บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร - ตอนที่ 9
นับตั้งแต่วันที่แม่การะเกดกลับมาจากเมืองละโว้ แม่มะลิก็ยังเขียนจดหมายมาหาอยู่เนืองๆ ในจดหมายนางเล่าให้ฟังว่านางยังคงโดนฟอลคอนโล้เรือกลไฟอยู่ทุกวัน ส่วนลูกของนางยังคงปลอดภัยดีอยู่ ฟอลคอนบอกว่าหากนางยังปรนบัติเขาให้เป็นที่พึงพอใจได้ เขาก็จะไม่ทำอันตรายแก่ลูกของนาง
ส่วนแม่การะเกดให้อดใจรอไว้ หากคุณพี่เดชออกเดินทางไปฝรั่งเศสเมื่อไหร่เขาจะตามไปหาถึงเรือนแลจักยัดเยียดความเป็นผัวให้แก่แม่การะเกดจนกว่าจะตั้งท้องให้ได้ แม่การะเกดอ่านจดหมายจากแม่มะลิแล้วก็รู้สึกทั้งกลัวทั้งคันยุบยิบในร่องเสียวในเวลาเดียวกัน
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น คุณพี่เดชออกเดินทางไปพร้อมคณะทูตไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแล้ว แม่การะเกดหวาดกลัวฟอลคอนยิ่งนัก จึงรีบนำความไปปรึกษาอาจารย์ชีปะขาว ท่านอาจารย์จึงเรียกศิษย์ผู้หนึ่งเข้ามาหารือด้วยกัน ศิษย์ผู้นั้นคือ หลวงสรศักดิ์ บุตรของพระเพทราชา นั่นเอง
แม่การะเกดเล่าความจริงบางส่วนให้หลวงสรศักดิ์ฟังโดยละเอียด ว่าบุตรของแม่มะลินั้นเกิดกับขุนศรีวิสารวาจา ทำให้ฟอลคอนโกรธแค้นจนจะถือโอกาสนี้มาทำร้ายนาง แต่ไม่ได้เล่าให้ฟังว่านางกับแม่มะลินั้นถูกโล้เรือกลไฟตอนที่อยู่เมืองละโว้ หลวงสรศักดิ์เดิมทีเกลียดขี้หน้าขุนนางฝรั่งผู้นี้อยู่ก่อนแล้ว พอได้ฟังเรื่องราวที่มันจ้องจะทำร้ายผู้หญิงและเด็กอย่างนี้ยิ่งทำให้โกรธแค้นมากขึ้นไปอีก
หลวงสรศักดิ์อาศัยจังหวะที่ฟอลคอนเพิ่งเข้าเฝ้าขุนหลวงเสร็จกำลังจะกลับเรือน พาพรรคพวกปลอมตัวคลุมหน้าไปลอบทำร้ายจนน่วม และขู่ว่าหากมันแตะต้องแม่การะเกด หรือแม้กระทั่งแม่มะลิกับลูกให้ได้รับอันตรายแม้แต่ปลายเล็บ พวกเขาจะตามไปเอาชีวิตมันถึงเรือน ฟอลคอนจึงจำใจต้องรับปากแม้ว่าจะผูกใจเจ็บ แต่ก็มิรู้ว่าคนที่แม่การะเกดส่งมาพวกนี้เป็นใครจึงไม่สามารถทำอะไรได้ นับตั้งแต่นั้นมาฟอลคอนจึงไม่กล้ามาตอแยกับแม่การะเกดอีก
กลับมาทางฝั่งแม่การะเกด ตั้งแต่คุณพี่ไม่อยู่เรือน นางก็ตั้งอกตั้งใจเรียนรู้งานบ้านงานครัวจากคุณหญิงจำปาเพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าหอ แต่วันนี้ขณะกำลังเรียนงานเย็บปักถักร้อยอยู่ ก็มีแขกมาเยือนถึงเรือน
“แม่นายเจ้าขา ขุนเรืองมาหาเจ้าค่ะ” นังแย้มเข้ามารายงาน
“ว่าไงคะขุนเรือง มาหาข้าวันนี้มีอะไรรึเปล่าคะ”
แม่การะเกดเอ่ยถาม หลังจากทักทายกันเสร็จและเชิญมานั่งคุยกันที่ท่าน้ำ
“ข้าจะมาปรึกษาออเจ้า เรื่องแม่จันทร์วาด” ผู้มาเยือนกล่าว
“ปรึกษาเรื่องอะไรเจ้าคะ”
“ตั้งแต่เจ้าพระยาโกษาธิบดี บิดาของนาง ต้องอาญาจนเสียชีวิตไป ครอบครัวของนางก็ถูกริบทรัพย์สินแลบ่าวไพร่ไปจนเกือบหมด บัดนี้กล่าวได้ว่านางและแม่ของนางกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆอีก ข้ารู้สึกสงสารนางเหลือกำลัง จึงอยากจะช่วยเหลือนาง ออเจ้าว่าข้าควรทำอย่างไรดี”
“แล้วขุนเรืองคิดยังไงกับแม่จันทร์วาดละเจ้าคะ”
“นางน่าสงสาร ทั้งที่รูปร่างหน้าตาของนางก็จัดได้ว่างดงามอยู่มาก แต่ก็มิมีผู้ใดหาญกล้าเข้ามาเกี้ยว ด้วยว่าคุณหญิงนิ่มแม่ของนางหมายมั่นจะให้เป็นคู่หมายของพ่อเดช มาบัดนี้นางจึงไม่เหลือผู้ใดแล้ว”
“ไม่ช่าย…ข้าหมายความว่า ท่านชอบแม่หญิงจันทร์วาดมั้ย อยากได้นางเป็นเมียหรือเปล่า”
“ถ้าข้าบอกว่า ข้าอยากได้เจ้าเป็นเมียมากกว่าล่ะ เจ้าจะว่าอย่างไร”
ขุนเรืองแอบหยอดใส่แม่การะเกดจนนางขวยอายแก้มแดงเรื่อ
“ขุนเรืองนี่ เจ้าชู้ไม่เบานะคะ แต่ไม่ได้เจ้าค่ะไม่ได้ ข้ามีคุณพี่อยู่แล้วจะให้เป็นเมียท่านได้ยังไง”
“แม่หญิง ข้ามิได้รังเกียจหญิงที่มีสามีแล้วดอกหนา” ขุนเรืองยังรุกต่อไม่หยุด
“ท่านไปจีบแม่หญิงจันทร์วาดเถอะค่ะ หากท่านจีบนางแบบที่กำลังจีบข้าอยู่นี่ รับรองว่านางต้องชอบแน่ๆ”
แม่การะเกดรีบบ่ายเบี่ยง ก่อนที่นางจะเงี่ยนไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้นางก็เริ่มมีน้ำซึมๆออกมาที่หว่างขาแล้ว
“แล้วจะให้ข้าไปจีบแม่หญิงจันทร์วาดอย่างไรเล่า แม่การะเกด”
“ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะ ขุนเรือง” แม่การะเกดเอ่ยกับผู้มาเยือน
“แล้วข้าจะทำอย่างไร แม่ของนางไม่ชอบหน้าข้า”
“ขุนเรืองก็เลือกเวลาที่แม่ของแม่หญิงจันทร์วาดไม่อยู่สิเจ้าคะ เอาอย่างนี้นะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะบอกแผนการให้”
แม่หญิงการะเกดกระเถิบเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของขุนเรือง บอกเล่าแผนการที่นางวางไว้ให้เขาฟัง ขุนเรืองถึงกับดวงตาเบิกโพลงตกตะลึงอย่างไม่เชื่อหู ท่อนควยในกางเกงลุกตั้งโด่ขึ้นมาค้ำผ้านุ่งจนสูงโด่งเป็นกระโจม น้ำเงี่ยนที่ปลายควยเปียกซึมออกมาจนเป้าของเขาเปียกเป็นดวงๆ
วันนั้นแม่การะเกดก็หาจังหวะเหมาะๆเข้าไปหาคุณลุงเพื่อขอความร่วมมือจากท่านในการเตรียมแผนการครั้งนี้
“ได้สิแม่การะเกด แผนการของหลานนี่ช่างแยบยลนัก ว่าแต่เจ้ามาขอให้ลุงช่วยอย่างนี้ วันหลังออเจ้าช่วยมาอ่านหนังสือให้ลุงฟังที่หอหนังสืออีกได้หรือไม่”
ออกญาหัวงูหวังจะลวงให้นางมาที่หอหนังสืออีกครั้ง เพราะตั้งแต่หนแรกที่ได้เสพสังวาสกันนั้น ท่านออกญาก็ไม่มีโอกาสอยู่ตามลำพังกับหลานสาวอีกเลย ทำให้เขาอัดอั้นด้วยความเงี่ยนยิ่งนัก
แม่การะเกดรู้ทันมุกของคุณลุง ด้วยว่าเขตอาคมของคุณลุงนั้นไม่ส่งผลกับนางอีกแล้ว แต่ก็แกล้งทำเป็นรับปากไปก่อน
“ได้สิเจ้าคะคุณลุง แต่ช่วงนี้ข้าต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากคุณหญิงป้า ก็เลยไม่ค่อยจะมีเวลาไปอ่านหนังสือกับคุณลุง แต่ถ้าข้าว่างข้าจะไปนะเจ้าคะ”
จากนั้นนางก็เริ่มแผนการตามที่วางไว้ ด้วยการเชิญคุณหญิงนิ่มมาที่เรือน โดยบอกว่าคุณลุงของนางอยากตรวจดวงชะตาให้ จากนั้นคุณลุงที่ร่วมมือกับแม่การะเกดก็แกล้งบอกว่าคุณหญิงนิ่มนั้นมีเคราะห์ จะต้องนุ่งขาวห่มขาวและถือศีลสวดมนต์ภาวนาอยู่แต่ในห้องนอนห้ามออกไปไหนเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน หากได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามออกไปดูเพราะนั่นจะยิ่งทำให้เคราะห์หนักจนถึงขั้นชะตาขาดได้ คุณหญิงนิ่มก็เชื่อสนิทใจเพราะเป็นถึงคำทำนายจากพระยาโหราธิบดี พระราชครูของขุนหลวง นางจึงกลับเรือนมาแล้วจัดเตรียมข้าวของเพื่อทำการถือศีลนั่งสมาธิเจ็ดวันเจ็ดคืนทันที
ตกดึกคืนนั้น ท้องฟ้าปรอดโปร่ง จันทร์ข้างขึ้นสว่างไสว หนึ่งสาวหนึ่งหนุ่มกำลังเดินลัดเลาะตามทางสุมทุมพุ่มไม้ในสวนหลังเรือนของพระยาโกษาธิบดีผู้ล่วงลับ
“ตามข้ามาทางนี้เลยจ้าค่ะขุนเรือง เร็วๆสิเจ้าคะ”
ผู้นำทางหันไปบอกให้ชายที่ติดตามมาเร่งฝีเท้ายิ่งขึ้น
“ออเจ้าจะรีบร้อนไปไย แม่การะเกด เรือนของเจ้าพระยาโกษาฯก็อยู่ไม่ไกลแล้ว ว่าแต่..ข้ามิรู้มาก่อนเลยว่าจะมีเส้นทางแอบเข้าหลังเรือนของนางได้เยี่ยงนี้ ออเจ้ารู้ได้อย่างไร”
“เอาเถอะน่า ขุนเรือง ตามข้ามาก็แล้วกัน ข้าสัญญาว่าท่านจะต้องได้พบแม่หญิงจันทร์วาดแน่นอน”
แม่การะเกดมิได้ตอบว่ากระไร อันที่จริงสาเหตุที่นางรู้ว่ามีเส้นทางนี้เพราะนางเคยเห็นแม่หญิงจันทร์วาดแอบลงจากเรือนไปโล้สำเภากับคุณพี่เดชที่กระท่อมท้ายสวนโดยใช้เส้นทางนี้ มันสามารถอ้อมไปเข้าเรือนของพระยาโกษาธิบดีจากด้านหลังได้โดยมิมีผู้ใดพบเห็น ยิ่งเวลานี้บ่าวไพร่ในเรือนของแม่หญิงจันทร์วาดเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน การลอบขึ้นเรือนของนางจึงทำได้ง่ายดายยิ่ง
ไม่กี่อึดใจต่อมา ทั้งแม่การะเกดและขุนเรืองก็มาถึงหอนอนของแม่หญิงจันทร์วาด นางอยู่ในหอนอนแต่เพียงลำพังโดยไม่มีบ่าวไพร่คอยรับใช้ดังแต่ก่อนอีกแล้ว เพลานี้สถานการณ์จึงช่างเป็นใจยิ่งนัก นางกับขุนเรืองจึงถือวิสาสะเข้าไปข้างในทันทีโดยมิต้องขออนุญาตจากผู้ใด
“จ๊ะเอ๋…แม่หญิงจันทร์วาด”
“แม่การะเกด ออเจ้าเข้ามาได้อย่างไรกัน…อุ๊ย…ขุนเรือง”
แม่จันทร์วาดตกใจยิ่งนักที่เห็นผู้มาเยือนยามวิกาลเช่นนี้
“ข้าพาขุนเรืองมานี่เพราะมีธุระสำคัญจะมาคุยกับเจ้า”
“เรื่องอันใด แล้วเหตุใดจึงต้องแอบเข้ามาในยามวิกาลเช่นนี้ หากใครมาเห็นเข้า ข้าจักเอาหน้าไปไว้ที่ใด ที่ปล่อยให้ผู้ชายเข้ามาถึงหอนอนอย่างนี้”
“แหม…แล้วทีออเจ้าแอบลงจากเรือนไปจู๋จี๋กับคุณพี่ของข้า ยังไม่เห็นเจ้าจะกลัวผู้ใดมาเห็นเลย”
“แม่การะเกด!! ออเจ้ารู้ได้อย่างไร….หรือว่าเจ้า…”
แม่จันทร์วาดคาดไม่ถึงว่าแม่การะเกดจะล่วงรู้ความลับของนางกับคุณพี่เดช นางจึงตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
“เอาเถอะแม่จันทร์วาด ข้าไม่ถือสาเรื่องระหว่างเจ้ากับคุณพี่หรอก ที่มาวันนี้ก็เพราะขุนเรืองเขามีเรื่องจะบอกกับออเจ้า”
แม่การะเกดพูดปลอบใจนางแล้วหันไปส่งพยักหน้าให้ขุนเรือง เขาจึงเอ่ยต่อจากแม่การะเกด
“ข้าขอสารภาพตรงๆ ข้าแอบชอบแม่หญิงจันทร์วาดมานานแล้ว บัดนี้ออเจ้าสูญเสียบิดาไป ทรัพย์สินแลบ่าวไพร่ก็ถูกยึดเอาไปหมด ข้าสงสารออเจ้าเหลือกำลัง จึงอยากจะทาบทามออเจ้าให้ไปอยู่เรือนของข้า..ไปเป็นเมียข้า ข้าจักส่งเสียเลี้ยงดูมิให้ต้องลำบากอย่างเช่นทุกวันนี้”
แม่หญิงจันทร์วาดสับสนในใจยิ่งนักที่ได้ยินเช่นนั้น ใจหนึ่งนางก็แอบยินดี เพราะทุกวันนี้นางเหมือนคนสิ้นเนื้อประดาตัว จะมีผู้ใดเหลียวแลก็หามีไม่ แต่อีกใจนางก็ไม่กล้ารับข้อเสนอของเขา เพราะนางยังมีใจผูกพันกับพ่อเดชอยู่ หากแต่ว่าพ่อเดชนั้นหาได้สนใจไยดีนางอีกต่อไปแล้ว เพราะเขามีคู่หมั้นคู่หมายอยู่คาเรือน คือแม่การะเกดนั่นเอง
“ข้ามิอาจทำให้ท่านลำบาก ด้วยข้านั้นเป็นธิดาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้คดโกง”
แม่หญิงจันทร์วาดยังคงตอบแบบเจียมเนื้อเจียมตัว
“ข้าหาได้รังเกียจไม่แม่จันทร์วาด ข้าจริงใจกับออเจ้า และอยากให้เจ้าเป็นเมียของข้าจริงๆ”
ขุนเรืองแสดงความตั้งใจจริงออกมา เขานึกถึงคำของแม่การะเกดที่ว่า ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก
“หากว่าข้า..ตอบตกลง..ท่านคิดจะทำประการใดต่อไป”
แม่จันทร์วาดพูดเสียงค่อยอย่างเอียงอาย นางตัดสินใจแล้วว่าอย่างน้อย..มีคนช่วยเหลืออุ้มชูนาง ย่อมดีกว่าไม่มี
“หากออเจ้าตกลง งั้น…เรามากินมะม่วงน้ำปลาหวานกัน”
แม่การะเกดดีดนิ้วเปาะพูดขึ้นมาด้วยยินดี
“น้ำปลาหวาน…เป็นอย่างไร แม่การะเกด”
แม่จันทร์วาดถามอย่างสงสัยยิ่งนัก ขุนเรืองเองที่นั่งอยู่ด้วยก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
“เอาเถอะน่า เดี๋ยวข้าจัดการให้ รับรองว่าแซ่บ”
พูดจบแม่การะเกดก็ตรงเข้าไปจูบปากแม่หญิงจันทร์วาดทันที ขุนเรืองที่นั่งดูอยู่ถึงกับตะลึง ไม่คิดว่าแม่การะเกดจะใจกล้าเช่นนี้ ส่วนแม่หญิงจันทร์วาดก็พยายามดิ้นรนขัดขืนแต่สู้แรงแม่การะเกดที่กดแขนนางอยู่ไม่ได้ ปากนางก็ถูกบดจูบอย่างเร่าร้อน นางมิเคยจูบปากกับผู้หญิงด้วยกันมาก่อน แต่รสจูบของแม่การะเกดก็เล่นเอานางเคลิบเคลิ้มไปเหมือนกัน เพราะมิเพียงแต่ริมฝีปากที่ประกบเบียดเท่านั้น แม่การะเกดยังสอดลิ้นเข้ามาพัวพันกับลิ้นของนางซอกซอนไปทั้งอุ้งปากอีกด้วย
ชุดนอนของแม่จันทร์วาด ซึ่งมีเพียงแค่ผ้าแถบที่พันหน้าอกอยู่กับผ้าคลุมไหล่แลผ้านุ่งที่สวมไว้หลวมๆก็ถูกแม่การะเกดถอดออกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันแม่การะเกดจึงรู้ว่าต้องแกะต้องดึงตรงไหนบ้าง เรือนร่างของแม่หญิงจันทร์วาดจึงเปล่าเปลือยล่อนจ้อนในเวลาเพียงไม่นานนัก ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องแทบไม่กระพริบตาของขุนเรือง ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขานั่งมองสองสาวกอดรัดพัวพันกันอย่างเงี่ยนง่านจนควยแข็งตุงขึ้นมาเป็นลำ
แม่การะเกดเองก็มีอารมณ์เงี่ยนไม่แพ้กัน จิตใต้สำนึกของนางยังคงสร้างอารมณ์กระสันอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เข้ามาในห้องนอนของแม่หญิงจันทร์วาด ร่องเสียวของนางก็ขมิบหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาเป็นระยะด้วยรู้ดีกำลังจะได้เห็นขุนเรืองโล้สำเภากับแม่หญิงจันทร์วาด แต่ด้วยความใจร้อนนางจึงตัดสินใจเป็นฝ่ายเปิดเกมก่อน เพราะขืนรอให้ทั้งคู่เจรจากันเองจักต้องถึงเช้าเป็นแน่แท้ เมื่อแม่การะเกดเปลื้องผ้าผ่อนของแม่หญิงจันทร์วาดแล้วจึงกลับมาถอดของตนเองออกบ้าง ร่างเปลือยของสองสาวเบียดเสียดแนบชิดจนแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
แม่การะเกดเล้าโลมแม่หญิงจันทร์วาดจนนางอ่อนระทวยไปทั้งกาย ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนอีกต่อไป แม่การะเกดเห็นดังนั้นจึงพยักหน้าส่งสัญญาณให้ขุนเรืองถอดเสื้อผ้าแล้วเข้ามาร่วมวงด้วยทันที ขุนเรืองจึงเริ่มจากการเข้าไปจูบปากแม่หญิงจันทร์วาดโดยพยายามเลียนแบบให้เหมือนที่แม่การะเกดทำเมื่อครู่ แม่หญิงจันทร์วาดก็ตอบรับเขาเป็นอย่างดี ยอมอ้าปากแลกลิ้นกับขุนเรืองอย่างไม่ลดละ บัดนี้อารมณ์กำหนัดของนางถูกปลุกขึ้นมาแล้ว และคงไม่มีผู้ใดนอกจากขุนเรืองเท่านั้นที่จะมาคลายกำหนัดให้นาง
ส่วนแม่การะเกดก็เลื่อนตัวลงไปยังท่อนล่างของแม่จันทร์วาด จับนางกางขาออกแล้วพิจารณาร่องรูสังวาสของนางที่ถูกใช้งานมาหลายครั้งหลายคราโดยคุณพี่เดช แม่การะเกดเห็นร่องรอยของความสึกหรออยู่บ้างแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นดูไม่ได้ ปากร่องรูแม้จะเผยออ้าออกแต่ก็มิได้กลวงโบ๋เท่าใดนัก สองนิ้วที่นางชอนไชเข้าไปนั้นยังคงรู้สึกได้ถึงความกระชับแน่นจากภายใน เมือกลื่นใสๆที่หลั่งออกมาไม่ขาดระยะก็ทำเอามือของนางเปรอะเปียกไปทั้งฝ่ามือ แม่การะเกดตัดสินใจตวัดลิ้นชิมน้ำรักของแม่จันทร์วาดดูบ้าง สะโพกของนางก็แอ่นแดะขึ้นทันทีด้วยความสยิว นางจึงติดใจที่ได้แกล้งแม่หญิงจันทร์วาดให้เสียวซ่านได้ จึงยิ่งละเลงลิ้นใส่ร่องหอยของนางจนน้ำรักทะลักออกมาไม่หยุด
“โอว…ซี้ด…แม่การะเกด เจ้าทำอะไรของเจ้า…ซี้ด…อูย…อย่า..ตรงนั้นของข้ามันไม่สะอาด”
แม่หญิงจันทร์วาดร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่าน บัดนี้นางถูกจู่โจมทั้งบนและล่าง เพราะขุนเรืองเองตอนนี้ก็ลงไปโลมเลียหน้าอกของนางและดูดเล่นลิ้นกับปลายถันสลับไปมาทั้งซ้ายและขวา เล่นเอานางสยิวกายบิดส่ายไปมาไม่เป็นท่า
“แม่จันทร์วาด ข้าเลียหอยให้เจ้าเช่นนี้ เจ้าเสียวหรือไม่ ชอบหรือเปล่า”
แม่การะเกดถามพลางตวัดลิ้นเลียติ่งแตดของนางไม่หยุดปาก
“เจ้าพูดกระไรเยี่ยงนั้น…ซี้ด…ข้าเสียวเหลือเกิน…อูว…ข้าชอบมาก เจ้าอย่าเพิ่งหยุดนะ…ซี้ด”
แม่หญิงจันทร์วาดติดใจการกระทำของแม่การะเกดเสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของแม่หญิงจันทร์วาดถูกปลุกจนได้ที่แล้ว นางก็สะกิดขุนเรืองแล้วจัดท่าใหม่ โดยแม่การะเกดขึ้นไปนั่งทางศีรษะของแม่หญิงจันทร์วาด แล้วจับข้อเท้าของนางโย้ขึ้นมาทางศีรษะจนสะโพกแม่จันทร์วาดกระดกแอ่นขึ้นมาสูงลิ่ว
“แม่จันทร์วาด กินมะม่วงก่อนนะ เดี๋ยวน้ำปลาหวานจักตามมาทีหลัง”
แม่การะเกดเอ่ยเป็นนัย พลางหันไปมองท่อนควยของขุนเรืองที่ผงาดตั้งโด่ชี้ปลายมาทางหญิงสาวทั้งสอง ทั้งแม่การะเกดและแม่หญิงจันทร์วาดเองก็เพิ่งได้เห็นควยของขุนเรืองชัดๆตอนนี้เอง ควยของเขายาวใหญ่ก็จริงแต่หาได้ตั้งตรงไม่ มันงอนโค้งส่วนปลายชี้ขึ้นจนดูทรงคล้ายกับกล้วยหอมมากกว่าจะเป็นมะม่วง แต่แม่การะเกดอยากเรียกมันว่าดุ้นมะม่วงมากกว่า
ขุนเรืองเข้าประกบจ่อท่อนควยตรงเข้าปากรูหอยของนางที่อ้ารออยู่ จากนั้นก็ค่อยๆเสียบควยผ่านเข้าปากช่องสังวาสของนางช้าๆ ความโค้งงอนของลำควยทำให้มันครูดไปสะกิดติ่งเสียวภายในโพรงหีของนางจนความเสียวซ่านวิ่งพล่านไปทั้งร่างกาย ขุนเรืองกระดกสะโพกส่งท่อนควยเข้าหีแม่จันทร์วาดไปเรื่อยๆ มือสองข้างก็เอื้อมไปเกาะกุมสองเต้าน้อยๆของนางแล้วบีบขยำไปพลาง ส่วนแม่การะเกดตอนนี้ก้มหน้าลงประกบปากจูบกับแม่จันทร์วาดไปพร้อมๆกัน
แม่หญิงจันทร์วาดมิเคยถูกความเสียวเล่นงานพร้อมๆกันถึงเพียงนี้มาก่อน ถึงขนาดที่ว่าเพียงท่อนควยของขุนเรืองจมหายเข้าไปจนสุดลำ หนอกควยประกบแนบชิดกับเนินหีของนางเข้า นางก็ถึงจุดหมายทันที เนื้อตัวของแม่หญิงจันทร์วาดสั่นระริก หอยตอดขมุบขมิบจนขุนเรืองรู้สึกได้ แต่กระนั้นทั้งแม่การะเกดและขุนเรืองก็ยังเดินหน้าต่อไม่หยุด สะโพกของขุนเรืองเริ่มเคลื่อนที่เข้าออกเป็นแนวตรงกระทุ้งใส่รูหอยของแม่หญิงจันทร์วาดทันทีโดยไม่สนใจว่านางจะเสียวซ่านครางอู้อี้เพียงใด
แม่การะเกดเริ่มรู้สึกเงี่ยนขึ้นเรื่อยๆจนชักจะอดใจไม่ไหว จึงผลักให้ขุนเรืองค่อยๆนอนหงายหลังลงไปแล้วดันให้ร่างของแม่หญิงจันทร์วาดขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนสะโพกของเขาแทนโดยไม่ปล่อยให้ท่อนควยหลุดออกจากรูหี ส่วนนางเองก็สลับไปนั่งคร่อมสะโพกอยู่บนใบหน้าของขุนเรือง ส่ายร่องหีอยู่ตรงใบหน้าของเขาพลางขอร้องขุนเรืองด้วยเสียงอันสั่นเทา
“ขุนเรืองเจ้าขา เลียหีให้ข้าด้วยสิเจ้าคะ ข้าอยากสัมผัสลิ้นของท่านบ้าง”
ขุนเรืองเองก็ไม่ปฏิเสธ ยื่นลิ้นออกมาตวัดเลียชิมน้ำรักของแม่การะเกดไปพร้อมกัน บัดนี้เขาอยู่ในท่านอนหงายโดยมีร่างของแม่หญิงจันทร์วาดคร่อมสะโพกและกำลังขย่มใส่ท่อนควยของเขาอยู่ ส่วนท่อนบนก็โดนร่องหีของแม่การะเกดอุดทั้งปากและจมูกจนเขาหายใจแทบไม่ออก แต่เขาก็ยังเด้งสะโพกสวนแม่จันทร์วาดและใช้ลิ้นทำรักให้แม่การะเกดไปพร้อมๆกันอย่างไม่ยอมแพ้ ได้ยินเสียงของสองสาวครวญครางแข่งกันไม่ขาดปาก
“ซี้ด…แม่หญิงจันทร์วาด เป็นอย่างไรบ้าง…อูย…”
“ซี้ด…ก็เสียวน่ะสิแม่การะเกด ออเจ้าจะถามไปเพื่อสิ่งใดกัน…โอว”
บัดนี้ทั้งสองสาวใกล้จะถึงสวรรค์เต็มทน สองคนแข่งกันครวญครางแข่งกันส่ายสะโพกอย่างหื่นกระหายอย่างไม่มีใครยอมใคร
“อูว…แม่จันทร์วาด..แม่การะเกด ข้าใกล้จักทนไม่ไหวแล้วหนา”
“งั้นก็เร่งเลยสิคะขุนเรือง…ซี้ด…จะรออะไรอยู่ พวกข้าก็จะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
แม่การะเกดเร่งจังหวะเต็มที่จนทั้งปากและจมูกของขุนเรืองมีแต่น้ำเมือกใสๆอาบชโลมไปทั่วทั้งใบหน้า
“ข้าก็ใกล้แล้วเช่นกันเจ้าค่ะขุนเรือง…ซี้ด…อูย…ข้าเงี่ยนเหลือเกินแล้ว…เย็ดข้าแรงๆเจ้าค่ะ เอาให้หีข้าแหกไปเลยเจ้าค่ะ…โอว”
แม่จันทร์วาดเงี่ยนจนสติกระเจิดกระเจิงหมดแล้ว นางพูดคำหยาบคายออกมาจนผิดวิสัยหญิงผู้ดีด้วยความลืมตัว หญิงสูงศักดิ์อย่างแม่หญิงจันทร์วาดเวลาถูกความเงี่ยนเข้าครอบงำทีไรนางก็จะลืมสมบัติผู้ดีไปจนหมดสิ้น กลายเป็นเพียงแม่หญิงผู้ร่านควยเท่านั้น
“โอว…ขุนเรือง เย็ดข้าเร็วๆสิเจ้าคะ เย็ดอีก..อีก..อีก…ข้าจะเสร็จแล้ว…โอว…ข้าเสร็จแล้ว”
และแล้วแม่หญิงจันทร์วาดก็เสร็จสมไปก่อนเป็นคนแรก ส่วนแม่การะเกดเองก็กำลังจะตามไปติดๆ นางเร่งขยำหน้าอกตัวเองพลางบดร่องหีเข้ากับปากของขุนเรืองอย่างแรง
“โอว…ขุนเรือง ข้า..ข้าก็ไม่ไหวแล้ว…โอว…ข้าเสร็จแล้ว..เสร็จแล้วเหมือนกันเจ้าค่ะ…ซี้ด…”
แล้วทำนบของแม่การะเกดก็แตกซ่าออกมาในที่สุด นางโผเข้ากอดแม่หญิงจันทร์วาดแล้วหอบหายใจพร้อมกันอย่างเหนื่อยอ่อน พลางกระซิบที่ข้างหูแม่หญิงจันทร์วาดเบาๆ
“แม่จันทร์วาด น้ำปลาหวานที่ข้าจะให้ออเจ้าชิมกำลังจะมาแล้วหนา เจ้าพร้อมแล้วหรือยัง”
แม่หญิงจันทร์วาดหลับตาลงหอบหายใจแต่ก็พยักหน้าให้แม่การะเกดแทนคำตอบ แม่การะเกดจึงหันไปสบตาขุนเรือง
“เอาเลยค่ะขุนเรือง”
พอได้สัญญาณ ขุนเรืองก็พลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมบ้าง เขายกขาแม่หญิงจันทร์วาดพาดบ่าแล้วกระเด้าควยส่งท้ายเป็นการปิดฉากอย่างไม่ยั้ง แรงกระเด้าทำเอาแม่จันทร์วาดกระเด้งกระดอนไปตามจังหวะ เสียงครวญครางที่เงียบลงไปแล้วก็กลับดังขึ้นอีกครั้ง ความเสียวซ่านอย่างต่อเนื่องทำเอานางเสร็จสมไปติดๆกันเป็นคำรบสาม เสี้ยววินาทีที่นางถึงจุดสุดยอดนั้นเองขุนเรืองก็ชักลำควยออกแล้วกระเถิบขึ้นมาเอาควยจ่อที่ใบหน้าของแม่หญิงจันทร์วาด น้ำกามขาวขุ่นของเขาก็พุ่งเป็นสายยาวราดรดไปจนทั่วใบหน้าของนาง เขาเกร็งกระตุกท่อนควยฉีดพ่นเป็นระลอกอยู่สี่ห้าครั้งก็สงบลง ทิ้งไว้เพียงคราบน้ำกามอยู่บนใบหน้าของแม่หญิงจันทร์วาด
“นี่ยังไงล่ะแม่จันทร์วาด น้ำปลาหวานที่ข้าบอก ออเจ้าลองชิมดูเร็วเข้า”
แม่การะเกดใช้นิ้วปาดน้ำกามบนแก้มของนางแล้วยัดใส่ปากให้แม่หญิงจันทร์วาดลองชิมดู นางเพิ่งเคยได้ลิ้มรสน้ำควยทางปากเป็นครั้งแรกในชีวิต ถึงจะรู้สึกถึงกลิ่นคาวอยู่บ้างแต่ก็มิทำให้นางรังเกียจแต่อย่างใด กลับกันนางยิ่งดูดเลียนิ้วของแม่การะเกดอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนแม่การะเกดเองก็เลียกินคราบหยดน้ำกามที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าของนางจนสะอาดสะอ้านในที่สุด
“เป็นอย่างไรบ้าง แม่จันทร์วาด แซ่บใช่มั้ย” แม่การะเกดถาม
แม่หญิงจันทร์วาดมีสีหน้าขวยเขินอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา
“สะ..แสบ”
แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะให้กันอย่างมีความสุข