005 1 ต่อ 3
เมื่อผมเข้าประจำช่องพิเศษ มองไปก็เห็นนายเรวัติเดินออกมาจากห้อง บอกกับ 3 สาวในห้องว่าจะไปเบิกเช็ค เมื่อนายเรวัติออกไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงของสามสาวพูดกัน พอจะลำดับได้ดังนี้ คือ…เป็นที่รู้แน่แล้วว่าทั้ง 3 สาวนี้เป็นพี่น้องกัน คนที่มาทีหลังชื่อ“ต้อย” รองลงไปชื่อ“ติ่ง” คนเล็กชื่อ“ตุ๋ม” แต่ผมก็ยังสงสัยตะหงิดๆว่าคงจะมีอีกคน จะได้ชื่อ“ติ๋ม”ให้มันคล้องกันไปเลย ตอนหนึ่งเสียงคนชื่อติ่งพูดขึ้นว่า
“เรานี่ไม่น่าจะมาเป็นเมียนายเสี่ยนี่พร้อมๆกันทั้งสามคนเลยทีเดียว”
แม่ต้อยก็ว่า “ถึงว่าสิเธอ ไม่ใช่เราสามคนเท่านั้นจะบอกให้ คุณแม่เราน่ะตัวดีทีเดียวล่ะ”
“หรือคะ?” เสียง 2 สาวร้องขึ้นมาพร้อมๆกัน แล้วคนชื่อ“ติ่ง”ก็พูดว่า
“คุณแม่เรานี่ชั่งไม่ไหวจริงๆนะคะ ไม่ยอมเลิกเล่นการพนัน อีกหน่อยพวกเราก็ยิ่งลำบากกว่านี้ หนูกลัวยายติ๋มอีกคน ไม่ช้าคงจะเสียคนเพราะคุณแม่อีก”
จริงอย่างผมว่าไหมล่ะ? ต้องมีอีกคนชื่อติ๋ม เสียงแม่ตุ๋มพูดว่า
“คงไม่หรอกค่ะ น้องติ๋มเพิ่งอายุ 14 เท่านั้นเองนี่คะ”
“สิบสี่ก็ใช้ได้แล้วละเธอ แต่พี่จะต้องป้องกันน้องติ๋มอย่างถึงที่สุด” เสียงแม่ต้อยว่า
“เอ่อ พี่ต้อยคะ พี่ว่าจะเล่าเรื่องที่พี่เสียตัวครั้งแรกกับอาเสี่ยเรวัตินี่ให้หนูฟังวันนี้ เล่าซีคะ” เสียงแม่ตุํมบอกพี่สาวใหญ่
“เออดีแล้ว พี่จะเล่าให้เธอฟัง” แม่ต้อยบอก แล้วก็เริ่มเล่าว่า…
“ความจริงพี่ไม่ได้เริ่มเสียตัวกับเสี่เรวัติหรอกคะ พี่เสียตัวกับคุณสุทธิคู่รักของพี่ ซึ่งกำลังไปดูงานที่อเมริกาก่อน”
“มิน่าเล่า วันนั้นนายเสี่ยเรวัติถึงประท้วงพี่ว่าพี่ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์”
ต้อยพยักหน้ารับคำ แล้วว่า “ทำไมแกถึงช่างรู้นักซี?”
“มือชั้นนี้แล้่วไม่รู้ก็แย่ซิคะ เพราะแกผ่านผู้หญิงมาไม่ใช่คนสองคน นับเป็นร้อยๆเห็นจะได้กระมัง เห็นแกบอกหนูอย่างนั้น” แม่ติ่งบอกให้พี่สาวฟัง แล้วเลยกระตุ้นพี่สาวให้เล่าต่อไปอีก แม่ต้อยก็เล่าต่อไปอีกว่า…
“วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ พี่ยังจำได้เพราะคุณสุทธิแกไปหาพี่เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ตอนเช้าสัก 9 โมงกว่าได้ คุณแม่ชวนพี่ไปหานายเสี่ยเรวัติ บอกว่ามีธุระสำคัญให้ไปเป็นเพื่อนด้วย พี่กับคุณแม่เข้าไปในบ้านแก พี่รู้สึกว่าบ้านนั้นไม่มีใครอยู่เลยนอกจากนายเสี่ยคนเดียว คุณแม่ให้พี่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก แล้วคุณแม่ก็หายเข้าไปในห้องใกล้ๆห้องรับแขก ปิดประตูเงียบ
“พี่นั่งรอสัก 10 นาทีได้ ชักรำคาญเพราะคุณแม่กับนายเสี่ยหายกันไปนานเหลือเกิน จึงลุกไปก้มดูที่รูกุญแจ ทีแรกพี่งงเต็มที เพราะเห็นแต่คุณแม่ยืนหันหลังให้พี่ กอดคอนายเสี่ยแน่น ตูดก็เต้นกระดุบๆ แต่พี่มองไม่ถนัดเพราะโต๊ะเอียงหนังสือบังส่วนล่างของคุณแม่และนายเสี่ยไว้
“ตาพี่เหลือบไปเห็นผ้าถุง ปะติโค้ตและกางเกงในของคุณแม่พาดอยู่บนเก้าอี้นั่งตัวหนึ่ง มีกางเกงของนายเสี่ยพาดทับอยู่ ทำให้สงสัยเหลือเกินว่านายเสี่ยและคุณแม่ทำอะไรกัน? ยังไม่ทันหายสงสัย นายเสี่ยแกประคองคุณแม่เดินออกจากโต๊ะเขียนหนังสือ พี่รู้สึกว่าทั้งคู่พยายามประกบส่วนล่างไว้ด้วยกัน ทั้งคู่เดินไปที่ขอบโต๊ะทางอีกด้านหนึ่ง
“พี่เห็นคุณแม่เขยิบตัวขึ้นไปนั่งบนขอบโต๊ะ ยกขาทั้งสองขึ้นไปนั่งเอนหลังเอามือท้าวไปข้างหลังยันไว้ ขาทั้งคู่แบะถ่างออก ตอนนี้พี่เห็นถนัดถนี่เลยว่าของลับคุณแม่กำลังคาบเจ้าหนู ซึ่งความจริงไม่ใช่หนูเพราะแคมของคุณแม่นั้นตุ่ยออกมาทีเดียว พี่เห็นนายเสี่ยแกยืนกดท่อนเอ็นของแกเข้าๆออกๆในช่องของลับของคุณแม่
“พี่เห็นแล้วเหงื่อแตกซิกทีเดียว ยิ่งเห็นคุณแม่ซี้ดปากด้วย ยิ่งทำให้พี่รู้สึกอย่างไรไม่ทราบ จิตใจคล้ายๆกับมันอยากให้ถูกทำอย่างคุณแม่บ้าง มือพี่ลงไปคลำที่ของลับเมื่อไหร่ก็ไม่รู้และได้ทำอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ผ้านุ่งที่ตรงนั้นก็ยับและเปียกเหงื่อที่มือขยุ้มไปหมด แต่ตาของพี่ก็มิได้ละจากรูกุญแจเลย
“พี่เห็นนายเสี่ยแกชักกระตุกหนักๆและแรงขึ้นทุกที เสียงคุณแม่พูดเสียงกระเส่าๆว่า ‘เสี่ยขา..เร็วอีกนิดเถอะคะ ฉันแย่แล้ว…อุ้ย!’ นายเสี่ยแกไม่ทำแต่ที่ตรงนั้นเท่านั้น มือของแกล้วงเข้าไปในเสื้อของคุณแม่ จับนมขยำใหญ่ เสียงคุณแม่เร่งให้นายเสี่ยทำเร็วๆชักดังขึ้นทุกที
“พี่เห็นสีหน้าของคุณแม่บูดเบี้ยวแต่ยังบอกว่า ‘อุ๊ยเสี่ยขา สบายเหลือเกิน จวนจะออกแล้วววว…’ พี่ยิ่งสงสัยว่าทำอย่างนี้สบายจริงๆหรือ? เลยยิ่งทำให้อยากลองดู คิดไปถึงคุณสุทธิ..ถ้าวันนี้พบกันจะพยายามให้เขาทำดูสักทีซิ เพราะตั้งแต่เป็นคู่รักกันมา ก็เคยแต่จูบๆกอดๆกัน อย่างมากก็มีการจับนมจับก้นกันนิดหน่อยเท่านั้น แต่ถึงเท่านั้นก็เสียวๆอยู่เหมือนกัน
“สักพักใหญ่พี่เห็นคุณแม่ยกมือขึ้นมากอดคอนายเสี่ย เอาปากจูบปากนายเสี่ยสนิท แต่ตูดของนายเสี่ยยังไม่หยุดกระแทก พี่เห็นคุณแม่พยายามจะกระเถิบตูดหนีแต่นายเสี่ยเอามือรั้งไว้ พร้อมกับพูดว่า ‘เด๋ียวๆ ทนเอาหน่อย ผมก็จวนจะออกแล้ว’ และแกก็กระทุ้งใหญ่ 4-5 ทีจึงหยุด กอดประกบกับอกคุณแม่นิ่งไปตั้งนานจึงผละจากกัน
“ตอนที่แกชักเจ้าของลับออกจากรูคุณแม่ พี่ได้ยินเสียงดังพล็อก! และที่ปากรูของคุณแม่มีน้ำอะไรไม่รู้สีขาวๆเป็นเมือกไหลเยิ้มออกมา คุณแม่รีบลงจากโต๊ะหนังสือ เดินเข้าไปในห้องใกล้ๆ พี่คิดว่าคงจะเป็นห้องน้ำ นายเสี่ยก็เดินตามไปบ้างแต่กลับออกมาก่อน พี่เห็นแกเอาผ้าขนหนูเช็ดน้ำซึ่งเปียกของลับและบริเวณนั้นจนแห้งดี แล้วจึงไปสวมกางเกง เสร็จแล้วก็เดินไปเปิดตู้เซฟหยิบเงินออกมา 2 ปึกใหญ่ๆล้วนแต่ใบละร้อยทั้งนั้น พี่กะว่าปึกหนึ่งคงไม่ต่ำกว่า 10,000 เป็นแน่
“พอคุณแม่เดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ไปนุ่งผ้าแล้วเดินไปเปิดกระเป๋าถือ หยิบเอกสารออกมาใบหนึ่ง พี่จำได้ว่ามันเป็นโฉนดที่ดินบ้านที่เราอยู่นี้ พี่เดาเรื่องออกว่าคุณแม่คงไปเป็นหนี้ใครเข้า แล้วก็เอาบ้านมาจำนองนายเสี่ย เสียงนายเสี่ยพูดกับคุณแม่ว่า ‘20,000 พอหรือคุณนาย?’ คุณแม่ตอบว่า ‘พอค่ะ แค่นี้ก็เกือบจะไม่มีปัญญามาคืนเสี่ยแล้วล่ะคะ’… ‘ไม่เป็นไรครับ ไม่พอก็มาเอาใหม่ได้นะครับ’ นายเสี่ยยังบอกอย่างนั้นอีก พี่คิดว่าอีกหน่อยก็คงขายลูกสาวหมดหรอก ซึ่งแล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่่เราๆรู้กันนี่แหละ
“พอเสร็จธุระของคุณแม่ คุณแม่ก็ชวนพี่กลับบ้าน ในขณะนั้นพี่มีความรู้สึกบอกไม่ถูก กึ่งเศร้ากึ่งสลดใจและหงุดหงิดๆชอลกล พอนั่งรถไปไม่เท่าไรแม่ก็แยกกับพี่ ให้พี่กลับคนเดียว และยังสั่งให้บอกพวกเธอว่าไม่ต้องรอทานข้าวเย็น พี่ก็รู้ว่าคุณแม่ต้องไปเล่นไพ่อีก เงิน 20,000 ที่ได้จากเสี่เรวัติคงจะหมดไปในไม่ช้า
“พอพี่กลับถึงบ้านก็พบกับสุทธิ ซึ่งนั่งรอพี่อยู่ที่ห้องรับแขก วันนั้นช่างปลอดโปร่งจริงๆ ในห้องไม่มีใครอยู่เลย…”
“อยู่ค่ะ ติ่งอยู่แต่พี่ต้อยไม่รู้” แม่ติ่งขัดขึ้นกลางคัน
“หรือจ้ะ? งั้นเธอก็คงรู้เรื่องอะไรของพี่หมดนะซิ” ต้อยว่า
“ไม่หมดหรอกคะ ตอนแรกๆติ่งไม่ได้ดู มาดูเอาตอนหลัง”
“เสียมารยาทจริงน้องติ่ง ที่มาแอบดูพี่” ต้อยว่าน้อง
“ติ่งไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ รู้สึกบ้านมันไหวสั่นๆ ชักสงสัยก็เลยมาดูเท่านั่นเองแหละ” ติ่งบอกพี่สาว
“พี่ต้อยเล่าต่อเถอะค่ะ” ตุ๋มน้องเล็กเตือนขึ้น
“….หลังจากที่พี่เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้ว วันนั้นอากาศมันร้อนจริงๆ พี่ใส่เสื้อแพรดอกหลวมๆตัวเดียว ขี้เกียจใส่เสื้อชั้นใน กับผ้าถุงอยู่กับบ้านอีกผืนดท่านั้น พอพี่ย่างเข้าไปในห้องรับแขกยังไม่ทันพูดอะไรเลย พี่ก็ถูกคุณสุทธิแกดึงเอาไปจูบ จูบกันตั้งแต่ยืนจนกระทั่งพากันไปนั่งกอดกันบนเก้าอี้รับแขก เสร็จแล้วเราก็คุยกันตามประสาคนรัก
“เทวดาก็ช่างดลใจ อยู่ดีๆฝนก็ตกลงมาเป็นบ้าเป็นหลัง เราต้องช่วยกันปิดประตูหน้าต่างห้องรับแขกและห้องอื่นๆจนทั่ว แล้วเราก็เข้าไปคุยกันอีก ทีนี้ในห้องมันมืดสลึมสลือ พี่รู้สึกว่าถูกคุณสุทธิจูบอย่างรุนแรงทั้งที่ริมฝีปากและซอกคอ เรื่อยลงมาถึงหน้าอก นมทั้งสองข้างของพี่ถูกแกเคล้นคลึงจูบ จนกระทั่งพี่รู้สึกว่าตัวอ่อนไปหมด พี่ไม่พยายามขัดขืนแกเลย เพราะใจพี่ก็อยากให้แกทำอยู่แล้ว
“คุณสุทธิแกเลยได้ใจที่พี่ไม่ขัดขืน เลยถลกเสื้อพี่ขึ้นแล้วก็ก้มลงดูดหัวนมเล่น ตอนนี้พี่บอกไม่ถูกเลยน้องติ่ง…รู้สึกว่ามันเสียวซ่านไปหมด มือของแกก็ล้วงเข้าไปใต้ผ้าซิ่น ลูบขึ้นไปตั้งแต่ขาอ่อนจนถึงช่องลับ ตอนนั้นพี่ไม่ได้ทำอะไรเลยคิดไม่ออก ได้แต่นอนหงายหนุนตักแก ปล่อยให้แกคลำเอาตามใจชอบ
“มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อร่างของคุณสุทธิขึ้นมาทับอยู่บนตัวพี่ ผ้าถุงของพี่ถูกถลกจนมองเห็นของลับของพี่หมด ขาทั้ง 2 ข้างของพี่แยกออกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามีอะไรไม่ทราบเป็นท่อนแข็งๆมาทิ่มๆที่ปากช่องของลับ แล้วมันก็ค่อยๆเข้าไปในช่องนั้น พี่ได้แต่กอดคุณสุทธิแน่น เพราะมันออกจะรู้สึกเจ็บนิดๆแต่ความรู้สึกอยากมีมากกว่า พี่เลยไม่ปริปากออกเสียงแต่อย่างไร
“แล้วพี่ก็รู้สึกว่าคุณสุทธิกอดพี่แน่นจนแทบหายใจไม่ออก หลังจากที่แกกดตูดไม่กี่ที เรากอดกันเช่นนั้นสัก 10 นาที คุณสุทธิก็ลุกขึ้นยงโย่ยงหยก ในรูของพี่ยังมีอ้ายแท่งของลับของคุณสุทธิคาอยู่ แกทำอย่างไรไม่รู้เหมือนเสี่ยทำกับคุณแม่แหละ แกยกก้นขึ้นๆลงๆ ทำให้แท่งเอ็นของแกผลุบเข้าๆออกๆในช่องของพี่
“ตอนนี้พี่ขอบอกเธอว่ามันช่างสบาย สบายจนอยากจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ทั้งชาติ คุณสุทธิแกก็ซนไม่ใช่เล่น นมของพี่ทั้งสองไม่มีเวลาอยู่ว่างเลย ถูกแกคลึงเคล้นบีบบี้และดูดไซ้ พี่ก็ปล่อยให้แกทำอย่างเต็มที่ เท่านั้นยังไม่พอ แกยังกระซิบถามอะไรๆพี่ตลอดเวลา พี่จำได้ว่าไม่ได้ตอบอะไรแกเลย เพราะหูมันอื้อไปหมด…” เสียงแม่ติ่งขัดขึ้นตอนนี้อีกว่า
“ดูเหมือนตอนนี้แหละที่หนูลงมาแอบดูพี่ แหมดูแล้วรู้สึกเสียวจังค่ะ”
“ติ่งดูอยู่นานไหม?” ต้อยซัก
“นานค่ะ เกือบครึ่งชั่วโมงได้” ติ่งบอก
“เอ่อ..เธอดูพี่แล้วหายไปไหนกันหมดเล่า? เพราะพอพี่เสร็จจากการขึ้นสวรรค์แล้วก็ไม่เห็นมีใครเลย” ต้อยถามอีก
“จะเห็นได้ยังไรกันคะ ก็หนูถูกเสี่ยแกพาไปทำอย่างพี่เหมือนกัน” ติ่งบอก
“เอ๊ะ!! น้องติ่งถูกทำอย่างไรกันคะ? ไม่เห็นมีวี่แววอะไรเลยนี่ เล่าให้พี่ฟังหน่อยซีค่ะ” ต้อยบอกน้องสาวคนรอง แต่แม่ตุ๋มแย้งขึ้นว่า
“หนูคิดว่าให้พี่ต้อยเล่าเรื่องของพี่ให้เสร็จก่อนดีกว่า แล้วจึงให้พี่ติ่งเล่าบ้าง”
“ดีเหมือนกัน” ต้อยรับคำแล้วก็เล่าต่อว่า
“จากวันนั้นเป็นต้นมา พี่กับคุณสุทธิก็แอบได้เสียกันเรื่อยมา จนคุณแม่ท่านจับได้ คุณแม่จึงบังคับให้คุณสุทธิพาผู้ใหญ่มาสู่ขอพี่ เพื่อกันคุณสุทธินอกใจ แล้วคุณสุทธิแกก็ไปดูงานที่อเมริกา
“หลังจากที่คุณสุทธิไปนอกแล้วสักเดือนหนึ่ง คุณแม่ก็เรียกพี่เข้าไปหาแล้วบอกว่าท่านต้องการเงินสัก 30,000 บาท แค่พี่บอกว่าจะไปเอาที่ไหนมาให้ได้เงินตั้งเยอะ คุณแม่ก็บอกว่าให้ไปขอยืมเสี่ยเรวัติเท่านั้นแกก็จะให้ พี่ก็ถามว่าคุณแม่ทำไมไม่ไปเอง? คุณแม่ก็ว่าแม่ไปยืมเขามาหลายๆครั้งแล้ว จะไปอีกทีก็ชักๆจะอาย พี่ก็แย้งว่าเขาจะให้หรือคะ? ในเมื่อเรามีอะไรให้เขายึดถือเป็นหลักฐาน คุณแม่ก็ว่าสำหรับหนูไม่ต้องมีอะไรหรอก เพียงแต่ใช้ตัวหนูเป็นเครื่องมือก็พอแล้ว พี่ทั้งฉิวทั้งอาย หลุดปากออกไปว่า ‘คุณแม่จะให้หนูขายตัวหรือคะ?’
“คุณแม่ก็ฉิวขึ้นมาและบอกว่าจะให้เวลา 1 วันแล้วพรุ่งนี้ให้มาบอก จากนั้นพี่ก็นอนคิดแค้นใจคุณแม่ตลอดคืน รุ่งขึ้นเช้าพี่เลยแต่งตัวอย่างลวกๆเข้าไปเอาจดหมายจากคุณแม่ แล้วไปบ้านเสี่ยเรวัติ พอพบเสี่ยเรวัติพี่ก็บอกกับเสี่ยไปตามตรงตามที่คุณแม่ใช้มา แต่เสี่ยเรวัติเพียงแต่ให้เงิน ไม่ได้ทำอะไรพี่เลย ตรงกันข้ามกับที่พี่คิดไว้เลยทีเดียว
“และโฉนดก็ตกมาอยู่กับพี่ พี่ก็คิดว่าจะเอาโฉนดไปให้เสี่ยเรวัติเก็บ ฉะนั้นพี่จึงแต่งตัวแบบพิถีพิถันแต่ออกจะโป๊สักหน่อย เพราะเสื้อแพรคอกว้างตัวนั้นมันออกจะกว้างไปหน่อย ตนเห็นอะไรเลยเถิดไป แล้วพี่ก็ไปบ้านเสี่ยเรวัติ เอาโฉนดให้แกเก็บ แต่แกไม่ยอมรับ พี่จึงชวนแกออกไปกินข้าวกลางวัน
“ในระหว่างอาหารกลางวันนั้นพี่ดื่มเบียร์เข้าไปมาก เสร็จจากรับประทานอาหารก็เข้าไปคุยกับแกในห้องส่วนตัว คงเป็นเพราะกิริยาท่าทางตลอดจนวาจาของพี่ รู้สึกว่าคงให้ท่าแกเหลือกำลัง แกทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นมาประคองกอดพี่แล้วก้มลงจูบริมฝีปากของพี่อย่างดูดดื่ม พี่ก็ตอบแกด้วยการกอดและจูบตอบ
“แกกระซิบข้างหูพี่ว่า ‘คุณต้อยพร้อมที่จะเป็นของผมหรือ?’ พี่ยิ้มและพยักหน้า แกก็ก้มลงจูบพี่อีก ทีนี้ไม่จูบเปล่า มือแกป้วนเปี้ยนอยู่แถวอกของพี่ และบอกว่า ‘ถอดเสื้ออกเสียก่อนดีกว่า เดี๋ยวยับหมด’ แล้วแกก็ค่อยๆถอดเสื้อชั้นนอกและกระโปรง โดยเอาไปแขวนไว้อย่างเรียบร้อย ของแกก็ถอดออกด้วย คงเหลือแต่เสื้อกล้ามและกางเกงในเท่านั้น
“แล้วแกก็เข้ามาสวมกอดพี่ ที่นี้แกไม่จูบปากพี่ แกใช้จมูกคลึงเคล้าที่เต้านมของพี่ จนหัวนมชี้ชัน และเลิกเสื้อในของพี่ขึ้นแล้วถอดออกเลย ทำให้อกของพี่ล่อนจ้อน พี่เห็นแกยิ้มด้วยความพอใจ ก้มลงใช้ปากดูดหัวนมทันที พี่ทั้งเสียวทั้งกระสันบอกไม่ถูก ได้แต่กอดคอแกไว้แน่น มือแกก็ไม่ยอมอยู่ว่าง ลูบไล้ไปมาบนขาอ่อนบ้างบางทีก็ล้วงเข้าไปจับขนลับของพี่ดึงเล่น
“พี่ลืมตัวไม่ทราบว่าร่างตัวเองและของแกล่อนจ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ มารู้อีกครั้งว่าที่ของลับถูกแกจูบ และที่เม็ดติ่งตรงรอยแยกของแคมถูกลิ้นแกไชชอน พี่เสียวจนต้องซี้ดปากคราง พร้อมกับถ่างขาออกไป แกจับขาข้างหนึ่งของพี่พาดกับพนักเก้าอี้อีกข้างก็ถ่างแบะออก พี่ทนไม่ไหวจึงเอื้อมมือไปดึงแขนแก เป็นเชิงบอกถึงความกำหนัดอย่างรุนแรง
“แกก็รู้เชิง เข้าประจำหว่างขาของพี่ แล้วก็กดหัวลึงค์ทิ่มๆแทงๆปากช่องโยนี พี่สะดุ้งลืมตาขึ้นดู ออกจะตกใจว่าของแกช่างใหญ่ชมัด มันจะทำให้พี่เจ็บหรือสบายกันแน่? แกเอานิ้วค่อยๆแหวกปากแคมแล้วค่อยๆดันลึงค์เข้าไปทีละน้อยๆ แกเข้าใจทำมากเพราะแกรู้ว่าโยนีของพี่คงฟิต แกดันเข้าไปนิดและชักออกมาหน่อย ทำให้พี่ไม่มีความเจ็บปวดแต่ประการใด
“และทั้งที่พี่เคยโดนคุณสุทธิทำหลายครั้งแล้วด้วย จึงไม่เป็นการยากที่ลึงค์ของแกจะเข้าไปในช่องสังวาสของพี่จนมิด พี่บอกไม่ถูกว่ารสชาตมันเลอเลิศแค่ไหน? แม้แต่ถูกคุณสุทธิทำครั้งแรกก็ไม่นุ่มนวลชวนสวาทเท่าครั้งนี้…เสี่ยแกเข้าใจทำจริงๆ
“ทุกๆครั้งที่แกขยับลึงค์ชักออกหรือแทงเข้า ทำเอาพี่ต้องครางไปด้วยความสุข พี่ขอสารภาพว่าถ้าเสี่ยแกคิดจะเลี้ยงพี่เป็นเมียเก็บ พี่ก็เอา แมเอายุแกจะมากสักหน่อยก็ไม่รังเกียจ พี่ถูกแกทำไม่ถึง 5 นาที ความรู้สึกของพี่ก็ถึงที่สุด แกช่างรู้ใจพี่ไปเสียทุกขณะ พอพี่จะขึ้นสวรรค์แกก็ขยับเสียเรว ถึงใจพี่ทุกครั้ง พอถึงสวรรค์แกก็กดกบดานส่ายลึงค์ไปมาในรูสวาท จนพี่ถึงที่สุดแกถึงได้หยุด
“พอพี่พักหายเหนื่อย แกก็ปลุกกำหนัดพี่อีก ไม่ถึง 10 นาทีพี่ก็แสดงความต้องการให้แกรู้ แกก็ขยับเอวกระทุ้งลึงค์ ทีนี้แกชักยาวๆจนเกือบจะหลุดแล้วกดหนักๆแรงๆขึ้นตามลำดับ ทั้งพี่และแกก็สนุกขึ้นทุกที แกไม่ขยับเพียงลึงค์เท่านั้น นมของพี่เต้าหนึ่งก็ยังถูกแกจุ๊บดูดหัวนมเสียจนแดงก่ำ ส่วนอีกเต้าก็ถูกคลึงเคล้าจนหัวนมชี้โด่เด่เหมือนกัน แกทำสลับกันไปมาพร้อมกับการกดกระเด้าลึงค์เข้าโยนี จนทำให้พี่ลืมตัวอีกครั้งถึงกับออกปากให้แกทำแรงๆให้ถึงใจ แกก็ตอบสนองพี่อย่างทันควัน
“ครั้งนี้ความรู้สึกของพี่ก็ล่องลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จนเมื่อใจหวิวๆนั่นแหละจึงรู้สึกว่าริมฝีปากถูกจูบอย่างรุนแรง ร่างกายก็ถูกกอดไว้แน่น พี่ก็กอดจูบตอบแกเช่นเดียวกัน นอนประกบกันเกือบครึ่งชั่วโมง แกจึงถอนลึงค์ออกจากโยนีของพี่ และรีบพาพี่เข้าไปล้างโยนีในห้องน้ำ กุลีกุจอช่วยล้างให้พี่อย่างน่าเห็นใจ
“พี่ล้างเสร็จแล้วก็ออกมานอนพักรอแกบนเก้าอี้โซฟาตัวนั้น แกจัดแจงทำความสะอาดดีแล้วก็ออกมา เห็นพี่ยังไม่แต่งตัว แกก็เอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมให้ แล้วแกก็จัดแจงแต่งตัว พี่พักจนหายเพลียแล้วก็แต่งตัวบ้าง ก่อนที่พี่จะกลับแกก็ดึงพี่ไปกอดจูบแล้วถามว่าเมื่อไหร่เราจะได้พบกันอีก? พี่ก็บอกว่าจะไปหาแกทุกวันอาทิตย์ แต่นั้นมาพอถึงวันอาทิตย์พี่ต้องไปหาแกทุกสัปดาห์”
พอแม่ต้อยเล่าจบ แม่ติ่งก็พูดขึ้นว่า
“ฟังเรื่องของพี่ต้อยแล้วขนลุก ตกลงพี่ต้อยโดนผู้ชายทำมา 2 คนแล้วซินะ”
“จ้ะ” ต้อยตอบ “น้องติ่งล่ะ เล่าให้พี่ฟังบ้างซิ”
แล้วติ่งก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวให้พี่สาวและน้องสาวฟัง
“หนูเสียตัววันเดียวกับพี่ต้อยนั่นแหละคะ ตอนนั้นหนูกำลังดูพี่อยู่อย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งมีคนมาสะกิดแขน หนูตกใจ ใจหายหมด แกบอกว่าร้องเรียกอยู่หน้าบ้านตั้งนานไม่ได้ยิน จึงเข้ามาและบอกว่าอยากพบแม่ หนูก็บอกว่าแม่ไม่อยู่ แกบอกให้หนูพาแกไปหาคุณแม่ที หนูก็รีบไปแต่งตัวอย่างลวกๆ และก็ไปขึ้นรถที่แกขับมา
“ระหว่างทาง แกบอกว่ามีคนเอาเช็คจำนวน 8,000 บาทมาให้แกบอกว่าเป็นของคุณแม่ ไปธนาคารเบิกแล้วไม่มีเงิน หนูไม่เชื่อแกก็เลยเอาเช็คให้หนูดู เห็นเป็นลายมือคุณแม่ หนูก็บอกเขาว่าถึงไปหาคุณแม่ก็ไม่มีเงิน แกจึงขับรถไปเรื่อยๆเพราะตอนนั้นฝนกำลังตก แกถามว่าจะไปไหน? หนูตอบว่าไปกินเหล้าบ้านเสี่ย หนูพูดคล้ายๆเป็นนัย แกคงรู้ทันเลยขับไปบ้านแก
“แกพาหนูเข้าไปในห้องรับแขก หนูก็บอกแกว่าพาไปห้องที่มิดชิดกว่านี้จะดีกว่า เดี๋ยวใครมาเห็นหนูกินเหล้าจะน่าเกลียด แกจึงพาหนูไปห้องพิเศษของแก แล้วแกก็ขอตัวไปผลัดเสื้อผ้า สักครู่ก็กลับออกมา พร้อมกับเหล้า 2 ขวด แก้ว 2 ใบ แกยกขวดเล็กมาตรงหน้าหนู และบอกว่า ‘คุณทานขวดนี้ก็แล้วกัน เป็นเหล้าสำหรับผู้หญิง’ กลิ่นมันหอมชวนดื่ม หนูจึงรินดื่มเข้าไป 3-4 แก้ว
“แล้วแกถามว่ายินดีให้แกปฏิบัติอย่างพี่หรือไม่? หนูตอบว่ากลัวแล้วจะมาทำไม? แกจึงกอดจูบตามใจชอบ หนูลืมตัวไปหมด เสื้อผ้าถูกถอดออกจนล่อนจ้อน… เสี่ยนี่แกเข้าใจทำจริงๆนะคะ ปากก็หวานเข้าใจป้อยอให้หนูเกิดความรู้สึกอยากยิ่งขึ้น ผสมกับแรงแอลกอฮอล์ทำให้หนูหน้าด้านด้วย เผลอพูดอะไรๆออกไป คล้ายกับคนเคยผ่านมามากแล้ว
“แกชอบดึงขนที่โคกของหนู หนูขัดใจเต็มที่เลยถามแกว่าไม่มีอะไรให้หนูจับบ้างรึ? แกหัวเราะแล้วว่า ‘มีซิ’ แล้วลุกขึ้นถอดกางเกงออกจนหมด หนูมองเห็นลึงค์แกแข็งโด่เด่ ไม่ทันแกจะบอกอะไร หนูก็เอื้อมมือไปจับมัน…นิ่มมือน่าจับจัง…
“แล้วแกถามหนูว่าพร้อมยัง? หนูก็พยักหน้า แกก็ให้หนูนั่งพิงหมอน 2 ใบแต่ให้ทอดตัวไปตามความยาวของเก้าอี้ แกเอาหมอนอีกใบหนึ่งมารองใต้สะโพก ทำให้โยนีของหนูลอยเด่น แล้วก็จับขาข้างหนึ่งพาดบนพนักพิงเก้าอี้ ส่วนอีกข้างปล่อยเหยียดกับพื้นห้อง
“แกนั่งลงหว่างขาของหนู เอื้อมมือมาจับแคมโยนีถ่างออก แกอุทานว่า ‘แหม..น้ำแยะจัง ท่าคงจะอยากมากใช่ไหม?’ หนูไม่รู้จะพูดยังไงถูก ก็ได้แต่พยักหน้ารับคำ แกก็ว่า ‘อย่างนี้ดีทีเดียว คงจะได้สนุกกันมาก’ แล้วแกก็ขยับลึงค์เข้าใกล้ๆหนูทุกที แกก็พยายามบอกหนูให้ถ่างขามากๆ แล้วให้หนูเอานิ้วช่วยแหวกปากแคมไว้ หนูก็ทำตาม
“พอหัวลึงค์แกมากระทบปากทางเท่านั้น หนูก็ต้องสะดุ้งสุดตัว มันเสียวๆชอบกล แกเอาหัวลึงค์ทิ่มๆแถวปากรูตั้งนาน จนหัวลึงค์มันเปียกน้ำอะไรไปหมดก็ไม่รู้ หนูก็ถามแกว่าแกทำไมไม่ปล่อยมันเข้าไป? แกว่าต้องให้เปียกทั่วกันดีเสียก่อน ไม่เช่นนั้นของหนูจะเจ็บ ว่าแล้วแกก็ค่อยๆกดมันลงไปตรงๆ…
“พอลึงค์แกผ่านเข้าไปหมด หนูรู้สึกว่ามันตึงๆในช่องโยนี แต่ความซาบซ่านมันกดความรู้สึกอย่างอื่นหมด ลึงค์ของแกนั้นไม่ได้อยู่นิ่งๆ ขยับเข้าๆออกๆ แล้วแกก็มองหน้าหนูคอยถามกนูว่าเจ็บไหม? หนูก็ส่ายหน้า บอกว่าไม่เจ็บ
“รู้สึกว่าลึงค์มันแหวกช่องโยนีของหนูลึกลงไปทุกที หนูก้มลงดู เห็นมันเหลือนิดเดียว แคมนอกของโยนีตุ่ยยังกะอมลูกอมใหญ่ เวลาแกชักออกมาจากปากแคมปลิ่้นแดง น้ำเปียกลำลึงค์แกทั่วไปหมด เวลาแกกดเข้า แคมก็บุ๋มลู่ตาม
“แกถามว่าสนุกไหม? หนูก็พยักหน้ารับคำ แกก็ชักลึงค์เข้าๆออกๆในรูหี พลางปากก็ก้มลงดูดหัวนมของหนู มันทำให้หนูร่านใจจนบอกไม่ถูก เอามือกอดคอไว้แน่น ซี้ดปากด้วยความกำหนัด รู้สึกว่าตะโพกของหนูก็ไม่อยู่นิ่งๆเหมือนกัน ความรู้สึกคล้ายๆจะล่องลอยจากร่างไปอย่างงั้นแหละ
“แล้วหนูก็รู้สึกว่าถูกเสี่ยกระแทกแรงๆ 2-3 ทีแล้วก็กอดหนูแน่น หนูก็กอดแกแน่นเหมือนกัน ในราวสัก 5 นาทีจึงผละออกจากหนู พอหมดความรู้สึกเช่นนั้นแล้วก็มีแต่ความอ่อนเพลียเข้ามาแทนที่ แกปล่อยให้หนูนอนพักผ่อนบนเตียงนั่นเอง ส่วนแกลุกไปไหนก็ไม่รู้ สักครู่จึงกลับเข้ามาพร้อมกับแต่งตัวเรียบร้อย
“ส่วนหนูยังนอนแผ่หลาอยู่ ผ้าผ่อนยังไม่ได้นุ่งเลย แกบอกให้หนูลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ ทำความสะอาดบริเวณของลับเสีย เพราะมันเปรอะน้ำเหนียวๆเต็มไปหมด หนูก็เข้าไปทำความสะอาด ออกมาก็จัดการใส่เสื้อผ้า เรียบร้อยแล้วแกก็พามาส่ง
“ตอนหนูลงจากรถ แกก็ส่งซองจดหมายให้หนูซองนึง บอกให้เปิดเมื่อถึงห้องนอน หนูรู้สึกว่ามันหนักๆชอบกล แล้วแกยังบอกอีกว่าถ้าเบื่อบ้านนี้แล้วให้ไปหาแกได้ แต่ขอให้โทรศัพท์ไปก่อน เพื่อจะได้มีเวลาต้อนรับ หนูรับคำแล้วก็เดินเข้าบ้าน พอถึงห้องนอน หนูเปิดซองดู ปรากฏว่ามีเงินอยู่ตั้ง 3000 บาท มีหนังสือกำกับบอกให้หนูเอาไว้ใช้ ห้ามเอาไปคืน ตั้งแต่วันนั้นมา หนูก็ไปหาแกเรื่อยๆจนกระทั่งทุกวันนี้…”