Home Post 4557-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-50-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9c

4557-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-50-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9c

ก้อน เมฆสีดำทะมึนกลุ่มใหญ่ลอยล่องตามแรงลมมาบดบังแสงอาทิตย์ร้อนแรงของยามบ่ายใน ฤดูร้อนอย่างไม่มีทีท่ามาก่อน ท้องฟ้าที่สว่างจ้าบัดนี้มืดมิดสลัวราวกับยามสนธยา ไอร้อนผ่าวตามผืนดินค่อย ๆ ลดน้อยและหดหายไปอย่างช้า ๆ ด้วยไร้ซึ่งแสงแดดที่คอยแผดเผา เฉกเช่นเดียวกันกับสายลมอันแห้งและร้อนระอุที่ค่อย ๆ ลดอุณหภูมิลงจนกลายเป็นสายลมที่มีแต่ความเย็นเยียบและความชุ่มฉ่ำ

สาย ลมที่เย็นลงแต่รุนแรงขึ้นนั้นพัดผ่านเข้าไปในตัวบ้านที่เก่าชำรุด มันพัดวูบผ่านเรือนร่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์จนเจ้าของร่างที่นอนกระสับ กระส่ายอยู่บนพื้นบ้านรู้สึกขนลุกซู่ แม้ว่าหัวสมองจะเบลอจนไม่สามารถคิด อ่านหรือรับรู้อะไรได้ แต่น้องหญิงคุณหนูไฮโซเจ้าของตำแหน่งนักศึกษาดาวเด่นของมหาวิทยาลัยชื่อดังก็ ยังคงรู้สึกได้ถึงความหนาววูบของสายลมอันแปรปรวนนี้ แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น

เพราะตอนนี้ร่างของเธอกำลัง ร้อนระอุอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างของเธอร้อนรุ่มด้วยอำนาจอันรุนแรงของยาปลุกสวาทราคาแพง จิตใจของเธอร้อนรนด้วยพยายามกดข่มไฟอารมณ์แห่งตัณหาราคะที่วนเวียนอยู่ในกระ แสเลือดอุ่น ๆ ที่ฉีดไหลวนไปทั่วร่างจนแทบคลั่งดวงตาคู่สวย ที่ปกติจะเปล่งประกายสดใสของเด็กสาววัยรุ่นนั้นตอนนี้หรี่ปรือหยาดเยิ้มไปด้วยอารมณ์ ราคะที่เปี่ยมล้น

เสียงลมหายใจที่พ่นออกทางจมูกโด่งสวยนั้นหนักหน่วงเหมือนพยายามที่จะระบาย ความต้อง
การที่อัดแน่นอยู่ภายในให้ออกมาให้หมด แต่กระนั้นแทนที่มันจะเบาบางลงไปบ้าง อารมณ์ราคะนั้นกลับไม่มีทีท่าว่า จะลดลงไปแม้แต่น้อย

กลับกันเสียอีกเหมือนมันจะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น มากขึ้น และมากยิ่งขึ้นในทุกวินาที มากขึ้นจนกระทั่งเวลานี้ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นคนรูปชั่ว ใจทรามต่ำช้าเพียงใด หญิงสาวแสนสวยผู้เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างคนนี้ก็พร้อมที่จะพลีกายให้ แก่เขาได้ตักตวงความหฤหรรษ์ได้ทันที

ขอเพียงแค่ให้เขาสามารถช่วย บรรเทาความร้อนเร่าที่อัดแน่นอยู่ภายในตัวเธอลงได้บ้างก็พอทรวงอก อวบใหญ่กลมกลึงขยับสะท้านขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่ค่อย ๆ หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ปลายถันสีชมพูอ่อนแข็งตัวเด้งสั่นไหวชูชันลอย เด่นไปมาอยู่ในแสงสลัวราวกับกำลังจะยั่วยวนสายตาหื่นกามคู่หนึ่งของ มนุษย์เพศผู้ที่กำลังจ้องมองตอบมาด้วยสายตาอันมันวาว ใช่แล้ว น้องหญิงผู้น่าสงสารยังคงอยู่ในกำมือของโจรสวาทโดยที่ไม่อาจจะรับรู้ ชะตากรรมของตัวเองได้แม้แต่น้อย

“ไอ้ชด มึงจะเอาอีชะนีขาววอกตัวนี้ไปทำเมียที่ไหนก็ได้นะ แต่อย่าให้มันกลับมาให้พี่พิชัยเห็นอีก กูวางยามันไว้แล้ว ส่วนอีชะนีปากเก่งตัวที่สลบอยู่นี่ มันทำกูเจ็บ กูจะพาไปให้พรรคพวกรุมโทรม ดูซิว่ามันจะฆ่าตัวตายหนีเหมือนอย่างที่อีชะนีสองตัวก่อนนั่นมันทำหรือ เปล่า ถ้ามันทำกูจะได้เอาไปฝังรวมกันไว้ที่เดียวกันเลย” กระเทยควายร่างใหญ่ยักษ์พูดขณะมองสายตาของไอ้ชดที่กำลังจับจ้องเรือนร่างงาม นั้นด้วยความรู้สึกหมั่นไส้และริษยา

“แค่ก ๆ … เดี๋ยว … กูจะเอาอีคนนี้ด้วย มันเอาไม้เสียบคอกูแทบทะลุ แค่ก ๆ … กูจะเอาคืน” ไอ้ชดพูดเสียงแหบแห้งด้วยบาดแผลที่สาวสวยร่างบางได้ฝากเอาไว้เต็มลำคอ สายตาของมันแดงก่ำด้วยแรงแค้นที่อัดแน่นอยู่เต็มอก แรงแค้นที่มันไม่เคยโดนผู้หญิงคนไหนทำแบบนี้มาก่อน

“อย่าโลภมากน่า กูปล่อยให้มึงเอาไปคนเดียว พี่พิชัยก็คงเขม่นแย่แล้ว นี่จะเอาสองเลยเหรอ โลภไปมั้ง”กระเทยควายพูดท่าทางสะดีดสะดิ้ง

“… มึงอย่าเรื่องมาก กูจะเอา มึงน่ะไปจัดการผัวของมึงเหอะ โดนมัดอยู่ข้างบนแน่ะ มึงอยากจะทำอะไรก็ไปทำเลย โอกาสดีของมึงแล้ว อยากให้มันเป็นผัวก็รีบ ๆ ทำซะ … แค่ก ๆ”

“จะบ้าเหรอ ฮันนี่ ไม่ทำอะไรไม่เป็นกุลสตรีแบบนั้นหรอก … แต่เอ๊ะ … จะว่าไปแล้ว …. พี่ชัยโดนมัดอยู่แถมยังกินยาโด๊ปไปซะขนาดนั้น … ฮันนี่ก็น่าจะไปช่วยคลายอารมณ์ให้ที่รักของฮันนี่ซะหน่อยแล้ว …แถมอีก อย่างให้มึงไปก็น่าจะดี … ฮิ ฮิ ยังไงก็ไม่น่ารอด” ฮันนี่ยิ้มอย่างน่ากลัว

“เออ ไป ๆ กูจะเชือดอีผู้หญิงสองคนนี้แล้ว เอามันตรงนี้ล่ะวะ เดี๋ยวมีพวกเหี้ยมาขอส่วนแบ่งอีก” ไอ้ชดมองสองสาว หุ่นเซ็กซี่ที่เป็นเหยื่อรอให้มันขย้ำพลางตัดสินใจ มันแค้นใจอยากจะขยี้สาวร่างบางที่เอาไม้เสียบคอมันจนเป็นแผลใจจะขาด แต่มันก็ไม่อาจจะหักห้ามใจเปลี่ยนสายตาไปจากเรือนร่างเปลือยเปล่าของคุณหนูไฮ โซที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ตรงหน้าได้นานนัก ความาวกระจ่างของผิวพรรณนุ่มนิ่มที่สวยผุดผาดเด่นอยู่ในแสงไฟมืดสลัว นั้นดึงดูดสายตาหื่นกามของมันได้เป็นอย่างดีเหมือนกับแสงไฟที่ล่อแมง เม่าให้พุ่งเข้าไปหา

“ขอเอาอีไฮโซคนนี้ก่อนเถอะวะ อดทนไม่ไหวแล้วโว้ย” ไอ้ชดแลบลิ้นเลียรอบปาก มันเกือบจะได้ชื่อว่าเป็นผัว ของคุณหนูคนสวยคนนี้อยู่รอมร่ออยู่แล้ว แต่อยู่ดี ๆ ก็กลับมีคนมาช่วยให้รอดไปได้เสียก่อน มันปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ยอม เสียเวลาอีกต่อไปแล้ว ขณะที่กำลังเดินย่างสามขุมเข้าไปหาร่างของน้องหญิงที่กำลังทรมาณทุรน ทุรายด้วยท่าทางของหมาป่าขย้ำเหยื่อ

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงง งงงงงงงงงงงงงงงงงง

เสียงฟ้าร้องดังลั่น ตามมาหลังจากแสงแวบวาบที่ลามเลียไปทั่วฟากฟ้าจนไฟฟ้าในบ้านเก่า ๆ กลางป่าถึงกับดับวูบลงชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาให้ความสว่างด้วยแสงสลัวกว่าเดิมอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปไม่ ถึงสิบวินาที

“วั้ย ฮันนี่ตกใจหมดเลย ฟ้าบ้าผ่ามาได้ ไฟดับเลย แถมฝนตกอีก เป็นบ้าอะไรเนี่ย เมื่อกี้ยังร้อนตับแล่บอยู่เลย”

ฮันนี่กระ เทยควายร่างยักษ์ที่กำลังจะเดินขึ้นบรรไดไปชั้นบนถึงกับสะดุ้งด้วยเสียงอันดัง นั้น มันกระแดะเอามือจับหน้าอกตัวเองท่าทางตุ้งติ้งเหมือนกิริยาอาการ ของผู้หญิงทั่วไปหากเพียงแต่ว่ามันคงดูดีกว่านี้ ถ้าไม่ได้เป็นกิริยา อาการมาจากผู้ชายที่มีร่างดำทะมึนล่ำบึ้กเท่าหมีควาย

“ห่า เอ๊ย ตกใจหมด … ไฟตกเหรอวะ มืดชิบหาย … อ้าว อีนี่มันยังลุกขึ้นมาไหวอีกเหรอวะ” ไอ้ชดที่กำลังเดินไปหาเหยื่อด้วย อารมณ์หื่นอย่างเต็มพิกัดก็ถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยเสียงอันดังนั้นไม่แพ้กัน เมื่อไฟที่ดับวูบลงไปสว่างขึ้นมาอีกครั้งมันก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่า ภายใต้แสงไฟสลัวที่เห็นได้เพียงเป็นเงาลาง ๆ นั้น สาวสวยนักเคนโด้ ในชุดรัดกุมที่เพิ่งจะเอาไม้เสียบคอมันจนแทบขาดกลับยืนขึ้นมาได้ใหม่อีก ครั้ง

“หา … ทนทายาทจริงนะ อีชะนีปากเก่ง …. ตัวนี้” ฮันนี่กระเทยควายร่างยักษ์หันมามองตามคำอ้างของไอ้ชดมันหันไปมองเงาคน ที่ลุกขึ้นยืนแล้วตวาดร้องใส่ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ขนแขนของมันลุกชันอย่างไม่ทราบสาเหต มันเป็นความหวาดกลัวต่อเงาของหญิงสาวร่างเล็กที่บังเกิดขึ้นอย่างไม่มีเห ตและไม่มีผลใด ๆ

“เฮ้ย มันหนีไปแล้ว อีฮันนี่มึงไปตามจับมาเร็ว คนนั้นมึงรับผิดชอบ” ไอ้ชดร้องสั่งเสียงดังเมื่อเห็นว่าเงาของสาวร่าง เล็กหมัดหนักวิ่งถลันวูบหายไปทางหน้าประตูอย่างรวดเร็วเหมือนว่ายังคงมีแรง เหลือเฟือ

“เฮ้ย หนีไปไหนวะ ทิ้งเพื่อนเฉยเลย ฮ่า ฮ่า กลัวฮันนี่ล่ะซิ” ฮันนี่ขยับขาวิ่งตามไปทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายวิ่งหนีความ จริงแล้วเมื่อกี้นี้ขาของมันสั่นระริกด้วยความกลัวในอะไรบางอย่าง จิตสำนึกของมันบ่งบอกว่ามีอันตรายอะไรบางอย่าง

แต่เมื่อมันเห็นว่าอีกฝ่ายวิ่งหลบหนีไป มันก็หันกลับมาเชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง มันเชื่อมั่นว่าหญิงสาวร่าง เล็กนั้นไม่มีทางทำอันตรายอะไรให้กับมันได้แม้แต่ปลายก้อย และด้วยความแค้นที่สุมอกอยู่แล้วร่างใหญ่โตราวหมีควายนั้นจึงวิ่งกระแทก พื้นเสียงดังตึง ๆ พุ่งฝ่าความมืดออกไปนอกบ้านตามเงาของหญิงสาวร่างเล็ก ไป ปล่อยให้ไอ้ชดอยู่กับเหยื่อสวาทอีกคนตามลำพัง …

……………………………………………………
“อู ยยยย ดูกี่ทีก็สวย อวบไปทั้งตัว ผู้หญิงอะไรจะน่าเย็ดขนาดนี้วะ ซี้ดดด … นี่มันนางฟ้าชัด ๆ …. พาไปเอาในห้องอื่นดีมั้ยวะ … ไม่ดีกว่าไอ้ชดขอล่อก่อนล่ะโว้ย” ไอ้ชดพูดด้วยน้ำเสียงหื่น ขณะพาร่างเปลือยดำ ๆของมันไปนั่งชันเข่าอยู่ที่ปลายขาเรียวยาวของเรือน ร่างขาวผ่องของน้องหญิงนักศึกษาสาวแสนสวยนั้น ท่าทางของมันไม่ได้ ต่างอะไรไปกับปีศาจหน้าตาน่าเกลียดจากนรกที่กำลังจะขย้ำนางฟ้าแสนสวยเลยแม้ แต่น้อย

แม้จะอยู่ในแสงไฟสลัว แต่เรือนร่างขาวโพลนเปลือยเปล่านั้นก็สะท้อนกับแสงไฟอันน้อยนิดได้เป็นอย่าง ดีหน้าอกอวบอูมส่ายเด้งเบา ๆ ในเงาสลัวนั้นตามแรงบิดตัวอย่างกระสับกระส่ายของเจ้าของร่าง แม้จะอยู่ในท่า ทางร่านสวาทเหมือนกะหรี่ราคาถูก แต่น้องหญิงคนสวยก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งความงดงามดั่งนางฟ้า เฉกเช่นเคย

ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อด้วยเลือดสาวอันร้อนระอุที่ไหลรินไม่หยุด ดวงตาสวยคู่นั้นแม้จะเปี่ยมล้นไปด้วยความหวานหยาดเยิ้มแห่งความต้องการ ที่โดนผลักดันด้วยฤทธ์ยาสวาท แต่ด้วยหัวใจที่พยายามต่อสู้กับสภาพที่ไม่ อาจต้านทานได้ ดวงตาสวยนั้นจึงเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตาใส ๆ ที่หลั่งไหลออก มาด้วยความเสียใจ

“หึ หึ ยิ่งร้องไห้กูยิ่งเงี่ยนนะโว้ย แม่ง น่าเย็ดมากกว่าเดิมอีก” ไอ้ชดที่เห็นสภาพนี้แทนที่จะนึกสงสารอยู่บ้างมัน กลับยิ่งรู้สึกคึกคักมากกว่าเดิมเสียอีก เพราะเรือนร่างอวบอัดเบื้องหน้าทั้งเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของสตรีเพศอันแสน ร้อนแรง แถมมันยังแฝงไปด้วยความรู้สึกสดใสบริสุทธ์ที่น่าขยำขยี้ให้เหลวแหลกคามือของ มันอีกด้วย

ไอ้ชดไม่อยากเสียเวลาเล้าโลมใด ๆ อีกต่อไป มันจับสองขาเรียวยาวนั้นแยกออกจากกัน แล้วขยับร่างดำ ๆของมันเบียดแทรก เข้าไปที่ปากทางสวรรค์นั้น มันเพ่งมองชื่นชมความงามของโคกอวบอูมสีขาวอมชมพูที่ฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำรัก อย่างหื่นกระหาย แต่เพียงครู่เดียวมันก็ถาโถมร่างกายบึกบึนสีดำมะเมื่อมของมันลงไปทาบทับ เรือนร่างอวบอัดนั้นราวกับหมาป่าหิวโซ

เรือนร่างนางแบบนั้นกระตุกตัว เฮือกด้วยความสยิวเมื่อปลายหัวถอกสีดำมะเมื่อมของไอ้ชด
กำลังพยายามเบียด แทรกร่องหลืบสีสวยเข้าไปด้วยความดุดัน บั้นเอวหนาขยับซอยยิก ๆ เร่งส่งท่อนเนื้อขนาดยักษ์เบียดแหวกกลีบพรูสีชมพูอ่อนของเธอเข้าไปจนยับ ยู่ยี่ มันสูดปากร้องซี้ดซ้าดรับความอ่อนนุ่มที่ครอบคลุมและตอดรัดตุบ ๆ ไปทั่วปลายลำลึงค์ของมันอย่างสุขสม

“อูยยย ซี๊ดดสสสสส โอยยย เข้าได้นิดเดียวน้ำเกือบแตกเลยโว้ย มันส์หัวควยชิบหาย” ไอ้ชดแหงนหน้าเริ่ดขณะ ยังคงพยายามแอ่นเอวส่งดุ้นเอ็นอวบใหญ่กระทุ้งแหวกกลีบเสียวเข้าไปอย่างรุน แรงและหักโหม มันกระดกบั้นเอวอวบหนานั้นทะลวงใส่เข้าไปยิก ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งสิ่งแปลกปลอมสีดำมะเมื่อมนั้นโดนร่องสวาท กลืนกินเข้าไปจนมิด มันหัวเราะร่าในใจ ตอนนี้มันได้ชื่อว่าเป็นผัวของคุณหนูไฮโซแสนสวยคนนี้อย่างสมบูรณ์แบบ แล้ว

ไอ้ชดร้องครางกระเส่าด้วยความสุขเสียวที่แล่นพล่านมาจากท่อน เนื้อส่วนล่างจนแทบสำลัก
ไปกับความสุดยอดของร่องสวรรค์ที่ตอดรัด หนุบหนับไปทั่วทั้งลำลึงค์ของมัน สายตาสีแดงก่ำที่เปี่ยมไปด้วยความกระหาย นั้นเหลือกต่ำลงมามองร่างงามที่บิดไหวกระตุกส่ายไปมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะ บรรยาย สะโพกขาวผ่องนั้นแอ่นเด้งเบียดโคกสวาทเข้าหาท่อนเนื้อของเขา อย่างร้อนร่าน แต่กระนั้นใบหน้าสวยกลับมีน้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่ขาด สาย มันยิ่งรู้สึกคึกคักเมื่อเห็นภาพที่เร้าใจนี้

บั้นเอวหนาขยับตัว ยิก ๆ ส่งดุ้นเอ็นสีดำอันใหญ่ทะลวงเข้าไปในโพรงสวาทอย่างเมามันส์ในอารมณ์ที่สุดท่อน เนื้ออวบอ้วนนั้นกระทุ้งเข้าใส่ร่องสวาทอย่างไม่ปราณีปราศัย ร่างเปลือยขาวผ่องของเหยื่อสวาทเด้งสะท้อนไปมาด้วยแรงกระแทกจากเบื้อง ล่าง ร่างดำ ๆ ของชายฉกรรจ์แนบสนิทติดกับหว่างขาของเธอร่องสวรรค์ที่ คับแน่นกำลังโดนแท่งเนื้อสีดำคล้ำวิ่งเข้าวิ่งออกอย่างไม่หยุดยั้งจนกลีบเสียว ยับย่นเข้าออกสลับไปมา

ในห้วงอารมณ์แห่งความสุขสมอันล้นเหลือ นั้น ความวิปริตของไอ้ชดก็ออกอาการอย่างที่มันเป็นทุกครั้งที่ได้ร่วม เพศกับเหยื่อสวาท และนี่เองที่เป็นเหตผลหลักที่ฮันนี่กระเทยควายยอมวางแผนร่วมกับไอ้ชดให้ ไอ้ชดได้ผู้หญิงคนที่อาจารย์พิชัยหลงรักต้องทนกับความทรมาณอย่างที่สุด

มือ หยาบใหญ่นั้นเงื้อร่าขึ้นไปในอากาศก่อนจะเหวี่ยงสะบัดลงมาตบแก้มสีชมพูอ่อน นั้นดั
งเพี๊ยะจนอีกฝ่ายถึงกับหน้าหัน มันมองดูแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของอีกฝ่ายด้วยความสะใจ ก่อนเงื้อฝ่ามืออีกข้างแล้วตบเพียะลงไปที่แก้มนวลอีกข้างด้วยความรุนแรง ที่พอกันกับเมื่อครู่ มันหัวเราะหื่นกระหายด้วยอารมณ์กำลังพุ่งทะยานสูง ขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

หญิงสาวเหยื่อสวาทร่ำไห้อย่างเจ็บ ปวด แก้มขาวใสอมชมพูของเธอบัดนี้แดงก่ำ และมีรอยเลือดบริเวณริมฝีปาก แต่ไอ้ชดก็หาได้สนใจไม่ มันยังคงกระหน่ำส่งมือหยาบใหญ่อีกข้างหนึ่งสะบัดเพียะตบไปที่แก้มนุ่มของ สาวสวยจนเธอหน้าหัน และร้องออกมาด้วยเจ็บปวด มันกระหน่ำตบซ้ำอีกหลายทีจนใบหน้าสวยนั้นแดงช้ำ พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะหื่น ๆ อย่างสะใจที่สุด

ร่างดำ ๆ นั้นอัดกระแทกซ้ำใส่ร่างอวบอัดไม่หยุดยั้ง ร่างขาว ๆ บอบบางยิ่งกระเด้งสะท้านไปมาเร็วและแรงขึ้นเรื่อย ๆ สองเต้าอวบกลมโดนมือหยาบนั้นบีบขยี้เหมือนจะฉีกกระชากให้ขาดวิ่นออกมาเป็น ชิ้น ๆ ในวาระที่มันเร่งเครื่องซอยกระเด้าเอวกระหน่ำอย่างสุดแรงใส่ เหยื่อสวาท จนใกล้จะถึงจุดสุดยอดแห่งกามารมณ์

สองมือหยาบใหญ่ของไอ้ชดก็เอื้อมขึ้นไปบีบคอของเธออย่างแรง เหยื่อสวาทของมันร้องเอะอะโวยวายและพยายามดิ้นรนขัดขืน สองมือเล็ก ๆ พยายามปัดป่ายสองมือแข็งแรงที่บีบล๊อคคอของเธอจนแน่นหนา แววตาของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง ไอ้ชดมองแววตาที่กลอกไปมาเพื่อมองหาความช่วยเหลืออย่างสุขสันต์

มัน หัวเราะร่าด้วยรู้ว่าที่แห่งนี้ไม่มีใคร ไม่มีใครทั้งสิ้น มีแต่เพียงมันและเหยื่อสวาทของมันเท่านั้น
มันมองสภาพดิ้นรนในยามที่ เหยื่อสวาทของมันขาดอากาศด้วยสายตาที่แดงก่ำ มันชอบมองดูเวลาที่ผู้หญิง ดิ้นรน เวลาที่เธอต่อสู้ เวลาที่เหยื่อสวาทของมันร้องขออยากมีชีวิตอยู่ ไอ้ชดไม่สนใจใด ๆ ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร มันเอาแต่กระแทกเอวใส่ร่างที่แทบขาดใจนั้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ

… และเมื่อ เวลาผ่านไปไม่นานนัก ดวงตาสวยคู่นั้นก็หลับลงพร้อมกับอาการหยุดนิ่งของร่างกาย น้ำตาใส ๆ ของ เธอไหลพรากลงมาจากสองตา สองตาที่ไม่มีวันจะลืมตื่นขึ้นมาได้อีกครั้ง ริมฝีปากบางนั้นเผยอออกเบา ๆ พร้อมด้วยเสียงสุดท้ายอันเหนื่อยอ่อนของชีวิตที่กำลังหลุดออกจากร่าง

ไอ้ ชดได้ยินเสียงร้องกระซิบเบา ๆ จากร่างนั้นหนึ่งคำ แต่มันก็ไม่ได้สนใจอะไรกับน้ำเสียงนั้น มันยังคงกัดฟันแน่น เร่งซอยกระแทกเอวใส่ร่างบางนั้นอย่างไม่หยุดยั้ง ร่างดำมะเมื่อมนั้นกระแทกใส่ร่องหลืบฟิตแน่นนั้นอย่างต่อเนื่อง เสียงเนื้อหน้าขาของมันกระทบกระแทกกับเนื้อเนียนนุ่มดัง พั่บ พั่บ พั่บ ไม่หยุดและเมื่อยิ่งใกล้ถึงจุดสุดยอดมันก็ยิ่งโหมกระแทกใส่จนสุดแรง พร้อม ๆ กันกับสองมือที่ยิ่งออกแรงบีบลำคอขาวเนียนของอีกฝ่ายแรงยิ่ง ขึ้นจนแทบจะบีบให้กระดูกคอหัก

“โอะ โอะ ซี้ดดสสสส อูยยยย เสร็จแล้วโว้ยยยย อ๊ากกกซซ” และแล้วในวินาทีแห่งความสุขสม ไอ้ชดก็สูดปาก ร้องครางออกมาเสียงดัง มันกระแทกเอวใส่ 2-3 ครั้งเป็นการทิ้งท้ายก่อนพยายามเกร็งตัวแอ่นเอวส่งท่อนเอ็นให้มุดเข้าไปในร่องหลืบให้ลึกที่ สุด

ก่อนที่จะพ่นน้ำเชื้อชั่ว ๆ ของมันเข้าไปเต็มร่องหลืบนั้น ในห้วง อารมณ์นี้ไอ้ชดออกแรงบีบคออีกฝ่ายสุดแรง จนมันไม่ได้รับรู้เลยว่าดวงตาคู่สวยที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาคู่นั้นได้ปิด ลงสนิทลงไปแล้ว … และดูเหมือนว่ามันจะปิดสนิทไปตลอดกาลอย่างที่ไม่มีวันหวนกลับคืนมาอีก

“ซี้ ดดสสส สุดยอดเลยเว้ย ได้เย็ดอีคุณหนูแบบนี้ มันส์หัวควยชิบ … เฮ้ย ชิบหายนี่กูเผลอบีบคอมันตายอีกแล้วเหรอวะ เหี้ยเอ๊ย ตื่นซิวะ เสียของชิบหาย” ไอ้ชดที่กำลังร้องครางอย่างเมามันส์ด้วยความสุขเสียวถึง กับสะดุ้งตัวเมื่อมันได้คลายจากอารมณ์สวาทอันแสนวิปริตของมันลงแล้ว

มันรีบคลายมือที่บีบลำคอที่แดงเป็นปื้นใหญ่นั้นออกอย่างรวดเร็ว แต่เหมือนว่ากว่ามันจะรู้สึกตัวก็ช้าไปแล้ว เพราะเหยื่อสวาทของมันไม่ ได้หายใจอีกแม้แต่น้อย ทรวงอกที่กระเพื่อมไหวเบา ๆ ตลอดเวลาบัดนี้นิ่งเงียบสนิท แถมร่างของอีกฝ่ายนั้นก็ค่อย ๆ เริ่มเย็นเยียบลงจนน่ากลัว จากร่างอุ่น ๆ นุ่ม ๆตอนนี้มันกลับเริ่มรู้สึกได้ว่าสิ่งที่มันกำลังกอดอยู่ไร้สิ้นซึ่ง ชีวิต มีแต่เพียงเลือดเนื้อที่ไร้วิญญาณ

ด้วยความกลัวมันพยายามจะใช้ มือแงะสองขาที่เกี่ยวตวัดรอบบั้นเอวของมันออกไป แต่มันกลับไม่อาจจะทำ ได้ มันขมวดคิ้วด้วยรู้สึกแปลกใจที่เรี่ยวแรงของมันไม่อาจจะสู้กับแรงของคนตาย ได้

มันเริ่มรู้สึกใจเสียอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเคยได้ยินมาว่ากล้ามเนื้อของคนตายบางครั้งจะเกร็งมากจนขยับไม่ได้ ตอนนี้มันคิดเพียงว่าอยากจะแยกออกจากร่างของเหยื่อสวาทให้เร็วที่สุด โดยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่มันเพิ่งได้กระทำลงไปแม้แต่นิดเดียว

ไอ้ ชดหันซ้ายหันขวาไปมองรอบข้างเพื่อหาตัวช่วย แต่มันก็ไม่เห็นเงาใครสักคน มันคิดถึงกระเทยควายร่างยักษ์ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนร่วมแกงค์ของมันนั้นวิ่งตามเหยื่ออีกคนของมันออกไป ด้านนอก

มันพยายามเหลียวซ้ายแลขวาหาตัวช่วยอีกครั้ง แต่มันก็ไม่เห็นใคร หรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่พอจะช่วยมันได้นอกเสียจากเงาร่างของสาว ๆ สองคนที่นอนสงบนิ่งอยู่กับพื้นเบื้องหน้าใกล้กับบรรไดที่ซึ่งไม่ไกลออกไป นัก

…….. มันมองผ่านเงาร่างของสาว ๆ สองคนนั้นไปในแว้บแรกอย่างไม่สนใจ ก่อนที่จะหันกลับมามองเงาของสาว ๆ ทั้งสองคนนั้นใหม่ด้วยความตื่นตระหนก

ผู้หญิง สองคน !!!!! ….. ไอ้ชดเริ่มรู้สึกตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของอะไรบางอย่างจนขนหัวลุก มันพยายามเพ่งมองไปยังความมืดนั้น และไม่รู้ว่ามันจะคิดไปเองหรือเปล่า
แต่ไฟที่ฉายแสงสลัว ๆ เมื่อครู่นี้ก็เริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย และมันก็สว่างเพียงพอจนมันเห็นร่างของสองสาวที่นอนสลบอยู่จนได้ชัด
หนึ่งในนั้นคือ ผู้หญิงนักเคนโด้ที่เอาท่อนไม้เสียบคอมันจนแทบทะลุ และเป็นคนเดียวกับที่มันเห็นชัด ๆ ว่าเพิ่งจะวิ่งหนีออกไปข้างนอกบ้าน เมื่อกี้นี้จนฮันนี่ต้องวิ่งไล่ตามออกไป
… ส่วนอีกคนนั้นเล่า หน้าตาและรูปร่างที่สวยสดใสนั้นกลับเหมือนกันกับเหยื่อสวาทที่มันเพิ่ง จะลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไปแล้วชัด ๆ
…. หัวใจของมันตกวูบด้วยความ คิดที่ว่า ถ้าหากสองสาวนั่นยังคงนอนอยู่ข้างบันได แล้วใครเล่าที่มันเพิ่งจะข่มขืนจนเสร็จสมไป !!!!!!!

…………………………………………………………………………

“อีฮันนี่โว้ย ไอ้แห้งโว้ย … อีฮันนี่ ไอ้แห้ง … พวกมึงหายไปไหนกันหมดโว้ย ช่วยจับไอ้ชดก่อน มันจะเอาผู้หญิงของกูไปแล้ว แล้วนี่ไฟดับได้ยังไงวะ มืดโว้ย อีฮันนี่ ไอ้แห้ง มาเปิดไฟให้กูด้วย ”
อาจารย์พิชัยร้องตะโกนด้วยลำคอที่แหบแห้งอยู่ในห้องเก็บเสียงที่อยู่ชั้นสอง โฟมดูดเสียงอย่างดีที่แปะติดไว้รอบห้องทำให้เสียงของเขาไม่มีทางหลุดออกไปจากห้องถ่ายทำหนังใต้ดินนี้ได้แม้แต่คำเดียว ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ไม่ใช่เพราะเลือดที่กลบปากจากการโดนไอ้ชดต่อยเท่านั้น หากแต่เป็นเพราะว่าความโกรธแค้นอันใหญ่หลวงที่อัดแน่นอยู่ในอกต่างหาก

อาจารย์พิชัยหนุ่มหล่อขวัญใจนักศึกษาสาว ๆ ประจำมหาวิทยาลัยเพิ่งจะประสบกับความล้มเหลว และความรู้สึกอยากจะฆ่าคนเป็นครั้งแรกในชีวิต ข้อมือและข้อเท้าของเขาบวมแดงด้วยพยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการบ้า ๆ ที่ล่ามเขาไว้

เขาสบถอย่างหยาบคายเมื่อนึกไปว่าน้องหญิงนักศึกษาดาวเด่นประจำมหาวิทยาลัยที่เขาหลงไหลจะโดนไอ้ชดคนขับรถของเขากระทำการย่ำยีเช่นไรที่ด้านนอกนั่น เขาแอบภาวนาให้น้องหญิงหนีรอดไอ้ชดไปได้ แต่อีกใจก็รู้ดีว่าหากหนีไปได้จริง ๆ เขานั่นแหละที่จะเดือดร้อนแสนสาหัส แต่กระนั้นก็รู้ดีว่าน้องหญิงไม่มีทางหนีพ้นไปได้อย่างแน่นอนเขาพยายามตัดใจ แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ง่ายนัก กับการตัดหญิงสาวที่เขาหลงไหลตั้งแต่แรกเห็น เสียดายก็เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนหาความสุขบนเรือนร่างแสนหวานสุดเอ็กซ์นั้นเองก็เท่านั้น

“น้องหญิง … หนีไอ้ชดมาได้เหรอ ??” อาจารย์พิชัยร้องด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นร่างเปลือยขาวผ่องและใบหน้าแสนหวานของน้องหญิงลูกศิษย์แสนสวยเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ทำให้เขาขนลุกซู่

“พี่ฮันนี่จัดการให้แล้วค่ะ … อาจารย์พิชัยรักหญิงจริง ๆ เหรอคะ ?” น้ำเสียงหวานใสนั้นดังขึ้นพร้อมกับเสียงปิดประตูแล้วลงกลอนอย่างแน่นหนา กิริยาอาการนั้นเหมือนกับว่าไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุ่มย่ามทั้งสิ้น

“เอ่อ … รักซิครับ พี่รักน้องหญิงมาก เลยต้องวางแผนทำอย่างนี้ พี่ขอโทษนะที่ทำแบบนี้” อาจารย์พิชัยแม้จะกำลังงง ๆ กับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กิริยาอาการของสาวสวยเบื้องหน้ากำลังบ่งบอกว่าไม่ได้โกรธในสิ่งที่เขาได้ทำลงไป จึงรีบพูดจาหวานใส่

“รักหญิงจริง ๆ เหรอคะ … ความรัก หรือแค่ความใคร่ อยากจะมีอะไรด้วย?” สาวสวยถามขณะเดินใกล้เข้าไปด้วยสายตาเย้ายวนชวนฝัน

“อะ เอ่อ … รักซิจ๊ะ ส่วนเรื่องความใคร่น่ะอาจจะมีบ้าง แต่ความรักสำคัญกว่า” อาจารย์พิชัยพูดด้วยน้ำเสียงหวานขณะพยายามอ่านใจอีกฝ่ายว่าต้องการอะไรกันแน่ หากแต่เรือนร่างอวบอัดเต่งตึงที่เปล่งประกายยั่วยวนนั้นก็ทำให้เขานึกหาเหตผลใด ๆ ไม่ออก นอกจากคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า สาวสวยกำลังหลงเสน่ห์ของเขาแล้ว

“คิก คิก ไม่ใช่ความใคร่ แล้วทำไมตรงนี้ถึงได้ผงกหัวหงึก ๆ น่ากลัวแบบนั้นล่ะคะ” เมื่อร่างนางแบบนั้นเดินไปยืนต่อหน้าของอาจารย์พิชัย สาวสวยทรงเสน่ห์ก็หัวเราะเบา ๆ ขณะใช้นิ้วชี้ไปแตะสัมผัสเบา ๆ ที่ปลายท่อนเนื้อดุ้นใหญ่สีคล้ำที่กำลังแข็งตระหง่านชูชันโด่เด่ด้วยฤทธ์ยาไวอากร้าชั้นดี

“อูยยย … มันก็มีบ้างนะ แต่ยังไงพี่ก็รักน้องหญิงนะครับ แก้มัดให้พี่เถอะ เราจะได้มีความสุขด้วยกัน ” อาจารย์พิชัยสะดุ้งตัวเบา ๆ กับความเสียวแปล๊บที่โดนปลายนิ้วสัมผัสตรงยอดของความเป็นชาย และแม้จะรู้สึกแปลกใจในความร้อนแรงของลูกศิษย์สาวแสนสวยอยู่บ้าง แต่ก็ปล่อยมันไปโดยไม่คิดอะไรให้มากความ ด้วยรู้สึกมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองส่วนหนึ่ง และอีกส่วนก็เพราะสมาธิทุกส่วนกำลังละลานตาไปกับความสวยเบื้องหน้าจนหมด

“ทำเป็นปากหวาน อาจารย์ก็แค่จะหลอกฟัน แล้วทิ้งใช่มั้ยล่ะคะ” สาวสวยทำตาหวานใส่ขณะขยับเรือนร่างเปลือยเปล่านั้นเบียดกระแซะเข้าหาอาจารย์หนุ่มจนหน้าอกอวบอั๋นนั้นบดเบียดกับแผงหน้าอกของเขา มือนุ่ม ๆของเธอก็ไม่ปล่อยให้ว่างงาน มือเล็ก ๆ นั้นลูบไล้ไปตามท่อนเอ็นดุ้นใหญ่ของเขาไม่หยุด

“อูยยย น้องหญิงครับ พี่ไม่หลอกนะ พี่รักน้องหญิงจริง ๆ สาบานได้” อาจารย์พิชัยใจเต้นแรงไปกับความร้อนแรงของลูกศิษย์สาวจนแทบลืมหายใจ หากเป็นไปได้เขาอยากจะเอาพันธนาการที่ล่ามเขาไว้ออกไปในทันที เพื่อที่จะได้หาความสุขกับเรือนร่างนุ่มนุ่มที่อยู่ตรงหน้าให้หายอยาก

“ไม่อยากได้หรอกค่ะ คำสาบานน่ะ อยากได้อย่างอื่นมากกว่า” สาวสวยขยับตัวเบียดชิดเข้าไปอีกจนเนื้อนุ่ม ๆนาบไปกับเรือนร่างแกร่งของอีกฝ่ายจนจวนจะเป็นเนื้อเดียวกัน เธอขยับเข้าไปกระซิบบอกที่ข้างหูของชายหนุ่มจนอีกฝ่ายขนลุกเกรียว ขณะที่มือยังคงรูดถอกท่อนเอ็นที่กำลังบวมเป่งอย่างไม่หยุดมือ

“ยะ อยากได้อะไรล่ะครับ พี่จะหามาให้ได้ทุกอย่างเลย พี่สัญญา ซี้ดดดสสส” อาจารย์พิชัยแม้จะผ่านสาว ๆมามาก แต่ก็ไม่เคยเจอใครที่ทำให้เขาใจเต้นได้แบบนี้มาก่อนเลยแม้แต่คนเดียว สติของเขาเหมือนจะเลอะเลือนหลอมละลายไปกับนวลเนื้อนุ่ม ๆ และลมหายใจอุ่น ๆ ที่ราดรดใบหูเสียจนสิ้น

“หนูอยากจะดูใจน่ะค่ะ … ” สาวสวยพูดก่อนก้มหน้าใช้ปากบางจูบเม้มที่ลำคอของอีกฝ่าย ไล่ลงมาที่หัวไหล่แล้วมาวนเวียนที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายอย่างมีชั้นเชิง

“โธ่ … น้องหญิงครับ อย่าทรมาณพี่เลยครับ ถ้าต้องดูใจกันก่อนจะมีอะไรกัน พี่คงลงแดงตายแน่ ๆ เป็นของพี่เถอะนะ รับรองว่าพี่จะคอยดูแลน้องหญิงให้ดีที่สุด” อาจารย์พิชัยที่กำลังเคลิบเคลิ้มตอบอย่างที่ตัวเองเข้าใจคำว่าดูใจ ในความหมายของเขาน่าจะหมายถึงการที่ให้คบหากันไปก่อน และยังไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศกัน ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดสำหรับเขา

“ไม่ใช่ค่ะ … หนูหมายถึงดูใจจริง ๆ นะคะ” สาวสวยตอบ แล้วหันมาใช้ปากดูดดุนที่หน้าอกนั้นต่อ โดยเน้นพรมจูบที่หัวนมบนอกด้านซ้ายของชายหนุ่ม

“อูยยยย ดะ … ดูยังไงครับ ไม่ใช่คบหากันก่อนเหรอ อืมมม ซี้ดดสสส” อาจารย์ร้องครางกระเส่าด้วยลีลารักอันแสนสยิวเหลือร้ายของลูกศิษย์สาว

“ก็ดูใจน่ะค่ะ เดี๋ยวหนูทำให้ดูก่อนนะคะ แต่สัญญาซิคะว่าอาจารย์จะทำตามหนู” สาวสวยใช้หูแนบไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา เหมือนจะพยายามฟังเสียงหัวใจที่กำลังเต้นโครมครามของเขา

“ได้ครับ พี่สัญญา ถ้าจะทำให้น้องหญิงรักพี่ได้ พี่ยอมทำทุกอย่าง” อาจารย์พิชัยพยักหน้าหงึก ๆ รับปากไปทั้ง ๆที่ยังไม่รู้หรอกว่าสาวสวยต้องการอะไร รู้แต่ว่าหากเธอทำได้ เขาก็ทำได้

“งั้นดูดี ๆ นะคะ” สาวสวยถอยตัวออกห่างจากร่างของอาจารย์หนุ่มประมาณ 1 ช่วงแขนแล้วยิ้มหวานให้ เธอใช้สองมือขยับขึ้นมาประคองสองเต้าอวบใหญ่กลมกลึงเพื่อดึงดูดความสนใจของอีกฝ่าย และเหมือนจะได้ผลดีเพราะอีกฝ่ายนั้นถึงกับต้องกลืนน้ำลายไปกับความใหญ่โตแถมยังเต่งตึงน่าฟัดของหน้าอกภูเขาไฟสองลูกนั้น

“จะยั่วพี่เหรอครับน้องหญิง อย่ายัวเลยนะ พี่ทนไม่ไหวแล้ว” อาจารย์พิชัยแลบลิ้นเลียรอบปากด้วยความเงี่ยนท่อนเอ็นของเขาบวมแล้วบวมอีกจนแทบระเบิดออกอยู่รอมร่อแล้ว แต่ลูกศิษย์คนสวยยังคงแกล้งเขาอยู่อีก

“ไม่นานหรอกค่ะ เตรียมตัวนะคะ หนูจะให้อาจารย์ดูใจหนูแล้วนะคะ เตรียมตัวให้ดี” สาวสวยยิ้มหวานก่อนขยับทั้งสองมือเอาปลายนิ้วทั้งสิบจิ้มไปที่กลางทรวงอกของตัวเอง

“จะ … จ้ะ …” อาจารย์ตอบไปทั้ง ๆ ที่รู้สึกเย็นวูบอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าอากาศรอบข้างมันเย็นลงหรือเป็นเพราะอะไร รู้แต่เพียงว่าขนอ่อนทั้งตัวของเขาลุกชูชันไปหมด แต่เขาบอกตัวเองว่าช่างเถอะ นาทีนี้ต่อให้ผีหลอกเขาก็ไม่สนหรอก … และขอยืนยันว่าเขาคิดในใจอย่างนี้จริง ๆ … จนกระทั่งต้องเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินเสียงแคว้กดังขึ้น

“อะ อะ … อะ ผะ .. .ผะ ผะ .. ผิ …. ผี ผี …” อาจารย์พิชัยเหงื่อแตกพลั่ก ร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษาคนร่างกายเกร็งไปทั้งตัวจนแทบลืมหายใจ ตอนนี้น้องหญิงกำลังให้เขาดูใจของเธอจริง ๆ ไม่ใช่ใช้เวลาในการคบหากันไปก่อน แต่ว่าเธอเล่นเอามือแหวกอกเปิดหัวใจสด ๆ ออกมาให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลย

“นี่ไงคะหัวใจของหนู เป็นยังไงบ้างคะ” สาวสวยยิ้มหวานประหนึ่งปีศาจร้ายจากขุมนรก สองมือของเธอแดงฉานด้วยโลหิตที่ไหลทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสายจากทรวงอกที่โดนแหวกกระชากเปิดออกอย่างง่าย ๆเลือดแดงฉานยังคงไหลรินลงไปนองกับพื้นจนเละเทะ บางส่วนของมันพุ่งปรี๊ดไปราดเลอะเนื้อตัวและใบหน้าของอาจารย์สุดหื่นจนแดงฉาน

“!@#$%^&*()_+/” อาจารย์หนุ่มเบิกตากว้างแหกปากร้องออกมาไม่เป็นภาษาคน ฉี่ที่อั้นเอาไว้พรั่งพรูออกมาอย่างไม่อาจจะควบคุมได้ รู้สึกสะอิดสะเอียนอยากอ้วกออกมาแต่ก็ไม่อาจจะทำได้ เขาทำได้เพียงแต่มองดูหัวใจสีแดงสดของอีกฝ่ายที่ยังเต้นตุบ ๆ อยู่ในทรวงอกนั้น และไม่เพียงแค่หัวใจเท่านั้น หากแม้แต่ปอดและกระดูกซี่โครงเขาก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน ประสาททุกส่วนของเขาขมวดเกร็งและหวีดร้องลั่น ทั้งแขนและขาพยายามดิ้นรนให้หลุดไปจากพันธนาการที่ล่ามเขาไว้อยู่กับที่อย่างสุดแรงเกิด แต่แม้จะดิ้นรนมากเพียงไรก็ไม่อาจจะนำพาตนเองให้หลุดพ้นไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ สุดท้ายเขาถึงกับต้องสะดุ้งโหยง น้ำลายฟูมปากและเป็นลมสลบเหมือนไปอย่างไม่อาจจะทานทน เมื่อมือเปื้อนเลือดอันเย็นเฉียบคู่นั้นเอื้อมมาแตะที่ตรงกลางทรวงอกของเขา ก่อนยิ้มหวานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นราวกับสุ้มเสียงของภูติผีจากนรกอย่างเชื่องช้าว่า

“อาจารย์ก็ดูใจหนูไปแล้ว …. คราวนี้หนูขอดูใจอาจารย์บ้างนะคะ”

…………………………………………………………………………

ตุบ ตุบ ตุบ เสียงฝีเท้าจากร่างใหญ่ยักษ์กระแทกพื้นดินดังแว่วอยู่ในป่าอันมืดสลัว แม้จะเป็นเวลายามบ่าย แต่เมฆฝนสีดำทะมึนก้อนใหญ่นั้นก็บดบังแสงแดดจากดวงอาทิตย์ไปเสียจนแทบจะหมดสิ้น ยังคงมีเพียงแสงเลือนลางของดวงอาทิตย์ที่ไม่ต่างกับแสงจันทร์สาดส่องลงมาให้ความสว่างต่อผืนโลก

“หยุดก่อนซิวะ มึงจะหนีกูไปไหนอีชะนี กูเหนื่อยนะโว้ย” ฮันนี่กระเทยควายร่างยักษ์หยุดวิ่งแล้วหายใจหอบแฮ่กอย่างเหนือยอ่อน มันพยายามร้องก้องตะโกนเรียกบอกเงาร่างเล็ก ๆ ที่วิ่งวูบหายเข้าไปในเงามืดของป่าไม้ราวกับไม่รู้จักอาการเหน็ดเหนื่อย ร่างบึกบึนราวกับหมีควายนั้นหอบแฮ่กอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะเริ่มหันมองไปมองมารอบตัวที่มีแต่เพียงต้นไม้ ต้นไม้ และต้นไม้

ฮันนี่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองนั้นกำลังสั่นอย่างไม่รู้สาเหต ขนแขนของมันกำลังลุกชันด้วยความกลัว ที่ที่มันอยู่ตอนนี้เงียบ
… เงียบจนเกินไป … ไม่มีแม้แต่เสียงลมพัด หรือเสียงใบไม้ไหวแม้แต่ใบเดียว เหมือนกับว่าทั้งป่าตั้งใจที่จะเงียบ !
… สัญชาตญาณของเพศที่สามตะโกนร่ำร้องบอกว่าที่แห่งนี้มีอันตรายให้วิ่งหนีไปเสีย แต่ขาคู่ใหญ่โตของมันกลับสั่นพั่บ ๆ จนขยับไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว และแล้วมันก็เริ่มได้ยินเสียงแว่วของอะไรดังมาอย่างแผ่วเบา มันคล้าย ๆกับเสียงลมพัดในช่วงแรก ๆ แต่แล้วเมื่อฟังไป เสียงนั้นก็เริ่มจะเหมือนกับเสียงหัวเราะคิกคักของคนนับสิบนับร้อยคน ต้นไม้รอบข้างเริ่มจะโบกไหวไปมาจนเสียงดังซ่า ๆ ทั้ง ๆ ที่ไร้ซึ่งแรงลมใด ๆ พัดผ่าน

“เฮ้ย … อะ อะ อีชะนี อะ ออกมา ออกมาดี ๆ นะโว้ย ไม่ต้องมาแกล้งหลอกกู กูไม่กลัวมึงหรอกโว้ย” ฮันนี่ทำใจดีสู้เสือร้องตะโกนสู้กับเสียงซ่า ๆ และเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังมาจากรอบข้างไม่หยุด

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนทำชั่วมาตลอดอย่างมันพยายามท่อง นะโม นับตั้งแต่เคยเรียนมาบ้างในวิชาพุทธศาสนาตอนอยู่ชั้นประถม แต่ไม่ทันที่มันจะท่องได้ครบสักรอบ ก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเงาร่างเล็ก ๆ นั้นโผล่พ้นความมืดออกมายืนท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวในพละกำลังเหมือนยักษ์ปักหลั่นของมันแม้แต่น้อยนิด

“มึง อีชะนี อย่ามาหัวเราะกูนะ เดี๋ยวเถอะ กูจะฆ่ามึงแล้วเอาไปฝังดินทิ้งซะเลย” ฮันนี่พยายามรวบรวมความกล้าที่ดูเหมือนจะหดหายไปจากตัวซะเฉย ๆ แล้วร้องตะโกนข่มขวัญอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายยังคงเดินหน้าเข้ามาหามันอย่างไม่มีท่าทางว่าจะสนคำขู่ของมันเลย อีกทั้งเสียงหัวเราะรอบข้างนั้นกลับยิ่งดังขึ้นมากกว่าเก่าเสียอีก เหมือนกับว่าป่าทั้งป่ากำลังหัวเราะเยาะใส่มัน

“ว้ากก มึง อย่าอยู่เลย” ฮันนี่ก้มลงหยิบเอากิ่งไม้แห้งขนาดเท่าลำต้นกล้วยที่อยู่ตรงเท้าขึ้นมา กล้ามเนื้อแขนเกร็งจนแน่นเปรี๊ยะด้วยน้ำหนักนับหลายสิบกิโลของท่อนไม้นั้น มันออกแรงเหวี่ยงแขนหวดท่อนไม้นั้นไปทางเงาร่างเล็ก ๆ ของอีกฝ่ายเพื่อหยุดความกลัวในใจ มันมั่นใจมากว่าเงานั้นจะต้องหลบให้กับพละกำลังของมัน หรือไม่ก็ต้องโดนท่อนไม้ใหญ่นี้หวดจนกระเด็นกระดอนกลิ้งหายเข้าไปในป่า แต่เปล่าเลย มันคาดผิดทั้งสองอย่าง

ท่อนไม้ใหญ่วาดผ่านอากาศ และผ่านเงาร่างที่ยืนอยู่ไม่ไกลจนเสียงดังฟุ่บ ไม่มีสัมผัสใด ๆ ต่อร่างเงานั้นทั้งสิ้นมันเหมือนกับว่าเป็นการฟาดท่อนไม้ใส่อากาศธาตก็มิปาน เหงื่อเม็ดโต ๆ เริ่มผุดออกมาจากทั่วร่างใหญ่โตนั้นจนมือของมันเปียกชุ่ม แต่มันยังไม่ยอมแพ้ ด้วยพยายามบอกตัวเองว่าเมื่อกี้คงจะฟาดผิดไป

ฮันนี่ดึงท่อนไม้นั้นฟาดใส่เงาร่างเล็ก ๆ อีกครั้ง แต่มันก็ยังคงวูบผ่านไปเฉย ๆ เหมือนเดิม มันเกร็งกล้ามเนื้อฟาดท่อนไม้ใส่ร่างเงานั้นอย่างบ้าคลั่ง ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่อาจจะสัมผัสเข้ากับฝ่ายตรงข้ามได้แม้แต่น้อยทั้ง ๆ ที่เงาร่างเล็กจ้อยนั้นไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ ทิ้งสิ้น

ท่อนไม้ใหญ่หล่นตุบจากมือหยาบหนานั้นลงไปกองกับพื้นเพราะตอนนี้มือของมันกำลังสั่นระริกด้วยความกลัวจนไม่ฟังคำสั่งของมันอีกต่อไป มันอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลจากที่แห่งนี้แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ เพราะสองขาของมันก็สั่นระริกจนแทบยืนไม่อยู่เช่นกัน สองตาของมันลุกโพลงจนแทบหลุดจากเบ้า เมื่อเงาร่างนั้นเดินเข้ามาใกล้จนเห็นได้ชัดเจน

“ใจร้ายจังนะคะพี่หมีควาย ใจคอพี่จะฝังหนูอีกรอบเหรอคะ พี่เพิ่งฝังศพหนูไปยังไม่ถึงเดือนเลยนะคะ” น้ำเสียงเย็นเยียบจากร่างเล็ก ๆ นั้นดังขึ้นอย่างตัดพ้อ เสียงนั้นมาพร้อมกับสภาพเนื้อตัวเปลือยเปล่าที่เน่าเฟะ ร่างกายนั้นบวมอืดมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มขณะที่มีตัวหนอนมากมายกำลังกัดกินเศษเนื้อที่กำลังเน่าเสียจนยั้วเยี้ยทั่วร่าง และแม้ว่าทั่วร่างจะเหมือนซากศพเพียงใด แต่ใบหน้านั้นก็ยังคงเป็นใบหน้าแบบเดิมเช่นเดียวกับตอนที่มีชีวิตอยู่ ใบหน้าที่ฮันนี่จำได้ดีเพราะเป็นคนจับเอาซากไร้ชีวิตนั้นโยนลงไปในหลุมฝังเองกับมือ

“ผะ ผะ ผะ .. .ผะ ผี ผี ผี ว้ากกกกกกกกกก ช่วยกูด้วยยยยยยยยยย” ร่างใหญ่ยักษ์นั้นกรีดร้องขอความช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่เคยพานพบมาก่อน ขณะที่ร่างศพอันเปื่อยยุ่ยของนั้นค่อย ๆ เดินเข้าหามันอย่างช้า ๆด้วยรู้ดีว่ายังมีเวลาที่จะล้างแค้นอีกยาวนานนัก

…………………………………………………………………………

ไอ้ชดเบิ่งตามองเงาร่างของสองสาวที่ยังคงนอนอยู่ที่บันไดด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง กลิ่นเหม็นเหมือนของเน่า ๆ เริ่มโชยมาเข้าจมูกของมันเริ่มจากบางเบา จนกระทั่งกลิ่นนั้นหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนฉุนกึ้ก ร่างกำยำของมันเริ่มสั่นสะท้านระริกไปกับความหวาดกลัวที่บังเกิดขึ้นในจิตใจอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันจ้องมองร่างของน้องหญิง และ น้องฟ้าด้วยไม่กล้าที่จะเหลือบชายตาลงไปมองร่างของเหยื่อสวาทที่มันเพิ่งข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไปหมาด ๆ

บัดนี้ไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นเหม็นเน่าเท่านั้นที่มันรับรู้ได้ แม้แต่ความอบอุ่นของร่างที่เกาะเกี่ยวเอวของมันอยู่ก็หายไปจนหมดสิ้น ตอนนี้มันรู้สึกได้เพียงความเย็นเยียบไร้ชีวิตชีวา ความรู้สึกนุ่มนิ่มของนวลเนื้อเต่งตึงบัดนี้มีแต่เพียงสัมผัสเละ ๆ น่าขยะแขยงเหมือนกับว่าที่รอบเอวของมันมีเนื้อเน่า ๆ มาเกาะติดอยู่ ความรู้สึกร้อนเร่าที่เคยตอดรัดจนแน่นตุบต่ออท่อนเนื้อที่คาอยู่ในเรือนร่างนั้นก็เปลี่ยนไปเหมือนกับว่ามีเศษเนื้อเย็นชืดมาประกบบีบความเป็นชายของมันจนแน่นหนึบ อีกทั้งความรู้สึกยุ่บยั่บที่เหมือนกับว่ามีสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ นับร้อยตัวกำลังชอนไชกับท่อนเนื้อที่เสียบค้างคาไว้ในร่างของอีกฝ่ายนั้นด้วย สังหรณ์ของมันบอกว่ามันเจอดีเข้าให้แล้ว หัวใจของมันเต้นรัวเร็วอยู่ภายในอกจนแทบจะระเบิดออกด้วยความสับสนระหว่างความรู้สึกกลัว และความอยากรู้

มันพยายามปลอบใจตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่อย่างที่มันคิด ไม่ใช่อย่างที่มันกลัว แต่กระนั้นแม้จะพยายามปลอบใจตัวเองมากเท่าไหร่ มันก็ยังคงไม่อาจจะทำใจฝืนบังคับสายตาตัวเองให้เหลือบลงไปมองค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหน้ามันได้

“พี่ขา อย่าหยุดซิคะ พี่ชอบข่มขืนหนูไม่ใช่เหรอคะ แถมชอบบีบคอหนูด้วย วันนี้หนูยอมให้พี่ทำเต็มที่เลยค่ะบีบคอหนูอีกซิคะ หรือจะตบตีหนูเท่าไหร่ก็ได้ ทำต่อซิคะพี่ขา คิ คิ” ไอ้ชดถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นเฉียบนั้นดังขึ้น มันตัวสั่นเทิ้มเมื่อรู้สึกได้ว่ามีมือเย็นเยียบมาแตะที่แก้มของมัน แล้วพยายามดันให้หน้าของมันหันกลับไปมองเจ้าของเสียงนั้น มันพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลับตาเพื่อไม่ต้องเห็นภาพที่มันคาดคิดว่าจะต้องได้เห็นแต่แล้วก็ไม่อาจจะทำได้ ดวงตาของมันยังคงเบิกกว้างโดยที่มันไม่อาจจะบังคับควบคุมได้แม้แต่น้อย

และแล้วอย่างช้า ๆ ไอ้ชดก็ได้เห็นภาพเหยื่อสวาทที่มันเพิ่งข่มขืนไปอย่างเต็มตา ใบหน้าที่ยิ้มอย่างน่าหวาดกลัวนั้นเป็นใบหน้าอันสดใสน่ารักของเด็กสาวที่มันเคยข่มขืนเปิดบริสุทธ์มาก่อนอย่างไม่ผิดเพี้ยน มันจำได้ติดตาก็เพราะว่ามันนี่แหละที่เป็นคนดักฉุดเหยื่อสาวมาเองกับมือ แถมยังเป็นคนแรกที่เปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นเด็กสาวเหยื่อสวาททั้งสองคนผูกคอตายจนลิ้นจุกปาก และเป็นมันนี่แหละที่เป็นคนสั่งให้เอาศพไปฝังที่หลังบ้าน ใบหน้านั้นเป็นเด็กสาวเหยื่อสวาทของมันแน่ ๆ ผิดก็เพียงแต่ว่าเนื้อตัวอันเปลือยเปล่าของเด็กสาวที่เคยเรียบลื่นน่าลูบไล้ตอนนี้เนื้อตัวนั้นกลับกำลังบวมอืดเน่าเฟะจนมีน้ำหนองไหลเยิ้ม และหากสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นได้ว่ามีตัวหนอนกำลังกัดกินเศษเนื้อเน่าตามเนื้อตัวบริเวณต่าง ๆ จนยุ่บยั่บเต็มไปหมด

“ว้ากกกกกกกกกก ผี ผี ว้ากกกกกกกกกกกกกก กลัวแล้ว อย่าทำกู อย่าทำกู ว้ากกกกกกกกกก” ไอ้ชดแหกปากร้องเสียงหลง มันรับรู้แล้วว่าผู้หญิงที่มันได้ทำการข่มขืนลงไป ไม่ใช่คุณหนูไฮโซที่มันตั้งใจไว้ แต่กลับเป็นซากศพของผีเด็กสาวที่พวกมันเคยกระทำการย่ำยี จนต้องฆ่าตัวตายไป มันพยายามดิ้นรนแกะสองขาที่เต็มไปด้วยเศษเนื้อเน่า ๆ เละ ๆ นั้นออกจากการตวัดรัดรอบเอวของมัน แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ จึงทำได้แต่เพียงแหกปากร้องลั่นด้วยความกลัวสุดขีด

มันพยายามยันตัวลุกขึ้นยืนเท่าที่พละกำลังของมันจะพึงมี และเมื่อมันยืนขึ้นได้ซากศพเน่า ๆ นั้นก็ทำหน้าถมึงทึงแล้วโหนตัวขึ้นมากอดร่างของมันจนร่างเน่าเฟะบวมอืดเบียดกับมันอย่างแนบแน่น สองขารัดเอวของมันไว้ พร้อมกันกับสองแขนที่เห็นกระดูกขาว ๆ ก็รัดโอบรอบคอของมันไว้เหมือนจะไม่ยอมให้ดิ้นหลุด ไอ้ชดร้องโวยวายออกมาไม่เป็นภาษาคนก่อนที่จะสติแตกพาตัวเองออกวิ่งพร้อมกับซากศพที่เกาะติดแน่นหายเข้าไปในป่าอันมืดมิด … และนับจากวันนาทีนั้นก็ไม่มีผู้ใดได้พบเห็นไอ้ชดอีกเลยแม้แต่คนเดียว

…………………………………………………………………………

“ช่วยด้วย … พี่เอก … หญิงทนไม่ไหวแล้ว … ช่วยหญิงด้วย …. อือออ” ในความมืดมิดนั้นน้องหญิงที่กำลังโดนฤทธิ์ยาสวาทปลุกเร้าอย่างหนักหน่วงถึงกับต้องนอนกระสับกระส่ายบิดตัวไปมาด้วยไม่อาจจะทานทนในความทรมาณที่ไม่ได้รับการปลดเปลื้องนั้นได้ และแม้ว่าจะเป็นบุญกุศลส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอรอดพ้นไปจากการโดนข่มขืนได้ด้วยความช่วยเหลือของผีสาว หากแต่คราเคราะห์ของเธอนั้นยังคงไม่หมดสิ้นไป ด้วยต้องทนทรมาณต่อเพลิงไฟสีดำอันเร่าร้อนแห่งตัณหาราคะต่อไปโดยที่ไม่มีใครช่วยเหลือ

บัดนี้เนื้อตัวขาวผ่องของเธอร้อนรุ่มเหมือนมีไฟรุมสุมแผดเผาอยู่ตลอดเวลาจนเจ้าของเรือนร่างทรงเสน่ห์แทบคลั่ง เม็ดเหงื่อใส ๆ ผุดหลั่งไหลรินออกมาจนเนื้อตัวเปียกชุ่มไปหมด สมองของเธอเริ่มเลอะเลือนจนมองเห็นเพียงภาพหลอน ภาพของชายคนที่เธอรัก ภาพของชายคนที่เธอต้องการมากที่สุดในเวลานี้

ด้วยฤทธ์ยาเกินขนาดที่ได้รับ หากว่าเธอไม่ได้รับการปลดปล่อยทางด้านอารมณ์จนสุขสมแล้วล่ะก็ เธออาจจะมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว แต่ในที่แห่งนี้ไม่มีผู้ใดเลย นอกเสียจากตัวเธอ และฟ้าที่สลบลงไปแล้วด้วยอาการบาดเจ็บที่แขนจากการต่อสู้กับกระเทยควายร่างยักษ์ ในห้วงเวลานี้แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่เกิดมาในยุคสมัยแห่งสังคมวิทยาศาสตร์ที่อยู่ห่างไกลกับคำว่าศาสตร์ที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็อาจจะเป็นผลบุญอะไรสักอย่างแต่ชาติปางก่อนที่ได้ดลใจให้สติที่เหลือเพียงน้อยนิดทำการสวดภาวนาขอร้องต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ในห้วงแห่งสติอันเลือนรางนั้น เธอภาวนาร้องขอ ให้สิ่งศักดิ์ศิทธิ์ช่วยคุ้มครองให้เธอปลอดภัย เธอภาวนาร้องขอให้นางฟ้าและเทวดาช่วยเหลือฟ้าเพื่อนรักของเธอให้ปลอดภัย และสำหรับคำขอสุดท้ายก่อนที่สติของเธอจะดับวูบไป เธอขอว่าหากว่าเธอจะต้องเป็นอะไรเธอก็ขอให้ได้พบกับชายหนุ่มคนที่เธอรักอีกสักครั้ง ….

เมื่อเธอหมดสติไปก็เหมือนกับสิ่งศักด์สิทธิ์ หรือเทพเทวดาจะได้ยินเสียงสวดภาวนาของเธอ ในความมืดสลัวที่ปกคลุมอยู่นั้นพลันปรากฎแสงสว่างสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นแสงสีขาว ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นแสงสีเขียวสดใส กลุ่มแสงทั้งสองกลุ่มนั้นค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่างเหมือนร่างของมนุษย์ที่พื้นที่ตรงกลางระหว่างคุณหนูไฮโซและสาวหมวยหมัดหนัก และเพียงไม่นานนักกลุ่มแสงสีขาวก็ก่อตัวขึ้นมาเป็นรูปร่างของผู้ชายวัยกลางคนในชุดสีขาวสะอาดตาเหมือนกับชุดเทวดาในละคร ส่วนกลุ่มแสงสีเขียวนั้นแม้จะก่อตัวได้ช้ากว่าแต่มันก็ค่อย ๆ กอปรขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างของหญิงสาวในเสื้อผ้าชุดไทยโบราณ ที่มีสไบสีเขียวสดห่มเฉียงพาดผ่านหัวไหล่ลงไปข้างลำตัว

“โถ ๆ น่าสงสาร ยังดีนะที่แม่หนูคนนี้ภาวนาขอให้ช่วยก่อนจะสลบไป ไม่งั้นต่อให้แม่ตะเคียนขอร้องมาพวกเราคงไปยุ่งไม่ได้” หญิงสาวในชุดไทยสีเขียวสดเหมือนใบตองของต้นกล้วยมองสองสาวด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสงสารเอื้ออาทร

“เฮ้อ น่าสงสารจริง ๆ แต่ก็เถอะนี่มันเป็นกรรมที่นังหนูสองคนนี่ต้องยอมรับ เราจะไปไปช่วยมากเกินไปก็ไม่ได้นะแม่ตานี” ชายในชุดขาวร้องบอกนางตานีที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นวิญญาณของหญิงสาวที่จะสิงสถิตย์ในต้นกล้วยตานี

“ก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ล่ะกันนะ อยากไล่ไอ้พวกชั่วพวกนี้มาตั้งนานแล้ว ทำบาปทำกรรมอยู่ได้ ไม่รู้บ้างหรือไงว่าทำแต่เรื่องชั่ว ๆ แบบนี้ตายไปแล้วต้องตกนรกหมกไหม้อีกกี่กัปกี่กัลป์ถึงจะชดใช้บาปได้หมดตาแก่เอ๊ย แกเองก็เป็นเทพารักษ์เสียเปล่า ปล่อยให้พวกมันทำบาปทำกรรมในอาณาเขตที่ดูแลอยู่ได้”นางตานีมองค้อนใส่ชายที่น่าจะเป็นเทพเทพารักษ์เจ้าที่ จากคำเรียกหาที่ใช้คาดได้ว่าทั้งคู่คงจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันไม่น้อย

“เฮ้อ … ข้าก็อยากทำอยู่ แต่มันเป็นเรื่องของทางโลกที่ข้าไปยุ่มย่ามไม่ได้ นี่ข้าก็ยอมช่วยปิดฟ้าตามที่
แม่ตะเคียนเขาขอมา จนวิญญาณออกมาได้คราวนี้ ข้าก็ช่วยเต็มที่แล้วนะ แม่ตานี ยังอยากจะได้อะไร
อีกเล่า”

“ฮึ ช่างเถอะ ตานีเข้าใจ แต่ก็สมน้ำหน้าไอ้พวกชั่วพวกนั้น วิ่งกันตับแล่บเลย สมน้ำหน้า คอยดูเถอะ
แม่จะให้ผีป่าหลอกตั้งแต่บ่ายยันเช้าเลย” นางตานีหัวเราะด้วยน้ำเสียงสดใส ดวงตานั้นมองตามไป
ทางด้านป่าอันมืดมิดที่ไอ้ชดวิ่งหนีเข้าไปด้วยความขบขัน

“เอาแค่หอมปากหอมคอเถอะน่า เราไม่มีสิทธิไปลงโทษพวกเขา อย่าทำมากเกินไปเลยแม่ตานี
เราจะบาปไปด้วย” ชายชุดขาวร้องปรามด้วยน้ำเสียงห้ามปราม

“จริง ๆ มันน่าจะจับมาหักคอจิ้มน้ำพริกกินเสียเลย ไอ้พวกชั่วพวกนี้ แต่เอาเถอะ ตานีสั่งพวกผีป่า
นางไม้ไปแล้ว ว่าเอาแค่หลอกให้จับไข้หัวโกร๋นก็พอ ไม่ต้องทำมากกว่านั้น” นางตานีสะบัดหน้า
อย่างขัดใจในอารมณ์ ด้วยอยากจะลงโทษพวกมันให้หนักกว่านี้ แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ เพราะผิดกฎ
ข้อห้ามของสวรรค์ที่มีอยู่ยุบยิบเต็มไปหมด

“อืม ดีแล้ว … เวรกรรมของใคร ยังไงก็หนีไม่พ้น หากไม่เจอะในภพนี้ ก็ต้องเจอะในภพหน้า
ปล่อยให้สวรรค์ลงโทษพวกมันเองเถอะ” ชายชุดขาวพูด

“สาธุ … เอาเถอะ ฉันเป็นแค่นางตานี ไม่สนใจกฎระเบียบบ้าบออะไรนั่นมากนักหรอก เอาเป็น
ว่าตอนนี้สะใจแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะช่วยผู้หญิงสองคนนี้เสียทีล่ะตาแก่ เอาแต่มองเอามองเอาเลยนะ”นางตานีตีแขนของเทพารักษ์ดังเผียะเมื่อเห็นว่าสายตานั้นเอาแต่จับจ้องที่ร่างเปลือยของเด็กสาวผู้น่าสงสารด้วยสายตากะริ้มกะเหรี่ย

“แม่ตานี จะให้ข้าช่วยจริง ๆ ได้เลย เห็นแก่แม่ตานีข้ายอมผิดศีลกาเมสักครั้งนึง ข้าจะยอมเป็นผัว
ช่วยสนองอีนังหนูคนนี้ก็ได้”

“ไอ้แก่บ้ากาม !!!! มีข้าทั้งคนยังคิดลามกอีกนะเนี่ย ข้าบอกเมื่อไหร่ว่าให้แกไปเป็นผัวอีนังหนูมัน
เพราะเอาแต่คิดบ้ากามอย่างนี้แหละ เลยต้องอยู่เป็นเทพารักษ์กิ๊กก๊อกอยู่อย่างนี้ แกก็แค่ทำให้ฤทธิ์ยามันหายไปซินังหนูมันจะได้ไม่ต้องทรมาณ เดี๋ยวก็ตายไปเสียก่อนพอดี” นางตานีตวาดเสียงดังก่อนหยิกแขนของเทพารักษ์แล้วบิดจนอีกฝ่ายต้องร้องครวญครางโอดโอย

“โอ๊ย ๆ แม่ตานีจ๋า ข้าก็แค่ล้อเล่นน่า ข้าไม่ได้คิดอะไรเล้ย ใครจะสู้แม่ตานีได้ล่ะจ๊ะ อีนังหนูคนนี้
ก็เป็นแค่นางฟ้ามีกรรมที่ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เท่านั้นเอง ก็แค่สวยกว่า เด็กกว่า น่ารักกว่า แล้วก็
อวบอึ๋มกว่าแม่ตานีนิดหน่อย ข้าไม่สนใจให้โง่ร้อก” เทพารักษ์พูดเหมือนจะชื่นชมนางตานี แต่น้ำ
เสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยการหยอกล้อ

“ก็ดีแล้ว … เอ๊ะ ไอ้แก่ !!!!! พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ตกลงว่าข้าดีหรือไม่ดีกันแน่” นางตานี
เผลอยิ้มรับคำชมชั่วครู่ ก่อนจะเพิ่งสำเหนียกได้ถึงความหมายที่แท้จริงของคำหยอกล้อนั้น จึงตวาด
กลับด้วยน้ำเสียงเข้มกว่าเดิม ขณะที่ดวงตาก็วาวโรจน์จนเขียวปั๊ดกว่าเดิมเช่นกัน

“โถ ๆ แม่ตานีจ๋า ข้าล้อเล่นแค่นั้นเอ้ง ข้ารับรองว่าไม่ได้อยากจะแอ้มนางฟ้าอะไรเลยจริงจริ๊งงงงง”
ชายหนุ่มในชุดขาวลากเสียงสูงติดตลกหยอกล้อกับนางตานี

“ไอ้แก่ หยุดพูด แล้วรีบช่วยสองคนนี่เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแม่จะเพ่นกะบาลซะเดี๋ยวนี้แหละ”

“อูยย เมียใครล่ะเนี่ย ดุจริง ๆ ได้จ้า แม่ตานีจ๋า” ชายชุดขาวสูดปากทำเสียงหยอกล้อ ก่อนจะหัน
ไปพนมมือและสวดท่องคาถาพึมพำ

“โอม นะโม นะโม โอโม่ ขาวผ่อง หน้าเด้งเต่งตึง นมโตตู้มตูม ตูดเด้งดึ๋งดั๋ง น่าหม่ำจังเอย”
เทพารักษ์ทำหน้าทะเล้นก่อนยึกยักแล้วพูดคาถาด้วยถ้อยคำแปลก ๆ ขณะแอบสำรวจความงาม
ของหญิงสาวที่นอนสลบอยู่

“ไอ้แก่ !!!! อยากตายใช่มั้ย” นางตานีตวาดพร้อมกับเงื้อสากที่อยู่ ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ เข้าใส่
เทพารักษ์ขี้เล่น

“แว้ก เกือบไป … จ้า ๆ ไม่เล่นแล้วจ้า แม่ตานียอดขมองอิ่มจ๋า” เทพารักษ์สะดุ้งโหยงก่อนกระโดดหลบสากกระเบือที่เหวี่ยงวืดเฉียดผ่านหลังไปนิดเดียว เขาหันมายิ้มแหย ๆ ให้กับนางตานีหนึ่งครั้งก่อนที่จะเริ่มต้นพนมมือแล้วบริกรรมคาถาอีกครั้งด้วยสุ้มเสียงที่ดูจะจริงจังกว่าเดิม และเพียงไม่นานนัก ก็ปรากฎแสงสีขาวค่อย ๆ ห่อหุ้มร่างของทั้งน้องหญิง และน้องฟ้าเอาไว้

อย่างช้า ๆ ท่าทางทรมาณของน้องหญิงที่กำลังดิ้นรนค่อย ๆ ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนลมหายใจที่หนักหน่วงเจียนตายนั้น ค่อย ๆ ลดลงจนเป็นลมหายใจที่ราบเรียบเหมือนปกติ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงรอยจ้ำสีแดง ๆ ที่ปรากฎทั่วร่างกายของเธอด้วย ส่วนรอยสีแดงจ้ำบนแขนซ้ายที่กระดูกร้าวของน้องฟ้านั้นก็ค่อย ๆ พร่าเลือนหายไป พร้อม ๆ กันกับกระดูกที่สมานตัวกันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ผิวเนื้อสีแดงช้ำจะแปรสภาพเปลี่ยนเป็นสีเนื้อตามปกติเหมือนกับว่าไม่เคยมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นมาก่อนเช่นกัน …และแล้วแสงสีขาวนวลนั้นก็เลือนหายไปเมื่อสีหน้าของสองสาวกลับเป็นปกติ

“เอาล่ะ ข้าช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้หายแล้วเท่าที่รักษาได้แล้ว ส่วนไอ้ยาสวาทอะไรนั่นข้าคงช่วยไม่ได้มาก มันเป็นกรรมที่พวกอีนังหนูมันต้องยอมรับ ข้าแค่เพียงช่วยกดเอาไว้ก่อนชั่วคราว กดเอาไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม” เทพารักษ์ลดมือที่พนมเพื่อบริกรรมคาถาไว้ลงมา ท่าทางใบหน้าอ่อนเพลียเหมือนสูญเสียพลังไปไม่น้อย

“อีกแล้ว เวลาที่เหมาะสมอะไรอีกล่ะ พูดแบบนี้ทั้งปี แล้วก็ไม่เคยบอกอะไรตานีเลยสักอย่างเดียว
อ้างกฎสวรรค์ตลอด” นางตานีตวาดแว้ด ๆ ใส่ชายคนนั้นจนอีกฝ่ายหน้าเจื่อน

“ก็มันเป็นกฎจริง ๆ นี่จ๊ะแม่ตานีจ๋า … เอาไว้เดี๋ยวเราคอยดูไปล่ะกัน ว่าพวกอีนังหนูสองคนนี่จะ
ร้อนกันได้ขนาดไหน เอ๊ย ข้าหมายถึงจะเป็นยังไงต่อ แต่ข้ารับรองได้ว่าปลอดภัยแล้ว ไม่มีอันตราย
ถึงชีวิต อย่างดีก็แค่ฟ้าเหลือง” เทพารักษ์พูดพลางหัวเราะหึ ๆ ด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

“อะไรของแกไอ้แก่ … แต่เอาเถอะ นังหนูทั้งสอง ในเมื่อไอ้แก่มันรับรอง ข้าก็ขอรับรองว่าพวกเอ็ง
ปลอดภัยแล้ว … ตอนนี้ข้าต้องไปแล้วขอให้พวกเอ็งโชคดี อยู่ที่นี่แหละ อีกสักประเดี๋ยวก็จะมีคน
มาช่วยพวกเอ็งแล้ว” นางตานีมองเทพารักษ์ขี้เล่นด้วยสายตาคลางแคลงใจ ก่อนจะหันไปส่งยิ้ม
หวานให้กับสองสาวที่นอนสลบไสลอยู่ด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ขณะที่สองร่างวิญญาณ
นั้นจะค่อย ๆ เลือนหายไปในความมืดมิดอย่างช้า ๆ

…………………………………………………………………………

เอี๊ยดดดดดดด โครมมมมมมม

เสียงเบรคของรถยุโรปคันหรูดังขึ้นพร้อมกับเสียงล้อครูดกับพื้นถนนที่เป็นดินลูกรัง ก่อนที่จะตามมา
ด้วยเสียงชนตูมเข้ากับต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านของอาจารย์พิชัย จนมันแทบหักล้มแรงกระแทก
ทำให้ด้านหน้ารถเป็นรอยบุ๋มรอยใหญ่ หากเพียงแต่ว่านั่นไม่ใช่รอยเพียงรอยเดียวที่ปรากฎอยู่บนตัวรถ
กันชนหน้าบุบไปสี่แห่ง กระจกหน้าเป็นรอยแตกสองรอย ด้านข้างทั้งซ้ายขวามีรอยเฉี่ยวชนครูดกับ
กำแพงเป็นทางยาวจนนับไม่ถ้วน

เมื่อฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายอยู่ได้จางหายไป ที่ด้านในรถนั้นร่างวิญญาณของเจ้าแม่ตะเคียนก็ค่อย ๆ
ลอยขึ้นมาจากร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่นั่งสลบไสลอยู่บนที่นั่งคนขับ ร่างวิญญาณโปร่งใสนั้นลอย
วูบผ่านประตูรถออกมาด้านนอกโดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดประตู เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพ
อันแสนยับเยินของยานพาหนะที่เธอเพิ่งจะพยายามนำพามันมาจนถึงสถานที่แห่งนี้ เธอยกมือไหว้
ต้นไม้ต้นที่กำลังโงนเงนด้วยเพิ่งจะโดนชนอย่างแรงจนจวนเจียนจะหักโค่นด้วยสีหน้าสำนึกผิด
ก่อนหันไปยกมือไหว้ทางด้านที่นั่งคนขับ ที่ซึ่งร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มยังคงหลับสนิทอยู่บนนั้น
อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนกล่าวเสียงใส

“ขออภัยเจ้าที่เจ้าทางนะจ๊ะ เอ่อ แล้วก็ท่านเจ้าของพาหนะด้วยนะจ๊ะ มือใหม่หัดขับจ้ะ”

………………………………………………………………