ตอนที่ 1
เมื่อสองปีที่แล้ว ผมอายุ 38 ปี ชื่อ ใหญ่ ผมทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ. สมุทปราการ เป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ และคอยดูแลหัวหน้างานอีกที
เรื่องเงินเดือนก้อดีมาก พูดได้เลยว่าอยากได้อะไรก้อได้ รถ/บ้าน/เที่ยว (เหล้า + น้องหนู) แต่หาไม่ได้อย่างเดียวคือเมีย เพราะไม่หล่อ
ตอนนั้นทางบริษัทมี นโยบาย เพิ่มกำลังการผลิต และต้องการบุคลากรเพิ่ม จึงประกาศรับสมัคงาน 50 อัตตรา โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่
เนื่องจากค่าแรงถูกและมีไฟแรง ไม่เหมือนคนที่มีประสบการณ์เยอะเหลี่ยมจัดค่าแรงแพง แผนกผมได้มา 3 คน อายุ 18 ปีทั้งหมด (ผู้ชาย)
ซึ่งผมต้องคอยเทรนให้พวกเค้าเข้าใจเรื่องงานและการควบคุมคนงาน เพราะพวกเค้าจะต้องเป็นหนัวหน้าแผนก
ผ่านไปหนึ่งเดือน มีอยู่หนึ่งคนที่ผมให้ความสนิทเป็นพิเศษ ชื่อ ต้น ทำงานเก่ง หน้าตาดี พูดเพราะ มีจิตวิทยาในการพูด เช่าบ้านอยู่กับแม่สองคน
แม่ม้าย เป็นแม่ค้าขายกับข้าวอยู่ที่ตลาด วันนั้นเป็นวันแรกที่ต้นได้รับเงินเดือน ไม่มากเพราะพึ่งเริ่มงาน ต้นและเพื่อนอีกสองคน ได้ลงขันเลี้ยงเหล้าผม
ที่ร้านข้าวต้ม ใกล้กับห้องเช่าของต้น ผมอาสาจ่ายค่าเหล้าเอง เพราะผมชอบดื่มรีเจนซี่ เกรงว่าเงินพวกเค้าจะไม่พอใช้ พอเหล้าหมดไปหนึ่งกลม
ผมดื่มมากกว่าใครแต่ไม่เมาเพราะชอบดื่มอยู่แล้ว น้องสองคนก้อขอตัวกลับบ้าน เหลือผมกับต้นสองคน ต้นก้อชวนผมไปเที่ยวต่อ แต่ผมไม่อยากไป
ผมก้อเลยบอกให้ต้นกลับบ้านไปก่อนเดี๋ยวแม่เป็นห่วง
“เอาเงินเดือน เดือนแรกไปให้แม่ภูมิใจก่อน ถ้าอยากเที่ยวคราวหน้าพี่จะเลี้ยงเอง”
“ถ้างั้นพี่ไปเที่ยวที่ห้องผมก้อได้ แม่ผมใจดีไม่ดุ แล้วก้อผมอยากให้พี่รู้จักแม่ผมด้วย” ต้นตื้อผมอยู่นานจนผมใจอ่อน ผมเลยบอกว่า
“ก้อได้ งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อเหล้าไปด้วยแค่แบนเดียวก้อพอ”
“พี่เอาไปหนึ่ขวดเลยก้อได้ แม่ผมก้อกินเป็น”
“เห้ยจะดีเหรอ คนยังไม่รู้จักกัน แล้วก้อเป็นผู้หญิงด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ ถ้าพี่ไม่รังเกียจแม่ม้าย”
“แม่ต้นดื่มเหล้าเก่งไม๊”
“เหล้านานๆกินที แต่กินเบียร์วันละสองขวด แม่บอกว่าบำรุงผิวดี” พอถึงบ้านต้น ก้อสองทุ่มครึ่งพอดี
“ต้นหรือลูก ทำไมวันนี้กลับช้าจังลูก” น้ำเสียงที่ได้ยินครั้งแรกเป็นเสียงที่ไพเราะ อ่อนโยน และ นุ่มนวล สมกันที่ต้นบอกว่าแม่เค้าใจดี
“วันนี้เงินเดือนต้นออก ก้อเลยพาพี่เค้าไปเลี้ยง แม่อยู่ไหน”
“แม่เข้าห้องน้ำอยู่ เพิ่งกลับมาเหมือนกัน เดี๋ยวต้นจัดโต๊ะกับข้าวแล้วก้อเทเบียร์ให้แม่ด้วย ต้นจะกินเบียร์เป็นเพื่อนแม่ก้อได้นะ”
“แม่ไม่ต้องกินเบียร์หรอก วันนี้มีรีเจนซี่หนึ่งขวด กินเหล้าดีกว่า” พูดเสร็จต้นก้อหันมาทำปากจุ๊ๆ ให้ผมเป็นสัญญาญว่าเงียบๆ
แล้วก้อพาผมไปนั่งรอที่โต๊ะกับข้าว เสียงแม่ของต้นออกจากห้องน้ำ พอดีกับที่เรากำลังจะเทเหล้าผสมและเดินมาที่เรานั่งอยู่
ผมนั่งตาค้าง มือไม้แข็งทำอะไรไม่ถูกกับภาพหญิงสาวที่เห็น เธอขาวสวย สูงโปร่ง หุ่นดี ผิวเนียน ผมยาว ดำมัน
ดูจากหน้าตาเธอน่าจะอายุสัก 27 ปี ใส่เสื้อตราห่านสีขาว ช่วงบนเปียกน้ำเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าโนบราจนเม็ดน้อยๆ ดันเสื้อออกมา
กางเกงขาสั้นแบบที่วัยรุ่นชอบใส่ รัดร่องก้นสีชมพูสดตัดกับเรียวขาขาวๆของเธอ มองจากด้านหน้าเห็นชัดเลยว่ากางเกงมันรัดจน
กลีบมันแยกออกจากกัน มีร่องรอยการเปียกชื้นเป็นดวงอยู่ตรงกลาง ผมสังเกตอยู่ชั่วอึดใจ จนได้ยินเสียงกระแอมของเธอ จนทำให้
ผมสะดุ้งนิดหน่อย แล้วเธอก้อพูดกับต้นว่า
“จะพาเพื่อนมาก้อไม่บอก แม่จะได้เตรียมอาหารไว้รอ”
“ก้อต้นไม่อยากให้แม่เหนื่อย”
“งั้นก้อต้องช่วยแม่กินกับข้าวที่เหลือให้หมด”
“คร้าบบบบ แม่” ต้นตอบรับแบบลากเสียงยาว แล้วก้อลุกเดินไปกอดแม่ของเค้าทางด้านหน้า แล้วก้อหอมแก้มแม่ซ้ายขวาข้างละที
เสร็จแล้วก้อดึงเก้าอี้ให้แม่เค้านั่งลง แต่เธอบอกว่า “มีแขกมาเที่ยวบ้านแต่งตัวไม่สุภาพเลย รอแป๊บนะเดี๋ยวแม่มา”
ตอนที่ต้นเดินกลับมานั่งที่เดิม ผมสังเกตเห็นที่เป้ากางเกงของต้นตุงขึ้นมาเป็นลำเลย พอผมกำลังจะคิดอะไรที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ในสังคมไทย
แม่ของต้นก้อกลับมาพอพร้อมกับชุดครุมสีชมพูอ่อนๆ จนมองทะลุเห็นเสื้อผ้าชุดเดิมที่อยู่ภายใน แล้วเราสามคนก้อดื่มเหล้าด้วยกันจนเกือบหมดขวด
(คราวนี้ผมดื่มน้อยหน่อยเป็นมารยาทครับ)
เราคุยกันเรื่องที่ทำงานของผมกับต้นและเรื่องครอบครัวของต้น ส่วนใหญ่ผมจะนั่งฟังแม่ของต้น ผมชอบฟังน้ำเสียงของเธอมันไพเราะ อ่อนโยน
และ นุ่มนวล (ต่อไปนี้ผมจะเรียกเธอว่าเธอพี่แตง เพราะผมเพิ่งรู้จักชื่อเธอ) เธอบอกว่าเธอชื่อ แตง อายุ 40 ปี แต่งงานตอนอายุ 20 ทำงานก่อสร้าง
สามีเป็นช่างเชื่อมรายได้ดีมาก เดือนหนึ่งสองคนผัวเมียก้อได้ประมาณ 25000 บาทเกือบทุกเดือน และมีต้นตอนอายุ 22 พอต้นอายุได้ 12 ปี
พ่อต้นก้อป่วยเป็นโรคปอด นอนโรงบาลเกือบเดือน หมอบอกว่าปอดสองข้างไม่มีแล้ว เพราะควันเชื่อมจากการทำงานมากเกิน สุดท้ายก้อตาย
และได้เงินมาเป็นทุนค้าขายกับส่งให้ต้นเรียนจนจบ ปวช แต่ก้ออยู่กันสองคนมาตลอด คอยดูแลซึ่งกันและกัน
พี่แตงพูดไปก้อน้ำตาคลอเบ้า หน้าแดงแก้มแดงแต่ไม่ถึงกับร้องไห้ ดูแล้วเซ็กซี่มาก
ในระหว่างที่พี่แตงเล่าเรื่องในครอบครัวให้ผมฟัง ผมสังเกตเห็นว่าต้นจะคอยใช้แขนโอบไหล่ของพี่แตงและใช้ฝ่ามือลูบไล้ต้นแขนของแม่
เหมือนเป็นการให้กำลังใจ แต่คิดอีกทีเหมือนคู่รักกันมากกว่า ซึ่งผมไม่อยากคิดแบบนั้นแต่ผมห้ามความคิดตัวเองไม่ได้
ผมเห็นว่าเหล้าใกล้หมดผมก้อขอตัวกลับบ้าน แต่ต้นบอกว่า
“อย่าเพิ่งกลับเลยพี่ เดี๋ยวผมออกไปซื้อเหล้ามาอีก”
“พอแล้วแหละต้น นี่ก้อดึกมากแล้วเกือบ 4 ทุ่มแล้ว” ผมแย้งขึ้น แต่ใจจริงผมก้ออยากอยู่ต่อ เพื่อที่จะดูว่าแม่ลูกคู่นี้เป็นอะไรกันแน่
แค่คิดควยผมก้อแข็งจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว…..