รักไม่นับตัวเลข - ตอนที่ 28 “ความตั้งใจของแต่ล่ะคน!?”
3 พฤศจิกายน 2548
…ที่บ้านของผมเอง…
“พี่เคนจะออกไปไหน?”
“แถวๆนี้แหละ”
“หาสาวๆมาเคี้ยวเล่นใช่มั้ยล่า–”
“พูดจาแก่แดดจังนะเรา”
“ก็หนูพูดเรื่องจริงนี่จ๊ะ”
“เอ้ย!!…อย่ากอดตรงนี้สิมิว…เดี๋ยวบรีนมาเห็น”
“ตอนนี้เธอหลับสนิทอยู่ไม่ใช่เหรอไงคะเพราะเมื่อคืนเล่นเสียวกับพี่เคนอย่างหนักนิ?”
“มันก็ใช่…แต่…”
“ก็ไม่เห็นจะต้องออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้านเลย…สาวน้อยสาวใหญ่ในบ้านนี้ก็มีไว้ให้พี่เรียกใช้บริการอยู่นะอย่าลืมซี่~~”
“ไม่ได้ไปหาผู้หญิง”
“มิวไม่เชื่อหรอก”
“เอ้าๆๆ…บางทีมันก็อยากออกไปสรรหาอะไรใหม่ๆให้ชีวิต…นี่พี่พูดเล่นนะ”
“ลองพูดใหม่อีกครั้งซิพ่อตัวดี~~”
“โอ้ยน้า!!!”
“ขนาดเมียตัวเองอยู่นี่ทั้งคนยังจะกล้าออกนอกลู่วิ่งอีก?…ไหนจะมีพี่เมียฝาแฝดกับแม่ยายที่บอกว่าพรุ่งนี้จะมาไม่ใช่เหรอ?”
“…ครับ”
“งั้นขอแค่อย่างเดียวเท่านั้น…เคนก็อย่ามัวแต่สนุกกับสาวอื่นจนลืมน้ากับมิวล่ะ?”
“ใครจะลืมได้ลงเล่าก็น้าจี๊ดกับน้องมิวทั้งสวยทั้งน่ารักแถมเอาใจเก่งกันซะขนาดนี้?”
“อุ๊ยๆๆ…แล้วใครกันเอ่ยที่เพิ่งจะบอกอยู่หยกๆว่าห้ามกอดแต่ทีตัวเองกลับกอดเค้ากับแม่ซะแน่นเชียว?”
“มิวจ๊ะ…แม่น่ะหมั่นไส้อีตาหลานชายที่แสนน่ารักน่าหยิกคนนี้จริงๆ”
…ลูกสาวในอ้อมกอดด้านซ้าย…แม่ในวงแขนข้างขวา…ยิ่งมีพี่เมียกับแม่ยายมาเกี่ยวด้วยแล้วผมจึงรู้ดีว่าต่อไปนี้จะต้องสับรางแบ่งเวลาให้ลงตัวที่สุดไม่อย่างนั้นมันอาจจะเกิดเรื่องเศร้าระหว่างผมกับบรีน…
…
…ที่บ้านของนุ้ย(ไอ้หมึกด้วย)…
“โอ้โฮ!!!!…เป็นเรื่องจริงหรือเนี่ยที่นุ้ยกำลังมีเด็ก?…ไม่ได้ล้อกันเล่นนา–”
“จ้ะ”
“เรื่องอย่างนี้ใครเขาจะเอามาล้อเล่นกันล่ะเพื่อน?”
“หมึก…งั้นกูก็ขอแสดงความดีใจด้วยจริงๆว่ะที่มึงจะกลายเป็นพ่อคนแล้ว”
(อายุเท่าเราแท้ๆเลยแต่มันก็เคยมีตัวอย่างมาแล้ว…พี่จุนไง…เธอตั้งท้องน้องจอยตอนอายุ 13 ปี!!!!…ยอดมั้ย?)
“นุ้ยไปเยี่ยมพ่อหลังการผ่าตัดเปลี่ยนไตอยู่ๆรู้สึกวิงเวียนหน้ามืด…พยาบาลเลยให้ลองตรวจร่างกายดูแล้วก็รู้ผลว่าตั้งท้อง”
“ตอนนั้นกูก็กลัวว่าพ่อนุ้ยจะโกรธแต่ที่ไหนได้…แกดีใจจนน้ำตาไหลพรากเลยว่ะเคน”
“ใช่จ้ะ…พ่อบอกว่าดีแล้วที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อจะได้รอเห็นหน้าหลาน”
“ส่วนเรื่องเรียนนุ้ยจะเอายังไง?”
“คงต้องดร็อปไว้ก่อนหรือไม่ก็ลาออกน่ะ…พอดีปรึกษากับหมึกไว้ก่อนแล้วว่าจะเปิดร้านขายอาหารเล็กๆหน้าปากซอยนี่แหละ”
“……………………………………….”
“กูทำอาหารเป็นมึงก็รู้ดีนี่หว่า–…พวกเราอยากจะขายอาหารอีสานจำพวกลาบ,ก้อย,ต้มแซ่บอะไรประมาณนี้”
“คนอื่นรู้ยัง?”
“ส่วนใหญ่ก็รู้แล้วเหลือแต่ไอ้เอ๊าะ…กูติดต่อมันไม่ได้เลยว่ะ”
“ไปหลีสาวอีกตามเคยล่ะมั้งไอ้บ้าเนี่ย?”
(แต่จริงๆเราว่าไม่ใช่…เดี๋ยวต้องลองแวะไปบ้านมันหน่อย)
“ราวๆต้นเดือนหน้าคงจะเปิดร้านได้…เคนต้องแวะมาอุดหนุนบ่อยๆนะ”
“ได้เลยนุ้ย”
“สัญญานะโว้ย!!!…มึงต้องมาเป็นลูกค้าคนแรกของเรา…ห้ามเบี้ยวเด็ดขาด…เอ้อ!!…พาแฟนมาด้วยเน้อ~~”
“โอเค!!!”
…นับว่าไอ้หมึกนำหน้าผมไปก้าวหนึ่งแล้ว…ย่างก้าวที่สำคัญอย่างยิ่งซะด้วย…
“ลูกงั้นเหรอ?…บรีนต้องพร้อมมีให้เราแน่แต่…”
…เพราะผมรู้ดีว่าตัวเองในเวลานี้ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆแต่ภาระนั้นกลับใหญ่หลวงยิ่งนัก…
…………………………………………………………………………………….
…ที่บ้านของเจ้าเอ๊าะ…
“โอ~~…โอววววววววววว…นะ…หนักๆ…ดูดหนักๆเลยครับสองสาว…ซีดสสสสสสสสสสส”
“ไอ้ห่-นี่มันเอาอีกแล้วสินะ…ถึงว่าสิหมึกเลยบอกว่าติดต่อไม่ได้…ที่แท้ก็กบดานอยู่ในบ้านแถมนอนกระดอตั้งเด่ให้พี่ต่ายกับพี่แตงผลัดกันดูดเล่นนี่เอง”
(แต่พี่แตงเข้ามาร่วมวงไพบูลย์กับสมาชิกในบ้านนี้ได้อย่างเปิดเผยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?)
“ฮี่ๆๆ…พี่ต่ายกับพี่แตง…อือออออออออ…คน…คนไหนอยากโดนควยก่อน?”
“พะ…พี่ก่อนนะ”
“ขอให้แตงก่อนเถอะผัวขา~~”
“อะไรของเธอยะ?…ฉันเป็นพี่สาวเอ๊าะนะ!!”
“ใครจะไปสน?”
“ฉันต้องได้เย็ดก่อนสิ”
“ไม่ต้องแย่งกันๆ…ได้ทุกคนๆ…โอ๊วววววววววววววววว!!!!…แล้ว…แล้วหีของใครกำลังกลืนควยกูวะเนี่ย?”
“แม่!!!”
“คุณดานี่ล่ะก็~~”
“อูยยยยยยยยยยยยยยยยยย…เอา…เอาหีสวมทับซะเลย…นี่แน่ะ!!…มะ…มัวแต่แย่งกันดีนัก…ซีดสสสสสสสสสสส…ฉะ…ฉันขอเย็ดควยลูกฉันก่อนละ…อาวววววววววววววววววววววว…หีจะฉีกแล้ววววววววววววว”
…น้าดายังมีไฟสวาทร้อนแรงไม่ยอมสร่างซา…ตูดขาวๆของเธอกำลังยกขย่มตอของลูกชายในไส้พั่บๆๆๆๆพลางอ้าปากร้องครางเสียงดังลั่นอย่างไม่เกรงใจใคร…
“อาาาาาาา…สุด…สุดยอดมากครับแม่”
“อืมมมมมมมมมมมมมมม…อะ…อร่อย…ไม่…ไม่นึกว่าควยลูกชายตัวเองจะเสียวอร่อยรูหีถึงขนาดนี้?…อ๊อยยยยยยยยยยยย”
“แม่!!…รีบจัดการทำให้เสร็จเร็วๆเลยนะ…เอ๊าะก็ห้ามออกก่อนด้วยย่ะ!!!”
“อ๊ากกกกกกกก…ของ…ของแบบนี้มันห้ามกันได้ที่ไหน?…อูววววววววววววววว…นะ…นั่นแหละแม่…ผม…ผมเสียวควยจังเลยครับ”
“เราไม่น่ามัวแย่งกันนะคะคุณต่าย”
“เธอแหละนะ…กางเกงในก็ยังไม่ถอดแล้วจะมาเย็ดควยน้องเอ๊าะก่อนฉันรึ?”
“ก็ไม่เห็นจะยากตรงไหน?…นี่เป็นแบบจีสตริงค่ะ…จะเย็ดหีหรือเย็ดตูดก็แค่แหวกเป้าหน่อยเดียวเอง”
“โอออออออออออ…พะ…พี่ต่ายกับพี่แตงเล่นตีฉิ่งไปก่อนก็ได้นี่นา–”
“อะ…เอางั้นเรอะ?”
“ผม…อยากดู”
“กะ…ก็ดี…อย่างน้อยก็ช่วยแก้เงี่ยนได้บ้าง…อีกไม่นานแม่ก็น้ำแตกแน่”
“อู๊ยยยยยยยยยยย…ยะ…อย่าดูถูกแม่สิต่าย…อือออออออออออ…แม่…แม่ไม่มีทางหยุดหรอกจนกว่าจะเอาน้ำเงี่ยนลูกเอ๊าะออก…ซีดสสสสสสสสสสส…จน…จนหมดจด”
“ว้าย~~…ไม่ได้นะคะ!!!”
…ชักทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว…เกลอของผมนี่มันช่างเกิดมาเพื่อเย็ดหีเพียงอย่างเดียวจริงๆ…นี่รึคือเส้นทางชีวิตที่มันเลือกเดิน?…งั้นจงเชื่อเถอะว่าอีกไม่นานนายเอ๊าะจะต้องดำเนินรอยตามนายหมึกซึ่งนั่นก็คือ “สู่หนทางแห่งการเป็นคุณพ่อมือใหม่”…
…
…ที่บ้านของพี่บุศ…
…ผมแวะหาพี่บุศที่บ้านหลังจากไม่ได้เจอกันนาน…เธอนั่งอ่านหนังสือเพียงคนเดียวในสวนหย่อม…
“ไงน้อง!!!…ได้ข่าวว่าทำตัวเป็นพระเอกหนุ่มบูชารักแท้เอาตัวบังกระสุนปืนให้สาวคนรักหรือจ๊ะ?”
“อย่าล้อผมเล่นแบบนี้สิครับพี่บุศ”
(ปากพูดโอภาปราศรัยแต่สีหน้าท่าทางเหมือนกำลังมีเรื่องกลุ้มใจ?)
“แต่ช่างน่าอิจฉาเคนจริงนะที่ความรักกำลังดำเนินไปได้อย่างสวยงาม…พี่ซะอีกที่ต้องทนหน้าชื่นอกตรมทุกเมื่อเชื่อวัน”
“พี่บอลเขาทำไมครับ?”
“เคน…พี่ไม่เข้าใจเลยว่าตัวพี่ด้อยกว่าศกุนตลากับสาวิตรีตรงไหน?…บอลถึงได้เอาแต่เฝ้าหลงใหลฝ่ายนั้นนัก”
“ผมว่าพี่บุศยังมีดีมากพอสำหรับผู้ชายคนอื่น…เรารักคนที่เขารักเราดีกว่าครับ”
“ไม่!!!…พี่รักบอลและจะไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่โดยถึงแม้เวลานี้บอลจะยังไม่เห็นว่าพี่สำคัญต่อตัวเขามากพอ…เธอน่ะมีความรักแล้วก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉันนะว่าถ้าลงได้หลงรักใครสักคนแล้วมันถอนตัวถอนใจยากมากแค่ไหน?… 2 อาทิตย์ก่อนพี่ไปเที่ยวฮ่องกงเพื่อสงบจิตสงบใจและเฝ้าคิดทบทวนอย่างจริงจังว่าทำไมพี่ถึงได้ปักใจกับบอลมากเหลือเกิน?…แล้วในท้ายที่สุดก็ได้คำตอบมาข้อหนึ่ง”
“อะไรหรือครับ?”
“คำตอบที่ออกมาก็คือ…พี่จะพิสูจน์ให้บอลเห็นให้ได้ว่าบุศยาผู้นี้นี่แหละคือผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาที่สุด…ต่อไปนี้พี่จะทำตามความคิดและสิ่งที่ตัวเองเชื่ออย่างไม่มีความลังเลใจอีก!!!!”
“……………………………………”
…ด้วยนิสัยของพี่บุศผมเชื่อว่าต้องไม่ใช่แค่การพูดเล่นลอยๆเอาความรู้สึกสะใจแน่!!…เธอผู้นี้จะเพียรพยายามกระทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครอบครองในสิ่งที่ตนต้องการถึงแม้จะต้องช่วงชิงของรักของผู้อื่นโดยซึ่งๆหน้าก็ตามที!!!…
“ผมรู้สึกหวั่นใจแทนพี่บอลจริงๆครับ…ถ้าพี่ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวซะตั้งแต่แรกเรื่องราวก็คงไม่ยืดเยื้อมาจนถึงบัดนี้…นี่เป็นเพราะความเจ้าชู้และจิตใจลังเลไม่เด็ดขาดของพี่เองนั่นแหละนะ”
(ปากดีว่าแต่เขา…เราเองยังแทบจะเอาตัวไม่รอด)
…
…ที่บ้านของพี่จุน…
“อะไรน่ะ?…ทำไมหน้ากุ๊กถึงได้แดงอย่างนั้น?”
“ก็…”
“?”
“เฮ่!!…มันเรื่องอะไรที่นายจะต้องมาจ้องมองแฟนเราปานจะกลืนกินอย่างนี้วะหา?…เมินซะเถอะ!!!…ไม่มีครั้งต่อไปแน่เจ้าถั่วงอกบ้ากาม”
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ”
“แต่สายตานายมันส่อ…กุ๊กไปอยู่กับจอย…เดี๋ยวเราจัดการอีตาบ้านี่เอง”
“ไม่เห็นจะต้องทำถึงขนาดนี้…เคนไม่ได้มาที่นี่เพราะมีจุดประสงค์นั้น…เกิดบรีนรู้เข้ามีหวังวีนแตกกันพอดี”
“เฮอะ!!…นั่นก็เป็นเพราะนายอยากทำตัวให้คนอื่นระแวงเองนี่หว่า…ผู้ชายน่ะมันไว้ใจไม่ได้สักคนหรอก”
“………………………………….”
“หรือที่มาเพราะเกิดหลงเสน่ห์ของแม่เลี้ยงเราเป็นรายล่าสุด?”
“ไม่ใช่…ก็แค่แวะมาหาเฉยๆ”
“งั้นไปทักทายซะหน่อยสิ…ไม่งั้นจะถูกหาว่าไม่เคารพเจ้าถิ่น”
“………………………………….”
“โอ้!!…นี่นายอยากเสนอตัวมาเป็นเป้านิ่งให้ฉันฝึกเพลงเตะเรอะ?…เป็นเกียรติมาก~~”
“ปละ…เปล่านะครับ!!!”
(คิดอีกทีก็ไม่น่ามาเลยนะตู)
“…ฉันกำลังฝึกอยู่…อย่ารบกวน”
“………………………………….”
“เพื่อเตรียมไว้รับมือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง…แค่คิดมันก็น่าสนุกจริงๆ…ดีกว่าออกไปล่าผู้ชายนอกบ้านเยอะเชียว”
(พี่จุนเคยทำอย่างนั้นด้วยหรือไง?…ได้ยินข่าวมาว่ามีแต่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตามจีบถึงบ้านชนิดหัวกระไดแทบไม่แห้ง)
“หึ!!…ไม่ได้เห็นยัยจุนคึกแบบนี้มานานแล้ว…เราว่าแค่ใช้เวลาเคาะสนิมอีกสักหน่อยเดียวหล่อนก็จะกลับไปเป็นทอร์นาโดจุนผู้ไร้เทียมทานดังเช่นแต่ก่อน…อย่างว่าแหละ…ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ดนี่นะ…ว้าก~~”
“เฮ้ย!!!”
“อีลูกบ้า!!!…นินทาแม่ตัวเองว่าแก่เร๊อะ?…ประเดี๋ยวก็จับซ้อมให้ลืมบ้านเลขที่ซะเล้ย~~”
“ตีความหมายไปอีท่าไหนวะเนี่ย?…คนเขาอุตส่าห์ชมนะว้อย!!!…แล้วมันอันตรายไม่ใช่เหรอขว้างเก้าอี้ใส่แบบนี้?”
“ไปไกลๆเลยป่ะ!!!”
“ขว้างเก้าอี้ตัวบะเริ่มได้ด้วยมือเดียว…แม่งแรงควายจริงๆแฮะ…สงสัยรอบเดือนจะมาไม่ปกติ…เหอะเคน”
“……………………………………”
“ฮึ่ยๆๆ…นางพญาเสือศรบุษราคัม…เจ้าเด็กสามหาวศรโกเมน…ฉันไม่กลัวพวกเธอเฟ้ย!!!…เชิญเรียงหน้ากันเข้ามาเซ่แล้วแม่จะเตะให้กลิ้งเป็นลูกขนุน!!!!”
“นางพญาเสือศรบุษราคัมกับเจ้าเด็กสามหาวศรโกเมน…ใครกันเรอะจี?”
“ไม่รู้…ถามจุนๆก็ไม่ยอมตอบ”
“ตั้งแต่กลับจากหัวหินฉันว่าพี่จุนดูเปลี่ยนไป”
“เราว่ามันบ้ายิ่งกว่าเดิมเยอะแต่นายว่าเปลี่ยนไปยังไง?”
“รู้สึกเธอดูตื่นตัวมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเก่าน่ะ”
“อ้อ!!…นั่นคงเพราะได้เจอคู่ต่อสู้รายใหม่ล่ะมั้ง?”
“คงจะใช่”
“ยังไงนี่ก็เป็นหลักฐานยืนยันว่าในใจจริงๆยัยนั้นก็กลัวอีกฝ่ายไม่ใช่น้อย…ตั้งแต่กลับมาก็เห็นห้าวอยู่อย่างนั้นตลอด”
“แต่จีเองก็ไม่ค่อยจะชมใครง่ายๆ”
“เออ–…พูดไปตามเนื้อผ้าน่า…จากเหตุการณ์ที่ผ่านมามันทำให้เรายอมรับฝีมือของจุนมากขึ้นเยอะ…หล่อนสมกับเป็นผู้ทักษะยุทธที่เต็มเปี่ยมไปด้วยฝีมืออันเอกอุและประสบการณ์อันข้นคลั่ก…ฮะๆ…เราต้องหัดเปิดใจตัวเองให้กว้างขึ้นน่ะ”
“ฉันด้วย…เราทั้ง 2 คนเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิดแล้วนะ”
“ซึ่งถ้าลงว่ายัยจุนให้ความสำคัญมากขนาดนี้ก็หมายความว่าคู่ต่อสู้ร้ายกาจน่าดู…เราเองก็สมควรจะต้องตั้งเป้าหมายไว้บ้างเหมือนกัน…ปัจจุบันเรายังสู้พี่แคทกับฝนไม่ได้แต่ก็ไม่ยอมงอมืองอเท้าอยู่เฉยๆ”
“……………………………………..”
…แม้ความตั้งใจของแต่ล่ะคนจะแตกต่างกันไปแต่สิ่งที่เหมือนกันคือทุกคนต้องการเลือกทางเดินที่ดีที่สุดและสั้นที่สุดนั่นเอง…
…
…ส่วนอีกด้านหนึ่ง…
“อื้ม!!!…ข้าวไก่ทอดเจ้านี้อร่อยใช้ได้นะลุง…ค่อยยังชั่ว…หนูออกไปครั้งนี้เจอแต่เรื่องน่าหงุดหงิดใจ”
“ลำบากแย่เลย”
“ลุงก็ลองคิดดู…เมื่อคืนก่อนหนูกะไปเดินพักผ่อนเที่ยวเล่นแถวสนามหลวงให้สบายใจสักหน่อยแต่กลับถูกตาแก่หัวงูลามกหาว่าเป็นผีขนุนซะงั้น…ถามว่าเป็นอย่างว่าใช่มั้ยและค่าตัวเท่าไหร่?…ว้าก~~~…สบประมาทกันอย่างร้ายกาจที่สุด!!!!…หนูน่ะโกรธจนปากคอสั่นพูดอะไรไม่ออกเชียวลุง”
“ก็ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไปล่ะกันนะหลานเอ้ย~~…ชะตาชีวิตของคนเรามันก็มีทั้งดีและร้ายเหมือนเชือก 2 เส้นที่เกี่ยวพันกันไปมานั่นแหละ”
“………………………………………”
“แต่หนูป้อมเพิ่งอายุแค่…”
“14”
“แล้วทำไมท่านเอกบดินทร์ถึงปล่อยให้หนูออกไปไหนมาไหนตามลำพังคนเดียว…ไม่เป็นห่วงบ้างหรือ?”
“ลุงออกจากจัตุรัสมาหลายปีแต่ก็น่าจะพอรู้นะคะว่าคุณตาน่ะตามใจหลานๆจะตายไป…ห่วงก็ห่วงนะแต่ไม่กล้าขัดใจหรอก…อย่างเมื่อก่อนหนูกับพี่ฝนชวนกันจุดดอกไม้ไฟใกล้ๆห้องทองคำ…เสียงระเบิดดังลั่นจนคุณตาเดินหน้าบึ้งจะออกมาด่าแต่พอเห็นหน้าเรา 2 คนกลับโมโหไม่ลง”
“ฮ่าๆๆ…ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนไปเรียบร้อย”
“และก็บอกยิ้มๆว่าไปเล่นกันที่อื่นเถอะ…ตาแก่แล้วได้ยินอะไรดังมากๆมันจะไม่ดีต่อสุขภาพหูแถมยังให้ตังค์เราไปซื้อดอกไม้ไฟเพิ่มด้วย…ฮิๆๆ”
“พวกท่านคงไม่รู้สึกเหงาเพราะงานวันเกิดลูกๆหลานๆต่างไปร่วมอวยพร…แขกเหรื่อก็มากมาย…เสียดายที่ลุงไม่ได้ไปเพราะติดงาน”
“ก็…ไม่แน่เสมอไป…อ้อ!!…จากเมื่อกี้ที่ลุงพูด…ถ้างั้นอีกไม่นานป้อมอาจได้พบกับเรื่องดีๆสินะ?”
“แน่นอน…คนเรามันไม่มีทางโชคร้ายตลอดร้อก!!!”
“ฮะๆๆ…หืม?…เฮ่ๆๆๆ…ลุงเบารถหน่อยซิ!!!!”
“?”
“ผู้ชายคนนั้น…รู้สึกคุ้นหน้ายังไงไม่รู้แฮะ…อืม–…นี่เราเคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าน้า?”
“…………………………………….”
“ลุงส่งหนูตรงนี้แหละค่ะ”
“แล้วจะให้มารับมั้ย?”
“ไม่เป็นไร…ขอบคุณลุงมากที่อุตส่าห์ไปรอรับถึงศูนย์ขนส่งและยังใจดีเลี้ยงอาหารกลางวันอีก…หนูจะเล่าให้พี่อ๋อมฟังว่าลุงชัยน่ะมีน้ำใจงามมากๆเลย”
“โชคดีนะ”
“……………………………………..”
“…มีอะไรเชน?…กูอยู่หน้าบ้าน!!…วันนี้สงสัยจะไปไม่ได้ว่ะเพราะแม่กูอยู่ทั้งคู่เลย…ไว้คราวหน้าเถอะ”
“ไผ่สีสุก…เอ–…นี่มันชื่อหมู่บ้านที่พี่แคทกับพี่ฝนมาพักอาศัยตอนเรียนอยู่นี่ไม่ใช่เรอะ?”
“จ้ะ!!…ผมซื้อข้าวกลางวันมาเผื่อ…กุนกับสาไม่ต้องออกมารับหรอกครับ…ผมอยู่ตรงปากทางเข้าบ้านแล้ว”
“กุน…หรือจะหมายถึงศกุนตลาและสาที่ว่าก็คือสาวิตรี?”
“…………………………………….”
“งั้นพี่ชายคนนี้ก็ต้องเป็น…พี่บอล…”
“…………………………………….”
“…………………………………….”
“…………………………………….”
“ใช่แน่!!!!…แม้เค้าหน้าจะเปลี่ยนไปแต่เราก็ยังจำลักษณะของดวงตาคู่นั้นได้…เขาคือเอกคเชนทร์ วิษณุมนตรีพี่ชายของเรา!!!!!!…ไม่ได้ๆ…จะต้องรีบบอกให้พี่อ๋อมรู้…อ๊ะ!!!…เดี๋ยวก่อน…”
“…………………………………….”
“…………………………………….”
“น้อง…มาหาใครน่ะ?”
“อ่า–…คือ…”
“พี่อยู่ที่นี่มาก็นานแต่ไม่เคยเห็นหน้าน้องเลย…อ่ะ!!…ถ้าหลงทางอยู่ก็บอกพี่ได้ไม่ต้องเกรงใจ”
“ไม่…ไม่ใช่…คะ…คือ…คือ…หนูมาหา…”
“ใครล่ะ?…น้องลองบอกมาสิเผื่อพี่รู้จักจะได้พาไป”
“…พี่แคทกับพี่ฝน”
“รู้จักด้วยหรือ?”
“คือ…หนูเป็นคนบ้านเดียวกันและรู้จักพี่เค้านานมากแล้วค่ะ…พอดีผ่านมาทำธุระแถวนี้เลยลองแวะดู”
“อ๋อ!!…ยังไม่กลับมาเลย…ไม่พรุ่งนี้ก็คงมะรืน”
“หนูเลื่อมใสพวกเธอมากและผู้คนที่โยนกอุดรต่างก็ให้ความศรัทธาอย่างสูง”
“ขอโทษทีนะ…พี่ไม่ได้กลับไปที่นั่นนานแล้ว…ไม่รู้อะไรหรอก”
“…………………………………….”
“น้องชื่ออะไรหรือ?…เผื่อพวกเธอกลับมาที่นี่พี่จะได้บอก”
“ไม่!…ไม่ต้อง!!…พี่บอลอย่าพูดเด็ดขาดเลยว่าหนูมาที่นี่…หนูชื่อป้อมค่ะ?”
“นี่รู้ชื่อพี่ด้วยรึเนี่ย?…มิน่าถึงได้เดินตามพี่มาตั้งนานว่าแต่ทำไมป้อมถึงไม่ให้บอกพี่แคทกับฝนล่ะ?”
“นั่นเพราะ…หนูมาโดยไม่ได้บอกกล่าวและก็แค่อยากมาเห็นบ้านที่พี่เค้าอยู่เท่านั้นค่ะ…ดังนั้นพี่บอลอย่าพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นะคะ”
“…ได้”
“เอ่อ–…ขอถามสักนิด…ตอนอยู่ที่นี่พี่แคทกับพี่ฝนเป็นยังไงบ้างคะ?”
“ป๊อบปูล่าร์สุดๆ…มีแต่คนนิยมชมชอบพวกเธอ…ถ้าไม่นับเรื่องต่อยเตะตีรันฟันแทงล่ะก็นะ…สำหรับการเรียน…พี่แคทเรียนเก่งมากส่วนฝนไม่ค่อยเท่าไหร่…เอาแต่เล่นทั้งที่หัวก็ดี”
“โฮ่–…แล้วในฐานะที่อยู่บ้านเดียวกัน…พวกเธอดูแลพี่บอลดีหรือเปล่า?”
“ดูแลเรอะ?…ก็ไม่เท่าไหร่…พี่แคทมักจะเย็นชากับพี่เสมอส่วนฝนก็มักสรรหาแต่เรื่องบ้าๆบอๆมาให้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย”
“สรุปก็คือดูแลไม่ดี…พี่สาวทั้ง 2 ทำหน้าที่บกพร่อง…ไม่สมกับความคาดหวัง”
“ก็?…ไม่เชิงนะเพราะตัวพี่เองก็ไม่ค่อยมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจถึงขนาดที่ 2 คนนั้นจะต้องช่วยอีกอย่างคุณแม่ของแฟนกับน้อง…เอ้อ!!…ลูกสาวของคนรู้จักของแม่ที่เสียไปก็คอยดูแลเอาใจใส่พี่อยู่”
“อือ–…ต้องขอโทษจริงๆนะคะที่ป้อมเอาแต่ซักไซ้ถามเรื่องส่วนตัว”
“ไม่เป็นไรๆ”
“งั้นหนูกลับล่ะค่ะ…ขอร้องอย่าบอกพี่แคทกับพี่ฝนนะคะว่ามีคนชื่อป้อมมาที่นี่และได้พบพี่บอลด้วย”
“ได้ไม่มีปัญหา…แล้วตกลงน้องเป็นอะไรกับ…”
“ก็อย่างที่พูดคือบ้านเราอยู่ใกล้กันและไปมาหาสู่กันเนืองๆ…ความสัมพันธ์ก็อยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่าใกล้ชิด…พี่กรุณาเชื่อหนูเถอะนะคะ…ที่พูดไปทั้งหมดคือความจริงทุกอย่าง”
“เป็นอย่างนี้เอง…พี่เชื่อป้อมจ้ะ”
“แหม~~…ช่างดีเหลือเกิน…หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำ…วันนี้ถือว่าป้อมโชคดีที่สุดในชีวิตเมื่อได้พบกับพี่บอล…ป้อมตื่นเต้นดีใจจนพูดแทบอะไรไม่ออกเลย”
“เมื่อกี้พูดอะไรเหรอ?”
“ปละ…เปล่าค่ะ!!!…แล้วสักวันหนึ่งเราคงได้พบกันอีกนะคะ”
…
“ทีแรกนึกว่าถ้าเห็นหน้าเราแล้วพี่บอลจะแสดงอาการอะไรสักอย่างออกมาบ้างแต่น่าแปลกมาก!!!!…เรียบเฉยราวกับว่าไม่เคยพบเรามาก่อนงั้นแหละ?…เวลา 10 ปีแม้จะนานแต่ก็ไม่น่า…”
“…………………………………….”
“…………………………………….”
“ฮึๆๆๆ…ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดพี่บอลถึงจำเราไม่ได้?…แต่…แต่หล่อมากอ่ะ~~~…ว้ายๆๆๆๆๆๆๆ…หัวใจเราเต้นตึกตักไม่เป็นส่ำแล้วเนี่ย~~…ขนแขนก็สะแตนท์อัพด้วยความตื่นเต้นดีใจไปหมดเลย~~…คิกๆ…คนอื่นต้องอิจฉากันเป็นแถวที่เรามีพี่ชายสุดหล่อ…บุคลิกมาดเท่ห์…จิตใจดี…รอยยิ้มก็อบอุ่นมีเสน่ห์…ไม่น่าแปลกใจสักนิดที่จะมีแต่ผู้หญิงมาชอบมาหลงแถมยังมีแฟนตั้ง 2 คนแล้วที่ยังไม่รู้อีกล่ะ?…ต้องมีแน่…ต้องมีแน่ๆ…กึด!!…คิดแล้ว…คิดแล้วน่าโมโหเพราะถ้าเมื่อไหร่พี่บอลได้รู้ความจริงว่าเราเป็นน้องสาวคนเล็กของพี่ๆก็จะต้องรักใคร่เอ็นดูและเอาใจใส่เรายิ่งกว่าใครๆ…หึ!!…ศกุนตลาสาวิตรี…พวกหล่อนน่ะไม่มีปัญญาทำอะไรได้หรอกน่า!!!…อ้อ!!…ต้องไม่ลืมที่จะ…ไงคะพี่~~…งานวันเกิดเป็นยังไงบ้าง?…คือป้อมมีเรื่องสำคัญจะมาบอกแน่ะ…หา!!…อะไรนะ?…ขะ…ข้อ…ข้อมือพี่หัก!!!…ใคร?…ใครบังอาจ!!!!”
“…………………………………….”
“เรื่องเกิดขึ้นตั้งเมื่อวานแล้วทำไมถึงไม่รีบบอกฉัน?…ไม่!!…ไม่อยากจะรู้อย่างอื่น…ฉันถามว่าไอ้หน้าไหนที่ทำร้ายพี่?…ฉันจะไปเล่นงานมัน…จะเอาให้มันต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าที่พี่ได้รับเป็นร้อยเท่าพันทวี!!!…ว่าไงนะ?…พี่แคทกับพี่ฝน…”
“……………………………………..”
“ต่ำทราม!!…เสียทีเป็นบุคคลชั้นสูงในตระกูลและเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไปกลับทำตัวเยี่ยงนี้เรอะ?…ฉันไม่ปล่อยให้มันจบง่ายๆแน่!!!”
“……………………………………..”
“พี่อ๋อมรู้ตัวมั้ยว่ากำลังพูดอะไรออกมา?…นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไปแล้วนะ!!…แม้ฉันจะเคารพนับถือพี่แคทกับพี่ฝนมากสักแค่ไหนแต่ครั้งนี้มันเกินไปแล้ว!!!…มันน่าถอนคำพูดเมื่อกี้ซะจริงๆ…พวกเธอทำอะไรไม่เคยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตานึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่นักรึไงกัน?…ฮ้า!!!…ยังมีพี่ม่อนอีก?…หน็อย~~…ฉันก็คิดอยู่ว่าเธอจะต้องมามีเอี่ยวด้วยอีกตามเคยส่วนพี่เอ้น่ะสมควรแล้วเพราะอยากเข้าข้างฝ่ายโน้นนัก…ก็ทั้งหมดแหละ…พี่แคทชอบเอาความคิดอคติส่วนตัวเที่ยวไปตัดสินคนอื่นกับพี่ฝนที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยทุกเรื่อง…พี่เซคกับพี่ม่อนแม้ภายนอกวางตัวดูดีแต่เนื้อแท้กลับปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ…สรุปคือพี่ทั้ง 4 คนนั่นต่างสวยเพียงรูปแต่จูบไม่หอม!!!!”
“……………………………………..”
“ฉันอุตส่าห์ดีใจที่พบพี่ชายแต่ก็เสือกเกิดเรื่องบ้าๆมาทำให้อารมณ์ขุ่นมัวอีกจนได้…รายละเอียดอื่นไว้คุยกันทีหลัง…ฉันยังมีธุระต้องทำที่พิษณุโลกแต่จะรีบกลับไปโยนกทักษิณให้เร็วที่สุดและรอข้อมือพี่อ๋อมหายดีเมื่อไหร่…เรา 2 คนจะช่วยกันอาละวาดชนิดที่ไม่ต้องให้คนอื่นได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข!!”
“……………………………………..”
“เพื่อมอบความแค้นคืนกลับไปให้เจ้าพวกที่ทำเราเจ็บทั้งหมด!!…ใช่~~…โดยเฉพาะแก!!!…นังป้าแก่นรก!!!!”
…