สนุกกันฉันท์ครอบครัว - ตอนที่ 10
สราวลีมองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นขณะที่โสภิตาแม่ของรณกรยกถาดไอซ์ทีมาเสริฟ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพิจารณาโสภิตาอย่างละเอียดและก็รับรู้ว่าเธอเป็น ผู้หญิงที่มีเสน่ห์เอามากๆ เลยทีเดียว เธอไว้ผมสั้นประบ่า ดวงตาดำขลับดูอ่อนโยน ใบหน้าเธอดูน่ารักไม่ถึงกับสวยเช้ง ซึ่งก็เป็นแบบที่พวกผู้ชายชอบนักชอบหนา เรือนร่างเธอผอมเพรียวซึ่งคงต้องอาศัยการดูแลอย่างมากประกอบด้วยเต้านมที่ แม้จะเล็กไปหน่อยแต่ก็ดูเด่น สะเอวที่คอดบางและสะโพกที่ผายกว้างรับกัน ก้นกลมกลึงและขาที่เรียวงาม
“ น้าดีใจที่หนูมาทานข้าวกับเราเย็นนี้”
เธอพูดและนั่งลงตรงข้ามสราวลี ตอนเธอนั่ง สราวลีสามารถมองลอดเข้าไปในกระโปรงสั้นที่โสภิตาสวมอยู่จนเห็นกางเกงในสี ชมพูที่อยู่ข้างใน มันเป็นภาพที่ทำให้หัวใจสราวลีเต้นรัว แม้เธอจะรู้ว่าคืนนี้มีแผนที่จะล่อลวงโสภิตา แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า มันจะรู้สึกอย่างไหรหนอถ้าได้สนุกกับแม่ของรณกรก่อนใคร
“ ค่ะ” เธอพูดกับโสภิตายิ้มๆ
“ เอาไว้น้าต้องไปทานข้าวบ้านหนูบ้างนะ เมื่อวานนี้พ่อกับน้าเขมก็เพิ่งพูดถึงอยู่ บอกให้หนูเชิญน้ากับรณกรมาทานข้าวที่บ้าน จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น”
“ น้า…เอ้อ..ก็ไม่เลวจ้ะ ว่าไงล่ะลูก” แม่รณกรถาม
สราวลีหันหน้าไปทางขวาเพื่อดูว่ารณกรจะตอบแม่ว่ายังไง แต่ก็บังเอิญเห็นสายตาเขาเหลือบมองไปที่หว่างขาแม่ตัวเองพอดี เขารีบเบือนสายตาไปที่อื่นแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เธอยิ้มให้กับตัวเองขณะที่เขาตอบคำถามของแม่
“ เอ่อ ครับ ผมเห็นด้วย” เขาพูดและหันมายิ้มให้สราวลี
“ เอาเป็นเสาร์หรืออาทิตย์นี้เลยดีมั้ย”
“ ได้เลย” สราวลีตอบยิ้มๆ
“ เดี๋ยวลีจะไปบอกพ่อให้ และจะไปนัดน้าเขมด้วย จะได้มาสนิทสนมกันให้มากขึ้น อือม์ เอาเป็นวันเสาร์ดีมั้ย มากันแต่หัววันแล้วเอาชุดว่ายน้ำมาด้วย เราจะได้จัดปาร์ตี้ริมสระกัน ฟังดูเข้าท่ามั้ยคะ”
“ เจ๋ง”
รณกรตอบแล้วหันไปมองแม่ ซึ่งเธอก็ยิ้มให้แล้วพยักหน้าเห็นด้วย ในตอนนั้นเองที่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและรณกรลุกไปรับสาย เขาคุยโทรศัพท์อยู่ราวนาทีนึงแล้วก็วางหู จากนั้นก็กลับมาร่วมวงพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเสียดาย
“ มีอะไรเหรอลูก” แม่เขาถาม
“ กริชรถเสียน่ะครับ โทรมาอยากให้ผมไปรับ”
“ เขาหาคนอื่นไม่ได้เหรอคะ” สราวลีถาม
“ เห็นบอกว่าโทรไปหา 3 คนแล้วรวมทั้งพ่อกะแม่ด้วย แต่ไม่มีใครอยู่บ้านเลย”
“ แหม แต่ต้องขับรถไปกลับตั้งเป็นชั่วโมงเชียวนะ” โสภิตาพูด
“ ผมรู้ครับ แต่กริชเขาเคยช่วยผมไว้หลายครั้ง คงถึงเวลาต้องตอบแทนบุญคุณเขาบ้างแล้วล่ะมั้ง”
“ คงงั้นแหละจ้ะ” แม่เขาตอบ
“ เดี๋ยวจ้ะ” สราวลีพูด เธอมีความคิดอะไรดีๆ อย่างหนึ่ง
“ กริชเขาบอกหรือเปล่าว่าในรถมีใครอยู่ด้วย”
“ ฮื่อ มากับเพื่อนอีก 3 คน ถามทำไมเหรอ”
“ ก็หมายความว่า ถ้าลีไปกับคุณ ก็จะต้องนั่งกันไป 6 คนในรถน่ะซิ อึดอัดตายเลย เอางี้ดีกว่ามั้ย ให้ลีอยู่เป็นเพื่อนน้าโสที่นี่จนกว่าคุณจะกลับมา แล้วเราค่อยไปหาอะไรกินกันสองคนทีหลัง”
ประโยคหลังนี้เธอพูดพร้อมกับคำเชื้อเชิญในประกายตาซึ่งถ้าเขามองไม่ออกก็ แสดงว่าตาบอดแล้ว เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาเขา เอาหัวนมถูไถหน้าอกเขาเบาๆ
“ ผม..เอ้อ..งั้นก็ได้” เขาตอบและฉีกยิ้มกว้าง
“ แม่ว่าไงครับ”
“ แม่ว่าแบบนี้ก็ดีจ้ะ เราสองสาวจะได้คุยกันกระหนุงกระหนิงแบบผู้หญิงๆ” เธอบอกเขาแล้วยิ้มหวานให้
“ งั้นก็โอเคครับ” เขาตอบ หอมแก้มสราวลีฟอดหนึ่งก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูแล้วคว้าเสื้อแจ็คเก็ตไปสวมก่อนออก
พอประตูปิดลง สราวลีก็หันไปทางโสภิตาที่นั่งอยู่บนโซฟาแล้วนั่งลงโดยปล่อยให้ท่อนขาอวบเธอ แยกถ่างจากกัน เธอรู้ดีว่าโสภิตาคงมองเห็นเป้าหมายตรงหว่างขาเธอได้ถนัดตา ซึ่งต่างจากโสภิตาตรงที่เธอไม่ได้สวมกางเกงในเลย ขนาดบราเธอก็ไม่ได้สวมมาหัวนมเธอเริ่มแข็งชันดันเสื้อยืดขึ้นมาเป็นปุ่ม
“ น้าโสคะ” เธอพูดพร้อมรอยยิ้มซื่อบริสุทธิ์
“ ไอซ์ทีก็อร่อยดีค่ะ แต่ไม่ทราบว่าน้ามีไวน์ขาวบ้างมั้ยคะ หรือจะเป็นเบียร์ก็ได้” โสภิตาจ้องมองเธอครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาและวางแก้วลงบนโต๊ะ
“ อันที่จริง น้ามีทั้งสองอย่างนั่นแหละจ้ะ แถมยังมีเครื่องดื่มที่แรงกว่านั้นด้วยนะ อยากดื่มอะไรล่ะจ๊ะ”
“ แค่ไวน์ก็พอค่ะ หนูไม่เคยลองพวกเหล้าและคิดว่าคงไม่ชอบรสชาดแบบนั้น แต่หนูชอบจิบไวน์ค่ะ นอกจากช่วงบ่ายวันอาทิตย์ตอนที่หนูกับพ่อดูฟุตบอลด้วยกัน เราจะเอาเบียร์ออกมาดื่มแล้วเชียร์ทีมที่เราเลือกไปด้วย”
“ เราจะปั่นเหรียญเลือกว่าใครจะได้เลือกทีมที่ต้องการก่อน ใครแพ้ก็ต้องเชียร์ทีมที่เหลือ ระหว่างที่แข่งนะคะ พ่อกับหนูก็จะเชียร์กันหนักเลยล่ะคะ บางทีก็เอาหมอนมาฟาดกัน บางครั้งก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันตอนที่เห็นว่าทีมอีกฝ่ายทำท่าจะชนะ หรือตอนที่คิดว่าผู้ตัดสินทำไม่ถูก ถ้าน้าโสไปเห็นหนูกับพ่อในตอนนั้น รับรองว่าจำไม่ได้แน่เลยค่ะ”
“ ฟังดูน่าสนุกนะจ๊ะ” โสภิตาพูดกลั้วหัวเราะ
“ น้าก็ชอบกีฬาจ้ะ เคยเป็นหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์สมัยเรียนมหา’ลัยปีท้ายๆ ด้วยนะ ส่วนพ่อของรณกรตอนนั้น เป็นกัปตันทีมฟุตบอล” เธอลังเลอยู่แป๊บนึงแล้วก็ยิ้มขณะรินไวน์ใส่แก้วทั้งสองจนเต็มปรี่
“ สมัยโน้นน้าร้อนแรงสุดๆ เลยล่ะจ้ะ แบบว่า” เธอพูดด้วยใบหน้าแดงซ่าน
“ น้าแทบรอให้เกมจบไม่ไหวเลยล่ะ ที่น่าคลั่งก็คือ พอเกมจบ น้ายังต้องรอให้เขาอาบน้ำเสียก่อน”
“ อือม์” สราวลีพูดแล้วยิ้ม
“ หนูไม่เคยคิดจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์เลยค่ะ แต่หนูเข้าใจความรู้สึกของน้าดีเหมือนตอนที่หนูรอรณกรเขากว่าจะออกจากห้องเรียน”
“ แหม” โสภิตาพูด หน้าแดงก่ำเป็นตำลึงสุก
“ ที่พูดนี่ น้าไม่ได้อยากละลาบละล้วง….”
“ น้าโสคะ รณกรกับหนูน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะ อีกอย่างหนูก็รู้ว่ารณกรเขารักหนู ส่วนหนูก็รักเขา แล้วทำไมเราจะมีความสุขด้วยกันไม่ได้”
“ น้า…เอ้อ หนูพูดถูกจ้ะ”
“ น้าเก็บความลับได้มั้ยคะ”
“ ได้ซิจ๊ะ”
“ รณกรเป็นผู้ชายคนแรกของหนูค่ะ” เธอบอกโสภิตา ซึ่งก็จริงเสียเป็นส่วนใหญ่ จริงตรงที่ว่า รณกรเป็นชายคนแรกที่เธอดูดควยให้ และเป็นคนแรกที่ได้เย็ดรูตูดเธอ ดังนั้นที่เธอพูดมันก็เป็นความจริง
คืนนี้เขาจะได้เย็ดหีเธอซะที ซึ่งก็เป็นอะไรที่เธอรอคอยด้วยใจระทึกเหมือนกัน แต่ในตอนนี้ ทั้งจิตใจและสายตาเธอจับจ้องไปที่ร่างอีกร่างหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากตัวเธอไป เพียงไม่กี่ฟุต
“ หนูเป็นสาวบริสุทธิ์ก่อนเจอรณกรเหรอจ๊ะเนี่ย” โสภิตาถาม ดูเธอจะประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“ ค่ะ” เธอพูดพร้อมหลบสายตาและทำหน้าแดงก่อนจะโกหกต่อ
“ จะเรียกว่ายังงั้นก็ได้ค่ะ”
“ อ้าว น้างงไปหมดแล้ว หนูหมายความว่ายังไงจ๊ะ”
โสภิตาถามพร้อมเอนตัวไปข้างหน้า สราวลีมองเห็นแก้มสาวใหญ่เริ่มแดงซ่านขึ้น ทำเอาเธอต้องพยายามซ่อนยิ้มไว้ เธอจิบไวน์และสังเกตเห็นโสภิตาดื่มแก้วตัวเองจนเกือบหมดและกำลังรินเพิ่ม อยู่
“ คือ..เมื่อสองสามเดือนก่อน..หนู..ถูกผู้หญิงคนนึงล่อลวงน่ะคะ” โสภิตาอุทานด้วยความตกใจแต่สราวลีมองเห็นความตื่นเต้นในประกายตาเธอได้ ชัดเจน
“ ละ…แล้วเป็นไงต่อจ๊ะ”
“ หนูไปงานเลี้ยงกับเพื่อนน่ะค่ะ แล้วคงดื่มมากไปหน่อย แม่เพื่อนหนูคนนึงเลยอาสาพาหนูไปนอนที่ห้องนอนเธอ ตอนนั้นหนูคิดว่าเค้าคงแค่เป็นห่วงหนูเฉยๆ
“ แต่พอไปถึงห้อง เธอก็ถอดเสื้อผ้าหนูออกหมดแล้วเข้ามาปล้ำหนูยังกะคนเสียสติ หนูไม่รู้ว่มันเกิดอะไรกันขึ้น และหนูก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะป้องกันตัวได้ แต่ว่า” เธอพูด หรุบเปลือกตาลงทำเหมือนละอายใจ
“ หนูกลับชอบมัน”
“ หนู…ชอบงั้นเหรอจ๊ะ” โสภิตาถาม เสียงเธอแผ่วทุ้ม
“ อ้า ค่ะ ก็ทำนองนั้นแหละค่ะ พอหนูหายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและปล่อยเลยตามเลย มันก็สนุกดี แถมหนูยังสุขสุดยอดกว่าครั้งไหนๆ ด้วยซ้ำ” เธอเงยหน้าขึ้น จ้องตาโสภิตา
“ หนูรักรณกรค่ะ หนูชอบตอนที่เขาเมดเลิฟกับหนู แต่บางครั้งหนูก็อยากมีผู้หญิงซักคนที่ทำให้หนูรู้สึกดีเหมือนที่แม่เพื่อน หนูทำให้ หนูว่าผู้หญิงด้วยกันเองจะรู้ดีว่าจุดไหนบ้างที่ควรจะสัมผัส จะจูบ จะเลีย จะดูดแล้วทำให้เสียวได้แบบสุดๆ น้าเข้าใจที่หนูพูดมั้ยคะ”
โสภิตาตอบไม่ถูก เธอดื่มไวน์สองอึกใหญ่ ใบหน้าเธอแดงก่ำ สราวลีรู้ได้ทันทีว่าโสภิตาเสร็จเธอแน่ เธอลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะกาแฟที่คั่นกลางระหว่างพวกเธอไปนั่งคร่อมท้าวแขน เก้าอี้ประจันหน้ากับโสภิตา เธอคว้าแก้วไวน์จากมือโสภิตาไปวางไว้บนโต๊ะแล้วค่อยหันกลับมา เธอมองเห็นความปรารถนาในดวงตาโสภิตาขณะที่เธอลดใบหน้าลงหาสาวใหญ่และจูบเธอ อย่างนุ่มนวลและแลบลิ้นมาเลียริมฝีปากโสภิตา มือขวาเธอยกขึ้นช้อนกุมเต้านมโสภิตา รับรู้ถึงความหยุ่นแข็งใต้เสื้อและรู้ว่าสาวใหญ่ไม่ได้สวมบรา เธอบดริมฝีปากเข้าหาโสภิตาหนักขึ้น รู้สึกว่าริมฝีปากอีกฝ่ายแยกห่างจากกัน
เธอได้ยินเสียงครางในลำคอของโสภิตาขณะที่ลิ้นของสองสาวตวัดรัดพันกัน มือเธอบีบบี้หนักขึ้น ฝ่ายโสภิตาก็แอ่นอกเสนอเต้าเธอเข้าหามือสราวลี แขนเธอกระหวัดรัดรอบร่างสาวน้อยและรั้งร่างเธอลงมานั่งบนตัก สราวลีไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนดึงกันลงมาที่พื้น แต่ที่เธอรู้ก็คือเธอกับโสภิตากอดรัดกันนัวเนีย กลิ้งไปมาบนพื้นพรมหนานุ่มขณะที่ลิ้นสอดเข้าหากันอย่างหิวกระหาย มือไม้ก็เปะปะอยู่ที่กระดุมและซิป พริบตาเดียวทั้งสองสาวก็เปลือยเปล่าขาวโพลน โดยสราวลีทาบทับอยู่บนตัวโสภิตา หัวนมแข็งชันของโสภิตาหลุดหายเข้าไปในปากของสราวลี เนินหีพวกเธอบดเบียดเสียดสีกันเบาๆ ก่อนแล้วค่อยแรงขึ้นๆ ขณะที่โสภิตายกขาขึ้นโอบรัดตัวสราวลีไว้
สราวลีพยายามจะอมเต้าทั้งเต้าเข้าไปในปากให้ได้ขณะที่ลิ้นเธอสะบัดพลิ้วไปมา บนหัวนม ทำเอาโสภิตาต้องร้องครวญครางและแอ่นอกหรา เธอแทรกมืออีกข้างเข้าไปกุมโคกหีโสภิตาไว้ เธอรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นที่ซึมออกมาจากกลีบแคม เธอปล่อยเต้านมโสภิตาให้เป็นอิสระแล้วเริ่มเลียและจูบไซ้ลงไปตามเนื้อตัวเธอ โดยดูดเลียทุกตารางนิ้วไม่ยอมว่างเว้น ทำเอาสาวใหญ่อารมณ์แตกเพริด กว่าเธอจะลงไปถึงเนินสวาท โสภิตาก็ครวญครางและบิดตัวไปมาราวกับนางงู สราวลีสูดดมกลิ่นน้ำเสียวฟอดใหญ่ แต่พอเธอก้มหัวลงต่ำและจูบโคกหีโสภิตาพร้อมกับแหย่ปลายลิ้นเรียวเล่นกับเม็ด แตด โสภิตาก็กรีดร้องออกมาและถึงสวรรค์ในทันที
สราวลีรู้สึกหีตัวเองเริ่มมีน้ำเงี่ยนไหลซึมออกมาขณะที่เธอยกท่อนขาโสภิตาพาดไหล่และลงมือเลียไปรอบเนินหีช้าๆ ค่อยๆ วนไปจนถึงปากแคม
“ เอาเลยจ้ะ หนูลี ได้โปรด” โสภิตาร้องออกมา
“ ดูดหีน้า ดูดให้น้ำแตกเลยซิจ๊ะ”
สราวลียิ้มให้ตัวเองและแยงลิ้นเข้าไปในหีโสภิตาให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้ เธอชอบตอนที่โสภิตาแอ่นสะโพกอัดหีเข้ากับปากเธอ เธอรู้สึกว่าปากตัวเองเต็มไปด้วยน้ำเสียวของโสภิตาจนต้องรีบกลืนลงไปโดยเร็ว รสชาดก็อร่อยดีอีกด้วย
เธอคว้าแก้มก้นโสภิตาแล้วยกขึ้นมาเพื่อสะดวกต่อการเข้าถึงเนินหีแล้วก็เริ่ม ฉกลิ้นเข้าๆ ออกๆ รูหีราวกับลิ้นเธอเป็นควยดุ้นย่อมๆในขณะเดียวกันเธอก็ค่อยๆ กระดืบนิ้วเข้าไปใกล้รูตูดโสภิตา พอไปถึง เธอก็ลองแหย่ๆ ดู รู้สึกว่ามันเผยอออกและรัดปลายนิ้วเธอไว้ สราวลีอ้าปากครอบโคกหีโสภิตาแล้วดูดสุดแรง ในเวลาเดียวกันเธอก็แยงนิ้วกลางเข้าไปในรูตูดโสภิตา ซึ่งได้ผลอย่างน่าประหลาดใจ เธอดิ้นเร่าๆ จนสราวลีเกือบถูกสลัดลงไปกองกับพื้นและกรีดร้องในขณะที่ถึงจุดสุดยอด ระหว่างนั้นสราวลีก็ยังทำหน้าที่ต่อไปโดยดูดหีโสภิตาพร้อมแยงลิ้นเข้าๆออกๆ ส่วนนิ้วกลางก็เย็ดตูดโสภิตาไม่หยุดหย่อน ในตอนที่โสภิตาตัวเกร็งบิดไปมานั้น เธอก็กรีดร้องคำพูดบางคำซึ่งตอนแรกสราวลีก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกหรือ เปล่า แต่พอโสภิตาพูดซ้ำอีกครั้ง สราวลีก็รู้ในทันทีว่าสิ่งที่พ่อเธอและเขมิกาพูดนั้น มันเป็นความจริง
“ รณกรลูกแม่” โสภิตาร้องครวญคราง
“ ดูดหีแม่แรงๆหน่อยลูก เอาให้แม่น้ำแตกเลย”
นั่นแสดงว่าโสภิตาก็คิดอยากเย็ดลูกชายหรือได้เย็ดไปแล้วก็ไม่รู้ แต่สราวลีตั้งใจว่าจะทำความจริงให้กระจ่างในคืนนี้ ส่วนในตอนนี้หีเธอเองก็ร้อนยังกับไฟที่ต้องการน้ำมาดับ เธอพลิกกลับหัวกลับหางแล้วหย่อนโคกหีลงหาปากโสภาและรู้สึกว่าลิ้นของโสภิตา พุ่งออกมาเลียหีเธอ สองสาวพากันปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคลื่นความปรารถนา ต่างคนต่างดูดและเลียหีให้กันและกัน พยายามให้อีกฝ่ายถึงจุดสุดยอดก่อน ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานนัก
สราวลีรู้ว่าจุดสุดยอดกำลังมาถึงโดยดูจากจังหวะการเต้นของหัวใจและจากการที่ โพรงหีเธอขมิบตอดลิ้นโสภิตา แต่เธอก็ยังฉกลิ้นเข้าๆออกๆ รูหีโสภิตาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่พอโสภิตาเอื้อมมือขึ้นไปแบะแก้มก้นและแยงนิ้วเข้าไปในรูตูดอันคับติ้วของ เธอ ความรู้สึกของสราวลีก็ระเบิดในทันที เธอเบียดบดโคกหีลงบ นใบหน้าโสภิตา ส่วนตัวเธอเองก็พยายามจะดูดน้ำเสียวที่ถะถั่งออกมาจากโพรงหีโสภิตา
ในที่สุด ทั้งสองสาวก็คลายอาการเกร็งและสราวลีพลิกตัวลงมานอนข้างโสภิตาแล้วชันศอกขึ้นยิ้มให้เธอ ท่าทางโสภิตาดูเหมือนทำอะไรผิด
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้าโส” เธอปลอบเบาๆ พร้อมกับเอนตัวเข้าไปจูบ
“ น้า…น้าไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย” โสภิตาบอกเธอด้วยเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ
“ ไม่เคยเลยจริงๆ เหรอคะ”
“ จ้ะ ไม่เคยเลย” เธอตอบพร้อมเบือนสายตาหลบ
“ น้าไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมน้าถึงทำลงไปได้อย่างนั้น”
“ ก็เพราะลิ้นและนิ้วของหนูไงคะ” สราวลีพูดยิ้มๆ ทำให้แม่ของรณกรยิ้มออกมาได้
“ ง่า…น้าไม่ได้นอนกับผู้ชายมานานแล้ว พอหนูลีพูดถึงเรื่องของหนูกับรณกร น้าก็เลยรู้สึกอยากขึ้นมา ยิ่งพอตอนที่หนูนั่งบนท้าวแขนเก้าอี้แล้วจูบน้านะ น้าก็เผลอลืมตัวไปเลย ยังกับมีผีมาสิงน้า น้าอายเหลือเกิน”
“ ทำไมล่ะคะ น้าไม่มีความสุขงั้นเหรอ”
“ มีซิจ๊ะ” เธอรีบตอบพร้อมทั้งยิ้มและใบหน้าที่แดงก่ำ
“ นั่นแหละที่น้ากลัว”
“ อ้าว ทำไมล่ะคะ”
“ ก็หนูเป็นแฟนลูกชายน้านี่ น้ามีความ สัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหนูมันไม่เหมาะ”
“ ไม่รู้สิคะ สำหรับหนู หนูคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะคะ หนูว่าทำกับหนูยังดีกว่าไปทำกับคนอื่นนะคะ น้าว่ามั้ย”
“ ก็มีเหตุผลอยู่นะจ๊ะ แต่ถ้ารณกรเขามารู้เข้าล่ะ” สราวลีหัวเราะและลุกขึ้นยืนสวมเสื้อผ้า ซึ่งโสภิตาก็รีบทำตาม
“ หนูว่าเราคงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรณกรหรอกค่ะ หนูเชื่อว่าต่อให้หนูหรือน้าเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ถ้าเตรียมการดีๆ เขาก็คงไม่ช็อคเท่าไหร่ ว่าแต่หนูมีคำถามคาใจอยู่คำถามนึงน่ะค่ะ”
“ อะไรหรือจ๊ะ” โสภิตาถามขณะที่กลัดกระดุมเสื้อ
“ น้าเคยเย็ดรณกรมั้ยคะ” ดวงตาโสภิตาเบิกกว้าง หน้าเธอซีดเผือด แต่แล้วก็กลับมาแดงเข้ม
“ บ้า ทำไมหนูคิดว่าน้าจะทำอย่างนั้น เราเป็นแม่ลูกกันนะ”
“ แต่น้าก็อยากทำอยู่ใช่มั้ยคะ” เธอถามพร้อมรอยยิ้มซุกซน
“ ถ้าปฏิเสธว่าไม่ หนูต้องขอคำอธิบายว่าทำไมน้าถึงเรียกชื่อเขาตอนที่หนูดูดหีน้า” โสภิตาเบือนหน้าหนี เธอยกแก้วไวน์แล้วดื่มรวดเดียวหมด เธอทิ้งตัวลงบนเก้าอี้และมองสราวลีด้วยประกายตาที่สับสน
“ เอาล่ะ น้ายอมรับว่าคิดอยากเย็ดเขา แต่มันก็เป็นแค่ความคิด”
“ ทำไมล่ะคะ”
“ ทำไมเรื่องอะไรจ๊ะ”
“ ทำไมปล่อยให้มันเป็นแค่ความคิดล่ะคะ ทำไมน้าไม่ให้เขาเย็ดน้า หนูรู้ว่าน้าเองก็อยาก และหนูก็ไม่คิดว่าเขาจะปฏิเสธ ความจริงหนูรู้สึกว่าเขาอยากเย็ดน้าพอๆ กับที่อยากเย็ดหนู หนูเห็นเวลาเขามองน้า ตาแทบถลนด้วยความอยาก ถ้าไม่จริงมาควักตาหนูทิ้งได้เลย”
“ แต่…แต่เราเป็นสายเลือดเดียวกันนะจ๊ะ” โสภิตาตอบเสียงแผ่ว
“ นั่นก็เป็นแค่สิ่งที่สังคมสมมติกันขึ้นมาค่ะ ถ้าน้ารักรณกร และรณกรก็รักน้า ทำไมน้าจะต้องปิดกั้นตัวเองจากความรักด้วย ถ้าน้าอยากจะเย็ดเขา หนูว่าก็ทำไปเถอะค่ะ”
“ ละ…แล้วหนูล่ะจ๊ะ” โสภิตาถาม
“ หนูไม่หึงเหรอถ้ารณกรเขาเย็ดน้าน่ะ”
“ หึงทำไมกันคะ หนูไม่กลัวว่าน้าจะแย่งเขาไปจากหนูหรอกค่ะ เพราะความรักที่เขามีให้น้ามันแตกต่างจากที่เขามีให้หนู อีกอย่างถ้ามันจะทำให้เขามีความสุข หนูก็ยินดีสนับสนุน” โสภิตาจ้องมองเธออยู่พักนึงก่อนรอยยิ้มจะค่อยๆ เบ่งบานบนใบหน้าเธอ
“ น้าถามอะไรหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”
“ ได้สิคะ”
“ หนูเย็ดกับพ่อหนูรึเปล่า”
“ ฮื่อ” เธอตอบยิ้มๆ
“ ตกใจมั้ยคะ”
“ ถ้าเป็นเมื่อชั่วโมงก่อนน้าก็คงตกใจแทบตาย แต่ตอนนี้น้าไม่รู้สึกอะไรเลยซักนิดเดียว”
“ น้าโสน่าจะลองเย็ดพ่อหนูดูนะคะ” เธอพูดยิ้มๆ
“ ควยพ่อหนูทั้งใหญ่ทั้งยาว รับรองว่าน้าต้องตาค้างเลยล่ะค่ะ”
“ อย่าแกล้งแหย่น้าเล่นยังงี้ซิจ๊ะหนูลี” โสภิตาหน้าแดงยกมือปิดรอยยิ้มซุกซน
“ ใครบอกว่าแกล้งพูดเล่นคะ ควยรณกรก็ไม่ธรรมดานะคะ แต่ควยพ่อหนูยังใหญ่และยาวกว่านั้นอีก ตอนที่เขายัดควยมหายักษ์ดุ้นนั้นเข้าหีหรือตูดนั่นแหละ น้าจะซึ้งถึงคำว่า ‘เย็ด’ จริงๆ ค่ะ”
“ แล้วรณกรล่ะจ๊ะ หนูจะเอาเขาไปไว้ที่ไหน”
“ จะเอาเขาไปไว้ไหนเหรอคะ หนูรักเขาค่ะ รักควยเขาด้วย แต่หนูก็รักพ่อและควยพ่อหนูเหมือนกัน ถ้าหนูไม่ต้องเลือกก็จะดีหรอก หนูไม่รู้ว่ารณกรเขาจะคิดยังไงถ้ารู้ว่าหนูกับพ่อเย็ดกัน
“ แต่ว่านะ” เธอเสริมยิ้มๆ
“ ถ้ารณกรก็เย็ดกับน้าด้วยเหมือนกัน เขาก็คงพูดอะไรไม่ออกเรื่องที่หนูกับพ่อเย็ดกันใช่มั้ยคะ”
“ อือม์ ถ้าเป็นยังงั้น” โสภิตาตอบช้าๆ เธอพอจะรู้ทันความคิดของสราวลีแล้ว
“ น้าว่าเขาคงไม่กล้าว่าอะไรหนูแน่ๆ”