4192-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-2
เมื่อวันอังคารมาถึง ในตอน 10 โมงเช้าดาวมาพบวิภาในชุดทำงานกระโปรงสั้นระดับเหนือเข่าขึ้นมาประมาณ 5 นิ้ว โชว์เรียวขาที่ขาวสวย เสื้อยืดแขนสั้นสีชมพูสวมสูทสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีเดียวกับกระโปรงสั้นทับอีกชั้นหนึ่ง ดาวตั้งใจว่าพอดูดวงเสร็จก็จะเข้าไปทำงานเลย ไม่ต้องเสียเวลากลับห้องไปเปลี่ยนชุดอีก วิภาพาดาวมาพบหมอจันที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของอำเภอที่ห่างไกลจากตัวเมืองอยู่ประมาณร้อยกว่ากม. ลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น หลังเดียวโดด ๆ อยู่เข้าไปตามถนนลูกรังอีกหลายกม. วิภาอธิบายว่าเนื่องจากการประกอบพิธีกรรมของหมอจันต้องการความเงียบสงบ ไม่ต้องการให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องมารบกวนจึงต้องมาตั้งบ้านอยู่ที่นี่
ไอ้เชิด ลูกศิษย์ก้นกุฏิของหมอจันออกมารับหน้า ไอ้เชิดเป็นคนรูปร่างอ้วนใหญ่ ตัวดำคล้ำ ผมหยิก ตาโปน หนวดเคราหรอมแหรม มือเท้าหยาบกร้าน อายุประมาณ 35 ปี เป็นคนไร้การศึกษา หมอจันเห็นหน่วยก้านน่าจะเอามาใช้งานได้จึงรับมาไว้เป็นศิษย์ ไอ้เชิดบอกว่าอาจารย์รออยู่ข้างบน ให้ขึ้นไปพบได้เลย วิภาจึงเดินนำหน้าดาวขึ้นไปชั้นบน ไอ้เชิดเคยเห็นวิภาอยู่ 2-3 ครั้งแล้ว แม้วิภาจะหน้าตาใช้ได้ก็ตาม แต่ในเมื่อมันรู้ว่ามันไม่มีสิทธิ์ได้แอ้มแน่ ๆ จึงไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไรนัก แต่ที่ไอ้เชิดสนใจก็คือ ดาว ซึ่งหมอจันได้บอกไว้แล้วล่วงหน้าว่าวิภาจะพาเหยื่อมาประกอบพิธีกรรมครอบจิตวิญญาณเหมือนคนก่อน ๆ ที่วิภาพามา
ไอ้เชิดมองมายังที่ดาวและยิ้มให้ด้วยสายตาที่ส่อแววเจ้าชู้ ดาวมองตอบด้วยสายตาที่เหยียดหยามพลางคิดอยู่ในใจ
‘ไอ้อ้วนดำเอ๊ย แกลวนลามชั้นได้แค่สายตาเท่านั้น แต่อย่ามาทำทะลึ่งกับชั้นก็แล้วกัน ไม่งั้นชั้นจะฟ้องคุณวิภาให้บอกอาจารย์เล่นงานแกแน่นอน’
ดาวคิดแล้วก็สะบัดหน้าไปทางอื่นแล้วเดินตามวิภาขึ้นไปชั้นบน คนสวยระดับดาวมหาวิทยาลัยอย่างดาวไม่เคยถ่อมตัวลงมาคบหรือชายตามองผู้ชายที่มีฐานะต่ำต้อยสกปรก ผู้ชายที่ดาวจะเดินควงด้วยต้องเป็นคนที่ดาวเดินด้วยแล้วไม่อายใคร เช่น รุ่นพี่รูปหล่อ, ลูกเศรษฐีมีรถขับหรือไม่ก็นักกีฬาประจำมหาวิทยาลัย เป็นต้น ไอ้เชิดเห็นดังนั้นก็นึกในใจว่า ‘เดี๋ยวเถอะมึง นังคนสวย หยิ่งกับกูดีนัก ถ้าอาจารย์ยกมึงให้กูเมื่อไร ขี้คร้านมึงจะต้องมาหมอบแทบเท้ากูให้เอามึงทำเมีย’
ไอ้เชิดมองตามหลังของดาวแล้วทอดสายตาลงมาที่เรียวขาสวย ยิ่งดาวนุ่งกระโปรงสั้นรัดรูปอยู่แล้วทำให้มองเห็นขอบกางเกงในและร่องก้นงามงอนจนไอ้เชิดแทบจะไม่ต้องใช้จินตนาการเท่าไรนักในการนึกภาพของดาวเวลาเปลือยเปล่า
หมอจันอายุประมาณ 60 ปี เป็นคนรูปร่างใหญ่ ผิวคล้ำ ไว้หนวดเคราหงอกขาว วันนี้หมอจันแต่งชุดขาวห่มขาวตามแบบฉบับของผู้แกร่งกล้าทางคาถาอาคมรอวิภาอยู่ชั้นบนซึ่งมีห้องอีกห้องหนึ่งเป็นห้องสำหรับทำพิธีกรรมของหมอจัน หมอจันมองดูหน้าตาของดาวก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมวิภาจึงได้หึงขึ้นหน้าและเสี่ยวิชัยจึงได้หลงอย่างไม่ลืมหูลืมตา หมอจันขอดวงของดาวมาตรวจดวงชะตาก็รู้ได้ว่าช่วงนี้ดาวกำลังดวงตก เหมาะแก่การเข้าพิธีเพื่อทำคุณไสย์สะกดจิตวิญญาณ จึงได้อธิบายให้ดาวฟังว่าช่วงนี้ดวงกำลังตกแต่จะทำพิธีสะเดาะเคราะห์ผูกดวงชะตาให้ดีขึ้นเพื่อเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ระหว่างรอหมอจันเตรียมจัดพิธีหมอจันก็ให้ดาวดื่มน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองก่อน จากนั้นก็ชวนวิภาเข้าไปในห้องเพื่อขอปรึกษาเรื่องการทำพิธีให้กับดาว
ดาวฟังแล้วก็ใจหายยิ่งโดยเฉพาะเรื่องดูดวงนี้ ผู้หญิงทั่วไปค่อนข้างให้ความเชื่อถือเป็นพิเศษอยู่แล้ว ดาวจึงหยิบขันใส่น้ำมนต์จากหมอจันมาดื่มทันทีโดยหารู้ไม่ว่าน้ำมนต์ที่หมอจันนำมาให้ดี่มนี้ผ่านการผสมว่านหลายชนิดผสมกันรวมทั้งปลุกเสกลงคาถามหาเวทย์มาแล้วด้วย
เวลาผ่านไปเพียง 2-3 นาที ดาวก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มขยับแขนขาได้ช้าลง ต่อมาก็เริ่มหนักอึ้งจนแทบจะยกไม่ขึ้นจึงได้แต่ล้มตัวจากนั่งคุกเข่าก้นลงกระแทกพื้นนั่งถ่างขาพิงผนังบ้าน มือที่ยังพอมีแรงเหลืออยู่เล็กน้อยก็สะบัดไปมาโดนกระโปรงของตัวเองทำให้กระโปรงถลกร่นขึ้นมาก่อนที่จะล้มตัวลง เห็นกางเกงในสีชมพู ลายลูกไม้อย่างชัดเจน พอล้มตัวลงนั่งดาวพยายามขยับปากเพื่อจะบอกอาการที่เกิดขึ้นก็ทำไม่ได้ มันชาไปหมด ในที่สุดอวัยวะภายนอกร่างกายของดาวทุกส่วนก็ถูกตัดขาดจากการบังคับของสมอง สั่งการอะไรไม่ได้อีกแล้ว แต่แววตาของดาวยังแสดงความตกตะลึงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในความคิดของดาวกำลังตั้งคำถามอยู่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
หมอจันเดินออกมาจากห้องคนเดียวและเห็นดาวกำลังนั่งแข็งทื่อพิงผนังบ้านอยู่ก็รู้ว่าน้ำมนต์ออกฤทธิ์แล้ว จึงได้แกล้งถามว่า
“หน้าตาสวย ๆ ทำไมมานั่งถ่างขากระโปรงเปิดอยู่อย่างนี้ ไม่รู้จักอายผีวิญญาณที่กูเลี้ยงไว้หรืออย่างไร”
ดาวได้แต่ใช้สายตามองมายังหมอจัน พยายามอ้าปากบอกว่า ตัวเองไม่สามารถขยับแขนขาอะไรได้เลย แม้แต่ปากก็ยังไม่สามารถขยับได้เลยเช่นกัน จึงได้แต่นั่งมองอย่างเดียว
หมอจันเห็นอาการดังกล่าวก็รู้ว่าฤทธิ์ของน้ำมนต์ปลุกเสกผสมว่านนานาชนิดสะกดให้ดาวนั่งนิ่งไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้จึงสั่งให้ไอ้เชิดเข้ามาหา ไอ้เชิดแสดงสีหน้ากระลิ้มกระเหลี่ยแล้วบอกว่า
“อาจารย์ครับ…ถ้าเสร็จพิธีกรรมแล้วผมขอเอามาเป็นเมียก่อนเลยนะครับ ผมเห็นนังนี่สวยเหลือเกิน ยิ่งเวลาเดินขึ้นบันไดแต่ละขั้น บั้นท้ายกระดกยักก้นเชิญชวนผมจนผมแทบจะทนเป็นผัวมันไม่ไหวแล้วครับ…อาจารย์”
“มึงนี่..ทุกงานเลยนะมึง..เอาผู้หญิงที่กูทำพิธีเป็นเมียมึงหมดเลยนะมึง เออ..ก็ได้ เสร็จพิธีเมื่อไรกูจะเรียกมึงมาเอาไปทำเมีย ถ้าไม่เห็นมึงเป็นลูกศิษย์ก้นกุติของกูแล้วล่ะก้อ มึงไม่มีทางได้ของดีอย่างนี้แน่นอน เอ้า..อุ้มนังคนสวยนี่เข้าไปในห้องเดี๋ยวนี้”
“ขอบคุณครับ…อาจารย์”
นี่แหละที่ทำให้ไอ้เชิดจึงจงรักภักดีกับหมอจัน ไม่ยอมไปไหน ไอ้เชิดอุ้มดาวเข้าไปในห้องทำพิธีกรรมทันทีโดยดาวไม่สามารถขัดขืนและได้แต่ทนฟังคำพูดอันหยาบคายลามกของหมอเฒ่ากับลูกศิษย์หื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไอ้เชิดอุ้มดาวเข้ามาในห้องและวางดาวลงกับพื้นห้องแล้วจึงเดินออกจากห้องไป หมอจันเดินตามเข้ามา วิภารออยู่ในห้องเห็นดาวหมดสภาพเช่นนี้แล้วก็กระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมาทันที วิภาพูดขึ้นว่า
“เป็นไงบ้าง อีดาว ในฐานะที่มึงบังอาจทำให้ผัวกูหลงมึงจนโงหัวไม่ขึ้น หลังจากที่พ่อหมอทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้วมึงจะกลายเป็นคนละคนชนิดที่พ่อแม่ของมึงก็ยังไม่คิดว่ามึงจะเป็นแบบนี้ไปได้ กูจะให้พ่อหมอเปลี่ยนมึงให้เป็นกะหรี่ชนิดที่อดีตหมอนวดอย่างกูยังเทียบมึงไม่ติดเลย ทำมาเป็นเรียบร้อยกับกู หนอยแน่ ไม่รู้จักกูเสียแล้ว”
แม้ร่างกายของดาวจะขยับไม่ได้แต่ประสาทสัมผัสทั้งหมดยังรับรู้ได้เหมือนเดิม เสียงของวิภาเกรี้ยวกราดผิดไปจากที่ดาวเคยได้ยินมา สีหน้าและแววตาของวิภาดุร้ายถมึงทึงต่างไปจากที่เคยเห็น เมื่อวิภากล่าวออกมาเช่นนั้น ดาวรู้สึกกลัวและอยากจะบอกความจริงว่า ดาวไม่เคยคิดอะไรกับเสี่ยชัยเลย แต่ดาวก็ได้แต่พูดอยู่ในใจไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกแล้ว
สายตาของดาวพยายามมองไปรอบ ๆ ห้องให้ได้มากที่สุด ทั่วห้องมืดสลัวมีเพียงแสงจากภายนอกห้องเล็กน้อยลอดช่องเข้าตามร่องไม้กระดาวน มองไปทางขวาก็พบว่ามีโต๊ะหมู่อยู่ชุดหนึ่ง มีรูปปั้นเทวรูปต่าง ๆ วางเรียงรายตามลำดับชั้น แต่ที่น่ากลัวก็เห็นจะเป็นหัวกะโหลกอันหนึ่งวางอยู่ข้างหน้าสุด หมอจันกำลังจุดเทียนและธูป พอปักเสร็จ ดาวจึงเห็นได้ชัดเจนขึ้นและที่เห็นก็คือ หมอจันกำลังหันไปล้วงสิ่งของออกมาจากย่ามใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างหน้ามาวางหน้าโต๊ะ สิ่งที่ดาวเห็นนั่นก็คือ แท่งควยของผู้ชายซึ่งไม่ทราบว่าทำมาจากอะไร ใหญ่ชนิดที่มือผู้หญิงทั่วไปยังกำไม่มิด ยาวประมาณ 10 นิ้วเห็นจะได้ ดาวมองด้วยสายตาที่หวาดกลัวและหวั่นไหวอยู่ในใจว่ากำลังจะเกิดอะไรที่ไม่ดีกับตัวเองแน่นอน
วิภากล่าวกับหมอจันว่า
“พ่อหมอขา หนูขออยู่ในห้องเพื่อดูพ่อหมอทำพิธีกรรมด้วยได้ไหมคะ นังเมียหลวงกับเมียเก็บสองคนก่อนหน้านี้หนูก็ไม่เคยได้เห็นเลยว่าพ่อหมอทำให้พวกมันเปลี่ยนเป็นคนละคนได้อย่างไรกัน”
หมอจันตอบว่า
“ถ้าเอ็งใจกล้าพอ กูก็จะให้มึงอยู่ดูก็ได้ ปิดโทรศัพท์มือถือของมึงด้วยล่ะ เกิดเสียงดังขึ้นมาเดี๋ยวจะเสียพิธี เอ้า..เอ็งช่วยถอดเสื้อผ้าของมันออกให้หมด กูจะเริ่มทำพิธีเสียเดี๋ยวนี้เลย”
วิภาตรงเข้าไปยังร่างของหญิงสาวที่นอนลืมตาสงบนิ่งอยู่กับพื้นห้อง ดาวพยายามขัดขืนแต่ก็ได้แค่มองเท่านั้น วิภาถอดชุดทำงานของดาวออก เสื้อกระโปรงถูกถอดออกไปก่อน ดาวพยายามจะดิ้นรนแต่ก็ยังไม่สามารถขยับแขนขาได้อยู่ดี ในใจนึกหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ต่อจากนั้นวิภาก็ปลดยกทรงสีชมพูลายลูกไม้เหมือนกับกางเกงในทำให้เต้านมทั้งสองไหลทะลักออกมาทันที วิภาเห็นทรวงอกอันเต่งตึงโชว์ตระหง่าน เต้านมกลมกลึงเหมือนซาลาเปา หัวนมขนาดเล็กสีแดงออกชมพูเรื่อสมวัยชูช่อเด่น วิภามองด้วยความอิจฉาว่านมของตัวเองยังสวยสู้ของดาวไม่ได้เลย ต่อจากนั้นวิภาก็ดึงกางเกงในออกมาทำให้เห็นเนินหีอันอวบอูมแซมไปด้วยขนหมอยละเอียดอ่อน ไม่หยิกหยอยเหมือนกับของตัวเอง แคมหีเป็นสีชมพูจาง ๆ ปิดชิดสนิทกันราวกับว่ายังไม่เคยผ่านการถูกทะลุทะลวงมาก่อนเลย แสดงว่าดาวนั้นยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ ร่างขาวอันเปลือยเปล่าของดาวกลมกลึงไปทุกส่วนตามวัยสาวแรกรุ่น หน้าท้องแบนราบชนิดวางแก้วน้ำยังนิ่งตรง ไม่เอียงเลย ดาวอับอายมากที่ต้องมาเปลือยเปล่าให้คนอื่นเห็นจนอยากร้องไห้โฮออกมาแต่แม้จะพยายามเปล่งเสียงอย่างไร ปากก็ยังชาด้านไปหมด ได้แต่ส่งเสียงสะอึกสะอื้นอยู่ในลำคอดังอื้อ..อื้อ น้ำตาไหลพรากด้วยความกลัวและอับอายอยู่ตลอด
เมื่อวิภาจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมานั่งตรงมุมหนึ่งของห้องและมองดูด้วยความไหวหวั่นปนสะใจในความสำเร็จของตัวเองที่กำลังจะจัดการกำจัดดาวออกไปในเส้นทางชีวิตของตัวเองได้ หมอจันลุกขึ้นมายืนข้าง ๆ ดาวพร้อมถือขันน้ำมนต์ใบเขื่องด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ถือเทียนขาวเล่มใหญ่ ลนให้น้ำตาเทียนหยดลงไปในขัน ปากก็สวดคาถาพึมพำ ๆ เบา ๆ ซึ่งดาวฟังไม่เข้าใจ
พอสวดไปได้สักพักหมอจันก็ยกขันขึ้นมาดื่มและเป่าน้ำมนต์พรวดลงมาบนร่างของดาวที่กำลังนอนอยู่ พรวดแรกทำให้ดาวรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที ดาวตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ร่างกายภายนอกและอวัยวะภายในเหมือนถูกเพลิงเผาผลาญจนกระสับกระส่ายไปมา หัวใจเต้นแรงระส่ำอย่างบอกไม่ถูก พรวดสองทำให้ดาวรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่างอย่างฉับพลัน ร่างกายเกิดการสั่นหนาวและกระตุกเหมือนถูกผีเข้า ตาเหลือกขาวขึ้นข้างบน เต้านมทั้งสองข้างของดาวกระเพื่อมอย่างแรง มือและขาทั้ง 2 ข้างแกว่งสะบัดไปมากับพื้นห้อง พรวดสามทำให้ดาวรู้สึกว่าจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ร่างกายเบาหวิวทั้งที่ตัวเองยังสั่นกระตุกอยู่ตลอด อำนาจของมนต์สะกดเริ่มรุนแรงขึ้นตามลำดับ ครั้งนี้ทำให้ดาวรู้สึกว่าความคิดของตัวเองเริ่มค่อย ๆ หมดไป สมองเริ่มว่างเปล่า แม้ตาจะเห็น หูจะได้ยิน แต่นั่นก็เป็นแค่ได้เห็นได้ยิน สมองของดาวไม่ได้สั่งการให้นึกหรือคิดอะไรตามที่ได้เห็นได้ยินอะไรทั้งนั้นแล้ว สักครู่ร่างกายของดาวก็ค่อย ๆ สงบนิ่งจนกระทั่งร่างกายไม่ไหวติง ความขลังของน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ผนวกกับคาถาอาคมอันแรงกล้าของหมอจันกำลังทำให้ดาวต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หมอจันก้มลงนั่งข้าง ๆ ดาวแล้วช้อนหัวขึ้นมา ต่อจากนั้นได้นำขันน้ำมนต์ที่ถืออยู่นำมากรอกใส่ปากดาวแล้วสั่งให้ดาวดื่มเข้าไป ขณะนี้หูของดาวรับฟังเสียงคำสั่งของหมอจัน สมองก็สั่งการบังคับให้ปากกลืนน้ำมนต์ที่ไหลเข้ามาทันทีแม้จะอ้าไม่ได้มากก็ตาม ดาวกระเดือกน้ำมนต์ตามที่หมอจันสั่ง ในขณะเดียวกันหมอจันก็ยังสวดคาถาพึมพำอยู่ตลอดเวลา สักพักหมอจันก็เป่ากระหม่อมลงบนหัวดาวแล้วก็วางหัวดาวลงกับพื้นแล้วหมอจันก็หันมาบอกกับวิภาว่า
“ขณะนี้อีดาว จิตของมันตกอยู่ในอำนาจมนต์สะกดของกูแล้ว มันจะเชื่อฟังและทำตามที่กูสั่งทุกอย่าง กูสั่งให้มันคิดอะไรมันก็จะคิดตามที่กูสั่ง กูถามอะไรมันก็จะตอบตามความจริงทุกอย่าง กูสั่งให้มันทำหรือไม่ให้ทำอะไรแม้แต่สั่งให้มันเป็นอะไรมันก็จะปฏิบัติตามที่กูต้องการทุกอย่าง ไม่มีขัดขืน และหลังจากที่กูทำพิธีครอบวิญญาณลงคาถาอาคมควบคุมจิตมันแล้ว มันจะจำความเดิมที่เกิดขึ้นในห้องนี้ไม่ได้เลย แต่มันจะเป็นไปตามที่กูสั่งให้มันทำหรือให้มันเป็นทุกอย่าง”
“แล้วหนูสามารถพูดคุยกับมันได้หรือไม่คะ และมันจะพูดกับหนูไหมคะ”
“ได้สิถ้ากูสั่ง เฮ้ย..อีดาว กูขอสั่งให้มึงจงลุกขึ้นมานั่งคุกเขาตรงหน้ากูเดี๋ยวนี้”
หมอจันออกคำสั่งด้วยเสียงอันดังกังวาน ทันใดนั้นด้วยฤทธิ์น้ำมนต์อันหลังสุดที่ได้คลายสะกดอาการนิ่งชาไป ก็ช่วยทำให้ดาวสามารถลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าตามที่หมอจันสั่งโดยไม่มีการต่อต้านขัดขืนแต่อย่างใด ขณะนี้ใบหน้าสวยของดาวนิ่งและเย็นชา ดวงตาแสดงอาการเหมือนคนเหม่อลอย
“กูขอสั่งให้มึงจงตอบตามที่นังวิภาถามมึง ห้ามโกหกเด็ดขาด” หมอจันออกคำสั่ง
“ได้ค่ะ” ดาวตอบทันที ดาวถูกมนต์สะกดของหมอจันไปแล้วจึงต้องปฏิบัติตามที่หมอจันสั่งทุกอย่าง
วิภาเริ่มตั้งคำถามทันที
“อีดาว มึงรู้สึกยังไงกับผัวกู จงบอกมาเดี๋ยวนี้”
“ดาวไม่ได้รู้สึกยังไงกับเสี่ยเลย ดาให้ความเคารพในฐานะนายจ้างเท่านั้น”
“แล้วทำไมผัวกูถึงได้มาเกาะแกะมึง..หา”
“เสี่ยชัยมาเกาะแกะดาเองต่างหาก ดาไม่เคยนึกชอบเสี่ยเลย”
“แล้วทำไมมึงไม่ปฏิเสธผัวกูไปเลย ปล่อยให้ผัวกูมาเกาะแกะมึงทำไม”
“ดาวตั้งใจว่าจะหลอกเอาเงินเสี่ยชัยมาสักแสนนึง ก่อนที่ดาจะแอบหนีเข้ากรุงเทพฯ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้”
“อ้อ..นี่มึงจะหลอกผัวกูหรือเนี่ย กูเอามึงไว้ไม่ได้แล้ว”
วิภาหันถามหมอจันว่า
“พ่อหมอคะ หนูจะจัดการมันยังไงดีถึงจะสาสมในสิ่งที่มันคิดจะทำ”
“กูจะถามมันบ้าง”
หมอจันถามดาวว่า
“มึงมีผัวหรือเคยมีแล้วรึยัง”
ดาวตอบว่า
“ดาวยังไม่เคยมีผัวมาก่อน ดายังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ยังไม่เคยผ่านการร่วมเพศกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย”
“ดีล่ะ ต่อไปนี้กูขอสั่งให้มึงมอบพรหมจรรย์ให้แก่เจ้าพ่อบันไตกามะเดี๋ยวนี้”