4650-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-22
…. เมื่อเครื่องบนลงแตะพิ้นที่สนามบินกรุงโซลก็เป็นเวลาบ่ายมากแล้ว มาริโอ้แทบจะไม่ต้องผ่านกระบวนการพิธีทางศุลกากรเลย เพราะมีนายทหารเกาหลีชุดหนึ่งไปรับถึงทางเดินเชื่อมเครื่องบินกับอาคารท่าอากาศยาน ทีมงานของไทยหลายคนแทบจะถูกอุ้มไปยัดใส่เครื่องบินทหารอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งสภาพนั้นต่างกับเครื่องบินของสายการบินที่เดินทางมาจากประเทศไทยชนิดหน้ามือกับส้นตีน เกาหลีเหนือไม่ยินยอมให้เครื่องบินของชาติใดล่วงล้ำเข้าไปในน่านฟ้าได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเครื่องบินทหารของเกาหลีใต้ ดังนั้นมาริโอ้จึงต้องนั่งบนเกาอี้โทรมๆของสายการบินเกาหลีเหนือ ที่บินมารับทีมงานทั้งหมดถึงกรุงโซล
… ทีมของไทยนั้นมาเป็นทีมสุดท้ายเพราะสภาพอากาศไม่ดี บนเครื่องบินลำนั้นแออัดไปด้วยนักแสดงจากหลายชาติ มีทั้งเกาหลีใต้ อเมริกัน อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย ซึ่งเคยเข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วก็เป็นนักแสดงวัยรุ่นด้วยกันแทบทั้งนั้น ทั้งหมดได้รับเชิญจากคณะกรรมการสมานฉันท์ปรองดองสามัคคีชื่นมื่นของสองเกาหลี เพื่อถ่ายทำสารคดีและโฆษณาประชาสัมพันธ์ในความเป็นมิตรของทั้งสองประเทศ
… มาริโอ้ได้ที่นั่งหน้าส้วม เขานั่งลงอย่างไม่มีทางเลือก เพราะเนื่องจากมาเป็นคณะสุดท้าย และบนเครื่องนั้นทุกคนหน้าหงิกงอกันหมด เมื่อต้องมานั่งรอทีมงานจากไทยเพียงสองสามคน บนเครื่องบินที่ออกจะมีกลิ่นเหม็นๆอย่างบอกไม่ถูก และเก้าอี้ก็มีสภาพน่วมยุบจนไม่น่านั่ง
…. ยังไม่ทันจะได้หายใจหายคอ เครื่องบินเกาหลีเหนือลำนั้นก็เริ่มเทคออฟ ไม่มีเสียงสัญญานอะไรเตือนผู้โดยสาร นอกจากไฟดวงหนึ่งที่แดงขึ้นบนเหนือหัวของทุกคน มันเป็นรูปที่เมื่อเพ่งจนตาแทบเหล่แล้วจึงจะรู้ว่าคือเข็มขัด หลายคนตะครุบเข็มขัดที่เก้าอี้มาคาดกันอย่างวุ่นวาย และแทบจะไม่ทันกับอาการเชิดหัวขึ้นของเครื่องบิน
…. เสียงบ่นพึมพัมดังเซ็งแช่ เมื่อเครื่องบินตั้งลำบนอากาศได้ ครู่ใหญ่มาริโอ้ก็ปลดเข็มขัดออกแล้วลุกขึ้นจะไปเข้าห้องน้ำ หลายคนบนเครื่องนั้นมองมาที่ใบหน้าขาวราวกับไข่ปอกของดาราหนุ่มวัยรุ่นไทย ดวงหน้านั้นคมสันชนิดที่เรียกได้ว่ากินขาดดาราวัยรุ่นชายของอีกหลายชาติ ที่นั่งกันหน้าสลอนอยู่บนเครื่อง
… คมกริชอมยิ้ม เขาชักเริ่มชอบร่างอวตารของมาริโอ้นี่เสียแล้ว เนื่องจากหล่อเข้าขั้นชนิดตะไบละเอียดและขัดกระดาษทรายเรียบร้อย ผิวหน้าเนียนละเอียดราวกับตูดเด็กทารก ตมคม จมูกโด่ง ปากแดงน่าจูบ เขาเดินยืดแบบเบ่งๆเก๊กๆเพื่อที่จะไปฉี่
… ก้าวไปยังไม่ทันถึงหนึ่งก้าว และที่นั่งของเขาอยู่หน้าห้องน้ำนั่นเอง ร่างสูงโปร่งนั้นก็เซแซ่ดๆๆ ก่อนจะม้วนกลิ้งแบบหมดรูปไปทางหน้าเครื่องบิน เมื่อเครื่องบินนั้นปักหัววูบลงอย่างกระทันหัน เสียงกรีดร้องดังไปทั่วเครื่อง ขาของคมกริชฟาดปังเข้ากับอะไรสักอย่าง มันทำให้เขาหยุดกลิ้งโค่โล่ไปได้ มือสองข้างตะกายคว้าเปะปะ ก่อนจะจับเข้าให้ที่ท่อนขาของใครสักคน และใช้เท้ายันอะไรสักอย่างที่กลิ้งมาปะทะเข้า เขาสูดลมหายใจยาวๆ และรีบตั้งสติ มองซ้ายมองขวาอย่างรวดเร็ว
…. เสียงกรีดร้องเงียบลง เมื่อเครื่องบินกระแทกลงบนพื้น มันเป็นการร่อนลงแน่ๆ ทั้งๆที่พึ่งเชิดหัวขึ้นมาได้ไม่ถึงยี่สิบนาที ไม่มีสัญญานอะไรจากนักบิน ไม่มีคำเตือนจากพนักงานต้อนรับ ทุกคนบนเครื่องนั้นเงียบกริบ ทางด้านหัวเครื่อง ทีมงานของเกาหลีใต้หลายคนลุกขึ้นและเดินไปทางห้องนักบิน พร้อมส่งเสียงเอ็ดตะโรอย่างเดือดดาล
… นิ้วของใครคนหนึ่งสะกิดเข้าที่หัวไหล่ของมาริโอ้ เด็กหนุ่มยังคงนอนตะแคงอยู่บนพื้นทางเดินกลางเครื่องบิน เขามองตามนิ้วนั้นไปแล้วก็พบว่าเป็นนิ้วเจ้าของท่อนขาข้างที่เขากำยึดไว้ราวกับเสาบนรถเมล์ ใบหน้าหวานสวยบาดใจนั้นก้มลงมาหา ดวงตากลมโตใสแจ๋วนั้นมีร่องรอยขบขัน เธอพูดออกมาเป็นภาษาเกาหลี มาริโอ้กระพริบตาหนนึง ก่อนจะกลืนน้ำลาย เครื่องแปลภาษาในหัวก็ทำงานตอบสนองในทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ฟังฉันพูดรู้เรื่องไหมเนี่ย สงสัยจะไม่รู้เรื่อง คณปล่อยขาฉันก่อนได้ไหม ขาฉันจะเป็นรอยเขียวนะ ถ้าคุณบีบมันอย่างนั้นนานๆ ว๊า จะพูดกันรู้เรื่องไหมเนี่ย”
…เสียงหวานๆนั้นรัวเร็วปรื๋อ คิ้วโก่งเลิกขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนจะเลิกพร้อมกันทั้งสองข้าง และแสดงอาการประหลาดใจออกมาอย่างสุดขีด เมื่อได้ยินเสียงพูดตอบ
“ขอโทษครับ ผมไม่ทันตั้งตัว”
… เสียงตอบกลับมานั้นเป็นภาษาเกาหลี เพราะและนุ่มนวลอบอุ่น คิมแตฮีอ้าปากค้าง ริมฝีปากของหญิงสาวแดงสด ลิ้นที่อยู่ภายในนั้นก็เป็นสีชมพู ฟันซี่เล็กๆสีขาวเรียงกันเป็นระเบียบ
“คุณพูดภาษาฉันได้”
… มาริโอ้ยิ้ม ก่อนจะสบตาของคิมแตฮี ประกายวูบราวกับแสงสว่างในดวงตาของทั้งสองคนเกิดขึ้นพร้อมกัน มือของมาริโอ้ปล่อยขาเรียวสวยข้างนั้นแล้ว โดยลูบไปที่ปลีน่องอวบอิ่มนั้นเบาๆเหมือนไม่เจตนา ดาราสาวเกาหลีสะท้านไปทั้งไขสันหลัง เมื่อแรกที่หนุ่มคนนี้จับขาเธอเอาเป็นที่ยึด เพื่อหยุดอาการกลิ้งมาตามทางเดินนั้น เธอรู้สึกแต่เพียงเจ็บขาเล็กน้อย แต่ตอนที่เขาปล่อยและสัมผัสปลีน่องของเธอนั้น คิมแตฮีกลับสะทกสะท้านลึกๆในร่างกาย
“อย่าบอกใครนะครับ ผมเรียนมาเพื่อคุยกับคุณโดยเฉพาะ”
… รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากคู่งามนั้น ใบหน้าขาวผ่องนั้นมีร่องรอยของสีเลือดเป็นริ้วๆ ดวงตาวาววับ
“แล้วที่กลิ้งมาตามทางเดินนี่ ก็เพื่อมาคุยกับฉันด้วยหรือเปล่าคะ”
…มาริโอ้ยังไม่ทันตอบคำถาม เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหน้าของเครื่อง มันเป็นเสียงประตูเครื่องบินที่เปิดออก หลายคนส่งเสียงฮือฮา บันไดถูกดันเลื่อนมาเทียบข้างเครื่องบิน มองเห็นได้จากหน้าต่างของเครื่อง รวมทั้งทิวทัศน์ภายนอกที่เห็นได้ชัดว่า มันเป็นสนามบินที่ตั้งอยู่บนทุ่งนาโล่งๆ
“เชิญทุกท่านลงจากเครื่องได้ครับ”
“ถึงเปียงยางแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง”
… เสียงตะโกนถามเป็นภาษาอังกฤษเช่นเดียวกับเสียงเชิญลงเครื่อง
“ทุกท่านครับ ทางการเกาหลีเหนือแจ้งว่า เราต้องเดินทางเข้าเปียงยางด้วยรถยนต์ เครื่องบินลำนี้รับเราข้ามเส้นขนานที่ 38 มาเพียงเท่านั้น เมื่อข้ามมาถึงสนามบินที่ใกล้ที่สุด ก็ลงจอดนี่แหละครับ”
“พระเจ้า เขื่อน ไอ้ขี้วัว”
…เสียงภาษาอังกฤษที่แปลได้อย่างนั้นดังระงม เสียงด่าเป็นภาษาอังกฤษดังมากที่สุด เพราะคนบนเครื่องนั้นมาจากชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติมากที่สุด
“มันเกิดอะไรขึ้นครับ”
…มาริโอ้ถามดาราสาวเกาหลี ที่ยังคงมองหน้าเขาอย่างพิจารณา
“ฉันคิดว่า ทางนี้ เอ่อ หมายถึงพวกเหนือ คงอยากให้พวกเราไปถึงจุดหมายช้าๆ เขาถ่วงเวลาค่ะ”
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมต้องถ่วงเวลาด้วยครับ”
“ฉันก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่เดาใจพวกเหนือยากค่ะ ถ้าจะให้เดา ฉันว่าผู้นำเขาสั่งมา พวกนี้ก็ต้องทำตามคำสั่ง นี่คงมีการสั่งให้พาเราลงพื้นดินกะทันหัน นักบินถึงได้ปักหัวลงมาดื้อๆอย่างนี้”
…ทีมงานไทยคนหนึ่งเบียดตัวแทรกคนที่ลูกขึ้น แล้วออกมายืนกันแน่นทางเดิน มาจนถึงที่มาริโอ้ยืนอยู่
“โอ้ พูดเกาหลีได้ด้วยเหรอ”
…มาริโอ้หันไปตอบ
“นิดๆน่ะพี่ โอ้อ่านการ์ตูนเกาหลีเยอะ”
… ทางด้านหน้าเครื่อง ผู้คนเริ่มทยอยเดินออกจากประตู เสียงใครคนหนึ่งด่าลั่นเป็นภาษาอังกฤษ
“ฟักยู แม่ง ให้กูเดินลงเองหรือวะ บันไดนี่มันสมัยไหนวะเนี่ย สมัยจอร์จ วอชิงตันหรือไง”
… หลายคนหัวเราะครืน เมื่อมีคนไม่พอใจที่ต้องเดินลงบันไดเครื่องบินเอง เกาหลีเหนือนำบันไดเก่าๆมาเทียบเครื่อง สนามบินแห่งนี้ดูราวกับสนามบินร้าง ไม่มีเครื่องบินอื่นใดบนสนามเลย มาริโอ้เบียงตัวหลบคนที่เบียดเสียดยัดเยียดกันลงจากเครื่อง คิมแตฮีขยับตัวเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวใน หญิงสาวครอบครองเก้าอี้สองตัวเพียงคนเดียว เพราะทีมงานเกาหลีจับจองเอาไว้ให้ดาราสาวที่ดังระเบิดคนนี้ เธอพยักหน้าให้มาริโอ้นั่งลง
“ให้พวกเขาลงกันไปก่อนก็ได้ค่ะ”
… มาริโอ้ยิ้ม เขาสูดลมหายใจยาวๆเข้าปอด ก่อนจะทำตาเยิ้ม กลิ่นที่โชยมาจากคิมแตฮีฉุนกึ๊ก กลิ่นจากซอกอันเร้นลับ กลิ่นนั้นมันฟ้องว่าหญิงสาวขับน้ำเมือกลื่นออกมาในช่องทางสวรรค์
“มีแฟนหรือยังครับ”
…มาริโอ้ถามหน้าตาเฉย คิมแตฮีทำหน้าเขิน หญิงสาวทุบต้นขาของเด็กหนุ่มเบาๆ
“อย่ามาทำเจ้าชู้ ฉันอายุมากกว่าคุณนะ”
… มาริโอ้ยิ้มอีก
“คุณรู้อายุผมได้ยังไง”
…ดาราสาวเกาหลีค้อน
“หน้าคุณน่ะฟ้อง พึ่งยี่สิบกว่าๆใช่ไหมล่ะ”
“แล้วคุณเท่าไหร่”
“บ้า มาถามอายุผู้หญิงได้ยังไง ไม่บอก”
“อายุไม่สำคัญ ถ้าคนเราจะชอบกัน”
… คิมแตฮีค้อนอีกที
“เอ้า ลุกขึ้นได้แล้ว เขาลงกันไปจนหมดแล้ว”
“ผมอยากลงเป็นคนสุดท้ายครับ เชิญคุณก่อน”
…มาริโอ้เบี่ยงตัวให้ เด็กหนุ่มทำท่าให้คิมแตฮีเดินเบียดเขาออกไป โดยไม่ลุกเปิดทางให้ สาวเกาหลีค้อน ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเบียดออกไปตามที่มาริโอ้บังคับ เธอสะดุ้งเมื่อเด็กหนุ่มเอามือดันก้นหน้าตาเฉย ทำท่าเหมือนจะช่วยส่งท้ายให้
… ดันไม่ดันเปล่า ลูบเสียด้วย ดาราสาวเกาหลีอ้าปาก ก่อนจะหันมาหัวเราะ
“คนไทยมือไวอย่างนี้หรือ”
“คุณรู้หรือว่าผมเป็นคนไทย”
… คิมแตฮีค้อน
“ฉันเคยดูหนังที่คุณเล่น”
…มาริโอ้ลุกขึ้นก่อนจะก้าวเข้าไปจนแผ่นอกชิดกับแพ่นหลังของดาราสาว
“ผมก็ดูหนังที่คุณเล่นทุกเรื่อง และฝันเสมอมาว่าจะได้เล่นหนังกับคุณ”
“เล่นแค่หนังเหรอ”
..คำถามนั้นจบด้วยเสียงหัวเราะเหมือนยั่วเย้า ดาราสาวเกาหลีก้าวฉับๆเดินตามทางเดิน แล้วโบกมือให้มาริโอ้เหมือนยั่วเย้า
“บาย ถ้าอยากอยู่บนเครื่องก็เชิญอยู่ไปคนเดียว ฉันจะลงล่ะ”
…พูดจบเธอก็ลงบันไดเครื่องไป มาริโอ้หัวเราะก่อนเดินตามลงไป สายตาของเขากวาดไปทั่วบริเวณ และก็พบว่าบนรันเวย์ มีรถบัสและรถเก๋งหลายคันจอดอยู่ ผู้โดยสารต่างแยกย้ายกันไปขึ้นรถแต่ละคัน ตามแต่ทหารเกาหลีเหนือที่หน้าตาขึงขังพร้อมอาวุธครบมือจะชี้สั่ง มาริโอ้เอินตามหลังคิมแตฮีไปติดๆ จมูกก็สูดกลิ่นสาปสาวอันหอมระรื่นของเธออย่างเพลิดเพลิน เขาสังเกตเห็นว่าทีมงานของไทยถูกชี้ให้ไปขึ้นรถบัสคันหนึ่ง แต่ทีมงานเกาหลีใต้ชี้มือให้คิมแตฮีไปขึ้นรถยนต์หน้าตาประหลาด ยาวขนาดสามตอน ดูท่าทางเหมือนลิมูซีน แต่มันออกแนวจีนๆยังไงพิกลอยู่
“คุณคิมครับ เชิญที่รถลิมูซีน”
…ทีมงานเกาหลีที่เป็นชายร่างใหญ่ กางแขนกั้นมาริโอ้ที่เดินตามดาราสาวสุดฮอตมาติดๆ แขนข้างนั้นเกือบฟาดเอาลูกกระเดือกของดาราหนุ่ม คิมแตฮีหันกลับมามองมาริโอ้ ก่อนจะถามขึ้นมา
“หนุ่มไทย คุณไปรถคันไหนคะ”
… มาริโอ้ยักไหล่ ท่าทางกวนๆ
“ไม่ทราบครับ ผมอาจจะต้องเดินไปมั้ง ดาราใหญ่ก็นั่งลิมูซีน ดาราไทยกระจอกๆก็เดินไป แล้วพบกันทีเปียงยางนะครับ หากผมไม่ถูกจับไปต้มกินเสียก่อน”
…มาริโอ้นั้นตอบเป็นภาษาเกาหลีชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งสำเนียงยังจัดได้ว่าเข้าขั้นมีคลาส ไม่ใช่เกาหลีหางแถว ดาราสาวชาวเกาหลีหัวเราะกี๊ก ดวงตานั้นวาววับ เธอหันไปมองหน้าทีมงานที่ยังทำท่ากั้นมาริโอ้ไม่ให้ตามติดเธออยู่
“ฉันจะไปรถคันเดียวกับเขา ถ้าเขาต้องเดินไปฉันก็จะเดินไปด้วย”
… ทีมงานเกาหลีทั้งใต้และเหนือเกาหัวยิก ก่อนจะเปิดทางให้มาริโอ้ เด็กหนุ่มโบปมือให้ทีมงานไทยที่ชะโงกออกมาจากรถบัส ก่อนทำมือเป็นสัญญานชี้ไปที่ลิมูซีนคันยาว ทีมงานพยักหน้ารับรู้ ก่อนทุกคนจะเห็นมาริโอ้ขึ้นที่นั่งตอนหลังไปกับคิมแตฮีสองคน
…. รถลิมูซีนนั้นแบ่งเป็นสัดส่วน ดูคล้ายรถที่ฮวยเซ็งใช้เป็นพาหนะ คันที่คมกริชได้เย่อดาราสาวชาวกำจนกูชาไปเมื่อไม่นานมานี้ ด้านหน้าของที่นั่งตอนหลังที่กว้างขวาง เป็นบาร์เครื่องดื่ม ทีวีจอแบน หมอนสารพัดสีวางเรียงเป็นระเบียบ มีผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้า ขนมเป็นถุงๆ แก้วน้ำ อะไรต่อมิอะไรเพียบไปหมด แถมยังมีถุงตีตราห้างดังของเกาหลีใต้ ที่ทีมงานยัดพรวดเข้ามาในรถอีก ขนมและของขบเคี้ยวหลายชิ้นหลุดออกมานอกถุง
… คิมแตฮีนั่งพิงเบาะแล้วเหยียดขายาว เธอหันมาสบตามาริโอ้ที่มองอะไรไปรอบๆรถ
“ที่ประเทศคุณ คุณดังมากใช่ไหม”
…มาริโอ้ยิ้ม ยิ้มนั้นบาดเข้าใปในหัวใจของคิมแตฮีจนเป็นแผลลึก หญิงสาวใจสั่นเมื่อรู้ตัววว่ากำลังติดใจนักแสดงหนุ่มรุ้นน้องจากประเทศไทยคนนี้เข้าให้แล้ว
“ไม่ครับ ผมพึ่งเริ่มมีคนรู้จัก”
“อย่าถ่อมตัวเลย ฉันรู้นะว่าคุณดังมาก ทางประเทศฉันมีหลายโปรดักชั่นที่เตรียมเรียกคุณมาทำงานด้วย”
“คุณดังว่าผม คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเกาหลี”
…ดาราสาวหน้าแดงราวกับน้ำกิมจิ มาริโอ้ไม่พูดเปล่า แต่ยังจับมือของเธอไปกุมไว้หน้าตาเฉย
“นี่ คุณเนี่ย เจ้าชู้มากรู้ไหม และมือไวด้วย อะไรกันรู้จักันยังไม่ถึงชั่วโมง คุณทั้งจับขา จับก้น แลัวนี่ยังมาจับมือฉันอีก หนุ่มไทยเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือ”
“ผมก็ไม่ทราบครับ แต่ผมเห็นคุณแล้วผมจะขาดใจ ถามจริงๆเถิด สาวเกาหลีกินกิมจิแล้วสวยอย่างนี้หรือ”
..คิมแตฮีหัวเราะ หญิงสาวหัวเราะอย่างเปิดเผย ดวงตาเป็นประกาย เธอรู้สึกว่าเด็กหนุ่มไทยคนนี้น่ารักมาก
“ไม่รู้ คุณไปถามผู้หญิงเกาหลีคนอื่นสิ อุ๊ย”
…พูดไม่ทันจบประโยค ดาราสาวเกาหลีก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อมาริโอ้ยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มเธอเอาดื้อๆ หญิงสาวกำลังเผยอปากจะต่อว่า แต่ปากนั้นก็ถูกปิดด้วยปากอันอบอุ่น ก่อนที่จะเปลี่ยนจากความอบอุ่นนั้นเป็นเร่าร้อน และร้อนฉ่า จนถึงร้อนฉิบหาย
… มาริโอ้ดูดปากดาราสาวชาวเกาหลีที่กำลังตกตะลึง ก่อนจะตวัดลิ้นสอดเข้าไปพันลิ้นของหญิงสาวและรูดลิ้นเข้าเสียดสีกัน คิมแตฮีหัวใจหล่นวูบไปอยู่ที่ช่องท้อง เสียววาบไปทั้งสันหลัง ก่อนจะโอบแขนรัดร่างมาริโอ้ไว้แน่น
… และอธิปไตยของเกาหลีก็ถูกรุกรานโดยไม่คาดคิด มือข้างหนึ่งของมาริโอ้ช้อนเข้าไปใต้เสื้อยืดที่ดาราสาวชาวเกาหลีสวมอยู่ และด้วยความชำนาญเสื้อชั้นในก็ถูกดันไปพ้นทรวงอกขนาดกระทัดรัด อกนุ่มไซส์ปานกลาง ก็ถูกบีบตระโบมอย่างรัญจวน
… มาริโอ้ดันร่างที่อ่อนระทวยนั้นให้นอนลง ก่อนจะใช้อีกมือลงสำรวจท่อนล่าง ท่อนขาที่เขาได้สัมผัสมาแล้ว หัวเข่ากลมกลึง ไล่ไปตามปลีขา ดันกระโปรงของหญิงสาวให้สูงขึ้น และผ้าเนียนนุ่มชิ้นสามเหลี่ยมที่ปิดบังของสงวน ทุกขณะที่มือข้างนั้นเริ่มสำรวจ ปากของเด็กหนุ่มก็ยังคงดูดปากของดาราสาวชาวเกาหลี ลิ้นพัวพันกันยุ่ง อีกมือหนึ่งยังคงบีบเค้นเต้านมที่หัวนมเริ่มพองอูม นิ้วของมืออีกข้าง เกี่ยวขอบเป้ากางเกงในราคาแพงของคิมแตฮีให้เผยอออก เส้นไหมนุ่มนวลระอยู่ที่ปลายนิ้ว ก่อนที่แคมเนื้อสีแดงสดบนโคกหีที่ขาวราวหิมะจะถูกปลายนิ้วของมาริโอ้กรีด
… ร่องสวาทนั้นเยิ้มไปด้วยน้ำลื่น ลมหายใจของดาราสาวชาวเกาหลีหอบกระเส่า เธอตั้งตัวไม่ทัน ตั้งตัวไม่ติด สมองมึนงงไปหมด และเสียวสะท้านเพลิงกามโหมกระหน่ำ
… มาริโอ้ปล่อยปากจิ้มลิ้มนั้นให้เป็นอิสระ รถยนต์กระเทือนเป็นจังหวะที่วิ่งไปบนถนน ม่านกั้นรอบคันช่วยบังสายตาผู้คน ที่กั้นระหว่างฝั่งคนขับกับห้องผู้โดยสารหนาทึบ ดังนั้นเสียงร้องอุทธรณ์ของคิมแตฮี จึงมีมาริโอ้คนเดียวที่ได้ยิน
“อุ๊ย อะไรกันนี่ คุณทำอะไร ปล่อยนะ ปล่อยฉัน อุ๊ยยย อย่า อย่าบี้ตรงนั้น อย่า……”
…ตรงนั้นที่เธอประท้วง คือเม็ดแตดที่ชี้ชูชันออกมาจากกลีบหี มาริโอ้เขี่ยน้ำที่เยิ้มมาทาหัวเม็ดแตด แล้วคลึงนวดเบาๆ ใบหน้าของคิมแตฮี แดงราวกับลูกแอปเปิ้ล ดวงตาเยิ้มฉ่ำ ก่อนจะเบิกจนโพลง เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าเลื่อนไหลเข้าไปในตัวของเธอ
…. มันมีขนาดเขื่องจนคับแน่น อึดอัด แต่เสียวทรมาน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอที่ถูกเสพสม แต่มันก็ไม่มากนักหลังจากเธอดังคับประเทศ เมื่อขึ้นสู่จุดสูงสุด เพื่อนชายที่ไว้ใจได้ก็หายากเข้าทุกที ดาราสาวจึงต้องพึ่งนิ้วของตัวเองบ่อยครั้ง
… แต่จากประสบการณืที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเขื่องขนาดนี้ มันแน่นมาก ราวกับผนังโพรงหีจะฉีกขาด แต่ก็เสียวทรมานแทบขาดใจ เธอเพ่งมองหน้าดาราหนุ่มไทยรูปหล่อ ก่อนจะส่งสายตาวิงวอน
“เบาๆก่อน เบาๆ ฉันเจ็บ”
…ขาดคำเธอก็สะดุ้งเฮือก มือขยุ้มตะกายหลังมาริโอ้ราวกับแมวลับเล็บ เมื่อดาราวัยรุ่นไทยกดเอวลงเน้นๆ เหมือนถูกสากตำเข้าไปในหว่างขาจนถึงคอหอย โอ พระเจ้า ให้ไหกิมจิพินาศเถิด ควย ควยของดาราไทยคนนี้ ใหญ่สะใจคิมแตฮีจริงๆ…..