ครูสาว - ตอนที่ 5
ครูสาว ตอนที่ 5
สองชายหื่นสะดุ้งขึ้นสุดตัว เสียงปืนในราวป่ามืดทำให้ทั้งสองรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ผู้ใหญ่วิ่งเข้าบ้าน แกโยนปืนยาวให้ครูใหญ่ ก่อนจะคว้าอีกกระบอกสำหรับตัวเอง
“พวกไหนกันน่ะผู้ใหญ่?”
“น่าจะพวกโจรเขมรกับโจรฝั่งเราปะทะกัน ไปดูกันเถอะครู”
“เอ่อ…แล้ว…”
ครูใหญ่หันไปมองร่างเปลือยขาวสวยที่นอนหายใจเบาๆ
“ถ้าไอ้พวกนั้นมาเจอครูหญิง…มีหวัง…”
“ไปเถอะน่าครูใหญ่ อย่าห่วง เรื่องทางโน้นใหญ่กว่า”
พูดจบแกก็วิ่งนำออกไปทันที ครูใหญ่ตามไปอย่างเสียไม่ได้ เมื่อร่างชายทั้งสองหายลับ มีร่างดำๆสองร่างค่อยๆคืบคลานเข้าใกล้บ้านผู้ใหญ่อย่างแช่มช้า
“ไปไกลยังวะ”
“เข้าป่าไปแล้ว”
ลุงมีกับตาเบิ้มนั่นเอง สองตาแก่ชีกอแอบสะกดรอยตามครูทั้งสองมาตั้งแต่เย็น แล้วมาซุ่มแอบดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆบ้าน ทั้งสองใจหายวาบด้วยความเสียดายเมื่อเห็นสองชายบนบ้านกำลังจะรุมโทรมครูสาว แต่กลับดีใจที่เสียงปืนในป่ามาช่วยเธอไว้ได้ทัน ไม่ใช่เพราะอะไรอื่น แต่เพราะแกทั้งสองต้องการจะรุมโทรมเธอก่อนนั่นเอง
ทั้งสองอุ้มร่างเปลือยของครูสาวขึ้นมอร์เตอร์ไซค์ของตาเบิ้มโดยให้หญิงสาว ผู้ไร้สตินั่งตรงกลาง ตาเบิ้มขับไปบ่นไปเพราะลุงมีซึ่งนั่งประกบหลังนั้นได้กำไรกว่า ปากรกหนวดของแกไซร้ไปทั่วแผ่นหลังขาวสะอาด ส่วนมือนึงก็บีบบี้นมอ่อนสลับกันไปมา อีกมือหนึ่งล้วงลงไปข้างล่าง นิ้วสากๆเขี่ยเม็ดมณีน้อยเล่นอย่างเพลิดเพลิน หญิงสาวเสียวแทบขาดใจแต่ลืมตาไม่ขึ้น เธอได้แต่ร้องห้ามผู้ล่วงล้ำ
“อย่า…อย่าค่ะ…อย่า…โอยยย”
“โอย…โอย…โอวววว…โอ๊ววววววววว”
ครูสาวเสร็จสมด้วยนิ้วสากดำของลุงมีที่บดบี้แต่ไม่ได้ล่วงล้ำ เธอสำลักความเสียวจนตัวอ่อนปวกเปียก ในขณะที่พากันมาถึงกระท่อมของตาเบิ้ม
“ไป..อุ้มขึ้นบ้านไปก่อน แหม เล่นซะน้ำเต็มเบาะกูเชียวนะมึง”
ตาเบิ้มบ่นกระปอดกระแปด ลุงมีอุ้มร่างขาวเดินเข้ากระท่อมไปขณะที่ตาเบิ้มเข็นรถไปเก็บ เมื่อตาเบิ้มเดินเข้าไปข้างใน ก็พบว่าลุงมีกำลังจรดท่อนลำขนาด 6 นิ้วครึ่งที่แข็งโป๊กผิดกับวัยของแก ลงบนรอยแยกสีชมพูที่เกือบจะโดนผู้ใหญ่ทะลวงเมื่อครู่ ตีนไวกว่าความคิด ตาเบิ้มถีบโครมลุงมีกระเด็นตกจากแคร่
“อะไรของมึงวะไอ้เบิ้ม”
“ไอ้ห่า…รถก็รถกู บ้านก็บ้านกู กูต้องเปิดก่อนซิโว๊ย”
“อ้าวๆ…ถ้ากูไม่บอกให้มึงไปพานังหนูนี่มา เราจะได้มาฟันไหมล่ะวะ”
ลุงมีโวยวายบ้าง ขณะที่ทั้งสองทุ่มเถียงกันไม่ลืมหูลืมตานั่นเอง ญาดาซึ่งสติกลับมามากแล้วพยายามลุกขึ้นแล้วเดินเบียดไปตามผนังเพื่อหลบแสง เทียนไม่ให้ตาแก่บ้ากามทั้งสองสังเกตเห็น เมื่อเธอออกมาถึงหน้าบ้านก็ต้องตกใจที่เห็นเด็กตัวดำวัย 12-13 ปีโผล่พรวดออกมาจากข้างบ้าน โชคดีที่เธอไม่ส่งเสียงร้องออก ไป ร่างนั้นกวักมือเรียกให้เข้าไปหา
“ครูครับ…ผมเอง…ทิว”
เธอจำได้ทันที ทิวเป็นหลานตาเบิ้มที่มาเรียน ป.6 ในชั้นเรียนของเธอ
“ตามผมมาครับ ผมจะพาครูกลับโรงเรียน”
ครูสาวซ้อนจักรยานของเด็กทิว
“ครูเดินไปคนเดียวไม่ได้หรอกครับ มืดแล้ว ครูจะหลง อีกอย่างมืดๆไปไหนคนเดียวไม่ได้”
ทิวอธิบายพลางปั่นจักรยานพลาง
“ครูเป็นอะไรหรือปล่าวครับ”
ทิวหันหน้ามาถามเมื่อเห็นครูสาวเงียบ เพราะเธอกัดฟันข่มความแสบปนเสียวอยู่นั่นเอง เพราะที่ซ้อนท้ายของจักรยานนั้นเป็นเหล็กที่เป็นขอบสี่เหลี่ยม ส่วนตรงกลางนั้นเป็นเหล็กซี่ๆโปร่งๆ ครูสาวนั่งเปลือยอยู่เนินน้อยของเธอจึงถูเข้ากับซี่เหล็กที่ดัดบิดเป็น เกลียว เมื่อรถตกร่อง ร่องของเธอก็กระแทกเข้ากับซี่เหล็ก เธอสะดุ้งกอดเอวทิวแน่น กัดฟันร้องไม่ออก ทิวหันมามองอย่างงงๆ ในใจคิดว่าครูคงยังไม่สร่างเมา
ทั้งสองมาถึงเรือนพักครูในเวลาไม่นาน เมื่อจอดรถเสร็จ ทิวกลับงงเมื่อครูสาวยังไม่ยอมลงจากรถ
“ทิว…ช่วยพยุงครูลงที”
ซี่เหล็กดัดอันกลางจมลงในร่องสีชมพูของเธอทำให้แสบและเสียวไปหมด ทิวงงแต่ก็ประคองปีกครูสาวและพยุงขึ้นไปบนเรือน
“กุญแจ…อยู่ใต้กระถางหน้าห้องจ้ะ”
เมื่อทั้งสองเข้าห้องมาได้ ทิวก็ไปหาน้ำกับพามาเช็ดตัวให้ครูสาวทันที เมื่อจุดเทียนในห้องญาดาพบว่าตัวเธอมีแผลถลอกและรอบช้ำหลายที่ เธอจำเหตุการณ์อะไรหลังจากที่ดื่มเหล้าป่ากะลานั้นไม่ได้เลย รู้สึกตัวอีกทีแกได้ยินเสียงลุงทั้งสองเถียงกันซึ่งเธอก็จำไม่ได้อีกว่า เรื่องอะไร จำได้แต่ว่าทิวเป็นคนพบเธอและพาเธอกลับมาที่นี่
“ครูครับ…เช็ดตัวหน่อยนะครับ”
“ครูทำเองได้จ้ะ ขอบใจมาก…โอ๊ย”
ญาดารับกระป๋องน้ำและผ้าจากทิวมาแล้วเจ็บแปล๊บที่ข้อมือ
“ให้ผมเช็ดให้ก็ได้ครับ ครูนอนลงเถอะครับ”
ญาดาจึงนอนคว่ำลงด้วยความอายที่ลูกศิษย์เห็นเธอเปลือย ซึ่งก่อนหน้านี้เธอคิดแต่จะกลับมาถึงที่นี่ให้ได้เท่านั้น ไม่ได้คิดถึงอย่างอื่น ทิวก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้ครูสาวอย่างตั้งใจ ในใจเด็กชายไม่ได้คิดอะไรอกุศลกับครูสาวเลย นอกจากความเป็นห่วงเพราะเธอได้รอยฟกช้ำดำเขียว ผ้าสากๆชุบน้ำเย็นๆลูบตามเนื้อตัวทำให้ญาดาสบายขึ้น เมื่อเช็ดด้านหลังเสร็จแล้วเธอก็ไว้ใจให้ทิวเช็ดด้านหน้าของเธอด้วย
“ทิว จักรยานของเธอน่ะ ทำครูเจ็บรู้ไหม”
“หรอครับ” ทิวทำหน้างง
“ก็ไอ้ที่ซ้อนมันไม่มีเบาะ ครูนั่งมาก้นระบมเลย”
เธอชวนทิวคุยเพิ่มความสนิทสนม
“ตรงนั้นไม่ต้องจ้ะ ครูทำเอง”
ญาดารับผ้ามาเช็ดเนินน้อยของเธอเองด้วยความอายที่จะต้องให้เด็กชายมาเช็ด เธอให้ทิวหยิบชุดนอนให้เธอ
“ทิว…ขอบใจเธอมากนะที่ช่วยครู ค่ำป่านนี้แล้ว ครูว่าเธอนอนที่นี่ไหม”
ครูสาวเอ่ยด้วยความรู้สึกขอบคุณและเป็นห่วง
“เธอบอกว่ากลางคืนห้ามไปไหนคนเดียวไม่ใช่หรอ”
“ครับ ผมก็อยากนอนที่นี่ครับแต่…“
สายตาทิวเหลือบมองไปทางห้องด้านขวาของห้องเธอ ห้องด้านขวาอีกแล้ว สายตาเด็กชายเหมือนสายตาของลุงมีที่เธอเห็นในวันแรก หวาดหวั่น…
“มีอะไรหรอจ้ะ…ห้องนั้นน่ะ ทิว”
เด็กชายสะดุ้งหันกลับมามองหญิงสาว
“ไม่…ไม่มีอะไรครับครู ครูจะให้ผมนอนไหนครับ”
ญาดามองไปรอบๆห้องเล็ก นอนจากฟูกเธอแล้วไม่มีตรงไหนเลยที่น่าจะนอนสบาย
“นอนติดครูนี่ล่ะ แบ่งหมอนกับผ้าห่มคนละครึ่ง”
ญาดาเชื่อใจเด็กชายเพราะเห็นเขาเช็ดตัวเธออย่างไม่มีอะไรเคลือบแฝง
“เอ่อ…แต่”
“จ้ะ?”
“ผมตัวเหม็นนะครับครู”
“มาเถอะน่า”
ครูสาวดึงเด็กชายเข้ามานอนติดกันใต้ผ้าห่ม ทิวนอนใจเต้นตึกตักอยู่ใต้ผ้าห่ม ครูคนสวยของเขาหลับไปแล้ว ทั้งสองอยู่ในท่านอนตะแคงไปทางเดียวกัน ญาดานอนกอดทิวหลับหายใจสม่ำเสมอ หน้าอกนุ่มนิ่มของเธอเบียดกับหลังศีรษะของเด็กชาย เขาไม่เคยนอนกับแม่ หรือผู้หญิงคนใดมาก่อน เด็กชายมีความสุขกับกลิ่นกายหอมและผิวนุ่มละมุนของเธอ เขาพลิกตัวกลับไปประกบกับเธอ หน้าของเด็กชายซุกลงกลางอกนุ่มหอมอย่างหาไออุ่น ญาดาสะดุ้งตกใจนิดหนึ่ง เมื่อเห็นเด็กชายหลับซุกอกเธอจึงยิ้มน้อยๆและนอนต่อไป…