รอยทรงจำ - ตอนที่ 8 เรื่องของลุงชาติ
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จก็รีบออกจากบ้านไปบ้านนิด มองเห็นพวกแม่บ้านตั้งกลุ่มซุบซิบนินทาตั้งแต่หัววันตรงร้านก๋วยเตี๋ยวประจำซอยอย่างเคย มิ้นแกล้งเดินไปเฉียดๆ ให้พอได้ยินพวกนั้นพูด
“ลูกสาวตาชาติกลับบ้านอีกแล้ว ตั้งแต่ออกเรือนไป ได้ทำหน้าที่เมียบ้างหรือเปล่า เห็นวันๆ ก็มาอยู่แต่บ้านพ่อตัวเอง คืนก่อนผัวชั้นกลับมาตอนดึกๆ มันเล่าว่ามันเห็น ตาชาติ มีอะไรกับลูกสาวตัวเอง เสียงงี้ดังลั่นบ้านเลย” ป้าสายเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเริ่มเปิดประเด็นเมื่อคนนั่งลงกันพร้อมหน้า
“จริง หรอนั่น อุบาทว์ อัปรีย์ที่สุดเลย”
“แต่ผัวแกเมาไม่ใช่หรอ มันอาจจะพูดจาเลอะเทอะก็ได้”
“แล้วแต่แกละกันว่าจะเชื่อหรือเปล่า แต่ชั้นเชื่อของชั้น”
“แล้วแม่หนูนักศึกษาที่ชอบแต่งสั้นออกจากซอย ไม่รู้ว่าเป็นกะหรี่หรือเปล่าคนนั้น ได้ความว่าไงบ้างละ” หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ถามขึ้นเพราะรู้สึกสนุก จังหวะมิ้นหยุดเดินตรงกลางวงพอดิบพอดี ทั้งวงหันมองหน้ากันใบซีดเผือด พวกเธอไม่รู้ตัวว่าคนถูกนินทาจะมาโผล่ในระยะใกล้แค่นี้
“ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน กันจังเลยนะ ถ้าคุยเรื่องดีหนูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่เอาหนูมาพูดเสียๆ หายๆ หนูไม่ยอมหรอกนะ” มิ้นพูดเสียงดังลั่นพร้อมเอาเรื่อง
“ฉิบหายแล้ว มาได้ไงวะ” ป้าคนเริ่มเรื่องพูดท่าทางลนลาน
“ก็แล้วมันจริงไหมล่ะ ชั้นจะไปฟ้องป้าแก ว่าแกมันอีเด็กใจแตก” ป้าสายเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องความปากแซ่บสวนกลับทันควัน
“ไม่ต้องมาเที่ยวห่วงคนอื่นหรอก ไปสอนลูกป้า หลานป้า ไม่ให้แรด ไม่ให้นินทาคนลับหลังดีกว่า บางเรื่องที่มันไม่จริง ก็ไปทึกทักกันเอาเอง ทำตัวแบบนี้ ระวังจะโดนถอนหงอก ขอเตือนนะถ้าหนูเห็นอีกรอบ จบไม่สวยแน่” มิ้นขู่เสียงดังแต่ละคนหน้าซีดเผือดลงไป บางคนควักยาดมขึ้นมาสูดแทบไม่ทัน
มิ้นรีบเดินจ้ำๆ อ้อมไปข้างบ้านของนิดฝั่งที่เป็นสวนเพราะประตูอีกฝัง มองเห็นได้จากร้านก๋วยเตี๋ยว เธอไม่อยากเป็นขี้ปากให้พวกนั้นพูดเรื่องเธอลับหลังอีก พอเธอเดินหายไปก็ใช่ว่าเข็ดแต่ละคนยิ่งหยิบยกประเด็นจับผิดสารพัดขึ้นมาว่าร้ายเธออย่างสนุกปาก
มิ้นเดินเลียบรั้วลวดหนามที่มีเถาตำลึงร้อยรกไปสุดกำแพง ถึงซุ้มประตูที่ไม่ได้งานแล้วถัดจากนั้นไปก็ไม่มีรั้วต่อ ที่จริงแล้วรั้วถูกทำเอาไว้เพื่อกั้นเขตแบบลวกๆ ด้านหลังบ้านของนิดไม่มีรั้วแต่เป็นทุ่งนาโล่งๆ ที่ไม่มีคน มิ้นเดินอ้อมรั้วกับประตูเก่านั้นพอมองเห็นตัวบ้านไม้เก่าสองชั้น มองเห็นคนกำลังถือจอบถากหญ้าที่สวนใกล้ตัวบ้าน ด้านข้างใกล้ๆ เป็นสังกะสีล้อมคอกสี่เหลี่ยมมุงหลังคาเอาไว้ลวกๆ รอบบ้านมีต้นไม้ใหญ่ปลูกเอาไว้เยอะพอให้ความรู้สึกเย็นร่มรื่น
“คุณลุงชาติ หรือเปล่าคะ” มิ้นพูดเสียงอ้อมแอ้ม ชายคนนั้นผละเงยหน้าขึ้นมองหรี่ตามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินเข้ามาใกล้
“มาหาใครหรือหนู” แกถามพลางมองมิ้นตั้งแต่หัวจรดเท้า
“มาหาพี่นิดค่ะ คุณลุง” มิ้นตอบยิ้มอายๆ เธอรู้สึกว่าชายตรงหน้าจ้องมองหน้าอกเธอ เขาเป็นคนผิวเข้มดำเกรียม สูงแบบมาตรฐานชายไทยผู้มีอดีตเป็นทหารเก่า ไม่ผอมแห้งแต่ก็ไม่อ้วงจนพุงพลุ้ย พอมองเห็นกล้ามตามแขนขาได้บ้างแต่ก็พอมองเห็นพุงแบบคนมีอายุเพราะแกถอดเสื้อแล้วนุงแค่ผ้าขาวม้าผืนเดียว ผมบนหัวดูเถิกล้านมีผมหงอกแซมเทาๆ อยู่กับผมดำ คิ้วหนาเข้ม และ หนวดเคราครอบปาก ประดับบนหน้าที่มีดวงตาดุดันจนดูน่ากลัว แต่ก็ดูดีกว่าคนมีอายุไล่กันในซอย
“หนูเป็นใครละ ทำไมลุงคุ้นหน้าหนูจัง” เขาพูดทีเล่นทีจริงอย่างเอ็นดู
“มิ้นค่ะ ลุงจำมิ้นได้ใช่ไหม เคยมาวิ่งเล่นที่นี่ตอนเด็กๆ” มิ้นรีบตอบ
“อ่อ ลูกสาวคุณเรือง….โอ้โห…. จำแทบไม่ได้” ชาติยิ้มยินดี
“ค่ะ” มิ้นตอบพร้อมยกมือไหว้อย่างเป็นทางการ
“ลมอะไรพัดมาละ เข้าไปข้างในกันเถอะ ไม่ได้เจอตั้งนานโตเป็นสาวผิดหูผิดตาเลยนะเรา” ชาติพูดอย่างพอใจ มิ้นรู้สึกสายตาลุงออกแววคนเจ้าชู้ฉายออกมาเหมือนเสือมองเนื้อตรงหน้า มิ้นรีบยิ้มโปรยเสน่ห์กลับในแบบที่ถนัด จนเจ้าของบ้านทำปากจุ๊ๆ พยักหน้าพอใจ เมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านจะผ่านห้องครัวเพราะเข้าจากด้านหลัง มองเห็นนิดกำลังจัดการอยู่กับวัตถุดิบที่ซื้อมาจากตลาด เธอเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่ประตูเปิดออก
“อ่าวมิ้น ทำไมไม่เข้าประตูหน้าละ นี่เข้ามาทางหลังบ้านหรอ”
“อืม มิ้นไม่อยากให้คนนินทาลับหลัง พวกนั้นจับกลุ่มนินทากันอยู่ที่ร้าน” มิ้นฟ้องเจื้อยๆ
“อีสายใช่มะ” ลุงชาติถามเสียงดุ
“พ่อไม่เอาน่า อย่าไปมีเรื่องมีราวเลย เราอยู่ของเราเงียบๆ ดีแล้ว ใครเขาจะนินทาอะไรก็อย่าไปสนใจเลย” นิดพูดอย่างเป็นเหตุผล
“อีห่านี่ควรโดนส้นตีนสักที ไม่งั้นปากก็พูดเรื่องชาวบ้านไปเรื่อย ทีเรื่องผัวตัวเองกลับไม่รู้จักดู”
“ทำไมหรอลุง”
“ก็ผัวอีสาย มันจะมาฉุด อีนิดเข้าป่า ดีอีนิดมันแข็งแรง หนีเอาตัวรอดกลับบ้านมาได้ ไม่งั้นคงตกเป็นมียไปแล้ว”
“แล้วพี่นิดเอาเรื่องมันหรือเปล่า”
“ไม่หรอก มิ้น พี่ไม่ได้เอาเรื่องเขา พอเช้าจะไปที่ร้านมัน มันก็ว่าพี่โกหกไม่มีหลักฐาน และอีกอย่างพี่ไม่ได้สึกหรอตรงไหน แต่ก็จริงอย่างมันว่าสุดท้ายพี่เลยไม่ได้เอาความกับพวกมัน มันอ้างกับเมียมันว่าเมื่อคืนมันเมาตกร่องน้ำ ทั้งที่จริงพี่ถีบมันเข้าเต็มตีน พี่นึกสมเพชมันเลยไม่ถือความ พอได้ทีเห็นพี่ไม่เอาเรื่อง ป้ายสายที่แกเกลียดพี่อยู่ก็ยิ่งเกลียดเพราะเข้าใจว่าพี่ไปใส่ความผัวแกอยากเป็นเมียน้อยผัวแก พี่ไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ อีกอย่างไปมีเรื่องกับแก มีแต่ฉุดให้การงานของผัวพี่มีปัญหา พี่เลยไม่อยากให้เป็นเรื่องเลยให้มันเงียบๆ ไว้นี่แหละ”
“น่าสงสารพี่นะ ถ้าเป็นหนู ป้าสายตายแน่ หูไม่ยอมแค่นี้หรอก คนแบบนี้หนูจะให้บทเรียนที่จำไปจนตายเลย” มิ้นพูดยิ้มๆ
“ตัวแค่นี้ ดุจริงๆ” ชาติพูดอย่างพอใจ
“ที่ป้าแกทำก็เพราะหวงแก มีผัวเจ้าชู้แบบนั้น ก็ต้องนั่งหวงเป็นจงอางหวงไข่ พี่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแกได้สองสามที พอเห็นผัวมันมองพี่หน่อยมันก็เลิกขายให้พี่แล้ว” นิดอธิบายต่อ
“ก็สมน้ำหน้าแล้วละพี่ เหมือนผีเน่ากับโลงผุ มาพี่นิดมา มิ้นช่วย” มิ้นรีบเดินเข้าไปในครัว ชาติมองตามสะโพกส่ายไม่ละสายตา
“พ่อไปอาบน้ำก่อนไป ตัวมีแต่เหงื่อ” นิดแทรก ชาติหันกลับมามองหน้าลูกสาวอย่างขัดใจ
“เออ” ชาติพูดอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินออกไป
“บ้านพี่ก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ โต๊ะไม้ พวกนั้น ที่เราเคยนั่งวาดรูปเล่นกันตอนเด็กๆ” มิ้นหาเรื่องชวนคุยหลังจากมองสำรวจไปทั่วห้องเพื่อหาว่าทำอะไรได้บ้าง
“ใช่ ที่จริงก็ว่าจะโล๊ะแล้ว อย่างรั้วไม้หน้าบ้านมันก็เก่าจนเริ่มผุ แต่ก็นะ มันใช้เงิน หลังจากพ่อเกษียณก็ต้องประหยัด พี่เองก็ไม่ได้มีงานประจำทำเพราะห่วงพ่อ”
“พี่นิดนี่ รักลุงชาติมากเลยนะ พวกที่เอาเรื่องบัดสีมาว่าร้ายพี่พวกนั้นใจทำด้วยอะไร” มิ้นยิ้มอ่อนๆ
“รู้เรื่องด้วยหรอ”
“อือ มิ้นได้ยินป้าสายพูด”
“แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริง มิ้นจะทำยังไง”
“หือ….” คนฟังนิ่งอึ้ง
“ไม่หรอก พี่ล้อเล่น” นิดหัวเราะเบาๆ แล้วหยิบกุ้งในตะกร้าที่ล้างน้ำแล้วมาแกะเปลือก
“ไม่รู้สิ แต่หนูก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ หนูว่าหนูเข้าใจ” มิ้นตอบ
“เป็นคนใจกว้างจริงๆ เลยนะเรา ทำใจยอมรับเรื่องแบบนี้ได้” นิดพูดเรื่อยๆ มิ้นขยับมาใกล้ๆ
“ไม่หรอกพี่นิด มันเป็นเรื่องของเหตุผลใช่ไหมล่ะ ทุกอย่างมันต้องมีเหตุผลของมัน” มิ้นตอบเธอนึกถึงเรื่องของชัชกับพ่อที่ยังคาใจเธออยู่ “ให้หนูทำอะไรบ้างหนูไม่เคยทำอะไรเลย”
“งั้นทอดไก่ไหม จับตะหลิวแล้วพลิกอย่างเดียว ถ้ามาแกะกุ้งเดี๋ยวมือจะเหม็น เล็บฉีกเปล่าๆ” นิดเสนอแล้วก็เริ่มอธิบายสอนวิธีให้มิ้น เริ่มตั้งแต่หยิบของ กระทั่งชุบแป้งทอด แล้วหยอดลงกระทะ เมื่อถึงจังหวะที่จับไก่ลงกระทะร้อนมิ้นก็รู้สึกว่ามันคงจะกระเด็นเธอกลัวน้ำมันจะกระเด็นใส่ก็เลยรีบปล่อยเร็วจนเหมือนการโยนใส่มากกว่า พริบตาน้ำมันกระเด็นใส่หน้าอกจนเจ้าตัวร้องลั่นโยนตะหลิวปลิวไปบนพื้นกระโดดย้ำๆ
“ว๊าย มิ้น” นิดร้องลั่นเธอรีบละมือไปจับกระทะที่ทำท่าจะล้มลงมา
“ร้อนๆ โอ๊ยๆๆ” มิ้นกระโดดดิ้นพล่านน้ำตาเล็ด พยามใช้มือปัดตรงอกที่โดนลวก ชาติรีบวิ่งเข้ามาตามเสียงร้อง
“อะไรกันเนียหนูมิ้น”
“น้ำมันลวกค่ะ ลุง”
“พ่อ พามิ้นไปทำทายาก่อนเดี๋ยวเป็นแผลเป็น ตรงนี้หนูทำต่อเอง” นิดรีบเสริม ชาติขยับเข้ามาประคองมิ้นเดินออกไปข้างนอก พามิ้นเดินไปที่ห้องน้ำในตัวบ้าน
“น้ำมันกระเด็นโดนตรงไหนละหนู” ชาติถาม
มิ้นถูกพาไปยืนในห้องน้ำ เธอใช้มือชี้วาดตรงหน้าอกแล้วค่อยประคองเต้าทั้งสองข้างจากฐานด้านล่างดันขึ้นแล้วแอ่นอก เธอเริ่มรู้สึกเสียววาบเมื่อเห็นสายตาของชายตรงหน้าที่จ้องมองเธอ
“ตรงนี้ค่ะ” มิ้นตอบเสียงเบา หน้าแดงเรื่อด้วยความเขิน ชาติก้มหน้าลงมามองใกล้ๆ จนมิ้นรู้สึกถึงลมหายใจแรงๆ ที่พ่นมากระทบ
“จะเป็นแผลเป็นไหมนะ” ชาติพูดเสียงสั่น
“ถ้าเป็นแผลเป็นคงน่าเกลียดแย่เลย ทำยังไงดีคะ” มิ้นพูดอย่างกังวล
“ลุงว่า หนูรีบเอาน้ำเย็นลูบๆ มันหน่อยคงจะดี เดี๋ยวลุงเอาครีมบัวหิมะ*ทาก็คงไม่เป็นรอยแผลแล้ว” ชาติตอบเขาขยับตัวถอยออก มิ้นพึ่งสังเกตว่าเหมือนเขาจะรีบออกมาจากห้องน้ำโดยที่ยังไม่ได้อาบเลยด้วยซ้ำ จากโสร่งผ้าขาวม้ากลายเป็นกางเกงบอลสีขาว
“ลุงหันไปก่อนดีไหมคะ มองหนูแบบนี้…” มิ้นพูดอายๆ ชาติหันหลังกลับ มิ้นจับชายเสื้อแล้วรูดจนพ้นตัว เปิดน้ำจากก็อกแล้ววักน้ำล้างไปบนรอยจ้ำสีแดงเป็นจุดๆ บนเนื้อสีขาวเนียน
“อุ๊ย….” เธอร้องสะดุ้งเมื่อน้ำเย็นกระทบรอยจ้ำ ชาติหันกลับมาอย่างไม่รู้ตัว ตะลึงตาค้างกับขนาดหน้าอกใหญ่
“หูย..” ชาติร้องอย่างตกใจ เขาจ้องมันอย่างไม่ละสายตา มิ้นไม่กล้าพูดอะไรต่อรู้สึกร้อนวูบไปทั้งตัวทั้งตื่นเต้นทั้งเสียว
“อึ่ย….อูย…” เธอพยามลูบน้ำเย็นล้างให้ทั่วทั้งเต้า เธอสังเกตว่าไอ้นั่นในกางเกงบอลของชาติกำลังขยับตัวพองเป็นแท่งยาวตุงกางเกง
“มันเป็นรอยแดงแบบนี้ จะไม่เป็นแผลจริงๆ หรอค่ะลุง” เธอถามย้ำด้วยเสียงอ้อน ตอนนี้เธอเริ่มมีอารมณ์มากขึ้นจนห้ามตัวเองไม่อยู่
“เออ…อ่อ..อะ ทายาสักหน่อยก็หายน่าหนู…เดี๋ยวลุงไปหยิบมาให้…” ชาติตอบเลิ่กลั่กท่าทางตื่นเต้น รีบเดินหายไปครู่หนึ่ง พอกลับมาก็ยิ้มกว้างมองเห็นกางเกงบอลตุงนูนออกมาเป็นแท่งชัดเจน ทั้งเจ้าของในกางเกงยังดันกางเกงอยู่งึกๆ จากรูปทรงก็พอรู้ว่าลุงไม่ได้ใส่กางเกงในแน่เพราะมันดูยาวโทงๆ อย่างเห็นได้ชัด มิ้นทำสายตาอ้อนแลดูกังวลกับแผล ใบหน้าเธอดูน่ารักปนเซ็กซี่หน่อยๆ ชาติยื่นขวดครีมมาให้ มิ้นมองกลับสบตากัน สองสายตาประสานมองค้างนิ่งไม่มีใครหลบสายตาใคร มิ้นใจเต้นไม่เป็นส่ำรู้สึกเสียงหัวใจตัวเองกำลังเต้นดัง เธอกลั่นใจพูดออกไปก่อน
“ลุงช่วยทาให้มิ้นหน่อยสิคะ มิ้นไม่กล้าแตะมัน มิ้นกลัวเจ็บ” มิ้นพูดเสียงอ้อนจ้องตาชาติไม่กะพริบ ยิ้มยั่วเย้า เธอเริ่มมีอารมณ์จนฉุดไม่อยู่แล้ว ลุงชาติยิ้มน้อยๆ
“ได้สิหนู” ชาติเปิดฝากระปุกครีมเอานิ้วป้ายยาขึ้นมาแล้วแตะถูวนๆ ไปรอบๆ รอยแดงบนหน้าอก มันอยู่เหนือหัวนมไปหน่อยเท่านั้นเอง พอยาแตะโดนตัวก็รู้สึกเย็นวาบจนมิ้นสะดุ้ง
“ยานี่ต้องเก็บในตู้เย็น มันก็จะเย็นหน่อยๆ นะ” ชาติตอบ แต่ยิ่งเย็นก็ยิ่งเร้าอารมณ์มิ้น มันชวนให้รู้สึกสยิว เสียววาบ
“อูย…ซี๊ด…” มิ้นเผยริมฝีปากครางลอดไรฟัน แล้วผ่อนลมหายใจช้าๆ ตั้งใจยั่วชาติ ทั้งรู้สึกเสียวเป็นทุนเดิม ชาติทาวนไปทั้งที่ควรจะหยุดทาแล้วแต่ก็ไม่ยอมหยุดมือ ทั้งยังออกแรงกดจนเนื้อนุ่มนิ่มบุ๋มลงไปตามแรงนิ้ว แกใช้มืออีกข้างจับนมข้างที่เหลือแล้วคลึงวนไปมาทั้งที่ไม่ได้ป้ายยา ชาติเปลี่ยนจากนิ้วชี้เป็นนิ้วหัวแม่มือใช้มือประคองเต้านมแล้วเอานิ้วโป้งคลึงวนไปมาคล้ายกำลังนวดนมทั้งสองเต้า จนผิวขาวเนียนเริ่มอมชมพูน้อยๆ
“อุ้ย….ซี๊ด….มิ้นเสียวล่ะนะ ทำแบบนี้ เบาๆ มือหน่อยสิคะลุง…ซี๊ด…” มิ้นก้มหน้ามองมือทั้งสองข้างที่กำลังคลึงทั้งสองเต้าไปมายิ่งเร้าอารมณ์ให้เธอรู้สึกเสียวกว่าเดิม เธอรู้ตัวว่าไม่สามารถฉุดรั้งอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป ชาติเปลี่ยนจากการคลึงเป็นขยำ เคล้นสองเต้าด้วยมือเหี่ยวๆ หยาบๆ ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนของแก ขณะที่นิ้วโป้งเลื่อนลงมาคลึงวนไปๆ มาๆ ที่ยอดถันทั้งสองข้าง มันบดขยี้ บี้ ปลายหัวนมที่แข็งเป็นไตที่กำลังดีดสู้นิ้วนั่นไปมา มิ้นเกร็งแขนทั้งสองข้างที่ดันชายเสื้อยกไว้มาชิดลำตัว ความลื่นของครีมกับมือที่กำลังลูบไปมา ทำให้มิ้นรู้สึกเคลิ้มเสียวจนคุมสติไม่อยู่
“ลุงขา…..อ้า….มิ้นเสียวค่ะ….ซี๊ด….” มิ้นครางเสียงกระเส่า
“หนูมิ้น…โอ้ว…ตัวเล็กแบบนี้…ทำไมนมใหญ่โตมโหฬารแบบนี้ละหนู…มือลุงยังกำไว้ไม่หมดเลย..ดูสิ..” ชาติพูดไปก็ใช้มือบดคลึงสองเต้าของมิ้นไม่หยุด เอาฝ่ามือดันนาบกดเข้าหาตัวมิ้น เอามือกำเต้าทั้งเต้าตึงออกไปเหมือนกำลังนวดแป้งขนมปัง ยิ่งมิ้นโดนเร้าก็ยิ่งเสียว อยากให้เขาทำแบบนี้ต่อไปอีกนานๆ มิ้นมองตาสลับกับมือ ยิ่งเห็นสายตาที่มองกลับมาก็ยิ่งรู้สึกเงี่ยน
“ของแม่มิ้นเท่าที่จำได้ใหญ่กว่ามิ้นอีกนะคะ มันเป็นกรรมพันธุ์ค่ะ ลุง…อือ….” มิ้นเริ่มบิดส่ายเร้าๆ ตัวเกร็งๆ หลบแรงมือของชาติ เพราะยิ่งโดนก็ยิ่งเสียว
“หูย….หนูพูดแบบนี้ลุงก็ยิ่งอิจฉาคุณเรืองเลย นมใหญ่ทั้งแม่ทั้งลูก…หึย…” ชาติพูดเสียงหื่น อารมณ์กลัดมันแสดงออกทางสีหน้าขึ้นมาทันทีหลังจากมิ้นพูดจบ
“หัวนมหนูดูคล้ำๆ นะ เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกหรือว่าไปทำอะไรมา” ชาติถาม
“คล้ำ…คล้ำกว่าของพี่นิดหรือเปล่าคะ” มิ้นแกล้งถามลองเชิง เธอยังคงอยากรู้ว่า ครอบครัวนี้เป็นอย่างที่ชาวบ้านพูดกันหรือเปล่า ถึงแม้จะพอเดาได้แต่ก็อยากฟังจากปากของตัวลุงเองที่พูดออกมามากกว่า
“คล้ำกว่าสิ…ของนิดดูชมพูกว่าหนูเยอะเลยนะ..” ชาติพูดออกมาหน้าตาเฉย มิ้นยิ่งรู้สึกเงี่ยนมากขึ้นอีก
“อื้ย…แปลว่าลุงไม่ได้ดูดหัวนมพี่นิดหรือคะ” มิ้นแซะต่อ แต่เหมือนราดน้ำมันใส่กองไฟ แทนที่แกจะตกใจจนหยุดมือแกกลับยิ่งบีบเคล้นหนักขึ้น
“ถ้านิดมัน นมสวยได้อย่างหนูลุงก็คงดูดไม่ยั้งเหมือนกัน…อื้ย….ขอลุงดูดนมหนูได้ไหมล่ะ” ชาติพูดแต่ไม่ทันที่มิ้นจะได้เอ่ยปากตอบแกก็ก้มหน้าลงอ้าปากงับหัวนมมิ้นเข้าเต็มคำ
“อ่า…คุณลุง…..อ้า…..” มิ้นคว้ามือกุมที่หัวชาติควับ เกาะหัวเถิกล้าน อีกข้างกอดต้นคอด้านหลัง รู้สึกเสียวตามแรงลิ้น แรงปากที่กำลังดูดเน้น ตวัดเลียไปมา เสียงดังจ๊วบๆ ดังลั่นสลับไปมาทั้งสองข้าง
“โอย…..คุณลุงขา….เสียว….อ่า…ซี๊ด….” มิ้นแอ่นหน้าอกสู้หน้าของชาติที่กดลงมา ยิ่งเสียวก็ยิ่งดันสู้ให้ลิ้นของชาติขยับยากขึ้นอีกหน่อย พอเริ่มคลายเสียวก็ขยับถอยออกให้คนดูดตวัดลิ้นเลียได้เต็มที่ มิ้นรู้สึกสนุกขณะที่คนดูดเองก็ปล่อยอามรณ์หื่นออกมาเต็มที่ ชาติใช้โครงหน้าที่เต็มไปด้วยเคราบดขยี้ไถถูไปกับนมทั้งสองข้างของมิ้น ทั้งสากทั้งแสบและเสียวไปพร้อมกัน
“โอ้ว….เด็กอะไรนมใหญ่เหลือเกินหนูจ๋า….” ชาติครางอย่างพอใจมือสองข้างแบะเต้ามิ้นออกจากกันแล้วลากลิ้นเลียไล่ยาวทั้งแต่รูสะดือผ่านร่องอก ชาติขยับขึ้นลงเร็วๆ ลมหายใจหอบรวนของแกพ่นรด นึกถึงหมาที่กำลังเลียกินอาหารแบบหิวจัดๆ
“อา….ซี๊ด….คุณลุงเลียเก่งจังเลยค่ะ ซี๊ด” มิ้นครางอย่างพอใจรู้สึกเคลิ้มหลับตาพริ้ม ชาติขยับตัวเลื่อนลงไปเรื่อยๆ ต่ำกว่าสะดือจนถึงเนินสาว มิ้นสะดุ้งเฮือกลืมตาเบิกโพลง มิ้นมองเห็นทบยืนพิงขอบประตูห้องน้ำมองอยู่ด้วยรอยยิ้ม ขณะที่นิดยืนอยู่ข้างหลัง
“อุ้ย..คุณลุงคะ พอค่ะ..ทบ…กับพี่นิด..” มิ้นรีบดึงเสื้อลงมาปิดนมแล้วดันร่างชาติออกไป ชาติหันหน้ากลับไปมองที่ประตู
“อ้าว ไอ้ทบ…นิด มาแล้วก็ไม่บอก” ชาติค่อยๆ ลุกขึ้น นิดทำหน้านิ่งๆ มองจนเดาอารมณ์ไม่ออก ขณะที่ทบยิ้มแบบคนมีแผน
“ให้ทบมาตามก็เงียบจนต้องขึ้นมาเอง กับข้าวเสร็จหมดแล้ว ทบก็มาตั้งนานแล้ว พ่อจะกินข้าวหรือว่าจะกินอะไรละ” นิดพูดงอนๆ ชาติเดินโต้งๆ ตรงเข้าไปหานิด ใช้มือตะปบไปที่โหนกหีนิดเต็มมือ ปลายนิ้วเขี่ยตรงร่องหีผ่านกางเกงสามส่วนที่ใส่อยู่ มือของชาติบดเนินหีจนเห็นเป็นโคกนูนออกมา
“อุ้ย…พ่อ…ทบก็อยู่…มิ้นก็อยู่นะ…” นิดพยามดันมือชาติออก แต่หน้าเธอกลับแดงซ่าน
“ไอ้ทบ อีนิดมึงมามองดูอยู่นานแล้วละสิ อีนิดถึงได้ หีแฉะแบบนี้” ชาติหันหน้ามองทบหยักหน้างึกๆ แล้วหันไปมองหน้ามิ้นยิ้มยั่วๆ
“พี่นิดไม่โกรธมิ้นนะ…นะคะ” มิ้นพูดเสียงอ้อน
“โกรธอะไรละมิ้น ก็ที่ทบพามิ้นมาก็…” ทบกำลังจะพูดแต่นิดแทรก
“ไม่หรอกจ๊ะ ทบน่าจะเล่าเรื่องพี่กับพ่อให้ฟังแล้วไม่ใช่หรอถึงได้ชวนมา” นิดย้อน
“หือ”
“ทบว่าจะเล่า แต่ไม่นึกว่ามิ้นจะ…เจอกับพ่อเร็วแบบนี้” ทบว่า
“งั้นทบก็รู้มาตลอดเลยอ่ะสิ มิน่าถึงชวนมาตอนเย็น วางแผนไว้นี่เอง” มิ้นพูดยิ้มๆ
“แล้วแบบนี้พ่อจะกินข้าวเย็นเลยหรือเปล่า มากันพร้อมหน้าละ” นิดถามลองใจเจ้าของบ้านอีกรอบ
“อยากนะ แต่พอก็อยากกินอย่างอื่นก่อน…ได้เปล่าลูก” ชาติพูดอ้อนๆ
“งั้นหนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนได้หรือเปล่าละพ่อ ทบก็กลับมาจากข้างนอก หนูก็มีแต่กลิ่นกับข้าวเต็มตัว” นิดก้มลงดมกลิ่นเสื้อตัวเอง
“ได้งั้น พ่ออาบด้วย พ่อก็ชักจะร้อนมาอีกรอบแล้วเหมือนกัน หนูมิ้นล่ะจะอาบน้ำด้วยกันไหม” ชาติหันกลับมาถาม ทบหยักหน้างึกๆ ให้มิ้นตอบตกลง
“เออ….มิ้นก็อยากอาบนะคะ แต่ห้องน้ำนี่มันไม่เล็กเกินไปหรอคะ หนูเกรงใจ” มิ้นตอบแบบเกร็งๆ
“ใครว่า ลุงมีห้องน้ำอีกอันอยู่ข้างหลังบ้านไง อันนั้นกว้างมากไม่ต้องห่วง” ชาติยิ้มแก้มปริ เหมือนจะเข้าทางคนพูดซะมากกว่า
“ห้องน้ำนั้นมันจะมีคนเห็นหรือเปล่าไกลจากตัวบ้านมากเลย” มิ้นถามอย่างกลัวๆ เธอนึกถึงคอกสังกะสีที่เห็นตรงหลังบ้าน ก่อนที่เธอจะเดินเข้าตัวบ้านมา ทุกคนพากันขมวดคิ้วแต่พอเข้าใจว่ามิ้นคิดอะไร
“หลังบ้านลุงเป็นทุ่งนาโล่งๆ ไม่มีใครมาเห็นหรอก” ชาติยืนกราน ทบพยักหน้าเห็นด้วย นิดนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไร แต่ยิ้มแล้วจูงมือมิ้นเดินออกจากห้องน้ำไป