เรื่องสั้นตอนเดียวจบ by Iczy - ฉ่ำรักกลางสายฝน แต่งโดย Iczy
ฉ่ำรักกลางสายฝน
แต่งโดย Iczy
ผมเป็นเด็กบ้านนอกครับ ดันโชคดีสอบเข้าเรียนต่อในกรุงเทพได้ เลยต้องระเห็จจากบ้านเกิดมายังเมืองฟ้าเมืองสวรรค์ วันแรกที่มาถึงหัวลำโพงต้องอาศัยนอนชานชาลาเพราะยังไม่รู้จักที่ทาง ยังดีกว่าหลังรายงานตัวที่มหา’ลัยแล้ว ได้เพื่อนใหม่พาไปตระเวนหาหอพักจนได้ที่นึง บรรยากาศถูกใจผมมาก
หอพักแห่งนี้อยู่ในซอยเปลี่ยวลึกสุด เป็นห้องแถวไม้ชั้นเดียว 20 คูหาบนพื้นที่เกือบไร่เห็นจะได้ รอบ ๆ บ้านมีไม้ใหญ่พวกตะแบก ตะเคียน มะม่วงขึ้นรกครึ้มไปหมด เวลาลมพัดที ได้ยินเสียงใบไม้เสียดสีกันดังแกรก ๆ สำหรับคนกรุงเทพที่เคยชินกับความเจริญ คงจะวังเวงพิลึก แต่สำหรับผม มันให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านเกิด
คนที่เช่าหอนี้อยู่เป็นนักศึกษาทั้งหมด ผมเข้ามาวันแรกก็เข้าไปทักทายทำความรู้จักจนครบ แต่ที่ผมสนิทด้วยที่สุดก็คือพี่หนิง พี่หนิงเรียนอยู่ปี 4 ที่มหา’ลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง รูปร่างหน้าตาของพี่หนิงเรียกว่าสวยที่สุดในหอพัก ใบหน้ารูปไข่ มีลักยิ้มทั้งสองข้าง ดวงตากลมโต ริมฝีปากเต็มอิ่ม ไว้ผมยาวเคลียไหล่ รูปกายสูงเพรียวตามแบบฉบับนักศึกษาสมัยใหม่ แต่อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ด้านนิสัยใจคอก็น่ารัก ยิ้มเก่งเป็นกันเอง อย่างน้อยก็ไม่ได้รังเกียจที่ผมเป็นเด็กบ้านนอกยากจน ผมว่าใครได้พี่หนิงเป็นแฟนต้องถือว่าทำบุญมาหลายชาติทีเดียว
อ๊ะ ๆ อย่าคิดว่าผมคิดอุบาทว์กับพี่หนิงเชียวนะครับ ผมให้ความรักเคารพแกเหมือนพี่สาวคนหนึ่ง ไม่เคยคิดลามกจกเปรตกับแกเลย แกก็เอ็นดูผมมาก มาช่วยติวหนังสือให้ผมเกือบทุกวัน บางครั้งก็มีขนมขบเคี้ยวมาฝากด้วย เวลาแกมีเรื่องอะไรที่ต้องใช้แรงงาน ผมก็ขันอาสาทำให้ด้วยความเต็มใจ เรียกว่าน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า อัชฌาสัยนั่นแหละครับ
ด้วยความที่สนิทสนมกันมากนี่เอง ทำให้ผมกับพี่หนิงคุยกันได้ทุกเรื่อง และแซวกันได้ทุกเวลา วันหนึ่งพี่หนิงมานอนอ่านหนังสือเล่นบนเตียงผมเช่นเคยในขณะที่ผมกำลังเก็บกวาดบ้าน
“ขยันจริงนะอ๊อด” พี่หนิงเริ่มก่อน
“แบบนี้เป็นแฟนพี่ พี่รักตายเลย”
“อ้าว ผมยื่นใบสมัครไปตั้งนานแล้ว พี่ไม่ได้รับหรอกเหรอ” ผมก้มลงไปใต้เตียงเอาไม้กวาดเขี่ยเอาหยากไย่ที่สะสมอยู่ใต้เตียงออกมา
ได้เรื่องครับ พี่หนิงลุกขึ้นมาตีหลังผมดังเพี๊ยะ ทำหน้าตาครึ่งยิ้มครึ่งบึ้งน่ารักดี ผมวางไม้กวาดในมือลง คลำหลังป้อย ๆ ขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“นี่แน่ะ ปากดีนักนะ เดี๋ยวพี่ก็เอาเราเป็นแฟนซะจริง ๆ หรอก” พี่หนิงยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจหอมกรุ่น แล้วทำหน้าตาล้อเลียน
“เอ แต่อ๊อดจีบผู้หญิงเป็นอ๊ะป่าวน๊อ”
อ้าว ท้ากันอย่างนี้ก็สวยซิครับ ผมประกบจูบปากสวย ๆ ของพี่หนิงแล้วบดริมฝีปากเข้าหา พี่หนิงทำท่าตกใจจะสะบัดตัวหนีแต่มือผมไวกว่า คว้าท่อนแขนแกไว้ ผมบรรเลงจูบต่อไปจนตัวพี่หนิงอ่อนยวบ หายใจแรง
“เป็นไงล่ะพี่ อย่างนี้เป็นมั้ย” ผมยิ้มที่มุมปาก หนอย มาสบประมาทกันได้ สมัยอยู่ที่บ้านนอก ฝีไม้ลายมือเรื่องจีบสาวของผมเป็นที่เลื่องลือไปทั้งตำบลถึงขนาดได้สมญานามว่า ขุนแผนน้อย ทั้งสาวแก่แม่ม่ายในละแวกนั้นผมฟันมาหมดแล้ว
พี่หนิงยังหายใจแรงอยู่ ตาเยิ้มเชียว แต่ทำใจแข็งยกมือขึ้นตีแขนผมเพี๊ยะใหญ่
“เล่นบ้า ๆ ไอ้น้องคนนี้ ไม่เอาด้วยแล้ว ไปดีกว่า” พูดจบพี่หนิงก็ผลุนผลันออกจากห้องไป เหลือแต่หนังสือทิ้งไว้บนเตียงผม ผมมองตามแกไปด้วยความขบขัน
พี่หนิงไม่พูดถึงเรื่องในวันนั้นอีกเลย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังมาที่ห้องผมทุกวันเหมือนเดิม ส่วนผมก็ทำตัวเหมือนปกติแต่แอบยิ้มอยู่ในใจ
แต่มาพักหลังผมชักอึดอัดกับการมาของพี่หนิงซะแล้ว เดิมเวลามาห้องผม แกจะแต่งตัวมิดชิด พอหลัง ๆ นี่ แต่งตัวยั่วสุด ๆ บางครั้งมาทั้งชุดนักศึกษาที่รัดติ้วกับกระโปรงแคบตัวสั้น นั่งเตียงผมทีมันร่นขึ้นไปจนเห็นโคนขาอ่อน บางทีก็มาในชุดนอนบางจ๋อย เวลาเดินผ่านแสงไฟทีเห็นหมดเลยว่าใส่ยกทรงลายไหน กางเกงในแบบใด ยิ่งเวลาแกสอนหนังสือผม สมาธิมันกระเจิงไปถึงไหนต่อไหน โธ่ ก็เวลาแกนั่งน่ะ สายตาผมมันพอดีกับระดับของสองเต้าที่บางทีก็ล้นออกมาเห็นร่องอกอวบอัด ด้านล่างก็มีท่อนขาขาว ๆ วับ ๆ แวม ๆ อีก จนผมต้องท่องไว้เสมอว่า พี่นะเฟ้ย แล้วถอนหายใจเฮือก ๆ สงสัยแกแค้นที่ผมไปขโมยจูบแกเมื่อวันนั้นถึงแกล้งมายั่วให้ผมคลั่งเล่น
นี่ถ้าไม่รักเคารพเป็นพี่สาวล่ะก็ มาโชว์อึ๋มกันถึงห้องนอนอย่างนี้ปกติผมฟัดไม่เหลือไปแล้ว ยังมีเหตุผลอีกข้อที่ทำให้ผมไม่กล้า คือถ้าเกิดเรื่องชู้สาวในหอพักล่ะก็โดนคุณยายเจ้าของหอไล่ตะเพิดออกไปแหง ๆ แกยิ่งเป็นคนหัวโบราณอยู่ด้วย
เหตุการณ์ระหว่างผมกับพี่หนิงดำเนินไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความอึดอัดใจของผม จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็เกิดเหตุขึ้นจนได้
วันนั้นเป็นวันก่อนวันสงกรานต์ คนอื่น ๆ ในหอก็พากันกลับไปฉลองสงกรานต์ที่บ้านกันหมด เหลือแต่ผมคนเดียว ทีแรกผมตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมบ้านเหมือนกัน แต่จองตั๋วรถไฟไม่ได้ก็เลยจำต้องหงอยเฝ้าหออยู่คนเดียว พอตกบ่าย ฟ้าก็เริ่มครึ้ม ผมรีบลงไปเก็บผ้าผ่อนที่ตากไว้ พอเก็บเสร็จ ฝนก็เริ่มตกเปาะแปะ ๆ แล้วค่อยหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงน้ำสาดกระทบหลังคาดังรัวเหมือนปืนกล
ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นม่านสายฝนเป็นสีขาวบริสุทธิ์ มีเงาลาง ๆ ของต้นไม้ที่ไหวตัวไปมาตะคุ่ม ๆ ทำให้นึกถึงสมัยที่ผมเป็นเด็ก เวลาฝนตกแรง ๆ ยังงี้ผมกับเพื่อน ๆ จะวิ่งแก้ผ้าโทง ๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานตามประสาเด็กบ้านนอก มันเป็นความทรงจำที่นึกถึงทีไรก็ทำให้ผมยิ้มออกมาทุกที
ผมตัดสินใจลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าแล้วคว้าผ้าขาวม้าขึ้นมาพันเอว สบู่กับแชมพูอยู่ในมือแล้วก็เปิดประตูก้าวออกไปหาสายฝนที่เรียกหาผมอยู่ จังหวะแรกที่น้ำฝนตกกระทบตัว ให้ความรู้สึกหนาวสะท้าน แต่แว๊บเดียวเท่านั้นมันก็ลดระดับลงเหลือแค่เย็นสบาย ผมเดินไปที่ตุ่มสามโคกข้างประตูรั้วหอพัก วางสบู่กับแชมพูบนฝาตุ่ม จากนั้นก็ลงมือขัดสีฉวีวรรณอย่างสบายอารมณ์
ผมฟอกสบู่ไปทั่วตัวจนถึงไอ้น้องชาย มันก็แข็งขันขึ้นมา คงเป็นเพราะผมห่างเหินจากกิจกามมาหลายเดือน ผมวางสบู่ลง มือขวากำกระทอกเบา ๆ สายน้ำที่ตกกระทบส่วนหัวหยักยิ่งช่วยเร่งเร้าความอยากให้มากขึ้น ผมหลับตาลง จินตนาการถึงส่วนสัดส่วนเสียวของพี่หนิงที่บาดตาบาดใจอยู่ทุกวันแล้วก็สาวมือเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“อูยยย พี่หนิง ผมอยากเย็ดพี่จังเลย อูยยย”
แต่ยังไม่ทันที่จะเผด็จสวาทพี่หนิงในจินตนาการเสร็จ เสียงทุบประตูรั้วดังปัง ๆ ก็ดังขึ้นกวนอารมณ์ ใครวะ ผมคำรามในใจ คว้าผ้าขาวม้าขึ้นมาพันรอบเอวเหมือนเดิมแล้วเดินไปกระชากประตูเปิดออกด้วยความฉุนเฉียว
“อ้าว พี่หนิง” ผมอุทานด้วยความแปลกใจ
“พี่กลับบ้านไม่ใช่เหรอ”
พี่หนิงในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีฟ้ายืนกอดอกตัวสั่นดิก ๆ ผมเผ้าเปียกลู่ไปตามใบหน้า กระเป๋าเดินทางวางแหมะอยู่บนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำโคลน
“ขอพี่เข้าไปก่อนนะอ๊อด หนาว บรื๊วส์ส์” พี่หนิงพูดเสียงสั่น ฟันกระทบกันดังกึก ๆ ผมเบี่ยงตัวหลบให้แกเดินเข้าประตูไป ส่วนผมก็ช่วยหิ้วกระเป๋าไปวางไว้ตรงระเบียงหอ พี่หนิงเปิดกระเป๋าเดินทางค้นเอาผ้าเช็ดตัวออกมาเช็ดผมเผ้าเนื้อตัวจนแห้งดี สีหน้าที่ซีดขาวค่อยมีเลือดฝาดขึ้นมาหน่อย
“ดีนะที่อ๊อดอยู่ ไม่งั้นพี่คงต้องตากฝนอยู่ข้างนอกอีกนาน ไม่รู้เอากุญแจไปไว้ไหน” พี่หนิงพูดแล้วแกคงเพิ่งเห็นว่าผมมีแต่ผ้าขาวม้าผืนเดียวคลุมกายอยู่จึงถามว่า
“อาบน้ำฝนอยู่เหรอ”
“ครับ แล้วพี่หนิงทำไมถึงกลับมานี่ล่ะ ผมก็นึกว่าป่านนี้ไปถึงบ้านแล้ว” ผมสยิวกายเล็กน้อย ตรงระเบียงนี่ฝนสาดมาไม่ถึงแต่ลมซิครับ หนาวยะเยือกเลย
“รถมันติดน่ะ พี่ไปไม่ทัน ไปถึงหัวลำโพงก็บ่ายเข้าไปแล้ว….” พี่หนิงพูดแต่ตอนท้าย ๆ เสียงค่อยเบาลง ๆ ผมมองไปทางแก เห็นสายตาพี่หนิงจ้องลงมาตรงผ้าขาวม้าผม แก้มแดงเรื่อ
ผมก้มลงดู ฉิบหายแว้ว ไอ้น้องชายผมยังไม่กลับสู่สภาพเดิม ดันผ้าขาวม้าตุงออกมาเลย ผมรีบหันตัวขวับเดินจ้ำอ้าวไปที่ตุ่ม
“ผมขออาบน้ำต่อนะพี่ ยังไม่เสร็จเลย”
ผมคว้าแชมพูขึ้นมาเทใส่ฝ่ามือแล้วละเลงไปบนหัว สายฝนเย็น ๆ ที่ไหลเป็นทางลงมาตามใบหน้าช่วยให้ผมรู้สึกสดชื่น แต่ความอารมณ์เงี่ยนยังคุกรุ่นอยู่ในอก ผมกะว่าเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จจะไปสาวต่อให้เรียบร้อยในห้องน้ำ
ขณะที่ผมเพิ่งล้างแชมพูออกจนหมดแล้วนั่นเองก็ได้ยินเสียงพี่หนิงดังมาจากข้างหลัง
“อ๊อด พี่อาบด้วยคนซิ”
ผมหันกลับไปดู อะจึ๋ย พี่หนิงคนสวยของผมมีเพียงผ้าขนหนูผืนใหญ่พันกายอยู่เท่านั้น เนินอกสองเต้าที่ขาวอวบเบียดชิดกันจนเห็นเป็นร่อง ส่วนด้านล่าง ชายผ้าก็คลุมลงมาแค่โคนขาอ่อน โชว์ท่อนขาที่งามได้รูปและผิวพรรณที่ขาวเนียน ไอ้หนูของผมที่มันเพิ่งสงบก็เริ่มเต้นกระตุกขึ้นมาอีกอย่างช่วยไม่ได้
ขณะที่ผมจ้องเอา ๆ พี่หนิงก็ทำท่าเหมือนไม่ได้สังเกตเห็น แกเดินมาข้าง ๆ ผมแล้วพูดหน้าตาเฉย
“พี่ขอใช้สบู่กับแชมพูของอ๊อดนะ ขี้เกียจค้นในกระเป๋า”
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก นี่พี่หนิงแกจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย ไอ้ผมก็เพิ่งใช้ความอวบขาวของแกมาช่วยตัวเอง ตัวจริงกลับมาเดินยั่วกันต่อหน้าต่อตายังงี้ เป็นใครก็ทนไม่ไหว เอาล่ะวะ ลงยั่วกันขนาดนี้ขืนยังปล่อยให้ลอยนวลไปอีกคงต้องหันไปเคี้ยวหญ้าแทนข้าวแล้ว
ผมเข้าประกบด้านหลังพี่หนิงขณะที่แกกำลังยื่นมือไปคว้าสบู่ ไอ้หนูของผมทาบทับกับร่องก้นงอน เนื้อตัวพี่หนิงเต่งตึงแฝงแรงดีดสะท้อนให้ความรู้สึกดีเยี่ยม ใบหน้าผมซุกไซ้โลมเลียไปตรงซอกคอหอมกรุ่น
“ว๊าย” พี่หนิงร้องอุทาน พยายามเบี่ยงตัวหลบ แต่จะไปไหนพ้น ก็โดนผมอัดร่างแกติดตุ่มสามโคกยังงั้น
ผมอ้าปากอมติ่งหูพี่หนิงแล้วใช้ลิ้นเกลี่ยเล่น ส่วนมือทั้งสองข้างก็ลูบไล้บีบคลำขยำขยี้ไปทั่วทั้งเนื้อตัวพี่หนิง สายฝนที่ตกหนักทำให้การมองเห็นไม่ค่อยดีนักแต่เรื่องแบบนี้อาศัยสัมผัสกายมากกว่าอยู่แล้วครับ ผมรับรู้ได้ถึงความหยุ่นเด้งของสองเต้าที่อัดกับตุ่มอย่างชัดเจนแม้ว่าจะกุมได้ไม่ถนัดมือนักก็ตาม มืออีกข้างก็ลูบไล้ท่อนขาอ่อนวาบขึ้นมาถึงลอนสะโพกและช่วงเอวคอด
“อูยยย อูยยย อาวว์” พี่หนิงซี๊ดซ๊าดออกมา เอียงหน้าแนบตุ่ม ผมค่อย ๆ กวาดลิ้นจากติ่งหูไปตามพวงแก้มที่แดงเรื่อไปแหย่ที่ริมฝีปาก พี่หนิงเผยอปากออกเม้มปลายลิ้นผมเข้าไป ลมหายใจเราสองคนเป่ารดกันท่ามกลางสายฝนที่เย็นฉ่ำ
ผมพลิกร่างงามพี่หนิงให้หันหลังพิงตุ่มน้ำแทน ริมฝีปากเราสองคนบดเข้าหากันอย่างหิวกระหาย ปลายลิ้นผมฉกวาบเข้าไปในโพรงปากอุ่น ๆ เลียไปทั่วกระพุ้งแก้ม ลิ้นพี่หนิงก็ใช่ย่อย ตวัดรัดพันกับลิ้นผมอย่างเร่าร้อน ผมรับรู้ได้ถึงความเต่งตึงของปทุมถันที่บดบี้อยู่กับแผงอก หัวนมที่แข็งชันดันผ้าขนหนูออกมาเขี่ยอกผมจนรู้สึกได้ มือผมล้วงลงไปช้อนกุมแก้มก้นอวบแล้วรั้งเข้ามาบดขยี้กับไอ้หนูของผมที่ซุกไซ้อยู่แถวเนินโหนกและท้องน้อย
พี่หนิงยกแขนขึ้นโอบรอบคอผมและขยี้สะโพกตอบโต้จนทั้งผ้าขนหนูและผ้าขาวม้าที่พันกายเราทั้งคู่ปมหลุดลุ่ย ผมจูบไซ้ทั่วใบหน้าสวยของพี่หนิงไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก เปลือกตา ปลายจมูก ปรางค์แก้ม ใบหู เรื่อยลงมาจนถึงลำคอขาวผ่อง เสียงครางในลำคอของพี่หนิงดังตลอดเวลา ใบหน้าแกแหงนเชิดตาหลับพริ้มรับสายฝนที่กระหน่ำลงมา
ผมย่อตัวลงจนใบหน้าผมอยู่ระดับเดียวกับสองเต้าเต่งตึงอวบอั๋น ผ้าขนหนูที่เกะกะขวางทางนั้นผมโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดีแล้วคลุกใบหน้าลงไปกับพวงเต้าที่ลื่นไปด้วยหยาดน้ำ ผมสูดดมกลิ่นกายอ่อน ๆ ที่ร่องอกขณะใช้จมูกชอนไชเข้าไป มือทั้งสองข้างเปลี่ยนมาเกาะกุมสองปทุมคู่งามแล้วเคล้นคลึงอย่างแผ่วเบา ยอดหัวนมทั้งสองถูกนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ผมบดบี้ไปมา
“ซี๊ดดดด อ๊อด…อูยยยย อาวว์” พี่หนิงครางไม่เป็นศัพท์ มือแกขยุ้มหัวผมไว้แล้วแอ่นอกเชิดรับการฟอนเฟ้นอย่างเต็มใจ
หัวนมข้างหนึ่งหลุดเข้าไปในปากผม ซึ่งผมก็ทั้งดูดทั้งเขี่ยด้วยลิ้น บางจังหวะก็เม้มแล้วขบเบา ๆ รัวปลายลิ้นเข้าใส่ เล่นเอาพี่หนิงสูดปากกระเส่า ดิ้นเร่า ๆ มืออีกข้างที่คลึงเคล้นเต้างามที่เหลือก็เพิ่มความหนักหน่วงยิ่งขึ้น บดขยี้จนเนื้อเต้าแทบปลิ้น
พอเล่นงานสองเต้าจนชุ่มปอดแล้วผมก็เปลี่ยนเป้าหมายทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าจนใบหน้าผมตรงกับเนินสวรรค์ของพี่หนิงพอดี ผมแยกท่อนขาอวบขาวคู่นั้นออกห่างจากกันแล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบ่าไว้ โคกสวาทพี่หนิงอวบอูมมีขนหยิกหยอยปกคลุมบริเวณหัวหน่าว กลีบแคมยังปิดสนิทโชยกลิ่นหอมหวนของน้ำเสียวออกมา ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากแล้ว อัดใบหน้าลงไปหอมเนินสวาทนั้นฟอดใหญ่
จมูกผมคงไปเขี่ยเอาเม็ดละมุดของพี่หนิงเข้าละมัง เพราะแกตัวสั่นดิก ๆ ร้องครางเสียงกระเส่า เรียกชื่อผมไม่ขาดปาก ลิ้นอสรพิษของผมเริ่มปฏิบัติการแหวกกลีบซากุระต่อโดยกวาดเลียกินน้ำฝนปนน้ำเมือกแถวเนินโคกนั้นจนเกลี้ยง จากนั้นก็กวาดเขี่ยขึ้นลงตามร่องแคม มือที่เหลืออีกข้างของผมยกขึ้นช่วยแบะแคมสวาทนั้นจนเผยให้เห็นแคมในแดงสด ปลายลิ้นผมฉกวับกวาดไปทั่วเนื้ออ่อน ๆ นั้นทันที แล้วแยงเข้าไปในปากรูสวรรค์
“โอยยย อ๊อดด พี่เสียว ทำเถอะ อูยยยย” พี่หนิงโอดครวญ มือแกขยุ้มหัวผมจนรู้สึกตึงไปหมด สะโพกอวบงามอัดเด้งเข้ารับการลงลิ้นของผมตลอดเวลา
ยังหรอกครับ เรื่องอะไรผมจะรีบป้อนความสุขให้แกโดยเร็ว มายั่วผมดีนัก อย่างนี้จะต้องให้อยากจนทนไม่ไหวนั่นแหละ จะได้รู้ซะมั่งว่ากำลังเล่นกับใคร
ปลายลิ้นผมย้ายจุดใหม่ คราวนี้ไปกวาดเลียเขี่ยเล่นแถวเม็ดละมุดที่ตั้งเด่ อือม์ รสน้ำฝนกับคาวสวาทนี่มันเข้ากันดีเหลือเกิน พี่หนิงดิ้นกระตุกเร่า ๆ ร้องโอย ๆ ๆ มือแกดันหัวผมเข้าไปหาโคกสวาท ผมเลยถือโอกาสนั้นเม้มเม็ดละมุดแกไว้ในปากแล้วสะบัดหน้าดึงรั้งเบา ๆ ได้ผลครับ
“ว๊ายยย อ๊อด อูยยย ทำ…ทำอะไรยังงั้น อูยย พี่เสียว…สุด ๆ โอววว์ เอาพี่เถอะนะ พี่อยากแล้ว ซี๊ดดด” ลีลาปลุกอารมณ์ของผมทำเอาพี่หนิงสติกระเจิง เรียกหาความเป็นผัวจากผมไม่ขาดปาก
ผมไม่สนใจคำเรียกร้องของแก ละเลงลิ้นกับโคกสวาทที่อวบอูมต่ออีกพักนึงจนเห็นว่าพี่หนิงทำท่าจะยืนไม่ไหวแล้วนั่นแหละถึงผลุดลุกขึ้นยืนทาบทับประกบเรือนร่างเต่งตึง มือข้างหนึ่งจับท่อนเอ็นเขี่ยเล่นที่ร่องเสียวของแก พี่หนิงซี๊ดปากพยายามจะใช้มือรั้งก้นผมให้ดันดุ้นเอ็นผมเข้าไปในรูแกให้ได้แต่ผมขืนตัวไว้
“โธ่ ทำไมแกล้งพี่ยังงี้ อูยยย เอาเข้าไปเถอะอ๊อดจ๋า พี่ยอมแล้ว” พี่หนิงพูดเสียงแหบแห้งอย่างกระวนกระวายใจ
“พี่หนิงอมให้ผมก่อนซิ” ผมกระซิบบอกแก ผมสังเกตจากลีลาการแลกจูบของพี่หนิงก็พอรู้ว่าแกเคยผ่านเรื่องยังงี้มาแล้ว น่าจะเคยทำมาก่อน
พี่หนิงรีบทรุดตัวลงไป คว้าเอ็นดุ้นเขื่องของผมไว้แล้วอ้าปากอมส่วนหัวเข้าไปทันทีจนผมรู้สึกอุ่นวาบ อีกทั้งมือข้างนั้นของแกก็กระทอกไปด้วย ผมรู้สึกได้ถึงลิ้นอุ่นนุ่มที่ตวัดรัดพันส่วนหัวอย่างแสนรัก พี่หนิงดูดวาบ ๆ จนผมตัวเกร็งไปหมด
“อูยยย ดีครับพี่ กลืนมันลงไปซิครับ” ผมพูดเสียงกระเส่า
พี่หนิงก็ดีเหลือเกิน ขยอกท่อนเอ็นผมเข้าไปทีละนิ้ว ๆ จนแทบมิดโคน ผมงี้เสียววูบไปหมด แล้วแกก็เอามือช้อนพวงไข่ผมคลึงเบา ๆ พร้อม ๆ กับเด้งตัวไปมารูดท่อนเอ็นผมอย่างรวดเร็วถี่ยิบ
มันเสียวครับ ลีลาโม๊กของพี่หนิงสุด ๆ ไปเลย ผมเผลอแอ่นก้นกระเด้าปากจิ้มลิ้มของแกไปด้วย ผมก้มลงดูภาพด้านล่าง พี่หนิงที่เปลือยเปล่ากำลังก้มหน้าก้มตาโม๊กให้ผมอย่างสุดฝีมือจนเนื้อตัวและสองเต้าสั่นกระเพื่อม สายฝนที่เทกระหน่ำลงมาก็ช่วยให้ภาพที่เห็นดูอ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน
ผมกัดกราม ยึดหัวพี่หนิงไว้เพื่อกำกับจังหวะการกระเด้าให้เข้ากัน โพรงปากพี่หนิงช่างอบอุ่นและดูดดีจริง ๆ ยิ่งตอนที่ปลายดุ้นพุ่งเข้าไปกระทบผนังคอหอยนี่ เสียววาบ ๆ ไปถึงพวงไข่เลยครับ
พี่หนิงท่าทางจะมันส์กับการดูดกินแท่งไอติมผม แกเด้งหน้าเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แถมมีการดูดแรง ๆ ซ้ำอีก ผมเห็นท่าจะไม่ไหว เดี๋ยวได้หมดสนุกกัน จึงดึงร่างแกขึ้นมากอดไว้แล้วแลกจูบกันอย่างเผ็ดร้อนอีกครั้ง พี่หนิงครางอือ ๆ ในลำคอ หน้าแดงก่ำ ตาเยิ้มหวานเชียว
“ผมจะเอาพี่ล่ะนะ” ผมกระซิบ พี่หนิงพยักหน้ารับ ผมจับแกให้ยืนโก้งโค้งยันตุ่มแล้วกดหลังแกให้ลดลงต่ำจนเห็นกลีบแคมปลิ้นออกมาจากซอกขา หยาดน้ำฝนและน้ำเสียวปนกันย้อยหยดลงพื้นเป็นเส้นสาย แล้วผมก็ตามเข้าประกบ จับดุ้นเอ็นดันแทรกผ่านกลีบสาวเข้าไปทีละน้อย ซึ่งก็ไม่ลำบากเท่าไหร่นักเพราะน้ำหล่อลื่นมีเพียบ แต่ความเสียวนี่ซิ เหลือรับประทานเพราะถ้ำโพรงของพี่หนิงแกดูดตอดทุกระยะรับกับการเคลื่อนตัวเข้าไปของไอ้น้องน้อยผม ทำเอาผมต้องกัดกรามกรอดหลับตาปี๋ต่อต้านความเสียวที่ไหลปรูดมาตามท่อนลำ
พี่หนิงส่ายก้นน้อย ๆ ตลอดเวลาที่ผมป้อนกล้วยให้เต่าของแก เสียงครางกระเส่าดังลอดมาให้ผมได้ยินท่ามกลางเสียงสายฝนห่าใหญ่ จังหวะสุดท้ายผมยึดสะเอวบางกิ่วของแกไว้แล้วเด้งก้นแรง ๆ ทีเดียวดังปั้บ หน้าขาผมตีแก้มก้นแกดังเพี๊ยะ เนื้อตัวพี่หนิงสั่นสะท้าน ผมก็อุ่นวาบไปทั้งลำ โพรงเนื้อพี่หนิงบีบรัดถี่ยิบ
“ซี๊ดดดด โอยยย แน่นดีจังเลยอ๊อด อูยยยย” พี่หนิงกัดฟันพูดทั้ง ๆ ที่หน้ายังก้มอยู่ ผมโน้มตัวทาบทับแผ่นหลังขาวเนียน สองมืออ้อมไปกุมปทุมถันที่แกว่งไกวบีบบี้อย่างสุขอารมณ์ ส่วนสะโพกผมก็บดคว้านเป็นวงขยี้แก้มก้นแกไปด้วย พี่หนิงครางซี๊ดซ๊าดเนื้อตัวสั่นระริก
ผมขยับก้นถอนเสาหลักออกมาแล้วอัดกระแทกกลับเข้าไปอย่างช้า ๆ ก่อน พออารมณ์ของเราสองคนลุกโพลงได้ที่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ผมกับพี่หนิงแข่งกันครางกระเส่าท่ามกลางสายฝนที่ยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง ร่างผมกับพี่หนิงเด้งเข้าหากันราวกับมีเชือกผูกเอาไว้ เสียงเนื้อสองเรากระแทกกันดังปั่บ ๆ
โพรงสวาทพี่หนิงช่างอร่อยล้นเหลืออะไรอย่างนี้ ทั้งที่ขยายขนาดรับกับท่อนเอ็นผมแล้วและมีน้ำหล่อลื่นขนาดนี้แต่ยังให้ความรู้สึกฟิตกระชับ แถมยังดูดตอดได้ทุกระยะ ยามที่ผมสาวเอ็นออกมา เนื้ออ่อน ๆ ของแกแทบจะปลิ้นตามออกมาด้วย ตอนที่ผมอัดกระเด้ากลับเข้าไป ความหนึบแน่นก็โอบรัดท่อนลำผมไว้อย่างไม่ยอมเหินห่าง ทำเอาผมซอยกระเด้ายิก ๆ อย่างลืมเหนื่อย
“พี่หนิงเป็นไงบ้าง อูยยย ของพี่เย็ดมันส์จังเลย ผมเอาพี่ท่านี้อร่อยดีมั้ย” ผมถามเสียงหอบ ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังโหมกระเด้งกระเด้าเข้าใส่สะโพกงอนงามเบื้องหน้าถี่เร็ว พี่หนิงสะบัดสะโพกอวบเด้งรับอย่างเป็นงาน ทำเอากระเด้าแต่ละทีดุ้นเอ็นผมโดนถ้ำสวาทแกกลืนไปจนมิดทุกครั้ง
“ซี๊ดดดด อร่อย…อร่อยจังอ๊อด ซี๊ดดดด ของอ๊อดก็ใหญ่ถึงใจพี่จัง มันจุกแน่นไปถึงท้องเลย อาวว์ พี่เด้งรับยังงี้อ๊อดชอบมั้ยจ๊ะ”
“ชอบครับ พี่หนิงเก่งจัง ซี๊ดดด” ผมครางตอบเสียงกระเส่า
สายฝนที่เคยเย็นฉ่ำจนหนาวสะท้าน บัดนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับเราทั้งสองคนแล้ว เพราะเพลิงสวาทที่กำลังลุกฮือโหมอยู่ข้างในกำลังเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่สัมผัสให้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ผมและพี่หนิงเอากันในท่านั้นต่ออีกพักนึงผมก็นึกอยากเปลี่ยนท่า ผมพลิกร่างงามพี่หนิงให้หันมาหาผมโดยที่ดุ้นเอ็นผมยังเสียบคาอยู่ในถ้ำมหาเสน่ห์ของแก แล้วช้อนท่อนขาทั้งสองขึ้นพาดไว้บนท่อนแขน ท่านี้ร่างพี่หนิงลอยขึ้นจากพื้น หลังพิงตุ่มสามโคก เนินสวาทแบะอ้าออกอมท่อนเอ็นผมจนปลิ้น
“จะไหวเหรออ๊อด ตัวพี่หนักนะ” พี่หนิงก้มลงพูดกับผมอย่างหวาด ๆ
ผมอาศัยความแข็งแกร่งของเด็กบ้านนอกอัดร่างอวบแกไว้กับผนังตุ่มแล้วห่มตูดเด้งสะโพกแทงท่อนเอ็นกระหน่ำเข้าใส่โคกสวรรค์ของพี่หนิงชนิดนับไม่ทันจนแคมผลุบเข้าผลุบออกตามการกระเด้า สองเต้าสวยเด้งกระเพื่อม พี่หนิงก็ลืมความกลัวแอ่นหลังพาดตุ่ม หน้าสวยแหงนเริ่ดรับสายฝน ร้องครางซี๊ดซ๊าดแทน
ผมกัดฟันกระเด้าต่ออีกพักนึงก็เมื่อยจนทนไม่ไหว ต้องปล่อยร่างแกลงกับพื้น พี่หนิงแกคงเห็นผมเหนื่อยจึงดันร่างผมลงกับพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน
“ให้พี่ทำให้อ๊อดมั่งนะ” พี่หนิงยิ้มหวาน ใบหน้าแกแดงก่ำ ดูเซ็กซี่อย่างเหลือร้าย
พูดจบแกก็ขึ้นคร่อม เอามือจับท่อนเอ็นจ่อตรงกับรูสวาทแกแล้วขย่มตัวลงอย่างแรงจนเนื้อสองเต้าเต้นระริก ผมก็เสียววาบไปทั้งลำ พี่หนิงบดสะโพกงามวนเป็นวงแล้วมองหน้าผมยิ้ม ๆ
“เป็นไงจ๊ะหนุ่มน้อย คราวนี้พี่คุมเกมส์ล่ะนะ ระวังนะ อย่าให้หักซะก่อนล่ะ” พูดซะผมหนาวเลย พูดจบพี่หนิงก็โหย่งตัวขึ้นแล้วทิ้งตัวกลับลงมา แก้มก้นงอนงามกระแทกหน้าขาผมดังปั่บ ท่อนเอ็นผมพุ่งพรวดเข้าไปในความหนึบแน่นของแกจนมิดจนผมต้องครางกระเส่าออกมา พี่หนิงเองก็สูดปากเร่า ๆ เหมือนกินของเผ็ด ๆ
พี่หนิงโน้มตัวลงยันแขนกับแผงอกผม สองเต้างามแกว่งไกวล่อตาล่อใจซึ่งผมก็ไม่พลาดโอกาสงาม มือผมคว้ากุมเต้าคู่งามแล้วเคล้นคลึงอย่างสะใจ พี่หนิงยันตัวโหมกระเด้าเข้าใส่จนตัวผมสะท้าน น้ำโคลนรอบตัวแตกกระเจิง สายฝนที่โหมกระหน่ำยังไม่มีทีท่าว่าจะซาลง เช่นเดียวกับไฟราคะที่สุมทรวงเราสองที่ยังไม่มีวี่แววจะมอดดับ
จังหวะที่พี่หนิงโถมตัวอัดโคกสวาทเข้าหา ผมก็เด้งก้นขึ้นรับอย่างเหมาะเจาะ เราสองคนสอดประสานกันราวกับเป็นคู่ขากันมานาน ดุ้นเอ็นผมฝ่าความหนืดคับเข้าไปทุกครั้งที่พี่หนิงกระแทกสะโพกงามเข้าใส่ สวรรค์แท้ ๆ ผมกับพี่หนิงอ้าปากหอบกระเส่า ครางแข่งกันในสายฝนไม่หยุดยั้ง
สุดท้ายพี่หนิงก็เป็นฝ่ายปราชัย แกฟุบตัวลงกับแผงอกผมจนก้นโด่งแล้วสะบัดสะโพกเข้าตีหน้าขาผมดังพั่บ ๆ ถี่ยิบ เสียงครวญครางของพี่หนิงดังขึ้นเรื่อย ๆ
“โอววว์ อาวว์ ซี๊ดดดด ไม่….ไม่ไหวแล้ว อูยยย จะถึงแล้ว ซี๊ดดดด”
ผมช่วยเร่งจังหวะส่งแกขึ้นสวรรค์ แรงมีเท่าไหร่ก็ใช้ประเคนท่อนเอ็นเข้าใส่โพรงสวาทคับติ้วนั้นอย่างหมดตัว พี่หนิงกรีดร้องลั่น กอดผมแน่น เนื้อตัวเกร็งสะท้าน ถ้ำสวรรค์ตอดรัดดุ้นเนื้อผมถี่ยิบราวกับจะดูดมันเข้าไปข้างใน ผมกอดร่างแกไว้แนบอก บดขยี้ท่อนเอ็นเข้ากับเนินโหนกจนพี่หนิงคลายอาการเกร็งตัว หายใจสะดวกขึ้น
ผมไม่ปล่อยให้แกพูดอะไรอีกเพราะผมเองก็เสียวจนเกือบจะกระฉูดอยู่แล้ว แต่อยากให้แตกในท่าที่ผมโปรดที่สุดมากกว่า ผมยันตัวลุกขึ้น พลิกร่างงามให้ลงไปคุกเข่าคลานกับพื้นจากนั้นผมก็รั้งลอนสะโพกผายไว้มั่นซอยกระเด้าเข้าใส่อย่างเมามันส์ ตาก็จ้องดูท่อนเอ็นมันเลื่อมพุ่งเข้าออกร่องสวาทแดงฉ่ำนั้นอย่างระเริงใจ
ร่างงามของพี่หนิงสั่นสะท้านไปมาตามแรงหนุ่มของผม เสียงครางของแกเริ่มดังขึ้นอีกครั้งเมื่อผมโหมกระเด้าถี่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“ซี๊ดดด ดี ๆ เอาแรง ๆ อีก พี่จวนอีกแล้ว อูยยยย อาวว์” พี่หนิงครางกระเส่า ใบหน้าสวยก้มลงจนเกือบติดพื้น สองเต้าโยกแกว่งไปมาตามจังหวะกระเด้าของผม
ผมกัดกรามกรอด ห่มตูดกระเด้งกระเด้าเข้าใส่โพรงสวาทที่แสนจะอร่อยเบื้องหน้าเต็มสปีด ความเสียวที่สุดจะทนเริ่มแล่นปราดจากพวงไข่ขึ้นมาตามไอ้น้องชาย ทำให้ผมรู้ว่าผมคงจะสนุกต่อไปได้อีกไม่นานนักแล้ว
ผมทาบร่างกับแผ่นหลังนวลเนียนเปียกชุ่มแล้วอ้อมแขนไปรั้งร่างงามให้ตั้งตรงขึ้น กลายเป็นพี่หนิงนั่งคุกเข่าวางก้นอยู่บนหน้าขาผม มือผมฟอนเฟ้นสองเต้าอวบเต่งอย่างมันส์มือ พี่หนิงหันหน้ามาแลกจูบกับผมอย่างเร่าร้อน ด้านล่างนั้นผมกระเด้งตัวขึ้น พี่หนิงก็กดกระแทกสะโพกลงมาหา เราสองคนช่วยกันปรุงรสสวาทอย่างสุดฝีมือ เสียงครางของผมกับพี่หนิงปนเปกันไปกับเสียงสายฝนและสายลมจนแยกกันไม่ออก
และแล้วสุดยอดของความสุขก็มาถึง ผมร้องครางโอย ๆ กอดร่างงามพี่หนิงไว้แน่น เด้งตัวเข้าใส่พี่หนิงจนท่อนเอ็นพุ่งเข้าไปจนมิดด้าม น้ำเชื้อผมฉีดพ่นออกมามากมายจนรู้สึกได้ว่าดุ้นเนื้อผมสั่นกระตุก พี่หนิงก็กรีดร้องเบา ๆ ร่างงามเกร็งสะท้าน โพรงสวาทบีบตอดถี่ยิบกลืนน้ำกามของผมเข้าไปทุกหยดหยาดไม่มีเหลือ
เราสองคนโอบกอดกันหอบหายใจในท่านั้นอยู่นานท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา สุดท้ายเราก็ต้องอาบน้ำกันใหม่อีกรอบเพราะเปื้อนโคลนกันไปหมดทั้งสองคน
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมกับพี่หนิงก็กลายเป็นแฟนกันไปโดยปริยาย เราสองคนหาหาความสุขด้วยกันเสมอ แต่เมื่อใดก็ตามที่ฝนตกหนัก ผมและพี่หนิงจะไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะเล่นรักกันกลางสายฝนเป็นการรำลึกถึงความหลังที่เราได้กันครั้งแรก
ก็มันสนุกและเสียวถึงขนาดนั้น ใครจะอดใจไหวครับ