ครูสาว - ตอนที่ 20
ครูสาว ตอนที่ 20
จากวันนั้นเวลาผ่านมาหนึ่งเดือน อาการโดนของจากหมอผีวิตถารก็ค่อยคลายลง ตาเบิ้มไม่ได้โผล่หน้ามาให้เธอเห็นตั้งแต่เสร็จพิธี แกไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเพราะตื่นเต้นและหมดเรี่ยวแรงไปเสียก่อน ซึ่งมันก็เป็นการดีสำหรับเธอ ข่าวสุดท้ายคือแกหนีหนี้ก้อนโตโดยข้ามไปฝั่งเขมร
โรงเรียนบ้านโคกสวาทวันนี้ทุกชีวิตดำเนินไปตามปกติ เว้นแต่เจ้าไม้ลูกศิษย์คนโปรดของเธอนั้นพ่อแม่รับตัวไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ เหลือแต่เจ้าทิวคู่หู และครูใหญ่สมควรที่ดื่มหนักจนเข้าโรงพยาบาล ลูกชายแกเลยมารับตัวไปพักฟื้นในตัวจังหวัด ทำให้เธอต้องรักษาการณ์ครูใหญ่ และรับภาระต่างๆในการบริหารจัดการโรงเรียนแทน ซึ่งเมื่อเคยชินแล้วก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่นัก
“ครู…ครูหญิงครับ…ครู”
เสียงห้าวๆเรียกชื่อเธออยู่หน้าอาคารเรียน ขณะที่เธอกำลังเก็บของและตรวจความเรียบร้อยก่อนกลับที่พัก
“อ้าว…ผู้ใหญ่ มีธุระอะไรหรอคะ”
“ครูกำลังจะกลับหรอครับ เดี๋ยวผมไปส่งครูที่บ้านพัก” เขากุลีกุจอให้เธอซ้อนท้าย
“ขอบคุณค่ะผู้ใหญ่”
เมื่อมาถึงบริเวณบ้านพักครู ญาดาชวนผู้ใหญ่ไปนั่งคุยที่ม้านั่งใต้ร่มไม้บริเวณใกล้ๆ บรรยากาศชายป่ายามเย็นร่มรื่นลมพัดเย็นสบาย
“ว่าแต่ ผู้ใหญ่มีธุระอะไรหรอคะ”
เธอเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ผู้ใหญ่สมิงซึ่งกำลังนั่งมองหน้างามนั้นอย่างเพลิดเพลิน สะดุ้งเล็กน้อย
“โอ๊ะ…ใช่ๆ คืองี้ครับครู”
“มีค่ายอาสามหาวิทยาลัย เขาจะมาช่วยสร้างอาคารเรียนใหม่ให้น่ะครับ ผมเลยจะมาปรึกษาครู” เขาเอ่ยเป็นงานเป็นการ
“ปรึกษาทางศึกษาฯอำเภอจะดีกว่าไหมคะ”
ครูสาวกลัวว่าจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตา ขณะที่ผู้ใหญ่โบกไม้โบกมือ
“ปรึกษาครูหญิงน่ะดีแล้วครับ สำหรับทางโน้นน่ะติดต่อแล้วไม่มีปัญหาอะไร ดีซะอีกได้อาคารเรียนฟรี” ผู้ใหญ่หัวเราะเบาๆ
“เขามากันเมื่อไหร่คะ กี่คน แล้วจะมาอยู่นานไหม”
“มาอาทิตย์หน้า ประมาณยี่สิบคนครับ เรื่องที่พักครูไม่ต้องเป็นห่วง ไปกางเต๊นท์กันที่หน้าลานบ้านผมได้ แต่…“ เขาทำท่าลังเลว่าจะพูดดีหรือไม่
“มีอะไรหรอคะ ผู้ใหญ่” เธอสงสัยในท่าทีของเขา
“ผมบอกว่าให้นักศึกษาทั้งหมดที่มาเป็นผู้ชาย เพราะว่าถ้าเป็นสาวๆ โดยเฉพาะสาวบริสุทธิ์แล้ว ท่านผีแก่ไม่ชอบ”
ท่านผีแก่อีกแล้ว…ครูสาวสะดุ้งกายนิดหนึ่ง จิตประหวัดไปถึงคำบอกเล่าของครูใหญ่และผู้ใหญ่เกี่ยวกับเจ้าที่ประจำหมู่บ้าน
“ค่ะ…เข้าใจแล้วค่ะ แล้วผู้ใหญ่ต้องการให้หนู…”
“อ๋อ…ไม่มีอะไรมากหรอกครับครู คือผมอยากจะให้ครูเก็บเรื่องประหลาดๆที่นี่ไว้เป็นความลับ พวกเขาจะได้ทำงานกันอย่างสบายใจ เสร็จงานเขาก็ไป คงจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น”
ผู้ใหญ่กล่าวเสียงอ่อนเชิงขอร้อง
“ค่ะ…ได้ค่ะ หนูเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน”
เธอกล่าวพลางเหม่อมองไปไกล ขณะที่ผู้ใหญ่สมิงมองหน้าเธออย่างเห็นใจ
“มายี่สิบคนเชียวเหรอครับครู ตายละวา จะหาข้าวหาปลาให้กินกันยังไงนี่”
ตามีส่ายหัว ท่าทางหนักใจที่ต้องต้อนรับแขกจำนวนมาก
“คงไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะลุง ทางผู้ใหญ่คงจัดการรับรองได้ล่ะ ทางเราแค่อำนวยความสะดวกในการก่อสร้าง”
ครูคนสวยพูดไปพลางตักน้ำพริกใส่จานข้าว เธอฝากท้องกับลุงมีทุกวัน ทุกมื้อเพราะงานที่โรงเรียนนั้นยุ่งจนไม่มีเวลา เธอจะให้เงินลุงมีไปจ่ายตลาดทำกับข้าวกินกันสองคน ลุงมีมองสาวน้อยตรง หน้า โดยปกติแกรักเอ็นดูครูญาดาเหมือนลูกหลาน แต่หลายครั้งที่อารมณ์ฝ่ายต่ำทำให้จิตใจแกเตลิดเปิดเปิง เช่นขณะนี้ที่แกกำลังจ้องดูเรียวขาอ่อนและกางเกงในสีขาวเพราะเธอใส่กระโปรง สั้นนั่งพับเพียบอยู่ต่อหน้าแก ทำให้กินข้าวไปกลืนน้ำลายไป
“มิ่งไม่ได้มาเยี่ยมบ้างหรอคะ…ลุง”
ญาดาชวนคุย แต่เมื่อสังเกตว่าลุงมีเงียบไป สายตาจ้องลงมาที่เนื้อเนินของเธอเหมือนจะกินเป็นของหวาน ความรู้สึกวูบวาบที่จางหายไปนานเริ่มประทุขึ้นอีกครั้ง เธอต้องหยุดมันก่อนที่จะลุกลามต่อไป ครูสาวรวบช้อน ขยับกายลุกขึ้นไปล้างจาน ลุงมีมองตามอย่างเสีย ดาย หลังจากที่ได้ทำพิธีถอนของแล้ว ครูคนสวยของแกดูขรึมและระวังตัวมากขึ้น ซึ่งแกเองก็เข้าใจ แต่ยังไงแกก็จะหาโอกาสงามๆเพื่อเผด็จสวาทเธออีกครั้ง…อีกครั้ง
……………………………………………………….
รถบัสขนาดกลางเลี้ยวเข้ามาจอดบริเวณลานหน้าโรงเรียน นักศึกษาหนุ่มฉกรรจ์กว่ายี่สิบคนทยอยลงจากรถส่งข้าวของกันเสียงเอะอะ เอ็ดตะโร พวกเขาหันไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งสวมแซกสั้นสีชมพูเหนือเข่าเกือบสองคืบ กับชายกลางคนร่างใหญ่และชายชราหัวล้านเดินตรงมาที่รถ
“เฮ้ยๆ…แม่ง ดูดิวะ”
“นางไม้กลางป่าว่ะ”
“กูว่านางฟ้า”
“เฮ้ยคนนี้กูจอง”
“ไอ้สัตว์แล้วเมียมึงล่ะ”
ฯลฯ เสียงซุบซิบระงมนั้นจางลงเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้
“เดินทางมาเหนื่อยไหมครับ ทุกคน ยินดีต้อนรับสู่บ้านโคกสวาท ผมชื่อสมิง เป็นผู้ใหญ่บ้าน”
เสียงห้าวกังวานทำให้บรรยากาศเซ็งแซ่ดูเป็นงานเป็นการขึ้นทันที ทุกคนที่ลงจากรถพนมมือไหว้ทักทายเขา
“สวัสดีครับผู้ใหญ่ ผมชื่อเดชาครับ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของค่าย ขอขอบคุณผู้ใหญ่อีกครั้งนะครับ สำหรับความร่วมมือ”
อาจารย์กลางคนร่างอ้วนแนะนำตัว พลางรับไหว้ครูญาดา และลุงมี
“ทางเราสิครับที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ อ้อ นี่ครูญาดาครับ เธอรักษาการณ์ครูใหญ่ที่นี่” ผู้ใหญ่ผายมือแนะนำเธอ
“ยินดีที่ได้รู้จักอาจารย์ และทุกคนนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่ให้ความกรุณากับเด็กๆที่นี่”
ครูสาวพูดแล้วยิ้มหวานจนหนุ่มๆแต่ละคนมองตาค้าง
“เอาละครับ เอาของลงและสำรวจดูสถานที่ก่อสร้างสักหน่อย แล้วเดี๋ยวไปทานข้าวเย็น พักผ่อนที่บ้านผม ตามสบายครับทุกคน”
ผู้ใหญ่สมิงเอ่ยก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่
“คุณครูญาดามาอยู่ที่นี่นานหรือยังครับ”
อาจารย์เดชาชวนคุย ทั้งสองนั่งที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ มุมหนึ่งของลานโรงเรียน เธอมองไปยังเด็กหนุ่มที่เดินไปมาขนของและสำรวจสถานที่ ส่วนอาจารย์นั้นมองเรียวขาเนียนและหน้าอกอิ่มของครูสาว
“ไม่นานค่ะ ประมาณสามเดือน”
“อ่าว หรอครับ ตอนแรกผู้ใหญ่บอกว่าเป็นรักษาการณ์ครูใหญ่ ผมนึกว่าจะอายุมาก ไม่นึกว่าจะเป็นสาวสวย” อาจารย์เริ่มออกลาย
“ขึ้นรถเถอะค่ะ ผู้ใหญ่โบกมือเรียกแล้ว จะได้ไปพักผ่อนนะคะ มาเหนื่อยๆ”
เธอยิ้มพลางเสหลบคำพูดแย๊ปของอาจารย์เดชา
“แล้วครูไม่ไปด้วยกันหรอครับ”
ท่าทางเขาผิดหวัง ทั้งสองกำลังเดินไปที่รถ พวกนักศึกษาขึ้นไปรอกันหมดแล้ว ทุกคนมองครูคนสวยอย่างยังไม่เชื่อว่าจะได้พบเจอที่นี่
“ไม่ดีกว่าค่ะ ดิฉันขอดูแลอะไรๆทางนี้ให้มันเรียบร้อยดีกว่า”
เธอหยุดส่งอาจารย์เดชาที่ประตูรถบัส
“ได้ครับ งั้นเจอกันพรุ่งนี้ครับครู”
ครืดดดดดด…ครูสาวเพิ่งขึ้นมาจากห้องน้ำ เธอกำลังนั่งเช็ดผมที่เริ่มหมาด เธอชะงักเมื่อได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากห้องทางขวา ถ้าเป็นเสียงจากห้องทางซ้ายเธอคงไม่แปลกใจเท่าไรนักเพราะอาจจะเป็นญาติหรือ ตัวครูใหญ่สมควรมาเก็บข้าวของ แต่นี่…
ครืดดดด…เธอหยุดเช็ดผม สายตาตระหนกเหลือบมองไปยังผนังด้านขวา ลุงมีบอกตั้งแต่เธอย้ายเข้าว่าห้องขวาเป็นห้องปิดตาย แต่ทำไม…ครืดดดด…เสียงดังขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม มันไม่ใช่เสียงสัตว์จำพวกหนูหรือนก แต่ฟังเหมือนคนกำลังลากของหนักๆไปบนพื้น ครูสาวขนลุกซู่ ตอนนี้มืดแล้ว และเธอก็อยู่คนเดียวในเรือนพักครูคร่ำคร่านี้…ไม่ต้องรอให้ได้ยินอีกครั้ง เธอลุกขึ้นวิ่งลงบันไดไปทางกระต๊อบลุงมีอย่างเร็วที่สุดในชีวิต
“ลุง…ลุงมี…ลุงมีคะ”
เสียงพูดพลางหอบพลางของครูสาว ปลุกลุงมีให้งัวเงียลุกออกมา พอเห็นเธอเข้าแกก็กลับตาสว่าง ร่างขาวโพลนมีเพียงผ้าขนหนูผืนสั้นพันกาย กลิ่นสบู่อ่อนๆโชยตามลมกระตุ้นอารมณ์หวาม แต่แกยังงงๆว่าทำไมเธอจึงมาหาแกตอนนี้ ในสภาพนี้
“มีอะไรหรอครับ”
“หนู…หนูได้ยินเสียง…” เธอลดเสียงเบาลงเป็นกระซิบ
“เสียงดังมาจากห้องขวาค่ะ” ลุงมีถึงกับตาเบิกโพลง
“จริงหรอครับ อา…สงสัยเพราะวันนี้คนแปลกหน้ามาเยอะ” คำพูดแกทำให้ครูสาวยิ่งงง
“เอาเถอะครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังทีหลัง แต่นี่มันดึกมากแล้ว”
“หนูไม่กลับไปคนเดียวนะลุง…น่ากลัวจะตาย”
ขนอ่อนที่แขนขาเธอลุกชัน ลุงมีเลียปากช้าๆ
“อืมมม…งั้นก็มีทางเดียว ครูนอนซะที่นี่ล่ะครับ นอนในเพิงเดี๋ยวผมนอนบนแคร่ข้างนอก”
แกอ่อยเหยื่อให้เธอตายใจ แต่ในสมองคิดแผนการเผด็จสวาทสาวน้อยอีกครั้ง
“จะดีหรอคะ หนูต้องมาแย่งที่นอนลุง เกรงใจจัง”
“เอาเถอะๆ ถ้าดึกๆน้ำค้างลง ผมอาจจะขอเข้าไปนอนในเพิงนะครับ นอนมุมๆริมๆครูไม่ต้องกลัว”
แกดูเกรงอกเกรงใจครูคนสวยเหลือเกิน ทั้งที่ในใจอยากจะฟัดเธอให้เต็มที่
“ที่นอน หมอนเหม็นหน่อยนะครับ ถ้ารู้ว่าครูจะมา ผมจะได้ไปซักให้เรี่ยมเลย”
แกพูดพลางหัวเราะเพื่อให้ญาดาคลายความหวาดผวา
“ลุงเล่าสาเหตุให้ฟังหน่อยสิคะ”
เธอถามขณะนั่งลงบนที่นอนดำมอมอย่างไม่รังเกียจ หน้าตาสงสัยใคร่รู้
“เล่าตอนกลางคืน ไม่ดีหรอกครับ ผมก็กลัว ยิ่งเดี๋ยวผมต้องออกนอนไปข้างนอกด้วย” แกแกล้งพูดให้เสียงสั่น
“งั้นนอนซะข้างในด้วยกันนี่ล่ะค่ะ ที่นอนลุงก็ออกกว้าง”
เธอเอ่ยชวนทำให้จิ้งจอกชราลอบยิ้มในใจ
“แต่ผมก็ยังไม่เล่านะครับ พรุ่งนี้เช้าผมจะอธิบายให้ครูฟังเอง”
ลุงมียืนกราน ครูสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ทั้งสองล้มตัวลงนอน แต่จะได้นอนหรือ ลุงมีเลียปากพลางชำเลืองดูครูสาวที่นอนหันหลังให้ เนื้อเข้ามาถึงปากอย่างนี้แล้ว…