ผมขอเล่าเกริ่นสักหน่อยนะครับ …

หลังจากผมเลิกรากับเมีย เธอตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านแม่ ส่วนผมก็จะย้ายออกไปอยู่กับเมียใหม่แถวชาญเมือง และเรายกตึกแถวที่ซื้อจากน้ำพักน้ำแรงของเราให้ลูกชายคนเดียว คือ “รุจ” วัย ม.3 ทีแรกผมจะพารุจไปอยู่ด้วย แต่รุจขอสมัครสอบเข้า ม.4 โรงเรียนที่มีชื่อเสียงใกล้บ้านเดิม ถ้าติดจะขอเรียนต่อและอาศัยอยู่ที่นี่ ไหนๆผมกับเมียเก่าก็จะยกบ้านหลังนี้ให้แล้วด้วย ผมยอมตามใจลูกชาย เมื่อรุจสอบติดจึงทิ้งเขาไว้ให้อยู่ที่นี่คนเดียว ส่วนผมจะหาโอกาสแวะมาดูอยู่เรื่อยๆ และส่งเงินให้ไม่ขาด ซึ่งเจ้ารุจเองก็รู้จักใช้ชีวิตคนเดียว ไม่มีเรื่องมีราวอะไรให้น่าเป็นห่วงตลอดเกือบๆปีแรก กระทั่งวันหนึ่งช่วงใกล้สอบไฟนอลของ ม.4 ผมแวะมาหารุจแต่เช้าตรู่ แต่ทว่า ผมกลับเห็นเจ้ารุจออกมาจากบ้านพร้อมเด็กผู้หญิงอีกคน หื่มมม !!! นี่มันเช้าเกินกว่าจะอ้างว่าเธอพึ่งมาถึงนะ แต่ผมก็ไม่ได้ผลีผลามเข้าไปถามเค้นเอาความจริง ผมยืนรอจนทั้งสองคนเดินพ้นสายตาไป แล้วผมก็เข้าไปในบ้านเพื่อหาหลักฐาน ผมเจอแต่ชุดนอนผู้หญิงชุดหนึ่ง ซึ่งเซ็กซี่ยั่วยวนเอามาก มันเป็นชุดสายเดี่ยว ชายกระโปรงบาน แถมดูก็รู้ว่าถูกกรรไกรตัดขอบทิ้งไปจนสั้น เรียกว่าสั้นเสมอจิ๋มได้เลย

ผมดักรอคุยกับเจ้ารุจในตอนเย็น ไม่ได้ทำตัวเป็นพ่อที่คาดคั้นเอาผิดจากลูกหรอกนะครับ ผมแค่ไม่เห็นถุงยางก็เลยเป็นห่วง ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่รุจจะมีภาระเพิ่มครับ ผมสนิทกับลูกชายพอสมควร อีกทั้งตัวผมเองก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องเพศอยู่แล้ว ลูกชายจึงกล้าเปิดใจคุยด้วย
“เขาชื่อพี่มุ่ยครับ อยู่ ม.5 เป็น’เพื่อนสนิท’ของรุจตั้งแต่โรงเรียนเก่าแล้ว พี่มุ่ยเขามีอยู่แฟนแล้ว” / “แล้วทำไมมาค้างบ้านได้หล่ะ” / “ก็เป็นเพื่อนสนิทกันอะครับ รุจชวนเขามาค้างหลายครั้งแล้ว พี่เขาก็มาติวหนังสือให้รุจด้วย” เจ้ารุจอธิบาย มีอะไรน่าสงสัยไหมครับ…?? ทุกอย่างเลยว่าไหมครับ !! ผมก็เลยถามต่อเรื่องชุดนอน รุจก็ยอมรับว่าเป็นคนหาซื้อชุดนี้มาให้พี่เขาใส่ตอนนอนจริงๆ และเป็นคนตัดชายกระโปรงด้วย แต่พี่เขาก็ยอมใส่เองนะ ? เอ๊ะ ??? คราวนี้ผมสงสัยฝ่ายหญิงแล้วสิครับ / “โอเค พ่อเชื่อก็ได้ว่าไม่มีอะไรกันจริงๆ แต่ที่เราตัดชายกระโปรงก็แปลว่าเราคิดอะไรน่ะสินะ” ผมถาม ลูกชายก็มีสีหน้าเลิ่กลั่ก “เอ้ย บอกพ่อได้ พ่อเข้าใจอยู่แล้ว พ่อเห็นเขาเมื่อเช้ายังว่าสวยน่ารักดีเลย ถ้ารุจไม่คิดอะไรเลยนี่สิแปลก” ผมเปลี่ยนโหมด / “ก็.. คิดครับ ผมแอบดูพี่เขาอาบน้ำ แล้วก็แอบดูตอนนอนครับ” / “หื่มมมม ไม่เบานะเรา แล้วพี่เขาไม่รู้ตัวเลยหรอ” / “ไม่เลยครับ ไม่รู้ตัวเลย” รุจพยายามออกตัวอ้างให้ ไม่ใช่เพื่อปกปิดความจริง แต่ผมเดานะ เดาว่าไอรุจลูกชายผมมันอ่อนประสบการณ์หลงคิดว่าพี่เขาหลับอยู่แล้วจริงๆ เฮ้อออ และพอผมถามต่อไปอีก ผมก็เลยพบว่าข้อสันนิษฐานของผมเป็นจริง ไอลูกชายผมมันไก่อ่อนจริงๆด้วย

ผมขอเล่าตรงนี้อีกนิดนะครับ เพราะฟังลูกเล่าแล้วผมยังเสียวฉิบหายเลย
ความจริงคือเจ้าลูกชายของผมโดนเด็กผู้หญิงรุ่นพี่ชื่อมุ่ยคนนี้ตามจีบตั้งแต่ปีก่อน แต่มันเด็กไปเองไม่กล้าขอพี่เขาเป็นแฟน เลยถูกคนอื่นแย่งไป แต่พี่เขาไม่ได้อยากตัดความสัมพันธ์กับรุจ จึงขอคุยแบบเดิมมาเรื่อยๆในฐานะเพื่อนสนิท ???!!!! (รุจเปิดแชทให้ผมดู) ผมรู้มาตลอดนะว่ามันหล่อและซื่อ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะซื่อบื้อขนาดนี้ เพื่อนพ่อมึงสิง้อขอให้บอกว่าฝันดี !!! ขนาดว่ารุจย้ายโรงเรียน พี่เขาก็ยังตาม จนวันหนึ่งรุจปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนที่โรงเรียนใหม่ เพื่อนมันดูออกใช่ไหม ? ใช่น่ะสิครับ โอยยย ลูกชายกู ซื่ออะไรขนาดนี้ เพื่อนมันก็ดีฉิบหายครับ (ผมได้เห็นแชทเพื่อนด้วย) ยุยงให้เจ้ารุจคิดหื่นกับพี่มุ่ยจนสำเร็จ และเริ่มแต๊ะอั๋งพี่มุ่ยด้วยการจิ้มเอว จับพุง พอพี่มุ่ยโมโห ก็อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทถึงเล่นด้วย พี่เขาก็เลยเถียงไม่ออกมาเรื่อยๆ และผมรู้สึกว่าไอเพื่อนคนนี้มันวางยาลูกชายผมด้วยนะ ส่งลิงค์หนังโป้แนวรุม แนวโทรม แนวผัวไม่รู้หรือสมยอมให้เมียโดนคนอื่นเย็ดมาให้ลูกชายผมดู พร้อมกับคุยให้นึกถึงพี่มุ่ย กะจะให้รุจมันเกิดอารมณ์คิดแบบนี้กับพี่มุ่ยเลยหรอว่ะ เชี่ยยย ชั่วโดนใจผมเลยว่ะ จนวันหนึ่งรุจชวนพี่มุ่ยค้างบ้านแบบกระทันหัน แล้วเอาชุดสั้นๆนี้มาให้ใส่ตามแผนที่เพื่อนคนนี้แนะนำ พี่มุ่ยก็ยอมใส่ดีๆ และนอนให้รุจลูบพุงเล่นในคืนนั้น ‘มึงอย่าบอกนะว่ามึงอ่อนถึงขั้นไม่ได้ลงมือทำอะไรนอกเหนือจากนั้น???’ ผมคิดในใจ น่าสงสารพี่มุ่ยจังที่ไอ้ลูกชายผมอ่อนจริงๆ มันทำมากสุดแค่ลุกมาแอบส่องดูใต้กระโปรงพี่เขาตอนดึกๆ หรือลักหลับที่ไม่โดนตัวนั่นเอง เฮ้ออออออ !!!!
ยังไม่หมดนะครับ ไอรุจเคยชวนพี่เขามาค้างบ้านแล้วสามครั้ง จนพี่มุ่ยเป็นฝ่ายเริ่มชวนเจ้ารุจคุยเรื่องเสียวๆด้วยซ้ำ เช่น แกล้งถามว่าชักว่าวคืออะไร ทำไมต้องนึกถึงหน้าผู้หญิงด้วย แล้วรุจเคยทำไหม นึกถึงหน้าใคร นึกถึงหน้าพี่รึป่าว ??? และเธอก็อ้างว่าเพราะสนิทกับรุจหรอกนะถึงกล้าคุยด้วย !!! เชี่ยยย ถ้าเป็นคุณ เด็กผู้หญิงคนนี้คงเสร็จคุณไปนานแล้วจริงไหมครับ ผมก็บอกตัวเองแบบนั้นทันที
“โอเค พ่อไม่อยากฟังอะไรมากกว่านี้แล้ว พ่อจะยอมเชื่อก็ได้ถ้ารุจลองชวนเขามาค้างบ้านแล้วทำให้พ่อเห็นกับตาว่าพี่เขาไม่รู้สึกตัวจริงๆ” ผมบอก