3784-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-7
แก้วเอื้อมมือไปปิดฝักบัว การอาบน้ำในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าพิเศษ วันนี้แก้วต้องประชุมตั้งแต่แปดโมงครึ่งจนถึงห้าโมงเย็น แก้วได้พักไม่ถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ ทานข้าวไปแค่จานเดียวในตอนเที่ยง แล้วจากนั้นก็ดื่มแต่น้ำชาตลอดการประชุมเลยค่ะ แก้วก้าวออกมาจากอ่างน้ำพร้อมทั้งสวมชุดคลุมผ้าขนหนูแล้วผูกตรงเอวก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง พี่หนุ่มนอนรออยู่บนเตียง เตียงขนาดคิงไซด์ที่แก้วเรียกร้องให้พี่หนุ่มซื้อมาใหม่แทนเตียงเก่าที่พี่หนุ่มมีอยู่ แก้วยังจำได้ดีว่าหลังจากวันที่โดนพี่หนุ่มกระทุ้งไปในคืนแรกนั้น ตอนเช้าแก้วลุกไม่ได้เลย วันอาทิตย์นั้น แก้วนอนซมทั้งวันเลยค่ะ ต้องโทรไปบอกน้องสาวว่า ไม่ค่อยสบายต้องนอนพักบ้านเพื่อน พี่หนุ่มยิ้มทั้งวันเลย ถึงแม้ว่าหลังจากคืนนั้นแล้วจะไม่ได้นอนกับแก้วอีกเป็นอาทิตย์ก็ตาม แต่เราก็ตัดสินใจคบกัน พี่หนุ่มติดแก้วมาก หลงชนิดที่ว่า ตามรับตามส่งทุกวัน จนกระทั่งวันที่สิบของการคบกัน พี่หนุ่มก็สารภาพว่า ตั้งแต่มีอะไรกับแก้วคืนนั้นแล้วก็ไม่ได้ยุ่งกับใครอีกเลย แล้วก็อยากได้แก้วเป็นเมียไปอยู่ด้วยกันเลย แก้วบอกว่าขอเวลาคิดสักระยะนึงก็แล้วกัน (ก็แกล้งเล่นตัวก่อน เพราะเห็นว่าเค้ากำลังคลั่งเรา อิอิ) แต่ระยะเวลาของการเล่นตัวก็ไม่นานค่ะ เพราะว่าพี่หนุ่มเข้าทางคุณแม่ค่ะ ไปขอคุณแม่ที่บ้านเกิดของแก้วเลยค่ะ แต่แก้วกำลังยุ่งกับการทำงาน หาวันหยุดไม่ได้ เลยยังไม่ได้จัดงานค่ะ (ถ้าจัดงานเมื่อไหร่จะเชิญพี่ๆๆน้องๆๆที่บ้านสีฟ้าดีไหมเนี่ยะ อิอิ) แต่ก็มาอยุ่ด้วยกันแล้วเพราะพี่หนุ่มไปบอกคุณแม่ว่ามีอะไรกันแล้ว เลยต้องจดทะเบียนกันก่อนจัดการแต่งงานค่ะ พี่หนุ่มละสายตาจากจอทีวีมามองแก้วพร้อมทำหน้ายิ้มๆๆ หนุ่ม “แก้วไม่ต้องใส่เสื้อผ้าหรอกจ้ะ เสียเวลา” แก้วค้อนให้อย่างหมั่นไส้ แหม คนบ้าพูดมาได้ แก้ววางกระปุกครีมลง เพราะไม่รู้จะทาทำไมให้เปลือง ยังไงก็ต้องอาบน้ำอีกรอบนึงอยู่ดี เลยเดินไปที่เตียงแล้วก้าวขึ้นเตียง พี่หนุ่มรั้งตัวแก้วไปกอด พร้อมทั้งจูบเบาๆๆที่กระหม่อม หนุ่ม “คิดถึงเมียทั้งวันเลย กลับมาแล้วยังไม่เห็นหน้าเมีย รู้สึกโลกไม่แจ่มใสเลย แก้วลาออกจากงานมาอยู่บ้านดีกว่า พี่เลี้ยงได้นะจ๊ะ” แก้ว “ไม่เอาหรอกค่ะ แก้วยังสนุกกับงานอยู่เลยนะคะ” แก้วส่ายหัวทันที อย่างว่าแหละค่ะ กำลังไฟแรง อีกอย่างบริษัทที่แก้วทำงานอยู่ ถ้าตัดการประชุมมหาโหดที่ใช้เวลาเป็นวันๆ ในการประชุมออกไป แก้วก็มีความสุขกับงานที่ทำค่ะ เพื่อนที่ทำงานก็น่ารัก เป็นกันเอง รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาที่แก้วจะต้องลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน หนุ่ม “จะปล่อยให้พี่นั่งรอแก้วอย่างนี้ทุกวันเหรอจ๊ะ” แก้ว “พี่หนุ่มก็ไปเที่ยวกับหนิงซิคะ ไปเที่ยวเหมือนเมื่อก่อนนี้แก้วก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิคะ” หนุ่ม “โธ่เมียจ๋า ผัวเลิกเที่ยวแล้วจ้ะ” แก้ว “ไม่ต้องเอาอย่างดาราก็ได้นะคะ พอแต่งงานมีเมียก็เลิกเที่ยว เที่ยวอย่างเดิมแก้วก็ไม่ว่าหรอกค่ะ” หนุ่ม “แต่ห้ามมีอีหนู?” พี่หนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แก้วยืดตัวมองพี่หนุ่มตรงๆๆ จ้องไปในดวงตาที่ออกแววท้าทาย แก้ว “อยากมีก็มีไปเถอะค่ะ พี่หนุ่มควรรุ้ว่า ทำอย่างไรจะมีแก้วไว้ได้ตลอดชีวิต” พี่หนุ่มกอดแก้วแน่นขึ้น หนุ่ม “แหม ไม่มีหรอกจ้ะอีหนงอีหนู” แก้ว “ทันทีที่มีเราเลิกกัน” ขู่ได้แล้วค่ะ อิอิ เพราะว่าจดทะเบียนแล้ว สมบัติได้ชัวร์ งกๆๆๆ พี่หนุ่มขยับจะพูดแต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน พี่หนุ่มเลยกดรับ แก้วเบนตัวออกนิดๆๆ เพราะตั้งแต่แก้วมาอยู่กับพี่หนุ่มก็ไม่เคยปรากฏว่ามีสาวๆๆโทรมาหาพี่หนุ่มเลย เพื่อนรุ่นพี่สมัยเรียนโทรมา พี่หนุ่มเลยคุยยาวเลย แก้วเลื่อนตัวออกจากอ้อมกอดของพี่หนุ่มแล้วก็เอนตัวลงนอนข้างๆๆ (ภาคพิเศษ สำหรับพี่AHAตามที่บอกนะคะ) “น้องแก้วๆๆๆ” แก้วหันไปมองด้วยความงุนงง คนที่เรียกแก้ว เป็นผู้ชายสูงวัย ร่างหนา มีวี่แววใจดี แต่แก้วมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงขมวดคิ้วอย่างต้องการจะระลึกความทรงจำว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เคยรู้จักกันมาจากไหน เป็นลูกค้าของบริษัท หรือว่าญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนคนไหนหรือเปล่า แก้วใช้ความทรงจำที่มีอยู่ในระยะเวลาจำกัด แต่ก็จำไม่ได้ จึงได้แต่ฉีกยิ้มให้ “หวัดดีค่ะ” อาจจะเป็นเพราะสีหน้างุนงงของแก้วด้วยกระมังที่ทำให้ชายแปลกหน้าในความรู้สึกของแก้ว เอื้อมมือมาจับที่ข้อศอกของแก้ว แต่เปนไปในแบบที่สุภาพ เพราะว่าจับข้างที่แก้วไม่ได้สะพายกระเป๋าเงิน แก้วเลยวางใจไปได้เปราะนึง “ระวังครับ ยืนชิดถนนมากไปไม่ดีนะครับ เด๋วรถเฉี่ยวเอา” เขา รั้งแขนแก้วไปยืนใกล้เขามากขึ้น กลิ่นตัวเขาหอมกรุ่น ไม่มีกลิ่นเหงื่อเลย แก้วเผลอสูดเข้าไปเต็มปอด เหมือนเขาจะอ่านใจแก้วออก “โปโล สปอร์ตครับ” อ่ะ รู้อีกว่าเรากำลังคิดว่า กลิ่นน้ำหอมยี่ห้ออะไร แม๊ อ่านใจกันได้อย่างนี้ อันตรายน๊า “ค่ะ ” แก้วรับคำอย่างเขินๆๆ จู่ๆๆเขาก็ก้มมาหอมแก้มแก้วเอาดื้อๆๆ “แลกกันนะ” อ่ะ แก้วอายจนหน้าแดงเลย “แก้วไม่ได้หอมแก้มคุณนะคะ” แล้วอีกอย่างเขาเปนใครแก้วยังไม่รู้จักเลยนะ แล้วเขาก็เอียงแก้มให้แก้ว “น้องแก้วก็หอมคืนได้หนิครับ” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้แก้ว เขย่งหอมแก้มเขาไป เขาจัดได้ว่าสูงเอามากๆๆ “วันนี้น้องแก้วจะไปไหนครับ” แก้วมองตัวเองอย่างงงๆๆ เพราะหลังจากที่แก้วหอมเขาแล้ว เขาก็กอดเอวแก้วเข้าไปในลักษณะโอบ พร้อมกับพาเดินเข้าไปในตัวอาคารเบื้องหน้า ที่เปนห้างสรรพสินค้าที่แก้วตั้งใจจะมาเดินซื้อของขวัญ ให้บรรดาผองเพื่อนสำหรับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี่แหละค่ะ “แก้วว่าจะมาซื้อของค่ะ” ดูเผินๆๆ เหมือนคู่รักที่มาเดินซื้อของด้วยกันยังไงยังงั้นเลย แก้วเดินซื้อของด้วยความเพลิดเพลิน เขาก็ทำตัวดีมาก คอยให้ความเห็นเกี่ยวกับสินค้า ความรู้ที่ได้จากเขา บางส่วนแก้วก็ไม่เคยทราบมาก่อน แต่แก้วก็รู้สึกอึดอัดใจมาก ไม่กล้าถามว่าเขาชื่ออะไร เพราะลักษณะของเขา เป็นลักษณะเหมือนคุ้นเคยกับแก้วมานาน “น้องแก้วจำพี่ไม่ได้จริงๆๆหรือครับ” แก้ว เงยหน้ามองด้วยความงุนงง ขณะที่กำลังเลือกแผ่นการ์ดปีใหม่อยู่เพลินๆๆ แก้วยิ้มแหยๆๆ พร้อมทั้งส่ายหน้า เขาบีบจมูกแก้วเบาๆๆ “น้องแก้วจำ กนกวรรณได้ไหมครับ” แก้วรีบทบทวนความจำอย่างรีบด่วน กนกวรรณ กนกวรรณไหนหว่า เริ่มสับสน สมัยเรียน ในห้องมีกนกวรรณปีละสองคน “นามสกุลอะไรคะ” “….(ขอสงวนนะคะ) ครับ น้องแก้วเคยไปทำรายงานด้วยนะครับ ที่บ้าน จำพี่ได้ไหม ที่น้องแก้วเคยมาอ้อนขอให้พี่ช่วยทำรายงานให้ไงครับ” แก้วพยายามอย่างแรง ที่จะนึกถึง เขาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะรื้อฟื้นความทรงจำ “พี่ กมลพัทธ์ครับผม” ว้าว ชื่อ เพราะอย่างนี้ ทำไมแก้วจะจำไม่ได้เล่า แก้วทวนชื่อของเขาเบาๆๆ แล้วก็เงยหน้ามองเขาอีกทีด้วยความเหลือเชื่อ “พี่เต้?” “ครับ” พี่เต้อมยิ้ม “สวัสดีค่ะพี่เต้” แก้วยกมือกราบที่อกของพี่เต้ทันที รู้สึกหน้าแตกนิดๆๆที่จำพี่เต้ไม่ได้ เพราะช่วงหนึ่งจำได้ว่า ติดพี่เต้มาก จนเพื่อนๆๆแซวว่าเป็นแฟนกันเลยแหละ “ขอโทษจริงๆๆค่ะพี่เต้ น้องแก้วจำไม่ได้ พี่เต้ตัวใหญ่มาก แล้วก็ ไม่เหมือนเดิม” พี่เต้ยกมือลูบหน้า พร้อมทั้งยิ้มเขินๆๆ “หน้าพี่เปลี่ยนไปเยอะครับ สิวหายไปหมดเลย” แก้วเดินไปจ่ายค่าการ์ดปีใหม่ แล้วแวะไปที่ฟู้ดคอร์ท เพื่อที่จะหาอะไรใส่ท้อง “กะเพาะปลาหนึ่งชามค่ะ” แก้วส่งเสียงสั่งอาหารชามโปรด พี่เต้หัวเราะเบาๆๆ พร้อมทั้งโอบตัวแก้วเข้าไปกอดแล้วก็หอมแก้วสองทีซ้อน “น้องแก้วนี่ ชอบอะไรก็ชอบอย่างนั้นเลยนะครับ สิบปีนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะครับ” แก้วยกมือทาบแก้มด้วยความขวยเขิน กริยาอาการที่พี่เต้แสดงออกกับแก้วในขณะนี้ เหมือนแก้วได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยวัยรุ่น มัธยมอมเปรี้ยวอมหวานเลยค่ะ เพราะสมัยตอนอายุสิบสามสิบสี่ ถ้าได้คบกับรุ่นพี่นี่ถือว่าสุดยอด แล้วก็เด่นมากในโรงเรียน แล้วแก้วก็คบกับพี่เต้อยู่ช่วงนึงเหมือนกัน “พี่เต้ก็น่าจะทราบหนิคะ” “ว่าอะไรครับ” “ก็น้องแก้วชอบอะไรก็ชอบอย่างนั้นไงคะ” “จริงหรือครับ” แก้วหลบสายตาของพี่เต้อย่างสะเทิ้นในอารมณ์ เสียงของพี่เต้ยังอบอุ่นเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แก้วสะบัดหัวไปมา “แล้วพี่เต้จะทานอะไรคะ หิวหรือยังคะ” พี่เต้วางถาดอาหาร แล้วก็ทรุดนั่งตรงข้าม พร้อมกับท้าวคางมองหน้าแก้ว ด้วยสายตาลึกซึ้งอบอุ่น “มองหน้าน้องแก้ว พี่ก็อิ่มแล้วครับ” พี่เต้ก็ยังคงเป็นพี่เต้เหมือนเมื่อสิบปีก่อนเลย ปากหวานละไม่มีใครเกิน “รุ้ไหมครับ ตอนที่พี่เห็นน้องแก้วลงมาจากแท๊กซี่ พี่ดีใจมากเลยนะครับ” “แล้วพี่เต้มาทำอะไรแถวนี้หละคะ” คำตอบของพี่เต้ทำเอาแก้วรีบกลืนกระเพาะปลาลงไปอย่างรวดเร็ว “พี่ตามน้องแก้วมา” ตายหละวา แก้วใจหายวาบ ตามมา? ตามมาจากไหน อย่าบอกนะว่า….. “พี่คิดถึงน้องแก้วตลอดเวลาเลย ตอนไปอยู่เชียงใหม่พี่ก็เขียนจดหมายมาหาน้องแก้วตลอดเลยนะครับ แต่ไม่เคยได้รับจดหมายจากน้องแก้วเลย” เสียงพี่เต้ ออกกึ่งน้อยใจนิดๆๆ แก้วนิ่งไปครู่หนึ่ง “คงเป็นช่วงที่น้องแก้วย้ายบ้าน แล้วก็มาเรียนต่อมอปลายที่กรุงเทพฯมั้งคะ น้องแก้วก็คิดถึงพี่เต้มากๆๆ ติดต่อไม่ได้เลย ไม่มีที่อยู่” แก้วรู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ เพราะกับพี่เต้ คือรักแรก และตอนนี้แก้วยังไม่เคยมีความรู้สึกอ่อนหวานกับใครแบบที่เคยมีกับพี่เต้อีกเลย แม้แต่…. แก้วผลักชามกะเพาะปลาออกห่างตัว เตรียมลุกจะไปสั่งของหวาน พี่เต้ไวกว่า ลุกไปสั่งไอศกรีม กะทิ ให้แก้วทันที “ตอนนี้พี่เต้ทำงานที่ไหนอ่ะคะ” พี่เต้ตักไอศกรีมป้อนใส่ปากทันทีที่แก้วถามจบ “พี่กำลังจะไปเรียนต่อครับ” “ที่ไหนคะ” “อังกฤษครับ” “เหรอคะ ดีจังเลย” พี่เต้ยื่นช้อนมาใกล้ๆๆ แต่แก้วมัวแต่ฟังพี่เต้คุยเพลินเลยเผลองับผิดที่ ไอศกรีมเลยหล่นเลอะเสื้อตัวสวยของแก้ว “โอ๊ะ ขอโทษครับ มาครับพี่เช็ดให้” พี่เต้ควักผ้าเช็ดหน้าพร้อมทั้งลุกขึ้นเช็ดคราบไอศกรีมที่เลอะอยู่บนเสื้อ พี่เต้ค่อยๆๆอ้อยอิ่งเช็ดอยู่ตรงหน้าอกแก้ว ไม่ยอมเสร็จเสียที แก้วกลั้นหายใจเลยค่ะ รู้สึกเหมือนว่าพี่เต้ถอนหายใจแสดงความเสียดาย ก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิม แต่รอยบนเสื้อแก้วยังคงอยู่ แก้วเลยตัดสินใจจะเข้าไปล้างในห้องน้ำ พี่เต้ก็ลุกขึ้นเดินไปพร้อมกัน แก้วเดินเข้าไปล้างคราบไอศกรีมออกจากเสื้อ แล้วก็เดินออกมา ตอนเดินออกมา ท่ายืนรอของพี่เต้ ดูเท่ห์ยังไงก็ไม่รู้ “แล้วตอนนี้พี่เต้พักที่ไหนหละคะ” แก้วยังคงซอกแซกถาม “น้องแก้วไปดูไหมหละครับ พี่แค่ลงมาพักก่อนไปอังกฤษ” แก้วใจหายเล็กน้อย เพิ่งได้เจอกันก็จะต้องจากกันอีกซะแล้ว “ไกลจากที่นี่ไหมคะ” “ไม่ไกลหรอกครับ” “งั้นไปดูหน่อยก็ได้ค่ะ แล้วน้องแก้วจะได้กลับบ้านเลย” “ครับ” ด้วยลักษณะของพี่เต้ ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังคงอบอุ่นและอ่อนหวานเช่นเดิม ทำให้แก้วไม่คิดอะไรเป็นอื่น นอกจากความดีใจปนยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้พบกันเป็นระยะเวลาสิบปี แก้วจึงนั่งรถของพี่เต้ไปที่ ที่พักของพี่เต้ ตอนแรกแก้วคิดว่าพี่เต้จะอยู่คอนโด ตามประสาหนุ่มๆๆ พี่เต้กลับพาแก้วมาที่บ้านหลังหนึ่ง “เข้ามาซิครับ บ้านเล็กหน่อยนะครับ” แก้วค้อนเข้าให้ คนอะไร ถ่อมตัวก็เป็น แต่ว่าแก้วก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แก้วเดินเข้าไปช้าๆๆ บ้านสะอาดสะอ้าน แก้ววางของลงบนพื้นข้างๆๆโซฟา พี่เต้ จูงมือแก้วเข้าไปในครัว “ดื่มน้ำหน่อยนะครับ” แก้วถือแก้วน้ำขึ้นมา จริงๆๆก็ไม่ได้กระหายน้ำหรอกค่ะ แต่ก็ถือไว้เพราะว่าพี่เต้ส่งมาให้ กลัวเสียน้ำใจอ่ะคะ ว่าง่ายๆๆ พี่เต้จูงพาเข้าไปดูห้องหับแต่ละห้อง บ้านหลังเล็กจริงๆๆค่ะ กะทัดรัดน่ารัก สองห้องนอน ห้องนอนแรกมีขนาดเล็กถูกดัดแปลงให้เป็นห้องทำงานกึ่งๆๆห้องหนังสือ เพราะว่ามีชั้นวางหนังสือเรียงรายเต็มตู้ไปหมด ส่วนมากจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีหนังสือเกี่ยวกับการจัดบ้าน การเลี้ยงสัตว์ และไม้ดอกไม้ประดับ แยกไว้หมวดหมู่นึง แก้วสำรวจคร่าวๆๆ แล้วพอเดินไปอีกห้องนึงที่เป็นห้องนอนของพี่เต้ แก้วยกแก้วน้ำขึ้นจรดปาก เตรียมดื่มแล้วก็มองไปด้วย พี่เต้เปิดประตูห้องนอนออกแล้วผายมือเป็นเชิงอนุญาต แก้วตาค้าง รูปของแก้ว วันจบการศึกษามัธยมปลาย วันรับปริญญา หรือแม้กระทั่งรูปงานเลี้ยงรุ่น ติดเรียงอยู่ด้านตรงข้ามกับหัวเตียง “พี่เต้” แก้วคราง น้ำที่อมไว้ในปากก็ไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว แก้วงงไปหมดแล้ว อะไรกันคะเนี่ยะ พี่เต้ยิ้มหม่นๆๆ “พี่ได้มานานแล้วจ้ะ มันเป็นความขี้ขลาดของพี่เอง ที่ไม่ได้ไปหาน้องแก้วรื้อฟื้นความทรงจำสมัยวัยรุ่นของเราสองคน พี่กลัวน้องแก้วมีแฟนแล้ว พี่กลัวน้องแก้วจะเปลี่ยนไปครับ” แก้วเงยหน้าขึ้นมอง วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเล็กๆๆที่ข้างหัวเตียง สมองงุนงง หมุนคว้าง อยู่พักใหญ่ๆๆ พี่เต้พูดเรื่องอะไรกันเนี่ยะ พี่เต้ก้าวเข้ามา “พี่ยังรักน้องแก้วอยู่ครับ แต่พี่รู้ว่าระหว่างเราคงเป็นไปได้ยากแล้ว น้องแก้วมี” แก้วยกนิ้วแตะริมฝีปากพี่เต้ด้วยความร้าวราน “พี่จะไปเรียนต่อที่อังกฤษ พี่หวังว่า พี่คงทำใจได้ ก่อนไปพี่ก็เลยอยากเจอน้องแก้ว อยากพูด อยากบอก อยากคุย อยากเล่าทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตพี่ในระยะสิบปีที่เราไมได้เจอกัน พี่ก็เลยรวบรวมความกล้า ออกมาจากเงามืด มาเจอน้องแก้วครับ” แก้วยกมือแตะซีกแก้มของพี่เต้อย่างอ่อนโยน มันสายไปแล้วจริงหรือ แก้วมองสบตากับพี่เต้ด้วยความเจ็บปวด ริมฝีปากสั่นระริก จนต้องใช้ฟันขบเอาไว้ น้ำตาคลอด้วยความร้าวราน ถ้าเพียงแต่พี่เต้มาเร็วกว่านี้สักครึ่งปี แก้วกับพี่เต้ คงลงเอยกันได้ แก้วสูดลมหายใจเข้าไป แม้จะติดขัดเล็กน้อยเพราะจมูกเริ่มออกอาการคัดเล็กน้อย แล้วก็เอ่ยด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อยแต่ก็บังคับให้มั่นคง “ทุกอย่าง โชคชะตาได้กำหนดแล้วมั้งคะ” พี่เต้พยักหน้าหงอยๆๆ ใช่ว่าแก้วเองไม่เจ็บปวด แต่เวลาไม่เคยย้อนคืนต่างหาก แก้วเดินไปหยิบแก้วน้ำที่วางไว้ พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบและบรรยากาศที่อึดอัด “ดูซิคะ น้ำเปียกเสื้อน้องแก้วอีกแล้ว เมื่อครู่ก็ไอศกรีมเลอะ คราวนี้ก็น้ำ สงสัยคงจะดับความร้อน” พี่เต้ก้มลงดู พร้อมทั้งอมยิ้ม “ร้อนมากเหรอครับ” แก้วชำเลืองค้อนไปหนึ่งที ไม่ได้ร้อนสักหน่อย “ไม่หนะคะ” “แล้วทำไมต้องเอาของเย็นมาดับแถวๆๆนี้หละครับ” พี่เต้ไม่ได้พูดเฉยๆๆหน่ะซิคะ พี่เต้พูดแล้วก็เอามือไปทาบตรงที่น้ำเปียกซึ่งอยู่ตรงกึ่งกลางทรวงอกคู่งามของแก้วหน่ะค่ะ พอทาบไปแล้วพี่เต้ก็คลึงเคล้าเบาๆๆ แถมยังเอานิ้วมาเขี่ยตรงยอดอกที่แหลมดันเสื้อออกมาให้แก้วสยิวเล่นอีก “พี่เต้อย่าค่ะ” พี่เต้ไม่ฟังเสียงเลยค่ะ ผลักแก้วล้มลงไปบนเตียง แล้วก็โถมตัวลงมาทับไว้ จมูกร้อนๆๆทาบไปทั่วตัว มือที่เมื่อครู่แค่ลูบไล้เบาๆๆ เปลี่ยนเป็นขยำ จนแก้วระบมไปหมดเลยค่ะ ผิวขาวเนียน กลายเป็นรอยแดงๆๆ เสื้อตัวบางโดนทึ้งอย่างไม่ปราณี พี่เต้เปี๋ยนไป๋ เอ๊ย ไม่ใช่(อย่าฮานะ) มือหนาลูบไล้ร่างของแก้วอย่างไม่ปรานีเลยค่ะ แก้วเจ็บจนน้ำตาซึมเลยค่ะ ในหัวมีแต่ความคิดว่า ไม่น่าตามเขามาเลย แก้วไม่มีแรงดิ้นหรือขัดขืนเลยค่ะ เพราะแค่โดนขยำก็เจ็บระบมไปหมดจนแก้วไม่อยากทำอะไรเลยค่ะ ความรู้สึกในขณะนั้น แก้วทั้งกลัวทั้งตกใจ รู้แน่อยู่แล้วว่า ต้องโดนแน่ แต่ไม่รู้ว่า ในสภาพลักษณะอาการเหมือนคนบ้าของพี่เต้ จะทำให้แก้วเจออะไรมากไปกว่านี้อีก แก้วเม้มริมฝีปาก ก้อนสะอื้นวิ่งแข่งกันขึ้นมาที่ลำคอ พี่เต้รั้งบราตัวสวยของแก้วออกมาไว้ที่คอ แก้วน้ำตาซึม พร้อมทั้งคิดในใจ เถื่อนและหยาบที่สุด ไร้ลีลาสิ้นดี อารมณ์ร่วมของแก้วจึงไม่มีเลย พี่เต้รีบถอดเสื้อผ้าออกทันที แก้วมองด้วยดวงตาเฉยเมย ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนหวานไม่มีเหลือไว้ให้อีกเลย มีแต่ความเคียดแค้นชิงชังขยะแขยง พี่เต้กระชากเสื้อผ้าของแก้วออก ทั้งบนทั้งล่าง จนเหลือแค่อันเดอร์แวร์ตัวเดียว ส่วนบราที่ถูกรั้งไปค้างไว้ที่ตรงคอ ก็ถูกกระชากออก สภาพของแก้วตอนนี้ เปลือยหมดยกเว้นอันเดอร์แวร์ตัวบางสีเนื้อที่แทบจะปิดอะไรไว้ไม่ได้เลย พี่เต้นั่งห้อยขาอยู่ริมเตียง แก้วก้มมองท่อนเอ็นของพี่เต้ ไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ค่ะ ตามระดับมาตราฐานชายไทย หกนิ้ว แต่ความอวบ นี่ พอๆๆกับของพี่หนุ่มเลยค่ะ พี่เต้จับเอวแก้วแล้วให้แก้วนั่งคร่อมทับลงมา แก้วเม้มปากด้วยความโมโห ความเสียวกระสันต์ไม่มีเลยค่ะ นอกจากความเจ็บปวด แน่นตึง “อูยส์ เสียวหัวควยจังเลยน้องแก้ว” แก้วหลับตา ไม่อยากมองหน้าให้รู้สึกเกลียดมากไปกว่านี้ “ขย่มเลยซิครับน้องแก้ว” แก้วไม่ทำตาม ยังคงนิ่ง พี่เต้ก็ใช้สองมือที่กุมเอวแก้วอยู่ จับแก้วรูดขึ้นรูดลง มันฝืดจนแก้วน้ำตาเล็ด เจ็บมากเลยค่ะ ทั้งเจ็บทั้งแสบ พี่เต้เด้งสวนขึ้นมา พร้อมกับตบแก้มก้นของแก้ว แก้วคิดว่าคงแดงไปหมดแน่เลย เพราะแก้วรู้สึกเจ็บๆๆคันๆๆ เท่านั้นยังไม่พอค่ะ พี่เต้ก้มลงมางับที่หัวนมของแก้ว แก้วเจ็บจิ๊ดๆๆเลยค่ะ เจ็บจิ๊ดๆๆ เจ็บเล็กๆๆนะเจ็บเล็กๆๆ เอ๊ยไม่ใช่ แก้วเจ็บจี๊ด ขึ้นมาเลยค่ะ พี่เต้เด้งขึ้นมาแรงมาก แต่ละที แก้วจุกไปหมด เจ็บแล้วจุก แล้วไม่มีอารมณ์ แก้วรู้สึกเหมือนกับว่าแก้วโดนพี่เต้ข่มขืน เพราะว่าแก้วไม่เต็มใจเลยสักนิด พี่เต้ หน้าเบ้ “อูย เสียวหัวควยจริงๆๆ ” แก้วไม่รุ้สึกอะไรเลยนอกจากความเจ็บ แก้วลืมตามองใบหน้าเหยเกของพี่เต้ที่เปลี่ยนเปนสูดปาก เหมือนจะสูดลมหายใจเข้าไป แล้วพ่นออกมาเป็นระยะๆๆ พี่เต้จับมือแก้วให้คล้องคอพี่เต้ไว้ แล้วก็ลุกขึ้นยืนเป็นท่าลิงอุ้มแตก แก้วอุทานออกมาด้วยความตกใจ พี่เต้ประคองก้นแก้วขึ้น ขาของแก้วไขว้กันอยู่ตรงเอวของพี่เต้โดยทันที เพราะว่ากลัวตกค่ะ พี่เต้เดินไปเดินมารอบห้อง จากที่แก้วไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก็เริ่มรู้สึก ร่างกายเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้โดยทันที แก้วเสียวขึ้นเรื่อยๆๆ เมื่อหนอกของพี่เต้โดนกับติ่งของแก้วเป็นระยะๆๆ แก้วถึงกับซบที่คอของพี่เต้แล้วสูดปากด้วยความเสียว พี่เต้ขยำแก้มก้นของแก้วไปพร้อมๆๆกับผงกท่อนเอ็นไปเรื่อยๆๆ แก้วเสียวจนเผลอถูขึ้นถูลงกับลำของพี่เต้ “น้องแก้วครับ อูย พี่เสียวจังเลย” “แก้วก้อเหมือนกันค่ะ เสียวที่สุดเลย” พี่เต้ประคองก้นแก้วขึ้นแล้ววางบนตู้เตี้ยๆๆ ใกล้ๆๆกับประตู แล้วกระแทกแก้วไม่ยั้งเลยค่ะ แก้วร้องกรี๊ดอย่างสุดเสียว “โอ๊ยๆๆๆๆ พี่เต้ขา น้องแก้วเสียวจังเลย อ๊า อ๊า” พี่เต้สะดุ้งสุดตัวพร้อมทั้งฉีดน้ำรักเต็มร่องของแก้วเลยค่ะ แก้วนิ่งไปทันที เหนื่อยและเพลียมาก รู้สึกแสบรูมากเลยค่ะ