3775-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-1
เย็นวันนี้ที่หน้าปากซอยค่อนข้างคึกคักเพราะมีตลาดนัด ทำให้ผู้คนพลุกพล่าน รถติดกันเป็นแถว วินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยทำงานหนักเพราะทั้งรับทั้งส่งแทบจะไม่ต้องดับ เครื่องเลย
“แม่..หนูเอาตังค์ในกระเป๋าไปร้อยนึงนะ เดี๋ยวหนูออกไปซื้อกับข้าวที่หน้าปากซอยเองนะคะ..” สาวน้อยวัยสิบหกที่พึ่งกลับจากโรงเรียน วางกระเป๋าแล้วตะโกนบอกแม่ที่กำลังหุงข้าวอยู่หลังบ้าน
“รอแป๊บนึงสิ เดี๋ยวแม่ออกไปเป็นเพื่อน” แม่ตะโกนตอบกลับมาเพราะไม่อยากให้ลูกสาวออกไปคนเดียว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จิตออกไปแป๊บเดียว จะได้รีบเอากลับมากินที่บ้าน หิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว นี่ถ้ามีตังค์ หนูก็แวะซื้อเข้ามาแล้ว..” เสียงตอบกลับพร้อมกับเสียงเดินออกจากบ้านไป
ผู้เป็นแม่ได้แต่ส่ายหัวในความดื้อรั้นของลูกสาว ใจเธอไม่อยากให้ลูกสาวออกไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะบ้านเธออยู่ลึกจากหน้าปากซอยค่อนข้างมาก แล้วจากถนนซอยก็ต้องเข้ามาในซอยเล็กๆอีกเกือบครึ่งกิโล…
นภากับสามีแต่งงานแล้วย้ายบ้านเข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อสิบเจ็ดปีที่ แล้ว สามีของเธอเป็นทนาย ซึ่งเธอไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องงานของเขาเลย ส่วนเธอเปิดร้านขายของชำเล็กๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วเธอก็เปิดร้านเพียงแค่ให้มีอะไรทำเท่านั้น เพราะรายได้ของสามีเธอนั้นมีมากเพียงพอที่จะทำให้ครอบครัวอยู่อย่างสบายอยู่ แล้ว เธอและสามีระบายความรักความ ใคร่เข้าใส่กันเกือบทุกคืน เขาใช้เรือนร่างของเธอเป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์อย่างคุ้มค่าที่แต่งงานด้วยจน เธอท้อง แต่เมื่อลูกสาวอายุได้สิบปี สามีของเธอก็เสียชีวิต เขาถูกคนร้ายดักยิงก่อนเข้าบ้านเพียงเล็กน้อย นภาร้องไห้จนแทบขาดใจตาย ถ้าไม่ติดว่าเธอยังมีลูกสาวอยู่ เธอคงฆ่าตัวตายตามผู้เป็นสามีไปแล้ว…
จิตราอายุสิบหกปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ห้าของโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด เธอเรียนดีมาตลอด และช่วยเหลืองานบ้านอย่างขยันขันแข็ง ไม่เคยทำให้ผู้เป็นแม่ลำบากใจเลย แต่ยิ่งลูกสาวเติบโตขึ้นเท่าไหร่ นภาก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นเท่านั้น เพราะตอนนี้ลูกสาวเธอไม่ได้เป็นเด็กเล็กๆอีกต่อไปแล้ว เรือนร่างที่สูงราว160เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ40กว่าๆ ทำให้จิตราเป็นเด็กสาวที่มีรูปร่างสูงเพรียว ประกอบกับหน้าอกที่ขยับขยายขึ้นตามวัยซึ่งดันเสื้อนักเรียนออกมาจนมองเห็นเป็นรูปเป็นร่าง สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอค่อนข้างเข้มงวดลูกสาว ซึ่งจิตราก็ตามใจผู้เป็นแม่ ไม่ออกนอกลู่นอกทางใดๆทั้งสิ้น
นภาจัดการหุงข้าวเสร็จก็ออกมานั่งหน้าร้านเพื่อรอลูกสาวกลับบ้าน…
**********************************************
“ทั้งหมดเท่าไหร่จ๊ะ…” สาวน้อยรับถุงกับข้าวจากแม่ค้า
“เจ็ดสิบบาทค่ะ” แม่ค้าตอบ เธอหยิบเงินให้และรับเงินทอน ก่อนจะเดินมาที่วินมอเตอร์ไซด์ แต่เธอไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจับตามองจากชายสองคนที่นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซด์ โดยสายตาจ้องมองเธอโดยตลอด
“เฮ้ย! ไอ้เดช ใช่นังเด็กคนนี้เหรอวะ” ชายที่นั่งซ้อนถามเบาๆ คนขับพยักหน้านิดๆ
“ใช่ว่ะ กูจับตาดูมาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่กล้าตามมันเข้าไปว่าบ้านมันอยู่ที่ไหน” คำตอบทำให้ชายด้านหลังยิ้มเหี้ยมเกรียม สายตาจ้องมองเด็กสาวตาเขม็ง
“กูรอมาตั้งนาน ห้าปีในคุกนี่มันไม่ใช่น้อยๆเลย น่าจะได้เวลาเอาคืนซักที แล้วเวลากูก็เหลือไม่มากแล้วด้วย” ภาพเรื่องที่ผ่านมา ทำให้มันกำหมัดแน่นด้วยความแค้น สายตาที่มองเด็กสาว ไร้ความปราณีอย่างสิ้นเชิง
“มึงจะให้กูตามมันเข้าไปเลยหรือเปล่าวะ” เดชถาม เพราะเด็กสาวนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์เข้าไปในซอยแล้ว โอยิ้มพลางตบไหล่เพื่อน
“ไป…”
สิ้นเสียงพูด มอเตอร์ไซด์ก็พาร่างของชายทั้งสองขับตามมอเตอร์ไซด์ที่นำหน้าไปห่างๆ เด็กสาวยังคงนั่งซ้อนวินมอเตอร์ไซด์อย่างไม่รู้ว่าเธอถูกติดตามโดยชายแปลก หน้าทั้งสอง…
**************************************
“กลับมาแล้วค่ะ..” จิตราตะโกนเรียกแม่ซึ่งกำลังนั่งรอด้วยความเป็นห่วง เธอยิ้มให้ลูกสาวพลางเดินไปจ่ายเงินให้มอเตอร์ไซด์รับจ้าง ก่อนจะพาลูกสาวเข้าบ้านไป
เดชขี่มอเตอร์ไซด์มาหยุดอยู่ห่างๆ เกินกว่าที่สองแม่ลูกจะมองเห็น หันไปยิ้มให้กับเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ด้านหลัง ก็ได้รับยิ้มตอบกลับมา พลางมองสำรวจทางหนีทีไล่อย่างละเอียด…
**************************************
“วันนี้ซื้ออะไรมากินจ๊ะ..” ผู้เป็นแม่ถาม ลูกสาวยิ้มให้พลางตักข้าวใส่จานให้แม่และตัวเอง
“ตั้งหลายอย่างแน่ะค่ะ แม่ทานให้หมดนะ” ลูกสาวพูดพลางนั่งเตรียมกินข้าวกับแม่ของเธอ…
“ซื้อของหน่อยครับ…” เสียงเรียกหน้าร้านทำให้นภาวางช้อน หันไปมองเห็นลูกค้ามายืนรอซื้อของ
“เอาอะไรคะ” เธอถาม พลางมองด้วยความแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นชายคนนี้ในซอยเลย คงจะเป็นคนแปลกหน้า
“เอามาร์ลโบโรซองนึงครับ” ชายแปลกหน้าบอก เธอหันไปหยิบบุหรี่ให้เขา
“แถวนี้เงียบจังเลยนะครับ” ชายคนนั้นชวนคุย นภายิ้มให้เพราะเขาเป็นลูกค้า
“ก็เป็นอย่างนี้แหล่ะค่ะ พอตกเย็นอย่างนี้ก็บ้านใครบ้านมันแล้ว” เธอตอบพลางยื่นบุหรี่ให้ ชายคนนั้นหยิบเงินให้เธอ
“ผมมาตามหาคนรู้จักครับ แต่ไม่รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน คุณพอจะรู้บ้างหรือเปล่าครับ” ชายคนเดิมพูด นภาฟัง
“ใครล่ะคะ เผื่อดิฉันจะรู้จัก”
“ชื่อทวีครับ เขาเป็นทนาย” คำพูดเรียบๆของเขาทำให้เธอชะงัก ชายคนนี้มาถามหาสามีของเธอทำไม จ้องหน้าเขา
“มีอะไรกับเขาหรือคะ” เธอถามเบาๆเพราะรู้สึกไม่ค่อยดี
“พอดีว่าเขาเคยฝากของไว้กับผม แล้วผมตั้งใจจะเอามาคืนเขานะครับ” ชายคนนั้นยิ้ม นภาทำหน้าโล่งอก
“ให้ดิฉันก็ได้ค่ะ ดิฉันเป็นภรรยาของเขาเอง” เธอพูด แต่เขาส่ายหน้า
“ไม่ได้หรอกครับ ผมรับปากไว้แล้วว่าจะคืนให้ถึงมือเขาเท่านั้น…” คำพูด ทำให้นภายิ่งงง
“คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะคุณทวีเขาเสียไปตั้งหลายปีแล้ว” เธอพูดเบาๆ ชายคนนั้นพยักหน้ารับรู้
“ที่จริงผมก็ได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกันแหล่ะครับ แต่ต้องการได้รับคำยืนยันแน่ๆเสียก่อน เสียดายมากที่ไม่ได้นำมาคืนให้กับมือของเขาเอง” คำพูดวกวนของเขาทำให้เธอแปลกใจ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อชายคนนั้นชักปืนที่ซ่อนอยู่ในเสื้อออกมาจ้องที่ท้องของ เธอ
“เข้าบ้านไป..” เสียงสุภาพตอนแรก กลายเป็นเสียงตะคอกพร้อมกับดันร่างของเธอเข้าไปในบ้าน
“ว๊าย..จะทำอะไรน่ะ” นภาตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะถูกปล้น เธอขยับตัวแต่ก็ต้องชะงักเพราะชายคนนั้นจี้ปืนมาติดร่างของเธอ
“พูดง่ายๆดีกว่า อย่าให้เจ็บตัวกันเลย ไปสิ…”
นภาจ้องมองปืนด้วยความกลัว
“จะเอาเงินก็เอาไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปหยิบให้นะ” เธอพยายามขอร้อง
“กูบอกให้เข้าไปในบ้าน ไม่ได้ยินหรือยังไง” เสียงเดิมดังขึ้นอีก ทำให้นภาไม่มีทางเลือก เธอค่อยๆเดินเข้ามาในบ้านโดยมีร่างที่ถือปืนเดินตามเข้ามาด้วย
“ว๊าย..อะไรน่ะ” จิตราร้อง เมื่อมองเห็นแม่ของเธอเดินเข้ามาโดยมีคนแปลกหน้าตามเข้ามาด้วย และมันยังถือปืนจี้แม่ของเธอไว้เสียอีก
“เงียบๆ” โอตะคอกพลางผลักนภาไปยืนข้างๆลูกสาว สองแม่ลูกเงียบเสียงลง แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมองออกไปหน้าบ้าน เห็นชายอีกคนหนึ่งกำลังปิดบังตาและประตูเหล็กหน้าบ้านจนสนิท
“ฉันจะไปหยิบเงินให้ แกอย่าทำอะไรฉันกับลูกนะ” นภาพยายามต่อรอง โอแสยะยิ้ม
“กูไม่ได้อยากได้เงินของมึง…” มันพูดตะคอกต่อ “…กูบอกแล้วไงว่าผัวมึงฝากของไว้ที่กู แล้วตอนนี้กูก็กำลังเอามาคืนมันแล้ว”
“แกพูดอะไร ฉันฟังไม่รู้เรื่อง” นภาพูดด้วยความกลัว
“ผัวมึงเป็นทนาย…” โอเริ่มเล่า น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคียดแค้น “…มันกับไอ้ลูกความของมันช่วยกันปรักปรำกู จนกูต้องเข้าคุก มึงรู้มั๊ยว่าอยู่ในคุกห้าปีมันทรมานแค่ไหน กว่าจะได้ออกมา”
“ฉันไม่รู้เรื่อง อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลย” เธออ้อนวอน น้ำตาไหลพรากด้วยความกลัว จิตรายืนหน้าซีดอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ผัวมึงตายไปแล้ว แต่มึงต้องรับผิดชอบ…” โอตะโกนลั่น “…ลูกมึงด้วย” พูดจบก็พยักหน้าให้กับเดชที่เดินเข้ามาสมทบ ปรี่เดินเข้าหาสองแม่ลูก
“อย่า…” นภาร้องลั่น เดชประชิดร่างของเธอและกดเธอนั่งลงกับเก้าอี้ก่อนที่จะมัดมือของเธอไว้ด้าน หลังด้วยเชือกที่เตรียมไว้แล้วจนร่างของนภาไม่สามารถขยับได้ เดชหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาผูกปากของเธอ ทำให้เธอได้แต่ดิ้นอึกอักไปมา
จิตราหายจากอาการตะลึง เธอขยับจะหนีแต่ก็ต้องชะงักเพราะร่างของโอปราดมาอยู่ด้านหลังและกอดเธอไว้แน่น
“ว๊าย อย่าทำอะไรฉันนะ” เธอร้องลั่นแต่ร่างนั้นไม่ฟังเสียง สองมือที่โอบกอดอยู่ด้านหน้าเลื่อนไปตะครุบอยู่บนสองเต้าแรกแย้มพลางขยำขยี้ อย่างหนักหน่วง ก่อนจะกระชากสาบเสื้ออย่างแรงทำให้กระดุมเสื้อขาดกระเด็นออก และกระชากเสื้อนักเรียนออกจากร่างของเธอ เผยให้เห็นยกทรงลายลูกไม้สีชมพูขนาดย่อมซึ่งปกปิดทรวงอกที่พึ่งแย้มบาน
“แม่…” จิตราตะโกนได้คำเดียว ก็ถูกร่างที่ประกบอยู่พลิกร่างหันกลับมา และดันร่างเธอไปติดโต๊ะกินข้าว ก่อนจะซบใบหน้าลงบนเต่งเต้างามสะพรั่ง สองมือกระหวัดไปด้านหลัง ปลดตะขอยกทรงและรูดออกจากแขนของเธออย่างรวดเร็ว จิตราเย็นวูบเมื่อรู้สึกว่าท่อนบนของเธอปราศจากสิ่งห่อหุ้มใดๆอีก เธอพยายามดิ้นหนี แต่ใบหน้าที่ซบอยู่บนทรวงอกก็เลื่อนมาอยู่บนเต้างาม
จิตราสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเย็นวูบบนปลายยอดเพราะริมฝีปากนั้นประกบดูดเม้ม และใช้ปลายลิ้นไล้เลียหัวนมไปมา อีกมือหนึ่งยังคงบีบเคล้นเต่งเต้าที่ว่างอยู่อย่างหนักหน่วง ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่รสสัมผัสที่ได้รับอย่างรุนแรง มันกระตุ้นสัญชาติญาณภายในออกมา เธอแอ่นกายขึ้นรับปลายลิ้นอย่างลืมตัว ขนลุกไปหมดทั้งตัว หัวนมถูกตวัดไล้เลียอย่างชำนาญทำให้มีอาการแข็งตัวชูชันขึ้นสู้ปลายลิ้น สองมือที่พยายามดันร่างที่กำลังโอบกอดค่อยๆหมดแรงลงทุกที สิ่งที่โอกระทำ มันอยู่นอกเหนือความรู้ความเข้าใจของเธอ ใจหวิวเหมือนจะเป็นลม เธอสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ากระโปรงนักเรียนถูกปลดตะขอและหลุดจากเอวลงไปกองอยู่ กับพื้น สำนึกทำให้เธอพยายามดิ้นอีกครั้ง แต่รู้สึกวูบไปหมดเมื่อโอปาดมือลงไปด้านล่างและตะครุบเนินเนื้ออวบอูมบีบ เคล้นเบาๆ
“โอ้ย..” จิตราครางเสียงแผ่ว ส่ายเอวดิ้นหลบฝ่ามือที่เคล้นคลึงโหนกเนื้อสมบูรณ์เกินวัยของเธอ แต่อุ้งมือนั้นเหมือนมีแม่เหล็ก ไม่ว่าเธอดิ้นไปทางไหน ก็ตามขยำเคล้นคลึงอยู่ตลอดเวลาจนเธอหมดแรงที่จะดิ้น…
นภานั่งดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ ร่างของเธอดิ้นรนให้หลุดพ้นจากเชือกที่พันธนาการอยู่กับเก้าอี้ แต่เดชมัดเธอไว้อย่างแน่นหนา อีกทั้งยังผูกมัดปากเธอไว้ด้วย เธอจึงได้แต่ดิ้นอึกอัก ร้องอยู่ในลำคอ ภาพที่ลูกสาวพยายามดิ้นรนแต่อ่อนแรงลงเรื่อยๆ บอกให้รู้ว่าลูกสาวของเธอเริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสนั้น เธอพยายามจะตะโกนบอกให้ลูกสาวตั้งสติ แต่ไม่สามารถเอ่ยปากได้ จึงได้แต่นั่งมองเบิกตาโพลงอยู่อย่างนั้น…
โอปล่อยลีลาที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าใส่หญิงสาวเพื่อให้เธอมีอารมณ์ร่วมด้วยให้ มากที่สุด มือที่บีบเคล้นอยู่บนเนินเนื้อด้านล่างค่อยๆล้วงเข้าไปในซับในตัวจิ๋วจน สัมผัสเส้นขนอ่อนนุ่มเบาบางภายใน ร่างนั้นสะดุ้งเฮือกพยายามจะดึงมือมันออก แต่มันขืนเอาไว้และยังเกลี่ยปลายนิ้วบนร่องรอยแยกของเด็กสาวจนร่างงามกระตุก ตามจังหวะปลายนิ้วของมัน ฝ่ามือที่บดอยู่บนเนินเนื้อที่ปกคลุมด้วยเส้นขนดำขลับบดคลึงนวดเบาๆไปมา จิตราชาวูบไปทั้งตัวเหมือนถูกไฟดูด สัมผัสที่ได้รับทำให้ร่างกายตอบรับตามธรรมชาติ
“โฮว…” ร่างงามสะท้านเฮือกตามแรงบดขยี้ “…อย่า…” เธอพยายามขอร้อง ร้อนวูบวาบภายในร่องรักเมื่อรู้สึกว่าภายในหลั่งหยาดน้ำร้อนผ่าวจนเอ่อซึม ออกมาตามแนวรอยแยกทำให้นิ้วที่ป้วนเปี้ยนอยู่ตรงรอยผ่าสามารถแทรกเข้ามาใน ร่องรักได้เนื่องจากมีของเหลวช่วยลดความฝืด
“อุ๊ย..” จิตราสะดุ้ง พยายามเอียงตัวหนี แต่นิ้วที่มุดเข้าไปภายในกลับตวัด ทั้งล้วงทั้งควักจนเธอตัวงอด้วยความเสียว ท่อนขาที่หนีบไว้จนแน่นเมื่อแรกเริ่ม ค่อยๆถ่างอ้าออกทีละนิดอย่างลืมตัว ร่างที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนโต๊ะบิดไปมาเพราะถูกจู่โจมทั้งบนและล่างอย่างชำนาญ
“อุ๊ย..อุ๊ย…อุ๊ย…” ความเสียวแปลบปลาบที่โอบรรจงมอบให้ ทำให้เด็กสาวสั่นระริกไปทั้งร่าง ต้นขาเหยีดเกร็งถ่างอ้ารับปลายนิ้วที่กระดิกเขี่ยติ่งเนื้อถี่ยิบ ร้องครวญครางอย่างลืมตัว..