ชาติพยัคฆ์ - ตอนที่ 8 ปฏิบัติการล้างสังหารของยูยะ
นารูทากิ โนบุ พร้อมด้วยลูกน้องคนสนิทจำนวนยี่สิบสองคนซึ่งพกอาวุธติดตัวมาด้วย ต่างพากันเดินเข้าสู่อาคารสำนักงานใหญ่ของสมาคมมังกรทมิฬ วันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ของหัวหน้าสมาคม เหล่าผู้อาวุโส และหัวหน้าสาขาต่างๆ จึงเดินทางเข้ามาร่วมประชุมกันอย่างคับคั่ง หมายกำหนดการทั้งหมดพร้อมกับระเบียบวาระการประชุม ถูกจัดส่งเข้าสู่ระบบ e-mail และ Application ลับของแต่ละคนเป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นระบบที่สมาคมมังกรทมิฬสร้างขึ้นและมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ยากที่จะมีหน่วยงานใดเจาะระบบเข้าไปได้ สำนักงานใหญ่ของสมาคมมังกรทมิฬตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ สำนักงานใหญ่ของสมาคมมังกรทมิฬเป็นตึกสูงระฟ้า ฉากหน้าของอาคารคล้ายกับสำนักงานให้เช่าเพื่อทำธุรกิจ แต่ฉากหลังกลับเป็นที่ตั้งใหญ่ของสมาคมมาเฟียที่ไม่มีใครคาดถึง นารูทากิสวมชุดสูทผูกเนคไทราวกับเป็นนักธุรกิจ โดยมีโนบุและลูกน้องคอยติดตามอารักขาความปลอดภัย เมื่อมาถึงตัวอาคารแล้ว โนบุ ก็ใช้คีย์การด์ลับของสมาคมเปิดประตู เพื่อเข้าไปยังภายในอาคารในทันที ระหว่างที่เดินไปตามทาง นารูทากิ ก็แวะทักทายเจ้าหน้าที่ประจำสมาคมที่กำลังทำหน้าที่ต้อนรับผู้นำระดับสูงตามจุดต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีการที่ นารูทากิ ใช้เป็นประจำ เพื่อสร้างคะแนนเสียงนิยมให้ตนเอง ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์และขึ้นไปยังห้องประชุมใหญ่ของสมาคมมังกรทมิฬในชั้นที่ยี่สิบ
“คุณนารูทากิกับคุณโนบุมาถึงแล้วครับ”
เจ้าหน้าที่ต้อนรับคนหนึ่งพูดผ่านเครื่องส่งสัญญาณที่แอบซ่อนอยู่ในปกเสื้อหลังจากเห็นพวกนารูทากิขึ้นลิฟต์ไปกันหมดแล้ว เขาจึงรีบแจ้งข่าวไปยังหน่วยปฏิบัติการกวาดล้างที่กำลังรอฟังข่าวอยู่ให้ทราบว่าเวลานี้เหยื่อได้เข้ามาติดกับดักแล้ว
“ทุกคนกระจายกำลังกันเฝ้าประตูทางเข้าออกเอาไว้ให้หมด” เสียงจากปลายทางรีบสั่งการในทันที
“รับทราบ”
หน่วยปฏิบัติการกวาดล้างซึ่งเป็นกองกำลังผสมระหว่างสมาคมมังกรทมิฬและสมาคมปีศาจสุริยะต่างส่งสัญญาณเสียงผ่านเครื่องมือสื่อสาร พร้อมกับส่งสัญญาณมือในจุดต่างๆ ทุกหน่วยต่างระดมกำลังปิดเส้นทางเข้าออกทุกจุดภายในตัวอาคารสมาคมมังกรทมิฬอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าหรือออกจากสมาคมมังกรทมิฬได้ พร้อมกับรอรับคำสั่งจากเจ้านายต่อไป
“สวัสดีครับคุณนารูทากิ” ทานากะ มาซาโตะ พ่อบ้านประจำสมาคม โค้งคำนับให้กับเขาพร้อมทั้งเอ่ยกล่าวทักทายตามมารยาท
“สวัสดีครับคุณมาซาโตะ” นารูทากิกล่าวทักทายตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นารูทากิเป็นคนที่รู้จักวางตัวต่อหน้าคนอื่นเขามักจะแกล้งทำตัวเป็นคนที่มีความนอบน้อม ถ่อมตน เพื่อผูกใจคนในสมาคมและหาคะแนนเสียงให้กับตัวเองอยู่เสมอ
“ตอนนี้ผู้อาวุโสของสมาคมและหัวหน้าสาขามาพร้อมกันหมดแล้วหรือยังครับ” นารูทากิ ถามพ่อบ้านประจำสมาคม
“มากันครบแล้วครับ เชิญคุณนารูทากิเข้าไปได้ในห้องประชุมได้เลยครับ”
มาซาโตะ ตอบพร้อมกับผายมืออย่างนอบน้อม เพื่อเชิญให้นารูทากิเข้าไปยังด้านใน
“แล้วคุณยูยะล่ะครับ?”
“ตอนนี้ท่านยูยะยังมาไม่ถึงครับ แต่คาดว่าอีกซักครู่ก็คงจะมาถึง” มาซาโตะตอบ
“แหม!!! เป็นถึงหัวหน้าสมาคม แต่มาช้ากว่าลูกน้องแบบนี้ไม่ดีนะครับ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะว่าเอาได้”
นารูทากิ แกล้งทำเป็นห่วงใยแต่ก็จงใจกล่าวตำหนิให้ทุกคนได้ยิน ก่อนจะรีบหันตัวเดินเข้าไปในห้องประชุม โดยมีโนบุและลูกน้องทำท่าจะเดินติดตามเจ้านายเข้าไปด้วย แต่ถูกมาซาโตะห้ามเอาไว้
“ขอโทษด้วยครับ คุณโนบุ วันนี้เป็นประชุมใหญ่ของสมาคมเรา เฉพาะบุคคลสำคัญของสมาคมเท่านั้นครับที่จะสามารถเข้าไปในห้องประชุมได้ สำหรับพวกคุณโนบุ ผมได้จัดเตรียมห้องพักผ่อนไว้ทางด้านนี้แล้ว เชิญครับ”
โนบุ มีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย เมื่อถูกกันตัวให้ออกห่างจากนารูทากิ แต่เขาเองก็รู้กฎของสมาคมเป็นอย่างดีจึงไม่อาจไม่ทำตามได้
“ไปเถอะ โนบุ อีกเดี๋ยวพอประชุมเสร็จ ฉันก็กลับแล้ว” นารูทากิ พยักหน้าให้ แล้วสั่งให้โนบุทำตามที่มาซาโตะแนะนำ
“ครับ ท่านนารูทากิ” โนบุ ทำความเคารพเจ้านายอย่างนอบน้อม ก่อนที่จะแยกตัวไปยังห้องพักรับรอง
หลังจากทั้งสองต่างแยกย้ายกันไป มาซาโตะ ก็รีบติดต่อไปหาโกโซ ฮิเด ยูยะ โดยพูดผ่านไมค์ที่แอบซ่อนเอาไว้ที่ปกเสื้อว่า
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผนเรียบร้อยแล้วครับท่านยูยะ”
โกโซ ฮิเด ยูยะ ที่รออยู่ในห้องลับ พร้อมกับนารุมะ เทโซ เมื่อทราบว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการแล้วก็รีบสั่งการให้ทุกหน่วยออกปฏิบัติการทันที
“นี้ฉัน โกโซ ฮิเด ยูยะ พูด ทุกคนฟังให้ดี เคลื่อนกำลังทั้งหมดของพวกเราได้ เป้าหมาย คือ การเข้ายึดทรัพย์สินและกำจัดกองกำลังของโกโซ นารูทากิ ให้หมด ถ้าใครยอมแพ้ให้จับเป็น แต่ถ้าใครต่อสู้ให้จัดการพวกมันได้ อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว” โกโซ ฮิเด ยูยะ ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมที่สุด
“รับทราบครับ” กองกำลังผสมมาเฟียทุกหน่วยส่งเสียงตอบรับกลับมา
เพียงหลังจากรับทราบคำสั่งได้ไม่นาน กองกำลังผสมของสมาคมมังกรทมิฬและสมาคมปีศาจสุริยะก็ออกปฏิบัติการเข้าตรึงกำลังในทุกพื้นที่ที่อยู่ในความครอบครองของนารูทากิทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เพียงเวลาไม่กี่นาทีหน่วยปฏิบัติการผสมแก๊งค์มาเฟียจำนวนห้าพันคนก็กระจายกำลังเข้าสู่พื้นที่ครอบครองของนารูทากิทั่วทุกแห่ง พร้อมทั้งเข้าปะทะกับลูกน้องของนารูทากิที่ประจำอยู่ในพื้นที่ต่างๆ อย่างรุนแรง
“เฮ้ย!!!! มีคนบุกรุก!!!!” เสียงลูกน้องของนารูทากิ ตะโกนขึ้นด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกเข้ามายังในพื้นที่ของพวกตน
“ปังๆๆๆๆๆ”
กองกำลังที่บุกเข้ามาไม่พูดพล่ามทำเพลงเปิดฉากระดมยิงใส่ลูกน้องของนารูทากิในทันที
“อ๊ากกกกๆๆๆๆ”
“บุกเข้าไปๆๆๆๆ ยึดทุกอย่างของนารูทากิเอาไว้ให้ได้ ใครยอมจำนนให้จับเป็น ใครขัดขืนฆ่าได้ทันที!!!!!”
ลูกน้องของนารูทากิที่มีจำนวนน้อยกว่าไม่สามารถต้านทานกองกำลังผสมมาเฟียที่ไหลบ่าเข้ามาราวกับน้ำหลากได้ ถูกกองกำลังผสมมาเฟียสังหารจนล้มตายลงเป็นเบือ แม้จะมีหลายคนพยายามติดต่อไปหานารูทากิหรือโนบุที่สมาคมมังกรทมิฬ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อเข้าไปยังสำนักงานใหญ่ได้สัญญาณการสื่อสารทุกชนิดถูกตัดขาดทั้งหมด โดยฝีมือคนของโกโซ ฮิเด ยูยะ เพียงเวลาไม่นานกองกำลังผสมของสองแก๊งค์มาเฟียก็สามารถบุกเข้ายึดขุมกำลังที่เป็นพื้นที่หลัก พร้อมทั้งทรัพย์สินของนารูทากิเอาไว้ได้จนเกือบหมดสิ้น
“Bravo 1 เข้ายึดพื้นที่…..ได้แล้ว”
“Bravo 2 เข้ายึดพื้นที่…..ได้แล้ว”
“Bravo 3 เข้ายึดพื้นที่…..ได้แล้ว”
…………………………
เสียงกองกำลังผสมมาเฟียรายงานข่าวเข้ามาให้ มิยาโมโต้ ได้ทราบเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ….จนกระทั่ง…
“อืมมม…เข้าใจแล้ว จะรายงานให้ท่านยูยะกับท่านเทโซ ทราบเดี๋ยวนี้” มิยาโมโต้ กดปุ่มตัดการสื่อสาร ก่อนรีบแจ้งข่าวให้โกโซ ฮิเด ยูยะ และนารุมะ เทโซ ทราบหลังจากแผนการขั้นแรกประสบความสำเร็จ
“ท่านยูยะ ท่านเทโซครับ แผนการขั้นแรกของพวกเราสำเร็จแล้วครับ คนของเราบุกเข้ายึดพื้นที่และจัดการขุมกำลังของนารูทากิเอาไว้ได้ทั้งหมดแล้วครับ”
“ไม่คิดเลยว่าจะง่ายดายขนาดนี้” นารุมะ เทโซ กล่าวออกมาด้วยความพอใจ
หัวหน้าสมาคมมังกรทมิฬและสมาคมปีศาจสุริยะต่างยิ้มออกมาสีหน้าบ่งบอกถึงความพอใจเป็นอย่างมากในผลสำเร็จของแผนการขั้นแรก
“ท่านเทโซค่ะ ทางโนบุ ฉันจะเป็นคนจัดการเองคะ” เซ็ตสึโกะ โค้งศีรษะให้กับนารุมะ เทโซ พร้อมกับนำกำลังคนจำนวนสี่สิบคนออกจากห้องไป
“ไปกันเถอะครับคุณเทโซ ถึงเวลาพวกเราเปิดงานได้แล้ว”
สองหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียญี่ปุ่น ต่างพากันเดินออกจากห้องลับ โดยมีองครักษ์ประจำตัวของโกโซ ฮิเด ยูยะ และหน่วยอารักขาจำนวนหนึ่ง ตั้งแถวล้อมรอบตัวคนทั้งสองไว้ ก่อนที่มิยาโมโต้จะเดินนำขบวนมุ่งตรงไปยังห้องประชุมใหญ่ของสมาคมมังกรทมิฬ เวลานี้ถึงคราวคิดบัญชีแค้นกับนารูทากิแล้ว
———————————————————
ทางด้านเซ็ตสึโกะ ซึ่งนำกำลังคนของสมาคมปีศาจสุริยะและคนของสมาคมมังกรทมิฬจำนวนสี่สิบคน เข้าจัดการกับโนบุและลูกน้องนั้น ทุกคนต่างพากันมายืนอยู่ที่หน้าห้องพักรับรองของสมาคมมังกรทมิฬที่มาซาโตะได้จัดไว้ให้เป็นห้องพักของพวกโนบุ
เซ็ตสึโกะ ดึงปืนออกมาจากเอวสองกระบอก ก่อนปลดล็อคและกระชากรางปืน เพื่อเลื่อนลูกกระสุนเข้ารังเพลิง แล้วถีบเข้าไปที่ประตูเต็มแรง
“โครมมมมมมมมม”
แรงจากฝ่าเท้าของเซ็ตสึโกะทำให้ประตูห้องรับรองถึงกับปลิวกระเด็น เสียงโครมครามจากการพังทลายของประตู ทำให้โนบุและลูกน้องต่างพากันเกิดอาการตื่นตัวพร้อมกับชักปืนออกมาเตรียมป้องกันตัวเอง
“ปังๆๆๆๆๆๆ”
เซ็ตสึโกะ ที่โผล่หน้าเข้ามาในห้องเป็นคนแรก ประเคนลูกกระสุนหลายนัดส่องเข้าไปยังกลางแสกหน้าลูกน้องของโนบุทีละคน กระสุนปืนของเซ็ตสึโกะแม่นราวกับผีจับยัด ยิงโดนลูกน้องโนบุล้มตายลงไปในทันทีเกือบสิบคน
“อ๊ากกกๆๆๆ”
“หาที่กำบังเร็วเข้า” โนบุ ตะโกนบอกลูกน้องพร้อมหลบเข้าที่กำบัง เพราะนอกจากเซ็ตสึโกะแล้วยังมีมือสังหารอีกหลายสิบคนตามสมทบเข้ามาภายในห้องด้วย ทุกคนพร้อมใจกันระเบิดกระสุนระดมยิงกระหน่ำเข้าใส่พวกโนบุอย่างบ้าคลั่งโดยไม่รีรอ
“ปังๆๆๆๆๆๆ”
“อ๊ากกกกกกๆๆๆ”
ลูกน้องยี่สิบสองคนของโนบุ ล้มตายราวกับใบไม้ร่วง จนกระทั่งเสียงปืนสงบลง พร้อมกับกลุ่มควันจากห่ากระสุนที่จางลง โนบุถึงได้รู้ตัวว่าเหลือเพียงเขาแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังคงมีชีวิตรอดอยู่
“บัดซบเอย!!!! พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาหาเรื่องถึงสมาคมมังกรทมิฬ” โนบุ ตะโกนถามและข่มขู่ออกไป
เซ็ตสึโกะยกมือเป็นสัญญาณบอกให้ทุกคนหยุดและคอยคุมเชิงเอาไว้ ก่อนตอบโนบุกลับไปว่า
“ฉัน เทยะ เซ็ตสึโกะหัวหน้าองครักษ์ของท่านนารุมะ เทโซ แห่งสมาคมปีศาจสุริยะ ได้รับการไหว้วานจากท่านโกโซ ฮิเด ยูยะ ให้มาจัดการกับแกโดยเฉพาะ”
โนบุ ได้ฟังถึงกับตกตะลึง นึกห่วงความปลอดภัยของเจ้านายขึ้นมาในทันที
“ไอ้พวกสาระเลวเอย!!! นี้พวกแกร่วมหัวกันเล่นงานท่านนารูทากิอย่างนั้นเหรอ!!!!”
เซ็ตสึโกะ ไม่ตอบได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอ คิดไม่ถึงว่าคนอย่างโนบุจะมีวันนี้จนได้
“คนอย่างแกมีแก่ใจคิดถึงคนอื่นด้วยเหรอ โนบุ? คนอย่างแก มันก็แค่หมาสกปรกตัวหนึ่งที่คอยแต่ลอบกัดคนอื่น กัดได้แม้กระทั่งเจ้าของหรือผู้มีพระคุณของตัวเอง”
“ปังๆๆ”
เซ็ตสึโกะ ลั่นกระสุนใส่ไปอีกสี่นัด ด้วยความสะใจที่เห็นสภาพของโนบุในตอนนี้
สีหน้าของโนบุเริ่มปรากฏความสงสัยขึ้นมา ฟังจากน้ำเสียงของเซ็ตสึโกะแล้ว เหมือนเขาและเธอมีความแค้นกันอะไรกันนักหนามาก่อน
“เธอกับฉันเคยรู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นเหรอ?” เขาจำไม่ได้เลยซักนิดว่าเคยรู้จักผู้หญิงชื่อเซ็ตสึโกะด้วย
“ถ้าอยากรู้ว่าฉันเป็นใคร แกก็ออกมาจากตรงนั้นซิ โนบุ”
โนบุ หัวเราะออกมาอย่างขบขัน เขาไม่ได้โง่ถึงขนาดจะส่งตัวเองออกไปให้ถูกเชือดง่ายๆ แบบนั้น
“คิดจะพูดหลอกให้ฉันออกไปแล้วก็ยิงฉันทิ้งอย่างนั้นเหรอ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอแม่หนู?”
“ยิงแกทิ้งมันก็สบายเกินไป คนอย่างแกมันต้องตายด้วยดาบของฉันเท่านั้นมันถึงจะสาสม ทุกคนไม่ต้องลงมือคอยคุมเชิงมันไว้ก็พอฉันจะเป็นคนจัดการมันเอง” เซ็ตสึโกะสั่ง
สาวสวยส่งปืนคืนไปให้กับลูกน้อง ก่อนก้าวเดินเข้าไปหาโนบุ พร้อมกับดาบคาตานะในมือ เธอควงดาบสลับกันไปมาอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงดาบดังต้องลมราวกับกังหัน ข้างฝ่ายโนบุเองก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือดาบเช่นกัน เมื่อมีคนท้าประลองโดยเฉพาะเป็นผู้หญิงแล้ว หากไม่ออกไปสู้ด้วย รู้ไปถึงไหนก็อายไปถึงที่นั้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ไว้ใจฝ่ายตรงข้าม เพราะเกรงว่าจะคิดไม่ซื่อ จึงค่อยๆ ลอบสังเกตเหตุการณ์ เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้ถูกหลอกแน่ จึงค่อยโผล่ตัวออกมาจากที่ซ่อน พร้อมกับกระชับดาบคาตานะในมือเตรียมท่าเพลงดาบป้องกันตัวในทันที
เมื่อทั้งสองได้เผชิญหน้ากัน โนบุ ถึงได้รู้ว่าหญิงสาวที่กำลังจะสู้กับเขา เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสะโอดสะองและหน้าตาน่ารักสะสวยอยู่ไม่น้อย แต่ฝีมือเชิงดาบกลับร้ายกาจไม่เบาเลยทีเดียว
“อ๋อ..เป็นยอดนักดาบเหมือนกันเหรอ ไหนๆ ก็จะสู้กันแล้ว เธอจะไม่บอกให้ฉันรู้หน่อยเหรอว่า เธอเป็นศิษย์สำนักไหน?”โนบุ ถาม ในขณะที่สายตายังคงจับจ้องเซ็ตสึโกะอยู่อย่างไม่ประมาท
เซ็ตสึโกะ ไม่ตอบคำถามของโนบุ หากแต่เริ่มหยุดควงอาวุธ ก่อนยกดาบคาตานะขึ้นเสมอใบหน้า ตั้งท่าเพลงดาบประจำสำนักขึ้นมา กระบวนท่าของเซ็ตสึโกะ ให้ความรู้สึกคุ้นตาจนโนบุถึงกับต้องขมวดคิ้ว พลันจู่ๆ พลังกดดันอันมหาศาลก็แผ่ออกจากร่างของหญิงสาว จนทำให้ โนบุ เกิดความรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ สาวสวยค่อยๆ ขยับตัวถ่ายพลังคิ (พลังลมปราณ) จากช่องท้องที่ใต้สะดือเข้าไปในตัวดาบ จนเหมือนเกิดกระแสลมที่พัดจากเบื้องล่างขึ้นสู่เบื้องบน ก่อนที่ เซ็ตสึโกะ จะตวัดฟาดดาบออกไปเป็นรูปวงเดือนครึ่งเสี้ยวก่อให้เกิดประกายดาบระยิบระยับเต็มไปทั่วทั้งห้อง จนโนบุ ถึงกับเบิกตาโพลงออกมา
“เพลงดาบสำนักงิวริว!!!!!!” โนบุส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบกระโดนหลบถอยออกมาพ้นจากรัศมีพลังทำลายไปได้อย่างหวุดหวิด
“เคร้งงงงงงงงงๆๆๆๆ”
เสียงคลื่นดาบกระทบกับผนังห้องดังจนแสบแก้วหู ผนังห้องถูกพลังจากคมดาบทำลายไปแล้วเกือบครึ่งห้อง พื้นผิวผนังทั้งหมดเต็มไปด้วยร่องรอยจากการฟาดฟัน พลังจากคมดาบกินลึกเข้าไปถึงเนื้อปูนจนหลุดกระเทาะออกมา เพียงแค่กระบวนดาบท่าเดียวของเซ็ตสึโกะก็สร้างความแตกตื่นให้กับโนบุได้ไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งสมาชิกของสมาคมปีศาจสุริยะและสมาคมมังกรทมิฬ ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่งจะเคยได้เห็นฝีมือดาบของสาวน้อยเป็นครั้งแรก สาวน้อยที่ดูสะสวยน่ารักคนนี้ช่างมีฝีมือดาบที่ร้ายกาจน่ากลัวนัก
โนบุ จ้องมองดูรอยดาบที่บาดลึกอยู่บนผนังห้อง แล้วจึงค่อยๆ เผยยิ้มออกมา ก่อนจะแลบลิ้นเลียไปมาที่ริมฝีปากตามนิสัยที่เคยตัว
“…อย่างนี้ๆ เอง…มิน่าละ… เธอถึงได้เกลียดชังฉันนัก…เซ็ตสึโกะ …ช่าง ……เป็นคนที่ไม่มีมารยาทซะจริงๆ เลยนะ…..ศิษย์น้อง!!! ….”
“ว่าไงนะ!!!!”
เหล่าสมาชิกยากูซ่าต่างพากันตกตะลึงมิคาดว่าโนบุกับเซ็ตสึโกะต่างก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักดาบเดียวกัน
“ตามกฎของสำนักดาบงิวริวของพวกเรา ห้ามศิษย์ร่วมสำนักต่อสู้กันเองไม่ใช่เหรอ เซ็ตสึโกะ?”
โนบุ อ้างกฎสำนักหมายถ่วงเวลาเอาไว้ชั่วคราว
“หึ…คนสาระเลวอย่างแกไม่ใช่ศิษย์พี่ของฉัน ในฐานะเจ้าสำนักดาบงิวริวรุ่นที่สิบ วันนี้ฉันจะล้างศิษย์ทรยศอย่างแกซะ”
พอรู้ว่าเซ็ตสึโกะคือเจ้าสำนักดาบงิวริวคนปัจจุบัน โนบุ ก็แสดงสีหน้าถึงความโกรธแค้นออกมา
“อ๋อ…..นี้ไอ้แก่โอนิมารู มันยกตำแหน่งเจ้าสำนักให้เธอด้วยอย่างงั้นเหรอ เลวมาก”
โนบุ สบถออกมาอย่างมีโทสะ ไม่ว่าจะในด้านกำลัง ปัญญา หรือฝีมือ เขานั้นเหนือกว่าศิษย์คนใดในสำนักทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด โอนิมารู ผู้เป็นอาจารย์กลับไม่เคยเหลือบตามามองดูเขาเลยแม้แต่น้อย กลับให้ความสำคัญกับศิษย์คนอื่นมากกว่า ทำราวกับว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีตัวตน
“คนอย่างแกมันไม่คู่ควรกับตำแหน่งเจ้าสำนักดาบงิวริวหรอก สมแล้วที่ท่านอาจารย์ไม่เคยเลยแม้แต่จะชายตามองดูชายเสื้อของแก”
ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งทำให้ โนบุ รู้สึกโมโหนัก ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าคำพูดของ เซ็ตสึโกะ กลับจุดประกายความแค้นของโนบุขึ้นมาอย่างใหญ่หลวง
“งั้นก็สมควรแล้วที่ไอ้แก่โอนิมารูมันต้องตาย มันตายด้วยฝีมือของฉันเอง วันนั้นฉันเป็นคนฆ่ามันกับมือ วันนี้ฉันก็จะส่งเธอลงไปหามันในนรกด้วยเหมือนกัน”
โนบุ พูดออกมาราวกับคนคลุ้มคลั่ง ตำแหน่งเจ้าสำนักที่เขาหมายปอง รวมทั้งเคล็ดวิชาลับที่เขาปรารถนากลับตกเป็นของผู้หญิงอย่างเซ็ตสึโกะทั้งหมด หากวันนี้เขาไม่ฆ่าเธอ เขาคงไม่เป็นผู้เป็นคนอีกต่อไปแน่
“คนที่จะตายคือแกต่างหากโนบุ วันนี้ฉันจะชำระศิษย์ทรยศสำนักอย่างแกแทนท่านอาจารย์เอง” เซ็ตสึโกะ ควงดาบคาตานะบุกเข้าหาโนบุอีกรอบ ไม่ว่าจะยังไง วันนี้ไม่เขาหรือเธอก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง
“ชีวิตฉันอยู่นี้มีปัญญาก็มาเอาไปเซ่” โนบุ ไม่รอช้าเช่นกันเร่งเร้าพลังคิตามแนวทางเพลงดาบสำนักงิวริว ผนึกสายพลังลมปราณเข้าไปในตัวดาบคาตานะ เตรียมใช้ท่าเพลงดาบสำนักงิวริวโต้กลับ โนบุ พุ่งร่างบุกประชิดตัวเซ็ตสึโกะ เร็วกว่าเธอหนึ่งจังหวะ เป็นการดักชิงจังหวะล่วงหน้า พร้อมกับดีดฟาดดาบคาตานะออกไป
“ตายตามไอ้แก่โอนิมารูไปซะ เซ็ตสึโกะ”
“วิชาดาบสำนักงิวริว เพลงดาบคลื่นวงเดือน!!!”
ดาบที่แฝงด้วยพลังคิขอดงโนบุ ก่อเกิดพลังหมุนวนขึ้นราวกับพายุหมุน กระแสพลังคมดาบพุ่งเป้ามาที่ เซ็ตสึโกะ อย่างรวดเร็ว จนสาวสวยต้องรีบเกร็งพลังลมปราณต้านรับเอาไว้
“ย๊ากกกกกกกกก”
“เคร้งงงงงงงงงงง”
เสียงคมดาบปะทะกันอย่างแรง เซ็ตสึโกะ รีบถ่ายพลังคิลงไปในดาบ ก่อนดาบยกขึ้นมาต้านรับการฟาดฟันจากโนบุ เธอสามารถทอนและสลายพลังจากคมดาบไปได้สามถึงสี่ส่วน แต่ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกชาที่ข้อมือชาทั้งสองข้างอยู่ไม่น้อย
“พลังคิของมันร้ายกาจจริงๆ !!!!” เซ็ตสึโกะ คิดอยู่ในใจ แม้โนบุจะสาระเลวมากซักเพียงใด แต่ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือเจ้าศิษย์ทรยศสำนักคนนี้ มันเข้าถึงแก่นแท้ของวิชาดาบสำนักงิวริวได้ไม่ด้อยไปกว่าเธอเลย
เซ็ตสึโกะ รีบรวบรวมพลังคิเปลี่ยนจังหวะลมหายใจ ก่อนพลิกตัวสะบัดหลุดจากการตั้งรับ ทะยานร่างขึ้นอยู่สูงกว่าตัวของโนบุ ในห้วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที เซ็ตสึโกะ หลอมรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวกับดาบ พลังคิจากภายในแผ่พุ่งทะลักออกมาราวกับน้ำหลาก สร้างพลังกดดันที่รุนแรงกว่าเพลงดาบของเธอที่ใช้ออกเมื่อครู่นี้อีกนับสิบเท่า กระบวนท่าดาบของเซ็ตสึโกะ ทำให้ โนบุ ถึงกับสะท้านหนาวเหน็บขึ้นมาอย่างทันทีทันใด พลังดาบสร้างภาพหลอนของเกลียวคลื่นในท้องทะเลคลั่งที่กว้างใหญ่และภาพของดวงจันทร์ในห้วงทะเลลึกลับ ก่อนที่ เซ็ตสึโกะ จะฟาดฟันดาบลงมาหาโนบุเต็มแรง พลังดาบกับภาพหลอนพุ่งเข้าหา โนบุ ราวกับว่าเขากำลังลอยคออยู่กลางทะเลอย่างโดดเดี่ยว และกำลังเผชิญหน้าอยู่กับคลื่นพายุทะเลคลั่งที่กำลังสาดซัดถาโถเข้ามา
“วิชาลับสำนักดาบงิวริว เพลงดาบจันทราวารี!!!!”
โนบุ รับรู้ได้ถึงพลังดาบอันมหาศาลที่ฟาดฟันลงมาจากเบื้องบน พลังดาบที่รุนแรงราวกับพายุทะเลคลั่งนี้ ทำเอา โนบุ ถึงกับตัวสั่นเทาด้วยหวาดกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต
“บัดซบเอย!!! จะหลบก็ไม่ได้ จะรับก็ไม่ได้!!!!”
เจ้ายากูซ่าวายร้ายฝืนใจฟาดฟันดาบออกไปต้านรับพลังของฝ่ายตรงข้าม พร้อมกับผนึกพลังคิ เป็นเกราะคุ้มกันตัวอย่างหนาแน่น นี้เป็นครั้งแรกที่เขาใช้กำแพงพลังลมปราณที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เขาเคยใช้ออกมา
“เคร้งงงงงงงงงงงงงง”
ดาบสองเล่มปะทะกันอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง พลังลมปราณสองสายเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง จนสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวคนทั้งคู่ปลิวกระเด็นกระจัดกระจายตามแรงปะทะ แม้แต่ลูกน้องเซ็ตสึโกะยังต้องหลบถอย
พลังดาบของเซ็ตสึโกะ เจาะทะลวงพลังลมปราณคุ้มกันร่างของโนบุเข้าไปได้ แรงปะทะที่เกิดขึ้นส่งผลให้ร่างของโนบุจะปลิวกระเด็นเหมือนว่าวที่สายป่านขาด จนเข้าไปกระแทกกับผนังห้องเสียงดังโครม พลังจากคมดาบนอกจากจะทลายพลังลมปราณป้องกันของโนบุได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ยังสร้างรอยบาดแผลขนาดใหญ่จากหัวไหล่ด้านซ้ายผ่านหน้าอกลงมาเกือบเอวที่ด้านขวา จนเลือดของ โนบุ ไหลโชกออกมาเป็นราวกับท่อน้ำแตก ความเจ็ดปวดที่ได้รับจากบาดแผล ทำให้ โนบุ ถึงกับต้องส่งเสียงร้องออกมา
“อ๊อคคคค”
โนบุ เกือบจะทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น แต่ฝืนใจข่มความเจ็ดปวด ใช้ดาบคาตานะยันพื้นเอาไว้ได้ทัน ใบหน้าของเขาขาวซีดเหมือนคนตาย ก่อนจะถ่มน้ำลายและเลือดออกจากปากอย่างยากเย็น
“ถุยยยย”
นอกจากบาดแผลภายนอกแล้ว เขายังได้รับบาดเจ็บภายในอีกด้วย โนบุ รีบเดินพลังคิไปทั่วร่าง พยายามขับพลังทำลายจากเพลงดาบเมื่อครู่นี้ที่กำลังแทรกซึมเข้ามาทำลายอวัยวะภายใน ป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องบอบช้ำหรือบาดเจ็บไปมากกว่านี้อีก
“นังผู้หญิงสาระเลว…ฝีมือร้ายกาจนัก !!!!”
ในใจของโนบุ เกิดความอาฆาตพยาบาท เซ็ตสึโกะ อย่างสุดซึ้ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาพ่ายแพ้อย่างหมดรูปให้กับผู้หญิงแบบนี้ ทางด้านเซ็ตสึโกะเอง หลังจากที่ใช้วิชาลับของสำนักออกไป เธอก็หายใจเข้าออกอย่างแรง จนหน้าอกที่อวบอูมกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด แม้กระบวนดาบของเธอเมื่อครู่นี้จะทำให้โนบุได้รับบาดเจ็บหนักก็ตาม แต่มันก็ทำให้เธอสูญเสียพลังคิไปไม่น้อยเลยทีเดียว
“ชะตาแกถึงฆาตแล้วโนบุ”
เซ็ตสึโกะ เดินเข้าหา โนบุ อย่าช้า ๆ พร้อมกับยกดาบขึ้น แม้ถึงจะสูญเสียพลังลมปราณไปมากพอควร แค่มันก็ยังเหลือเพียงพอที่จะปลิดชีพศิษย์ทรยศคนนี้ได้
“ฝันหวานไปหน่อยแล้วมั๊ง เซ็ตสึโกะ คนอย่างฉันไม่ยอมตายง่ายๆ แบบนี้หรอก”
โนบุ แม้จะบาดเจ็บหนัก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขารีบดึงของที่พกติดตัวแต่ซ่อนมันเอาไว้ออกมา ก่อนจะถอดสลักและขว้างมันออกไปหาเซ็ตสึโกะและเหล่าลูกน้องของเธอทันที มันเป็นลูกกลมๆ ผิวเกลี้ยง ขนาดเท่าผลส้ม พอมันตกลงถึงพื้น ทุกคนถึงได้รู้ว่ามันเป็น……
“ระเบิด!!!!!!”
“หลบเร็วเข้า!!!!” เซ็ตสึโกะ รีบตะโกนบอกลูกน้องและถอยฉากหลบออกมา
“ตูมมมมมมมมมมมม”
ทั้งเซ็ตสึโกะและลูกน้องต่างพากันรีบหลบหาเข้าที่กำบัง เพียงไม่กี่วินาทีก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ฝุ่นผงจากแรงระเบิดฝุ้งกระจายไปทั่วห้อง มันเป็นระเบิดดัดแปลงชนิดพิเศษ แม้จะมีพลังทำลายไม่สูงมาก แต่ก็เพียงพอทำให้คนที่อยู่ใกล้ตายและเกิดความชุลมุนได้ เมื่อฝุ่นผงที่กระจายตัวบางตาลง ก็พบว่า โนบุ ได้หายตัวไปแล้ว
“กรอดดดด”
เซ็ตสึโกะ กัดฟันด้วยความโกรธที่เสียท่าให้กับโนบุจนได้ ก่อนจะรีบสั่งการลูกน้องด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“กระจายกำลังกันออกไปตามหาตัวมันให้เจอแล้วฆ่ามันให้ได้ ส่วนพวกนายห้าคนตามฉันมา”
“ครับ” ลูกน้องรีบแยกย้ายกันออกไปตามที่เซ็ตสึโกะสั่ง
หลังจากนั้นเธอก็รีบแจ้งข่าวและสั่งการผ่านเครื่องมือสื่อสารออกไป
“โนบุ มันหนีออกจากห้องรับรองไปได้แล้ว ขอให้ทุกคนเฝ้าตามจุดต่างๆ เอาไว้ให้ดี อย่าให้มันหนีรอดไปได้ พบเห็นมันเมื่อไหร่ ฆ่ามันได้ทันที ฉันกำลังรีบตามไปสมทบกับท่านเทโซ และท่านยูยะที่ห้องประชุม”
สั่งเสร็จแล้วมาเฟียสาวและลูกน้องอีกห้าคนก็รีบวิ่งออกจากห้องรับรองไป แม้จะไม่แน่ใจมากนักก็ตาม แต่ความเป็นไปได้ที่ โนบุ จะตามไปช่วยเหลือ โกโซ นารูทากิ ก็มีอยู่ไม่น้อย เป็นเรื่องที่ เซ็ตสึโกะ ไม่อาจมองข้ามไปได้