Home Post 3913-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-12-memory

3913-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-12-memory

ด้วยความครอบครัวนายตุ๋นนั้นมีฐานะพอสมควร บ้านของมันหลังนี้จึงไม่ธรรมดาเลย ตัวบ้านเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นขนาดใหญ่ มีห้องหับหลายห้องที่สามารถให้แขกมาพักได้หลายคน แถมยังตั้งอยู่ในที่แถบชานเมืองที่ห่างไกลจากบ้านหลังอื่น มีความเป็นส่วนตัวดังนั้นไม่มีใครมาแตกตื่นที่เห็นหญิงสาวในบ้านเหาะไปเหาะมา แต่ที่พิเศษที่สุดก็คือบ้านหลังนี้มีห้องใต้ดินด้วย ซึ่งเหมาะสมมากที่จะให้วิเวียนได้ทำอะไรบางอย่าง

หญิงสาวหยิบเอาอุปกรณ์ที่นำมาจาก wonderland ออกมาประกอบอย่างขมักเขม่น ไม่นานนักสิ่งที่เธอกำลังประกอบก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง มันเป็นจอ LCD ที่เชื่อมต่อกับตัวส่งสัญญาณ มีแป้นคีย์บอร์ดที่ใช้ป้อนคำสั่งและรหัสต่างๆ ใช่แล้ว …. มันก็คือเครื่องมือติดต่อกับทาง wonderland นั่นเอง แบบเดียวกับที่พวกแวมไพร์ใช้ เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่าเหมาะสำหรับพกพาไปในภาคสนามแบบนี้ ไม่นานนัก การเชื่อมต่อก็สมบูรณ์ สัญญาณจาก wonderland ถูกส่งเชื่อมมายังโลก ภาพชายสูงวัยท่าทางสงบนิ่งดูน่าศรัทธาปรากฏขึ้นในจอ LCD ทันที

“ท่านสาธุคุณรอส” วิเวียนเอ่ยเรียกชื่อชายในจอภาพ พร้อมกับแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม

“อืม” ชายชราผู้ที่เป็นผู้นำสูงสุดของเหล่าพรีสขานรับหญิงสาวออกมาหนึ่งคำ “ตามสบายเถอะ ….. ลูกพ่อ”

“คะ … คุณพ่อ” วิเวียนกล่าวจบพร้อมกับเงยหน้าขึ้น ก่อนที่เธอจะเริ่มรายงานความคืบหน้าทันที “วิเวียนเจอแหล่งพลังมาน่าขนาดใหญ่แล้วค่ะ”

“เยี่ยมมากลูกพ่อ ……. เจ้าทำลายมันแล้วใช่ไหม” สาธุคุณรอสร้องลั่นอย่างดีใจ แต่คำถามที่ตามมาของเขานี่สิ ทำเอาวิเวียนถึงกลับก้มหน้านิ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา “วิเวียนทำลายไม่ได้คะ”

“อะไรน่ะ” ชายชราหุบยิ้มทันที หญิงสาวเห็นดังนั้นจึงรีบอธิบายโดยเร็ว “วิเวียนตรวจสอบแล้วค่ะ ร่างที่เราคาดการณ์ว่าจะเป็นร่างกำเนิดใหม่ของอาลูคาร์ด ความจริงแล้วเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเทา …..”

“แล้วไง !” ชายชราตวาดลั่น “เจ้ากำลังจะบอกว่าพิกัดที่เราได้มาผิดพลาดอย่างนั้นเหรอ แล้วเจ้าจะอธิบายเรื่องที่หลายปีมานี้มีแวมไพร์เดินทางมาโลกนี้นับร้อยตัวอย่างไงวิเวียน หรือเจ้าจะบอกว่าพวกแวมไพร์ก็คาดการณ์ผิดอย่างนั้นเหรอ ทำตามที่ข้าสั่ง ทำลายมันซะ !”

นี่คือสิ่งที่เธอคาดการณ์ไว้แล้ว ชายชราตรงหน้าที่เป็นทั้งผู้นำและทั้งพ่อของเธอต้องไม่ยอมแน่ๆ แต่คำสั่งที่จะให้เธอสังหารชายคนที่เธอรักนั้นเธอจะทำได้ยังไงกัน “วิเวียนทำไม่ได้จริงๆค่ะคุณพ่อ จะให้วิเวียนฆ่าเขา … ฆ่าเขาที่เป็นมนุษย์ธรรมดาได้ยังไงกัน ที่เราเป็นพรีสกันก็เพื่อปกป้องมนุษย์จากแวมไพร์ไม่ใช่เหรอค่ะ”

“วิเวียนนนนนนนน” ชายชราขบกรามแน่นเพื่อจะระงับโทสะในจิตใจ ที่แล้วมานางเป็นเด็กดีมาตลอดไม่เคยขัดคำสั่งเขาแม้แต่ครั้งเดียว แต่คราวนี้นางกลับยืนกรานเสียงแข็งไม่ยอมแพ้ ทั้งหมดนี้มันเพราะอะไรกัน …. หรือเพราะว่านางชอบพอเจ้าหมอนั่นขึ้นมางั้นเหรอ …… เมื่อนึกถึงตอนนี้เขาก็โมโหจนแทบระงับอารมณ์ไม่อยู่

“เอาเถอะ …… คราวนี้ข้ายอมแพ้เจ้า เอาอย่างนี้ ข้าจะไปเตรียมการเชื่อมมิติให้เสร็จภายใน 3 วัน จากนั้นเจ้าก็พาเจ้าหมอนั่นมาตรวจให้ละเอียดที่นี่อีกที แล้วมาดูกันว่าเจ้าหมอนั่นเป็นมนุษย์อย่างที่เจ้าว่าจริงๆ หรือนี่เป็นแค่เรื่องตลกของพวกแวมไพร์”

“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” วิเวียนร้องอย่างดีใจ พ่อของเธอคนนี้เป็นผู้มีเมตตาเสมอ หญิงสาวเอ่ยอำลากับชายชราตรงหน้าอีกเล็กน้อยก่อนที่เธอจะจบการติดต่อ

.
.

โดยที่เธอไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า นี่มันคือแผนร้ายของชายคนที่เธอศรัทธา “ถ้าเจ้าฆ่ามันไม่ลง ก็ส่งมันมาให้ข้าเป็นคนฆ่ามันแทนละกัน วิเวียน!”

.
.
.

“วิเวียนๆ” เสียงเรียกเบาๆของชายคนรักทำให้เธอตื่นจากภวังค์ทันที ตอนนี้หญิงสาวอยู่บนเตียงเดียวกับเขาในสภาพเปลือยเปล่าเหมือนทุกๆวัน เธอจัดการหันมากอดรัดชายตรงหน้าอย่างหวงแหน ก่อนจะเปลี่ยนท่าหันมานอนหนุนแผ่นอกแข็งแรงของเขาแทน

“ตกลงทางโน้นว่ายังไงบ้างวิเวียน” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับลูบไล้เรือนผมหญิงสาวไปมา ในขณะที่เธอนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะตัดสินใจเอ่ยตอบ

“อาร์ตค่ะ อีก 3 วันอาร์ตกลับ wonderland กับวิเวียนน่ะ อยู่นี่อาร์ตไม่ปลอดภัย เดี๋ยวจะโดนพวกแวมไพร์ตามมาทำร้ายเอาอีกได้ อาร์ตกลับไปอยู่กับวิเวียนก่อนดีกว่า”

“แล้วภารกิจวิเวียนล่ะ” นายอาร์ตเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบายใจ

“ตอนนี้เราก็ได้แต่ต้องให้แวมไพร์ที่เป็นอาลูคาร์ดกลับชาติมาเกิดเผยโฉมออกมา หรือไม่ก็ต้องตรวจสอบพิกัดใหม่ตั้งแต่ต้น ระหว่างนี้เราทำได้แต่รอเท่านั้นค่ะอาร์ต”

“นี่ถ้าผมใช้เวทย์มนต์ได้บ้างก็ดีสินะ อย่างน้อยก็จะได้ป้องกันตัวเองได้ ไม่ต้องลำบากวิเวียนอยู่เรื่อยๆแบบนี้ วิเวียนทำไมไม่สอนเวทย์มนต์ผมมั่งล่ะ”

“แหม เรียนเวทย์มนต์มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะ ถ้าเวทย์มนต์โลกเก่าล่ะก็วิเวียนพอจะสอนอาร์ตได้อยู่ แต่ถ้าเป็นเวทย์มนต์พลังธาตุล่ะก็มันจะซับซ้อนกว่าเยอะ ไหนเรื่องจะต้องเข้าถึงพลังธาตุต่างๆอีก”

“เหรอ” นายอาร์ตเอ่ยเสียงหงอยๆเหมือนเด็กๆ ทำเอาวิเวียนหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทางเธอต้องทำอะไรบางอย่างแล้วล่ะ เพื่อจะได้ปลอบใจเจ้าเด็กโข่งคนนี้

เธอค่อยๆจุมพิตอย่างอ่อนโยนเข้าใบหน้าของเขา ก่อนที่จะค่อยๆลากลิ้นลงมาช้าๆก่อนจะหยุดลงที่หัวนม แล้วจากนั้นเธอก็ดูดเฟ้นมันเบาๆ แต่แค่นั้นก็เรียกเสียงซี๊ดซ๊าดจากชายตรงหน้าได้แล้ว เท่านั้นไม่พอ เธอยังใช้มือเล้าโลมเจ้าท่อนเอ็นขนาด 8 นิ้ว จนตอนนี้มันเริ่มตั้งชันพร้อมใช้งานเต็มที่แล้ว

หญิงสาวจึงละจากหัวนมของเขา ค่อยๆเลื่อนตัวไปเบื้องล่างอย่างเย้ายวน เธอค่อยๆจุมพิตเบาๆที่ปลายหัวหยัก พร้อมกับใช้มือนุ่มๆรูดเจ้าท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุด ส่วนเจ้าชายหนุ่มผู้โชคดีก็ทำได้แต่มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างตั้งใจว่าเธอจะทำอะไรต่อ

แต่เขาก็ต้องแปลกใจ แทนที่เธอจะจัดการอมไปเลยเหมือนทุกครั้ง แต่เธอกลับท่องคาถาอะไรบางอย่างแทน พริบตานั้น เธอก็พ่นไอสีแดงใส่เจ้าท่อนเอ็นทันที! โดยที่นายอาร์ตได้แต่ร้องออกมาหนึ่งทำอย่างสงสัย แต่ไม่ทันที่เขาจะถามอะไรต่อ หญิงสาวก็จัดแจงอมท่อนเอ็นนั้นทันที นายอาร์ตก็เลยกลายเป็นร้องครางอย่างสุดเสียวแทน ไอ้ที่จะถามเมื่อครู่ก็ลืมไปหมดเลย

“ซี๊ดดดดดดดดดดดด” เสียงครางของชายหนุ่มดังลั่นขึ้นมาทันที ลีลาของวิเวียนนี่นับวันจะยิ่งช่ำชองขึ้นทุกที แถมเพราะเธอมีเซ็กส์กับเขามาหลายต่อหลายครั้ง จุดเสียวของเขาตรงไหนเธอก็รู้หมด อย่างตอนที่เธอดูดเน้นตรงหัวหยักเนี่ยแหละ เล่นเอาเขาแทบคลั่งตายให้ได้ ว่าแล้วเขาก็เอาหมอนข้างกายมาหนุนหลัง เพื่อจะได้ดูภาพหญิงควรักอมควยเขาจนแก้มตอบถนัดๆ

“เสียวไหมค่ะอาร์ตตตตตต” เธอเอ่ยถาม

“อุยยย สุดยอดวิเวียน …. เอ๊ะ !” ใช่สิ เขาต้องร้องออกมาอย่างแปลกใจ เธอจะถามเขาได้อย่างไร ในเมื่อเธอกำลังอมควยเขาอยู่แบบนี้

“อิๆๆๆ มนต์ที่วิเวียนเป่าใส่อาร์ตเมื่อกี้เรียกว่ามนต์เชื่อมจิตน่ะคะอาร์ต มันทำให้เราติดต่อกันทางโทรจิตได้ไง แถมมันช่วย … อ่ะ เอ๊ะ !” ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจฟังต่อแล้ว เขาจับหัวของเธอโยกเข้ามาแรงๆจนท่อนเอ็นของเขาหลุดไปถึงคอหอย เล่นเอาหญิงสาวร้องอย่างตกใจก่อนที่เธอจะแก้เผ็ดด้วยการบีบกระโปกเขาแรงๆหนึ่งทีเล่นเอานายอาร์ตร้องจ๊ากขึ้นมาดังลั่น

ก่อนที่เสียงทั้งหมดจะเงียบหายไปเพราะมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดสลับกลับเสียงครางอย่างเร่าร้อนขึ้นมากลบแทน ทำเอาไอ้ตุ๋นที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ถึงกับต้องหันไปมองค้อนอย่างขัดอารมณ์

“แม่ง ไอ้ผัวเมียคู่นี้มันจะเย็ดกันทุกวันเลยเหรอไงว่ะ”

“พี่ตุ๋นว่าอะไรน่ะค่ะ” เสียงหวานๆของคู่สายที่ดังขึ้นทำให้ไอ้ตุ๋นละความสนใจจากเสียงรบกวนนั่นหันไปคุยต่อทันที

“อ้อ ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะน้องแหวน มาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่า ตกลงพรุ่งนี้ว่าไงจ๊ะ”

“อิๆๆๆ ก็ได้ค่ะ แต่พี่ตุ๋นต้องมารับแหวนที่มหาลัยน่ะ พรุ่งนี้แหวนจะแวะไปคืนหนังสือ”

“ก็ได้จ๊ะ แล้วเจอกันน่ะ จุ๊บๆ” คำอำลาแบ๋วๆที่ไม่ได้เข้ากับหน้ามันเลย แต่กระนั่นท่าทางมันจะได้ผลไม่น้อย เพราะเรียกเสียงหัวเราะคิกๆจากหญิงสาวปลายสายได้ ทำผู้หญิงหัวเราะได้แบบนี้คะแนนมันคงพุ่งปรี๊ด ไอ้ตุ๋นเลยวางสายไปแบบหัวใจพองโต

.
.
.

ในขณะที่น้องแหวน หรือ เวโรนิก้าคู่สายของมันก็เผยยิ้มน้อยๆออกมาเช่นกันหลังวางสาย ก่อนที่เธอจะหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของสายตาคู่หนึ่งที่จับต้องเธอมาตั้งแต่เมื่อกี้ สายตาที่บ่งบอกว่าอาฆาตแค้นเธอแค่ไหน สายตาของแวมไพร์มาโฮน

“ระริกระรี้เชียวน่ะ นังร่าน” มาโฮนเปิดฉากทักทายทันที

“อืมมมมม ข้าชอบชื่อนั้นน่ะ ข้าจะถือว่าเป็นคำชมละกัน มาโฮน” เวโรนิก้าตอบกลับอย่างกวนๆ ก่อนที่เธอจะเดินจากไปอย่างไปยีหระ แต่ไม่ทันที่เธอจะเปิดไปได้เท่าไหร่ เจ้ามาโฮนก็ปราดมาขวางเธอทันที

“ไหนว่ะวิธีอะไรของเจ้า ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย อีกไม่กี่วันเราก็ต้องไปรายงานท่านลินคอห์นแล้วน่ะเว้ย”

“หึ …. แล้วเจ้าจะมาเดือดร้อนอะไรมาโฮน ขนาดข้ายังไม่เดือดร้อนอะไรเลย”

“อย่าให้มันมากนักน่ะเวโรนิก้า อย่าลืมสิว่าข้าเป็นหัวหน้าทีมน่ะเว้ย อย่ามาข้ามหน้าข้ามตากันเกินไปนัก ไม่งั้นข้าจะรายงานท่านลินคอห์นแน่”

“โฮะๆๆ” แวมไพร์สาวหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ก่อนที่เธอจะเดินใช้ไหล่กระแทกจนทำเอาเจ้ามาโฮนถึงกลับกระเด็นไปอีกทาง ก่อนเธอจะหันมาทิ้งคำพูด “เอาท่านลินคอห์นมาขู่ข้าเหรอ เจ้าลืมไปแล้วจริงๆเหรอว่าข้าเป็นใคร หึๆ”

.
.
.
.
.

“เอ้า เฮ้ย แต่งตัวจะไปไหนว่ะ” เสียงไอ้ตุ๋นร้องดังลั่นบ้านเมื่อเห็นภาพเพื่อนรักของมันลุกขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมตัวออกไปข้างนอกแบบนี้

“กูจะแวะไปหาพี่แพร” นายอาร์ตตอบเสียงเรียบ แต่คนฟังนี่ดิ ถึงกับร้องเสียงสูงอย่างไม่เชื่อหู

“เฮ้ยๆๆๆๆ มึงว่าไรน่ะ แล้วเมียมึงว่าไง เขายอมให้มึงไปง่ายๆงี้น่ะเหรอ”

“วิเวียนอยู่ข้างล่าง กูไม่ได้บอกเขา ….. เรื่องนี้ยังไงก็กูต้องไปว่ะ อีกไม่นานกูต้องไปโลกโน้นแล้ว กูไม่อยากไปแบบมีห่วง” ได้ยินคำตอบแบบนี้ ไอ้ตุ๋นก็ได้แต่พยักหน้าช้าๆ ตอนนี้เพื่อนรักมันรู้สึกยังไงมันเข้าใจดี

“เออ กูเข้าใจ …………. เออ มึง เอางี้ดิ เดี๋ยวกูจะเอารถออกไปพอดี เดี๋ยวมึงไปกับกูก่อน แล้วค่อยไปต่อรถเอา” ไอ้ตุ๋นตอบพร้อมชูกุญแจขึ้นมา มันเองก็แต่งตัวเตรียมไปข้างนอกเหมือนกัน

“อือหืออออ รถคันนี้ นัดเด็กไว้เหรอมึง” นายอาร์ตเอ่ยแซวทันที เขาจำได้ว่านั่นมันรถ BMW สุดหรูของพ่อไอ้ตุ๋นมัน รถคันนี้มันมีประวัติ ถ้าลองสาวคนไหนได้นั่งแล้วเสร็จไอ้ตุ๋นมันทุกราย

“เออ …. ไม่ต้องแซวเลยมึง รีบไปดีกว่าเดี๋ยวแม่มึงมาก็ไม่ได้ไปกันพอดี”

.
.
.
.
.

หลังจากเอาเพื่อนไปปล่อยแล้ว ไอ้ตุ๋นก็มุ่งหน้าไปที่มหาลัยทันที ตอนนี้ใจมันลอยไปถึงที่หมายก่อนแล้ว เท้ามันก็เลยเผลอเหยียบซะเต็มที่ เล่นเอาไอ้ตุ๋นเกือบจะเสยรถคันอื่นตั้งหลายที แต่มันก็คุ้ม เพราะทำให้มันมาถึงที่หมายเร็วกว่าเดิมเยอะ ทันที่เข้ามาในมหาลัย มันก็ขับพุ่งไปที่ตึกห้องสมุดทันที

“น้องแหวนจ๊ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ พี่ขับมาจอดที่หน้าห้องสมุดแล้วเนี่ย” มันโทรถามทันที

“ค่า ……… ตอนนี้แหวนอยู่ข้างใน พี่ตุ๋นรอนั่นแหละ แหวนเสร็จแล้ว กำลังจะออก” เสียงหวานๆของน้องแหวนตอบกลับมา แหม แค่เสียงก็เล่นเอามันควยลุกซะแล้ว

ไม่กี่อึดใจนัก หญิงสาวที่มันเฝ้ารอก็ออกมา ทันที่มันเห็นเธอนั้นมันก็รู้ได้ทันทีว่าที่มันอุตส่าห์เฉียดตายมาเนี่ยมันช่างคุ้มค่าเหลือเกิน เธออยู่ในชุดกระโปรงสั้นสีขาวสะอาด อวดเรียวขาขาวสวยสะดุดตา ตัดกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำฟิตเปรี๊ยะ ที่รัดหน้าอกคู่งามจนชูชันดูสวยเด่นสะดุดตา เล่นเอาไอ้ตุ๋นที่นั่งอยู่ในรถถึงกลับกลืนน้ำลายดังเฮือก แต่นี่ไม่ใช่เวลามาตะลึง มันรีบคว้าช่อดอกไม้ลงจากรถทันที ใช่แล้ว นัดเดททั้งทีมันต้องทำคะแนนซะหน่อย

“กุหลาบขาวสำหรับคนสวยๆจ๊ะ” ไอ้ตุ๋นยิ้มหวานพร้อมกับส่งช่อกุหลาบแสนงามให้หญิงสาวตรงหน้า ช่อดอกไม้สวยๆแบบนี้ไม่ว่าสาวคนไหนมาเห็นก็ต้องดีใจแน่ๆ ……… แต่ไม่ใช่กับเธอ น้องแหวนของมันแทนที่จะรับช่อดอกไม้ไป เธอกลับยืนนิ่งราวกับต้องมนต์ซะอย่างนั้น

.
.

‘ฮือ ๆๆๆๆ ข้าก็แค่ … ข้าก็แค่ มาหาดอกกุหลาบ’

.
.

“น้องแหวนๆๆ เป็นอะไรหรือเปล่า” ไอ้ตุ๋นร้องเรียกเป็นการใหญ่ เวรละสิ ทำไมอยู่ๆน้องแหวนนิ่งไปเลยเนี่ย หรือน้องแหวนไม่ชอบดอกกุหลาบว่ะ

“แหวนไม่เป็นอะไรหรอกค่า แค่มึนๆนิดหน่อย อุย …… ดอกไม้สวยจัง” แวมไพร์สาวฉีกยิ้มหวานตอบ พร้อมกับเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้มาอย่างทะนุถนอม เพราะได้เห็นกุหลาบขาวที่ไม่ได้เห็นมานานละมั้ง ความทรงจำเก่าๆก็เลยผลุดขึ้นมา

“แล้วไป พี่ก็นึกว่าน้องแหวนไปโดนใครเขาวางยามาซะอีก” ไอ้ตุ๋นพูดหยอกล้อหวังทำคะแนนต่อทันที ก่อนจะพาหญิงสาวไปนั่งที่รถ จากนั้นก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ระหว่างอยู่ในรถ ไอ้ตุ๋นก็สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง น้องแหวนของมันพูดน้อยลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เธอเอาแต่จ้องมองช่อกุหลาบในมือพร้อมกับทำหน้าราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งรถติดไฟแดงพอดี มันจึงใช้จังหวะนี้เอ่ยถาม

“น้องแหวน คิดอะไรอยู่เหรอครับ”

แต่เธอก็ไม่ตอบอะไร ได้แต่หันมายิ้มหวานๆให้แทน นั่นสิ เธอคิดอะไรอยู่น่ะ คิดถึงเรื่องเก่าๆที่ผ่านมาเนิ่นนานแบบนั้นอยู่ทำไม แวมไพร์สาวค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ‘ทำเรื่องนี้ให้มันจบๆไปดีกว่า’

พริบตานั้นเธอก็ลืมตาขึ้น พร้อมๆกับไอมาน่าที่แผ่กระจายออกจากร่าง แค่พริบตาเดียวไอมาน่าก็ลอยฟุ้งเต็มรถ พลังมาน่านั้นยิ่งอยู่ในพื้นที่แคบเท่าไหร่ อานุภาพก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเธอหันไปมองชายหนุ่มอีกครั้ง ก็ต้องเห็นเขาหน้าแดงก่ำเพราะความเงี่ยน ท่อนเอ็นก็แข็งปูดจนแทบทะลุกางเกงออกมา เรียกว่าตกอยู่ใต้พลังของเธอโดยสมบูรณ์

“อุยยยยยยย เป็นเหี้ยไรว่ะกู ทำไมอยู่ๆก็เงี่ยนมาแบบนี้ว่ะ” ไอ้ตุ๋นบ่นลั่นในใจพร้อมๆกับบิดกายไปมาเพื่อว่ามันจะบรรเทาความเงี่ยนลงบ้าง แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย แถมยิ่งมีหญิงสาวสุดเซ็กซี่มานั่งโชว์เรียวคู่สวย ยิ่งทำให้อารมณ์ของมันกระเจิงไปไม่เป็นท่า ภาพพจน์ของมันที่อุตส่าห์ปั้นแต่งให้ดูเป็นสุภาพบุรุษเต็ม ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว กลายเป็นไอ้บ้ากามที่อยากจับเธอมาเย็ดให้หายอยาก

“มองอยู่นั่นแหละ พี่ตุ๋น” เสียงหวานๆสุดเซ็กส์ซี่ของหญิงสาวเอ่ยอย่างเย้ายวน หญิงสาวไม่เพียงถอยหนีจากสายตาหื่นกระหายคู่นั้น เธอยังจับมือไอ้ตุ๋นมาวางทาบบนต้นขาขาวๆของเธอ ไอ้ตุ๋นเองก็ไม่รอช้า มันใช้มือสากๆของมันลูบไล้ไปมาทันที

“ซี๊ดดดดดดดดดด” หญิงสาวครางอย่างสุดเสียว เมื่อไอ้ตุ๋นเปลี่ยนเป้าหมายต้นขาขาวๆอวบอิ่ม มาเป็นเนินหีสีชมพูสะอาดตา หลังจากลูบไล้ไปมาๆอยู่ชั่วครู่ ไอ้ตุ๋นก็จัดแจงแหย่นิ้วเข้าไปในร่องเสียวทันที นิ้วที่ใหญ่โตแข็งแรงทั้งสองนิ้วเข้าไปคับแน่นในร่องสวาท ไม่แค่นั้น มันยังจู่โจมจุดเสียวภายใน เล่นเอาแวมไพร์สาวผู้เจนจัดในเกมส์กามถึงกับสะดุ้งโหยง พร้อมกับร้องครางดังลั่นกว่าเดิม

“อ๊างงงงงงงส์ อย่างนั้นแหละ อือออออ ทำแรงๆเลย”

แต่แล้วไอ้ตุ๋นก็เล้าโลมเธอไม่ได้นาน เมื่อไฟเขียวแดงแว๊บขึ้นมา มันจึงต้องถอนมือออกเพื่อมาช่วยประครองรถ เล่นเอาแวมไพร์สาวต้องบ่นอุบมานิดหน่อยที่โดนขัดความสุขแบบนี้ แต่ไอ้ตุ๋นนี่ดิ …. มันกลับหน้าเครียดกว่าเดิมขึ้นมาซะอย่างนั้น

“น้องแหวน ….. พี่ขอโทษ” เสียงหงอยๆอย่างรู้สึกผิด

“หืม …….. มาขอโทษแหวนทำไม แหวนไม่ได้โกรธพี่ซะหน่อย”

“พี่ฉวยโอกาสกับน้องแหวน” เสียงของมันยังสำนึกผิดไม่หาย “พี่ขอบคุณที่น้องแหวนไม่โกรธพี่น่ะ แต่พี่มันแย่ พี่เลว ไม่รู้จักหักห้ามใจ ปล่อยตัวตามอารมณ์จนทำแบบนั้นกับน้องแหวน ……. น้องแหวน … พี่มีอะไรบางอย่างจะบอกน้องแหวนน่ะ ….. พี่ชอบน้องแหวนจริงๆน่ะ ตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นแล้ว พี่ชอบแบบที่ไม่เคยชอบใครขนาดนี้เลย น้องแหวนเชื่อพี่ได้ไหม”

.
.

‘ไม่! ……. ข้าไม่เหมือนคนอื่น ข้าชอบเจ้า …. ข้าชอบเจ้า ข้าชอบเจ้าจริงๆเวโรนิก้า ข้าไม่ได้ชอบเจ้าเหมือนคนพวกนั้น เจ้าเชื่อข้าใช่ไหม เวโรนิก้า!!’

.
.

อีกแล้ว ……….. อีกแล้วที่ความทรงจำในวันวานของเธอผลุดมาอีกครั้ง นั่นมันคงเป็นเพราะ ตั้งแต่เธอเป็นแวมไพร์ คนที่เย็ดเธอถ้าไม่ใช่พรีสที่เย็ดเธอเพื่อหวังสังหาร ก็จะเป็นมนุษย์ที่หลงใหลในการยั่วยวนของเธอ ที่เย็ดเธออย่างหื่นกระหาย ไม่มีใครเลยสักคนที่จะว่าชอบเธอเหมือนที่ไอ้ตุ๋นทำ ทำให้เมื่อมันพูดขึ้นมา เธอจึงหวนกลับไปนึกถึงครั้งสุดท้ายที่มีคนบอกชอบเธอ และเมื่อเธอนึกถึงเขา ความทรงจำที่แสนปวดร้าวที่เธอปกปิดไว้ด้วยหน้ากากหยิ่งทะนงมันได้ไหลย้อนกลับมาอีกครั้ง

ความทรงจำของเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตเธอจากหญิงสาวธรรมดาให้ก้าวมาเป็นแวมไพร์ ความทรงจำที่มันช่างกระจ่างชัดราวกับเกิดขึ้นจริงตรงหน้า ความทรงจำที่เสียดแทงเข้าไปในจิตใจของเธอจนเธอเองยากจะรับไหว หยาดน้ำใสๆในดวงตาที่เหือดแห้งไปนานหลายสิบปีค่อยๆเอ่อล้น จนในที่สุดมันก็ไหลทะลักลงมาอาบแก้ม ไม่น่าเชื่อเลยว่าแวมไพร์ที่เก่งกาจอย่างเธอ อยู่ๆก็ต้องมาเสียน้ำตาให้กับมนุษย์อ่อนแอที่ใช้เวทย์มนต์ไม่ได้คนนี้

“น้องแหวนๆ น้องแหวนเป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไม” ไอ้ตุ๋นร้องตะโกนหน้าเหวอ พร้อมกับจอดรถลงข้างทาง แต่หญิงสาวข้างกายมันไม่ยอมตอบอะไร กลับกระชากคอมันมาจูบอย่างเร่าร้อน เล่นเอาไอ้ตุ๋นถึงกับมึนงงในท่าทีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของหญิงสาวที่เล่นเอามันตามแทบไม่ทัน มันก็เลยรวบรวมแรงดันหญิงสาวออก แต่ไม่ทันที่มันจะได้อ้าปากถาม หญิงสาวตรงหน้าก็เป่าลมมาน่าใส่มันทันที ……. พริบตานั้นความเงี่ยนในตัวไอ้ตุ๋นก็พุ่งสูงเต็มที่ จนท่อนควยที่ซุกอยู่แข็งโป๊กจนแทบทะลุออกมานอกกางเกง เล่นเอาไอ้ตุ๋นทนไม่ไหวต้องรีบชักมันออกมาข้างนอก

“อุยยยยย เหี้ยเอ๋ยยยยยย เงี่ยนโว้ยยยยยยย” ไอ้ตุ๋นร้องลั่นพร้อมกับชักว่าวไปพร้อมกันเพื่อช่วยบรรเทาอารมณ์ที่พลุ้งพล่าน ก่อนที่มันจะนึกได้ว่าบนรถมีคนที่จะช่วยมันได้อยู่ มันหันไปมองหญิงสาวข้างๆตามันเยิ้ม ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว มือนุ่มๆของเธอเอื้อมไปชักให้มันโดยที่ไม่ต้องร้องขอ ด้วยลีลาของแวมไพร์สาวที่ชำนาญในเชิงกาม เล่นเอาไอ้ตุ๋นเคลิบเคลิ้มไปกับรสมือของเธอจนสติแทบหลุดออกจากร่าง ปากก็ร้องครางดังลั่นโดยเฉพาะเมื่อหญิงสาวเริ่มเร่งจังหวะมากขึ้น

“อา ……. เสียวโว้ยยยยยยย ซิ๊ดดดดดดดดส์” ไอ้ตุ๋นร้องครางอย่างสุขสม ตอนนี้มันเสียวซะจนต้องเด้งควยสวนมือของเธอจนตูดของมันลอยเหนือเบาะ มันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องแหวนคนนี้จะมีลีลาเด็ดดวง ขนาดแค่มือก็ยังชักให้มันมันส์กว่าที่มันชักให้ตัวเองเสียอีก และด้วยลีลาสุดยอดขนาดนี้จึงไม่แปลกเลยที่มันจะ ……

“อา ……….. แตกแล้วเว้ยยยยยยยยย” น้ำเงี่ยนของมันพุ่งทะลักจากท่อนควยราวกับน้ำพุ ก่อนจะไหลลงมาอาบท่อนควยจนมันวาว ส่วนตัวมันก็หอบเล็กๆ ‘สุดยอดจริงๆ แค่ชักว่าวก็มันส์ขนาดนี้แล้ว ที่ถ้ากูได้เย็ดน้องแหวนจริงๆมันจะมันส์แค่ไหนว่ะ’ เสียงในหัวสมองของมันดังก้อง ยิ่งตอนมันจินตานาการถึงตอนได้เย็ดน้องแหวน ท่อนควยที่พึ่งพ่นน้ำเชื้อเมื่อครู่ก็กลับมาแข็งโป๊กได้อีกครั้ง

“ไปหาที่เงียบๆเถอะคะ พี่ตุ๋นขา …………” แค่เสียงหวานๆของแวมไพร์สาวที่ดังข้างหู ก็สามารถผู้ฟังเชื่อฟังได้ไม่ต่างอะไรเลยกับมนต์สะกด ไอ้ตุ๋นจัดการเร่างเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งแวมไพร์สาวก็ตอบแทนความเป็นเด็กดีของมันด้วยการลงไปจูบบนหัวควย พร้อมกับเสียรอบๆลำควยเพื่อทำความสะอาด ก่อนที่เธอจะอมมันลงไปมิดด้าม เล่นเอาไอ้ตุ๋นร้องซี๊ดด้วยความเสียวอีกครั้ง มือไม้อ่อนยวบจนรถคันหรูถึงกับส่ายไปมาตลอดทาง

แม้ในความจริงแค่อยู่เฉยๆเวโรนิก้าก็สามารถทำให้ไอ้ตุ๋นอยากเย็ดเธอได้ไม่ยาก แต่นี่เธอกลับต้องมาลำบากใช้พลังมาน่ากับเขา ซึ่งเธอเองก็ไม่ชอบใจนัก แต่ถ้าขืนไม่ทำแบบนี้ ไอ้ตุ๋นก็คงทำอะไรให้เธอนึกถึงความหลังอีก ใช้พลังมาน่าสะกดให้เงี่ยนๆไปซะแบบนี้แหละ ดีแล้ว

“อุยยยยย น้องแหวนอมเก่งจังเลย คร๊าบบบบบ” ไอ้ตุ๋นครางซี๊ดซาด น้องแหวนนี่มันสุดยอดจริงๆ ทั้งมือที่อ่อนนุ่ม ชักให้มันจนน้ำแตก นี่มาลีลาการดูดอีก เล่นเอามันเสียวหัวควยกว่าเมื่อครู่เป็นไหนๆ จนมันทนไม่ไหวแล้ว อยากจับน้องแหวนเย็ดซะตอนนี้เลย จากเมื่อครู่ที่มันกะว่าจะพาน้องแหวนไปเย็ดในโรงแรมให้เป็นกิจจะลักษณะ แต่ตอนนี้คงจะไม่ทันใจมันแล้ว มันจัดการเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเปลี่ยวๆข้างๆทันที

ทันทีที่รถจอด มันก็ดันน้องแหวนออกก่อน ก่อนจะจัดเบาะข้างคนขับให้เอนไปจนสุดทำให้น้องแหวนต้องนอนราบอวดเต้างามขนาด 36 ที่ชูชัน เมื่อเห็นดังนี้ไอ้ตุ๋นก็ไม่รอช้า มันจัดแจงถอดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เพราะมันรู้ดีว่า ยิ่งมันถอดเร็วเท่าไหร่ มันก็จะได้เย็ดน้องแหวนเร็วขึ้นเท่านั้น ในขณะที่น้องแหวนเองไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เพราะเธอโนบราโนกกน.ตั้งแต่แรกแล้ว แค่เธอร่นกระโปรงขึ้นมาอีกนิด แกะกระดุมเสื้อทั้งหมดเพื่อปลดปล่อยเต้างามคู่นั้นให้เป็นอิสระ แค่นี้เธอก็พร้อมโดนเย็ดแล้ว

“ไม่ต้องใส่ถึงหรอกพี่ตุ๋น เย็ดแหวนสดๆเลย” น้องแหวนร้องห้ามเมื่อเห็นไอ้ตุ๋นหยิบถุงขึ้นมา ในขณะที่ไอ้ตุ๋นหูตั้งดีใจราวกับถูกรางวัลที่หนึ่ง จริงๆมันก็อยากเย็ดเธอสดๆเหมือนกันแต่ไม่กล้าขอ แต่พอมาได้ไฟเขียวจากเธอแบบนี้มันก็เลยรีบจัดการเอาท่อนควยไปจ่อหีเธอ พร้อมกับค่อยๆแทงเข้าไปช้าๆ “ซิ๊ดดดดดดดดด” น้องแหวนถึงกับร้องลั่นอย่างสุดเสียวเมื่อแท่งควยขนาดย่อมๆพยามแทรกผ่านร่องหีที่ฟิตเปรี๊ยะเข้าไปข้างใน

“อุยยยยยยยย” ไอ้ตุ๋นเองก็เสียวไม่น้อย จากที่หัวควยรูดผ่านร่องหีที่ฟิตปั๋งของหญิงสาว แล้วไหนจะมาโดนการตอดรัดอย่างรุนแรงอีก ความเงี่ยนที่มันครุกรุ่นมาตั้งแต่แรกยิ่งทวีคูนเข้าไปอีก ก่อนที่มันจะเสียวจนควยระเบิดไปซะก่อน มันจึงต้องระบายความเงี่ยนทั้งหมดไปกับจูบที่ทั้งรุนแรงและดุเดือด ส่วนหญิงสาวแทนที่จะตื่นกลัวงหรือถอยหนี ตรงกันข้ามเธอกลับจูบต่ออย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน ก่อนที่เธอจะเลื่อนหน้าอกขึ้นมาราวกับเชิญชวนให้ไอ้ตุ๋นได้ลิ้มรสตามอำเภอใจ

ไอ้ตุ๋นก็ไม่ขัดศรัทธา มันจัดการเลียรอบหัวนมเพื่อสร้างความเสียวซ่าน ก่อนที่มันจะก้มดูดหัวนมสีชมพูของหญิงสาวอย่างหื่นกระหาย เล่นเอาหญิงสาวร้องเสียงหลง ร่องหีก็ยิ่งตอดรัดลำควยเข้าไปอีก ทั้งหมดนี้เล่นเอาไอ้ตุ๋นถึงกับทนต่อไปไม่ไหว มันช้อนไปที่ใต้ข้อพับของหญิงสาวก่อนที่จะเอามาฟาดบนบ่า ท่าจะนี้ช่วยให้มันเอาหญิงสาวในพื้นที่แคบๆได้ถนัดที่สุด เมื่อเข้าที่เข้าทางแล้ว มันก็จัดการซอยใส่เธอทันที

“อ๊างงงงงงง ………. พี่ตุ๋นนนนนนนน” เสียงหวานๆของหญิงสาว ที่ร้องครางลั่นรถอย่างสุดเสียว มันช่างเร้าอารมณ์ไอ้ตุ๋นซะเหลือเกิน แถมร่องหีของเธอก็ช่างฟิต มันกอดรัดจนไอ้ตุ๋นแถบดึงควยไม่ออก ตอนแทงเข้าไปใหม่ก็ครูดไปกับเนื้อจนเสียวไปทั้งลำ เล่นเอาไอ้ตุ๋นถึงกับเงี่ยนจนหูตาลาย ตอนนี้มันไม่สนใจอะไรแล้ว มันจัดการซอยแรงๆใส่หญิงสาวอย่างลืมตาย จนเหงื่อกาฬผลุดขึ้นเต็มร่าง

หลังจากที่ร่วมรักกันในท่านี้อยู่พักหนึ่ง ทั้งคู่ก็จัดแจงเปลี่ยนท่าใหม่ โดยครางนี้หญิงสาวเปลี่ยนมาอยู่ข้างบนบ้าง เบาะที่นั่งก็ปรับให้ตั้งขึ้น ทำให้ตอนที่หญิงสาวกึ่งเปลือยตรงหน้าขย่มควยอย่างเมามันส์ เต้างามของเธอก็จะแกว่งท้ายทายต่อหน้าไอ้ตุ๋น มันจึงไม่ปล่อยเต้างามตรงหน้าให้หลุดมือ จัดการทั้งดูด ทั้งกัด ทั้งขยำ อย่างมันส์ในอารมณ์

“โอยยยยยยย น้องแหวนจ๋า ………. มันควยจริงเว้ยยยยยยยย” พอมาเจอลีลาแสนเร้าร้อนของหญิงสาว ไอ้ตุ๋นเองก็ทนไม่ไหว มันถึงกับร้องครางไม่เป็นภาษา ก่อนที่ปากของมันจะโดนอุดด้วยจูบที่ร้อนแรงของเธอ มันแทบไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าผู้หญิงที่มีเรือนร่างแสนเซ็กส์ซี่ จะมีเรี่ยวแรงมหาศาลถึงเพียงนี้ เธอสามารถขย่มใส่มันอย่างรุนแรงดุเดือดได้เป็นเวลานานโดยไม่หยุดพัก นี่ถ้าเธอไม่ใช่ยอดมนุษย์ก็ต้องเป็นหญิงสาวที่เชี่ยวชาญในเกมส์กาม แต่จะเป็นอะไรก็ช่าง ตอนนี้มันไม่สนใจแล้ว มันขอตักตวงความสุขจากเธอก่อนดีกว่า

และแล้วววว

“อา ……………………….” ไอ้ตุ๋นผวากอดร่างของหญิงสาวแน่น ก่อนที่น้ำเงี่ยนข้นขลักที่อัดแน่นจะโดนฉีดทะลักออกจากปากลำกล้อง น้ำเงี่ยนทั้งหมดไหลเข้ามดลูกของหญิงสาวจนร้อนฉ่า แต่ก็ไม่มีเลยสักหยดที่จะไหลออกมา ………. และแล้วกระบวนการดูดมาน่าก็เริ่มขึ้น ร่างไอ้ตุ๋นกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง

“ไม่เป็นไรน่ะ ใจเย็นๆ” เวโรนิก้าเอ่ยอย่างอ่อนโยนพร้อมกับกอดร่างไอ้ตุ๋นไว้ คำปลอบประโลมของเธอและไออุ่นที่เธอมอบให้ ทำให้ไอ้ตุ๋นคลายความตื่นกลัวไปจนหมด มันกอดร่างงามตรงหน้าแน่นพร้อมกับซุกหน้าลงบนหน้าอกคู่นั้นและค่อยๆหลับไป พร้อมวิญญาณและพลังมาน่าจะเหือดหายไปจากร่าง

เวโรนิก้าลูบใบหน้าของร่างไร้วิญญาณนั้นเบาๆ ถ้าไม่นับสีผิวที่ซีดเซียวแล้ว สภาพของไอ้ตุ๋นตอนนี้ก็เหมือนกับคนกำลังหลับไม่มีผิด แต่กระนั้นก็อดทำให้แวมไพร์สาวใจหายไม่ได้ ผู้ชายคนนี้เป็นคนแรกในรอบหลายสิบปีที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว แม้ภายในใจเธออยากเก็บเขาไว้ แต่เพราะภารกิจเพื่ออาณาจักร ทำให้เธอไม่อาจฝืน ที่เธอทำได้อย่างเดียวก็คือการส่งเขาไปอีกโดยไม่ทรมาน

“อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ตายเปล่าน่ะ” เวโรนิก้าเอ่ยเสียงเรียบหลังจากนำร่างไร้วิญญาณของไอ้ตุ๋นมาวางนอกรถ แวมไพร์สาวจัดการร่ายมนต์ธาตุไฟบทเล็กๆ แต่แค่นั้นก็พอฌาปนกิจร่างของชายหนุ่มให้มอดไหม้ไปได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงพร้อมกับเสียงรถที่พุ่งทะยานออกไป

.
.
.
.
.

“อาร์ตตตตตตตตต หายไปไหนมาตั้งนานน่ะเราน่ะ รู้ไหมพี่เป็นห่วงเราแค่ไหน” พี่แพรเอ่ยเสียงใสเมื่อเห็นคู่รักรุ่นน้องเข้ามาตรงหน้า แม้เธอจะเก็กเสียงเข้มทำเป็นดุนายอาร์ตแค่ไหน แต่ไม่ว่าใครฟังดูก็รู้ว่าเธอดีใจจนแก้มปริ นายอาร์ตเองก็ดูออก เขาขอโทษเธอที่ทำให้เธอเป็นห่วง พร้อมกับยอมเป็นเด็กดีให้คุณครูแพรวาตีเบาๆหนึ่งที

“รู้ว่าอาร์ตจะมาพี่เลยซื้อของที่อาร์ตชอบมาเตรียมไว้เยอะเลย เนี่ยก็อุ่นเสร็จพอดี อาร์ตไปอาบน้ำก่อนไหม จะได้มากินเลย” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานอย่างมีความสุข ก่อนที่เธอจะเปิดเตาไมโครเวฟแล้วเอาไข่พะโล้ในนั้นออกมาจัดวาง จนตอนนี้มีของแทบจะเต็มโต๊ะอาหารแล้ว

“วันนี้พี่แพรมีงานด้วยเหรอ” นายอาร์ตเอ่ยอย่างแปลกใจ วันนี้เป็นวันหยุดแต่หญิงสาวตรงหน้ากับอยู่ในชุดทำงาน เสื้อเชิ้ตสีขาวสวนทับด้วยสูทสีดำ

“อือ จริงๆวันนี้บอสพี่เรียกประชุมน่ะ แต่พี่พอรู้ว่าอาร์ตจะมาพี่ก็บอกบอสพี่ว่าป่วย แล้วก็โดดกลับมาคอนโดนี่แหละ”

“พี่แพร …….” นายอาร์ตเอ่ยเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะตรงเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลัง แม้หญิงสาวจะแปลกใจเล็กน้อยแต่เธอก็ยอมให้เขากอดดีๆโดยไม่ขัดขืน สักพักชายหนุ่มก็หันร่างเธอเข้าหาเขาก่อนที่จะประทับจูบลงบนปากเรียวสวย …….. แต่เพราะด้วยสัญชาติญาณของเธอ เธอก็รับรู้ถึงความผิดปกติได้ จูบนี้ไม่เหมือนจูบครั้งก่อนๆที่เป็นการเล้าโลมก่อนจะมีเซ็กส์ จูบนี้มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน ราวกับผู้จูบ มีอะไรติดค้างอยู่ในใจ

“อาร์ต เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่แพรเอ่ยถามเบาๆหลังจากถอนปากแล้ว

“ผมต้องไปแล้ว พี่แพร” นายอาร์ตเอ่ยเสียงเศร้า

“อะไรอาร์ต อาร์ตจะไปไหน”

“ผมจะไปที่อื่นครับพี่แพร ไกลจากที่นี่มาก แล้วก็ไม่รู้จะได้กลับมาเมื่อไหร่”

“แล้วที่อื่นมันที่ไหนอาร์ต อาร์ตกำลังจะไปไหน” พี่แพรเอ่ยเสียงดังลั่น พร้อมกับพยามคาดคั้นหนุ่มรุ่นน้องเต็มที่ แต่เมื่อไม่ได้ผล เธอก็ค่อยๆเงียบลง ก่อนจะพูดขึ้นใหม่ว่า “งั้นพี่ไปด้วย”

“ไม่ได้ …………. พี่แพรไปกับผมไม่ได้”

“ทำไมอาร์ต นี่มันอะไรกันพี่ไม่เข้าใจ อยู่ๆอาร์ตก็มาบอกกับพี่ว่าจะไปแล้ว จะไปไหนก็ไม่บอก พี่จะไปด้วยก็ไม่ยอม อ้อออออออ จะไปอยู่กับคนอื่นใช่ไหม อาร์ตบอกพี่มาน่ะมันเป็นใคร บอกพี่มา !!” พี่แพรโวยวายดังลั่น พร้อมกับตั้งท่าเตรียมหลั่งน้ำตาอีกแล้ว ทั้งหมดนี้นายอาร์ตก็คิดไว้แต่แรกแล้วว่ามันต้องเกิด เมื่อแผน A ไม่ได้ผล ก็ต้องใช้แผน B ล่ะ

“พี่แพร ……… ผมขอโทษ” ทันทีที่พูดจบนายอาร์ตก็ร่ายมนต์พร้อมกับวาดมือผ่านหน้าหญิงสาว ได้ผล!! หญิงสาวหลับกลางอากาศทันทีแต่ก่อนที่เธอจะล้มลง นายอาร์ตก็ช้อนรับร่างเธอไว้อย่างง่ายดาย ก่อนจะอุ้มเธอลงไปนอนบนเตียง

อย่างที่วิเวียนเคยบอกไว้ แม้นายอาร์ตจะเรียนมนต์พลังธาตุไม่ได้ แต่กับมนต์โลกเก่า นายอาร์ตก็พอเรียนได้อยู่ ดังนั้นเขาก็เลยขอให้พรีสสาว สอนมนต์ให้เขาสัก 2-3 บท ซึ่งบทแรกก็คือมนต์นิทรานี่แหละ …… หลังจากที่สะกดพี่แพรให้หลับได้แล้ว นายอาร์ตก็เอามือเตะไปที่ขมับทั้งสองข้างของเธอ เพื่อจะร่ายมนต์บทที่สองทันที

.
.
.

และพอนายอาร์ตลืมตาขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองยืนอยู่บนสถานที่ๆหนึ่ง ที่บรรยากาศมืดมิดไปหมด มีเสียงสลัวๆเท่านั้นที่ส่องให้ยังพอมองเห็นได้บ้าง นายอาร์ตหันไปมาช้าๆก่อนจะพบเงาร่างอีกคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกล นายอาร์ตจึงเดินเข้าไปหาร่างนั้นทันที

“นี่มันอะไรกันอาร์ต เกิดอะไรขึ้น” เงาร่างนั้นก็คือพี่แพรนี่เอง

“ที่นี่ก็คือโลกในจิตใต้สำนึกครับพี่แพร ผมใช้เวทย์มนต์พาเรามาที่นี่”

“อาร์ต ……. อาร์ตพูดอะไร พี่ไม่เข้าใจ” พี่แพรร้องถามเสียงสูง แต่นายอาร์ตก็ไม่ตอบอะไร เขาจัดการร่ายเวทย์ต่อ มือของเขาเรืองแสงสีทองขึ้นมาทันที ก่อนที่มันจะสว่างจ้า แล้วกลายเป็นกล่องสีทองใบใหญ่ลอยคว้างเหนือฝ่ามือ

มนต์บทนี้ แท้จริงแล้วก็คือมนต์ลบความทรงจำนี่เอง มันเป็นมนต์ที่ชาว wonderland ใช้ลบความจำส่วนเกินที่ดูดจากมาน่า แน่นอนเมื่อลบตัวเองได้ มันก็ลบคนอื่นได้ แม้การลบความจำคนอื่นใน wonderland จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะคนที่นั่นจะเรียนรู้เวทย์ป้องกันกันทุกคน แต่มันก็ยังใช้ลบความจำคนในโลกอื่น อย่างโลกปัจจุบันนี้ได้

พี่แพรถึงกับอึ้งจนตาค้าง ที่อยู่ๆก็เห็นหนุ่มรุ่นน้องเสกกล่องสีทองกลางอากาศ แต่พอเธอตั้งสติได้ อะไรบางอย่างก็ร้องเตือนถึงความไม่ชอบมาพากลของกล่องนั้น เธอจึงตะโกนถามทันที “อะไรน่ะอาร์ต”

“กล่องนี้เขาเรียกว่ากล่องความจำครับพี่แพร แต่ละกล่องก็จะบรรจุความทรงจำของแต่ละเรื่องเอาไว้ กล่องนี้ก็เหมือนกัน” ทันทีที่เขาอธิบายกับหญิงสาวเสร็จ เขาก็เอื้อมมือไปบีบกล่องอย่างแรงทันที !! ทำให้เจ้ากล่องนั้นหดลงทันทีหนึ่งส่วนพร้อมกับเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของ หญิงสาว นั่นเพราะเธอตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆเหมือนมีใครเอาเข็มมาทิ่มในหัวเธอ ครั้นพอจะถามชายหนุ่มตรงหน้าว่านี่มันอะไรกัน เธอก็พบเรื่องที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่า

เธอลืมชื่อชายหนุ่มตรงหน้าไปแล้ว

“นี่มันอะไรกัน ทำไมพี่นึกชื่อเธอไม่ออก” พี่แพรหวีดร้องอย่างตื่นกลัว

“ผมขอโทษครับพี่แพร แต่ผมไม่มีทางเลือก พี่ลืมผมซะเถอะ”

“ฝีมือเธอใช่ไหม เธอทำอะไรกับพี่ !!”

“พี่แพร …….. ผมรู้น่ะครับว่าพี่รักผมแค่ไหน ตรงนี้ผมซึ้งใจจริงๆ แต่ผมเองก็รู้เหมือนกันว่าพี่จะทำอย่างไรถ้าวันหนึ่งผมต้องหายไป ผมต้องไปแล้วน่ะครับพี่แพร แต่ผมก็ไม่อยากให้การไปของผมกลายเป็นสาเหตุให้พี่ทำร้ายตัวเอง ผมอยากให้พี่เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ถ้าพี่ยังมีความทรงจำเรื่องผมอยู่พี่ก็จะเริ่มไม่ได้ ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้ ผม…”

“เธอก็เลยลบความจำเรื่องเธอไปจากพี่งั้นเหรอ ….. นี่น่ะเหรอที่เธอบอกว่าเธอรู้ ….. เธอคิดเหรอว่าแบบนี้พี่จะมีความสุข …. เธอมันไม่เคยรู้อะไรเลย !!”

.
.

“พี่เกลียดเธออออออออออออ !!”

.
.

นายอาร์ตค่อยๆลูบผมหญิงสาวเบาๆ ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว ผลจากการใช้เวทย์ลบความจำของเธอจะทำให้เธอหลับไปแบบนี้สักพัก แต่นั่นก็นานพอให้อาร์ตเก็บข้าวของทุกอย่าง รูปภายทุกใบ อะไรก็ตามที่จะทำให้เธอนึกถึงเขาออกมาจากคอนโด หลังจากเก็บของเสร็จ เขาก็เดินไปจูบๆเบาที่ใบหน้าสวยหวานของเธอ เพื่อบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย

“ดูแลตัวเองดีๆน่ะครับพี่แพร”

.
.
.
.
.

ตอนนี้เข้าสู่เวลาพลบค่ำแล้ว บนถนนหนทางเงียบเชียบราวกับไม่มีใครอยู่สักคน มีเพียงนายอาร์ตคนเดียวที่แบกเป้บนบ่าเดินไปตามทางเดิน ตอนนี้ในใจเขาสับสนไปหมด ใจหนึ่งก็ดีใจที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แต่อีกใจก็ว้าวุ่น ว่าที่เขาทำไปทั้งหมดมันถูกแล้วหรือไม่ ทำแบบนี้จะดีกับพี่แพรจริงๆเหรอ ….. แต่ช่างเถอะ ทุกอย่างมันไปเกิดไปแล้ว จะมานึกย้อนเสียใจทีหลังก็ไม่ได้อะไร เมื่อคิดได้ดังนั้น นายอาร์ตก็สูดหายใจเข้าปอดช้าๆ พร้อมกับเดินทางกลับบ้านทันที

แต่ไม่ทันที่เขาจะเดินไปได้ไกล แสงไฟหน้าของรถคันหนึ่งก็สว่างจ้า เล่นเอานายอาร์ตถึงกับต้องหรี่ตาหลบแสง เจ้ารถคันนั้นแล่นมุ่งหน้าเข้าหานายอาร์ตช้าๆ พอรถคันนั้นเข้าใกล้ได้มากพอและตานายอาร์ตกับปรับแสงได้ เขาก็เห็นว่ารถคันนั้น ความจริงแล้วก็คือรถไอ้ตุ๋นนั่นเอง

“เอ้าไอ้เหี้ยตุ๋น เปิดไฟสูงทำไมว่ะ แล้วนี่มึงมาเนี่ยได้ไงว่ะ ไหนว่าจะพาหญิงไปเที่ยวไง” นายอาร์ตที่กำลังร้องตะโกนอยู่นั้นถึงกับอึ้งอ้าปากค้าง เพราะคนที่ก้าวลงจากรถไม่ใช่เพื่อนมัน แต่คนผู้หญิงสุดเซ็กส์ซี่คนหนึ่งที่เขาจำได้ดี “พวกแวมไพร์ !”

“หม๊ามี๊มารับกลับบ้านแล้วน่ะจ๊ะ” เวโรนิก้าเอ่ยทักเสียงอ่อนหวาน แต่ชายหนุ่มไม่อยู่ฟังแล้ว เขาทิ้งข้าวของแล้ววิ่งหนีทันที แต่เขาวิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ นกกาฝูงหนึ่งก็พุ่งลงมาขวางหน้าเขา ก่อนจะรวมตัวกันเป็นร่างคน

“จะหนีไปไหนว่ะ ไอ้หนุ่ม” ตอนนี้ข้างหลังก็โดนเวโรนิก้ายืนคุม ข้างหน้าก็มีมาโฮนยืนขวาง นายอาร์ตถึงกับหน้าถอดสี แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาหันซ้ายขวาก่อนจะเห็นตอกเล็กๆข้างๆ เมื่อเห็นทางดังนั้นเขาก็หนีแวมไพร์ทั้งสองเข้าไปในตอกทันที

แต่ไม่ทันที่นายอาร์ตจะก้าวพ้นตอกดี กำปั้นลุ่นๆของใครคนหนึ่งก็ปล่อยเข้าใส่หน้าท้องของเขาอย่างจัง เล่นเอานายอาร์ตตัวงอราวกับกุ้งแม่น้ำ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกเหวี่ยงกระเด็นราวกับเศษไม้

“เสร็จกูล่ะมึง แค่นี้มึงก็หนีไปไหนไม่ได้แล้วเว้ย” เจ้าแวมไพร์เบลลิคยิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะย่างสามขุมเข้าหาเขาช้าๆ ส่วนนายอาร์ตนั้นนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น จะลุกก็ลุกไม่ไหว ร่างปวดไปหมด …. นี่เขาจะเสร็จพวกมันแล้วเหรอเนี่ย !!

.
.
“อาร์ตตตตตตตตตตตตตตต หนีไปไหนเนี่ย อาร์ตหนีเที่ยวเหรออออออ” เสียงวีนๆของหญิงสาวที่นายอาร์ตคุ้นหูดังก้องในหัว ทำให้เขายิ้มอย่างมีความหวัง เขาจัดการรวบรวมสมาธิเพื่อติดต่อกับวิเวียน พร้อมกับตะโกนหา

“วิเวียนนนนนน ช่วยผมด้วย !!”

“หืมมมมมมมม เรียกหาใครว่ะ ไอ้ควาย ไม่มีใครมาช่วยมึงทันหรอกเว้ย” เบลลิคตะโกนตอบกลับ แต่ทันทีที่มันพูดจบ มันก็ต้องแปลกใจ เพราะอยู่ๆก็มีวงกลมสีแดงสว่างจ้าวงหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหน้าของนายอาร์ต แถมในนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ และทันทีที่แสงจ้าสีแดงตรงหน้าหายไป หญิงสาวคนนั้นก็ตวาดลั่นทันที

“หมัดอัดกระแทก”

มนต์ทำลายระดับเลเวล 4 ถูกซัดเข้าใส่เจ้าเบลลิคอย่างรวดเร็ว แถมเจ้าเบลลิคก็ไม่ทันระวังอยู่แล้วด้วยมันเลยโดนอัดเข้าไปเต็มๆ เล่นเอาร่างใหญ่ยักษ์ของมันถึงกับลอยกระเด็นไปไกลหลายเมตร วิเวียนยิ้มดีใจขึ้นมาแวบหนึ่งที่สามารถสกัดเจ้าแวมไพร์ตรงหน้าไว้ได้ ก่อนที่เธอจะหันไปดูอาการชายหนุ่มทันที

“วิเวียนมาได้ไงเนี่ย” นายอาร์ตร้องถามก่อนจะพยามยันกายลุกขึ้นยืน

“ก็มนต์เชื่อมจิตไงอาร์ต นอกจากมันจะช่วยให้เราติดต่อทางโทรจิตกันได้ มันก็ยังช่วยสร้างประตูมิติให้เรากระโดดไปมาหากันได้ด้วยน่ะ” วิเวียนอธิบายเสร็จก็ตีเบาๆหนึ่งทีพร้อมกับทำเสียงดุใส่ “เดี๋ยวนี้เหลวไหลน่ะ มีแอบหนีเที่ยวด้วยเหรอ กลับไปจะทำโทษให้น่าดูเลย”

“เจอกันอีกแล้วน่ะคุณพรีสผมเงิน” เสียงหญิงสาวที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้วิเวียนต้องหันมองกลับไปทันที การปรากฏกายของแวมไพร์สาวผมดำทำให้วิเวียนหน้าตึงขึ้นมาทันที แวมไพร์สาวตนนี้สามารถใช้เวทย์ได้ทั้ง 5 สาย แค่คิดก็ยากจะรับมือแล้ว …….. แต่เมื่อเธอมองไปอีกด้าน เธอก็พบว่ามีแวมไพร์ร่างผอมสูงอีกตนมาดักทางไว้ ! แวมไพร์ตนนี้เธอจำได้ว่ามันคือตัวที่นำทีมมาจับอาร์ตเมื่อคราวก่อน นี่เท่ากับว่าเธอต้องรับมือแวมไพร์ชั้นแม่ทัพ 2 ไม่สิ 3 ตนพร้อมกัน !!

“ไปเร็วอาร์ต !!” สถานการณ์แบบนี้มีแต่หนีทางเดียวเท่านั้น ว่าแล้วหญิงสาวก็คว้ามือชายคนรักเตรียมหนีทันที

“ไม่มีทางหรอกเว้ยอีพรีสสสสสสส !” แต่มีเหรอที่เหล่าแวมไพร์จะยอม มาโฮนตวาดลั่นพร้อมกับสะบัดแขนขวา พริบตานั้นร่างแยกของมันก็บินออกมาตัวหนึ่ง ก่อนที่เจ้านกกาตัวนั้นจะบินพุ่งเข้าโจมตีพรีสสาวทันที แต่เธอก็ยังไวพอกางคาถาโลห์พิทักษ์มาป้องกันได้ทัน ตูมมมมมมมมมมม !! เสียงเวทย์ปะทะกันดังก้อง แรงกระแทกที่รุนแรงดีดวิเวียนและนายอาร์ตให้กระเด็นออกจากกัน ทำให้เวโรนิก้าฉวยโอกาสนี้ทันที

“พันธนาการทราย !!”

ทันทีที่เสียงร่ายเวทย์จบ ทรายจำนวนมากก็ผลุดขึ้นมาจากพื้น ตรงเข้ารัดตัวนายอาร์ตทันที ขาทั้งสองข้างของเขาโดนยึดแน่นกับพื้น ลำตัวของเขาก็โดนทรายพันแน่นจนขยับแขนไม่ได้เลย แถมทรายพวกนี้ก็แข็งแรงยิ่งกว่าเหล็กกล้า ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนแค่ไหนมันก็ไม่ขาด ทำให้ตอนนี้เขาทำได้แค่สองอย่าง ไม่นั่งบนพื้นก็ต้องนอนราบไปแค่นั้น

“แย่ล่ะสิ ทำไงดีล่ะวิเวียน อาร์ตโดนเวทย์ดินเลเวล 6 ล็อคไว้เนี่ย แบบนี้ก็พาอาร์ตหนีไม่ได้แล้วสิ แถมถ้าไม่จัดการข้า เวทย์ก็ไม่คลายด้วยน่ะ” เวโรนิก้าเอ่ยเสียงสูงยั่วโมโหพรีสสาว ซึ่งก็ได้ผล วิเวียนทำได้แค่กัดฟันกรอดเท่านั้น

“ข้าจะจัดการมันเอง คราวที่แล้วมันทำข้าไว้แสบมาก” มาโฮนกล่าวขึ้นอย่างมาดร้าย พร้อมกับก้าวเท้าไปหาหญิงสาว แต่ไม่ทันไรก็มีเสียงห้ามซะก่อน

“ข้าเองมาโฮน !!”เบลลิคนั่นเอง ตอนนี้มันลุกขึ้นยืนตาลุกวาว “เมื่อกี้อีนี่เล่นข้าทีเผลอ แบบนี้มันต้องลากคอมันมาเย็ดให้ตายคาควย !”

“วิเวียนหนีไป ไม่ต้องห่วงผม” นายอาร์ตที่โดนล็อกไว้แน่นร้องตะโกนบอก

“หนีได้ไงล่ะอาร์ต” หญิงสาวหันมาตอบ “ไม่ต้องห่วงน่ะ เดี๋ยววิเวียนจัดการพวกมัน 3 ตัวเรื่องก็จบแล้ว”

“ปากดีนักน่ะมึง !” เบลลิคตวาดลั่นพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ทันที ! แต่พรีสสาวก็ระวังตัวอยู่แล้ว เธอพุ่งหลบมันได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เจ้าแวมไพร์ร่างอ้วนวิ่งเข้าอัดรถยนต์ที่จอดแถวนั้นเข้าอย่างจัง สภาพรถถึงกับยับเยินราวกับถูกลิบล้ออัดยังไงยังงั้น เมื่อการจู่โจมทีแรกไม่สำเร็จ เจ้าเบลลิคก็เลยตั้งท่าเตรียมจู่โจมใหม่ แต่พรีสสาวก็ไม่ยอมง่ายๆ เธอรวบรวมพลังเวทย์ก่อนจะชิงซัดเข้าใส่ก่อนทันที

“หมัดอัดกระแทก” มนต์ธาตุลมเลเวล 4 พุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าเบลลิคก็ไม่ตื่นตกใจ มันแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะร่ายเวทย์ประจำตัว

“ปราณคุ้มกายธาตุดิน”

พริบตานั้นผิวร่างของเจ้าเบลลิคก็เปลี่ยนสีจากขาวสดเป็นสีน้ำตาลที่เป็นสี ประจำธาตุดิน เวทย์ลมที่วิเวียนซัดมาเมื่อกระทบเข้า ก็พลัยสลายกลายเป็นลมเบาๆไปทันที วิเวียนเองก็ถึงกับกลืนน้ำลายช้าๆ นี่เธอต้องเจอแวมไพร์ที่สายข่มเธอซะแล้ว …… ส่วนแวมไพร์สาวที่ยืนห่างออกไปก็อดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นมาเบาๆ

“เวทย์กิ๊กก๊อก” พูดเสร็จเธอก็หันไปมองแวมไพร์มาโฮนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “ข้าก็รู้อยู่ว่าเจ้าเบลลิคมันโง่ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะโง่ขนาดนี้ ที่ไปฝึกเวทย์กิ๊กก๊อกพลันนั้นจนถึงเลเวล 6 เวทย์นี้มันจะป้องกันก็กันได้แค่ 8 ส่วน เวทย์โล่ห์พิทักษ์ยังจะกันได้มากกว่าอีก ข้อดีของไอ้เวทย์ปรานนี่มันก็แค่ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ กับ ฝึกง่ายแค่นั้นเอง”

แต่เรื่องนี้มีเหรอที่วิเวียนจะไม่รู้ จะว่าไปนี่ก็นับเป็นโชคดีในโชคร้ายของเธอก็ได้ แม้เจ้าแวมไพร์ตรงหน้าจะใช้เวทย์ได้เลเวลสูงกว่าเธอ แถมธาตุก็ยังข่มกันอีก แต่มันดันเลือกใช้วิชาผิด วิชานี้มันยังมีจุดอ่อนตรงที่ว่าทั้งร่างจะมีจุดจุดหนึ่งที่ปรานคุ้มกันด้อย กว่าจุดอื่น เรียกว่าเป็นจุดตายก็ว่าได้ ขอแค่เพียงเธอหามันเจอ เธอก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ว่าแล้วพริสสาวก็พุ่งเข้าหาเจ้าแวมไพร์ร่างยักษ์นั่น พร้อมกับถีบเข้าที่ยอดอกมันอย่างจัง แต่เจ้าแวมไพร์กลับไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด

“อีโง่ ! ต่อให้มึงเตะแรงแค่ไหนเวทย์ข้าก็กันได้โว้ยยยยยยยย” เจ้าเบลลิคตะโกนใส่อย่างสะใจ ก่อนที่มันจะปล่อยหมัดสวนกลับไป และทันทีที่หมัดของมันกระทบเป้าหมาย ก็เกิดเสียงดัง ตูมมมมมมมมม ดังสนั่นหวันไหวไปทั่ว

“วิเวียนนนนนนนน” นายอาร์ตตะโกนดังลั่น แรงหมัดของเจ้าเบลลิคทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว มันก็เลยไม่เห็นว่าหญิงสาวเป็นตายร้ายดียังไง แต่เมื่อฝุ่นจางลงเขาก็ยิ้มออก เมื่อเห็นหญิงสาวพลิกตัวหลบหมัดของเจ้าแวมไพร์ได้อย่างหวุดหวิด แต่มันก็ยังวาสงใจไม่ได้ เพราะหมัดของเจ้าแวมไพร์รุนแรงมาก ขนาดผิวคอนกรีตยังโดนต่อยจนยุบลงไปได้ ถ้าโดนเข้าจังๆนี่ไม่ตายก็ต้องกระดูกป่นไม่เหลือแน่ๆ

“หลบเก่งนักน่ะมึง” เจ้าเบลลิคกัดฟันกรอดด้วยความโมโห พร้อมกับพุ่งเข้าใส่วิเวียนอีกครั้ง หมัดเท้าของมันตรงเข้าประเคนใส่วิเวียนไม่หยุด แต่ก็เปล่าประโยชน์ หมัดของมันแม้จะรุนแรงแต่ก็เชื่องช้า พรีสสาวที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วจึงสามารถพลิกตัวหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับเตะสวนเข้าสามจุดเน้นๆ ทั้งกกหู ลิ้นปี่ และชายโครง

แม้เจ้าแวมไพร์จะให้เวทย์ป้องกันไว้แล้ว แต่เมื่อโดนเตะเน้นๆแบบนี้ไปเรื่อยๆมันก็ชักเริ่มออกอาการ แต่นี่ก็เท่ากับเป็นการยั่วโมโหมันมากขึ้นเช่นกัน เจ้าเบลลิคคำรามขึ้นอีกครั้งก่อนจะพุ่งเข้าลุกไล้วิเวียนหนักขึ้น จนเธอหลบหลีกมันได้จวนเจียนขึ้นทุกที

และสุดท้ายเธอก็พลาดจนได้ เมื่อเจ้าเบลลิคสามารถจับเข้าที่เส้นผมของเธอ มันร้องดีใจมาหนึ่งคำก่อนที่จะเหวี่ยงเธอเข้ากระแทกกำแพงด้านข้าง ไม่พอ มันยังตามมาคว้าคอและยกขึ้นสูงจนเท้าเธอลอยเหนือพื้น หญิงสาวพยามดิ้นรนอย่างทรมาน แต่ก็ไม่มีทีท่าจะดิ้นหลุดจากมือแข็งแรงข้างนั้นได้เลย

“ฮ่าๆๆ ทรมานล่ะสิมึง นี่แค่เริ่มต้นน่ะเว้ย …….. อือหืออออออ นมมึงนี่ใหญ่ไม่เลวนี่หว่า” เจ้าเบลลิคหัวเราะอย่างสะใจ พร้อมๆกับขยำเต้างามของเธออย่างป่าเถื่อน โดยที่เธอไม่อาจจะขัดขืนได้เลย เพราะคอที่โดนบีบหนักทำให้เธอหายใจไม่ออก สติของเธอก็เริ่มเลือนรางลงทุกที

“วิเวียนนนนนนนนนน” เสียงตะโกนก้องของนายอาร์ตช่วยปลุกสติวิเวียนกลับมาอีกครั้ง ใช่ เธอจะมายอมแพ้ไม่ได้ เพราะไม่งั้นอาร์ตจะต้องแย่แน่ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้น วิเวียนก็รวบรวมพลังเฮือกสุดท้าย เตะเสยเข้าที่ปลายคางเจ้าเบลลิคอย่างจัง ได้ผล …….. เจ้าเบลลิคสะดุ้งเฮือกจนต้องถอยไปหลายก้าว มือที่บีบรัดหญิงสาวอยู่ก็ต้องปล่อยออกมา

เจ้าเบลลิคหันมามองเธออีกครั้ง ตอนนี้เลือดขึ้นหน้ามันแล้ว มันจึงวิ่งเข้าใส่วิเวียนทันที พร้อมกับซัดหมัดนำไปก่อนหนึ่งหมัด แต่วิเวียนก็ย่อตัวหลบได้ทัน ก่อนที่เธอจะกำหมัด แล้วเสยอัปเปอร์คัทเข้าใส่ทันที ………. และชั่วขณะที่หมัดของเธอกำลังเข้าใกล้ปลายคางเจ้าแวมไพร์ร่างอ้วนนี่นั้น

“หมัดอัดกระแทก !!”

หญิงสาวตะโกนร่ายเวทย์ทันที ทำให้เวทย์ธาตุลมเลเวล 4 บทนี้พุ่งเข้ากระแทกปลายคางเจ้าเบลลิคในระยะประชิด ร่างยักษ์ของมันถึงกับล้มตึงลงไปกองเลยทีเดียว …… ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะปลายคางของเจ้าเบลลิคคือจุดตาย ที่วิเวียนพึ่งหาเจอเมื่อครู่ โดนดูจากเมื่อเธอโจมตีปลายคาง มันจะออกอาการมากกว่าจุดอื่น

“ฮ่าๆๆ โดนพรีสเลเวลต่ำกว่า แถมยังธาตุแพ้ทาง ซัดจนล้มไปกองตั้ง 2 ครั้ง เป็นข้าคงอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วว่ะ” เจ้าเบลลิคได้ยินดังนั้นถึงกับกัดฟันกรอดอย่างเคืองแค้น ไหนจะโดนพรีสสาวตรงหน้าเล่นงานจนปวดไปทั้งร่าง แล้วนี่ยังมาโดนเวโรนิก้า แวมไพร์ที่ไม่ถูกกับมันเย้ยหยันอีก มันค่อยๆยันกายขึ้นมาอย่างยากลำบาก จริงๆการโจมตีเมื่อครู่ของวิเวียนมีสิทธิ์ฆ่ามันได้แล้วแต่โชคดีที่ผิวใหม่ ของมันเป็นผิวอย่างหนาพิเศษ มันเลยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ตอนนี้แสงสีน้ำตาลที่อาบผิวมันอยู่หายไปแล้ว เป็นสัญญาณว่ามันคิดหันไปโจมตีแบบอื่นแทน

“อัสนีบาต 5 วิถี”

เวทย์สายฟ้าเลเวล 6 ถูกร่ายขึ้นทันที วิเวียนที่เห็นดังนั้นก็กระโดดถอยออกไปตั้งหลักห่างออกไป พร้อมเตรียมรับมืออย่างไม่ประมาท แต่เจ้าเบลลิคก็ไม่รีบร้อน มันเดินเข้าหาเธออีก 2-3 ก้าวก่อนจะแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย พร้อมกับหันไปจ้องมองเป้าหมายไม่วางตา ………. เป้าหมายที่ไม่ใช่เธอแต่เป็นนายอาร์ต !

“ตายยยยยยยย” สายฟ้าทั้ง 5 สายที่ชาร์ตอยู่ถูกซัดออกไปทันที มันพุ่งเข้าหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีว่าใครก็ไม่สามารถหยุดมันได้ทันแล้ว

“อาร์ตตตตตต” วิเวียนร้องเสียงหลง เธอไม่มีทางเลือกแล้ว เวทย์เท้าวายุถูกร่ายขึ้นทันที แค่พริบตาเดียวหญิงสาวก็ไปขวางสายฟ้าได้อย่างฉิวเฉียดแต่มันก็กะทันหันเกิน ไป เธอร่ายเวทย์ป้องกันใดๆไม่ทัน ทำให้เธอต้องรับสายฟ้านั้นไปเต็มๆ

“วิเวียนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”

นายอาร์ตร้องเสียงก้อง เขาดิ้นรนจะเข้าไปหาร่างของเธอที่โดนช็อตแทนเขาอย่างเต็มที่ แต่ก็ติดที่ทรายที่พันธนาการร่างเขาไว้ ทำให้เขาต้องดูเธอโดนทำร้ายอย่างไม่อาจจะทำอะไรได้ ในขณะที่วิเวียนก็ไม่ยอมแพ้ เธอฝืนยืนหยัดรับสายฟ้าทั้งหมด จนกระทั้งมันช็อตเสร็จนั่นแหละ เธอถึงยอมล้มลงไปกอง

“ตกใจอะไรว่ะ อีนี่มันยังไม่ตายหรอกน่า” เจ้าเบลลิคหัวเราะชอบใจพร้อมกับย่างเท้าเข้ามาใกล้ แต่แล้วมันก็ต้องชะงักขนลุกไปทั่วร่างเมื่อมันได้สบตาโกรธแค้นของชายหนุ่ม แต่กระนั้นมันก็ยังแก้เกี้ยวด้วยการลากหญิงสาวออกมาแทน “เมื่อกี้ทำกูแสบนักน่ะ คราวนี้กูจะจัดการมึงให้หนำใจเลย”

“ไอ้เลวววววว” วิเวียนฝืนด่าเจ้าแวมไพร์ตรงหน้าอย่างอ่อนล้า

“ฮ่าๆๆ นี่มันสงครามน่ะเว้ยไม่ใช่เล่นขายของ จะโทษก็ต้องโทษที่มึงมันอ่อนเองเถอะ ฮ่าๆๆ” เจ้าเบลลิคพูดจบมันก็ก้มไปเลียแก้มใสๆของหญิงสาวอย่างหื่นกระหาย มืออีกข้างก็เอื้อมไปขยำเต้านมของวิเวียนอย่างรุนแรงต่อ ร่างของวิเวียนที่โดนช็อตด้วยเวทย์เลเวล 6 ทำให้ตอนนี้เธอไม่อาจจะขยับเขยื้อนใดๆได้ ต้องนอนเป็นของเล่นให้ไอ้ยักษ์กักขะผู้นี้ย่ำยี

“ไอ้เหี้ยยยยยยย อย่ายุ่งกับเธอน่ะเว้ย ปล่อยเธอ กูบอกให้มึงปล่อยไง ปล่อยยยยยย” นายอาร์ตตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เขาพยามดิ้นรนอย่างเต็มที่ จนตอนนี้เนื้อตัวเขาเสียดสีไปกับเม็ดทรายจนเป็นแผลเลือดไหลซึมไปหมด แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้พยามดิ้นรนต่อไปแม้มันจะไม่มีประโยชน์ใดๆเลยก็ตาม

“ทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยว่ะ ฮ่าๆๆ เอางี้มึงดูนี่” เจ้าเบลลิคร้องอย่างสบายอารมณ์ การเย็ดหญิงสาวต่อหน้าคนรักของเธอนี่แหละ ที่มันเร้าอารมณ์มันสุดแล้ว ว่าแล้วมันก็จัดแจงปลดกางเกง โชว์ท่อนเอ็นขนาดยักษ์สมกับรูปร่าง จากนั้นก็จัดแจงจิกหัววิเวียนขึ้นมา แล้วเอาท่อนเอ็นยัดใส่ปากเธอทันที

“ซี๊ดดดดดดดด ปากอีนี่โคตรนุ่มเลยว่ะ นี่มึงเย็ดปากมันทุกวันเปล่าว่ะ วันนี้แบ่งให้กูเย็ดมั่งน่ะ” หลังจากที่เจ้าเบลลิคเย้ยหยันนายอาร์ตเสร็จแล้ว มันก็จัดการซอยเอวทันที ท่อนควยที่ยาวใหญ่ กระแทกปากจนทะลุลึกไปถึงคอหอย สร้างความสะใจให้แก่มันจนมันต้องแหงนหน้าซูดปากอย่างเมามัน

แต่หญิงสาวกลับทรมานไม่น้อย ท่อนเอ็นของเจ้าเบลลิคขนาด 10 นิ้วเห็นจะได้ มันใหญ่เกินไปจนปากของเธอต้องปวดไปหมด แถมความยาวก็ยาวลึกไปถึงคอหอย ทำให้ทุกครั้งที่มันแทงลงมา เธอถึงกับต้องสำลักตาม แต่เจ้าแวมไพร์ก็ไม่คิดจะสนใจ มันปฏิบัติกับเธอราวกับว่าเธอเป็นสิ่งของที่ใช้ระบายความใคร่เพียงอย่าง เดียวยังไงยังงั้น

น้ำตาใสๆของเธอไหลอาบแก้มเป็นทาง น้ำตาที่ไหลหลั่งไม่ใช่เพราะเจ็บปวด ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นเพราะเธอเสียใจ เสียใจที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ สภาพที่โดนย่ำยีต่อหน้าชายที่เธอรัก เสียใจที่ต้องมาเห็นชายที่เธอรักร่ำร้องจนเสียงแหบแห้ง เสียใจที่ต้องเห็นเขาดิ้นรนจะมาช่วยเธอจนตัวเขาเลือดไหลซิบๆเป็นทาง เธอหลับตาลงช้าๆพร้อมกับอ้อนวอนในใจ เธอภาวนาให้เรื่อนี้มันจบลงโดยเร็วสักที อย่างน้อยอาร์ตก็จะได้ไม่ต้องมาทรมานกับเธอไปมากกว่านี้

ชั่วพริบตานั้น ….. ร่างเงาวูบหนึ่งก็พุ่งเข้ามา เวโรนิก้านั่นเอง แวมไพร์สาวพุ่งเข้ากลางวงของทั้งสามอย่างรวดเร็วก่อนจะก้าวเข้าไปหานายอาร์ต ที่กำลังคลุ้มคลั่ง ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน แม้แต่วิเวียนเองก็ไม่เข้าใจ แต่ก่อนที่จะมีใครเอ่ยถาม แวมไพร์สาวก็ลูบหัวนายอาร์ตเบาๆก่อนจะร่ายเวทย์

“ห้วงนิทรา”

พริบตานั้นสตินายอาร์ตก็ขาดลง เขาโดนสะกดให้หลับลึกทันที โดยมีเสียงร้องอย่างไม่พอใจของเจ้าเบลลิค

“มึงจะมาเสือกทำไมเนี่ยเวโรนิก้า ……… กูกำลังมันส์ๆอยู่เลยน่ะเว้ยยยยยยยยย”

.
.
.
.
.

“วิเวียนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”

นายอาร์ตตะโกนก้องพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่เขาจะแปลกใจว่าอยู่ที่ใด ที่นี่มันช่างมืดมิดจนมองไม่เห็นทางใดๆเลย แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เขาอยู่ไหนมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ ที่สำคัญก็คือไม่รู้ตอนนี้วิเวียนจะเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อคิดได้ดังนั้นนายอาร์ตก็ออกวิ่งไปทันที แม้จะรู้ไม่ว่าวิ่งไปไหนก็ตาม

แต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งนานเท่าไหร่ หรือไวแค่ไหน เขาก็ไม่เห็นทางออกใดๆเลย ราวกับโลกมืดแห่งนี้มันช่างกว้างใหญ่มหาศาล หลังจากวิ่งอยู่นาน สุดท้ายนายอาร์ตก็ต้องสะดุดเท้าตัวเองล้มลงอย่างหมดท่า

.
.

“วิ่งในที่มืดๆแบบนี้มันอันตรายน่ะ”

.
.

เสียงพูดของชายอีกคนที่ดังขึ้นทำเอานายอาร์ตต้องหันไปมองอย่างตกตะลึง ก่อนที่เขาจะเอ่ยตวาดลั่นกลับไป “แกเป็นใคร”

ชายลึกลับคนนั้นก็ไม่ตอบอะไร นอกจากดีดนิ้วเบาๆ พริบตานั้น คบเพลิง 2 กองก็ถูกจุด ทำให้โลกมืดแห่งนี้มีแสงสว่างไสวขึ้นมา ทำให้นายอาร์ตเห็นภาพชายตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ผมของเขาสีดำยาวสยาย กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่ราวกับบัลลังค์ของราชา แต่จะผิดแปลกก็ตรงที่ทั่วทั้งร่างของเขาโดนโซ่ตรวนมัดระโยงระยางไปหมด

“พี่สาวคนนั้นใจดีไม่เลวเลยน่ะ สะกดเจ้าให้จิตดำดิ่งสู่โลกจิตใต้สำนึก เจ้าจะได้หลับลึกไม่ต้องรับรู้เรื่องราวใดๆ แต่ว่านางไม่รู้ว่าโลกนี้มีข้าอยู่ เจ้าถึงฟื้นสติมาอีกครั้ง”

แต่นายอาร์ตก็ไม่คิดจะสนใจฟัง ในหัวของเขาตอนนี้มีแต่วิเวียนเท่านั้น ตอนนี้เธอกำลังโดนไอ้แวมไพร์บ้ากามข่มขืนอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง อากัปกริยาเหล่านี้ของนายอาร์ตอยู่ในสายตาชายแปลกหน้าคนนั้นหมด ชายแปลกหน้าคนนั้นจึงจัดแจงดีดนิ้วเบาๆอีกครั้ง พริบตานั้นภาพของวิเวียนก็ปรากฏขึ้นทันที

ในตอนนี้หญิงสาวอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เนื่องจากเสื้อผ้าที่เคยสวมใส่โดนฉีกขาดจนหมด ขาทั้งสองข้างของเธอถูกจับมาวางฟาดบ่าของเจ้าแวมไพร์ตัวร้าย โดยมีใบหน้าของมันซุกอยู่ในหว่างขาของเธอ พร้อมกับดูดเลียร่องหีของเธออย่างเมามัน โดยที่หญิงสาวทำได้เพียงเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้คล้อยตามอารมณ์เสียวที่มัน ปรนเปรอ แม้ตอนนี้เธอกำลังจะเงี่ยนขึ้นมาแล้วก็ตาม

“หืมมมมมม นี่น่ะเหรอ แหวนหินธาตุที่เขาว่า” เจ้าเบลลิคหยุดเล้าโลมเธอชั่วครู่ เมื่อสายตาของมันเหลือบไปเห็นแหวนที่เธอใส่อยู่ ว่าแล้วมันก็จัดการปลดแหวนนั้นทันที ก่อนจะบีบทำลายทิ้งจนป่นเป็นผง “แค่นี้มึงก็หมดท่าแล้วสิ ฮ่าๆๆๆ”

“ข้าไม่เข้าใจ ….. ตาแก่รอสมันไม่ใช่คนโง่ ทำไมภารกิจสำคัญแบบนี้ถึงได้ส่งนางมา นี่พอนางไม่มีแหวนนั่น นางก็ไม่ต่างอะไรกับแวมไพร์ชั้นนักรบดาดๆเลยสิ” เวโรนิก้าเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย

“เจ้าคิดมากไปแล้วมั้ง ใครจะรู้ ตาแก่รอสมันอาจจะโง่จริงๆก็ได้ หึๆๆ” มาโฮนที่ยืนห่างออกไปกับไม่ยี่หระในข้อสงสัยของนาง

แต่ใครจะสงสัยอย่างไงก็ช่าง สำหรับเจ้าเบลลิคตอนนี้มันสนใจแต่หญิงสาวตรงหน้าเท่านั้น ผิวที่เรียบเนียนขาวสะอาด เรือนร่างเซ็กส์ซี่แสนเย้ายวน รวมไปถึงใบหน้าสวยหวานของเธอที่ช่างเร้าอารมณ์มันหนักหนา จนมันทนไม่ไหว ต้องลงไปประกบปากแสนอวบอิ่มอย่างดุเดือด โดยไม่สนใจเลยว่าหญิงสาวพยามขัดขืนแค่ไหน ใช่ มันไม่สนใจอะไรเลย เพราะในสายตามันตอนนี้ วิเวียนก็คือที่ระบายความเงี่ยนเท่านั้น

“อือหือออออ นมมึงแข็งแป๊กเลยนี่หว่า เงี่ยนเหรอว่ะอีร่าน” เจ้าเบลลิคตะโกนใส่หญิงสาวอย่างสะใจ มือข้างหนึ่งของมันขยี้ขยำเต้างามของหญิงสาวราวกับต้องการให้มันแหลกคามือ ส่วนอีกข้างก็รูดควยเบาๆ เตรียมตัวเย็ดครั้งใหญ่ โดยที่หญิงสาวไม่อาจจะขัดขืนใดๆได้ ได้แต่นอนเจ็บใจที่มันด่า และเจ็บใจร่างกายตัวเองที่พ่ายแพ้ต่อความเงี่ยนง่านจนออกอาการให้มันรู้ อาการที่พร้อมจะโดนเสพสมทั้งที่หัวใจไม่ได้ต้องการ

“หืมมมมมม หีมึงยังน้ำออกมาน้อยไปหน่อยว่ะ แต่ช่างเถอะกูอยากเย็ดมึงแล้ว งั้นก็เย็ดทั้งฝืดๆที่แหละ สะใจกูอีกแบบ ฮ่าๆๆ” เจ้าเบลลิคหัวเราะร่าพร้อมกับเอาลำควยมาจ่อที่รูหี แล้วก็จัดการดันเข้าไปช้าๆ

“โอ๊ยยยยยยยย อย่า……… เอามันออกไป มันเจ็บบบบบบบบ !!” วิเวียนร้องเสียงหลงพร้อมกับพยามเอามือดันหน้าอกเจ้าแวมไพร์ร่างยักษ์ เพื่อหวังจะหยุดการลุกล้ำของมัน แต่ก็ไม่เป็นผล ร่างกายเธออ่อนล้าเกินไป เจ้าควยยักษ์นั่นก็เลยคืบคลานลุกล้ำร่องหีเธอมาเรื่อยๆ

“ฮ่าๆๆๆ สะใจเว้ยยยยยยยยย” เจ้าเบลลิคร้องร่าอย่างสุดมันส์ ว่าแล้วมันก็จัดการซอยควยทันที สลับกับเสียงร้องระงมเจ็บปวดราวกับจะขาดใจของวิเวียน

.
.
.

“วิเวียนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”

เสียงของนายอาร์ตดังก้องไปทั่ว เขาทรุดลงกับพื้นพร้อมกับปล่อยน้ำตาลูกผู้ชายให้รินไหลอย่างไม่สนใจใคร เขาได้แต่เจ็บใจตัวเองที่อ่อนแอ เจ็บใจตัวเองที่ทำได้แค่เฝ้าดูคนรักโดนทำร้าย เจ็บใจตัวเองที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย

“ข้าช่วยนางได้น่ะ” เสียงเอ่ยเรียบๆของชายอีกคนที่ดังขึ้น ทำให้นายอาร์ตหันขวับไปมองทันที

“แกว่าอะไรน่ะ แกช่วยเธอได้งั้นเหรอ” นายอาร์ตหูตาตื่นอย่างมีความหวัง

“เจ้ากับข้า …… จะว่าไปเราก็เป็นหนึ่งเดียวกัน เพียงแต่เราโดนพลังบางอย่างแยกออก ในยามปกติจะเป็นเจ้าที่ครองร่างและข้าที่โดนกักขัง” ชายแปลกหน้าเว้นช่วงสักพักก่อนจะเอ่ยต่อ “ถ้าเจ้าอยากช่วยนางก็แค่ให้ข้า ครองร่างแทนเจ้า ก็แค่นั้น”

“แต่ถ้าทำอย่างงั้น …..” ใช่ ถ้าให้เจ้านี่ครองร่าง งั้นตัวเขาก็ต้องเป็นฝ่ายโดนกักแทนน่ะสิ แต่วิเวียนกำลังอยู่ในอันตราย

“แกช่วยวิเวียนได้จริงๆเหรอ แกจะช่วยวิเวียนจริงๆเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบา เขาต้องตัดสินใจระหว่างช่วยคนรักกับตัวเอง ซึ่งมันไม่ง่ายเลย

“กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำน่า” ชายแปลกหน้าตอบกลับ พร้อมกับยืนมือออกมา

นายอาร์ตหลับตาลงช้าๆ ในชีวิตของเขาตอนนี้ วิเวียน คือคนที่สำคัญที่สุดแล้ว เพียงเพื่อช่วยเธอ แม้จะต้องโดดลงเหวลึก เขาก็ยินดี ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นหลังตัดสินใจได้แน่วแน่ เขาเดินก้าวไปหาชายแปลกพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของเขาทันที พริบตานั้นแสงที่มือของทั้งคู่ก็สว่างจ้า และก่อนที่สติของนายอาร์ตจะดับวูบลง ……… เขาก็ได้เห็นหน้าชายแปลกหน้าคนนี้ชัดๆเป็นครั้งแรก ใบหน้าที่เหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยนราวกับฝาแฝด !!

“แกเป็นใคร …….”

.
.
.
.
.

“อาหหหหหหหหหหหหหหหห์” เสียงชายหนุ่มตวาดก้อง ทันใดนั้นพันธนาการที่สร้างจากเวทย์ธาตุดินเลเวล 6 ก็แตกออกราวกับมันเป็นเศษกระเบื้องราคาถูก ร่างของนายอาร์ตค่อยๆยันกายลุกขึ้นช้าๆ ท่ามกลางความตกใจของเหล่าแวมไพร์ที่จ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่เว้นแม้แต่เจ้าเบลลิคที่กำลังซอยควยอย่างเมามันก็ตาม

และก่อนที่ใครจะได้ทันทำอะไร ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้น ตาของเขาลุกวาวราวกับตาของสัตว์ร้ายพร้อมกับจับจ้องที่เป้าหมาย พริบตานั้นร่างของเขาก็พุ่งวาบอย่างรวดเร็วก่อนจะตวัดขาขวาเข้าใบหน้าของ เจ้าเบลลิคอย่างจัง จนร่างยักษ์ของมันถึงกับกลิ้งกระเด็นกระดอนไม่เป็นท่า แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดแค่นั้น เขาค่อยๆเดินก้าวเข้าไปหาต่อช้าๆ

“มึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!” เจ้าเบลลิคลุกขึ้นร้องตะโกนลั่น ตอนนี้เลือดสดๆของมันไหลทะลักออกมาไม่หยุด แถมฟันของมันก็หักหลุดมาตั้งหลายซี่ มันมองร่างของมนุษย์ตัวน้อยอย่างโกรธแค้น ก่อนจะพุ่งเข้าใส่พร้อมกับปล่อยหมัดเข้าใบหน้าของชายหนุ่มอย่างจังจนหน้าของ เขาถึงกับสะบัดตามแรงหมัดอย่างรุนแรง

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก” แต่แล้วกลับเป็นเจ้าเบลลิคซะเองที่ร้องลั่นอย่างเจ็บปวด หมัดของมันที่ทลายได้แม้แต่หินผากลับสั่นระริกอย่างปวดร้าว แต่มันทันที่มันจะทำอะไรต่อ ชายหนุ่มตรงหน้าก็ปล่อยหมัดสวนกลับเข้ามาทันที หมัดที่รุนแรงของเขาที่ซัดมาเล่นเอาร่างยักษ์ปักหลั่นของมัน ถึงกับตัวงอก่อนจะปลิวกระเด็นอีกครั้ง

ทั้งหมดนี้สร้างความตะลึงแก่ทุกคนที่กำลังเฝ้ามอง ไม่เว้นแม้แต่วิเวียนที่เอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา

“อาร์ต………….”

<จบตอน>