อสูรพลิกฟ้า NTR - ตอนที่ 2 คำตอบของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์
ตอนที่ 2 การยอมรับของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์
“เหอะ เรื่องขนาดยังไม่ร้ายแรงเท่าการหลั่งเร็วของมัน จะว่าไป ครั้งที่ข้ามาถึงมนฑลอุดรและพบกับหยุนเช่อในอาณาจักรเหมันต์บูรพา พวกเราฝึกคู่ร่วมกันเป็นครั้งแรก ข้าเริ่มสังเกตตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อมันฉีกอาภรณ์ข้าออกเป็นชิ้น ๆ จดจ้องร่างเปลือยข้าด้วยสายตาหยาบโลน แต่เพียงอึดใจที่มันสอดใส่เข้ามา ข้ายังไม่ทันร้องครางจนสุดเสียง ความเจ็บปวดจากการเสียพรหมจรรย์ยังไม่ทันทุเลา หยุนเช่อก็เสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว พอมาคิดดูอย่างถี่ถ้วน ปัญหาการหลั่งเร็วต้องเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หยุนเช่อชอบให้คนรักหลับนอนกับชายอื่น”
“โอ้ เจ้ายังจำอาณาจักรเหมันต์บูรพาอันเล็กจ้อยได้… ดูท่าเจ้าจะชอบที่ที่ได้ลงเอยกับหยุนเช่อเป็นครั้งแรกมาก”
ระหว่างกล่าวคำ นิ้วงามของฉืออู่เหยาที่สัมผัสผมของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็ค่อย ๆ เคลื่อนลงอย่างช้า ๆ จากนั้นวางลงบนทรวงอกแสนอวบอิ่ม ส่วนมืออีกข้างที่ยังจับอยู่บนชุดก็จัดแจงดึงกระโปรงยาวขึ้นโดยที่เจ้าของไม่ทันตั้งตัว นางสอดนิ้วผ่านชุดชั้นในเพื่อลูบไล้ส่วนสงวนอันเป็นที่ต้องห้ามของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์โดยตรง
“เห็นทีสายตาข้าจะมองไม่ผิด ระหว่างที่เจ้าแอบมองเชื้อบุรุษที่ไหลลงจากหว่างขาข้า…เจ้าเองก็บังเกิดความหวาบหวามเช่นกัน…ตรงนี้แฉะหมดแล้ว”
ฉืออู๋เหยายกมือที่พึ่งสอดเข้าไปในชุดชั้นในฝ่ายตรงข้ามออกมา และยื่นออกไปต่อหน้าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์เพื่อให้นางเห็นว่าน้ำใสหนืดที่หลั่งออกมาจากร่องลับเจ้าตัวทำเอามือของฉืออู๋เหยาเปียกชุ่มไปหมด
“แน่นอน ข้าไม่เคยคิดสิ่งได้ผิดพลาด ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่คัดค้านการกระทำนี้แต่ลึก ๆ ยังยินยอมพร้อมใจและเพลิดเพลินไปกับมัน… อืม~~~~ ยอดเยี่ยม สตรีที่งดงามเช่นเจ้ากระทั่งน้ำรักก็ยังหอมหวาน”
ครั้นกล่าวจบ ฉืออู๋เหยาก็เลียมือของตัวเองที่แปดเปื้อนน้ำรักของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ด้วยลิ้นของนาง
“อย่าบังอาจดูแคลนข้า เจ้าควรดูตัวเองเสีย เพียงไม่นานหลังจากหลับนอนกับไส้เดือนตัวน้อยของหยุนเช่อที่หลั่งเร็วปานนั้น เจ้ากลับกลายเป็นคณิกาชั้นต่ำและพ่นแต่วาจาหยาบคาย ไม่เหลือเคล้าราชินีปีศาจอันสูงส่งที่ทุกคนนับถือแม้แต่น้อย”
“ฮิฮิ ไม่ว่าจะลงเอยเช่นไร… ข้าก็ยังเป็นข้าคนเดิม เพียงเปลี่ยนกลายเป็นแบบที่หยุนเช่อชอบ อีกทั้งเจ้ายังกล่าวผิดไป ข้าหาใช่คณิกาไม่ โสเภณีขายเรือนร่างเพื่อแลกเงิน แต่ข้าหลับนอนกับผู้อื่นโดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน มันต่างกันสิ้นเชิง”
“เหอะ”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์พ่นลมออกมา ความหน้าหนาของฉืออู๋เหยาเกือบจะทัดเทียมหยุนเช่อไปแล้ว
“…ช้าก่อน หากเจ้าพึ่งบอกข้าเป็นคนแรก ภายหลังเจ้าก็จะบอกผู้หญิงคนอื่นของหยุนเช่อในเรื่องความชอบ ‘พิเศษ’ ของมันเช่นกัน?”
ก่อนที่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์จะพูดจบ ฉืออู่เหยาก็จู่โจมจุดอ่อนไหวของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์อีกครั้งด้วยมือที่พึ่งเลียจนสะอาด แต่หนนี้ไม่ใช้แค่การลูบคลำ นางสอดนิ้วที่ขาวเรียวดุจเทียนไขของตนเข้าสู่ร่องลับอันตีบแคบของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์จนสุดโคน
“ถูกต้อง ในฐานะจักรพรรดินี ข้าได้ยอมสละร่างกายส่วนตัวเพื่อความโปรดปรานของฝ่าบาทแล้ว ข้าจะปล่อยให้นางสนมคนอื่นถูกหมางเหมินให้เหี่ยวเฉาตามลำพังได้ยังไง หยุนเช่อมีภรรยาตั้งมากมาย ก็ควรแจกจ่ายออกไปให้ทั่วถึงสักหน่อย อย่างน้อยหนึ่งคนต้องร่วมรักกับบุรุษมากกว่าหนึ่งพันจึงจะใช้ได้”
“เจ้า…อยากตายรึไง? แม้มันจะเป็นสิ่งที่หยุนเช่อต้องการ แต่มู่เซวียนหยินผู้นั้นย่อมปฏิเสธและค้านหัวชนฝา ส่วนจ้าวพิภพแดนประกายแสง อย่าว่าตัวแต่เจ้า ต่อให้หยุนเช่อเป็นคนร้องขอ ให้นางเปลื้องผ้าและเปิดเผยต่อผู้คนในแดนเทพ นางคงจะไม่ยินยอม ยิ่งไปกว่านั้น…ยังมีหมาป่าสวรรค์น้อย ถ้านางรู้เข้า นางจะฆ่าเจ้าทันที”
“ฮิฮิ ตั้งแต่เริ่มช่วยหยุนเช่อข้าก็วางแผนถึงอนาคตแล้ว ไม่ต้องกังวลไป เมื่อข้าตัดสินใจลงมือ ย่อมมีวิธีจัดการให้เกิดผล”
ฉืออู๋เหยาเผยรอยยิ้มลี้ลับ แต่จังหวะที่นางสอดนิ้วเข้าไปในโพรงสวาทของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ นางกลับสัมผัสได้ถึงชั้นเยื้อบางอย่าง ร่างงามพลันตัวแข็งไปชั่วครู่ ทว่าก่อนที่ฉืออู่เหยากำลังจะถาม
“อืม…ข้ารู้ว่าเจ้าอยากถูกอะไร…แกนหยินของข้า…มันยังมีอยู่…อ่า…แต่เหลืออีกไม่มากแล้ว ด้วยขนาดของหยุนเช่อมันไม่อาจทำลายได้หมด”
ถูกต้อง สิ่งที่ฉืออู่เหยาจับได้คือสัมผัสของเยื่อพรหมจรรย์ แต่เป็นอย่างที่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์บอกไป มันเหลือแค่ไม่กี่ส่วนเท่านั้น ฉืออู่เหยายิ้มอีกครั้ง เป็นเช่นนี้เอง สามีของเธอบกพร่องในด้านนี้อย่างที่สุด กระทั่งตัวของฉืออู่เหยาเองมันก็ไม่สามารถเจาะเยื่อพรหมจรรย์ได้ทั้งหมด ฉืออู่เหยาจำเลือดที่ไหลตอนนางทำกับ “คนคนนั้น” ได้ เดิมทีนางคิดว่าเครื่องเพศตนฉีกขาดจึงมีเลือดออก แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่าเยื่อพรหมจรรย์ของนางอาจคล้ายคลึงกับเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ในเวลา ความบริสุทธิ์ไม่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ฉะนั้นถ้ามองในแง่หนึ่ง “คนคนนั้น” ย่อมถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของนางเช่นกัน
ทันใดนั้นเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็ตัวสั่นเล็กน้อยจากน้ำมือของฉืออู่เหยา แต่นางยังคงมองเธออย่างสงสัย
“แล้ววิธีการที่เจ้าพูดถึงคืออะไร?”
“เจ้าลืมไปแล้วหรือ?
วิชาดับวิญญาณของฉืออู่เหยาสามารถสิงหรือช่วงชิงดวงวิญญาณของคนอื่นได้โดยไม่รู้ตัว แต่อย่างมากที่สุดมันสามารถเห็นสิ่งที่พวกเขาเห็นและรู้สึกสิ่งที่พวกเขารู้สึกเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงการควบคุมแต่อย่างใด
เมื่อเห็นเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ยังดูสับสน ฉืออู่เหยาจึงพูดต่อ
“ข้ารู้ว่าเจ้าสงสัยอะไร แน่นอนข้าไม่อาจทำเช่นนั้นได้เมื่อสองสามเดือนก่อน แต่หลังจากข้าผสานกายกับหยุนเช่อ พลังของเทพอสูรในร่างของมันได้ปลุกจิตวิญญาณมารของข้าให้ตื่นขึ้น ขีดจำกัดในการครอบงำวิญญาณเพิ่มขึ้นเป็นสิบคนในเวลาเดียวกัน และยังปลุกความสามารถในการควบคุมจิตใจอีกด้วย”
“ควบคุม…จิตใจ?”
“ถูกต้อง แต่ถึงจะเรียกว่าการควบคุม แต่มันก็เป็นเพียงคำชี้นำที่ถูกปลูกฝังอยู่ในจิตสำนึก… ตัวอย่างเช่น หากหมาป่าสวรรค์น้อยต้องมอบความบริสุทธิ์ให้กับคนแปลกหน้า ต่อให้หยุนเช่อจะเกลี้ยกล่อมขนาดไหน มันย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าข้าทิ้งคำชี้นำไว้ในใจของนาง มันก็จะเป็นไปได้”
หลังจากที่ฉืออู่เหยาสะกิดจุดที่ไวต่อสัมผัสของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็กรีดร้องทันทีพร้อมทรุดตัวลงกับพื้นด้วยขาที่อ่อนปวกเปียก
“ฮี่ฮี่ เป็นยังไง? เจ้าอยากกลายเป็นสตรีที่แม้แต่คณิกาก็ไม่กล้าเปรียบเทียบบ้างรึไม่?”
ฉืออู่เหยาจ้องไปที่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ที่ยังนั่งปวกเปียกอยู่บนพื้น
“ฮ่า…ฮ่าฮ่า…ฮ่า…ฉืออู๋เหยา…เจ้านี่มันเหลือเกินจริงๆ…แต่อย่างที่ข้าเคยพูดไว้…ไม่ว่าหยุนเช่อจะเป็นยังไง ข้าก็จะยืนหยัดเคียงข้างมันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ หากมันต้องการให้ฆ่าตาย ข้าก็จะตาย และบัดนี้เมื่อมันต้องการให้ข้าเป็นผู้หญิงชั้นต่ำและมากราคะ ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ!!”
เชียนเย่หยิงเอ๋อรพูดอย่างหนักแน่นหลังจากฟื้นตัวจากจุดสุดยอด
“ฮิฮิ นั่นเป็นคำตอบที่ดี แต่เจ้ารู้ว่าลมปากมันไม่เพียงพอที่จะเชื่อถือ… ใช่ไหม?”
ฉีหวู่เหยาจงใจแตะหน้าท้องที่ยื่นออกมาเล็กน้อยของตัวเองเนื่องจากมันอัดแน่นไปด้วยน้ำของบุรุษ แต่เพราะมันไหลออกมามากมายระหว่างคุย ท้องน้อยจึงไม่ยื่นออกมาใหญ่โตเหมือนคราแรกอีก ก่อนหยิบศิลาบันทึกภาพออกมาและเริ่มใช้งาน
“นี่เจ้า!”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ผู้ชาญฉลาดรับรู้ได้ในทันทีว่าฉืออู่เหยามีจุดประสงค์ใด นางพยุงร่างกายที่อ่อนแรงเล็กน้อยจากการถึงจุดสุดยอดขึ้น และค่อยๆ ขยับใบหน้างามล้ำเข้าไปอยู่ใต้ร่างของฉืออู่เหยา โดยสองตาประสานกับกลีบเนื้อของฉืออู่เหยาที่อ้าออกเล็กน้อยเล็กน้อย
พอเห็นว่าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์พร้อมแล้ว ฉืออู่เหยาก็กดมือลงบนท้องที่เต็มเปี่ยมด้วยเชื้อบุรุษของตน
ของเหลวในมดลูกถูกบีบโดยแรงกดจากภายนอกจึงเริ่มพุ่งตรงไปทางออก…ช่องคลอด แต่ถึงแม้เชื้อบุรุษจะมากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะใสดุจน้ำ มันเข้มข้นเหมือนยางไม้และตกลงใส่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ทั้งแบบนั้น บนใบหน้างามดั่งหยกพลันมีของเหลวที่เหม็นคาวเกาะกุมอยู่ถ้วนทั่ว และด้วยปริมาณอันมากล้นของมันเชื้อบุรุษที่หลั่งไหลอย่างไม่หยุดยั้งก็เริ่มย้อยไปทิศทางอื่น รวมถึงอาภรณ์สีทองที่สวมอยู่บนร่างก็ถูกน้ำของบุรุษปกคลุมตั้งแต่คอลงไป
สุดท้าย ฉีหวู่เหยาออกแรงกดท้องน้อยของตนมากขึ้น บีบเค้นเอาส่วนที่ตกค้างในมดลูกออกมาและปล่อยเข้าไปในปากของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ จากนั้นก้าวถอยหลังออกมาสามก้าวด้วยแววตาพึ่งพอใจ
ดวงหน้าของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ถูกครอบงำด้วยเชื้อบุรุษหนาราวกับหน้ากาก ตลอดทั้งใบเหลือไว้เพียงรูจมูกที่ใช้หายใจเท่านั้น ส่วนที่เหลือถูกปกคลุมด้วยน้ำขาวข้นแทบทั้งสิ้น ต่อให้มีคนมาเห็นก็จะไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงภายใต้หน้ากากน้ำเชื้อในเวลานี้คือ “เทพธิดาปรมันตร์” และภาพนี้ก็เหลือล้นที่จะยืนยันคำตอบของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ด้วยศิลาบันทึกภาพอย่างครบถ้วน
เมื่อเชียนเย่หยิงเอ๋อร์รับรู้สึกไม่มีของเหลวไหลลงมาอีก นางก็ใช้มือเช็ดเชื้อบุรุษที่เหม็นคาวบนผิวหน้าออกไป แต่ก็ยังทิ้งร่องรอยเป็นมันเงาที่ราวกับนางทาน้ำมันหอม เชื้อบุรุษที่ถูกเช็ดทิ้งก็ไหลตกไปโดนส่วนอื่น พริบตาเดียวท่อนบนของหญิงสาวก็เต็มไปด้วยน้ำเชื้อของผู้ชาย รวมถึงหน้าอกที่มีเพียงหยุนเช่อเท่านั้นที่สามารถเชยชม ขณะนี้มันแปดเปื้อนด้วยของเหลวจากใครที่ไหนก็ไม่รู้และซึมทะลุผ่านเนื้อผ้าลงไปถึงผิวกายโดยตรง กลิ่นน้ำหอมชั้นดีพลันถูกแทนที่ด้วยกลิ่นเหม็นที่คละคลุ้งตลบอบอวน
หลังจากจัดการน้ำเชื้อบนใบหน้าตัวเองเสร็จสิ้น เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ที่ในปากเต็มไปด้วยน้ำเชื้อก็ใช้ลิ้นกวาดเกลี่ยข้างในและรอบริมฝีปากเพื่อทำความสะอาด หลังจากลังเลครุ่หนึ่ง เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็กลืนลงคอ
“พอใจรึยัง?”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์กล่าวอย่างหงุดหงิด ถึงนางจะยอมของสาธารณะแบบสมัครใจ แต่รสชาติที่ค้างอยู่ในปากก็อดทำให้เชียนเย่หยิงเอ๋อร์รู้สึกคลื่นไส้ไม่ได้ มันต่างจากของหยุนเช่อที่นางดื่มกินเป็นประจำ มันเหนียวกว่า กลิ่นแรงกว่า และรสชาติเข้มข้นกว่า…
“แน่นอน ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือมากไปกว่าสิ่งที่เจ้ากำลังทำตอนนี้” ฉือู๋เหยาค่อยๆ เก็บศิลาบันทึกภาพที่ใช้เก็บเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างระมัดระวัง ก้อนนี้และก้อนอื่น ๆ ของนางจะถูกส่งมอบให้กับหยุนเช่อในภายหลัง มันจะต้องยินดียิ่ง
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัว..”
“เฮ้ เจ้าอย่าอับอายไป บัดนี้พวกเราเป็น “คู่หู” กันแล้ว ในอนาคตเราจะต้องมีอะไรกับแกนกายที่ใหญ่กว่า หนากว่า และดีกว่าของหยุนเช่อ แถมยังมีชายอื่นอีกจำนวนมากให้พลีกาย เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมากกับเรื่องแค่นี้…”
เมื่อเห็นเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ลุกขึ้นและหมายจะจากไป ฉืออู๋เหยาก็รีบพยายามรั้งนางไว้ นางทราบว่าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์รีบจากไปก็เพราะเธอต้องการล้างเชื้อบุรุษบนร่าง แต่ในอนาคต ฉืออู๋เหยาตั้งใจจะให้เชียนเย่หยิงเอ๋อร์คอยติดตามระหว่างทำ ‘ภารกิจ’ นางจึงต้องคุ้นชินกับการสภาพที่มีเชื้อบุรุษท่วมตัว อย่างน้อยก็ต้องทนให้ได้หนึ่งสัปดาห์โดยไม่อาบน้ำ
ฉืออู๋เหยาวางฝ่ามือลงบนท้องน้อยของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ กระแสปราณสีดำเคลื่อนรวมตัวกัน หลังจากนั้นไม่นานฉืออู๋เหยาก็เอามือออก บนท้องน้อยเชียนเย่หยิงเอ๋อร์พลันปรากฎตราประทับที่มีลักษละคล้ายมดลูกขึ้นมา
“นี่คืออะไร?”
“เรียกว่าตราผนึกราคะ ฮิฮิ… ไม่ต้องห่วง มันไม่มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์และจะไม่ปรากฎออกมาในเวลาปกติ ต้องมีเชื้อบุรุษในมดลูกเท่านั้นถึงจะโผล่ให้เห็น มันสามารถฆ่าตัวอ่อนทั้งหมดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์”
“ยาคุมกำเนิด? หึ ข้าไม่ต้องการของแบบนี้ ข้าทำได้ด้วยตัวเอง”
“ข้ารู้เรื่องนี้ แต่ถ้าข้าบอกเจ้าว่าสิทธิการควบคุมสิ่งนี้อยู่ในมือของหยุนเช่อเล่า?”
“เจ้าหมายความว่ายังไง?”
“ฮุฮุ ใช่แล้ว เมื่อเจ้าถูกบุรุษเพศปล่อยข้างใจและตราผนึกราคะไม่ปรากฏขึ้น หมายความว่าหยุนเช่อต้องการให้เจ้าตั้งท้องกับใครที่ไหนไม่รู้ในเวลานั้น”
ฉืออู่เหยาลูกหน้าท้องของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์
“ให้ตายเถอะ เจ้าหยุนเช่อผู้นี้ การเป็นภรรยาที่ยอมมีชู้ให้มันถือเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ข้าทำใจมอบให้ แต่กระนั้นมันยังต้องการให้ข้าคลอดบุตรนอกคอกให้มันอีก นับวันมันยิ่งต่ำตมขึ้นเรื่อย ๆ”
เชียนเย่หยิงเอ๋อร์จ้องไปที่แอ่งน้ำเชื้อใต้ร่างไปพลางสาปแช่ง
“อืม…เอาล่ะ เชียนหยิง เจ้าอยากไปหาใครบางคนกับข้ารึไม่?”
“ใคร?”
“เขา”
ฉืออู๋เหยาหาได้ระบุชื่อของคนคนนั้น แต่เพียงชี้ไปที่แอ่งของเหลวขนาดใหญ่บนพื้นที่เพิ่งไหลออกมาจากร่องสวาทของนางและเปื้อนร่างของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์
ถึงแม้เชียนเย่หยิงเอ๋อร์จะต้องการกำจัดคราบน้ำบุรุษออกอย่างรวดเร็ว แต่นางก็สนใจผู้ชายคนที่ว่ามากกว่าเนื่องจากมันสามารถปล่อยสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านี้ออกมาได้มากมายเหลือเกิน นางใคร่รู้ว่าเป็นใครที่ไหน
เมื่อรับทราบว่าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ไม่ปฏิเสธ ฉีอู๋เหยาก็บินขึ้นหลังจากพูดจบ และเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็บินตามไปติดๆ