ปกขาว
  • Home
  • Home
  • Manga
  • Doujin-TH
  • Manhwa
  • เรื่องเสียว
  • เรื่องเสียวซีรี่ย์
  • Cosplay
  • H-Anime
  • A.I.
  • Onlyfan
Prev
Next
The Dark side_1

การ์ตูนแผ่น (ตอน) เดียวจบ

May 16, 2022
น้องรหัส | [Doujin Sak] Peer Mentee การ์ตูนแผ่นเดียวจบ by Xter

คฤหาสน์โลกีย์

May 24, 2022
ตอนที่ 38 ตอนที่ 37
Nong Earn – น้องเอิร์น Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน_Page_170

ได้เวลาเปลี่ยนกะ (น้องเอิร์น) (Nong Earn) ตอนที่ 1-9 ตอนพิเศษ 2 ตอน + PDF

May 13, 2022
ตอนที่ 10 ได้เวลาเปลี่ยนกะ Ch.1-9 + พิเศษ 2 ตอน [JPG][PDF] แก้ลิ้งแล้ว ตอนที่ 9 ฝึกงาน
Specials_Vol15_001 (Large)

เปิดบริสุทธิ์

October 8, 2024
061 เปิดบริสุทธิ์ สาวมหาลัย (แหม่ม นันทิชา) 060 เปิดบริสุทธิ์ สาวเพนเฮ้าส์

เรื่องเสียวจากหนังสือปกขาว/ปกสี

May 1, 2023
106 เสน่ห์ชาย 105 ผัวน้อยผัวหลวง

ครอบครัวหฤหรรษ์

February 14, 2023
ตอนที่ 9 ครอบครัวคุณมรกต ตอนที่ 8 ครอบครัวของเรวดี (คุณพิชาญ,เรวดี,ยุ้ย,โจ้ )

รสสวาทแรงหึง (นัฐถิยา ภาค 2)

May 27, 2022
รสสวาทแรงหึง 100 รสสวาทแรงหึง 99

ครูเจ้าเล่ห์

April 30, 2023
ตอนที่ 40 ตอนที่ 39

นางฟ้าน้อย ๆ กับไอ้เฒ่าบ้ากาม ภาค 1 – 2

July 9, 2022
ภาค 2 ตอนที่ 3 เรอิ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ภาค 2 ตอนที่ 2 หนิง...สาวน้อยผู้เร่าร้อน
Xter My Mother

My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป

August 17, 2024
003 My Mother The Animation พากย์ไทย 002 My Mother เมื่อคุณแม่ผมเปลี่ยนไป ZIP
hard36a001

A4U Hard Series 80 Albums

October 15, 2024
80 79

คุณนายผู้น่าสงสาร ตอนที่ 1-21

August 21, 2022
ตอนที่ 21 ตอนที่ 20 เมื่อคุณนายผการับเป็นพรายเสน่ห์

รักไม่นับตัวเลข - ตอนที่ 25 “ผู้มีพระคุณทั้งในอดีตและในปัจจุบัน”

  1. Home
  2. รักไม่นับตัวเลข
  3. ตอนที่ 25 “ผู้มีพระคุณทั้งในอดีตและในปัจจุบัน”
Prev
Next

“ฟื้นแล้วๆ!!!!”
“………………………………….”
“เคนลูกแม่~~…ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์!!!!…ต่อไปลูกอย่าทำแบบนี้อีกนะแม่หัวใจจะวายตายแล้วรู้มั้ย?”
“เกือบไปแล้วนะไอ้หนู…ซนไม่เข้าเรื่องเข้าราว!!!…แอบหนีแม่มาเล่นน้ำคนเดียวตามลำพังได้ยังไงกัน?”
“ตรงนี้ลึกซะด้วย…ถ้าไม่ได้แม่หนูคนนั้นโดดลงไปช่วยไว้มีหวังจมน้ำตายแน่ๆ”
“ฉันขอขอบใจแม่หนูจริงๆนะจ๊ะ…ชื่ออะไรเหรอ?”
“…ชื่อบรีนค่ะ”)
“!!!!!!!!!”
(อะไรกันนี่?)
“ฝันว่าจมน้ำ…นี่เราไม่ได้ฝันถึงมานานแค่ไหนแล้วนะเนี่ย?”
…ใช่…ตอนยังเล็กมากๆผมเคยแอบหนีไปเล่นน้ำในคลองและขาเกิดเป็นตะคริวซึ่งในขณะที่กำลังจะจมก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งผ่านมาเห็นแล้วลงไปช่วยชีวิตไว้ได้ทัน…
“เราจำชื่อเธอคนนั้นไม่ได้เพราะเวลาผ่านมานานเหลือเกิน…เคยถามแม่เหมือนกันแต่ก็ลืมไปแล้ว…งั้นทำไมวันนี้อยู่ๆก็ฝันถึงล่ะ?”
(แถมยังนึกหน้าไม่ออกอีกด้วยเพราะความทรงจำกับสติเวลานั้นมันเลือนรางจริงๆแต่สงสัยคงจะคิดถึงบรีนมากไปจึงเก็บเอาไปฝันแน่ๆ)
…สาวคนรักยังไม่กลับมาที่นี่พร้อมกันและในช่วง 3 วันที่ผ่านมาผมก็เอาแต่นอนพักผ่อนไม่ได้ออกไปไหนเลย…
“แต่ยังไงวันนี้ต้องออกไปเพราะหมอนัดไว้”
“จะออกไปไหนน่ะลูก?”
“หาหมอครับ”
“ไปคนเดียวได้นะ?”
“ครับ”
…พอทราบข่าวจากน้าจี๊ดว่าผมไม่สบายแม่ที่ทำงานอยู่อ.ห้างฉัตรก็รีบกลับมาบ้านทันที…
“แต่แม่ตกใจมากเลย…ไม่เคยคิดจริงๆนะว่าลูกกับหนูบรีนจะเป็นแฟนกัน”
“แล้วแม่…จะว่ายังไงล่ะครับ?”
“จะว่าอะไรได้เล่า~~…เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับพวกเธอ 2 คนอีกอย่างหนูบรีนก็เป็นคนดี…แม่น่ะมีแต่จะดีใจซะอีก”
“………………………………..”
(ยิ้มด้วยความยินดีอย่างนี้จึงยังไม่รู้สินะครับว่าบรีนเคยตั้งท้องและก็แท้งมาแล้ว)
“นี่แหละน๊าที่เขาเรียกบุพเพสันนิวาส…ต่อให้จากไปไกลแสนไกลแต่ก็ยังหวนกลับมาครองคู่กันจนได้”
“เมื่อกี้ว่าอะไรนะครับ?”
“?”
“ที่ว่าจากไปไกลแต่กลับมาครองคู่…”
“อ้าว!!!…นี่ลูกยังไม่รู้หรอกเรอะ?”
“รู้อะไรครับ?”
“………………………………….”
“………………………………….”
“แม่?”
“แย่จริงๆเลยนะเราเรื่องสำคัญอย่างนี้ลืมไปได้ยังไงกัน?…เคยสำนึกหรือเปล่าว่าลูกมีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะใครช่วยไว้?”
“เอ๊ะ?”
“ยังจะทำหน้างง…งั้นแม่จะไม่เป็นผู้บอกหรอก…เคนนั่นแหละต้องไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเองแล้วเมื่อถึงเวลานั้นก็จะรู้อะไรเป็นอะไร?”
“…………………………………..”
…

…ตัวผมมีกำหนดตรวจร่างกายประจำปีอยู่แล้วซึ่งถึงแม้จะเพิ่งกลับมาจากหัวหินแต่ก็ไม่อยากผิดเวลา…
“พี่กรรณทำงานอยู่โรงพยาบาลนี้…นั่นไง!!”
(พอพยาบาลสาวเพื่อนสนิทของบรีนเห็นเข้าก็เดินมาทักทันที)
“วันนี้เคนมาทำอะไรเหรอ?”
“ตรวจ…ร่างกายครับ”
…ไม่กล้ามองหน้าพยาบาลสาวเต็มตาจริงๆด้วย…อายเหมือนกันนะก็เพราะเธอคนนี้คือผู้หญิงคนแรกในชีวิตวัยหนุ่มของผมนี่นา…
“รู้ใช่มั้ยว่าบรีนจะมาเย็นพรุ่งนี้?”
“ครับ”
“ดีจริงๆ…ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆและวินาทีเฉียดตายมาได้…คราวนี้ทั้ง 2 คนก็จะได้อยู่ด้วยกันซะที…เคนทำได้ดีมากเลยนะ”
“…………………………………….”
“จะบอกให้รู้…ช่วงเวลาก่อนบรีนจะไปอยู่ที่หอพักเธอเคยอาศัยอยู่กับพี่และชอบพูดให้ฟังเสมอๆว่าดีใจอย่างที่สุดที่จะได้กลับมาพบกับเคนอีกครั้งหลังจากห่างเหินกันไปนาน”
“หา?…ที่พี่กรรณบอกว่าหลังจากห่างเหินกันไปนาน…มันอะไรน่ะครับ?”
“เอ๊ะ!!!…อย่าบอกนะว่าเธอ…?”
“……………………………………”
“จำไม่ได้…ไม่รู้งั้นเรอะ?…บรีนไม่เคยเล่าให้ฟังเลยหรือไง?”
…ผมส่ายหน้าแทนคำตอบซึ่งนั่นทำให้พี่กรรณเอามือท้าวเอวและเป่าปากด้วยเพราะคงเซ็งในอารมณ์…
“โธ่เอ้ย!!…2 คนนี่ทำไมช่างบ้าบออะไรอย่างนี้นะ?…บรีนปิดปากเงียบไม่ยอมพูดส่วนนายก็ยังเซ่อซ่าจำอะไรไม่ได้อีกด้วย…มานี่เลยๆ!!!”
…พี่กรรณพาผมไปตรงที่ๆไม่มีคนพลุกพล่านแล้วก็เล่าเรื่องในอดีตให้ฟังซึ่งทำให้ผมตกใจจนตาค้าง…
“จริง…จริงหรือครับเนี่ย?”
“ก็อย่างที่พูดไปนั่นแหละ…ไม่มีคำไหนที่จะโกหก”
…จากที่พี่กรรณเล่า…ในวัยเด็กของผมเมื่อ 14 ปีที่แล้วบรีนเคยมาเที่ยวบ้านอาและวันที่ผมจมน้ำเธอซึ่งขี่จักรยานผ่านมาพบเข้าโดยบังเอิญจึงได้ช่วยเหลือไว้…งั้นที่เห็นบรีนอยู่ในความฝันนั่นก็เป็นความจริงน่ะสิ!!!!…
“ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตผมในตอนนั้น…ที่แท้ก็คือบรีนเองหรอกหรือ?”
“หึ!!…ทีนี้คงเข้าใจแล้วสินะว่าเธอกับเพื่อนรักของฉันคนนี้มีสายใยผูกผันกันมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว…คนอื่นอาจจะไม่แต่กับบรีน…เธอคอยเฝ้าคิดถึงแต่เคนคนเดียวมาโดยตลอด…ความรักมันได้เพาะบ่มเกิดขึ้นนับตั้งแต่บัดนั้น”
“……………………………………”
(ขนลุกซู่เลย…นี่แหละคือเหตุผลที่บรีนไม่ยอมรับรักของนายรุจ)
“ดังนั้นพี่จึงมีความเชื่อว่าพวกเธอทั้งสองจะต้องเป็นเนื้อคู่กันอย่างไม่ต้องสงสัย…อ้อ!!…แล้วไม่ใช่เพียงแค่นี้”
“?”
“นั่นคือ…”
“เอ่อ–…จะกลับแล้วหรือครับคุณหมอ?”
“ก็งานของดิฉันมันเสร็จสิ้นไปหมดแล้วนี่”
…หญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตผูกเนคไทมีหูฟังคล้องคอสวมเสื้อกาวส์ทับอีกชั้นและอยู่ในสถานที่แห่งนี้เกือบทุกคนก็คงจะต้องบอกว่าเป็นหมอแน่นอนเพียงแต่แววตาที่หนักแน่นใบหน้าอันอิ่มเอิบและท่วงท่าที่มีสง่าราศีของสาวเจ้ากลับทำให้ผมลืมนึกถึงเรื่องของบรีนไปชั่วขณะหนึ่ง…
“ใช่…ศัลยแพทย์หญิงศรเพทาย…หัวหน้าแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาล…”
“ศร…เพทาย…ไม่เห็นมีชื่อในกระดานเลยนี่ครับ?”
“เธอได้รับเชิญให้มาผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นกรณีพิเศษ…ไม่ใช่หมอในโรงพยาบาลนี้หรอก”
…แต่ผมว่าถ้าเอาหูฟังกับเสื้อคลุมออกหญิงสาวคนนี้ก็ไม่ใช่หมอแล้วล่ะครับ…อย่างน้อยก็กางเกงที่ใส่เป็นยีนส์ขาสั้นจุ๊ดจู๋เลย(ขอย้ำว่าสั้นมากๆ)โอ้ว!!…แล้วจะว่าไปเธอก็มีรูปร่างทรวดทรงหน้าตาพอใช้ได้ทีเดียว…
“เข้าใจที่ดิฉันพูดแล้วใช่มั้ยคะ?”
“ขอบคุณคุณหมอมากครับที่ช่วยแนะนำ…เอ่อคือ–…วันนี้…ที่บอกไปธุระนี่พอจะบอกได้ไหมครับ?”
“ก็ไม่มีอะไรมาก…แค่กลับไปร่วมงานวันเกิดคุณตาค่ะ…ในฐานะหลานสาวคนโตจะทำเฉยไม่ไปไม่ได้…ดิฉันขอตัวนะคะ”
“ดะ…เดี๋ยว!!”
“โฮะ?…รู้สึกว่าคุณหมอหนุ่มจบใหม่ท่าทางจะคว้าแห้วไปกินแล้วนะ…เมื่อวานก็ได้ยินข่าวลือมาว่าจะชวนไปดินเนอร์แต่ถูกปฏิเสธเพียงชั่วกระพริบตาเอง”
“……………………………………”
(แถมทำตาละห้อยอีกด้วยนะก็เพราะสาวเจ้าเอามือล้วงกระเป๋าข้างหนึ่งพลางเดินลิ่วตัวตรงจากไปชนิดไม่หันหลังกลับรวมทั้งไม่ยอมเหลียวมองหรือแวะคุยกับใครเลย)
“ผมหยิกเป็นลอนๆสีน้ำตาลเข้มนี่มันช่างดูเฉียบขาดไม่เบาจริงๆ…แม้แต่งตัวจะไม่ค่อยเหมือนหมอแต่ก็มีคำร่ำลือกันว่าการลงมีดของคุณหมอศรเพทายนั้นทั้งแม่นยำและยอดเยี่ยมชนิดหาตัวจับยากเชียวล่ะ…อายุก็ยังไม่มากด้วย”
“เท่าไหร่ครับ?”
“ราวๆสัก 26 – 27 เท่านั้นเอง”
“ฮ้า!!!”
(รุ่นราวคราวเดียวกับบรีนและพี่กรรณนี่นา)
“อะไร?…ยังมีแก่ใจไปสนหญิงอื่นอีก!!!…เรื่องของบรีนจะเอายังไงกันแน่ยะ?”
“…………………………………..”
“เอาเป็นว่าเรื่องที่พี่จะบอกเมื่อกี้…เคนไปรอถามบรีนเอาเองเถอะเพราะเจ้าตัวจะสามารถเล่าเรื่องราวได้ดีกว่าใคร”
“หมายถึงเรื่องที่เคยช่วยชีวิตผมไว้หรือครับ?”
“ไม่ใช่!!!!…มันเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตนายอีกอย่างหนึ่งซึ่งบรีนยังกุมความลับเอาไว้และไม่เคยบอกให้ใครรู้”
…

“สุดยอด!!!…อายุแค่ 26 แต่เป็นถึงหัวหน้าแผนกศัลยกรรม…แล้วสวยป่ะ?”
“ก็…เอ้ยเอ๊าะ!!…นั่นไง!!!…เธออยู่ตรงนั้น”
…บังเอิญสุดๆ!!!!…นึกว่าจะไปไหนต่อไหนซะแล้วแต่ที่แท้กลับอยู่แถวๆนี้เองเมื่อผมกับเจ้าเอ๊าะแวะกินข้าวเย็นที่ร้านใกล้ๆมหาวิทยาลัยทางนอกเมืองหลังจากไปวิ่งออกกำลังกายก็พบหมอสาววัย 26 กำลังยกแก้วเบียร์ดื่มอึกๆๆโดยมีคนอีก 3 คนเป็นชาย 2 หญิงอีก 1 ซึ่งต่างแต่งชุดสูทสีดำล้วนนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย…
“โอ้โห~~…ถึงเธอจะไม่สวยอะไรมากมายแต่ท่าทางคอแข็งไม่เบานะเนี่ย”
“……………………………………”
“แล้วนั่นผู้คุ้มกันส่วนตัวหรือเปล่า?”
“ถ้างั้นสงสัยเป็นลูกสาวเจ้าพ่อว่ะเคนและในสูทของ 3 คนนั้นท่าจะมีปืนอยู่แหงๆ”
“พอแค่นี้เถอะนะครับคุณหนู”
“จะเอาเบียร์ฉันไปไหน?…อ๊า~~…ขัดใจจริงเชียว!!!”
“คุณหนูดื่มมากเกินไปแล้วนะคะ”
“อีกอย่าง…ถ้าคุณหนูรองเกิดมาเห็นเข้าก็อาจจะไม่พอใจได้ครับ”
“เฮอะ!!…นี่ไปๆมาๆพวกนายก็กลัวยัยโดราเอม่อนมากกว่าฉันงั้นเรอะ?…เอาคืนมา!!!”
“………………………………………”
“………………………………………”
“………………………………………”
…ผู้คุ้มกันส่วนตัว(?)ทั้ง 3 คนต่างก็ไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งซึ่งนั่นทำให้เจ้านายสาวกระดกเบียร์สดเข้าปากอย่างสบายใจเฉิบต่อไป…บุคลิคต่างกับตอนบ่ายลิบลับเลย…
“ว่าแต่เจ้าแมวหลงทางเมื่อไหร่จะมาสักที?…ปล่อยให้คนอื่นต้องรอมันไม่ใช่สิ่งดี…ใครก็ได้ไปตามหล่อนทีซิ!!”
“ท่าจะไม่ไหวว่ะ”
“นั่นดิ”
…เสื้อผ้ายังเป็นชุดเดิมกับที่ผมเห็นที่โรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากนี้มากนักเพียงแค่ถอดเสื้อกาวส์ออกและเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว…
“มึงว่าเราจะโดนอัดมั้ยวะถ้าคิดไปทักเธอ?”
“อย่าริลองของเลย…หึย~~…จะ…จ้องเขม็งมาทางพวกเราว่ะ!!!…ทำ…ทำไม?”
“กะ…กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะว้อย!!!!…รึจะได้ยินที่พวกเราพูด?”
“ใครจะไปรู้วะ?…ก็เรื่องพรรค์นี้มึงมันไวนักนี่ไอ้เอ๊าะ!!!”
“ก็บอกว่ากู!!!…เอ๊ะ?..พวกผมไม่ได้สั่งไอ้นี่”
“คือคุณผู้หญิงโต๊ะนั้นบอกให้เอามาให้พวกพี่ครับ”
(คุณหมอศรเพทาย!!!)
“ว้าว!!…เอาไงดีล่ะเคน?…นี่แสดงว่าเธออยากรู้จักเรานะ”
“คุณทั้ง 2 คะ…คุณหนูของเราขอเชิญไปนั่งด้วยกันค่ะ”
“กรุณาเร็วด้วยนะครับ…ไม่งั้นคุณหนูอาจจะไม่พอใจ”
“………………………………….”
“………………………………….”
(อย่างงี้ก็มีด้วยวุ้ย?)
“อ้าวๆๆ…เมียกูโทรตามแล้ว…ขอตัวก่อนนะ”
“เอ๊าะ!!…มึงกล้าทิ้งกูเหรอ?”
“น่าเสียดายจริงๆ…เอ้ามึงก็ดูสิเนี่ย!!!”
“ไอ้บ้า!!!!…พี่มึงเองไม่ใช่เหรอไง?”
“ตอนนี้พี่ก็เหมือนเมียกูแล้วล่ะว่ะ”
…มันช่างเป็นเพื่อนที่ดีเลิศประเสริฐศรีจริงจริ๊ง~~…เอาตัวรอดไปเรียบร้อยแล้วนะเอ็ง!!!…
“อืม…นั่นเขาไปไหนซะล่ะ?”
“เอ่อ–…พอดีคนที่บ้านโทรตามกลับครับ”
“หรือไม่ต้องการนั่งร่วมโต๊ะกับฉัน?”
“ไม่ใช่…ไม่ใช่เลยนะครับ”
…อุ!!!…ผู้คุ้มกันทั้ง 3 ที่ย้ายไปนั่งโต๊ะข้างๆกันต่างมองผมเป็นตาเดียวแต่นายสาวกลับโบกมือ…
“ช่างเถอะๆ…ยินดีที่ได้รู้จักนะ…ฉันชื่อเซค”
(เซค?)
“ผม…ชื่อเคนครับและขอบคุณมากที่เลี้ยงเบียร์ผมกับเพื่อน”
(ขนาดจะรีบกลับเจ้าเอ๊าะแม่งยังงกแดกหมดแก้วโดยอ้างว่าไม่อยากให้หมอสาวเสียน้ำใจ)
“จะสั่งอะไรก็ได้ตามสบายเลย…อือ–…พอดีฉันอยากได้เพื่อนคุยแก้เซ็งน่ะ…นายมีเรื่องอะไรสนุกๆก็มาเล่าให้ฟังหน่อยซิ”
“……………………………………”
…จู่ๆก็ขอกันแบบนี้แล้วผมจะไปหาเรื่องสนุกที่ไหนมาเล่าล่ะเนี่ย?…
“……………………………………”
“……………………………………”
…แววตาอันเรียบเฉยสบายๆของหญิงสาวกำลังจับจ้องมาที่ผม…เดี๋ยวก่อน!!…ในเมื่อเจ้าหล่อนเป็นหมอ…
“นี่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องสนุกแต่ผมอยากให้คุณหมอช่วยตอบ”
“เชิญพูดออกมาได้ตามสะดวก”
“คุณหมอคิดว่าคนที่เอ็นข้อมือขาดไปแล้วจะสามารถรักษาจนกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมมั้ยครับ?”
“มันก็…แล้วแต่กรณีนะ…ถ้าพามารักษาได้ทันท่วงทีก็จะมีสิทธิ์กลับมาหายเป็นปกติในเปอร์เซ็นต์ที่สูงแต่มันต้องขึ้นอยู่กับวิธีการรักษา…ฝีมือของแพทย์ผู้รับผิดชอบรวมทั้งการแข่งกับเวลาด้วยโดยถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะกลับมาปกติเต็มร้อยเสมอไป…อายุ…สภาพร่างกายผู้ป่วยคือส่วนหนึ่งของปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง”
“………………………………………”
“นายเคยเห็นนักฟุตบอลมั้ย?…ที่มักจะมีข่าวเส้นเอ็นข้อเท้าหรือไม่ก็หัวเข่าฉีกขาดแต่ก็รักษาหายแล้วกลับมาลงสนามได้เหมือนเดิม…นั่นน่ะรักษาแบบคอยประคบประหงมจ่ายเงินหนักๆใช้ยาชั้นดีทั้งนั้น”
“และอย่างถ้า…โดนเข็มเสียบเข้าล่ะครับ?”
“นายจะบอกว่า…ถูกเข็มเสียบที่เอ็นข้อมือ?”
“ครับ”
“แล้วหมอเขาบอกเรอะว่าเส้นเอ็นข้อมือขาด?”
“เปล่า…คือผมเห็นเขาเลือดออกเยอะมาก”
“อะไร!!…เลือดออกเยอะมากก็หมายความว่าเข็มนั่นจะไปถูกเส้นเอ็นเพียงอย่างเดียวซะเมื่อไหร่กันเล่า?”
“?”
“เพราะมันอาจจะไปโดนเส้นเลือดเข้าก็ได้…อย่าเพิ่งด่วนเข้าใจผิด…แต่เข็มเย็บผ้าเล่มแค่นิดเดียวทำไม?”
“ไม่ใช่เข็มเย็บผ้าหรอกครับ”
…ตามที่พี่จุนบอก…เข็มที่เสียบอกนายรุจมีความหนาและหนักกว่าทั่วๆไปซึ่งอาจมันทำมาจากเงินหรือไม่ก็ตะกั่ว…
“เข็มเงิน…ยาวราวๆคืบหนึ่ง?”
“อาจจะเป็นเช่นนั้นครับ”
…คุยถึงตรงนี้ทำไมศัลยแพทย์สาวจึงดูมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีเลยนะ?…
“เอาละ!!!…ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดเพราะฉันไม่ได้เห็นกับตาแต่ที่ฟังๆจากนายเล่า…อาการนายคนนั้นคงไม่เบาทีเดียว…ก็ดีแล้วที่โดนแค่นี้”
(จริงด้วย)
“เดี๋ยวก่อน!!…ฉันคิดว่าเมื่อตอนกลางวันนี้ก็เห็นเธออยู่ที่โรงพยาบาล?”
“ใช่แล้วครับ…เอ่อ–…คือคนรู้จักของผมบอกว่าคุณหมอชื่อ…”
“จะชื่อศรเพทายหรือจะชื่อเซคต่างก็เรียกฉันได้ทั้งนั้น…ไม่จำเป็นต้องเรียกคุณหมอเสมอไปหรอกน่า”
“งั้นผมเรียกพี่เซค”
“เอาสิ”
“ว่าแต่นี่คงเป็นชื่อเล่น?”
“…มันก็มีที่มาจากชื่อจริงนั่นแหละ”
“?”
“…เพทายเป็นอัญมณีชนิดหนึ่งซึ่งภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Zircon”
“จึงเรียกรวมแบบสั้นๆว่าเซคสินะครับ?”
“โอ้!!!…เก่งมาก”
…แล้วคุณศรเพทายก็ยกนิ้วโป้งให้…จากนั้นผมมีความสงสัยเกี่ยวกับเครื่องประดับที่หญิงสาวห้อยอยู่…
“ที่แขวนอยู่นั่นคืออะไรครับ?”
“หือ?…ก็สร้อยคอน่ะสิถามได้”
“ไม่…ที่เป็นคล้ายๆปลายลูกศร”
“อ๋อเนี่ยเรอะ?…อัญมณีประจำตัวของฉันเอง…มันก็คือเพทาย 1 ในแก้ว 9 ประการหรือที่เรียกอีกอย่างว่านพรัตน์ไง”
“เจียระไนเป็นรูปปลายลูกศรแล้วก็เม็ดโตไม่เบา…ท่าทางจะราคาแพงมาก”
“แพงไม่แพงนี่ไม่ทราบและไม่สันทัดแต่รู้แค่ว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่ติดตัวมาตั้งแต่เล็กแล้วก็เปรียบเสมือนเครื่องรางที่ช่วยปกปักรักษาส่งเสริมมงคลให้แก่ชีวิตฉันรวมทั้งเป็นที่มาของชื่อ…ศรเพทาย”
“…………………………………”
“นพรัตน์…”
“เขาจึงได้ผูกเป็นกลอนไว้…เพชรน้ำดีมณีแดงเขียวใสแสงมรกตเหลืองใสสดบุษราคัมแดงแก่ก่ำโกเมนเอกศรีหมอกเมฆนิลกาฬมุกดาหารหมอกมัวแดงสลัวเพทายสังวาลสายไพฑูรย์”
“…แดงสลัวเพทาย”
“จะว่ามันเป็นสิ่งนำโชคของฉันก็ไม่ผิดนัก…อย่างน้อยๆเวลาเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเพียงแค่มองดูมันก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและใจเย็นขึ้นเยอะ”
“แต่ผมว่าคงไม่ใช่สำหรับตอนนี้”
“อะไร?”
“ก็เวลานี้พี่ดื่มจนเมาและดุพี่ๆที่มาด้วยตั้งหลายครั้ง…ไม่ใจเย็นแล้ว”
“…ปกติไม่ใช่อย่างนี้”
“หรือครับ?”
“จริงๆ…ปกติตอนไม่เมานี่พี่น่ารักน๊า~~…ทั้งสุขุมเยือกเย็นนิสัยก็อ่อนหวานมากด้วยจึงมีหนุ่มๆมาจีบหลายคนแต่ขอโทษที…พี่ปฏิเสธเรียบตั้งแต่เริ่มอ้าปากแล้ว…ฮึๆๆๆ”
(บรรยายสรรพคุณตัวเองให้เพศตรงข้ามฟังพลางหัวเราะร่วนหน้าตาเฉยเลย)
“งั้นขณะนี้พี่ก็รู้ตัวว่าเมา?”
“…………………………………..”
“และอยากบอกว่าตอนเมากับไม่เมานิสัยจะเปลี่ยนไปเห็นๆ”
“เออสิยะ!!…ไม่งั้นเขาจะเรียกว่าน้ำเปลี่ยนนิสัยรึเจ้าหนุ่ม?”
…อายุของผู้หญิงคนนี้ไม่ต่างกับบรีนก็จริงแต่นิสัยใจคอกลับไปคนละทางกันเลย…รึไม่งั้นก็เป็นเพราะว่าผมยังไม่เคยเห็นอีกด้านหนึ่งของตัวเธอที่อยู่ในโรงพยาบาลและห้องผ่าตัด…
“หืม–…หน้าฉันมีอะไรติดอยู่เหรอ?…เห็นมองจริง”
“ผมพี่เซคสวยจังนะครับ”
(มีกลิ่นหอมด้วย)
“ฮึ!!…พูดแบบนี้คิดจะจีบฉันหรือไง?”
“ไม่ใช่นะ!!”
“งั้นก็แล้วไป…หึๆ…ถ้านายคิดจะจีบรับรองว่าต้องถูกฉันหักอกภายใน 5 วินาที!!!”
“…………………………………”
“ผมพี่ก็หยิกเป็นลอนทั้งหัวมาตั้งแต่เล็กๆ…ไม่สิ…อาจจะตั้งแต่เกิดเลยก็ได้มั้ง?”
“สีด้วย?”
“ย้อมเอาต่างหากล่ะ”
…เส้นผมสีน้ำตาลเข้มและหยิกเป็นลอนยาวถึงกลางแผ่นหลัง…ยิ่งเป็นหมอตัวจริงเสียงจริงด้วยแล้วก็เลยกลายเป็นตัวเสริมแต่งให้มีมาดดูดีมากขึ้นไปอีก…
“แต่พี่เป็นหมอแล้วมาดื่มเหล้าเบียร์กับสูบบุหรี่ในที่แบบนี้มัน…”
“ทำไมยะ?…มีกฎหมายมาตราไหนและวรรคไหนห้ามหมอกินเหล้าสูบบุหรี่หึ?…ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลสักหน่อย”
(แป่ว~~)
“หมอก็เป็นคนและมีเลือดมีเนื้อ…ย่อมต้องการผ่อนคลายหรือหาเวลาปล่อยอารมณ์กันบ้างสิ”
(พูดอีกก็ถูกอีก)
“แต่มันไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไหร่…อีกอย่างพี่ก็ดื่มเยอะมากแล้ว”
“ฉันรู้ลิมิตของตัวเองดีและนี่มันยังเติมเต็มไม่พอกับสิ่งที่เสียไปเลย”
(เติมเต็มอะไรกันหว่า?)
“แล้วตัวนายเล่า!!…มีเรื่องกลุ้มใจอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“หา!!!…พี่รู้ได้ยังไง?”
“ฮึๆๆ…ฉันไม่ใช่จิตแพทย์แต่ถ้าเป็นการสังเกตจากสีหน้าก็พอได้อยู่…จะเล่าให้ฟังบ้างได้ไหมล่ะ?”
“…………………………………..”
“เผื่อว่าจะช่วยแนะนำอะไรได้ไง…นี่ไม่ใช่ว่าฉันชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านแต่เพราะสังเกตเห็นแววตานายมันดูมีความขุ่นข้องหมองใจคล้ายกับยังมีปัญหาที่แก้ไม่ตกน่ะ”
…แล้วเรา 2 คนต่างก็เงียบไม่คุยอะไรกันไปพักหนึ่ง…จะเล่าออกไปดีมั้ยเนี่ยเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวอีกอย่างผมก็เพิ่งจะรู้จักกับคุณหมอสาวคนนี้ไม่นาน?…
“จะสูบบุหรี่นะ”
“เชิญครับ”
“…………………………………..”
“ตามใจถ้าจะไม่พูดแต่ก็กรุณาลุกไปจากโต๊ะด้วย…คือเวลานี้ฉันนึกเรื่องจะคุยกับนายไม่ออกแล้ว”
…อันที่จริงผมน่าจะกลับบ้านได้แล้วแต่ในใจก็ยังอยากคุยกับคุณศรเพทายอยู่…เพราะอะไร?…ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้คุยสนุกอะไรมากมายเลยแท้ๆคือมันราวกับมีอะไรบางอย่างในตัวหล่อนที่ดึงดูดความสนใจของผมเอาไว้…
“…………………………………..”
“…………………………………..”
“ก็ได้ครับ”
“หึ!!”
…ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเล่าเรื่องของตัวเองกับสาวคนรักให้ศัลยแพทย์หญิงฟังพอคร่าวๆ…
“ตอนเล่าเรื่องเส้นเอ็นข้อมือขาดก็กะแล้วว่าต้องเกี่ยวกับตัวนายเองและเกี่ยวข้องกับความรักที่ฉันไม่ชอบเอามากๆ…แต่เอาน่ะ!!…ยังไงก็พอจะชี้แนะทางสว่างให้ได้”
“เวลานี้ผมสับสนและยังคิดไม่ออกว่าควรจะทำยังไงต่อไปเมื่อได้รู้ความจริงที่น่าตกใจ”
“อย่างงั้น…เหรอ?…แต่มันก็ช่างเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นชวนให้ลุ้นระทึกและคิดไม่ถึงจริงๆ”
“ผมไม่ได้โกหกแม้สักคำเดียวนะครับ!!”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา–”
“…ขนาดเจอเข้ากับตัวเองผมก็ยังไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นไปได้เลย”
“แล้วสิ่งที่นายยังคิดไม่ตกคืออะไร?”
…คุณศรเพทายถามพลางยกแก้วดื่มเบียร์รวดเดียวหมดหลังสูบบุหรี่หมดไปมวนหนึ่ง…เป็นคอทองแดงตัวจริงโดยแท้เพราะตั้งแต่นั่งคุยกันมาหล่อนแทบจะไม่หยุดกระดกน้ำเมาผ่านลำคอ…
“อื้อ!!…รสชาติเบียร์สดนี่ช่างสุดยอดจริงจริ๊ง~~…ให้มันได้อย่างนี้!!!…อะไรนะ?”
“…………………………………….”
“เมื่อกี้พูดว่า…เพราะแฟนเคยตั้งท้องกับชายอื่นมาก่อนจะแท้งและก็ไม่ได้บอกนาย…แค่นี้เองเรอะ?”
“ชะ…ใช่ครับ…อย่างน้อยๆเธอก็น่าจะบอกกันมั่ง…ไม่รู้ทำไมยังจะต้องปิดบังอีก?”
“นี่คือเหตุผลที่กำลังกลุ้มใจ?”
“ครับ…ทั้งที่ผมให้ความเชื่อมั่นในตัวเธอและมั่นใจมาตลอดว่าเรา 2 คนจะไม่มีความลับกันอีกต่อไป…แต่…”
“สรุปว่าที่เล่ามาทั้งหมดก็คือแค่เนี้ย?…สาเหตุที่นายเกิดความลังเลและไม่รู้ว่าจะสานต่อชีวิตรักกับผู้หญิงคนนี้ต่อไปดีหรือไม่?…มีแค่เนี้ย?”
“…ครับ
(พูดคำว่าแค่เนี้ยบ่อยจัง?)
“แค่เนี้ยจริงอ่ะ?”
“…………………………………..”
“ชิชะ!!…ช่างเสียเวลาที่ฟังจริงๆเลยว่ะ”
“!!”
“ฉันบอกว่าช่างเสียเวลาที่ฟังนายเล่าจริงๆ…ชัดยัง?”
“?”
“ยังจะมาทำหน้าเอ๋อเหรออีกแน่ะ?…ว่านายนั่นแหละ!!…ฉันขอเดาก่อนเลยว่าคนใกล้ตัวจะต้องให้คำแนะนำกับนายมากเกินพอแล้วนะ”
“ครับ…พวกเขาคอยเตือนสติและมักให้ข้อคิดกับผมเสมอ”
“นั่นสิ!!…แล้วยังจะมัวมาเสียเวลาคิดมากกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องทำไมมิทราบ?…มนุษย์เราน่ะอย่างน้อยก็จะต้องมีข้อด้อยสักอย่างที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นล่วงรู้แม้ต่อให้เป็นคนที่รักกันมากแค่ไหนโดยฉันหรือนายก็ไม่ถือเป็นข้อยกเว้น”
“…………………………………..”
“โดยเฉพาะการแท้งลูก…สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วนับได้ว่ามันเป็นความทรงจำที่เลวร้ายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดทีเดียว!!!!…แม้เด็กในท้องจะเป็นลูกของคนที่ตัวเองไม่ได้รักแต่เด็กก็คือเด็ก…เขาบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและยังไม่มีมลทินแปดเปื้อนเหมือนผู้ใหญ่อย่างเราๆ”
“พี่เซค…”
“ฉันมีความคิดเห็นว่านายควรจะทำความเข้าใจกับสิ่งซึ่งมีชีวิตและมีจิตใจอันแสนละเอียดอ่อนที่เรียกว่าผู้หญิงซะใหม่”
“?”
“ขอถามและต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้…ถ้าเป็นนายๆจะรู้สึกยังไงหรือที่ตัวเองรู้ว่าได้สูญเสียสิ่งสำคัญอย่างลูกในท้อง…หา?”
“มัน…ต้องเลวร้ายมากๆเลยครับ”
“ถูกต้อง!!!…ในเมื่อเลวร้ายก็ต้องอยากลืมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และไม่ต้องการรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก…ใช่ไหม?”
“จริงด้วย”
“ดังนั้นนายก็ควรจะเข้าใจความรู้สึกของแฟนนายซะบ้างสิ”
“……………………………………”
“เธอผู้นี้อยากเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับนายโดยละทิ้งอดีตที่มีแต่รอยแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจเอาไว้อยู่เบื้องหลัง…รวมทั้งหวังจะฝากชีวิตในปัจจุบันกับอนาคตข้างหน้าไว้ให้นายดูแลด้วย…งั้นทำไมล่ะ?…ทำไมนายยังจะเฝ้าเอาแต่ขุดคุ้ยสิ่งที่ผ่านเลยมาแล้วเพื่อให้มันคอยกัดกร่อนหัวใจของตัวเองจนจมปลักอยู่แต่ในทะเลแห่งความเศร้าโศกและเป็นทุกข์อีก?”
…คำพูดของคุณหมอสาววัย 26 เปรียบเสมือนอสุนีบาตซึ่งได้ฟาดผ่าลงกลางกระหม่อมของผมอย่างรุนแรง…รู้สึกราวกับหัวสมองมันกลวงโล่งว่างเปล่า…
“ถ้าอย่างนั้น…นี่ผมก็กำลังจะทำสิ่งที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง…กำลังจะทำเรื่องโง่เง่าอย่างไม่น่าให้อภัยลงไปแล้วหรือเนี่ย?”
“…มันยังไม่สายเกินแก้ไขหรอก”
“พี่เซคช่วยเตือนสติของผมแท้ๆเลยครับ…ความคิดอันงี่เง่าไร้สาระมันจะทำให้ผมสูญเสียหญิงสาวอันเป็นที่รักยิ่งไป…ทั้งที่…ทั้งที่ตัวผมเคยยอมสละชีวิตเอาร่างกายเข้ารับลูกกระสุนปืนแทนเธอ”
“จริงๆฉันก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือเคยมีประสบการณ์กับตัวในด้านความรักอะไรมาจากไหนมากมายนักหรอกแต่เป็นเพียงหมอคนหนึ่งที่คิดถึงแค่คนไข้และชีวิตในวันๆหนึ่งก็เดินเข้าเดินออกแต่ในโรงพยาบาลกับห้องผ่าตัด…ถึงอย่างนั้นก็อยากจะขอพูดอะไรอีกสักนิด…นายจะเสียเวลาฟังมั้ย?”
“ผมจะฟังด้วยความยินดีอย่างที่สุดครับ”
“ดี!!…นี่ถ้าเป็นบรรดาน้องๆของฉันทั้งผมยาวผมสั้น…ทั้งผมสีดำผมสีทองหรือกระทั่งผมสีเงิน…รับรองว่าได้เบือนหน้าหนีกับเรื่องพรรค์นี้ไปคนละทิศละทางเลยและจะไม่มัวมานั่งบ่นเป็นยัยเพิ้งอย่างฉันแน่…เอ้า!!…เงี่ยหูฟังให้ดีๆเพราะจะพูดแค่ครั้งเดียว”
“…………………………………..”
“ผู้หญิงที่เคยช่วยชีวิตนายไว้เมื่อตอนเด็กๆก็ยังเป็นเธอคนเดียวกับที่กำลังคบหาแฟนกันในขณะนี้ด้วย…ถูกใช่มั้ย?”
“ครับ”
“แหม่~~…แล้วเธอคนนี้ก็มียังจิตใจห่วงหาอาทรเฝ้าคิดถึงแต่นายมาตลอดทุกลมหายใจและตั้งปณิธานว่าจะต้องกลับมาพบนายอีกครั้ง…อา–…มันช่างเป็นอะไรที่น่าซาบซึ้งและชวนให้อิจฉาซะเหลือเกิน”
“พี่หมายความว่า…”
“อื้ม!!!…ฉันกำลังจะถามต่อไปนี้ไงว่าในเมื่อนายรับรู้ความจริงทุกอย่างแล้วเรื่องที่สมควรจะทำอย่างไม่รีรอก่อนมันจะสายเกินไปคืออะไร?…คิดให้ดีๆแล้วตอบมาซิ”
“…………………………………..”
“…………………………………..”
“ใช่แล้วครับ!!!!…สิ่งที่ผมควรจะกระทำก็คือกลับไปหาหญิงอันเป็นที่รักยิ่งกว่าชีวิตคนนั้น…โธ่เอ๊ย~~…ทำไมเรื่องง่ายๆแค่นี้ถึงมัวมาลังเลใจอยู่ได้นะ?”
…นั่นคือบรีนยังจดจำเรื่องราวเมื่อ 14 ปีก่อนได้และเธอก็เฝ้ารอวันที่จะพบกับเด็กชายในความทรงจำครั้งยังอดีตซึ่งนั่นคือตัวผมมาโดยตลอด…เมื่อมีโอกาสปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระหญิงสาวจึงออกตามหาความรักครั้งแรกในชีวิต…
“ฮ่าๆๆๆ…เป็นคำตอบที่ดีมากจริงๆไอ้น้อง!!!…ขอชมเชยๆ”
“เพราะพี่เซคช่วยผมไว้แท้ๆเลยนะครับ”
“ม่ายๆๆ…นายช่วยตัวของนายเองไว้ต่างหากเล่า…โอ้!!…แววตาอันสดใสราวกับดวงจันทราบนท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งเมฆหมอกบดบัง…นี่แสดงว่าไม่มีความลังเลเหลืออยู่อีกแล้วใช่ไหม?”
(ถูกต้องที่สุด!!!!…บัดนี้เรารู้สึกจิตใจปลอดโปร่งและมีความปลาบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก)
“เสียงอะไรดัง?”
“มือถือของพี่ครับ”
“อ้อๆๆ…มี…ข้อความเข้า 1 ฉบับ…ใครส่งฟะ?”
“…………………………………..”
“East…อะไรกันหว่า?”
“ทิศตะวันออก?”
“ไม่ต้องไปสนใจ…โอ้!!…เดี๋ยวขอต่ออีกแก้วแก้ง่วงดีกว่า”
…ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนเกือบจะ 2 ทุ่มแล้วแต่คุณศรเพทายก็ยังไม่เลิกคบหากับน้ำเมา…
“อีสต์ๆๆ…หวา!!!!”
“มีอะไรหรือครับ?”
“East…งั้นเหรอ?…ไม่…ฉันนี่ไม่น่าลืมไปได้เล้ย~~…ฮึ่ย!!”
…จู่ๆคุณหมอสาวก็พรวดพราดลุกขึ้นพลางมีสีหน้าที่ตื่นตกใจไม่น้อย…ท่าทางก็เหมือนจะมองใครอยู่ด้วย…
“โอ่ย~~…หายเมาเลยฉัน!!!…มารับถึงที่เชียวแฮะ”
“ใครครับ?”
(มองไปทางด้านหน้าก็ไม่มีคนนอกจากเด็กเสริฟ์ของร้าน)
“จากข้อความนี้ถ้าฉันนึกออกก็จะรู้ความหมายทันที…เฮ่~~…พวกนายรีบตามเด็กมาคิดเงินเร็ว!!…เราจะไปกันแล้ว”
“ยังทานอาหารไม่หมดเลยครับ?”
“ก็ห่อกลับสิ!!…และถ้ามัวชักช้านะ…ระวังจะซวยอย่างไม่รู้ตัวเพราะคนที่พวกนายกลัวที่สุดน่ะมาถึงนี่แล้ว!!!”
…ผู้คุ้มกันทั้ง 3 พอได้ฟังต่างก็รีบจัดการตามคำสั่งอย่างไม่รอช้า…ว่าแต่คนที่พวกเขากลัวที่สุดเป็นใครกันนะ?…
“ขอบคุณพี่เซคอีกครั้ง…ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ”
“ฮะๆๆ…ฉันไม่ได้ช่วยอะไรนายสักนิด…ไม่ต้อง…ถือเป็นบุญเป็นคุณกันร้อก~~…เพราะยังไงพวกผู้ชายในความคิดของฉัน…ก็ไม่มีวัน…เปลี่ยนแปลง…นั่นคือมันห่วยแตกเหมือนกันทั้งหมด!!!!”
“……………………………………..”
“อ๊ะ!!!…เดี๋ยวก่อนๆ…ฉันยังติดใจกับเรื่อง…”
“?”
“พอจะรู้หรือเปล่าว่าใครเป็นคนซัดเข็มใส่อดีตสามีของแฟนนาย?”
“คือ…ผมเข้าใจว่าเป็นเด็กผู้หญิง”
“เด็ก…ผู้หญิง…ตลกน่ะ!!!”
“ไม่ตลกแน่นอน…อายุเธอราวๆสัก 13 – 14 ขวบ…มันไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะครับ?…ผมเล่าให้ใครฟังแต่ก็ไม่มีใครยอมเชื่อ”
“…อายุ 13 – 14…ส่วนฉัน 26 ซึ่งถ้าจะว่ากันก็คือเป็นพี่ใหญ่กับน้องเล็ก…แล้วเด็กคนนั้น…เค้ามีลักษณะพิเศษอะไรบ้างไหม?”
“เอ่อ–…ที่เด่นๆเลยคือเธอมีผมสีทองและก็มีสีดำแซมเป็นริ้วๆรอบหัวคล้ายลายบนตัวเสือครับ”
“อื้มๆๆ”
…นัยน์ตาของพี่เซคเบิกโตขึ้นซึ่งดูท่าจะสนอกสนใจเรื่องราวของน้องป้อมไม่ใช่น้อยทีเดียว!?…
“แต่งตัวก็เฉี่ยวไม่เบา…ใส่ถุงน่องและกางเกงขาสั้นข้างยาวข้าง…สวมหมวกฟาง…ที่ตาซ้ายยังมีผ้าก๊อสปิดไว้อีกด้วย”
“โอ้!!…แปลกจริงเลยนะแถมยังบังเอิญมากๆอีกต่างหาก”
“บังเอิญ?”
“อ้า!!!…แบบว่า–…ก็…หายากไงที่จะมีคนท่าทางแปลกๆอย่างนั้น…ที่จริงมันทั้งแปลกและก็ไม่ธรรมดาตั้งแต่ใช้เข็มเงินเป็นอาวุธแล้วละ”
“ชื่อก็ยังประหลาด…เสือน้อย”
“ต๊าย!!…อยากเห็นหน้าเด็กคนนี้อีกสักครั้งจัง…ฮะๆๆๆ”
“แต่ชื่อเล่นจริงๆชื่อป้อม”
“คิกๆๆ…เอาเข้าไป”
“หัวเราะอะไรหรือครับ?”
“อ๋อ!!…ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ”
“หรือพี่ไม่เชื่อผม?”
“ไม่ๆๆๆ…เชื่อสิจ๊ะแถมเชื่อโดยสนิทใจเลยด้วย…แหม~~…ช่างน่าภาคภูมิใจเหลือเกิน”
“ภาคภูมิใจ?”
“อ่า–…ก็ที่เด็กหญิงคนนั้นทำความดีช่วยชีวิตนายไว้ไงเล่า~~…โอ๊ะๆ!!”
“ระวังครับคุณหนู!!!”
“เดินไหวนะครับ?”
“ไหวซี่~~…เอ๊ะๆๆ?…แล้วพวกนายซื้อเบียร์กระป๋องให้ฉันเรอะเปล่าน่ะ?”
“ปละ…เปล่าค่ะ”
“ฮื่อ~~…ขัดใจจริงเชียว!!!…คืนนี้ฉันได้ฟังเรื่องราวดีๆแล้วเกิดความสุขใจก็เลยอยากจะไปฉลองต่อบนรถจนถึงบ้านบูรพา…หล่อนรีบไปหามาเดี๋ยวนี้นะยะ!!…โอ้!!…โชคดีนะเจ้าหนุ่ม…ขอให้สุขสมหวังในความรักในเร็ววันจ้ะ”
“…………………………………………”
…ถ้าเรื่องดีๆที่พี่เซคพูดถึงก็คือช่วยชี้แนะทางแห่งแสงสว่างให้ผมก็ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ครับ…
“ชีวิตของเรานี่ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้นะที่ได้มีโอกาสรู้จักและตอบแทนต่อผู้มีพระคุณทั้งในอดีตและในปัจจุบัน”
……………………………………………………………………………………..

Related

Prev
Next

Comments for chapter "ตอนที่ 25 “ผู้มีพระคุณทั้งในอดีตและในปัจจุบัน”"

MANGA DISCUSSION

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

*

YOU MAY ALSO LIKE

แสงเดือนแสงดาว ภาค 1-2
July 9, 2022
บางรักซอย 9 ภาคพิศดาร
June 28, 2023
เรื่องราวเซ็กส์ของศรี
May 16, 2023
คุณหนูน้ำผึ้งให้เปิดซิง
June 1, 2023

© 2025 Madara Inc. All rights reserved