ทาสสาวผู้ฉาวกาม - ตอนที่ 2
บนเรือนของท่านเจ้าคุณในคืนนี้มีแรงสั่นสะเทือนน้อยๆมากจากห้องนอนของท่านเจ้าคุณ เสียงครางแผ่วๆของหญิงสาวคนนึงกับเสียงของโหนกเนื้อที่ปะทะกันดังลอดประตูห้องนอนออกมาให้พอได้ยินขณะนั้นก็มีเงาตะคุ่มๆ ของคนผู้นึงมาแอบทำลับๆ ล่อๆ อยู่แถวๆ ห้องของท่านเจ้าคุณด้วย
ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากแม่วาด ซึ่งเป็นแม่นมของคุณเรืองมาก่อน แต่ก็คอยให้ท่าท่านเจ้าคุณอยู่เสมอเพราะหวังฟลุ้คได้เป็นเมียนายท่านขึ้นมาบ้าง แต่เพราะใบหน้าที่ไม่ได้สวยสะดุดตาทำให้ท่านเจ้าคุณไม่เคยเหลียวแลแม้แต่น้อย ที่แม่วาดมาในคืนนี้ก็เพื่อมาแอบฟังนายท่านและแม่นายเภามีอะไรกันอีกเหมือนที่เคยทำอยู่ประจำ “โอ๊ยย…คุณพี่เจ้าขา…โอ๊ยย…อิชั้น..อิชั้นไม่ไหวแล้ว…โอ๊ยย…ซี้ดส์ส์…” แม่นายเภาสำเร็จความใคร่ไปก่อนจนได้ “คุณพี่เจ้าขา..พอเถอะเจ้าค่ะ อิชั้นเจ็บ..มันแสบไปหมดทั้งร่องแล้วเจ้าค่ะ อิชั้นทำต่อไม่ไหวแล้ว” “อีกแล้วเหรอแม่เภา เมื่อไหร่หล่อนจะทำให้ชั้นเสร็จได้ซะที พอหล่อนเสร็จทีไรก็บ่นว่าแสบว่าเจ็บจนชั้นไม่มีอารมณ์จะทำแล้วเนี่ย” ท่านเจ้าคุณบ่นอย่างหัวเสีย “ก็ร่างกายของอิชั้นไม่แข็งแรงนี่เจ้าคะ จะให้หักโหมทำเรื่องอย่างว่าทุกคืนร่างกายอิชั้นรับไม่ไหวหรอกเจ้าค่ะ” “แล้วหล่อนจะให้ชั้นทำยังไงฮึแม่เภา หล่อนก็รู้นี่ว่าความต้องการของชั้นมีมากแค่ไหน” “อิชั้นก็อนุญาตให้คุณพี่ไปมีเมียคนอื่นอีกก็ได้นี่เจ้าคะ
บ่าวสาวๆในเรือนก็มีตั้งหลายคนที่อยากจะเป็นเมียคุณพี่ แม่วาดนั่นก็ใช่” แม่เภาพูดเล่นเอาแม่วาดที่แอบฟังอยู่สะดุ้งสุดตัวเลยทีเดียว “หยุดนะแม่เภา หล่อนอย่ามาเสนอความคิดบ้าๆ แบบนี้อีก
อยากจะให้ชั้นถูกหยามหน้าเหมือนอย่างคราวนั้นรึไง” “แต่อิชั้นว่า..” ไม่ทันพูดจบท่านเจ้าคุณก็ตวาดลั่น “หล่อนอย่าพูดอีกเลย!! ทั้งหมดมันเป็นเพราะหล่อนคนเดียวเท่านั้น” พูดจบท่านเจ้าคุณก็ลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง แม่วาดที่แอบฟังอยู่ก็หลบเข้าที่ซ่อนแทบไม่ทัน ปล่อยให้แม่เภานั่งเปลือยกายน้ำตาร่วงเผาะด้วยความเสียใจพลางเอามือกุมที่เนินเนื้อกลางหว่างขาของตัวเองเพราะความปวดแสบที่ถูกท่านเจ้าคุณยัดเยียดท่อนเนื้ออันเขื่องเกินกำลังที่หล่อนจะรับไหวมาเมื่อซักครู่
แม่วาดที่แอบฟังอยู่ก็รู้สึกมีหวังในการจะจับท่านเจ้าคุณขึ้นมาอีกเป็นกอง กลางหนองน้ำในละแวกบ้านของท่านเจ้าคุณนั้น มีทาสหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างบึกบึนคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลาอยู่ในเรือกลางหนองน้ำอย่างสบายใจ แต่แล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มรูปร่างสะโอดสะองกำลังเดินมุ่งหน้ามาทางหนองน้ำ คะเนด้วยสายตาเด็กสาวคนนี้น่าจะอายุราวๆ 17-18 ปี ใบหน้าหวานแววตาใสซื่อ ปากบางรูปกระจับน่าประทับรอยจูบ หน้าอกหน้าใจของเธอก็อวบอูมเต็มที่สมวัย สะโพกนั้นเล่าก็อวบอัดน่าฟัดเป็นยิ่งนัก ชายหนุ่มเหม่อมองเด็กสาวอย่างเพลิดเพลินจนไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เด็กสาวผู้นั้นกำลังก้มลงเก็บดอกบัวในหนองน้ำที่เขากำลังลอยเรืออยู่
ฉับพลันนั้นเด็กสาวก็พลาดท่าตกน้ำไป เขาถึงได้สติและคิดว่าจะต้องลงไปช่วยเธอคนนั้นให้ทันท่วงที ว่าแล้วก็กระโจนลงจากเรือว่ายน้ำมุ่งหน้าไปหาเด็กสาวที่กำลังตะเกียกตะกายสุดชีวิตเพื่อไม่ให้จมน้ำ เมื่อเขาว่ายไปจนเกือบจะถึงตัวของหล่อนแล้ว เขาก็เอื้อมมือออกไปเพื่อจะคว้าร่างของเด็กสาวเอาไว้ แต่มือของเขาก็พลาดไปคว้าหมับเข้าที่หน้าอกอวบอูมของเด็กสาวเต็มเปา
แต่นาทีนั้นใจของชายหนุ่มคิดแต่จะช่วยเด็กสาวให้ได้จึงยังมิได้คิดอกุศลใดๆกับหล่อน แต่การที่เขาต้องกอดรัดตัวเธอเอาไว้เพื่อพาร่างเด็กสาวว่ายเข้าหาฝั่งนั้นมันก็กระตุ้นความรู้สึกของเขาได้ไม่น้อยเลย เมื่อมือของเขาได้สัมผัสเกือบทุกสัดส่วนในตัวของเด็กสาว อีกทั้งผ้าแถบที่พันร่างกายท่อนบนของเธอไว้ก็หลุดลอยไปไกลเสียแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เขาจับอยู่เต็มกำมือนั้นก็คือเนื้อแท้ของปทุมถันคู่งามที่เต่งตึงตั้งเต้าชูชันอยู่นั่นเอง พอเขาดันร่างของเด็กสาวให้ขึ้นไปนอนบนท่าน้ำได้สำเร็จเท่านั้นเอง ปทุมถันขาวอวบก็ตั้งตระหง่านล่อสายตาของเขาทันที ขณะที่เด็กสาวยังนอนสำลักน้ำไม่ได้สติ มือของชายหนุ่มก็เอื้อมไปเกาะกุมเอาสองเต้าของหล่อนไว้ด้วยความลืมตัวเนื่องจากตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นสิ่งสวยงามขนาดนี้มาก่อน มันเต่งตึงมีความแข็งตัวเคร่งครัดแต่เมื่อกดน้ำหนักมือลงไปก็มีความยืดหยุ่นและนุ่มนวลจนชายหนุ่มเผลอตัวเคล้นคลึงอยู่นานจนเด็กสาวฟื้นคืนสติขึ้นมา “ว้าย…เอ่อ…พี่จ๊ะ ขอบใจนะจ๊ะที่ช่วยชั้นเอาไว้ แต่ตอนนี้พี่ช่วยเอามือออกจากนมชั้นก่อนเถอะนะจ๊ะ แล้วก็ช่วยไปเก็บผ้าของชั้นที่ลอยไปโน่นให้หน่อยสิจ๊ะ” หญิงสาวพูดแบบอายๆ เพราะความเขินที่ถูกชายหนุ่มถูกเนื้อต้องตัวแล้วยังจ้องมองตาไม่กระพริบ “เอ้อ…จ้ะๆ เดี๋ยวข้าว่ายไปเก็บมาให้นะ” ชายหนุ่มรู้สึกตัวก็รู้สึกเขินเช่นกันจึงรีบว่ายไปเก็บผ้าแถบมาให้เด็กสาว แต่กระนั้นก็ยังจ้องมองเนินเนื้อสองก้อนของเด็กสาวอย่างไม่ละสายตา ข้างเด็กสาวพอได้ผ้าคืนมาแล้วก็รีบเอามาพันกายด้วยใบหน้าแดงซ่าน “เธอคงเป็นทาสมาใหม่สินะ ข้าถึงไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อนเลย เจ้าชื่อแม่จันใช่มั้ย” ทาสหนุ่มเอ่ยปากถามหลังจากตั้งสติได้ “รู้ได้ยังไงกันจ๊ะ” เด็กสาวก้มหน้านิ่ง แก้มทั้งสองข้างแดงราวกับลูกตำลึงสุก “ได้ยินว่าเมื่อวานนี้ยายพุ่มเอาหลานมาให้นายท่าน” ชายหนุ่มให้ความกระจ่างแก่เด็กสาว “แล้วพี่…เอ่อ…” “เอ่อ…แล้วพี่มาทำอะไรจ๊ะ”
“พี่มาจับปลา เอาไปให้แม่ครัวทำอาหาร ได้ยินว่าเย็นนี้นายท่านจะกินแกงส้ม แล้วก็เป็นการเลี้ยงครูแหม่มของคุณเรืองด้วย” ขณะนั้นเองยายพุ่มที่ออกมาเดินตามหาหลานสาวก็ตะโกนร้องเรียกชื่อของหล่อนมาแต่ไกล “นังจัน..นังจันอยู่ที่ไหน..นังจันเอ๊ย” “พี่ทัดจ๊ะ ยายชั้นมาตามแล้ว ชั้นต้องไปก่อนนะจ๊ะ” เด็กสาวทำท่าจะบอกลาเขาเมื่อได้ยินเสียงเรียก “พี่อยู่ที่กระท่อมท้ายไร่ ถ้าผ่านมทางนี้ก็แวะมาหาพี่บ้างก็แล้วกันนะ” ชายหนุ่มทิ้งท้าย จันเองก็ชะม้ายตาให้เขาอย่างมีเลศนัย เด็กสาวแรกรุ่นที่ยังไม่เคยได้ใกล้ชิดกับชายอื่นใดขนาดนี้มาก่อน เมื่อได้มาพูดคุยและถึงขั้นมีการถูกเนื้อต้องตัวขนาดนี้ก็เกิดความรู้สึกแปลกๆคล้ายพึงพอใจกับชายแปลกหน้าผู้นี้ยิ่งนัก “จ้ะ..ชั้นไปแล้วนะ” เด็กสาวเดินจากไปแต่ก็ยังหันมามองเขาอีกหลายครั้งก่อนจะลับสายตาไป ชายหนุ่มเองก็มองตามบั้นท้ายอวบอัดที่ส่ายไปมาตามจังหวะก้าวเดินของเด็กสาวจนท่อนเอ็นแข็งโด่ดันกางเกงออกมาเป็นกระโจม
ตะวันบ่ายคล้อย เรือลำเล็กมีผู้โดยสารสามคนกำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านของท่านเจ้าคุณ
โดยมีนายทัดเป็นผู้พายนั่งอยู่ท้ายเรือ ท่านเจ้าคุณนั่งมาด้วยอยู่ที่หัวเรือ ส่วนคนที่นั่งตรงกลางก็คือครูแหม่มที่จะมาสอนภาษาฝรั่งให้ไอ้เรืองนั่นเอง “อากาศร้อนจังนะคะท่าน” สำเนียงภาษาของแหม่มค่อนข้างชัดถ้อยชัดคำพอสมควร “อากาศตอนกลางวันก็เป็นอย่างนี้แหละแหม่ม พอตกกลางคืนแถวนี้จะเย็นสบายเลยล่ะ” “ดีจังเลย..ชั้นชอบ แต่ถึงยังไง พอไปถึงแล้วดิชั้นขออาบน้ำก่อนนะคะท่าน เนี่ย..ดูสิคะ เนื้อตัวมีแต่เหงื่อทั้งนั้นเลย” แหม่มพูดพลางโบกพัดในมือไปมา และถลกชายกระโปรงยาวขึ้นมาจนถึงต้นขาขาวจั๊วะ ทำเอาท่านเจ้าคุณตาโตที่ได้เห็นของดีเข้าแล้ว
“ทาสของท่านคนเนี้ยหน้าตาดีนะคะ ร่างกายกำยำ handsome จริงๆ..ชั้นชอบ แต่ท่านก็ดูดีเหมือนกันนะคะ ดูเป็นสุภาพบุรุษ อย่างนี้ชั้นก็ชอบ เอ้อ…ท่านขา ไม่คิดจะเรียนภาษาบ้างเหรอ” แหม่มพูดจายั่วเย้า “เอ้อ…ไม่ล่ะ ชั้นต้องค้าขาย ไม่มีเวลาน่ะ” “กลางวันไม่ว่าง กลางคืนก็สอนได้นี่คะท่าน ได้อารมณ์ดีออก” แหม่มจีบปากจีบคอพูดให้ท่าท่านเจ้าคุณเต็มที่ “งั้นผมคงต้องคิดดูก่อน อ้อ..นี่ก็ใกล้จะถึงแล้ว ข้างหน้านี่เอง” ท่านเจ้าคุณพูดพลางชี้ไปที่เรือนของตัวเอง “โอ้…very beautiful”
“ฮะๆๆ..ไม่ฟูหรอก มันเป็นทรงไทย ผมก็รู้ภาษานิดหน่อยเหมือนกัน..หึๆๆ” แหม่มเองก็รู้สึกร้อนอบอ้าวจนต้องถลกชายกระโปรงขึ้นมาเพื่อพัดเรียวขาที่ชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ โดยที่จงใจจะให้ชายกระโปรงด้านล่างห้อยย้อยลงมาเปิดหวออ้าซ่าให้ท่านเจ้าคุณเห็นเต็มตา แถมยังดึงคอเสื้อที่ค่อนข้างกว้างอยู่แล้วลงมาเพื่อพัดลงไปข้างในเสื้อด้วยทำให้เต้านมอวบขาวไซส์ฝรั่งแทบล้นออกมาข้างนอก เล่นเอาท่านเจ้าคุณน้ำลายแทบหก ไอ้ทัดที่นั่งอยู่ข้างหลังก็ยังอดชะเง้อมามองบ้างไม่ได้เช่นกัน บนเรือนของท่านเจ้าคุณ นายแม่เภาและแม่วาดกำลังนั่งร้อยมาลัยขณะที่ยายพุ่มพาแม่จันขึ้นมาหา “มาแล้วหรือจ๊ะยายพุ่ม” แม่เภาเอ่ยทัก
“เจ้าค่ะ บ่าวพานังจันมารับงานเจ้าค่ะ”
“ก็ให้ไปช่วยงานในครัวสิ ที่นั่นมีงานออกมากมาย” แม่วาดสอดขึ้นมาเสียงแหวว
“มันเรื่องอะไรของเราล่ะแม่วาด” นายแม่เภาขึ้นเสียงดุแม่วาดเล็กน้อย
“คือ..บ่าวเห็นว่าแม่จันเพิ่งมาใหม่ น่าจะให้ทำงานในครัวก่อนน่ะเจ้าค่ะ
ขืนรับใช้บนเรือนเดี๋ยวจะทำข้าวของเสียหายซะก่อน”
“แต่ข้าอยากให้แม่จันมารับใช้บนเรือนนี่แหละ ไหนแม่จัน..เงยหน้าให้ข้าดูซิ”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาให้นายหญิงเพ่งพิศ
ยามนี้เนื้อตัวของแม่จันผุดผ่องยิ่งนักหลังจากผ่านการขัดสีฉวีวรรณจนดูเหมือนเงาะถอดรูป
จากเด็กกะโปโลหน้าตามอมแมมเมื่อวานก็กลายเป็นเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มชวนมองยิ่งนัก
ขณะนั้นท่านเจ้าคุณก็เดินทางมาถึงเรือนพอดี
แม่เภาจึงบอกท่านเจ้าคุณว่าจะให้นังจันขึ้นมารับใช้ตัวเองบนเรือน
ซึ่งท่านเจ้าคุณก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร
จากนั้นท่านเจ้าคุณก็แนะนำผู้หญิงที่เดินตามมาด้วยให้แม่เภารู้จัก
“เอ้อ…นี่มิสแมรี่ จะมาเป็นครูสอนภาษาให้เจ้าเรือง
อ้อ..แล้วนี่ให้พวกบ่าวมันจัดห้องให้มิสแมรี่แล้วรึยัง”
“เจ้าค่ะ บ่าวจัดให้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” แม่วาดขานรับแทน
“เอ้อนี่…แล้วเจ้าเรืองอยู่ที่ไหนล่ะ จะได้แนะนำให้รู้จักกับครู”
“ไม่รู้!!..นี่เอ็งเป็นแม่นมให้เจ้าเรืองได้ยังไงวะ มันไปไหนก็ยังไม่รู้
คงจะไปตีไก่กัดปลาตามเคยละสิ เอ็งถึงทำเป็นไม่เห็น ตามใจกันจริงๆ ไป..นังวาด
เอ็งพามิสแมรี่เข้าห้องไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป เชิญครับแหม่ม”
ท่านเจ้าคุณตวาดใส่นังวาดแล้วหันกลับมาเชิญมิสแมรี่ให้ตามนังวาดไปที่เรือนพักที่ได้จัดไว้ให้
“Thank you” มิสแมรี่ตอบก่อนจะลุกเดินตามแม่วาดไป
พอคล้อยหลังมิสแมรี่ แม่เภาก็เอ่ยถามท่านเจ้าคุณ
“เค้าว่าอะไรนะคะคุณพี่ ใครแทงใครเจ้าคะ”
“อ๋อ..แท้งค์กิ้วน่ะ หมายถึงเค้าขอบคุณพวกเรานั่นแหละแม่เภา”
“อ๋อ..เจ้าค่ะ แทงกิวๆ” แม่เภาทำหน้างงๆแต่ก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง
ยามค่ำคืนที่ลมโชยอ่อนๆ อากาศกำลังเย็นสบาย
มิสแมรี่ออกมายืนรับลมอยู่ที่ริมสระน้ำหน้าเรือนตัวเองในชุดเสื้อคลุมบางเฉียบ
แสงจันทร์กระจ่างส่องกระทบจนสามารถมองทะลุผ้าเข้าไปถึงไหนต่อไหน
ด้วยความที่มิสแมรี่มีนิสัยขี้ร้อนจึงไม่ได้ใส่ชั้นในไว้ภายใต้เสื้อคลุมนั้นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“ลูกพี่ๆ..ผีฝรั่งใช่มั้ยน่ะ”
ทาสคนสนิทของไอ้เรืองร้องทักพลางชี้ให้ดูแหม่มสาวที่ยืนอยู่ตรงริมสระน้ำ
“เฮ้ย…ผีอะไรวะ จะสวยได้ขนาดนี้ ไปเถอะไป..ลองเข้าไปพิสูจน์กัน”
ไอ้เรืองออกคำสั่งกับทาสทั้งสองแล้วเดินนำเข้าไปหาหญิงสาวที่ริมสระทันทีขณะที่ทาสทั้งสองยังออกอาการกล้าๆกลัวๆ
พอใกล้จะถึงตัว ร่างของหญิงสาวก็หันกลับมาพอดี
“สวัสดีค่ะ พวกคุณเป็นใครกันคะ”
“เค้าพูดแบบเราได้ด้วยขอรับคุณเรือง” ทาสหนุ่มสะกิดบอกผู้เป็นนายเบาๆ
แต่หญิงสาวก็ยังพอได้ยิน
“คุณเรือง??…งั้นคุณก็เป็นลูกศิษย์ของชั้นน่ะสิ ชั้นชื่อแมรี่
จะมาเป็นครูของคุณ”
“มาเป็นครูของชั้น??” ไอ้เรืองถามพลางกวาดสายตาไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาว
ด้วยความบางของผ้าจึงไม่ยากเลยที่จะเพ่งมองลงไปจนเห็นว่ายามนี้หญิงสาวมีอาภรณ์ปกคลุมกายอยู่แค่ชิ้นเดียวเท่านั้น
ยิ่งมองต่ำลงไปที่โหนกเนื้อนูนด้านล่างเห็นเป็นเงาดำๆอยู่กลางหว่างขา
ไอ้เรืองก็อดไม่ได้ที่จะต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“ก็ใช่น่ะสิ อืม…ทีแรกชั้นนึกว่าคุณเป็นเบบี้ซะอีก
ไม่คิดว่าจะเป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้ ดีจัง..ชั้นชอบสอนเด็กโตๆแบบนี้แหละ”
หญิงสาวพูดพลางเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้น
ทำเอาไอ้เรืองยืนแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ทำอะไรไม่ถูก
“พรุ่งนี้เราจะเริ่มเรียนกันเลยนะจ๊ะ แล้วพบกันนะพ่อหนุ่ม”
ว่าแล้วหญิงสาวก็ชะโงกหน้าเข้าไปหอมแก้มไอ้เรืองอย่างไม่เกรงสายตาทาสทั้งสอง
เล่นเอาไอ้เรืองใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ที่จู่ๆก็มีแหม่มสาวหน้าตายั่วยวนมาให้ท่าถึงที่