Home Post 4660-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-33

4660-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-33

… คมกริชมองร่างเปลือยขาวโพลนของมารี ซึ่งเจ้าของร่างหลับสนิทชนิดฟ้าผ่าก็ไม่ฟื้น หลังสามชั่วโมงหฤหรรษ์ ที่คมกริชนับไม่ทันว่าเด็กหญิงโคลนนิ่งชาวเศษฝรั่งอายุสิบสี่ปี น้ำแตกถึงจุดสุดยอดไปกี่หน สำหรับเขาเองนั้นก็แทบจะนับไม่ถ้วน คิดตั้งแต่ใช้ร่างอวตารมาหลายร่างจนบัดนี้ ก็มีร่างนี้เองที่เคยน้ำแตกถึงสิบกว่าหน และพึ่งรู้จักความเหนื่อยจนแทบขาดใจในครานี้เอง

… หน่วยความจำพิเศษที่ใช้ถ่ายทอดข้อมูลดิจิตอลจำนวนมหาศาล ยังคงปักติดตรึงอยู่ในรูตูดของเด็กหญิง รอยยับย่นของปากรูตูด อมหน่วยความจำพิเศษเอาไว้จนปูดปลิ้น น้ำควยน้ำหีที่ไหลเยิ้มเปียกเหนียวไปทั่วท่อนล่างของมารี ก็เยิ้มชุ่มไปทั่วด้ามของหน่วยความจำ ไฟสีเขียวที่ปลายเครื่องกระพริบเป็นจังหวะ สัญญานส่งเข้ามาในกระจกแว่นตาของฌอง การบันทึกข้อมูลเสร็จสิ้นสมบูรณ์

… คมกริชดึงหน่วยความจำพิเศษนั้นออกมาช้าๆ ปากรูตูดของมารีปลิ้นตามแรงครูดของอุปกรณ์นั้น ก่อนจะหุบรัดตัวเข้าปิดรูขี้ของเด็กหญิงจนสนิท เมื่อชายหนุ่มดึงอุปกรณ์ออกมาจนหมด เขาเช็ดอุปกรณ์สำคัญนั้นกับกระโปรงของมารีที่หล่นอยู่กับพื้น กลิ่นตึๆยังคงติดอยู่ที่หน่วยควมจำพิเศษอย่างแน่นอน แต่ช่างหัวมันเถิด ให้ดอกเตอร์กรกฏไปล้างเอาเองก็แล้วกัน เพราะในตอนนี้เขารู้สึกอยากจะทำอะไรบางอย่าง

… ควยอวตารที่หดเหี่ยวจากการกรำศึกมากว่าสามชั่วโมง กระดกแข็งเรียวแหลม เมื่อคมกริชขมิบตูด ชายหนุ่มสอดท่อนควยเข้าไปในรูตูดของมารีอย่างช้าๆ จนรู้สึกว่ามันเข้าไปลึกพอควรแล้ว เขาก็เบ่งควยให้พองขึ้น

… เด็กหญิงครางฮือ มือตะกายพื้นดังแกรๆแต่ไม่ยอมลืมตาขึ้น เธอรู้สึกแน่นเสียวไปทั้งทวารหนัก ปวดขี้ปวดเสียวเงี่ยน ชุลมุนพัลวันจนคิดอะไรม่ออก และเมื่อคมกริชเริ่มกระเดารู้ตูดนั้น มารีก็อ้าปากคราง

“เสียว เสียว”

…เด็กหญิงครางได้เพียงเท่านั้น แล้วนอนกำมือหงิก นอนตัวงอเหมือนกุ้งเผา ปล่อยให้ร่างซึ่งเธอคิดว่าเป็นโคลนนิ่งของพวกเดียวกัน ชำเรารูตูดอย่างเมามัน

… คมกริชบีบนม ล้วงหี กระเด้าตูด ในใจร้องคำรามอย่างเคียดแค้น “ล้างแค้นแทนบรรพบุรุษ” ป๊าบๆๆๆๆๆๆๆ

…. สัญญานแสดงว่าลิฟท์กำลังเลื่อนลงมา คมกริชหายใจลึกๆ เสร็จสิ้นภาระกิจเสียที เขาจะได้กลับเมืองไทย และหวังว่าจะขอลางานไปพักผ่อนสักสองสามวัน เขาอยากเห็นหน้าน้องพลอยเหลือเกิน ยิ่งนานวันผ่านไปคมกริชยิ่งคิดถึงเธอมาก เมื่อลิฟท์เปิดออก ชายหนุ่มก็เดินเข้าไป ก่อนจะพิงข้างฝาอย่างเหนื่อยอ่อน

… ทันใดนั้นลิฟท์ก็เคลื่อนที่ขึ้นโดยที่คมกิชยังไม่ได้กดปุ่มสั่งมัน สัญชาติญานเตือนเขาทันที มีอะไรผิดปกติแล้ว

… สายตาของเขากวาดไปทั่วลิฟท์ จมูกสูดดมกลิ่น หูฟังเสียง สัมผัสที่ผิวหน้ง ต่างก็ส่งสัญญานไปให้สมอง ก่อนจะแปลความออกมาได้ มีเสียงคนพูดกันอยู่ที่ด้านบน นั่นคงเป็นหน้าประตูลิฟท์ในชั้นพื้นดิน ลมเบาๆโชยมาต้องผิว กลิ่นอับๆของอากาศในที่ปิดทึบฟุ้งในรูจมูก คมกริชเงยหน้าขึ้น เพดานของห้องลิฟท์ มีช่องเปิดขึ้นไปได้ นั่นคือที่มาของกลิ่นอากาศอับ และลมเบาๆที่โชยลงมา ไวเท่าความคิด ชายหนุ่มกระโดดผลักช่องเปิดบนเพดานลิฟท์ ก่อนจะเหนี่ยวตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และปิดฝานั้นลงทันเวลาที่ประตูลิฟท์เปิดออกพอดี

…. ทหารพร้อมอาวุธครบมือกรูกันเข้ามาในลิฟท์ ก่อนจะกดปุ่มเพื่อลงไปยังชั้นล่าง กลับลงไปยังห้องเอกสารลับ แน่นอนคนพวกนั้นคงไม่ได้ลงไปเที่ยว แต่นี่มันต้องเกี่ยวข้องกับการบุกรุกของเขา คมกริชเกาะราวบันไดลิงที่ผนังช่องลิฟท์ ก่อนจะปืนสวนทางขึ้นไปยังห้องควบคุมลิฟท์ ปล่อยให้ลิฟท์และทหารเหล่านั้นลงไปยังชั้นใต้ดิน

… เมื่อขึ้นมายังชั้นพื้นดิน กระจกแว่นตาก็ส่งสัญญานแผนที่อาคารกลับมาให้ คมกริชเดินไปตามเส้นทางยอกย้อนไปมาในตัวอาคาร จนออกมาที่ถนนด้านหลังอาคารหอจดหมายเหตุแห่งชาติเศษฝรั่ง ก่อนจะโบกมือเรียกแท๊กซี่คันหนึ่งเพื่อกลับที่พัก ชายหนุ่มเอนกายพิงเบาะแล้วหอบหายใจ ทำไมเขารู้สึกเหนื่อย เหนื่อยมากผิดปกติ

“เป็นไงคมกริช ไหวมั๊ย”

… เสียงนั้นทักมาเป็นภาษาไทย ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง และกลิ่นแก่ๆก็โชยมาเข้าจมูก ป๊าดดดดด คนขับแท็กซี่ถอดหมวกที่สวมอยู่ออก ก่อนจะหันกลับมายิ้มเผล่ รถแท๊กซี่คันนั้นเบนเข้าข้างทาง ประตูด้านหน้าเปิดออก ร่างของเด็กสาวคนหนึ่งก็ผลุบเข้ามา ปาร์คยองแบนั่นเอง

“ป๋าอ่ะ ปล่อยให้หนูยืนหนาวอยู่ตั้งนาน ไปไหนมาคะ”

… เสียงหวานๆออดอ้อน ก่อนจะเบือนหน้ามาทางเบาะหลัง ดวงตากลมโตนั้นมีแววพิศวง

“เอ๊ะ ป๋าไปรับเจ้าฝรั่งนี่มาแล้วหรือคะ ทำไม ป๋าคิดจะเล่นไม้ป่าเดียวกันแล้วเหรอ ไม่รักหนูแล้วเหรอ”

“เฮ้ยๆๆ อย่าเข้าใจผิด ไม่ช่ายยยยย นี่มันเรื่องงาน”

…ดอกเตอร์กรกฏแก้ตัวปากคอสั่น ก่อนจะหันมาพูดกับคมกริช

“เหนื่อยมากหรือ อดทนนิดนึง คอมพิวเตอร์รายงานสภาพร่างกายของคุณว่า ใช้งานหนักเกินพิกัด แล้วมันพึ่งรีเพลย์ภาพเหตุการณ์ในห้องลับของหอจดหมายเหตุให้ผมดู แหม เล่นซะสิบกว่าเกมส์รวดเลยนะ มิน่าพลังของร่างอวตารแทบเกลี้ยง”

“ป๋าคะ หนูอยากกินกาแฟ”

… ปาร์คยองแบจีบปากจีบคอฉอเลาะ คมกริชมองหน้าเด็กสาชาวเกาหลีแล้วหัวเราะหึๆ เขาพูดกับดอกเตอร์กรกฏด้วยเสียงเบาๆ

“มีเมียเด็ก มันก็ลำบากอย่างนี้แหละครับ ดอกเตอร์”

… ใบหน้าของชายชราหันหลับมามองเขา ก่อนจะอมยิ้ม

“คุณก็ทำพูดดีไป แล้วคุณล่ะ ไม่ได้ไปรักเด็กเข้าหรอกหรือ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

… คมกริชทำหน้าพิกล ก่อนจะหัวเราะออกมาบ้าง แต่เขาหัวเราะปนหอบ มือของชายหนุ่มกดเข้าที่ทรวงอกของตัวเอง

“ดอกเตอร์ ช่วยผมด้วย ผมหายใจไม่ออก”

“อดทนนิดนึง จะถึงที่หมายแล้ว นั่งนิ่งๆอย่าพูดอะไร หายใจช้าๆ ลึกๆ เอ๊า อีหนู ฉีดยาให้พี่เค้าที ตามที่สอนเอาไว้นะ”

… คมกริชสะดุ้งนิดหนึ่งเมืองปารค์ยองแบหันกลับมาพร้อมเข็มฉีดยากระบอกโต แล้วปักมันลงที่ท่อนแขนของเขา โดยไม่ต้องถลกแขนเสื้อหนาวหรือเสื้อยืดข้างในที่สวมอยู่ เธอปักเข็มทะลุรวดเดียวเข้าไปถึงเนื้อของเขา แล้วกดยาในหลอดพรวดเข้าไปราวกับกำลังฉีดยาวัวฉีดยาควายอยู่

“เอ๊ววว เบาๆ ฉีดคนนาเว๊ย ไม่ใช่ควาย”

…คมกริชโวยวาย ปาร์คยองแบส่ายหัว เธอฟังภาษาเศษฝรั่งที่คมกริชพูดอกมาไม่รู้เรื่อง

“เสร็จแล้วค่ะป๋า อีกเข็มไหมคะ”

“พอๆ เข็มเดียวพอ นั่นมันยากระตุ้นหัวใจอย่างแรง ฉีดสองเข็มหัวใจเต้นทะลุซี่โครงออกมาตายห่าพอดี”

… ดอกเตอร์กรกฏเบรครถพรืด ประตูด้านหนึ่งเปิดออก ดอกเตอร์เพ็ญนิตย์มุดเข้ามาในรถ พร้อมถุงกระดาษถุงพลาสติกพะรุงพะรัง

“อะไรอ่ะ ป๋า ด่วนอะไรกันนักกันหนา เพ็ญกำลังชอปปิ้งเพลินๆ”

… ดอกเตอร์สาวบ่นอุบอิบ ก่อนจะหันมาทักฝรั่งที่นั่งอยู่ข้างๆ

“เป็นไงคมกริช ทำไมหน้าซี๊ดซีด”

…ดอกเตอร์กรกฏตอบลอยๆ

“กำลังจะตายน่ะสิ เหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมง”

“เฮ้ย ป๋า พูดเล่นน่ะ คมกริชคุณไปทำอะไรมา”

… คมกริชส่ายหน้า เขาพูดไม่ออกบอกไม่ถูก มันจุกแน่นไปทั้งทรวงอก ราวกับถูกช้างกระทืบ

“เพ็ญรีเพลย์ภาพในแว่นตาดูสิ”

.. ดอกเตอร์สาวหยิบแว่นตาของเธอขึ้นมาสวม แล้วกดปุ่มที่ข้างแว่นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งเสียงอุทาน

“อูว แม่เจ้า อี๊ยยย์ ท่านี้คุณไม่เคยเล่นกะฉันเลยนะ โห ท่าหมาขาเดียว แม่ม นั่นท่าเฮลิคอปเตอร์ ป๊าดดด เย็ดสามชั่วโมงรวด”

… เธอดึงแว่นตาออก ดวงตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยไฟราคะ

“เด๋วกลับไป เราทบทวนท่าแบบนี้กันมั่งนะคะ แหม ดูแล้ว อย๊ากอยาก”

…. ดอกเตอร์กรกฏขมวดคิ้ว

“อย่างพึ่งคึก ยายเพ็ญ ร่างนี้ใกล้หมดสภาพแล้ว คมกริชใช้พลังงานมากเกินพิกัดไป อีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงตายห่าแน่ๆ”

“อ้าว ฉิบหายสิป๋า แล้วจะทำยังไง นี่มันประเทศเศษฝรั่งนะคะ กว่าเราจะกลับไปถึงห้องทดลองที่เมืองไทย ก็เดินทางหลายสิบชั่วโมง”

“เออ ป๋ารู้ กำลังคิดวิธีแก้ไขอยู่”

… คมกริชใจหายวาบ เรื่องที่ดอกเตอร์ทั้งสองพูดกัน มันคล้ายๆกับว่าเขาจะต้องตายจริงๆแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังพูดอะไรไม่ออก เขาหายใจอย่างยากลำบาก ปาร์คยองแบหันกลับมาหา เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาของคนที่พึ่งรู้จักกัน มือข้างหนึ่งจับหน้ากากออกซิเจนซึ่งมีกระป๋องออกซิเจนติดอยู่ หน้าตาคล้ายๆกระป๋องยาฉีดกันยุง เด็กสาวกดหัวฉีดที่ปากกระป๋องหลายครั้ง ออกซิเจนบริสุทธิ์พ่นเข้ามาเต็มหน้ากาก คมกริชสูดลมหายใจลึกๆ

“แล้วนี่ เพ็ญสงสัยจริงๆ ป๋าเคยบอกเพ็ญว่าไอ้โคลนนิ่งคนเนี่ย ป๋าทำเป็นคนเดียวไง แล้วทำไมคมกริชไปพบร่างโคลนนิ่งของพวกเศษฝรั่งได้ล่ะคะ แหม นมตูมตูดปึ๊บด้วย”

“เอ๊ย แบบร่างนี้ป๋าทำได้คนเดียว ไอ้พวกเศษฝรั่งนั่นมันฝีมือเด็กๆ”

“เพ็ญไม่เข้าใจ ป๋าอธิบายหน่อยซิ”

“ก็ไอ้ร่างโคลนนิ่งของพวกเศษฝรั่งนั่นน่ะ มันเหมือนโคลนนิ่งวัวควาย เด็กผู้หญิงคนนั้น อายุ 14 กว่าจะโตได้ 14 ปี มันก็ต้องอยู่มา 14 ปี พวกเศษฝรั่งทำได้แค่โคลนนิ่งธรรมดาๆ แต่ร่างเจ้าฌองนี่ เพ็ญก็ทำกะมือ เดือนเดียวเอง โตพอจะมีเมียได้แล้วเห็นไหม”

… คมกริชหายใจหอบ ทั้งๆที่มีออกซิเจนแล้ว

“ป๋า ท่าทางคมกริชจะไม่ไหวแล้วนะคะ ทำไงดีล่ะ”

“ไม่มีทางเลือกแล้วเพ็ญ ต้องย้ายร่างทันที”

“จะย้ายยังไงคะ ร่างโคลนนิ่งของเราทั้งหมดอยู่ที่เมืองไทย”

“เออ เพ็ญโทรไปให้ทางนั้นต่อสายโอนวิญญานเข้ากับระบบอินเตอร์เนตดาวเทียมของเรา ระบบที่เราเคยทดลองกันน่ะ”

“ป๋า แต่เราไม่เคยทดลองของจริงเลยนะ”

“เร็วเข้า มันไม่มีทางเลือกแล้ว”

“ป๋า แล้วข้อมูลวิญญานมันมีมากมหาศาล จะโอนผ่านเนตได้เหรอคะ”

“ได้สิ ช้าหน่อย แต่ได้”

“แล้วจะทำยังไง เวลาตัดหัวมันแค่แป๊บเดียว สี่วินาทีเท่านั้นก่อนสมองหยุดส่งสัญญาน เพ็ญคำนวนคร่าวๆ ไฮสปีดเนต 6000 เมกกะไบท์ของเรา ต้องใช้เวลาโอนข้อมูลทั้งหมดหนึ่งนาที”

“ก็ค่อยๆเชือดคอซิเว๊ยยย อย่าให้ตายทันที กะให้ตายในหนึ่งนาที”

“ว๊ายยย เพ็ญทำไมได้ป๋า ตัดคอยังต้องกลั้นใจเลย ป๋าทำเองก็แล้วกันนะ”

… ดอกเตอร์กรกฏสะดุ้ง

“โธ่ พูดอะไรบ้าๆ ป๋าก็ทำไม่ได้ เพ็ญก็รู้ป๋าไม่ค่อยชอบเห็นเลือดคน ขนาดตอนเปิดซิงเพ็ญ ป๋าเห็นเลือดพรหมจรรย์ของเพ็ญ ป๋ายังจะเป็นลมเลย”

… พูดจบดอกเตอร์ชราก็สะดุ้งโหยง เมื่อดอกเตอร์สาวฟาดหัวเขาด้วยถุงกระดาษที่หิ้วมา

“บ้า ป๋าอย่ามาตอกย้ำ ถ้าป๋าไม่วางยาเพ็ญ ไม่มีวันซะล่ะ”

“เอ๊า มัวแต่คุย ต่อสายโอนวิญญานเร็ว บอกทางเมืองไทยด้วย ให้เตรียมพร้อม”

“แล้วใครจะหั่นคอคมกริช ค่อยๆเชือดตั้งนาทีนึง เพ็ญไม่ทำนะ”

“หนูทำเองค่ะ”

… ปาร์คยองแบตอบหน้าตาเฉย เธอกดกระป๋องออกซิเจนให้คมกริชเป็นจังหวะ ซึ่งช่วยให้เขารู้สึกเจ็บปวดในทรวงอกน้อยลง ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองหน้าเด็กสาวชาวเกาหลีเหนือ แววตาของเธอเหมือนจะสงสัยอะไรบางอย่าง ดอกเตอร์กรกฏหันมาถามเด็กสาว

“หนู เชือดคอคนเป็นเหรอ”

“ไม่เคยเชือดคนค่ะ แต่หมูหมากาไก่วัวควายเชือดมาหมดแล้ว”

… ดอกเตอร์ชรากระพริบตาปริบๆ

“เชือดให้ตายช้าๆ ทำได้ค่ะ เคยทำ”

… คมกริชถอนใจ เสียงของปาร์คยองแบดูเหมือนจะห่างไกลออกไปทุกที เขากำลังตกลงไปในหลุมลึกที่ไม่มีก้น รู้สึกร่างลอยเคว้งคว้าง ภาพในอดีตวิ่งพร่างพรูเข้ามา ราวกับฉายหนังย้อนกลับ

“เร็ว เพ็ญ ต่อสายหรือยัง ยองแบ เชือดเลย เร็ว”….