Home Post 3450-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-3-%e0%b9%80%e0%b8%89%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a5

3450-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-3-%e0%b9%80%e0%b8%89%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a5

รังสีแห่งแสงอาทิตย์อันร้อนแรงแผ่อยู่เหนือศีรษะ เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาอาหาร สิ่งที่ให้สะดุดตาวีรพงษ์เมื่อเดินประคองลูกฟุตบอลเลี้ยวเข้ารั้วบ้าน รถซึ่งในตอนเช้าครั้งออกไปยังไม่มี กลับปรากฏ ณ ที่จอดประจำ กลับมากันแล้วจะมีอะไรมาฝากบ้างนะ เค้าคิดในใจ
“เป็นไงบ้าง เที่ยวสนุกมั้ย” วีรพงษ์ทักขึ้นทันทีที่เปิดประตูบ้าน แต่กลับพบกับความว่างเปล่า
“พ่อครับ!… แม่!… ริน” วีรพงษ์ร้องเรียกพลางวางลูกฟุตบอลลง สายตาเค้ากวาดมองไปทั่วบ้าน
“ไปไหนหมดวะ… เฮ่อ!… ชั่งมัน… กินข้าวดีกว่า” เด็กหนุ่มกดน้ำใส่บะหมี่ถ้วย ก่อนจะนำมันขึ้นไปทานบนห้องนอน เค้าไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่คนในครอบครัวได้ไปเผชิญมานั้น ไม่ได้สนุกอย่างที่คิด ในระหว่างนั้นเอง ทุกคนซึ่งกลับมาอย่างเหนื่อยอ่อนตั้งแต่ตอนเช้า บัดนี้ได้ชำระล้างร่างกาย ไกรศักดิ์ซึ่งต้องขับรถอ่อนเพลียกว่าใครเค้าหลับใหลในทันทีเมื่อศีรษะถึงหมอน ไพรินเองก็เช่นกันเธอยังคงนอนโดยมีน้องชายอยู่ในอ้อมกอดเหมือนอย่างเคย คงมีแต่เพียงวัชรีที่ยังคงกายหน้าผากคุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

< -------- >

“ไปไหนกันมาครับ ตอนกลางวันผมเข้าบ้านเห็นอยู่แต่รถ” วีรพงษ์เอ่ยถามเมื่อเดินถึงโต๊ะอาหาร เค้ามองบรรยากาศแล้วไม่เหมือนการรับประทานอาหารมื้อเย็นอย่างที่เคย มันรู้สึกอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก
“ไหนล่ะครับ ของฝาก” วีรพงษ์ยังคงถามต่อพร้อมเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง
“เอ่อ! พวก 18 มงกุฎน่ะจะลูก” วัชรีตอบเพื่อให้เรื่องยุติ
“เฮ่อ!!… ว่าแล้ว อะไรมันจะโชคดีขนาดนั้น แต่ก็ยังดีที่ได้ไปเที่ยวทะเล ผมสิต้องพรีเซนต์งาน น่าเบื่อจะตาย เป็นไงสนุกมั้ยริน” วีรพงษ์หันไปถามน้องสาวแกมทักทาย
“เอ่อ… เอ่อ…” ไพรินอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันน่าอับอายในสายตาชาวโลก
“ก็เล่นน้ำจนเป็นหวัดนั่นแหละ อย่าให้น้องพูดมากเลย เดี๋ยวคอจะอักเสบ” วัชรีแก้ตัวแทนโดยพลัน
“กรี๊งงงงง!!! กรี๊งงงงง!!! กรี๊งงงงง!!!” ไกรศักดิ์เอื้อมหยิบโทรศัพท์ไร้สายขึ้นพูด
“ครับ… อ่อ… พรุ่งนี้… 2 วัน… ครับ… ครับ… สวัสดีครับ”
“ทานข้าวเถอะ พรุ่งนี้พ่อต้องตื่นแต่เช้า รี… ผมมีสัมมนาต่างจังหวัด 2 วัน จัดเสื้อผ้าให้ผมด้วยนะ” ไกรศักดิ์รีบปิดการสนทนาบนโต๊ะอาหารเพื่อตัดปัญหา

< -------- >

“ติ๊ก.. ติ๊ก.. ติ๊ก..” ในความมืด เสียงนาฬิกาภายในห้องอันเงียบสงัด มันยังคงเดินอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแม้ใครจะหลับใหล
“รี…”
“รี…….” ไกรศักดิ์ซึ่งนอนก่ายหน้าผากเอ่ยเรียกภรรยาซ้ำอีกครั้ง
“คะ” เสียงตอบผ่านมาในความมืดนั้น
“คุณยังไม่หลับเหรอ” ไกรศักดิ์พูดเสียงราบเรียบ ดูเหมือนเค้าจะมีความในใจที่อยากจะบอกกับเธอ
“ยังค่ะ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย คุณน่ะนอนได้แล้วพรุ่งนี้ต้องสัมมนาหนิ”
“รี…” ไกรศักดิ์ขยับพลิกตัวโอบเอวภรรยาไว้หลวม ๆ วัชรีเอียงหน้ามองเค้าในความมืด เงาลาง ๆ ยังพอให้สังเกตได้ สัมผัสของลมหายใจให้รู้สึกได้ว่าหน้าของเค้าอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงคืบ
“ผมขอโทษ ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผม…”
“ค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเหนือธรรมชาติ ชั้นไม่ตำหนิคุณหรอก” วัชรีพูดสวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“รี… ขอบคุณ คุณช่างดีกับผมเหลือเกิน” สิ้นคำไกรศักดิ์ก็แสดงความรักและขอบคุณโดยยื่นหน้าเข้าประกบจูบบนหน้าผากของภรรยาอย่างแผ่วเบา มันแฝงไปด้วยความอบอุ่นและจริงใจ กลิ่นหอมจากปอยผมความนุ่มนวลของผิวเนียนภายใต้เนื้อผ้าลื่นบางเบาซึ่งฝ่ามือเค้าสัมผัสอยู่ มันส่งให้เค้าค่อย ๆ คลึงฝ่ามือเข้ากับเอววัชรีเบา ๆ
“อื่มม… ศักดิ์คะ” ด้วยความที่ห่างหายจากการร่วมรักกับสามีเนื่องจากมีรอบเดือน เพียงแค่ถูกลูบคลำเล็กน้อยก็ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มไปได้ ไกรศักดิ์ไล้มือขึ้นประคองเต้าอวบคลึงเบา ๆ มันนุ่มนวลแต่ไม่หย่อนยาน ไม่กี่อึดใจยอดถันเม็ดน้อยก็ค่อย ๆ เต่งดันสู้ฝ่ามือเค้า แต่พลันก็มีมือมาจับมือของเค้าไว้
“อย่าค่ะศักดิ์” วัชรีนั่นเอง
“ทำไมล่ะ ยังไม่หมดเหรอ” ไกรศักดิ์เอ่ยถามเสียงกระซิบ
“หมดแล้ว แต่ไว้กลับมาก่อนก็ได้ พรุ่งนี้คุณต้องตื่นแต่เช้านะคะ”
“จ่ะ ก็ได้ ผมรักคุณนะ” ไกรศักดิ์บรรจงจุมพิตลงบนริมฝีปากภรรยาก่อนจะพลิกตัวนอนหงายและหลับไปในความมืด

< -------- >

10.00 น. โดยประมาณ หลังจากวัชรี ส่งสามีในยามเช้าและทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นล้างจาน ซักผ้า แต่ในทุกอิริยาบถนั้นสมองเธอเฝ้าคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น มันยังคงคาใจเธอเรื่อยมา ถ้าไม่ได้คลี่ปมให้กระจ่างเธอคงต้องติดอยู่กับวังวนความคิดนี้ตลอดไปเป็นแน่ เธอเดินก้มหน้าขึ้นบันใดคิดประติประต่อเรื่องราว ภาพต่าง ๆ ข้อมูลทั้งหลายถูกถ่ายทอดออกมาผสมผสานกันไม่หยุดหย่อน
“อุ้ย! โทษจะวี” วัชรีสะดุ้งขอโทษลูกชายเมื่อเดินเหม่อเลยห้องตัวเองไปชนเข้ากับวีรพงษ์บริเวณหน้าห้องเค้า
“ครับ… ผมไปเรียนก่อนนะครับแม่” วีรพงษ์ดึงประตูกลับหมายจะปิดประตู ในขณะนั้นเอง พลันสายวัชรีก็เหลือบเห็นคอมพิวเตอร์ ไม่น่าโง่เลยเรา เธอคิดในใจ
“เอ่อ… วี ไม่ต้องล๊อค แม่ขอใช้คอมหน่อย”
“เอาสิครับ” วีรพงษ์ทำหน้างง ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เค้าตอบรับพร้อมยักไหล่ แล้วเดินลับลงบันใดไป วัชรีเดินเข้าในห้องลูกชาย นี่เป็นครั้งแรกหลังจากไม่ได้เข้ามาภายในห้องนี้หลายปีนับตั้งแต่ลูกชายเธอโตเป็นหนุ่ม วัชรีค่อย ๆ หย่อนตัวลงบนเก้าอี้จัดแจงเปิดคอมพิวเตอร์อย่างชำนาญ สำหรับผู้มีการศึกษาระดับปริญญาอย่างเธอมันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย google เป็นเวปแรกที่เธอเข้า แต่เธอก็นิ่งไปพักใหญ่ วัชรีนึกถึงคำที่จะค้นหา เธอเริ่มประมวลเรื่องทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่ต้นจนจบ และแล้ว คำแรกที่เธอค้นหา คือ อานนท์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมันมากเกินกว่าจะอ่านได้หมด หัวข้อนั้นแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง ขายของบ้าง ตอบกระทู้บ้าง
“น้ำ… อย่าทิ้งพ่อไป… กลับมาอยู่กับพ่อเถอะ” คำ ๆ นี่ยังติดอยู่ในหูวัชรี อีกทั้งการกระทำของสามีกับลูกสาวตัวเอง เธอจึงเริ่มจำกัดวงของการค้นหาให้แคบลง
“I n c e s t” วัชรีกระดากมิใช่น้อย แต่ก็พิมพ์มันลงไป รายการที่ถูกค้นหาเจอนั้นมีนับล้าน
“ไม่ไหว ไม่เจอแน่” วัชรีบ่นเบา ๆ กับตัวเอง เธอเปลี่ยนคำ และค้นหาไปเรื่อย ๆ เกือบครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งมาเจอกับเวปเรื่องเล่าประสบการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในครอบครัว วัชรีอ่านผ่าน ๆ ด้วยความที่เธอเป็นนักอ่านไม่นานเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้ผ่านสายตาเธอไปทั้งหมด
“พวกนี้โรคจิตชัด ๆ” เธอเปลี่ยนคำค้นหา แต่ก็ได้แต่เพียงเรื่องเล่าประสบการณ์ และ เวปเกี่ยวกับการอธิบายพฤติกรรมผิดปกติของบุคคลที่ชอบมีความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว
“เฮ่อ!…” เสียงถอนหายใจยาว วัชรีเริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อน และล้าสายตา เธอกวาดสายตาไปรอบห้องพร้อมเงยหน้าบิดลำคอไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยล้าก่อนจะจรดปลายนิ้วเรียวยาวลงบนแป้นคีย์บอร์ดอีกครั้ง เธอคิดถึงคำที่จะค้นหาเพื่อไขข้อข้องใจนั้นต่อ แต่ความล้าของดวงตาส่งให้เธอมองไปยังเตียงข้าง ๆ
“ไม่ไหว งีบหน่อยดีกว่า” วัชรีปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ และพาตัวเองลงนอนบนเตียงหลังใหญ่แล้วผล็อยหลับไป

< -------- >

“โถ่… แล้วบอกว่าจะใช้คอม” วีรพงษ์ซึ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเอ่ยขึ้นเมื่อเปิดประตูแล้วพบร่างของวัชรีนอนหลับใหลอยู่บนเตียงนอนของเค้า
“แม่ครับ แม่” วีรพงษ์วางเป้พร้อมเขย่าแขนวัชรีเบา ๆ
“อืมม… กี่โมงแล้วลูก” วัชรีหรี่ตาลุกขึ้นนั่ง
“5 โมงกว่าแล้วครับ”
“เหรอ ปิดคอมให้แม่ด้วย เดี๋ยวแม่จะลงไปทำกับข้าว” วัชรีพูดพลางลุกเดินออกจากห้องไป วีรพงษ์นั่งลงบนเก้าอี้ เปิดหน้าจอเลื่อนเมาส์หมายจะชัดดาวน์ แต่ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นแม่ใช้คอมเลย
“เอ… ไหนดูซิ ทำอะไร” วีรพงษ์คลิ๊กดู History เพียงเท่านั้น มันกลับทำให้เค้านั่งจ้องจอคอมด้วยสายตานิ่งตัวแข็ง เค้าลากเมาส์ไปคลิ๊กช้า ๆ ด้วยใจระทึก ข้อความที่ได้อ่านทำให้เค้าหน้าแดง ในกายร้อนผ่าว หนังสือโป๊วีรพงษ์เองก็ได้ศึกษามามาก อีกทั้งก็ยังมีประสบการณ์มาหลายครั้งกับแฟนสาว แต่เรื่องราวของการมีเพศสัมพันธ์ในครอบครัวนี่นับเป็นครั้งแรกที่ได้อ่าน

“หมิง..อูยย..หมิง ทำไมทำหยั่งงี้กับแม่…อูยยยย” ผมไม่ตอบยังคงตั้งหน้าตั้งตาเลียเม็ดละมุนต่อ และตอนนี้รู้สึกว่ามันจะพองสู้ลิ้นผม สองมือที่เคยดันหัวผมออก ตอนนี้กลับลูบไล้หัวผมอยู่ แม่ผมเริ่มแอ่นโคกสู้ลิ้นผม ตอนนี้ผมยัง 2 จิต 2 ใจว่าจะละจากเนินตรงนี้ดีหรือไม่ ถ้าหยุด แม่ผมจะยังเล่นกับผมอยู่รึเปล่า ผมหยั่งเชิงใช้มืออีกข้างลูบขึ้นไปบีบนมเธอ ผมก็ต้องตะลึง เพราะมันยังแข็งอยู่ไม่เหมือนคนที่มีลูกมาแล้ว มันแข็งกว่าแฟนคนที่ผมเคยเอาเสียอีก ตอนนี้เธอครางเป็นระยะ ผมบีบสักพัก ก็เลื่อนมือไปที่หน้าเธอ ใช้นิ้วชี้ไล้รอบที่ริมฝีปากของเธอก่อนจะใส่เข้าไปในปาก เธอเอามือจับมือผมแล้วดูดเลียนิ้วผม ตอนนี้ผมมั่นใจได้แล้วครับ ว่าอารมณ์ของแม่ผมถึงขั้นลืมแม่ลืมลูกแล้ว ผมจึงเอานิ้วออกจากปากเธอ แล้วละลิ้นจากเนิน เลื่อนตัวขึ้นไปถึงหน้าอก ถึงแม้หัวนมไม่เป็นสีชมพูอย่างที่ผมจินตนาการไว้แต่ก็ไม่น่าผิดหวังเท่าไหร่ มันเป็นมีน้ำตาลอ่อน ๆ ปานนมเล็กประมาณเหรียญห้าเองหัวนมชูชัน ผมก้มลงดูดมัน

ข้อความที่ได้อ่านกระตุ้นเร้าอามรณ์วีรพงษ์ยิ่งนัก ดุ้นเนื้อในกางเกงเริ่มพองแข็งจนปวด เค้าเหลือบไปมองที่ประตู แล้วรีบเดินไปล็อคทันทีที่เห็นว่ามันยังไม่ได้ล็อค เค้ารีบกลับมานั่งลงหน้าจออีกครั้ง และอ่านตัวหนังสือด้วยความจดจ่อ มือเริ่มสัมผัสเข้ากับเป้ากางเกงตัวเองช้า ๆ วีรพงษ์ลูบมันไปพลาง อ่านไปพลาง จนเค้าทนไม่ไหว ซิปถูกรูดลง ลำควยเขื่องขนาดประมาณ 6-7 นิ้วถูกงัดออกมา เค้าบรรจงรูดหนังหุ้มตัวมันเบา ๆ เปลือกตาค่อย ๆ หลับลงนึกมโนภาพตามเรื่องที่อ่าน แต่แล้วภาพแม่ของเค้าซึ่งนอนหลับใหลอยู่บนเตียงเมื่อครู่ก็แทรกเข้ามาในสมอง
“อือออ… ซี๊ดดดส์… อือออ” แทนที่วีรพงษ์จะรีบลืมตาขึ้นเพื่อสลัดความคิดสกปรกทิ้งไป เค้ากลับจินตนาการต่อจนเลยเถิด
“ฮือออ… ฮือออ… กูคิดอะไรวะ” เสียงเบา ๆ ลอดจากไรฟัน แต่มือยังคงเร่งชักท่อนเอ็นไม่ขาดจังหวะ
“ก๊อก ๆ ๆ” วีรพงษ์สะดุ้งเฮือกเบิ่งตาโพลง รีบจัดแจงยัดเก็บท่อนควยที่ค่อย ๆ หดตัวลงอย่างกะทันหันด้วยความตกใจ
“พี่วีกินข้าว!!!!” เสียงไพรินน้องสาวเค้านั่นเอง
“เฮ่อ!! ดีนะ ไม่ลืมล๊อคประตู” วีรพงษ์ถอนหายใจยาว
“เออ! รู้แล้วเดี๋ยวลงไป”

< -------- >

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารยามเย็นในวันนี้สำหรับวีรพงษ์นั้นมันไม่เหมือนทุกวัน เค้าทานไปแต่สายตาที่มองไปยังแม่ของเค้ากลับเป็นสายตาที่ต่างไปจากเดิม จากเคยมองหรือพูดคุยอย่างสนิทใจ บัดนี้วีรพงษ์กลับต้องแอบมองด้วยสายตาอกุศล วัชรีเองไม่รู้เลยว่าเนินอกอิ่มถูกแทะโลมโดยลูกชายตลอดระยะเวลาทานอาหาร เค้าแอบมองมันครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่เป็นอันตักกับข้าว ท่อนเอ็นในกางเกงแข็งจนเบียดกางเกงนักศึกษานูนออกมา ดีที่ยังไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามิฉะนั้นแล้วมันคงชี้เด่ให้ใครต่อใครเห็นยามลุกเดินเป็นแน่ วีรพงษ์คิดในใจเพราะเค้าจะไม่ใส่กางเกงในเวลาอยู่กับบ้าน

< -------- >

ภายในห้องของหนุ่มโสด วีรพงษ์ถอดเสื้อผ้าหมายจะอาบน้ำชำระร่างกาย กางเกงในถูกถอดออก คราบน้ำเหนียวจากปลายหัวถอกยังติดเป็นรอย ดุ้นเนื้อซึ่งบัดนี้หดตัวลงแล้วถูกประคองขึ้นดู ส่วนหัวยังคงเยิ้มด้วยน้ำใส ๆ เค้ากำมันหลวม ๆ แล้วค่อย ๆ ถอกเบา ๆ เปลือกตาค่อย ๆ หลับลงช้า ๆ พร้อมเงยหน้า ภาพเต้าอวบของแม่ลอยเด่นเข้ามาในความคิด ท่อนเอ็นเริ่มแข็งจนกำได้ลำบาก
“ซูดส์… อ้า” วีรพงษ์เร่งชักลำควยเร็วขึ้น ในสมองมีแต่ภาพแม่คนสวย ภายใต้เสื้อผ้าอกอิ่มนั้นจะงามขนาดไหน ปลายยอดนั้นจะน่าดูดโลมเลียเพียงใด
“ซี๊ดดดส์… แม่ครับ… แม่” มือซ้ายซึ่งว่างอยู่นั้นเริ่มกำแน่น มือขวาเร่งซอยชัก ปากก็พร่ำถึงผู้เป็นแม่ไม่ขาด
“แม่ครับแม่… แม่ครับ ซี๊ดดดส์… ซี๊ดดดส์.. แม่”
“อูยยยว์… ซี๊ดดดดส์” น้ำในถุงถูกขับเคลื่อนผ่านท่อพุ่งออกจากปลายควย พร้อมอาการเกร็งกระตุกหน้าท้องเป็นระยะ นิ้วเท้าจิกลงพื้นด้วยความเสียวซ่าน แสงสว่างค่อย ๆ ส่องเข้ามาเมื่อเค้าลืมตา
“พุงแรงซิบหาย” วีรพงษ์บ่นกับตัวเองเมื่อเห็นคราบน้ำกามห่างออกไปเป็นเมตร เมื่อความเงี่ยนจางหายสติสัมปชัญญะก็แทรกกลับเข้ามา ขณะนั่งลงเช็ดคราบแห่งความเสียว ความรู้สึกผิดที่นำเอาเรือนร่างของแม่ผู้ให้กำเนิดมาสำเร็จความใคร่ทำเอาเค้าสลด ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูเพื่อออกไปอาบน้ำ

< -------- >

“หึ… หึ… ฮ่า… ฮ่า.. ฮ่า… หึ…หึ… หึ… ฮ่า… ฮ่า.. ฮ่า…”
“น้ำลูกพ่อ”
“หึ… หึ… ฮ่า… ฮ่า.. ฮ่า… หึ…หึ… หึ… ฮ่า… ฮ่า.. ฮ่า…”
“น้ำ… อย่าทิ้งพ่อไป… กลับมาอยู่กับพ่อเถอะ”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!” ในความมืดของราตรี วัชรีกรีดร้องสุดเสียงสะดุ้งตื่นจากความฝัน เสียงอันน่าสะพรึงกลัวกับใบหน้าซีดเซียวของอานนท์ยังคงตามมาหลอกหลอน เธอหอบหายใจแรงเหงื่อกาฬแตกเป็นเม็ดราวกับเพิ่งอาบน้ำ
“เป็นอะไรครับแม่!!!” ประตูห้องถูกเปิดออกโดยวิสาสะ พร้องร่างของวีรพงษ์ปรี่เข้ามาร้องถามด้วยความเป็นห่วง
“แม่… แม่ฝันร้ายน่ะจะ อ้าวแม่ลืมล็อคประตูเหรอเนี่ย แย่จังลืมไปซะสนิทว่าพ่อเค้าไปสัมมนา”
“แม่จะให้ผมนอนเป็นเพื่อนรึป่าวครับ” วีรพงษ์พูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรแม้แต่น้อย
“ก็ได้จะ แม่รู้สึกไม่ค่อยดีเลย” เมื่อได้รับอนุญาต วีรพงษ์ก็ปิดประตูแล้วพาตัวเองแทรกเข้าภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ สำหรับอากาศเย็นยะเยือกอย่างห้องนี้ผ้าห่มนวมช่างให้ไออุ่นได้ดียิ่งนัก
“แม่ฝันอะไรเหรอครับ” วีรพงษ์เอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรหรอกจ้า นอนเถอะ” วัชรีตัดบทเพราะไม่อยากให้ลูกชายต้องมารับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ราตรีผ่านไปเข้าสู่ทิวาใหม่ วีรพงษ์ซึ่งรู้สึกตัวก่อนค่อย ๆ ลืมตา ทันใดนั้นเองคำก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอันนุ่มนวล เค้าตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่า บัดนี้เต้าอวบที่ได้จินตนาการถึงกำลังอยู่ในอุ้งมือ ความนุ่มของเนื้อภายใต้ชุดคลุมนอนผ้าแพรส่งให้รู้ว่าภายในนั้นไม่มีบราเซียขวางกลั้น ในสมองวีรพงษ์รู้สึกปั่นป่วนไปหมด ใจหนึ่งก็คิดจะเอามืออก แต่อีกใจหนึ่งกลับต้องการจะลองบีบเคล้นมันดู แต่ยังไม่ทันได้ประมวลใด ๆ
“อื่อ…” เสียงในลำคอวัชรีดังขึ้นพร้อมกับลืมตา วีรพงษ์สะดุ้งเล็กน้อยแต่แกล้งหลับต่อ หัวใจเค้าเต้นแรงเพราะมือยังคงคาอยู่ที่เต้าอวบนั้น และแล้วเค้าก็รู้สึกได้ถึงมือนุ่มเนียนมาจับยังมือเค้าแล้วยกมันออกอย่างช้า ๆ พร้อมแรงสั่นของการเคลื่อนตัวลงจากเตียงของแม่
“ลูกคนนี้ ทำเหมือนเด็ก ๆ ไม่ยอมโตซะที” วัชรีพูดพร้อมกับขยับผ้าห่มให้สูงขึ้นเพื่อบดบังความหนาวให้ลูกชาย เธอเดินออกจากห้องไปโดยไม่ปลุก เสียงงับประตูเป็นสัญญาณให้วีรพงษ์ลืมตาขึ้น
“แม่ครับ” วีรพงษ์บ่นกับตัวเองเบา ๆ

< -------- >

ประมาณ 11.00 น. วีรพงษ์เดินออกจากห้องด้วยชุดนักศึกษาเพื่อไปเรียนในยามบ่าย
“ไม่ต้องล็อคนะวี แม่จะใช้คอม” วัชรีตะโกนจากชั้นล่างเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องของลูกชาย ทันทีที่ได้ยินวีรพงษ์ก็คิดอกุศลขึ้นอีก แม่จะอ่านเวปโป๊อีกแล้วหรือ เค้าคิดไปไกล สัมผัสนุ่มในอุ้งมือเริ่มแล่นเข้ามาสมทบเหมือนฝ่ายต่ำที่กำลังระดมพล เค้าสลัดความคิดอุบาทว์ด้วยการสะบัดหน้าก่อนจะเดินออกจากบ้านไปด้วยท่าทางปกติ

< -------- >

“สอบถามซาตาน” ภายในห้องวีรพงษ์ วัชรีพึมพำกับตัวเองหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอหาข้อมูลมานาน อินเตอร์เน็ตอาจมิใช่ฐานข้อมูลที่สามารถตอบคำถามคาใจเธอได้ จนเธอต้องแบนวิธีที่จะค้นพบในสิ่งที่ต้องการรู้ เวปที่เธอเปิดขึ้นมานั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับไสยศาสตร์ มนต์ดำ ทั้งแบบพื้นฐานและแบบสุดขั้ว อาทิเช่น ผีถ้วยแก้ว การปอกผลแอปเปิ้ลหน้ากระจก แม้กระทั้งการบูชายันต์ แต่หัวข้อที่ทำให้วัชรีสะดุดตา คือ สอบถามซาตาน เธอกวาดสายตาอ่านรายละเอียดคร่าว ๆ ใจความนั้นทำให้เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะนั่งนิ่งครู่ใหญ่ และแล้วเธอก็ตัดสินใจคลิกเมาส์กดคำสั่งปริ้นมันออกมา

< -------- >

เวลาผ่านไปดั่งเช่นทุกวัน จวบจนราตรีมาเยือนอีกครั้ง ภายในห้องนอนอันเย็นฉ่ำ แสงสีส้มจากไฟประดับผนังส่องดูนวลตา วัชรีในชุดคลุมยาวพาร่างซึ่งเพิ่งชำระล้างเหงื่อไคลจนสะอาดขึ้นมานั่งกลางเตียงนอน คืนนี้เป็นอีกคืนที่เธอต้องนอนโดยไม่มีสามีอันเป็นที่รักเคียงข้าง เธอหยิบกระดาษที่ได้ปริ๊นไว้เมื่อกลางวันมาอ่าน
“สอบถามซาตาน หลายเรื่องราวที่คุณคิดว่าไม่มีคำตอบ แม้แต่จากปากของพระผู้เป็นเจ้า แต่ซาตานตอบคุณได้… มันจะได้จริง ๆ เหรอ” วัชรีหยุดพูดกับตัวเองก่อนจะอ่านมันต่อ
“อย่างที่รู้ ๆ กัน ซาตานเป็นเจ้าแห่งปีศาจแห่งนรกอเวจี เป็นผู้เคียดแค้นชิงชังพระผู้เป็นเจ้า ซาตานสามารถมอบอำนาจ หรือดลบันดาลในสิ่งที่ต้องการได้ เพียงแต่คุณมอบ (ขาย) วิญญาณให้แก่ซาตาน แต่วิธีที่จะนำเสนอนี้เป็นเพียงการติดต่อสื่อสารเพื่อสอบถาม ไขข้อข้องใจเท่านั้น จึงไม่ใช่การตกลงมอบ (ขาย) วิญญาณแต่อย่างใด คุณพร้อมรึยังกับคำถามที่กำลังจะได้รับคำตอบในไม่ช้า” วัชรีหันไปมองอุปกรณ์ที่ตระเตรียมไว้
“สิ่งที่ต้องใช้ประกอบพิธีมีดังนี้ เชือก หรือ สิ่งที่สามารถใช้พันธนาการ เทียนไขซึ่งเคยใช้จุดบูชาพระแล้วเล่มเล็ก ไม้ขีดไฟ (ห้ามใช้ไฟแช๊ก)” วัชรีอ่านไปพรางหยิบอุปกรณ์ขึ้นดูไปพราง
“ซาตานเป็นผู้กระหายในราคะและตัณหา สิ่งที่จะนำมาแลกคำตอบในครั้งนี้ คือ เรือนร่างของคุณ คุณจะรู้สึกเหมือนถูกร่วมรักจากซาตาน (แค่เหมือนเท่านั้น) เมื่อเสร็จพิธีกรรมคำตอบที่คุณค้นหามานาน ไม่ว่าจะเรื่องคู่ครอง การงาน หรือสิ่งเร้นลับที่มิอาจหาคำตอบได้ จะปรากฏให้รู้ในมโนภาพจากโสดประสาทของคุณเองอย่างน่าอัศจรรย์” วัชรีถอนหายใจยาว ประโยคที่ว่าถูกร่วมรักจากซาตาน ทำเอาเธอมีทีท่าลังเลเล็กน้อยทั้ง ๆ ที่เตรียมอุปกรณ์ไว้อย่างครบครัน
“แค่เหมือนเท่านั้นน่ะรี ถ้าเธออยากรู้ เธอไม่มีทางเลือกแล้ว” วัชรีเป่าลมออกปากระบายความเครียดพลางบ่นกับตัวเอง
“ขั้นตอนของพิธี คือ ชำระล้างร่างกายให้สะอาด ภายในห้องต้องดับไฟให้มืดสนิท (ทำเวลากลางคืน) จุดเทียนที่เตรียมไว้ด้วยไม้ขีดไฟไว้บริเวณใกล้ ๆ หัวเตียง (หรือหัวเตียง ห้ามต่ำกว่าเอว) พันธนาการร่างเปลือยเปล่าของคุณทั้งแขนขาไว้กับมุมเตียงนอนทั้ง 4 ด้าน (เหมือนขึงพรืด ถ้าเป็นเตียงหลังใหญ่จะดี) หลับตาแล้วว่าตามคาถาที่ให้ไว้ด้านล่างนี้ 3 จบ (พูดออกเสียง) หลังจากนั้นอธิษฐานในใจถึงสิ่งที่คุณต้องการรู้ รอจนเทียนดับเอง คุณจะมีความรู้สึกเหมือนถูกร่วมรักจากซาตาน ข้อควรระวัง เมื่อเริ่มท่องคาถาห้ามลืมตาเด็ดขาดจนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีกรรม (ควรจำบทสวดให้แม่นยำ) … ฮู่…” วัชรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอหันมองดูอุปกรณ์อีกครั้ง แล้วเธอก็เอะใจ
“พันธนาการทั้ง 4 เท้า 2 เรามัดเอง มือ 2 จะมัดยังไง เต็มที่ก็ได้แค่ข้างเดียว” ในใจวัชรีคิดถึงความเป็นไปได้ แสดงว่าพิธีกรรมนี้คงต้องมีคนช่วย แต่เธอไม่ต้องการให้ใครรับรู้ในสิ่งที่เธอทำแม้แต่สามี และแล้วเธอก็หุนหันลุกไปเปิดลิ้นชักหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“อันนี้คงช่วยได้” วัชรีหยิบกุญแจมือขึ้นมาดู จริง ๆ แล้วมันไม่เชิงเป็นกุญแจมือเพราะมีขนาดเล็ก จะว่าไปมันเป็นกุญแจล็อคนิ้วมากกว่า เธอยึดมันมาจากลูกชายคนเล็กซึ่งซื้อมาเล่นจนล็อคนิ้วตัวเองร้องไห้งอแง วัชรีจัดแจงวัดขนาดเชือก ตัดมันและผูกเข้ากับขาเตียงทั้ง 4 ด้าน โดยเชือกที่มุมขวาบนทำเป็นห่วงให้ที่ล็อคนิ้วคล้องล็อคได้ วัชรีหยิบกระดาษขึ้นมองอีกครั้ง เธอจดจำบดที่ต้องท่องจนขึ้นใจ เทียนถูกจุดขึ้นวางไว้บนหัวเตียง เธอเดินไปปิดไฟอย่างช้า ๆ ทันทีที่เธอหันกลับไปมองยังเตียงเมื่อไฟดับลง บรรยากาศมันดูจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เชือกทั้ง 4 เส้นพาดวางบนเตียงราวกับพิธีบูชายันต์ แสงจากเปลวเทียนซึ่งไหวไปมาส่งให้ดูยิ่งลึกลับ เธอค่อย ๆ จับเชือกผูกเอวของชุดคลุมแล้วดึงมันออกช้า ๆ ไม่นานชุดคลุมยาวก็หลุดจากร่างขาวโพลนลงกองอยู่ที่ข้อเท้า เธอเดินไปยังเตียง ในสมองไม่มีสิ่งใดที่ต้องคิดต้องชั่งใจอีกต่อไป ร่างเปลือยเปล่าคืบคลานเข้าไปยังกลางเตียงช้า ๆ เชือกบริเวณด้านล่างถูกผูกเข้ากับข้อเท้าอย่างไม่รีบร้อน และการที่เธอจะผูกข้อเท้ากับเชือกอีกข้างนั้น เธอต้องแยกขาออกเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค์สำหรับผู้หญิง วัชรีหยิบที่ล็อคนิ้วล็อคเข้ากับนิ้วโป้งขวาของตัวเองก่อนจะจัดแจงเอี้ยวตัวผูกเชือกเข้ากับข้อมือซ้ายของเธอ และก็มาถึงพันธนาการสุดท้าย วัชรีเอื้อมเกี่ยวคล้องที่ล็อคอีกข้างกับห่วงที่ทำไว้ ทันทีที่เธอบีบมันให้ลงล็อค
“เฮ่ย!… แล้วใครจะปลดล็อค” วัชรีสะดุ้ง เธอลืมนึกถึงข้อนี้ไปเสียสนิท เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการแต่ก็ไร้ผล ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บโดยเฉพาะที่ล็อคนิ้วซึ่งเป็นเหล็ก
“ชั่งมัน… ไว้แก้ที่หลัง” ถึงวัชรีจะกังวน แต่สิ่งที่เธออยากรู้มันมีอำนาจเหนือกว่า เธอคลายจากอาการเกร็งเมื่อครู่ ค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ พร้อมตั้งสติ วัชรีเปล่งวาจาเป็นบดสวด 3 จบ เมื่อสิ้นเสียง เธอก็ตั้งจิตอธิฐานถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ได้เห็นที่บ้านอุ่นรัก เธอถามหาคำตอบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และจุดประสงค์ใดที่อานนท์ต้องทำเช่นนั้น วัชรีคิดซ้ำไปซ้ำมาภายในใจของเธอ

< -------- >

“ฮัลโหล” ภายในห้องมืดมิด วีรพงษ์คว้าโทรศัพท์กดรับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“เฮ่ย! อยู่ไหนแล้ววะวิทย์ กูรอนานแล้วนะโว้ย”
“วิทย์ไหน… โทรผิดแล้วครับ”
“อ้าว… โทษครับ”
“อะไรวะ คนจะนอน” วีรพงษ์กดวางสายด้วยความหงุดหงิดพร้อมดูนาฬิกาบนจอโทรศัพท์
“4 ทุ่มกว่า… อือออออ… ไปเยี่ยวดีกว่า” วีรพงษ์บิดขี้เกียจแล้วลุกออกจากห้องไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ชั้นล่าง ในความมืดนั้นเค้าเดินผ่านห้องแม่ไปโดยไม่ได้คิดอะไร หลังจากทำธุระเรียบร้อย ขณะที่วีรพงษ์เดินขึ้นบันไดนั้นเอง สายตาเค้าซึ่งอยู่ระดับเดียวกับพื้นห้องก็ได้เห็นแสงระยับลอดออกมาจากใต้ประตูห้องแม่ เค้าลดความเร็วในการเดินลงจนหยุดอยู่หน้าประตูห้อง ในความฉงนมือซึ่งถูกเงื้อขึ้นจะเคาะกลับซะงักลง ความรู้สึกถึงความนุ่มละมุนของอกอิ่ม เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวแวบเข้ามาในสมอง หัวใจเค้าเต้นแรงขึ้นมาทันที โดยไม่ทันได้ชั่งใจ วีรพงษ์ลดมือลงจับลูกบิด ในใจคิดว่าแม่จะลืมล็อคเหมือนเมื่อวานอีกหรือไม่ เค้าค่อย ๆ บิดลูกบิดช้า ๆ วีรพงษ์กลั้นหายใจเมื่อลูกบิดสามารถหมุนได้ ภาพที่ค่อย ๆ เผยให้เห็นทำเอาใจเค้าสั่นสะท้าน ร่างเปลือยเปล่าของแม่บังเกิดเกล้า นอนแหกขาถูกพันธนาการด้วยเชือก เนื้อเนียนถูกโลมเลียด้วยแสงเทียน เต้าอวบขนาดพอดี กระเพื่อมขึ้นลงช้า ๆ สลับกับหน้าท้องอันแบนราบ ส่วนกลางนั้นปกคลุมด้วยเส้นไหมสีดำบาง ๆ เนินเนื้อโหนกนูนเป็นหลังเต่า วีรพงษ์กลืนน้ำลายลงคอ ขาสั่น ๆ ของเค้าค่อย ๆ ก้าวเข้าไปยังห้องอันเย็นฉ่ำ แต่ทว่าเหงื่อกาฬเค้ากลับแตกเป็นเม็ด วีรพงษ์หันกลับปิดประตูช้า ๆ ด้วยความบรรจงให้เบาที่สุด และแล้ว เทียนซึ่งถูกจุดไว้ก็มอดดับลง ด้วยความตกใจที่แสงทองหายไปอย่างกะทันหัน เค้าเอี้ยวตัวกลับมือซึ่งจับลูกบิดพลันปล่อยอย่างลืมตัว พอให้บังเกิดเสียงให้ได้ยินในความเงียบ ซึ่งวัชรีเองก็ได้ยินเช่นกัน จริงรึนี่ มันมีจริงรึนี่ เธอคิดในใจครั้นจะลืมตาก็ดูก็เกรงจะเสียพิธี ชั้นต้องเสียตัวจริงหรือ ใจเธอเริ่มเต้นแรง มันเป็นความรู้สึกที่สุดจะบรรยายที่ต้องรอคอยสัมผัสที่มิอาจรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองตอนไหน อย่างไร หรืออาจเป็นเพียงหูแว่วไปเท่านั้น ความคิดเธอปั่นป่วนไปต่าง ๆ นานา อีกฟากหนึ่งวีรพงษ์ซึ่งยืนตัวแข็งอยู่นั้น ไม่นานนัยน์ตาก็ปรับสภาพ ภาพหญิงสาวผู้ให้กำเนิดนอนเปลือยกายเริ่มชัดเจนขึ้นตามลำดับ ในสมองเค้าขัดแย้งกันเกินจะอธิบาย ร่างเปลือยของแม่ กับศีลธรรมจรรยา แต่ แม่เปิดเวปโป๊ อ่านเรื่อง Incest แม่ผูกมัดตัวเอง แม่ไม่ได้ล็อคห้อง แม่ต้องการอะไร ความคิดฝ่ายต่ำพยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อเอาชนะ มือของเค้าเย็นเฉียบจนรู้สึกเหมือนมันชา แม่ แม่สวยเหลือเกิน ความคิดสุดท้ายสยบทุกสิ่ง วีรพงษ์ค่อย ๆ ก้าวเท้าสืบไปยังปลายเตียงหลังใหญ่นั้น ดวงตาจ้องพินิจเรือนร่าง
“สวยเหลือเกิน” แม้ในความมืด วีรพงษ์ก็อดไม่ได้ที่จะหลุดปากส่งเสียงแหบแห้งเบา ๆ ชมความงดงามของแม่ตัวเอง เสียงนั้นทำให้วัชรีขนลุกชัน เมื่อรู้ว่าตำแหน่งของสิ่งเร้นรับนั้นอยู่ปลายเตียง เสียงแหบที่ไม่คุ้นเคยยิ่งพาให้เชื่อว่าสิ่งเร้นรับที่เธอกำลังเผชิญอยู่นั้นคือ ซาตาน พลันเธอก็รู้สึกว่าเบาะยุบลงบริเวณหว่างขา จากความกลัวเริ่มกลายเป็นความตื่นเต้น แล้วเธอก็ตกใจจากสัมผัสแรกจากซาตาน วีรพงษ์เท้าฝ่ามือลงบนเบาะพร้อมก้มลงจุมพิตเบา ๆ ที่หลังเท้าด้วยความนุ่มนวล เค้าพรมจูบเบา ๆ ไล่ระดับขึ้นมายังหัวเข่าแล้วเลียด้วยปลายลิ้นสาก ๆ ทั้งไออุ่นทั้งสัมผัสแผ่วเบาทำเอาวัชรีซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก เธอผวาเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากนั้นเคลื่อนขึ้นมายังต้นขาด้านใน เพราะอีกไม่นานมันคงเคลื่อนขึ้นมาถึงตรงนั้นเป็นแน่ เธอชั่งใจว่าจะลืมตาดีหรือไม่
“ซู๊ดดส์…”เสียงเล็ดจากปากเรียวเบา ๆ เปลือกตาที่เคยคิดว่าจะลืมกลับยิ่งปิดสนิทด้วยคิ้วที่ขมวดอันบังเกิดจากความเสียวเมื่อวีรพงษ์ฉกปลายลิ้นเข้ากับร่องกลางลำตัว ขาที่แยกออกจนสุดหล้าส่งให้เค้าใช้ลิ้นได้อย่างถนัดถนี่ น้ำเงี่ยนภายในร่องหลืบไหลซึมออกมาทันที ทั้งรสชาติอันหอมหวานและกลิ่นหอมจาง ๆ พาให้เค้าเพลินกับการใช้ลิ้นละเลงเนินหีนี้ยิ่งนัก วีรพงษ์หลับตาโลมเลียร่องหีแม่พลางเบือนหน้ากรวกเกลื้อไปมาราวกับคนมูมมาม จนน้ำเหนียวที่กำลังพร่างพรูเปรอะปากและแก้ม แต่มันกลับทำให้วีรพงษ์ยิ่งเกิดอารมณ์เคลิบเคลิ้ม
“นี่เรากำลังถูไถใบหน้าตัวเองกับหีแม่บังเกิดเกล้าอยู่หรือเนี่ย เหมือนฝันเหลือเกิน” วีรพงษ์บ่นเบา ๆ กับตัวเอง แต่หารู้ไม่ในความเงียบนั้นแม้เพียงเสียงเบา ๆ ก็สามารถได้ยินได้ ซึ่งวัชรีเองก็ได้ยินเช่นกัน เธอตกใจกับใจความที่ได้ยิน เบิ่งตาโพลงพร้อมผงกศีรษะมอง แม้ในความมืดแต่ด้วยเธอหลับตาเป็นเวลานานสายตาจึงปรับเข้าที่อยู่แล้ว
“ว้าย!!! วี… ทำอะไรแม่น่ะ” วัชรีแทบช๊อค จากเรียวลิ้นและสัมผัสอันซ่านเสียวซึ่งเคยคิดว่าซานตานเป็นผู้มอบให้ แต่กลับกลายเป็นลูกในไส้ของตนเอง ถึงเธอจะซ่านสยิวเพียงใดแต่มันก็หาใช่สิ่งที่บุคคลธรรมดาจะทำกัน
“หยุดนะวี! แม่บอกให้หยุด!” วัชรีร้องห้าม ขาทั้ง 2 ข้างพยายามออกแรงหนีบเข้าหากัน แต่ก็ไร้ผล ยิ่งเธอดิ้นบั้นท้ายก็จะยิ่งขยับส่งให้เนินหีเสียดสีกับเรียวลิ้นลูกชายมากขึ้น ทางวีรพงษ์ในตอนนี้ไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้ว เสียงที่ตะโกนห้ามปรามเสมือนเป็นเพียงลมปากที่เข้าหูซ้ายผ่านออกหูขวา ความเงี่ยนเข้าครอบงำเกินกว่าจะให้เด็กหนุ่มถอนตัวเสียแล้ว ยิ่งเธอดิ้นเท่าไร วีรพงษ์ก็ยิ่งเกิดอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น เค้าสอดแขนทั้ง 2 รอดใต้ต้นขาพร้อมบิดแขนเข้าล็อค นิ้วมือทั้ง 2 ข้างเอื้อมแบะแคมหีให้ยิ่งถ่างออก ลิ้นซึ่งเกร็งจนแข็งถูกแยงเข้าในรูหีช้า ๆ
“ซี๊ดดดดส์… อูววว์… วี… ปล่อยแม่เถอะ… ซี๊ดดดส์” วัชรีขนลุกเรียวเธอเผลอขมิบร่องหีบีบรัดลิ้นลูกชายอย่างลืมตัว ความรู้สึกมันต่างจากดุ้นควยที่เคยโดนสามีเอาเข้าอยู่บ่อย ๆ มันสากแต่ทว่านุ่มนวลเข้าไม่ลึกแต่ทว่าสัมผัสกับเม็ดเสียวได้ดียิ่งนัก วีรพงษ์แยงลิ้นสลับดูดเม็ดละมุนซึ่งเต่งสู้จะรู้สึกได้
“ว่ะ.. วี… หยุดเถอะ… วี… ซี๊ดดดส์” มันสุดจะกลั้นไว้ได้ต่อไป น้ำเสียวที่ขมิบกลั้นไว้ค่อย ๆ ไหลออกมา วัชรีเริ่มแอ่นโคกเนินรับการกระทำของลูกชาย ความเสียวและตัณหาในกายมนุษย์เริ่มเล่นตลกกับ 2 แม่ลูก
“วี… ซี๊ดดดดดส์… วี… พอเถอะ… แม่… ซี๊ดดส์… อูววว์” เสียงร้องขอปนครางของวัชรีดังไม่ขาดสาย แต่เธอหารู้ไม่ว่ามันยิ่งกระตุ้นอารมณ์เพศของวีรพงษ์ บัดนี้ควยในกางเกงบอลตัวหลวมแข็งเป็นลำด้วยเลือดแห่งความเงี่ยนที่ไหลบ่ามาคั่งไว้ เด็กหนุ่มรู้ตัวดีว่าตนพร้อมแค่ไหน เค้าค่อย ๆ ถอนแขนออกแล้วพรมจูบเลื่อนขึ้นไปผ่านหน้าท้อง
“วี… หยุด… ยะ… อย่า… โอ้วว์” วัชรีแขม่วเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียว วีรพงษ์ค่อย ๆ ลากเรียวลิ้นฉ่ำขึ้นผ่านเนื้อเนียน ทันทีที่ยอดประทุมถูกสะกิดด้วยเรียวลิ้นฉ่ำ มันก็เต่งรับเป็นเม็ดพร้อมด้วยเสียงคราง
“ซี๊ดดดส์… หยุดเถอะ… วี… นี่แม่นะวี” เสียงปรามทั้งหลายไม่ทำให้วีรพงษ์หยุดการกระทำแต่อย่างใด เค้ากลับอ้าปาก ความอุ่นค่อย ๆ ครอบลงกับยอดถัน วีรพงษ์ทั้งดูดทั้งขบปลายยอดในปากราวกับมันเป็นเจลลี่ ลิ้นของเค้ากระดกได้อย่างชำนาญยิ่ง
“อ้า… วี… อื่มมมมมม” เป็นครั้งแรกที่วัชรีครางโดยไม่ห้ามปราม หนำซ้ำยังแอ่นอกรับการดูดเลียนั้นอย่างลืมตัว มือทั้ง 2 ของเธอกำแน่นริมฝีปากเรียวงามเม้มเข้าหากัน
“แม่สวยจังครับ” วีรพงษ์ละจากยอดเต้าอวบค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นทาบ เสียงกระเส่าพร่ำชมอยู่ข้างใบหู คำพูดนั้นทำให้วัชรีเสียวซ่านไปทั้งตัว เพราะบัดนี้ลูกชายกำลังคร่อมร่างเธอพร้อมกับไซซอกคอสร้างความกระสัน
“แม่หอมไปหมดทั้งตัวเลย… สวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผมเคยรู้จัก” วีรพงษ์พูดพลางโลมเลียใบหูจนวัชรีขนลุก มือหยาบ ๆ ของเค้าค่อย ๆ ลูบไล้สีข้างรอดผ่านระหว่างตัวเค้าและเธอลงมายังเนินโหนก นิ้วกลางและนิ้วนางเริ่มถูกเข้ากับร่องเสียวที่บัดนี้ฉ่ำเยิ้มได้ที่ มันทั้งลื่นทั้งร้อน
“แม่เงี่ยนแล้ว… วีรู้… แม่กำลังมีอารมณ์กับผม”
“ไม่… วี… อย่า… นี่แม่นะ… วี… ซี๊ดดดส์.. อูยยยว์” ยิ่งวัชรีปฏิเสธ วีรพงษ์ก็ยิ่งกระดิกนิ้วบี้เม็ดละมุนพร้อมแยงลิ้นฉ่ำสอดเข้าในรูหู มือซ้ายอีกข้างยกขึ้นเคล้าเต้าอวบสร้างความเสียวให้แม่บังเกิดเกล้าอารมณ์เตลิด
“ซี๊ดดดส์… ซี๊ดดส์… อ้า.อูววว์” เมื่อไม่มีเสียงห้าม วีรพงษ์ค่อย ๆ เลื่อนมือขวาขึ้นเล็กน้อยจนพ้นจากเนินโหนก พร้อมใช้นิ้วโป้งเกี่ยวขอบกางเกงบอลลง เพียงเท่านั้นลำควยก็โผล่พ้นออกมาสู่โลกภายนอก มันถูกจับให้ส่วนหัวถูไถเข้ากับปากร่องอันเยิ้มเหนียวนั้น
“วี… ไม่นะวี… นี่แม่… อย่าวี” วัชรีรู้ทันทีว่าสิ่งที่สัมผัสกับปากร่องเสียวเธอนั้นมันไม่ใช่นิ้วอีกแล้วหากแต่เป็นส่วนหัวบานของลำควยอุ่น ๆ
“อูยยยยยว์” มันทั้งเสียวทั้งจุก ลำควยที่แข็งราวกับแท่งไม้ถูกดันแทรกผ่านร่องเนื้อเข้าในคราเดียวจนสุด หนอกเนินเบียดเข้าหากันแสดงให้รู้ว่าดุ้นเอ็นถูกกลืนเข้าไปจนหมด เสียงครางของทั้งคู่ดังประสาน วีรพงษ์เกร็งกอดแม่ไว้แน่นมันช่างอบอุ่นและนุ่มนวลภายในตอดรัดหัวควยเป็นจังหวะ ซึ่งควยเค้าเองก็กระตุกงึก ๆ ในร่องหีนั้นโดยไม่ได้บังคับเช่นกัน
“เข้าไปแล้ว… แม่… ผมเสียว… อ้า” วีรพงษ์พร่ำกระซิบ และคงแช่ค้างดุ้นเนื้อไว้อย่างนั้น
“วี… เอาออกเถอะ… แม่เป็นแม่นะวี… โอ้ววว์” เสียงห้ามปรามบังเกิดอีกครั้ง วีรพงษ์จึงสาวท่อนควยเข้าออกสั้น ๆ 1 ครั้ง พร้อมบดเบียดหนอกควยกับเม็ดเสียวจนวัชรีครางกระเส่าร่องหีขมิบรัดลำควย
“มันเป็นไปแล้วครับแม่… ของแม่ยังเหมือนสาว ๆ มันขมิบรับของผมด้วย… แม่ก็อยากใช่มั้ยครับ… ผมรู้” วีรพงษ์พูดพลางใช้มือขยับกางเกงให้พ้นจากตัว
“ป่าว… แม่ป่าวนะ… ซี๊ดดดส์” ทั้ง ๆ ที่กำลังถอดกางเกงอยู่ วีรพงษ์กระเด้าเอวเย็ดสวนคำปฏิเสธ โดยครั้งนี้สาวยาว ตลอดลำครูดปากร่องเข้าออกสร้างความเสียวกระสันจนวัชรีอดครางไม่ได้ ในใจเธอเริ่มคิดว่าจะทนกับมันได้อีกนานแค่ไหน ถ้าถูกสาวควยเย็ดยาว ๆ ซ้ำ ๆ เธอจะทนได้อีกซักเท่าไหร่ เหมือนวีรพงษ์จะรู้ความคิดแม่ตัวเอง เมื่อถอดกางเกงออกได้ เค้าสอดแขนทั้ง 2 ลอดใต้แขนของแม่ขึ้นมาประคองศีรษะพลางขยับท่อนล่างช้า ๆ ยาว ๆ
“……….. ซี๊ดดดส์…. วี… พอเถอะ… วี… ซี๊ดดดดส์… อูววว์” วัชรีพยายามเงียบแต่เมื่อวีรพงษ์สาวควยเย็ดยาว ๆ 3 – 4 ครั้ง เธอก็ต้องครางออกมา มันเกินกว่าจะสะกดกลั้นไว้ได้
“วีพอ… หยุ.. อื้อ..อื้อ” เสียงห้ามสิ้นหายไปกับปากที่ประกบลง วีรพงษ์ตัดสินใจประกบจูบแม่บังเกิดเกล้า เค้าพยายามแทรกลิ้นเข้าไปตามสัญชาติญาณ แต่วัชรีเองก็เม้มปากทันทีเช่นกัน แต่ก็หาทำให้เค้าลดละหรือหมดอารมณ์ วีรพงษ์ยังคงกระเด้าพาลำควยครูดเข้าออกในร่องเป็นจังหวะแล้วค่อย ๆ เพิ่มความเร็วขึ้น
“อื้อ.. อือ.. อือออ” ปากอิ่มค่อย ๆ เผยอออกวีรพงษ์เองก็ไม่ปล่อยโอกาส เค้าแทรกลิ้นเข้าทันควันเหมือนข้าศึกที่กรูเข้าประตูเมือง มือซึ่งสอดเข้าประคองศีรษะรั้งใบหน้าแม่เข้าหา ทั้ง 2 เริ่มแลกน้ำลายกันอย่างดูดดื่ม ปากของแม่ช่างนุ่มเหลือเกินกลิ่นก็หอม ลิ้นที่สัมผัสหากันนั้นก็ช่างอ่อนนุ่มและร้อนแรงวีรพงษ์คิดในใจ
“ซี๊ดดดส์… อ้า” วัชรีเบือนหน้าซู๊ดปากระบายความซ่าน ในร่องซึ่งถูกลำควยลูกชายแทงเข้าออกมันเสียวขมิบรัดเป็นจังหวะโดยบังคับไม่ได้ มันทั้งเสียวทั้งแน่น ด้วยท่าที่ต้องฉีกขาออกขนาดนี้ส่งให้ลำควยแทงเข้าไปลึกจนเสียวสุดขั้ว มือซึ่งอยากโอบกอดเพื่อระบายอารมณ์กลับทำได้แต่เพียงเก็งกำแน่น ความกระสันเหมือนจะรุมเร้าจนไม่มีทางประทุออก
“วี… อ้า… วี.. แม่… ซี๊ดดดดส์” วัชรีใกล้ถึงสวรรค์ มันเป็นหนทางเดียวที่เธอจะปลอกปล่อยความเงี่ยนในอารมณ์ คือ การกระดกก้นรับการกระหน่ำเย็ดที่เริ่มเร็วขึ้นของลูกชาย
“โอ้ว… ซี๊ดดส์… แม่ครับ… ซี๊ดดดดส์… อ้า” ยิ่งวัชรีกระดกรับเท่าไหร่ความเงี่ยนของวีรพงษ์ก็ยิ่งทวีคูณ อิริยาบถของวัชรีมันไม่ต่างอะไรกับได้เย็ดผู้หญิงร่านคนหนึ่ง อารมณ์ของเค้าในตอนนี้กระเจิง เสียงครางของทั้ง 2 ดังลั่น
“ซี๊ดดดดส์… อ้า… ว่ะ.. วี.. แม่… ซี๊ดดดส์… แม่”
“แม่ครับ ผมจะ… ซี๊ดดดส์… แม่ครับ” วีรพงษ์ลดมือทั้ง 2 ลงเข้าบีบเคล้นเต้าอวบอย่างแรง พร้อมเร่งกระเด้าเย็ดโดยไม่สนใจว่าจะเข้าจังหวะกับแม่หรือไม่อีกต่อไป
“โอ้… วี.. วี… วี… โอ้ววววววว์” วัชรีเกร็งไปทั้งร่าง จุดสุดยอดจากลูกชายช่างเสียวซาบซ่านต่างไปจากทุกครั้ง แต่วีรพงษ์ยังคงกระหน่ำซอย มันยิ่งทำให้เธอเสียวไม่หยุด
“แม่…ผมจะเสร็จ… ซี๊ดดดส์.. จะเสร็จแล้ว” วีรพงษ์แบบอวบอวบแน่น และเหมือนวัชรีนึกขึ้นได้
“อย่า!!… วีอย่าปล่อยข้างใน.. ยะ… ซี๊ดดดดดดดดส์… อูวววว์” เสียงห้ามจบลงด้วยอาการผวากับเสียงครางแห่งความเสียว เธอรู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ ฉีดเข้าภายในร่าง มันลึกจนขนลุกไปทั้วตัว
“ฮื่อ… ฮื่อ… ฮื่อ…” วีรพงษ์ซบหน้าลงกับซอกคอด้วยความอ่อนแรง โดยยังมีท่อนควยซึ่งกระตุกเป็นระยะคารูอยู่ เวลาผ่านไปร่วมนาที ไม่มีเสียงใดในความมืดนอกจากเสียงลมหายใน วีรพงษ์เมื่อสำเร็จความใคร่ สติก็กลับมา เค้าไม่กล้าแม้กระทั้งขยับตัว นี่กูทำอะไรลงไป เค้าคิด
“วี” เสียงเย็นเยือกซึ่งดังข้างหู พาให้เค้าสะดุ้งรีบผละออกจากร่างนั้นลงยืนกับพื้นด้วยความละอาย
“แม่… ผม… ผมขอโทษ”
“หยิบกุญแจอันเล็ก ๆ ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งให้แม่หน่อย” วีรพงษ์รีบทำตาม เค้าเดินรี่ไปเปิดไฟหน้ากระจก ดึงลิ้นชักออกหามันอย่างลนลาน เมื่อหาเจอก็หันหลังกลับ แต่ภาพเบื้องหน้าทำให้เค้าชะงัก แสงไฟส่องให้เห็นสาวงามนอนเปลือยกายต่อหน้า หน้าอกอวบอิ่มยอดถันเต่งเป็นเม็ด ปากร่องเสียวมีคราบน้ำเยิ้ม
“ไขให้แม่หน่อย”
“ค่ะ.. ค่ะ.. ครับ” วีรพงษ์สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เค้าเดินพาร่างเปลือยเข้าไปใกล้ เมื่อยิ่งใกล้ดุ้นควยซึ่งหดก็เริ่มมีอาการเหมือนจะขยายตัวขึ้นมาอีก ซึ่งวีรพงษ์เองก็ไม่สามารถบังคับมันได้ เมื่อเค้าไขกุญแจมือก็ได้สัมผัสกับเนื้อเนียน ลำควยเค้าค่อย ๆ กระตุกแข็งขึ้นเป็นจังหวะ วัชรีเมื่อได้เห็นถึงกับหน้าแดง ขนาดมันไม่ต่างจากของไกรศักดิ์ผู้พ่อเลย ทันทีที่มือขวาเป็นอิสระเธอรีบเอี้ยวตัวแก้เชือกที่ข้อมือซ้ายทันที เธอรู้ดีว่าลูกชายกำลังมีอารมณ์ เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอดึงตัวขึ้นนั่ง เชือกผูกข้อเท้าทั้ง 2 ถูกแก้ออกอย่างรวดเร็ว ภาพที่เห็นเต้าอวบทรงงามที่ทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วง พาให้ลำควยวีรพงษ์กระตุกงึก แล้ววัชรีก็ต้องตกใจสุดขีดอีกครั้ง
“แม่ครับ… แม่” วีรพงษ์โถมตัวเข้าโอบกอดร่างเปลือยของแม่พร้อมซุกไซใบหน้าเข้ากับเต้าอวบ
“ไม่นะวี… อย่า” วีรพงษ์ไม่ฟังเสียงปรามแต่อย่างใด เค้าพยายามใช้น้ำหนักตัวที่มากกว่าโน้มร่างวัชรีให้นอนหงาย ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ทันทีที่หลังเธอติดเบาะ วีรพงษ์ก็ใช้ปากประกบดูดยอดถัน มือซ้ายจับข้อมือแม่บังเกิดเกล้าล็อคชูเหนือศีรษะ มือขวาฟ้อนเฟ้นเต้าอวบอย่างหืนกระหาย
“อย่า… วี… หยุดนะ… นี่.. นี่… นี่แม่นะวี” มือซ้ายที่เหลือเป็นอิสระอีกข้างพยายามผลักไสใบหน้าลูกชายให้ห่างจากเต้างามของเธอทั้ง ๆ เมื่อยังเด็กเธอก็ให้เค้าดูดมันด้วยความเต็มใจ
“วี… ยะ.. อย่า” วัชรีซึ่งยังครองสติได้ เมื่อรู้ว่าลูกชายหน้ามืดเต็มทีจึงออกแรงผลักหน้าวีรพงษ์แรงขึ้นพร้อมเบี่ยงตัวไปมา เธอดิ้นจนสุดแรง ในที่สุดก็บิดตัวจนร่างเปลื่อยของเธอนอนคว่ำหน้าหลุดจากโลมเลีย แต่มันกลับไม่ทำให้วีรพงษ์ละความพยายามเลย หากกลับเป็นการกระตุ้นความเงี่ยนให้มากขึ้น เมื่อก้นงอนนุ่มหงายขึ้นแทนที่และเบียดเข้ากับแก่นกายซึ่งแข็งและร้อนผ่าวราวแท่งเหล็กที่ถูกตีใหม่ ๆ
“แม่ครับ… แม่” วีรพงษ์ยังคงดอมดมต้นคอด้านหลังของแม่ เค้าชอนไชเรียวลิ้นแทะเล็มไปถึงใบหูอย่างนุ่มนวล
“อย่าวี… ยะ.. อย่า.. ลูก” เนื่องจากตอนนี้เธอนอนคว่ำ 2 แขนกอดอกบังเต้าไว้ อีกทั้งร่างของลูกชายยังคร่อมตัวเธออยู่ วัชรีจึงไม่สามารถกระทำสิ่งใดได้มากไปกว่าใช้วาจาห้ามปราม
“หอมจังครับแม่… ซี๊ดดดส์” วีรพงษ์พรมจูบไปเรื่อย ๆ พร้อมด้วยท่อนล่างที่เริ่มขยับเอาดุ้นเอ็นถูไถกับง่ามก้นของแม่ เค้าสอดมือขวาเข้ากลางลำตัววัชรีอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เม็ดเสียวของเธอก็ถูกสะกิดด้วยปลายนิ้วลูกชายเสียแล้ว
“ว้าย! วี… ซี๊ดดดส์” วัชรีเลื่อนมือตามลงมา แต่ก็ทำได้แค่เพียงจับมือวีรพงษ์ไว้อีกทอดเท่านั้น
“แม่ครับ… ก้นแม่นุ่มเหลือเกิน… อ้า” วีรพงษ์ครางกระเส่าเบียดลำควยกับง่ามก้นแม่ เค้าเริ่มรู้สึกชุ่มที่ปลายนิ้ว มันอาจเกิดจากน้ำของเค้าที่ค้างอยู่ภายในหรือ อาจเป็นน้ำแห่งความกระสันของแม่ที่เริ่มอดใจไว้ไม่ไหว แต่มันก็ไม่ทำให้เค้าลังเลแต่อย่างใด ลำควยนั้นยังคงดุนง่ามก้นนุ่ม ๆ มันช่างเป็นสัมผัสอันแปลกใหม่กับท่อนเอ็นลำนี้เหลือเกิน
“วี… วี… พอเถอะวี… ซี๊ดดดส์” วัชรีพูดพร้อมอาการเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียวเป็นระยะ มือซึ่งจับมือลูกชายบีบเป็นจังหวะเดียวกับอาการเกร็ง เมื่อโดนปลุกเร้ามากขึ้นร่างกายก็เริ่มตอบสนอง เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำที่เริ่มไหลชโลมนิ้วลูกชายนั้นคือน้ำแห่งความเงี่ยนของเธอเอง
“แม่ครับ… น้ำแม่ออกแล้วครับ… ซี๊ดดดส์… อ้า… แม่เสียวมั้ยครับ” วีรพงษ์พร่ำเสียงกระเส่าข้างหูวัชรี เค้ารู้ว่าแม่เริ่มมีอารมณ์ร่วมแล้ว ถึงไม่มากก็น้อย
“โอ๊ย!… ซี๊ดดดส์… อึ่มมมมม” วีรพงษ์หักข้อนิ้วค่อย ๆ แยงเข้าในรูหีแม่ช้า ๆ เสียงร้องเบา ๆ แต่ตามด้วยเสียงครางกระเส่าแห่งความสุขเล็ดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
“วี.. พอเถอะวี… ซี๊ดดดส์” วัชรีรู้ดีว่าเมื่อครู่เผลอครางอย่างสุขสม เธอยังคงพูดปรามเพื่อหวังว่าจะหลุดจากการกระทำของลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย
“อูววว์… อ้า” วีรพงษ์ไม่ฟัง เค้าแหย่ลิ้นฉ่ำเข้าในรูหู พร้อม ๆ กับกระดิกนิ้วเข้าออกในร่องหีแม่ช้า ๆ จนวัชรีครางดังขึ้น ใบหน้าเอียงขนลุกเกรียวจากเรียวลิ้น เธอซาบซ่านไปทั้งตัว ก้นเธอเริ่มกระดกรับนิ้วอย่างเป็นจังหวะซึ่งก็เท่ากับว่ามันเบียดลำควยเขื่องเป็นการเชื้อเชิญ ความเงี่ยนพาให้ลืมทุกสิ่ง เธอเริ่มคิดในแง่ที่ว่า ให้มันพ้น ๆ ไปเมื่อลูกชายสุขสมอารมณ์หมาย เกมส์ในครั้งนี้ก็จบ ไม่มีเหตุผลที่ต้องมาดิ้นลนทั้งที่รู้ว่าพละกำลังของเธอไม่สามารถดิ้นหลุดจากลูกชายที่บัดนี้หน้ามืดลืมตัวไปได้ จิตฝ่ายต่ำพยายามปรุงแต่งเหตุผลให้เธอไขว้เขว
“แม่… ก้นแม่นุ่มจัง… ซี๊ดดดส์… แม่… แม่ครับ” วีรพงษ์ถอนมือออกจากเนินนูนช้า ๆ แล้วเปลี่ยนมาจับมือของวัชรีแทน เค้าประคองมันลงไปยังพูเนื้อ เกร็งนิ้วกดให้นิ้วของแม่แตะเข้ากับปุ่มกระสันแล้วคลึงเบา ๆ
“ซี๊ดดส์… วี… วีจะทำอะไร… ซี๊ดดดส์”
“แม่ครับ.. แม่ช่วยตัวเองสิครับแม่ แม่ถูมันสิครับแม่” วีรพงษ์ขยี้นิ้ววัชรีให้ทำตาม
“ซี๊ดดส์… โอ้วว์” วัชรีเริ่มปล่อยใจทำตามอย่างว่าง่าย เธอเริ่มบี้เม็ดเสียวตัวเอง วีรพงษ์เห็นเช่นนั้นจึงถอนมือออก เค้ายังคงพรมจูบซอกคอแต่มือที่ถอนออกมานั้นบัดนี้ประคองลำควยเขื่องเหมือนจะทำการใหญ่ เค้าเริ่มกดมันคงกับหว่างขาของแม่
“อ้า… วี” เมื่อรู้สึกได้ถึงหัวบานที่เขี่ยบริเวณปากร่องจากด้านหลัง วัชรีก็ร้อนวูบไปทั้งร่าง ควยของลูกชายกำลังจะเข้าไปกระเด้าเย็ดรูหีเธออีกครั้งหรือ ความรู้สึกผิดชอบในคราแรกหายไปโดยสิ้นเชิง เธอค่อย ๆ ยกก้นให้ลูกชายจับหัวถอกถูไถได้อย่างถนัดถนี่ วีรพงษ์จับปลายหัวเขี่ยบริเวณปากร่องจนฉ่ำเยิ้มไปหมดแต่ไม่ยอมเอาเข้า
“ซี๊ดดส์… วี… วีลูกแม่” กลับกลายเป็นวัชรีที่ถวิลหามัน เธอยกก้นอยู่หลายครั้งเพื่อให้พอดีกับระดับลำควยที่จะแทรกเข้าไป แต่กลับไม่มีวี่แววที่ลูกชายจะดันมันเข้าแต่อย่างใด ภายในร่องหลืบตอนนี้มันร้อนวูบวาบไปหมด น้ำหีเริ่มไหลบ่าเป็นสัญญาณว่ามันพร้อมรับลำควยอย่างเต็มที่แล้ว วีรพงษ์ก็หาแตกต่างกันไม่ เค้าร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ส่วนหัวของลำควยนั้นบานแทบปริ รู้สึกถึงน้ำใส ๆ อุ่น ๆ ปริ่มออกมาไม่ขาด
“วี… อย่าทรมานแม่อีกเลย… วี” ในที่สุดก็เป็นฝ่ายวัชรีที่เริ่มก่อน เธอโหย่งก้นขึ้น สอดมือเข้าจับลำควยลูกชายดึงเข้าหาร่องหีตังเอง ทันทีที่มันจ่อปากรูวีรพงษ์เองก็สุดทน เค้าแทงสวนเข้าไปอย่างไม่กลัวเจ็บ
“อูวววว์… ซี๊ดดดดส์” เสียงครางประสานกันระงม วีรพงษ์ทิ้งน้ำหนักตัวลงให้แม่นอนราบพร้อมกระเด้าให้ท่อนเนื้อแทรกเข้าออกในร่องหีช้า ๆ
“ซี๊ดดส์… ลูกแม่… ซี๊ดส์” วัชรีเอื้อมมือกลับมาบีบขาลูกชายเพื่อระบายความเสียว วีรพงษ์ในท่านี้ถึงแม้ลำเนื้อจะเข้าไม่ลึกแต่ก็เสียวไม่น้อย ทุกดอกที่แทงลงไปร่องหีทั้งดูดทั้งขมิบรับ ก้นนุ่ม ๆ นั้นเกร็งเป็นจังหวะ แต่ถ้าได้กระแทกให้สุดโคนคงจะมันส์ควยมากกว่านี้เป็นแน่ ไวเท่าความคิดเค้ายันตัวขึ้นใช้ 2 มือจับสะโพกยกเบา ๆ วัชรีผู้เป็นแม่ค่อย ๆ ดึงเข่าเข้าหาตัวเปลี่ยนเป็นท่าโก้งโค้งอย่างรู้กัน
“โอ้ววววว” วัชรีครางระงม เมื่อลูกชายจับแก้มก้นเธอแบะออกพร้อมถอนลำควยจนเกือบสุดแล้วแทงมันลงไปใหม่ช้า ๆ จนมิดด้าม มันแทรกเข้าไปลึกจนชนกับมากมดลูกของเธอ แต่ละครั้งที่แทรกเข้าออกนั้นสร้างความเสียวรูหีอย่างสุดยอด
“ของแม่ดีจัง… ซี๊ดดดส์… รูหีแม่รัดควยผมจังครับ… อ้า” ทั้ง ๆ ที่แบะแก้มก้นออกแต่รูสวรรค์กลับไม่คลายความฟิตเลย หนำซ้ำยังทั้งตอดทั้งดูดทำเอาวีรพงษ์สะท้านหัวควยเป็นระยะ เค้าเริ่มกระหน่ำกระแทกเย็ดเร็วขึ้น
“โอ้ว.. วี… วะ.. วี.. ซี๊ดส์.. ล่ะ… ลูกแม่.. ซี๊ดดส์” ด้วยแรงกระแทกนั้นส่งให้สียงครางของวัชรีนั้นฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ทว่าฟังแรกกระตุ้นอารมณ์เงี่ยนยิ่ง
“ไม่ไหวแล้ววี… ซี๊ดดส์… แม่… แม่” วีรพงษ์จับใจความได้ว่าแม่บังเกิดเกล้ากำลังจะขึ้นสวรรค์ แต่แทนที่เค้าจะเร่งให้เสร็จไปพร้อมกัน เค้ากลับก้มโอบเอวแม่คนสวยแล้วดึงเธอขึ้น ขาที่คุกเข้าค่อย ๆ เหยียดสอดผ่านหว่างขาเธอกลายเป็นท่านั่งโดยไม่ยอมให้ท่อนควยหลุดจากร่องให้เสียวอารมณ์ เค้าเอนตัวลงนอนเป็นการวัดใจว่าแม่ต้องการเสพสมกับลำควยเค้าเพียงใด วัชรีซึ่งบัดนี้ไร้ซึ่งพันธนาการใด ๆ นั่งคร่อมแก่นกลางลำตัวลูกชายอยู่ เธอก้มลงจับหน้าขาวีรพงษ์แล้วโหย่งตัวเย็ดต่อโดยไม่ต้องลังเลสิ่งใด ความกระสันที่จะถึงจุดสุดยอดส่งให้เธอไม่สนใจในสายเลือดอีกต่อไป
“อ้า…” ภาพเบื้องหน้าช่างเร้าอารมณ์วีรพงษ์ยิ่งนัก หญิงงามเมื่อครู่ที่พยายามดิ้นหนีกลับกลายเป็นนั่งขย่มเย็ดควยของเค้าอย่างเมามันส์ เค้าเสียวควยเป็นอย่างมากความฟิตที่บีบรัดรูดขึ้นลงตลอดลำควย
“แม่… ซี๊ดดดส์… แม่ครับแม่… ซี๊ดดส์” วีรพงษ์รู้ตัวว่าใกล้จะเสร็จเต็มทน กับร่องหีอันอุ่นโอบนุ่มภายใน น้ำเงี่ยนเค้าเริ่มเคลื่อนจากถุงเก็บขึ้นมาจนรู้สึกได้ แต่ถึงกระนั้นเค้าก็ยังไม่อยากให้มันจบลง 2 มือถูกส่งลงไปจับกดรั้งสะโพกผายให้หยุด
“ฮื่อ… ฮื่อ” เสียงหอบหายใจดังเข้ามาแทนที่เสียงเนื้อกระทบเนื้อ วีรพงษ์เกร็งมือจับแม่บิดตัวเบา ๆ วัรชีก็บิดตาม เธอยกขาข้ามลำตัวลูกชายกลับมา เป็นว่าทั้ง 2 เผชิญหน้ากัน
“แม่… แม่สวยจังครับ” วีรพงษ์พูดพลางดึงแขนแม่ให้โน้มลงมา ประกบอิ้มของแม่บังเกิดเกล้าจูบลงกับลูกโดยไม่ต้องมีใครสั่ง ท่อนล่างนั้นเริ่มขยับอีกครั้งช้า ๆ
“อืมม… อืมมม… อืมม” เสียงครางในลำคอกับความเสียว วัชรีทั้งกระเด้าทั้งบดเป็นวงทำเอาลูกชายกอดเธอไว้แน่น ความเสียวที่ไม่สามารถกระกดไว้ได้อีกต่อไป วีรพงษ์เบือนหน้าจากการจุมพิตอย่างเร่าร้อน
“ไม่ไหว.. แม่ครับ.. ผม… ซี๊ดดส์… ผมจะออกแล้ว… แม่ครับ” วีรพงษ์กดเอววัชรีไว้แน่น
“ไม่นะวี!… อย่าปล่อยข้างใน… วี” วัชรีตกใจในคำพูดของลูกชาย จึงรีบห้ามพร้อมจะยกตัวออก แต่มันช้าไป
“ซี๊ดดดส์… อู้วววว์” วัชรีผวาก้มกอดลูกชายเมื่อรู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ พุ่งเข้าในร่องหี ทั้งดุ้นควยยังกระตุกแรง ทำเอาเธอถึงจุดสุดยอดตามไปอย่างไม่น่าเชื่อ ร่องหีขมิบรับน้ำเงี่ยนทุกหยาดหยดที่พุ่งเข้าไปเป็นระรอก
“ฮือ… ฮือ… ฮือ… ฮือ… ฮือ…” ทุกอย่างเงียบงัน มีเพียงเสียงหอบหายใจของ 2 แม่ลูก”

< -------- >

เวลาผ่านไป ในห้องแห่งความเงียบนั้น มีเพียงแสงจากโต๊ะเครื่องแป้งส่องสว่างเล็กน้อย วีรพงษ์ซึ่งยังลืมตาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นโดยในอ้อมแขนมีแม่บังเกิดเกล้านอนซบแผงอกหลับใหลภายใต้ผ้าห่มอุ่น ด้วยความเมื่อล้า เค้าจึงขยับตัวเล็กน้อย ซึ่งมันก็เพียงพอจะทำให้วัชรีลืมตาเงยหน้าขึ้นมอง ความสุขที่ได้รับทำให้เธอไม่ผวาลุกหนีหรือโดยวายแต่อย่างใด ชายที่เธอกำลังซบเอาไออุ่นหาใช่ชายชู้ที่ไหน หากแต่เป็นลูกในอุทรที่เธอชุบเลี้ยงมาจนเติบใหญ่ วีรพงษ์ลูบปอยผมดำขลับอย่างทะนุถนอม
“ผมขอโทษครับ”
“……….” ไม่มีคำตอบใด ๆ จากวัชรี เธอซบหน้าลงกับแผงอกเค้าตามเดิม
“แม่ไม่ตอบ แสดงว่าแม่โกรธผม”
“แม่ไม่ได้โกรธวีหรอก แม่โกรธตัวเอง แม่โกรธตัวเองที่เผลอใจไปกับลูก”
“แม่ครับ… ผม” วีรพงษ์พูดเสียงอ่อย
“ผมขอโทษ ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่านี้ ผม…”
“ช่างเถอะจ้า ถึงยังไงมันก็เกิดไปแล้ว เอาเป็นว่าเปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นตั้งใจเรียนให้แม่ชื่นใจดีกว่า” วัชรีเงยหน้าขึ้นพูด
“ครับแม่ ผมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน” แววตาอันมุ่งมันและคำพูดอันหนักแน่นของลูกผู้ชาย ทำเอาวัชรีภูมิใจ และคลายความรู้สึกผิดไปได้เหมือนกัน วีรพงษ์ก้มจุมพิตหน้าผากแม่เบา ๆ ด้วยความรัก วัชรีหลับตาพริ้มก่อนจะซบหน้าลงนอน
“อ่อ… แม่ครับตามผมมา” วีรพงษ์ลุกจากเตียงเดินออกนอกห้องไป วัชรีงงเล็กน้อยแต่ก็ลุกหยิบชุดคลุมใส่นอนสีม่วงเข้มผ้าลื่นเป็นเงา แล้วเดินตามออกไป เธอมองซ้ายมองขวาว่าลูกชายไปไหน ก็พบกับประตูห้องวีรพงษ์เปิดอยู่เธอจึงเดินตามเข้าไป ภาพที่เห็นคือลูกชายสุดที่รักกำลังค้นหาบางอย่างในกระเป๋าสตางค์
“เจอแล้วครับ” วีรพงษ์ยื่นยาเม็ดสีขาวให้แม่
“เชี่ยวจริงนะเรา” วัชรีรับมันแล้วเดินไปนั่งลงที่เตียง ขวดน้ำเปล่าซึ่งอยู่บนหัวเตียงถูกหยิบมาเปิดฝาออก
“ไม่หรอกครับ ธรรมดาผมจะใช้ถุงยาง แต่บางทีมันรุนแรงไปหน่อยอะครับ ขาดเลย” วีรพงษ์พูดหน้าทะเล้น
“ยังไงก็อย่ามั่วแล้วกันโรคมันเยอะ” วัชรีพูดพร้อมกับหย่อนเม็ดยาลงคอแล้วดื่มน้ำตาม
“ผมไม่ได้มั่วนะครับแม่ ผมทำกับแฟนผมคนเดียว เอ่อ… ไม่ใช่สิ แฟนผม 2 คน” วีรพงษ์ถือโอกาสเข้าโอบกอดพร้อมหอมแก้มแม่
“แนะ… ลูกคนนี้หนิ แล้วไม่คิดจะใส่เสื้อผ้าหรือไง น่าไม่อาย” วัชรีตีแขนลูกชายเบา ๆ
“แหะ ๆ ลืมไปเลย” ขณะที่หยิบกางเกงมาใส่นั้น สายตาก็พลันมองไปที่คอมพิวเตอร์
“ใช่… แม่กำลังค้นหาอะไรเหรอครับ มาเดี๋ยวผมช่วย” วีรพงษ์พูดพลางเปิดคอมพิวเตอร์
“เอ่อ… เอ่อ…” วัชรีทำท่าอ้ำอึ้ง เธอคุ่นคิดถึงภาพสามีกำลังเสพสมกับลูกสาวตัวเอง มันช่างน่าละอาย แต่แล้วเธอกลับชะงัก เพราะเมื่อครู่เธอเองก็เป็นฝ่ายผิดต่อสามีเช่นกัน
“มีอะไรเหรอครับแม่ เหม่อเชียว”
“อ่อ… ปะ..ป่าวจ่ะ… เฮ่อ! ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มา แม่จะเล่าให้พัง” วัชรีเริ่มเล่าโดยมีลูกชายนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ซึ่งห่างไปไม่ถึงวา

< -------- >

แม่คนสวยนั่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยไม่ปิดบังตั้งแต่ต้นกระทั้งถึงวิธีเรียกซาตานจนทำให้เธอต้องมาตกเป็นของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง แต่… ไม่อยากจะเชื่อนี่มันเรื่องจริงเหรอครับเนี่ย” เมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมด วีรพงษ์ถึงกับขนลุก แต่ในใจเค้าก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับรู้ว่า พ่อของเค้ามีสัมพันธ์สวาทกับลูกสาวในไส้หรืออีกนัยหนึ่งคือน้องสาวซึ่งเกิดคลานตามกันมากับเค้า
“แม่บอกว่าเค้าชื่ออานนท์ใช่มั้ยครับ”
“ใช่จ้า… อานนท์ ชื่อนี้แม่จำได้ขึ้นใจ แต่ข้อมูลในอินเตอร์เนต คำว่าอานนท์มีอยู่ 2 หมื่นกว่ารายการ แม่คงหาไม่เจอแน่”
“แม่ลืมอะไรไปรึป่าวครับ แม่บอกว่าอานนท์ร้องไห้แล้วเรียกหาน้ำทิพย์ไม่ใช่เหรอครับ” วีรพงษ์พูดพลางเคาะแป้นคีย์บอร์ดเพื่อป้อนข้อมูล
“ใช่… จริงด้วย แม่ลืมไปซะสนิท”
“นี่ไงครับ… เจอแล้ว… โศกนาฏกรรมความรักต้องห้าม” วัชรีรีบลุกขึ้นยืนหลังเก้าอี้ซึ่งวีรพงษ์นั่งอยู่ เธอก้มตัวลงอ่านข้อความบนหน้าจออย่างสนใจ
“หอมจังครับแม่” วีรพงษ์เบียดใบหน้าเข้ากับเต้าอวบที่โน้มลงมาหา
“อย่าเพิ่งเล่นสิวี” เสียงดุถึงแม้จะไม่แข็งแต่ก็ไม่นุ่ม
“ครับ” วีรพงษ์รับฟังพร้อมทำตามอย่างว่าง่าย เค้าและเธออ่านมันไปจนจบ จึงได้รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพ่อลูกอานนท์นั้นรันทดเพียงใด
“พวกเค้าน่าสงสารจังครับแม่… แล้วเราจะเป็นอย่างครอบครัวอานนท์รึป่าวครับ” เสียงซึ่งเคยหยอกล้อเมื่อครู่กลับกลายเป็นเศร้า วัชรีเองก็รู้สึกสะเทือนใจเช่นกัน เธอนั่งลงคุกเข่าลงข้างลูกชาย
“มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมรับหรอกจ้าวี ไม่มีสังคมไหนรับได้กับเรื่องแบบนี้ เราต้องยอมรับว่าเรา 2 คนก็ผิด” วัชรีพูดไปพลางลูบศีรษะลูกชายไป
“แต่เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนไม่ใช่เหรอครับแม่ ผมมีความสุข หรือว่าแม่ไม่มีความสุขครับ”
“มีจ้า…”
“งั้นเรื่องนี้จะเป็นความลับภายในบ้าน ผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบอานนท์ขึ้นกับพวกเราเด็ดขาด” วีรพงษ์รีบตัดบท เค้ามองแม่ด้วยสายตาเว้าวอน
“อื่มม… งั้นก็ได้” วัชรีมองหน้าลูกชาย ในโสดประสาทคิดเล็กน้อย แต่ก็ตอบตกลง
“ผมรักแม่ที่สุดในโลกเลย” วีรพงษ์หอมแก้มแล้วก้มลงสวมกอด
“เดี๋ยววี แม่รู้สึกผิดต่อพ่อของลูก เรื่องนี้ก็ให้พ่อเค้ารู้ไม่ได้นะจ๊ะ” วัชรีผละลูกชายออกเบา ๆ
“ครับแม่”
“งั้น… ลูกนอนได้แล้ว”
“ไม่เอา ผมจะนอนกับแม่ครับ” วีรพงษ์ทำท่าอ้อน
“ไม่ได้จ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อเค้าก็กลับมาแล้ว อย่าดื้อสิ” วัชรีหอมไปที่แก้มลูกชายฟอดใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังประตู
“ก็ได้ครับ หลับฝันดีนะครับแม่”
“จ้าลูกรัก แล้วอย่าลืมสัญญาล่ะ”
“ครับ ผมจะตั้งใจเรียน”แม่คนสวยหันหลังกลับมารับคำก่อนจะปิดประตู ด้านวีรพงษ์นั้นยังคงมองเหม่ออมยิ้มด้วยความอิ่มเอมในใจ