Home Post 3911-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-10-stay-away-from-me

3911-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-10-stay-away-from-me

“จริงหรือเปล่า …… เวโรนิก้า” เสียงที่ทรงพลังแต่แผงไว้ด้วยความเหี้ยมเกรียมของลินคอร์นดังก้องไปทั่ว หญิงสาวที่โดนเรียกชื่อถึงกับหน้าซีดปากสั่น เธอพยามจะหาเหตุผลดีๆมาโต้แย้ง แต่คนฉลาดเช่นเธอก็รู้ดีว่า ในตอนนี้เหตุผลดีแค่ไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย

“ข้าถามว่ามันจริงหรือเปล่า เวโรนิก้า …………………..!” เสียงของขุนศึกใหญ่ตวาดลั่นอีกครั้งเมื่อเห็นลูกน้องสาวไม่ยอมตอบ คราวนี้ทำให้เวโรนิก้าไม่อาจจะนิ่งเงียบได้อีกแล้ว “ค่ะ ท่านลินคอร์น”

“ปั้งงงงงงงงงงงงง” เสียงทุบโต๊ะดังสนั่น โต๊ะที่ทำจากหินอ่อนเนื้อดีแตกละเอียดเป็นผุยผง สีหน้าของลินคอร์นโกรธจัดจนดูน่าสะพรึงกลัว เสียงที่ทรงพลังอยู่แล้วตวาดลั่นหนักกว่าเดิมเป็น 100 เท่า “เจ้ารู้หรือเปล่า เวโรนิก้า ความผิดของเจ้าคราวนี้มันหนักหนาขนาดไหน เจ้าทำให้ร่างกำเนิดใหม่ของท่านอาลูคาร์ดตกไปอยู่ในมือพวกพรีส เจ้าไม่รู้เหรอไงว่ามันสั่นคลอนความมั่นคงของอาณาจักรเราแค่ไหน”

เวโรนิก้าก้มหน้านิ่ง จริงๆเธอเองก็ไม่เข้าใจเลย ทำไมทั้งท่านลินคอร์นและท่านเลอเซอโร่อยากได้ร่างของเจ้าหนุ่มนั่นนักน่ะ ทั้งๆที่มันก็แค่มนุษย์ที่มีพลังมาน่าสูงเท่านั้น มันไม่ใช่ร่างกำเนิดใหม่ของท่านอาลูคาร์ดแน่นอน …. แต่ก็ป่วยการที่เธอจะโต้แย้ง

“ท่านลินคอร์น ให้โอกาสข้าอีกครั้งเถอะค่ะ ข้ามีวิธีที่จะหาตัวเจ้าหนุ่มนั่น”

“ไม่จำเป็นหรอกเวโรนิก้า แค่หาตัวเจ้านั่นให้ข้าทำเองก็ได้ ข้าว่าเจ้ารอรับโทษทัณฑ์ที่นี่เถอะน่ะ” มาโฮนที่อยู่ในห้องนั้นด้วยพูดแทรกขึ้นมาทันที พร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างสะใจของเบลลิค

เวโรนิก้าหันมามองเจ้าแวมไพร์มาโฮนอย่างสุดแค้น เจ้านี่คาบข่าวมาบอกท่านลินคอร์น แถมยังตัดช่องทางเธอทั้งหมดอีก แต่นึกแค้นไปก็เท่านั้น สิ่งที่เธอกังวลที่สุดตอนนี้ก็คือบทลงโทษจากแวมไพร์ชั้นขุนพลตรงหน้านี่ต่างหาก

“ทัณฑ์ไร้น้ำ เป็นเวลา 100 วัน”

เวโรนิก้าร้องเสียงหลงอย่างตกใจ ในขณะที่มาโฮนและเบลลิคเผลอสบถมาคำหนึ่ง พวกมันคิดว่าเวโรนิก้าต้องโดนโทษตายแน่แล้ว แต่สุดท้ายแม่นี่ก็ยังรอด แต่จะว่าไป ทัณฑ์ไร้น้ำนี่สำหรับเธอก็โหดไม่แพ้กัน ทัณฑ์ไรน้ำมันก็คือการล่ามหญิงสาวจากนั้นเหล่าแวมไพร์ก็จะมารุมโทรมเธอทั้งวันทั้งคืนไม่ให้หยุดพัก โดยมีกฎข้อเดียวว่าชั่วขณะที่นักโทษน้ำใกล้แตก นักโทษก็จะโดนทรมานอย่างหนักเพื่อทำลายอารมณ์เสียวไม่ให้น้ำแตก เรียกได้ว่าการโดนเย็ดตลอดช่วงที่กำหนดนี้ นักโทษจะไม่วันเสร็จได้เลย แถมสามารถเย็ดได้ทุกรูปแบบจะดิบเถื่อนแค่ไหนก็ไม่ว่า ขอแค่อย่าให้นักโทษตายไปก่อน แต่ที่น่ากลัวก็คือหลังจากครบกำหนดแล้ว นักโทษจะโดนลดชั้นเป็นแวมไพร์ธรรมดา ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการรักษา ทำให้สภาพที่เหลือหลังจากนั้น นักโทษจะเหมือนตกนรกทั้งเป็นทีเดียว

และยิ่งเป็นแวมไพร์ที่มีโจทย์เยอะอย่างเวโรนิก้าด้วย รับรองเมื่อครบ 100 วันแล้ว สภาพของเธอจะต้องเละเทะดูไม่ได้แน่นอน

“ไม่น่ะค่ะท่านลินคอร์น ได้โปรดเถอะ ให้ข้าได้แก้ตัวเถอะท่านลินคอร์น” เวโรนิก้าร้องอ้อนวอนเสียงหลง โทษนี้มันหนักเกินเธอจะรับไว้ เธอหันมองไปรอบๆ เจ้าแวมไพร์ชั้นนักรบ 4 ตัวขยับเข้าเตรียมจับกุมตัวเธอทันที

“หยุดน่ะ ! …………… เวโรนิก้า ศักดิ์ศรีแวมไพร์ของเจ้าไปไหนหมด เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าเจ้าเข้ามาเป็นแวมไพร์เพราะอะไร !” เสียงลินคอร์นตวาดลั่น ทำให้เวโรนิก้าที่ร้อนรนเมื่อครู่ชะงักลงทันที เธอค่อยๆก้มหน้านิ่งราวกับจะยอมรับโทษทัณฑ์ เจ้าแวมไพร์ชั้นนักรบ 4 ตัวเห็นดังนั้นก็ต้องเข้าจับกุมเธอไว้ทันที

“ไปให้พ้น !!” เวโรนิก้าตวาดดังลั่น พร้อมกับเหวี่ยงแวมไพร์เหล่าล้มกลิ้งระเนระนาดไปทั่ว ก่อนที่เธอจะเชิดหน้าราวกับนางพญาเหมือนที่ทำมาทุกครั้ง “ข้าจะเดินไปเอง”

.
.
.
.
.

“ท่านวิเวียนไปพักก่อนดีไหมครับ” ไอ้ตุ๋นพูดขึ้นมาเบาๆ ระหว่างที่วิเวียนกำลังเช็ดตัวให้นายอาร์ต แต่หญิงสาวก็ยังให้คำตอบเหมือนทุกครั้งที่เขาถามอยู่ดี

“ไม่เป็นไรหรอกนายตุ๋น ข้ายังไหว” วิเวียนหันมาตอบพร้อมกับยิ้มบางๆแบบที่ทำอยู่เสมอ แต่คราวนี้ไอ้ตุ๋นไม่ยอมเหมือนทุกครั้งแล้ว

“อย่าเลยครับ ท่านวิเวียนดูแลไอ้อาร์ตมา 3 วันแล้วน่ะครับ ท่านวิเวียนไปพักก่อนน่ะดีแล้วครับ เดี๋ยวท่านวิเวียนเป็นอะไรไปอีกคนจะแย่น่ะครับ เดี๋ยวถ้าไอ้อาร์ตมันรู้สึกตัวเมื่อไหร่ผมจะรีบไปบอกท่านวิเวียนเองครับ”

“อืม …. ก็ได้” หญิงสาวตอบแผ่วเบา จริงๆเธอก็รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ไหนจะตอนที่เย็ดมาราธอนกับนายอาร์ตจนร่างกายอ่อนล้า พอช่วยเขาออกมาได้เธอก็จัดแจงดูแลเขาที่นอนสลบมา 3 วัน 3 คืน ตลอดไม่ได้พัก ข้าวปลาก็ไม่ยอมกินอีกต่างหาก ตอนนี้เธอเลยตัดสินใจไปนอนพักสักแป๊บก่อน จะได้มีแรงมาดูแลชายหนุ่มอีกรอบ

ไอ้ตุ๋นมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเดินจากไป ก่อนจะหันมามองเพื่อนรักของตัวเองอย่างอิจฉาหน่อย “ไอ้อาร์ตเอ๋ยยยยย มึงทำบุญด้วยอะไรว่ะเนี่ย มึงถึงมีผู้หญิงเอ็กซ์ๆแบบนี้มาคอยดูแลน่ะ”

จะว่าไปแล้ว เมื่อ 3 วันก่อนมันยังจำได้ดี ตอนที่แยกกับวิเวียนที่ตึกพาณิชย์ ตัวไอ้ตุ๋นเองก็ร้อนใจอยากจะไปช่วยเพื่อนเหมือนกัน แต่ก็จนใจไม่รู้จะตามไปยังไง มึงจึงรีบตรงดิ่งกลับบ้านพ่อแม่มันก่อน บ้านหลังนี้ที่พ่อแม่มันยกให้ท่านวิเวียนอยู่ โดยที่ทั้ง 2 หลบไปอยู่ต่างจังหวัดตามคำสั่งของท่านวิเวียน หลังจากรอมานานหลายชั่วโมง ร่างของทั้งคู่ก็เหาะมาจากฟ้า นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้เห็นร่างเปลือยของวิเวียนเล่นเอาไอ้ตุ๋นควยลุกขึ้นมาทันที แต่มันก็ยังช่วยพยุงร่างไม่ได้สติของนายอาร์ตเข้าบ้าน ก่อนที่ท่านวิเวียนจะจัดการดูแลนายอาร์ตเองคนเดียว นี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้ว มันก็ไม่รู้เหมือนกันว่านายอาร์ต จะตื่นมาเมื่อไหร่

.
.

“อย่า ……………………………… !!”

เสียงนายอาร์ตตะโกนดังลั่น พร้อมกับลุกขึ้นนั่งเหงื่อโทรมกาย สีหน้าของชายหนุ่มตอนนี้มีแต่ความตื่นกลัว ราวกับว่าพึ่งหลุดออกจากฝันร้ายที่ยาวนานยังไงยังงั้น เล่นเอาไอ้ตุ๋นที่กำลังดูแลเพื่อนรักอยู่พลอยตกใจไปด้วยอีกคน แต่เมื่อมันตั้งสติได้แล้วมันก็ตรงเข้าไปปลอบเพื่อนทันที

“ไอ้อาร์ต ใจเย็นๆก่อน ไม่มีอะไรแล้วเว้ย มึงใจเย็นๆ”

“ไอ้ตุ๋น กูฝันร้าย” นายอาร์ตหันมาละล่ำละลักบอกเพื่อนทันที

“เออ มึงไม่ต้องกลัว ตอนนี้มึงอยู่บ้านกู มึงปลอดภัยแล้ว …. เอ้า กินน้ำก่อนมึง” ไอ้ตุ๋นพูดจบก็รีบส่งแก้วน้ำให้เพื่อนทันที นายอาร์ตที่กำลังตกใจรีบคว้าแก้วมาดื่มทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะดื่มหมด เสียงหญิงสาวที่เขาคุ้นหูก็ดังขึ้น

“ตุ๋น อาร์ตตื่นแล้วเหรอ อาร์ต เป็นไง………” วิเวียนที่ยังอยู่ไม่ไกลนักได้ยินเสียงนายอาร์ตร้อง หญิงสาวดีใจเป็นอย่างมากที่เขาฟื้นสักที เธอรีบตรงเข้ามาในห้องเพื่อดูอาการเขา แต่ …. ไม่ทันที่เธอจะพูดจบ

“เผล้งงงงงงงงงงง”

แก้วน้ำในมือนายอาร์หล่นแตกกระจาย พร้อมๆกับเสียงร้องด้วยความตื่นกลัวของชายหนุ่ม เล่นเอาวิเวียนถึงกับหน้าเสียถอยหลังไปติดมุมห้อง โดยเฉพาะประโยคถัดมาของเขา “ไอ้ตุ๋นช่วยกูด้วย มันจะฆ่ากู” คำนี้มันบาดเข้าไปในใจเธอ ใช่ …. เธอพยามจะฆ่าเขาจริงๆ ก็ไม่แปลกที่เขาจะหวาดกลัวเธอราวกับเป็นปีศาจเช่นนี้ และเมื่อเธอย้อนนึกกลับไปเธอก็ยิ่งโกรธตัวเองไม่น้อย จนน้ำตาของเธอเริ่มเอ่อล้นช้าๆ

“ไอ้อาร์ต มึงตั้งสติก่อน มึงใจเย็นๆ ท่านวิเวียนเขาไม่ทำอะไรมึงหรอก” ไอ้ตุ๋นพยามปลอบเต็มที่ แต่เพื่อนรักของมันได้ยินดังนั้นกลับหันมามองมันอย่างไม่เชื่อหู

“ท่านวิเวียน ………. มึงรู้จักมันเหรอ”

“อะ ….. เอ่อ เรื่องมันยาวว่ะ กูว่ามึงนอนพักก่อนดีกว่า” ไอ้ตุ๋นอึกอักไม่น้อยเมื่อเจอเพื่อนคาดคั้นแบบนี้ มันพยามเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับกดตัวนายอาร์ตให้นอนลง แต่เพื่อนของมันก็ขัดขืน

“ที่แท้มึงก็พวกเดียวกัน …..มึงไปให้พ้นเลยยยยยยยย!” นายอาร์ตตะวาดดังลั่นพร้อมกับผลักเพื่อนอย่างแรง แรงขนาดที่ทำให้ร่างของไอ้ตุ๋นกระเด็นไปไกล ก่อนจะล้มนอนจุกลุกไม่ขึ้น มันไม่อยากเชื่อมาก่อนเลยว่าเพื่อนของมันจะมีแรงมหาศาลขนาดนี้

แต่นายอาร์ตก็ไม่สนใจ เขาคว้าเสื้อมาใส่ทันที พร้อมกับลุกออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็วเพื่อหวังว่าจะหนีจากที่นี่ไปให้พ้นๆ แต่ไม่ทันที่เขาจะก้าวพ้นห้องมือเล็กๆของหญิงสาวก็มาฉุดเข้าไว้ทันที

“อาร์ตจะไปไหน อาร์ตยังไม่หายดีน่ะ …..” ด้วยความเป็นห่วง วิเวียนตรงเขารั้งชายหนุ่มไว้ทันที แต่แล้ว

“ผลั๊ว !!”

ฝ่ามือของนายอาร์ตฟาดเข้าใบหน้าเธอเต็มๆ จนเธอเซไป 2-3 ก้าว ความแรงของมันทำเอาใบหน้าเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที หญิงสาวนิ่งเงียบไปในทันใด ไม่รู้ว่าเพราะเธอตกใจ หรือ เพราะเธอรู้สึกผิดกันแน่

“อย่ามายุ่งกับชั้น” ชายหนุ่มทิ้งคำสุดท้ายไว้ก่อนที่จะเดินจากไป โดยที่ไม่สนใจหญิงสาวที่ก้มหน้าเงียบพร้อมกับปล่อยน้ำตาที่เอ่อล้นไหลออกมาอยู่ข้างหลัง ส่วนไอ้ตุ๋นเองเมื่อเห็นเพื่อนเดินออกไปแบบนั้นมันก็รีบลุกจะไปตามทันที แต่เพราะยังจุกอยู่มันเลยลุกไม่ขึ้นสักที วิเวียนเห็นดังนั้นเธอก็เลยบอกมันเสียงเศร้าๆ

“ปล่อยเขาไปเถอะตุ๋น”

.
.
.

“โธ่เว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

นายอาร์ตร้องออกมาดังลั่น เพื่อที่จะหวังให้ความรู้สึกที่มันอัดอั้นในอกได้ระบายออก แต่น่าเสียดาย ที่ถึงแม้เขาจะตะโกนจนดังลั่นกว่านี้อีกเป็น 100 เท่า แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขาดีขึ้นมาได้เลย

ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขารู้สึกภายในจิตใจตอนนี้มีเพียงความเจ็บช้ำเท่านั้น ความเจ็บช้ำแต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาโดนตามฆ่า หรือเรื่องที่เขาตกอยู่ในอุ้งมือของพวกปีศาจ ความเจ็บช้ำที่เกิดจากความหลอกลวง หญิงสาวที่เขามีใจ หญิงสาวที่เขาทุ่มเทความรักทั้งหมดให้ไป แต่สุดท้ายเธอก็กลับมาหลอกลวงเขา หลอกลวงให้เขาหลงรัก หลอกลวงเพื่อจะมาอยู่ใกล้ๆ หลอกลวงเพื่อจะทำร้ายเขาในภายหลัง

วิเวียน ….. เธอมันก็ไม่ต่างอะไรกับพี่ใบเตยเลย

บรรยากาศรอบกายเริ่มเย็นลง สายลมแผ่วเบาลอยมาสัมผัสร่างเขาช้าๆ บรรยากาศแบบนี้ ศาลากลางน้ำที่เดิมแห่งนี้ มันทำให้เขานึกถึงวันที่ได้เจอกับวิเวียนครั้ง มันช่างเหมือนกันไม่มีผิด เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยทำไมสุดท้ายเขาต้องมาหยุดตรงที่นี่ด้วย ที่ที่เป็นจุดเริ่มของความทรงจำที่ปวดร้าว

ชายหนุ่มหันมองไปรอบๆตัวพร้อมกับคำถามมากมายในใจ แต่อยู่ๆสายตาเขาก็จับไปที่ของสิ่งหนึ่ง นาฬิกาข้อมือสายหนังสีน้ำตาล ของที่วิเวียนมอบให้เขาในวันเดท นาฬิกาที่เขาทั้งรักทั้งทะนุถนอมมันอย่างดี นาฬิกาที่เขาใส่ติดมือทุกวันไม่ยอมให้ห่างกาย นาฬิกาที่เขาคิดเสมอว่ามันคือตัวแทนแห่งความรักเขาและเธอ

.
.

หลอกลวงทั้งนั้น

.
.

นาฬิกาเรือนนี้มันก็เหมือนเรื่องอื่นๆ เธอให้เขามาไม่ใช่เพราะรักอย่างที่เขาเฟ้อฝัน เธอให้เขาก็เพื่อให้เขาตายใจ หลงไว้ใจเธอโดยไม่ทันระวังตัว ไอ้หน้าโง่เอ๊ย ………. ชายหนุ่มบาดน้ำตาช้าๆ ตอนนี้เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ในเมื่อนาฬิกาเรือนนี้มันคือความหลอกลวงที่เธอมอบให้มา ดังนั้นมันก็ป่วยการที่เขาจะทนเก็บมันไว้ต่อไป เมื่อคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ถอดมันออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเงื้อมือสุดแขน เพื่อหวังจะเหวี่ยงมันไปให้ไกลสุดสายตา

.
.

โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า …. ทุกการกระทำของเขาถูกจับตามองโดยนกกาตัวหนึ่งอยู่ไม่ห่าง

.
.
.
.
.

“อือ อืออออออ” เสียงร้องครางแผ่วเบาของแวมไพร์สาวบ่งบอกว่าตอนนี้เธอกำลังอ่อนล้าเหลือเกิน แต่สภาพของเธอตอนนี้ก็ยังดูดีกว่าที่เธอกังวลตอนแรกนิดหน่อย ร่างเปลือยเปล่าของเธอนอนอยู่บนเก้าอี้แข็งแรงที่ทำมุม 45 องศา สองมือของเธอโดนล็อกแน่นอยู่เหนือหัว สองขาก็ถูกล็อกให้อยู่ในท่าชันเข่า ก่อนจะอ้าให้กว้างที่สุดเพื่อโชว์เนินหีอวบอิ่มสะอาดตา เนินหีที่ถูกเสียบด้วยควยเทียมขนาดใหญ่พอๆกับอีกอันที่เสียบที่ตูด และควยเทียมทั้งคู่ก็กำลังทำงานของมันอย่างเต็มกำลัง

“อา …… อ๊า ……” เธอร้องเสียงดังลั่นอีกครั้ง สะโพกของเธอบิดไหวไปมาอย่างเสียวซ่าน แต่เจ้าควยเทียวทั้งสองกับยึดติดแน่น ไม่มีทีท่าจะหลุดออกมาได้เลย เวโรนิก้าเองก็เหนื่อยหอบอย่างแรง สายตาเริ่มพร่ามัว ร่องหีหีฟิตกระชับเริ่มตอดรัดอย่างรุนแรง เป็นสัญญาณว่าเธอใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้ว

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” แต่เธอกลับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะทันทีที่เซ็นเซอร์ในตัวเจ้าควยเทียมจับได้ว่าเธอใกล้จะเสร็จแล้วนั้น มันก็หยุดการทำงานพร้อมกับกระแสไฟฟ้าจำนวนมหาศาลออกมาทันที รูหีและรูตูดนั้นเป็นจุดที่บอบบางมากที่สุดของร่างกาย มันไม่มีอะไรคอยป้องกันตามธรรมชาติอยู่แล้ว นี่กลับมาโดนจู่โจมด้วยไฟฟ้าแรงสูงโดยตรงอีก ทำให้เวโรนิก้าเจ็บปวดอย่างที่สุด อารมณ์เงี่ยนที่กำลังจะประทุเมื่อครู่โดนทำลายทิ้งอย่างรวดเร็ว และเมื่อเจ้าควยเทียมจับได้ว่าเธอโดนทำลายความเงี่ยนไปแล้ว มันก็เริ่มกระบวนการทำงานใหม่ทันที

นี่คือสิ่งที่เธอโดนมาตลอด 3 วัน 3 คืน โดนทำให้เงี่ยนแล้วก็ช็อตด้วยไฟฟ้า เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาไม่มีพัก จนแม้แต่ตัวเธอเองก็จำไม่ได้ว่าโดนแบบนี้ไปกี่รอบแล้ว ทำให้หญิงสาวที่ไม่ได้กินไม่นอนตลอด 3 วัน เหนื่อยล้าอย่างหนัก

“เป็นไงล่ะนังตัวดี เจอควยไฟฟ้าแบบนี้สะใจมากไหม ฮ่าๆๆ” เสียงของโจทย์ใหญ่ของเธอ ‘แวมไพร์เบลลิค’ ดังลั่น มันก้าวเข้ามาในห้องในสภาพเปลือยเปล่า มือของมันก็รูดควยใหญ่ยักษ์ช้าๆ สภาพอิดโรยของเวโรนิก้าสร้างความสะใจให้มันไม่น้อย

“มึงแม่งโจทย์เยอะจริงๆน่ะรู้ตัวไหม ตอนนี้มีรายชื่อแวมไพร์ที่จะมาเย็ดมึงยาวเป็นหางว่าวแล้วน่ะ ไหนจะพวกที่กำลังจะข้ามมาจาก wonderland เพื่อเย็ดมึงโดยเฉพาะอีก กูว่าอีกแค่ 2-3 วัน รายชื่อรอบแรกคงทะลุ 500 แล้วว่ะ” เจ้าเบลลิคกล่าวเย้ยหยันเธออย่างสะใจก่อนจะเอามือหยาบกร้านลูบใบหน้าขาวใสของอีกฝ่ายไปมา มันเชื่อว่าเมื่อได้ยินแบบนี้นางต้องหวาดกลัวลนลานไม่เหลือคราบนังแวมไพร์ตีตราปากดีเหมือนก่อนแน่

“ท่าทางข้าจะเรตติ้งตกน่ะ ข้านึกว่าจะมีคนเข้าชื่อรอเย็ดข้า 500 ตัวภายในวันเดียว นี่ต้องรอไปถึง 2-3 วันเลยเหรอ” แต่มันก็คิดผิด อีนี่ไม่ว่าจะอยู่เวลาไหนมันก็ยังยียวนกวนประสาทมันได้เสมอจริงๆ

“ยังปากดีได้อยู่อีกน่ะ เวโรนิก้า คงเพราะยังแรงดีอยู่ล่ะสิ งั้นเรามาเพิ่มระดับก่อนหน่อยเป็นไง” เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าสงสัยมันก็เอื้อมมือไปหยิบของบางอย่างขึ้นมา แค่ดูก็รู้เลยว่ามันคือรีโมทอะไรสักอย่าง ที่หน้าปัดของมันมีตัวเลขดิจิตอลเลข 6 อยู่ และพอเจ้าเบลลิคกดเครื่องหมาย + ที่อยู่ด้านข้าง ตัวเลขก็วิ่งไปสุดอยู่ที่เลข 10 และเมื่อเจ้าเบลลิคกด enter เท่านั้นแหละ

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก” เวโรนิก้าร้องอย่างเจ็บปวดทันที ควยเทียมทั้งสองหมุนควงเร็วขึ้นอีกหลายเท่า ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเจ้ารีโมทนั่นก็คือรีโมทควยเทียมพวกนี้นี่เอง ควยเทียมที่หมุนเร็วขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งนั้นย่อมหมายความว่ามันจะทำให้เธอถึงจุดสุดยอดได้เร็วขึ้นอีกนั่นเอง และเมื่อร่องหีเธอกระตุก มันก็ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงกว่าเดิมหลายเท่าเช่นกันใส่เธอทันที ทำให้เวโรนิก้าต้องร้องอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง

“ฮ่าๆๆๆๆ สะใจจริงโว้ย มึงรู้สึกยังไงมั่งว่ะเวโรนิก้า ที่โดนของเล่นจากหน่วยวิจัยบนโลกนี้ที่มึงดูแลเล่นงานน่ะ”

“อืออออออออ” หญิงสาวไม่ตอบอะไรนอกจากครางในลำคออย่างสุดกลั้น เมื่อเจ้าควยเทียมทั้งคู่ทำงานเต็มกำลัง มันเลยสามารถส่งเธอถึงจุดสุดยอดอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเธอใกล้จะเสร็จ เจ้าควยเทียมก็ปล่อยไฟฟ้าเช่นเดิม กลายเป็นว่าเธอต้องโดนช็อตต่อเนื่องนาทีต่อนาทีเลยทีเดียว

“อ๊ากกกกกกกกกกก” เสียงเธอร้องดังลั่นอีกครั้งพร้อมกับไฟฟ้าจากควยเทียมที่ไหลเข้าสู้ร่างของเธอ ร่างของเธอกระตุกรุนแรงอย่างน่ากลัว เป็นเช่นนี้เหมือนทุกครั้ง แต่ว่าคราวนี้มีบางอย่างที่ต่างออกไป ‘ปั้ง’ เสียงระเบิดเล็กๆดังขึ้นทันที ก่อนที่เจ้าควยเทียมคู่นั้นจะหยุดการทำงานลง

“ข้ารู้สึกยังไงเหรอเบลลิค” เวโรนิก้ากลั่นใจตอบช้าๆ หลังจากพึ่งโดนซ็อตจนเหนื่อยอ่อนเมื่อครู่

“ข้ารู้สึกว่ามันเปราะไปหน่อยว่ะ คงเป็นเพราะมันหมุนแรงเกินไป ทำให้ข้าถึงเร็ว พอข้าถึงเร็วมันก็ต้องตัดสลับวงจรไปมา ทำแบบนี้หลายๆครั้งความร้อนมันก็ขึ้นสูงจนในที่สุดวงจรก็ไหม้ ข้าว่าต้องไปลดระดับความแรงลงสักหน่อย แล้วก็ดูเรื่องการระบายความร้อนด้วย เป็นไง ที่ข้าพูดมาทั้งหมดเจ้าเข้าใจไหม แล้วอย่าลืมจดไปบอกแฟรงกินส์ด้วยล่ะ”

“อีเวรรรรรรรรรรรรรร” เบลลิคเลือดขึ้นหน้าทันที มันตรงเข้าไปกระชากควยเทียมอันใหญ่ออกก่อนจะเสียบเข้าไปใหม่อย่างแรง ทำแบบนนี้ซ้ำไปซ้ำมา เล่นเอาเวโรนิก้าครางดังลั่น แต่ดูเหมือนจะเป็นการครางเพราะความเจ็บปวดซะมากว่า

“มึงรู้ไหม ที่พวกกูอดทนรอมา 3 วันเนี่ย เพราะพวกกูอยากเห็นมึงในสภาพย่ำแย่ที่สุด กูอยากเห็นมึงอ่อนล้าไม่ได้พักผ่อน กูอยากเห็นมึงอดอยากจนร้องขอกินน้ำควย ทำไมว่ะ ทำไมมึงยังปากดีได้อยู่อีก มึงไม่หิวเหรอ มึงไม่อยากกินน้ำควยเหรอห่ะ”

ไอ้แวมไพร์ร่างอ้วนตะโกนอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเร่งซอยควยเทียมอย่างรุนแรงโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในขณะที่เวโรนิก้าเริ่มจะชินมั่งแล้ว เธอเลยรู้สึกเงี่ยนขึ้นมาแทน และแน่นอนยิ่งเจ้าเบลลิคซอยแบบนี้มันทำให้เธอได้มีโอกาสน้ำแตกเป็นครั้งแรกใน 3 วันแน่ๆ เธอแอบยิ้มนิดนึงโดยไม่ให้เจ้าแวมไพร์อ้วนน่าโง่นั่นรู้ ร่องหีเธอก็กระตุกเล็กๆบ่งบอกว่าน้ำเธอจะทะลักออกมาแล้ว

แต่แล้ว ….

เซ็นเซอร์อันเล็กๆที่ถูกฝังในหีของเวโรนิก้าก่อนหน้าทำงานทันที เซ็นเซอร์อันนี้เชื่อมโยงไปที่เก้าอี้ที่เธอนอนมาตลอด 3 วัน เพื่อคอยส่งสัญญาณว่าเธอจะน้ำแตกหรือยังเหมือนกับเซ็นเซอร์ในควยเทียม และเจ้าเตียงนั้นก็ตอบสนองเซ็นเซอร์ทันที เข็มขนาดเล็กๆนับร้อยที่อยู่ใต้เบาะถูกเสียบขึ้นมาอย่างแรง เข็มที่ทั้งเล็กและยาวเมื่อเสียบทะลุเนื้อเข้ามามันสร้างความเจ็บปวดให้แก่เธออย่างมาก เล่มเดียวไม่เท่าไหร่ นี่มันมีถึง 100 เล่มนี่สิ เล่นเอาเวโรนิก้าร้องลั่นทันที

“ฮ่าๆๆๆ สะใจกูจริงเว้ยยยยยยย เวโรนิก้า มึงไม่มีวันได้เสร็จหรอก กูว่ามึงเลิกปากดีแล้วก็อ้อนวอนให้กูเย็ดมึงซะดีๆ อีเหี้ย”

เวโรนิก้าหายใจหอบอย่างแรงเพื่อหวังว่าลมหายใจของเธอจะปลดปล่อยความเจ็บปวดนี้ออกไปบ้าง ที่เจ้าเบลลิคพูดมาก็ถูก การไม่ได้นอนเลยตลอด 3 วัน มันทำให้เธอเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก ตอนนี้ตาเธอเริ่มลาย สมองเริ่มสั่งการไม่ได้ดังใจแล้ว แต่ไอ้ความเพลียไม่เท่าไหร่ ความหิวกระหายนี่สิ เพราะพวกมันรู้ดีว่าแวมไพร์จะกินน้ำเงี่ยนผ่านหีและปากแทนเลือดได้ พวกมันเลยไม่มีใครมาเย็ดเธอสักที พวกมันต้องการให้เธอเองต่างหากที่เป็นฝ่ายร้องขอให้เย็ด เพราะแบบนี้คงสะใจกว่าที่จะได้ยินประโยคนี้จากแวมไพร์จอมเย่อหยิ่งอย่างเธอ และเธอเองก็รู้ดี การร้องของให้พวกมันเย็ดในเวลานี้เป็นสิ่งที่ควรทำที่สุดแล้ว

“จะว่าไปเจ้าก็หล่อไม่เบาน่ะเบลลิค” เธอเสียงอ่อนลงอย่างยอมแพ้ “โดยเฉพาะผิวใหม่ของเจ้ามันขาวใสไม่เบา ไม่เหมือนผิวเก่าที่กระดำกระด่างก่อนจะโดนข้าเผาน่ะ ฮ่าๆๆๆ”

แต่เธอคือ เวโรนิก้า ไอ้เรื่องจะมายอมสยบแบบนี้ไม่มีวันซะหรอก

“อัสนีบาตร 5 วิถี”

เบลลิคร่ายเวทย์ดังลั่นทันที พลังสายฟ้าระดับเลเวล 6 ไหลมารวมกันที่ปลายนิ้วทั้ง 5 แต่คราวนี้มันไม่ปล่อยออกมาตามอากาศ มันกลับรวมพลังอยู่อย่างนั้นจนตอนนี้ประกายสายฟ้าส่องแสงแปล๊บๆไปหมด เมื่อรวมพลังได้ตามต้องการแล้วเจ้าเบลลิคก็ใช้มือข้างนั้นขยำไปที่เต้านมของเวโรนิก้าทันที กระแสไฟจำนวนมากไหลเข้าร่างเธอจนหมด กระแสไฟที่รุนแรงกว่าควยเทียมสองอันมือครู่มากมายนัก ร่างของแวมไพร์สาวกระตุกอย่างรุนแรงพร้อมกับความเจ็บปวดที่ถาโถม เสียงครวญครางของเธอดังลั่นราวกับจะขาดใจ

“พูดดีๆไม่ชอบใช้ไหมอีเวร ดี กูจะทำให้มึงจำวันนี้ไปจนตาย อีเหี้ย !!”

.
.
.
.
.

“ก๊า ๆๆๆๆๆๆ” เสียงร้องพร้อมกันของฝูงนกกาทำเอานายอาร์ตที่กำลังนั่งอยู่ในศาลาสะดุ้งโหยง เขาหันมองไปรอบก่อนจะแปลกใจเล็กๆ สวนแห่งนี้ที่มีคนเข้าออกอยู่เสมอแต่ตอนนี้ไม่มีใครเลย ตอนนี้มีเขาอยู่เพียงคนเดียว ! การต้องอยู่คนเดียวในที่แบบนี้ เมื่อบวกกับเสียงร้องระงมของฝูงนกกานับพันที่มาจากไหนไม่รู้ บรรยากาศมันก็ไม่ต่างอะไรเลยกับบรรยากาศในหนังสยองขวัญ

แต่ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะคิดอะไรต่อ อยู่ๆเจ้านกกาตัวหนึ่งก็บินร่อนเข้ามาในศาลาก่อนจะมาเกาะเก้าอี้ไม่ห่างจากเขามากนัก ไม่แค่นั้นมันยังจ้องมาที่เขาเขม็งอีกด้วย นายอาร์ตถึงกับกลืนน้ำลายไปเฮือกใหญ่ ก่อนจะนึกคำพูดมาปลอบใจว่ากำลังคิดไปเอง แต่ไม่ทันที่นายอาร์ตจะพูดอะไรเจ้านกนั่นก็ทำในสิ่งที่เขาแทบไม่เชื่อหู

“อยู่นี่เองเหรอว่ะไอ้เด็กเวร ให้กูตามหาตั้ง 3 วันเลยน่ะมึง”

“เฮ้ยยยยยยย !” นายอาร์ตร้องเสียงหลงหกล้มก้นกระแทก มันพูดได้ ! ……. เรื่องบ้าอะไรเนี่ยนกกาที่ไหนมันพูดได้ ไอ้นกนี่มันต้องเป็นนกผีแน่ๆ ว่าแล้วนายอาร์ตก็รีบลุกอย่างรวดเร็วก่อนจะใส่เกียร์หมาจ้ำอ้าวออกไปทันที

แต่ไม่ทันที่นายอาร์ตจะออกไปพ้นศาลาดี ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนพุ่งออกมาล้อมเขาไว้ทุกด้าน หนึ่งในนั้นก็พุ่งเข้ารวบนายอาร์ตทันทีก่อนจะล็อกเขาไว้แน่นราวกับงูร้ายที่รัดเหยื่อไม่ปล่อยยังไงยังงั้น

“ไปกับพวกกู !!” เจ้าชายร่างยักษ์นั่นร้องลั่นก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เขาทันที เท่านี้อาร์ตก็รู้แล้วว่าเจ้านกผีนั่น กับพวกคนที่ล้อมเขาไว้นี้มันก็คือพวกปีศาจที่เขาเจอในโกดังนั่นเอง ภาพอันน่าสยดสยองในโกดังนั้นผุดขึ้นมาในหัวเขาทันที ภาพของพวกปีศาจเหล่านี้ที่รุมดูดเลือดมนุษย์อย่างหิวกระหาย ภาพของศพนับสิบที่กองสุมเอาไว้ สัญชาติญาณร้องบอกเขาทันทีว่า ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง แกต้องกลายเป็นศพแบบนั้นแน่ๆ

“เฮ้ยยยยยยยย !” เจ้าแวมไพร์ร้องลั่น จะไม่ให้มันตกใจได้ยังไงในเมื่อชายหนุ่มที่มันกำลังล็อกไว้แน่นหนาตรงหน้า อยู่ๆก็มีพละกำลังมหาศาลขึ้นมาซะอย่างนั้น สองแขนที่มันล็อกไว้แน่นเมื่อครู่ โดนชายหนุ่มค่อยๆง้างออก ไม่แค่นั้น พอง้างได้สุดแล้ว ชายหนุ่มก็เหวี่ยงร่างของมันลงกระแทกพื้นอย่างแรง ก่อนที่เขาจะวิ่งหนีออกจากวงล้อมไปอย่างรวดเร็ว

“ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยย จับยังไงของมึงว่ะ” เจ้านกการ้องลั่นอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนมันจะพ่นลูกไฟขนาดเล้กใส่ลูกลูกน้องมันทันที ลูกไฟนี้สร้างจากเวทย์เลเวล 1 เท่านั้น มันเลยไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็เพียงพอจะทำให้เจ้าแวมไพร์ร่างยักษ์นั่นกระเด็นไปไกล หลังจากสำเร็จโทษลูกน้องแล้ว เจ้านกกามาโฮนก็หันไปมองนายอาร์ตก่อนจะเอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียม “มึงหนีกูไม่พ้นหรอก !!”

ชายหนุ่มหันมาเหลียวมองด้านหลังเล็กน้อย เขารู้สึกแปลกใจอยู่นิดๆที่ไม่เห็นเจ้าพวกปีศาจนั่นตามมาเลย แต่จะเพราะอะไรก็ไม่รู้ล่ะ เขารีบเร่งฝีเท้าในเร็วขึ้นโดยมีจุดหมายก็คือประตูทางออกตรงหน้า ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีความหวัง ถ้าเขาสามารถพ้นประตูนี้ไปได้ เขาก็จะหนีพวกปีศาจนั่นพ้นแล้ว ชั่วอึดใจเดียว เขาก็ก้าวพ้นประตูนั้นไปได้อย่างง่ายดาย

.
.

แต่ …… เขากลับต้องเบิ่งตาค้างอย่างตื่นตกใจ ทั้งๆที่เขาก้าวผ่านประตูทางออกไปแล้วแท้ๆ แต่ปรากฏว่าร่างของเขากลับมาโผล่ในสวนสาธารณะเหมือนเดิม ! นี่มันอะไรกัน เขาได้แต่ตั้งคำถาม เมื่อครู่เขาวิ่งออกไปทางประตูทางทิศตะวันออก ตามปกติมันต้องออกไปเจอถนนใหญ่สิ ไม่ใช่มาโผล่ตรงทิศใต้ของสวนแบบนี้ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ นี่ไม่ใช่เวลามาหาเหตุผล ถ้าตอนนี้เขาอยู่บริเวณทิศใต้ ถ้างั้นเขาก็วิ่งออกไปทางประตูทิศใต้ก็ได้

แต่สุดท้าย มันก็เหมือนเดิม ไม่ว่าเขาจะวิ่งออกประตูไหน ร่างของเขาก็กลับมาโผล่ในสวนสาธารณะเหมือนเดิม ชายหนุ่มที่วิ่งไปมาอยู่หลายสิบรอบทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง ตอนนี้หัวเขาตื้อไปหมด “นี่มันอะไรว่ะ ทำไมเราหนีออกไม่ได้ว่ะเนี่ย หรือนี่มันเพราะอิทธิฤทธิ์ของพวกปีศาจว่ะ”

“เออ …. มึงเข้าใจถูกแล้ว ตอนนี้มึงอยู่ในเขตอาคมของท่านมาโฮน ไม่ว่ามึงจะกระเสือกกระสนยังไง มึงก็ไม่ทางออกไปได้หรอก”

เจ้าแวมไพร์ร่างยักษ์เมื่อครู่นั่นเอง มันยืนมองอาร์ตตาลุกวาวอย่างอาฆาตแค้น มือข้างหนึ่งก็ลูบไล้รอยไหม้บริเวนหน้าอก มันค่อยๆย่างเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆพร้อมกับเอ่ยเสียงเหี้ยม “เพราะมึง กูเลยโดนท่านมาโฮนลงโทษ !!”

แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ เขาร้องออกมาคำนึงก่อนจะรีบลุกวิ่งหนีทันที แต่ไม่ทันที่เขาจะวิ่งไปได้ไกล ก้อนน้ำแข็งขนาดเท่ากำบั้นก็พุ่งกระแทกหลังเขาอย่างแรง จนเขากระเด็นลมกลิ้งไปไกล เจ้าแวมไพร์หัวเราะอย่างลิงโลดที่เห็นการโจมตีดอกแรกของมันเข้าเป้าอย่างจัง ว่าแล้วมันก็ร่ายมนต์สร้างก้อนน้ำแข็งอีกก้อนทันที

นายอาร์ตที่นอนฟุบบาดเจ็บอยู่นั้นหันกลับไปมอง เจ้าแวมไพร์ที่ค่อยๆเดินมาหาเขาช้าๆ ก้อนน้ำแข็งในมือมันก็เอามาโยนเล่นอย่างสบายอารมณ์ แต่สายตาของมันนี่สิ มันจ้องมาที่เขาไม่กระพริบ แถมสายตาที่ชวนขนลุกนี้ทำเอาเขาตื่นกลัวไปทั้งร่าง ตอนนี้ชายหนุ่มอยากจะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด แต่ทะว่า การโจมตีของเจ้าปีศาจเมื่อครู่มันช่างรุนแรงเหลือเกิน มันเล่นงานเขาจนไม่ทีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นได้เลย

“อย่าเข้ามา ไปให้พ้น ไอ้ปีศาจ !!” ตอนนี้ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เขาทำได้แต่เพียงร้องตะโกนดังลั่น แม้จะรู้ว่าไม่มีทางก็ตาม

“มึงสั่งกูเหรออออออออ !” เจ้าแวมไพร์ร้องลั่น ก้อนน้ำแข็งในมือถูกซัดออกอย่างรวดเร็ว ก้อนน้ำแข็งพุ่งเข้ากระแทกที่หน้าอกของชายหนุ่มอย่างแรง ร่างของชายหนุ่มกระเด็นตามแรงน้ำแข็งอีกครั้ง ก่อนจะกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ตอนนี้ชายหนุ่มหมดท่าแล้ว แม้แต่เสียงจะเปล่งออกมาก็ไม่มี

เจ้าแวมไพร์ยิ้มสะใจอีกครั้ง และทันทีที่มันเดินเข้ามาถึงตัวของชายหนุ่ม มันก็ใช้มือใหญ่โตแข็งแรงของมันคว้าจับเข้าที่ข้อเท้าของเขาทันที “ท่านมาโฮนสั่งไว้ให้เอาตัวมึงไปเป็นๆ แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามหักแขนหักขามึงนี่หว่า ดังนั้นกูขอข้อเท้ามึงก่อนล่ะกัน ถือซะว่าใช้กรรมที่มึงทำกับกูไง ฮ่าๆๆ”

“อ๊ากกกกกก” เสียงร้องของนายอาร์ตดังลั่น เขาพยามดิ้นรนหนีเต็มที่แต่ก็ไม่อาจจะหลุดจากมือแข็งแรงนั้นได้เลย แถมเจ้าแวมไพร์ก็ยิ่งบีบหนักขึ้นเรื่อยๆ ข้อเท้าของเขาตอนนี้สภาพก็เหมือนกับก้อนดินก้อนเล็กๆที่กำลังโดนบีบอย่างแรง ไม่ช้าต้องแตกละเอียดแน่ๆ ชายหนุ่มที่พยามหาทางรอดอย่างเต็มที่เริ่มมองไม่เห็นทาง เพราะตอนนี้ลำพังตัวเขาก็เอาตัวรอดไม่ได้แน่ ความหวังเดียวก็คือภาวนาให้ใครสักคนมาช่วย แต่จะเป็นใครล่ะ ….

แต่แล้วจู่ๆภาพของหญิงสาวผมสีเงินก็ลอยแว๊บขึ้นมา ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมตอนนี้ถึงนึกถึงเธอ ทั้งที่เมื่อครู่เขาพึ่งโกรธ เกลียด หวาดกลัว ตัวเธอแท้ๆ แต่ในยามคับขันแบบนี้ สัญชาติญาณของเขากับนึกถึงเธอเป็นคนแรก แต่เธอจะมาช่วยเขาได้ยังไง ตอนนี้ตัวเธออยู่บ้านไอ้ตุ๋นนี่ แถมเมื่อนึกย้อนกลับไป เขาเองก็พึ่งไปตบหน้าเธอด้วย แบบนี้เธอจะมาช่วยเขาเหรอ ยิ่งคิดก็ยิ่งท้อ ชายหนุ่มที่หมดสิ้นทางออกทำได้แต่เพียงเอ่ยออกมาแผ่วเบา “วิเวียน ….”

.
.

“หมัดอัดกระแทก ………………!!”

.
.

เสียงใสๆที่คุ้นเคยตวาดก้อง พร้อมกับเวทย์มนต์ธาตุลมเลเวล 4 ที่รุนแรง แรงลมจำนวนมหาศาลพุ่งกับกระแทกเจ้าแวมไพร์จากด้านบน พริบตาเดียวบริเวนนั้นก็เกิดเป็นหลุดขนาดใหญ่โดยมีร่างเจ้าแวมไพร์โดนอัดจนแหลกเหลวอยู่ตรงกลาง

หญิงสาวผมสีเงินลอยอยู่เหนือบริเวนปากหลุม ร่างของเธอหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย เหงื่อกาฬจำนวนมากผลุดขึ้นตามร่างกาย จนเสื้อกล้ามสีขาวเปียกชื้นขึ้นมาทันที ทำให้เห็นลึกไปถึงเต้างามทั้งคู่ที่โด่งชั้นปราศจากบราข้างใน ส่วนกางเกงสั้นกุดสีขาวนั่นก็เช่นกันมันชั่งรัดแน่นจนโคกหีนูนเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

สภาพของหญิงสาวตอนนี้ช่างยั่วยวนไปอีกแบบ เล่นเอานายอาร์ตลืมสถานการณ์เลวร้ายเมื่อครู่ไปปลิดทิ้ง ท่อนควยเขาค่อยๆพองขึ้นมาอย่างรู้งาน แต่ไม่ทันที่เขาจะว่าอะไรต่อหญิงสาวก็เข้ามาพยุงเขาทันที “ไปเร็วอาร์ต”

ไม่นานนักหนุ่มสาวทั้งสองก็หลบเข้าไปแอบในห้องน้ำของสวนอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ตอนนี้เธอต้องพาชายหนุ่มไปหลบในที่ปลอดภัยเสียก่อน นั่นเพราะเธอต้องการดูอาการบาดเจ็บของเขา วิเวียนตรงเข้าถลกขากางเกงชายหนุ่มขึ้นทันที หญิงสาวยิ้มอย่างดีใจที่ชายหนุ่มแค่พกช้ำเล็กน้อยไม่ถึงกับข้อเท้าหัก โชคดีที่มนต์ติดตามตัวของเธอยังไม่คลาย ทันทีที่อยู่ๆสัญญาณจากมนต์หายไปเธอก็รู้ด้วยสัญชาติญาณทันทีว่าเกิดเรื่อง ร้ายกับชายหนุ่ม และเมื่อเธอเหาะทะยานมาถึงจุดสุดท้ายที่สัญญาณหาย เธอก็ได้พบว่ามีใครบางคนกางเขตอาคมล้อมรอบอยู่ หญิงสาวใช้เวลาอยู่นานจนเหงื่อกาฬผลุดขึ้นเต็มหน้ากว่าจะแทรกผ่านเขตอาคมได้ โชคดีที่เธอทำทันเวลาจึงสามารถช่วยชายหนุ่มได้ทันท่วงที แต่ปัญหามันอยู่หลังจากนี้นี่แหละ การแทรกเข้าไปในเขตอาคมนั้นยากแล้ว แต่การจะออกนี่สิยากยิ่งกว่า เธอจะทำอย่างไรดี …… ถึงจะพาชายหนุ่มออกไปได้

นายอาร์ตเองก็มองหญิงสาวตรงหน้าตาไม่กระพริบ ตอนนี้เธอนั่งคุกเข้าตรงหน้าเขา สองมือของเธอก็นวดเฟ้นเบาๆตรงข้อเท้า ไอ้อาการปวดเมื่อครู่ก็ค่อยๆหายไปช้าๆ ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเธอด้วยความดีใจ สีหน้าของเธอเวลาที่เธอทำอะไรจริงจังมันช่างดูน่ารักจริงๆ เธอชอบปากเม้นนิดๆ คิ้วสองข้างผูกกันเป็นโบว์ ใบหน้าแบบนี้นี่มันดูตลก น่ารัก แล้วก็เซ็กซี่ใน เวลาเดียวกัน อย่างประหลาด ชายหนุ่มมองใบหน้าหญิงสาวอย่างเพลิดเพลินก่อนที่เขาจะสะดุด …… แก้มของเธอ ซีกหนึ่งมันยังแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เขานึกขึ้นมาได้ทันทีว่าเมื่อไม่นานนี้เขาพึ่งทำร้ายเธอไป เขาไม่รู้เลยว่าที่เขาทำมันรุนแรงขนาดนี้ ใบหน้าสวยงามของเธอถึงยังได้แดงก่ำไม่หาย

“แก้มเป็นไงบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยถามทันที เสียงของเขาอ่อนลงไปมาก นี่คงเป็นเพราะความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปล่ะมั้ง

“ห่วงเหรอ” หญิงสาวลากเสียงสูงล้อเลียน

“ป๊าวววววววววว ก็แค่ถาม” ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกันเบือนหน้าหนีทันที วิเวียนที่มองท่าทางของเขาอยู่ก็เลยขำขึ้นมาเบาๆ ก่อนสายตาของเธอจะไปพบกับอะไรบางอย่าง

“นาฬิกานั่น ….. ยังใส่อยู่เหรอ”

“มะ ….. มันถอดไม่ออกต่างหาก” ชายหนุ่มตอบสวนทันทีก่อนจะก้มหน้านิ่ง นั่นสิ ทำไมเขายังใส่มันอยู่อีกน่ะ ทั้งๆที่เมื่อครู่เขาถอดมันพร้อมกับเงื้อมมือขว้างแล้วแท้ๆ แต่ทันทีที่ใบหน้าของคนที่ให้มันลอยขึ้นมา เขาก็ทำมันไม่ลง ทำไมน่ะ ทั้งที่ตอนแรกเขาคิดได้แล้วว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นตัวแทนของความรักปลอมๆ แต่เอาเข้าจริงๆไอ้ความรักปลอมๆนั่น เขาไม่อาจสลัดมันออกจากใจได้เลย

“ตาบ้าเอ๊ย” หญิงสาวร้องขึ้นเบาๆพร้อมกับหัวใจที่เต้นขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกของเขาเธอเข้าใจดี เขาต้องโกรธเกลียดเธอมากแน่ๆ อย่างนาฬิกาที่เธอให้เขาก็คงขว้างทิ้งไปไกล แต่ทำไมเขายังเก็บไว้ แล้วทำไมเธอต้องดีใจที่เขายังใส่ หรือเขายังรักเธออยู่ และเธอก็เริ่มรักเขาขึ้นมาแล้ว

แต่ ………. เรื่องนี้เอาไว้ก่อน สิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือต้องทำอย่างไรถึงจะหนีออกไปได้ “ลมเอ๋ย” หญิงสาวร่ายเวทย์ทันที และด้วยเวทย์มนต์บทนี้ทำให้เธอได้รับรู้ว่า ตอนนี้มีแวมไพร์จากบริเวณใกล้เคียงมุ่งหน้าเขามาสมทบเรื่อยๆ จนตอนนี้มีแวมไพร์ชั้นนักรบรวมแล้ว 15 ตัว โดยมีหัวหน้าคือแวมไพร์ชั้นแม่ทัพ 1 ตัวคอยบัญชา แต่ว่านี่มันอะไรกัน พวกมันทำไมระดมกำลังไล่ล่าอาร์ตมากขนาดนี้ ทั้งที่พวกมันก็ตรวจสอบดีแล้วนี่ว่าเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา !

“ข้างนอกนั่น มันตัวอะไรเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงอ่อยๆ เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าเครียด

“พวกนั้น มันพวกแวมไพร์” หญิงสาวหันมาตอบเสียงเรียบ

“แวมไพร์ !! แวมไพร์มันกลัวแสงไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มันออกมาตอนกลางวันโต้งๆได้ไง”

“ดูหนังมากไปแล้ว อาร์ต” หญิงสาวเอ่ยเสียงสูงแหย่เขาเล็กน้อย เพื่อว่าเขาจะคลายวิตก แต่ท่าทางจะไม่ได้ผล

“ทะ … ทำไงดี วิเวียน” ชายหนุ่มจิตตกไปแล้ว

“อาร์ตไม่ต้องกลัวน่ะ ….. วิเวียนเป็นพรีส วิเวียนมีหน้าที่ปกป้องอาร์ตจากแวมไพร์อยู่แล้ว แล้วอาร์ตเห็นที่วิเวียนทำเมื่อกี้ป่ะ วิเวียนเก่งน่ะ” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม คราวนี้ทำให้อาร์ตใจชื้นขึ้นมาได้ เธอยิ้มให้เขาเล็กๆพร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นไปมองหน้าต่าง หนึ่งเพื่อดูสถาการณ์ภายนอก สองเพื่อปกปิดใบหน้าวิตกกังวลของเธอจากชายหนุ่ม

สถานการณ์ตอนนี้เธอรู้ดีที่สุดว่ามันแย่แค่ไหน พวกเธอตกอยู่ในเขตอาคมที่มีพื้นที่จำกัดเล็ดลอดหนีไปไหนไม่ได้ แถมมีแวมไพร์จำนวนมากถึง 16 ตัวกระจายอยู่โดยรอบอีก ไม่ช้าพวกมันต้องหาห้องน้ำนี่เจอ ลำพังแค่ตัวเธอคนเดียวก็พอเอาตัวรอดได้ แต่การต้องปกป้องอาร์ตไปด้วยนี่สิ ไหน … ไอ้วิธีที่จะหนีไปจากที่นี่อีก มันมีเพียงทางเดียวก็คือจัคการเจ้าตัวหัวหน้าเพื่อให้มนต์คลายเท่านั้น แต่ …. จะทำแบบนั้นได้ก็ต้องใช้มนต์เลเวล 6

“มนต์เลเวล 6 เหรอ” หญิงสาวเอ่ยทวนเบาๆ ใบหน้าของเธอแดงระเรือขึ้นมาทันที การจะทำให้ตัวเธอตอนนี้ใช้มนต์เลเวล 6 ได้ ก่อนอื่นเธอต้องเพิ่มมาน่าให้เพียงพอที่จะอัพสกิลได้ก่อน ซึ่งวิธีเพิ่มมาน่ามันก็คือ …….

หญิงสาวสูดลมหายใจช้าๆเพื่อเรียกสติ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งลังเล พวกแวมไพร์ข้างนอกจะบุกเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็หันควับมามองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าทันทีก่อนจะก้มหน้า นิ่งอย่างเขินอาย สองมือของเธอก็ทำงานไปเงียบๆ ไม่ช้ากางเกงขาสั้นตัวจิ๋วก็ถูกถอดออก เผยให้เห็นเนินหีโหนกนูนที่มีขนบางๆปกคลุมอยู่ หญิงสาวทรุดนั่งลงกับพื้นก่อนจะถ่างขาออก มือข้างหนึ่งแหวกกลีบสวยนั่นออกจากกัน เพื่อให้มืออีกข้างได้สอดนิ้วเรียวสวยเข้าไป หญิงสาวครางในลำคอเล็กน้อยพร้อมกับขยับนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ หลังจากนั้นเธอก็เงยหน้ามามองชายหนุ่มตาเยิ้มฉ่ำพร้อมกับเอ่ยเสียงหวานๆ “เย็ดวิเวียนหน่อยสิค่ะอาร์ต”

“อะ … อะไรน่ะวิเวียน” ชายหนุ่มร้องเสียงเหรอหรา ตอนนี้เขางงเป็นไก่ตาแตกที่อยู่หญิงสาวก็มาช่วยตัวเองต่อหน้าเขาซะงั้น แถมยังเชิญชวนให้เขาเข้าไปเย็ดอีก

“ทำไมค่ะ อาร์ตไม่อยากเย็ดวิเวียนเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เวลาแบบนี้ ผมไม่มีอารมณ์หรอก”

“โกหก ! ……….. อาร์ตไม่กล้าละสิ อย่าคิดว่าวิเวียนไม่รู้น่ะ เรื่องที่อาร์ตเอาวิเวียนไปจินตนาการแล้วอยู่ๆอาร์ตก็เสร็จอ่ะ อาร์ตกลัววิเวียนรู้สิท่าว่าอาร์ตมันไก่อ่อน”

“วิเวียนว่าอะไรน่ะ” นายอาร์ตชักฉุน ที่วิเวียนเอาเรื่องจริงมาล้อเล่น เขาเข้าใจเธอดีกว่าเธอต้องการท้าทายเขา แต่เธอทำไปทำไมกัน

“ไก่อ่อนๆๆๆๆๆๆๆ” น่าน หญิงสาวยังยั่วโมโหเขาไม่หยุด ตอนนี้เธอจะทำไปเพราะอะไรก็ชั่งมัน เพราะเขาชักโมโหจริงๆแล้ว

“ได้ ……… วิเวียนเจอดีแน่ !” ชายหนุ่มร้องคำรามพร้อมกลับแก้ผ้าออกอย่างรวดเร็ว ถ้าเธออยากโดนเย็ดนักเขาก็จะจัดให้

ชายหนุ่มพุ่งเข้าหาหญิงสาว ก่อนจะกดเธอราบลงกับพื้น วิเวียนร้องออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะประสานตากับชายตรงหน้าอย่างท้าทาย ก่อนที่เธอจะพุ่งเข้าประกบปากกับชายหนุ่มตรงหน้า ซึ่งชายหนุ่มก็ตอบสนองจูบนี้ของเธออย่างรุนแรง เร้าร้อน ไม่แพ้กัน ลิ้นของทั้งสองที่สอดใส่เข้ามากอดรัดกันแน่นราวกับว่าโหยหากันมานาน ความโกรธเคืองของชายหนุ่มที่เคยมีมาสลายหายไป พร้อมกันกับความรู้สึกผิดของหญิงสาว ตอนนี้ทั้งสองมีเพียงอารมณ์สเน่หาของคู่รักเท่านั้นที่กำลังลุกโชน

ชายหนุ่มกดร่างเธอให้นอนราบลงกับพื้นอีกครั้งก่อนจะทิ้งตัวนอนทาบแล้วทิ้ง น้ำหนักตัวลงบนร่างบางตรงหน้า ราวกับจะบดร่างกายของหญิงจะสาวให้แหลกละเอียด หญิงสาวร้องออกมาเล็กน้อยอย่างอึดอัด แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอตวัดขาเรี่ยวงามขึ้นไปกอดรัดบริเวนเอวของชายหนุ่ม พร้อมกับสอดมือทั้งสองไปใต้ราวนมเพื่อกอดร่างของเขาในแนบแน่นยิ่งขึ้น และจิกหลังของเขาเบาๆตอบโต้

“โอ๊ะ” ชายหนุ่มร้องขึ้นมาเบาๆ เขาตรงเข้าจับแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างกางออก โดยที่หญิงสาวไม่อาจขัดขืนได้เลย เมื่ออยู่ในสภาพที่ไม่สามารถป้องกันตัวได้แบบนี้ เธอจึงทำได้เพียงหลับตาพริ้ม เพื่อจะลุ้นว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะลงโทษเธออย่างไรต่อเท่านั้น ซึ่งเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอลุ้นนาน เขาถอนปากออกจากริมฝีปากอวบอิ่มนั้น แล้วเลื่อนไปขบที่ติ่งหูเธอเบาๆ เล่นเอาเธอถึงกับครางซี๊ดซ๊าด สองขาที่กอดรัดอยู่ก็ยิ่งตวัดแน่นเข้าไปอีก ทำให้เนินหีของเธอ บดเบียนเข้ากับลำควยของเขาเต็มๆ

ชายหนุ่มยันตัวขึ้นช้าๆ เขาเพ็งมองร่างงามของหญิงสาวตรงหน้าอย่างหลงใหล ผิวพรรณที่ขาวนวลของเธอแดงระเรื่อไปทั้งร่าง เขาค่อยๆเลื่อนลงมามองเบื้องล่าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเนินสวาทของเธอ มันสวยงาม โหนกนูน เกินกว่าที่เขาเคยจิตนาการไว้เสียอีก แถมตอนนี้มันยังมีน้ำรักไหลจนเอ่อล้น บ่งบอกได้ดีถึงความต้องการของเธอที่พุ่งเต็มที่ ดังนั้นชายหนุ่มไม่รอช้า เขาเอาท่อนควยถูไถไปมาบนเนินหี ก่อนจะค่อยๆกดผ่านร่องกลีบเข้าไปทันที

“อะ …….. อาร์ตตตตตตตตต” หญิงสาวร้องออกมาทันที ร่องหีของเธอกระตุกตอดรับเจ้าสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามาอย่างรุนแรง ไม่นานนักหลังจากที่นายอาร์ตแทงควยเข้ามาจนมิด เธอก็กระตุกอย่างแรง เสร็จไปหนึ่งรอบทันที

นายอาร์ตมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเหนื่อยหอบอย่างสะใจ เธอเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนจริงๆ แค่เพียงเขาสอดใส่เข้าไปเท่านั้น เธอก็ถึงจุดสุดยอดเสียแล้ว แถมร่องหีของเธอหลังเสร็จกิจ ก็ยิ่งตอดรัดลำควยของเขาหนักขึ้น ชายหนุ่มซิ๊ดปากเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเริ่มจัดแจงท่าเป็นนั่งคุกเข่า สองแขนวางยันกับพื้น พร้อมกับขยับสะโพกกระแทกลำควยอย่างรุนแรง

“อ๊ะ … อา ….. อาร์ตค๊า ……” วิเวียนร้องอย่างสุดเสียว ร่างของเธอโยกไหวไปมาอย่างรุนแรงตามแรงกระเด้าของชายหนุ่ม จนเธอต้องเลื่อนมือขึ้นไปเหนือหัวเพื่อช่วยยันพนังไว้ เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มจัดการถลกเลื้อกล้ามสีขาวของเธอขึ้นเพื่อปลดปล่อยเต้า งามขนาด 36 ที่อยู่ภายในออกมา

“โอวววววว วิเวียนเสียวววววว” วิเวียนร้องออกมาทันทีเมื่อชายหนุ่มลงมือจู่โจมเต้างามทั้งสอง เต้าซ้ายโดนเขาขบกัดอย่างรุนแรง เต้าขวาก็โดนเขาใช้มือที่ว่างอยู่คลึงหัวนมไปมา อาการเจ็บสลับเสียวแบบนี้เล่นเอาอารมณ์ของหญิงสาวกระเจิดกระเจิง จนเธอต้องเด้งสวนลำควยเขาเป็นระยะๆ สองขากอดรัดเขาไม่ยอมปล่อย จนในที่สุด “อ๊างงงงงงงง” เธอก็เสร็จอีกรอบ

แต่เกมส์สวาทยังไม่จบชายหนุ่มพลิกร่างเธอให้นอนคว่ำก่อนที่เขาจะค่อยๆฉุด ร่างเธอให้ยืนขึ้นช้าๆ ไม่ให้แท่งควยหลุดออก จากนั้นก็พาเธอเดินไปที่อ่างล้างหน้า ก่อนจะเริ่มกระเด้าอย่างรุนแรงต่อทันที หญิงสาวเมื่อเงยหน้าขึ้นมองภาพในกระจกก็ต้องตกใจ สภาพของเธอตอนนี้ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด ใบหน้าก็แดงก่ำ น้ำตาก็เอ่อล้นอย่างสุดเสียว ไหนเสื้อกล้ามของเธอที่โดนถลกขึ้นจนเต้าทั้งสองแกว่งไหว เผยให้เห็นรอยขบกัดบนเต้าด้านซ้าย สภาพของเธอตอนนี้ไม่เหลือเคล้าพรีสระดับสูงที่เดินทางข้ามมิติสักนิดเลย …. แต่นั่นก็พอให้ไฟราคะที่พึ่งมอดไปเมื่อครู่ครุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง

“โอววววววว เย็ดแรงๆเลยค่ะ อาร์ตตตตตตตต” วิเวียนหวีดร้องอย่างร้อนร่าน สร้างความสะใจกับชายหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง สองมือของเขาจับมั่นที่บั้นเอวของเธอ ก่อนจะกระแทกเอวสวนเข้าไปอย่างรุนแรง เสียงท่อนเนื้อกระแทกกันของหนุ่มสาวสลับกับเสียงครวญครางอย่างสุขสมของทั้ง สองดังก้องอยู่เนิ่นนาน ราวกับจะไม่มีวันจบ

.
.

“มึงเข้าไปดูในห้องน้ำยังว่ะ ….”

.
.
เสียงที่ดังลอดจากข้างนอกปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์ทันที ! เธอหันขวับไปตามต้นเสียงก่อนร่ายเวทย์ตรวจสอบ มีแวมไพร์ 2 ตัวกำลังมุ่งมาทางนี้ !! ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือกขึ้นมาทันที เพราะในตอนนี้ถ้ามันเข้ามาเจอ ทั้งเธอและเขาต้องแย่แน่ แถมเกมส์กามที่กำลังดำเนินอยู่ก็กำลังเข้าจุดสำคัญ ซึ่งถ้าเธอหยุดตอนนี้ทั้งเธอและอาร์ตก็ต้องได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เธอหันมามองชายหนุ่มเล็กน้อย ตานี่เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเลยมีสัมผัสไม่เฉียบคมเท่าเธอ ไม่แปลกที่เขาไม่รู้ตัว ยังมีความสุขกับการเย็ดอยู่ได้

“อะ …. อาร์ตยังไม่เสร็จอีกเหรอ” หญิงสาวกลั้นใจก่อนจะเอ่ยถาม

“เป็นไงวิเวียน อาร์ตอึดใช่ป่ะ อาร์ตจะอั้นไว้แบบนี้แหละ เอาให้วิเวียนเสร็จสัก 10 รอบก่อนเป็นไง”

‘ตาบ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย’ หญิงสาวร้องลั่นในใจ ‘อั้นไว้เหรอ หนอย มาเล่นอะไรบ้าๆ นี่แน่ะ!!’ ว่าแล้วเธอก็กระแทกตัวสวนกลับเข้าไปอย่างแรง นายอาร์ตที่กำลังซอยเอวอย่างเมามันส์ถึงกับหกล้มก้นกระแทกดัง “โครมมมมมมม”

.
.

“เสียงอะไรว่ะ ….. ไปเร็ว” เจ้าแวมไพร์สองตัวที่อยู่ใกล้นั้นได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ว่าแล้วมันก็พุ่งตัวไปยังต้นเสียงด้วยความเร็วสูง เจ้าตัวแรกที่พุ่งเร็วกว่ามาถึงก่อน แต่ไม่ทันที่มันจะพังประตูห้องน้ำเข้ามา มันก็โดนแรงปะทะบางอย่างกระแทกกลับ จนเซไถลไปไกล ในขณะที่เจ้าตัวที่สองที่ตามมาทีหลังเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้มันก็รู้ได้ ทันที “หึ …. กางบาเรียไว้รอบเหรอ ของแค่นี้ไม่ต้องท่านมาโฮนหรอก แค่ข้าก็ทำลายมันได้”

.
.

หญิงสาวมองไปที่ด้านนอกอีกครั้ง โชคดีที่เธอกางบาเรียคลุมที่นี่ไว้ก่อนแต่แรก แต่นั่นมันก็กันไว้แค่ชั่วคราว ‘ไม่มีเวลาแล้ว’ หญิงสาวหันมามองชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง ตอนนี้เขานอนราบอยู่กับพื้นโดยมีเธอนั่งค่อมอยู่ และเมื่อเธอจัดแจงท่าได้แล้ว เธอก็จ้องมองชายหนุ่มตาลุกวาว “เล่นอั้นไว้ใช่ม๊ายยยยยย” ว่าแล้วเธอก็กระแทกสะโพกขย่มใส่ทันที

“อุยยยยยยยยย” คราวนี้เป็นนายอาร์ตบ้างที่ร้องออกมาอย่างสุดเสียว ร่องหีของเธอมันช่างดูดรัดรุนแรงแค่ไหนเขาก็พอรู้ แต่เมื่อเธอมาอยู่ท่านี้มันกลับดูดตอดรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า ไม่เท่านั้นสะโพกของเธอก็ขย่มใส่เขาอย่างรุนแรงเกินกว่าที่เขาเคยเจอจาก ผู้หญิงคนไหน เล่นเอาเขาเสียวขึ้นไปทั้งลำโคน เป็นแบบนี้ต่อไปในไม่กี่นาทีข้างหน้าเขาต้องเสร็จแน่ ได้ไงล่ะ เขากะให้เธอเสร็จก่อน 10 น้ำนี่ ว่าแล้วเขาก็กลั้นใจอั้มน้ำเงี่ยนไว้เต็มกำลัง

“อาร์ยังไม่ยอมช่ายม๊ายยยยยยยย” หญิงสาวร้องอีกครั้งแถมยังเอื้อมมือไปบิดหัวนมของชายหนุ่มทั้งสอง เล่นชายหนุ่มร้องจ๊ากขึ้นมาทันที เมื่อเขาเสียสมาธิแบบนี้ก็เป็นโอกาสให้เธอเผด็จศึกแล้ว

“อร๊างสสสสสสสสสสส์” หญิงสาวร้องลั่นอย่างสุดเสียว ไม่แค่เขาหรอก ท่านี้ก็ทำให้เธอก็กำลังเสร็จเป็นครั้งที่ 4 เหมือนกัน แต่ยิ่งเธอใกล้เสร็จแบบนี้ สะโพกเธอก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นเป็นทวีคูน เจอเข้าไปแบบนี้ไม่มีชายคนไหนแล้วที่จะรับไหว

“โอวววววววว วิเวียนนนนนนนนนนน” นายอาร์ตก็เช่นกัน เขาร้องลั่นทันที น้ำรักที่เขาอั้นไว้ตั้งนานพุ่งทะลักราวทำนบแตก โดยที่ร่องหีของเธอทุดซับเอาไว้ไม่เหลือสักหยด ไม่พอร่องหีที่ตอดตุบๆไปทั่วของเธอก็ยังให้ความรู้สึกเสียวซ่านแต่อุ่นสบาย เล่นเอาชายหนุ่มที่พึ่งเสร็จกิจนั้นหลับตาเพลิ้มอย่างสุขสม

หญิงสาวที่มองท่าทางของเขาอยู่ก็นึกขำขึ้นมาเบาๆ ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนกับเด็กที่พึ่งโดนแม่กล่อมหลับยังไงยังงั้น เธอค่อยๆลูบใบหน้าคมสันของเขาเบาๆอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหลับตาช้าๆ …… “ย๊ากกกกกกกกกกกก” หญิงสาวหวีดร้องขึ้นมาทันที พร้อมกับดูดพลังมาน่าของชายตรงหน้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว พลังมาน่าที่มหาศาลไหลทะลักเข้ามาจนเธอรู้สึกอัดอั้นไปทั้งร่าง แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ยังบดเนินหีแนบแน่นเข้าไปอีก ราวกับจะดูดกลืนมันมาให้หมด

“เสร็จกูล่ะ !! ……..” เสียงเจ้าแวมไพร์ดังลั่น หลังจากที่มันใช้เวลาครู่ใหญ่ๆมันก็เปิดบาเรียได้ พอเปิดได้แล้วมันก็พุ่งเข้ามาในห้องน้ำทันที แวบแรกมันก็แปลกใจไม่น้อยที่ชายหนุ่มที่มันกำลังตามหามีผู้หญิงผมสีเงินที่ ไหนไม่รู้กำลังนั่งค่อมอยู่ แต่มันก็ไม่คิดอะไรมากให้ซับซ้อน มันพุ่งเข้ามาจัดการทั้งสองทันที

แต่ไม่ทันที่มันจะเข้าถึงตัวเธอ ก็มีแรงลมจำนวนมหาศาลกระแทกสวนกลับเข้ามาทันที เล่นเอาร่างของมันกระเด็นลอยไปไกล ก่อนจะตกกระแทกพื้นเป็นหลุมกว้าง ร่างกายแหลกเหลวก่อนจะสลายเป็นขี้เถ้า เล่นเอาเจ้าแวมไพร์อีกตัวที่ยืนอยู่ด้านนอกตาค้างอย่างตกใจ แต่ไม่ทันที่มันจะทำอะไรต่อ แรงลมแบบเดียวกันก็อัดกระแทกร่างของมันอย่างจังจนแหลกเหลวไปอีกตัว

วิเวียนค่อยๆเดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องน้ำ ร่างกายของเธอตอนนี้สั่นเทิ้มด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการเย็ดเมื่อครู่ ไหนจะพลังมาน่าที่อัดแน่นไปทั้งร่างจนเธอหายใจแทบไม่ออก ทำให้หญิงสาวเดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น เธอหลับตาลงเพื่อรวบรวมกำลังอีกครั้งก่อนจะยันกายขึ้นมาช้าๆ เมื่อเธอยืนได้นิ่งสนิทแล้วเธอก็ตะโกนก้องทันที

“ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

เสียงร้องของเธอตอนนี้ดังก้องราวกับเสียงกลองรบ ฝูงแวมไพร์ที่กระจัดกระจายในเขตอาคมนี้ต่างพุ่งตรงมายังเธอทันที พริบตาเดียวพวกมันทั้งหมดก็มายืนล้อมรอบเธอ โดยมีเจ้าแวมไพรมาโฮน แวมไพร์ชั้นแม่ทัพที่เป็นหัวหน้ากลุ่มยืนอยู่ตรงหน้า

“โอ ……. นึกว่าใครที่รอบเข้ามาในเขตอาคมข้า ที่แท้ก็นังพรีสกระหรี่นี่เอง” มาโฮนกล่าวเย้ยเล็กน้อยก่อนที่จะพิจารณามองพรีสสาวตรงหน้า สภาพของเธอตอนนี้ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อกล้ามหลุดลุ่ย แถมท่อนล่างก็เปลือยเปล่าอีก สภาพแบบนี้ราวกับพึ่งโดนเย็ดมาอย่างหนักยังไงยังงั้น และเมื่อมันมองสำรวจไปรอบๆมันก็เดาได้ทันที ‘แวมไพร์หายไป 3 นังพรีสนี่คงโดนรุมเย็ดแต่เสือกชนะได้สิน่ะ หึๆๆ นึกว่าได้พลังแวมไพร์กิ๊กก๊อก 3 ตัวมาเพิ่มจะสู้ได้เหรอ ช่างโง่แท้’

“ผู้ชายคนนั้น ….. ที่พวกเจ้าตามล่าน่ะ พวกเจ้าตรวจสอบแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขาเป็นมนุษย์ธรรมดา แล้วทำไมยังต้องมายุ่งกับเขาอีก”

“หึ ! ……. ถ้าอยากรู้นักก็มาเย็ดข้าสิ เพื่อเจ้าจะได้ความทรงจำข้าไปไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”

หญิงสาวเองก็พอจะกะได้อยู่ว่าจะได้คำตอบแบบไหน เธอจึงไม่พูดอะไรต่อพร้อมกับหลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิ ในขณะที่เจ้ามาโฮนยิ้มเหี้ยมเล็กน้อยพร้อมกับร่ายเวทย์เฉพาะตัวทันที “ร่างเงาพันปักษา” พริบตานั้นร่างของมันก็แตกออกเป็นฝูงนกกาจำนวนนับพันบินเต็มท้องฟ้า พร้อมกับที่มันเอ่ยสั่งลูกน้องทันที “ข้านับ 3 พวกเจ้าบุกโจมตีมันจากทุกด้าน”

1

2

3 !!

พริบตานั้น ฝูงแวมไพร์ที่รายล้อมก็พุ่งเข้าหาวิเวียนทันที ในขณะที่เจ้ามาโฮนเองก็บินพุ่งจากท้องฟ้าโจมตีจากด้านบน โดนโจมตีพร้อมกันจากทุกด้านแบบนี้หญิงสาวไม่อาจจะพบหลีกได้เลย …. แต่เธอกลับหลับตานิ่งไม่สะทกสะท้านกับสถานการณ์ตรงหน้า ก่อนจะลืมตาช้าๆพร้อมกับร่ายเวทย์ทันที

“เสาวิหาร วายุเทพ”

คาถาบทนี้จัดเป็นเวทย์ธาตุลมเลเวล 6 ชุดใหญ่ ที่มีความรุนแรงใกล้เคียงเวทย์เลเวล 7 เลยทีเดียว แต่ข้อเสียของมันก็คือเป็นคาถาที่มีความซับซ้อนสูง อีกทั้งผู้ใช้ต้องทำสมาธิเป็นเวลานานกว่าจะใช้ได้ มันจึงแทบไม่เคยถูกนำมาใช้ในการต่อสู้เลย แต่กลับวิเวียนมันต่างออกไป ในโรงเรียนฝึกพรีส เธอเคยลองฝึกเวทย์บทนี้ และสามารถใช้เวทย์นี้ได้เร็วกว่าพรีสหลายคนมาก แต่นั่นมันก็แค่การฝึกในโรงเรียน นี่จึงเป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของเธอ ถ้าเธอตัดสินใจถูก เธอก็สามารถเก็บได้พวกมันได้ในคราวเดียว แต่ถ้าผิด ชีวิตเธอก็ไม่รอด … !

ทันใดนั้นเอง แรงลมจำนวนหนึ่งก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของเธอทั่วทุกด้านอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าฝูงแวมไพร์ที่พุ่งเข้าใส่เธอปะทะกับลมนี้อย่างจัง แต่การปะทะกันคราวนี้มันต่างออกไป พวกมันไม่ได้กระเด็นกระดอนตามแรงลมเมื่อครั้งก่อนๆ แค่เพียงโดนอัดให้ลอยเคว้งเหนือพื้นเท่านั้น เล่นเอาเจ้าพวกแวมไพร์ต่างตาเหลือกด้วยความตกใจ พวกมันพยามตะเกียดตระกายบนอากาศ แต่พวกมันก็ไม่อาจจะขยับเขยือนได้เลย ไม่เว้นแม่แต่ร่างนกของเจ้ามาโฮนก็ตาม

วิเวียนยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นภาพโดยรอบ เพราะนี่แหละคือสัญญาณว่าเวทย์ของเธอใช้ได้ผลแล้ว ว่าแล้วเธอก็จัดการพวกมันต่อทันที แขนขวาของเธอถูกยกขึ้นมา ก่อนจะถูกสะบัดไปทางขวาอย่างแรง พริบตานั้นก็เกิดลมหมุนที่รุนแรง พัดวนไปทางขวารอบตัวเธอทันที ฝูงแวมไพร์ที่ลอยเคว้งอยู่นั้น ถูกลมพัดไปตามแรงเหวี่ยงทันที เล่นเอาพวกมันร้องลั่นด้วยความตกใจ แต่ยังไม่จบแค่นั้น เธอยกแขนซ้ายขึ้นก่อนจะสะบัดไปทางซ้ายเช่นกัน เกิดลมหมุนที่พัดวนไปทางซ้ายซ้อนขึ้นมาอีกชั้น ก่อนที่เธอจะยกมือทั้งสองขึ้น ทำให้ลมหมุนควงสว่านขึ้นไปสูงเสียดฟ้า ราวกับเสาวิหารดังชื่อของมันเลย

เสียงร้องของฝูงแวมไพร์ดังระงมไปทั่ว ร่างของพวกมันที่หมุนตามแรงลมชั้นในด้วยความเร็วสูงถ้าหลุดออกไปนอกวงก็จะ โดนลมหมุนชั้นนอกที่พัดสวนมาฉีกกระชากจนขาดเป็นสองท่อน สภาพของพวกมันตอนนี้ ไม่ต่างกับก้อนเนื้อที่กำลังโดนปั่นในเครื่องปั่นยังไงยังงั้น ไม่เว้นแม้แต่แวมไพร์มาโฮนที่เป็นแวมไพร์ชั้นแม่ทัพ ร่างนกของมันโดนปั่นจากแรงลมจนกระจุยกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มท้องฟ้า

ไม่นานนักเวทย์ชุดนี้ก็จบ หญิงสาวก็ทรุดลงนั่งอย่างอ่อนล้า สมกับเป็นเวทย์ชุดใหญ่จริงๆ แม้ข้อจำกัดจะเยอะและเปลืองแรงมากกว่าปกติ แต่ความรุนแรงของมันนั้นก็สามารถจัดกองฝูงแวมไพร์ 10 กว่าตัวได้ในคราวเดียว วิเวียนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ตอนนี้เขตอาคมสลายไปแล้ว “ดีล่ะ” หญิงสาวรวบรวมแรงอีกครั้ง ก่อนจะลุกวิ่งไปหานายอาร์ต ก่อนจะพาร่างชายหนุ่มเหาะไปบนท้องฟ้า

.
.
.
.
.

“ใครใช้ให้มึงหลับ ห๊า ………………….” เสียงเจ้าเบลลิคตะโกนดังลั่นก่อนจะฟาดฝ่ามือลงใบหน้าของหญิงสาวอย่างแรง เวโรนิก้าถึงกับหน้าสะบัดเลือดทะลักออกจากปาก หญิงสาวถุยเลือดในปากทิ้งไปทันทีก่อนจะหันมามองเจ้าเบลลิคตาลุกวาว เล่นเอาเจ้าแวมไพร์ร่างอ้วนถึงกับขนลุกขึ้นมาทันที

“มีไอ้อ้วนตัวไหนไม่รู้บอกจะให้ข้าจำๆอะไรนี่แหละ ไอ้ข้ารึก็อุตส่าห์รอจนเผลอหลับ ถ้ายังไงเจ้าช่วยไปเร่งไอ้อ้วนหน้าโง่นั่นให้ข้าทีสิ เบลลิค”

“มึงปากดีไอ้แค่ตอนนี้แหละเวโรนิก้า” เบลลิคคำรามลั่นก่อนจะหยิบขวดโหลที่ในนั้นบรรจุของเหลวสีเขียวอยู่ มันต่อปากขวดเข้ากับท่อบนเก้าอี้ทันที ไม่นานนักเจ้าของเหลวเหล่านั้นก็ไหลเข้าไปในเก้าอี้จนหมด เจ้าเบลลิคยิ้มอย่างสะใจก่อนที่มันจะไปหยิบน้ำมันสีเขียวขึ้นมาขวดหนึ่ง มันชโลมน้ำมันนี้บนท่อนควยอย่างรวดเร็วพร้อมกับรูดขึ้นลงไปมา จนลำควยมันตั้งโด่พร้อมใช้งาน

“นี่คือสารนำความเจ็บ มีทั้งอยู่ในรูปน้ำกับน้ำมัน ของนำเข้าจาก wonderland เลยน่ะเว้ย เอาล่ะ มึงกะกูมาลองกันหน่อยสิว่ามันจะเป็นยังไง”

พอพูดจบเจ้าเบลลิคก็น้ำแท่งควยไปจ่อรูหีของเวโรนิก้าทันที มันถูไถไปมาบนปากร่องอย่างสบายอารมณ์ แต่นั่นก็สร้างความเสียวให้เวโรนิก้าไม่น้อย เธอซิ๊ดปากดังลั่น น้ำหล่อลื่นไหลออกพร้อมใช้งาน

“หึๆๆ” เจ้าเบลลิคหัวเราะเบาก่อนที่มันจะค่อยๆยัดแท่งควยเข้าไปทันที เล่นเอาหญิงสาวร้องออกมาคำนึง ตลอด 3 วัน 3 คืนมานี้ เธอต้องทนอยู่กับเจ้าควยปลอมเย็นชืด มันเทียบไม่ได้เลยกับควยจริงๆที่กำลังยัดเข้ามา มันอบอุ่น นุ่มนวล และโดนใจเธอมากกว่า แม้เจ้าคนยัดจะเป็นคนที่เธอไม่ชอบหน้า แต่ร่างกายเธอก็ไม่สน มันตอบสนองเจ้าแท่งควยนั้นอย่างดี ร่องหีของเธอขมิบตอดอย่างดูดดื่ม

“ซิ๊ดดดดด ตอดจริงเว้ยยยยย” เจ้าเบลลิคครางอย่างสุดเสียว ก่อนที่มันจะค่อยๆขยับสะโพกเป็นจังหวะ เสียดสีร่องหีช้าๆ ก่อนจะเร่งสปีดให้เร็วขึ้น ไม่นานนักเสียงกระแทกก็รุนแรงดังป๊าบๆลั่นห้องทันที พร้อมกับเสียงครางอย่างสุดเสียวของหญิงสาว

“โอยยยย นี่เจ้า….” แต่แล้วเสียงครางอย่างสุขสมของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ร่องหี และยิ่งทวีคูนมากขึ้นเมื่อเจ้าเบลลิคเร่งซอย แต่แวมไพร์สาวก็ไม่อาจจะขัดขืนได้เลยทำได้แต่เพียงร้องระงมบรรเทาความเจ็บ เท่านั้น

“ฮ่าๆๆๆ สะใจกูจริงเว้ยยยยย เป็นไงล่ะมึง น้ำมันมันซึมเข้าไปในหีแล้วใช่ไหมว่ะ ฮ่าๆๆ เป็นไงชอบไหมว่ะ ทั้งเจ็บทั้งเสียวแบบนี้น่ะ”

เวโรนิก้าเม้มปากแน่น ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที ทุกครั้งที่เจ้าแวมไพร์อ้วนนั่นซอยเข้ามา น้ำมันก็จะยิ่งซึมมากขึ้น น้ำมันพวกนี้ประกอบด้วยสารสังเคราะห์ที่เมื่อถูกส่งเข้าสมองแล้ว สมองจะสั่งการให้รู้สึกเจ็บบริเวณนั้นทันที ความเสียวจากการเย็ดบวกกับความเจ็บปวดจากตัวยา สองสิ่งนี้สร้างความทรมานให้กับแวมไพร์สาวจนเกินจะรับไหว แต่ในขณะเดียวกันมันก็สร้างความสุขสมให้เธออย่างประหลาด ร่างของเธอกระตุกเบาๆเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าเธอใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้ว

“อ๊ากกกกกกกกกกกก” เวโรนิก้าร้องลั่นอย่างทรมาน เข็มนับร้อยของเก้าอี้แทงเข้ามาในร่างเธออีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่แทงเปล่า เจ้าเข็มพวกนี้ยังฉีดสารสีเขียวใส่ร่างเธอด้วย เธอถึงกับร้องลั่นราวจะขาดใจ สารพวกนี้มีความบริสุทธิ์มากกว่าน้ำมัน มันจึงนำความเจ็บได้ดีกว่า เรียกว่าความเจ็บที่ร่องหีเมื่อครู่กลายเป็นมดกัดไปเลย

“อา ……………..” แต่เธอก็ยังโชคดีอยู่บ้าง เจ้าแวมไพร์อ้วนมันเสร็จพอดี น้ำกามจำนวนมากไหลเข้าไปในร่องหีของเธอ ร่างกายของเธอรีบดูดซับน้ำกามเหล่านั้นทันทีเพื่อชดเชยความหิวกระหายที่มีมา ตลอด 3 วัน ส่วนเจ้าแวมไพร์เบลลิคถอนลำควยออกมาช้าๆ ก่อนที่มันจะเดินไปหยิบยาเม็ดเล็กๆมาเคี้ยว พริบตานั้นท่อนควยที่พึ่งอ่อนลงเมื่อครู่ก็ตั้งชูชันมาอีกรอบ

“ฮ่าๆๆๆ มึงกับกูต้องเล่นกันอีกหลายยก เมื่อกี้มันแค่อุ่นเครื่องเว้ย ฮ่าๆๆ” เจ้าเบลลิคมันหัวเราะลั่น ก่อนจะเอาน้ำมันมาทาแล้วยัดควยเข้าไปใหม่ พร้อมกับซอยก้นอย่างเมามัน แต่ไม่ทันที่ยกสองจะเริ่มไปได้เท่าไหร่ “ปั้งๆๆ ขออนุญาตครับท่านเบลลิค”

“ไอ้เหี้ยยยยยยยยย !! มึงมาเสือกเหี้ยอะไรว่ะ ใสหัวไปให้พ้น!!” เบลลิคหันไปตวาดสั่น อยู่ๆแวมไพร์ชั้นนักรบกลุ่มนึงก็มาขัดจังหวะความมันส์ของมันซะอย่างงั้น เล่นเอาอารมณ์ของมันที่กำลังครุกรุ่นต้องสะดุดลง

“แต่นี่เป็นคำสั่งของท่านลินคอห์นครับ ท่านลินคอห์นเรียกพบท่านเวโรนิก้าเดี้ยวนี้ครับ”

เมื่อได้ยินชื่อของแวมไพร์ชั้นขุนพล เจ้าเบลลิคก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ มันจัดแจงถอนลำควยออกมาอย่างเสียดาย ก่อนที่จะแต่งตัวและปล่อยให้เจ้าแวมไพร์พวกนั้นเข้ามานำตัวแวมไพร์สาวไป

.
.
.

“ท่านลินคอห์น” หญิงสาวเอ่ยทักชายในจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์อย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปรอบๆ แวมไพร์โจทย์เก่าของเธอทั้งสอง มาโฮน กับ เบลลิค ก็ยืนอยู่ด้วย

“เจ้าเคยบอกไว้ว่าเจ้ามีแผนตามตัวร่างกำเนิดใหม่ของท่านอาลูคาร์ดกลับมาใช่ไหม เวโรนิก้า”

“ค่ะ ท่านลินคอร์น”

“ดี … งั้นข้าอยากให้เจ้าใช้แผนนั้นช่วยเหลือ มาโฮน หน่อย เจ้าจะว่ายังไง”

“ข้ายินดีค่ะ ท่านลินคอร์น”

“ดี …. โทษของเจ้าให้ถือเป็นทัณฑ์บนไว้ก่อน ถ้างานนี้สำเร็จ ข้าจะเว้นโทษให้ …… ส่วนเจ้า มาโฮน ข้าทำตามที่เจ้าร้องขอแล้ว เจ้ามีอะไรอีกไหม”

“ครับท่าลินคอร์น ข้าขอให้เบลลิคมาช่วยข้าอีกแรง มีแวมไพร์ชั้นแม่ทัพ 3 คนทำงานนี้ งานจะสำเร็จได้เร็วขึ้นครับ”

เวโรนิก้าที่ได้ยินคำร้องนี้ก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกับพูดเบาๆในใจ ‘ฉลาดนักน่ะ’ แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ ส่วนข้อเสนอของมาโฮนนั้น ก็ได้รับคำยินยอมจากแวมไพร์ชั้นขุนพลตรงหน้า

แวมไพร์มาโฮนหันมามองเธอเล็กน้อย สายตาของมันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอยังไงยังงั้น แต่มันก็ไม่พูดอะไรเดินนำเพื่อนคู่หูออกไปข้างนอก ส่วนเจ้าแวมไพร์เบลลิคได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้ามาโฮนที่กลับมาหลังจากออกไปปฏิบัติภารกิจ 3 วัน ถึงได้ร้องขอให้นำตัวแวมไพร์คู่แค้นของพวกมันมาช่วยงาน เมื่อมันทั้งคู่เดินออกมาด้านนอกได้ เจ้าเบลลิคก็ตรงเข้าไปคว้าคอมาโฮนขึ้นมาทันที

“ทำอะไรของเจ้าว่ะ ไอ้มาโฮนนนนนนนน”

“ไม่ต้องเสือก !! มึงไปให้พ้น” มาโฮนตวาดลั่นพร้อมกับใช้มือกระแทกเข้าที่หน้าอกเบลลิคอย่างแรงจนมันกระเด็น ไปไกล เล่นเอาเจ้าแวมไพร์อ้วนถึงกับนอนจุกลุกไม่ขึ้น ส่วนมาโฮนเอง เมื่อเดินไปจนลับตาคนแล้ว มันก็ฟาดฝ่ามือระบายอารมณ์เข้ากับพนังริเวนนั้นอย่างรุนแรง จนพนังรอบด้านพังทลายทันที พร้อมกับเผยให้เห็นสีหน้าเคืองแค้นของเจ้าแวมไพร์ และมันยิ่งแค้นหนักเมื่อมันนึกถึงเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า

.
.
.

ณ. สวนสาธารณะหลังมหาวิทยาลัยที่เดิม พรีสสาวกับชายหนุ่มเหาะทะยานลับไปไกลแล้ว ทิ้งไว้เบื้องหลังแค่เพียงร่องรอยการต่อสู้อย่างดุเดือดเมื่อครู่ และซากแวมไพร์ที่กระจายเกลื่อนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แค่เพียงอึดใจ ซากเหล่านั้นก็สลายกลายเป็นขี้เถ้าหายไปทันที แต่ …. ในหมู่ซากของฝูงแวมไพร์ มีเศษชิ้นอยู่จำนวนหนึ่งที่ยังไม่สลาย มินำซ้ำมันยังสั่นดุ๊กดิ๊กไปมาราวกับมีชีวิต และทันใดนั้นเจ้าซากพวกนี้ก็ก่อตัวกลายเป็นนกกาตัวเล็กๆ ค่อยๆเดินเตาะแตะมารวมกัน ก่อนจะรวมกันเป็นเนื้อเดียว

“อ๊ากกกกกกก” ร่างเนื้อนั่นร้องลั่นก่อนจะก่อรูปเป็นร่างคน มาโฮน นั่นเอง นี่คือความมหัศจรรย์เวทย์ร่างเงาพันปักษาที่ต่อให้โดนฉีกร่างกระจัดกระจาย แค่ไหน แต่สุดท้ายชิ้นเนื้อเหล่านั้นก็สามารถมารวมตัวกันได้ใหม่ แถมยังฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้อีกด้วย เรียกว่าผู้ใช้เวทย์นี้ได้แทบจะเป็นอมตะเลยทีเดียว “อีพรีสระยำ ทำกูแสบนักน่ะ แต่คิดจะฆ่ากูมันไม่ง่ายหรอกเว้ยยยยยยย”

.
.

“โอ้ ……. แต่สภาพเจ้าก็ดูไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ !!”

.
.

แต่ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นมา เล่นเอามาโฮนต้องหันขวับไปต้นเสียงด้วยความตกใจ เจ้าของเสียงนั้นที่แท้ก็เป็นนกกาตัวหนึ่ง แต่มันไม่ใช่นกกาธรรมดา เพราะมันเป็นหนึ่งในร่างแยกของเจ้ามาโฮนเอง เป็นไปได้ยังไง ! ทำไมยังเหลือร่างแยกของมันอยู่ เพราะรอดจากเวทย์นั่นได้เหรอ ไม่ใช่ ! เพราะมันไม่ได้โจมตีต่างหาก มันกำลังถูกควบคุมโดยคนอื่น

“เวทย์แทรกซึม !! เดี้ยวก่อน …. เจ้าเองเหรอ” เวทย์แทรกซึมเป็นเวทย์สอดแนมชั้นสูง เพราะไม่เพียงมันจะทำให้ล่วงรู้ความลับของเป้าหมาย มันยังใช้ควบคุมอวัยวะเล็กๆบางอย่างของเป้าหมายได้ด้วย ดังนั้นไม่แปลเลยที่ร่างแยกตัวหนึ่งของมาโฮนจะถูกควบคุม แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ ผู้ที่ใช้เวทย์นี้อยู่ ไม่ใช่ใครเลย คู่แค้นของมัน เวโรนิก้า !!

“เอาไงดีล่ะมาโฮน เหตุการณ์ครั้งนี้มันถูกบันทึกลงความจำข้าหมดแล้วน่ะ ไหนแวมไพร์ฉลาดๆเช่นเจ้าลองบอกหน่อยสิ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูท่านลินคอร์น มันจะเกิดอะไรขึ้น”

“นังเวโรนิก้า ……. เจ้ากล้าขู่ข้าเรอะ !!” มาโฮนตวาดลั่น

“จะลองดูไหมล่ะ !! แต่สำหรับเจ้า ท่านลินคอร์นคงไม่ใจดีให้โดนแค่ทัณฑ์ไร้น้ำหรอกน่ะ” ดูท่าคำขู่ของเวโรนิก้าจะได้ผล เจ้ามาโฮนนี่เงียบไปทันที

“เจ้า …… จะเอายังไง” มาโฮนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ นังนี่ที่มายืนตีฝีปากข่มขู่เขาแบบนี้ จุดประสงค์ของนางก็คือต้องการต่อรองอะไรบางอย่างกับเขาแน่ๆ แต่ไม่ว่ายังไงตอนนี้เขาก็อยู่ในสภาพเป็นรอง คงต้องลองฟังข้อเสนอของนางก่อน

“หึๆๆ พูดง่ายดีนี่มาโฮน ยังไงเดี้ยวเจ้าก็ต้องกลับไปรายงานความคืบหน้ากับท่านลินคอร์นใช่ไหม ข้าก็แค่อยากให้เจ้าช่วยรายงานหน่อยว่า 3 วันที่ผ่านมานี้เจ้าหาเจ้าหนุ่มนั่นไม่เจอ และก็ขอให้ข้าออกมาช่วยงาน แค่นี้แหละ เป็นไง ง่ายไหม”

“เวโรนิก้า …….. !!” มาโฮนคำรามลั่นอย่างเคืองแค้น เจ้ามาโฮนนั้นเป็นแวมไพร์แท้ที่เกิดมาในตระกูลเก่าแก่ ที่ผ่านมามันทำตัวหยิ่งผยองไม่เห็นใครอยู่ในสายตามาตลอด โดยเฉพาะเจ้าพวกแวมไพร์ตีตรา ที่มันรังเกียจเข้าไส้ แต่มาวันนี้ มันต้องมาโดนแวมไพร์ชั้นต่ำที่มันเกลียดชังข่มขู่ แบบนี้มันจะเอาหน้าไว้ที่ไหน ….. แต่ มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว “ข้าตกลง !!”

“ข้าดีใจที่ได้ที่เราตกลงกันได้ แล้วเจอกันมาโฮน” หลังจากแวมไพร์สาวพูดจบ ร่างนกตัวนั้นก็กระตุกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเวทย์มนต์โดนถอนไปแล้ว พอกับเสียงหัวเราะเบาๆอย่างผู้มีชัยที่ค่อยๆลอยห่างออกไป ทิ้งไว้เพียงแค่ร่างของมาโฮน แวมไพร์ที่กำลังคลั่งตายเพราะความแค้น

.
.
.

เวโรนิก้ายืนมองเจ้าแวมไพร์คู่หูทั้งสองที่กำลังออกจากห้องไป พร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มุมปากมาแว๊บหนึ่ง ‘เจ้าเล่ห์ไม่เปลี่ยนเลยน่ะเจ้ามาโฮน คิดจะเอาไอ้แวมไพร์อ้วนเบลลิคมาเป็นแนวร่วมเรอะ ก็ดี ข้าจะได้หาเวลาเอาคืนพวกเจ้าได้ในคราวเดียว’

“ฝีมือเจ้าใช่ไหม” เสียงเรียบๆแต่ทรงพลังของชายอีกโลกดังขึ้น เวโรนิก้าหันไปตามเสียงพร้อมกับก้มหน้าอย่างนอบน้อม “หึ … เจ้ามีอะไรมาให้ข้าแปลกใจได้เสมอน่ะ …… ข้าไม่รู้หรอกน่ะว่าเจ้าใช้วิธีไหน และข้าก็คิดว่าข้าไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ที่ข้ารู้ก็คือ นี่สิ สมกับเป็นเจ้า เวโรนิก้า”

“ขอบคุณค่ะท่านลินคอร์น แต่ทั้งหมดนี้ก็เพราะข้าได้ท่านลินคอร์นสั่งสอนค่ะ

“หึๆ ……. อย่าทำให้ข้าผิดหวังเป็นครั้งที่สองน่ะ เวโรนิก้า”

“ค่ะ”

.
.
.
.
.

“ตุ๋น ๆๆ มาช่วยข้าหน่อย” พรีสสาวร้องลั่นเมื่อร่อนลงมาหน้าบ้าน แต่ก็เงียบไม่เสียงตอบรับ “บ้าจริงเชียว นี่หนีเที่ยวใช่ไหมเนี่ย”

“ไม่เป็นไรหรอกวิเวียน ผมเดินไหว”นายอาร์ตกล่าวช้าๆพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างอ่อนเพลีย โดยมีหญิงสาวประครองไม่ยอมห่าง “วิเวียนเป็นยังไงบ้าง”

“แค่นี้เอง วิเวียนสบายมาก” หญิงสาวเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างสดใสเหมือนทุกครั้ง

“วิเวียน …… ผมขอโทษน่ะ”

“อาร์ตไม่ต้องขอโทษหรอก อาร์ตไม่ใช่คนผิด”

“แต่ว่าผม …….” ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรต่อ วิเวียนก็จูบที่ริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา จูบที่นุ่มนวลนี้วิเศษราวกับยาชั้นดี มันช่วยเยียวยาความรู้สึกในใจของชายหนุ่มให้มลายหายไปจนหมด

“ทั้งหมดมันเป็นเพราะวิเวียนไม่ดีเอง วิเวียนทำร้ายอาร์ต แต่ต่อไปนี้อาร์ตไม่ห่วงน่ะ วิเวียนจะไม่มีวันทำร้ายอาร์ตอีกแล้ว วิเวียนสัญญา”

“อืมมมมมมมมมมม”

“เข้าบ้านเถอะ”

<จบตอน>