนเพราะความสงสัย
“เอ่อ น่าจะใช่ ในหนังก็เป็นแบบนี้แหละ แต่เดี๋ยวเดียวก็แข็งแบบเดิมอีก “ คุณหนูฟางเอ่ยขึ้น
.” แหมม พี่เดช นอนนิ่งเลยนะ เชื่อฟังยัยฟางน่าดูเลย ไว้ใจได้จริงๆเหมือนที่แกบอกเลยอ่ะ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย”เสียงคุณแก้วดังเบาๆอยู่ปลายเตียง
“ แกลองมาทำแบบนี้เหมือนในหนังสิ แล้วแกจะชอบ” เสียงคุณหนูฟางเอ่ยขึ้น พร้อมลุกออกไปดึงแขนคุณแก้วเธอลงมานั่งบนเตียง ด้านข้างของผม จนผมแปลกใจว่าสองสาวจะเล่นอะไรอีก
“ แกลองทำแบบนี้นะ เชื่อสิแล้วแกจะชอบ มา เดี๋ยวฉันจัดท่าทางให้เหมือนในหนังเลย เนี้ยแบบเนี้ย เหมือนในรูปอ่ะ ” เสียงคุณหนูทั้งสองคุยกันเบาๆข้างๆเตียงเหมือนคุณฟางเธอกำลังยื่นรูปในไอโฟนให้เพื่อนดูทั้งคู่เงียบไปสักพัก
“โฮ้ยย !!ไม่เอาอ่ะแก น่าเกลียดจะตาย ไม่ไหวๆ ไม่เอาอ่ะ”เสียงคุณแก้วดังขึ้น
“เหอะ แก โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อยน้า….. ลองดูไม่เสียหายแล้วแกจะชอบ”เสียงคุณฟางกำชับ
“แล้วแกจะรู้ได้ไงว่าเราจะชอบ ยังกับแกเคยแล้วเลย อ่ะๆๆ”เสียงคุณแก้วเอ่ยขึ้นพร้อมทำเสียงเล็กๆเหมือนพยายามจับผิด
“ป่าวววว ก็ในหนังไง ก็ในหนังดูผู้หญิงเหมือนมีความสุขมากๆเลย ฉันก็เลยอยากให้แกลองดู ก็แค่นั้น”คุณฟางเอ่ยเสียงเบาๆเหมือนกลัวโดนจับผิด จนทั้งคู่เงียบไปชั่วครู่จู่ๆคุณแก้วก็เอ่ยขึ้นมา
“ อืมม งั้นก็ด่ะ ลองดูเนอะไม่เสียหายอะไร จะได้รู้ว่าในหนังกับของจริงมันเป็นอย่างไง” เสียงคุณแก้วดังขึ้น กลบความเงียบ พร้อมเสียงหัวเราะแบบน่ารักๆขึ้นเบาๆของคุณหนูฟางที่ยุเพื่อนได้สำเร็จ ผมยังคงหัวใจเต้นระรัวคาดเดาว่าคุณหนูทั้งสองจะเล่นอะไรกันอีกจนจู่ๆผมรู้สึกถึงเตียงที่ไหวยวบไปมาบริเวณหัวไหล่ผม
“ แกๆ เอาขาคล่อมไปเลย เหมือนในรูปอ่ะ แกก็ถอดกางเกงในแกก่อนสิ พี่เดชไม่เห็นหรอก ” เสียงคุณฟางเอ่ยขึ้น
“ เอาจริงดิ!!.”เสียงคุณแก้วดังเบาๆเหมือนสับสน ผมแค่ได้ยินว่าถอดกางเกงใน เดชน้อยผมก็ค่อยๆฟื้นมาทีละนิดๆ เสียแล้ว เริ่มพองขึ้นเรื่อยๆ จนผมได้ยินเสียงรูดกางเกงเบาๆเกิดข้างๆเตียง
“อ่ะ ทีนี้แกลองคล่อมดู เอาเข่าคล่อมเลย”เสียงคุณฟางยุเพื่อนดังเบาๆออกมาจากด้านข้างเตียง จนผมรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างคล่อมผ่านบริเวณหัวไหล่ของผมช้าๆ ผมเดาว่าน่าจะเป็นหัวเข่าของคุณแก้ว ที่ตอนนี้คล่อมผ่านไปจนหัวเข่ามาเบียดกับไหล่ทั้งสองข้างของผมจนรู้สึกได้
“อ่ะแกแล้วไงต่อ “ เสียงคุณแก้วดังขึ้น
“แกก็เลื่อนตัวขึ้นไปให้ตรงนั้นอ่ะมันอยู่เหมือนในรูปอ่ะ” เสียงคุณหนูฟางเธอบอกเพื่อน พร้อมๆกับจมูกผมที่ค่อยๆได้กลิ่นหอมของสาปสาวประทะเข้ามาในจมูกอ่อนๆใกล้ขึ้นๆ
“ แก จะติดจมูกพี่เขาแล้วนะ “เสียงคุณแก้วเอ่ยบอก
“แกเอาลงไปให้แนบชิดเลยเดี๋ยวพี่เดชเขาจัดการเอง “เสียงคุณฟางบอกเพื่อนพร้อมๆกับผมที่รู้สึกถึงมีเนื้อนุ่มๆค่อยๆถูกหย่อนลงมาจนแตะโดนปลายจมูก ผมจึงรู้ทันทีว่าตอนนี้คุณแก้วได้จัดท่าทางเป็นแบบไหน เธอคงกำลังหย่อนกลีบกุหลาบสดลงมาที่จมูกผมในท่าคุกเข่าคล่อมหัว โดยทิ้งน้ำหนักลงบนเข่าทั้งสองข้างของเธอ โดยหันหน้าเข้าหาหัวเตียงมือทั้งสองทิ้งน้ำหนักลงเหนือหัวผมลงบนที่นอน จนผมสำผัสถึงความหอมและกลิ่นคาวอ่อนๆของน้ำหวานที่ซึมออกมาจากข้างในกลีบน้อยอย่างชัดเจน
“ อรึ๊ยยยยส์….แกๆๆ อร๊ายยยยส์”คุณแก้วถึงกับสะดุ้งและครางออกมาเมื่อผมส่งปลายลิ้นขึ้นไปแตะโดนเนินเนื้อกลีบแคม จนเธอต้องยกสะโพกหลบดันขึ้นอัตโนมัติ
“ยัยแก้ว แกอย่ายกหลบสิ ค้างไว้แบบนั้น มันไม่ต่อเนื่องเชื่อเรา “เสียงคุณหนูฟางดังเบาๆจากด้านข้าง
“ ก็มัน….เสียวแปลกๆอ่ะ มันปรี๊ดดขึ้นสมองเลยอ่ะ …อืมม ลองใหม่นะ” เสียงคุณแก้วเอ่ยขึ้น พร้อมกับกลีบกุหลาบที่ลงมาสำผัสปลายจมูกของผมเช่นเดิม ผมจึงค่อยๆส่งปลายลิ้น ขึ้นไปเลียไปรอบๆกลีบแคมทั้งสองไปมา
“ อรู๊ยยยส์…..อร๊าาาาา”เสียงคุณแก้วดังขึ้นเบาๆ คราวนี้เธอไม่ยกสะโพกขึ้นหนี แต่ กลับส่ายเลื่อนไปมาเหมือนต้องการให้ผมได้ใช้ปลายลิ้นสำผัสกับจุดที่เธอต้องการ ผมค่อยๆใช้ปลายลิ้นห่อจนแข็งแล้วดันถูไถ ไปมาบริเวณกลางร่องพยายามแซะเข้าไปยังเนื้อชั้นใน กลิ่นหอมจากซอกเนื้อและน้ำหวานของเธอช่างกระตุ้นอารมณ์ของผมได้ดีเยี่ยมจริงๆ
“แพร๊บบบ!!ๆๆจ๊วบบบบ”เสียงผมใช้ริมฝีปากดูดไปมายังก้อนเนื้อแคมทั้งสองข้างพร้อมฉกปลายลิ้นดันเข้าไปไปเขี่ยบริเวณเนื้อกลางร่องด้านใน และลากลิ้นขึ้นลงไปมา จนไปเจอเข้ากับติ่งเม็ดเสียวเข้าผมจึงรัวลิ้นเข้าไปกระทบแบบถี่ยิบ
“ซี๊ดดดดดส์….แกๆๆยัยฟะๆๆฟาง ทำไมมันรู้สึกแบบนี้ อร๊ายยยยย!! สุดยอดเลย “ เสียงคุณแก้วเอ่ยขึ้นเบาๆในลำคอแบบแหบพร่า เหมือนคนขาดน้ำ ผมยังตั้งหน้าตั้งตารัวปลายลิ้นเขี่ยกระทบกับเม็ดติ่งเสียว สลับกับใช้ปลายลิ้นถูวนไปมาบริเวณซอกแคม เหมือนคุณแก้ว ต้องการให้ผมได้สำผัสกับซอกเนื้อด้านในมากกว่านี้ เธอค่อยๆใช้มือด้านซ้ายของเธอล้วงลงมาใช้ปลายนิ้วชี้กับนิ้วกลางแบะอ้ากลีบแคมให้แยกออกจากกันจนอ้าออกกว้าง ส่งผลให้ปลายลิ้นของผมสามารถไล้วนรัวยิบเข้ากับซอกเนื้อด้านในพร้อมกระแทกปลายลิ้นไปที่ติ่งเสียวได้ถนัดขึ้น วนลิ้นไปถูไถบริเวณปากรูถ้ำที่ตีบตันไปมา น้ำหวานน้อยๆที่หอมหวานไหลถูกขับเอ่อออกมาจากด้านในเป็นระรอกๆ จนเปียกเยิ้มไปทั่วปากทางเข้าแต่โดนผมใช้ปากดูดเลียกลืนกินไปจนหมดสิ้นทุกหยาดหยด
“ ซี๊ดดดดดด!!!อร๊ะๆๆๆๆๆๆ อู๊ยยยยส์ สุดยอดเลยอ่ะ อู๊ยยยยส์” เสียงคุณแก้วดังขึ้นอย่างพึงพอใจ พร้อมส่ายสะโพกบดเข้ากับปลายจมูกและปากผมที่เบื้องล่างไปมาเวลาแบบนี้คงไม่ต้องมีใครมาสอนแล้วช่วงที่เธอเผลอตัวส่ายสะโพกบดโนนเนื้อเข้าริมฝีปากผมไปมา บางจังหวะมันไถลแรงคงเพราะอารมณ์เสียวที่ได้รับไปครูดโดนเข้ากับผ้าปิดตาของผม จนชายผ้ามันค่อยๆเลื่อนขึ้นจนเป็นช่องเล็กๆตรงโคนจมูก สามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องได้ลางๆ ผมจึงอาศัยจังหวะนี้ค่อยๆเหลือกตาดูคุณหนูทั้งสองแบบพวกเธอไม่รู้ตัว อุ๊ยยยส์ อะไรกันนี่ คุณแก้ว เธอใส่ชุดนอนแบบคลุมยาวแบบสายเดี่ยว สีชมพู ปลายชายชุดถูกม้วนพับเหนือขึ้นไปกองอยู่บริเวณหน้าท้องน้อย จนเห็นก้อนสะโพกขาวๆลอยเด่นไปมา โคนท่อนขาที่เรียวเล็กอมชมพูเกร็งสั่นระริกไปมาคล่อมหัวผมหนีบแน่น ใบหน้าที่หวานใส ชูเชิดหงายขึ้นไปมองบนเพดานห้อง พร้อมส่ายศรีษะไปมาเพื่อระบายความเสียวที่ได้รับผมยาวสยายถูกรวบเกล้าไว้ เป็นพุ่ม ด้านล่างกลีบแคมและเนินเนื้อที่ขาวสะอาดตา ปกคลุมด้วยไรขนน้ำตาลอ่อนๆขึ้นเรียงเป็นระเบียบไม่ดกดำหนาจนเกินไป ช่วงหน้าท้องที่แบนเรียบไร้ไขมัน และขาวเนียนกำลังส่ายเอวไปมา เพื่อบดตำแหน่งกลีบแคมเข้ากับริมฝีปากของผม ผมเห็นแบบนี้เดชน้อยของผมกลับตื่นตัว กลับมาแข็งโปก สั่นงึกๆอยู่เบื้องล่างดั่งเดิมในทันที ส่วนตัวคุณหนูฟางผมไม่สามารถมองเห็นได้เพราะโดนสะโพกของคุณแก้วบดบังลำตัวไว้