สวาทต้องห้ามนายพล - ตอนที่ 5
หลังจากวันนั้นชายหญิงสองคู่ก็หาโอกาสเพื่อตักตวงความสาวของกันและกัน โดยไม่ทันระแวงหรือระวังกันและกัน ท่านนายพลพยายามตักตวงความสาวของลูกสาวแท้ๆอย่างลุ่มหลง เช่นเดียวกับแพรที่ก็หลงในลีลาบนเตียงของผู้เป็นพ่อจนถอยตัวไม่ขึ้น
ซึ่งต่างกับธงรบผู้เป็นคู่หมั้นที่เธอมักแสดงอาการร่่านไม่ได้ดั่งใจคิด แค่จะรวบรวมความกล้าขึ้นขย่มลำควยของธงรบเธอเองยังไม่กล้า ด้วยเกรงว่าธงรบจะหาว่าเธอทำตัวไม่สมกุลสตรีลูกนายทหารยศนายพล
ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับธงรบที่เป็นห่วงความรู้สึกของแพรไม่แพ้กัน จึงมีหลายครั้งที่ต้องเก็บไปลงกับคุณหญิง พรรณี ผู้เป็นมารดาของคนรักและเป็นผู้หญิงที่เขาเคารพดั่งมารดาคนที่ 2 ก็ว่าได้ ส่วนคุณหญิงนั้นท่านนายพลก็มักปล่อยปะละเลยสนใจแต่การทหาร หาได้สนใจเรื่องบนเตียงเลยไม่ จนเธอเองก็คิดว่านายพลคงหมดไฟไปแล้ว หารู้ไม่ว่าลูกสาวคนเล็กของเธอกับนายพลลักลอบเป็นชู้กันในเวลาที่เธอไม่อยู่บ้านนั่นเอง
เวลาผ่านไปไม่นานร้อยตรี ธงรบ ก็ต้องจากเพื่อไปประจำที่ต่างประเทศ โดยมีสงครามทางทหารที่นั่น ธงรบเป็นหมวดในไม่กี่คนที่อาสาไปรบด้วย เพื่ออนาคตการงานและเป็นความต้องการส่วนหนึ่งของตัวเขาเอง แพรเองก็ไม่ได้ขัดขวางอะไรเขามาก เพราะเคารพในการตัดสินใจของธงรบ แม้ว่าเธอจะห่วงใยหมวดหนุ่มมากเพียงใดก็ตาม
ซึ่งคืนนั้นก่อนที่ธงรบจะออกบินในวันรุ่งขึ้น หมวดหนุ่มก็ตักตวงความสุขจากแฟนสาว และแม้แพรจะกลายเป็นสาวสุดเซ็กส์ไปแล้วนั้นจากกระบวนการสอนของผู้เป็นพ่อแล้ว แต่ธงรบนั้นต่างจากผู้เป็นพ่ออย่างลิบลับเพราะธงรบเป็นผู้ชายอบอุ่นและให้เกียรติเธอเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีอาการดุเดือดอย่างนายพลเลย แพรจึงต้องพยายามเป็นฝ่ายนอนรับ และขึ้นควบเองในบางจังหวะ ซึ่งแม้ลีลาบนเตียงจะไม่เก่งเท่าผู้เป็นพ่อ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หญิงสาวอารมณ์ค้างแต่อย่างใด ด้วยลีลาและความแข็งแรงก็ทำให้แพรสุขสมด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ธงรบไปประจำการที่ติมอร์เพื่อออกรบ แพรก็ได้คุยทางไกลกับชายหนุ่มเป็นระยะ ล่าสุดเธอก็ได้ยินข่าวว่า หมวดธงรบได้ใช้แผนตีชนะข้าศึกที่มารุกล้ำ อีกทั้งยังช่วยตัวผู้พันที่นั้น ทำให้ที่นั้นชื่นชมและประกาศเลื่อนยศเป็นร้อยโทใหธงรบ และอีกไม่กี่วันเธอก็จะไปรับตัวเขาที่สนามบินเนื่องจาก เธอจะได้รับใบปริญญาในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ส่วนชีวิตบนเตียง แพรก็ยังคงเสพสวาทกับนายพลผู้เป็นพ่อในตามแต่ละโอกาส แต่ด้วยช่วงนี้นายพลใกล้ปลดเกษียณแล้ว งานทั้งหลายนายพลจึงต้องเครียร์ทุกอย่างให้เสร็จลุล่วง จึงทำให้ทั้งสองมีเวลามาหาความสุขน้อยลงไปด้วย
ค่ำวันนั้นแพรก็ไปรบหมวดหนุ่มที่สนามบิน ซึ่งแพรก็เห็นความเปลี่ยนแปลงของเขาไปมาก จากที่เมื่อก่อนเขาดูเป็นลูกคุณหนู ดูภูมิฐาน แต่หลังจากไปอยู่ที่ติมอร์มาแค่เพียง 6 เดือน เขาก็เปลี่ยนไปดูมัดกล้าม ดูสูงโปร่ง และผิวเข้มขึ้นมาก จนแพรอดแซวเขาไม่ได้ว่า “ถ่าน” หลังจากไปรับเขาที่สนามบิน หมวดหนุ่มก็พาหญิงสาวไประลึกความหลัง และเธอก็รู้สึกได้ว่าเขาเปลี่ยนไปมาทั้งลีลาบนเตียง ความมีน้ำอดน้ำทนขึ้นมาก ทำเอาเธอเสร็จสมไปหลายครั้ง ณ เวลานี้แพรเหมือนว่าเธอจะมีทุกอย่างครบแล้ว ทั้งสามีที่รัก พ่อแม่ที่เคารพ อีกทั้งใบปริญญาที่เธอจะได้รับในอีกไม่ช้า แต่เธอคงลืมไปว่าอนาคตคือสิ่งไม่แน่นอน…และไม่จีรัง
.. กริ๊งงงงงงงงง!!! เสียงโทรศัพท์ปลุกให้แพรตื่นขึ้นมา เธอสะบัดหัว เงยหน้ามองนาฬิกาก็เป็นเวลา 7 โมงเช้า ข้างตัวเธอก็ปรากฏร่างชายหนุ่มคนรักของเธอหลับอยู่อย่างสบาย ตามเนื้อตัวของเธอและเขานั้นปราศจากเสื้อผ้าปิดหุ้มร่างกาย เธอใช้มือหยิบรับโทรศัพท์รุ่นเก่า ก่อนจะกดรับเป็นคุณแม่ของเธอนั้นเอง.
“สวัสดีคะ…คุณแม่..มีอะไรรึเปล่า..โทรหาแพรแต่เช้าเลย..หือ..คุณแม่ร้องไห้ทำไม”
“ฮือออ…ยัยแพร…คุณพ่อ…..” “คุณพ่อ…คุณพ่อเป็นอะไรคะ…คุณแม่” แพรร้องถามหาคุณพ่ออย่างใจเสีย
“รถที่คุณพ่อใช้ไปชนเข้ากับรถวิ่งฝ่าไฟแดงนะลูก…ตอนนี้คุณพ่ออยู่ที่โรงพยาบาลxxx…รีบมานะ…ฮือออ”
หลังจากแพรได้ยินแม่พุดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอช็อกทันที จนหมวดหนุ่มที่ลุกตื่นตามเสียง ต้องมาถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แพรไม่พูดอะไรได้แต่ร้องไห้ จนหมวดหนุ่มคอยเตือนสติ แล้วรีบเล่าให้แฟนหนุ่มฟัง ธงรบเมื่อได้ฟังคำจากแฟนสาวก็ตั้งสติ รีบบอกให้เธอรีบแต่งตัว รวมทั้งเขาด้วย ทั้งคู่รีบออกรถไปอย่างเร็วเพื่อไปโรงพยาบาลที่คุณแม่เธอบอกมา เมื่อมาถึงเธอรีบวิ่งไปห้องฉุกเฉินทันที พบคุณแม่ของเธอและคนขับรถยืนอยู่ตรงหน้าห้อง เธอพุ่งตัวเข้ากอดแม่ของเธอที่ร้องไห้อยู่ไม่แพ้เธอ หมวดหนุ่มวิ่งตามมาเจอพอดี บอกทั้งคู่ให้ทำใจดีๆ
ทุกคนรอหน้าห้องอยู่พักใหญ่ ก็มีหมอคนหนึ่งอายุราว 50 ปี ใส่ชุดหมอเดินออกมา
“ใครเป็นญาติของผู้ป่วยครับ” หมอพูดขึ้นมาทั้งแพรและแม่ของเธอ รีบพูดออกมา
“คือดิฉันเป็นภรรยา…ส่วนนี้ลูกสาวคะ…สามีดิฉันเป็นไงบ้างคะ”
“คือ…ตอนนี้ผู้ป่วยต้องการพบครับ”
ทั้งแพรและแม่รวมทั้งธงรบรีบเข้าไปทันที บนเตียงมีร่างหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือ และเลือดไหลติดผ้าพันแผลเต็มไปหมด
“คุณคะ/พ่อออ” ทั้งแพรและคุณหญิงพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนวิ่งไปที่เตียงผู้ป่วยพร้อมกอดร่างของผู้เป็นพ่อไว้ นายพลที่รู้สึกตัวค่อยๆลืมตาปรือๆ พร้อมกับเปล่งเสียงพูดออกมา
“แพร…พ่อขอโทษที่พ่อไม่ได้อยู่รับปริญญาของลูก…วางตัวให้สมกับเป็นคุณหญิงนะ…พ่อขอโทษในทุกสิ่ง…แต่พ่อขอให้ลูกรู้ไว้…ว่าพ่อรักลูก” แพรมองตาของคุณพ่อของเธอ ที่มีน้ำไหลนองอย่างเข้าใจความหมายที่นายพลต้องการสื่อถึงเธอ
“ฮืออแพรยกโทษให้คุณพ่อคะ…แพรก็รักคุณพ่อคะ..ฮืออ” นายพลยิ้มรับเล็กๆ
“คุณหญิงดูแลลูกของเราให้ดีด้วยนะ…สิ่งไหนที่คุณทำแล้วมันผิดผมขอให้คุณหยุดเพื่อลูกของเรา…ผมขอร้อง..ผมรักคุณเหมือนเดิม” นายพลหันไปมองคุณหญิง ซึ่งคุณหญิงที่สะดุ้งก็พยักหน้ารับ
พร้อมหันไปมองธงรบที่ก็มองมาเช่นกัน
“ธงรบ…พ่อคงไม่สามารถอยู่ดูแลลูกสาวของพ่อต่อไปแล้ว..อึก…พ่อขอฝากน้องไว้ด้วยนะ…แกรับปากพ่อได้ไหม” นายพลหันไปมองทางหมวดหนุ่มที่ยืนไม่ห่างกับทุกคน
“ครับ…คุณพ่อผมสัญญาจะดูแลน้องแพรและคุณแม่เป็นอย่างดี…คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” นายพลยิ้มรับอย่างพอฬใจ
“แพร…จากนี้ลูกต้องดูแลตัวเอง….พ่อรักลูกนะ…” นายพลหันหน้าไปทางลูกสาวพร้อมทั้งพูดประโยคสุดท้าย
สิ้นเสียง เปลือกตานายพลก็หลับลงช้าๆ เส้นที่แสดงการเต้นของชีพจรขีดจากที่มีรอยหยักขึ้นๆลงๆก็เปลี่ยนเป็นเส้นตรงยาว พร้อมเสียง ตรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด…….ลากยาวไปพร้อมกับชีวิตที่ไม่วันหวนกลับของนายพล
“คุณพ่อออออออออ!!!” แพรร้องสุดเสียง พร้อมกับคุณหญิงที่ก็ล้มตัวเป็นลมลงข้างๆ ดีที่หมวดธงรบรับไว้ทัน หมอทั้งหลายรีบพยุงตัวคุณหญิงออกไปพักอีกห้อง ส่วนแพรก็ยังร้องไห้อยู่บนเตียงที่มีร่างไร้ชีวิตของผู้เป็นพ่อนอนอยู่ ความเจ็บปวด รวดร้าว มันพุ่งเข้ามาในอกของเธอ จากไปแล้ว ชายผู้คอยดูแลเธอตั้งแต่ยังเด็ก ชายผู้เป็นผู้สอนกลกามแก่เธอ ชายผู้เป็นสามีอีกคนของเธอ จากไปอย่างไม่มีวันกลับ…
วันเวลาผ่านไปไม่นาน แม้สภาพจิตใจทุกคนจะยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร แต่ทุกชีวิตก็ต้องก้าวเดินต่อ ศพของนายพล ชเวง ถูกจัดอย่างอย่างยิ่งใหญ่ ทุกเรื่องราวความดีที่ท่านทำยังถูกจาลึกไว้ในใจของผู้พบเจอ ผู้คนที่ท่านนายพลช่วยเหลือยังสรรเสริญท่าน แพรมองดูรูปถ่ายที่ติดอยู่ข้างโลงศพ รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกสาวของท่านนายพล…
“หนูคิดว่าพี่พิมจะไม่มาซะแล้วนะคะ” แพรพูดกึ่งประชดพี่สาวของเธอที่เพิ่งลงจากเครื่อง หญิงสาวผิวขาวผ่องเสียยิ่งกว่าตัวแพรเอง อีกทั้งยังพ่วงส่วนสูง 175 เซนติเมตรระดับที่นางแบบยังต้องอาย ความสวยราวกับนางเอกดาราบางคนยังชิดซ้าย ผมสีส้มเกิดจากการย้อมและยังพ่วงด้วยแว่นตาสีดำ บ่งบอกได้หญิงคนนี้เป็นคนประเภทมั่นใจในตนเอง และ ยังมีความคิดเป็นสาวสมัยใหม่มากเสียด้วย ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พิมไม่ค่อยถูกใจนายพลผู้เป็นพ่อสักเท่าไหร่ เพราะนายพลเป็นคนสมัยเก่าและไม่ค่อยชื่นชอบความคิดที่ว่าผู้หญิงเป็นช้างเท้าหน้าได้ จึงทำให้ความคิดทั้งคู่แตกต่างกัน
“แกไม่ต้องมาประชดพี่เลยยัยแพร…พี่เพิ่งรู้ข่าวพี่ก็รีบบินมาเลย…” พี่สาวของแพรพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
“สวัสดีคะ…คุณแม่…” พิมหันไปเห็นคุณแม่ของเธอที่เดินออกมา หญิงสาวถอดแว่นตากันแดดออก แล้วไหว้คุณแม่อย่างสุภาพ
“มาแล้วเหรอยัยพิม…เข้ามาก่อนเถอะ” พิมเข้าไปเพื่อไหว้พวกนายพล นายพัน คนสนิทของคุณพ่อเธอ ซึ่งทุกคนก็แทบจะตาค้างกับความสวยของลูกสาวของนายพลชเวงกันทุกคน หมวดธงรบรีบเดินเข้ามาเพื่อบอกแพรให้รีบถวายอาหารให้พระ
หลังจากทำธุระเสร็จแล้ว แพรก็พาพี่สาวของเธอมานั่งคุยกันกับทุกคน ซึ่งพิมก็มีท่าทางสนใจหมวดหนุ่มแฟนของน้องสาวไม่น้อย แต่กับหมวดหนุ่มหาได้สนใจหญิงสาวเลย เพราะด้วยความดูไม่ออกหรือจะเป็นเพราะไม่แสดงออกก็ไม่ทราบได้ หลังจากงานศพนายพล ชเวง จบลง…
วันหนึ่งหมวดธงรบเข้ามารับแพรเพื่อไปลองชุดแต่งงาน ซึ่งเมื่อเข้ามาก็พบว่าทั้งแพรและคุณหญิงพากันข้างนอก ธงรบจึงเข้ามารอในบ้าน พร้อมกับคนใช้ที่ถือน้ำเปล่ามาให้ธงรบ ธงรบนั่งรออยู่ในห้องโถงใหญ่ พลางหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา
พลันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงมาจากชั้นบน ตนจึงเหลือบหันไปมองก็พบกับ พิม พี่สาวของแพรกำลังเดินลงมาด้วยชุดเรียบง่าย แต่งหน้าทาปาก แม้ธงรบจะไปอยู่ต่างประเทศมานานนับครึ่งปี แต่เขาก็ไม่ชอบการแต่งกายตามสมัยนิยมเสียเท่าไหร่ ด้วยอาจเพราะยุคนี้ยังไม่ใช่ยุคสมัยใหม่นัก
“Good morning คะ..พี่ธงรบ…มาหาแพรหรือคะ?”
พิมพูดขึ้นพร้อมกับมานั่งโซฟาอีกฝั่งตรงข้ามกับธงรบ
“ใช่ครับ…นี่น้องพิมเพิ่งตื่นหรือครับ?”
“ใช่คะ…เมื่อคืนพิม เที่ยวดึกไปหน่อยนะคะ…อ่า…พี่แมว…พิมขอกาแฟสักแก้วนะ…ขอเหมือนเดิมเลยนะคะ” พิมพูดกับธงรบพร้อมทั้งหันไปพูดกับพี่แมวคนใช้ที่กำลังเดินเข้ามา ซึ่งพี่แมวก็รับคำพร้อมทั้งเดินไปที่ครัว ธงรบหลังจากฟังพิมพูดจบ ก็เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าบัดนี้เกือบจะเที่ยงวันอยู่แล้ว
“น้องพิมคงยังไม่ชินกับเวลานะครับ…สักพักก็ชินไปเอง…ว่าแต่น้องพิมไปทำงานต่างประเทศนานเลยนะ…พี่จำได้ว่าน้องพิมไปช่วงพี่เรียนนายร้อยจบพอดี…อืมม…ก็ 2-3 ปีได้แล้วนะ…โตขึ้นเป็นกองเลยนะ” พิมยิ้มที่มุมปากก่อนจะพูดขึ้นมา
“พี่ธงรบก็เหมือนกันคะ…ดู Man, Very Good มากเลยคะ ถ้าไปอยู่ที่โน้นมีหวังแหม่มฝรั่งติดพี่แจเลย…”
พิมพูดไทยผสมอังกฤษตามความเคยชิน
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ…”
“พิมพูดจริงๆนะคะ…พิมยังอิจฉายัยแพรเลย…ที่มีแฟนที่หล่อและเท่ห์แบบนี้…อ้อ…Thank…คะพี่แมว..” พิมพูดพร้อมทั้งรับกาแฟจากมือพี่แมว
“แต่ก็นึกไม่ถึงเลยนะคะ…ที่พี่ธงยังคบกับยัยแพรอยู่จนจะแต่งงานกันแล้ว…แต่ก็ไม่แปลกเนอะ…ตอนเด็กๆใครมาแกล้งยัยแพรพี่ธงก็ออกรับหมด”
“ก็พี่รักน้องแพรนิครับ…ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย”
“แล้วพิมละคะ…พี่ธงเคยคิดถึงพิมบ้างไหม”
พิมพูดขึ้นอพร้อมบีบน้ำตาใสๆออกมาด้วย ทำเอาธงรบถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง
“น้องพิม..อะ..เอ่อ..หมายความว่าไงครับ..???”
“พิมก็หลงรักพี่นะคะ…พี่ธงคะ…จะว่าอะไรไหม…ถ้าพิมจะขอ…???”
“เอ่ออ..คือน้องพิมจะขอ…”
“มี sex กับพี่จะได้ไหมคะ…!!#!#”
ด้วยความเป็นสาวสมัยใหม่ และอยู่เมืองนอกมานาน ทำให้พิมเป็นคนเปิดเผยต่อเรื่องเซ็กส์ แล้วยิ่งเป็นคนเซ็กส์จัดด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่จะเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกผู้ชายก่อน และกลับเป็นธงรบเองที่ได้แต่อึ้งต่อการรุกแบบสายฟ้าแลบของฝ่ายหญิง…
“เอ่อ….พี่ว่าไม่ดีหรอก..” ธงรบถึงกับเหงื่อตก ไม่นึกว่าพิมจะพูดเร็ว พุ่งแรงแบบนี้
“อะไรที่ว่าไม่ดีคะ…เพราะพี่เป็นแฟนน้องพิม…เพราะพิมรักพี่…หรือเพราะพี่ไม่อยากมีเซ็กส์กับพิมคะ”
ธงรบนั่งเหงื่อตกและอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ พิมเห็นธงรบนิ่งไป จึงลุกจากที่นั่งไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับธงรบ และใช้มือที่เรียวสวยของเธอลูบไปที่แก้มของธงรบอย่างนิ่มนวล พร้อมยื่นหน้าไปที่ต้นคอของธงรบ ริมฝีปากสีชมพูของพิมค่อยสูดดมกลิ่นตัวของเพศชาย ก่อนจะค่อยๆ ซุกเข้าหอมตรงซอกคอธงรบไปมา ปล่อยให้ธงรบที่อึ้งๆ ทำตัวไม่ถูก พิมไซร้ไปตามซอกคอธงรบพักนึงก็เงยหน้าขึ้นมองตาธงรบ ก่อนพูดว่า
“…พี่ธงรบไม่ต้องกลัวยัยแพรรู้หรอกคะ..กว่าคุณแม่และยัยแพรจะมาก็บ่ายโน้นคะ…พวกคนใช้พิมก็ให้ไปที่อื่นหมดแล้ว…ตอนนี้มีแค่พิมกับพี่ธงสองคนนะคะ…”
พอพูดจบพิมก็ยื่นหน้าเข้ามาจู่โจมที่ปากของธงรบอย่างดูดดื่ม พร้อมดันตัวเองขึ้นคล่อมตัวธงรบไว้ สองเต้าอวบใหญ่ของพิมบดเบียดอยู่ที่แผงอกของธงรบไปมา สองมือของเขาพยายามผลักดันตัวพิมออกไป ปากของพิมกำลังพยายามบดเบียดเข้าไปในโพรงปากของธงรบ
จากนั้นไม่นานเมื่อเวลาผ่านไป ชายหนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงรสชาติริมฝีปากอันหวานอุ่น เผลออ้าปาก ปล่อยให้ลิ้นของพิมพุ่งเข้ามาในปากของเขา พิมที่รอเวลาอยู่แล้วจึงพุ่งลิ้นเข้าไปทันที ณ เวลานี้ ลิ้นเรียวยาวของพิมกำลังสอดเข้าพันกับลิ้นของธงรบอย่างดูดดื่ม ผิวที่อ่อนนุ่มราวปุยนุ่น เต้านมอวบใหญ่ที่กำลังบดเบียดกับแผงอกของเขาไปมาอย่างเสียวซ่าน มือที่ดันพี่สาวแฟนเริ่มลดลง และเปลี่ยนมาเป็นอารมณ์ร่าน
ธงรบลูบไล้ไปมาทั่วต้นแขน และค่อยๆลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ร่างกายชายหนุ่มค่อยผ่อนลงอย่างช้าๆ จนลงไปนอนราบกับโซฟา โดยพิมก็ค่อยๆขึ้นควบชายหนุ่มอย่างแม่เสือสาวที่จ้องตะครุบเหยื่ออันโอชะ ทั้งคู่เริ่มพันลิ้นกันในปากอย่างชำนาญ
“ทำไมผู้หญิงบ้านนี้มันแรงจังวะ” ธงรบพูดขึ้นใจ พร้อมพันลิ้นตอบกลับหญิงสาวที่คล่อมตัวเขาอยู่
.
..
…
“ไม่สิ!!!…น้องแพรไม่ได้ร่านนิ..!!!!”
“แพรรักพี่ธงรบนะคะ”
“รับปากแม่นะว่าจะไม่ทำน้องแพรเสียใจ”
” พ่อขอฝากน้องไว้ด้วยนะ…แกรับปากพ่อได้ไหม”
…..
….
…
“ครับ…ผมสัญญา”
….
เสียงต่างๆ คำพูดที่น้องแพร หญิงเดียวที่เขารัก เสียงของคุณหญิงผู้เป็นแม่ยายและเมียคนแรกของของเขา เสียงของนายพลผู้ล่วงลับที่เขาเคารพรักและยึดถือเป็นแบบอย่าง และคำสัญญาที่เขาเคยให้ในอดีต ดึงสติของธงรบขึ้นมา ให้เขารู้้ตัวว่ากำลังทำเลวอะไรอยู่ เมื่อคิดได้ดังนั้น สายตาที่กำลังปรือและคล้อยไปกับอารมณ์เสียวก็ลืมตาขึ้นมา พร้อมหยุดกิจกรรมนี้ทันที
“ไม่ได้…พี่ทำไม่ได้..พี่ทรยศน้องแพร คุณลุง คุณป้าไม่ได้..พี่..พี่ขอโทษนะน้องพิม..พี่ขอตัวก่อนนะ” ธงรบพูดขึ้นหลังดันตัวพิม ที่กำลังคิดว่า”เอาอยู่”แล้วขึ้น พร้อมทั้งลุกขึ้นจากโซฟาและเร่งเดินออกไปจากจุดนั้นทันที…
“อ้าว…คุณธงรบจะกลับแล้วหรือครับ…ไม่รอพบคุณหนูกับคุณหญิงก่อนหรือครับ” ตาแม้นทหารเก่ายศจ่า ที่ลาออกจากราชการมาติดตามนายพลเชวง ในตำแหน่งคนสวนพูดขึ้นหลังเห็นธงรบรีบเดินออกมา
“อ่า…ใช่ๆ..พอดีผมมีธุระนะ…ฝากบอกน้องแพรด้วยขอเปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้นะ..ผมไปก่อนละ..” ธงรบพูดพร้อมเดินไปที่รถแล้วขับรถออกไปทันที ปล่อยให้ตาแมันยืนงงอยู่
พิมที่เดินหงุดหงิดออกมาหลังตั้งสติได้ก็พบว่าธงรบขับรถออกไปเสียแล้ว จึงได้แต่มองด้วยความเจ็บใจ ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่ทำให้เธออับอายเพียงนี้ มิหนำซ้ำยังเป็นคนรักของน้องสาวเธอดัวย นี่เธอแพ้น้องสาวของเธอเสียแล้ว เธอเดินหน้าเสียขึ้นห้องนอนของเธออย่างเศร้าใจ…
ในขณะที่ธงรบที่กำลังขับรถอยู่ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ตัวเขาเอาชนะความอยากในเรื่องเพศกับพิมไปได้ แม้พิมจะสวยและเซ็กส์กว่าแพรผู้เป็นน้องสาวหลายเท่า แต่ ณ เวลานี้เขาเป็นห่วงความรู้สึกของแพรเหนือสิ่งใด และรอคอยวันที่เขาจะได้แต่งงานกับเธอและมีเจ้าตัวน้อยด้วยกัน ซึ่งเขาหารู้ไม่ว่า แพรได้เคยมีสัมพันธ์สวาทกับนายพลผู้เป็นพ่อแท้ๆ หลายครั้งแล้ว
พิมก็ยังอยู่ต่อจนวันที่น้องสาวของเธอเองรับปริญญาตรี โดยตลอดเวลาก็คอยหลบหน้าธงรบเสมอมา ก่อนจะกลับไปต่างประเทศเช่นเดิม โดยไม่รู้เมื่อไหร่เธอจะกลับมาเมืองไทยอีก……
ชีวิตของคุณหญิง แพร พรรณิตา กำลังเริ่มต้นขึ้นในฐานะ คุณหญิงของร้อยโท ธงรบ การเก็บกดให้อยู่ในโอวาท การประพฤติตัวที่ดีเพียงพอทั้งต่อหน้าและลับหลัง โดยไม่ให้ลืมว่าตนเป็นภรรยาของร้อยโท ธงรบ เป็นลูกสาวของนายพล ชเวง นั้นช่างยากเหลือเกิน เพราะแรงกิเลศ ราคะยังคงมีอยู่เต็มอกของแพร แต่เธอก็จะพยายามเป็นแม่ที่ดีของลูกของเธอและธงรบที่กำลังจะเกิดในอีกไม่ช้า และ เป็นภรรยาที่ดีของสามี ของเธอตลอดไป….
จบ