Home Post 5058-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-14-%e0%b8%95%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%8b

5058-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-14-%e0%b8%95%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%8b

“มาถึงก่อนพี่ซะอีกนะเนี้ย…ขับเร็วเหมือนกันน๊า” สุพจน์เอ่ยขึ้นขณะเดินผ่านประตูห้องสูท VIP ภายในร้านคาราโอเกะชื่อดัง ภายในเป็นห้องไว้สำหรับร้องคาราโอเกะสำหรับลูกค้า VIP ที่กว้างขวางเบาะผ้าชั้นดีขนาดใหญ่ตั้งในลักษณะรูปเกือกม้า มีจอโทรทัศน์พร้อมอุปกรณ์คาราโอเกะวางอยู่ตรงกลาง ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวซึ่งก็นับว่ากว้างขวางเช่นกัน โดยทางร้านจะให้เฉพาะลูกค้ามีระดับเท่านั้นเช่นสุพจน์เป็นต้น

สุพจน์นั่งลงข้างๆเชอรรี่ สาวน้อยวัยขบเผาะ เหล้าและกับแกล้มชั้นดีถูกนำมาเสริฟท์ให้กับหนุ่มสาวทั้งสามคน ขณะที่ทั้งหมดกำลังเริ่มร้องเพลงตามเมนูที่กดไว้ สุพจน์เองเขาไม่ค่อยร้องเพลงกับสาวๆเท่าไหร่นักภายในใจกำลังครุ่นคิดหาวิธี ขยี้สวาทสองสาวซึ่งเป็นใครก็ได้ระหว่างสองคนนี้
จนกระทั้งเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานในจังหวะที่เพลงที่เลือกไว้หมดลงและสองสาวกำลังง่วนอยู่กับการมองหาชื่อเพลงที่อยากจะร้อง
“โทษทีครับพี่ถามอะไรซักอย่างได้เปล่าครับน้องแนนน้องเชอรรี่”
“ถามมาซิค่ะพี่พจน์….พี่เป็นเพื่อนพี่เก่งเจ้านายของเชอรรี่ถึงตอบไม่ได้ ก็จะตอบ” เชอรรี่กล่าวตอบเรียบๆโดยตายังคงจ้องไปที่สารบัญเพลงเพื่อช่วยแนนซึ่งก็อยู่ ในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้เหลียวหันมามองสุพจน์
“คือพี่เห็นบอกว่าเป็นเชียรลีดเดอร์ทั้งคู่เลย แล้วเรียนปีไหนกันครับนี่”
“เชอรรี่เพิ่งเข้าปี 1 ค่ะ แต่แนนอยู่ปี 2 แล้ว” เชอรรี่กล่าวโดยยังคงมองชื่อเพลงกับเพื่อนสาวเช่นเดิม
“แล้วนี่มาเป็นพริตตี้ให้ไอ้เก่งเล่นๆแก้เซ็งหรือว่าหารายได้เสริมครับ”
“โอ้ยพี่พจน์ขา….เชอรี่กับแนนไม่สนใจเงินค่าตัวหรอกค่า….ค่าเสื้อผ้ากับของใช้เราสองคนมากกว่าค่าตัวพริตตี้อีก”
“นั้นนะซิพี่ก็สังเกตุนะว่าเราสองคนคงมีฐานะดีพอควรเหมือนกัน…แต่.. อ้าว…แล้วมาทำงานนี้ทำไมละครับ…..พี่เห็นพริตตี้บางค่ายต้องแต่ตัวโป๊ๆ โชว์สัดส่วนให้พวกที่มาดูรถจ้องกันตาเป็นมันเลย”
คำพูดของสุพจน์ทำให้ทั้งเชอรรี่และแนนต้องละสายตามที่จ้องหาเพลงหันกลับมามองที่เขาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เราทำเพราะบางอย่างใช้เงินซื้อไม่ได้ค่ะพี่พจน์” คำตอบนี้ของเชอรรี่ทำเอาสุพจน์ถึงกับเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นด้วยความสงสัย
“ชื่อเสียงค่ะพี่พจน์……จะได้มีคนรู้จักเยอะๆ…มีกล้องมาถ่ายเราออก โทรทัศน์มีคนมาสัมภาษณ์……เพื่อมีแมวมองมาเห็นจะได้ชวนไปถ่ายโฆษณา เผลอๆได้เล่นละครอีก” สาวแนนตอบไขความกระจ่างให้เขาเมื่อเห็นสีหน้าที่งุนงงกับคำตอบแรก
“ใช่ค่ะพี่พจน์….พวกเราก็ไม่ใช่ขี้เหร่ซะหน่อย…อยู่ในมหาลัยวันๆไม่มี แมวมองมาหรอกค่ะ….ครั้นจะให้วิ่งไปเทศหน้ากล้องตามที่เขาเปิดรับสมัครแบบ นั้นนะ…เราไม่เอาหรอก….เสียเกรดหมด..เดี๋ยวพวกเพื่อนๆมันหาเราอยากดัง จริงไหมแนน”
“ใช่ค่ะพี่พจน์….ถ้าเป็นแบบมีพวกครีเอทีฟมาเห็นแล้วเชิญไปถ่ายแบบนะ… อย่างนี้ดังกว่าอีก” สาวแนนเสริมต่อแล้วก็ชวนเชอรรี่หันกลับไปหาชื่อเพลงที่ยังค้างอยู่
ใช่แล้ว…….ความคิดเขาแล่นขึ้นมาบนหัวอย่างรวดเร็ว……หญิงสาวพวกนี้ อยากโด่งดังเป็นที่รู้จักและสนใจทั่วไปของกลุ่มวัยรุ่น…แม้พวกเธอเหล่านั้นจะมีเงินและฐานะ…..แต่การจะก้าวมาเป็นดารานั้นจะต้องได้รับการสนับสนุนด้วย ซึ่งดาราวัยรุ่นในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่นอกจากฐานะทางบ้านดีอยู่แล้ว ยังเป็นพวกนามสกุลเก่าแก่ที่อาศัยพื้นฐานของครอบครัวผลักดันเข้าวงการ แต่สำหรับเธอสองคนนี้แม้ฐานะทางบ้านจะดีแต่ก็เป็นแบบเศรษฐีใหม่ไม่มีเส้นสายใดๆ ครั้นจะเที่ยววิ่งไปขอเทศหน้ากล้องตามงานต่างๆก็กลัวเสียเครดิตและถูกนินทา หาว่าอยากดัง จึงต้องอาศัยช่องทางนี้เพื่อผลักดันพวกเธอให้เป็นที่รู้จักและได้การยอมรับ ขณะที่คิดประติดประต่อความต้องการของสองสาว
สุพจน์ก็เหลือบตาลงมองช่วงล่างของสาวเชอรรี่ที่นั่งติดกับเขาสิ่งที่เห็น เล่นเอาท่อนเอ็นในกางเกงกระตุกโดดผึงขยายยาวออกทันที เพราะด้วยเรียวขายาวสวยของวัยรุ่นยุคนี้ที่ดื่มนมเป็นกิจวัตร เมื่อต้องนั่งลงบนโซฟาที่สูงจากพื้นไม่มาก ท่านั่งของสาวน้อยที่หย่อนก้นลงโซฟาตัวเดียวกับเขาจึงต้องนั่งชันเข่าสูง ขอบกระโปรงสั้นรัดเข้ารูปที่สวมใส่ จึงรั้งลงมาจากที่เคยปกปิดไว้แค่ครึ่งต้นขาอวบขาวกลายเป็นร่นมาปกปิดแบบหมิ่นเหม่แค่เพียงแก้มก้น ความขาวอวบของแก้มก้นหล่อนที่อัดแน่นตามวัยสาวขบเผาะจึงล้นออกมาปริ่มๆ จากกระโปรงตัวนั้น ดีแต่ว่าเธอนั่งหนีบเข่าชิดทั้งสองข้างไว้ มิฉะนั้นหากเผลอนั่งอ้าขาออกซักนิด โหนกนูนของสาววัยขบเผาะผู้นี้ คงจะแอ่นโคกกระดองเต่าที่มีชั้นในปกปิดไว้โผล่พ้นขอบกระโปรงด้านหน้าที่ร่นขึ้นจนปิดแค่ต้นขาแอ่นโคกอูมๆยื่นล่อสายตาเขา ทันที

“โถ่เอ๋ย……..แค่นี้เองไม่เห็นยากอะไรเล้ย” สุพจน์กล่าวขึ้นพร้อมละสายตาจากสิ่งล่อตาล่อใจแล้วหันกลับไปยกเหล้าดื่ม เพื่อระบายความกำหนัดที่เริ่มอัดแน่นขึ้น
คำพูดแสดงความง่ายที่จะก้าวไปเป็นดาราขวัญใจวัยรุ่นเล่นเอาทั้งสองสาวถึงกับหันกลับมามองที่เขาเป็นตาเดียวกัน
“ฮา….พี่พจน์รู้จักคนในวงการหรือค่ะ” เชอรี่ผู้ที่เริ่มจุดประกายความกระสันต์ของเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความ ตื่นเต้นผสมกับความหวังจากคำพูดดังกล่าว
“ใช่ครับก็พี่กับพี่เก่งเป็นสปอนเซอร์รายการโทรทัศน์ นิตยสารตั้งหลายอย่าง เวลาบริษัทโฆษณาเขาจะทำอะไรเขาจะถามเราก่อนว่าเจาะจงใครไหมเป็นพิเศษที่จะ ให้เป็นนายแบบหรือนางแบบ……..แต่ส่วนใหญ่พี่จะปล่อยให้พวกเขาเลือกกันเองนะ ครับไม่ค่อยไปยุ่ง….แล้วนี้หลังจากงานมอร์เตอร์โชว์ที่น้องสองคนไปเป็นพรีเซ็นเตอร์นะ เราจะมีสปอร์ตภาพยนต์แนะนำรถรุ่นใหม่พอดี….เห็นเขากำลังหานาง แบบอยู่”
“โถ่พี่พจน์ขา…….แนะนำแนนกับเชอรรี่ให้เขาหน่อยได้ไหมค่ะ….น๊ะน๊ะ” สาวแนนกระโดดตัวลอยจากที่นั่งลุกวิ่งอ้อมสุพจน์ด้านหน้าลงมานั่งข้างๆเขาอีกข้างทันที พร้อมกับใช้สองแขนขาวเรียวสวยๆของเธอดึงแขนของสุพจน์ขึ้นมาคล้องแขนทั้งสองข้างของตัวเอง พร้อมเขย่าไปมาเหมือนเด็กน้อยๆที่กำลังรบเร้า ผู้ใหญ่ยามที่อยากได้ของเล่น
เธอหมดความระมัดระวังในกิริยาท่าทางโดยสิ้นเชิงเพราะกำลังอยู่ระหว่าง ตื่นเต้นกับโอกาสตรงหน้าที่สุพจน์พูดขึ้น ทันทีที่หย่อนก้นงอนๆลงบนโซฟา สองเข่าที่ยามนั่งปกติจะหนีบชิดกันกลับขยับไปมาอ้าๆหุบๆ เนินอวบอูมน้อยๆของสาววัยขบเผาะที่อยู่ภายในชั้นในสีขาวลายตุ๊กตาจึงโผล่พ้น ชายกระโปรงที่ปิดอยู่แค่ต้นขาโผล่ออกมาวับๆแวมๆเล่นเอาสุพจน์ต้องขยับตัว เล็กน้อยเพื่อให้เกิดช่องว่างในกางเกงให้เจ้าดุ้นเอ็นที่เด้งตัวขึ้นทันที ทันใดมีพื้นที่ขยับขยายพองตัว เมื่อสายตาของเขาไปบรรจบกับโคกนูนๆที่อยู่กลางหว่างขาขาวอวบของสาวน้อย
“งั้นเดี๋ยวพี่โทรไปให้เลย…..ผู้กำกับคงยังไม่หลับหรอกเพราะนอนกันดึกอยู่ แล้ว”
สุพจน์หยิบโทรสัพท์ขึ้นมาทำท่าทางกดเบอร์โทรออกแล้วรอสักพักจากนั้นจึงพูดขึ้นเหมือนมีคนสนทนาอยู่ด้วย
“คุณศักดิ์เหรอ…นี่ผมสุพจน์น๊ะเรื่องนางแบบโฆษณารถรุ่นใหม่ของเก่งเป็นไง บ้างครับ……….อ้อได้แล้วเหรอ….คืองี้ครับคุณศักดิ์พอจะเปลี่ยนได้ไหม ผมอยากแนะนำน้องสองคนที่เป็นพริตตี้อยู่กับทางเราให้คุณศักดิ์แทนนะครับ…. จำได้ไหม……ใช่สองคนนั่นแหละครับสวยมากทั้งคู่ …อ้าวทำไม่ละ” สองสาวได้ยินคำว่าสวยมากทั้งคู่ถึงกับแสดงความตื่นเต้นขึ้นมาทันทีแต่แล้วก็ ต้องหยุดนิ่งลงเมื่อได้ยินประโยคที่ตามมา สุพจน์ทำท่าเหมือนฟังเสียงฝั่งตรงข้ามพร้อมกับทำสีหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่หากทั้งสองสาวแย่งโทรศัพท์จากมือเขามาดูก็จะรู้ว่ากำลังถูกหลอกและตกอยู่ ในแผนการณ์เจ้าเล่ห์ของจิ้งจอกสวาทอย่างเขา
“ตายแล้วคุณศักดิ์ทำไมคุณทำอย่างนั้นละ…แล้วนี้แสดงว่านางแบบทุกคนเลยใช่ ไหมครับ….แล้วพอจะบอกเด็กของคุณให้ไปเป็นแบบแทนเรื่องหน้าได้ไหมละ ………คุณมีทางไม๊ละ” น้ำเสียงที่ส่ออาการพยายามช่วยเหลือสองสาวสุดๆทำเอาทั้งคู่มีสีหน้าเศร้า สร้อยลงทันที
“จะบ้าเหรอคุณ…..ผมคงทำไม่ได้….แล้วอีกอย่างผมก็ไม่รู้หรอกน๊ะว่าน้องสาวทั้งสองคนนี้เป็นยังไง……แค่นี้แล้วกันน๊ะครับ”

พูดจบสุพจน์ก็หันมาบอกกับสาวน้อยทั้งสองคนพร้อมแสดงท่าอึดอัดใจให้เธอสองคน เห็น
“เออ…พี่ว่าโอกาสหน้าแล้วกันน๊ะครับพอดีติดขัดนิดหน่อย”
“มีอะไรหรือค่ะพี่พจน์….เห็นเมื่อกี้พี่พจน์บอกว่าไม้รู้แนนกับเชอรรี่เป็นยังไง…หมายความว่าอะไรหรือค่ะบอกเรามาเถอะ”
สาวเชอรรี่ที่อยู่ข้างเขาอีกด้านกล่าวขึ้นด้วยสีหน้ากังวลและเศร้าสร้อย เอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับตัวเข้าชิดเขาอีก ทำให้จังหวะขยับก้นเบียดร่างเข้ามาของเธอจึงเผยให้เห็นโคกอวบเท่าฝ่ามือโผล่ พ้นขอบกระโปรงเช่นเดียวกับสาวแนนเมื่อครู่
“อื้อ…นี้ก็นูนเหมือนกันโว้ย” เขานึกในใจขณะรอโอกาสการขยับตัวของหล่อนอยู่ก่อนแล้ว
“เอ่อคือ…ผู้กำกับเขาบอกว่าจะต้องถ่ายทำหนังในอีก 2 วันข้างหน้าน๊ะครับกลัวจะไม่ทัน”
“คงไม่ใช่แค่นี้หรอกมั้งค่ะ…..เพราะพี่ยังไม่บอกเลยเรื่องที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรา” สาวแนนเอ่ยขึ้นแบบเคร่งเครียด
“ถ้าพี่บอกเราสองคนต้องไม่โกรธน๊ะ….แต่พี่จะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติในวงการน๊ะ”
“ค่ะพี่….เราสัญญาเพราะพี่พยายามช่วยเราแล้ว…บอกมาเถอะค่ะ”ทั้งสาวแนนและเชอรรี่พูดออกมาแทบจะพร้อมกัน
“คือผู้กำกับเขาบอกว่า…..ปกติคนที่จะเป็นนางแบบเขาจะต้องยอมมีอะไรๆกับเขาก่อนน๊ะครับ”
สุพจน์เอ่ยพร้อมกับหยุดจังหวะลงชั่วครู่จากนั้นจึงพูดขึ้นต่อโดยไม่ได้มองหน้าหญิงสาวทั้งคู่
“นางแบบสองคนนั้นเค้าก็ยินยอมน๊ะ….เค้าก็เลยจำเป็นต้องให้โอกาสทางนั้นก่อน…แต่…”
“แต่อะไรค่ะ…พี่พูดมาเถอะ” สาวแนนนถามกลับมาอย่างรวดเร็วเมือสุพจน์พูดค้างแค่นั้น
“เอ่อ…พี่ว่าเขาเปลี่ยนได้แต่……คงอยากให้น้องสองคนทำแบบนั้นเหมือนกัน ”
พูดจบเขาก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีทำเอาสองสาวที่ตกอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้งตัว ตกใจ
“ไปเรากลับกันเอะครับ….พี่ยอมไม่ได้หรอก…แต่ครั้นจะให้พี่ใช้อำนาจ เปลี่ยนตัวก็ไม่ดี…..เพราะนางแบบสองคนนั้นก็มีอะไรๆกับผู้กำกับไปแล้ว …….อีกอย่างทางเราจ่ายเงินไปแล้วด้วยครับขืนไปขัดเขาเดี๋ยวทำหนังให้ไม่ ดีจะไปกันใหญ่……….และที่สำคัญเค้าบอกว่าถึงน้องแนนกับเชอรรี่จะยินยอม น้องสองคนต้องไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ด้วยเพราะเขากลัวจะมีปัญหาภายหลัง……อัน นี้แหละที่ทำให้พี่บอกเขาไปว่าจะรู้ได้ไง”

ทั้งคู่นั่งเงียบหันมาสบตากันด้วยท่าทางผิดหวัง โดยที่เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าภายในใจแต่ละคนกำลังคิดอะไร
“ไปกันเถอะครับดึกแล้ว….พี่เซ็งด้วยที่ช่วยแนนกับเชอรรี่ไม่ได้…แหมเสียดายครั้งนี้ถ่ายหนังโฆษณาเสร็จ…เรากะจะลองให้ไปเทศกล้องแสดงละครต่อพอดี สองคนนั้นเลยโชคดีไป” สุพจน์กล่าวเสริมความสำคัญของการถ่ายแบบครั้งนี้เพิ่มอีกเพื่อเป็นแรงจูงใจ ให้กับเธอทั้งคู่ที่จะเข้าสู่หลุมพรางของตัวเอง
“เดี๋ยวพี่ออกไปจ่ายเงินข้างนอกก่อนน๊ะครับ….จะได้กลับกัน”
พูดจบเขาก็ก้าวเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้สองสาวนั่งเงียบมองสบตากันไปมาภายในห้องสูทคาราโอเกะหรูห้องนั้น
“ไม่น่าเลยเนอะแนน…..ไม่งั้นได้ทั้งถ่ายโฆษณา และได้ลองเล่นละครด้วย”
สาวแนนนั่งเงียบไม่ตอบ จนกระทั้งเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“เราเคยได้ยินเหมือนกันเชอรรี่…เรื่องแบบเนี้ยะ…เห็นเพื่อนๆเราก็พูดกัน บ่อยว่านักแสดงนักร้องใหม่ๆก็ใช้วิธีนี้และถึงได้ดังกันเร็วไง” ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะพูดอะไรต่อภายในจอโทรทัศน์ที่เดิมเป็นสีน้ำเงิน เพราะรอการเลือกเพลงกลับมีเสียงซีดซาดครวญครางออกมา พร้อมกับภาพการร่วมรักกันของหญิงชายต่างชาติคู่หนึ่งปรากฎขึ้นมาแทน การร่วมรักในภาพเป็นไปอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน ฝ่ายหญิงนอนอ้าขาถ่างจากกันสุดหล้าอยู่บนโต๊ะกินข้าว ร้องครวญครางเสียงดังกระเส่าเป็นจังหวะๆตามแรงกระเด้าส่งท่อนเอ็นดุ้นขนาด น้องๆม้าทั้งยาวและใหญ่ของชาวนิโกรซึ่งกำลังยืนแอ่นกระแทกท่อนเอ็นสีดำสนิท เหมือนถ่านแหวกเข้าออกร่องกลีบของหญิงสาวฝรั่งผิวขาวอย่างเมามัน สองสาววัยขบเผาะนั่งมองภาพที่เห็นนิ่งเงียบทั้งคู่สองกลีบแคมวัยสาวเริ่มมี อาการขมิบไปมาเข้าหากันเป็นระยะๆตามจังหวะกระแทกท่อนลำขนาดมโหฬารของชายผิว ดำในโทรทัศน์