ชาติพยัคฆ์ - ตอนที่ 4 ภรรยาของชาติพยัคฆ์
ภายในห้องนอนของชาติพยัคฆ์ที่มีเครื่องปรับอากาศอันเย็นฉ่ำ ร่างของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเมามัน ต่างฝ่ายต่างลูบไล้เรือนร่างของกันและกันไปมาอย่างหลงใหล ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มและทรงเสน่ห์กำลังจูบประทับลงที่ริมฝีปากอันอวบอิ่มของหญิงสาวสวย พลางส่งลิ้นของเขาเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นของเธออย่างดูดดื่ม เรือนหน้าอันงดงามของหญิงสาวเชื้อสายญี่ปุ่นรัสเซียบ่มเพาะแรงดำกฤษณาจนเลือดฝาดของวัยสาวขับขึ้นมาให้เห็นอย่างเปล่งเปล่ง แต่ชายหนุ่มหาได้มองเห็นไม่ เพราะภายในห้องตอนนี้มีแต่ความมืดมิดในยามราตรี มีเพียงแต่แสงสลัวจากแสงจันทร์เท่านั้นที่ยังสาดส่องลงมากระทบร่างของคนทั้งคู่ให้เกิดเห็นเป็นภาพเงาร่างคนกอดกันจางๆ เสียงลมหายใจของทั้งคู่เริ่มส่งเสียงดังขึ้นแข่งขึ้นกับเสียงของปรับอากาศที่กำลังทำงาน ร่างกายของชายหนุ่มและหญิงสาวผ่าวราวกับว่าจะมอดไหม้ สาวสวยปรือตาขึ้นมามองชายหนุ่มด้วยความเสียวซ่านใจ สองมือของเขากำลังลูบไล้ พร้อมทั้งบีบคลำและคลึงเค้นสองเต้าอวบของสาวงามที่เด้งสู้มือขึ้นมาด้วยอาการสั่นระริก ยอดมณีคู่ของหญิงสาวสั่นระริกไหวเอน พร้อมทั้งชูช่อขึ้นราวกับว่าจะรอให้ใครมาเชยชม พลันชายหนุ่มก็ค่อยๆ ละจากริมฝีปากอวบอิ่มของสาวน้อยวัยแรกแย้ม ค่อยๆ จูบไล้เลื่อนลงมาที่ลำคอคอ ก่อนลากปลายลิ้นผ่านมาจนถึงสองเต้าที่ล้นทะลัก แล้วก้มลงลองลิ้มชิมรสดูดดื่มความหอมหวานจากเม็ดยอดมณีทั้งสองข้าง จนทำให้สาวน้อยออกอาการสั่นสะท้านพร้อมกับส่งเสียงร้องครวญครางที่ซ่อนอยู่ในลำคอระหงออกมา
“อืมมมมมมมมมมม….อ้า……”
สาวสวยแอ่นอกขึ้นรับรสสัมผัสจากชายหนุ่ม แขนสองข้างเนียมนุ่มยกขึ้นมาโอบกอดที่คอเขาไว้ราวกับกลัวว่าร่างกายของชายหนุ่มจะหายไป
เดิมทีชาติพยัคฆ์ ต้องการจะจูบเธอเพียงเพื่อลดอาการแง่งอนเฉยๆ แต่ในเวลานี้เขากลับตกอยู่ในที่นั่งลำบากเสียเอง ความหอมหวานจากตัวของหญิงสาวที่เขาเผลอเข้าไปสัมผัสเข้า ดันปลุกเร้าความเป็นชายและความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในใจซึ่งตกตะกอนมาช้านานให้เกิดระเบิดปะทุขึ้นมาในทันที แรงดำกฤษณานั้นเพิ่มขึ้นทวีอย่างฉับพลันจนแทบไม่อาจควบคุมความต้องการนั้นได้อีกต่อไป แก่นกายความเป็นชายของชายหนุ่มผงาดยาวใหญ่ขึ้นถึงเจ็ดนิ้ว จนเผยให้เห็นเส้นเอ็นที่ปูดโปนรอบหัวหยักนั้นอย่างน่ากลัว มันผงกหัวหงึกๆ ไปมาราวกับว่าต้องการแสวงหาร่องรักของหญิงสาว เพื่อหาที่ปลดปล่อยความต้องการที่คับแน่นอยู่ภายใน
“เดี๋ยวๆ …..เอลิน่า ….หยุดก่อน!!!” ชาติพยัคฆ์ พยายามดึงสติที่เหลืออยู่น้อยเต็มที่ให้กลับมา เขาพยายามข่มใจ ไม่ให้ล่วงเกินหญิงสาวไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มพยายามคุมสติเอาไว้แล้วใช้แขนทั้งสองข้างดันตัวออกไปหมายแยกตัวเธอและเขาให้ห่างออกจากกันแต่ทว่า
“……อูยย..ยยยย……..โอ๊ยย…ยยยยย…..ยะ…อย่า….ค..รับ…..เอ…ลิ…..น่า…..หยุ…ด…ก่อน……”
เสียงของเจ้าหนุ่มดังกระเซ่าและขาดหายเป็นช่วงๆ อย่างห้ามไม่ได้ เสียงของเขานั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความเจ็ดปวดเหมือนเช่นที่ถูกเอลิน่ากัดเมื่อครู่นี้ แต่กลับบ่งบอกถึงความสุขสมในอารมณ์ที่ได้รับจากหญิงสาวต่างหาก ใบหน้าของเอลิน่าซบลงที่ซอกคอด้านหนึ่งของชาติพยัคฆ์ ก่อนใช้ปากและฟันของเธอขบกัดไปที่บริเวณซอกคอของชายหนุ่มอย่างเบาๆ ก่อนใช้ลิ้นดูดดุนที่ลำคอด้านนั้นสลับกันไปมากันอย่างช้าๆ สร้างความสุขเสียวให้กับชายหนุ่มเพิ่มขึ้นอีกทวีคูณ นอกจากนี้กลิ่นสาบสาวของตัวของเธอยังปลุกเร้าอารมณ์ของชายหนุ่มให้กระเจิดกระเจิงมากขึ้นไปอีกด้วย
“….หอมจัง …….กลิ่นหอม……แบบนี้…..”
แววตาของชาติพยัคฆ์เริ่มเลื่อนลอยมากขึ้น กลิ่นสาบสาวอันชวนหลงใหลและเย้ายวนนี้ ช่างเหมือนกับกลิ่นสาบสาวของใครคนหนึ่งที่ชาติพยัคฆ์รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“….หอม..จัง …..หอม…เหมือน….กลิ่นตัว…..ของ…พี่….มาเรีย….พี่….มา…เรีย….ค..รับ….”
กลิ่นสาบสาวอันหอมกรุ่นของเอลิน่าปลุกความกำหนดที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของชาติพยัคฆ์ให้ลุกโชนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
“จ๊วบบบๆๆ”
สติของชาติพยัคฆ์ขาดผึงไปในทันที เขาไม่รู้สึกตัวเองอีกต่อไป เขาเริ่มตอบรับสัญชาตญาณการสมสู่ระหว่างชายหญิงเข้าให้แล้ว หนุ่มใหญ่ระดมจูบเข้าไปที่ใบหน้าอันงดงามของหญิงสาว ก่อนบรรจงส่งลิ้นเข้าไปจูบประทับที่ริมฝีปากเอลิน่าอีกครั้งหนึ่ง หญิงสาวเองก็ตอบรับแรงดำกฤษณาของชายหนุ่มด้วยเช่นกัน เผยอริมฝีปากขึ้นรับรสจูบนั้นก่อนใช้ลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรับแรงปรารถนาของชายหนุ่มอย่างดูดดื่ม
ชาติพยัคฆ์ค่อยๆ ละจากริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ และเริ่มจูบไล้ไล่ลงไปที่ด้านล่าง เขาทั้งจูบและลากลิ้นผ่านร่องกลางหน้าอก ผ่านรอยบุ๋มที่อยู่กลางลำตัวของเธอ ก่อนมาหยุดที่ร่องหลืบที่เต็มไปด้วยพงหญ้ารกที่เนียนนุ่ม ชาติพยัคฆ์ก้มหน้าลงใช้ลิ้นซุกเข้าไปชอนไชเกี่ยวกระหวัดดุ้นรั้นเม็ดละมุดที่อยู่เหนือร่องสวาทของหญิงสาว เขาอ้าอมดูดดันลองลิ้มชิมรสเม็ดละมุดอันหอมหวานพร้อมทั้งธารน้ำรักที่ถูกหลั่งออกมาจากร่องสวาทของหญิงสาวอย่างไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขาดูดกลืนน้ำรักเหล่านั้นเข้าไปในลำคอจนหมดสิ้นราวกับคนที่กระหายน้ำมาเป็นแรมปี หนุ่มใหญ่ค่อยๆ เกร็งลิ้นอันยาวใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นมาเป็นรูปกรวย ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปด้านในแทงเข้าออกในร่องรักของสาวน้อยอย่างสนุกในอารมณ์
“….อ้า…..โท…ระ…ขา…ฉัน…สะ….เสียวคะ….”
สาวน้อยถึงกับส่งเสียงเสียงร้องครวญครางพร้อมกับเรียกชื่อของเขาออกมาด้วยความเสียวซ่าน เธอดิ้นพล่านไปมาแทบจะขาดใจราวกับปลาถูกทุบด้วยค้อน แต่ชายหนุ่มหาได้ยินเสียงร้องครวญครางของเธอไม่ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาแทงลิ้นเข้าออกดูดชิมน้ำรักอันหอมหวานของเธออย่างไม่หยุดหย่อน
“….โท..ระ…คะ…ฉัน…ไม่..ไหว..แล้ว..คะ…โท…ระ…อร๊ายยยยยยยยย……”
เอลิน่าส่งเสียงกรีดร้องออกมาเมื่อเธอบรรลุถึงจุดหมายปลายทางแห่งสวรรค์ สองขาคู่เรียวงามเกี่ยวกระหวัดรัดเข้าที่หัวของชาติพยัคฆ์แทบจะให้แหลกสลาย สองมือเธอกดหน้าของเขาราวกับจะให้จมหายลงในรูสวาทนั้น ใบหน้าของชาติพยัคฆ์สนิทแนบแน่นกับร่องรักของเธอสูดกลิ่นหอมหวนเข้าไปเต็มๆ ก่อนที่ร่างของสาวงามจะเกร็งกระตุกขับน้ำรักออกมาอย่างทะลักทลายและท่วมท้น หนุ่มใหญ่ดูดกลืนน้ำรักของหญิงสาวลงไปจนแทบจะหมดสิ้น ลิ้นสวาทของชายหนุ่มยังคงชอนไชเข้าออกในรูสวาทนั้นอย่างไม่รู้เบื่อราวกับว่าเขาเพิ่งจะได้ทานอาหารที่โอชะเป็นครั้งแรก ร่างเอลิน่าถึงกับสั่นระริกครั้งแล้วครั้งเล่า เกร็งกระตุกดิ้นพล่านแขม่วท้องเด้งขึ้นลงอย่างน่าสงสาร สาวสวยแทบจะหมดสิ้นเรี่ยวแรงแต่ก็ยังครวญครางร่ำร้องเรียกชื่อของชาติพยัคฆ์อยู่ไม่หยุดหย่อน
“อร๊ายยยย..โทระ…ขา…..ช่วย….เอลิน่า….ด้วย…..ช่วยเอลิน่า….ด้วย…คะ……อืมมมม……เอลิน่า…จะถึง….อีกแล้ว….อร๊ายยยยย…..”
ชาติพยัคฆ์ละใบหน้าออกจากรูสวาทนั้น รีบพุ่งกายเข้ากอดกระหวัดรัดเกี่ยวร่างของสาวงามไว้ บรรจงจูบที่ปากเธออีกรอบ พลางก้มตัวต่ำลงใช้สองมือค่อยๆ ยกขาของเธอขึ้น แล้วแยกขาทั้งสองข้างให้ห่างออกจากกัน
“เป็น….ของผม….นะ…ครับ…พี่…มา..เรีย…” หนุ่มใหญ่โน้มตัวลงกระซิบบอกที่ข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานพร้อมทั้งใช้ลิ้นดูดดุนเข้าไปที่ติ่งหูของเธอ เขาละเมอขึ้นราวกับว่ากำลังตกอยู่ในโลกแห่งความฝัน ตอนนี้เขาไม่สามารถแยกออกได้เลยว่าอะไรคือความจริงหรืออะไรคือความเพ้อฝัน เขาตกอยู่ในห้วงเวลาของตัวเองจนเข้าใจผิดคิดว่า เอลิน่า คือ มาเรีย ไปเสียแล้ว
เอลิน่า ขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้จะได้ยินเต็มสองหูอยู่แล้วว่าชาติพยัคฆ์กำลังพูดถึงใครอยู่ แต่ทว่าสาวงามหาได้ผลักไสเขาออกไปไม่ กลับขานรับขึ้นอย่างเต็มใจว่า
“…คะ…ฉันจะเป็นของคุณคะ..โทระ…”
ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ แต่ในเวลานี้เธออยากจะมอบสิ่งที่เธอหวงแหนมากที่สุดในชีวิตให้กับชายคนนี้ ชายคนที่เธอรัก
ชาติพยัคฆ์ จับลำลึงค์อันยาวใหญ่ของตัวเองจ่อเข้าไปที่รูสวรรค์ของหญิงสาว พร้อมกับเขี่ยเล่นไปมาอย่างเบาๆ ก่อนออกแรงกดแท่งลึงค์อันยาวใหญ่ดันเข้าไปในร่องสวาทอย่างช้าๆ ด้วยช่องทางรักที่ค่อนข้างคับแคบและตีบตันทำให้เขาต้องค่อยๆ สอดใส่และออกแรงกดลงไปทีละนิด ใบหน้าของเอลิน่าเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดปนความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น เนื่องจากช่องทางรักของเธอถูกแท่งรักอันยาวใหญ่บุกรุก ชาติพยัคฆ์พยายามกดลำควยดันเข้าไปทีละนิดๆ จนกระทั่งมันกระทบเข้ากับผนังเยื่อกันบางๆ ที่ขวางทางระหว่างลำลึงค์กับประตูสวรรค์ที่อยู่ด้านในสุด หนุ่มใหญ่ก้มตัวลงไปบดปากจูบไซ้ที่ซอกคอและติ่งหูของเธอ รอจนกระทั่งสาวสวยส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านจนลืมความเจ็ดปวดแล้ว ชายหนุ่มจึงออกแรงกดแท่งรักพรวดเดียวลงไปจนหมดมิดด้ามทันที ทำให้หนอกควยกระทบเข้าโหนกหีของหญิงสาวเข้าอย่างจัง เอลิน่ารู้สึกได้ถึงการบุกรุกทะลุทะลวงของแท่งมังกรจากชายหนุ่ม จนเยื่อพรหมจารีย์ของเธอฉีกขาดออกจากกันอย่างแรง เธอต้องส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็ดปวด พร้อมกับร่างกายที่สั่นระริกด้วยเสียวซ่านที่ปนเปกัน หญิงสาวต้องโอบกอดร่างของชายหนุ่มเอาไว้อย่างแนบแน่น เพื่อบรรเทาความเสียวและความเจ็ดปวดที่เกิดขึ้น ใบหน้าของสาวงามบิดเบี้ยวไปมาจนเริ่มมีเหงื่อไหลซึม ชาติพยัคฆ์กดแท่งควยแช่เอาไว้อย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่ง จนเขาเริ่มรู้สึกร่องรักของหญิงสาวที่ตอดแท่งเขาอยู่นั้น เริ่มผ่อนคลายลง จึงค่อยๆ ยกลำควยออกมา
“อ๊ะ….อ๊ะ….”
หญิงสาวส่งเสียงร้องออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงแท่งรักที่ยาวใหญ่กำลังจะถูกถอนออกจากร่องสวาทของเธอ สาวน้อยยกสะโพกแอ่นขึ้นตามราวกับกลัวว่าแท่งมังกรอันนี้จะหลุดลอยหายออกไป แต่ก็ต้องกลับเสียวซ่านขึ้นอีกเป็นทวีคูณ เมื่อจู่ๆ ลำควยที่ถูกดึงออกไปแล้ว กลับถูกกดสวนกลับลงมากระแทกเข้าที่โคกหีของเธอเข้าอย่างจัง
“…ซี๊ดดดดดดดดดดด……”
หญิงสาวเผลอส่งเสียงครางออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อต้องปะทะกับความเสียวที่เกิดขึ้น ชาติพยัคฆ์ ค่อยๆ กระเด้าควยเย็ดหีหญิงสาวอย่างช้าๆ จากที่เนิบนาบก็เริ่มเร็วขึ้นเป็นจังหวะ เอลิน่า เองก็ตอบสนองอารมณ์ร่วมรักที่เกิดขึ้น เธอยกสะโพกแอ่นหีขึ้นรับแรงกระแทกจากแท่งควยราวกับจักรผันครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าของสาวงามที่บิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความเสียวซ่าน ลำควยยาวใหญ่ของชายหนุ่มปรากฎคราบน้ำรักของหญิงสาวและเลือดสีจางๆ ผสานกับน้ำเงี่ยนของชายหนุ่มจนเป็นมันปลาบ ลำควยยาวอวบใหญ่พุ่งกระแทกกระทั้นเข้ารูหีอย่างต่อเนื่อง เหมือนลูกสูบในห้องเครื่องรถยนต์ ปลายควยของเจ้าหนุ่มชนเข้ากับมดลูกของเอลิน่าครั้งแล้วครั้งเล่าเสีงดัง “กึกๆๆๆ”จนสาวงามต้องเม้นริมฝีปากอดกลั้นความเจ็บและความเสียวซ่านที่ได้รับไว้ เสียงพวงไข่กระแทกเข้ากับโคกหีของหญิงสาว ดัง “ตับๆๆๆ” สร้างความหฤหรรษ์ให้กับคนทั้งสองจนยากที่จะหักห้ามใจเอาไว้ได้อีก
“..ซี๊ดดดดด…..โทระ…ขา….ฉันใกล้จะถึงแล้วคะ…..แรงๆ คะ….เย็ด…ฉัน..แรงขึ้นอีก….คะ…..ฉันใกล้จะถึงแล้ว…..”
“…พี่..มาเรีย…ครับ…ผมใกล้..จะถึงแล้ว….หี….พี่มาเรีย…เย็ด….มันส์มากครับ……ตอด..ดีด้วย….ผมชอบ….มากครับ….พี่มาเรีย…ชอบไหมครับบบบบ…” ชาติพยัคฆ์ส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างลืม
“…ชอบ…ฉัน…ชอบ…..คะ….โทระ….แรงๆ…เลยคะ….ฉัน…ใกล้…จะถึงแล้ว…..ฉันจะถึงแล้ว…อร๊ายยยยยยยยยยย…..”
เอลิน่า ถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง ระเบิดน้ำรักกระแทกสวนเข้าลำควยของชายหนุ่มอย่างแรง ร่างงามของสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นรัสเซียสั่นระริกโยกไหวจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกถึงความเสียวซ่านสุดขีดที่เธอได้รับ
“….ผมก็ออกแล้วครับ..พี่มาเรีย…..จะออกแล้ว…..อ้า……”
ชาติพยัคฆ์ กระเด้าควยเย็ดเข้าออกรูหีของเอลิน่าได้อีกเพียงไม่กี่ครั้งก็ระเบิดน้ำรักขาวขุ่นข้นเข้าไปในมดลูกของเธออย่างมากมาย น้ำเชื้ออันร้อนผ่าวของชายหนุ่มพุ่งเข้าปะทะสู่ผนังมดลูกของเอลิน่าจนทำให้เธอถึงกับขนลุกชูชันขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ รูสวาทของสาวน้อยสั่นระริกเกร็งขมิบตอดแท่งรักท่อนโตด้วยอาการหมุบหมิบราวกับจะพยายามดูดดื่มน้ำเชื้อนั้นเอาไว้ให้ครบทุกหยาดหยด ความร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านอบอวลอยู่ข้างในทำเอาสาวน้อยวัยแรกแย้มส่งเสียงครวญครางด้วยความรัญจวนใจ สองหนุ่มสาวกอดเกี่ยวกระหวัดรัดกันอย่างรู้สึกสะท้านในอารมณ์ต่างบรรจงจูบมอบความรักให้แก่กันราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รอจนกระทั่งมังกรแท่งโตของชาติพยัคฆ์ค่อยๆ หดตัวลงแล้วหลุดออกมา ทั้งคู่จึงค่อยๆ หยุดการเล้าโลมและนอนกอดก่ายกันหลับสนิทลงไปด้วยความอ่อนเพลีย
———————————————————————-
เวลาเกือบเที่ยงของเช้าวันใหม่ ชาติพยัคฆ์ ค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ เขารู้สึกอ่อนเพลียอยู่บางและรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย หนุ่มใหญ่ใช้สองมือยันตัวลุกขึ้นมาจากที่นอนอย่างช้าๆ ก่อนค่อยๆ หันหน้าไปมองรอบๆ กาย ข้างตัวเขาปรากฎร่างของหญิงสาวหน้าตางดงามอยู่คนหนึ่งกำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ เธอยังคงหลับด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ราวกับว่าเพิ่งจะได้เดินทางไปสู่วิมานในแดนสวรรค์เมื่อไม่นานมานี้
“เอลิน่า!!!!!”
ชาติพยัคฆ์ อุทานออกมา ด้วยความตกใจ เขาเพิ่งรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ภายใต้ผ้าหุ่มที่อุ่นหนานั้น เขารู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มอย่างชัดเจน ด้วยความตกใจ ชาติพยัคฆ์ รีบดึงผ้าห่มของเขาออกในทันที พลันร่างเปลือยเปล่าที่สุดแสนจะงดงามของเอลิน่าก็ปรากฎออกมาให้เห็นท้าสายตา ร่างกายของเธอปรากฎร่องรอยที่บ่งบอกให้เขารู้ว่าเธอกับเขาเพิ่งจะได้ร่วมรักกันอย่างถึงพริกขิงในช่วงระยะเวลาอันสั้นที่ผ่านมา ชาติพยัคฆ์ ตกใจเป็นอย่างมากไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะทำร้ายหลานสาวตัวเองได้ลงคอขนาดนี้
“เอลิน่า!!!!”
ชาติพยัคฆ์ ขยับตัวเข้าไปใกล้เธอ พลางช้อนร่างของเธอขึ้นมากอดไว้ด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวถูกชายหนุ่มสัมผัสตัวเข้าก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอค่อยๆ ลืมขึ้นมาด้วยความงุนงงเล็กน้อย
“….เช้าแล้วหรือคะ?”
เอลิน่า ลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนเพลีย ก่อนหันหน้าไปมองรอบๆ ห้อง และเอ่ยถามเขา แสงสว่างจ้าในห้องนอนยามนี้ทำให้เธอสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน หญิงสาวจ้องไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มให้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว แต่เธอกลับรู้สึกดีเหลือเกินที่อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่เธอหลงรักอย่างหมดใจ
“เอลิน่า ….อา….ขอโทษ..”
ชาติพยัคฆ์รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ได้ เขาผิดมหันต์อย่างไม่น่าให้อภัยที่สร้างตราบาปนี้ให้แก่หลานสาวของตัวเอง นอกจากคำขอโทษแล้วไม่มีสิ่งใดที่เขาจะเอ่ยได้ดีไปมากกว่านี้
“อะไรกันคะ ขนาดนี้แล้ว คุณยังจะต้องเรียกตัวเองว่า อา อีกเหรอ” หญิงสาวยิ้มเล็กน้อยไม่คิดว่ามาถึงขึ้นนี้เขายังใช้สรรพนามเรียกตัวเองว่าอาอีก
ชาติพยัคฆ์ ได้ฟังถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เอลิน่า เหมือนจะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และดูเหมือนเธอไม่เสียใจเลยแม้ซักนิดเดียว
“ให้ตายสิ ร้ายจริงๆ นะเรานะ”
ชาติพยัคฆ์ ยอมรับจริงๆ ว่าเขาแพ้อย่างหมดท่า ก่อนซบหน้าผากของเขาลงไปที่หน้าผากของเธอ
“ก็ฉันเป็นลูกของ มาเรีย อาย่า นี้คะจะไม่ร้ายเหมือนแม่ได้ยังไง” เธอตอบ
คำตอบของเอลิน่า ทำให้ชาติพยัคฆ์ถึงกับสะดุ้ง
“เอลิน่า!!!”
“เมื่อคืนนี้คุณก็ยังคิดว่าฉันคือแม่อยู่เลยนิคะ โทระ”
ชาติพยัคฆ์ ตะลึงงันไปชั่วครู่ สิ่งที่เขากลัวตลอดมาเป็นเรื่องจริงออกมาจนได้ เขามีเรื่องราวบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้ เพราะถ้าหากพูดออกมาแล้วอาจจะกระทบต่อใครหลายๆ คน แต่ที่น่าเสียใจที่สุด คือ เขารู้ว่าเอลิน่าเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องแม่ของเธอกับเขาไปเสียแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาคิดเอาไว้เสมอว่าจะไม่พูดออกมาเด็ดขาด เพราะไม่มีผลดีต่อใคร ชั่วชีวิตของเขานั้นไม่เคยทำผิดต่อรุ่นพี่ฮิเด มากิ หรือพี่มาเรีย เลยแม้แต่น้อย จะมีผิดก็อยู่เรื่องเดียวเท่านั้นก็คือ เรื่องของเขากับเอลิน่าในตอนนี้
“ฉันหึงนะคะ แล้วก็หวงคุณด้วย ต่อให้คุณนอนกับผู้หญิงคนอื่นฉันก็จะไม่รู้สึกอะไรอย่างนี้ แต่กับแม่ของฉันแล้ว ฉันกลับห้ามความรู้สึกนี้ไม่ได้ …คุณรักแม่ของฉันใช่ไหมคะ โทระ?”
เอลิน่า ถามและหลั่งน้ำตาออกมา แม้เธอจะมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขา แต่ลึกๆ แล้วเธอก็อดน้อยใจไม่ได้ ที่แม้แต่ยามร่วมรักกัน เขายังคงคิดว่าเธอเป็นแม่อยู่ดี
“อย่าร้องไห้สิครับคนดี” ชาติพยัคฆ์พยายามปลอบเอลิน่า เขารู้ดีว่าเธอเสียใจแค่ไหน ตอนนี้เขาเองก็ยอมรับแล้วว่าเธอคือส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาเช่นกัน
“เป็นภรรยาของโทระ ต้องเข้มแข็ง อย่าอ่อนแอสิครับ”
“คะ!!!” หล่อนอุทานเบาๆ ด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินที่ชาติพยัคฆ์พูดออกมา
ชาติพยัคฆ์ เห็นเธอทำท่าจะไม่เชื่อก็ยิ้มร้ายเล็กน้อย ก่อนค่อยๆโน้มตัวลงเข้าไปหาเอลิน่า บดริมฝีปากของเขาเข้ากับปากของเธอ เอลิน่าตอบสนองรสรักชายหนุ่มอย่างลืมตัว พอรู้ตัวอีกทีหนุ่มใหญ่ก็เริ่มส่งจูบซุกไซ้ไปทั่วใบหน้าและที่ซอกคอของเธอจนเริ่มรู้สึกสยิวขึ้นมา จนเธอต้องส่งเสียงร้องห้าม
“อย่าคะ..โทระ!!!”
“เอ๊ะ….ทำไมเหรอครับ ก็เมื่อคืนนี้เรายัง?” ชาติพยัคฆ์ถามด้วยความแปลกใจ และอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอห้ามเขาไว้ทำไม
“ตอนนี้….ฉันยัง….ระบมอยู่เลยคะ ….เมื่อคืนนี้….เป็นครั้งแรกของฉัน…” เธอตอบเขา พร้อมกับหลับสายตาด้วยความเอียงอาย แต่ชาติพยัคฆ์กลับหัวเราะชอบใจ จนเอลิน่า ถึงกับออกอาการค้อนควักเข้าให้
“อย่าหัวเราะสิคะ” สาวสวยอายจนหน้าแดง และอดต่อว่าเขาไม่ได้
“งั้นไปอาบน้ำกันเถอะครับ เดี๋ยวค่อยออกไปหาอะไรทานกันนะ” ชาติพยัคฆ์บอกพลางส่งสายตาวิบวับให้กับเธอ
“คุณอาบน้ำก่อนเถอะคะ ….เดี๋ยวฉันค่อยอาบก็ได้”
“อาบด้วยกันก็ได้นิครับ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“ไม่เอาคะ…ฉันกลัว…” เธอตอบปฏิเสธในทันที
ชาติพยัคฆ์หัวเราะชอบใจ รู้ว่าเอลิน่าคงกลัวว่า ถ้าหากเขาและเธอเข้าไปอาบน้ำด้วยกันคงไม่แคล้วต้องมีอะไรกันต่ออีกแน่ๆ
“ก็ได้ครับ ผมตามใจคุณ ผมอาบน้ำก่อนก็ได้”
ว่าแล้วเขาก็จุมพิตที่ปากของเธออีกรอบ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็คตัวผืนใหม่ในตู้เสื้อผ้ามาสองผืน เขาส่งให้เอลิน่าผืนหนึ่ง ก่อนจะที่ตัวเขาเองจะเดินเข้าห้องน้ำไป เอลิน่า คว้าผ้าเช็ดตัวที่ได้รับมาพันรอบกายไว้ ก่อนค่อยๆ ดึงผ้าปูเตียงและผ้าห่มที่มีคราบรักของเขาและคราบเลือดของเธอลงไปที่ตะกร้า พลันก็มองเห็นมือถือของชาติพยัคฆ์ที่อยู่บนเตียงเข้าพอดี เอลิน่าหยิบมือถือขึ้นมาดู พลิกดูไปมาอยู่ครู่หนึ่งก็ยิ้มระรื่นออกมาเล็กน้อย ก่อนกดปุ่มปลดรหัสล็อคมือถือที่เธอแอบจำมาได้แล้วลงมือปรับตั้งค่าอะไรบางอย่างลงในมือถือเครื่องนั้น
———————————————————————-
ภายในศูนย์การค้าใหญ่ในตัวจังหวัด ชาติพยัคฆ์ กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูร้านหนึ่งภายในศูนย์การค้าแห่งนั้น ขณะที่กำลังสาละวนดูรายการเมนูอาหารอยู่นั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งกำลังส่งเสียงเรียกเขาอยู่
“เฮ้ย!!!!….ไอ้เสือ..มาได้ไงวะ”
เสียงเรียกที่คุ้นหูนี้ทำให้ชาติพยัคฆ์ต้องเงยขึ้นมามอง สายตาก็ปะทะเข้ากับร่างของหนุ่มใหญ่คนหนึ่งในชุดเครื่องแบบตำรวจ
“อ้าว!!! นึกว่าใคร นายเองเหรอปกรณ์”
พันตำรวจเอกปกรณ์ พนาเวศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร โบกไม้โบกมือให้กับชายหนุ่ม แล้วก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ชาติพยัคฆ์ เป็นคนที่คนข้างเก็บตัว และมีเพื่อนฝูงค่อนข้างน้อย แต่เพื่อนของเขาแต่ละคนส่วนใหญ่ต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตและมีชื่อเสียงอยู่ในเกือบทุกวงการภาย เครือข่าย หรือ Connection ของชาติพยัคฆ์จึงมีศักยภาพค่อนข้างสูงและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
“เฮ้ย!!!!..มาได้ไงวะ ไอ้เสือ ปกติเห็นคลุกตัวอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน ไม่เคยเห็นออกมาทานข้าวนอกบ้านซักที วันนี้คิดยังไงวะถึงออกมาได้” ปกรณ์ เอ่ยถามเขา
“ทำไมวะ ฉันจะออกมาทานข้าวนอกบ้านบ้างไม่ได้เหรอไง มีกฎหมายข้อไหนห้ามเอาไว้ไม่ทราบวะไอ้คุณแสบ เอ้ย…ไม่ใช่สิ…คุณตำรวจ”
“ชะ ไอ้นี้วอนตีนซะแล้ว” ปกรณ์ส่งเสียงจิออกมาด้วยความขัดใจ ไอ้เพื่อนคนนี้มันกวนอารมณ์เบื้องล่างของเขาซะจริง ถามดีๆ กลับมาตอบกวนๆ ซะอย่างนั้น
“ไม่ต้องสนใจหรอกน่าว่าทำไมฉันถึงออกมาทานข้าวข้างนอกได้ ว่าแต่แกเหอะ ไปไหนมา แล้วทำไมถึงมาอยู่แถวนี้ได้วะ อย่าบอกนะโว้ยว่าเอาเวลาราชการมาหนีเที่ยวเล่นในห้าง” ชายหนุ่มถามและยียวนต่อ
“อ้าว!!! ไอ้เวรนี้ หาเรื่องมาให้เพื่อนแล้วไหมล่ะ ฉันมาทำงานโว้ย นี้เพิ่งจะกลับมาจากการประชุมร่วมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หิวก็เลยแวะมาหาอะไรทานนี้แหละ” ปกรณ์ตอบ แล้วทำท่ายกไม้ยกมือส่งมะเหงกเข้าให้
“เฮ้ย!!! ใจเย็นๆ สิวะ ฉันแซวแกเล่นเฉยๆ อีกหน่อยก็จะได้เป็นผู้บังคับการอยู่แล้ว ทำใจน้อยเหมือนคนหัวล้านไปได้วะ” ชาติพยัคฆ์ โบกไม้โบกห้าม พร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ
“เออ..พูดอย่างนี้ตั้งทีแรกก็สิ้นเรื่อง ค่อยฟังเข้าหูหน่อย”
พันตำรวจเอกปกรณ์ เป็นนายตำรวจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง กำลังก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นนายตำรวจอายุน้อยที่เป็นดาวเด่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนหนึ่งซึ่งกำลังจะก้าวขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต
“แต่กว่าจะได้เป็นก็คงอีกนานแหละวะเพื่อน ตอนนี้ก็ดันเสือกมีคดีสำคัญที่ทำให้ฉันปวดหัวฉิบหาย จนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเรียกประชุมพวกฉันด่วนนี้แหละ” ว่าแล้วนายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลก็โคลงหัวเข้าให้ คดีใหญ่เรื่องนี้ออกจะยุ่งยากซับซ้อนและเหนื่อยสำหรับเขาอยู่มิใช่น้อย
“คดีสำคัญ??? คดีอะไรวะ?” ชาติพยัคฆ์ ถาม
“ก็คดีพ่อค้ายาเสพติดที่ดังอยู่ตอนนี้ไงล่ะ” ปกรณ์ ตอบ
“อ๋อ…คดีฆาตรกรรมแก๊งค์ค้ายาเสพติด ที่พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ถูกสังหารในคราวเดียวกันเก้าศพนะเหรอ”
“เออ…นั้นแหละ จะมีคดีไหนซะอีกล่ะ”
คดีนี้เป็นคดีใหญ่ เป็นข่าวครึกโครมไปทั่วประเทศทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์อยู่หลายวัน ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับบิ๊กเก้าคนถูกสังหารโหดอย่างอุกอาจนับว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญไม่น้อยเลยทีเดียว
“เอ๊ะ!!!!….แต่เดี๋ยวนะ…….คดีนี้..มันเกิดในท้องที่อื่นนี้หว่า แล้วแกไปเกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วย”
ปกรณ์ พยักหน้ารับ ก่อนตอบว่า
“เออ..มันก็ใช่อยู่หรอก แต่ปัญหาคือ ตัวการที่ทำเรื่องนี้ มันดันเสือกอยู่ในจังหวัดนี้นะสิ”
“หืมมมม….ใครกันวะที่เป็นคนทำ”
ปรกรณ์ ลอบถอนใจก่อนตอบออกมาว่า
“เสี่ยเส็ง”
ชาติพยัคฆ์ ชักสีหน้าให้เห็นเล็กน้อย เสี่ยเส็งเป็นผู้กว้างขวางและมีอิทธิพลมากคนหนึ่งในจังหวัดนี้ การจัดการกับเสี่ยเส็งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสสำหรับปกรณ์ไม่น้อย แค่มองหน้าเพื่อนก็พอคาดเดาได้แล้วว่าหลักฐานคงมีไม่เพียงพอที่จะจับกุมตัวเสี่ยเส็งได้
“คงไม่มีหลักฐานพอจัดการมันล่ะสิท่า”
“เออ!!!! ไอ้เสี่ยสาระเลวนี้มันทำงานรอบคอบฉิบหาย หลักฐานนะเหรอ แม้แต่ขนแมวซักเส้นก็ยังไม่มีให้เห็น นี้ยังโชคดีนะเว้ย ที่คดีมันเกิดขึ้นในเขตท้องที่อื่น ฉันก็เลยยังไม่ได้รับแรงกดดันจากทางผู้ใหญ่มากเท่าไหร่ ถ้าคดีมันเกิดขึ้นในจังหวัดนี้ล่ะก็ท่านผู้บังคับการเจ้านายฉันคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่” ปกรณ์กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงมโห นี้ขนาดว่าไม่ใช่ท้องที่เกิดเหตุ เขายังโดยหางเลขเข้าไปด้วยขนาดนี้
สำหรับอดีตผู้คุ้นเคยกับกลุ่มมาเฟียอย่างชาติพยัคฆ์แล้ว เรื่องจัดการกับเสี่ยเส็งนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ เพียงแค่ใช้กฎของมาเฟียเท่านั้นทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา แต่สำหรับปกรณ์นั้นคงทำแบบเขาไม่ได้
“เฮ้ย…..ช่างมันเถอะวะ คิดมากก็ปวดหัว ….ว่าแต่ไอ้เสือ ฉันขอยืมมือถือแกหน่อยสิวะ ว่าจะโทรหาเมีย มือถือฉันดันลืมชาร์จ แบตหมดตั้งแต่ก่อนเข้าห้องประชุมแล้ว”
ชาติพยัคฆ์ ส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับกลั้วยิ้ม ก่อนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อที่อยู่ด้านใน
“ไหนคุยหนักคุยหนาไม่ใช่เหรอวะว่าตำรวจเป็นคนรอบคอบ ไงไหงลืมชาร์จแบตมือถือได้”
“พอเลย ไม่ต้องมาย้ำ ตำรวจมันก็คนนี้หว่า มันก็มีผิดมีพลาดบ้างสิวะ” ปกรณ์กล่าวแย้งแก้ตัว
ชาติพยัคฆ์หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ พร้อมกับกดปุ่มเพื่อเตรียมเข้าสู่ระบบปลดล็อครหัสเครื่อง พลันสกรีนหน้าจอล็อคของมือถือก็สว่างขึ้นมาเป็นรูปของหญิงสาวในชุดนอนหวาบหวิวกำลังอุ้มแมวพันธุ์เปอร์เซียตัวหนึ่งอยู่บนเตียงนอนพร้อมกับหันหน้ามามองและยิ้มให้กับกล้อง
“เฮ้ย!!!! โอ้โห…ไอ้เสือ เดี๋ยวนี้แกเปลี่ยนแนวหันมาใช้รูปนางแบบเป็นสกรีนล็อคหน้าจอมือถือแล้วเหรอวะเนี้ยะ นางแบบคนนี้ชื่ออะไรวะ สวยน่ารักเซ็กซี่ฉิบหาย ไว้มีเวลาฉันจะได้ไปหาเสิร์ชรูปมาดูบ้าง”
ชาติพยัคฆ์ ถึงกับหน้าแดงเล็กน้อยไม่คิดว่าจะเจอรูปแบบนี้ในมือถือของเขา
“เรื่องของฉันน่า” ชายหนุ่มแกล้งทำฉุนเฉียวเพื่อแก้เขิน ก่อนกดรหัสปลดล็อคลงไป
มือถือของเขาพลันสว่างขึ้นอีกรอบ คราวนี้ wallpaper เผยให้เห็นรูปของหญิงสาวสวยคนเดิมกำลังนั่งไขว้ห้างอยู่ที่บันไดริมสระว่ายน้ำแห่งหนึ่ง หล่อนสวมใส่ชุดบิกินีสีดำโชว์สัดส่วนอวบอัดและเต้านมที่เต่งตึง ผิวพรรณที่ขาวราวกับหิมะของหล่อนรับกับเส้นผมสีทองชวนให้รูปดูน่าพิสมัยไม่น้อย จนถึงขนาดปกรณ์ต้องแย่งเอามือถือของชาติพยัคฆ์ไปดู
“ฮะๆๆ ฮิ้ววววว อะไรวะเนี้ยะขนาดรูป wallpaper ก็ยังมี สงสัยแกจะชอบนางแบบคนนี้มากวะ ทั้งสกรีนล็อคหน้าจอเอย ทั้ง wallpaper เอย ใช้รูปของเธอหมดเลย เฮ้ย!! เพื่อนกันอย่าหวงน่าบอกชื่อมาเร็วๆ ฉันจะได้รีบไปหามาดู”
ขณะที่ปกรณ์กำลังหัวเราะชอบใจอยู่นั้นเอง หญิงสาวในรูปก็โผล่เข้ามาในร้านพอดี
“รอฉันนานหรือเปล่าคะ? ห้องน้ำคนเยอะน่าดูเลย ฉันเลยต้องเสียเวลารอเข้าห้องน้ำนานไปหน่อย ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณต้องรอนาน” หญิงสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นรัสเซีย เอ่ยบอกคนรักพร้อมกับหอมไปที่แก้มของเขา
“ไม่นานหรอกครับ นี้ผมเองยังไม่ได้สั่งอะไรเลยเหมือนกัน รอให้คุณกลับมาก่อน กะว่าจะได้สั่งอาหารไปพร้อมกันเลยทีเดียว เผอิญเพื่อนของผมมาเจอผมเข้าพอดี ก็เลยนั่งคุยกันเพลินไปเลย” ชาติพยัคฆ์ตอบพร้อมกับบอกให้เธอรู้
ปกรณ์ มีสีหน้าตกตะลึงไม่น้อยในท่าทีของชาติพยัคฆ์ที่ออกจะดูกรุ้มกริ่มกับผู้หญิงคนนี้ หญิงสาวที่ดูสวยสง่าและน่ารัก ซึ่งแม้แต่ภรรยาของเขาเองที่จัดว่าสวยมากแล้ว ก็ยังสวยไม่ได้ครึ่งของผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้นายตำรวจหนุ่มเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างไรชอบกล เหมือนกับว่าตัวเขากลับกลายเป็นส่วนเกินสำหรับชายหญิงคู่นี้ไปเสียแล้ว และเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้สายตาของนายตำรวจหนุ่มก็มองไปยังรูปในมือถือของชาติพยัคฆ์ทันที
“เฮ้ย!!!! คนเดียวกันนี้หว่า!!!” ปกรณ์ถึงกับต้องตกตะลึงเป็นคำรบสองไม่คาดคิดว่าผู้หญิงในรูปกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นคนเดียวกัน
“เอลิน่า นี้เพื่อนของผมเองครับ พันตำรวจเอก ปกรณ์ พนาเวศ” ชายหนุ่มกล่าวแนะนำเพื่อนให้คนรักได้รู้จัก สาวสวยหันมามองหน้านายตำรวจหนุ่ม พร้อมกล่าวคำทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
“สวัสดีคะ คุณปกรณ์ ฉันเอลิน่าคะ”
“เออ..สวัสดีครับ…คุณเอลิน่า….คุณกับ..ไอ้เสือ…เอ้ย…ชาติพยัคฆ์..เป็น….” ปกรณ์ กล่าวตอบคำทักทาย พร้อมกับยิ้มแหยะๆ เหมือนไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่
หญิงสาวหัวเราะเสียงใส เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของนายตำรวจหนุ่ม ก็พอจะเดาได้ว่าปกรณ์กำลังสงสัยในเรื่องอะไรอยู่ จึงบอกเขากลับไปว่า
“ฉันเป็นภรรยาของคุณชาติพยัคฆ์คะ”