4542-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-35-%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%95
“อย่ามาแตะปู นะ กรี๊ดดดดดดดดด ออกไป ออกไปปปปป” เสียงหญิงสาวหวีดร้องออกมาสุดเสียงอย่างหวาดกลัว มาพร้อมกับแรงกระแทกอันรุนแรงที่ทำเอาอากาศรอบ ๆ ตัวเธอสั่นไหวกระเพื่อมไปมาราวกับระลอกคลื่นยักษ์ แรงอัดกระแทกพุ่งอัดใส่ร่างจิตวิญญาณของชายหนุ่มจนปลิวว่อนลอยละลิ่วไปในอากาศเหมือนว่าวที่เชือกสายป่านขาด ก่อนที่จะหล่นตุบลงกระแทกกับพื้นและล้มกลิ้งไปหลายรอบ
“แค่ก ๆ โอยยยย” เอกที่ล้มกลิ้งไปตามแรงกระแทกที่มองไม่เห็น ยันตัวขึ้นสำลักด้วยความรู้สึกจุกแน่น เค้ารู้ดีว่าภายในจิตแห่งนี้ หญิงสาวเจ้าของจิตมีอำนาจอย่างเต็มที่ ที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการ และโชคไม่ดีนักที่ดูแล้วท่าทางเธอจะอยู่ในอารมณ์หวาดกลัวอย่างรุนแรงเสียด้วย
แค่เริ่มต้นก็ไปไม่ถูกเสียแล้ว เขารู้สึกอับจนปัญญาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ รักยมก็ไม่อยู่ซะด้วย หัวสมองหมุนติ้วทำงานอย่างหนักก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
ในขณะที่กำลังเขาเกือบจะยอมแพ้ ก็กลับได้ยินเสียงหวาน ๆ อันคุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“พี่เอก … นั่นพี่เอกหรือเปล่าคะ”
“ฝ้าย !!!!” เขาหันไปมองตามเสียงร้องเรียก ก็เจอกับจิตวิญญาณของฝ้าย เธออยู่ในสภาพเปลือยกายเช่นเดียวกับร่างจิตวิญญาณทั่วไป ท่าทางเธอดูจะตื่นกลัวอยู่ไม่น้อยทีเดียว เขาสงสัยอย่างหนักว่าฝ้ายเข้ามาในนี้ได้ยังไง
“พี่เอก ที่นี่ที่ไหน ฝ้ายกลัว” ฝ้ายเมื่อเห็นชายหนุ่มสุดที่รักของเธอ ก็รีบวิ่งเข้าไปหาพร้อมกับใช้สองแขนเพรียวนั้นโอบกอดร่างของเอกจนแน่นร่างบอบบางของเธอสั่นสะท้านระริกด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าหวานฟุบแนบอยู่กับแผงหน้าอกของชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่อยู่นี่แล้ว จะไม่มีใครทำอะไรฝ้ายได้” เอกคว้ากอดฝ้ายไว้แนบอก พยายามเอ่ยปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อให้หญิงสาวหายจากอาการตื่นกลัว สองมือลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนของหญิงสาวอย่างเบามือด้วยความรักใคร่ เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ร่างจิตวิญญาณของหญิงสาวนั้นให้ความรู้สึกสัมผัสเฉกเช่นเดียวกับร่างเนื้อที่เขาเคยจับต้อง เนื้อตัวนุ่มนิ่มของหญิงสาวที่เบียดแนบชิด ทำเอาเขารู้สึก
เร่าร้อนขึ้นมาทันที แก่นกายเริ่มตื่นตัวขึ้นมาดุนดันกับหน้าท้องอันเรียบเนียนของพยาบาลสาวสวย
“พี่เอก …” ฝ้ายหัวเราะคิกคัก เมื่อสัมผัสได้ถึงแก่นกายอวบใหญ่ของแฟนหนุ่มที่บริเวณท้องน้อย ความหวาดกลัวดูจะหายไปหมดสิ้น มีแต่ความรู้สึกวาบหวามร้อนแรงเข้ามาแทนที่ เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ภายใต้อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นนี้ ร่างขาวเนียนเริ่มซุกตัวบดเบียดเข้าไปมากขึ้น
“เอ่อ … เรารีบไปคุยกับปูก่อนดีกว่า” ชายหนุ่มใช้มือจับไหล่นุ่มนิ่มของสาวสวยแล้วออกแรงผลักออกเบา ๆ แม้ว่าความกระสันจะกำลังคุกรุ่นอยู่แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทำแบบนี้ เขารีบห้ามใจตัวเองก่อนที่จะไปไกลเกินจะหยุดได้
“อืออ … คุณปูอยู่ที่นี่เหรอคะ” ฝ้ายคลายวงแขนที่กอดรัดชายหนุ่มอยู่ออกช้า ๆ อย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
“ใช่แล้ว ที่นี่คือภายในจิตใจของปู เมื่อกี้พี่พยายามคุยแล้ว แต่เธอไม่ยอมคุยด้วย แต่ถ้าเป็นฝ้ายที่เป็นผู้หญิงก็ไม่แน่” ชายหนุ่มเริ่มมองเห็นทางออกอย่างน้อย ๆ ผู้หญิงด้วยกัน ก็น่าจะยอมคุยกันได้
“….. ที่นี่คือโลกวิญญาณงั้นเหรอ … ฝ้ายนึกว่าร่างวิญญาณจะลอยไปลอยมา แล้วก็สัมผัสไม่ได้ซะอีก … แต่นี่” เธอเอื้อมมือไปป่ายแปะที่ร่างของชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ สัมผัสที่ได้รับมันเหมือนกับตอนปกติ หากเป็นเช่นนี้แล้ว ร่างวิญญาณกับร่างเนื้อจะต่างกันยังไงล่ะ”พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันเป็นโลกที่ไม่มีใครรู้จักจริง ๆ หรอก แต่ตอนนี้เรารีบไปคุยกับปูได้แล้ว” ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้คำตอบ เขาได้แต่จูงมือฝ้าย แล้วพาเดินตรงไปยังทิศทางที่เค้าเพิ่งโดนกระแทกจนปลิวกระเด็นออกมา
“ว่าแต่ ฝ้าย เข้ามาในนี้ได้ยังไง?” เอกเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้
“ฝ้าย ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ … เมื่อกี้นี้ตอนที่จับมือพี่เอกไว้ มันเหมือนมีพลังอะไรร้อนวูบวาบ ๆ วิ่งผ่านเข้ามาทางนั้น … ตอนนั้นฝ้ายก็คิดในใจว่าอยากจะตามมาช่วยพี่เอกด้วย แล้วอยู่ดี ๆ ฝ้ายก็รู้สึกเหมือนโดนดูดเข้าไปในหลุมอะไรบางอย่าง ฝ้ายเห็นพี่เอกในระหว่างนั้น ก็เลยร้องเรียกแต่เหมือนพี่เอกจะไม่ได้ยิน ฝ้ายพยายามออกแรงฝืนให้ไปหาพี่เอก แต่เหมือนแรงดูดจะพาฝ้ายไปคนละที่ ฝ้ายก็ไม่รู้จะทำยังไง แล้วจากนั้น
ก็มีเด็กน้อยสองคน แต่งตัวแปลก ๆ เหมือนเด็กไทยโบราณมาจับมือฝ้ายไว้ พวกเค้าจับฝ้ายเหวี่ยงมาทางพี่เอก แล้วพวกเค้าโดนหายไปทางไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฝ้ายเล่าบรรยายเรื่องราวเป็นฉาก ๆ
“อืมมมม … พอจะเดาเหตการณ์ออกล่ะ ถึงว่าซิรักยมถึงได้หายไปซะเฉย ๆ” เอกทำท่าทางพินิจพิเคราะห์ เป็นไปได้ที่ตอนนี้รักยมอาจจะหลงไปในคนละสถานที่เพราะพยายามช่วยดึงฝ้ายกลับมา เพราะหากปล่อยให้ดวงจิตของฝ้ายหายไปล่ะก็คงจะอันตรายน่าดู แต่เป็นรักยมก็น่าจะไม่มีอะไรพวกเค้าน่าจะหาทางกลับเองได้
“รักยม อะไรคะ ? … อุ๊ยยยย อืมมม อะ อาาาา” ฝ้ายเอ่ยถามสีหน้าสงสัย แต่อยู่ดี ๆ ก็ร้องครางเสียงหลงออกมา เธอรู้สึกแปลก ๆ แข้งขาอ่อนแรงจนเกือบจะทรุดตัวล้มลง
“เป็นอะไรหรือเปล่าฝ้าย ?” เอกพยุงร่างของฝ้ายไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะหล่นตุบลงไปกองกับพื้น
“อือออ ซี้ดดดสส มะ ไม่รู้ค่ะ … ฝ้ายรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่า … อะ อูยยย อือออ” ฝ้ายร้องครางเสียงยาว เอามือบีบที่ท่อนแขนของเอกจนแน่น สัมผัสสยิวซ่านที่บริเวณร่องหลืบบังเกิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรนุ่ม ๆ ชื้น ๆ กำลังแหย่แยงไปมาที่กลีบเสียวของเธอ ความเสียวซ่านรุกเร้าเข้าใส่ราวกับไฟฟ้าช๊อตวิ่งพล่านไปทั่วตัว
“ซี้ดสสสสส … พี่เอก … ช่วยด้วย อาาาา …” เธอร้องครางกระเส่าอย่างยั่วยวน สองขาขาวเนียนขยับเข้าไปหนีบเบียดเสียดสีด้วยความเสียวที่บังเกิดขึ้น เธอซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดชายหนุ่มที่กำลังงุนงงกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วบิดตัวไหวไปมาเร่า ๆ ตามความร้อนผ่าวที่ร่องหลืบนั้น
พวกเขาทั้งสองคนไม่รู้เลยว่า ร่างเนื้อกับร่างจิตนั้นมีความเกี่ยวพันกันอยู่ อะไรที่ร่างเนื้อรู้สึกร่างจิตก็จะรับรู้ไปด้วย และขณะนี้ร่างเนื้อของสาวสวยกำลังโดนเก่งกระทำชำเราด้วยแรงไฟราคะอันล้นอกอยู่ ความเสียวอันนั้นจึงส่งผ่านมายังร่างจิตจนสาวสวยต้องร้องครวญครางแบบนี้
“ฝ้าย …” เอกรู้สึกเป็นห่วงฝ้าย แต่ในขณะเดียวกันท่าทางยั่วยวนเร้าอารมณ์ของสาวสวยก็ปลุกอารมณ์อยากของเค้าขึ้นมาพร้อมกัน
“ซี้ดดสสสส พี่เอก” เธอบิดตัวไหวไปมาไม่นานนัก สาวสวยไม่ไหวแล้ว เธอบิดตัวเร่า ๆ แอ่นอก โยกเอว ตัวกระตุกเกร็ง ร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียงแล้วก็เนื้อตัวอ่อนหมดเรี่ยวแรงฟุบลงแนบอกของชายหนุ่ม เธอหอบหายใจหนัก ๆ เสียงกระเส่า ลมหายใจอุ่น ๆ ราดรดกล้ามเนื้ออันแข็งแรงจนมันแทบจะอ่อนยวบยาบ
เอกปล่อยให้ฝ้ายพักอยู่ในอ้อมกอดของเขาอยู่ครู่ใหญ่ ไม่นานนักเนื้อตัวร้อนผ่าวของเธอก็เริ่มเย็นลงและหายจากสั่นสะท้าน
“ดีขึ้นหรือยังน่ะ …” ชายหนุ่มถามฝ้ายที่แหงนหน้าขึ้นมาจ้องมองเค้าด้วยดวงตากลมโตแทบไม่กระพริบ
“… พี่เอก แกล้งฝ้ายเหรอ …” สาวสวยพยายามหาคำอธิบายให้อาการของตัวเอง
“เฮ้ย … พี่จะแกล้งยังไงล่ะ ฝ้ายเป็นอะไรก็ยังไม่รู้เลย แล้วตกลงหายหรือยังล่ะเนี่ย” เอกเอื้อมมือไปอังที่หน้าผากของฝ้ายด้วยความห่วงใย แต่ก็ไม่พบความรู้สึกผิดปกติอะไร เนื้อตัวของเธออุณหภูมิปกติ
“ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ … ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหมือนเมื่อกี้แล้ว เดี๋ยวฝ้ายพักอีกหน่อยก็คงหาย” สาวสวยซุกหน้ากับกล้ามเนื้อหน้าอก ก่อนที่จะเผลอยิ้มอย่างดีใจ เธอรู้สึกดีไม่น้อยกับการแสดงออกถึงความห่วงใยของแฟนหนุ่ม ความจริงเธอรู้สึกหายดีแล้ว แต่ยังอยากจะซุกไออุ่นแบบนี้ต่อไปอีก
“ฮืออ ฮือออ” เสียงหญิงสาวร้องไห้ดังออกมาจากที่ไม่ไกลนัก ฝ้ายสะดุ้งตัวเบา ๆ เหลือบหันมองไปตามเสียงร้องไห้ ก็เห็นร่างหญิงสาวนางหนึ่งนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ เธอไม่แน่ใจว่านั่นคือปูหรือเปล่าเพราะไม่ได้เห็นหน้า จึงหันหน้ามามองเอกด้วยความสงสัย เอกเพียงตอบด้วยการพยักหน้าแล้วปล่อยแขนที่ประคองกอดร่างของฝ้ายออก เป็นสัญญาณให้ฝ้ายเป็นคนจัดการ
……………………………………….
ปูเงยหน้าเหลือบชำเลืองขึ้นมามองร่างหญิงสาวที่กำลังเดินเข้าไปหาเธอ เผยให้ฝ้ายมองเห็นคราบน้ำตาที่นองเต็มสองแก้ม ดวงตาสวยนั้นบวมแดง จมูกขาว ๆ แดงช้ำ ด้วยแรงสะอื้นไห้จนหมดสวย
“ปู ไม่ต้องกลัวนะ พวกเรามาช่วยคุณออกไป” ฝ้ายทิ้งเอกให้รออยู่ห่าง ๆ แล้วเดินเข้าไปหาปูช้า ๆ เพื่อระวังไม่ให้ปูตกใจกลัวซะก่อน และดูเหมือนว่าจะได้ผล เธอไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมา เหมือนตอนที่เอกเดินดุ่ย ๆ เข้าไปหาเธออีกแล้ว
“…..” ปูยังคงนั่งนิ่งไม่ตอบ เธอนั่งมองฝ้ายที่เดินเข้าไปหาด้วยสีหน้าเฉยชาที่เดาความรู้สึกไม่ออก เอกยืนมองดูช่วยลุ้นอยู่ห่าง ๆ เขาอยากรู้อยู่เหมือนกันว่า พยาบาลสาวคนนี้จะทำอย่างไร เพื่อคุยกับปูให้รู้เรื่อง และสิ่งที่ฝ้ายพยาบาลสาวคนสวยทำก็คือ ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ปู แล้วใช้สองแขนโอบกอดปูไว้
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ พวกเราอยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำอะไรปูได้อีก พี่รับรองนะ” ฝ้ายกอดปูไว้แน่น พร้อมกับส่งเสียงปลอบประโลมอย่างอบอุ่นบทเรียนวิชาพยาบาลที่เธอเคยร่ำเรียนมาช่วยเธอได้ไม่น้อยทีเดียว การพูดคุยกับผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต อันดับแรกสุดจะต้องให้เขาหรือเธอมั่นใจก่อนว่าตัวคนที่เจรจาด้วยไม่มีอันตราย และตัวคนไข้ต้องอยู่ในสภาวะที่ปลอดภัยจากอันตรายด้วย
“…. ฮือออออออ ” ปูกอดฝ้ายตอบเหมือนกับเด็กน้อยที่ต้องการความอบอุ่นจากแม่ เธอส่งเสียงร้องไห้โฮมากกว่าเดิม ราวกับว่าที่ร้องอยู่ก่อนหน้านี้เธอยังร้องไห้ออกมาไม่เต็มที่ และอยู่ดี ๆ ก็มีเม็ดฝนเม็ดใหญ่ตกลงมาหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้มองไม่เห็นสภาพรอบข้าง นี่คงจะเป็นเสมือนสภาพจิตใจของปูตอนนี้กระมัง แม้ว่าฝ้ายจะรู้สึกเจ็บจากสัมผัสอันหนักหน่วงของเม็ดฝนที่ร่วงหล่นลงมา แต่เธอก็กลับยิ่งกระชับกอดร่างจิตของปูให้แน่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อบ่งบอกว่าเธอจะปกป้องปูอย่างเต็มที่
……………………………………….
ครืด ครืดดด เสียงพยาบาลในชุดขาวเข็นรถเข็นคนไข้เดินผ่านหน้าห้องพยาบาลเจ้าปัญหาไปอย่างช้า ๆ เธอแอบชำเลืองมองเข้าไปด้านในห้องผ่านกระจกใสที่หน้าประตูแต่ก็ไม่เห็นใครเลย เธอแอบลุ้นอยู่
ว่าฝ้ายเพื่อนสาวสวยของเธอ จะไปได้ดีกับหมอหนุ่มอนาคตไกลคนนั้นหรือไม่ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเธอไม่เห็นอะไรเลย เธอจึงเดินผ่านหน้าห้องไปโดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมอาชีพของเธอนั้นกำลังโดนกระทำชำเราอะไรอยู่
ฝ้ายพยาบาลสาวสวยในสภาพกึ่งเปลือยนั่งสลบไสลแน่นิ่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงนอนคนไข้ เธอเอนตัวหลับพริ้มพิงกับพนักพิงหลัง สาบเสื้อพยาบาลสีขาวแบะแยกออกจากกัน ยกทรงตัวสวยหล่นตุบลงไปกองอยู่ที่เอวคอดกิ่ว เผยหน้าอกขาวอวบนวลเนียนสวยได้รูปให้โชว์ตัวหราอยู่อย่างที่เจ้าตัวไม่สามารถที่จะปิดป้องได้ ขณะเดียวกันสองขาขาวเรียวก็ถ่างแยกออก โชว์เนินสวรรค์แสนโหนกนูนที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำรักที่เอ่อล้นออกมา กลีบเสียวของเธอที่เพิ่งจะไปถึงจุดสุดยอดเมื่อกี้นี้ ยังคงออกแรงตอดรัดอากาศตุบ ๆ เบา ๆ เหมือนกับจะบอกว่าเธอพร้อมรับการสมสู่อันร้อนแรงแล้ว
เก่งหนุ่มบ้านนานั่งคุกเข่าอยู่ในสภาพเปลือยกาย อวดโชว์ร่างกายบึกบึนสีดำคล้ำที่โดนแผดเผาด้วยไอแดดจากการทำไร่ทำสวนอยู่เป็นประจำดวงตาของเขาร้อนผ่าวจนแดงกล่ำ เขาหายใจหอบถี่รุนแรงด้วยแรงใคร่ปรารถนาในกามารมณ์ ท่อนเอ็นอวบอ้วนสีดำคล้ำที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนแข็งตัวเหมือนท่อนไม้ มันชี้ตระหง่านผงกหัวหงึก ๆ อยู่อย่างหงุดหงิดใจ มันรอคอยอยู่เนิ่นนานแล้วก็ยังไม่ได้มุดเข้าไปสำรวจถ้ำสวาทอันอบอุ่นของสาวสวยทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างกันแค่คืบซักที
เก่งชะงักอยู่อย่างนั้นมาครู่ใหญ่แล้ว เขามองสำรวจเรือนร่างงามหมดจดของพยาบาลสาวคนสวยที่นอนสลบไสลในสภาพกึ่งเปลือยอีกครั้งอย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยแรงปรารถนาแห่งกาม เมื่อกี้นี้ขณะที่เขากำลังหน้ามืดตามัวคิดแต่จะสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปเพื่อคลายความกระสันนั้น ก็เหลือบสายตาไปมองเห็นน้ำตาใส ๆ ไหลพรากออกมาจากสองตาของปูแฟนสาวที่นอนหลับอยู่ ความผิดชอบชั่วดีและศักดิ์ศรีของเขากลับมาทำงานอีกครั้ง ภาพแฟนสาวที่โดนหมอผีชั่วช้าสามานย์กระทำชำเราฉุดคร่าพรหมจรรย์ไปในค่ำคืนก่อนวิวาห์อย่างอุกอาจ โดยที่เขาผู้ซึ่งเป็นว่าที่สามีไม่อาจที่จะทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย ภาพนั้นแว้บผ่านเข้ามาในสมองอีกครั้งอย่างแจ่มชัดมันช่างเป็นสิ่งที่โหดร้ายจนเขาทนรับแทบไม่ได้ แล้วนี่ ……
แล้วนี่เขากำลังจะทำสิ่งเดียวกันนั้นงั้นหรือ ? เปล่าหรอกสิ่งที่เขาทำนั้นร้ายกาจกว่ามาก เพราะเค้ากำลังจะข่มขืนแฟนสาวของคนที่กำลังเสี่ยงชีวิตช่วยแฟนของเขา เก่งกัดฟันกรอด ๆ เขากำหมัดแน่นความรู้สึกเกลียดชังรุนแรงพวยพุ่งอัดฉีดไปทั่วร่าง ในตอนนี้เขามิได้เกลียดชังใครอื่น หากแต่เป็นตัวเขาเองที่เกิดความรู้สึกไม่อยากที่จะให้อภัยตัวเอง สิ่งที่เขากำลังทำมันช่างเป็นสิ่งเลวร้ายเหลือเกิน
เขาหันไปมองดูปูที่น้ำตายังคงไหลพรากอยู่อีกครู่ใหญ่อย่างสำนึกผิดก็ลุกขึ้นยืนดึงกางเกงขึ้นมาสวมใส่ แล้วจัดแจงจัดเครื่องแต่งกายของฝ้ายให้เป็นปรกติ ก่อนที่จะขยับตัวไปนั่งจับกุมมือของแฟนสาวที่ขอบเตียงอีกด้านเพื่อให้กำลังใจตามที่ควรจะเป็น
……………………………………….
ในห้วงแห่งโลกจิตวิญญาณ เวลาผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ เหมือนวิธีการของฝ้ายจะได้ผล และก็เป็นโชคดีของตัวเธอเองด้วยเหมือนกันที่ ปูร้องไห้ออก
โฮออกมาอย่างเต็มที่ จนร่างเนื้อของเธอถึงกับต้องหลั่งน้ำตาตาม และทำให้ฝ้ายรอดพ้นจากการโดนกระทำชำเราได้อย่างหวุดหวิด
“ฮึก ฮึก …” เสียงปูสะอื้นไห้เบาลงเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กันกับสายฝนที่ค่อย ๆ โปรยปรายลงมาน้อยลงเรื่อย ๆ จนตอนนี้เหลือเพียงสายฝนปรอย ๆ
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว ผีสาวตัวนั้นพวกเราก็จัดการแล้ว” ฝ้ายลูบหัวของปูไปมา เหมือนกำลังปลอบใจเด็กน้อยขี้แย
“แต่ปูกลัว ลุงคนนั้น เค้า … เค้าทำร้ายปู ฮือ ฮือ” ปูยังคงร่ำไห้กอดร่างของฝ้ายไว้แน่น
“ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงพยาบาลนะ ตำรวจอยู่กันเต็มเลย ไม่มีใครทำอะไรปูได้หรอก คุณเก่งก็รออยู่ด้วยนะ” ฝ้ายพูดปลอบได้ค่อนข้างดีทีเดียว
“… แต่ว่า … พ่อ แม่ พี่ น้อง ของปูตายหมดแล้ว ตายหมดแล้ว ฮืออ ปูไม่เหลือใครแล้ว ปูอยากตาย” เหมือนจะคุ้มดีคุ้มร้าย อาการสงบหายไปเธอส่งเสียงกรีดร้องเสียงดังลั่นเหมือนกับคนบ้า ทำเอามิติโดยรอบสั่นไหว คึ่ก คึ่ก ไปมาเบา ๆ เหมือนกับเกิดแผ่นดินไหว ความโหดร้ายที่เธอได้รับ ทำเอาสาวน้อยบอบบางอย่างเธอไม่อยากที่จะรับมันไหวอีกต่อไป
เอกที่มองอยู่ห่าง ๆ ก็แอบนึกตาม เขาไม่มีเหตผลอะไรเลยที่จะโน้มน้าวเธอให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
“เพียะ” เสียงฝ่ามือเล็ก ๆ ของฝ้าย ตบไปที่หน้าของปูอย่างแรงจนเสียงดัง หน้าของปูสะบัดหงายไปตามแรงมือ
“ฮึก ฮึก …” ปูหยุดหวีดร้อง เธอทำหน้างง ๆ กับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเอามือไปลูบที่แก้มตัวเองเบา ๆ พร้อมกับหันมามองฝ้ายอย่างงง ๆ
“อย่าพูดบ้า ๆ นะ อยากตายอะไรกัน” ฝ้ายที่ทำสีหน้าอ่อนโยนมาตลอด กลับพูดด้วยอารมณ์โกรธเคือง น้ำตาใส ๆ ไหลเจิ่งนองออกจากตาสวย ๆ ของเธอทั้งสองข้างอย่างไม่อาจบังคับได้
“ตายไปแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ ตายไปแล้วเธอจะไปเป็นเหมือนผีสาวตนนั้นน่ะเหรอ ผีที่ไม่รู้จักความรัก ผีที่ไม่มีความสุข แบบนั้นเหรอ ….” เธอหยุดเว้นจังหวะหน่อยนึง ก่อนที่จะพูดต่อ
“รู้มั้ยมีคนมากมายที่ยอมสู้อย่างไม่ย่อท้อ แค่เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ แต่นี่ปูจะอยากตายกันง่าย ๆ อย่างงั้นเหรอ …. รู้มั้ย แม่ของฝ้ายป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อาการหนักเจียนตายตั้งแต่ฝ้ายยังเด็กอยู่ หมอบอกว่าไม่มีทางรักษาได้ และจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี ตอนนั้นแม่ผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก จะกินก็ไม่ได้ จะนอนก็ไม่หลับ จะขยับตัวแต่ละทีก็เจ็บปวดไปทั้งตัว แต่แม่ก็ยังคงสู้ชีวิต แม่ไม่มีวันยอมแพ้กับมัน แม่กัด
ฟันสู้ตายเพื่อมีชีวิตอยู่ …. รู้มั้ยว่าทำไม” ฝ้ายหยุดเว้นจังหวะ มองสบตากับปูอยู่ครู่ใหญ่ แล้วพูดต่อ
“แม่บอกว่าแม่จะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูฝ้ายเรียนจบ ดูฝ้ายทำงาน แม่จะรอดูฝ้ายแต่งงาน มีลูก มีหลาน มีครอบครัวอย่างมีความสุข”
” …. แต่น่าเสียดาย … แม่ของฝ้ายทนสู้กับโรคร้ายนั้นได้แค่ 7 ปี … 7 ปีกับการทุกข์ทนทรมาณที่แสนยาวนาน ฝ้ายเคยคิดสงสารไม่อยากให้ท่านทรมาณมากไปกว่านี้แล้ว แต่วันที่ท่านจากไป ท่านบอกว่าอะไรรู้มั้ย … แม่พูดด้วยเสียงแหบแห้ง แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข แม่บอกว่าแม่มีความสุขที่สุดที่ได้เห็นลูกสาวคนเดียวของแม่ ได้ใส่ชุดครุยรับปริญญา และแม่จะพยายามทนดูต่อไปจนกว่าจะได้
อุ้มหลาน แม่จะพยายามอยู่จนถึงที่สุดเพื่อที่จะได้เห็นฝ้ายมีความสุข…” ฝ้ายเอื้อมมือมาปาดเช็ดน้ำตาที่ยังคงไหลนองออกไป
“แต่ แต่ว่าแม่ก็ทนต่อไปไม่ไหว ท่านจากฝ้ายไปด้วยรอยยิ้มในคืนนั้น คืนที่ฝ้ายรับปริญญา ฮืออ ฮือออ” ฝ้ายที่เป็นคนปลอบใจกลับทรุดตัวลงนั่งร้องไห้โฮราวกับเสียสติ
เอกเดินเข้าไปโอบกอดฝ้ายไว้แนบอก เขารู้สึกสงสารฝ้ายขึ้นมาจับใจ เขาไม่เคยรู้ความจริงข้อนี้เลย ว่าฝ้ายเองก็เคยมีความหลังที่โหดร้ายแบบนี้อยู่ด้วย ฝ้ายร้องไห้โฮซบกับอกอุ่น ๆ ของแฟนหนุ่มเหมือนกับต้องการจะระบายเอาความอัดอั้นในใจที่เก็บกดไว้มาแสนนานออกมาให้หมด
ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงความเศร้าจากน้ำตาเปียก ๆ ที่อุ่นและชื้นแฉะอยู่เต็มแผงหน้าอก เนื้อตัวของฝ้ายสั่นระริกเหมือนลูกนกตัวเล็ก ๆ ที่พลัดหลงจากแม่ เธอบดเบียดร่างเล็ก ๆ ของเธอกับร่างของชายหนุ่มจนแนบแน่น เหมือนจะพยายามไขว่คว้าหาความอบอุ่นมาเติมเต็มจิตใจที่เศร้าหมองนั้นให้ดีขึ้น ชายหนุ่มกอดรัดร่างของเธอเป็นการตอบกลับ ความรักความอบอุ่นที่มีให้ ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น อืม เธอชอบความรู้สึกแบบนี้
เหลือเกิน ความรู้สึกที่มีใครสักคนที่ห่วงหาอาทรในตัวเธอสวมกอดเธอไว้แน่น ๆ ให้เหมือนกับว่าจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีหายไปไหน
เอกยังคงกอดร่างฝ้ายไว้อย่างแนบแน่น เขาหันไปมองทางปูที่ดูเหมือนจะสงบลงไปเยอะ เธอคงจะเริ่มคิดบางอย่างได้แล้ว
“ปูบอกว่าไม่เหลือใครอีกแล้วในชีวิตนี้ … แล้วผู้ชายคนที่คอยเฝ้าดูแลเธออยู่ไม่ห่างล่ะ คนนั้นคือใคร” เอกพูดถามปู
“……. พี่เก่ง …” ปูบ่นรำพึงชื่อชายคนรักเบา ๆ
“ที่ด้านนอก ผู้ชายที่รักปูอย่างหมดใจ เค้าจับกุมมือของปูอยู่นะ เธอไม่รับรู้ถึงความรักความอบอุ่นที่เค้ามอบให้เลยเหรอ” เอกพูดต่อ
“….พี่เก่ง ยังรักปูอยู่เหรอ….” ปูพูดเสียงแหบพร่า เธอบีบมือของตัวเองแน่น เหมือนจะพยายามสัมผัสถึงความรักความอบอุ่นที่ถ่ายทอดเข้ามา
“ใช่แล้วล่ะปู คุณเก่งเค้าเฝ้าดูแลปูอยู่ไม่ห่างเลยนะ เค้าจะต้องรักปูมากแน่ ๆ” เอกพูด
“แต่ปูไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว ปูโดนมันข่มขืน แถมเมื่อกี้ปูยังมีอะไรกับหมอคนนั้น แล้วก็คุณ … อีก เค้าจะยังรักปูได้สนิทใจอีกเหรอ” เธอมองไปทางเอกน้ำตาของเธอเริ่มไหลปริ่มออกจากเบ้าตาสวยนั้นอีกครั้ง
“ผิดแล้วล่ะครับปู” เอกเอื้อมมือไปจับมือของปูไว้ พลางมองลึกเข้าไปในดวงตาสีดำเข้มที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้น
“สำหรับผู้ชายแล้ว หากเรารักใครสักคนด้วยใจล่ะก็ ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นยังไง เราก็ไม่สนใจทั้งนั้น” เอกพูดน้ำเสียงจริงจัง
ภาพน้องหญิงลอยขึ้นมาในใจทันที หากน้องหญิงของเขาต้องเจออะไรแบบนี้เข้าล่ะก็ เขาก็ยังยินดีที่จะรักเธอด้วยความเต็มใจ มันไม่ใช่คำพูดที่พูดขึ้นมาเพื่อให้ดูสวยหรูอย่างแน่นอน หากแต่เป็นคำพูดที่เปล่งออกมาจากเบื้องลึกของจิตใจ
“….” ฝ้ายเองก็ส่งยิ้มแล้วมองไปทางเอกอย่างซาบซึ้งกับคำพูดนั้น ดูเธอท่าทางออกอาการเขินอาย เหมือนกับคิดว่าคำพูดนั้นของเอกหมายถึงเธอ ซึ่งความจริงแล้วฝ้ายเองก็เป็นคนสวยน่ารักมาก หากแต่ว่าสำหรับเอกแล้ว คงยากที่จะหาใครมาแทนที่ผู้หญิงอันดับหนึ่งในดวงใจของเขา
“…..” ปูนิ่งเงียบไปพักใหญ่ ดูเหมือนว่าเธอจะรับรู้ความจริงใจที่ผมถ่ายทอดให้กับเธอได้ ผ่านทางดวงตา สภาพรอบข้างเริ่มเปลี่ยนไปตามความนึกคิดของปูเจ้าของดวงจิต ทะเลเลือดที่แผ่กว้างไม่สิ้นสุดเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นพื้นหญ้าเขียวขจีดูสดใสมีชีวิตชีวา ใบหน้าสวยเริ่มฉีกยิ้มอันสดใสออกมาได้บ้างแล้ว
พลันนั้นแสงสว่างจ้าสีขาวก็สาดส่องไปทั่วอาณาบริเวณ เอกและฝ้ายรู้สึกเหมือนสติตนเองกำลังจะดับวูบลงไปอีกครั้ง
“พ่อเก่งมากจ้ะ พวกหนูพากลับล่ะนะ” เสียงของเด็กน้อยสองคนหัวเราะคิกคักแว่วเข้ามาในโสตประสาทของเอกก่อนที่สติจะดับวูบหายไป
เอกลืมตาตื่นขึ้นมาช้า ๆ มองเห็นปูในชุดคนไข้มองเขาอยู่ตาใสแป๋ว มองไปด้านข้างมีฝ้ายและเก่ง ยืนมองเหมือนลุ้นอะไรบางอย่างอยู่ เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง ตอนนี้เขากลับเข้าร่างเหมือนเดิมแล้ว ปู และฝ้าย เองก็กลับมาอย่างปลอดภัย นี่แสดงว่าเขาทำสำเร็จแล้ว
“พี่เอกกลับมาแล้ว” ฝ้ายยิ้มอย่างร่าเริง เธอกระโดดเข้ามากอดรัดเอกเหมือนกับเด็ก ๆ
“ขอบคุณมากครับคุณเอก คุณฝ้าย ผมไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงดี หากมีอะไรผมช่วยได้ล่ะก็ ผมยินดีช่วยเต็มที่นะ” เก่งเองก็โผเข้ากอดเอกเหมือนกัน เขารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันคนนี้มากมายนัก
“โอ๊ย ๆ ปูหนักนะ มากอดอะไรกันตรงนี้ล่ะ” ปูฟื้นขึ้นมาแล้วก็บ่นกระปอดกระแปดทันที
“แหม ก็คนมันรักกันนี่นา ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เอกแกล้งกอดเก่ง แล้วส่งเสียงเย้าแหย่คนไข้สาวสวยตามนิสัยขี้เล่นของเขา
“ไปกอดกันที่อื่นเลยไป ปูยกพี่เก่งให้ก็ได้ แต่ต้องแลกกับพี่ฝ้ายนะ” ปูทำหน้างอนใส่เอื้อมมือไปจับแขนของฝ้ายไว้ ท่าทีของเธอทำเอาทั้งกลุ่มส่งเสียงหัวเราะร่าออกมาอย่างมีความสุข ในมิตรภาพที่มีให้แก่กัน แม้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่พวกเขาก็มั่นใจว่า คำว่ามิตรภาพจะคงอยู่กับพวกเค้าต่อไปอีกนานเท่านาน
……………………………………………………………………..
บนตึกสูงระฟ้า ที่ห้องอาหารสุดหรูของโรงแรม 5 ดาว ใจกลางเมืองกรุง
นักดนตรีบนเวทีสองคนตั้งอกตั้งใจบรรเลงเสียงเพลงผ่านเปียนโนและไวโอลินอย่างสุดฝีมือ ท่วงทำนองหวานหูสบายอารมณ์ถูกบรรจงขับกล่อมออกมาให้บรรดาเศรษฐีผู้มีอันจะกินที่มาเป็นแขกใช้บริการและรับประทานอาหารในห้องอาหารแห่งนี้ได้รับฟัง ที่โต๊ะอาหารตัวหนึ่งบริเวณมุมสลัวแสงไฟ ซึ่งอยู่ติดกับกระจกบานใหญ่ เอกนั่งอยู่ในชุดสูทสากลสีดำแลดูทะมัดทะแมง เขาเหลือบมองดูเข็มนาฬิกาข้อมือที่ชี้ตรงไปที่เลข 12 อันบ่งบอกถึงเวลาเที่ยงคืนพอดี แม้ว่าด้านอกกระจกจะมองเห็นภาพวิวทิวทัศน์ของแสงไฟยามค่ำคืนจากหลอดนีออนในตัวเมืองอันสวยงามแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าสาวสวยเบื้องหน้านั้นสวยงามกว่าภาพวิวใด ๆ
“สุขสันต์วันเกิดครับฝ้าย” เขาพูดพร้อมกับยกแก้วไวน์ราคาแพงระยับที่สะท้อนแสงไฟจนเป็นประกายวาววับขึ้นไปทางคู่ควงที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ขอบคุณค่ะ” ฝ้ายยกแก้วไวน์ขึ้นมาชนตอบ ใบหน้าสวยยิ้มหวานชื่นอย่างมีความสุขภายใต้แสงเทียนที่สาดส่องพอสลัว ๆ แก้มขาวผ่องแดงระเรื่อ เธอรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอร์จากไวน์ราคาแพง
ตอนนี้พยาบาลสาวคนสวยสลัดชุดพยาบาลมาสวมใส่ชุดราตรีแบบเปิดไหล่สีขาวสะอาดซึ่งทำให้ยิ่งขับสีผิวขาวนวลเนียนที่ขาวผ่องอยู่แล้วให้แลดูขาวใสจนเจิดจ้ามากยิ่งขึ้น ความขาวผ่องของลำคอและหัวไหล่กลมกลึงของเธอสะท้อนแสงไฟราวกับจะเป็นประกายอยู่ในความมืดสลัวนี้
เนื้อผ้าบางเบาทำหน้าที่ปกปิดหน้าอกอวบใหญ่อย่างหมิ่นเหม่ หากเพียงกระตุกผ้าเส้นเล็ก ๆ ที่ทำหน้ายึดตัวเสื้อไว้กับต้นคอเบา ๆ มันก็จะหลุดลุ่ยเปิดโชว์ความอุดมสมบูณณ์ชองเนินเนื้อหน้าอกกลมกลึงสวยได้รูป ออกมาโดยง่าย เนื้อผ้ากระชับแนบรัดรึงกับสัดส่วนอวบอัดแบบแนบชิดเนื้อสาว ทำเอาเอกและหนุ่ม ๆ น้อยใหญ่รอบข้างต้องแอบเผลอมองและจินตนาการถึงสัดส่วนเรือนกายแสนยั่วยวนของสาวสวยคนนี้
ริมฝีปากบางถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงสดของลิปสติคเนื้อเนียน ผมสีดำขลับเนียนนุ่มโดนรวบปัดมาอยู่ที่ด้านข้าง เพื่อโอ้อวดแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่ไร้รอยสิวฝ้าให้คนรอบข้างได้ยลโฉมอย่างยั่วยวน เอกพยายามมองสังเกตก็ไม่เห็นมีสายรัดของยกทรงปรากฎออกมาจึงแอบเดาว่าวันนี้
พยาบาลสาวสวยแสนใจดีของเขานั้นโนบรา และก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ ฝ้ายรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอเพิ่งจะได้ลองใส่เสื้อตัวนี้เป็นครั้งแรก
หลังจากที่ฝนเพื่อนรักของเธอซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้เมื่อปีที่แล้ว ฝนกำชับเธอว่าหากจะใส่ชุดนี้จะต้องไม่ใส่ยกทรงจะได้ดูสวยและเซ็กส์ซี่ด้วยความอยากลอง และอยากเอาใจแฟนหนุ่มเธอจึงลองทำตามคำแนะนำของเพื่อนรักคนนี้ดู และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เพื่อนเธอพูดเป็นความจริง เพราะเธอกำลังตกเป็นสายตาหื่นกระหายอยากจากรอบทิศ โดยเฉพาะบริกรหนุ่มที่คอยยืนให้บริการอยู่ข้าง ๆ เธอ เขาแทบจะไม่ยอมเดินออกไปห่างจากเธอซักเท่าไหร่นัก
เธอรู้สึกได้ว่าสายตาอันแสนซุกซนตามประสาวัยรุ่นของบริกรหนุ่มนั้นพยายามสอดส่ายมองสำรวจปราดเข้าไปในทรวดทรงองค์เอวของเธอแทบจะตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกันก็อดรู้สึกภูมิใจตัวเองไม่ได้ ที่แฟนหนุ่มที่นั่งอยู่เบื้องหน้าก็กำลังมองดูเธอด้วยสายตาแบบเดียวกัน
วันนี้เธอรู้สึกมีความสุขมากมายเหลือเกิน ที่ได้อยู่ร่วมกันกับชายหนุ่มที่เธอหลงรัก แม้ว่าเขาอาจจะมีเจ้าของจับจองหัวใจอยู่แล้วก็ตาม แต่คืนนี้เขาคนนี้จะเป็นของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เธอพยายามคิดปลอบใจตัวเอง หากแต่สาวสวยก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงหึงหวงที่เกิดขึ้นภายในใจ เธอรู้สึกอิจฉาคุณหนูคนสวยคู่รักตัวจริงของเอกขึ้นมาจับใจ ก็ผู้หญิงคนไหนบ้างล่ะที่ไม่อยากให้ผู้ชายที่ตนหลงรักมีแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
เธอยกแก้วไวน์ขึ้นลิ้มชิมรสชาติอันละเมียดละไมก่อนที่จะกระดกเข้าไปลำคอแบบอึกเดียวหมดเพื่อดับความว้าวุ่นในใจ เธอรู้สึกร้อนวาบเป็นทางยาวลงไปในลำคอทันทีที่กลืนไวน์ลงไป และเมื่อวางแก้วลงบริกรก็รีบกุลีกุจอเดินเข้ามาจัดแจงรินไวน์รสชาติดีใส่กลับเข้าไปใหม่อย่างรวดเร็ว นี่เป็นแก้วที่ 8 ของเธอแล้วในค่ำคืนนี้
“ไม่นึกว่าฝ้ายจะชอบดื่มไวน์แบบนี้นะ ไม่งั้นจะได้พามาบ่อย ๆ” เอกมองหน้าฝ้ายทำตากรุ้มกริ่ม เขาแปลกใจเล็ก ๆ ไม่นึกว่าฝ้ายนิยมชมชอบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์แบบนี้ด้วย และที่สำคัญวันนี้เธอคนนี้ดูร้อนแรงผิดปกติ
“นี่ฝ้ายก็เพิ่งจะลองดูเป็นครั้งแรกน่ะค่ะ รสชาติดีจัง พี่เอกคงต้องพาฝ้ายมาทานบ่อย ๆ แล้วล่ะ… นี่ไวน์อะไรคะ” ฝ้ายตอบพลางนึกอยากจะยั่วแฟนหนุ่มให้รู้สึกหึงหวงเธอบ้าง เธอจึงยกแก้วไวน์ด้วยท่วงท่ายั่วยวนแล้วหันไปถามบริการหนุ่มพร้อมกับแสร้งทำตาหวานเยิ้มใส่เขาต่อหน้า
“อะ เอ่ออ อะ อันนี้คือ ชาโตว์ไวน์ ปี 80 ครับ” บริกรหนุ่มตอบเสียงตะกุกตะกัก เขารู้สึกประหม่าเมื่อต้องสบตากับดวงตาหวานเยิ้มของสาวสวยสุดเซ็กส์ซี่คนนี้ ด้วยตำแหน่งที่เขายืนอยู่ซึ่งอยู่ในมุมสูงทำให้สามารถมองลอดเนื้อผ้าเข้าไปเห็นร่องอกขาวเนียน และเขาก็แอบเห็นหัวนมสีชมพูสวยแว้บ ๆ ด้วย กลิ่นหอม ๆ แสนยั่วยวนที่โชยมาจาง ๆ จากเรือนกายของหญิงสาวทำเอาเค้ารู้สึกเหมือนจะยืนไม่ติดพื้น ความกำหนัดเพิ่มขึ้น
อย่างรุนแรง จนรู้สึกปวดหนึบ ๆ ที่กลางเป้ากางเกง เขารู้สึกอิจฉาผู้ชายที่มาด้วยกันกับสาวสวยคนนี้ขึ้นมาจับใจ
“… งั้นขออีกแก้วนะคะ เต็มแก้วเลยก็ได้” ฝ้ายยกไวน์แก้วที่ 9 กระดกอึก ๆ เข้าไปรวดเดียวหมด ก่อนที่จะแกล้งแลบลิ้นเลียไปรอบปากอย่างยั่วยวนกิเลสเพศตรงข้าม พลางส่งยื่นแก้วไวน์ให้บริกรหนุ่ม
“คะ ครับ” บริกรหนุ่มมือไม้สั่นระริก เขาแอบคิดจินตนาการถึงบทรักกับริมฝีปากบางสวยนั้นไปซะไกลแล้ว
“อะแฮ่ม … เก่งกับปู น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วมั้ง” เอกแกล้งกระแอมพูดถึงเพื่อนใหม่ทั้งสองคนที่เพิ่งจะแยกตัวออกมา จนบริกรหนุ่มสะดุ้งตกใจจนต้องก้าวถอยออกมาห่างจากสาวสวยทรงเสน่ห์ เขารู้สึกว่าบริกรหนุ่มคนนี้เริ่มจะละลาบละล้วงมากเกินไปแล้ว ความรู้สึกหึงหวงบังเกิดขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้จะรู้ดีว่าสาวสวยแค่ต้องการแกล้งยั่วอารมณ์เค้าก็ตาม สายตายังคงจับจ้องที่หญิงสาวเบื้องหน้าอย่างมีความหมาย เขาเพ่ง
มองดวงตาอันฉ่ำเยิ้มของเธอ ใบหน้าขาวผ่องของเธอแดงระเรื่อ ลมหายใจถี่แรง จนทรวงอกขาว ๆ สั่นไหวเด้งสะท้านขึ้นลงเป็นระลอก ๆ ช่างดูดีมีเสน่ห์ไม่น้อย
“น่าจะไม่มีอะไรแล้วล่ะคะ ไว้ยังไงฝ้ายก็ไปตรวจเป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว จนกว่าพวกเค้าจะออกจากโรงพยาบาล” ฝ้ายยิ้มอย่างพอใจที่ทำให้แฟนหนุ่มรู้สึกหึงหวงได้สำเร็จ เธอหัวเราะคิกคักออกมาเบา ๆ พยายามตอบด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ก็อดสั่นสะท้านไปกับสายตาคมกริบของแฟนหนุ่มคนนี้ไม่ได้ เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงของไฟอารมณ์แห่งตัณหาที่กำลังเผาผลาญอยู่ภายในใจของเขาและเธอได้อย่างชัดเจน
“อืมม งั้นอยากจะสั่งอะไรเพิ่มอีกมั้ยล่ะ อาหารหมดแล้ว” เอกถามต่อ
“… อืมม อิ่มแล้วค่ะ ตอนนี้ฝ้ายอยากกินอย่างอื่นมากกว่า ….” ฝ้ายตอบพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนกิเลส … ที่ใต้โต๊ะเธอถอดรองเท้าส้นสูงออก แล้วยกฝ่าเท้าไปแปะป่ายที่เป้ากางเกงของเอกพร้อมกับขยับบดขยี้ลูบไล้สัมผัสท่อนเนื้อร้อนผ่าวนั้นไปมาเบา ๆ อารมณ์และความต้องการที่คุกรุ่นอยู่ภายใน ทำให้เธอกล้าทำแม้แต่สิ่งที่เธอยังไม่เคยคิดมาก่อน ถึงแม้ว่าจะมีผ้าคลุมโต๊ะยาวลงไปถึงพื้นปิดบังอยู่ แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีใครแอบเห็นการกระทำของเธอเข้าได้ แต่เหมือนว่าตอนนี้เธอจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอสนใจที่จะสนองอารมณ์ร้อนของเธอเท่านั้น
“อุ อืมมม” เอกถึงกับเผลอครางเสียงกระเส่าออกมาเบา ๆ แต่ต้องเก็บอาการไว้เพราะว่าบริกรหนุ่มหันมามองเขาอย่างผิดสังเกต ใครจะคิดว่าสาวสวยที่ดูหวานใสคนนี้ จะกล้าทำแบบนี้ได้ ฝ่าเท้าเนียนนุ่มของเธอบรรจงนวดอย่างยั่วยวนจนเจ้าท่อนเนื้อที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตื่นตัวขึ้นมาจนคับแน่นกางเกงภายในเวลาไม่นานนัก ดูท่าทางฝ้ายจะพอใจไม่น้อยกับปฎิกิริยาตอบรับจากสิ่งที่เธอใฝ่หา
“งั้นก็เก็บเงินเลยครับน้อง พี่จะรีบพาสาวสวยร้อนแรงคนนี้ไปหาอะไรที่มันเต็มปากเต็มคำให้เธอลองชิมซักหน่อย” เอกช่วยแกล้งพูดยั่วบริกรหนุ่มอีกแรง คำพูดสองแง่สามง่าม ยิ่งช่วยจุดประกายความอยากของฝ้ายให้คุโชนมากยิ่งขึ้นมาอีก เธอบดฝ่าเท้าวนไปมาที่เป้ากางเกงเร็วและรุนแรงขึ้นด้วยความกำหนัดในใจ สัมผัสของท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่แข็งตัวสู้แรงกดจากฝ่าเท้าช่างถูกใจเธออย่างล้นเหลือ บริกรหนุ่มรีบเดินจ้ำอ้าวไป
ที่แคชเชียร์เพื่อให้เก็บเงินโต๊ะลูกค้าสาวสวย ส่วนตัวเขาเองนั้นก็รีบเดินไปทางห้องน้ำ เพื่อไปปลดปล่อยอารมณ์ร้อนที่อัดแน่นจนเต็มเป้ากางเกง
…………………………………………………………..
เอกเดินพยุงร่างพยาบาลสาวสวยที่กลายสภาพเป็นสาวร่านสวาทเดินเข้าห้องสูทสุดหรูอย่างเร่งรีบ สัมผัสเนื้อสาวอันนุ่มนิ่ม และกลิ่นกายหอมหวานของเธอทำเอาเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยากจะลองรักกับเธอตั้งแต่ตอนอยู่ในลิฟท์เลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่แน่ว่าหากไม่มีคนอื่นอยู่ในลิฟต์ด้วยเขาก็อาจจะทำไปแล้ว และเขาก็แน่ใจว่าหญิงสาวเองก็อยู่ในอารมณ์อยากแบบเดียวกัน
เพียงแค่ประตูห้องถูกปิดเท่านั้นล่ะ เธอก็โผเข้ากอดชายหนุ่มเหมือนอีตัวร่านสวาททันที เธอผลักร่างของเอกไปติดกับผนัง พร้อมกับขยับบดริมฝีปากเข้าไปแลกลิ้นกับเอกอย่างเร่าร้อน ลมหายใจอุ่น ๆ ของเธอส่งกลิ่นไวน์ที่เพิ่งจะดื่มไปในปริมาณมากออกมา ลิ้นนุ่ม ๆ ของเธอส่งผ่านรสชาติไวน์ที่หลงเหลืออยู่ให้กับเอกอย่างหอมหวาน สองแขนของเธอกระหวัดรัดรอบคอของเอกอย่างแนบแน่นเหมือนไม่ต้องการที่จะแยกจากกันแม้แต่วินาทีเดียว
เอกที่อารมณ์คุกรุ่นอยู่ก่อนหน้านี้แล้วก็ตอบสนองอารมณ์ร้อนรักด้วยความร้อนแรงที่ไม่แพ้กัน เขาระรัวกวาดลิ้นสาก ๆ เข้าตวัดพัวพันลิ้นอันนุ่มชื้นและหอมหวานของสาวสวยอย่างไม่ยอมแพ้ ลิ้นต่อลิ้นพัวพันกัน เสียงดูดปากส่งเสียงดังจ๊วบ ๆ ไม่หยุด สองมือของเขาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเปลือยขาวเนียนนั้นอย่างพอใจ เขาปลดดึงปมผ้าที่ผูกรัดอยู่ที่บริเวณต้นคอขาวผ่องออกอย่างตื่นเต้น เนื้อผ้าบาง ๆ ไหลหลุดลุ่ยจากร่างกายตามแรงโน้มถ่วงของโลก มือหยาบใหญ่ลูบไล้ลงไปจับหมับแล้วออกแรงบีบแรง ๆ ที่เนื้อสะโพกอวบกลมเต่งตึงแน่นมือ
“อืมมมมมม อือออ” ฝ้ายร้องครวญครางรับความกระสันที่ได้รับ เธอรู้สึกพอใจกับความร้อนแรงของแฟนหนุ่มและสัมผัสของมือหยาบใหญ่ที่แปะป่ายสำรวจไปทั่วตัวเธอมากเหลือเกิน แค่เริ่มต้นเธอก็แทบจะหลอมละลายไปกับลีลารักของแฟนหนุ่มคนนี้ซะแล้ว
“อุ๊ย อืมมม พี่เอก อาาา” เธอร้องครางกระเส่า เมื่อเขาถอนปากออกมา แล้วบรรจงจูบพรมไปทั่วใบหน้าหวานของเธอ จมูกคมสันและลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาราดรดไปทั่วพวงแก้ม ปลายคาง และลำคอจนเธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว เธอได้แต่เอียงคอเอียงแก้มรับสัมผัสวาบหวามร้อนแรงที่เค้าประเคนให้อย่างถึงใจในอารมณ์ โดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวชุดราตรีสีขาวสะอาดของเธอก็ร่วงผลอยลงไปกองกับพื้นอย่างรวดเร็วด้วยลีลารักอันช่ำชองของแฟนหนุ่ม
เขาเพ่งมองหน้าอกขาวอวบกลมกลึงที่บดเบียดซุกตัวกันแนบชิดจนเห็นเป็นร่องเนื้ออันแสนขาวเนียน ฝ้ายพอใจกับสายตาหื่นกระหายของเอกที่มองดูเธออยู่ เธอเอื้อมมือไปถอดเอาชุดสูทหรูของเขาออกไป เอกช่วยขยับตัวนิดหน่อยจนเสื้อสูทสีดำนั้นหล่นตุบลงไปทับชุดราตรีสีขาวของเธอ สาวสวยเร่งมือช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของชายหนุ่มออกทีละเม็ด ๆ ในขณะที่เขาก็ปลดตะขอกางเกงตัวเองออก แล้วรูดกางเกงขายาวสีดำลงไปกองกับพื้นห้อง
เธอจับสาบเสื้อเชิ้ตของเขาแยกออกจากกันแล้วพยายามถอดมันออกไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มในร่างเปลือยยืนอวดแผงหน้าอกกำยำแข็งแรงสีแทนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มันยิ่งทำให้อารมณ์หญิงสาวที่คุกรุ่นอยู่แล้วให้คุกรุ่นมากยิ่งขึ้นไปอีก หญิงใดเล่าไม่ปราถนาได้ชายที่ดูแข็งแรง มันเป็นเหมือนกับเสน่ห์อย่างหนึ่งของชายหนุ่มที่หญิงสาวปราถนาอยากจะซุกไซร้สัมผัส เธอมองลงไปด้านล่างเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องแลดูสมบูรณ์แข็งแรงมันมีไรขนอ่อน ๆ ขึ้นอยู่ที่หน้าท้องนั้นด้วย เธอมองปราดลงไปที่ด้านล่างอีก ก็เห็นเป้ากางเกงในที่โดนดันออกมาจนนูนเป็นโคกอวบใหญ่
ชายหนุ่มยืนมองร่างบอบบางของหญิงสาวที่ตอนนี้เหลือเพียงกางเกงในสีขาวปกปิดร่างกายอยุ่อย่างพอใจ เค้าดันร่างเธอไปติดกับกำแพงอีกด้าน แล้วก้มหน้าลงไปใช้ลิ้นสวาทลากเลียที่ร่องอกขาวผ่องของฝ้ายอย่างหิวกระหาย พร้อมกับใช้สองมือหยาบบีบขย้ำเคล้นคลึงสองเต้าอวบหยุ่นมือด้วยความกระสันร่าน เนื้อขาว ๆ พอโดนแรงกดบีบหนัก ๆ ลงไปก็เด้งสู้ขึ้นมาคืนรูปเดิมทันที คงไว้เพียงแต่รอยนิ้วมือสีแดงจ้ำ ๆ บนนั้น
“อืมมม อูวววว พี่เอก ซี้ดดสสส” ฝ้ายบิดตัวไหวไปมาอย่างร้อนร่านเหมือนจะขาดใจ สองมือของเธอจิกที่ผมของแฟนหนุ่มพร้อมกับออกแรงกดเข้าหาอกอวบของตนเองอย่างแรง
“อุ๊ยยย โอววว พี่เอก อุยยยย” ฝ้ายบิดตัวแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน เธอเปิดทางให้เอกก้มหน้าก้มตาลงไปดูดงับที่ปลายหัวนมสีสวยนั้นอย่างระเริงใจสัมผัสอุ่นชื้นจากปลายลิ้นสาก ๆ นั้น ทำเอาเธอสั่นระริก ๆ ไปทั้งตัว เขาก้มหน้าก้มตาออกแรงดูดดุนหัวนมจนเกิดเสียงดัง จ๊วบ จ๊วบ ไม่หยุด ในขณะที่สองมือหยาบก็ออกแรงเคล้นคลึงสองเต้าอวบแบบไม่ยอมหยุดมือ หัวนมสวยอีกข้างที่ว่างเว้นจากการโดนดูด ก็โดนชายหนุ่มใช้นิ้วเขี่ยบดไปมา บางครั้งก็ออกแรงหนีบและดึงเบา ๆ จนมันแข็งชูชันขึ้นมาเป็นเม็ด ความเสียวซ่านร้อนแรงแทบขาดใจประดังเข้าใส่ร่องบอบบางของหญิงสาวจนเธอแทบจะขาดใจตายเสียให้ได้
“พี่เอก อูยยย อาาาา ซี้ดสสสส” สาวสวยร้องครวญครางเสียงกระเส่า เธอแหงนหน้าเริ่ด แอ่นอกอวบรับสัมผัสของลิ้นสวาทที่ดูดดุนไม่ยอมหยุดลีลาโลมเลียเลียและการบีบเคล้นแบบเน้น ๆ ทำเอาใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเหยเก คิ้วเรียวงามขมวดกิ่วจนหมดสวย เธอเอื้อมมือลงไปด้านล่างรูดเอากางเกงในของชายหนุ่มลงไปนิดหน่อย แล้วคว้าหมับที่ท่อนเอ็นอวบใหญ่อันร้อนผ่าว ความแข็งเกร็งของท่อนเนื้อ และขนาดที่กำด้วยมือไม่รอบยิ่งปลุกเร้าสร้างความกระหายอยากในใจของพยาบาลสาวคนสวยให้มากยิ่งขึ้น ตอนนี้เธอกระสันอยากได้แท่งเนื้อแท่งนี้เพื่อดับความร้อนรุ่มราวไฟแผดเผาที่อยู่ตรงหว่างขาซะเหลือเกิน
“อะ อือออ พี่เอก อย่าแกล้งฝ้าย อุ๊ยยย ซี้ดดสสส” สาวสวยสะดุ้งตัวบิดไหวไปมา เมื่อมือหยาบใหญ่ล้วงลงไปลูบไล้ไปมาที่บริเวณขาอ่อนด้านในปลายนิ้วพริ้วไหวแกล้งลากเลื้อยจากเรียวขาอ่อนข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งสะกิดผ่านโหนกเนื้ออันแสนร้อนรุ่มไปมาอย่างตั้งใจ สาวสวยพยายามแอ่นโหนกนูนเข้ารับฝ่ามือนั้น แต่ชายหนุ่มก็ใจร้ายแกล้งดึงถอยมือออกมา สาวสวยรู้สึกขัดใจด้วยอารมณ์กระสันร่านรุนแรง เธอทนไม่ได้จนต้องคว้ามือไปพยายามจับข้อมือของชายหนุ่มแล้วพยายามดึงเข้ามาที่กลางเป้ากางเกงในอันแสนเปียกชื้นอย่างไร้ความเคอะเขิน
“อืออ อุ๊ย อืมมมม” ร่างเปลือยขาวผ่องสะดุ้งโหยงเบา ๆ เมื่ออยู่ดี ๆ ชายหนุ่มก็ขยับมือเข้าไปคว้าหมับที่เนินสวรรค์แบบเต็ม ๆ มือ อย่างที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ปลายนิ้วมืออันพลิ้วไหวออกแรงกดบดคลึงใส่เนื้อโหนกนูนนุ่มนิ่มที่อยู่ในกางเกงในผ้าบาง ๆ นั้นอย่างรวดเร็ว สัมผัสสะท้านที่ติ่งเสียวทำเอาสาวสวยบิดตัวเกร็ง ใบหน้าหวานแดงซ่านด้วยอารมณ์กระสันอันแสนหนักหน่วง เธอส่ายร่อนบดโหนกเนื้อเข้าหานิ้วมือของแฟนหนุ่ม พร้อมกับออกแรงจับข้อมือของชายหนุ่มเข้าหาโหนกเนื้ออย่างเงี่ยนร่าน มืออีกข้างก็จิกกำศรีษะของเขาแล้วกดเข้าหาอกอวบพร้อมกัน
“อะ อืมม ซี้ดสสส … อูยยย” ฝ้ายร้องครวญครางเสียงสะท้านไม่ขาดปาก เมื่อชายหนุ่มป้อนปรนเปรอความเสียวให้แบบไม่หยุดพัก ความเสียวที่โดนปรนเปรอจากบนและล่างไปพร้อม ๆ กัน ทำเอาเธอแทบจะเห็นสวรรค์อยู่รำไรเบื้องหน้าแล้ว ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเหยเก ริมฝีปากสีแดงสดขบกัดบดไปมาดูเร้าอารมณ์ยิ่งนัก
“ซี้ดสสส … พี่เอก … ฝ้ายเสียว … มะ ไม่ไหวแล้ว อะ อ๊าาาา” ไม่นานนักสาวสาวยก็กรีดร้องออกมาเต็มเสียง อารมณ์เสียวของเธอพุ่งทะยานจนถึงขีดสุด ร่างเล็ก ๆ บิดส่ายกระตุกดิ้นรนไปมาอย่างรุนแรง มือออกแรงกดมือของเอกเข้าหาโหนกนูนตัวเองแบบสุดแรง โพรงมดลูกทำหน้าที่คัดหลั่งเอาน้ำแห่งความสุขหลั่งไหลออกมาจนกางเกงในเปียกชุ่ม วินาทีแห่งความสุขนี้เหมือนตัวเธอกำลังลอยละล่องอยู่ที่ไหนซักแห่งที่ไม่ใช่โลกมนุษย์ ความเสียวซ่านฟุ้งกระจายไปทั่วร่างเกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
“วันนี้ฝ้ายเซ็กส์ซี่มากเลยรู้มั้ย” เอกพูดพร้อมกับจ้องมองกิริยาอาการร้อนสวาทของฝ้ายแบบตาไม่กระพริบ หญิงสาวยืนหลังพิงผนังห้องอย่างอ่อนระโหยโรยแรง ริมฝีปากสีแดงสดอ้าเผยอออกหอบเสียงกระเส่า ดวงตาหวานหยดเยิ้มด้วยแรงกำหนัดที่กำลังพลุ่งพล่าน เลือดสาวสูบฉีดพล่านไปทั่วร่างด้วยแรงกระสันเสียวจนเนื้อขาว ๆ นั้นแดงซ่าน เขายืนจ้องมองภาพอันแสนวาบหวามอยู่ครู่ใหญ่ ก็เดินเข้าไปหาร่างเปลือยอันแสนอวบอัดนั้นอีกครั้ง ฝ้ายเองก็ยิ้มตอบรับอย่างร้อนร่าน เธอรู้ดีว่านี่เป็นเพียงแค่บทเปิดตัวของค่ำคืนอันแสนร้อนแรงของเขาและเธอเท่านั้น
……………………………………………………………………..