เรื่องราวเซ็กส์ของศรี - ตอนที่ 3 เสพสมสองสวาท
เรื่องของศรีมาอีกแล้วค่ะ…. ที่ผ่านๆมานั้นสนุกมั้ยคะ? ฉันรับรองว่ายังมีเรื่องสนุกกว่านี้อีก ตอนนี้เป็นตอนที่ 4 ให้ชื่อตอนว่า “เสพสมสองสวาท” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสามีเก่าของฉัน เขาชื่อ”วีรพงษ์” เป็นสามีคนที่ฉันเคยเล่าให้เพื่อนๆชาว”หลุดโลก”ฟังเมื่อตอนแรกๆ ว่าเราแต่งงานงานกันและเขาไม่เอาไหนกับเรื่องเซ็กส์บนเตียงเลยไงคะ… จำได้แล้วใช่ไหมคะ? ตอนนี้เขากลับมาอยู่กินกับฉันที่เมืองแอล.เอ.แล้วค่ะ คนนี้เองค่ะที่ฉันบอกไว้ตอนแรกเหมือนกัน ว่าฉันยังมีเซ็กส์กับแฟนคนนี้ของฉันได้ทุกคืนหรือทุกวันอย่างไม่รู้เบื่อ และดิฉันกับแฟนก็ยังช่วยกันหาประสบการณ์เซ็กส์ที่แปลกใหม่สำหรับเราสองคนอยู่เสมอ อย่าเพิ่งแปลกใจนะคะ ว่าฉันอยู่กับเขาได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นต้นเหตุแห่งการหย่าร้างของฉัน จนทำให้ฉันต้องหนีมาอยู่ในยูเอส มันมีที่มาค่ะ ประสบการณ์ที่ฉันเขียนมา 3 ตอน เขาได้อ่านแล้วและชอบใจที่ฉันเขียนมาก
ดังนั้นประสบการณ์ตอนนี้ เป็นตอนที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาโดยตรง สามีคนนี้ของฉันควรจะต้องเป็นคนเขียนมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง แต่เขาบอกว่าเขาไม่ถนัดในเรื่องเขียนหนังสือ เขาขอเป็นผู้เล่าให้ฉันฟังและให้ฉันเขียนออกมาเป็นเรื่องเล่าดีกว่า เขายอฉันว่าฉันเรียนมาทางด้านการเขียนหนังสือมากกว่าเขา และเขียนเรื่องเล่าเหมือนนิยาย ทั้งยังเป็นนิยายพิศวาสที่โรมรันพันตูกันบนเตียงได้อย่างถึงอารมณ์ สมกับความร้อนแรงที่ฉันมีต่อเขายามที่เราคลอเคลียอยู่ด้วยกัน ตกลงค่ะ…. ฉันต้องเขียนเรื่องของสามีฉันตามคำบอกเล่า เริ่มตั้งแต่เขาบินมาตามหาฉันถึง แอล.เอ.โดยเขาพักอยู่กับเพื่อนชื่อ”มนู” มาถึง แอล.เอ.วันแรกเขาก็เจอกับเซ็กส์แบบอเมริกันสไตล์เลย แทบหมดแรง..แต่ไม่ใช่กับฉันหรอกนะคะ เขาเล่าให้ฉันฟังอย่างละเอียด โดยไม่ปิดบังหรือกลัวฉันหึง เพราะบัดนี้เขาเข้าใจฉันในเรื่องเซ็กส์อย่างลึกซึ้งแล้ว ว่าฉันชอบเซ็กส์แบบไหน….
โอ…เพื่อนๆที่รักขา… เพียงแค่ฉันฟังเขาเล่าเรื่องที่จะให้ฉันเขียน หอยของฉันก็แฉะแล้วแฉะอีก ขนลุกขนพองด้วยความกระสันเสียว ต้องจบลงด้วยการที่เราเอากันคั่นเวลาการเล่าเสีย 2 ยกก่อน เรื่องของ”วีรพงษ์”อดีตสามีของฉันเสียวแค่ไหน? และเขาเจอฉันแบบพิสดาร จนฉันคาดไม่ถึงได้อย่างไร?….. ฉันจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้เลยค่ะ….
มนูเดินวนเวียนไปมา รอบบริเวณที่คอยผู้โดยสารในสนามบินนานชาติ ลอส แองเจลีส หรือที่เรียกกันสั้นๆว่าแอล.เอ. นานๆก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาสักครั้งหนึ่ง จนครั้งสุดท้ายเมื่อเห็นผู้โดยสาร ที่เดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ เริ่มทยอยเดินออกมาเป็นทิวแถว เขารีบไปยืนตรงปากช่องทางเดินออกของผู้โดยสาร เวลาผ่านไปได้สักครู่ ท่ามกลางผู้โดยสารนับจำนวนร้อย เขาก็พบกับคนที่เขาต้องการ รีบโบกมือส่งสัญญาณให้เห็น ผู้โดยสารที่เขาต้องการพบ คือเพื่อนรักของเขานั่นเอง นัดหมายให้เขามารับ เนื่องจากเพื่อนคนนี้เพิ่งเคยเดินทางมาอเมริกาเป็นครั้งแรก มนูตะโกนเรียกเพื่อนเสียงลั่นจนเพื่อนหันมาเห็น แล้วทั้งคู่ก็กอดรัดกันกลม ด้วยความรักสนิทแบบเพื่อนฝูงทั่วไป
ระหว่างทางที่ขับรถกลับอพาร์ตเมนท์” เอ็งแน่ใจรึว่าเมียเก่าของเอ็งน่ะเดินทางมาอยู่ที่นี่เป็นปีแล้ว “มนูเอ่ยปากถามเพื่อน ย้ำถึงเป้าหมายแห่งการเดินทางมาเหยียบถิ่นอเมริกัน
“เออ..ข้าแน่ใจ เพราะสืบข่าวมาอย่างละเอีดแล้ว”
“เฮ้อ….” มนูทำท่าถอนใจ “….ถ้ามาอยู่เป็นปีๆแล้วละก็ ข้าว่าป่วยการที่เอ็งจะตามหา ป่านนี้โดนฝรั่งงาบไปแล้ว หรือไม่ก็มีผัวเป็นไอ้มืดไปแล้ว ได้ข่าวว่าอดีตเมียของเอ็งเนี่ยตูดไวน่าดูไม่ใช่เร๊อะ?” (เนี่ย..ดูซีคะ… ดูเพื่อนของสามีเก่าฉัน ผู้อยู่อเมริกามาก่อน ไม่วายปากเสียตามนิสัยเดิม ที่แก้ไม่หายจริงๆ) แต่วีระพงษ์อดีตสามีของฉันไม่ถือสา เพียงปรามเพื่อนเบาๆ
“ไอ้บ้า…ไม่รู้อะไร ก็อย่าเสือกพูดไปเลยน่า ถึงมีผัวแล้ว ข้าก็ยังคิดถึงเธออยู่ อยากจะเจออีกซักครั้ง ที่ผ่านๆมาข้ามันผิดเอง”
“เอ็งทำอะไรผิดวะไอ้พงษ์? เมียเอ็งถึงได้ขอหย่าแล้วหนีมาอยู่ที่นี่” มนูถามด้วยความสงสัย
“จะมีอะไร๊…ก็เรื่อง”ไอ้จ้อน”ของข้าน่ะซี” เพื่อนผู้เพิ่งเดินทางมาพูด พร้อมกับบุ้ยปากก้มไปที่เป้ากางเกงตัวเองเป็นการประกอบความหมาย ก่อนเอ่ยต่อไป “…ทะลึ่งล่มปากอ่าวได้แม่งทุกครั้ง จนเมียข้าค้างเติ่ง หนักเข้าเค้าเลยพาลเลิกกับข้า”
“อ้าว…” มนูหันมามองหน้าเพื่อน แล้วร้องด้วยความแปลกใจ จนลืมมองทาง รถแฉลบไปเกือบเฉี่ยวเอากับรถข้างๆ เสียงบีบแตรด่ากลับมาเป็นรางวัลจากรถคันนั้น เขาโบกมือเป็นสัญญาณขอโทษ ” สมมติเอ็งตามหาเมียเก่า เกิดเจอกันเข้า แล้วสมมติอีกว่าเขายังไม่มีผัว และยังมีเยื่อใยดีกับเอ็ง เอ็งคิดรึว่าจะไม่ล่มปากอ่าวอีก?”
วีระพงษ์ดีดนิ้วดังเปาะตามนิสัย ยามที่เขามั่นใจ แล้วบอกเพื่อนเสียงมั่นคง “สำหรับเดี๋ยวนี้ เมินเสียเถอะวะ ข้ารู้ตัวดีว่ามีจุดอ่อนในเรื่องนี้ เลยไปฝึกฝนเรียนรู้กับหมอมาเป็นอย่างดีแล้ว.. รับรองคราวนี้ของข้าอึด ปล่อยได้อย่างใจต้องการเชียวว่ะ ”
(เขาเล่าให้ฉันฟังถึงตรงนี้ ฉันก็เริ่มตาปรอยไม่อยากจับปากกาเขียนต่อไป มันรู้สึกเสียวและคันยุบยิบขึ้นมาในช่องสวรรค์ของฉันเลยเชียวค่ะ เพราะฉันพิสูจน์มาแล้วนั่นเอง…ติดใจค่ะ ตอนนี้เลยขอคั่นเวลาการเขียนเข้าคลุกเคล้ากับเขา แล้วควักท่อนเนื้อของเขามาดูดอมไล้เลียจนเขาตัวโก่ง บี้เม็ดเสียวพร้อมชอนไชนิ้ว เข้าไปในหอยฉ่ำของฉันจนน้ำเมือกทะเล็ด แล้วเราก็เอากันบนโต๊ะเขียนหนังสือของฉันนั่นเอง เขาสอดใส่กระเด้าถี่ยิบในท่ายืน โดยที่ก้นของฉันพาดอยู่กับแง่โต๊ะ สองขาแบะถ่างรับการรุกของเขา ฉันเด้งโคกรับอย่างเอร็ดอร่อยจนถึงขีด เขาก็ปล่อยน้ำรักฉีดเข้ารูสวาทของฉันเต็มที่ ฉันถึงกับกรี๊ดกอดเขาแนบแน่น กระเด้งหอยขึ้นบดเบียดกับท่อนควยของเขาอย่างสุดทน
เรายืนกอดกันเป็นการพักเหนื่อยสักครู่ สามีของฉันก็ถอนของเขาออกจากช่องของฉัน แล้วฉันก็ลุกขึ้นตัวเปลือยเปล่า มานั่งเขียนเรื่องเล่าต่อ โดยน้ำยังไหลเยิ้มออกจากรูหอยลงมาตามหน้าขา ช่างมันเถอะ.. ฉันไม่ล้างหรอก ฉันชอบได้กลิ่นน้ำกาม รู้สึกมันหอมหวนน่าดมและน่าดื่มกินจริงๆ ฉันเล่าถึงไหนแล้ว… อ้อ…ถึงตอนที่วีรพงษ์อดีตสามีของฉันบอกเพื่อนว่าเขาฝึกฝนมาดี อย่างไม่มีทางล่มปากอ่าวอีกแน่นอน)
“บ๊ะ!!..มั่นใจขนาดนั้นเชียวนะเอ็ง ถ้าอย่างนั้น คงจะต้องพาเอ็งไปทดสอบซักหน่อย จะว่าไง? ” มนูสัพยอกเพื่อนรักเป็นการหยั่งท่าที
“ก็เอาซีวะ ว่าแต่เอ็งมีอะไรดีๆมากนักหรือ?”
“ดีหรือไม่ดี… เอ็งคอยดูเอาเองดีกว่า ข้าจะจัดฉลองเอ็งวันแรกในอเมริกาเลย… อ้อ.!..เกือบลืมไป ลืมถามเอ็งไป ว่าเมียเก่าของเอ็งเนี่ยชื่ออะไรวะ? เผื่อว่าเพื่อนข้ารู้จัก จะได้มีเบาะแสมาบอกกันบ้าง”
“ชื่อ..นพศรี..โว้ย ไอ้บ้า ตอนข้าแต่งงาน ก็เคยจดหมายมาบอกเอ็งครั้งหนึ่งแล้ว ดันทำเป็นลืม” (ดู๋ดูซีคะ… มนูเพื่อนของสามีฉันคนนี้ มาอยู่อเมริกาไม่เท่าไร เค้าลืมชื่อฉันที่เป็นแฟนเพื่อนเค้าเสียได้ แต่ก็น่าเห็นใจค่ะ. เพราะตอนที่ฉันกับสามีเริ่มรู้จักและคบกันเป็นแฟน มนูก็เริ่มจะเดินทางไปอเมริกาแล้ว ทำให้ฉันกับมนูแทบจะไม่ได้สนิทกันเลย เพิ่งมาสนิทสนมที่อเมริกานี้เอง สนิทสนมถึงขนาดเราสวิงกิ้งเซ็กส์กันอย่างเมามัน)
เย็นวันนั้น บนอพาร์ตเมนท์หนึ่ง ห้องนอนของมนู สองเพื่อนรักจัดการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เพื่อนผู้เป็นเจ้าถิ่นก็ออกไปซื้อกับข้าวกับแกล้ม พร้อมด้วยเบียร์มามากมาย จนสามีฉันสงสัยว่าเขากับเพื่อนจะกินมันหมดได้อย่างไร แต่มนูรีบกระซิบบอก ขณะที่ก้าวเข้ามาในห้อง ทั้งๆที่ยังหอบของพะรุงพะรัง
“เอ็งอย่าแปลกใจไอ้พงษ์ เย็นนี้เราจะมีแขกมาร่วมฉลองต้อนรับเอ็งอีกสองคน”
“ใครกัน? ข้ารู้จักรึเปล่า?”
มนูส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ยิ้มกว้างก่อนบอกว่า “เอ็งไม่รู้จักหรอก แต่ไม่สำคัญหรอกวะ พบกับเดี๋ยวเดียวก็รู้จัก.. .ฮึ! เอ็งเอ้ย..เชฟบ๊ะยังงี้เลย แถมใจถึงซะด้วย”
“ก็แปลว่าผู้หญิง…ใช่มั้ยวะ?”
“เอ้อ ข้าจะเชิญผู้ชายมาทำเตี่ยอะไรล่ะ? เอ็งก็รู้จักข้าดีนี่หว่า” สามีฉันบอกว่าได้ยินเพื่อนบอกเช่นนั้น เค้าก็ตื่นเต้นกับงานฉลองต้อนรับของเพื่อนรัก ที่เคยเที่ยวกันมาทุกซอกซอยจนรู้ใจกันดี
“ฝรั่งหรือเปล่าวะ ไอ้นู?”
มนูสั่นหน้า แล้วจัดแจงวางกับข้าวและเบียร์ลงบนโต๊ะ ช่วยกันเทใส่จาน “เป็นฝรั่งคนนึง ส่วนอีกคนก็พวกเดียวกับเอ็งและข้า”
“สวยไหม?”
“บ๊ะ ไอ้นี่! ชักตื่นเต้ลลล์ สวยหรือไม่สวย? เอ็งคอยดูเอาเอง แต่ว่าเรื่องใจถึงแล้ว เป็นที่หนึ่งเลยว่ะ” มนูพูดแล้วก็ยกนิ้วโป้งประกอบสรรพคุณ “อีสองคนเป็นคนชอบสนุกว่ะ ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน ชอบแอ่นร่อนไปเรื่อย พอใจใครก็เอาด้วย นี่เพิ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่กับข้าได้สองครั้ง ชักติดใจ ข้าเลยถือโอกาสชวนมาต้อนรับเอ็งซะเลย ยังไงๆเอ็งต้องไว้ลายบ้างนะ อย่าให้เสียชื่อ กระฉูดเลอะเทอะออกมาซะก่อน”
“เฮ้ย..เรื่องนี้รับรองได้ ข้าบอกแล้วว่าฝึกมาดี”
ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะพูดอะไรกันต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเบาๆ มนูหันไปขยิบตากับวีระพงษ์แล้วยิ้มร่า ถลาไปถอดกลอนประตู เพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือน ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก….. วีระพงษ์สามีของฉันก็เห็นหญิงสาวชาวเอเซียกับอเมริกันสองคนยืนเด่นอยู่ตรงหน้า รูปทรงองค์เอวและสัดส่วนโค้งเว้า ได้ที่เหมาะแก่การกระตุ้นเซ็กส์ของผู้ชาย หน้าตาของทั้งสองจิ้มลิ้ม ประกายตาบ่งบอกความกระหายสวาทอยู่เป็นนิจ เนื่องจากมันแวววาว และชวนเชิญให้ทดลองตลอดเวลา ที่สำคัญทั้งสองนุ่งสเกิ๊ตสั้นจู๋ โชว์ท่อนขาอวบขาว ทำให้วีระพงษ์เผลอกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว มนูรีบแนะนำเพื่อนสาวทั้งสองทันที ที่ทรุดลงนั่งบนโซฟา
“เฮ้ยไอ้พงษ์ นี่..ข้าขอแนะนำให้เอ็งรู้จักกับซูซาน..” มนูแนะนำเจ้าหล่อนคนที่มีผมสีทองนัยตาสีฟ้าปนเขียว ซูซานยิ้มเปิดเผย ปรี่เข้าจับมือทักทายวีระพงษ์เป็นภาษาอังกฤษ “ไฮ..ฮาว อาร์ ยู… สวัสดีค่ะ คุณสุภาพบุรุษ หวังว่าเราคงสนิทสนมกันเร็วกว่าที่คิดนะคะ”
“ยินดีรู้จักครับ และผมก็หวังไว้เช่นนั้นเหมือนกัน” วีระพงษ์ตอบเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วจากทักษะแห่งการศึกษาระดับสูงอันหนึ่งของเขา
“แล้วก็นี่…เพ็ญนภา” มนูแนะนำเพิ่อนหญิงอีกคนหนึ่ง ที่ไว้ผมทรงบ๊อบสีดำขลับ
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ แอล.เอ.นะคะ” เพ็ญนภาทักทายขึ้นเป็นภาษาไทย น้ำเสียงเป็นกันเอง พร้อมกับสะเทิ้นสายตามองอย่างคนเจ้าชู้
“เอาละ… ทุกคนลงมือดื่มกินกันไปคุยกันไปดีกว่านะ” มนูตัดบท แล้วเชิญชวนให้ทุกคนเริ่มกินอาหารเย็นมื้อนั้น
อดีตสามีของฉันเล่าต่อไปว่า เมื่อเวลาผ่านไปสักสองชั่วโมง ทุกคนในวงอาหารก็สนิทสนมกันเป็นอย่างดี ถึงขั้นหยอกเย้าจับมือถือแขนกันอย่างไม่เคอะเขิน บางครั้งหยอกกันด้วยจูบ ซึ่งสองสาวต่างเชื้อชาติก็ไม่ถือสา เนื่องจากทั้งซูซานและเพ็ญนภาต่างก็รู้ความนัย ถึงการมาเยือนอพาร์ตเมนท์หลังนี้ ทั้งคู่ดื่มเบียร์เก่งพอๆกับมนูและอดีตสามีฉัน กระทั่งเบียร์หมดไปสองโหลกระป๋องแต่ละคนเริ่มมึน การหยอกเย้าลุกลามไปเป็นการกอดรัดฟัดจูบกัน ด้วยความเต็มใจของทุกฝ่าย มนูพยามยามจัดคู่ให้วีระพงษ์เข้าแนบกับซูซาน โดยกระซิบบอกเหตุผลว่าให้เขาทดลองหุงข้าวด้วย”หม้อฝรั่ง”ในฐานะผู้มาเยือน ส่วนเขาเองกอดรัดกับเพ็ญนภาอย่างเมามัน ในฐานะวัวเคยขาม้าเคยขี่กันมาก่อน
เวลาผ่านไปได้ไม่นานนัก ตัณหาและอารมณ์ใคร่ก็ครอบคลุมแก่คนทั้งหมด มนูพยักหน้าบุ้ยใบ้ให้วีระพงษ์พาซูซานเข้าไปในห้องนอนของเขา ส่วนตัวเขาเองก็ดึงเพ็ญนภาลงมาฟัดกันบนพื้นที่ปูพรมอ่อนนุ่ม ในห้องของมนูนั้นเอง…..
ซูซานนอนปรือตาด้วยแรงปรารถนาบนเตียง กระโปรงสั้นจู๋ของเธอ บัดนี้มันถูกร่นขึ้นมาจนเห็นเนินเนื้ออวบ ที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในสีขาววับแวม วีระพงษ์โถมร่างเข้าทับซูซาน สาวอเมริกันหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจ แล้วกอดตอบเขาแถมด้วยการประคองใบหน้าวีระพงษ์ขึ้นมา จูบปากอย่างดูดดื่ม ป่ายมือเปะปะลงไปที่เป้ากางเกงของเขา ลูบคลำมันอย่างพึงพอใจ เมื่อรู้สึกว่ามีอาการท่อนแข็ง ดุนดันออกมาจนกางเกงโป่ง วีระพงษ์ผู้ซึ่งไม่ยอมเสียเชิงชาย ขณะที่จูบให้ลิ้นพันกันภายในปากของหญิงสาว มือของเขาก็เลื่อนลงมาที่บัวเต่งคู่งามซึ่งอยู่ในเสื้อ พร้อมกับบีบเคล้นด้วยความเมามัน จนซูซานต้องถอนปากออก ครางลั่นเป็นภาษาอังกฤษ
“อูย.ย.ย….คุณอย่าบีบนมฉันแรงนักซี…ฉันเจ็บนะ”
“ขอโทษครับ… ผมเผลอตัวไปหน่อย เพราะคุณน่ารักน่า จูบไปทั้งตัว”
“น่ารักน่าจูบอย่างเดียวหรือคะ?” สาวผมทองนัยตาสีฟ้าถามอย่างยั่วสวาทและเชิญชวน ทำให้วีระพงษ์กระซิบข้างหูหล่อน “น่าฟักด้วยครับ มีส”
“โอ้..เยห์..” ซูซานสนองรับเบาๆ แล้วก็ผลักวีระพงษ์ออกจากอก ให้นอนหงายผลึ่งบนเตียง จากนั้นตัวเองก็ลุกขึ้นมายืนยิ้มกริ่ม ตาจ้องมองที่เป้ากางเกงของเขา แล้วใช้มือลูบไล้ไปมาเบาๆ ทำให้มันยิ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาภายในของวีระพงษ์ จนแข็งขึงขึ้นแทบปริออกนอกกางเกง ซูซานลูบของเขาพักหนึ่ง ก็ดึงเข็มขัดและรูดซิปกางเกงของวีรพงษ์ออก ปล่อยให้สิ่งที่ถูกขังอยู่อย่างอึดอัดเป็นอิสระ ดีดผึงออกมาอย่างท้าทาย !
“สิ่งนั้น”ของวีระพงษ์มีลำหักลำโค่นไม่เลวเลย ความยาวประมาณหกนิ้วครึ่ง อวบล่ำ เส้นเอ็นปูดโปน ฃรอบๆ ท่อนลำนั้นมองดูน่าเกรงขามอยู่ในที ซูซานลูบไล้ท่อนเนื้อของวีระพงษ์อย่างเบามือ จนมันกระดกสู้หงึกหงัก ที่ปลายถอกมีน้ำใสๆไหลปริ่มออกมา สาวอเมริกันเห็นแล้วยิ้มด้วยความพอใจ ก้มลงจูบส่วนหัว พร้อมกับใช้ลิ้นเรียวของหล่อนเลียน้ำใสนั้นอย่างละเลียดไร้ความรังเกียจ ตามแบบฉบับเซ็กส์สไตล์ตะวันตก ซึ่งเดี๋ยวนี้แพร่หลายนิยมไปทั้งโลก วีระพงษ์แอ่นตัวสะดุ้งเพราะไม่ทันระวังตัว หล่อนค้อนเขาอย่างคมคาย ถอนปากออกจากท่อนลำ แล้วดีดปืนโตของเขาเล่นเบาๆเป็นเชิงหยอก “อุ้ย…ใจร้อนจริงคุณนี่”
“โธ่..ก็คุณเล่นเลียของผมอย่างนี้ ใครจะไปทนไหว” วีระพงษ์พูดยิ้มๆ ทั้งที่สิ่งซึ่งซูซานคลึงเคล้าเล่นในมือตั้งชี้โด่เด่
และ…ที่ประตูห้องซึ่งเราสองคนแง้มเอาไว้เพียงเล็กน้อย วีรพงษ์บอกกับฉันว่าเขาและซูซานเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ลางๆ ซูซานชายตาชำเลืองมองไปทางนั้น ก็รู้ว่ามีสายตาสองคู่แอบดูอยู่ หล่อนจึงแกล้งยั่วยวนให้คนแอบดูงุ่นง่านมากขึ้น โดยการค่อยๆปลดเปลื้องกระโปรงและเสื้อออกจากร่าง เหลือแต่บราเซียตัวน้อยพร้อมกับซับในบางๆสีขาว เพียงสองชิ้นคาดบนและล่างไว้ ปล่อยเนื้อส่วนอื่นให้ออกมาอวดแสงไฟในห้องเป็นสีชมพูอ่อน อวบอัด ไปหมดทั้งตัว อ้า….สีของผ้ากับผิวเนื้อของหล่อนช่างกลมกลืนกัน ยั่วยวนกวนอารมณ์เสียเหลือเกิน อกอวบล้นหลามอยู่ในบราเซีย มองแล้วชวนให้เกิดอารมณ์ยิ่งนัก หล่อนหันมาชม้อยตามองดูวีระพงษ์ ซึ่งนอนเปลือยท่อนล่างอยู่บนเตียง พร้อมกับเข็มทิศแท่งใหญ่ตั้งตรง ชี้ขึ้นทางทิศเหนืออย่างขึงขัง สาวเซ็กส์เลือดมะกันไพล่มือไปแกะแป๊ะด้านหลังออก รูดบราเซียโยนทิ้งไป
พลันนั้น…. ท่อนบนของหล่อนก็เปลือยเปล่า ปทุมถันอวบอั๋นขาวอล่องฉ่อง ดีดดิ้นออกมาชูสล้างเต็มอก โอ…. มันอวบอัดเบียดเสียดกันทั้งสองเต้า ปลายยอดงอนงามเชิดชี้อวดสีทับทิมแดงจัด มีตุ่มเล็กๆผุดขึ้นรอบๆฐานเป็นป้าน ซูซานช้อนมันขึ้นมากำบีบเล่นเบาๆอย่างยียวนสวาท “อื้อฮือ..ซูซานนี่นมสวยเหลือเกิน” มนูซึ่งแอบดูอยู่กับเพ็ญนภาครางออกมาอย่างลืมตัว ส่วนตาก็จ้องมองอย่างไม่กระพริบ (เหตุการณ์แอบดูตอนนี้มนูได้มาเล่าให้ฉันฟังภายหลัง ฉันจึงมีรายละเอียดการแอบดูของคนทั้งสองมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟัง..) เพ็ญนภาซึ่งแอบดูอยู่ข้างๆเหมือนกัน หันมาค้อนแล้วเอ่ยปาก “ฮึ!..แล้วของเพ็ญล่ะคะ ไม่สวยรึไง?” มนูหัวเราะหึๆ “ก็ถอดออกมาบ้างซื ผมจะได้รู้ว่าสวยมั้ย?”
ในขณะเดียวกัน ซูซานสาวอเมริกันร่างอวบ ก็ก้มลงถอดซับในบางนั้นออกจากร่าง ยามนั้นทั้งร่างของหล่อนจึงเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ขาวโพลนสะโพกผายอล่างฉ่าง โคกรักโหนกง้ำขึ้นมา แผ่ขยายเต็มหว่างขา ขนไหมสีทองสีเดียวกับเส้นผม ละเอียดอ่อนขึ้นเป็นพุ่มพงอยู่เต็มเนินรักนั้น สำหรับซูซานนั้น มนูเคยเย่อกับหล่อนมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่วายที่จะต้องเบิกตาจ้องมอง ที่เนินนูนโหนกของสาวร้อนชาวอเมริกันผู้นี้ ทางฝ่ายวีระพงษ์นั้นเล่า… แน่นอนละ เขาเพ่งพิศกระพุ้งก้นผายใหญ่หนั่นหนา เครียดไปด้วยเนื้อสาวประกบกันแน่น ยิ่งมองก็ยิ่งคึกจนท่อนสวาทลุกโชนส่ายหัวหงึกหงัก ยามเมื่อซูซานหันมา….อ้า!….สวรรค์ทรงโปรด… เนินนูนโหนกง้ำอลึ่งฉึ่งของสาวน้อย มันช่างน่าให้ทำอะไรต่อมิอะไรเสียเหลือเกิน…
ซูซานหันหน้าไปทางวีระพงษ์ที่นอนหงายอยู่บนเตียง เท่ากับหล่อนหันก้นให้กับมนูได้ยลโฉมกระพุ้งแก้มก้นสองก้อน ที่เบียดแน่นและงอนงาม จนมนูครางออกมาเบาๆ….. “อืมม์…มันน่าจับโก้งโค้งแทงเสยข้างหลังแท้ๆ” เพ็ญนภาที่แอบดูอยู่ข้างๆซัดเผียะเข้าให้ที่ต้นแขนแล้ว ค้อนตาคว่ำ “บ้าจริง….นูนี่แหละ…ของอยู่ข้างๆนี่ไม่สน กลับไปสนอะไรก็ไม่รู้” มนูหัวเราะหึ แล้วจุ๊บปากบางของหล่อนครั้งหนึ่ง “สนซีจ๊ะ… แต่ขอปลุกอารมณ์อีกนิด เพ็ญล่ะ ก็อยากดูเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
ซูซานยืนบิดกายเนิน อวดโคกอย่างยั่วยวนกวนสวาท แล้วก็เดินย้ายส่ายสะโพกไปข้างเตียง วีระพงษ์ผวาร่างลุกขึ้นมา โอบตูดบีบขยำเล่น ส่วนใบหน้าก็ซบลงบนเนินนูนของหล่อน จูบฟัดไปมาอย่างมันเขี้ยว ลิ้นของเขาแลบออกมาเลียพุ่มพงของหล่อนจนราบเอน ซูซานสะดุ้งสูดปากครางซี๊ดซ๊าดเบาๆ ส่ายสะโพกคลึงเนินของตนเองกับใบหน้าของเขา “ซี๊ดดดด์…อูยยย…วีขา… ฉันเสียวค่ะ… คุณจูบพุซซี่ของฉันแบบนี้ ฉันชอบค่ะ…. เรามาช่วยกันทำดีกว่านะคะ” หล่อนพูดแล้ว ก็ก้าวขาขึ้นคร่อมคุกเข่าทับใบหน้าเขาไว้ในท่า69 หรือเท่ากับกลับหัวกลับหางนั่นเอง แหกขาอ้าหอยให้เขาดูดเม็ดติ่ง ส่วนหน้าสวยของ หล่อนก็ก้มลงไปหาท่อนรักที่ชี้โด่โงนเงน หล่อนจับมันรูดขึ้นลงเล่นสองสามครั้ง แล้วอ้าปากอมส่วนหัวหายเข้าไปในปาก พร้อมดูดเสียง จ๊วบจ๊าบอย่างเอร็ดอร่อย อีกมือหนึ่งของหล่อนก็ลูบรีดถุง”ลูกพลัม”สีคล้ำ ที่ห้อยยานของเขาอย่างเพลินมือ จนสอง”เม็ดพลัม”ในถุงนั้นวิ่งขึ้นวิ่งลงตามแรงลูบของฝ่ามือ
วีระพงษ์โดนเข้าอย่างนี้ ถึงกับผวาร่างขึ้นกอดตูดผายใหญ่ของหล่อนเอาไว้แน่น พลางดูดติ่งเสียวของหล่อน เป็นพัลวัน ส่วนเอวนั้นก็เด้งดันท่อนสวาททิ่มปากหล่อนผลุบผลับ สาวน้อยผมทองอ้าปากออกอมรูดท่อนเนื้อเข้าไปเกือบค่อนด้าม เม้มปากงับกระชับให้เข้าที่ แล้วใช้ปากรูดขึ้นรูดลงอย่างสนุก จนริมฝีปากหล่อนปลิ้นเชิดน้ำลายเปียกโคนเสากระโดง ที่รกเรื้อไปด้วยพงหญ้าสีดำ ไหลย้อยลงไปถึงพวงลูกพลัมสองลูกนั้น สะโพกผายของซูซานนั้นเล่า ก็ส่ายไปมาให้เนินโหนกโคกพูนคลึงกับใบหน้าของเขา วีระพงษ์ก็สอดลิ้นพุ่งเข้าไปแซะไซ้รูหลืบอย่างเมามัน จนเปียกชุ่มเช่นกัน ต่างปลุกอารมณ์พิศวาสให้แก่กันอย่างถึงขีดแล้ว ซูซานก็โหย่งก้นขึ้น ปล่อยปากออกจากท่อนรักของหวง ร่างงามได้สัดส่วนที่เปลือยเปล่า ก็เลื่อนไปนั่งคร่อมบั้นเอวของวีระพงษ์ ใบหน้าสวยของหล่อนก้มต่ำ สอดมือมากำโคนเสากระโดงของเขาแน่น
“ซี๊ดดด…อูย์ย… แหวกของฉันซิ..วีขา…” เสียงหวานแต่สั่นเครือ บ่งบอกอารมณ์กระสันเสียว กระซิบเขาที่ริมหู แค่นั้นเอง..วีระพงษ์ก็เข้าใจได้ดี ว่าหล่อนต้องการให้เขาทำในท่าโลดโผน เขารีบผงกหัวขึ้นมาแบะสองกลีบแคมของปากทางให้อ้าหวอออกไปอีก จนมองเห็นสีแดงฉ่ำเยิ้ม ขมิบตาน้ำให้ซึมไหลเยิ้มเต็มปากถ้ำ ……และแล้วสะโพกผายใหญ่ของซูซานก็หย่อนต่ำลงมา จนส่วนปลายมู่ทู่แตะปากรู สาวผมทองกดผลุบอันเป็นจังหวะเดียวกับวีระพงษ์กระเดิ่นหอกสวาทสวนขึ้นไป เสียงดัง พรื่ด!!…. “ว้าย..ตายแล้ว..!!!” ซูซานร้องลั่นเนื่องจากไม่ทันระวังตัว “อูยยยย…ซี๊ด…ซูซานจ๋า…” ทั้งสองครางออกมาพร้อมกัน เมื่อท่อนลำขนาดพอเหมาะกับเนินสวรรค์ ถูกปากถ้ำของสาวอเมริกันเขมือบเข้าไปเกือบหมดดุ้น สองกลีบแคมแบะปลิ้นติดง่ามก้น ซูซานฟุบหน้าลงกับข้อเท้าของวีระพงษ์ แล้วขยับก้นขึ้นลง พร้อมๆกับวีระพงษ์นอนหงาย กระเด้งท่อนขึ้นแทงสวน ตาก็จ้องมองก้นอันอวบขาวผ่อง ที่กว้างราวกับปากแตร ยิ่งกลีบสวาทที่ปลิ้นเข้าปลิ้นออกผลุบๆโผล่ๆ ตามแรงที่เขากระทั้นขึ้น ทำให้วีระพงษ์เงี่ยนง่านเป็นที่สุด
“ว๊าว… มันช่างเอากันได้มันดีแท้ๆ” มนูอุทานออกมาแล้วหันไปทางเพ็ญนภา (….ให้ตายเถอะ…เพื่อนๆที่รักคะ.) บัดนี้หล่อนล่อนจ้อนอยู่ในชุดวันเกิดเสียแล้ว ใบหน้าของหล่อนแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุก ตาปรือเยิ้มไปด้วยอามรณ์พิศวาสสุดขีด และภาพที่มนูได้เห็นก็คือ…ปฏิบัติการต่อตัวเองของเพ็ญนภา….. หล่อนกำลังนั่งถ่างขาอ้าซ่าแยงแหย่นิ้วเข้ารูตัวเองอย่างที่สุดของความอยาก ส่วนตาก็มองดูภาพของวีระพงษ์และซูซาน ตามรอยแง้มประตูอย่างอร่อยนิ้ว มนูเห็นดังนั้น..จึงไม่รอช้า รีบเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็ว เหลือเนื้อตัวล่อนจ้อนเป็นชุดวันเกิดเช่นกัน ปล่อยให้จรวดอวกาศท่อนยาวดีดผึงออกมาโด่เด่ เขาดึงร่างของเพ็ญนภาเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า หล่อนเข้าใจความหมายได้ดี ว่ามนูต้อง การอะไร? จึงอ้าปากอมหัวจรวดบานเบิกที่ออกเป็นสีม่วงคล้ำ แล้วพุ่งลิ้นอันอ่อนนุ่มออกแลบเลียดุบๆ มนูสูดปากหน้าตาเหยเก สะดุ้งเยือกๆ ยกมือกอดหัวหล่อนกระชากเข้าออก แต่ตาของเขายังคงมองภาพการสมสู่ระหว่างสาวผมทองกับเพื่อนรัก
(โอยยย..ขณะที่ฉันเขียนบรรยายเรื่องเล่าอยู่นี้ ฉันก็แทบจะไม่ไหวเหมือนกัน ในช่องหอยที่ฉ่ำแฉะของฉันเริ่มจะกระตุกเป็นระยะๆอีกแล้ว และภาพที่ฉันจะบรรยายต่อไปนี้ เป็นภาพการร่วมสวาทอย่างถึงพริกถึงขิงตามที่วีรพงษ์เล่าให้ฉันฟัง…. อูยยย… ฉันเองก็ไม่สามารถบอกได้เหมือนกันว่าจะบรรยายได้จบตอน ก่อนที่จะดึงเอาวีระพงษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน มาเอากันต่อแก้เงี่ยนหรือไม่……).
วีระพงษ์…ตามเรื่องเล่าของเขา ขณะนั้นนอนหงาย อาวุธแห่งความเป็นชายชี้โด่เสียบเข้าไปในร่องหลืบอันแดงอร่ามเปียกชื้นของซูซาน หล่อนซบหน้าลงบนข้อเท้า ก้นก็โหย่งขึ้นลงขย่มตอฮวบๆอย่างเอร็ดอร่อย จนสองกลีบแดงปลิ้นออกมา “อูยยยย…ซี๊ดดดด…อูย… มันเหลือเกิน…วีขา…. เอากันท่านี้ฉันชอบเหลือเกิน…คุณรู้ มั้ย?… มันเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานมาก…ซี๊ดดดด….” เสียงของท่อนเนื้อแข็งเกร็งเคลื่อนมุดทะลวงคูหาถ้ำสวาทดังสวบๆ ผสมกับเสียงสูดปากครางด้วยความเสียวอร่อย อย่างไม่ขาดระยะ
ส่วนมนูเองนั้นเล่า… ตาก็มองดูภาพเพื่อนส่วนก้น ก็กระเด้งยิกๆให้ท่อนจรวดเข้าทิ่มแทงปากแดงสดเต็มอิ่มของเพ็ญนภาไปด้วย ปากบางของเพ็ญโสมเชิดปลิ้น แต่หล่อนก็ยังคงผงกหัวดูดของเขาจ๊วบๆอย่างเอร็ดอร่อย “ดูดพวงบ้าง..เพ็ญจ๋า… ซี๊ดดด… ฮึ่ม….ไอ้สองคนในห้อง มันช่างเอากันได้อร่อยดีจริงๆ…” มนูพูดเสียงแหบๆ แล้วเพ็ญนภาสาวเลือดร้อน ก็อ้าปากปล่อยท่อนเอ็นอันแข็งโชนเปียกน้ำลายเยิ้มออก ก้มหน้าลงไปช้อนเอาพวงไข่ห้อยยาน อ้าปากงับเข้าไปดูดเล่น..ทีละเม็ด ทำเอามนูหน้า เหยเกด้วยความกระสัน สักครู่หนึ่ง…. มนูพาร่างคู่ขาไปที่โซฟาตัวยาวกลางห้องรับแขก เขาประคองหล่อนขึ้นไปนอนเหยียดยาวบนนั้น โคกสวรรค์เรียวยาวมีเส้นไหมสีดำสนิทขึ้นปกคลุมเป็นนูนเนินเด่น ท้าทายอารมณ์อย่างร้ายกาจ
ยังไม่ทันที่จะระวังตัว…..มนูกลับฟุบหน้า ลงจูบฟอดๆอย่างเสน่หา ก่อนที่จะแลบลิ้นยาวออกมาเลียกลีบกุหลาบ ที่ฉ่ำเยิ้มแผลบๆอย่างเอร็ดอร่อย เพ็ญนภาส่ายบิดสะโพกเอี๊ยดอ๊าด ก้นส่ายเร่าๆ ชายหนุ่มจับสองกลีบแหวกออก แล้วพุ่งปลายลิ้นขยี้เม็ดงามจนมันลุกชันสั่นระรัว ตูดผายใหญ่ของหล่อนสั่นสะท้านหวั่นไหวไปด้วยความกระสันสุดๆนั่นละ ….มนูจึงได้จัดการขยับร่างของเขาเข้าไปนั่งประชิด สองมือแหกอ้าหลืบแดงอร่ามออกเป็นชวาก มองเห็นร่องรูแดงฉ่ำตีบลึกลงไปอย่างน่าเอ็นดู เขาค่อยประคองหัวจรวดมู่ทู่แต่บานเบิก จ่อลงตรงปากร่อง..แล้วดันกระเถิบเข้าไปช้าๆ เพ็ญนภาปรือตาขึ้นมอง ส่ายหน้าไปมาด้วยความแสบและเต็มกลืน ผมสลวยของหล่อนกระจายสยายเต็มเบาะโซฟา ท่อนขาทั้งสองของหล่อนนั้นเล่า ก็แหกอ้าจนสุดล้า… มนูออกแรงดันพรืดเข้าไป จนสองกลีบบู้ตามแรง เม็ดสวาทกระดกวาบ…… จากนั้นเขาก็เล่นวิธีชักลูกสูบเตาไฟเข้าๆออกๆอย่างสนุกและมันเขี้ยว อา….. บัดนี้โคกง้ำงับท่อนจรวดจนปริอ้า เม็ดละมุดขึ้นขี่บนสันลำจรวดที่ขรุขระด้วยเส้นเอ็นโปนอย่างน่าดู….
“ซี๊ดดด….ซี๊ดด์…ค่อยๆก่อนค่ะ…นูขา… ซี๊ดดด…มัน…มันคับ…. เพ็ญแสบค่ะ…ซี๊ดดด…อูยยยย… ของนูใหญ่จังเลย… อูยย….ปากรูหอยแน่นไปหมดแล้ว… ซี๊ดดดด….โอ้ยยยย..” เพ็ญนภาร้องครางเบาๆ ท้องน้อยของหล่อนแขม่วเป็นลอนคลื่น เนินสวาทพองอูมขึ้นมา เพราะอมแท่งใหญ่เข้าไปเต็มคราบ มนูดันเข้าไปมิดแล้วมิดอีก แล้วยังส่ายก้นไปมา ให้เกิดการคว้านควักภายในอย่างทั่วถึง
“ซี๊ดดด….เพ็ญจ๋า… ของเพ็ญช่างคับดีแท้…ซี๊ดด์…. คอย…คอยแอ่น…แอ่น…แอ่นให้ดีๆนะ… ผมจะกระเด้าให้น้ำลายหกเชียว…ซี๊ดดด…”
“วุ้ย…นูนี่แหละเซี้ยว ใหญ่แล้ว…” เพ็ญนภาค้อนคม หน้าตาแดงก่ำด้วยพิษสวาท ยามเมื่อท่อนเอ็นของเขาเข้าไปเต้นหงึกๆอยู่ในช่องแคบ หล่อนมองลอดไหล่ เขาไปยังเห็นภาพการพันตูระหว่างวีระพงษ์กับซูซานอยู่ไวๆตามรอยประตูที่เผยออก
บัดนี้…ซูซานกำลังขย่มตอของวีระพงษ์ในท่ากลับหัวอย่างเมามัน… “ซี๊ดดด…อูย…ดีเหลือเกิน..วีขา… เด้งอย่างนั้นดีค่ะ.. ซี๊ดดด..เป็นไงบ้างวีขา… ฟักกิ้งกับซูซานอร่อยมั้ยคะ…แล้วก็…ซี๊ด… ตูด…ตูดซูซานใหญ่มั้ยคะ?… ซี๊ดดดดดด…” ซูซานหันหน้ามาถามด้วยเสียงสั่นๆ
“ใหญ่ซีจ๊ะ…ตูดใหญ่…นมโต…ซี๊ดดด…….. โคกกะเปาะ น่ารัก… น่า…น่าฟัดให้มันขาดใจตายคารูเสียจริงๆ…ซูซานจ๋า.. ซี๊ดดด์….”
“อุ้ย…บ้าน่ะ…ไม่เอานะคะ… อย่าเย็ดซูซานให้ถึงตายเลย… ซี๊ดดด์…” (ความจริงสาวผมทองพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “ฟักกิ้ง” แต่เมื่อแปลเป็นภาษาไทยให้ถึงใจก็คือ..”เย็ด”นั่นเอง) ซูซานหันมาค้อนอีกครั้ง แก้มสาวแดงปลั่งไปด้วยเลือดแห่งความอยากฉีดแรง
วีระพงษ์หัวเราะในลำคอ แล้วเขาก็ชักขาออก ประคองก้นผายของหล่อนให้โย้ขึ้นสูง ส่วนร่างแมนของเขาก็ลุกขึ้นคุกเข่าประกบง่ามตูด กดต้นคอของหล่อนให้ฟุบต่ำลง ท่านี้ทำให้โคกนูนของซูซานปลิ้นออกมา ใต้ง่ามตูดจนหมดสิ้น สองหลืบ..อวัยวะส่วนสำคัญของหล่อนปริอ้า อมส่วนสำคัญเขาแน่น ขณะที่เขาห่มกระเด้าตาก็มองดู…… เห็นกลีบเนื้อหลืบเร้นปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามแรงกระหน่ำ แล้วยิ่งเสียวใจมากขึ้น แรงกระแทกยิ่งเร่าร้อนดุเดือดยิ่งขึ้น จนร่างเปลือยของสาวผมทองง้ำหน้าง้ำหลัง แต่สาวอย่างซูซานไม่มีการย่อท้อเพราะหล่อนเองก็สุดแสนจะอร่อยจนน้ำลายย้อย ต้องส่ายก้นกระดกขึ้นแอ่นอ้าให้เขากระแทก ใส่อย่างไม่ระย่อ
“โอยยยยย…โอยยย…ซี๊ดดดดด… อร่อยรูเหลือเกิน…วีขา…” ซูซานยิ่งครวญคราง วีระพงษ์ก็ยิ่งโหมแรงตะบันเข้าไป อย่างไม่ปรานีปราศัย แท่งยาวดำทะมึนแทงสวนเข้าออกปากรูที่อ้าแดงเสียงดังฟูบฟาบๆ!! เพราะแรงลมที่อัดเข้าออก หนอกรกพงหญ้าสีดำกระทบง่ามก้นขาวผ่องของซูซานดังผับๆ!! เล่นเอาสาวเจ้าหัวง้ำหัวคลอน
” อูยยยย..วีขา…ฟักมีพลี๊สสสส… ฟักมี….. ฟักมีฮาร์ดแอนด์แฟสเตอร์… ซี๊ดดด…โอวๆ…เยสๆ..อะฮะ..อูว…. อูยยยย… ไอ..ไอ..ไอวิลคัมนาว…โอววว… จวน..ฉันจวนแล้วค่ะ… อูย…ซี๊ด…โอ มายก๊อด..ทำไมถึงได้ อร่อยอย่างนี้…” แหม่มสาวผมทองร่ำร้องเป็นภาษาอังกฤษ เสียงสั่นรัวด้วยความกระสันเสียวสุดๆ (ฉันเขียนออกมาเป็นภาษาไทยบ้าง ก็เพื่อให้เพื่อนๆได้รับบรรยากาศ”ฟักกิ้ง”แบบไทยๆ)
“โอววว….. ผมก็….ซี๊ดดดด…ก็จะ…จะออกเหมือนกัน…. ซูซานจ๋า…ของคุณช่างคับ’ฟัก’มันส์อะไรอย่างนี้… อูยยยย…ซี๊ดดดดด… มันดูด… พุซซี่ของคุณมันดูดของผม จนทนไม่ไหวแล้ว…… ซี๊ดดดด….กระดกก้นขึ้นมา…ที่รัก… ผมจะตะบันให้ออกเลยนะ..ซี๊ดดดด..”
“เอ้าค่ะ…วีขา…ซี๊ดดด….. เอ้า…ฉันแอ่นก้นให้แล้ว ตะบันเข้ามาเลย…ซี๊ดดดด….. หนักๆค่ะที่ รักขา…. หนักๆ.. อูยยย์….น่าน…ซี๊ดดด์….. ว้ายยยย…ตายแล้ว… ถึง…ถึงแล้ว…. ซี๊ด.ดด..ถึงแล้วค่ะ…ซี๊ดดด……โอยยยยย….”
สาวน้อยผมทองผู้ร้อนรักหวีดผวา เมื่อถูกชายหนุ่มซอยอย่างถี่ยิบแทบดูไม่ทัน สองมือก็ขยี้ขยำคลึงเคล้นเต้านมสาวแทบแหลกเหลว สาวสวยส่ายก้นให้ เขาทะลวงเร่าๆ เขายิ่งตอกตะบันผับๆจนสองกลีบปลิ้นทะเล้นยับเยิน ร่องรูแทบจะแหกครากไปด้วยความมันของชายหนุ่ม
วีระพงษ์ชักอาวุธประอาวุธประจำกายพรืดออกมา แล้วตะบันฉับเข้าไป น้ำรักอันร้อนผ่าวพุ่งกระฉูดเข้าท้องน้อยและรังไข่ที่อ้าบานของหล่อนพลั่กๆ!! ทำให้ซูซานผวากระตุกร่างเปลือยเกร็งไปทั้งตัว สองมือขยำขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น หล่อนขมิบหลั่งน้ำรักออกมา ชะโลมท่อนของเขาเป็นการตอบโต้มากมาย จนลื่นตลอดทั้งลำ แล้วก็นอนคว่ำกางแขนกางขาอ้าซ่า ด้วยความอ่อนเพลีย ปล่อยให้หนุ่มเพื่อนรักของมนูนอนทับ ท่อนสวาทจุกคาช่องทางอยู่อย่างนั้น
โอยยย…เพื่อนๆชาว”หลุดโลก”เจ้าขา… ฉันเขียนตามคำบอกเล่าของอดีตสามี(เดี๋ยวนี้กลับมาเป็นสามีอีกดังเดิมแล้ว)ที่ชื่อวีระพงษ์มาถึงแค่นี้ ฉันก็จะขาดใจตายเสียให้ได้แล้ว หอยของฉันฉ่ำแฉะเนืองนองไปด้วยน้ำเหนียวเต็มไปหมดแล้ว….. ขอจบตอนนี้ไว้เพียงแค่นี้ก่อนค่ะ แต่เรื่องยังไม่จบค่ะ ยังมีอีกเยอะมาก หลังจากวีระพงษ์เอากับซูซานเรียบร้อยแล้ว เขายังโดนบุกจากอีกสาวหนึ่งที่มากับซูซาน… โอยย…คุณๆเจ้าขา ฟังเขาเล่าแล้ว มันส์สุดๆเลยค่ะ… ฉันจะเล่าให้ฟังตอนหน้านะคะ.. ตอนนี้ขอเอากับสามีให้หายอยากก่อนค่ะ รูของฉันมันขมิบตุ้บๆจนทนไม่ไหวแล้ว… ลาก่อนค่ะ พบกันใหม่ตอนหน้า