กามอลเวง - ตอนที่ 7 ความหลังของน้องนุ๊ก
ปรี๊นๆ เสียงแตรของรถเบนต์สีดำจอดอยู่หน้าคฤหาสน์ของท่านไพโรจน์นักธุรกิจส่งออกรายใหญ่ และเมื่อรอครู่ใหญ่ๆก็ไม่มีใครออกมาเปิด คนขับรถก็กดแตรอีกครั้ง
ปรี๊นๆๆๆ เสียงแตรที่ดังสนั่นหน้าบ้านทำให้ทั้งน้องเอื้อยและนายพลต่างสะดุ้งตื่นรีบพากันวิ่งออกมาดูที่หน้าต่าง
“เฮ้ยนั่นยัยภากลับมาแล้ว ถ้ายัยภาขึ้นมาเห็นชั้นอยู่สภาพแบบนี้กันนายน่ะนะ ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน เร็วรีบแต่งตัวเร็วๆ” น้องเอื้อยรีบวิ่งมาหอบเสื้อผ้าแล้วสวมใส่อย่างรีบร้อน โดยที่นายพลก็เร่งแต่งตัวเช่นกัน
“ผมก็เหมือนกันน่าครับคุณเอื้อย ถ้านายท่านรู้เข้าผมโดนไล่ออกแน่ๆ” ทั้งคู่รีบแต่งตัวแบบลวกๆแล้วพากันจัดห้องของภาวิณีให้อยู่ในสภาพเดิม
ปรี๊นๆๆๆๆๆ “ไอ้พลหายหัวไปไหนนะไม่มาเปิดประตูซะที” นายต๊ะบ่นหัวเสียที่ไม่เห็นเพื่อนคนสวนมาเปิดประตู
“เดี๋ยวผมออกไปเปิดประตูก่อนนะครับ” นายต๊ะหันมามองตรงกระจกมองหลังเพื่อถามนายสาว
“ค่ะ” ภาวิณีตอบเพียงสั้นๆ
เธอไม่กล้าแม้สบตากับนายต๊ะเลยแม้แต่น้อย ได้แต่คิดในใจมาตลอดว่าทำไมเธอถึงได้ยอมลดตัวไปมีอะไรกับคนขับรถของพ่อเธอได้ ครั้งแรกพอจะมีข้ออ้างว่าเค้าบุกเข้ามาในห้องนอนแล้วโดนนายต๊ะหลอกเปิดซิงไป แต่วันนี้นี่สิ เธอกลับโอนอ่อนไปตามลีลาของเค้า ไม่ว่านายต๊ะจะจับทำท่าไหนเธอก็สนองให้หมด แถมยังต้องอมของลับให้มันอีก จนนายต๊ะสบายตัวไปถึง 3 รอบ ส่วนเธอนั้นนับไม่ถ้วน
เมื่อประตูบ้านเปิดออกนายต๊ะก็รีบขับรถเข้ามาจอดในโรงรถ แล้วรีบวิ่งออกมาเปิดประตูให้ภาวิณีและจะประคองเธอ แต่ภาวิณียกมือห้ามไว้
“อย่าค่ะพี่ต๊ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ภาวิณีบอก แต่ดูเหมือนนายต๊ะจะไม่สนใจที่ภาวิณีห้ามปราม มันเข้าไปโอบเอวของภาวิณีด้านหลังแล้วพยุงให้เธอเดิน
“ไม่มีใครเห็นหรอกครับ รถนายท่านก็ไม่อยู่ ไอ้ต๊ะก็ไม่รู้หายหัวไปไหน คนอื่นๆก็อยู่ในครัวกันหมด” นายต๊ะบอก แต่ภาวิณีก็พยายามดึงมือของมันออก
“แต่ นั่นรถของเอื้อยนิคะ อย่าเลยนะพี่ต๊ะ เดี๋ยวเอื้อยเห็นจะสงสัยเอา ภาเดินเองนะพี่ต๊ะ” นายต๊ะจึงจำใจยอมปล่อยมือ ปล่อยให้นายสาวสุดสวาทของมันเดินขึ้นไปบนบ้านตามลำพัง ก่อนจะเดินกลับห้องไปอย่างอารมณ์ดีที่ได้เสพสุขกับภาวิณีนายสาวแสนสวยจนหนำใจ และมันมั่นใจเต็มร้อยว่านายสาวคงติดใจรสสวาทของมันแล้ว ตราบใดที่มันยังคงทำงานอยู่ที่นี่ มันจะได้เชยชมร่างงามๆของสาวสวยคนนี้จนอิ่มเอมแน่นอน
“เอื้อย ๆ” เสียงภาวิณีเรียกหาเพื่อนสาว
“อยู่นี่ เอื้อยอยู่นี่” เอื้อยพยายามทำสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็ดูสั่นๆเล็กน้อย
ทั้งน้องเอื้อยและนายพลเมื่อจัดห้องและเตียงนอนจนเรียบร้อยต่างก็รีบวิ่งลงมาชั้นล่างได้ทัน โดยที่นายพลวิ่งออกไปทางหลังบ้านได้อย่างฉิวเฉียดก่อนที่ภาวิณีจะเข้ามาเพียงแค่นิดเดียว
“เป็นอะไรไปน่ะเอื้อย เหงื่อโทรมเชียว” ภาวิณีร้องทักเพราะใบหน้าของน้องเอื้อยมีแต่เม็ดเหงื่อ เสื้อผ้านักศึกษาก็เปียกชุมไปด้วยเหงื่อ
“อ๋อ ตะกี้ชั้นเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านมา มันร้อนนิดหน่อยเหงื่อเลยออก” น้องเอื้อยหาข้อแก้ตัวก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เพื่อนสงสัย
“แล้วเธอเป็นไงบ้างอะ ชั้นไม่เห็นแกไปเรียนเลยมาหา เห็นคุณพ่อบอกว่าแกป่วยเหรอ หมอบอกว่าเป็นอะไรเหรอ” คำถามของเอื้อยทำเอาภาวิณีไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออ้ำอึ้งนิดหนึ่งก่อนจะตอบเอื้อย
“เป็นไข้นิดหน่อย ไม่เป็นไรมากหรอก พักผ่อนเดี๋ยวก็หาย” ภาวิณีแก้ตัวบ้าง
“งั้นเหรอ ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว งั้นเรากลับก่อนนะ แกจะได้พักผ่อน”
“อื้มชั้นก็จะขึ้นไปนอนพักซักหน่อย ไม่ส่งนะ” แล้วภาวิณีก็ค่อยๆเดินขึ้นบันได เอื้อยเองแอบสังเกตว่าภาวิณีตอนเดินขึ้นบันไดดูเธออาการแปลกๆ เดินกางขาค่อยๆขึ้นบันไดทีละก้าวๆ อย่างโซซัดโซเซไร้เรี่ยวแรง ทำท่าว่าจะล้มตกบันได เอื้อยจึงรีบวิ่งไปพยุงเพื่อนรักของตน
“ชั้นพาแกขึ้นไปห้องก่อนละกันแล้วค่อยกลับ” ภาวิณีพยักหน้า
เอื้อยรู้สึกสงสัยในอาการของเพื่อน เพราะมันดูคุ้นๆยิ่งนัก และเมื่อเอื้อยพยุงร่างอันไร้เรียวแรงของภาวิณีนอนลงบนเตียงได้แล้วสำเร็จ ความสงสัยที่มีมากมายก็เกินที่จะอดใจไหว เธอจึงเอ่ยถามเพื่อนรักของตนตรงๆ
“ภา ชั้นถามแกตรงๆนะ แกโดนเปิดซิงแล้วใช่ปะ” คำถามของเอื้อยทำเอาภาสะดุ้งทันทีและเผลอบอกความจริงออกไป
“เอื้อย นี่เธอรู้ได้ไง คือเรา…เออ…เรา” ภาวิณีอ้ำอึ้งและอายไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เอื้อยฟัง
“นี่ยัยภา แกจะอายอะไรชั้นฮึ เราไม่ใช่เพื่อนรักกันเหรอไง ทีชั้นยังเล่าเรื่องของชั้นให้เธอฟังจนหมดเลย” เอื้อยทำท่างอนแล้วหันหลังทำท่าจะเดินกลับ
“ก็ได้เอื้อยชั้นบอกแล้ว ใช่ๆชั้นไม่ซิงแล้ว ชั้นมีอะไรกับผู้ชายแล้ว พอใจยังอะ” ภาวิณีร้องตอบ
“โหยภา ไหนตอนแรกเธอยืนยันมั่นใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ายังไงก็จะเก็บเอาไว้ในวันแต่งงานไง ไหงมาตบะแตกได้ล่ะ แล้วนี่ใครเป็นคนโชคดีคนนั้นเหรอยัยภา ใช่พี่ต้อมสุดหล่อนั่นหรือเปล่า หรือพี่แมนนักบาส หรือพี่ตี๋ลูกเจ้าสัวทรงชัย” เอื้อยยิงคำถามชุดใหญ่เข้าไป ภาวิณีนิ่งเงียบครู่หนึ่ง
“พี่ต๊ะ” ภาวิณีตอบ
“นายต๊ะ คนขับรถเนี้ยนะ เป็นไปได้ไงอะไม่อยากจะเชื่อ แกเล่าเรื่องมาให้หมดเลยนะยัยภา” เมื่อภาวิณีถูกเพื่อนคาดคั้นความจริงทั้งหมด เธอจึงจำยอมเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นที่เธอถูกลุงมั่นลวนลาม และเกือบถูกนายพลเปิดซิง จนกระทั้งใจที่สุดก็โดนนายต๊ะเจาะไข่แดงได้ และวันนี้ก็ยังโดนนายต๊ะพาเข้าม่านรูดตอกย้ำรสสวาทอีกหลายรอบ
เมื่อเอื้อยได้ฟังเรื่องราวที่เพื่อนรักของตนต้องเผชิญ เพียงแค่ 2 วันเธอต้องเจอเรื่องราวมากมายและก็นึกโกรธเฒ่ามั่นที่นอกใจตนและเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
“ไอ้เฒ่ามั่น มันกล้าทำเพื่อนรักชั้นเหรอเนี้ย กลับบ้านก่อนเถอะชั้นจะจัดการมันให้แกเอง” น้องเอื้อยบอกเพื่อนของตนด้วยความโมโห
แล้วเอื้อยก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ภาวิณีฟังบ้าง ว่าเธอก็มีอะไรกับพ่อและนายพลคนสวน ซึ่งเรื่องของเอื้อยก็ทำให้ภาวิณีอ้าปากค้างเหมือนกัน
เอื้อยอยู่คุยกับภาวิณีอีกครู่หนึ่งก็ขอตัวกลับ แต่ก่อนกลับเอื้อยก็หันมาบอกภาวิณีอย่างหนึ่ง
“ภา ชั้นมีเรื่องจะเตือนแกไว้อย่างหนึ่งนะ ชั้นว่านายต๊ะนั่นคงไม่หยุดแค่นี้แน่ มันต้องขอมีอะไรกับแกอีกเรื่อยๆ ถ้าแกอยากหยุดความสัมพันธ์ของแกกับนายต๊ะเพียงแค่นี้ แกต้องห้ามมีอะไรกับมันอีก ขู่มันว่าจะแจ้งตำรวจก็ได้ ไม่อย่างนั้นแกคงไม่รอดต้องโดนมันเย็ดเรื่อยๆไม่มีวันจบสิ้น แต่ถ้าแกอดใจไม่ได้แล้วหละก็ เอานี่ไปกินทุกวันนะ กันเอาไว้” เอื้อยยื่นยาคุมชนิดแผงรายเดือนให้ภาวิณี
“ส่วนนี่กินตอนนี้ 1 เม็ด อีกเม็ดกินหลังจากนี้ 12 ชั่วโมง” เอื้อยยื่นยาคุมแบบฉุกเฉินให้อีก 1 แผง ความจริงยาคุมนี้เอื้อยกะว่าจะเอามาใช้เอง แต่เมื่อเห็นเพื่อนยังไม่มีและไม่รู้ประสีประสาอะไรเธอจึงภาวิณีไปก่อน แล้วเธอก็จะซื้อใหม่ในภายหลัง
แล้วเอื้อยก็ขอตัวกลับเพื่อจัดการเฒ่ามั่น ตอนแรกเอื้อยเองกะว่าจะจัดการเฒ่ามั่นให้น่วมโทษฐานนอกใจและล่วงเกินเพื่อนรักของเธอแต่สุดท้ายก็โดนสากกระเบือยาวใหญ่ตอกเข้าไปหลายดอกแทน เอื้อยจึงใจอ่อนยอมยกโทษให้
ส่วนภาวิณีก็สองจิตสองใจ แต่จนแล้วจนรอดอีกสามวันต่อมานายต๊ะก็แอบย่องเข้าห้องนอนภาวิณีและในที่สุดภาวิณีก็ต้องยอมแพ้ต่ออำนาจกามารมณ์ ยอมทอดกายให้นายต๊ะได้เชยชมแทบจะทุกคืน
+++++++++++++++++++++++++++++++
“ที่เอื้อยเรียกประชุมในวันนี้ เอื้อยมีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนได้ทราบ เรื่องแรกคือ ตอนนี้เรามีออเดอร์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 หมื่นกล่องต่อเดือนจากบริษัท 7/12 “
“โห ตั้ง 1 หมื่นกล่อง” เสียงผู้ร่วมประชุมพากันฮือฮา
“ใช่คะ 1 หมื่นกล่อง และอาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเราต้องการคนงานเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มการผลิต และที่สำคัญปลายปีนี้ โบนัสไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแน่ๆคะ”
“เย้ ๆๆๆ” เมื่อเอื้อยบอกเรื่องโบนัสที่เพิ่มขึ้น ทำเอาทุกคนพากันดีใจยกใหญ่
“ต่อไปเรื่องสุดท้ายนะคะ คือที่เรารู้กันอยู่ว่าตอนนี้ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบุคคลนั้นว่างอยู่เพราะคนก่อนเค้าลาออกไปและยังหาคนมาแทนไม่ได้ แล้วตอนนี้เราจะต้องเพิ่มคนงานอีกหลายคน เอื้อยเลยเห็นว่าเราถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาใครซักคนมาช่วยดูแลตรงนี้” พอเอื้อยพูดมาถึงตรงนี้ ทุกคนต่างมองมาทางเจนภพผู้ช่วยฝ่ายบุคคลคนก่อน ซึ่งนายเจนภพคนนี้เป็นที่คาดการณ์ว่าจะต้องได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าพนักงานแน่ๆ ทุกคนพากันยิ้มให้เพื่อแสดงความดีใจกับเค้า และนายเจนภพเองก็ยิ้มแก้มปริเช่นกัน
“เพราะฉะนั้นเอื้อยจึงขอแนะนำคุณมั่นคงหัวหน้าฝ่ายบุคคลคนใหม่มาให้ทุกคนรู้จัก เชิญคุณมั่นคงเข้ามาคะ” เมื่อเอื้อยพูดจบทุกคนต่างตกใจที่คาดเดาผิดที่ไม่ใช่นายเจนภพ แต่กลับเป็นใครก็ไม่รู้รับตำแหน่งนี้แทน ต่างพากันหันไปมองชายชราสวมชุดสูทใหม่เอี่ยมเดินเข้ามาในห้อง
“นี่คุณมั่นคงคะ ท่านเป็นญาติห่างๆของเอื้อยเอง” ผู้เข้าประชุมต่างมองคุณมั่นคงหรือเฒ่ามั่นอย่างรู้สึกแปลกใจ เพราะรูปร่างท่าทางช่างดูไม่เข้ากับชุดสูทที่เขาใส่เอาเสียเลย เพราะเนื้อตัวดำกรานผมหงอกโพรนเกือบทั้งหัว บุคลิกก็ดูไม่ให้เอาเสียเลย แถมตอนยิ้มโชว์ฟันเหลืองและคราบหินปูนที่เขรอะไปทั้งปาก ถ้าบอกว่าเป็นยามยังจะน่าเชื่อมากกว่า นายเจนภพถึงกับผิดหวังสุดๆ ที่อยู่ๆก็มีใครไม่รู้มาคว้าตำแหน่งที่เค้าอยากได้ไปครอบครองตัดหน้าเขาไปดื้อๆ
“แต่ว่าเนื่องจากคุณมั่นคงยังไม่คุ้นเคยกับงานด้านนี้ เอื้อยอยากจะขอให้พี่เจนภพช่วยเป็นผู้ช่วยของคุณมั่นคงก่อนนะคะ” เอื้อยแต่งตั้งให้นายเจนภพเป็นผู้ช่วยให้กับเฒ่ามั่น ซึ่งเอื้อยเองก็รู้มาตลอดว่านายเจนภพนั้นหวังที่จะได้เลื่อนขั้นมาตำแหน่งนี้ด้วยเหมือนกัน แต่เธอเองอยากให้เฒ่ามั่นลองทำงานนี้ก่อน ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆแล้วก่อเรื่องแบบที่เพื่อนของเธอภาวิณีโดน
“แล้วเอื้อยจะขึ้นเงินเดือนให้พี่เป็นพิเศษคะ” เอื้อยเสนอเงินเดือนเพิ่มเพื่อชดเชยให้กับนายเจนภพแทน ก็พอจะทำให้นายเจนภพพอใจได้บ้าง จากนั้นเอื้อยก็ปิดประชุมและให้เฒ่ามั่นเริ่มงานกับนายเจนภพทันที
ตลอดเวลา 1 เดือนที่เฒ่ามั่นทำงานอยู่ที่โรงงาน ดูเหมือนว่าแกจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องระบบงานที่ซับซ้อนแบบนี้เลย มีอะไรก็มักจะโยนให้กับนายเจนภพทำ แล้วก็เดินเรื่อยเปื่อยแถวออฟฟิต บางทีก็ป้วนเปี่ยมแถวฝ่ายผลิตซึ่งมีแต่สาวๆกำลังทำงานกันอยู่ นายเจนภพเองอยากจะฟ้องน้องเอื้อยนายสาวของมันให้สั่งปลดออกเสียเหลือเกิน แต่ติดที่ว่าเฒ่ามั่นคือญาติของน้องเอื้อยเจ้าของโรงงานเสียนี่ แกจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
“น่านะเมียจ๋า ขอผัวเย็ดเมียทีนะ” เสียงเฒ่ามั่นออดอ้อนน้องเอื้อยมาจากห้องทำงาน
“พี่มั่น อย่าพึ่งสิ กลับบ้านก่อน นี่มันที่ทำงานนะ” น้องเอื้อยห้ามปราม เพราะเฒ่ามั่นอยู่ๆก็เข้ามาในห้องของเธอแล้วก็มาขอเย็ดเอาดื้อๆทั้งๆที่ตอนนี้อยู่ในที่ทำงานแท้ๆ
“เค้าเลิกงานกลับกันหมดแล้วจ๊ะเมียจ๋า ผัวอดใจไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอผัวเย็ดเมียที่นี่นะ” ไม่ทันที่เอื้อยจะพูดอะไร เฒ่าก็รีบปลดกางเกงอย่างรีบร้อน รูดกางเกงพร้อมกับกางเกงในลงที่เดียวพร้อมกัน ลำควยที่คุ้นเคยของเฒ่ามั่นตอนนี้กำลังแข็งเด่อยู่ตรงหน้าน้องเอื้อย
น้องเอื้อยทำตาดุมองค้อนใส่เฒ่ามั่น แต่ก็ยอมลุกจากเก้าอี้ทำงานลงมาคุกเข่าตรงหน้าแก แล้วอ้าปากอมลำควยของเฒ่ามั่นจนเต็มคับปากพร้อมกับดูดเลียและโยกหัวสร้างความเสียวให้กับเฒ่ามั่นไม่น้อย แกถึงกับสูดปากหลับตาปี๋ นับวันน้องเอื้อยจะพัฒนาการใช้ลิ้นและปากได้เก่งฉกาจนัก จนบางครั้งแกก็เคยเสร็จคาปากของน้องเอื้อยเลยก็มี
“โอ้วว ซี๊ดด เมียพี่ อู้ยยย ดูดควยเก่งจริงๆ อ๊ายยซี๊ดด” เฒ่ามั่นสูดปากเชิดหน้าหลับตาปี๋ ยืนโยกเอวสาวลำควยเข้าๆออกๆโพรงปากของน้องเอื้อย
ในระหว่างนั้นเอง น้องนุ๊กนักศึกษาฝึกงาน ซึ่งตอนแรกเธอนั้นกลับบ้านแล้ว แต่วันนี้บังเอิญเธอดันลืมมือถือที่ชาร์ตทิ้งไว้บนโต๊ะ เธอจึงกลับมาเอา น้องนุ๊กคนนี้คือรุ่นน้องของน้องเอื้อยนั่นเอง ซึ่งน้องเอื้อยชวนให้เข้ามาฝึกงานอยู่ที่บริษัทโดยทำฝ่ายการขาย และด้วยความสาวความสวย แถมหุ่นดีผิวขาว ทำให้บางครั้งน้องนุ๊กก็กลายเป็นพริตตี้แนะนำสินค้าด้วยตามงานต่างๆด้วย ซึ่งโต๊ะของเธอก็ดันอยู่ติดกับห้องทำงานของเอื้อยรุ่นพี่ของเธอเสียอีก เธอจึงได้ยินเสียงต้องครางแปลกๆของผู้ชายดังมาจากห้องของเอื้อย เสียงครางที่คุ้นหูด้วยความสงสัยเธอจึงค่อยๆแอบย่องไปที่หน้าต่างกระจกแต่ก็มีมู่ลี่ปิดบังอยู่ข้างใน แต่ก็ยังพอมีช่องที่สามารถมองเข้าไปเห็นข้างในได้บ้างและสิ่งที่นุ๊กเห็นก็ทำให้ต้องตกใจอ้าปากค้าง นั้นก็คือพี่เอื้อยรุ่นพี่และเจ้าของโรงงานกำลังนั่งคุกเข่าตรงหน้าคุณมั่นคง ปากของเธอกำลังดูดลำควยโยกเข้าโยกออกโดยที่ไม่มีทีท่ารังเกียจใดๆ
“เฮ้ย พี่เอื้อยกับคุณมั่นคงเป็นญาติกันนิ ทำไมถึงได้ทำแบบนี้” น้องนุ๊กรู้สึกแปลกใจสับสน และยิ่งแอบมองนานเท่าไหร่ เหมือนกับเธอต้องอำนาจอะไรบางอย่างให้หยุดนิ่งและแอบดูอยู่แบบนั้นต่อไป
“อู้ยย เร็วอีกจ๊ะเมียจ๋า ซี๊ดด ผัวจะแตกแล้ว อู้ยย แตกแล้วว อ๊า…” เฒ่ามั่นจับหัวน้องเอื้อยแน่น ซอยเอวกระเด้าปากน้องเอื้อยอีกสามสี่ครั้งก็ฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในปากของเธอ
เฒ่ามั่นกดคาเอาไว้อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก็ถอนลำควยออกจากปากน้องเอื้อย โดยที่น้องเอื้อยนั้นก็กลืนน้ำเชื้อของเฒ่ามั่นลงคอไปอย่างไม่รังเกียจ แถมดูดเลียลำควยให้เฒ่ามั่นจนสะอาดเกลี้ยง ทำให้นุ๊กถึงกับอึ้งไปที่รุ่นพี่ของเธอมาอมของผู้ชายแถมยังกล้ากลืนน้ำเชื้ออีก แสดงว่าทั้งคู่คงต้องมีความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อนแล้วแน่ๆ และด้วยความสงสัยนุ๊กจึงยังคงแอบดูต่อ
“พี่มั่นไปคึกมาจากไหนกัน ถึงได้อดใจไม่ไหวมาให้เอื้อยทำแบบนี้ฮึ บอกมานะ” เอื้อยเงยหน้าขึ้นถาม
“ก็คนมันเงี่ยนนิ แล้วพี่ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศด้วยไงจ๊ะเมียจ๋า” เฒ่ามั่นตอบ
“ไม่นะ ปรกติไม่ว่าจะเงี่ยนขนาดไหนก็ยังทนรอจนถึงบ้านได้ แต่วันนี้กลับทนไม่ไหว บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าทำไม” น้องเอื้อยเริ่มมีน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่มีจริงๆ เชื่อพี่สิ”
“เป็นเพราะยัยนุ๊กใช่มั๊ย เห็นพี่เอาแต่จ้องยัยนุ๊กตั้งแต่เช้าละ แล้วยิ่งวันนี้ยัยนุ๊กนุ่งกระโปรงสั้นจู๊ดโชว์ขาขาวขนาดนั้นด้วย มีรึพี่จะไม่เงี่ยน ดูสิพูดไม่ทันจบควยแข็งขึ้นมาเลย” เฒ่ามั่นเพียงแค่ได้ยินชื่อน้องนุ๊ก ลำควยของแกก็กลับมาแข็งชี้หน้าน้องเอื้อยอีกครั้ง
ซึ่งก็จริงอย่างที่น้องเอื้อยบอก วันนี้น้องนุ๊กแต่งตัวเซ็กซี่จริงๆ โดยใส่ชุดนักศึกษากระโปรงสั้นจู๊ด คงยาวแค่คืบกว่าๆได้ มันสั้นมากจนแทบจะปิดอะไรไม่มิด หน้าอกหน้าใจก็อวบอึ๋มในเสื้อนักศึกษาที่คับติ้วจนกระดุมแทบจะหลุดออกจากเสื้อ ความขาวความสวยก็สูสีกับน้องเอื้อยแต่ถ้าความสดน้องนุ๊กย่อมได้เปรียบกว่าแน่นอน
ทางน้องนุ๊กเองเมื่อได้ยินรุ่นพี่ของเธอเอ่ยชื่อของเธอว่าเป็นสาเหตุในเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองนิดๆเหมือนกันที่สามารถทำให้ชายบางคนถึงกับคลั่งได้ถึงเพียงนี้ และเธอก็อยากรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก เธอจึงแอบดูอยู่ต่อ
“แหะๆ ก็แต่งตัวซะขนาดนั้น เป็นใครๆก็เงี่ยนสิจ๊ะ” เฒ่ามั่นแก้ตัว
“ชิ เลยมาระบายกับเค้า” น้องเอื้อยเริ่มงอน
“โธ่เมียจ๋า ถ้าไม่ให้ผัวมาระบายกับเมียแล้วจะให้ผัวไประบายกับใครจ๊ะ” เฒ่ามั่นรีบเข้าสวมกอดน้องเอื้อยเพื่อง้องอน
“ก็ไประบายกับยัยนุ๊กสิ” น้องเอื้อยพูดประชด แต่เมื่อนุ๊กได้ยินจู่ๆก็รู้สึกเสียวว๊าบไปทั้งตัว
“จะให้พี่เย็ดน้องนุ๊กจริงๆเหรอจ๊ะ” เฒ่ามั่นทำท่าดีใจออกนอกหน้า แต่น้องนุ๊กที่แอบได้ยินก็เริ่มกังวล เพราะเธอเองนั้นยังบริสุทธิ์อยู่ แต่แค่เกือบๆเท่านั้น
“เอาสิ ถ้าไม่กลัวตาย จำไม่ได้หรือไงว่าเอื้อยเคยบอกว่าอะไรถ้านอกใจเอื้อย” น้องเอื้อยข่มขู่
“จ๊ะๆ จำได้ ถ้านอกใจเมียเมื่อไหร่ เมียจะตัดควยพี่ทิ้ง พี่จำได้ พี่ไม่กล้าหรอก พี่ล้อเล่นเฉยๆ แหะๆ” เฒ่ามั่นจำได้ว่าน้องเอื้อยขู่เอาไว้ตอนที่รู้ว่าแกนั้นลวนลามเพื่อนรักของเธอ เธอจึงห้ามเด็ดขาดเรื่องมีผู้หญิงคนอื่นไม่อย่างนั้นเธอจะตัดน้องชายของแกทิ้งให้เป็ดกินทันที
“จำได้ก็ดีแล้ว นี่พี่คงเงี่ยนมากสินะ ก็นั่นแหละวันนี้ยัยนุ๊กก็เซ็กซี่จริงๆนะ ใครเห็นยัยนุ๊กถ้าไม่เกิดอารมณ์ก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้วหละ เอาเป็นว่าจะให้เย็ดที่นี่ก็ได้”
“จริงหรือจ๊ะเมียจ๋า”
“อื้ม ระบายความเงี่ยนออกมาให้เต็มที่เลย คิดว่าเอื้อยเป็นนุ๊กก็ได้นะ” คำพูดของน้องเอื้อยทำให้เฒ่ามั่นยิ้มหน้าบาน แต่ถึงเธอไม่บอกเฒ่ามั่นก็เอาน้องนุ๊กมาจินตนาการอยู่แล้วเพราะแกก็ยังแอบคิดว่าน้องนุ๊กเป็นคนอมควยของแกอยู่เลยเมื่อกี้นี้
เฒ่ามั่นประคองน้องเอื้อยให้นอนบนโซฟาแล้วแกนอนทับน้องเอื้อย ปากประจบจูบแลกลิ้นกันพัลวัน มือของแกก็ไม่เสียเวลาที่จะบีบเค้นทรวงอกอวบนอกชุดนักศึกษา แล้วจากนั้นก็ค่อยๆแกะกระดุมออกทีละเม็ดๆจนหมด เผยให้เห็นยกทรงสีดำปิดเต้าอวบแทบไม่มิด
เฒ่ามั่นไม่สนใจยกทรงหรอก แกรีบถลกเสื้อยกทรงขึ้นแล้วก้มงับดูดสองเต้าอวบสลับซ้ายขวา เสียงดังจ๊วบจ๊าบ ความเสียวทำให้หัวนมของน้องเอื้อยชูชันสู้ลิ้นของเฒ่ามั่นแถมแอ่นอกสู้ไม่ยอมถอย
“อื้มมม ซี๊ดดดด” น้องเอื้อยร้องครางออกมานิดๆ แล้วเฒ่ามั่นก็ค่อยๆเลื่อนลงมายังท้องน้อย หน้าขา แล้วแกก็ถลกกระโปรงนักศึกษาขึ้นไปกองที่เอวแล้วถอดกางเกงในรูดออกจากเท้าทันทีโดยไม่รอช้า แล้วแกก็ซุกหน้าเข้าระหว่างขาของน้องเอื้อย ฉกลิ้นเลียติ่งเสียวจนน้องเอื้อยต้องบิดตัวไปมาก่อนจะเริ่มกระดกเอวรับลิ้นของเฒ่ามั่น
“โอ้ววว ซี๊ดดด เสียววว อู้ยยย พี่มั่น..จ๋า” น้องเอื้อยร้องครางอย่างเร้าอารมณ์
การกระทำของเฒ่ามั่น ทำให้น้องนุ๊กเริ่มหวนนึกถึงตอนที่เธอก็เคยโดนลิ้นสากโลมเลียของสงวนแบบนี้เช่นกัน เป็นที่เธออยากจะลืม มันคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน ก็ทำให้เธอรู้สึกเสียวว๊าบที่ท้องน้อย ความรู้สึกเสียวซ่านทรมานเจียนขาดใจ ได้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง
ตอนนั้นเธออายุเพียง 14 ปี กำลังเรียนชั้นม.3 ในวันที่เกิดเรื่องเป็นช่วงที่เธอเป็นเนตรนารีและกำลังเข้าค่ายลูกเสือ โดยสถานที่เข้าค่ายนั้นจะเป็นที่ค่ายทหาร ซึ่งสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวกเพราะในค่ายทหารมีแทบทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเดินป่า ฐานผจญภัยต่างๆ โดยที่คุณครูจัดให้ลูกเสือกางเต้นนอนในสนาม ส่วนเนตรนารีก็ให้พักในเรือนนอนทหาร
ในคืนแรกนั้นผ่านไปด้วยดีจะมาขลุกก็ตอนเช้าตอนที่อาบน้ำ นั่นเพราะมีนักเรียนหญิงจำนวนมากแต่มีห้องอาบน้ำก็มีแค่ห้องเดียวซึ่งเป็นห้องอาบน้ำรวมอีกต่างหาก จึงมีคนมาอาบน้ำในห้องน้ำมากจนแทบจะไม่มีที่ยืน แถมน้ำก็ไหลไม่ทัน กว่านุ๊กจะอาบเสร็จก็ต้องแย่งน้ำกันจ้าละหวั่น
และนี่เองทำให้ในวันต่อมานุ๊กจึงตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อลงมาอาบน้ำ ซึ่งก็ได้ผลดีนะ เพราะว่าไม่มีคนเลย นุ๊กจึงอาบได้อย่างสบายใจไม่ต้องแย่งน้ำใคร และเมื่อไม่มีคนอยู่แบบนี้ นุ๊กเลยกล้าเปลือยกายทั้งหมดขัดสีฉวีวรรณร่างกายได้อย่างเต็มที่ เมื่ออาบได้ซักพัก นุ๊กก็ได้ยินเสียงเหมือนกับมีคนเดินเข้ามาใกล้ๆห้องน้ำ คงเริ่มมีคนลงมาอาบน้ำบ้างแล้ว นุ๊กคิดอย่างนั้น แต่นุ๊กก็ไม่สนในอาบน้ำต่อ เสียงเดินเงียบไปแล้วแต่ก็ไม่เห็นมีใครเข้ามาซักที จนนุ๊กอาบน้ำเสร็จก็นุ่งกระโจมอกกะว่าจะกลับขึ้นไปแต่งตัวในโรงนอน แต่อยู่ๆก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ชายคนนั้นอายุน่าจะราวๆ 20 ต้นๆ ผิวดำกร้าน ผมเกรียนใส่เสื้อสีเขียวกางเกงขาสั้น คงน่าจะเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายนี้
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ” พลทหารถาม
“ค..คะ อาบเสร็จแล้ว” นู๊กตอบ แล้วทหารคนนั้นก็เดินตรงมาหานุ๊ก ซึ่งนุ๊กเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่จนทหารคนนั้นเดินเข้ามาจนถึงตัวนุ๊ก
“อาบต่ออีกหน่อยสิครับ พี่ยังดูไม่เต็มอิ่มเลย” พูดจบทหารหนุ่มคว้าหมับไปที่ผ้าขนหนูแล้วดึงกระชากจนผ้าเช็ดตัวเกือบหลุด น้องนุ๊กจึงรีบดึงผ้าขนหนูคืน ทั้งคู่ยื้อยุดได้แค่ครู่เดียวมีรึเด็กสาวจะสู้แรงทหารเกณฑ์ได้ ในที่สุดผ้าขนหนูก็หลุดออกจากตัวน้องนุ๊ก
“พี่ ขอผ้าขนหนูคืนมาเถอะคะ” ปากก็เอ่ยขอ มือทั้งสองก็ปิดบังของสงวนและสองเต้าที่เต่งตึงเกินวัย
ทหารหนุ่มกลัดมัน จ้องมองร่างเปลือยของเด็กสาวอย่างหื่นกระหาย รูปร่างอวบอัดเกินวัย ความขาวสวย ยิ่งกระตุ้นความหื่นกระหายเป็นเท่าทวี แล้วยิ่งเค้าไม่ได้กลับบ้านมาหลายเดือนแล้ว ไม่ค่อยได้ร่วมหลับนอนกับภรรยามาเนินนาน มันยากเกินที่ทหารหนุ่มจะทานทนไหวอีกต่อไป
ทหารหนุ่มเดินเข้าหาน้องนุ๊ก โดยที่น้องนุ๊กก็ถอยหลังจนชิดกับขอบอ่างอาบน้ำ หมดหนทางถอยอีกต่อไปแล้ว
“พี่จะทำอะไร อย่านะพี่” นุ๊กในวัยนั้นยังไร้เดียงสาเกินกว่าที่จะคิดอะไรออก เธอได้แต่ตกใจทำอะไรไม่ถูก เธอทำได้เพียงแค่เอามือปกปิดของสงวนและสองเต้าไว้แค่นั้น
พลทหารหนุ่มดึงมือที่ปกปิดเรือนร่างทั้งสองออกอย่างง่ายดาย เพราะนุ๊กกลัวว่าถ้าขัดขืนเธอจะถูกทำร้าย ทหารหนุ่มจ้องร่างเปลือยเปล่าของเด็กสาว นุ๊กได้แต่เบนหน้าหนีเพราะอับอายไม่กล้าสบกับชายหนุ่มตรงหน้า ทหารหนุ่มใช้สองมือจับหน้าอกอวบทั้งสองเต้า มันช่างแข็งนุ่มสู้มือดี
จากนั้นเค้าก็ใช้นิ้วมือบี้ที่หัวนมและบีบเค้นทรวงอกอย่างแผ่วเบา ทำเอาหัวนมของนุ๊กตั้งชูชัน ความเสียวแปลกๆทำให้ขนเธอลุกซู่ไปทั้งตัว เธอหลับตาปี๋ปล่อยให้ชายหนุ่มข้างหน้าลวนลามอย่างสบายใจ เมื่อชายหนุ่มบีบสองเต้าจนหนำใจแล้วเค้าก็เลื่อนมือมาบีบสะโพกผาย ลูบไล้หน้าท้องที่แบนราบจนถึงท้องน้อย
มือหยาบกร้านของทหารหนุ่มเลื่อนลงมาลูบไล้ตรงจุดสามเหลี่ยมทองคำที่มีขนอ่อนขึ้นอยู่เพียงรำไร ก่อนจะสอดเข้าระหว่างขาโดยที่น้องนุ๊กก็กางขาออกเล็กน้อยอย่างลืมตัว ปล่อยให้สามารถสอดเข้าไปได้สะดวก
“อู้ยย ซี๊ดดด” น้องนุ๊กเริ่มร้องครางออกมาเพราะนิ้วของชายหนุ่มเริ่มสัมผัสกับติ่งเสียว น้องนุ๊กแปลกใจเธออาบน้ำทุกวันสัมผัสทุกทีไม่เคยเห็นเสียวแบบนี้มาก่อนเลย แต่พอถูกเพียงแค่นิ้วมือของชายหนุ่มคนนี้กลับรู้สึกเสียวอย่างบอกไม่ถูก
ทหารหนุ่มเห็นว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ขัดขืนแล้ว เค้าจึงเอาหน้าซุกไซ้ไปที่ซอกคอของเด็กสาว มืออีกข้างก็บีบเค้นหน้าอก มือข้างที่เหลือก็เขี่ยตรงติ่งเสียว เมื่อน้องนุ๊กโดนโจมตีทั้ง 3 จุดพร้อมกันแบบนี้ ความเสียวที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงร้องครางเริ่มดังขึ้นๆ น้ำรักก็ขับออกมาเรื่อยๆจนชุมนิ้วมือของทหารหนุ่ม
“อื้มม ซี๊ดด อึ้มม” น้องนุ๊กเริ่มร้องครางออกมา เรี่ยวแรงเริ่มหดหายไปเรื่อยๆจนต้องใช้สองมือเกาะที่บ่าของพลทหารหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้ ส่ายเอวกระดกสะโพกรับกับนิ้วมือที่เริ่มกรีดเข้าไปในร่องสาวอย่างลืมตัว
“อ๊ายย ซี๊ดด อ๊า อุ๊บบ” พลทหารหนุ่มละปากจากซอกคอมาประกบจูบน้องนุ๊ก เค้าฉกลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอ จูบแรกของน้องนุ๊กแม้จะไม่ประสาในช่วงแรกๆแต่เธอก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ยอมจูบแลกลิ้นกันอย่างเร้าร้อน
น้องนุ๊กเพลิดเพลินกับรสจูบและการสัมผัสของพลทหารหนุ่มนี้ยิ่งนัก แต่อยู่ๆพลทหารหนุ่มก็ถอนปากออกพร้อมกับมือที่บีบขยำหน้าอกและของสงวน น้องนุ๊กอดเสียดายไม่น้อยได้แต่ส่งสายตาหวานเยิ้มออดอ้อนชายหนุ่มตรงหน้า
“เดี๋ยวพี่จะทำให้เสียวกว่านี้อีก” พลทหารหนุ่มบอก เค้าดันน้องนุ๊กจนสะโพกไปชนกับขอบอ่างอาบน้ำ แล้วจับให้เธอนั่งตรงขอบอ่างจากนั้นก็ค่อยๆแบะขาทั้งสองข้างให้กางออก ปากร่องสาวก็โผล่ให้พลทหารหนุ่มได้เห็นแบบเต็มๆตาเสียที ปากร่องที่ปิดสนิทมันช่างน่าดูเสียจริงจน พลทหารหนุ่มเหมือนต้องมนต์สะกดยืนมองร่องสาวบริสุทธิ์อย่างน่าหลงใหล จนน้องนุ๊กหน้าแดงกำเพราะเขินอาย
“พี่อย่ามองสิ หนูอาย” น้องนุ๊กจะหุบขาเข้าแต่พลทหารหนุ่มก็รั้งให้กางออกอีกครั้ง
“สวยจริงๆครับ หีสวยมาก” พลทหารหนุ่มยืนมือไปลูบคลำของสงวนของเด็กสาวอีกครั้ง ความเสียวสะท้านก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกรอบ น้องนุ๊กหลับตาปี๋พยายามซึมซับความเสียวสยิวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตอย่างเต็มที่ พลทหารหนุ่มเห็นดังนั้นก็นั่งคุกเข่าตรงระหว่างขาของน้องนุ๊ก แล้วใช้มือข้างที่เหลือโอบแผ่นหลังของเด็กสาว ก้มหน้าดูดงับไปที่ทรวงอกของเด็กสาวทันที
“อ๊ายยยย ซี๊ดดด พี่อย่า อู้ยยย มันจั๊กจี้ อย่าดูด โอ้ยยย” ปากของน้องนุ๊กบอกห้าม แต่กลับแอ่นหน้าอกรับการดูดสองเต้าของพลทหารหนุ่มเสียนี่
พลทหารหนุ่มดูดเต้านมอย่างเอร็ดอร่อย จนหัวนมจากที่มีสีน้ำตาลอ่อนๆกลายเป็นสีแดงช้ำ พลทหารหนุ่มทั้งงับทั้งบดขบที่หัวนมของเด็กสาวแต่ก็ไม่แรงจนเด็กสาวเจ็บประการใด กลับยิ่งกระตุ้นอารมณ์ใคร่ของน้องนุ๊กมากขึ้นไปอีก เมื่อดูดเต้านมจนพอใจแล้ว พลทหารหนุ่มก็ค่อยๆเลื่อนมาจูบพรมลงมาที่ท้องน้อยจนกระทั้งมาถึงเนินสามเหลี่ยม เค้าไม่รอช้าที่จะซุกใบหน้าเข้าระหว่างขาของเด็กสาวพร้อมกับส่งลิ้นดุนเลียไปที่ติ่งเสียวทันที
“โอ๊ยย พี่ อย่าเลียตรงนั้น ซี๊ดดดดดดดด อ๊า เสียว โอ้ย เสียวว” น้องนุ๊กร้องครางออกมาแทบจะสุดเสียง ความเสียวจากลิ้นสากที่ฉกเข้าฉกออกเข้าไปในร่องสาวของเธอ มันช่างวิเศษยิ่งกว่านิ้วมือเสียอีก จนเธอต้องใช้สองมือยันไปที่ขอบอ่างอาบน้ำ แอ่นสะโพกยกลอยเด้งส่ายไปมาไปตามจังหวะที่พลทหารหนุ่มดูดเลียปากร่องสาว
“อ๊า…ซี๊ดด…อ๊า เสียว พี่จ๋า นุ๊กเสียวว” พลทหารหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ยิ่งดูดแรงขึ้นและส่งลิ้นฉกเข้าไปในร่องสาวให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้ และบางทีแกก็ใช้ลิ้นดุนที่ติ่งแตดแบบเน้นๆ น้ำรักที่หลั่งชโลมออกมาไม่ขาดสายถูกพลทหารหนุ่มดูดกลืนอย่างเอร็ดอร่อย
“ซี๊ดดด เสียววว ซี๊ดด เสียวเหลือเกิน โอ้วว พี่จ๋า เสียวใจจะขาดแล้วว” ความเสียวความสยิวเพิ่มทวีขึ้นขณะ ซึ่งพลทหารหนุ่มเองก็รู้แล้วว่าเด็กสาวใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้ว เพราะช่องโพรงสาวเริ่มตอดรัดลิ้นของเค้าแรงขึ้นทุกขณะ
น้องนุ๊กตอนนี้ได้แต่แอ่นสะโพกโยกเอวส่ายรับลิ้น น้องนุ๊กรู้สึกว่าตอนนี้เหมือนกำลังจะมีอะไรบางอย่างระเบิดออกมาจากร่องสาวของเธอ มันกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขนเธอเริ่มลุกไปทั่วทั้งตัว
“อ๊า ซี๊ดดด อ๊า พี่ เสียวว โอ้ยย เสียวว พี่หยุดก่อน ไม่ไหวแล้วพี่ อึ๊บบ…..” ความเสียวซ่านที่สุดจะทานทน ในที่สุดความเสียวสุดยอดก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง น้องนุ๊กถึงกับตาตั้งตัวสั่นเกร็งระริกร้องครางออกมาอย่างสุดเสียง
“อ๊า…..ซี๊ดดด….อ้า” น้องนุ๊กหลับตาปี๋ ตัวเกร็งกระตุก แอ่นสะโพกกดไปที่ใบหน้าของพลทหารหนุ่ม น้ำรักของเด็กสาวถูกฉีดออกมาอย่างรุนแรงพุ่งเข้าไปในปากของพลทหารหนุ่มอย่างแรง ในหัวของเธอตอนนี้ขาวโพรนไปหมด มันเสียวสุดยอด มีความสุขที่สุดของที่สุดจริงๆ ยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดเสียอีก
เมื่อหายเกร็งแล้ว น้องนุ๊กก็ทรุดตัวลงกับพื้น หลังพิงอ่างอาบน้ำ หายใจเหนื่อยหอบ หมดเรียวหมดแรงในทันที พลทหารหนุ่มเมื่อเห็นว่าเด็กสาวถึงจุดสุดยอดไปแล้ว เค้าก็พยุงให้เธอนอนราบลงกับพื้นห้องน้ำจับขาทั้งสองข้างยกชันขึ้นแล้วกางออก
เมื่อปลดเปลื้องเสื้อผ้ากางเกงของตัวเองออกจนหมดแล้ว พลทหารหนุ่มก็แทรกตัวเข้าระหว่างขาของเด็กสาว เค้าจับลำควยขนาดมาตรฐานถูไถไปตามร่องเสียว น้องนุ๊กเองก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่แข็งและอุ่นกำลังเขี่ยไปมาที่ปากทางเข้า ความเสียวที่ปากร่องสาวเริ่มต้นอีกครั้ง
“อึ้มม ซี๊ดด” ความเสียวทำให้น้องนุ๊กแอ่นสะโพกรับลำควย ที่ตอนนี้พลทหารเขี่ยไปมาจนหัวบานเปียกชุ่มไปด้วยน้ำรักของน้องนุ๊ก จากนั้นพลทหารหนุ่มก็จับลำควยจ่อไปที่ปากทางเข้า หัวลำควยที่บานก็อุดที่ปากร่องสาวจนมิด
พลทหารหนุ่มค่อยๆกดลำควยเข้าไปในร่องสาวช้าๆ ด้วยน้ำรักที่หลั่งออกมาจากร่องสาวอย่างมากมาย ทำให้ปลายหัวบานผลุบเข้าไปในร่องสาวอันฟิตรัดได้อย่างไม่ยากนัก น้องนุ๊กไม่เจ็บมากเท่าไหร่แต่ความเสียวที่ลำควยมุดเข้ามาในร่างของเธอกลับเพิ่มทวีขึ้นมาแทนที่ความเจ็บแทบจะทันที
ปรี๊ด….ปรี๊ดๆๆๆ ยังไม่ทันที่พลทหารหนุ่มจะกระเด้าเอว เสียงนกหวีดดังแว่วมาทางเรือนนอนของพลทหารที่อยู่อีกด้านไม่ไกลจากห้องน้ำนัก มันคือเสียงที่จ่ากองร้อยเป่าเพื่อเป็นสัญญาณให้พลทหารตื่นนอนได้แล้ว
“ปัดโธ่โว้ย คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม” ปลายหัวบานก็มุดเข้ารูสวาทของเด็กสาวแสนน่ารักแล้ว ครั้นจะชักออกก็สุดแสนเสียดาย
พลทหารหนุ่มลังเลใจว่าจะเอายังไงต่อดี สุดท้ายเค้าเลือกที่จะทำต่อไป เค้าคิดว่าโอกาสแบบนี้มีแค่ครั้งเดียวพลาดแล้วก็คงไม่มีโอกาสอีก อย่างมากก็แค่โดนลงโทษนิดๆหน่อยๆ ถือว่าคุ้ม และเพื่อไม่ให้เสียเวลาอีกต่อไป พลทหารหนุ่มก็ก้มลงประกบจูบน้องนุ๊กเริ่มถอนปลายลำควยออกเล็กน้อยแล้วกดเข้าไปช้าๆ
อนิจจา เสียงนกหวีดที่จ่ากองร้อยเป่านั้น ก็เป็นการปลุกเหล่าบรรดาเนตรนารีเพื่อนๆของน้องนุ๊กให้ตื่นนอนด้วยเช่นกัน จนตอนนี้โรงนอนของเนตรนารีเริ่มส่งเสียงเจี๊ยวแจ๊วกันบ้างแล้ว
“โธ่ อะไรอีกเนี้ย จะรีบลุกกันทำไม” พลทหารหนุ่มไม่อาจถอนลำควยได้แล้ว ต่อให้ช้างเป็นฝูงมาฉุดเค้าก็จะไม่ยอมหยุดแน่ๆ เค้าจึงเร่งซอยเอวยิกๆ หมายเร่งให้ถึงจุดสุดยอดก่อนที่จะมีคนเข้ามา แต่นั่นกลับสร้างความเจ็บปวดให้กับน้องนุ๊กแทน
“โอ้ยพี่ เจ็บ พี่อย่าเอาเข้า โอ้ยเจ็บ” น้องนุ๊กพยายามถอยหนี แต่พลทหารก็ซอยเอวยิกๆคลานตามไม่ลดละ
แม้ว่าพลทหารหนุ่มจะออกแรงกระเด้าเพียงใด แต่ในเมื่อเจ้าของถ้ำไม่เต็มใจแล้วมันก็ยากที่จะสอดใส่เข้าไปได้สุด มันทำได้เพียงแค่ส่งปลายลำควยเข้าๆออกๆ ไม่เกินไปกว่านั้นเลย
แต่ด้วยเพราะความฟิตของร่องสาว ความตื่นเต้นคอยลุ้นว่าจะมีคนเข้ามาในห้องน้ำมี่เมื่อไหร่ก็ได้ หรือความที่ห่างหายจากเรื่องนี้มานานนับตั้งแต่เข้าประจำการ พลทหารหนุ่มจึงกระเด้าเอวได้เพียงแค่นาทีเดียวก็ พลทหารหนุ่มก็ซอยเอวสองสามทีก็ออกแรงกดลำควยอย่างสุดแรง หมายให้ลำควยมุดเข้าไปในร่องเสียวให้สุดลำ แต่มันกลับเข้าได้แค่ปลายหัวควยแล้วชนกึกและไหลหลุดออกจากปากร่อง ไปชนกับท้องน้อยแทน
พลทหารหนุ่มถึงจุดสุดยอดทั้งแบบนั้น เค้ากอดร่างของน้องนุ๊กแน่น ตัวเกร็งกระตุกฉีดน้ำเชื้อขาวขุ่นออกมาหลายระรอก จนมันเลอะไปที่หน้าท้องของเธอ
คราวนี้พลทหารหนุ่มเป็นฝ่ายหอบบ้าง เค้าเหนื่อยอ่อนหมดเรียวแรง นอนทับร่างของเด็กสาว แต่พลทหารหนุ่มก็พักได้ไม่นานก็แว่วเสียงของบรรดาสาวน้อยเนตรนารีเริ่มทยอยกันลงมาชั้นล่างกันแล้ว
พลทหารหนุ่มรีบลุกขึ้น คว้าเสื้อผ้ารีบวิ่งออกจากห้องอาบน้ำทั้งที่ตัวเปลือยเปล่าไม่ทันได้สวมเสื้อผ้าเลยซักชิ้น ไปอีกทางหนึ่งโดยไม่หันกลับมาสนใจน้องนุ๊กอีกเลย ปล่อยให้เธอค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น น้ำเชื่อของพลทหารหนุ่มที่ฉีดทิ้งไว้บนหน้าท้องของเธอก็ไหลย้อยลงมาหยดแหมะไปที่พื้นห้องน้ำ ส่งกลิ่นความคละคลุ้งไปหมด น้องนุ๊กลองใช้นิ้วแตะๆดูก็รู้สึกว่ามันเหนียวเหนอะหนะ เธอจึงรีบล้างเนื้อล้างตัวอีกครั้งแล้วราดน้ำเชื้อสีขาวขุ่นลงร่องระบายน้ำ ซึ่งนั้นก็พอดีกับที่บรรดาเพื่อนๆของเธอเข้ามาในห้องน้ำพอดี จึงไม่มีใครรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น
นับว่าโชคดีที่เยื้อพรหมจรรย์ของเธอยังไม่ถูกทะลวงให้ฉีกขาด นี่ถ้าพลทหารหนุ่มทะลวงลำควยเข้ามาอีกเพียงแค่เซ็นเดียว ความสาวของเธอก็คงไม่เหลืออีกแล้ว
เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้น้องนุ๊กถึงกับนอนไม่หลับไปหลายวัน ไปเรียนก็นั่งเหม่อลอย เฝ้านึกถึงแต่เหตุการณ์ในค่ายทหารนั่น ความเสียวสุดยอดครั้งนั้นทำให้เธอใจแทบขาด แต่ก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ต้องพบกับความเจ็บปวดแสนสาหัสด้วยเช่นกัน ยามที่พลทหารคนนั้นพยายามพิชิตความสาวของเธอแต่โชคดีที่ไม่สำเร็จ
น้องนุ๊กคิดเรื่องนี้อยู่หลายวัน จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะลืมเรื่องนี้ไปเสีย พยายามหากิจกรรมต่างๆทำเพื่อให้ไม่มีเวลาว่างคิดเรื่องแบบนี้ ซึ่งก็ได้ผลเพราะเมื่อเวลาเนิ่นนานไป เธอก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเลยจนกระทั้งวันนี้