Home Post 3444-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-12-%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%8d%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b8%a2-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b9%83%e0%b8%ab

3444-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-12-%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%8d%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b8%a2-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b9%83%e0%b8%ab

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่ออ่านเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบในเรื่องแนวนี้ ชื่อตัวละครถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้นมิได้มีตัวตนอยู่จริง กรุณาอย่านำไปโพสต์ต่อข้างนอก อันนี้ไม่ได้หวงแต่เพราะผมไม่อยากให้ผู้ที่ไม่ได้มีความชื่นชอบตรงกันขุดโคตรผู้แต่งนั่นก็คือผมขึ้นมาด่า และผมหวังว่าจะใช้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้ต้องการให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด ขอบคุณครับ…jam

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ไม่เหมือนอาทิตย์ไหน ๆ ผมตื่นขึ้นพร้อมกับความกังวลเล็ก ๆ นี่ผมต้องบอกเรื่องทุกอย่างกับคุณพ่อจริง ๆ เหรอ แล้วมันจะเป็นอย่างที่พี่พิมบอกรึเปล่า มันจะง่ายเหมือนในความฝันไม๊นะ ผมเดินเหม่อออกจากห้องคุ่นคิดไปตามทาง
“อ้าวกล้า เป็นอะไรเดินเหม่อเชียว คิดถึงเรื่องนั้นเหรอ”
“ครับพี่พิม พ่อจะไม่ว่าผมจริง ๆ นะ”
“เชื่อพี่สาวคนนี้เถอะ ยังไงกล้าก็ผัวพี่เหมือนกัน พี่ไม่หลอกเธอหรอกน่า” เธอกระซิบเสียงกระเส่าจนผมขนลุกไปเหมือนกันเมื่อได้ยิน พอเราเดินถึงบันใดมองลงไปก็เห็นพ่อในชุดสูทกำลังจะเดินออกจากบ้านพร้อมแม่นก ผมก็งง ๆ เพราะวันอาทิตย์พ่อไม่มีทำงาน
“พ่อครับรอเดี๋ยวอย่าพึ่งไป ผมมีเรื่องจะคุยด้วยครับ” ผมตะโกนรีบวิ่งลงไป เมื่อประจันหน้ากัน แม่นกดูเหมือนไม่สนใจผม แต่ผมนี่สิคิดถึงความฝันขึ้นมาอีก แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก
“เอาไว้ตอนเย็นนะ พ่อมีประชุม สำคัญมาก เอ้า… ทรง เอารถออกเร็ว” ฟังน้ำเสียงพ่อสั่งน้าทรงคนขับรถดูเหมือนท่านจะรีบมาก ผมยืนมองจนรถแล่นผ่านประตูรั้วไปด้วยความรู้สึกแปลก ๆ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“อุ้ย!!!”
“ยืนเหม่ออีกแล้ว เป็นไง” แค่พี่พิมแตะผมเบา ๆ กลับทำให้ผมสะดุ้ง
“ยังไม่ได้บอกเลยครับ พ่อบอกมีประชุม จะคุยอะไรไว้ตอนเย็น”
“งั้นก็ว่างน่ะสิ มานี่เลยพ่อตัวดี” พี่พิมขยิบตาคว้าข้อมือจะดึงผมไปเล่นผีถ้าห่ม
“ไว้ก่อนนะพี่ ผมรู้สึกยังไงไม่รู้ มันแปลก ๆ”
“ใช่สิ ได้พี่แล้วจะทิ้งใช่ไม๊” พี่พิมกอดอกทำท่างอนแก้มป่อง
“ไม่ใช่อย่างนั้นเอาไว้คืนนี้แล้วกันนะครับ… ที่รัก” ผมหอมแก้มเธอทีนึงมัดจำไว้
“ก็ได้” เธอเดินอารมณ์ดีไปนั่งกับน้อง ๆ และแม่ ภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นก็ได้เห็น ห้องรับแขกที่อบอวนไปด้วยความสุข เต็มได้ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนในบ้าน ที่ไม่ต้องแบ่งพักแบ่งฝ่าย ผมมองไปที่ห้องกินข้าว ไอ้เทพนั่งกินผลไม้อยู่คนเดียว ผมจึงหยิบเบียร์กระป๋องในตู้เย็นแล้วไปนั่งคุยกับมัน
“เบียร์แต่เช้าเลยนะ ว่าแต่… กวาดครบแล้วสิพี่” คำแรกที่มันพูดกับผมช่างกวนบาทาซะเหลือเกิน
“ทำไมมึงถามอย่างนี้วะ”
“ก็เห็นหอมแก้มพี่พิมอยู่แหมบ ๆ แล้วดูดิ มันเป็นไปได้ที่ไหนที่สาว ๆ พวกนั้นจะคุยกันกระหนุงกระหนิงได้แบบนั้น”
“เออ… ครบก็ครบ ว่าแต่มึงไม่ว่ากูนะ”
“ผมบอกแล้วว่ามันเรื่องของพี่ ถึงพี่พิม พี่แพร พี่พลอย จะเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของผม แต่ถ้าเค้ายอมผมจะไปว่าอะไร แล้วแบบนี้มันก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงทะเลาะกัน”
“แล้วของมึงล่ะ เป็นไงบ้างวะ”
“ก็ดีพี่มันไม่งอแงไม่ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แต่รู้สึกว่า แมวมันจะท้องว่ะ”
“อ้าว!!! แล้วมึงทำไงวะ”
“ก็ไม่ทำไง เดี๋ยวบอกพ่อก็สิ้นเรื่อง เด็กคนเดียวทำไมจะเลี้ยงไม่ได้” ผมฟังไอ้เทพพูดทำให้หวนนึกถึงตัวเอง ความกล้าที่จะพูดที่จะทำอะไร ผมสู้มันไม่ได้จริง ๆ ถ้าผมเป็นมันความคิดแรกคือเอาเด็กออกแน่ ๆ เฮ่อ!! เย็นนี้ผมจะเริ่มต้นพูดกับพ่อยังไง คิดแล้วก็กลุ้มต้องหยิบเบียร์ขึ้นซด ผมคุยสัพเพเหระกับไอ้เทพเกือบ 20 นาที จู่ ๆ ผมก็สำลักพ่นเบียร์ออกมาเป็นสายเลอะไปหมด
“เป็นไรพี่”
“เปล่า… ไม่รู้” แล้วทุกคนก็ต้องตะลึง
“คุณผู้หญิง… คุณผู้หญิง” น้าทรงวิ่งหน้าตั้ง เป็นครั้งแรกที่แกเข้ามาบนเรือนหลังใหญ่ หัวแกแตกเลือดอาบหน้า เสื้อที่โชกไปด้วยเลือดแดงฉานแต่ดูแล้วมันไม่ใช่เลือดแก
“เป็นอะไรน้าทรง พ่อกับแม่นกล่ะ” ผมถามด้วยความร้อนใจ ทุกคนกรูเข้ามาถามด้วยความตื่นตระหนกกับภาพที่เห็น น้าทรงพูดจาไม่ได้สรรพ จับใจความได้อย่างเดียวว่าอยู่โรงพยาบาลชื่ออะไร เพียงเท่านั้นผมกับไอ้เทพก็วิ่งออกจากบ้านทันที
“พี่กล้าไปรถผม” เพราะรถมันแรงกว่า พอผมถึงโรงพยาบาลก็เหมือนคนบ้าวิ่งเข้าหาเคาน์เตอร์ถามชื่อพ่อผมทันที ทุกคนมองผมเป็นตาเดียว เพราะความตกใจและรีบจึงออกมาทั้ง ๆ ที่อยู่ในชุดกางเกงบาสตัวเดียว แต่ผมไม่สนใจสายตาใคร พอรู้ว่าอยู่ ICU ก็รีบวิ่งตรงดิ่งไปทันที แต่เข้าไปไม่ได้ ผมนั่งอยู่หน้าห้องประมาณ 10 นาที แม่กับทุกคนก็มารวมทั้งน้าทรงที่มาทำแผลด้วย ไม่นานหมอที่อยู่ในห้องก็เปิดประตูเดินออกมา
“ใครชื่อไตรเทพครับ ผู้ป่วยต้องการพบ” ผมรีบวิ่งเข้าไป
“พ่อ!!!” ภาพที่เห็นทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ สายที่ละโยงละยางไปทั่ว รอบคอถูกใส่ด้วยเฝือก
“เข้ามาใกล้ ๆ สิกล้า” เสียงที่เบาแทบไม่ได้ยินเรียกให้ผมเดินเข้าไป
“ครับพ่อ” ผมก้มลงพูดกับท่านในสภาพน้ำตานองหน้า ไม่เหลือเค้าโครงความเป็นลูกผู้ชายที่เข้มแข็งอยู่เลย พ่อยกมือลูบที่หน้าผมด้วยความเอ็นดู แววตาที่ยังอบอุ่นอยู่เสมอยิ่งทำให้น้ำตาผมไหล
“อย่าร้องไห้… ดูแลคนในบ้านด้วยนะ พ่อรู้ว่าลูกทำได้” สิ้นเสียง เปลือกตาท่านก็หลับลงช้า ๆ เส้นที่แสดงการเต้นของชีพจรขีดเป็นเส้นตรง ผมคิดในใจไม่ใช่… นี่ไม่ใช่ในหนัง พ่อต้องไม่ตาย
“พ่อ… พ่อตื่นสิพ่อ…. พ่อ!!!!!!!!!!” ผมกำมือท่านแน่น แหกปากลั่นห้องจนหมอต้องเข้ามาเอาตัวผมออกไป และในที่สุดเราก็ได้รับรู้ความจริงว่าเกินอะไรขึ้น ระหว่างที่น้าทรงขับรถอยู่นั้น มีพวกขับรถแข่งกันผ่าไฟแดงเข้ากระแทกด้านซ้ายของรถอย่างจัง แม่นกซึ่งนั่งด้านหลังทางซ้ายคอหักสิ้นใจทันที น้าทรงคาดเข็มขัดจึงแค่หัวแตก ส่วนคุณพ่อนั่งหลังคนขับ ถูกร่างแม่นกกระเด็นมากระแทกอัดกับประตู หัวท่านกระแทกกระจกอย่างแรงเลือดคลั่งในสมองกระดูกคอเคลื่อน และซี่โครงหักมีเลือดออกในช่องท้อง หมอบอกว่าแปลกมากที่ยังทนพิษบาดแผลจนมาคุยกับผมได้

ประมาณครึ่งชั่งโมงแห่งความโศกเศร้าของทุกคน ไม่รู้เลยว่าเราจะดำเนินชีวิตกันอย่างไร จับต้นชนปลายไม่ถูก จู่ ๆ ก็มีชายคนนึงเดินเข้ามา ซึ่งก็ดูคุ้น ๆ หน้าอยู่บ้าง
“ผมเป็นทนายของคุณสิทธิพงศ์ครับ ขอเชิญทุกคนกลับไปรอที่บ้านก่อนทางนี้ผมจะจัดการให้เอง” พวกเราค่อนข้างงง แต่น้าทรงบอกว่าพอรถชนพ่อก็บอกให้โทรหาทนายทันที เราจึงกลับบ้าน บรรยากาศอึมครึมต่างกับตอนเช้าลิบลับ ประมาณ 4 โมงเย็น ทนายของคุณพ่อก็เข้ามาที่บ้าน
“ขอโทษครับ นี่เป็นประสงค์ของคุณสิทธิพงศ์ที่ให้ดำเนินการทันทีที่เกิดอะไรขึ้นกับท่าน” เค้าวางกระเป๋า เปิดมันออกหยิบเอกสารออกมา ภายในบอกไว้ทุกอย่างและยังมีรายมือที่พ่อคุณเขียนไว้ด้วยว่าถ้าท่านเป็นอะไรไปให้ฌาปนกิจที่วัดไหน
“คุณสิทธิพงศ์ มีความประสงค์ให้แบ่งทรัพย์มรดก ดังนี้ บ้าน 1 หลังราคาประเมิน 15 ล้านเป็นของนายไตรเทพ ส่วนทรัพย์สินอื่นทั้งสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ ให้แบ่งเท่า ๆ กัน หากผู้ใดที่มีรายชื่อแต่ถึงแก่กรรมให้จัดสรรเพิ่มให้คนอื่นตามส่วน ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดมีราคาประเมิน 103 ล้านบาท รายชื่อมีดังต่อไปนี้” ทนายของคุณพ่อพูดไปเรื่อย โดยไม่ค่อยมีใครสนใจฟังเพราะยังเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทุกคนก็ชะงักพร้อมกัน เมื่อยังมีชื่อต่อจากเด็กหญิงหยดน้ำฟ้า ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้าย
“คนสุดท้ายธิดาซึ่งเกิดกับนางสาวมาเรีย นางสาวมิชเชล เกิดเมื่อวันที่…” พอแม่ได้ยินน้ำตาก็ร่วงเป็นหยด เธอคงนึกไม่ถึงว่าพ่อจะยังมีคนอื่นอีก ซึ่งฟังจากปีเกิดของมิชเชลแล้วอ่อนกว่าพี่พิม 1 ปี คืออายุ 20 เท่ากับว่าแม่ผมเป็นคนที่ 3 ของพ่อด้วยซ้ำไป
“ที่ผมจะพูดคงมีเท่านี้ครับ แล้วผมจะรีบจัดการเรื่องอื่น ๆ โดยเร็ว ผมขอตัวก่อนครับ” เมื่อทนายผ่านพ้นประตูบ้านออกไปแม่โผเข้ากอดผม ร้องไห้ปานจะขาดใจทันที จนผมต้องปลอบอยู่พักใหญ่ ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยจริง ๆ ตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าครอบครัวไปแล้วทั้งจากพินัยกรรม และคำสั่งเสียของคุณพ่อก่อนท่านจะสิ้นลม ผมบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง แต่ก็ไม่วายน้ำตาไหลริน

งานศพของคุณพ่อและแม่นกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เครือญาติต่างพากันมาเคารพศพแสดงความเสียใจ มีบรรดาผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจมากันมากมาย ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าคุณพ่อเป็นเหมือนผู้ยิ่งใหญ่
“เสียใจด้วยนะกล้า” ถ้าผมจำไม่ผิดนี่คือคุณลุงประยุทธ์เพื่อนของคุณพ่อที่ผมเคยเจอในงานวันรวม
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พูดเสียงเศร้า
“สวัสดีค่ะ” เสียงหวาน ๆ ดังออกมาจากด้านหลังคุณลุง น้องมุกเผยตัวออกมายกมือไหว้ผม เธอยังคงน่ารักไม่เปลี่ยนแปลง
“สวัสดีจ้า มาครับเดี๋ยวผมจะพาไปจุดธูป” พี่พิมกับพี่แพรนั่งอยู่หน้าศพจุดธูปให้กับทั้ง 2 คน
“ใครชื่อไตรเทพ” ผมหันกลับไปตามเสียงก็พบ หญิงชุดดำใส่แว่นตากันแดดดูมีอายุ ข้าง ๆ เธอมีหญิงสาวอีกคน ถึงจะใส่ชุดดำแต่ก็ออกไปทางเปรี้ยว ๆ ทั้งคู่หน้าตากระเดียดไปทางชาวต่างชาติ หรือว่า…
“ชั้นชื่อมาเรีย ใครชื่อไตรเทพ” เสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้เมื่อเธอมองไปที่รูปของคุณพ่อ
“ผมครับ” เธอเดินเข้ามาแตะแขนผมเบา ๆ แล้วเดินไปที่พี่พิม เธอถอดแว่นออกดวงตาแดงก่ำไม่แพ้แม่ผมและทุกคนในบ้าน เธอรับธูปแล้วไหว้อยู่นานเหมือนกำลังคุยกับคุณพ่อ ปักธูปเสร็จเธอก็หันมา
“มาไหว้พ่อสิ” แต่เธอไม่ได้มองทางผม
“เร็วเข้ามินต์” หญิงสาวอีกคนเดินเข้าไปรับธูปไหว้พ่อผมแบบไม่ค่อยเต็มใจ ไม่ผิดแน่นี่คือมินต์หรือมิชเชลพี่สาวผมอีกคนที่เอ่ยถึงในพินัยกรรม ผมพาทั้งคู่เดินไปหาคุณแม่
“แม่ครับนี่คุณมาเรีย” แม่ยกมือขึ้นไหว้เธอก่อน ซึ่งคุณมาเรียก็รับไหว้ แต่หญิงสาวที่อยู่เคียงข้างไม่ออกอาการใด ๆ จะยกมือไหว้แม่ผมก็ไม่มี
“คงรู้เรื่องพินัยกรรมแล้วใช่ไม๊ จริง ๆ แล้วชั้นก็ไม่ได้ต้องการอะไร เพียงแต่คงลำบากถ้าชั้นจะต้องเลี้ยงมินต์โดยลำพัง”
“ค่ะ ดิฉันเข้าใจ”
“ชั้นอยากจะให้มินต์เข้าไปอยู่ในบ้านคุณพงศ์ด้วยคน ในฐานะที่เธอก็เป็นลูกคนนึงของคุณพงศ์เหมือนกัน”
“แล้วคุณล่ะคะ”
“ไม่ล่ะ… ชั้นจะกลับประเทศซักพัก ชั้นคงทำใจไม่ได้ที่จะต้องอยู่ในประเทศนี้ ประเทศที่คนรักของชั้นเพิ่งจากไป” เธอพูดน้ำตารินรอดแว่นออกมา แม่ผมก็เริ่มตาแดงขึ้นมาเช่นกัน
“ค่ะ ดิฉันจะดูแลลูกคุณพงศ์เป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วงค่ะ”
“อีกประมาณอาทิตย์ ชั้นจะให้มินต์ย้ายเข้าไปนะคะ” คุณมาเรียไหว้แม่ผม โดยมีผมและแม่รับไหว้ตอบ หญิงสาวข้างคุณมาเรียยังคงยืนนิ่ง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ พ่อเธอเสียทั้งคนแต่สีหน้าและแววตาเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น

ครึ่งเดือนหลังจากเสร็จสิ้นงานศพคุณพ่อกับแม่นก บ้านเราก็ได้รับสมาชิกใหม่ วันนั้นวันเสาร์มีแทกซี่บีบแตรหน้าประตู เมื่อรถเข้าจอดเทียบหน้าบ้าน มีผมกับแม่และพี่แพรออกมาต้อนรับ คุณมาเรียลงมาในชุดดำ หน้าตายังคงแสดงความโศกเศร้า ส่วนหญิงสาวที่ชื่อมินต์ ใบหน้ายังคงเฉยชาแต่ต้องยอมรับว่าเธอสวยมากพอ ๆ กับพี่พิมเลยแต่สวยคนละแบบ มินต์ขาวหน้าตาออกฝรั่งริมฝีปากอิ่มสีแดงอมส้ม ตากลมผมสีน้ำตาลอ่อนคาดด้วยที่คาดผมสีดำ เธอใส่เสื้อยืดตัวเล็กรัดรูปสีเขียวอ่อนนมต้มดันออกมาเป็นลูก กางเกงผ้าขาสั้นสีขาวรัดจนเห็นเนินนูนเป็นกลีบ ปลีน่องขาวเนียน นี่เธอลืมไปรึเปล่าว่าพ่อเธอเพิ่งเสียไม่ถึงเดือน
“สวัสดีค่ะ” คุณมาเรียไหว้ทักทายกับแม่ผม ก่อนจะเรียกคนขับรถช่วยกันขนของลง มันเยอะมาก
“ฝากด้วยนะค่ะ”
“ค่ะไม่ต้องเป็นห่วง”
“นี่มินต์ค่ะ ไหว้คุณแม่สิ” คุณมาเรียแนะนำมินต์ให้พวกเรารู้จัก เธอยกมือไหว้แม่ผมแบบขอไปที
“แพร… กล้า… ไหว้พี่มินต์เค้ารึยัง” ผมกับพี่แพรยกมือไหว้ทักทายเธอ แต่เธอไม่รับไหว้พวกผมด้วยซ้ำ สายตาพี่แพร ปะทะกับพี่มินต์ ให้ตายเถอะ บ้านผมจะกลับมาเกิดสงครามอีกครั้งใช่ไม๊เนี่ย
“เชิญเข้ามานั่งทานน้ำในบ้านก่อนสิค่ะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ชั้นขอตัวกลับเลย สวัสดีค่ะ” คุณมาเรียขึ้นแทกซี่กลับ เหลือไว้เพียงหญิงสาวลูกครึ่งท่าทางจะเฮี้ยวกว่าพี่แพรเมื่อก่อนเสียอีก
“ช่วยพี่เค้ายกขึ้นห้องสิจ้ะ แพร… กล้า” ห้องที่พี่มินต์จะเข้าอยู่คือห้องเก่าผม เพราะผมย้ายมานอนห้องคุณพ่อ

เกือบเดือน บ้านเราดำเนินชีวิตกับไปตามปกติความโศกเศร้าเริ่มจางหายแต่ก็ยังมีให้คิดเป็นบางครั้งเมื่อเคยเห็นสิ่งที่คุณพ่อหรือแม่นกเคยทำเคยใช้ หลังจากวันที่เกิดอุบัติเหตุบ้านเราไม่ได้ไปสปอร์ตคลับกันอย่างที่เคย หรือแม้แต่กิจกรรมทางเพศก็ไม่มี ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อผมไม่ได้ชักว่าเลยด้วยซ้ำ พี่มินต์ดูจะไม่แยแสอะไร เธอทำตัวเหมือนอยู่โรงแรม ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้าน ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่เธอพาเพื่อนผู้ชายเข้ามาในบ้านถึง 2 คนแล้ว พอมาก็ขึ้นห้องตกเย็นก็กลับ จนผมรู้สึกว่าเธอเป็นลูกพ่อผมจริงรึเปล่า แล้วนี่เธอเห็นบ้านผมเป็นอะไร อีกอย่างเวลาเธออยู่บ้านจะแต่งตัวไม่เกรงใจใครบางทีใส่สายเดี่ยวโนบราเดินในบ้านก็มี เธอคงเห็นว่ามีผู้ชายอยู่แค่ 2 คนก็เป็นได้ ขนาดไอ้เทพที่ว่าไม่ค่อยยุ่งเรื่องของใครยังพูดกับผมเลย มันว่าถ้าไม่ติดว่าพี่มินต์เป็นพี่มัน มันจะจับเย็ดให้ขาถ่างไปเลย บางทีมันยุผมให้ทำแทนด้วยซ้ำ

ในที่สุดผมก็เหลืออดกับพฤติกรรมเธอจนได้ วันนั้นเป็นวันศุกร์ ด้วยความที่ถูกปลดจากเป็นนักกีฬาแล้วจึงกลับบ้านเร็ว เมื่อขับรถเข้าบ้านก็เห็นรถเก๋งโตโยต้าจอดอยู่ที่จอดรถของผม ทำให้ต้องไปจอดเกือบเรือนหลังน้อย เพียงแค่ย่างกายเข้าภายในบ้านก็พลันได้ยินเสียง จ๊วบจ๊าบดังมาจากห้องรับแขก ไอ้เทพตัวแสบแหง ๆ แต่เปล่าเลย
“เฮ่ย!!” พี่มินต์กับผู้ชายคนนั้นหยุดบดปากกันหันมามองด้วยหางตา แล้วเข้าจูบกันต่อแบบไม่เห็นหัวผม ถ้าผมจำไม่ผิดไอ้คนนี้ผมไม่เคยเห็นหน้า
“ไม่ได้ยินหรือไง” ผมทำเสียงแข็งเดินเข้าไปหา นี่มันบ้านคุณพ่อผมที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงไม่ใช่โรงแรม
“นี่มันเรื่องของชั้น” พี่มินต์ยืนขึ้นเสื้อสายเดี่ยว สายด้านซ้ายหลุดลงมาอยู่ที่แขน หัวนมเบียดเสื้อสีขาวออกมาเป็นเม็ด นมเธอใหญ่มากดันจนชายเสื้อลอยไม่ติดกับเอวที่คอกกิ่ว จากที่เคยมองว่าขนาดคงพอ ๆ กับของพี่พิมแต่ตอนนี้ผมว่ามันใหญ่กว่าแน่นอน กางเกงขาสั้นขอบขาบานกระดุมถูกปลดออก ซิปไหลลงมาเกินครึ่งเผยให้เห็นชั้นในสีครีม ถ้าผมไม่เข้ามาทั้งคู่คงเย็ดกันเย้ยวิญาณคุณพ่อกับแม่นกเป็นแน่ ผู้ชายคนนั้นยืนขึ้นชี้หน้าผม
“ไอ้หนู มึง…”
“ไอ้เหี้ย!! มึงออกจากบ้านกูไปเลย” ผมสอยเข้าเต็มกรามเซไปนั่งลงบนโซฟาเดี่ยว มันลุกขึ้นปรี่เงื้อกำบั้นเข้ามา
“ไอ้หน้าเหี้ย!!! กูบอกให้ออกจากบ้านกูไปไงไอ้สัตว์” ผมถีบสวนเข้าเต็มยอดอก มันกระเด็นลงไปกองกับพื้น
“แม่ง! ยังไม่ไปอีก” ผมวิ่งเข้าไปหมายจะซ้ำ แต่มันลุกรีบวิ่งออกจากบ้าน ผมควักกุญแจรีโหมดเดินไปหน้าบ้าน กดเปิดประตู
“ไอ้สัตว์! อย่าให้กูเห็นหน้าอีกนะ” เสียงแหกปากตะโกนไล่หลังไป ผมหันหลังกลับเดินไปที่พี่มินต์
“ไอ้กล้า!! แกมีสิทธิ์อะไรมาทำเพื่อนชั้น” พี่มินต์ชี้หน้าผม
“เพื่อนเหรอ… นั่งดูดปากอย่านี้ เรียกเพื่อนเหรอ”
“แล้วแกเสือกอะไรด้วย… เรื่องของชั้น ชั้นจะมีอะไรกับใครมันก็เรื่องของชั้น… พ่อแม่ไม่สั่งสอน”
“อีดอก!!! ด่าพ่อเหรอ อีนี่ร่านนักใช่ไม๊มึง ขอกูเย็ดซักทีเถอะวะ” ผมของขึ้นทันทีที่มาด่าคุณพ่อ เดินจังก้าเข้าหา แก้เข็มขัดออกกะจะเย็ดให้หายร่าน เห็นบ้านผมเป็นอะไร
“ไอ้บ้า! แกจะทำอะไร” พี่มินต์วิ่งหนี แต่ผมคว้าข้อมือเธอไว้
“จะเย็ดมึงน่ะสิ” ผมดึงพี่มินต์หงายท้องลงบนโซฟายาว โถมตัวขึ้นคร่อมระดมจูบไซ้ไปทั่วซอกคอ กลิ่นกายพี่มินต์หอมเร้าอารมณ์มาก
“ออกไป… ไอ้เหี้ยกล้า… ออกปายยยย” พี่มินต์ทั้งทุบทั้งจิกหัวผม
“อีสัตว์เอ้ย!! ทีกูล่ะทำสะดิ้ง” ผมล่ะจากการจูบไซ้ มือซ้ายค้ำคอ มือขวาจับเสื้อเธอกระชากขาดติดมือ ผมรู้สึกตัวเองป่าเถื่อนเอามาก ๆ แต่มันก็สาสมกับการกระทำของเธอ
“ว้าย!!!!!!” เต้านมขนาดมโหฬารเด้งกระเพื่อม มองดูยังไงก็ไม่ต่ำกว่า 36 แน่นอน หัวนมสีน้ำตาลอ่อนชี้ชูชันท้าทาย 2 มือหยาบของผมบีบเคล้นอย่างเมามันส์ก้มลงดูดเลียทั้งซ้ายขวา
“ไอ้บ้า… ไอ้เหี้ย… แกออกไปนะ” ผมดูดเน้นหนักขึ้น สลับกระดกปลายลิ้นเลียเบา ๆ ที่ยอดถัน เธอยังทั้งทุบทั้งข่วน ท่าทางเธอจะไม่ยอมจริง ๆ
“แพร… ช่วยพี่ด้วย แพร” ผมแหงะดูเห็นพี่แพรมายืนอยู่ด้านหน้าเมื่อไหร่ไม่รู้ ลืมไปวันนี้เธอไม่มีเรียน พี่มินต์ยื่นไม้ยื่นมือร้องขอให้เธอช่วย ตายห่าแล้วไง! พี่แพรเป็นคนที่หวงผมที่สุด เธอต้องเดินเข้ามาตบผมแน่ ๆ เธอยื่นมือมาจับมือพี่มินต์ที่กำลังไขว่คว้าหาอิสรภาพ
“มาพี่มินต์… เดี๋ยวแพรช่วย”
“แกจะทำอะไรชั้น… อีแพรปล่อย”
“ก็จะช่วยให้พี่เสียวไง… พี่มินต์” ผิดคาด… พี่แพรจับข้อมือทั้ง 2 ข้างของพี่มินต์มัดด้วยเข็มขัดของผมที่ถอดกองอยู่กับพื้น แล้วจับไว้ไม่ให้ทุบตีผม เธอคงสะใจในสิ่งที่ผมทำ เพราะเธอไม่ถูกชะตากับพี่มินต์ตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว ผมยันตัวขึ้นมองเต้าอวบเบียดเข้าหากันโดยอัตโนมัติเมื่อแขนทั้ง 2 ข้างยกชูเหนือหัว
“พี่มินต์ นมพี่ใหญ่ดีว่ะ พี่ให้ไอ้พวกเหี้ยมันบีบมากี่คนแล้วล่ะ” พูดพลางคลึงมันเล่น ใช้นิ้วสะกิดหัวนมเบา ๆ
“น้าเล็ก… น้าเล็กช่วยมินต์ด้วย… น้า” พี่มินต์ร้องเรียกแม่ผมให้ช่วยทันทีที่แม่เดินเข้ามาบริเวณห้องรับแขก แต่เธอก็ต้องอึ้งเมื่อแม่เดินเข้ามาก้มจูบปากแลกลิ้นกับลูกชายก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาเดี่ยวข้าง ๆ กดรีโหมดดูทีวีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“บ้า!… พวกแกมันบ้า… บ้าทั้งบ้าน” ผมก้มลงดูดโลมเลียยอดถันอีกครั้ง ผมตื่นเต้นมาก มันเหมือนกับกำลังข่มขืนพี่สาวตัวเองต่อหน้าแม่บังเกิดเกล้า
“อย่า… ชั้นขอร้อง… อย่าทำชั้นเลย… ซี๊ดดส์” เพียงปลายนิ้วสะกิดเบา ๆ ที่เม็ดละมุนเสียงครางก็กระเส่าออกมาในลำคอ ผมแทรกมือผ่านชั้นในตัวจิ๋วที่ใส่ก็เหมือนไม่ใส่ เพราะซิปมันไหลร่นลงจนสุดแล้ว
“ปล่อยเถอะ… อย่า… ซี๊ดส์… อย่า…” ยิ่งพี่มินต์พยายามเบี่ยงเอวหนีการบดคลึงเม็ดเสียวเธอ ผมก็ยิ่งเงี่ยน ค่อย ๆ ถอดกางเกงพร้อมชั้นในออก ซึ่งมันก็ไม่ยากเย็นแม้เธอจะพยายามขืน โคกหีนูนเอาการเส้นไหมนุ่มสีเดียวกับสีผม แคบหีแนบเบียดเข้าหากัน
“อย่า… ซี๊ดส์… ปล่อยชั้น… ชั้นย้ายออกก็ได้… อย่า… ซี๊ดส์…” น้ำเหนียวพี่มินต์เริ่มไหลออกมาจากหลืบสวรรค์ ผมลากลิ้นแฉะ ๆ จากปทุมถันลงมาผ่านท้องน้อยที่แบนราบ เธอแขม่วด้วยความเสียว ท่อนแขนซ้ายกำยำลอดล็อคต้นขาขาวเนียนไม่ให้ขยับ
“ไม่นะ… อย่า… ยะ… อย่า… ซี๊ดส์… อู้ยยยว์” ร่องหีขมิบรับทันทีที่ปลายลิ้นฉกโดนเม็ดละมุน ผมโลมเลียความหวานพร้อมใช้นิ้วไล้ไปมาบริเวณปากร่องและฝีเย็บที่ฉ่ำเยิ้ม
“นมพี่ใหญ่ดีนะ ใหญ่กว่าของพี่พิมอีก อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวดีเองพี่สาว…” พี่แพรพูดเสียงเย้ายวน ยกนิ้วมือเรียวขึ้นแตะน้ำลายก่อนจะเอื้อมสะกิดเขี่ยสลับถูวนเล่นไปมาบนยอดถันเต่ง โดยอีกมือยังจับข้อมือพี่มินต์อยู่
“พอเถอะ… อย่าทำ… ซี๊ดดส์… อย่าเอามันเข้า… อย่า… เจ็บ… ซี๊ดส์” ไม่ทันซะแล้วพี่สาว ผมแซะนิ้วกลางผ่านร่องแฉะ ๆ เข้าไป แต่แปลกที่มันยังคงคับแน่นแม้เข้าไปเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะหลวมเพราะเธอเปลี่ยนผู้ชายบ่อย ผมชักนิ้วออกแล้วแทรกเข้าไปใหม่ช้า ๆ
“ซี๊ดดส์…” เธอเผลอขมิบร่องหีอุ่น ๆ รัดนิ้วอย่างลืมตัว
“อย่า… พอแล้ว… อู้ววว์” พี่มินต์บิดร่างเปลือยไปมา หลบปลายจะงอยลิ้นแต่มันกลับทำให้เธอเสียวมากขึ้นจากนิ้วที่ยังคาอยู่ในร่องหี ยิ่งพี่มินต์บิดร่าง พี่แพรก็ยิ่งเคล้นคลึงเต้าอวบแสดงความสะใจ อย่าว่าแต่เธอเลย ผมก็สะใจ ซอยนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น ปากดูดเม้มเม็ดเสียวขยี้ไปมา
“อื้อออ… อื้อ.อื้อ… พอ… ละ… แล้ว… อย่า… ซู๊ดส์” เสียงดัง แจะ ๆ จากนิ้วกระแทกร่องหีที่ชุ่มน้ำเงี่ยน แข่งกับเสียงทีวี ปลายลิ้นเร่งตวัดเม็ด นิ้วแยงเร็วจี๋
“พอ… แล้ว… อ้า… อ้าย… ซี๊ดส์… พอ… พะ… พอแล้ววว” พี่มินต์แถกตัวพยายามถอยหนีลิ้นที่กำลังสัมผัสเม็ดเสียว ผมล็อคต้นขาเธอแน่นละเลงลิ้นเน้นหนักหน่วง
“ซี๊ดส์…ไม่ไหว… ไม่…ไหว… พอ… อย่า… อื้อออออออออ” พี่มินต์แอ่นอกรับการบีบบี้ของพี่แพร หน้าท้องแขม่วกระตุก รูหีตอดนิ้ว ตุ๊บ ๆ น้ำหีขมิบหลั่ง นิ้วที่ยังค้างอยู่ในร่องวนคว้าน จนเธอกระตุกอีกหลายครั้ง แต่ยัง… ผมยังไม่หยุด ลิ้นฉ่ำนุ่มดำเนินการโลมเลียมอบความกระสันต์ให้พี่สาวต่อไป พี่แพรปล่อยมือจากการจับข้อมือพี่มินต์ นั่งลงข้างโซฟาก้มดูดหัวนมพี่มินต์ พลางใช้มือคลึงอีกข้างที่เหลือ
“พอเถอะ… อย่าทำชั้นอีกเลย… ซี๊ดส์… อ้า” พี่มินต์บอกว่าให้พอ แต่มือที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระมีเพียงเข็มขัดนักเรียนมัดไว้ ซึ่งมันก็สามารถทำร้ายพี่แพรได้ไม่ยาก แต่กลับไม่มีการขยับเขยื้อน พี่แพรโลมไล้ปลายลิ้นเธอจากยอดถันขึ้นไปถือรักแร้ขาวเนียน
“อ้า…” ร่างเปลือยไร้แล้วซึ่งการขัดขืน หลับตาพริ้มกายเอี้ยวบิดด้วยความเสียวสยิว เนินหีแอ่นขึ้นรับลิ้น ร่องหลืบขมิบขับเมือกแสดงถึงอารมณ์ปรารถนา ก้นโด่ง ๆ ของผมที่คุกเข่าก้มโลมเลียประเคนความเสียวซ่านให้พี่มินต์ถูกมือนุ่ม ๆ บีบเบา ๆ แม่นั่นเอง มือน้อยลูบเลื่อนมาด้านหน้า ขยำเข้ากับความเป็นชายที่แข็งจนปวด แม่ปลดตะขอกางเกงดึงมันลงพร้อมชั้นใน ควยดีดตั้งเด่กระตุกงึก ๆ ทักทายพี่สาวคนใหม่ แม่เอื้อมมือจับลำควยผมรูดเบา ๆ จากด้านหลัง
“อูยยย… แม่ครับ” เสียวเหลือเกิน มือนุ่ม ๆ ของแม่รูดหนังควยหมุนข้อมือจนผมเสียววาบ
“เสียวเหรอ” แม่ก้มกระซิบแผ่วเบาข้างหู แล้วเดินจากไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ปล่อยให้ความเงี่ยนครุโชน เหมือนเธอยั่วให้ผมรีบเย็ดพี่มินต์ยังไงอย่างงั้น ผมเลื่อนหน้าขึ้นไซ้ไปตามร่างเปลือยหอมจาง ๆ ของเธอ ผมโลมเลียแทบจะทุกส่วนของด้านหน้า ผิวพี่มินต์ช่างนวลเนียนละเอียดยิ่งนัก เธอแอ่นกายรับรสสัมผัสละมุนครางกระเส่า
“อ้า…” ผมพรมจูบไซ้ไปถึงปลายคาง ใบหน้าแหงนด้วยความสยิว ริมฝีปากอิ่มสีชมพูอมส้มเผยอเล็กน้อย ผมประกบจูบอย่างแผ่วเบา
“อืมมม…” พี่มินต์ปล่อยตัวตามอารมณ์ไม่ขัดขืนอีกต่อไป ปลายลิ้นฉ่ำแทรกผ่านริมฝีปากพี่สาวลูกครึ่ง เลียไล้ไปตามไรฟันก่อนจะแทรกมันลงไปพบกับลิ้นนุ่ม ๆ ของเธอ พี่มินต์จูบเก่งมาก เร่าร้อนหนักหน่วง หน้าอกอวบเบียดกับแผงอกกว้างกำยำ เธอเคลิ้มไปตามรสสัมผัสที่ผมมอบให้ แขนที่ถูกพันธนาการอยู่เหนือหัวกลับลงมาคล้องคอผม พลันก็รู้สึกถึงปลายนิ้วเรียวนุ่มลูบไล้ที่พวงไข่ พี่แพรนั่นเอง เธอลูบไล้มันจนผมขนลุกเกรียว มือน้อย ๆ ลอดผ่านหว่างขามาจับลำถอกแข็ง ปลายหัวแดงบานอยู่ห่างจากร่องหีพี่มินต์ไม่ถึงคืบกำลังถูกพี่แพรชักจูงเข้าไป
“อ้า… อย่า… ไม่… ซี๊ดส์” เพียงปลายหัวสะกิดถูกปากทาง พี่มินต์ก็เบือนหน้าหนีร้องขอ แต่เสียงเหมือนกระซิบ ผมยังคงจูบไซ้ซอกคอขาว พี่แพรจับหัวควยถูกับร่องหีลื่นฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรัก ดูเธอคงสนุกกับมันแต่ผมนี่สิแทบคลั่ง
“พอ… เถอะ… ไม่… เอาออก… อู้วว” ผมทนไม่ไหวกดเอวพาหัวถอกจมลงไปในร่องเสียว แต่ได้เพียงไม่ถึงครึ่งลำ มันคับแน่นเหมือนสาวบริสุทธิ์ซะจริง เธอคงฝึกขมิบทุกวัน
“เอาออก… ชั้นเจ็บ… อู้ยยยย” พี่มินต์ร้องเอามือทุบแผ่นหลังผม แต่ก็ต้องแอ่นโคกตามเมื่อผมถอนท่อนเนื้อออกเกิบหลุด แล้วผวาเข้ากอดเมื่อสวนเข้าไปใหม่ ด้วยความฉ่ำเยิ้มมันจึงเข้าไปเกือบมิด เธอขมิบหีภายในร่องตอดรัดเป็นจังหวะ
“โอ้ววว” ผมอดไม่ได้ที่จะครางเบา ๆ ข้างใบหูเธอ ภายในร่องหีอุ่นโอบกระชับ ตอดรับลำลึงค์เมื่อผมกดบดหนอกกับเนินนูน ถึงจะไม่แรงเหมือนของพี่แพรแต่มันก็ทำให้รู้สึกเสียวซ่านไม่แพ้กัน จู่ ๆ พลันรู้สึกถึงความเปียกกระทบริมฝีปาก หยดน้ำตารินไหลเป็นทาง ผมโหย่งตัวขึ้นมองยิ่งทำให้หนอกควยบดเข้ากับเม็ดละมุนเธอ พี่มินต์เม้มปากขมวดคิ้ว น้ำใส ๆ ไหลเป็นหยดออกจากหางตา
“อย่าบอกนะว่าไม่เคยนะ… พี่สาว ” ผมก้มลงกระซิบ พ่นไออุ่นเข้ารูหูเธอ โยกเอวกระเด้าควยผ่านร่องเสียวคับตึงช้า ๆ
“อ้า… อ้า… เบา ๆ ก่อน… กล้า… อ้า…” ผมชักรู้สึกผิดปกติในหลาย ๆ อย่าง ทั้งความฟิตและน้ำตาที่รินไหล แต่เมื่อเธอไม่ขัดขืนออกปากร้องขอ ผมก็ทำเบา ๆ ช้า ๆ แต่ขึ้นสุดลงสุดตามคำขอ
“อย่างนี้ใช่ไม๊… ที่รัก”
“อื่มมมม… อ้า” พี่มินต์ยอมรับความเสียวซ่านจากลำควยที่มอบให้โดยสดุดีแล้ว ผมจับแขนเธอพาดขึ้นเหนือหัวอีกครั้ง เอื้อมมือปลดเครื่องพันธนาการออก ทั้ง ๆ ที่ยังซุกไซ้โลมเลียไปทั่วใบหูและซอกคอ เมื่อมือเธอเป็นอิสระก็ป่ายไปมาทั้งขยุ้มผมทั้งลูบแผ่นหลัง แหงนหน้าเชยคางร้องไม่หยุด
“ซี๊ดส์… อ้า… โอ้วว์” ท่อนเนื้อแทงเข้าออกเหมือนลูกสูบในจังหวะเนิบ ๆ น้ำมันหล่อลื่นไหลชโลม เป็นสัญญาณให้เปลี่ยนเกียร์ ผมเริ่มเพิ่มความเร็วแต่ไม่ถึงกับกระแทกกระทั้น ร่องหีคับแน่นแต่เต็มไปด้วยน้ำเมือกทำให้เย็ดมันส์ควยเอามาก ๆ มันเสียวหัวควยดีจริง ๆ ปฏิกิริยาตอบสนองของพี่มินต์บอกให้รู้ว่าเธอคลายความเจ็บปวดลงในระดับหนึ่ง มือนุ่มบีบลูบไล้แผ่นหลัง แบะขาโคกนูนแอ่นรับลำควย
“อ้า… พี่ไม่… จะ… เจ็บ… ซี๊ดส์… กล้า… พี่… ไม่เจ็บแล้ว… อ้า…” เธอคงกระดากที่จะออกปากให้ผมเร่งกระเด้าเย็ด จึงบอกเป็นนัย ผมล็อดตัวเธอแน่นกระหน่ำซอยยิก พี่มินต์ผวาเอาขาเกี่ยวเอวผมไว้ทั้ง 2 ข้าง มันทั้งเสียวทั้งมันส์
“อือ.อือ.อือ.อืออือ.อืออือ.อือ… กล้า… กะ… กล้า” ร่าง 2 เราโยก เสียงครางดังแข่งกับเสียงสปริงของโซฟา
“อูย.อูย.อูย.อูย… ซี๊ดดดส์” วงแขนพี่มินต์กอดผมแน่น ขาเกี่ยวเอวเกร็งรัดตัวกระตุก แอ่นโคกสูงจนก้นไม่ติดพื้นโซฟา ผมยังไม่หยุด ยังคงซอยเร็วเร่งกอดเธอแน่นเช่นกัน
“โอ้ววววววววววววววว์” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไม่ถึง 2 นาทีพี่มินต์ถึงสวรรค์ไปอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 มือจิกหลังขมิบร่องเสียวบีบรัดลำควยแน่น ผมอุ้มเธอยืนขึ้นทั้งที่ควยแข็งยังคาอยู่ในร่องหี เดินไปที่ห้องกินข้าว โดยกางเกงนักเรียนหลุดลงกลางทาง แต่กางเกงในยังคาอยู่ที่หัวเข่า ผมเดินเก้ ๆ กัง ๆ กระเด้าควยไปตามทาง น้ำหีที่เธอขับออกมาเพราะความเสียวไหลเยิ้มไปหมด ผมวางเธอลงกับโต๊ะอาหาร แม่กับพี่แพรนั่งคุยกันอยู่มองเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น พี่มินต์นอนแผ่ด้วยความเหนื่อยที่เสร็จสุขสมไปแล้วถึง 3 ครั้ง ผมจับข้อเท้าเธอยกแยกออกทั้ง 2 ข้าง โยกเอวพาควยแทรกเข้าออกในร่องสวรรค์อีกครั้ง พลางก้มลงไปมองผลงานตัวเอง ลำควยแข็งมันเลื่อมผลุบเข้าออกในหลืบ แคมหีอวบขาวยู่คายตามแรง
“ซี๊ดส์… อื้มม… อื้ม…” พี่มินต์บีบเคล้นเต้านมอวบตัวเอง หลับตาครางอย่างไม่อายแม่กับพี่แพร แม่คงนึกสนุกจับข้อมือ 2 ข้างของพี่มินต์ตรึงไว้ มันเหมือนเธอกำลังโดนรุมขึงพืดกลางโต๊ะอาหาร พี่แพรซึ่งกินสลัดผักอยู่ ใช้ช้อนควักน้ำสลัดเย็น ๆ ขาวข้น ละเลงไปบนเต้าอวบใหญ่
“อู้ยยยยยว์” พี่มินต์ขนลุกเกรียวแต่ยังหลับตาเคลิ้มกับความเสียว ภาพที่เห็นยิ่งทำให้ผมเสียวควยเงี่ยนหนักไม่รู้จะทนได้อีกนานแค่ไหน พี่แพรก้มลงโลมเลียน้ำสลัดไปทั่วเต้าอวบ หัวนมหายไปในปากชมพู เธอดูดมันจนพี่มินต์แอ่นอกครางแสดงความเสียวสยิวกาย ผมรู้สึกว่าจะกลั้นไม่อยู่ ในอีกไม่นานมันคงระเบิด เพราะยิ่งพี่มินต์เสียวเท่าไหร่เธอจะขมิบร่องรัดลำควยแรงสร้างความซาบซ่านเท่านั้น ผมจับขาซ้ายเธอพลิกให้กลับหันหลังโดยไม่ยอมให้ลำควยหลุดออกจากร่องหี ดึงเธอลงมายืนโก้งโค้งศอกเท้าโต๊ะ ผมถอดเสื้อตัวเองออกอย่างรีบเร่ง จับสะโพกกระเด้าเร็วแรง เต้าอวบแกว่งไกวหัวนมถูไถไปกับพื้นโต๊ะตามจังหวะการกระเด้า
“พี่มินต์… ผมไม่ไหวแล้ว… ผม…” ผมเร่งซอยเร็วจี๋จนรู้สึกร้อนลำควย
“กล้า… พี่… โอ้ว… โอ้ววววววว” พี่มินต์แนบหน้าลงกับพื้นโต๊ะเต้าอวบเบียดปลิ้นออกมาด้านข้าง มือจับยึดบีบขอบโต๊ะระบายความเสียวกระสันต์ ร่องหีขมิบกระตุกแรง ผมก็สุดทนรั้งสะโพกผายกลมกลึงเกร็งขับน้ำเงี่ยนที่เก็บไว้เป็นเดือนกระแทกฉีดเข้าในร่องหีแรง ดูพี่มินต์เหมือนผวาเมื่อน้ำเงี่ยนอุ่นพุ่งลึกเข้าในโพรงหีเธอ ผมกระแทกท่อนควยเน้นอีก 4-5 ครั้ง ทุกครั้งฉีดอัดน้ำเงี่ยนพุ่งแรงทุกดอก มันเยอะมากจนล้นทะลักหยดลงพื้น
“อูยยว์” ทันทีที่ผมถอนควยออกจากรูหีพี่มินต์ เธอทรุดตัวลงนอนตะแคงลงกับพื้นหมดสภาพหอบหายใจแรง น้ำรักของ 2 เราไหลย้อนจากร่องหีนองพื้น ผมก็หอบเช่นกันเพราะไม่ได้เย็ดใครมาเป็นเดือน ผมถอดกางเกงในตัวเองออกอุ้มร่างเกือบไร้สติเดินเปลือยกายขึ้นบนห้องเธอ น้ำเงี่ยนหยดไหลไปตามทาง ผมวางเธอลงบนเตียงซึ่งมันเคยเป็นของผม ทิชชูหัวเตียงถูกดึงออกมาเช็ดไปตามร่องเสียว
“อูยยยว์… ซี๊ดส์” พี่มินต์ครางแต่ไม่ลืมตา ผมก็เหนื่อยมากเอนหลังนอนลงข้าง ๆ เธอ สนิทมาก… ผมหลับสนิท
“กล้า… ตื่นได้แล้ว… กล้า” ผมงัวเงียขยี้ตา แขนขวาชาไปหมด พี่มินต์ซึ่งอยู่ในอ้อมแขนสะกิดปลุกผม เราต่างเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มอุ่น
“ตื่นได้แล้ว… แม่เล็กมาเคาะประตูเรียกกินข้าวแล้ว” ผมหูฝาดไปรึเปล่า เธอเรียกแม่ผมว่าแม่เล็ก ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเธอเรียกแม่ผมว่าน้า
“ยอมเรียกแม่แล้วเหรอ” ผมลูบผมเธอเบา ๆ เธอมองผมอาย ๆ ก้มลงซบอกหลบตา
“มีใครชมพี่มินต์ว่าสวยมากบ้างรึเปล่า… รู้ไม๊พี่มินต์สวยมาก”
“ผู้ชายก็แบบนี้ทั้งนั้นแหละ พูดหวานหวังแต่จะตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเราแล้วก็จากไป”
“พี่มินต์เลยปั่นหัวผู้ชาย โดยคบคนโน้นคนนี้ไปทั่วงั้นเหรอ” พลันหยดน้ำใสก็หยดลงบนแผงอกผม
“พี่เคยมีอะไรกับผู้ชายครั้งแรกตอน ม.6 เค้าสัญญาว่าจะให้ทางบ้านมาขอหมั้นและแต่งงานกันเมื่อเรียนจบ เค้าหรอกเอาความบริสุทธ์ของพี่ไป ครั้งแรกของพี่มันช่างเจ็บปวดอย่างลืมไม่ลง พี่บอกกับตัวเองว่าจะไม่ตกเป็นเหยื่ออีก ตลอดมาเกือบ 2 ปี พี่เปลี่ยนผู้ชายมากมาย พี่ต้องการแต่เพียงภายนอกให้รู้สึกหายจากความอยากเท่านั้น เราสัญญาจะมีอะไรกันก็ต่อเมื่อเราแต่งงาน บางคนก็ทนได้นานบางคนก็รับไม่ได้ พี่ยังคงตามหาความฝันทั้ง ๆ ที่ใครจะมองว่าพี่ร่านแค่ไหนก็ตาม” พระเจ้า… ผมเข้าใจเธอผิดมาตลอด
“แต่พี่ก็ไม่น่าเย็นชาบึ้งตึง แถมยังนัวเนียกับผู้ชายกลางบ้าน พี่ไม่เคารพคุณพ่อเลย”
“ใช่… พี่ไม่เคารพ พี่อิจฉาพวกเธอที่ได้ความรักจากพ่อ เค้าไม่เคยให้ความรักกับพี่ นาน ๆ จะมาหาเราแม่ลูกซักครั้ง พ่อคิดว่าให้เรามีกินมีใช้ก็เพียงพอ… แต่แม่ก็รักพ่อ”
“อย่าโกรธคุณพ่อเลยนะครับ ท่านต้องทำงานหนัก ไหนจะรับมือกับความวุ่นวายในบ้าน พี่มินต์อย่าโกรธพ่อนะครับ” พี่มินต์พยักหน้าเบา ๆ
“กล้า… กล้าทำให้พี่มีความสุขมากรู้ไม๊” ผมลูบไล้ผมสีน้ำตาลอ่อนแสดงความรัก แล้วจู่ ๆ เธอก็หุนหันขึ้นนั่งดึงผ้าห่มปิดเต้าอวบ
“กล้ากับแม่เล็ก แล้วก็… แพร” ผมรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ผมลุกขึ้นนั่งแววตาเราประสานกันใบหน้าสวยคมแบบลูกครึ่งริมฝีปากอิ่ม สายตาป้องแป้วของเธอเหมือนรอคำตอบ ผมยื่นหน้าบรรจงจูบปากเธอแผ่วเบา โอบกอดเธอแล้วกระซิบที่ข้างหู
“Incest น่ะ… เชื่อผมนะ… ผมจะไม่ทำให้พี่มินต์ต้องร้องไห้อีก” เธอกอดผมตอบ
“ก๊อก ๆ ๆ ไม่กินข้าวกันหรือไง” เสียงน้องครีมตะโกนอยู่หน้าห้อง
“ไปแล้วจ้า…”

วันเวลาผ่านล่วงเลยไป ความเศร้าจางหาย แต่ในใจเราทุกคนยังมีท่าน ทั้งคุณพ่อ และแม่นก กามกิจอันเร่าร้อนดำเนินไปอย่างไม่ขาดสายภายในชายคาหลังใหญ่ ทุกพื้นที่คือที่ ๆ เราจะมอบหรือตักตวงความสุขจากกันและกันได้ ไม่ว่าจะเป็นบันได โซฟา ห้องครัว หรือแม้แต่กลางห้องโถงใหญ่ ทุกคนมีแต่ความสุขความร่าเริง พี่ช่วยสอนน้องเรียน น้องปรนนิบัติพี่เป็นอย่างดีว่าง่ายไม่ดื้อไม่ซน แม่ให้ความรักความอบอุ่นกับพวกเราราวกับเป็นพ่อด้วยอีกคน

1 ปี พ้นผ่าน ทุกคนพร้อมใจกันหยุดเรียน แม่หยุดงาน รูปคุณพ่อกับแม่นกตั้งอยู่เบื้องหน้า ทุกคนยืนอย่างสำรวม ธูปถูกจุดขึ้นส่งให้ผม
“พ่อครับ ผมทำตามที่พ่อสั่งแล้วนะครับ ผมดูแลพี่ ๆ น้อง ๆ และแม่เป็นอย่างดี พ่อคงไม่ตำหนิในสิ่งที่ผมทำลงไปนะครับ ถ้าพี่ ๆ หรือน้องพบคนที่ดีที่ใช่ ผมก็จะไม่ยึดยื้อเธอไว้ ผมเคารพในสิทธิของทุกคน พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับว่าจะไม่มีทายาท ตอนนี้ผมคบอยู่กับน้องมุกครับ น้องมุกที่เป็นลูกของคุณลุงเพื่อนพ่อไงครับ ซึ่งทุกคนในบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผมจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่งามกับเธอจนกว่าเราจะได้แต่งงานกัน อีกอย่าง… ตอนนี้แมวก็คลอดลูกแล้ว เป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหมือนเทพเลยครับ พ่อครับ ผมจะตั้งใจเรียน ผมจะเป็นอย่างคุณพ่อให้ได้… ผมสัญญา ขอให้คุณพ่อกับแม่นกมีความสุขบนสรวงสวรรค์นะครับ.

The End