4387-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-4
ก๊อกๆ…….ก๊อกๆ……เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง ปรัชญาละสายตาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมองที่ช่องกระจกของประตูห้อง คุณวรรภัทรยืนรออยู่ที่หน้าประตูนั้น ปรัชญาลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูให้ เธอมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นมีใครจึงแทรกตัวเบียดตัวปรัชญาเข้าไปในห้อง สีหน้าพี่อ๊อดไม่สู้ดีนักเธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆอย่างตกประหม่า “อะ….เอก….มี….มี คนรู้เรื่องของเราเมื่อเช้าแล้ว…” ปรัชญาจึงยิ้มออกมาอย่างปลอบประโลมดึงตัวพี่อ๊อดให้หลบมาที่ด้านข้างของประตูเพื่อให้พ้นจากช่องกระจกแล้วสวมกอดพี่อ๊อดไว้อย่างแผ่วเบาทะนุถนอม “อืมมมม เหรอครับ ใครเป็นคนบอกพี่อ๊อดล่ะ พี่วาเหรอครับ??” พี่อ๊อดที่ซุกหน้าอยู่กับแผ่นอกของเอกเงยหน้าขึ้นวูบกล่าวด้วยสีหน้ามึนงง “เอะ…เอก รู้ได้ไงคะว่าเป็นพี่วาบอกอ๊อด เอ๊ะ…หรือว่า…” เอกพยักหน้าตอบพร้อมทั้งอมยิ้ม “ครับ ผมเจอพี่วาและคุยกันแล้วเมื่อตอนบ่ายนี้เอง….แต่ว่า…” ยังไม่ทันจบประโยคเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะก็ดังขึ้น เอกจึงผละจากพี่อ๊อดมารับสาย “สวัสดีครับผมปรัชญาพูดครับ…….อ๋อครับพี่วา….ครับพี่อ๊อดอยู่กับผมครับ…..ครับ…อืมมมม…ครับได้ครับแล้วผมจะบอกให้ครับ…” แล้วปรัชญาก็วางหูโทรศัพท์ลงหันมากล่าวกับพี่อ๊อด “พี่อ๊อดครับ พี่วาโทรมาตามหาแน่ะ บอกว่าถ้าว่างให้ขึ้นไปพบที่ห้องด้วยน่ะครับ” พี่อ๊อดหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดถามเสียงแผ่ว “แล้ว…แล้วพี่วาบอกมั้ยว่าให้ไปหาด้วยเรื่องอะไร…” เอกสั่นศรีษะตอบตามจริง “เอ…ไม่เห็นบอกนะครับ ไม่ต้องตกใจน่า ผมว่าคงไม่มีอะไรหรอก พี่อ๊อดลองนึกดูดีๆซิครับว่างานอะไรที่ต้องทำร่วมกันกับพี่วามั่งมั้ย เพื่อพี่แกจะตามเรื่องงานก็อาจเป็นได้ พี่อ๊อดทำใจให้สบายเถอะครับ” พ่อ๊อดพยักหน้ารับอย่างเซื่องซึมเดินมาที่ประตูแล้วเปิดประตูออกแต่เมื่อเธอจะเดินออกจากห้องก็ต้องร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเอกลักไก้จับก้นเธอบีบเล่นทีหนึ่ง “อ๊าวววว…บ้า เอกนี่เดี๋ยวใครเห็นเข้าหรอก มาจับก้นพี่ได้ไง นี่แน่ะ..” เสียงเพียะเบาดังขึ้นตามมาเอกถูกพี่อ๊อดตีที่มือมารข้างนั้นอย่างเชิงตำหนิ เอกกลับยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว “โธ่….พี่อ๊อดเกีาะ…..ทีเมื่อเช้าผมจับยิ่งกว่านี้พี่ยังไม่เห็นว่าเลยอ้ะ แต่….สงสัยต้องหาโอกาสลองจับใหม่ซะละมั้ง เพราะเมื่อเช้าผมยังจับไม่ทั่วตัวเลยนี่ อารามรีบร้อนมากไปหน่อย…โอ๊ะ!!….โอ๊ยยยย…..:ซี้ดด…เจ็บครับ…เจ็บ…ไม่กล้าแล้วคร้าบบบ” การต่อปากต่อคำต้องสิ้นสุดลงกระทันหันเมื่อพี่อ๊อดหยิกดึงติ่งหูของเอกอย่างแรงและค้อนส่งให้อีกทีหนึ่งก่อนจะหันหลังเดินออกไป เจ้าช่างหนุ่มก็ยังไม่วายจะกระเซ้าส่งท้าย “ค้อนดีนักนะ ระวังจะโดนตะปูหกนิ้วครึ่งอีกนะพี่อ๊อด” คนถูกแซวหันกลับมาพร้อมยกมะเหงกให้เป็นคำตอบ แล้วเดินจากไป
ก่อนเลิกงานประมาณเกือบชั่วโมง ปรัชญาถูกโทรตามอีกครั้งจากเจ้านายของตัวเองให้เข้าประชุม เป็นเรื่องที่ปรัชญาต้องรับผิดชอบโดยตรง นั่นคือทางบริษัทแม่ที่เมืองนอก มีนโยบายให้ติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิด หรือระบบ CCTV ในออฟฟิศเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งปรัชญาต้องไปศึกษาแบบและรายละเอียดอุปกรณ์ที่จะถูกส่งเข้ามาโดยบริษัทแม่ที่ต่างประเทศเป็นผู้สั่งซื้อและกำหนดอุปกรณ์มาให้เรียบร้อยแล้ว ปรัชญาต้องเป็นผู้กำหนดจุดติดตั้งอันเหมาะสมและควรจะเป็นเอง แล้วส่งเรื่องให้เจ้านายตัดสินใจอีกทีหนึ่ง ซึ่งแน่นอน การวางแผนบนแผ่นกระดาษไม่ได้ช่วยให้เกิดความคิดที่ดีหรือถูกต้องเหมาะสมใดๆทั้งสิ้น เขาต้องออกตรวจพื้นที่จริงประกอบกับในแบบแปลนด้วย อาาาา…เกือบหกโมงเย็นแล้ววันนี้ก็ต้องทำโอทีซินะเนี่ย…เมื่อจัดเตรียมแบบแปลนเรียบร้อยโดยสั่งปริ้นท์ใหม่ให้เหลือแค่ขนาด A4 เพื่อสะดวกต่อการพกพา ขณะที่จะออกจากห้องทำงาน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อปรัชญายกหูรับสายจึงทราบว่าผู้โทรมาคือคุณวรรณภัทร “เอกวันนี้กลับกี่โมงคะ” เอกก็ตอบไป “ยังไม่รู้เลยครับพี่ พอดีมีงานที่ต้องทำต่อน่ะครับ อาจจะดึกหน่อย มีไรหรือเปล่าครับ??” เสียงพี่อ๊อดถอนใจดังมา “เฮ้อ…โล่งอก ยังไงๆเอกเดินผ่านห้องพี่อ๊อดบ่อยๆหน่อยก็ดีนะคะ วันนี้พี่อ๊อดกคงต้องกลับดึกเหมือนกัน ต้องเตรียมทำเรื่องรายงานส่งให้ต่างประเทศน่ะ…..พี่อ๊อดต้องอยู่คนเดียว….”เอกหัวเราะตามสายมาอย่างรู้ทัน “วะหะห้า….อย่าบอกนะครับว่าพี่อ๊อดกลัวผี..”สำเนียงในตอนท้ายเอกเน้นหางเสียงให้ฟังดูน่ากลัวซึ่งก็ได้ผล “บ้า…บ้าๆๆๆ….อีตาบ้านี่มาหลอกเค้า…..ยิ่งกลัวๆอยู่ด้วย…ไม่เอาแล้วไม่คุยด้วยแล้ว…” เอกรีบงอนง้อทันที “โอ๋…โอ๋….เต่เต๊…..ไม่งอนนะๆเดี๋ยวให้อมช็อกกะจุ๊บทีนึง…..เอาเป็นว่าผมจะไปอยู่เป็นเพื่อนพี่อ๊อดเป็นพักๆก็ละกัน โอเคมั้ยครับ??” เสียงพี่อ๊อดมีแววค้อนนิดๆตอบมา “บ้าช็อกกะจุ๊บเธอน่ะชั้นไม่อมหรอกย่ะอันตั้งขนาดนั้น อมแล้วเมื่อยปากแย่….อยากจะมาอยู่เป็นเพื่อนก็มาตามใจเธอเถอะย่ะ……กริ๊ก…”แล้ววรรณภัทรก็วางหูไปในทันที ปรัชญาจึงเริ่มงานของตัวเองในทันทีเหมือนกัน
สองวันต่อมา ปรัชญาค่อนข้างหงุดหงิดงุ่นง่าน เนื่องจากไม่ได้เสพสังวาสกับทั้งสองสาวเลย คุณวรุณีย์ต้องไปประชุมกับนายข้างนอกด้วย ผลสุดท้ายก็คงแวะไปเย็ดกันที่ไหนสักแห่งแน่ๆ ส่วนคุณวรรณภัทรเธอดันมีเม็นส์ ซะนี่ ต้องรอไปเกือบอาทิตย์ จึงหันเหความสนใจไปจดจ่ออยู่กับงานสายวันนี้จะมีการส่งมอบงานการติดตั้งระบบ CCTV ซึ่งตัวควบคุมหลักติดตั้งอยู่ในห้องทำงานของปรัชญาเอง ปรัชญาพอใจเป็นอย่างมากสำหรับอุปกรณ์ที่ทางบริษัทแม่จัดส่งมาให้ ตัวกล้องเป็นแบบกล้องสีไม่ใช่ขาว-ดำ ขนาดไม่ต่างจากเม้าส์ตัวหนึ่งเท่านั้น หนำซ้ำยังทำงานแบบไร้สายอีกด้วยสะดวกต่อการโยกย้ายเปลี่ยนจุดติดตั้ง อีกทั้งยังสามารถปรับตำแหน่งกวาดกราดได้ทั้งสี่ทิศทางมีฟังค์ชั่นในการซูมภาพเข้าออกได้ด้วยเลนส์ประสิทธิภาพสูงสามารถตัดลดความจ้าของแสงได้เมื่ออยู่กลางแจ้ง อีกทั้งเพิ่มค่าความสว่างเองโดยอัตโนมัติ เมื่ออยู่ในที่มืด ผ่านมาสองวันนี้ปรัชญากำหนดจุดติดตั้งไปทั้งหมด 25 จุดจากจำนวนกล้องทั้งหมด 30 ตัว การอัดวีดีโอและการควบคุมทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด โดยการบันทึกจะทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงแล้วจึงเขียนใส่แผ่น DVD เป็นการเก็บข้อมูลขั้นสุดท้ายซึ่งทุกอย่างมีพร้อมอยู่แล้วหลักจากทดสอบทุกฟังค์ชั่นจากกล้องทุกตัวเรียบร้อยแล้ว ปรัชญาจึงเซ็นต์รับงานและทำรายงานให้เจ้านายโดยตรง แต่เมื่อจะสรุปจำนวนที่ใช้ ปรัชญายังลังเลอยู่นิดหนึ่ง แล้วก็ตัดสินในใส่ไปในรายงานว่าใช้ครบทุกยูนิต…….หลังจากเมล์ส่งรายงานเสร็จปรัชญาก็ยกหูโทรศัพท์แล้วโทรยังเบอร์ภายในเบอร์นึง รอจนมีคนรับสาย….”…..เฮ้ยต้นเหรอ??….เอกนะ เฮ้ยมีเรื่องคุยด้วยหน่อยเดี๋ยวเจอกันที่ Coffee Corner ชั้น บนนะ….เออ ที่เดิมน่ะแหละมันเงียบดี….โอเค อีก10 นาทีเจอกัน…” วรพจน์หรือต้น iT. Manager อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับปรัชญา ทั้งสองสนิทกันราวกับว่ารู้จักกันมานานทั้งๆที่เพิ่งจะได้พบกันเมื่อสองวันที่แล้วนี้เอง แต่ด้วยความที่คุยกันถูกคอ และอยู่ในวัยเดียวกันทั้งสองจึงสนิทกันมากเป็นพิเศษแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทั้งทางลับและทางแจ้งทำให้ปรัชญารับรู้ถึงความเป็นไปในบริษัทเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งข้อควรระวัง และบุคคลพึงระวังทั้งหลาย ในที่นี้ปรัชญาก็ต้องมาสะดุดหูกับชื่อ “นันทพร” เข้าอีกครั้ง เพราะต้นเองก็เอ่ยถึงชื่อนี้ด้วย แต่เป็นในความหมายที่ว่า ยังไม่มีใครอ่านเธอออก แต่ก็มีคนพยายามที่จะเคลมเธอมาหลายคนแล้ว แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีข่าว-คาว ใดๆหลุดรอดออกมาเลย โดยรวมๆก็คือ เนื่องจากที่บริษัทนี้พนักงานโดยส่วนใหญ่เป็นพวกจบมาจากเมืองนอกซะมาก จึงติดเอาธรรมเนียมฝรั่งมาด้วยในเรื่องของฟรีเซ็กส์ จึงไม่ค่อยเป็นที่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ถ้าจะมีเรื่องมาคุยกันที่โต๊ะกาแฟถึงเรื่องที่คนนั้นฟันคนนี้ ง่ายๆก็คือใครพอใจจะไปเย็ดกับใครก็ไปถ้าพอใจทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเย็ดกันในออฟฟิศหรือนอกออฟฟิศ