ครูสาว - ตอนที่ 18
ครูสาว ตอนที่ 18
แสงตะวันยามเย็นสาดส่องต้องร่างงามของครูสาวคนสวย ตอนนี้เธอนั่งเล่นอยู่บนแคร่หน้ากระท่อมของลุงมี สองพ่อลูกกำลังทำงานง่วนอยู่ไม่ห่างนัก สายตาแอบมองครูสาวเป็นระยะ ญาดาเหม่อมองไปไกลในใจหวนนึกถึงวันที่เธอก้าวเท้าเข้ามาในหมู่บ้านนี้วันแรก ชะตากรรมพลิกผันจากสาวน้อยใสซื่อ มาเป็นสาวร้ายผู้ร้อนรักไปได้อย่างไร เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อหันไปก็เห็นมิ่งลูกชายของลุงมีเดินยิ้มเข้ามาแล้วนั่งลงบนแคร่ข้างๆเธอ
“ครูเป็นอะไรหรือปล่าวครับ หน้าตาไม่ค่อยสบายเลย”
มิ่งถามขณะสังเกตมองหน้าหวานของครูสาว
“เอ่อ…ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”
เธอหลบสายตาคมกริบและใบหน้าคมเข้มที่ทำให้จิตใจของเธอเริ่มหวั่นไหว
“อย่าไปคิดอะไรมากเลยนะครับ พวกเราดีใจที่ครูปลอดภัย”
มิ่งยิ้มให้ครูสาวอย่างปลอบโยน เธออมยิ้มและหลบสายตาลง ร่างเปลือยท่อนบนสีทองแดงของมิ่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม ไหล่ใหญ่หนาและหน้าท้องที่แข็งเกร็ง กล้ามท้องเป็นลูกๆและไรขนที่สะดือ ดกดำลงไปใต้ผ้าขาวม้านุ่งหยักรั้งของเขา ครูสาวหน้าแดงจิตใจปั่นป่วนอย่างไม่รู้สาเหตุ
มิ่งเห็นครูสาวไม่ตอบอะไรจึงไม่อยากเซ้าซี้รบกวนเธอมากนัก เขาชวนเธออยู่กินข้าวร่วมกับเขาและพ่อ ก่อนจะขอตัวเดินเข้าชายป่าไปเก็บฟืน ญาดามองตามร่างใหญ่แข็งแรงของเขาไป ก่อนจะได้ยินเสียงคุ้นหูกระซิบอยู่ข้างๆ
“สนใจไอ้มิ่งหรือครับครู ผมเห็นครูมองมันตาเยิ้มเลย ฮ่าๆๆๆ”
ลุงมีนั่นเอง แกโผล่มาจากไหนไม่รู้มานั่งกระซิบอยู่ใกล้ๆ
“ลุง…พูดอะไรอย่างนั้นคะ หนูก็ดูอะไรไปเรื่อย…”
คำพูดของหญิงสาวค้านกับใบหน้าที่แดงก่ำเป็นลูกตำลึง
“ฮ่าๆๆๆ…”
ลุงมีหัวเราะร่า แกเย้าครูสาวเล่นแต่มือหยาบสากเลื่อนไปวางบริเวณขาอ่อนขาวเนียนของเธอ
“ลุง…อย่าสิคะ”
ครูสาวพยายามแกะมือลุงมีออกขณะที่ตาเธอมองไปทางชายป่าที่มิ่งเพิ่งเดินหายลับไป
“ไอ้มิ่งมันไม่กลับออกมาง่ายหรอกครับ มามะ ให้คนแก่ชื่นใจอีกสักที”
ปากพูดจมูกดำๆและลิ้นหยาบสากก็ไซร้ซอนไปที่ซอกคอขาวผ่อง แกใช้ปากดูดติ่งหูเล็กเบาๆ ก่อนจะแยงลิ้นเข้าไปในรูหู ครูคนสวยขนลุกตัวอ่อนระทวย ลีลาของภารโรงเฒ่าทำให้ไฟสวาทของเธอเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง…
“ไอ้มี…วู๊…ไอ้มีโว้ย”
เสียงห้าวทุ้มดังใกล้เข้ามาจากชายป่าอีกด้าน ทำให้ครูญาดาเด้งตัวออกห่างจากการโจมตีของลุงมีอย่างอัตโนมัติ ตาเบิ้มเกลอแก่ของแกนั่นเอง เขาหยุด ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างบางขาวเนียนนั่งอยู่ร่วมแคร่กับเพื่อนที่ตั้งใจ มาหา สายตาหื่นกามของตาเบิ้มเร่าร้อนรุนแรงกว่าลุงมีมากนัก ยิ่งแกได้ข่าวมาว่าเธอเป็นเหยื่อของหมอผีเฒ่ายอทูเลในการทำพิธีสุดวิตถาร แล้ว แค่จินตนาการบวกกับร่างงามตรงหน้า ลำควยแกก็เริ่มกระดกดิ้นด้วยอารมณ์ปารถนา
“มาทำไมวะไอ้เบิ้ม”
ลุงมีถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ เพราะขัดจังหวะอันสุนทรีย์ของแก
“เพื่อนกัน แวะมาหากัน ทำไมต้องมีเรื่องอะไรด้วยวะ ฮ่าๆๆ”
ที่แท้แกรู้ว่าลุงมีไปรับครูสาวกลับมาจากบ้านผู้ใหญ่ มันเลยมาหาเผื่อว่าจะเจอ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ตาเบิ้มถือวิสาสะนั่งลงตรงกลางระหว่างลุงมีกับครูสาว ร่างอ้วนใหญ่เบียดทั้งสองแทบตกแคร่ ลุงมีรีบลุกขึ้นเอะอะเอ็ดตะโร
“มึงจะมานั่งอะไรตรงนี้วะ แคร่กูนิดเดียว เดี๋ยวหักไปจะทำยังไง”
“เอาน่า มึงก็ลุกให้แขกนั่งน่ะถูกแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
ปากพูดแต่ยังไม่ยอมเขยิบไปตรงที่ว่าง ร่างอวบหนาเบียดญาดาจนก้นจะหลุดจากแคร่ มือสากๆนั้นคว้าโอบเอวบางของเธอไว้
“ระวังตกนะครับครู ถ้ายังไง มานั่งตักผมก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆ”
คำพูดของตาเบิ้มทำให้ลุงมีถึงกับขบกรามกรอด ญาดาเห็นท่าไม่ดี เลยรีบลุกขึ้นบ้าง ตาเบิ้มขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ ก่อนที่จะล้วงกระเป๋าหยิบบุหรี่ขึ้นจุดสูบ
“เมื่อเที่ยงข้าเจอผู้ใหญ่สมิงที่ตลาด เขาฝากข้ามาเตือนครู”
น้ำเสียงของตาเบิ้มเป็นงานเป็นการ ตาคบกริบจ้องจับที่ตาคู่สวย
“ผู้ใหญ่ฝากมาบอกว่า ที่ครูโดนไอ้หมอผีเฒ่านั่นทำวิตถาร เป็นความโชคดีของครู”
“โชคดี? หนูทรมานเกือบตายนั่นน่ะหรือคะโชคดี?” ครูสาวเอ่ยถามเสียงสูงอย่างไม่เข้าใจ
“ใจเย็นๆสิครู ฟังก่อน” ตาเบิ้มยกมือโบกพลางยิ้ม
“ผมกับผู้ใหญ่ไม่ได้พูดซ้ำเติมครู แต่ที่แกบอกอย่างนั้นก็เพราะว่า ถ้าครูยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ครูอาจจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน”
คำพูดของตาเบิ้มทำให้ลุงมีพยักหน้าคล้อยตาม
“จริงว่ะ ท่านผีแก่ ท่านคงเอาครูไปอยู่ด้วย”
ลุงมีพูดเสริมขึ้นทำให้ครูสาวยิ่งงง มองหน้าตาเฒ่าทั้งสองสลับกันไปมา
“ครูครับ ที่นี่น่ะมีอะไรที่มองไม่เห็น แต่สามารถทำอะไรเราได้อยู่เยอะ ครูอยู่ๆไปจะเข้าใจไปเอง” ลุงมีหันมาอธิบายกับเธอ
“ผู้ใหญ่ฝากมาให้ครูไป”ถอน”ของกับผม” ตาเบิ้มพูดกับครูสาว
“เออ ก็ดีว่ะ” ลุงมีพยักหน้าเห็นด้วย
“คืองี้ครับครู ไอ้เบิ้มเห็นอย่างนี้ มันมีวิชาพวกถอดถอนอาคมมนต์ดำได้เก่ง ถ่ายทอดมาประจำตระกูล ถึงอาจจะถอนอาคมได้ไม่หมด ก็ยังดีกว่าให้มนต์กาลีของไอ้หมอผีเฒ่าอยู่ในตัว จริงไหมครับครู”
“แล้วหนูต้องทำยังไงคะ”
สาวสวยเริ่มคล้อยตาม เธออยากหลุดพ้นจากกองไฟราคะกองใหญ่ที่สุมฟอนจิตใจอยู่ทุกนาที
“คืนนี้แรม 7 ค่ำพอดี ถ้าครูสะดวก ก็ทำได้วันนี้เลย”
ตาเบิ้มแหงนหน้าดูฟ้าสีแดงยามพลบค่ำ แล้วหันมาถามเธอ
“ดีไหมครับครู?” หญิงสาวรีบพยักหน้า
“ถ้างั้นครูตามผมมาเลย กว่าจะถึงโน่น พระจันทร์คงขึ้นพอดี”
ตาเบิ้มขยับตัวลุกเดินนำครูสาวเข้าป่าทางเดียวกับที่แกเดินออกมา ลุงมีชะเง้อคอมองตาม หลังอย่างห่วงใย
พระจันทร์ขึ้นแล้ว…ครูสาวคนสวยกับตาเฒ่าหื่นร่างท้วมมาถึงปะรำพิธีบริเวณ ริมป่าช้า บรรยากาศวังเวงหวีดหวิวจับใจ เธอหันมองไปรอบๆอย่างหวาดๆ ตาเบิ้มก้มไปหยิบถุงกระดาษเอาข้าวของสำหรับทำพิธีออกมา แกปูผ้าขาวลงกับพื้น ปากก็พูดกับสาวน้อยตรงหน้า
“ถอดเสื้อผ้าออกครับ แล้วนอนลง”
“คะ? ทำไม…ทำไมต้องถอดคะ”
ครูสาวตาโต เอามือทาบอกอวบอิ่มอย่างตกใจปนหวาดระแวง
“ตอนของมัน”เข้า”ครูอยู่ในสภาพเปลือยใช่ไหมครับ ทีนี้เวลาจะถอน”ออก”ให้มากที่สุด ครูก็ต้องเปลือยเหมือนกัน”
ตาเบิ้มอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผลแต่ในใจที่แท้จริงนั้น นอกจากจะทำพิธี”ถอน”แล้ว แกยังหวังที่จะ”ฝัง”ลำควยอวบอ้วนลงไปในร่องน้อยของสาวหวานใสหยาดเยิ้มที่ อยู่ตรงหน้าด้วย
ญาดาถอนใจเบาๆ หลับตาลงเริ่มถอดเสื้อผ้าช้าๆ ต่อหน้าตาเบิ้มที่ทยอยจุดเทียน 7 แท่งล้อมพิธีเป็นวง ร่างเปลือยขาวโพลนต้องแสงเทียนงดงามจับใจ แม้จะมีร่องรอยแผลการบาดเจ็บหลายที่ แต่ยิ่งทำให้รู้สึกน่าขย่มขยี้มากขึ้นไปอีก สายตาหื่นกามมองไปที่อกคู่สวย ปลายยอดสีชมพูงอนเช้งชี้หน้าเฒ่าหื่นเหมือนท้าทาย หน้าท้องแบนราบนวลเนียน ขนไหมดำขลับเป็นพงพุ่มสวยงาม ตาเบิ้มมองน้ำลายแทบหยด ลำควยอ้วนแข็งเกร็งตุงโด่เต็มกางเกง แกต้องพยายามห้ามใจเพื่อทำพิธีให้กับเธอก่อน ส่วนเรื่องอื่นนั้นต้องเอาไว้ที่หลัง…